รายงานการจัดการเรียนการสอนการแกโ้ จทยป์ ัญหาด้วย
BAR MODEL
วชิ า คณติ ศาสตร์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เรอื่ งการสร้างสมการจากโจทยป์ ัญหาโดยใชว้ ธิ ี บารโ์ มเดล
แบบที่ 1 สว่ นย่อย-สว่ นรวม
นายกติ ตมิ าน กิจโฉ
ตำแหน่ง ครชู ำนาญการ
โรงเรียนบ้านห้วยกวางจริง
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2565
สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรุ ี เขต 2
1. การทีท่ ่านนำเทคนคิ การสอนแก้โจทยป์ ญั หาด้วย BAR MODEL ไปใชใ้ นชัน้ เรียนเกดิ ผลอยา่ งไร
- นำไปใชก้ ับเร่อื งการแก้โจทย์ปัญหา เพ่ือเป็นการอธบิ ายให้นักเรียนเข้าใจและเห็นภาพมากขนึ้
2. ท่านได้นำเทคนคิ การสอนแกโ้ จทยป์ ญั หาดว้ ย BAR MODEL ไปใช้ในแลกเปลีย่ นเรียนรู้ (PLC)
หรอื ไมแ่ ละดำเนินการอย่างไร
- มกี ารนำเทคนิคการสอนแกโ้ จทยป์ ัญหาดว้ ย BAR MODEL ไปใชใ้ นแลกเปลย่ี นเรยี นรู้กับครูประจำชน้ั ท่ีมีการ
สอน เพ่อื ให้ครูประจำชัน้ มีการอธิบายให้กบั นักเรยี นหรือสอนเสรมิ เพ่ิมเติม
3. ท่านมีความตอ้ งการพฒั นาตนเองในดา้ นการจัดการเรยี นการสอนวชิ าคณิตศาสตร์เรื่องใด
- การสร้างส่อื ในการจัดการเรียนการสอน เพื่อเพมิ่ ความสนใจของนักเรียน
- การใชเ้ ทคโนโลยีในการจัดการเรยี นการสอน
4. เอกสารแนบประกอบการรายงาน
4.1 แผนการสอนเร่ืองการแก้โจทย์ปญั หาด้วย BAR MODEL อย่างน้อย 1 แผน
4.2 ภาพประกอบ/คลิปวิดีโอ
4.3 อ่นื ๆ (ถ้าม)ี
นายกติ ตมิ าน กจิ โฉ
ผูร้ ายงาน
เอกสารแนบประกอบการรายงาน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1
รายวชิ า คณิตศาสตรพ์ นื้ ฐาน ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1
หน่วยการเรยี นรู้ สมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี ว
หวั ข้อเรอื่ ง การสรา้ งสมการจากโจทย์ปญั หาโดยใช้วิธี บาร์โมเดล แบบท่ี 1 สว่ นย่อย-สว่ นรวม
ปกี ารศึกษา 2565 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 50 นาที
****************************************************************************************
1. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1.1 ดา้ นความรทู้ างคณิตศาสตร์: เพือ่ ใหน้ กั เรียน
1.1.1 เขียนสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียวจากสถานการณ์หรอื ปญั หาอย่างง่าย
1.2 ด้านทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร:์ เพื่อใหน้ ักเรยี น
1.2.1 ใชต้ วั แบบเชงิ คณิตศาสตร์ในการสรา้ งสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดียวจากสถานการณ์หรอื ปญั หาอย่างง่าย
1.3 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์: เพ่ือใหน้ ักเรียน
1.3.1 มสี ่วนรว่ มในการทำงานทีม่ อบหมาย
1.3.2 มคี วามรบั ผิดชอบในการทำงานทีม่ อบหมาย
1.3.3 มเี หตผุ ลตามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง
2. สาระการเรยี นรู้
รปู แบบที่ 1 สว่ นย่อย-ส่วนรวม (Part – Whole model) คอื การแบง่ สว่ นรวมทัง้ หมด ออกเป็นสว่ นยอ่ ย 2
ส่วน หรือมากกวา่ 2 ส่วน ซ่ึงจะแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 2 กรณี ดงั นี้
กรณีท่ี 1 สว่ นย่อยแต่ละส่วนมปี รมิ าณท่ีไม่เท่ากนั
ab
c a
จากรปู จะเห็นว่าส่วนรวมท้ังหมดคือ c โดนแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ a และ b ที่ไมเ่ ท่ากนั
ซึ่งสามารถสรา้ งเปน็ สมการได้คือ a +b = c หรอื c − a =b หรอื c − b = a
กรณีที่ 2 ส่วนยอ่ ยแตล่ ะสว่ นมปี รมิ าณที่เท่ากัน
aaaaaa
c
จากรูป จะเหน็ ว่าส่วนรวมทั้งหมดคอื c โดนแบง่ ออกเปน็ 7 สว่ นท่ีเทา่ กันคือ ส่วนละ a
ซ่ึงสามารถสรา้ งเป็นสมการได้คือ 7a = c หรือ = หรือ = 7
7
3.สือ่ การเรียนรู้ / แหล่งการเรียนรู้
3.1 ใบกิจกรรมที่ 1
3.2 ใบความรู้ท่ี 1
3.3 แบบฝึกหัดที่ 1
4. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมการเรยี นรู้ใบคาบเรยี นที่ 1 (50 นาท)ี
4.1 ขนั้ นำ
ขนั้ น้ใี ชเ้ วลาประมาณ 5 นาที ซ่งึ มีรายละเอยี ดดงั น้ี
4.1.1 ครนู ำเข้าส่บู ทเรียน โดยให้สร้างสถานการณจ์ ากชีวติ ประจำวัน เช่น วันนี้ครนู ำเงนิ มา
โรงเรยี นจำนวนหนง่ึ ครูกินขา้ วตอนเชา้ ไป 45 บาท ซื้อนำ้ 20 บาท และของหวานอีก 30 บาท เม่อื ครูมานับเงิน
ปรากฏวา่ เงนิ ครเู หลืออยู่ 160 บาท จงหาวา่ ครนู ำเงนิ มาโรงเรยี นท้งั หมดก่ีบาท แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั สร้าง
สมการจากสถานการณน์ ้ี แลว้ ให้นกั เรียนอธิบายว่านักเรยี นสรา้ งสมการจากโจทยป์ ญั หานไี้ ด้อยา่ งไร
4.2 ขนั้ สอน
ขัน้ น้ีใช้เวลาประมาณ 35 นาที ซ่งึ มีรายละเอยี ดดังน้ี
4.2.1 ครูแจกใบกจิ กรรมที่ 1 ใหน้ ักเรียน พร้อมทั้งให้นกั เรียนรว่ มกนั ลงมือทำใบกจิ กรรมที่ 1
ข้อ 1 พร้อมกนั โดยครจู ะต้ังคำถามกระตนุ้ นักเรียนดังนี้
1. นกั เรยี นคิดว่าโจทย์ใหข้ ้อมูลอะไรมาบา้ ง แล้วข้อมลู ทโ่ี จทยใ์ หม้ านักเรียนจะนำไปเตมิ ในส่วนไหน
นกั เรียนควรตอบว่า ข้อมูลทโ่ี จทย์ให้มาคือ น้อยได้รับเงนิ ค่าจา้ งในการทำงาน 2,000 บาท และหลงั จากเขาซ้ือ
พดั ลมไปแล้ว เขาเหลือเงิน 1,270 บาท ซึง่ จะต้องนำไปเตมิ ใน ส่ิงทโี่ จทยก์ ำหนดให้ ซึ่งอยู่ในระยะที่ 1 ระยะ
2. นักเรยี นคดิ ว่าโจทยต์ ้องการถามหาอะไร แล้วจะนำไปเติมในส่วนไหน[นกั เรยี นควรตอบว่า ราคาของ
พัดลม ซงึ่ นำไปเตมิ ใน สง่ิ ทีโ่ จทยต์ อ้ งการหา
3. จากส่งิ ทโ่ี จทย์กำหนดให้ นักเรียนคิดวา่ นักเรยี นจะนำไปเติมในระยะท่ี 2 ระยะ โครงสร้างได้อย่างไร
นักเรียนควรตอบวา่ จากน้อยได้รับเงินค่าจ้างในการทำงาน 2,000 บาท ซงึ่ เปน็ สว่ นของเงินทงั้ หมด ดังน้ันจะต้อง
นำไปเตมิ ใน สว่ นรวม และหลังจากเขาซ้อื พัดลมไปแล้ว เขาเหลือเงนิ 1,270 บาท ซึ่งเป็นสว่ นย่อยจากเงินท้งั หมด
จงึ นำไปเติมในส่วนย่อย
4. ในระยะที่ 2 ระยะโครงสร้าง จากที่นักเรยี นไดเ้ ติมข้อมูลแตล่ ะสว่ นลงไปจนครบเรียบร้อยแล้ว นักเรียน
ลองพจิ ารณาวา่ ขอ้ มูลทีเ่ ตมิ ลงไปนนั้ สอดคลอ้ งกับ ระยะที่ 1 ระยะ
