The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รหัสประจำตัวนักศึกษา 63040110108<br>สาขาวิชาสังคมศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 108 อภิวัฒน์ คบ.สังคม, 2024-01-30 03:41:05

อภิวัฒน์ ชูศรีทอง

รหัสประจำตัวนักศึกษา 63040110108<br>สาขาวิชาสังคมศึกษา

42 5) นำคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคะแนนจากแบบวัดความสามารถในการแก้โจทย์ ปัญหา โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน วิเคราะห์ทางสถิติ 3.6 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.6.1 วิธีวิเคราะห์ข้อมูล 1) การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตาม แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เมื่อจบการเรียนให้ นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียนซึ่งเป็นแบบทดสอบชุดเดิมกับก่อนเรียนแล้วนำผลมาวิเคราะห์หา ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และค่า T-Test 3.6.2) สถิติที่ใช้ในการวิจัย 1) สถิติที่ใช้หาคุณภาพของเครื่องมือ - ค่าความเที่ยงตรงของเนื้อหา (IOC) - ค่าความยากง่าย (Difficulty) ของแบบทดสอบ - ค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบ - ค่าความเชื่อมั่น - ค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ (E1/E2) 2) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล - ค่าเฉลี่ย - ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน - ค่าที (T-Test) 3.6.3) การแปลผลข้อมูล 1) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ค่าคุณภาพของเครื่องมือ 1.1) การหาค่าความเที่ยงตรง โดยความเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาค่า ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ (IOC) ใช้สูตร (สมนึก ภัททิยธนี, 2546 : 220) IOC = เมื่อ IOC แทน ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ R แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด


43 1.2) ค่าความยากง่ายของแบบทดสอบโดยใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด, 2543 : 81) P = เมื่อ p แทน ระดับความยาก R แทน จำนวนผู้ตอบถูกทั้งหมด N แทน จำนวนคนที่ทำข้อสอบทั้งหมด 1.3) ค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบโดยใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด, 2543 : 87) B = 1 − 2 เมื่อ B แทน อำนาจจำแนก U แทน จำนวนผู้รอบรู้หรือสอบผ่านเกณฑ์ที่ตอบถูก L แทน จำนวนผู้ไม่รอบรู้หรือสอบไม่ผ่านเกณฑ์ 1 แทน จำนวนผู้รอบรู้หรือสอบผ่านเกณฑ์ที่ตอบถูก 2 แทน จำนวนผู้รอบรู้หรือสอบผ่านเกณฑ์ที่ตอบถูก 1.4) ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนโดยใช้สูตร K.R. 20 (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 85) ดังนี้ rtt = −1 [1 − ̅(−̅) 2 ] เมื่อ n แทน จำนวนข้อ K แทน สัดส่วนของคนทำถูกในแต่ละข้อ q แทน สัดส่วนของคนทำผิดในแต่ละข้อ 2 แทน ความแปรปรวนของคะแนนทั้งฉบับ 2) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 2.1) ค่าเฉลี่ย (Mean) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 105) ̅= ∑ เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด n แทน จำนวนนักเรียน


44 2.2) ค่าร้อยละ (Percentage) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 104) P = ×100 เมื่อ P แทน ค่าร้อยละ f แทน ความถี่ที่ต้องการแปลงให้เป็นร้อยละ n แทน จำนวนความถี่ทั้งหมด 2.3) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 106) S.D. = √ ∑ 2−(∑) 2 (−1) เมื่อ S.D. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทน คะแนนของนักเรียนแต่ละคน N แทน จำนวนนักเรียน ∑ แทน ผลรวม 2.4) การทดสอบค่าทีแบบสองกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระจากกัน(t-test for Dependent Group or t-test Match Paired )เป็นการทดสอบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างที่ได้จาก ประชากร 2 กลุ่ม ที่ไม่เป็นอิสระจากกัน อาทิ ผู้ให้ข้อมูลเป็นกลุ่มเดียวกันแต่ให้ข้อมูล 2 ครั้งหรือวัดซ้ำ (พิศิษฐ์ตัณฑวณิช, 2543: 166-181) = ∑ √ ∑2 − (∑) 2 − 1 เมื่อ t แทน ค่าทีจากการคำนวณ D แทน ค่าแตกต่างของคะแนน N แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง


45 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผลการศึกษา เรื่อง การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ผู้วิจัย ได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ ดังนี้ ตอนที่ 1 ผลการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตาม แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ตามเกณฑ์ 80/80 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน 4.1 ผลการวิเคราะห์ ตอนที่ 1 ผลการหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตาม แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ตามเกณฑ์ 80/80 ดังแสดงในตารางที่ 4.1 ตารางที่ 4.1 ค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์ สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียน กลับด้าน แผน ที่ เรื่อง ค่าประสิทธิภาพ การแปลผล E1 E2 E1 / E2 1 การขยายอิทธิพลของชาติ ตะวันตก 84.89 88.83 84.89/88.83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์ 2 การฟื้นฟูศิลปวิทยา 84.67 88.83 84.67/88.83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์ 3 การปฏิรูปศาสนาและกำเนิดรัฐ ชาติ 88.89 88.83 88.89/88/83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์


46 แผน ที่ เรื่อง E1 E2 E1 / E2 การแปลผล 4 การปฏิวัติทางวิทยาศาสตร์ 88.56 88.83 88.56/88.83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์ 5 การปฏิวัติอุตสาหกรรม 89.56 88.83 89.56/88.83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์ 6 ยุคภูมิธรรมและแนวคิด ประชาธิปไตย ศิลปวัฒนธรรม สมัยใหม่ 90.00 88.83 90.00/88.83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์ เฉลี่ยโดยรวม 87.76 88.83 87.76/88.83 ประสิทธิภาพสูง กว่าเกณฑ์ จากตารางแสดงว่า ค่าประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตาม แนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เท่ากับ 87.76/88.83 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ตารางที่ 4.2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของ ยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด ห้องเรียนกลับด้าน ผลสัมฤทธิ์ จำนวนนักเรียน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย S.D ก่อนเรียน 34 20 13.09 2.37 หลังเรียน 34 20 16.88 1.32 แปลผล หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน


47 จากตารางผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านมีความแตกต่างกันโดยคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 13.17 ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.37 และคะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.93 ส่วนเบี่ยงเบน มาตรฐานเท่ากับ 1.32 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ตารางที่ 4.3 ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และนัยสำคัญทางสถิติของการ ทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน การจัดการเรียนรู้ n คะแนนเต็ม ̅ S.D. df t sig ก่อนเรียน 34 20 13.17 2.37 33 5.45 0.00 หลังเรียน 34 20 16.93 1.32 33 จากตารางที่ 4.3 แสดงการเปรียบเทียบคะแนนทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน กลุ่มทดลอง พบว่าการทดสอบก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.17 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 2.37 และการทดสอบหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.93 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.32 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่า ในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนของกลุ่มทดลองคะแนนการทดสอบสูงกว่าก่อนเรียน


48 บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การศึกษา เรื่อง การพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน มี วัตถุประสงค์ดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน กลุ่ม ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/9 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา จำนวนนักเรียน 34 คน ซึ่งได้จากการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง ( Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 2 รายการ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง พัฒนาการ ของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน จำนวน 6 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ จำนวน 20 ข้อ 5.1 สรุปผล ผลการศึกษาสรุปได้ดังนี้ 1) ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เท่ากับ 87.76/88.83 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของ ยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด ห้องเรียนกลับด้าน พบว่าการทดสอบก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.17 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.37 และการทดสอบหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.93 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.32 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่า ในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนหลังเรียนของกลุ่มทดลองคะแนนการทดสอบสูงกว่าก่อนเรียน 5.2 อภิปรายผล ผลการศึกษาสามารถนำมาอภิปรายผลได้ดังนี้


