Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
เครอื่ งมอื ที่ใชใ้ นการศกึ ษา วธิ ีการดำ�เนินวจิ ัย
1. หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพเพื่อพัฒนา 1. ทดสอบทักษะทางภาษาด้านการฟัง การ
ทักษะทางภาษาดา้ นการฟัง การพดู จ�ำ นวน 10 เล่ม มีค่า พูด ก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�
เฉลี่ย เท่ากับ 4.80 แสดงว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับ คลอ้ งจองประกอบภาพ จำ�นวน 30 ข้อ
มากทีส่ ดุ
2. ดำ�เนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้
2. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพเพื่อพัฒนาทักษะทาง
หนังสือค�ำ คล้องจองประกอบภาพ จำ�นวน 30 แผน มีคา่ ภาษาดา้ นการฟงั การพดู จำ�นวน 10 สัปดาห์ ๆ ละ 3 วนั
เฉล่ีย เท่ากับ 4.70 แสดงว่ามีความเหมาะสมอยู่ในระดับ คือ วนั จันทร์ วนั พธุ และวนั ศกุ ร์ วันละ 30 นาที ต้ังแต่เวลา
มากท่ีสุด 09.00-09.30 น. รวม 30 วนั โดยระหวา่ งจดั ประสบการณ์
ผรู้ ายงานสงั เกตพฤตกิ รรมพฒั นาการทางภาษาของนกั เรยี น
3. แบบสงั เกตพฤตกิ รรมพฒั นาการทางภาษาของ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 3 เปน็ รายบคุ คล เพอื่ ใหท้ ราบผลการพฒั นา
นกั เรียนชั้นอนบุ าลปีที่ 3 มคี ่าเฉลย่ี เท่ากบั 4.80 แสดงวา่ ทักษะทางภาษาด้านการฟัง การพูด ทุกสัปดาห์จนส้ินสุด
มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากทส่ี ุด การจดั ประสบการณ์
4. แบบทดสอบวัดทักษะทางภาษาด้านการฟัง 3. ทดสอบทักษะทางภาษาด้านการฟัง การ
การพูด ของนักเรยี นชัน้ อนบุ าลปที ี่ 3 มคี า่ ความสอดคลอ้ ง พูด หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�
(IOC) ตั้งแต่ 0.80 – 1.00 คลอ้ งจองประกอบภาพ จ�ำ นวน 30 ขอ้ ซงึ่ เปน็ แบบทดสอบ
5. แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนช้ัน ชดุ เดียวกบั กอ่ นการจัดประสบการณ์
อนุบาลปีท่ี 3 ทีม่ ีต่อการจดั ประสบการณโ์ ดยใชห้ นังสือค�ำ
คล้องจองประกอบภาพเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้าน 4. ครูสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนช้ัน
การฟงั การพดู จ�ำ นวน 10 รายการ ค่าเฉล่ีย เท่ากบั 2.51 อนบุ าลปที ี่ 3 โรงเรยี นเทศบาลต�ำ บลงมิ (คอื เวยี งจ�่ำ ) ทมี่ ตี อ่
แสดงว่ามคี วามเหมาะสมอยใู่ นระดบั ดี การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจอง
ประกอบภาพเพอ่ื พฒั นาทกั ษะทางภาษา และบนั ทกึ ขอ้ มลู
ผลการวเิ คราะหข์ ้อมูล
ตอนท่ี 1 การหาประสทิ ธภิ าพการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชห้ นงั สอื ค�ำ คลอ้ งจองประกอบภาพเพอื่ พฒั นา
ทักษะทางภาษาด้านการฟัง การพดู ของนกั เรียนชนั้ อนุบาลปที ี่ 3 โรงเรยี นเทศบาลต�ำ บลงมิ (คือเวยี งจ�ำ่ ) ตามเกณฑ์
80/80
ตารางที่ 1 ประสิทธิภาพของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพเพ่ือพัฒนาทักษะ
ทางภาษาด้านการฟงั การพดู ของนักเรยี นชัน้ อนบุ าลปีที่ 3
รายการประเมนิ คะแนนเต็ม X S.D รอ้ ยละของคะแนน
เฉลีย่
ประสิทธภิ าพของกระบวนการ ( E1) 200 180.50 6.90 90.25
ประสิทธภิ าพของผลลพั ธ์ (E2) 30 28.20 1.64 94.00
ประสทิ ธภิ าพของหนังสอื คำ�คลอ้ งจองประกอบภาพ (E1 / E2) = 90.25 / 94.00
151
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จ94าก.0ต0ารดาังงนท้ันี่ 1กพารบจวัด่าปปรระะสสบทิ กธภิาราณพข์กอารงกเรรียะนบรวู้โนดกยาใชร้ห(นEังส1)ือเคทำ�่าคกลับ้อง9จ0อ.2งป5รแะลกะอปบรภะาสพทิ เพธภิื่อาพพัฒขนอางทผลักลษพัะทธ์า(งEภ2)าษเทาา่ดก้าับน
กไวา้ ร8ฟ0ัง/8ก0ารสพามดู าขรถอนงน�ำ ไักปเรใชียใ้นนชก้ันาอรนจุบัดปาลรปะสีทบี่ 3กามรปี ณร์กะาสรทิ เรธียภิ นาพรไู้ ด(E้อ1ย/E่า2ง)มเปี ทร่าะกสับิท9ธิภ0.า2พ5 / 94.00 ซง่ึ สงู กวา่ เกณฑท์ ก่ี �ำ หนด
ตอนที่ 2 การเปรยี บเทยี บทกั ษะทางภาษาดา้ นการฟงั การพดู ของนกั เรยี นชนั้ อนบุ าลปที ี่ 3 โรงเรยี นเทศบาล
ตำ�บลงมิ (คือเวยี งจ่�ำ ) กอ่ นและหลังการจัดประสบการณก์ ารเรียนรโู้ ดยใชห้ นังสอื คำ�คล้องจองประกอบภาพเพื่อพฒั นา
ทักษะทางภาษาด้านการฟงั การพดู
ตารางท่ี 2 การเปรียบเทยี บทักษะทางภาษาดา้ นการฟัง การพดู ของนกั เรยี นช้ันอนุบาลปีที่ 3 กอ่ นและหลงั การจดั
ประสบการณ์การเรียนรู้โดยใชห้ นังสอื คำ�คลอ้ งจองประกอบภาพ
คะแนน จำ�นวนนกั เรยี น คะแนนเต็ม X S.D t-test
16.47*
ก่อนจัดประสบการณ์ () 1.70
หลังจัดประสบการณ์ 1.64
20 30 19.80
20 30 28.20
*มนี ยั สำ�คัญทางสถติ ิท่รี ะดับ .05
จากตารางที่ 2 ผลการเปรยี บเทียบทักษะทางภาษาด้านการฟัง การพูด ของนักเรียนชน้ั อนุบาลปที ี่ 3 กอ่ นและ
หลงั การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชห้ นงั สอื ค�ำ คลอ้ งจองประกอบภาพ พบวา่ นกั เรยี นชน้ั อนบุ าลปที ี่ 3 ทไ่ี ดร้ บั การ
จัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพ มีคะแนนเฉลี่ยหลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัด
ประสบการณ์ อยา่ งมีนัยส�ำ คัญทางสถิตทิ ี่ระดบั .05
ตอนที่ 3 ผลการศึกษาความพงึ พอใจของนกั เรยี นช้ันอนบุ าลปที ี่ 3 โรงเรยี นเทศบาลต�ำ บลงิม (คือเวียงจ�ำ่ )ท่มี ี
ต่อการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพเพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟัง การ
พูด
ตารางท่ี 3 ผลการศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรยี นชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3 ทม่ี ตี อ่ การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชห้ นงั สอื
คำ�คลอ้ งจองประกอบภาพเพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา ดา้ นการฟัง การพูด
รายการประเมนิ X S.D ความพึงพอใจ
1.ฉนั ชอบอ่านค�ำ คลอ้ งจองตามครู 2.75 0.44 มาก
2.ฉันชอบอ่านคำ�คลอ้ งจองรว่ มกับเพือ่ นๆ 2.70 0.47 มาก
3.ฉนั ชอบเลา่ เรอ่ื งตา่ งๆ 2.65 0.49 มาก
4.ฉันสามารถพดู แต่งประโยคจากคำ�ท่คี รบู อกได้ 2.75 0.44 มาก
5.ฉนั ชอบพดู ทบทวนค�ำ ศพั ทใ์ หมๆ่ จากคำ�คลอ้ งจอง 2.95 0.22 มาก
6.ฉนั ชอบซกั ถามรว่ มกับเพื่อนและครู 3.00 0.00 มาก
7.ฉันชอบแสดงความคดิ เห็นกบั เพอื่ นๆ 2.75 0.44 มาก
8.ฉนั กลา้ พูดหน้าชนั้ เรยี น 2.55 0.51 มาก
9.ฉนั กลา้ พดู สนทนากบั ครู 2.55 0.51 มาก
10.ฉนั ชอบแสดงความคดิ เหน็ ในคำ�คลอ้ งจอง 2.80 0.41 มาก
2.75 0.44 มาก
เฉลย่ี
152
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
จากตารางที่ 3 พบว่า นักเรยี นช้นั อนุบาลปีที่ 3 มีความพึงพอใจตอ่ การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรูโ้ ดยใช้หนังสือค�ำ
คลอ้ งจองประกอบภาพเพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษา ดา้ นการฟงั การพดู มีค่าเฉลี่ย 2.75 สว่ นเบย่ี งเบนมาตรฐาน 0.44
อยใู่ นระดับมาก
อภิปรายผล พัฒนาการทางภาษามีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.00/86.30
ซึ่งสงู กวา่ เกณฑ์ทก่ี �ำ หนดไว้ และงานวจิ ัยของนารีรตั น์ จัน
1. ประสิทธิภาพของการจัดประสบการณ์ ทวฤทธ์ิ (2553) ได้ศึกษาผลการส่งเสริมทักษะทางภาษา
การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพ มี ของเดก็ ปฐมวยั โดยใชก้ จิ กรรมค�ำ คลอ้ งจอง กลมุ่ ตวั อยา่ งที่
ประสทิ ธภิ าพเทา่ กบั 90.25 / 94.00 โดยศกึ ษาจากคะแนน ใชไ้ ดแ้ ก่ นกั เรยี นชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 อายุ 4-5 ปี โรงเรยี นเพชร
การทดสอบระหว่างการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ ผอ่ งพนั ธว์ุ ทิ ยา อำ�เภอฆ้องชยั จงั หวัดกาฬสินธ์ุ สำ�นักงาน
หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพ ซึ่งแสดงว่าหนังสือ คำ� เขตการศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 สังกัดสำ�นักงานการศึกษา
คล้องจองประกอบภาพ เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้าน เอกชน พบว่าประสิทธิภาพของแผนการจัดประสบการณ์
การฟัง การพดู ของนักเรียนชัน้ อนุบาลปีท่ี 3 โรงเรยี นเทศ ส่งเสริมทักษะทางภาษาโดยใช้กิจกรรมคำ�คล้องจอง เพ่ือ
บาลตำ�บลงิม (คือเวียงจ่ำ�) ที่ผู้รายงานสร้างข้ึน เป็นสื่อท่ี พัฒนาความสามารถทางภาษามีประสิทธิภาพเท่ากับ
มปี ระสิทธภิ าพ ซึ่งสูงกวา่ เกณฑ์ทต่ี ้งั ไวท้ ี่ 80/80 แสดง 81.52/80.20 ซง่ึ สงู กว่าเกณฑท์ กี่ ำ�หนดไว้ คือ 75/75 เชน่
ให้เห็นว่า หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพเป็นสื่อที่มี เดยี วกบั งานวจิ ยั ของดวงสมร ศรีใสคำ� (2552) ได้ศกึ ษา
ประสิทธิภาพสามารถพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการฟัง ค้นคว้าเพ่ือหาประสิทธิภาพของแผนการจัดกิจกรรมการ
การพูดของนักเรียนช้ันอนบุ าลปีท่ี 3 ไดจ้ ริง ซ่งึ สอดคลอ้ ง เล่านิทานพื้นบ้านท่ีมีต่อพัฒนาการทางภาษาด้านการพูด
กบั แนวคิดของ สุนนั ทา สุนทรประเสรฐิ (2547 : 77-78) ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีท่ี 2โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัย
ได้กล่าวถึงความจำ�เป็นที่จะต้องทดสอบประสิทธิภาพ ราชภฏั มหาสารคาม ผลการศกึ ษาพบวา่ ประสทิ ธภิ าพของ
อยู่หลายประการ คือสำ�หรับหน่วยงานผลิตหนังสือคำ� แผนการจดั กจิ กรรมการเลา่ นทิ านพน้ื บา้ นทม่ี ตี อ่ พฒั นาการ
คล้องจองประกอบภาพ เป็นการประกันคุณภาพว่าอยู่ใน ทางภาษาดา้ นการพดู มปี ระสทิ ธภิ าพเทา่ กบั 82.77/88.33
ขั้นสูงเหมาะสมท่ีจะผลิตออกมาจำ�นวนมาก หากไม่มีการ ส�ำ หรับงานวิจัยของแสงมณี ทับทิมทอง (2551) ไดพ้ ฒั นา
ทดสอบประสทิ ธภิ าพเสยี กอ่ นแลว้ ผลติ ออกมาใชป้ ระโยชน์ หนังสืออ่านเสริมประสบการณ์ คำ�คล้องจองประกอบ
ไม่ได้ดี ก็จะต้องทำ�ใหม่ เป็นการสิ้นเปลืองเวลาและเงิน ภาพสำ�หรบั เดก็ ปฐมวัย ชนั้ อนบุ าลปีที่ 2 โรงเรียนบา้ นกัน
ทอง สำ�หรับผู้ใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพจะทำ� จู จังหวัดเพชรบูรณ์ สังกัดสำ�นักงานเขตพื้นที่การศึกษา
หนา้ ทส่ี อน โดยทช่ี ว่ ยสรา้ งสภาพการเรยี นรใู้ หผ้ เู้ รยี นเปลย่ี น เพชรบรู ณ์ เขต 3 พบวา่ ผลการหาประสิทธภิ าพและความ
พฤตกิ รรมตามทมี่ งุ่ หมาย ดงั นน้ั กอ่ นน�ำ หนงั สอื มาใชจ้ งึ ควร ก้าวหน้าของหนังสืออ่านเสริมประสบการณ์คำ�คล้องจอง
มนั่ ใจวา่ หนงั สอื นนั้ มปี ระสทิ ธภิ าพในการชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ประกอบภาพ E1/E2=82.29 / 86.40 สูงกวา่ เกณฑ์ 80/80
การเรียนรู้จรงิ การทดสอบประสิทธิภาพตามลำ�ดับขั้น จะ ทก่ี �ำ หนดไว้
ชว่ ยใหม้ คี ณุ คา่ ทางการสอนจรงิ ตามเกณฑท์ ก่ี �ำ หนดไว้ เชน่
เดยี วกบั นติ ยา ประพฤตกิ จิ (2549 : 46) ไดก้ ลา่ ววา่ การฝกึ 2. ทักษะทางภาษาด้านการฟัง การพูด ของ
ใหเ้ ด็กรู้จกั ฟังจะช่วยใหเ้ ดก็ เพิม่ พูนคำ�ศพั ท์ เรยี นรเู้ กย่ี วกบั นักเรียนชน้ั อนบุ าลปีที่ 3 ท่ีไดร้ ับการจดั ประสบการณ์การ
ประสบการณโ์ ครงสรา้ งของภาษาพดู และไดเ้ ขา้ ใจเรอ่ื งราว เรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพ มีคะแนน
ตา่ ง ๆ มากขนึ้ ซงึ่ จะชว่ ยใหเ้ ดก็ ใชภ้ าษาพดู ไดถ้ กู ตอ้ งยงิ่ ขนึ้ เฉลยี่ หลงั การจดั ประสบการณส์ งู กวา่ กอ่ นจดั ประสบการณ์
รู้จักพูดคุยกับเพื่อนฝูงและกระตุ้นให้เด็กได้ใช้จินตนาการ อย่างมีนัยสำ�คัญทางสถิติที่ระดับ .05 แสดงว่าการจัด
สอดคล้องกับงานวิจัยของสรวีย์ พวงเดชานนท์ (2559) ประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจอง
ได้ศึกษาผลการใช้หนังสือนิทานร้อยกรองเพ่ือส่งเสริม ประกอบภาพสามารถท�ำ ใหน้ กั เรยี นมพี ฒั นาการทางภาษา
พัฒนาการทางภาษาของเดก็ ปฐมวัย ช้นั อนุบาลปีท่ี 2 พบ เปล่ียนแปลงไปในทางที่สูงข้ึน จะเห็นว่าคะแนนก่อนจัด
วา่ 1) ประสทิ ธภิ าพของหนงั สอื นทิ านรอ้ ยกรองเพอ่ื สง่ เสรมิ ประสบการณ์มีค่าเฉล่ีย 19.80 และคะแนนหลังการจัด
153
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ประสบการณ์มีค่าเฉลี่ย 28.20 แสดงให้เห็นว่าการจัด ทดลองสูงกว่าก่อนได้รับการทดลอง และงานวิจัยของณ
ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชห้ นงั สอื ค�ำ คลอ้ งจองประกอบ ภทั รสร จรจรัญ (2551) ได้ศกึ ษาความสามารถด้านการ
ภาพช่วยส่งเสรมิ ใหน้ ักเรียนชัน้ อนบุ าลปีท่ี 3 มีพัฒนาการ ฟังและการพูดของเด็กปฐมวัยท่ีใช้คำ�คล้องจองประกอบ
