The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างของดอกต้อยติ่ง - นางสาวชุติกาญจน์ คำหาญพล เลขที่3 ห้อง335

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Chutikan Khamharnphol, 2022-12-01 11:47:09

โครงสร้างของดอกต้อยติ่ง - นางสาวชุติกาญจน์ คำหาญพล เลขที่3 ห้อง335

โครงสร้างของดอกต้อยติ่ง - นางสาวชุติกาญจน์ คำหาญพล เลขที่3 ห้อง335

โครงสร้ างของดอกต้ อยติ่ ง

จั ด ทำ โ ด ย
นางสาวชุติกาญจน์ คำหาญพล
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ห้อง 335 เลขที่ 3
แ ผ น ก า ร เ รี ย น วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ - ค ณิ ต ศ า ส ต ร์
ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565

เสนอ
คุ ณครู วิ ชั ย ลิ ขิ ตพรรั กษ์
ตำแหน่ งครู ชำนาญการ (คศ.2) สาขาชี ววิ ทยา
กลุ่ มสาระการเรี ยนรู้ วิ ทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
โรงเรี ยนเตรี ยมอุ ดมศึ กษา
สำนั กงานเขตพื้ นที่ การศึ กษามั ธยมศึ กษากรุ งเทพมหานคร เขต 1

คำ นำ

แม็ กกาซี นฉบั บนี้ เป็ นส่ วนหนึ่ งของรายวิ ชาชี ววิ ทยา ว30244
ชั้ นมั ธยมศึ กษาปี ที่ 5 ภาคเรี ยนที่ 2 ปี การศึ กษา 2565 โดยการจั ดทำ
แม็ กกาซี นฉบั บนี้ มี จุ ดประสงค์ เพื่ อศึ กษาโครงสร้ างสั ณฐานภายนอกและ
กายวิ ภาคภายในของดอกต้ อยติ่ ง, เพื่ อเสริ มสร้ างความรู้ ความเข้ าใจจาก
การศึ กษาจากวั ตถุ จริ ง และเพื่ อส่ งเสริ มประสิ ทธิ ภาพในการเรี ยนในบทเรี ยน
ให้ ดี ยิ่ งขึ้ นไป

ผู้ จั ดทำหวั งเป็ นอย่ างยิ่ งว่ า แม็ กกาซี นฉบั บนี้ จะเป็ นประโยชน์ ต่ อ
ผู้ ที่ มี ความสนใจที่ จะศึ กษาเกี่ ยวกั บโครงสร้ างสั ณฐานภายนอกและกายวิ ภาค
ภายในของดอกต้ อยติ่ งไม่ มากก็ น้ อย ผู้ จั ดทำต้ องขอขอบคุ ณ
อาจารย์ วิ ชั ย ลิ ขิ ตพรรั กษ์ อาจารย์ ประจำวิ ชาที่ คอยให้ คำปรึ กษาและให้ ความรู้
รวมถึ งให้ ความช่ วยเหลื อมาโดยตลอด หากผิ ดพลาดประการใด ผู้ จั ดทำยิ นดี
น้ อมรั บฟั งคำติ ชมและข้ อเสนอแนะต่ าง ๆ เพื่ อเป็ นประโยชน์ ต่ อผู้ จั ดทำต่ อไป

ผู้ จั ดทำ
นางสาวชุ ติ กาญจน์ คำหาญพล

30 พฤศจิ กายน พ.ศ.2565

สารบั ญ 1
3
ข้ อมู ลทั่ วไปของดอกต้ อยติ่ ง 4
ข้ อมู ลเบื้ องต้ นของดอกต้ อยติ่ ง 7
ข้ อมู ลทางพฤกษศาสตร์ ของดอกต้ อยติ่ ง 8
โครงสร้ างโดยรวมทั้ งหมดของสั ณฐานภายนอก 9
โครงสร้ างโดยรวมทั้ งหมดของกายวิ ภาคภายใน 10
บรรณานุ กรมและเอกสารอ้ างอิ ง
ภาคผนวก

1

ข้ อมู ลทั่ วไปของดอกต้ อยติ่ ง

ชื่ อสามั ญ WATERKANON, WATRAKANU, MINNIEROOT,
ชื่ อวิ ทยาศาสตร์ IRON ROOT, FEVERROOT, POPPING POD,
CRACKER PLANT

RUELLIA TUBEROSA L.

