สรปุ ความรู้ เรื่อง กาพยเ์ หเ่ รือ
บทเหเ่ รือที่เก่าแก่และไดร้ บั ความนยิ ม จนถือเป็นแบบแผนในการประพนั ธ์บทเหเ่ รอื อื่นๆ จนถงึ
ปจั จุบัน คอื “กาพยเ์ ห่เรือ” บทพระนิพนธใ์ น เจ้าฟา้ ธรรมาธิเบศรไชยเชษฐสุริยวงศ์ หรือ พระนาม
ท่ีรู้จักกนั โดยทว่ั ไปว่า เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร หรือ เจ้าฟา้ กุ้ง พระองคป์ ระสูติเมอื่ พ.ศ. 2248 เป็นพระ
ราชโอรสในสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ วั บรมโกศ ประสตู ิแตก่ รมหลวงอภยั นชุ ิต
ผ้แู ต่ง เจ้าฟา้ ธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สรุ ิยวงศ์ (เจ้าฟา้ กุ้ง) พระราชโอรสในสมเด็จพระเจา้ อยูห่ ัวบรม
โกศ ในสมัยกรุงศรีอยธุ ยาตอนปลาย
รูปแบบในการแต่ง
แต่งเปน็ กาพยห์ อ่ โคลง มโี คลงสีส่ ุภาพนา 1 บท เรียกวา่ เกร่ินเห่ และตามด้วยกาพย์
ยานี 11 พรรณนาเน้ือความโดยไม่จากัดจานวนบท
จดุ ประสงคใ์ นการนพิ นธ์
คอื ใช้เหเ่ รือเล่นในคราวเสดจ็ ฯ โดยทางชลมารคเพอื่ ไปนมัสการพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบุรี การ
เหเ่ รอื นอกจากจะเปน็ ท่ีสาราญพระราชอิรยิ าบถแลว้ ยังเปน็ การใหจ้ ังหวะแก่ฝีพายดว้ ย
เนื้อเรื่องยอ่
กลา่ วถงึ ขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค ซงึ่ ประกอบด้วยเรอื พระที่นงั่ กิ่ง และเรือทีม่ โี ขนเรอื เปน็ รูป
สัตวต์ า่ ง ๆ คือ เรือ ครุฑยุดนาค เรือไกรสรมขุ เรือสมรรถชยั เรอื สวุ รรณหงษ์ เรือชยั เรือคชสีห์ เรือ
มา้ เรอื สิงห์ เรอื นาคา (วาสกุ ร)ี เรอื มังกร เรอื เลียงผา เรืออนิ ทรี เห่ ชมปลา กลา่ วพรรณนาชมปลา
ต่าง ๆ มี ปลานวลจันทร์ คางเบือน ตะเพยี น กระแห แกม้ ชา้ ปลาทุก น้าเงนิ ปลากราย หางไก่ ปลา
สรอ้ ย เนือ้ ออ่ น ปลาเสือ แมลงภู่ หวเี กศ ชะแวง ชะวาด ปลาแปบ เห่ ชมไม้ เมื่อเรือแล่นเลียบ
ชายฝง่ั ชมไมท้ ่เี หน็ ตามชายฝ่งั ซ่ึงมี นางแย้ม จาปา ประยงค์ พุดจีบ พิกุล สกุ รม สายหยดุ
พทุ ธชาด บุนนาค เตง็ แต้ว แก้ว กาหลง มะลิวลั ย์ ลาดวน เหช่ มนก เม่ือใกล้พลบคา่ เห็นนกบินกลบั
รงั ก็ชมนกต่าง ๆ มี นกยูง สร้อยทอง สาลกิ า นางนวล แก้ว ไก่ฟ้า แขกเต้า ดุเหวา่ โนรี สตั วา และ