ทางภาษาสูงขึ้นตามลำ�ดับ ทั้งน้ีสืบเนื่องจากหนังสือคำ� ภาพการวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพ่ือศึกษาความสามารถ
คล้องจองประกอบภาพและแผนการจัดประสบการณ์การ ด้านการฟังและการพูด ของเด็กปฐมวัยท่ีใช้คำ�คล้องจอง
เรียนรู้ท่ีสร้างข้ึนโดยผ่านการสร้างตามขั้นตอนอย่างเป็น ประกอบภาพ กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชายหญิง อายุ
ระบบและวธิ กี ารเขยี นแผนการจดั ประสบการณท์ เ่ี หมาะสม ระหว่าง 3-4 ปี ช้ันอนุบาลปีท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการ
โดยไดท้ �ำ การศกึ ษาหลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช ศึกษา 2550 โรงเรียนอนุบาลสุดารักษ์ สังกัดสำ�นักงาน
2546 แนวการจัดการศึกษาสำ�หรับเด็กปฐมวัย ตลอดจน คณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน กรงุ เทพมหานคร จ�ำ นวน
การวเิ คราะหส์ าระการเรยี นรปู้ ระกอบดว้ ยสาระทค่ี วรเรยี น 15 คน ได้มาโดยวธิ ีการสุ่มอยา่ งงา่ ย (Simple Random
รแู้ ละประสบการณส์ �ำ คญั ทพ่ี ฒั นาทกั ษะทางภาษาดา้ นการ Sampling) ผลการศึกษาพบว่าหลังการใช้คำ�คล้องจอง
ฟัง การพูด นอกจากน้ีผู้รายงานได้ศึกษาเอกสารและงาน ประกอบภาพ ความสามารถด้านการฟังโดยรวมมีผลต่าง
วิจัยที่เกี่ยวข้องเพ่ือเป็นแนวทางในการพัฒนาทักษะทาง เฉลย่ี เทา่ กบั 7.86 คะแนน และรายดา้ นปรากฏวา่ ดา้ นการ
ภาษาด้านการฟัง การพูด จึงทำ�ให้การจัดประสบการณ์ จ�ำ แนกเสียงมีผลเฉลยี่ สูงขน้ึ เทา่ กับ 2.13 คะแนน ด้านการ
มีประสิทธิภาพส่งผลให้นักเรียนมีทักษะทางภาษาด้าน ฟังเร่ืองราวมผี ลเฉล่ียสูงข้นึ เท่ากับ 2.93 คะแนนและด้าน
การฟัง การพูดหลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัด การปฏิบัติตามค�ำ สงั่ มผี ลเฉลี่ยสงู ขึ้นเท่ากบั 2.80 คะแนน
ประสบการณ์ ซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดของวรรณี โสม ซ่ึงทุกด้านมีค่าเฉล่ียสูงข้ึนจากก่อนการทดลองอย่างมีนัย
ประยูร (2549 : 46) กล่าวว่า การฟังเป็นทักษะที่สำ�คัญ ส�ำ คญั ทางสถติ ิท่ีระดับ .01 ส่วนความสามารถด้านการพูด
มาก เพราะในสงั คมของคนเราจะใชท้ กั ษะการฟงั ประมาณ โดยรวมมีผลต่างเฉลี่ยเท่ากับ 6.93 คะแนนและรายด้าน
รอ้ ยละ 50 ซง่ึ เปน็ ทกั ษะทางภาษาทใ่ี ชม้ ากทสี่ ดุ และใชเ้ วลา ปรากฏวา่ ดา้ นการพดู ค�ำ ศพั ทม์ ผี ลเฉลยี่ สงู ขน้ึ เทา่ กบั 2.06
ในการพดู การอา่ น และการเขียนลดหลั่นลงมาตามล�ำ ดับ คะแนน ดา้ นการพดู แตง่ ประโยคปากเปลา่ มผี ลเฉลยี่ สงู ขน้ึ
และดวงสมร ศรใี สด�ำ (2552 : 12) ไดก้ ลา่ ววา่ การพดู เปน็ เทา่ กบั 2.33 คะแนนและดา้ นการพดู สอ่ื สารมผี ลเฉลย่ี สงู ขนึ้
ทกั ษะทางภาษาทส่ี �ำ คญั อยา่ งหนง่ึ ใชใ้ นการสอื่ สารถา่ ยทอด เทา่ กบั 2.53 คะแนน ซงึ่ รายดา้ นสงู ขนึ้ อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทาง
ความรู้สกึ นกึ คิดและความคิดเห็น เพ่อื ใหผ้ ู้อืน่ ได้รู้ไดเ้ ขา้ ใจ สถิตทิ ่ีระดับ .01 เชน่ เดยี วกบั งานวิจัยของแสงมณี ทบั ทิม
โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ ในเดก็ ปฐมวัย หากผู้เก่ียวขอ้ งคือพ่อแม่ ทอง (2551) ไดพ้ ัฒนาหนงั สืออ่านเสริมประสบการณ์ คำ�
และครู รจู้ ักวธิ ที ี่จะส่งเสริมพฒั นาการทางการพูดทเ่ี หมาะ คล้องจองประกอบภาพสำ�หรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปี
สมและฝึกบ่อย ๆ ก็จะทำ�ให้เด็กพูดได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ� ท่ี 2 โรงเรียนบ้านกนั จู จงั หวดั เพชรบูรณ์ สงั กดั ส�ำ นักงาน
กล้าแสดงออกทางการพูด รู้จักเรียงลำ�ดับทางการพูดของ เขตพ้ืนที่การศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3 ผลการวิจัยพบว่า
เรื่องราวก่อนหลังวกไปวกมา ทำ�ให้การส่ือสารถ่ายทอด ความพร้อมด้านการอ่านหนังสืออ่านเสริมประสบการณ์
ความรสู้ กึ นกึ คดิ และความตอ้ งการของตนถกู ตอ้ งชดั เจนขนึ้ คำ�คลอ้ งจองประกอบภาพแสดงพฤตกิ รรมรวมทั้ง 10 เลม่
สอดคล้องกบั งานวิจัยของคณศิ ร ตรีผล (2550) ไดศ้ ึกษา อยูใ่ นระดับปานกลาง คา่ เฉลีย่ เทา่ กบั 2.91 และงานวิจัย
ความสามารถทางการพดู ของเดก็ ปฐมวัย โดยวิธีการใชค้ ำ� ของนารีรัตน์ จนั ทวฤทธิ์ (2553) ไดศ้ ึกษาผลการส่งเสริม
คลอ้ งจองและเปรยี บเทยี บความสามารถในการพดู ของเดก็ ทกั ษะทางภาษาของเดก็ ปฐมวยั โดยใชก้ จิ กรรมค�ำ คลอ้ งจอง
ปฐมวยั กอ่ นและหลงั การใชค้ �ำ คลอ้ งจอง กลมุ่ ตวั อยา่ งไดแ้ ก่ กลุ่มตวั อย่างที่ใชไ้ ดแ้ ก่ นกั เรียนชนั้ อนุบาลปีท่ี 2 อายุ 4-5
เดก็ ชัน้ อนบุ าลปที ี่ 1 โรงเรยี นวัดโพธศ์ิ รี จังหวดั นครสวรรค์ ปี โรงเรียนเพชรผ่องพันธ์ุวิทยา อำ�เภอฆ้องชัย จังหวัด
สงั กดั ส�ำ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษานครสวรรค์ กาฬสินธุ์ สำ�นักงานเขตการศึกษากาฬสินธุ์ เขต 2 สังกัด
เขต 3 ผลการศกึ ษาพบวา่ การใชค้ �ำ คลอ้ งจองมผี ลใหค้ วาม สำ�นักงานการศึกษาเอกชน พบว่านักเรียนท่ีเรียนด้วยการ
สามารถทางการพดู แสดงความคดิ เห็นพดู เลา่ เรื่องราว พูด สง่ เสรมิ ทกั ษะทางภาษาของเดก็ ปฐมวยั โดยใชก้ จิ กรรมทอ่ ง
ต้ังคำ�ถาม สูงขึ้น และความสามารถทางการพูดของเด็ก ค�ำ คลอ้ งจอง มคี ะแนนเฉลย่ี ของทกั ษะภาษาดา้ นการฟงั พดู
ปฐมวัยท่ีได้รับการจัดกิจกรรมการใช้คำ�คล้องจองหลังการ อา่ น เขยี น หลังการเรยี นรู้เพ่ิมข้นึ จากก่อนเรยี นอยา่ งมีนัย
154
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
ส�ำ คัญทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .05 ผลการใช้หนังสือนิทานร้อยกรองเพ่ือส่งเสริมพัฒนาการ
ทางภาษาของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีท่ี 2 พบว่า ความ
3. นกั เรียนชัน้ อนุบาลปีที่ 3 มีความพงึ พอใจต่อ พึงพอใจของเด็กปฐมวัยที่มีต่อหนังสือนิทานร้อยกรองเพ่ือ
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจอง ส่งเสริมพัฒนาการทางภาของเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาลปีที่
ประกอบภาพเพอื่ พฒั นาทกั ษะทางภาษา อยใู่ นระดบั มาก 2 อยู่ในระดับมากและงานวิจัยต่างประเทศของจาเคียล
อาจเปน็ เพราะการจดั ประสบการณเ์ ตรยี มความพรอ้ มดา้ น (Jakiel. 1971 : 6279) ไดท้ ำ�การวิเคราะหค์ ำ�คลอ้ งจองที่
ภาษาโดยการจัดกิจกรรมทางภาษาด้วยคำ�คล้องจองที่มี เปน็ ที่นยิ มในการเรียนในระดบั 9 โดยค�ำ นึงถงึ จดุ ประสงค์
ต่อความสามารถทางด้านการฟัง การพูดของนักเรียนท่ีผู้ ทต่ี ง้ั ไว้ พอสรปุ ไดด้ งั นี้ ควรท�ำ ใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความสนกุ สนาน
รายงานค้นคว้าพัฒนาข้ึนมีกิจกรรมฝึกทักษะการฟัง การ เพลิดเพลิน ควรยกตัวอย่างประกอบการเรียน ควรมีการ
พดู ทห่ี ลากหลายน�ำ ไปสกู่ ารฝกึ ปฏบิ ตั จิ รงิ นกั เรยี นไดป้ ฏบิ ตั ิ เปรียบเทียบให้เห็นจริง ครูแนะนำ�เก่ียวกับการใช้ถ้อยคำ�
กจิ กรรมทง้ั ในและนอกหอ้ งเรียน มีการทำ�งานเป็นกลมุ่ ได้ ส�ำ นวนโวหารตา่ งๆ วรรณกรรมรว่ มสมยั ทใ่ี หเ้ ดก็ เรยี น ควร
อธิบายและแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระกิจกรรมเหล่า เป็นเร่ืองท่ีดีและถ้าวรรณกรรมท่ีครูต้องการให้นักเรียนนั้น
นี้จะช่วยเสริมสร้างความม่ันใจและความพึงพอใจให้แก่ ยาวมาก ครคู วรเลอื กเฉพาะตอนทเ่ี หน็ วา่ ดที สี่ ดุ ใหน้ กั เรยี น
นกั เรยี น ดงั นน้ั จงึ กลา่ วไดว้ า่ หนงั สอื ค�ำ คลอ้ งจองประกอบ
ภาพ เป็นส่อื ทม่ี ีคุณภาพและมีประสิทธภิ าพ กระตุ้นความ จากทก่ี ลา่ วมาขา้ งตน้ จะเหน็ วา่ นกั เรยี นชน้ั อนบุ าล
สนใจในการเรียนรู้ของเด็ก จงึ สามารถนำ�ไปใชจ้ ดั กิจกรรม ปที ่ี 3 โรงเรยี นเทศบาลต�ำ บลงมิ (คอื เวยี งจ�ำ่ ) ทไี่ ดร้ บั การจดั
เสริมประสบการณ์กับเด็กระดับปฐมวัยเพื่อพัฒนาทักษะ ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชห้ นงั สอื ค�ำ คลอ้ งจองประกอบ
ทางภาษาได้ได้เปน็ อย่างดี สอดคล้องกบั แนวคดิ ของกมล ภาพมที กั ษะทางภาษาดา้ นการฟงั การพดู สงู ขนึ้ เมอ่ื เปรยี บ
ลกั ษณ์ อเุ ทนสตุ (2548 : 13) ได้กลา่ วว่าความพงึ พอใจ เทียบกับก่อนจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ดังนั้นครูผู้สอน
หมายถึง ทุกส่ิงทุกอย่างท่ีสามารถลดความตึงเครียดของ ปฐมวยั และผทู้ เ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การจดั การศกึ ษาปฐมวยั ควรให้
บุคคลให้น้อยลงได้ ถ้าความตึงเครียดมีมากก็จะทำ�ให้เกิด ความสำ�คัญกับทักษะทางภาษาด้านการฟัง การพูดที่ควร
ความไมพ่ อใจ ซง่ึ ความตงึ เครยี ดนม้ี ผี ลมาจากความตอ้ งการ ส่งเสริมให้เด็กตั้งแต่ระดับปฐมวัยเพื่อส่งเสริมให้นักเรียนมี
ของมนษุ ย์ หากมนษุ ยม์ คี วามตอ้ งการมากกจ็ ะเกดิ ปฏกิ ริ ยิ า ทักษะทางภาษาอย่างเหมาะสมตามวัยและสามารถนำ�ไป
เรียกร้องแต่ถ้าเม่ือใดความต้องการได้รับการตอบสนอง ก็ ปรบั ใช้ในชวี ิตประจ�ำ วนั ของเดก็ ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธิภาพ
จะท�ำ ใหเ้ กิดความพึงพอใจ และอุทัยพรรณ สดุ ใจ (2549
: 45) ไดก้ ล่าวว่า ความพงึ พอใจ หมายถงึ ความร้สู กึ หรอื ขอ้ เสนอแนะ
ทศั นคติของบคุ คลที่มตี อ่ สิง่ ใดสิง่ หน่งึ โดยอาจเป็นไปในเชิง ขอ้ เสนอแนะทไี่ ดจ้ ากการศึกษา
ประเมินค่า ว่าความรู้สึกหรือทัศนคติต่อส่ิงหนึ่งส่ิงใดน้ัน
เป็นไปในทางบวกหรือทางลบ สำ�หรับเกรียงไกร ราวิชัย 1. ครูควรมีบทบาทในการเตรียมความพร้อม
(2550 : 26) ไดใ้ หค้ วามหมายของความพึงพอใจไวว้ า่ เป็น เด็กและกระตุ้นให้เด็กทำ�กิจกรรมต่างๆ ด้วยตนเอง ขณะ
ความรู้สึกรัก ชอบ ยินดี เต็มใจหรือเจตคติที่ดีของบุคคล เด็กปฏิบัติกิจกรรมควรสังเกตการทำ�งานของเด็กและจาก
ที่มีต่อส่ิงใดสิ่งหนึ่ง ความพึงพอใจจะเกิดขึ้นเมื่อได้รับผล การตอบคำ�ถาม การแสดงความคดิ เหน็ ของเด็กทกุ ครัง้
ตอบสนองความต้องการทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจเช่น
เดียวกบั ราชนั ย์ ธงชยั (2555 : 23) กล่าวถึงความสำ�คญั 2. เปิดโอกาสให้นักเรียนได้แสดงทักษะทาง
ของความพึงพอใจว่าเป็นส่ิงจูงใจหรือปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ ภาษาด้านการฟงั การพูด อย่างต่อเน่อื ง
ความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน ว่าเป็นความสามารถของ 3. ในการให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมทั้ง 30
องค์การท่ีจะให้ความพึงพอใจแก่บุคคลโดยเปิดโอกาสให้ แผน ครูควรให้เวลาในการทำ�กิจกรรมจนกว่านักเรียนจะ
แสดงอุดมคติโดยเสรีเพื่อกระตุ้นให้บุคคลเกิดความภูมิใจ ปฏิบัติกิจกรรมเสร็จเพราะนักเรียนแต่ละคนมีศักยภาพที่
ในฝีมือและมีโอกาสได้รับสวัสดิการต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้อง แตกต่างกนั
กับงานวิจัยของสรวีย์ พวงเดชานนท์ (2559) ได้ศึกษา
155
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
4. ขณะปฏิบัติกิจกรรมครูควรสังเกต ตอ่ การพัฒนาทกั ษะดา้ นอ่นื ๆ เชน่ ทักษะการคิดวเิ คราะห์
พฤติกรรมพัฒนาการทางภาษา คอยเป็นท่ีปรึกษาให้คำ� ทกั ษะทางสังคมเปน็ ต้น
แนะนำ�เม่ือนกั เรยี นต้องการ กระต้นุ ใหน้ ักเรยี นใช้ความคิด
และเสริมแรงดว้ ยการกล่าวคำ�ชมเชยทุกคร้งั 2. ควรมีการศกึ ษาทกั ษะทางภาษาด้านการ
ฟงั การพดู ของนกั เรยี นชน้ั อนบุ าลปที ่ี 3 ทไ่ี ดร้ บั การจดั การ
5. จดั สภาพแวดล้อมให้เออื้ ต่อการเรียนรู้ของ เรียนรู้ในรูปแบบอืน่ เช่น การเรียนแบบโครงการ การเรียน
นักเรียน สร้างบรรยากาศให้นักเรียนมีอิสระ ไม่เสียงดัง แบบรว่ มมือ เป็นตน้
รบกวนสมาธิของนกั เรียน
3. ควรศกึ ษาเปรยี บเทยี บทกั ษะทางภาษาดา้ น
6. ในขณะนักเรียนปฏิบัติกิจกรรมครูควรมี การฟงั การพดู ของนกั เรยี นชนั้ อนบุ าลปที ี่ 3 ทไี่ ดร้ บั การจดั
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมพฒั นาการทางภาษา เพอื่ จะไดบ้ นั ทกึ ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชห้ นงั สอื ค�ำ คลอ้ งจองประกอบ
และนำ�ผลมาปรับปรุงและพัฒนากระบวนการเรียนรู้หรือ ภาพกับการจัดประสบการณ์แบบปกติ
พฤตกิ รรมท่ีตอ้ งแก้ไขและควรบนั ทึกเปน็ รายบุคคล
ข้อเสนอแนะในการศึกษาครงั้ ต่อไป
1. ควรมีการศึกษาผลของการจัดประสบการณ์
การเรียนรู้โดยใช้หนังสือคำ�คล้องจองประกอบภาพท่ีมีผล
เอกสารอ้างองิ
กมลลกั ษณ์ อุเทนสตุ .(2548). การพฒั นาระบบบรกิ ารแผนกผปู้ ่วยนอกเพอ่ื ความพึงพอใจของผรู้ ับบริการ
ในโรงพยาบาลคา่ ยกฤษณ์ สีวะรา จังหวัดสกลนคร. วิทยานิพนธ.์ ศษ.ม. (ยุทธศาสตร์การพัฒนา).
มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สกลนคร.
กระทรวงศึกษาศึกษา. (2546). หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศักราช 2546. กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์ครุ สุ ภาลาดพร้าว.
กลุ ยา ตันตผิ ลาชวี ะ. (2551). การจดั กจิ กรรมการเรียนร้สู ำ�หรบั เด็กปฐมวยั . กรงุ เทพฯ: เบรน-เบส บุก๊ ส์.
เกรยี งไกร ราวิชยั . (2550). ผลการใชแ้ บบฝกึ เสริมทักษะภาษาไทย เรื่องประโยค ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 5
โรงเรียนบา้ นโปง่ ส�ำ นักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาเชียงราย เขต 3. วทิ ยานิพนธค์ รุศาสตรมหาบัณฑติ
(หลักสูตรและการสอน). มหาวทิ ยาลัยราชภัฏเชยี งราย.
คณิศร ตรผี ล. (2550). การใชค้ �ำ คลอ้ งจองเพอ่ื พัฒนาความสามารถทางการพดู ของเด็กปฐมวยั ในโรงเรยี นสาธติ
มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏร�ำ ไพพรรณี จงั หวัดจนั ทบุร.ี วทิ ยานิพนธ์ ศษ.ม. (หลักสตู รและการสอน).
มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั ธรรมาธิราช.
ณภทั รสร จรจรญั . (2551). ความสามารถดา้ นการฟังและการพูดของเดก็ ปฐมวัยทใ่ี ชค้ ำ�คล้องจองประกอบภาพ.
ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศกึ ษาปฐมวยั ). มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครนิ ทรวโิ รฒ.
ดวงเดอื น ศาสตรภทั ร. (2549). การวดั และประเมนิ พัฒนาการดา้ นการคดิ ของเดก็ ปฐมวัย. มหาวิทยาลยั สโุ ขทยั
ธรรมาธิราช.
ดวงสมร ศรีใสค�ำ (2552). ผลของกิจกรรมการเลา่ นทิ านพ้ืนบ้านทมี่ ีตอ่ พฒั นาการทางภาษาด้านการพดู ของ
นกั เรียนช้นั อนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนสาธิตมหาวทิ ยาลยั ราชภฏั มหาสารคาม. การศึกษาค้นคว้าอสิ ระ
กศ.ม. มหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม.
นภเนตร ธรรมบวร.(2549). การจัดกระบวนการคดิ ในเดก็ ปฐมวยั . กรงุ เทพฯ : จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัย.
นารีรัตน์ จนั ทวฤทธ์.ิ (2553). การสง่ เสรมิ ทักษะทางภาษาของเดก็ ปฐมวยั โดยใชก้ จิ กรรมค�ำ คลอ้ งจองท�ำ นอง
สรภญั ญะตามแนวคดิ สมองเปน็ ฐาน. การศกึ ษาคน้ ควา้ อสิ ระกศ.ม. (หลักสตู รและการสอน) มหาวทิ ยาลยั
มหาสารคาม.
156
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
นติ ยา ประพฤติกจิ .( 2549). คณติ ศาสตร์ส�ำ หรับปฐมวยั . กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร.์
ปิยพร เศรษฐศริ ิไพบูลย.์ ประโยชนข์ องหนังสอื . [ออนไลน์].เขา้ ถึงไดจ้ าก http://www.taiwisdom.org/
Bkvschdrnt/Ibrdvpnt022. เมอื 2557
พชิ ญาดา ธาตุอินจนั ทร.์ (2551). การใช้นิทานภาพเพอ่ื พัฒนาทกั ษะการฟังและการพดู ของเดก็ ปฐมวัย. การค้นคว้า
แบบอสิ ระ. กศ.ม. เชียงใหม่ : มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่.
ราชันย์ ธงชยั . (2555). ความพึงพอใจของประชาชนตอ่ การใหบ้ รกิ ารในการลงบัญชที หารกองเกนิ ตามแนว
สงั คหวตั ถุ 4 ของหน่วยงานสัสดอี �ำ เภอเมอื ง จงั หวัดระยอง. วทิ ยานพิ นธ์ปริญญาพทุ ธศาสตรมหาบัณฑติ
(รฐั ประศาสนศาสตร์) : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
เรอื งพลิ าศ ธรรมวิเศษ. พฒั นาภาษาดว้ ยหนังสือภาพ. [ออนไลน]). เขา้ ถงึ ได้จาก http://www.taiwisdom.org
Bkvschdmt/artc107. เม่อื 2555.
โรงเรียนเทศบาลตำ�บลงมิ (คือเวียงจ่ำ�). (2558). ข้อมลู สารสนเทศปกี ารศกึ ษา 2558. พะเยา : เทศบาลตำ�บลงมิ
กรมสง่ เสริมการปกครองส่วนท้องถ่นิ .
วรรณี โสมประยรู . (2549). การสอนภาษาไทยระดับประถมศกึ ษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานชิ .
สรวยี ์ พวงเดชานนท์. (2559). ผลการใช้หนงั สอื นทิ านร้อยกรองเพอ่ื สง่ เสรมิ พัฒนาการทางภาษาของเดก็
ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2. วิทยานพิ นธ.์ ค.ม (หลกั สตู รและการสอน) บุรรี ัมย์ : มหาวิทยาลัยราชภฏั บรุ ีรมั ย.์
สริ มิ า ภญิ โญอนันตพงษ.์ (2550). การวัดและประเมนิ ผลแนวใหม่ : เดก็ ปฐมวัย. ภาควิชาการศกึ ษาปฐมวยั
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ.
สุนนั ทา สุนทรประเสรฐิ . (2547). ปฏริ ปู การเรียนรู้ ปฏิรปู การศกึ ษา. มปท : มปพ.
แสงมณี ทบั ทมิ ทอง. (2551). รายงานการใช้หนงั สอื อา่ นเสริมประสบการณค์ ำ�คลอ้ งจองประกอบภาพสำ�หรบั ชน้ั
อนุบาล ปที ่ี 2 โรงเรยี นบา้ นกันจ.ู เพชรบรู ณ์ : ส�ำ นกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษาเพชรบูรณ์ เขต 3.
-----------. (2551). รายงานการใชห้ นงั สืออ่านเสริมประสบการณค์ ำ�คล้องจองประกอบภาพส�ำ หรบั ชั้นอนุบาลปที ่ี 2
โรงเรยี นบา้ นกันจ.ู เพชรบรู ณ์ : สำ�นักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต 3.
อุทัยพรรณ สดุ ใจ. (2549). ความพงึ พอใจของผู้ใชบ้ รกิ ารทม่ี ีตอ่ การให้บรกิ ารขององค์การโทรศัพทแ์ ห่งประเทศ
ไทย จังหวดั ชลบุร.ี กรงุ เทพมหานคร : มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร.์
Jakiel S.J. (1971, June). “An Analysis of Popular Ninth Grade Literature Anthologies With Respect
to Sketched objective for the Study of Literature in the Ninth Grade, Dissertation
Abstracts Intemational, 31 (6) : 6279-A.
กองบรรณาธกิ าร
157
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
การจัดประสบการณก์ ารเรียนร้โู ดยใชช้ ุดกจิ กรรมเกมการศกึ ษา
เพ่ือเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กชั้นอนบุ าลปที ่ี 2
The Learning Experiences by using Educational Game Activity Sets
to Prepare Math Readiness for Kindergarten Children, 2nd Year.
มรู ะ๊ รอเกตุ *1
Mura Rokete *1
[email protected] *
ส่งบทความ 2 สงิ หาคม 2562 แกไ้ ข 30 สงิ หาคม 2562 ตอบรับ 11 กันยายน 2562
บทคัดยอ่
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา
ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพ่ือเปรียบเทียบความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กช้ันอนุบาลปีที่ 2 ก่อน
และหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา และ 3) เพ่ือศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการ
จดั ประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา กลุ่มตวั อยา่ งทใี่ ช้ในการศึกษา คอื เดก็ ชั้นอนบุ าลปีที่ 2/1
โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมุกตายนวิทยา) อำ�เภอสไุ หงโก-ลก จังหวดั นราธิวาสภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2560 จำ�นวน 33
คน ซึง่ ไดม้ าโดยการส่มุ แบบแบง่ กลมุ่ (Cluster Random Sampling) เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นการศกึ ษา ไดแ้ ก่ 1) ชุดกจิ กรรม
เกมการศกึ ษา จำ�นวน 5 ชุด 2) แผนการจัดประสบการณ์จำ�นวน 30 แผน และ 4) แบบประเมนิ เตรยี มความพรอ้ ม
ทางคณิตศาสตร์กอ่ นและหลังจำ�นวน 5 ชดุ วิเคราะห์ขอ้ มลู โดยใชค้ ่ารอ้ ยละ คา่ เฉลี่ยค่าความเบย่ี งเบนมาตรฐาน คา่
ประสิทธิภาพ ค่าดัชนีประสิทธิผลและวิเคราะห์ความแตกต่างของคะแนนก่อนและหลังโดยใช้ t-test (Dependent
Samples)
ผลการศกึ ษาพบวา่
1. การจดั ประสบการณก์ ารเรียนรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา มปี ระสิทธภิ าพเท่ากับ 82.28/82.30
ซง่ึ เปน็ ไปตามเกณฑ์ทต่ี ัง้ ไว้ (80/80)
2. ความพรอ้ มทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยช้ันอนบุ าลปีที่ 2 หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดย
_____________
1 ครชู ำ�นาญการ โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมกุ ตายนวิทยา) อ�ำ เภอสุไหงโก-ลก จงั หวดั นราธิวาส
1 Professinal Level Teachers Thessaban 3 school (Wimooktayonwitthaya) , Sungaikolok
District, Narathiwat Province.
158
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
ใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศึกษา สงู กวา่ กอ่ นการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างมีนัยสำ�คัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั .01
3. คา่ ดชั นีประสิทธิผลของการจัดประสบการณก์ ารเรียนรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษา มคี ่าเท่ากับ
0.6413 แสดงว่า จากการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา มีความก้าวหน้าความพร้อมทาง
คณิตศาสตร์ เพิม่ ข้นึ 0.6413 หรอื คิดเป็นร้อยละ 64.13
คำ�สำ�คัญ ชดุ กจิ กรรมเกมการศึกษา ความพรอ้ มดา้ นคณติ ศาสตร์
Abstract
The objectives of this study were 1) to develop learning experiences by using educational
game activity sets with efficiency according to the criteria 80/80 2) to compare the mathematical
readiness of 2nd kindergarten children before and after the learning experiences by using educational
game activity sets and 3) to study the effectiveness index of experiences organizing learning by using
educational game activity sets. The sample group used in the study was kindergarten children, year
2/1, Municipal School 3 (Wimukdeo Nittaya), Su-ngai Kolok district. Narathiwat Province, the first se-
mester of the academic year 2017, number 33, which was obtained by clustering random sampling.
The tools used in the study were 1) educational game activity sets, 5 sets, 2) 30 experiences plans,
and 4) math preparedness tests before and after 5 sets. Data were analyzed using percentage. Mean,
standard deviation Efficiency Effectiveness index and analysis of different scores before and after using
t-test (Dependent Samples).
The study indicated that
1. The learning experiences using educational game activity sets with the efficiency of 82.28 /
82.30 which meets the set criteria (80/80).
2. Mathematics readiness of preschool children, kindergarten 2 years after the learning expe-
riences using educational game activity sets higher than before learning experiences with statistical
significance at the level of .01.
3. The effectiveness index of learning experiences management by using the educational game
activity sets were 0.6413, indicating that from learning experiences management by using educational
game activity sets There was an increase in mathematical readiness of 0.6413 or 64.13 percent.
Keywords : educational game activity sets mathematical readiness.