ขอ้ ความหรอื ไม่ [นกั เรยี นควรตอบวา่ สอดคล้องกนั ]
5. นกั เรยี นคดิ วา่ สิง่ ใดเป็นสง่ิ ท่นี ักเรยี นไม่ทราบหรือเป็นส่งิ ทโ่ี จทยต์ ้องการหา [นักเรยี นควรตอบวา่ ราคา
ของพดั ลม]
6. ในระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลักษณ์ นักเรียนจะตอ้ งกำหนดตวั แปร x ให้กับส่งิ ท่ไี ม่ทราบค่า
หรือส่งิ ทโ่ี จทยต์ ้องการหา ดังนั้นนักเรียนจะกำหนดตัวแปร x ใหก้ ับส่ิงใดนักเรยี นควรตอบวา่ กำหนดตวั แปร x ให้
แทน ราคาพัดลม 1 ตวั ]
7. หลังจากท่นี ักเรยี นกำหนดตัวแปร x แลว้ นักเรยี นนำตัวแปร x ไปเตมิ ในส่วนไหน [นักเรยี นควรตอบว่า
นำตวั แปร x ไปเตมิ ในส่วนยอ่ ยของราคาพัดลม]
8. นักเรียนลองสังเกตความสัมพันธข์ องแบบจำลองที่นักเรียนสร้างข้นึ นักเรยี นได้ความสัมพนั ธอ์ ยา่ งไร
[นกั เรียนควรตอบวา่ ราคาพดั ลมรวมกบั จำนวนเงินคงเหลือ จะเทา่ กับจำนวนจ้างท่นี อ้ ยได้รับในการทำงาน]
9. ดงั น้นั นกั เรยี นจะเขยี นสมการจากความสมั พันธ์น้ีได้อยา่ งไร [นักเรียนควรตอบว่า x + 1,270 = 2,000]
10. นกั เรียนจะหาคำตอบของสมการนีอ้ ยา่ งไร [นักเรยี นควรตอบว่า จาก x + 1,270 = 2,000 บวกดว้ ย
-1,270 ทั้งสองข้างของสมการ จะได้ x + 1,270 + (-1,270) = 2,000 + (-1,270) ดงั นั้น x = 730]
11. นักเรยี นจะตอบคำถามโจทย์ปัญหานอี้ ยา่ งไร [นักเรียนควรตอบว่า เนอ่ื งจากกำหนดให้ x แทน ราคา
พัดลม 1 ตัว และสิ่งท่ีโจทย์ถามคือ ราคาของพัดลม ดงั น้นั คำตอบของโจทย์ปัญหานีค้ ือ พดั ลมมรี าคาตัวละ 730 บาท]
4.2.2 ครใู หน้ กั เรียนลงมือทำใบกิจกรรมที่ 1 ขอ้ 2 โดยให้เวลานกั เรยี น 3 นาที ในการลงมอื ทำด้วยตนเอง เมื่อ
นกั เรยี นทำเสรจ็ เรยี บรอ้ ยแล้ว ครตู ั้งคำถามเพอ่ื ถามนักเรยี น ดงั นี้
1. นกั เรียนคดิ ว่าโจทยใ์ ห้ข้อมูลอะไรมาบ้าง แลว้ ข้อมลู ทโ่ี จทย์ใหม้ านักเรียนจะนำไปเติมในส่วนไหน
[นกั เรียนควรตอบว่า ข้อมลู ทโ่ี จทย์ใหม้ าคือ ดรมี ทำงานวันละ 6 ช่ัวโมง และค่าจา้ งในการทำงานทั้งหมด 252 บาท
ซึ่งจะต้องนำไปเติมใน สงิ่ ท่โี จทยก์ ำหนดให้ ซ่ึงอยใู่ นระยะที่ 1 ระยะข้อความ]
2. นักเรียนคดิ ว่าโจทย์ต้องการถามหาอะไร แล้วจะนำไปเติมในสว่ นไหน [นกั เรียนควรตอบวา่ ดรีมทำงาน
ได้ช่วั โมงละกบี่ าท ซ่งึ นำไปเติมใน ส่ิงทโี่ จทย์ตอ้ งการหา]
3. จากสิ่งทโ่ี จทยก์ ำหนดให้ นักเรียนคิดว่านักเรยี นจะนำไปเตมิ ในระยะที่ 2 ระยะโครงสร้างได้อย่างไร
[นักเรยี นควรตอบว่า ค่าจ้างในการทำงาน 252 บาท ซ่ึงเป็นสว่ นของเงินทั้งหมดดังน้ันจะตอ้ งนำไปเติมใน ส่วนรวม
และดรีมทำงานวันละ 6 ชว่ั โมง ซง่ึ เป็นส่วนย่อยจากเงินทงั้ หมดซง่ึ แตล่ ะชว่ั โมงทด่ี รมี ทำงานจะได้รบั เงินเทา่ กัน
ดงั น้นั จะต้องแบง่ ส่วนรวมทั้งหมดออกเปน็ ส่วนยอ่ ย 6 สว่ นท่เี ท่ากนั ]
4. ในระยะท่ี 2 ระยะโครงสร้าง จากทีน่ กั เรยี นได้เติมข้อมูลแตล่ ะสว่ นลงไปจนครบเรียบร้อยแล้ว นักเรยี น
ลองพจิ ารณาวา่ ขอ้ มูลท่ีเติมลงไปน้นั สอดคล้องกับ ระยะที่ 1 ระยะข้อความหรือไม่ [นักเรยี นควรตอบวา่
สอดคล้องกัน]
5. นักเรียนคดิ วา่ สง่ิ ใดเป็นสง่ิ ที่นักเรยี นไม่ทราบหรือเปน็ สิง่ ที่โจทยต์ อ้ งการหา[นักเรยี นควรตอบว่า ดรีม
ทำงานได้ชวั่ โมงละกี่บาท]
6. ในระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสญั ลักษณ์ นักเรียนจะต้องกำหนดตวั แปร x ให้กับสิง่ ที่ไม่ทราบค่า
หรอื สง่ิ ทโี่ จทยต์ ้องการหา ดังนน้ั นกั เรยี นจะกำหนดตวั แปร x ให้กบั ส่ิงใด
[นักเรียนควรตอบว่ากำหนดตัวแปร x ให้แทน จำนวนเงินที่ดรีมได้รับในการทำงานตอ่ ช่วั โมง]
7. หลงั จากที่นกั เรยี นกำหนดตัวแปร x แลว้ นักเรยี นนำตวั แปร x ไปเตมิ ในส่วนไหน [นกั เรยี นควรตอบวา่
นำตัวแปร x ไปเติมในส่วนย่อยแตล่ ะสว่ น]
8. นกั เรียนลองสังเกตความสัมพนั ธ์ของแบบจำลองทน่ี ักเรียนสรา้ งขึ้น นกั เรียนได้ความสัมพันธ์อยา่ งไร
[นกั เรยี นควรตอบว่า 6 เท่าของจำนวนเงนิ ทด่ี รีมไดร้ ับในการทำงานต่อช่วั โมง เท่ากบั ค่าจา้ งในการทำงานท้ังหมด]
9. ดังนั้นนกั เรียนจะเขยี นสมการจากความสมั พนั ธ์นี้ได้อย่างไร [นกั เรยี นควรตอบวา่ 6x = 252 ]
10. นักเรียนจะหาคำตอบของสมการนี้อยา่ งไร [นักเรยี นควรตอบวา่ จาก 6x = 252 คูณดว้ ย 1
6
ทงั้ สองขา้ งของสมการ จะได้ 6x 1 = 252 1 ดงั น้นั x = 42]
66
11. นักเรยี นจะตอบคำถามโจทยป์ ัญหาน้ีอยา่ งไร [นักเรยี นควรตอบว่า เน่อื งจากกำหนดให้ x แทน
จำนวนเงินที่ดรีมได้รับในการทำงานต่อช่วั โมง และสงิ่ ทีโ่ จทย์ถามคือ ดรมี ทำงานได้ชัว่ โมงละก่บี าท ดังน้ันคำตอบ
ของโจทย์ปญั หานี้คอื ดรีมทำงานไดช้ ่วั โมงละ 42 บาท]
4.2.3 ครตู งั้ คำถามดังน้ี
จากทน่ี กั เรียนได้ลงมือทำโจทย์ในขอ้ 1 และ 2 มาแล้ว นกั เรยี นสังเกตว่า โจทย์ในข้อ 1 และ 2 นั้น
แตกตา่ งกันอย่างไร [นักเรียนควรตอบวา่ ในข้อที่ 1 ส่วนรวมแบ่งเป็นสว่ นยอ่ ยแต่ละส่วนทไี่ ม่เทา่ กัน ส่วนในข้อท่ี 2
สว่ นรวมแบ่งเป็นสว่ นย่อยแต่ละสว่ นท่เี ทา่ กนั ]
4.2.4 ครใู หน้ กั เรยี นลงมือทำใบกิจกรรมท่ี 1 ขอ้ 3 – 6 แล้วครูสุม่ นกั เรยี นออกมาเขยี นสมการที่
ตัวเองสร้างไดบ้ นกระดาน พร้อมทง้ั ให้นักเรยี นอธิบายวธิ ีการสร้างสมการของนักเรียน
4.3 ขน้ั สรุป
ใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที ซงึ่ มีรายละเอียดดงั นี้
4.3.1 ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั สรุปการสรา้ งสมการโดยใช้วธิ ีบารโ์ มเดล โดยครตู งั้ คำถามเพอ่ื ถาม
นักเรียน ดังนี้
1. จากใบกจิ กรรมที่ 1 ท่นี ักเรียนลงมือปฏิบัติเรียบร้อยแล้ว เราสามารถแบ่งการใชบ้ าร์โมเดลในการสร้าง
สมการได้กกี่ รณี แตล่ ะกรณีเปน็ อย่างไร และต่างกันอย่างไร (นกั เรียนควรตอบว่า สามารถแบ่งได้ 2 กรณี คือ กรณี
ท่ี 1 สว่ นรวมทั้งหมดแบ่งออกเป็นสว่ นย่อย 2 ส่วนหรอื มากกว่า 2 สว่ น ซง่ึ สว่ นยอ่ ยแต่ละสว่ นมีปริมาณท่ีไมเ่ ท่ากัน
กรณีที่ 2 ส่วนรวมท้ังหมดแบ่งออกเป็นสว่ นย่อย 2 ส่วนหรือมากกว่า 2 สว่ น ซึง่ สว่ นย่อยแต่ละสว่ นมีปริมาณที่