จบลงด้วยบทเห่ครวญ เป็นการคร่าครวญ คดิ ถงึ นางท่เี ป็นทร่ี กั ในยามคา่ คนื
การดาเนินเรื่อง
ดาเนินเรอื่ งได้สมั พันธก์ ับเวลาใน 1 วนั คือ เช้าชมกระบวนเรอื สายชมปลา บา่ ยชมไม้ เยน็ ชม
นก กลางคนื เป็นบทครวญสวาท
การพรรณนาความ ตอนชมปลา ชมไม้ ชมนก มกี ารพรรณนาพาดพงิ ไปถึงหญิงทร่ี ัก เข้าทานอง
เดียวกับนริ าศ
ประเพณีการเห่เรือ มมี าแตโ่ บราณ แบง่ เปน็ 2 ประเภท คอื เห่เรือหลวง และเห่เรือเลน่ เหเ่ รอื
หลวงเปน็ การเหเ่ รอื ในราชพิธี สว่ นเหเ่ รือเล่น ใช้เห่ในเวลาเลน่ เรือเทีย่ วเตร่ กาพย์เห่เรือเจ้าฟา้
ธรรมธเิ บศร เดมิ เปน็ เห่เรือเล่น ต่อมาในรัชกาลท่ี 4 ใชเ้ ป็นบทเหเ่ รอื หลวง
มีชนดิ ของเรือท้งั หมด ดังน้ี
1.เรอื สมรรถไชย 2.เรือไกรสรมขุ
3.เรือสุวรรณหงส์ 4.เรือเรือชยั
5.เรือครฑุ ยุดนาค 6.เรือนาคา
7.เรอื ม้า 8.เรอื วาสุกรี
9.เรือคชสหี ์ 10.เรอื ราชสีห์
11.เรอื มังกร 12.เรือเลยี งผา
13.เรอื นกอินทรี
ตานานการเห่เรือ
สมเด็จกรมพระยาดารงราชานุภาพทรงสันนษิ ฐานว่าการเหเ่ รือของไทยน่าจะไดแ้ บบมาจาก
อนิ เดยี แต่ของอนิ เดยี ใชเ้ ปน็ มนตรใ์ นตาราไสยศาสตร์ บชู าพระราม ของไทยใช้การเหเ่ รอื บอก
จังหวะฝีพายให้พายพรอ้ มกันเปน็ การผอ่ นแรงและให้ความเพลิดเพลนิ
ลานาการเห่เรือ มี 3 ลานา คือ
1. ช้าละวะเห่ มาจาก ช้าแลว่าเห่ เปน็ การเห่ทานองช้า ใชเ้ หเ่ มอ่ื เรือเรมิ่ ออกจากทา่ และเมือ่ พาย
เรอื ตามกระแสนา้
2. มลู เห่ เปน็ การเหท่ านองเร็ว ๆ ใชเ้ ห่หลังจากช้าละวะเห่แล้ว ประมาณ 2-3 บท และใช้เห่เรอื ตอน
เรือทวนนา้
3. สวะเห่ ใช้เหเ่ ม่ือเรอื จะเทียบท่า
คุณคา่ ที่ได้รบั
คุณค่าทางดา้ นวรรณศิลป์
1. รปู แบบสอดคล้องกับเนอื้ หา
2. ดเี ด่นทางด้านการพรรณนาใหเ้ ห็นภาพ และใหอ้ ารมณค์ วามรสู้ กึ ดี
3. ศิลปะการแต่งดี มกี ลวิธพี รรณนาโดยใช้การอปุ มา การเลน่ คา การใช้คาทแี่ นะใหเ้ ห็นภาพ คาท่ี
นาใหน้ กึ ถงึ เสยี ง คาทแ่ี สดงอารมณ์ตา่ ง ๆ ไดด้ ี
คณุ คา่ ทางดา้ นสงั คม
1. สะท้อนภาพชีวติ ของคนไทยในปลายกรงุ ศรอี ยุธยาทใ่ี ช้การสัญจรทางน้าเป็นสาคญั เนื่องจาก