159
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
บทนำ� ของประเทศ อันจะนำ�ไปพัฒนาตนเอง ครอบครัว สังคม
และประเทศแผนการศึกษาแห่งชาติจึงต้องกำ�หนดเป้า
สภาวการณ์การเปล่ียนแปลงท้ังภายในและ หมายการจัดการศึกษาท่ีครอบคลุม โดยไม่ปล่อยปละ
ภายนอกประเทศท่ีมีผลกระทบต่อการจัดการศึกษาของ ละเลยหรือท้ิงใครไว้ข้างหลัง (No one left behind)
ประเทศ ชใี้ หเ้ หน็ วา่ ประเทศไทยยงั ตอ้ งเผชญิ กบั การแสการ (ส�ำ นักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ,
เปล่ยี นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21 ทเ่ี ปน็ ไปอยา่ งรวดเร็ว 2560: 75-76)
ซบั ซอ้ นและคาดการณไ์ ดย้ าก ในขณะทผ่ี ลการจดั การศกึ ษา
ของประเทศในทุกระดับยังคงมีปัญหาท้ังในด้านคุณภาพ ความสามารถในการคิดและทักษะในการคิดมี
ของคนไทยท่ีผู้เรียนและสำ�เร็จการศึกษาระดับต่างๆ ที่ยัง ความสำ�คัญยิ่งสำ�หรับการจัดการศึกษาในปัจจุบันเพราะ
มีผลสัมฤทธ์ิทางการศึกษา คุณลักษณะ และทักษะอยู่ใน ความสามารถและทักษะในการคิดมีความจำ�เป็นสำ�หรับ
ระดับท่ียังไม่น่าพึงพอใจ และกำ�ลังแรงงานของประเทศ การเรียนรู้ตลอดชีวิต การดำ�รงชีวิตและการปฏิบัติงานให้
ที่มีสมรรถนะไม่สอดคล้องกับความต้องการ แม้ว่าในภาพ บรรลเุ ปา้ หมายและประสบผลส�ำ เรจ็ โดยเฉพาะในยคุ ขอ้ มลู
รวมคนไทยมีโอกาสเข้าถึงการศึกษาและมีความเสมอ ข่าวสารความรู้ท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและต่อ
ภาคทางการศึกษามากข้ึนจากนโยบายสนับสนุนค่าใช้ เนอ่ื ง ดังน้นั มที ักษะการคิด ในยคุ ศตวรรษที่ 21 คอื ทักษะ
จ่ายในการเรียน 15 ปีของรัฐแต่ระบบบริหารการจัดการ การคิดของบุคคลและทักษะชีวิต (Life skills) เพ่ือจะได้
ศึกษาในปัจจุบันก็ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะ สามารถดำ�รงชีวิตอยู่ได้อย่างสันติสุขในสังคมโลกท่ีมีการ
รองรับสภาวการณ์การลดลงของประชากรและการเข้าสู่ เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้าน นอกจากนั้นนักการ
สังคมสูงวัยอย่างรวดเร็วของประเทศ รวมถึงสภาพสังคม ศกึ ษาหลายทา่ นเรมิ่ จะเชอ่ื กนั วา่ ความรเู้ ฉพาะดา้ นจะไมม่ ี
และเศรษฐกิจที่มีการแข่งขันอย่างเสรีและไร้พรมแดนใน ความส�ำ คญั เทา่ กบั การทบ่ี คุ คลมคี วามสามารถในการเรยี น
กระแสการเปล่ียนแปลงอย่างก้าวกระโดดไร้ขีดจำ�กัดของ รแู้ ละสรา้ งความหมายและประโยชนจ์ ากความรแู้ ละขอ้ มลู
เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ทส่ี ามารถเชอ่ื มทง้ั โลกใหเ้ ปน็ หนง่ึ เดยี วการ ใหมๆ่ ดงั นน้ั สงิ่ ทส่ี �ำ คญั และจ�ำ เปน็ ทสี่ ดุ ในการจดั การศกึ ษา
เรง่ ปฏริ ปู การศกึ ษาตามแนวทางปฏริ ปู ประเทศ ยทุ ธศาสตร์ ให้กับเด็กและเยาวชนในยุคปัจจุบันคือ การส่งเสริมและ
ชาติและการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุค 4.0 จึงเป็น พัฒนาให้ผู้เรียนมีความสามารถในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ทางออกสำ�คัญของการจัดการศึกษาเพื่อให้ประชาชนได้ มีทักษะในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและคิดสร้างสรรค์
รบั โอกาสในการศกึ ษาและเรยี นรตู้ ลอดชวี ติ อยา่ งมคี ณุ ภาพ (Critcal and Creative Thinking) เดก็ และเยาวชนเหลา่
สามารถพัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถให้เต็มตาม นี้จะต้องได้รับการเตรียมพร้อมเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ศักยภาพของแต่ละบุคคล อันจะนำ�ไปสู่การสร้างความ (Life Long Learning) มที ักษะการคิด (Thinking Skills)
ผาสุกร่วมกันในสังคมของคนในชาติ และลดความเหล่ือม มีวิธีการแสวงหาความรู้และสร้างความรู้ได้ในโลกแห่งการ
ลำ้�ในสังคมให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกันมากข้ึน เปล่ียนแปลงได้อย่างต่อเน่ืองและสร้างสรรค์ (วัชรา เล่า
รวมท้ังพัฒนาประเทศให้สามารถก้าวข้ามกับดักประเทศท่ี เรียนด,ี 2555: 1)
มรี ายไดป้ านกลางไปสปู่ ระเทศทพ่ี ฒั นาแลว้ ในอกี 20 ปขี า้ ง
หน้า โดยมหี ลกั การจัดการศกึ ษาเพอื่ ปวงชน (Education คณติ ศาสตรม์ สี ว่ นส�ำ คญั อยา่ งยง่ิ ในชวี ติ ประจ�ำ วนั
tor All) เป็นการจดั การศกึ ษาเพ่ือใหป้ ระชาชนทกุ คน ทกุ และมีผลต่อการพัฒนาการคิดทำ�ให้มนุษย์มีความคิดอย่าง
ชว่ งวยั ตั้งแต่เด็กปฐมวยั วัยเรียน วยั ทำ�งาน และผสู้ ูงวยั มี มีเหตุผล เป็นระบบมีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหา
โอกาสในการศึกษาและการเรยี นรู้ตลอดชีวติ เพือ่ ใหแ้ ต่ละ หรอื สถานการณ์ไดอ้ ย่างถ่ีถว้ นรอบคอบ ชว่ ยใหค้ าดการณ์
บคุ คลไดพ้ ฒั นาตามความพรอ้ มและความสามารถใหบ้ รรลุ วางแผนตัดสินใจ แก้ปัญหา สร้างสรรค์ได้อย่างถูกต้อง
ขีดความสามารถสูงสุด มีความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะ เหมาะสมและคณิตศาสตร์ยังเป็นเคร่ืองมือในการศึกษา
ท่ีพึงประสงค์ในการดำ�รงชีวิต และการอยู่ร่วมกับผู้อื่นใน ทางด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อื่นๆ (สำ�นัก
สังคม รวมทั้งมีสมรรถนะในการทำ�งานเพ่ือการประกอบ วิชาการและมาตรฐานการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ,
อาชีพตามความถนัดและความสนใจ สอดคล้องกับความ 2546: 1) เดก็ ปฐมวยั เป็นวัยเร่ิมตน้ แหง่ การเรยี นรู้ มคี วาม
ต้องการของตลาดงานและการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม อยากรูอ้ ยากเห็น ชา่ งสงั เกต ชอบเลน่ และสำ�รวจส่งิ ตา่ งๆ
รอบตัว คณิตศาสตร์สามารถพัฒนาเสริมสร้างให้เด็กมี
160
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
ความรู้ความเข้าใจธรรมชาติรอบตัว และสิ่งต่างๆ รอบตัว ประสบการณ์การเรียนรู้คณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัย
การที่เด็กมีความรู้ความเข้าใจ มีทักษะกระบวนการทาง กลา่ วถงึ การสรา้ งเสรมิ ความสนใจในการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
คณติ ศาสตร์ และมเี จตคตทิ ด่ี ตี อ่ คณติ ศาสตร์ ไมเ่ พยี งสง่ ผล ตามธรรมชาตขิ องเดก็ สรา้ งประสบการณแ์ ละความรคู้ วาม
ใหเ้ ดก็ ประสบความส�ำ เรจ็ ในการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตรเ์ ทา่ นนั้ เข้าใจทางคณิตศาสตร์ผ่านประสบการณ์ในชีวิตประจำ�
แต่จะส่งผลต่อการเรียนรู้ในศาสตร์อ่ืนๆ คณิตศาสตร์จึง วัน โดยเน้นการจัดเป็นรายบุคคล กลุ่มย่อย ในรูปแบบท่ี
มีบทบาทสำ�คัญทั้งในการเรียนรู้และมีประโยชน์ต่อการ ไม่เป็นทางการ ผา่ นการเลน่ การส�ำ รวจ และการได้ลงมือ
ดำ�เนินชีวิต ซึ่งการเรียนรู้คณิตศาสตร์ระดับปฐมวัยมุ่ง ปฏิบัติจริง บูรณาการคณิตศาสตร์ในกิจกรรมการเรียน
หวังให้เด็กทุกคนได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ทาง รู้ต่างๆ ใช้สื่อการเรียนรู้ท่ีหลากหลายและใช้กลยุทธ์การ
คณิตศาสตร์ อันเป็นพ้ืนฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในช้ัน สอนคณิตศาสตร์ท่ีเหมาะสม (สถาบันส่งเสริมการสอน
ประถมศึกษา โดยกำ�หนดสาระหลักท่ีจำ�เป็นสำ�หรับเด็ก วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกระทรวงศึกษาธิการ, 2553:
ไดแ้ ก่ จ�ำ นวนและการด�ำ เนนิ การ การวดั เรขาคณติ พชี คณติ 22-23)ดงั นน้ั การใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรคู้ ณติ ศาสตรโ์ ดยการฝกึ ฝน
การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น และทักษะและ อย่างสม่ำ�เสมอและใช้กระบวนการคิดท่ีถูกต้องจะช่วยให้
กระบวนการทางคณิตศาสตร์(สถาบันส่งเสริมการสอน เดก็ เกดิ ทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ ที่เก่ียวกบั ความคิด
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2553: รวบยอด การสงั เกต จ�ำ แนก เปรยี บเทยี บ การจดั หมวดหมู่
2-3) เด็กที่ได้รับการเตรียมความพร้อมทักษะพ้ืนฐานด้าน การจับคู่ การเรยี งลำ�ดบั และจ�ำ นวน (พรพมิ ล ช่วยชูวงค,์
คณิตศาสตร์จะมีผลการเรียนท่ีดีกว่าเม่ือเข้าเรียนในระดับ 2555: 3)
ชัน้ ทสี่ ูงข้ึน (สถาบนั ราชานุกูล กรมสุขภาพจิต, 2557: 14)
เกมการศกึ ษา เปน็ ทสี่ นใจของเดก็ เกอื บทกุ วยั โดย
การจัดประสบการณ์การเรียนรู้คณิตศาสตร์ เฉพาะเด็กวัย 3-5 ปี เป็นวัยท่ีไม่ชอบ การนั่งเรียนอยู่กับ
ส�ำ หรบั เด็กปฐมวัย อายุ 3-5 ปี ควรจัดในรูปของกจิ กรรม ที่แล้วรับการสอนเหมือนเด็กวัยอื่นๆ แต่สิ่งที่พวกเขาชอบ
การเรียนรู้แบบบูรณาการผ่านการเล่น เพ่ือให้เด็ก คือ การเล่น วิธกี ารเลน่ ของเดก็ วยั นี้มมี ากมายหลายวิธี ซงึ่
เรียนรู้จากประสบการณ์ตรง เกิดความรู้ความเข้าใจ มี บางวิธีผ้ใู หญ่อาจจะมองว่าเป็นเรือ่ งไรส้ าระ แต่จริงๆ แล้ว
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และมีเจตคติท่ีดีต่อ การเลน่ ของเดก็ เปน็ การพฒั นาการเรยี นรสู้ ง่ิ ตา่ งๆ รอบตวั
คณิตศาสตร์ ครูผู้สอนควรจัดประสบการณ์การเรียนรู้ พร้อมกับเป็นการเรียนรู้ด้วยตัวเองไปด้วย ซึ่งถ้าเด็กได้รับ
โดยคำ�นึงถึงความเหมาะสมและความสอดคล้องกับวุฒิ การกระตนุ้ ฝกึ ใหใ้ ชค้ วามคดิ ในระหวา่ งการเลน่ เชน่ ใชก้ าร
ภาวะของเด็ก (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และ สงั เกต เปรยี บเทยี บ จ�ำ แนก เชอ่ื มโยงเหตผุ ลอยา่ งเหมาะสม
เทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร, 2553: 22) ซงึ่ เดก็ ปฐมวยั กบั วฒุ ภิ าพวะ จะช่วยใหเ้ ดก็ มีพัฒนาการด้านสตปิ ญั ญาได้
หากไดเ้ รยี นรจู้ ากการปฏบิ ตั โิ ดยการใชส้ อ่ื จากของจรงิ จะสง่ อย่างรวดเร็ว ดังน้ันการฝึกให้เด็กเล่นเคร่ืองเล่นท่ีเป็นรูป
ผลให้มีทักษะการรับรู้เชิงจำ�นวนเนื่องจากธรรมชาติสร้าง ธรรม เชน่ เกมการศกึ ษาจะชว่ ยสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ ไดเ้ รยี นรจู้ าก
ใหส้ มองของเดก็ มบี รเิ วณทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั การรบั รเู้ ชงิ จ�ำ นวน ประสาทสมั ผสั ตา่ งๆ (กนกกานต์ อยสู่ ขุ , 2553 : 3) เกมการ
พัฒนาการด้านการรับรู้เชิงจำ�นวนและคณิตศาสตร์จึงเริ่ม ศึกษาเป็นเกมที่ช่วยพัฒนาสติปัญญา มีกฎเกณฑ์ กติกา
ตั้งแต่ปฐมวัยและพัฒนาเร่ือยไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ (สถาบัน งา่ ยๆ เด็กสามารถเล่นคนเดียวหรอื เล่นเปน็ กลุ่มได้ ช่วยให้
ราชานุกูล กรมสุขภาพจิต,2557: 11)โดยหลักสูตรการ เดก็ รจู้ กั สงั เกต คดิ หาเหตผุ ลและเกดิ ความคดิ รวบยอดเกยี่ ว
ศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2546 ได้ก�ำ หนดประสบการณ์ กบั สี รูปร่าง จำ�นวน ประเภท และความสมั พันธ์เก่ยี วกบั
สำ�คัญด้านสติปัญญาเก่ียวกับทักษะเบื้องต้นท่ีเป็นพ้ืนฐาน พน้ื ท่ี ระยะ เกมการศกึ ษาทเ่ี หมาะสมส�ำ หรบั เดก็ วยั 3-5 ปี
ของการเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์ในด้านการสังเกต จำ�แนก เช่น เกมจบั คู แยกประเภทจัดหมวดหมู เรยี งลำ�ดับ โดมิโน
และการเปรยี บเทียบ คอื การจบั คู่ การจำ�แนกและการจดั ลอตโต ภาพต้อต่อ ต่อตามแบบ เป็นต้น (สำ�นักวิชาการ
กลุ่ม การเรยี งล�ำ ดับส่ิงตา่ งๆ และในดา้ นจำ�นวน คอื การ และมาตรฐานการศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร, 2551: 57)
เปรียบเทียบจำ�นวน การนับสิ่งต่างๆ และการจับคู่หนึ่ง ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมีแนวคิดท่ีจะนำ�เกมการศึกษามาใช้จัด
ต่อหน่ึง (สำ�นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา กระทรวง ประสบการณ์เพื่อให้เด็กเกิดกระบวนการและพัฒนาการ
ศึกษาธิการ, 2551: 22-23)หลักการและแนวทางการจัด คิดเชิงวิเคราะห์อันเป็นวัตถุประสงค์ของการศึกษาในครั้ง
161
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
นี้ การจัดประสบการณ์สำ�หรับเด็กปฐมวัยในปัจจุบันไม่มี สง่ เสรมิ การคดิ อย่างเป็นระบบ ฝึกการคิดอยา่ งมีเหตผุ ล มี
การจดั ประสบการณเ์ พอื่ สอนใหเ้ ดก็ ไดใ้ ชค้ วามสามารถดา้ น ความคิดสร้างสรรค์และสามารถหาวิธีแก้ปัญหาต่างๆ ได้
สตปิ ัญญาดายตรง หรอื อาจมีบูรณาการกิจกรรม เพ่ือสอด อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพและสามารถน�ำ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจ�ำ วนั
แทรกการคิดบ้างแล้วแต่ยังไม่มีการพัฒนาเกมการศึกษาที่ ไดใ้ นลกั ษณะของการจดั กจิ กรรมผา่ นการเลน่ เกมการศกึ ษา
เหมาะสม เพ่ือมาพัฒนาความสามารถด้านสติปัญญาของ
เด็กได้โดยตรง การใช้เกมการศึกษาน้ันเป็นการบูรณาการ จากความสำ�คัญและเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น ผู้
กิจกรรมเสริประสบการณ์ หรือกิจกรรมกลุ่มกับการเล่น รายงานมีความสนใจในการพัฒนาการจัดประสบการณ์
เกมการศึกษา เพ่ือส่งเสริมความสามารถด้านสติปัญญา เพ่ือเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยช้ัน
ท่ีเด็กได้รู้จักการสังเกตจัดกลุ่ม จำ�แนก เปรียบเทียบ จัด อนบุ าลปีท่ี 2 ให้มีพืน้ ฐานทางด้านคณติ ศาสตร์ โดยใช้ชดุ
หมวดหมู่ เรยี งลำ�ดับเหตกุ ารณ์ การแก้ปัญหาสรุปประเด็น กจิ กรรมเกมการศกึ ษาทจ่ี ะชว่ ยสง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มพี ฒั นาการ
จงึ ควรจดั ให้เด็กไดส้ นทนา อภิปราย แลกเปลี่ยนความคิด ทางด้านสติปัญญาที่ได้รับการฝึกฝนจากชุดเกมการศึกษา
เหน็ ให้เดก็ ไดฝ้ กึ ทกั ษะการฟงั การคดิ การโต้ตอบ การแก้ ที่ผูร้ ายงานสรา้ งขึ้นจ�ำ นวน 5 ชดุ ได้เรยี นรู้อย่างมคี ุณภาพ
ปญั หา การตดิ ตามเร่อื งราว การตัดสินใจรว่ มกับบคุ คลอ่นื และเตรียมความพร้อมในการรับรู้เก่ียวกับคณิตศาสตร์ใน
และการท�ำ งานรว่ มกนั ซงึ่ เปน็ กระบวนการทสี่ �ำ คญั ส�ำ หรบั ระดับทสี่ งู ขนึ้ ไดใ้ นโอกาสต่อไป
การเรียนรู้ในอนาคต วัตถุประสงค์ของการศกึ ษา
จ า ก แ น ว คิ ด ใ น ก า ร พั ฒ น า แ ล ะ ส่ ง เ ส ริ ม 1. เพอ่ื พฒั นาการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดย
กระบวนการคิดของเด็กปฐมวัย โดยใช้เกมการศึกษาเป็น ใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา ท่ีมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์
แนวทางการจัดกิจกรรมและประสบการณ์ที่มุ่งเน้นเตรียม 80/80
ความพร้อมทางคณิตศาสตร์ซ่ึงผู้รายงานเป็นครูปฐมวัยรับ
ผิดชอบการจัดการศึกษา สำ�หรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาล 2. เพือ่ เปรียบเทยี บความพร้อมทางคณิตศาสตร์
ปีท่ี 2 ในโรงเรียนเทศบาล 3(วิมุกตายนวิทยา) สำ�นัก ของเดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 2 กอ่ นและหลงั การจดั ประสบการณ์
การศึกษา เทศบาลเมืองสุไหงโก-ลกอำ�เภอสุไหงโก-ลก การเรยี นรโู้ ดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศกึ ษา
จังหวัดนราธิวาสจากการจัดการศึกษาสำ�หรับเด็กปฐมวัย 3. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัด
ชน้ั อนุบาลปที ี่ 2 พบวา่ เดก็ ปฐมวัยไมส่ ามารถเรียนรู้ตาม ประสบการณ์การเรียนร้โู ดยใชช้ ุดกจิ กรรมเกมการศึกษา
มาตรฐานคณุ ลกั ษณะทพ่ี งึ ประสงคโ์ ดยเฉพาะ ในมาตรฐาน
ที่ 9 ใช้ภาษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกับวัย ตวั บง่ ชี้ที่ 1สนทนา สมมติฐานในการศึกษา
โต้ตอบ/เล่าเป็นเรอื่ งราวได้ ฟังแล้วน�ำ มาถา่ ยทอดได้ และ
มาตรฐานที่ 10 มีความสามารถในการคิดและการแก้ ความพร้อมทางคณิตศาสตร์หลังการจัด
ปัญหาได้เหมาะสมตามวัย ตัวบ่งชี้ท่ี 1 มีความคิดรวบ ประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา
ยอดในการเรียนรู้ส่งิ ต่างๆ โดยการจำ�แนกสง่ิ ของ ไดต้ าม เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้น
สี รูปทรง ขนาด นำ้�หนัก ตัวบ่งชี้ท่ี 2 พยายามหาวิธีแก้ อนุบาลปีที่ 2 สูงกวา่ กอ่ นการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้
ปัญหาด้วยตนเองได้ โดยเฉพาะเด็กปฐมวัยช้ันอนุบาลปีท่ี ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
3 มีพฒั นาการ ตามมาตรฐานท่ี 9 และมาตรฐานที่ 10 ใน
ระดบั 2 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 67 ของเดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 ประชากร
ทง้ั หมด (โรงเรยี นเทศบาล 3(วมิ กุ ตายนวทิ ยา). 2559: 5-6) ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ เด็กชั้น
จึงทำ�ให้ผู้รายงานสนใจศึกษาค้นคว้างานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (วิมุกตายนวิทยา)
คิดหาแนวทางในการพัฒนาการเตรียมความพร้อมทาง อำ�เภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสภาคเรียนท่ี 1 ปีการ
คณติ ศาสตร์ ซงึ่ จะสง่ ผลตอ่ การพฒั นาทกั ษะการคดิ ซงึ่ เกดิ ศึกษา2560 จำ�นวน 6 ห้อง ได้แก่ ชั้นอนุบาลปีท่ี 2/1
จากการสงั เกต เปรยี บเทยี บ การเรยี งล�ำ ดบั การจ�ำ แนกรปู จำ�นวน 33 คน ช้ันอนุบาลปีที่ 2/2 จำ�นวน 33 คนช้ัน
ร่าง ขนาดน้ำ�หนัก ความยาว ความสูง การนบั และการวัด อนุบาลปที ่ี 2/3 จำ�นวน 33 คนช้นั อนุบาลปีท่ี 2/4 จำ�นวน
162
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
33 คน ชั้นอนุบาลปีที่ 2/5 จำ�นวน 33 คน และช้นั อนุบาล 2.1 ชดุ กิจกรรมเกมการศกึ ษา ชุดที่ 1 การ
ปีที่ 2/6 จำ�นวน 33 คน รวมท้ังสนิ้ จำ�นวน 198 คน นบั ประกอบดว้ ย
กลุม่ ตวั อย่าง 2.1.1 เกมตวั เลขหรรษา
2.1.2 เกมรังผ้งึ ตวั เลข
กลุ่มตัวอย่างท่ีใช้ในการศึกษา คือ เด็กช้ัน 2.1.3 เกมพืน้ ฐานการบวก 1-5
อนุบาลปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาล 3 (วิมุกตายนวิทยา) 2.1.4 เกมสัตว์พาเพลิน
อำ�เภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาสภาคเรียนที่ 1 ปีการ 2.1.5 เกมนบั เพมิ่ นับลด
ศกึ ษา 2560 จำ�นวน 33 คน ซง่ึ ไดม้ าโดยการส่มุ แบบแบ่ง 2.1.6 เกมการเดินทางของตวั เลข
กลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียน
เป็นหน่วยของการสุ่ม และแต่ละห้องเรียนเด็กคละความ 2.2 ชุดกิจกรรมเกมการศกึ ษา ชดุ ที่ 2 การ
สามารถ จบั ค่ปู ระกอบดว้ ย
ตวั แปร 2.2.1 เกมจบั คูต่ ัวเลขกับตัวเลข
2.2.2 เกมจบั คู่ภาพชิ้นสว่ นทหี่ ายไป
ตัวแปรต้น คือ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ของตวั เลข
โดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มทาง 2.2.3 เกมจบั คู่ตวั เลขกับจ�ำ นวนรูปทรง
คณติ ศาสตร์ สำ�หรบั เดก็ ชนั้ อนุบาลปที ่ี 2 จ�ำ นวน 5 ชุด เรขาคณิต
ตวั แปรตามคอื ความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรไ์ ดแ้ ก่ 2.2.4 เกมจับคตู่ ัวเลขกับภาพสัญลกั ษณ์
2.2.5 เกมจับคู่ภาพตัวเลขที่ซ่อนอยู่ใน
2.1 การนับ ภาพหลกั
2.2 การจบั ค ู่ 2.2.6 เกมจบั คู่ภาพทม่ี คี วามสัมพันธ์กัน
2.3 การเปรยี บเทยี บ
2.4 การจัดหมวดหม่ ู 2.3 ชดุ กิจกรรมเกมการศกึ ษา ชดุ ที่ 3 การ
2.5 การเรียงลำ�ดับ เปรยี บเทยี บ ประกอบดว้ ย
นิยามศพั ท์เฉพาะ 2.3.1 เกมเปรียบเทยี บใหญ่-เล็ก
2.3.2 เกมเปรียบเทยี บส้ัน-ยาว
1. การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ หมายถงึ การ 2.3.3 เกมเปรียบเทยี บสงู -ต่ำ�
จัดประสบการณ์ที่ยึดเด็กเป็นสำ�คัญ โดยให้เด็กได้เรียนรู้ 2.3.4 เกมเปรยี บเทียบหนัก-เบา
จากประสบการณ์ตรงและได้ลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง 2.3.5 เกมเปรยี บเทียบใกล้-ไกล
โดยใช้ประสาทสัมผัสท้งั ห้า ในรปู แบบของกจิ กรรมหลกั 6 2.3.6 เกมเปรียบเทยี บบน-ล่าง
กจิ กรรม ท่ีบูรณาการผา่ นการเลน่ เกดิ ความรู้ ทักษะ และ
เจตคตใิ นการเรยี นรู้ ไดพ้ ฒั นาทงั้ ดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ 2.4 ชุดกจิ กรรมเกมการศกึ ษา ชุดท่ี 4 การ
สังคม และสติปัญญา จัดหมวดหมู่ ประกอบด้วย
2. ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาหมายถึงส่อื การจดั 2.4.1 เกมจดั หมวดหมู่ภาพสตั ว์
ประสบการณร์ ปู แบบเกมการศกึ ษาแบบเลน่ เปน็ รายบคุ คล 2.4.2 เกมจัดหมวดหมู่ภาพผลไม้
และเล่นเป็นกลุ่มท่ีใช้ควบคู่กับแผนการจัดประสบการณ์ 2.4.3 เกมจัดหมวดหมู่ภาพอาหารหลัก
การเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้น 5 หม่ ู
อนุบาลปีที่ 2ซ่ึงพัฒนาทักษะเบื้องต้นที่เป็นพื้นฐานทาง 2.4.4 เกมจัดหมวดหมู่ภาพอาชีพกับ
คณิตศาสตร์ ได้แก่ การนบั การจบั คู่ การเปรยี บเทียบ การ สัญลักษณ ์
จดั หมวดหมู่ และการเรียงล�ำ ดับ มีจ�ำ นวน 5 ชุด ดงั น้ี 2.4.5 เกมจดั หมวดหม่ภู าพผกั สวนครัว
163
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
2.4.6 เกมจัดหมวดหมู่ภาพเคร่ืองแต่ง เรียงลำ�ดับ ซึ่งประกอบด้วยความพร้อมทางคณิตศาสตร์
กายที่มีสีเดยี วกนั กบั รูปทรงเรขาคณติ พืน้ ฐาน ดังนี้
2.5 ชุดกจิ กรรมเกมการศกึ ษา ชุดท่ี 5 การ
เรยี งล�ำ ดับ ประกอบด้วย 4.1 การนบั หมายถงึ ความสามารถในการ
นบั ปรมิ าณของสงิ่ ตา่ งๆ ตามล�ำ ดบั 1 ถงึ 10 การนบั ลด-การ
2.5.1 เกมเรียงลำ�ดับความสูงของภาพ นบั เพิ่ม
ตน้ ไม้
2.5.2 เกมเรยี งล�ำ ดับขนาดภาพของเลน่ 4.2 การจับคู่ หมายถึง ความสามารถในการ
จดั สงิ่ ของทคี่ กู่ นั สงิ่ ทเี่ หมอื นกนั มคี วามสมั พนั ธก์ นั หรอื อยู่
2.5.3 เกมเรยี งล�ำ ดบั จ�ำ นวนของภาพผกั ประเภทเดยี วกันมาเข้าค่กู ัน
1-5
2.5.4 เกมเรยี งล�ำ ดับการชัง่ ผลไม ้ 4.3 การเปรยี บเทยี บ หมายถงึ ความสามารถ
2.5.5 เกมเรียงลำ�ดับความยาวของ ในการบอกความแตกต่าง ความเหมือนของสิ่งต่างๆ เช่น
สงิ่ ต่างๆ ใหญ่-เล็ก สูง-ต่ำ� ส้ัน-ยาว หนัก-เบา ใกล้-ไกล บน-ล่าง
2.5.6 เกมเรียงล�ำ ดับขนาดของภาพสิ่งของ เปน็ ต้น
ในห้องครัว 4.4 การจดั หมวดหมู่ หมายถงึ ความสามารถ
3. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุด ในการจัดหมวดหมู่ของวัตถุส่ิงของตามคุณลักษณะ หรือ
กิจกรรมเกมการศึกษา หมายถึง กิจกรรมท่ีผู้สอนนำ�มา คุณสมบัติบางประการ เช่นรูปร่าง รปู ทรง ลกั ษณะ ขนาด
ใช้ในการเรียนการสอน เพ่ือให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตาม ประเภท ชนดิ สี ประโยชน์ โทษ เป็นตน้
วัตถุประสงค์ท่ีกำ�หนดขึ้น โดยมีการกำ�หนดกฎ กติกา 4.5 การเรียงลำ�ดับ หมายถึงความสามารถ
เงอื่ นไข หรอื ขอ้ ตกลงรว่ มกนั ท�ำ ใหผ้ เู้ รยี นไมร่ สู้ กึ เบอื่ หนา่ ย ในการจดั เรียงล�ำ ดบั วัตถุ สิง่ ของตา่ งๆ ตามจำ�นวน ขนาด
เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลิน เด็กมีโอกาสใช้ปฏิญาณ ความสูง ความยาว น�้ำ หนัก เป็นต้น
ไหวพริบของตน สามารถจดจำ�บทเรียนได้ง่าย เร็ว และ
จำ�ได้นาน ช่วยส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ความคิดรวบยอด 5. ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80หมายถึง
เกี่ยวกบั สง่ิ ทเ่ี รียน เกดิ ความรู้ ความเข้าใจมากขึน้ โดยข้นั ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทาง
ตอนการสอนมที ัง้ หมด 3 ข้นั ตอนคือ คณติ ศาสตร์ ส�ำ หรบั เดก็ ช้นั อนบุ าลปที ่ี 2 ทม่ี ีประสิทธภิ าพ
ตามเกณฑ์ 80/80 ดงั นี้
1. ขนั้ นำ� ผ้สู อนกระตนุ้ ความสนใจใหผ้ ู้เรยี น
อยากรู้ อยากเรียน โดยใชเ้ พลง นทิ าน หรือค�ำ คลอ้ งจอง 80 ข(อE1ง)เตดั็วกชแั้นรกอนหุบมาาลยปถีทึง่ี ระดับคะแนน
เฉล่ียร้อยละ 80 2 ทุกคน ที่ได้
2. ข้ันดำ�เนินกิจกรรม ผู้สอนอธิบายถึงกฎ จากการประเมินพัฒนาการระหว่างการทำ�กิจกรรมโดย
กตกิ า พรอ้ มสาธติ วธิ ีการเล่นเกมการศึกษา และให้ผูเ้ รียน ใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทาง
เลน่ เกมการศึกษา คณติ ศาสตร์ ส�ำ หรบั เด็กช้นั อนบุ าลปที ่ี 2ในแตล่ ะแผนการ
3. ขน้ั สรปุ ผเู้ รยี นออกมาแสดงความรสู้ กึ เมอื่ จดั ประสบการณ์ จ�ำ นวน 30 แผน โดยการหาค่าเฉลยี่ แล้ว
เล่นเกมการศึกษาเสร็จและผูส้ อนสรปุ พรอ้ มกับผู้เรียน เทยี บเปน็ ร้อยละ 80
4. ความพร้อมทางคณิตศาสตรห์ มายถึงทักษะ 8800ขอ(งEเ2ด)ก็ตชัวัน้ หอลนังุบหาลมปาที ยี่ ถ2ึง ระดับคะแนน
เบอื้ งตน้ ทเ่ี ปน็ พน้ื ฐานของการเรยี นรทู้ างคณติ ศาสตร์ ไดแ้ ก่ เฉล่ยี ร้อยละ ทกุ คน จากการ
ความสามารถเกี่ยวกับการนับ ความสามารถเกี่ยวกับการ ประเมนิ พฒั นาการหลงั การใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่
จบั คู่ ความสามารถเกย่ี วกบั การเปรยี บเทยี บ ความสามารถ เตรยี มความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ สำ�หรบั เดก็ ชัน้ อนุบาล
เกยี่ วกบั การจดั หมวดหมู่ และความสามารถเก่ยี วกบั การ ปีที่ 2 (Post-test)สิน้ สุดลง โดยการหาคา่ เฉลี่ยแล้วเทียบ
เป็นร้อยละ 80
164
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
6.ดชั นีประสทิ ธิผล หมายถงึ คา่ ทแ่ี สดงถงึ ความ โดยใช้แบบประเมินเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ที่ผู้
กา้ วหนา้ ในการเรยี นรู้ชุดกิจกรรมเกมการศกึ ษาเพ่อื เตรยี ม รายงานสรา้ งขึน้ จ�ำ นวน 5 ชดุ และบนั ทกึ พฒั นาการของ
ความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กช้ันอนุบาลปีที่ เดก็
2โดยการเปรยี บเทยี บผลของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี น
รกู้ ่อนและหลงั การเรียนรโู้ ดยใชช้ ุดกิจกรรมเกมการศกึ ษา 2. ดำ�เนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดย
ใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทาง
เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นการศึกษา คณติ ศาสตร์ ส�ำ หรบั เดก็ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2 พรอ้ มกบั แผนการ
จดั ประสบการณ์ จำ�นวน 30 แผน และบันทกึ พฒั นาการ
1. แผนการจดั ประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชดุ เดก็ โดยเร่ิมการทดลองตง้ั แต่วันที่ 6 มิถนุ ายน 2560 ถงึ
กิจกรรมเกมการศึกษา จำ�นวน 30 แผน ค่าเฉลี่ยเท่ากับ วนั ที่ 22 สิงหาคม 2560
4.41 แสดงวา่ มีความเหมาะสมมากมากท่ีสดุ และสามารถ
น�ำ ไปใช้จัดประสบการณ์ได้ 3. เม่ือดำ�เนินการทดลองจัดประสบการณ์การ
เรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความ
2. ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความ พร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 ครบ
พรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ ส�ำ หรบั เดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2 จ�ำ นวน ทกุ แผนการจดั ประสบการณแ์ ลว้ ผรู้ ายงานท�ำ การประเมนิ
5 ชุด มีค่าเฉล่ียเท่ากับ4.42 แสดงว่า มีความสอดคล้อง เตรยี มความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรข์ องเดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 2
เหมาะสมมาก สามารถน�ำ ไปใช้จดั ประสบการณไ์ ด้ หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกม
3 . แ บ บ ป ร ะ เ มิ น เ ต รี ย ม ค ว า ม พ ร้ อ ม ท า ง การศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับ
คณิตศาสตร์ก่อนและหลังแผนการจัดประสบการณ์การ เดก็ ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 (Posttest) โดยใชแ้ บบประเมนิ เตรยี ม
เรยี นรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษา จ�ำ นวน 5 ชดุ มีคา่ ความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ ทผี่ รู้ ายงานสรา้ งขน้ึ จ�ำ นวน 5
ดัชนคี วามสอดคล้องต้ังแต่ 0.60-0.80 ชุดและบนั ทึกพัฒนาการของเดก็
วธิ กี ารด�ำ เนนิ วจิ ยั 4. นำ�ผลการประเมินก่อน ระหว่าง และหลัง
การจัดประสบการณ์การเรยี นร้โู ดยใช้ ชุดกจิ กรรมเกมการ
1. ประเมินเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ ศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็ก
ของเดก็ ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 กอ่ นการจดั ประสบการณก์ ารเรยี น ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2 ทไี่ ดม้ าวเิ คราะหข์ อ้ มลู ดว้ ยวธิ กี ารทางสถติ ิ
รู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อม
ทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้นอนุบาลปีท่ี 2 (Pretest)
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
1. ผลการวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือ
เตรียมความพรอ้ มทางคณิตศาสตร์ ส�ำ หรบั เดก็ ช้ันอนุบาลปที ี่ 2
ตารางที่ 1 แสดงประสทิ ธภิ าพของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี มความพรอ้ ม
ทางคณิตศาสตร์ ส�ำ หรับเดก็ ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 (n = 33)
ประสิทธิภาพ คะแนนเต็ม คะแนนรวม รอ้ ยละ
82.28
ประสิทธภิ าพของกระบวนการ (E1) 270 7331 82.30
ประสทิ ธภิ าพของผลลัพธ์ (E2)
50 1358
ประสิทธิภาพ E1/E2 = 82.28/82.30
165
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
จากตารางท่ี 1 แสดงประสทิ ธภิ าพของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี ม
ความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ ส�ำ หรบั เดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2พบวา่ ระหวา่ งการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรม
เกมการศึกษาเพอ่ื เตรียมความพร้อมทางคณติ ศาสตร์ ทง้ั 5 ชดุ มคี ะแนนเต็ม 270 คะแนน เด็กจำ�นวน 33 คน มีคะแนน
รใชวช้มดุ 7ก3จิ 3ก1รรคมะเกแมนกนารมศีคกึ า่ ษปารเะพสอ่ื ทิ เตธรภิ ยี ามพคขวอางมกพรระอ้บมวทนากงาครณ(Eติ 1ศ)าเสทตา่ รกซ์ บั ง่ึ 8ได2ม้.2า8จแาลกะกหาลรปงั กราะรเมจนิัดปควราะมสพบรกอ้ามรณทาก์ งาครณเรติียศนารสูโ้ ดตยร์
หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้มีคะแนนเต็ม 50 คะแนน เด็กจำ�นวน 33 คน มีคะแนนรวม 1358 คะแนนมีค่า
ปเเพปร็นื่อะเไสตปิทรตธียาิภมมาคเพกวณขามอฑพงท์ผร่ีตลอ้ ง้ัลมไพัทวธ้า8์ง0(คE/ณ28)0ิตเศทา่าสกตบั ร8ส์ 2�ำ .3ห0รบั สเรดุป็กไชด้นั ้วอ่านกบุ าารลจปัดที ปี่ ร2ะมสีคบ่ากปารระณส์กทิ าธริภเราียพน(รEโู้ 1ด/ยE2ใ)ชช้เทดุ ่ากกจิ บั กร8ร2ม.เ2ก8ม/ก82าร.3ศ0กึ ษซาง่ึ