49 1) ประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เท่ากับ 87.76/88.83 แสดงว่าแผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านที่ สร้างขึ้น มีค่าประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 80/80 จะเห็นว่าแผนการจัดการ เรียนรู้ที่จัดทำขึ้นมีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้วิจัยได้สร้างแผนการจัดการเรียนรู้อย่าง เป็นระบบโดยได้นำแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน เพื่อประเมิน ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้และตรวจสอบความถูกต้องของจุดประสงค์การเรียนรู้ด้าน เนื้อหา ด้านกิจกรรมการจัดการเรียนรู้ ด้านรูปแบบ ด้านการใช้ภาษาและด้านการประเมินผล และ กระบวนการจัดการเรียนรู้ของรายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) แล้วมาจัดเป็นหน่วย การเรียนรู้โดยศึกษาค้นคว้านวัตกรรมการเรียนรู้คือการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับด้าน ซึ่งเป็นรูปแบบในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ดัง ที่พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข (2556 : 64) กล่าวว่าการใช้สื่อแหล่งเรียนรู้อย่างหลากหลาย ตลอดจนมีการวัดประเมินผลตามสภาพจริง สามารถพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียนได้อย่างมี ประสิทธิภาพ จากนั้นนำไปทดลองใช้กับนักเรียนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่เคยเรียนเรื่อง พัฒนาการของ ยุโรปสมัยใหม่ มาแล้ว แสดงว่ากิจกรรมทั้ง 6 แผน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 สามารถ นำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้กับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 นอกจากนี้แผนการจัดการเรียนรู้ที่จัดทำขึ้นมีองค์ประกอบสำคัญครบถ้วน คือ ชื่อวิชา/ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ระดับชั้น เวลา มาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัด สาระสำคัญ สาระการเรียนรู้จุดประสงค์การเรียนรู้ ภาระงาน/ชิ้นงาน สื่อ/แหล่งเรียนรู้การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้และบันทึก หลังการจัดการเรียนรู้และแผนการจัดการเรียนรู้ที่ดีจะต้องกำหนด จุดประสงค์การเรียนรู้กิจกรรมการ เรียนการสอน สื่ออุปกรณ์หรือแหล่งเรียนรู้ตลอดจนวิธีการวัด และประเมินผลไว้อย่างชัดเจน (สุวิทย์ มูลคำ และคณะ, 2549 : 59) 2) ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่อง พัฒนาการของ ยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ผ่านการจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ตามแนวคิด ห้องเรียนกลับด้าน พบว่าการทดสอบก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.17 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 2.37 และการทดสอบหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.93 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.32 และมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงให้เห็นว่า ในการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนหลังเรียนของกลุ่มทดลองคะแนนการทดสอบสูงกว่าก่อนเรียนซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้เนื่องจากผู้สอนใช้แผนการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพและใช้รูปแบบกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับด้าน เป็นการจัดการเรียนรู้ด้วยตนเอง นักเรียนมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนการสอน


50 นักเรียนจะต้องศึกษาเนื้อหาเบื้องต้นมาล่วงหน้าก่อนการเข้าชั้นเรียนจากสื่อการเรียนรู้ที่ครูแนะนำ หรือจัดเตรียมไว้ให้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น หนังสือเรียน หนังสือคู่มือ วีดีโอการสอน วีดีโออื่น ๆ ที่ เกี่ยวข้อง เว็บไซต์ต่าง ๆ ทั้งนี้ผลการวิจัยยังสอดคล้องกับงานวิจัยของอัครเดช แสนณรงค์ (2557 : บทคัดย่อ) ในการวิจัยเรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมีวิจารณญาณรายวิชา ส31102 ศาสนประวัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้การสอนด้วยวิธีการทางศาสนประวัติ ร่วมกับผังกราฟิกผลการวิจัยพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน นักเรียนร้อยละ 72.41 มีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนร้อยละ 72.40 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 2) ผล การคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวนนักเรียนร้อยละ 89.65 มีคะแนน คิดอย่างมีวิจารณญาณร้อยละ 73.42 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 3) เจตคติต่อการเรียนรายวิชาศาสน ประวัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่า นักเรียนมีเจตคติทางบวกต่อการเรียนวิชาศาสน ประวัติอยู่ในระดับมาก และสอดคล้องกับงานวิจัยของ ทยูน (Tune 2013 : 316) ได้ศึกษาผลของ รูปแบบการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วย การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านกับห้องเรียนแบบปกติ ผลการศึกษาพบว่า ผู้เรียนที่ได้รับการ จัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ข้อเสนอแนะ 1) ข้อเสนอแนะในการนำผลวิจัยไปใช้ 1.1) ประโยชน์ต่อผู้สอน/ครู ผลการศึกษาครั้งนี้แสดงว่าแผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ดังนั้น ครูผู้สอนสามารถนำไปใช้กับนักเรียนได้เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน 1.2) ครูควรพัฒนาสื่อการสอนเพื่อส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ที่หลากหลาย ควร ใช้สื่อที่มีสีสันและดึงดูดความสนใจของผู้เรียนให้มาก ๆ เพราะเป็นช่วงวัยที่เรียนรู้จากรูปธรรม มากกว่านามธรรม 1.3) การเรียนการสอนควรที่จะสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้เป็นแบบกันเองเพื่อให้ นักเรียนไม่เกิดความรู้สึกกดดัน โดยมีกิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียนที่หลากหลาย สร้างความตื่นเต้นเพื่อ ไม่ให้เกิดความเบื่อหน่าย 2) ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป 2.1) สามารถพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ที่สอนโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบ ห้องเรียนกลับด้านผ่านสื่อยูทูบในระดับชั้นอื่น ๆ หรือรายวิชาอื่น ๆ