ประเทศไทยมแี มน่ ้าลาคลองมาก
2. ให้ความรู้เก่ยี วกบั ขบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค และประเพณกี ารเห่เรือ
3. สะท้อนให้เหน็ ขนบธรรมเนยี มประเพณี ตา่ นยิ ม และความเชื่อของคนไทย เช่น คา่ นิยมเก่ียวกับ
ความงามของสตรวี า่ จะต้องงามพรอ้ มทั้งรูปทรง มารยาท ยิ้มแยม้ แจม่ ใส และพูดจาไพเราะ ความ
เชือ่ เรื่องเวรกรรมตามหลกั พระพุทธศาสนา เป็นตน้
บทเหช่ มปลา
สรปุ
พนั ธ์ุปลาชนดิ ตา่ งๆวา่ ยวนเวยี นอยใู่ นสายน้าทาใหม้ ีจิตใจเศรา้ หมอง ปลาทัง้ หลายยงั รู้วา่ ไม่
มีใจที่จะวา่ ยนา้ อยใู่ นสายนา้
พระจันทร์สอ่ งแสงสวา่ งมีความงามราวกบั เนอื้ ตัวของปลาซึ่งมีความงามราวกบั เนื้อ ตวั ของ
ปลาซง่ึ มคี างไมโ่ คง้ มนเหมอื นกับใบหนา้ รปู ร่างหนา้ ตาของผ้ชู าย เปรียบดงั ทองไม่เหมือนกบั นอ้ งที่
ห่มผ้าสไบ ปลากระแหซง่ึ มีรูปร่างคล้ายปลาตะเพียนทอง ดงั่ ปลาทว่ี ่ายจากกันไปอย่างเหมาะสม
ปลาน้ันแก้มชา้ เหมอื นมคี นมาจับต้องคลา้ ยกับว่า ปลาอนั อมทุกขไ์ วม้ าก เหมือนกบั การจากลาไปจาก
คนรกั สนี า้ เงนิ เปรียบเสมือนสขี าวผอ่ งเป็นมนั วาวของปลาไม่เหมอื นความงามของหญงิ สาว งาม
ราวกบั มเี นอื้ ตวั สองสี ปลากรายวา่ ยเวียนไปเคยี งคกู่ นั แตน่ างกลบั ตจี ากพ่ไี ป เห็นปลาแลว้ รูส้ ึกเศร้าใจ
ปลาหางไกซ่ ่งึ เปน็ ปลาทะเลชนิดหนง่ึ แหวกวา่ ยอยใู่ นนา้ ปลาชนดิ นีไ้ ม่มีหงอน คดิ เพลงยาว รปู เอว
อร มีผมประบ่าเอย่ี มอร ปลาสรอ้ ยลอ่ งลอยว่ายวนอยใู่ นแมน่ า้ เหมอื นปลาสรอ้ ยในวยั ในเด็ก ไมเ่ หน็ มี
ความโศกเศรา้ ในจติ ใจ ปลาเนื้อออ่ นนัน้ ออ่ นแต่ช่อื เน้อื น้องหรือจะออ่ นไปท้งั กาย ใครจบั ต้องก็ไมน่ กึ
อายและช้าใจปลาเสอื ตาแหลมกว่าปลาทั้งหลายเปรยี บเสมอื นดวงตา ซง่ึ ดแู หลมคม มีหอยแมลงภู่
เวยี นวา่ ยน่าช่ืนชม คิดความต่างๆในยามเหมาะสม เจ้าท่มี หี นา้ ทส่ี ระสางเส้นผมตา่ งสละสลวยมกี ลน่ิ
หอม ว่ายวนไปตามแนวฝัง่ นา้ และมกั จะมีปลาชะวาดว่ายปนอยู่ด้วยเหมือนกับพม่ี าดูแลน้องอย่าง
ทะนุถนอม พนั ธุ์ปลาต่างๆแหวกวา่ ยมาในแหล่งนา้ เปรยี บดังหญงิ งามทม่ี าหาพจ่ี ะรู้สึกดใี จ