2. ผลการเปรยี บเทยี บความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรข์ องเดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2 กอ่ นและหลงั การจดั ประสบการณ์
การเรียนรู้โดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศึกษาเพอ่ื เตรียมความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์
ตารางท่ี 2 แสดงผลการทดสอบความแตกตา่ งของความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรข์ องเดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2กอ่ นและหลงั การ
จัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพอ่ื เตรียมความพรอ้ มทางคณิตศาสตร์
ผลการทดสอบ n Χ S.D. df t
ก่อนการจดั ประสบการณก์ ารเรียนรู้ 33 25.33 3.91 32 44.587**
หลังการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้ 33 41.15 3.58
**มีนัยส�ำ คญั ทางสถิตทิ ร่ี ะดับ .01
จากตารางที่ 2 แสดงผลการทดสอบความแตกต่างของความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กชั้นอนุบาลปีท่ี 2
ก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์พบ
วา่ คา่ t-test ทีค่ �ำ นวณได้ เท่ากบั 44.587ซึ่งมีคา่ มากกวา่ คา่ tจากการเปิดตารางท่รี ะดับนยั ส�ำ คญั ( á ) = .01, df = n-1
= 32ทม่ี ีคา่ เท่ากบั 2.7385แสดงวา่ ความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กช้นั อนบุ าลปีที่ 2 หลังการจัดประสบการณ์การ
เรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ สงู กวา่ กอ่ นการจดั ประสบการณอ์ ยา่ งมนี ยั
ส�ำ คญั ทางสถติ ทิ ร่ี ะดบั .01โดยหลงั การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรเู้ ดก็ ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2 มคี วามพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ สงู
กวา่ ก่อนการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้
3. ผลการวเิ คราะหค์ า่ ดชั นปี ระสทิ ธผิ ลของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอ่ื
เตรียมความพร้อมทางคณติ ศาสตร์ สำ�หรับเดก็ ช้ันอนุบาลปีท่ี 2
ตารางที่ 3 แสดงดชั นปี ระสิทธผิ ลของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นร้โู ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี มความ
พรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ สำ�หรบั เด็กชน้ั อนุบาลปีท่ี 2
จ�ำ นวน คะแนนเตม็ ผลรวมคะแนน ผลรวมคะแนน ดชั นี
นักเรยี น 50 กอ่ นการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ หลงั การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้ ประสิทธผิ ล (E.I)
33 836 1358 0.6413
จากตารางที่ 3 แสดงดัชนปี ระสิทธิผล (E.I.) ของการจดั ประสบการณ์การเรยี นรูโ้ ดยใชช้ ดุ กิจกรรมเกมการศกึ ษาเพื่อ
เตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2พบว่า ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้
โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพอื่ เตรยี มความพร้อมทางคณติ ศาสตร์ สำ�หรบั เด็กชน้ั อนบุ าลปีท่ี 2 มีคา่ เท่ากับ 0.6413แสดงว่า
จากการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี มความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรเ์ ดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าล
ปที ่ี 2 มีความกา้ วหนา้ ความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ เพิม่ ข้ึน0.6413 หรอื คดิ เปน็ ร้อยละ 64.13
166
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
อภิปรายผล ขน้ึ มคี วามสอดคลอ้ งเหมาะสม และมปี ระสทิ ธภิ าพเทา่ กบั
83.80/81.76 เปน็ ไปตามเกณฑท์ ่กี ำ�หนด คอื 80/80 และ
1. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ สอดคล้องกับงานวิจยั ของ อรทยั เชื้อชาติ (2558 : 74) ได้
ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทาง ศกึ ษารายงานผลการพฒั นาเกมการศกึ ษาเพอ่ื เตรยี มความ
คณิตศาสตร์ สำ�หรบั เด็กช้นั อนุบาลปีที่ 2 มีประสทิ ธิภาพ พร้อมทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่
เท่ากบั 82.28/82.30 ซ่ึงเปน็ ไปตามเกณฑท์ ี่ตัง้ ไว้ (80/80) 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อหาประสิทธิภาพของเกมการศึกษา
ท้ังน้ีสืบเน่ืองมาจากการสร้างและการหาคุณภาพของชุด เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัย
เกมการศกึ ษาทม่ี ขี น้ั ตอนการสรา้ งเปน็ ระบบและครอบคลมุ ช้ันอนุบาลปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 ผลการศึกษา พบ
เนื้อหาสาระที่ก�ำ หนดไว้ เช่น มีการศึกษารายละเอยี ดของ ว่า เกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์
หลกั การ แนวคดิ สาระส�ำ คญั มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพงึ สำ�หรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีท่ี 2 มีประสิทธิภาพ
ประสงค์ คมู่ อื หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2546 Eต1ัง้ /ไEว2้ อเีกทท่าก้ังสบั อด8ค4.ล0อ้ 7ง/ก8บั3.5ก2ำ�ไลเปมน็ าไศปเตทาพมบเกตุ ณรฑ(2์ 58509/8:072ท)ี่
ทฤษฎแี ละงานวจิ ยั ตา่ งๆ โดยมกี ารวเิ คราะหแ์ ละสงั เคราะห์ ได้ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมการศึกษา
สภาพปจั จุบันปัญหาของเด็กปฐมวัย นอกจากนนั้ จากการ เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัย
สร้างชุดกิจกรรมเกมการศึกษาได้มีการปรึกษาผู้เช่ียวชาญ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 1 มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ พฒั นาความพรอ้ มทาง
และไดท้ �ำ การทดลองกอ่ นน�ำ ไปทดลองจรงิ อยา่ งเปน็ ระบบ คณติ ศาสตรข์ องเดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 1 โดยใชเ้ กมการ
และมกี ารปรบั ปรงุ แกไ้ ขตามค�ำ แนะน�ำ ของผเู้ ชยี่ วชาญใหม้ ี ศกึ ษา ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80ผลการศกึ ษาพบ
ความสมบรู ณ์ เหมาะสมสำ�หรับการจัดประสบการณ์ จาก ว่า เกมการศึกษาเพ่ือพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์
ผลการศกึ ษาสอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของบงั อร บญุ มา (2557: ของเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาลปีท่ี 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ
88-89) ไดศ้ กึ ษาผลการพฒั นาและทดลองใชเ้ กมการศกึ ษา 92.49/90.20 เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่กี �ำ หนด
สำ�หรับเด็กปฐมวัยช้ันอนุบาลปีท่ี 2 โรงเรียนบ้านนาผัก
ฮาด มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื พฒั นาและทดลองใชเ้ กมการศกึ ษา
ส�ำ หรบั เดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 ใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพตาม 2. ความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย
เกณฑ์ 80/80ผลการศึกษาพบว่าเกมการศึกษาสำ�หรับ ชั้นอนุบาลปีที่ 2 หลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดย
เด็กปฐมวัยของนักเรียนช้ันอนุบาลปีท่ี 2 โรงเรียนนาผัก ใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทาง
ฮาด มีประสิทธิภาพเท่ากับ 91.39/92.50และสอดคล้อง คณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้นอนุบาลปีท่ี 2สูงกว่าก่อนการ
กับงานวิจัยของ วราภรณ์ แก้ววรรณา (2557: 58) ได้ จัดประสบการณ์การเรียนรู้ อย่างมีนัยสำ�คัญทางสถิติที่
ศึกษาผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะ ระดบั .01ทงั้ นสี้ บื เนอ่ื งมาจากผรู้ ายงานไดส้ รา้ งและท�ำ การ
พ้ืนฐานทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาลปี ทดลองโดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความ
ที่ 2 โรงเรียนชุมชนบ้านสันมะค่ามีวัตถุประสงค์เพ่ือสร้าง พร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้นอนุบาลปีท่ี 2ด้วย
และหาประสิทธิภาพของเกมการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะ ตนเอง ทำ�ให้สังเกตเห็นพัฒนาการของเด็กก่อน ระหว่าง
พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาล และหลังการทำ�กิจกรรมของเด็กปฐมวัยแต่ละคน และได้
ปีท่ี 2ผลการศึกษาพบว่า เกมการศึกษาเพ่ือพัฒนาทักษะ บันทึกพัฒนาการเด็กไว้ รวมถึงได้คอยแนะนำ� ช่วยเหลือ
พ้ืนฐานทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาล อธิบาย สาธิต ให้เด็กได้มีความเข้าใจขณะปฏิบัติกิจกรรม
ปีท่ี 2 มีประสิทธิภาพ 90.33/91.67 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ จากผลการศึกษาสอดคล้องกับงานวิจัยของพรพิมล
กำ�หนด 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1 นอกจากนี้ ชว่ ยชวู งศ์ (2555 : 78) ไดศ้ กึ ษาการจดั ประสบการณโ์ ดยใช้
ยงั สอดคลอ้ งกับงานวิจัยของ ดวงเดอื น ติยะบตุ ร(2558 : เกมการศกึ ษาเพอื่ พฒั นาทกั ษะพน้ื ฐานทางคณติ ศาสตรแ์ ละ
86) ไดศ้ กึ ษารายงานการจดั ประสบการณเ์ พอื่ พฒั นาความ การคดิ เชงิ วเิ คราะห์ ส�ำ หรบั เดก็ ปฐมวยั ผลการศกึ ษาพบวา่
พรอ้ มทางคณติ ศาสตรข์ องเดก็ ปฐมวยั ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 1 โดย เดก็ ปฐมวยั ทไ่ี ดร้ บั การจดั ประสบการณโ์ ดยใชเ้ กมการศกึ ษา
ใชเ้ กมการเลน่ เชงิ คณติ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ หาประสทิ ธภิ าพ มีการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์และการคิดเชิง
เกมการเล่นเชิงคณิตให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 วิเคราะหส์ งู กวา่ กอ่ นจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำ�คญั ทาง
ผลการพัฒนาพบว่า เกมการเล่นเชงิ คณติ ทีผ่ ูร้ ายงานสร้าง สถิติท่ีระดับ .01 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ สุมาพร
167
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เฉลมิ ผจง (2556 : 129) ไดศ้ กึ ษาผลการจัดประสบการณ์ การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา เพ่ือพัฒนาทักษะพื้นฐาน
โดยใชเ้ กมเชงิ คณติ ศาสตรท์ ม่ี ีต่อความสามารถพ้ืนฐานทาง ทางคณิตศาสตร์ ส�ำ หรบั เดก็ ปฐมวัย ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 ผล
คณติ ศาสตรข์ องเดก็ ปฐมวยั มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ เปรยี บเทยี บ การศึกษาพบว่า เด็กมีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์หลัง
ความสามารถพ้ืนฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียนและหลัง การจดั กจิ กรรมเกมการศึกษา สงู กว่ากอ่ นการจดั กจิ กรรม
เรยี นทไี่ ดร้ บั การสอนโดยการจดั ประสบการณเ์ กมการศกึ ษา เกมการศกึ ษา อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทางสถติ ทิ รี่ ะดบั .05 ซงึ่ เปน็
ผลการวิจัยพบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์ ไปตามสมมติฐานข้อท่ี 2 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ
โดยใช้เกมเชิงคณิตศาสตร์ มีความสามารถพ้ืนฐานทาง ดวงเดือน ตยิ ะบุตร (2558 : 86) ไดศ้ ึกษารายงานการจัด
คณติ ศาสตรห์ ลงั เรยี นสงู กวา่ กอ่ นเรยี น อยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั ทาง ประสบการณ์เพ่ือพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของ
สถิติท่ีระดับ .05 นอกจากน้ียังสอดคล้องกับงานวิจัยของ เดก็ ปฐมวยั ช้ันอนบุ าลปีที่ 1 โดยใช้เกมการเล่นเชิงคณิต มี
สมุ ารยี ์ ไชยประสพ (2557 : 95) ไดศ้ กึ ษาการพฒั นาทกั ษะ วัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบความพร้อมทางคณิตศาสตร์
พื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรม ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้
เกมการศึกษา โรงเรยี นโป่งนำ้�รอ้ นวทิ ยา จังหวัดเชยี งใหม่ เกมการเล่นเชิงคณิต ผลการศึกษาพบว่า ผลต่างระหว่าง
มีวัตถุประสงค์เพ่ือพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ คะแนนก่อนและหลังการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมการ
สำ�หรับเด็กปฐมวัยโดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา และ เลน่ เชงิ คณิต โดยใช้ t-test แบบ dependent แตกต่าง
ศึกษาผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะ กันอย่างมีนัยสำ�คัญทางสถิติที่ระดับ .01 แสดงว่าเด็กชั้น
พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ผลการวิจัยพบ อนบุ าลปที ี่ 1 ทไี่ ดร้ บั การจดั ประสบการณโ์ ดยใชเ้ กมการเลน่
ว่า การพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็ก เชงิ คณติ มคี วามพรอ้ มทางคณติ ศาสตรส์ งู ขน้ึ ขณะเดยี วกนั
ปฐมวัย โดยใช้กิจกรรมเกมการศึกษา โรงเรียนโปง่ น้�ำ รอ้ น ยงั สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ อรทยั เชอ้ื ชาติ (2558 :74) ได้
วิทยา มีการพัฒนาทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำ�หรับ ศกึ ษารายงานผลการพฒั นาเกมการศกึ ษาเพอ่ื เตรยี มความ
เดก็ ปฐมวยั โดยรวมผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ มรี ้อยละของ พรอ้ มทางคณติ ศาสตรส์ �ำ หรบั เด็กปฐมวยั ชนั้ อนบุ าลปที ี่ 2
คะแนนเต็มเท่ากับ 86.37ซ่ึงสูงกว่าเกณฑ์ท่ีกำ�หนดไว้ คือ มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เปรยี บเทยี บความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์
ร้อยละ 75 ท้งั นเ้ี ด็กปฐมวยั มีคะแนนก่อนการจัดกิจกรรม ส�ำ หรบั เดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2558 กอ่ น
เกมการศึกษา ร้อยละ 5.73 และคะแนนเฉล่ียหลังการ การจดั กจิ กรรมและหลงั การจดั กจิ กรรมดว้ ยเกมการศกึ ษา
จัดกิจกรรมเกมการศึกษา ร้อยละ 9.00 และมีคะแนน เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ผลการศึกษา พบ
เฉล่ียความก้าวหน้าสูงข้ึน 3.27 คิดเป็นร้อยละของความ ว่า เดก็ ปฐมวัย ช้ันอนบุ าลปีที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2558 ทีเ่ รียน
ก้าวหน้าเท่ากับ 32.75 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ โดยใชเ้ กมการศกึ ษาเพอ่ื เตรยี มความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์
บังอร บุญมา (2557: 88-89) ไดศ้ กึ ษาผลการพัฒนาและ ส�ำ หรับเด็กปฐมวยั ช้นั อนบุ าลปที ี่ 2 มีคะแนนทดสอบหลงั
ทดลองใช้เกมการศึกษาสำ�หรับเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่ การจดั กจิ กรรมสงู กวา่ กอ่ นการจดั กจิ กรรมอยา่ งมนี ยั ส�ำ คญั