เท่ากนั ทง้ั สองกรณนี ี้ สิ่งท่ีตา่ งกนั คือสว่ นย่อยแตล่ ะส่วนไม่เหมือนกัน)
2. แลว้ ส่งิ ทเี่ หมือนกนั ทั้ง 2 กรณี มสี ่วนใดบา้ งท่เี หมือนกนั (นกั เรียนควรตอบว่าส่วนที่เหมอื นกันของทั้ง 2
กรณคี ือ ส่วนรวมท้ังหมดถูกแบง่ ออกเปน็ สว่ นยอ่ ย 2 สว่ นหรือมากกว่า 2 ส่วน)
3. ในการสร้างสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี วจากโจทยป์ ญั หา โดยใช้บาร์โมเดล มีระยะในการสร้างทงั้ หมด
กี่ระยะ อะไรบ้าง [นักเรียนควรตอบวา่ มที ง้ั หมด 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ระยะข้อความ ระยะที่ 2 ระยะโครงสร้าง
และระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลกั ษณ์]
4 ครแู จกใบความรู้ท่ี 1 ให้นักเรยี น พร้อมชี้แจงใหน้ กั เรียนกลับไปทำแบบฝกึ หดั ที่ 1
ข้อ 1 – 4 เปน็ การบา้ น
5. การวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้
เพ่ือให้สอดคล้องกบั จุดประสงค์การเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นร้ใู นคาบน้ี มีดงั นี้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมนิ ผล
วิธวี ัดผล : เกณฑ์การให้คะแนน :
ตามเกณฑ์การให้คะแนน
ด้านความร้ทู างคณิตศาสตร์ : พิจารณาความถูกตอ้ ง แบบวิเคราะห์แสดงในตาราง 1
เกณฑ์การประเมินผล :
1. เขียนสมการเชงิ เสน้ ตัวแปร ของแตล่ ะขน้ั ตอนในการ ถ้านักเรยี น ได้คะแนนมากกว่า
ร้อยละ 60 ถือวา่ ผา่ น
เดยี วจากสถานการณ์หรือ สรา้ งสมการ
เกณฑ์การให้คะแนนแต่ละข้อ :
ปญั หาอยา่ งง่าย เครื่องมอื วัดผล : ตามเกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
แบบวิเคราะหแ์ สดงในตาราง 1
แบบฝกึ หดั ท่ี 1 เกณฑ์การประเมนิ ผล :
ถ้านักเรยี น ได้คะแนนมากกว่า
ด้านทกั ษะและกระบวนการทาง วธิ วี ดั ผล : รอ้ ยละ 60 ถือวา่ ผ่าน
คณิตศาสตร์: พิจารณาความถูกตอ้ ง เกณฑ์การให้คะแนน :
ในแตล่ ะข้อของแบบสงั เกตพฤติกรรม
1. ใช้ตัวแบบเชิงคณิตศาสตร์ ของแต่ละข้ันตอนในการ ถา้ นักเรียน แสดงออกใหเ้ หน็ อยา่ ง
เด่นชัด จะได้2 คะแนน
ในการสรา้ งสมการเชงิ เส้นตวั สร้างสมการ ถ้า นกั เรยี น แสดงออกใหเ้ หน็
เพียงเล็กน้อย จะได้1 คะแนน
แปรเดยี วจากสถานการณห์ รือ เครื่องมือวดั ผล : ถา้ นกั เรยี นไมแ่ สดงออกเลย
จะได้ คะแนน0 คะแนน
ปญั หาอยา่ งง่าย แบบฝึกหัดที่ 1 เกณฑ์การประเมินผล :
ถา้ นกั เรียน ได้คะแนนมากกว่ารอ้ ย
วิธวี ัดผล : ละ60 ของคะแนนเต็ม ถือว่าผ่าน
พิจารณาพฤติกรรมหรือ
การแสดงออกของ
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียน ขณะทำงานท่ี
1. มสี ว่ นรว่ มและความ มอบหมายโดยมีครูเปน็ ผู้
รบั ผดิ ชอบในการทำงานท่ี สังเกตแลว้ บนั ทึกในแบบ
มอบหมายและมีเหตุผลตาม สงั เกตพฤติกรรมการ
หลกั เศรษฐกิจพอเพียง ทำงานของนกั เรยี น
เคร่อื งมอื วัดผล :
แบบสังเกตพฤติกรรม
การทำงานของนกั เรียน
ตารางท่ี 1 เกณฑ์การใหค้ ะแนนแบบวเิ คราะห์ (Analytic Scoring) คะแนน
2
ระยะท่ี 1 ระยะข้อความ (2 คะแนน) 1
- ระบสุ ิง่ ท่โี จทย์กำหนดให้ และระบสุ ง่ิ ทโ่ี จทย์ตอ้ งการหาได้ถกู ต้องครบถ้วน 0
- ระบสุ ิ่งท่ีโจทย์กำหนดให้ถูกตอ้ ง แตร่ ะบุสิ่งท่ีโจทย์ต้องการหาไมถ่ ูกต้อง
หรือระบสุ ่งิ ที่โจทย์กำหนดให้ไมถ่ ูกต้อง แตร่ ะบสุ ิง่ ท่โี จทย์ต้องการหาได้ถูกต้อง คะแนน
- ระบสุ ิง่ ที่โจทยก์ ำหนดให้และระบุส่ิงทโ่ี จทย์ต้องการหาไม่ถูกต้อง 2
หรือไมร่ ะบุสิง่ ท่ีโจทย์กำหนดใหแ้ ละสิง่ ท่โี จทย์ต้องการหา 1
ระยะท่ี 2 ระยะโครงสร้าง (2 คะแนน) 0
- สรา้ งบาร์โมเดลได้ และเขียนส่วนประกอบแตล่ ะสว่ นของบาร์โมเดลได้
- สร้างบารโ์ มเดลได้ แต่เขียนสว่ นประกอบแตล่ ะสว่ นของบารโ์ มเดลไม่ คะแนน
ถูกต้องหรือไม่ไดเ้ ขยี น หรือเขียนได้บางส่วน 4
- สรา้ งบาร์โมเดลไมถ่ ูกต้อง หรือไม่ไดส้ ร้าง
ระยะท่ี 3 ระยะการกระบวนการและสัญลักษณ์ (4 คะแนน) 3
- กำหนดตัวแปรทน่ี ำไปสู่การหาคำตอบได้ เขียนสมการเชงิ เส้นตัวแปร
เดยี วไดเ้ ขียนสว่ นประกอบแต่ละส่วนของบาร์โมเดลได้ และอธบิ ายความสมั พันธท์ ่ไี ด้ 2
จากบารโ์ มเดลได้
- กำหนดตัวแปรที่นำไปสู่การหาคำตอบได้ เขียนสมการเชิงเส้นตัวแปร 1
เดยี วได้ และเขียนสว่ นประกอบแต่ละสว่ นของบารโ์ มเดลได้ แต่อธบิ ายความสัมพนั ธ์ 0
ที่ไดจ้ ากบาร์โมเดลไมถ่ กู ตอ้ งหรอื ไม่ได้อธบิ าย
- กำหนดตวั แปรที่นำไปสู่การหาคำตอบได้ เขยี นสมการเชงิ เสน้ ตัวแปร
เดียวได้ แตเ่ ขียนสว่ นประกอบแต่ละส่วนของบาร์โมเดลไม่ถูกต้องหรือไม่ไดเ้ ขยี น
และแต่อธิบายความสมั พันธ์ที่ไดจ้ ากบาร์โมเดลไม่ถกู ต้องหรือไม่ได้อธบิ ายหรอื
กำหนดตวั แปรท่ีนำไปส่กู ารหาคำตอบได้ เขียนสว่ นประกอบแต่ละ
ส่วนของบารโ์ มเดลได้ และอธบิ ายความสมั พันธท์ ี่ได้จากบารโ์ มเดลได้ แต่เขยี น
สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียวไม่ถกู ต้อง หรือไม่ได้เขียน
- กำหนดตวั แปรท่นี ำไปสู่การหาคำตอบได้ แต่ไม่ได้ดำเนินการในข้ันต่อไป
หรือดำเนนิ การในข้ันต่อไปไม่ถกู ต้อง
- ไม่แสดงวิธีทำ หรอื แสดงวิธีทำไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบ
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรียน
วันที่: __________________________________ เวลา _____________________
ชื่อกิจกรรม: ____________________________________________________________
การใหค้ ะแนน: จะได้ คะแนน 2 คะแนน
ถา้ แสดงพฤติกรรมให้เห็นอย่างเดน่ ชดั
ถา้ แสดงพฤติกรรมให้เหน็ เพียงเล็กน้อย จะได้ คะแนน1 คะแนน
ถา้ ไม่แสดงพฤติกรรมเลย จะได้ คะแนน0 คะแนน
6. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้
6.1ด้านนกั เรยี น (ระบุ ความรู้ /ทักษะและกระบวนการ/คุณลกั ษณะอันพึงประสงคข์ องนกั เรียนที่พบ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
6.2ด้านผู้สอน
(ระบุ ปัญหาหรือผลการจัดการเรยี นร/ู้ ขอ้ เสนอแนะสำหรบั การจัดการเรยี นรู้ครัง้ ตอ่ ไป)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
6.3ด้านอืน่ ๆ (ถา้ มี)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
ใบกจิ กรรมท่ี 1