ชื่ ออื่ น ต้ อยติ่ งเทศ, อั งกาบ
ว ง ศ์ ACANTHACEAE

ประเภทของพื ช พื ชล้ มลุ กขนาดเล็ ก
แหล่ งที่พบ ส่ วนใหญ่ พบในเขตร้ อน และในเขตอบอุ่ นพบบ้ าง

ลั กษณะทั่ วไป

ลำต้ น : ลำต้ นเหลี่ ยมตั้ งตรง แตกแขนงเป็ นพุ่ มเล็ กๆ สู ง 30-40 เซนติ เมตร
มี ขนปกคลุ มลำต้ น ข้ อปล้ องชั ดเจน

ราก : รากพองโต เก็ บสะสมอาหาร
ใบ : ใบเดี่ ยวสี เขี ยว เป็ นมั น ออกจากลำต้ นแบบตรงข้ าม ใบมี รู ปร่ างแบบ

ใบพายกลี บยาวรี ปลายใบมน ขอบเรี ยบ หรื ออาจมี คลื่ นเล็ กน้ อย
ดอก : ดอกเดี่ ยวสี ม่ วง ออกบริ เวณซอกใบ กลี บเลี้ ยงเรี ยวแหลม 5 กลี บ

กลี บดอก ส่ วนโคนรวมกั นเป็ นหลอด ส่ วนปลายแยกออก 5 กลี บ
รู ปปากแตร มี เกสร 4 ก้ าน ก้ านสั้ น 2 ก้ าน ก้ านยาว 2 ก้ าน
ผล : ผลเป็ นฝั กทรงกลม ผิ วเรี ยบเป็ นสั น 5 เหลี่ ยม ผิ วสี น้ำตาลเข้ ม
ภายในมี เมล็ ดสี น้ำตาลเข้ ม 6-8 เมล็ ด ผลแก่ เมื่ อโดนน้ำจะแตก
เมล็ ด : เมล็ ดทรงกลมมี งอยยื่ นออกมาทั้ งสองด้ าน ผิ วเรี ยบ มี ขนสี ขาว

2

ป ร ะ โ ย ช น์

1. รากใช้ เป็ นยารั กษารั กษาโรคไอกรน
2. รากใช้ เป็ นยาขั บเลื อด
3. รากต้ อยติ่ งสามารถนำมาใช้ เป็ นยารั กษาโรคไตได้
4. รากช่ วยดั บพิ ษในร่ างกาย
5. รากช่ วยทำให้ อาเจี ยน
6. ใบใช้ เป็ นยาถ่ ายพยาธิ
7. รากหากนำมาใช้ ในปริ มาณที่ เจื อจางสามารถช่ วยจำกั ดสารพิ ษในเลื อดได้
8. รากช่ วยบรรเทาอาการสารพิ ษตกค้ างในปั สสาวะ
9. รากช่ วยขั บปั สสาวะ แก้ ปั สสาวะพิ การ
10. ใบใช้ พอกแก้ อาการปวดเมื่ อยกล้ ามเนื้ อได้
11. เมล็ ดใช้ พอกฝี เพื่ อดู ดหนองและช่ วยลดการอั กเสบ
12. เมล็ ดใช้ พอกแผลเรื้ อรั ง ช่ วยสมานบาดแผล แผลมี ฝ้ ามี หนอง