2 โรงเรียนบ้านนาผกั ฮาด มวี ัตถปุ ระสงคเ์ พอื่ เปรยี บเทยี บ ทางสถิติที่ระดับ .05 และสอดคล้องกับงานวิจัยของ
ผลพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนและหลัง กำ�ไลมาศ เทพบุตร (2559 : 72) ได้ศึกษาผลการจัด
เรียนโดยใช้เกมการศึกษาสำ�หรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาล กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมการศึกษา เพ่ือพัฒนาความ
ปีท่ี 2 ผลการศึกษาพบว่าผลการพัฒนาความพร้อมทาง พร้อมทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีท่ี
คณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษาสำ�หรับเด็กปฐมวัย ของ 1 มวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอ่ื เปรยี บเทยี บผลพฒั นาความพรอ้ มทาง
นักเรียนชั้นอนบุ าลปีที่ 2 โรงเรียนนาผักฮาด ส�ำ นกั งานเขต คณติ ศาสตร์ ระหวา่ งกอ่ นเรยี นกบั หลงั เรยี น ของเดก็ ปฐมวยั
พืน้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาอุตรดติ ถ์ เขต 2 หลงั เรยี นสงู ชั้นอนุบาลปีที่ 1ผลการศึกษาพบว่าผลการเปรียบเทียบ
กว่าก่อนเรยี นอย่างมีนัยสำ�คัญทางสถติ ทิ ีร่ ะดบั .01 อกี ทัง้ ความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรร์ ะหวา่ งกอ่ นเรยี นกบั หลงั เรยี น
สอดคลอ้ งกบั งานวจิ ยั ของ วราภรณแ์ กว้ วรรณา (2557: 58) ของเดก็ ปฐมวยั ชั้นอนุบาลปีที่ 1 ท่ไี ดร้ บั การพัฒนาความ
ไดศ้ กึ ษาผลการจดั กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอ่ื พฒั นาทกั ษะ พร้อมทางคณิตศาสตร์โดยใช้เกมการศึกษา ชั้นอนุบาลปี
พื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำ�หรับเดก็ ปฐมวยั ชนั้ อนุบาลปที ี่ ที่ 1 โรงเรียนอนุบาลเทศบาลตำ�บลหนองหญ้าไซ จังหวัด
2 โรงเรียนชุมชนบ้านสันมะค่ามีวัตถุประสงค์เพ่ือเปรียบ สุพรรณบุรี หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำ�คัญ
เทียบทักษะพ้ืนฐานทางคณิตศาสตร์ก่อนและหลังได้รับ ทางสถิติที่ระดบั .05 โดยทีเ่ ดก็ มผี ลพัฒนาความพร้อมทาง
168
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
คณติ ศาสตรห์ ลงั เรยี น เฉลย่ี เทา่ กบั 18.04 สงู กวา่ กอ่ นเรยี น เด็กปฐมวยั ช้นั อนุบาลปีท่ี 1 มีคา่ เท่ากบั 0.7610 แสดง
ทม่ี ีคา่ เฉลี่ยเทา่ กับ 11.80 วา่ นักเรยี นมคี วามร้เู พิ่มข้ึน 0.7610 หรือ คิดเปน็ ร้อยละ
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์ 76.10
การเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมเกมการศกึ ษาเพอื่ เตรยี มความ ขอ้ เสนอแนะ
พร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับเด็กชั้นอนุบาลปีท่ี 2 มีค่า
เท่ากับ 0.6413 แสดงว่า จากการจัดประสบการณ์การ ขอ้ เสนอแนะที่ได้จากการศกึ ษา
เรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาเพ่ือเตรียมความ 1. เด็กมีความสนใจและกระตือรือร้นเป็น
พรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ เดก็ ปฐมวยั ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 2 มคี วาม อยา่ งดีในการทำ�กิจกรรมต่างๆ อย่างสนกุ สนาน
กา้ วหนา้ ความพรอ้ มทางคณติ ศาสตร์ เพม่ิ ขน้ึ 0.6413 หรอื
คิดเป็นร้อยละ 64.13ท้ังนี้สืบเนื่องมาจากชุดกิจกรรมเกม 2. เดก็ ไดแ้ สดงออกทางดา้ นรา่ งกาย อารมณ์
การศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำ�หรับ จติ ใจ สงั คม และสติปญั ญาไปพรอ้ มๆ กนั อย่างอิสระผ่าน
เดก็ ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 2ทส่ี รา้ งขนึ้ มปี ระสทิ ธภิ าพสงู กวา่ เกณฑ์ การทำ�กจิ กรรมในลักษณะของการเลน่ เกมการศกึ ษา
ท่ีต้ังไว้และการประเมินพัฒนาการหลังการใช้ชุดเกมการ 3. ในการปฏิบัติกิจกรรมครูต้องมีความ
ศึกษาสูงกว่าก่อนการใช้ชุดกิจกรรมเกมการศึกษาจากผล ระมัดระวัง คอยดูแล เอาใจใส่ และทำ�ความเข้าใจ เช่นมี
การศึกษาสอดคล้องกับงานวิจัยของบังอร บุญมา (2557: การบอกหรือสาธติ ใหเ้ ดก็ กอ่ นทุกครัง้
88-89) ไดศ้ กึ ษาผลการพฒั นาและทดลองใชเ้ กมการศกึ ษา
ส�ำ หรบั เด็กปฐมวยั ช้นั อนบุ าลปที ี่ 2 โรงเรยี นบ้านนาผักฮา 4. เด็กจะเห็นคุณค่าและมีความภาคภูมิใจ
ดมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการพัฒนา จากได้ทำ�กิจกรรมต่างๆ ที่เด็กและครูร่วมกันปฏิบัติและ
และทดลองใชเ้ กมการศกึ ษาส�ำ หรบั เดก็ ปฐมวยั ชนั้ อนบุ าล ร่วมกนั สรปุ ผลท่ีเกดิ ข้ึน
ปที ่ี 2 ให้เป็นไปตามเกณฑ์ทีก่ ำ�หนดผลการศกึ ษาพบว่าคา่
ดัชนีประสิทธิผลของเกมการศึกษาสำ�หรับเด็กปฐมวัยของ ขอ้ เสนอแนะเพือ่ การศึกษาคร้ังตอ่ ไป
นกั เรยี นชัน้ อนบุ าลปที ่ี 2 โรงเรยี นนาผกั ฮาด สำ�นักงานเขต 1. ควรมีการศึกษาผลการจัดกิจกรรมเกม
พนื้ ทก่ี ารประถมศกึ ษาอตุ รดติ ถ์ เขต 2 มคี า่ เทา่ กบั 0.8636 การศึกษาเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ที่มีต่อ
หมายความวา่ ผเู้ รียนมีความรู้เพ่มิ ขึ้นรอ้ ยละ 86.36 และ พัฒนาการด้านอื่นๆ เช่นความสามารถด้านการคิด แก้
สอดคล้องกับงานวิจัยของ กำ�ไลมาศเทพบุตร (2559 : ปญั หา ทกั ษะการสอื่ ภาษา และพฒั นาการทางดา้ นรา่ งกาย
72) ได้ศึกษาผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้เกมการ
ศึกษา เพื่อพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำ�หรับ 2. ควรศกึ ษาเปรยี บเทยี บผลการจดั กจิ กรรม
เด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปที ี่ 1 มวี ตั ถุประสงค์เพื่อศกึ ษาค่า เกมการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์
ดัชนีประสิทธิผลของเกมการศึกษาท่ีมีผลต่อการพัฒนา ส�ำ หรบั เด็กชนั้ อนบุ าลปีที่ 2ในกลุ่มตวั อย่างอ่ืนๆ เช่น กลุ่ม
ความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปี ตัวอย่างจากโรงเรียนในสำ�นักงานการศึกษาเขตพ้ืนท่ีต่างๆ
ที่ 1ผลการศึกษาพบว่า ค่าดัชนีประสิทธิผลของเกมการ เปน็ ต้น
ศกึ ษาทม่ี ผี ลตอ่ การพฒั นาความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรข์ อง
169
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เอกสารอา้ งองิ
กนกกานต์ อยูส่ ขุ . (2553). การพฒั นาชดุ เกมการศึกษา เพือ่ สง่ เสรมิ ความสามารถด้านสติปัญญา สำ�หรบั เด็ก
ปฐมวัย. การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองการศกึ ษามหาบณั ฑิต สาขาวิชาวิจยั และประเมินผลการศึกษา.
มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ก�ำ ไลมาศ เทพบุตร. (2559). ผลการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใช้เกมการศกึ ษา เพอื่ พฒั นาความพรอ้ มทาง
คณติ ศาสตรส์ �ำ หรบั เดก็ ปฐมวยั ชั้นอนุบาลปีท่ี 1. สพุ รรณบุรี : โรงเรยี นอนบุ าลเทศบาลตำ�บล
หนองหญ้าไซ.
ดวงเดอื น ติยะบตุ ร. (2558). รายงานการจดั ประสบการณ์ เพอื่ พัฒนาความพร้อมทางคณติ ศาสตร์ของเด็ก
ปฐมวัย ช้ันอนบุ าลปที ่ี 1. นครพนม : โรงเรยี นอนุบาลบา้ นแพง.
บงั อร บญุ มา. (2557). รายงานผลการพฒั นาและทดลองใช้เกมการศกึ ษาส�ำ หรับเด็กปฐมวัยช้นั อนบุ าลปที ี่ 2
โรงเรียนบ้านนาผกั ฮาด. อุตรดติ ถ์ : โรงเรยี นบ้านนาผักฮาด.
พรพมิ ล ชว่ ยชวู งศ์. (2555). การจัดประสบการณ์โดยใชเ้ กมการศกึ ษาเพอื่ พัฒนาทักษะพ้ืนฐานทางคณิตศาสตร ์
และการคิดเชิงวเิ คราะห์ สำ�หรบั เดก็ ปฐมวยั . วทิ ยานิพนธ์ครศุ าสตรมหาบัณฑติ สาขาวชิ าหลักสตู รและ
การสอน. มหาวิทยาลยั ราชภฏั สงขลา.
โรงเรียนเทศบาล ๓ (วิมกุ ตายนวทิ ยา). รายงานผลการพฒั นาการจัดกิจกรรมของเดก็ ปฐมวัย โรงเรียนเทศบาล ๓
(วิมุกตายนวทิ ยา). นราธิวาส : โรงเรยี นเทศบาล ๓ (วมิ ุกตายนวิทยา).
วราภรณ์ แกว้ วรรณา. (2557). รายงานผลการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาเพือ่ พฒั นาทกั ษะพื้นฐานทางคณติ ศาสตร ์
สำ�หรับเด็กปฐมวยั ชัน้ อนุบาลปที ่ี 2 โรงเรยี นชุมชนบา้ นสนั มะค่า. เชียงราย : โรงเรียนชมุ ชนบา้ นสันมะคา่ .
วัชรา เล่าเรยี นดี. (2555). รปู แบบและกลยทุ ธก์ ารจัดการเรียนรู้ เพือ่ พฒั นาทักษะการคดิ . พิมพ์ครงั้ ท่ี 9. นครปฐม.
โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศลิ ปากร วทิ ยาเขตพระราชวังสนามจันทรน์ ครปฐม.
สถาบนั ราชานกุ ูล กรมสขุ ภาพจติ . (2557). การเตรียมความพร้อมทักษะพื้นฐานดา้ นคณิตศาสตร์ในเด็กปฐมวัย.
กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พ์ชมุ นมุ สหกรณ์การเกษตรแหง่ ประเทศไทย จำ�กัด.
สถาบนั สง่ เสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2553). กรอบมาตรฐานการเรียนรู้
คณิตศาสตร์ปฐมวัย ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอน
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี
ส�ำ นกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). แผนการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560 – 2579. กรุงเทพฯ:
โรงพมิ พ์บริษทั พรกิ หวานกราฟฟิค จำ�กัด.
ส�ำ นกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา กระทรวงศึกษาธิการ. (2546). หลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พ.ศ.2546. กรุงเทพฯ :
โรงพิมพ์ สกสค. ลาดพรา้ ว.
. (2551). คมู่ อื หลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2546 (สำ�หรับเดก็ อายุ 3-5 ปี). กรุงเทพฯ : โรงพมิ พ์
สกสค. ลาดพรา้ ว.
สุมาพร เฉลิมผจง. (2556). ผลการจดั ประสบการณโ์ ดยใช้เกมเชิงคณิตศาสตร์ท่ีมตี อ่ ความสามารถพน้ื ฐานทางคณติ ศาสตร์
ของเด็กปฐมวัย. ก�ำ แพงเพชร : เอกสารอดั ส�ำ เนา.
สมุ ารีย์ ไชยประสพ. (2557). การพฒั นาทกั ษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ส�ำ หรบั เดก็ ปฐมวัยโดยใช้กจิ กรรมเกมการศกึ ษา
โรงเรียนโป่งนำ้�ร้อนวิทยา จงั หวัดเชยี งใหม.่ เชยี งใหม่ : โรงเรียนโปง่ น�้ำ ร้อนวทิ ยา. เอกสารอัดสำ�เนา.
อรทยั เชอ้ื ชาติ. (2558). รายงานผลการพฒั นาเกมการศกึ ษาเพ่ือเตรียมความพรอ้ มทางคณติ ศาสตรส์ �ำ หรบั เด็กปฐมวัย
ช้ันอนบุ าลปีที่ 2. เลย : โรงเรยี นบา้ นห้วยคะมะ.
กองบรรณาธกิ าร
170
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
การจัดประสบการณ์การเรยี นรู้โดยใช้ชุดกจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์
ด้วยการปน้ั นูนต่ำ� เพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมดั เลก็ สำ�หรับเด็กปฐมวยั ชน้ั อนุบาลปีท่ี 1
The Learning Experiences by using Creative Art Activity Sets with Low Relief
to Develop Small Muscles for Early Childhood in 1st Kindergarten.
วิไล กระจบั เงนิ *1
Wilai Krachapngoen *1
[email protected] *
สง่ บทความ 4 สิงหาคม 2562 แกไ้ ข 22 สิงหาคม 2562 ตอบรบั 10 กนั ยายน 2562
บทคัดยอ่
การศึกษาในคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือ 1) เพื่อพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะ
สรา้ งสรรค์ ใหม้ ปี ระสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทยี บพัฒนากลา้ มเนื้อมดั เล็กเดก็ ปฐมวยั ช้นั อนบุ าลปที ่ี 1 3)
เพอื่ ศกึ ษาดชั นปี ระสทิ ธผิ ลของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ กลมุ่ ตวั อยา่ งไดแ้ ก่ เดก็
ปฐมวยั ช้นั อนบุ าลปีที่ 1/5 โรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 จ�ำนวน 19 คน ซง่ึ มาโดย
การสุ่มแบบแบ่งกลมุ่ ( Cluster Random Sampling) เคร่อื งมอื ทีใ่ ช้ในการวจิ ยั ไดแ้ ก่ 1) แผนการจดั ประสบการณ์การ
เรียนรู้ โดยใช้ชุดกจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ จ�ำนวน 40 แผน 2) ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรคด์ ้วยการปน้ั นนู ตำ่� จ�ำนวน 8
เลม่ และ 3) แบบประเมนิ การพฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวยั กอ่ น-หลงั การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ จ�ำนวน
20 ขอ้ สถติ ทิ ี่ใช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มูล ได้แก่ คา่ รอ้ ยละ คา่ เฉลยี่ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และคา่ t-test แบบ Depen-
dent Samples
ผลวิจยั พบว่า
1. การจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำ มีประสิทธิภาพ
เทา่ กบั 83.03/84.47 ซึง่ เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่ีก�ำหนดไว้ 80/80
2. การพฒั นากลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ ส�ำหรบั เด็กปฐมวัย ชน้ั อนบุ าลปที ี่ 1 ทไี่ ดร้ บั การจดั ประสบการณก์ ารเรียน
_รู้โ_ด_ย_ใ_ช_้ช_ุด_ก_ิจ_ก_ร_ร_ม_ศ_ิล_ป_ะ_สร้างสรรค์ ด้วยการปั้นนูนต่�ำ มีคะแนนเฉล่ียหลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัด
1 ครูช�ำ นาญการ โรงเรยี นเทศบาลเมืองปทมุ ธานี อำ�เภอเมือง จังหวัดปทมุ ธานี
1 Professinal Level Teachers Thessabanpathumthani school , Muang District, Patumtani Province.
171
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ประสบการณ์อยา่ งมนี ัยส�ำคัญทางสถติ ทิ ี่ระดบั .05
3. ดชั นปี ระสทิ ธผิ ลของการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศิลปะสร้างสรรค์ดว้ ยการปน้ั นูน
ต่ำ� เฉลย่ี โดยรวมเทา่ กบั 0.6550 แสดงว่านักเรียนมีความกา้ วหนา้ ทางการเรียนเพิ่มขนึ้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 65.50
ค�ำส�ำคญั ชุดกจิ กรรมศิลปะ กลา้ มเนือ้ มดั เล็ก การป้ันนูนต่�ำ
Abstract
The objectives of this study were to : 1) develop learning experiences by using creative art
activities To be effective according to the criteria 80/80 2) compare the development of small muscles
for early childhood Kindergarten Year 1 3) study the effectiveness index of learning experiences man-
agement by using creative art activity sets. The sample group consisted of preschool children, kinder-
garten, year 1/5, Thessabanpathumthani school, semester 2, academic year 2017, 19 people who
came by Cluster Random Sampling. The tools used in the research were: 1) learning experience plan
by using a set of creative arts activities in the amount of 40 plans 2) a set of creative art activities with
a low relief of 8 books and 3) a evaluation form for small muscle development for early childhood
Before - after 20 learning experiences. The statistics used in data analysis were percentage, mean,
standard deviation and t-test Dependent Samples
The research found that
1. The learning experiences by using creative art activity sets with low relief with efficien-
cy of 83.03 / 84.47 which is in accordance with the criteria set 80/80.