ใหน้ กั เรียนสรา้ งสมการจากโจทย์ปัญหา โดยใชว้ ธิ บี าร์โมเดล ดังน้ี
1.นอ้ ยไดร้ บั เงนิ ค่าจ้างในการทำงาน 2,000 บาท นำไปซ้ือพดั ลมจำนวน 1 ตวั
แลว้ ยงั คงเหลือเงนิ 1,270 บาท อยากทราบว่าพัดลมราคาตัวละกี่บาท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สิ่งที่โจทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สิง่ ท่โี จทยต์ ้องการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสร้าง
น้อยไดร้ ับเงินค่าจ้างในการทำงาน ราคาพัดลม เงนิ คงเหลือ
ระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสญั ลักษณ์
กำหนดให้ x แทน…………………………………………………………
น้อยได้รับเงินคา่ จ้างในการทำงาน ราคาพัดลม เงนิ คงเหลอื
ความสัมพนั ธท์ ่ีไดจ้ ากบาร์โมเดล คือ………………………………………………………….......................
ดังนน้ั สามารถเขียนสมการได้ คือ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
ดรีมทำงานวนั ละ 6 ชวั่ โมง ได้เงนิ คา่ จา้ งในการทำงานทั้งหมด 252 บาท อยากทราบวา่ ดรมี ทำงานไดช้ ั่วโมงละก่ี
บาท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
ส่งิ ที่โจทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
ส่ิงทโ่ี จทยต์ ้องการหา …………………………………………………………
ระยะท่ี 2 ระยะโครงสร้าง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พนั ธท์ ่ีได้จากบารโ์ มเดล คือ………………………………………………………….......................
ดงั นั้น สามารถเขยี นสมการได้ คือ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
กอ้ ยเลีย้ งหมู 150 ตัว ซ้ือมาเพม่ิ อกี จำนวนหนึง่ รวมเปน็ หมู 421 ตัว อยากทราบวา่ ก้อยซอื้ หมมู าเพ่ิมก่ตี วั
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
ส่ิงทีโ่ จทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สิง่ ทโ่ี จทย์ต้องการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสญั ลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสัมพนั ธ์ท่ีได้จากบารโ์ มเดล คอื ………………………………………………………….......................
ดงั นั้น สามารถเขยี นสมการได้ คอื ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
บริษัทรบั เหมากอ่ สรา้ งทำถนนไดว้ นั ละ 2 กิโลเมตร เม่ือเวลาผ่านไป 6 วัน
จะเหลอื ถนนทย่ี ังไม่ได้ทำอกี เทา่ ใดถ้าตอ้ งทำถนนทัง้ หมด 20 กโิ ลเมตร
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สง่ิ ท่โี จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สงิ่ ท่ีโจทยต์ อ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสญั ลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พนั ธท์ ี่ได้จากบาร์โมเดล คือ………………………………………………………….......................
ดังน้ัน สามารถเขียนสมการได้ คือ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
นายมีน้ำสม้ อยู่ 3.75 ลิตร ดม่ื ไป 0.8 ลิตร ให้นอ้ งชายไป 1.25 ลิตร
อยากทราบว่านายจะเหลือนำ้ ส้มทง้ั หมดกีล่ ติ ร
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สิ่งทีโ่ จทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สงิ่ ท่ีโจทย์ตอ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะท่ี 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พันธ์ที่ได้จากบารโ์ มเดล คอื ………………………………………………………….......................
ดังน้ัน สามารถเขยี นสมการได้ คอื ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
มเี นื้อหมูอยู่ 3.25 กิโลกรัม นำไปทอด 820 กรมั ทำแกงจืด 360 กรมั
และใส่ผัดผกั อกี 280 กรัม สุดท้ายจะเหลือเนื้อหมูอยู่ก่ีกโิ ลกรมั
ระยะท่ี 1 ระยะข้อความ
สิ่งทโ่ี จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
ส่ิงทโ่ี จทย์ตอ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสญั ลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสัมพันธ์ที่ไดจ้ ากบารโ์ มเดล คอื ………………………………………………………….......................
ดงั น้นั สามารถเขียนสมการได้ คือ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
ใบความร้ทู ่ี 1
การเขยี นสมการ
การเขยี นสมการเปน็ การเปลี่ยนเนอ้ื ความจากโจทย์ปัญหาให้อยูใ่ นรูป ประโยคคณิตศาสตร์
เพอื่ สามารถนำมาคำนวณหาคำตอบได้ ซง่ึ ในโจทย์ปัญหาจะมี ส่ิงท่ีไมท่ ราบค่าหรอื ส่ิงท่โี จทย์
ตอ้ งการถาม ซึ่งเราจะกำหนด ตวั แปร ให้กบั ส่ิงทไ่ี ม่ทราบค่าหรอื สงิ่ ท่โี จทย์ต้องการถามน้ี ซึ่งจะนิยม
กำหนดให้แทนตวั แปรด้วย x (สามารถกำหนดให้แทนด้วยตัวแปรอื่น ๆ ได้ เช่น a หรอื ก เปน็ ต้น)
รปู แบบของบารโ์ มเดล
รปู แบบท่ี 1 ส่วนยอ่ ย-ส่วนรวม (Part – Whole model) คอื การแบ่งส่วนรวมทัง้ หมด
ออกเป็นสว่ นยอ่ ย 2 สว่ น หรอื มากกวา่ 2 สว่ น ซง่ึ จะแบง่ ออกไดเ้ ปน็ 2 กรณี ดงั นี้
กรณีที่ 1 ส่วนย่อยแต่ละสว่ นมปี ริมาณท่ไี มเ่ ทา่ กนั
ab
c
จากรปู จะเหน็ วา่ ส่วนรวมทงั้ หมดคอื c โดนแบ่งออกเป็น 2 ส่วนคอื a และ b ท่ีไม่
เท่ากนั
ซ่ึงสามารถสรา้ งเป็นสมการได้คือ a+ b =c หรอื c− a= b หรือ c − b= a
กรณีท่ี 2 ส่วนย่อยแต่ละส่วนมีปรมิ าณทเ่ี ท่ากัน
aaaaaaa
c
จากรปู จะเหน็ ว่าสว่ นรวมท้งั หมดคอื c โดนแบ่งออกเป็น 7 สว่ นท่เี ท่ากันคือ ส่วนละ a
ซง่ึ สามารถสร้างเป็นสมการได้คอื 7a= c หรือ = a หรอื = 7
7
แบบฝึกหัดท่ี 1
ใหน้ ักเรียนสรา้ งสมการจากโจทยป์ ญั หา โดยใช้วิธีบารโ์ มเดล ดังนี้
1.ก้องได้รับเงนิ ปันผลมาจำนวนหนึ่ง หลังจากนำไปซื้อพัดลมราคา 1,290 บาท
แล้วยังเหลอื เงินอยู่อีก 350 บาท กอ้ งได้รบั เงินปันผลเปน็ เงินกบ่ี าท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สิ่งทโ่ี จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
……………………………………………………………………………
……………………………….………………………………………………
สง่ิ ท่ีโจทยต์ ้องการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พนั ธท์ ่ีไดจ้ ากบาร์โมเดล คอื ………………………………………………………….......................