และช่ วยเรี ยกเนื้ อ
13. เมล็ ดมี สรรพคุ ณช่ วยทำให้ แผลหายเร็ วยิ่ งขึ้ น
14. เมล็ ดช่ วยแก้ อาการผดผื่ นคั น
15. ต้ อยติ่ งทั้ งต้ นเอาชนิ ดที่ ไม่ แก่ ดอกยั งไม่ ร่ วงโรย นำมาถอนเอาทั้ งราก

ไม่ ให้ รากขาดและอย่ าให้ เมล็ ดแตก ประมาณ 4-5 ต้ น แล้ วนำไป
ล้ างน้ำให้ สะอาด โขลกต้ นเอาแต่ น้ำมาดื่ ม จะช่ วยแก้ อาการ
ปวดเข่ า ขาชา ร้ าวลงได้ ซึ่ งใช้ เวลาในการรั กษาเพี ยง 7 วั นก็ หาย
16. รากใช้ ผสมเป็ นยาแก้ พิ ษ ดั บพิ ษ และทำเป็ นยาเบื่ อ

3

ข้ อมู ลเบื้ องต้ นของดอกต้ อยติ่ ง

2. กลี บดอก
1. กลี บเลี้ ยง

4. เกสรเพศเมี ย

3. เกสรเพศผู้

เป็ นดอกสมบู รณ์ เพศ (PERFECT FLOWER)
เป็ นดอกครบส่ วน (COMPLETE FLOWER)
มี ทั้ งดอกเดี่ ยว และดอกช่ อซึ่ งเป็ นแบบช่ อกระจุ ก
ดอกสมมาตรตามรั ศมีี (ACTINOMORPHIC / REGULAR FLOWER)
ดอกมี รั งไข่ ชนิ ดเหนื อวงกลี บ (SUPERIOR OVARY)

4

ข้ อมู ลทางพฤกษศาสตร์ ของดอกต้ อยติ่ ง

ใบประดั บ ก้ านดอกย่ อย
ก้ านดอก

ก้ านดอก (PEDUNCLE) และ ก้ านดอกย่ อย (PEDICEL)
ก้ านดอกยาว 2-3 เซนติ เมตร โดย 1 ก้ านดอกมี ก้ านดอกย่ อย 1-3 ก้ าน
แต่ ละก้ านมี 3 ดอก ก้ านดอกย่ อยมี ใบประดั บ 2 อั น รู ป LINEAR สี เขี ยว

กว้ าง 1 มิ ลลิ เมตร ยาว 5-7 มิ ลลิ เมตร

* หมายเหตุ : จากรู ปอาจไม่ เห็ นก้ านดอกย่ อยถึ ง 3 ก้ าน
เนื่ องจากบริ เวณที่ หามี ดอกต้ อยติ่ งในปริ มาณที่ จำกั ดจึ งทำให้ หาดอกที่ ตรงตามข้ อมู ลได้ ยาก

ฐานรองดอก

ฐานรองดอก (RECEPTACLE)
เป็ นส่ วนที่ รองรั บส่ วนต่ าง ๆ ของดอก
อยู่ ต่ อจากก้ านดอกย่ อยและมี กลี บเลี้ ยงอยู่ ติ ดออกไป

5

กลี บเลี้ ยง

กลี บเลี้ ยง (SEPAL)
กลี บเลี้ ยง 5 กลี บ สี เขี ยว แยกกั น กลี บรู ป LINEAR
กว้ าง 1-2 มิ ลลิ เมตร ยาว 1.5-2.5 เซนติ เมตร กลี บมี ขนอ่ อนๆปกคลุ ม

กลี บดอก

กลี บดอก (PETAL)
กลี บดอก 5 กลี บ สี ม่ วงอ่ อน อยู่ ติ ดกั นเป็ นหลอดรู ปกรวย/ปากแตร
เส้ นผ่ านศู นย์ กลาง 5-6 เซนติ เมตร ภายในหลอดกลี บดอกมี สี ม่ วงเข้ ม