บทแหช่ มปลา มชี นิดของปลา ไดแ้ ก่
1.ปลาแกม้ ช้า 2.ปลาน้าเงิน
3.ปลากราย 4.ปลาหางไก่
5.ปลาสร้อย 6.ปลาเนอื้ อ่อน
7.ปลาเสือ 8.ปลาหวเี กศ
9.ปลาแปบ 10.ปลาชะวาด
11.ปลาชะแวง 12.ปลานวลจันทร์
13.ปลาคางเบอื น 14.ปลากระแห
15.ปลาตะเพียน 16.ปลาเคล้าดา
17.ปลาทกุ
บทเหช่ มไม้
สรุป
กระบวนเรือของเจ้าฟา้ ก้งุ ท่แี ลน่ อยูใ่ นแม่น้าตา่ งกพ็ ากันชื่นชมพรรณไม้ท่กี าลงั พากนั บานชูช่อ
และสง่ กลิน่ หอมมาจากชายตล่ิง
ท้งั ดอกนางแย้มทบ่ี านแยม้ เกสรออกมาพอพระองคเ์ ห็นดงั นัน้ กค็ ิดถงึ นางผเู้ ป็นทร่ี กั ยม้ิ
ออกมาอย่างรา่ เรงิ ดอกจาปาทขี่ นึ้ อยูห่ นาแนน่ คลีก่ ลบี สีเหลอื งอรา่ มออกมาเมอื่ พระองค์เหน็ กน็ ึกถึง
นางผเู้ ป็นท่ีรักท่ีมีผิวสเี หลอื งนวลดอกประยงค์ทห่ี อ้ ยกนั เป็นพวงดแู ลว้ ก็เหมือนอบุ ะทหี่ ้อยพวงมาลัย
ทน่ี างทาแขวนไว้ให้ผชู้ ายชนื่ ชมดอกพุดจีบกลีบบานก็มีดอกพิกุลและต้นสุกรมขน้ึ แซมท่ีดอกตา่ งส่ง
กลิ่นหอมเหมอื นกับกลิ่นเน้อื ของนางท่เี คยอยดู่ ้วยติดตามมา ดอกสาวหยุดกับดอกพุทธชาดที่บานอยู่
เกลื่อนกลาดเต็มตล่งิ เมือ่ พระองคเ์ ห็นกน็ กึ ถงึ นางผู้เปน็ ที่รกั ทีเ่ คยอยู่ดว้ ยกนั รอ้ ยมาลยั วางไว้ให้ทขี่ ้าง
หมอน ดอกพิกลุ กบั ดอกบุนนาคทีบ่ านส่งกลิ่นหอมหวาน ซาบซา่ นเหมือนกบั คาหวานที่นางผู้เปน็ ที่
รักใชอ้ อ้ นเวลาพูดดว้ ยต้นเต็งตน้ แต้วตน้ แก้วและดอกกาหลงต่างพากันบานสง่ กลิ่นหอมอยู่ โดยไมร่ ู้
หาย คลา้ ยกบั กล่ินเสอ้ื ผ้าของนางผู้เปน็ ทีร่ กั ดอกมะลวิ ลั ยด์ อกจิกดอกจวงพันกนั เป็นพวงส่งกลิน่
หอมโชยมาช่นื ใจยงิ่ นักเมอื่ ได้กล่ินก็ทาใหพ้ ระองคค์ ดิ ถงึ นางผู้เปน็ ทีร่ กั ดอกลาดวนก็มีกลน่ิ หอมตลบ
อบอวลเมอื่ พระองคไ์ ด้กลิ่นกท็ าใหม้ คี วามรู้สกึ คดิ ถงึ นางผูเ้ ป็นท่รี ักอย่างเศร้าใจกล่ินดอกราเพยกโ็ ชย
มาเรื่อยๆทาให้คดิ ถงึ เมอ่ื ครงั้ เคยเชยชมนางผูเ้ ปน็ ที่รักอยูท่ ุกวันไม่มีห่างเมือ่ นง่ั ชมเหล่าดอกไมท้ ่ี
สวยงามหลากหลายพรรณก็ทาใหค้ ิดไปว่าถ้าหากนางผ้เู ป็นทร่ี กั มาดว้ ยก็คงจะอ้อนใหพ้ ระองคน์ ัน้ ชี้ให้
ดดู อกไมเ้ หล่าน้นั เหลา่ นี้เปน็ แน่
พรรณนาถึงดอกไม้ ไดแ้ ก่