ดงั นนั้ สามารถเขยี นสมการได้ คอื ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
2.ถ้าไม่คดิ กระดูกสว่ นหวั 29 ชิ้น แล้วร่างกายคนจะมีกระดูกของสว่ นท่เี หลอื
177 ชิน้ จงหาวา่ ในร่างกายคนมกี ระดูกท้งั หมดกี่ชนิ้
ระยะท่ี 1 ระยะข้อความ
สง่ิ ที่โจทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
……………………………………………………………………………
……………………………….………………………………………………
ส่งิ ที่โจทย์ต้องการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสร้าง
ระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสญั ลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พันธท์ ี่ไดจ้ ากบารโ์ มเดล คือ………………………………………………………….......................
ดงั นนั้ สามารถเขียนสมการได้ คอื ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
3.น้อย นดิ น้ำ ได้รบั เงินรางวัลจากการแขง่ ขนั ตอบปญั หาคณิตศาสตร์จำนวนหน่ึง
จึงนำมาแบง่ เทา่ ๆกัน น้อยได้ใชเ้ งินไปแล้ว 720 บาท ยงั เหลอื เงนิ อยู่ 880 บาท ทั้งสาม
คนไดร้ บั เงนิ รางวลั จากการแข่งขันตอบปัญหาคณติ ศาสตร์รวมเป็นเงนิ ก่บี าท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
ส่งิ ทโี่ จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
……………………………………………………………………………
……………………………….………………………………………………
ส่งิ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสร้าง
ระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสัญลกั ษณ์
ก าหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสัมพนั ธ์ท่ีได้จากบารโ์ มเดล คอื ………………………………………………………….......................
ดังนัน้ สามารถเขยี นสมการได้ คือ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
4. ต๋มั ไดร้ บั เงินไปโรงเรยี นแต่ละวนั เท่า ๆกนั โดยเธอจะเหลอื เงินมาหยอดกระปกุ
วันละ 7 บาท ถา้ ในเดือนมกราคม เม่ือเธอนำเงินในกระปกุ มานบั พบว่ามีเงนิ 161 บาท
อยากทราบวา่ ในเดือนมกราคมเธอไปโรงเรยี นก่วี นั .
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สิ่งทีโ่ จทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
……………………………………………………………………………
……………………………….………………………………………………
สงิ่ ท่โี จทยต์ ้องการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสร้าง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พนั ธ์ที่ได้จากบาร์โมเดล คือ………………………………………………………….......................
ดังนัน้ สามารถเขียนสมการได้ คือ………………………………………………………….......................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2
รายวิชา คณิตศาสตรพ์ น้ื ฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 หนว่ ยการเรียนรู้ สมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี ว
หัวข้อเร่อื ง การสร้างสมการจากโจทย์ปญั หาโดยใชว้ ิธีบารโ์ มเดล แบบที่ 1 ส่วนยอ่ ย-ส่วนรวม (ต่อ)
ปกี ารศึกษา 2564 ภาคเรียนท่ี 2 เวลา 50 นาที
*********************************************************************************************
1.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.1 ดา้ นความรูท้ างคณิตศาสตร:์ เพ่อื ใหน้ ักเรียน
1.1.1 เขยี นสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดียวจากสถานการณ์หรอื ปญั หาอย่างง่าย
1.2 ด้านทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์: เพื่อให้นกั เรยี น
1.2.1 ใช้ตวั แบบเชงิ คณติ ศาสตร์ในการสรา้ งสมการเชิงเสน้ ตัวแปรเดยี วจากสถานการณ์หรือปัญหาอย่างงา่ ย
1.3 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์: เพ่ือให้นักเรยี น
1.3.1 มสี ว่ นรว่ มในการทำงานที่มอบหมาย
1.3.2 มคี วามรับผดิ ชอบในการทำงานทีม่ อบหมาย
1.3.3 มเี หตุผลตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง
2. สาระการเรียนรู้
รปู แบบท่ี 1 สว่ นยอ่ ย-ส่วนรวม (Part – Whole model) คือ การแบ่งส่วนรวมท้ังหมด ออกเปน็ ส่วนยอ่ ย
2 สว่ น หรอื มากกวา่ 2 ส่วน ซง่ึ จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ดังนี้
กรณีท่ี 1 สว่ นยอ่ ยแต่ละส่วนมีปรมิ าณท่ีไมเ่ ทา่ กนั b
a
c
จากรูป จะเห็นว่าส่วนรวมทง้ั หมดคอื c โดนแบ่งออกเป็น 2 สว่ นคือ a และ b ท่ไี ม่เท่ากัน
ซ่งึ สามารถสร้างเป็นสมการได้คือ a +b = c หรือ c − a =b หรือ c − b = a
กรณที ี่ 2 สว่ นยอ่ ยแตล่ ะสว่ นมปี ริมาณทเ่ี ทา่ กัน
aaaaaa a
c
จากรปู จะเหน็ ว่าส่วนรวมท้ังหมดคอื c โดนแบ่งออกเปน็ 7 สว่ นท่ีเทา่ กันคือ สว่ นละ a
ซง่ึ สามารถสร้างเป็นสมการได้คอื 7a = c หรอื = หรอื = 7
7
3.สอื่ การเรียนรู้ / แหลง่ การเรียนรู้
3.1 ใบกิจกรรมที่ 2
4. กจิ กรรมการเรียนรู้
4.1 ขนั้ นำ
ขั้นนี้ใชเ้ วลาประมาณ 10 นาที ซงึ่ มรี ายละเอยี ดดังนี้
4.1.1 ครนู ำเขา้ สู่บทเรียน โดยครขู ออาสาสมคั ร ที่จะมาเฉลยแบบฝกึ หัดในใบความรูท้ ี่ 1 หน้ากระดาน
4.1.2 ครูและนกั เรียน ช่วยกันตรวจสอบแบบฝึกหัดท่นี ักเรยี นแต่ละคนเฉลยวา่ ถูกต้องหรือไม่ หรือต้องมสี ว่ น
ใดทเ่ี พิ่มเตมิ
4.2 ขั้นสอน
ขน้ั น้ีใช้เวลาประมาณ 35 นาที ซง่ึ มีรายละเอียดดงั นี้
4.2.1 ครูแจกใบกิจกรรมที่ 2 ใหน้ ักเรยี น พร้อมทงั้ ให้นักเรยี นร่วมกันลงมือทำใบกิจกรรมท่ี 2 ข้อ 1 พรอ้ มกัน
โดยครจู ะต้งั คำถามกระตุน้ นักเรียนดังนี้
1. นักเรียนคดิ ว่าโจทย์ใหข้ ้อมลู อะไรมาบ้าง [นักเรียนควรตอบวา่ ข้อมลู ที่โจทย์ให้มาคอื กาวขวดหนึง่ มีอยู่
120.125 มลิ ลิลิตร และใชว้ ันละ 3.15 มิลลิลติ ร เปน็ เวลา 16 วัน]
2. นกั เรียนคิดวา่ โจทยต์ ้องการถามหาอะไร [นักเรยี นควรตอบวา่ จะเหลอื กาวอยูเ่ ทา่ ใด]
3. จากสิง่ ทีโ่ จทยก์ ำหนดให้ นกั เรียนคดิ วา่ นกั เรียนจะวาดรูปบาร์โมเดลได้อยา่ งไร [นกั เรียนควรตอบวา่ เนื่องจาก