6

ก้ านเกสรเพศผู้ อั บเรณู

เกสรเพศผู้ (STAMEN / MICROSPOROPHYLL)
เกสรเพศผู้ 4 อั น แยกกั น ก้ านสั้ น 2 อั น ยาว 5 มิ ลลิ เมตร
ก้ านยาว 2 อั น ยาว 10 มิ ลลิ เมตร ก้ านชู อั บเรณู ติ ดที่ คอหลอดกลี บดอก
โคนก้ านเกสรเพศผู้ มี ขนปกคลุ มเล็ กน้ อย อั บเรณู ยาว 4-5 มิ ลลิ เมตร

ก้ านเกสรเพศเมี ย ยอดเกสรเพศเมี ย
รั งไข่

เกสรเพศเมี ย (PISTIL / CARPEL / MEGASPOROPHYLL)
เกสรเพศเมี ย 1 อั น รั งไข่ แบบ SUPERIOR OVARY

ก้ านเกสรเพศเมี ยยาว 2-2.7 เซนติ เมตร สี ขาวแกมม่ วง ยอดเกสรเป็ นตุ่ ม
รั งไข่ สี เขี ยวยาวรี ยาว 4-5 มิ ลลิ เมตร

7
โครงสร้ างโดยรวมทั้ งหมดของสั ณฐานภายนอก

กลี บเลี้ ยง (SEPAL) กลี บดอก (PETAL)
ก้ านดอกย่ อย (PEDICEL)
ฐานรองดอก (RECEPTACLE)
ก้ านดอก (PEDUNCLE) ใบประดั บ

8

โครงสร้ างโดยรวมทั้ งหมดของกายวิ ภาคภายใน

อั บเรณู (ANTHER)

ก้ านเกสรเพศผู้ (FILAMENT)

ก้ านเกสรเพศเมี ย (STYLE) ยอดเกสรเพศเมี ย (STIGMA)
รั งไข่ (OVARY)

9

บรรณานุ กรมและเอกสารอ้ างอิ ง

ข้ อมู ล
HTTPS://ARIT.KPRU.AC.TH/AP2/LOCAL/?
NU=PAGES&PAGE_ID=1623&CODE_DB=610010&CODE_TYPE=
01
HTTP://WWW.RSPG.OR.TH/BOTANICAL_SCHOOL/PDF/
HTTP://SRDI.YRU.AC.TH/BCQY/VIEW/314
HTTP://WEBCACHE.GOOGLEUSERCONTENT.COM/SEARCH?
Q=CACHE:VMMOSQF4DIOJ:SCIENCE.SUT.AC.TH/GRADBIO/FLO
RAT/PT01.HTML&CD=8&HL=TH&CT=CLNK&GL=TH&CLIENT=SAFA
RI
HTTPS://TH.WIKIPEDIA.ORG/WIKI/%E0

รู ปภาพ
HTTPS://MEDTHAI.COM/WP-CONTENT/UPLOADS/2013/08/
HTTPS://UPLOAD.WIKIMEDIA.ORG/WIKIPEDIA/COMMONS/THU
MB/3/3A/D85_2947_PHOTOGRAPHED_TRISORN_TRIBOON.JPG
/220PX-D85_2947_PHOTOGRAPHED_TRISORN_TRIBOON.JPG
HTTPS://ARIT.KPRU.AC.TH/AP2/LOCAL/CONTENTS/HERBS_KPP/
THUMBS/THUMB_0-68.WEBP

10

ภาคผนวก

คลิ ปวี ดี โอขณะทำการศึ กษา
URL : HTTPS://YOUTU.BE/Z8TNV7WMUHI

11

ภาคผนวก

ขณะเริ่ มนำเสนอ

ขณะกล่ าวถึ งข้ อมู ลของดอกต้ อยติ่ งและผ่ าดอกต้ อยติ่ ง

ข ณ ะ จ บ ก า ร นำ เ ส น อ


Click to View FlipBook Version