1.ดอกนางแย้ม 2.ดอกจาปา
3.ดอกประยงค์ 4.ดอกพดุ จีบ
5.ดอกพกิ ลุ 6.ดอกสกุ รม
7.ดอกสายหยุด 8.ดอกพทุ ธชาด
9.ดอกบุนนาค 10.ดอกเต็ง
11.ดอกแตว้ 12.ดอกแก้ว
13.ดอกกาหลง 14.ดอกมะลิวัลย์
15.ดอกลาดวน
บทเหช่ มนก
สรุป
พระ อาทติ ยก์ าลังจะตกดนิ เวลาจะใกล้ค่าพีก่ ็คดิ ถงึ แตห่ น้านอ้ ง นกบนิ สงู เฉียงไปทัง้ ฝงู แตม่ ี
อยู่ตัวหน่ึงต้องพลดั จากคูเ่ หมอื นกบั พ่ีที่ ตอ้ งอย่คู นเดยี ว
เหน็ นกยงู แพนขนอยูก่ น็ กึ ถึงนอ้ งตอนทา่ เคลื่อนไหวท่ีมีลลี าเหมอื นกบั ไมเ้ ถา ชนดิ หนึ่งท่ีกาลงั
เยอ้ื งกราย นกสาลิกามาตามค่ชู มกนั เหมือนกบั นางงามแตพ่ ่นี กี้ ค็ ดิ กังวลถึงนอ้ งแล้วเศรา้ ใจ นก
นางนวลงามผุดผอ่ งแต่หนา้ นนั้ งามผุดผอ่ งเหมือนกับหนา้ น้องทง่ี ามผดุ ผอ่ ง เหมอื นกบั นางฟ้าทหี่ น้า
ผุดผ่องเปน็ ยองใย นกแกว้ เสียงแจม่ แจว้ อยูบ่ นต้นไม้เคียงคูก่ นั เหมอื นกบั พ่ีนน้ั ประคองและรับ ขวัญ
น้องตอ้ งมอื เบา ไกฟ่ า้ มาตัวเดียวเดินทอ่ งเยวอย่ตู ามเขาเ หมือนพีพ่ รากจากนอ้ งทเี่ ปน็ ท่รี กั พนี่ นั้ ก็
รู้สึกเปลา่ เปล่ียวใจคดิ ถึงน้อง นกแขกเต้าอยกู่ ันเป็นค่อู ย่บู นตน้ ไมไ้ ซ้ปกี ไซ้หางให้กัน พี่น้นั กค็ ิดถงึ ตอน
ท่พี ่นี ัน้ ไดก้ อดน้องแบบแนบชดิ เปน็ เวลานาน นกดุเหว่าก็ร้องกนั เสยี งหวานสนน่ั กอ้ งไพเราะกังวาน
ปานเสยี งนอ้ งทีพ่ ูดกับพี่ นกโนรีสีปานชาดน้นั มีลวดลายท่ีสวยงามแตก่ ส็ วยไม่เท่านอ้ งท่ีห่มตาด(ช่ือ
ผา้ ชนดิ หนึ่ง ทอด้วยไหมควบกบั เงนิ แล่งหรือทองแล่ง)ทส่ี วยงามมาหาพี่ นกสัตวานา่ เอ็นดูคอยหาคู่
อย่ทู ุกเวลาเหมอื นพ่ีนน้ั ที่ตอ้ งจากน้องมา พีก่ ็คดิ ถึงนอ้ งจึงเศรา้ เสยี ใจ นกปกั ษีน้ันมหี ลายพรรณ ต่าง
กช็ มกนั ขนั เสียงในปา่ พิ่ย่งิ ฟงั ก็รสู้ กึ วงั เวงใจดว้ ยความหลายหลากมากภาษาที่ทาให้พนี่ น้ั เศรา้ ใจ
ไดพ้ ดู ถึงชนดิ ของนก ไดแ้ ก่
1. นกยงู นกขนาดใหญ่ชนิดหนึง่ ขนงามเปน็ สเี ลือ่ ม ขนเป็นแวว
2. สรอ้ ยทอง มีขนท่ัวตวั สดี าเหลอื บเขียวและม่วงเงาๆ ยกเว้นท่ีโคนขนปีกดา้ นล่างมแี ถบสขี าว
นยั นต์ าสีน้าตาลปากสแี ดงสม้ มเี หนยี งขนาดเล็กสีเหลอื งแดงสดที่ดา้ นข้างของใบหนา้ ใต้ตา และมี