51 2.2) ควรมีการเปรียบเทียบการสอนระหว่างการใช้แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้ กิจกรรม การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านกับวิธีการสอนอื่น ๆ เช่น การสอนแบบโครงการ แบบกลุ่ม เพื่อนช่วยเพื่อน เป็นต้น 2.3) ควรมีการวิจัยพัฒนาทักษะด้านอื่น ๆ เช่น ทักษะการอ่าน การเขียน การคิด วิเคราะห์เป็นต้น เพื่อให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาครอบคลุมได้ในทุก ๆ ด้าน


52 บรรณานุกรม กระทรวงศึกษาธิการ. (2545). พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 และแก้ไข เพิ่มเติม(ฉบับที่ 2) พ.ศ.2545. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว. กระทรวงศึกษาธิการ. (2553). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. พิมพ์ ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด. กวินธร รัฐอาจ, เหมมิญช์ ธนปัทม์มีมณีและ ฉัตรเกล้า เจริญผล. (2559). การพัฒนารูปแบบการ เรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยคลังรายวิชาออนไลน์แบบเปิด. วารสาร ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. 10(พิเศษ): 68-82. เกศินี ครุณาสวัสดิ์. (2556). การพัฒนากระบวนการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษา โดยบูรณา การรูปแบบการแก้ปัญหาทีโอทีอาร์ร่วมกับหลักการจัดการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้าง ความสามารถในการจัดการตนเองของนักศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย:ม.ป.ท. เกสรา มหัทธนบุญนพ, สิรินาถ จงกลกลาง. (2563). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและ ความสามารถ ในการคิดวิเคราะห์หน่วยการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์สากล ที่ได้รับการ จัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. วารสาร ราชพฤกษ์ ปีที่ 19 ฉบับที่ 19 เกียรติศักดิ์ หนูขาว, กัลยา รัศมีเพ็ญ, ศิริเพ็ญ ภู่มหภิญโญ. (2565). การพัฒนาสื่อการสอนมัลติมีเดีย เรื่องทัศนียภาพตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านสําหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนหัวหิน. วารสารวิชาการ: ครุศาสตร์สวนสุนันทา จันทิมา ปัทมธรรมกุล. (2555). Getting to know Flipped Classroom. สืบค้นจาก http://www2.li.kmutt.ac.th/thai/article/gettingtoknow.html. ชนาธิป พรกุล. (2550). แคทส์รูปแบบการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ชนาธิป พรกุล. (2551). การสอนกระบวนการคิด: ทฤษฎีและการนำไปใช้. กรุงเทพฯ: วีพริ้นท์ ชวลิต ชูกำแพง. (2551) การพัฒนาหลักสูตร. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยสารคาม เญาฮารีย์ มือโต. (2564). การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียน กลับด้านผ่านสื่อยูทูบรายวิชาอัตตารีคสำหรับนักเรียนชั้นอิสลามศึกษาตอนกลางปีที่ 1. สาขาวิชาการสอนอิสลามศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา


53 ดวงกมล สินเพ็ง. (2553). การพัฒนาผู้เรียนสู่สังคมแห่งการเรียนรู้ : การจัดการเรียนการสอนที่เน้น ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง : กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม. กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ธนารัตน์ มาลัยศรีและลัดดา ศิลาน้อย. (2555). ศึกษาผลการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมี วิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในหน่วยการเรียนรู้แบบกลับด้าน เรื่อง ประชาคมอาเซียนโดยใช้รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es). วารสาร ศึกษาศาสตร์ฉบับวิจัย บัณฑิตศึกษา: มหาวิทยาลัยขอนแก่น นรรัชต์ ฝันเชียร. (2561). Child center เหมาะกับการเรียนการสอนแบบใด. สืบค้นจาก https://www.trueplookpanya.com/dhamma/content/68591. บูรชัย ศิริมหาสาคร. (2545). แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. ประภาพร สุขพูล. (2544). การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มการงานและพื้นฐาน อาชีพ ชั้นประถมศึกษาปีที่6 เรื่องงานประดิษฐ์จากข้าวโพด โดยใช้โครงงาน. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (การประถมศึกษา) มหาสารคาม : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ปราณี กองจินดา. (2549). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์และ ทักษะการคิด เลขในใจของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบซิปปาโดยใช้ แบบฝึกหัดที่เน้นทักษะ การคิดเลขในใจกับนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้คู่มือ ครู. ใน วิทยานิพนธ์ปริญญา มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา. พัชฎา บุตรยะถาวร. (2559). ผลการสอนโดยใช้วิธีการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยการเรียน ออนไลน์กับวิธีการสอนแบบสืบเสาะ เรื่อง ระบบไหลเวียนเลือด. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยขอนแก่น. พิชิต ฤทธิ์จรูญ. (2545). หลักการวัดและประเมินผลการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพมหานคร: เฮ้าส์ ออฟ เคอร์มีสท์ พิมพ์ประภา พาลพ่าย (2557 : บทคัดย่อ). การใช้สื่อสังคมตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน เรื่อง ภาษาเพื่อการสื่อสารเพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. Journal of Education Graduate Studies Research: KKU ไพโรจน์ คะเชนทร์. (2556). การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. สืบค้นจาก www.waltoongpel.com /Sarawichakarn/wichakarn/1-10/การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน10.pdf ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิคการวัดผลการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยา สรน์. วัฒนาพร ระงับทุกข์. (2552) แผนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง. กรุงเทพฯ: แอลทีเพรส