มกี าวท้งั หมด 120.125 มิลลิลติ ร จะต้องวาดส่วนรวมท้ังหมดให้แทนกาวทมี่ ีอยู่ หลังจากนัน้ แบ่งย่อยส่วนรวมออกเป็น
2 สว่ นใหญ่ ๆ คือสว่ นแรกเป็นสว่ นทใ่ี ชก้ าววันละ
3.15 มิลลลิ ิตรเปน็ เวลา 16 วัน ซ่งึ จะตอ้ งแบ่งย่อยส่วนน้ีออกเป็น 16 สว่ น และสว่ นใหญ่อีกหนึง่ ส่วนแทนดว้ ย
จำนวนกาวท่เี หลอื ]
4. ในระยะท่ี 2 ระยะโครงสร้าง จากทีน่ ักเรยี นได้วาดรูปบารโ์ มเดลเรียบรอ้ ยแล้ว นักเรียนลองพิจารณาวา่ ข้อมูล
ทเ่ี ตมิ ลงไปในรปู บาร์โมเดลนั้นสอดคลอ้ งกบั ระยะที่ 1 ระยะข้อความหรือไม่ [นกั เรยี นควรตอบว่า สอดคล้องกนั ]
5. นักเรียนคดิ ว่าสิง่ ใดเปน็ สิ่งท่นี กั เรยี นไมท่ ราบหรือเป็นส่ิงทีโ่ จทย์ตอ้ งการหา [นกั เรียนควรตอบวา่ จำนวนกาว
ที่เหลือ]
6. ในระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสญั ลักษณ์ นกั เรียนจะกำหนดตัวแปร x ให้กับสิง่ ใด [นกั เรยี นควรตอบวา่
กำหนดตวั แปร x ใหแ้ ทน จำนวนกาวที่เหลือ
7. นักเรียนลองสงั เกตความสมั พนั ธ์ของแบบจำลองทีน่ ักเรยี นสรา้ งขน้ึ นักเรียนได้ความสัมพนั ธ์อย่างไร [นักเรียน
ควรตอบวา่ จำนวนกาวที่ใชไ้ ปทั้งหมด 16 วันรวมกบั จำนวนกาวทเี่ หลอื จะเทา่ กบั จำนวนกาวท่มี ที ง้ั หมด]
8. ดังนนั้ นกั เรียนจะเขยี นสมการจากความสัมพนั ธ์นไ้ี ด้อยา่ งไร [นักเรียนควรตอบว่า (3.15×16) + x = 120.125 ]
9. นกั เรยี นจะหาคำตอบของสมการน้ีอย่างไร [นักเรียนควรตอบวา่
จาก (3.15 ×16 ) + x = 120.125
จะได้ 18.9 + x = 120.125
บวกดว้ ย -18.9 ทัง้ สองขา้ งของสมการ จะได้ 18.9 + x + (-1.89) = 120.125 + (-18.9)
ดังนนั้ x = 101.225]
10. นักเรยี นจะตอบคำถามโจทย์ปญั หาน้อี ยา่ งไร [นกั เรียนควรตอบวา่ เนอื่ งจากกำหนดให้ x แทน จำนวนกาว
ท่เี หลอื และสิ่งทโ่ี จทย์ถามคอื จะเหลือกาวอยูเ่ ท่าใด ดงั น้นั คำตอบของโจทย์ปญั หานีค้ ือ จะเหลอื กาวอยู่ทง้ั หมด
101.225 มิลลลิ ิตร]
4.2.2 ครแู จกใบกิจกรรมท่ี 2 ใหน้ กั เรียน พรอ้ มทัง้ ให้นกั เรียนรว่ มกันลงมือทำใบกิจกรรมท่ี 2 ขอ้ 2 พรอ้ มกัน
โดยครจู ะตัง้ คำถามกระตุน้ นกั เรียนดงั นี้
1. นกั เรยี นคิดวา่ โจทยใ์ ห้ขอ้ มลู อะไรมาบ้าง [นกั เรียนควรตอบว่า ข้อมูลทีโ่ จทย์ให้มาคือ พ่อใหเ้ งินเกรซ 600 บาท
เธอนำไปซ้ือกระเป๋า 230 บาท ทำใหเ้ หลือเงนิ 120 บาท]
2. นักเรียนคดิ วา่ โจทยต์ ้องการถามหาอะไร [นักเรียนควรตอบว่า รองเท้าราคากบ่ี าท]
3. จากส่งิ ทโ่ี จทย์กำหนดให้ นกั เรยี นคิดว่านักเรียนจะวาดรูปบารโ์ มเดลได้อยา่ งไร [นกั เรยี นควรตอบว่า เนื่องจาก
พ่อใหเ้ งนิ เกรซมา 600 บาท แสดงว่าสว่ นรวมท้ังหมดจะต้องเป็นเงินท่พี ่อใหเ้ กรซมา หลังจากนน้ั เธอนำเงินไปซ้ือของ
2 อยา่ ง คือรองเทา้ และกระเปา๋ และเธอยังคงเหลอื เงนิ อีก 120 บาท ซึ่งจะต้องแบ่งส่วนรวมท้ังหมดออกเปน็ 3 ส่วน
คอื ส่วนท่แี ทนดว้ ยราคารองเท้า ราคากระเปา๋ และเงินทเ่ี หลือ]
4. ในระยะท่ี 2 ระยะโครงสรา้ ง จากท่นี กั เรยี นได้วาดรูปบาร์โมเดลเรียบร้อยแลว้ นกั เรยี นลองพจิ ารณาว่า ขอ้ มูล
ทีเ่ ตมิ ลงไปในรูปบาร์โมเดลนั้นสอดคล้องกับ ระยะที่ 1 ระยะข้อความหรือไม่ [นกั เรียนควรตอบวา่ สอดคล้องกนั ]
5. นกั เรยี นคิดว่าสงิ่ ใดเปน็ สง่ิ ท่นี กั เรียนไมท่ ราบหรือเป็นสง่ิ ท่โี จทย์ต้องการหา [นกั เรียนควรตอบวา่ ราคาของ
รองเท้า]
6. ในระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสญั ลักษณ์ นักเรียนจะกำหนดตวั แปร x ใหก้ ับส่ิงใด [นกั เรียนควรตอบว่า
กำหนดตัวแปร x ให้แทน ราคาของรองเทา้ ]
7. นกั เรียนลองสงั เกตความสัมพันธข์ องแบบจำลองทีน่ ักเรยี นสร้างขน้ึ นกั เรียนได้ความสัมพันธอ์ ย่างไร
[นักเรยี นควรตอบวา่ จำนวนเงนิ ท่นี ำไปซื้อรองเท้า กระเป๋า และเงนิ ท่เี หลอื จะไดเ้ ทา่ กับเงนิ ที่พ่อให้เกรซมา]
8. ดงั นน้ั นกั เรยี นจะเขียนสมการจากความสมั พนั ธน์ ้ีได้อยา่ งไร [นักเรียนควรตอบว่า x+ 230 + 120 = 600 ]
9. นักเรียนจะหาคำตอบของสมการนอ้ี ย่างไร [นักเรียนควรตอบว่า
จาก x + 230 + 120 = 600
จะได้ x + 350 = 600
บวกดว้ ย -350 ท้ังสองขา้ งของสมการ
จะได้ x + 350 + (-350) = 600 + (-350)
ดงั นน้ั x = 250]
10. นักเรียนจะตอบคำถามโจทยป์ ัญหาน้อี ยา่ งไร [นักเรียนควรตอบว่า เนอ่ื งจากกำหนดให้ x แทน ราคาของ
รองเท้า และส่งิ ทีโ่ จทย์ถามคือ รองเท้าราคากบี่ าท ดงั นน้ั คำตอบของโจทยป์ ัญหานี้คือ รองเทา้ ราคา 250 บาท]
4.2.3 ครใู ห้นักเรยี นลงมอื ทำใบกิจกรรมท่ี 2 ข้อ 3 – 6 แล้วครูสุม่ นักเรยี นออกมาเขยี นสมการทีต่ วั เอง
สร้างได้บนกระดาน พรอ้ มทั้งให้นักเรยี นอธิบายวธิ กี ารสร้างสมการของนักเรยี น
4.3 ขน้ั สรปุ
ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซงึ่ มีรายละเอียดดังน้ี
4.3.1 ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ การสรา้ งสมการโดยใชว้ ธิ บี าร์โมเดลในรปู แบบที่ 1
5. การวัดผลและประเมนิ ผลการเรียนรู้
เพ่อื ให้สอดคล้องกับจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ การวัดและประเมินผลการเรียนรูใ้ นคาบน้ี มดี งั น้ี
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ การวัดผล การประเมินผล
ที่ตอ้ งการวัดและประเมนิ ผล
เกณฑ์การให้คะแนน :
วิธวี ดั ผล : ตามเกณฑ์การใหค้ ะแนน
แบบวเิ คราะห์แสดงในตาราง 1
ดา้ นความรทู้ างคณิตศาสตร์ : พิจารณาความถูกตอ้ ง เกณฑ์การประเมนิ ผล :
ถ้านกั เรยี น ได้คะแนนมากกว่า
1. เขียนสมการเชงิ เส้นตัวแปร ของแต่ละขนั้ ตอนในการ รอ้ ยละ 60 ถือวา่ ผ่าน
เกณฑ์การให้คะแนนแตล่ ะข้อ :
เดยี วจากสถานการณ์หรือ สร้างสมการ ตามเกณฑก์ ารให้คะแนน
แบบวิเคราะหแ์ สดงในตาราง 1
ปญั หาอยา่ งง่าย เครื่องมือวัดผล : เกณฑ์การประเมินผล :
ถา้ นกั เรยี น ได้คะแนนมากกว่า