เหนียงขนาดใหญ่สเี หลืองสดเช่นเดียวกนั คลมุ ทว่ั ทา้ ยทอย
3. สาลกิ า นกจาพวกนกเอยี้ ง หัวสดี า ตัวสนี า้ ตาลแกมดา หนงั ของตาเหลอื งจดั
4. นางนวล ช่ือนกกนิ ปลาชนดิ หนึ่ง อยู่ตามชายหาด
5. แก้ว ชื่อนกขนเขียว ปากแดงและงุ้ม มหี ลายชนดิ
6. ไกฟ่ า้ เป็นนกสีสวยงามชอบอยูเ่ ปน็ ฝงู อยา่ งไก่บา้ น ตวั ขนาดไกแ่ จ้ บนิ เกง่ มาก
7. แขกเต้า เป็นนกในตระกูลนกแก้ว แต่ตวั เลก็ กวา่
8. ดุเหว่า ตวั สีดา เลก็ กว่ากาเล็กนอ้ ย ร้องไพเราะ มกั จะเรียกกันวา่ กาเหว่า
9. โนรี เป็นนกจาพวกนกแก้ว โดยมากมีขนเป็นสีแดงลว้ น บางชนิดมสี ีอนื่ แซม เรียกเบญจพรรณ
10. สตั วา เปน็ นกจาพวกนกแก้ว ตวั โต สีเขยี วเกอื บเป็นสีคราม
บทเห่ครวญ
สรุป
เสียงหวั เราะน้ีเปน็ ของใคร เสยี งนอ้ งของพีห่ รอื ใคร พไี่ ม่รู้ เสยี งหัวเราะของน้องเหมือนตามพี่
มาเสียงของนางอันเป็นที่รกั นัน้ เพราะจนหาคนอน่ื เทยี บไมไ่ ด้
เสยี งหวั เราะนเี้ สียงแก้วใจพ่ีหรือเสยี งใคร เสยี งหวั เราะเสยี งของนางผูเ้ ป็น ยอดรกั เหมือนพ่ี
ตามมา ลมแผว่ ๆ ช่วยพัดกลิน่ หอมของน้องเรอื่ ยมาจนถึงจมกู เหลอื บมองเหน็ เหมอื นเจา้ มาพอมอง
หากลบั ไม่เห็น ตสี องเสยี งฆ้องดงั บอกเวลา ทุก คืนพีอ่ ยตู่ ัวคนเดียว มีเสียงป่บี รรเลงเหมือนเสยี ง
ของนอ้ งหญงิ ท่พี ่ีคดิ ถงึ ยามตสี ามใกล้เชา้ จนไก่ขนั เม่อื หลับไปพี่กลับฝันเหน็ นอ้ งติดตาอยู่ ในฝัน
ของพี่ เวลาเชา้ จนถงึ เยน็ พี่นี้ไมว่ ายเศร้าหมอง อดกินของรสอรอ่ ย เพราะอ่มิ ไปดว้ ยความทกุ ขอ์ ม่ิ ไป
ดว้ ยนา้ ตา อ่มิ ความเศร้าโศกน้าตานองหนา้ เวร กรรมตามมาทนั แล้ว พี่จงึ ตอ้ งจากเจา้ ที่พี่รกั คิดแลว้
ก็แค้นใจนัก ท่ตี อ้ งจากนอ้ งมาเปน็ ทุกข์เศร้าเสยี ดายยิ่งนัก นางเปรียบเป็นด่งั ภาพวาด งามทง้ั
มารยาท รอยยม้ิ รวมทัง้ คาพดู ของน้อง ไมม่ ชี ายใดท่จี ะมาตรอมใจเหมอื นพ่ี ทีเ่ ฝา้ แตค่ ิดถึงน้อง
พ่ีเฝา้ แต่ทนทุกข์ต้ังแต่เช้าถึงเยน็ ทกุ วนั คนื เหมอื นตกนรกทั้งเป็น ผชู้ าย คนไหนถ้าไดจ้ ากหญิงอันเป็น
ทร่ี กั กต็ ้องทกุ ข์เหมอื นพ่ี จากกันแค่วัน เดยี ว แตท่ ุกขเ์ หมือนจากกันนานนบั ปี