54 วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง. กรุงเทพฯ: เอส.อาร์.พริ้นติ้ง วิภาภรณ์ ภู่วัฒนกุล. (2543). “ใครคือผู้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนที่เน้นนักเรียนเป็น ศูนย์กลางที่แท้จริง”. วารสารวิชาการกระทรวงศึกษาธิการ. 2 6มกราคม - มีนาคม 2543 7: 44- 47. วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์.(2550). การจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญตามแนวคิดโดยใช้สมองเป็น ฐาน. มหาสารคาม : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์. (2550). พัฒนาการเรียนการสอนเอกสารประกอบการสอนวิชา 0506703. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ศศิธร เวียงวะลัย. (2556). การจัดการเรียนรู้(Learning Management). กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์. สมนึก ภัททิยธนี. (2553). การวัดผลการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กาฬสินธุ์: ประสานการพิมพ์. สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างความรู้ด้วยตนเองกับการ จัดการเรียนการสอนตามปกติ. (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต), สถาบันราชภัฏ พระนครศรีอยุธยา, พระนครศรีอยุธยา. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ. (2543). ปฏิรูปการเรียนรู้ ผู้เรียนสำคัญที่สุด. โรงพิมพ์ คุรุสภาลาดพร้าว: กรุงเทพมหานคร. สำลี รักสุทธี. (2553). สอนเด็กอย่างไรให้เด็กอ่านนออก อ่านได้ อ่านคล่อง อ่านเป็น เขียนได้ เขียน คล่อง และเขียนเป็น. กรุงเทพมหานคร: พัฒนาศึกษา. สิริพร ทิพย์คง. (2545). หลักสูตรและการสอนคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ: พัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.). สุรศักดิ์ปาเฮ. (2556). ห้องเรียนกลับทาง : ห้องเรียน มิติใหม่ในศตวรรษที่ 21. ออนไลน์. สืบค้น จาก http://www.mbuisc.ac.th/phd/academic/flipped%20 classroom2.pdf สุวิมล สุวรรณจันดี. (2554). การพัฒนาแผนการเรียนรู้ สาระพุทธศาสนาโดยใช้กรณีศึกษาเพื่อ ส่งเสริม การคิดวิเคราะห์ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนวัดอรัญญาราม อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. อนุธิดา เดชแฟง และอนุ เริญวงศ์ระยับ. (2563). การจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านผ่าน Facebook ร่วมกับการเรียนรู้แบบเครื่องมือการคิดเพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ สำหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลวัดไทยชุมพล(ดำรงประชาสรรค์). วารสารครุพิบูล ปี 8


55 อักษรเจริญทัศน์. (ไม่ปรากฏ). ห้องเรียนกลับด้าน (Flipped Classroom) การเรียนการสอนที่ สวนทางกับสิ่งที่เป็นอยู่ปัจจุบัน. สืบค้นจาก https://www.aksorn.com/flippedclassroom. อัครเดช แสนณรงค์. (2557). เรื่องการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดอย่างมี วิจารณญาณรายวิชา ส 31102 ศาสนประวัติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ การสอนด้วยวิธีการทางศาสนประวัติร่วมกับผังกราฟิก. EDGKKUJ, ปี 9, ฉบับที่ 1, น. 222–228, มี.ค. 2016. อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2553). หลักการสอน. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโต Gerstein, J. (2 0 1 1 ) . The flipped classroom. Retrieved จาก https://usergenerated education.wordpress.com/2 0 1 1 /0 6 /1 3 /the-flipped-classroom-model-a-fullpicture/ Jonathan Bergmann and Aaron Sams. (2012). Flipped Your Classroom Reach Every Student in Every Class Every Day. Technology Coordinators. curriculum specialists. policy makers.


56 ภาคผนวก


57 ภาคผนวก ก สถิติที่ใช้ในการวิจัย


58 สถิติที่ใช้ในการวิจัย 1) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ค่าคุณภาพของเครื่องมือ 1.1) การหาค่าความเที่ยงตรง โดยความเห็นชอบจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาค่า ดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ (IOC) ใช้สูตร (สมนึก ภัททิยธนี, 2546 : 220) IOC = เมื่อ IOC แทน ค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่างข้อสอบกับจุดประสงค์ R แทน ผลรวมคะแนนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด N แทน จำนวนผู้เชี่ยวชาญทั้งหมด 1.2) ค่าความยากง่ายของแบบทดสอบโดยใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด, 2543 : 81) P = เมื่อ p แทน ระดับความยาก R แทน จำนวนผู้ตอบถูกทั้งหมด N แทน จำนวนคนที่ทำข้อสอบทั้งหมด 1.3) ค่าอำนาจจำแนกของแบบทดสอบโดยใช้สูตร (บุญชม ศรีสะอาด, 2543 : 87) B = 1 − 2 เมื่อ B แทน อำนาจจำแนก U แทน จำนวนผู้รอบรู้หรือสอบผ่านเกณฑ์ที่ตอบถูก L แทน จำนวนผู้ไม่รอบรู้หรือสอบไม่ผ่านเกณฑ์ 1 แทน จำนวนผู้รอบรู้หรือสอบผ่านเกณฑ์ที่ตอบถูก 2 แทน จำนวนผู้รอบรู้หรือสอบผ่านเกณฑ์ที่ตอบถูก 1.4) ค่าความเชื่อมั่น (Reliability) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนโดยใช้สูตร K.R. 20 (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 85) ดังนี้ rtt = −1 [1 − ̅(−̅) 2 ]