ใบกิจกรมที่ 2 ร้อยละ 60 ถือว่าผ่าน
เกณฑ์การให้คะแนน :
ด้านทักษะและกระบวนการทาง วธิ ีวัดผล : ในแตล่ ะข้อของแบบสังเกตพฤติกรรม
ถ้า นกั เรียน แสดงออกใหเ้ หน็ อยา่ ง
คณิตศาสตร์: พจิ ารณาความถูกตอ้ ง เด่นชดั จะได้2 คะแนน
ถ้า นกั เรียน แสดงออกให้เหน็
1. ใชต้ ัวแบบเชิงคณิตศาสตร์ ของแต่ละขัน้ ตอนในการ เพยี งเล็กน้อย จะได้1 คะแนน
ถ้า นกั เรยี นไมแ่ สดงออกเลย
ในการสรา้ งสมการเชงิ เส้นตัว สร้างสมการ จะได้ คะแนน0 คะแนน
เกณฑ์การประเมินผล :
แปรเดยี วจากสถานการณ์หรือ เครื่องมอื วดั ผล : ถ้า นกั เรยี น ได้คะแนนมากกว่าร้อย
ละ60 ของคะแนนเต็ม ถือว่าผ่าน
ปญั หาอยา่ งง่าย ใบกจิ กรมที่ 2
วิธีวดั ผล :
พจิ ารณาพฤติกรรมหรอื
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การแสดงออกของ
1. มสี ว่ นร่วมและความ นักเรียน ขณะทำงานที่
รับผิดชอบในการทำงานท่ี มอบหมายโดยมีครเู ป็นผู้
มอบหมาย สังเกตแลว้ บนั ทกึ ในแบบ
2.มเี หตุผลตามหลักเศรษฐกิจ สงั เกตพฤตกิ รรมการ
พอเพยี ง ท างานของนกั เรียน
เครอ่ื งมอื วัดผล :
แบบสงั เกตพฤติกรรม
การทำงานของนกั เรียน
ตารางที่ 1 เกณฑ์การให้คะแนนแบบวิเคราะห์ (Analytic Scoring)
ระยะท่ี 1 ระยะข้อความ (2 คะแนน) คะแนน
- ระบุส่งิ ทโี่ จทย์กำหนดใหแ้ ละระบสุ ่ิงที่โจทยต์ อ้ งการหา ไดถ้ กู ตอ้ งครบถ้วน 2
- ระบสุ ิ่งท่ีโจทยก์ ำหนดให้ถกู ต้อง แต่ระบสุ ิ่งท่ีโจทย์ตอ้ งการหาไมถ่ กู ต้องหรือระบสุ ่ิงทีโ่ จทยก์ ำหนดใหไ้ มถ่ ูกต้อง แต่ระบสุ ่ิงที่ 1
โจทย์ตอ้ งการหาไดถ้ ูกต้อง
- ระบุสงิ่ ทโี่ จทยก์ ำหนดใหแ้ ละระบสุ ง่ิ ทโ่ี จทยต์ ้องการหาไมถ่ ูกตอ้ งหรอื ไมร่ ะบสุ ิง่ ท่โี จทยก์ ำหนดให้และส่งิ ที่โจทยต์ อ้ งการหา 0
ระยะท่ี 2 ระยะโครงสรา้ ง (2 คะแนน) คะแนน
- สรา้ งบารโ์ มเดลได้ และเขียนสว่ นประกอบแตล่ ะสว่ นของบารโ์ มเดลได้ 2
- สรา้ งบาร์โมเดลได้ แตเ่ ขยี นสว่ นประกอบแตล่ ะส่วนของบารโ์ มเดลไม่ถกู ต้องหรอื ไมไ่ ดเ้ ขียน หรือเขียนไดบ้ างส่วน 1
- สรา้ งบารโ์ มเดลไมถ่ ูกตอ้ ง หรือไม่ไดส้ รา้ ง 0
ระยะท่ี 3 ระยะการกระบวนการและสญั ลกั ษณ์ (4 คะแนน) คะแนน
- กำหนดตวั แปรทนี่ ำไปสูก่ ารหาคำตอบได้ เขยี นสมการเชงิ เส้นตัวแปรเดยี วไดเ้ ขียนสว่ นประกอบแตล่ ะสว่ นของบารโ์ มเดลได้ 4
และอธิบายความสมั พันธท์ ่ีได้จากบารโ์ มเดลได้
- กำหนดตัวแปรทน่ี ำไปสู่การหาคำตอบได้ เขยี นสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดยี วได้ และเขยี นสว่ นประกอบแต่ละส่วนของบาร์ 3
โมเดลได้ แตอ่ ธิบายความสมั พนั ธท์ ่ีไดจ้ ากบารโ์ มเดลไม่ถกู ตอ้ งหรอื ไมไ่ ดอ้ ธบิ าย
- กำหนดตัวแปรทนี่ ำไปสู่การหาคำตอบได้ เขยี นสมการเชิงเส้นตวั แปรเดยี วได้ แตเ่ ขียนสว่ นประกอบแต่ละส่วนของบาร์ 2
โมเดลไมถ่ กู ตอ้ งหรอื ไมไ่ ดเ้ ขียนและแตอ่ ธบิ ายความสมั พนั ธท์ ไี่ ด้จากบาร์โมเดลไม่ถกู ต้องหรอื ไมไ่ ดอ้ ธิบายหรือกำหนดตัวแปร
ทนี่ ำไปสกู่ ารหาคำตอบได้ เขียนสว่ นประกอบแตล่ ะส่วนของบารโ์ มเดลได้ และอธบิ ายความสัมพันธ์ทีไ่ ด้จากบารโ์ มเดลได้ แต่
เขียนสมการเชงิ เสน้ ตวั แปรเดียวไมถ่ กู ต้อง หรอื ไมไ่ ด้เขยี น
- กำหนดตัวแปรที่นำไปสู่การหาคำตอบได้ แต่ไมไ่ ดด้ ำเนินการในข้ันตอ่ ไปหรอื ดำเนนิ การในขนั้ ต่อไปไมถ่ ูกต้อง 1
- ไมแ่ สดงวธิ ที ำ หรือแสดงวธิ ที ำไม่ถูกตอ้ ง หรือไมต่ อบ 0
แบบสงั เกตพฤติกรรมการทำงานของนักเรยี น
วันที่: __________________________________ เวลา _____________________
ชอ่ื กิจกรรม: ____________________________________________________________
การให้คะแนน: จะได้ คะแนน 2 คะแนน
ถ้าแสดงพฤติกรรมใหเ้ ห็นอย่างเดน่ ชดั
ถา้ แสดงพฤติกรรมใหเ้ ห็นเพียงเล็กนอ้ ย จะได้ คะแนน1 คะแนน
ถ้าไม่แสดงพฤตกิ รรมเลย จะได้ คะแนน0 คะแนน
6. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้
6.1 ด้านนักเรียน
(ระบุ ความรู้ /ทักษะและกระบวนการ/คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรยี นที่พบ)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
6.2 ด้านผู้สอน
(ระบุ ปญั หาหรือผลการจดั การเรียนรู้/ขอ้ เสนอแนะสำหรบั การจดั การเรยี นรู้ครง้ั ตอ่ ไป)
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
6.3 ด้านอน่ื ๆ (ถ้าม)ี
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
_________________________________________________________________________
ใบกจิ กรรมท่ี 2
ให้นกั เรยี นสรา้ งสมการจากโจทย์ปญั หา โดยใชว้ ิธีบาร์โมเดล
1.กาวขวดหน่ึงมอี ยู่ 120.125 มลิ ลิลติ ร ใช้วันละ 3.15 มลิ ลลิ ิตร เป็นเวลา 16 วนั
อยากทราบวา่ จะเหลือกาวอยู่เทา่ ใด
ระยะท่ี 1 ระยะข้อความ
ส่งิ ท่โี จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สง่ิ ทีโ่ จทยต์ อ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสัมพนั ธท์ ่ีไดจ้ ากบาร์โมเดล คอื ………………………………………………..................................
ดังนั้น สามารถเขียนสมการได้ คอื …………………………………………....................................................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
ใบกิจกรรมท่ี 2
ให้นกั เรยี นสรา้ งสมการจากโจทย์ปัญหา โดยใชว้ ิธีบาร์โมเดล
2.พอ่ ใหเ้ งนิ เกรซ 600 บาท เธอนำเงนิ ไปซ้ือรองเทา้ จำนวนหน่งึ และซอ้ื กระเป๋า 230 บาท ทำให้เธอเหลือเงนิ 120
บาท อยากทราบวา่ รองเทา้ ราคาก่ีบาท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สิง่ ท่ีโจทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สงิ่ ท่ีโจทย์ตอ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะท่ี 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พนั ธท์ ่ีได้จากบารโ์ มเดล คอื ………………………………………………..................................