59 เมื่อ n แทน จำนวนข้อ K แทน สัดส่วนของคนทำถูกในแต่ละข้อ q แทน สัดส่วนของคนทำผิดในแต่ละข้อ 2 แทน ความแปรปรวนของคะแนนทั้งฉบับ 2) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 2.1) ค่าเฉลี่ย (Mean) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 105) ̅= ∑ เมื่อ ̅ แทน ค่าเฉลี่ย ∑ แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมด n แทน จำนวนนักเรียน 2.2) ค่าร้อยละ (Percentage) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 104) P = ×100 เมื่อ P แทน ค่าร้อยละ f แทน ความถี่ที่ต้องการแปลงให้เป็นร้อยละ n แทน จำนวนความถี่ทั้งหมด 2.3) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ใช้สูตรดังนี้ (บุญชม ศรีสะอาด, 2545 : 106) S.D. = √ ∑ 2−(∑) 2 (−1) เมื่อ S.D. แทน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทน คะแนนของนักเรียนแต่ละคน N แทน จำนวนนักเรียน ∑ แทน ผลรวม 2.4) การทดสอบค่าทีแบบสองกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระจากกัน(t-test for Dependent Group or t-test Match Paired )เป็นการทดสอบค่าเฉลี่ยของกลุ่มตัวอย่างที่ได้จาก ประชากร 2 กลุ่ม ที่ไม่เป็นอิสระจากกัน อาทิ ผู้ให้ข้อมูลเป็นกลุ่มเดียวกันแต่ให้ข้อมูล 2 ครั้งหรือวัดซ้ำ (พิศิษฐ์ตัณฑวณิช, 2543: 166-181)


60 = ∑ √∑2 − (∑)2 − 1 เมื่อ t แทน ค่าทีจากการคำนวณ D แทน ค่าแตกต่างของคะแนน N แทน จำนวนกลุ่มตัวอย่าง


61 ภาคผนวก ข การสร้างและหาคุณภาพเครื่องมือ


62


63


64


65 แบบประเมินความสอดคล้องของแบบทดสอบ


66


67


68


69


70


71


72


73


74


75


76


77


78 ภาคผนวก ค เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย


79 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรป สมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน 1 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ จำนวน 6 แผน ใช้เวลา 6 ชั่วโมง (ตัวอย่าง 2 จาก 6 แผน)


80


81


82


83 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาประวัติศาสตร์ 4 (ประวัติศาสตร์สากล) เรื่อง พัฒนาการของยุโรปสมัยใหม่ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน จำนวน 20 ข้อ


84


85 ภาคผนวก ง รายชื่อหน่วยงานที่ให้ทดลองเครื่องมือ


86 รายชื่อหน่วยงานที่ให้ทดลองเครื่องมือ ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา ที่อยู่ เลขที่ 606 ถนนหมายเลข 22 บ้านชุมชนดงพัฒนา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000


87


88 ภาคผนวก จ รายชื่อผู้เชียวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ


89 รายชื่อผู้เชียวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือ 1. ชื่อ - สกุล นางวราภรณ์ หอมจันทร์ ตำแหน่ง หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและ วัฒนธรรม สถานที่ทำงาน โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา เลขที่ 606 ถนนหมายเลข 22 บ้านชุมชนดงพัฒนา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 2 ชื่อ - สกุล นางทัศนีย์ สิงห์สุพรรณ ตำแหน่ง ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สถานที่ทำงาน โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา เลขที่ 606 ถนนหมายเลข 22 บ้านชุมชนดงพัฒนา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000 3. ชื่อ - สกุล นายปิติภัทร ไกยพาย ตำแหน่ง ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สถานที่ทำงาน โรงเรียนธาตุนารายณ์วิทยา เลขที่ 606 ถนนหมายเลข 22 บ้านชุมชนดงพัฒนา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร 47000


90 ภาคผนวก ช หนังสือขอความอนุเคราะห์


91


Click to View FlipBook Version