ดังนั้น สามารถเขยี นสมการได้ คือ…………………………………………....................................................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
ใบกจิ กรรมที่ 2
ใหน้ กั เรียนสรา้ งสมการจากโจทยป์ ัญหา โดยใชว้ ิธบี าร์โมเดล
3.นิตาออมเงนิ โดยการหยอดเงนิ ใสก่ ระปุกออมสิน โดยจะหยอดมากกว่าวนั ก่อนหนา้
วันละ 5 บาท เสมอ ถา้ ตอนนี้นิตาหยอดกระปุกออมสินมาแล้ว 5 วัน และนบั เงินในกระปุกออม
สินได้ 100 บาท อยากทราบว่าวนั แรกนติ าหยอดเงินใสก่ ระปุกออมสินกบี่ าท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สิ่งท่โี จทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สงิ่ ทีโ่ จทย์ตอ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสัญลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสัมพนั ธท์ ่ีไดจ้ ากบาร์โมเดล คือ………………………………………………..................................
ดังนน้ั สามารถเขียนสมการได้ คอื …………………………………………....................................................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
ใบกจิ กรรมที่ 2
ใหน้ กั เรยี นสร้างสมการจากโจทยป์ ญั หา โดยใช้วธิ ีบารโ์ มเดล
นัทสะสมเงินจากการท างานไดจ้ ำนวนหนง่ึ เขานำเงนิ ไปซอื้ พดั ลมเปน็ เงนิ 870 บาท ซ้ือเสื้อผ้าเป็นเงิน 1,240 บาท
ทำใหเ้ ขาเหลือเงนิ อยู่ 1,630 บาท อยากทราบวา่ นัทสะสมเงินจากการท างานไดก้ ี่บาท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
ส่งิ ท่โี จทยก์ ำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สงิ่ ที่โจทยต์ ้องการหา …………………………………………………………
ระยะท่ี 2 ระยะโครงสร้าง
ระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสญั ลกั ษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พันธ์ท่ีได้จากบารโ์ มเดล คอื ………………………………………………..................................
ดงั นน้ั สามารถเขยี นสมการได้ คอื …………………………………………....................................................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
ใบกิจกรรมท่ี 2
ใหน้ ักเรียนสรา้ งสมการจากโจทยป์ ัญหา โดยใชว้ ิธบี าร์โมเดล
น้องเล็กนำเงนิ จำนวนหนึง่ ไปซอ้ื หนังสอื จำนวน 6 เล่ม เลม่ ละ 120 บาท ทำให้นอ้ งเลก็ เหลือเงิน 380 บาท อยาก
ทราบวา่ น้องเลก็ มีเงินก่ีบาท
ระยะที่ 1 ระยะข้อความ
สง่ิ ท่โี จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
สงิ่ ที่โจทยต์ อ้ งการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะท่ี 3 ระยะกระบวนการและสัญลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสมั พันธท์ ่ีได้จากบารโ์ มเดล คือ………………………………………………..................................
ดังนน้ั สามารถเขยี นสมการได้ คือ…………………………………………....................................................
ตอบคำถามของโจทย์ปัญหา
ใบกจิ กรรมที่ 2
ใหน้ ักเรียนสรา้ งสมการจากโจทย์ปัญหา โดยใช้วธิ บี ารโ์ มเดล
โบท๊ มเี งินอยู่ 30 บาท เขานำเงนิ ไปซ้ือไม้บรรทัด 5 บาท ซ้ือขนม 6 บาท และซื้อยางลบ 3 ก้อน ซึง่ เขาไดเ้ งนิ ทอน
มา 13 บาท อยากทราบวา่ ยางลบกอ้ นละก่ี
ระยะท่ี 1 ระยะข้อความ
สิ่งทโ่ี จทย์กำหนดให้ …………………………………………………………
…………………………………………………………
…………………………………………………………
ส่งิ ทีโ่ จทย์ต้องการหา …………………………………………………………
ระยะที่ 2 ระยะโครงสรา้ ง
ระยะที่ 3 ระยะกระบวนการและสญั ลักษณ์
กำหนดให้ x แทน …………………………………………………………
ความสัมพนั ธ์ที่ได้จากบาร์โมเดล คือ………………………………………………..................................
ดงั นน้ั สามารถเขยี นสมการได้ คือ…………………………………………....................................................
ตอบคำถามของโจทยป์ ัญหา
แบบสอบถามวัดความพงึ พอใจของนักเรยี นท่มี ีต่อกจิ กรรมการเรยี นการสอนเรอ่ื งการสร้างสมการเชงิ เสน้ ตัวแปรเดียว
จากโจทย์ปัญหา โดยใช้วิธบี าร์โมเดล
1. แบบสอบถามวดั ความพึงพอใจของนักเรยี นทม่ี ตี ่อกจิ กรรมการเรยี นการสอนเรื่องการสร้างสมการเชิงเสน้ ตวั
แปรเดียวจากโจทย์ปัญหา โดยใชว้ ธิ ีบารโ์ มเดล มจี ำนวน 20 ขอ้
2. ใหน้ ักเรยี นทำเคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งทางขวามอื หลงั ข้อความตามความรสู้ ึกทีแ่ ทจ้ ริงของนักเรยี นเพยี ง
ช่องเดียว
ระดบั ความพงึ พอใจ
ข้อที่ ขอ้ ความ มาก มาก ปาน นอ้ ย
ที่สดุ กลาง ท่สี ดุ
น้อย
1 การจดั ลำดับโจทยป์ ญั หาใบกิจกรรมมีความตอ่ เนื่องและชัดเจนทำให้
ขา้ พเจา้ เขา้ ใจไดง้ า่ ย
2 โจทย์ปญั หาในใบกจิ กรรมมีความยากงา่ ยเหมาะสม
3 โจทยป์ ัญหาในใบกิจกรรมมีความหลากหลาย
4 การทำใบกจิ กรรมในแต่ละคาบทำใหข้ ้าพเจา้ เข้าใจวธิ ีการสรา้ ง
สมการโดยใช้วธิ บี ารโ์ มเดลมากข้ึน
5 เครอื่ งมือในการท ากจิ กรรมมีประโยชนต์ อ่ การเรยี นการสอนมาก
6 การวาดรูปบารโ์ มเดลทำให้ข้าพเจา้ ตีความโจทยป์ ัญหาได้งา่ ยขนึ้
7 การใชว้ ธิ บี าร์โมเดลทำใหข้ ้าพเจา้ สามารถสรา้ งสมการได้ง่ายข้ึน
8 การใช้วธิ บี ารโ์ มเดลทำใหข้ ้าพเจา้ เข้าใจวิธีการสร้างสมการมากขึน้
9 การใช้วิธบี ารโ์ มเดลทำให้ข้าพเจา้ ทำให้ขา้ พเจ้ามีอิสระในการคิดมาก
ข้ึน
10 การใชว้ ธิ ีบาร์โมเดลทำใหข้ า้ พเจา้ พัฒนาทักษะกระบวนการคดิ มาก
ข้นึ
11 กจิ กรรมการเรยี นการสอนทำให้ขา้ พเจ้าเกิดการค้นพบองค์ความรู้
ดว้ ยตนเอง
ข้อท่ี ข้อความ ระดบั ความพึงพอใจ
มาก มาก ปาน นอ้ ย นอ้ ย
ทีส่ ดุ กลาง ท่สี ุด
11 กิจกรรมการเรียนการสอนทำใหข้ า้ พเจ้าเกดิ การคน้ พบองค์ความรู้
ด้วยตนเอง
12 กิจกรรมการเรียนการสอนทำให้ข้าพเจ้าจดจำวธิ กี ารสรา้ งสมการโดย
ใช้วธิ ีบาร์โมเดลไดม้ ากขึ้น
13 กจิ กรรมการเรยี นการสอนทำให้ข้าพเจา้ มีความกระตือรือร้นและสนุก
กับการเรียน
14 กจิ กรรมการเรยี นการสอนทำใหข้ ้าพเจ้าเขา้ ใจวิธีการสรา้ งสมการได้
มากขึ้น
15 กิจกรรมการเรียนการสอนทำใหข้ ้าพเจ้ามีความม่นั ใจในตวั เองมากข้นึ
16 การปฏิบตั ิกิจกรรมการเรียนการสอนทำให้ขา้ พเจ้ามีความม่ันใจใน
การเรียนมากขน้ึ
17 การปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอนสง่ เสริมให้บรรยากาศในการ
เรียนของข้าพเจ้ามากย่ิงขนึ้
18 การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการเรียนการสอนทำให้ข้าพเจ้ามโี อกาส
แลกเปลยี่ นความคิดเหน็ กับเพ่อื นมากขึน้
19 การปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรียนการสอนทำให้ขา้ พเจ้ามเี จตคติทดี่ ตี อ่
วิชาคณิตศาสตร์
20 ข้าพเจ้าร้สู กึ ไม่เครียดและไมห่ นกั ใจตอ่ การจัดกิจกรรมการเรยี นการ
สอน
ข้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
............................................................................................................................. ..............................
.......................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ..............................
ภาพประกอบการสอน