2. Small muscle development for early childhood kindergarten year 1 that has been
organized learning experiences using a set of creative arts activities with low relief with an average
score after organizing experiences higher than before the experience arrangement at statistical signif-
icance level of .05.
3. The effectiveness index of learning experience management by using creative art
activity sets with low relief the overall average is 0.6550, indicating that students have progressed to
increase by 65.50 percent.
Keywords : Creative art activity sets Small muscles Low relief
172
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
บทน�ำ สัมพันธ์กัน โดยจัดกิจกรรมให้เด็กได้แล่นเครื่องเล่นสัมผัส
เลน่ เกมการศกึ ษา ฝกึ ชว่ ยเหลอื ตนเองในการแตง่ กาย หยบิ
พัฒนาการด้านร่างกายเป็นกระบวนการ จบั ชอ้ นสอ้ ม และใชว้ สั ดอุ ปุ กรณศ์ ลิ ปะ เชน่ สเี ทยี น กรรไกร
เปล่ยี นแปลงโครงสรา้ งของร่างกาย การเจรญิ เตบิ โต และ พู่กนั ดินเหนียว ฯลฯ
ความสามารถในการใชก้ ล้ามเนอ้ื ใหญ่ กลา้ มเน้อื เล็ก และ
การท�ำงานประสานสมั พนั ธข์ องกลา้ มเนอื้ สว่ นตา่ งๆ ในการ การสง่ เสรมิ ความสามารถในการใช้กล้ามเน้ือมัด
เคลื่อนไหวท่ีเด็กวัยนี้ใช้เป็นเคร่ืองมือในการส�ำรวจตนเอง เลก็ ของเดก็ ปฐมวยั สามารถท�ำไดห้ ลายวธิ ี เชน่ กจิ กรรมการ
และโลกรอบตวั การสง่ เสรมิ และพฒั นาด้านรา่ งกายให้แก่ เคล่ือนไหวและจังหวะ การเล่นตามมุม กิจกรรมเกมการ
เดก็ ปฐมวยั นอกจากจะชว่ ยใหเ้ ดก็ เจรญิ เตบิ โตมโี ครงสรา้ ง ศึกษาและกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เช่น การวาดภาพ
พนื้ ฐานของรา่ งกายสมวยั แลว้ ยงั ชว่ ยเสรมิ สรา้ งกระดกู และ ระบายสี การปั้น การฉีก ตัด ปะ การประดิษฐ์เศษวัสดุ
กล้ามเน้ือใหญ่แข็งแรงท�ำงานได้อย่างประสานสัมพันธ์กัน เปน็ ตน้ ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั รงุ่ รวี กนกวบิ ลู ยศ์ ร.ี (2555 : 199)
ชว่ ยการเชอ่ื มโยงของเซลลป์ ระสาท กระตนุ้ การท�ำงานของ ท่ีกลา่ ววา่ กิจกรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ เชน่ การน�ำดนิ นำ้� มัน
สมอง และยงั ชว่ ยเตรียมความพรอ้ มในการเขียนใหแ้ ก่เดก็ หรือแปง้ โดวม์ าปัน้ เล่น การน�ำกระดาษ พกู่ ัน สีเทียน สไี ม้
การจัดประสบการณ์เพ่ือพัฒนาด้านร่างกายให้แก่เด็ก เพ่ือวาดภาพ ระบายสี หรืออาจเปล่ียนกิจกรรมการวาด
ปฐมวัยควรมีความเหมาะสมกับวุฒิภาวะหรือความพร้อม ภาพในกระดาษมาเปน็ การใชไ้ มว้ าดบนพนื้ ดนิ พน้ื ทราย ใน
ของแต่ละบุคคลโดยมีแนวทางการจัดที่เน้นผู้เรียนเป็น สนามหน้าบ้านก็ได้ หรือกิจกรรมการร้อยดอกไม้ด้วยก้าน
ส�ำคัญ ค�ำนึงถึงความปลอดภัยและให้เด็กเรียนรู้อย่างมี มะพร้าว ซึ่งเด็กต้องมีสมาธิ นิ้วมือต้องจับให้ม่ัน ต้องใช้
ความสขุ ทง้ั นกี้ จิ กรรมทจ่ี ดั ควรใหค้ รอบคลมุ ทง้ั ดา้ นสขุ ภาพ สายตา ในการเสียบดอกไม้ หรอื การน�ำเครือ่ งเล่นประเภท
อนามยั การใชก้ ลา้ มเนอ้ื ใหญแ่ ละกลา้ มเนอ้ื เลก็ โดยเลอื กใช้ เสียบต่อ เช่นพลาสติกสร้างสรรค์ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมือ
กิจกรรมและสื่ออุปกรณ์ท่ีหลากหลายให้สอดคล้องกับ และสายตาได้เหมือนกัน ลักษณะของกิจกรรมสร้างสรรค์
ลกั ษณะของกจิ กรรม เดก็ ปฐมวยั กบั การใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ ส�ำหรับเด็กปฐมวัยนั้น จะบูรณาการในช่วงของกิจกรรม
ได้แก่ การเคลอื่ นไหวของกล้ามเนือ้ น้วิ มอื มือ รวมท้งั การ สรา้ งสรรค์ ซง่ึ เปน็ กจิ กรรมทเ่ี ปดิ โอกาสใหเ้ ดก็ ไดใ้ ชป้ ระสาท
ประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาเป็นพัฒนาการทาง สัมผัส ในการรับรู้และการเคล่ือนไหวร่างกายในการ
รา่ งกายทม่ี คี วามส�ำคญั ตอ่ เดก็ มาก ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากเดก็ ตอ้ ง ควบคมุ ล�ำตวั แขน น้วิ มือใหป้ ระสานสมั พนั ธ์กนั กบั การใช้
ใช้มือ และประสาทสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาในการท�ำ เครื่องมือต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานตามความต้องการ
กจิ กรรมตา่ ง ๆ การหยบิ จบั สงิ่ ของ ท�ำกจิ วตั รประจ�ำวนั เชน่ ของตนเอง (สรวงพร กศุ ลส่ง. 2559 : 114)
การอาบนำ�้ แปรงฟัน การใส่และถอดกระดุม การผกู เชอื ก
รองเทา้ การรบั ประทานอาหาร การหยบิ จับภาชนะ การ การจดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคส์ ามารถน�ำวสั ดุ
รอ้ ยลูกปัด การเลน่ ของเล่น ฯลฯ นอกจากน้ใี นการท�ำงาน ต่างๆ น�ำมาเป็นส่ือประกอบในการสร้างสรรค์งานศิลปะ
ศิลปะและการขีดเขียน เด็กจะต้องบังคับมือและน้ิวมือให้ เพราะการจดั กจิ กรรมส�ำหรบั เดก็ ปฐมวยั ตอ้ งอาศยั สง่ิ เรา้ ท่ี
ได้ก่อนจึงจะสามารถวาดภาพระบายสีและจับดินสอเขียน อยใู่ นรปู ของสอื่ วสั ดอุ ปุ กรณท์ หี่ ลากหลาย ซง่ึ อปุ กรณเ์ หลา่
ตัวอักษร จะเห็นได้ว่าพัฒนาการด้านการใช้กล้ามเน้ือมัด นจี้ ะเปน็ ตวั เรา้ ความสนใจในการท�ำกจิ กรรม ซง่ึ สอดคลอ้ ง
เล็กและการท�ำงานประสานกันระหว่างมือกับตาเป็นพ้ืน กับ บุบผา เรืองศิลป์ (2553:19) กล่าวว่า กิจกรรม
ฐานทสี่ �ำคญั ของการเขยี น และการอา่ นหนงั สอื ของเดก็ ดว้ ย สรา้ งสรรคเ์ ปน็ กจิ กรรมทช่ี ว่ ยใหเ้ ดก็ แสดงออกทางอารมณ์
(อรุณี หรดาล 2560 : 101) จากความส�ำคัญของความ ความร้สู กึ ความคิดรเิ ริม่ สร้างสรรค์ และจินตนาการโดยใช้
สามารถในการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กดังกล่าว หลักสูตรการ ศิลปะ ในการส่งเสริมพัฒนากล้ามเน้ือมือ ให้แข็งแรงและ
ศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 (กระทรวงศึกษาธิการ การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตาเพ่ือเป็นพ้ืนฐาน
2560 : 41) ได้กล่าวถึงการพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็กไว้ว่า ทกั ษะการเขยี นท่ีดตี ่อไป
เป็นการพัฒนาความแข็งแรงของกล้ามเน้ือมัดเล็ก กล้าม จากประสบการณท์ ผ่ี รู้ ายงานปฏบิ ตั หิ นา้ ทเี่ ปน็ ครู
เนื้อมือ น้ิวมือ การประสานสัมพันธ์ระหว่างกล้ามเนื้อมือ ผสู้ อนชน้ั อนบุ าลปที ่ี 1 โรงเรยี นเทศบาลเมอื งปทมุ ธานี เมอ่ื
และระบบประสาทตามือได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน มีการทดสอบสมรรถภาพประจ�ำปีของเด็กปฐมวัย ช้ัน
173
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
อนบุ าลปีที่ 1 เดก็ ส่วนใหญ่ยังมปี ญั หาในการใช้กล้ามเนอื้ ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
มัดเล็กในการท�ำกิจกรรมซึ่งยังไม่คล่องแคล่วและม่ันคง
สงั เกตไดจ้ ากวธิ กี ารหยบิ จบั สงิ่ ตา่ งๆ ในชวี ติ ประจ�ำวนั การ 2. เพอ่ื เปรยี บเทยี บการจดั ประสบการณก์ ารเรยี น
ลากเสน้ ตามรอยประยงั ไมถ่ กู ทศิ ทาง การใชช้ อ้ นตกั อาหาร รู้ โดยใชช้ ุดกจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ดว้ ยการป้ันนูนต่ำ�
ยังบังคับกล้ามเน้ือมัดเล็กได้ไม่ดีพอ จากผลการประเมิน 3. เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัด
คุณภาพภายในของโรงเรยี นเด็กชั้นอนบุ าลปีที่ 1 โรงเรยี น ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ โดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
เทศบาลเมืองปทุมธานี ปีการศึกษา 2559 (รายงานการ ดว้ ยการปน้ั นนู ต�่ำ
ประเมินคุณภาพภายในโรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี
2560 : 20 ) มาตรฐานดา้ นคณุ ภาพผูเ้ รยี น มาตรฐานท่ี 1 สมมตฐิ านของการศึกษา
เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย ตัวบ่งช้ีท่ี 1.2 ทักษะการ เด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีท่ี 1 โรงเรียนเทศบาล
เคลอ่ื นไหวตามวยั ผลการประเมนิ พบวา่ เดก็ มที กั ษะในการ เมืองปทุมธานี มีการพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็กหลังการจัด
เคลื่อนไหวตามวัยอยู่ในระดับพอใช้ ท้ังนี้สอดคล้องกับ ร ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
ชยา ธนธัญชโู ชติ ( 2554 : 22) กลา่ วไว้วา่ การประเมิน ด้วยการปนั้ นนู ต�ำ่ สูงกวา่ กอ่ นการจดั กิจกรรม
ความสามารถของกลามเนือ้ มอื เดก็ น้นั ครคู วรสังเกต ดา น
ความคลองแคล่ว ความออนตัว ความสามารถในการ ประชากรและกลมุ่ ตัวอยา่ ง
ควบคมุ กลา มเนอ้ื นว้ิ และมอื การประสานของกลา มเนอ้ื นว้ิ
และมือ การรับรูดานประสาทสัมผัสใหทํางานประสานสัม 1.1 ประชากร ไดแ้ ก่ เดก็ ปฐมวยั ชั้นอนบุ าลปีท่ี
พันธกนั ผานกิจกรรมตางๆ เชน การตัดกระดาษ การเขียน 1 ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศึกษา 2560 โรงเรยี นเทศบาลเมือง
เสน การวาดรปู ตามแบบ การวาดรปู ตามรอยประ การพบั ปทุมธานี มจี �ำนวน 5 ห้องเรียน ประกอบดว้ ย อนบุ าล 1/1
กระดาษ การระบายสี การรอ ยวัสดุ สอดคล้องกบั อาทิต จ�ำนวน 19 คน อนุบาล 1/2 จ�ำนวน 19 คน อนุบาล 1/3
ยา วงศม์ ณี (2554 : 61) ทไี่ ดด้ �ำเนนิ วจิ ยั ผลการจดั กจิ กรรม จ�ำนวน 19 คน อนุบาล 1/4 จ�ำนวน 19 คน อนบุ าล 1/5
การปน้ั ทมี่ ผี ลตอ่ ทกั ษะกลา้ มเนอื้ มดั เลก็ ของเดก็ ปฐมวยั พบ จ�ำนวน 19 คน รวมประชากรทง้ั หมด 95 คน
ว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการปั้นมีคะแนน 1.2 กล่มุ ตัวอย่าง ไดแ้ ก่ เดก็ ปฐมวยั ชั้นอนบุ าล
ทกั ษะกลา้ มเนอื้ มดั เลก็ หลงั ไดร้ บั การจดั กจิ กรรมการปน้ั สงู ปที ี่ 1/5 โรงเรียนเทศบาลเมอื งปทุมธานี ภาคเรียนที่ 2 ปี
กว่าก่อนได้รับการจัดกิจกรรมการปั้นอย่างมีนัยส�ำคัญทาง การศกึ ษา 2560 จ�ำนวน 19 คน ซึง่ ได้มาโดยการสมุ่ แบบ
สถิติที่ .05 และจากการสังเกตพฤติกรรม พบว่า การจัด แบง่ กล่มุ (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียน
กิจกรรมการปั้นสามารถช่วยส่งเสริมกล้ามเน้ือมัดเล็กให้มี เปน็ หนว่ ยของการสมุ่ และแตล่ ะหอ้ งเดก็ คละความสามารถ
พัฒนาเพิม่ ขนึ้ ผู้รายงาน ไดต้ ระหนักถงึ ปัญหาดงั กล่าว จงึ
สนใจที่จะพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็กให้กับเด็กปฐมวัย ช้ัน ตวั แปรท่ีศกึ ษา
อนบุ าลปีท่ี 1 โรงเรียนเทศบาลเมอื งปทุมธานี โดยการน�ำ ตวั แปรต้น ได้แก่ การจัดประสบการณ์การเรียน
ชดุ การจดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ เพอ่ื รโู้ ดยใช้ชุดกจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ดว้ ยการป้นั นูนต�ำ่
พัฒนาความสามารถในการใช้กล้ามเน้ือมัดเล็กของเด็ก
ปฐมวยั โดยเช่ือมัน่ เป็นอยา่ งยิง่ ว่า เดก็ ที่ไดฝ้ กึ จัดกจิ กรรม ตวั แปรตาม ไดแ้ ก่ การพฒั นากล้ามเนอื้ มดั เลก็
ศิลปะสรา้ งสรรคด์ ้วยการปัน้ นูนตำ่� จะมคี วามสามารถใน
การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็กปฐมวัยอายุ 3-4 ปี ให้มี นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ
ประสิทธิภาพย่ิงขน้ึ ตอ่ ไป 1. การจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ หมายถงึ การ
จดั กจิ กรรม สอื่ วสั ดอุ ปุ กรณ์ สภาพแวดลอ้ มทง้ั ในและนอก
วตั ถุประสงคข์ องการศกึ ษา ห้องเรียนตามแผนการจัดประสบการณ์ส�ำหรับเด็กปฐมวัย
1. เพอื่ พฒั นาการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดย โดยค�ำนึงถึงวัยและความสามารถของเด็กแต่ละคนให้เด็ก
ใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ ด้วยการปั้นนูนต่�ำ ให้มี ปฐมวัยได้รับประสบการณ์ตรง เพ่ือพัฒนาทักษะที่จ�ำเป็น
ต่อการเรียนรู้ ส่งเสริมพัฒนาการในทุก ๆ โดยให้เด็กได้
174
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
ลงมอื ปฏิบัติ มปี ระสบการณ์ตรงกบั สอ่ื สงิ่ แวดล้อมบุคคล ลอย จากพนื้ หลงั เพยี งเลก็ นอ้ ยโดยการใชไ้ มท้ บั ดนิ ใหแ้ บนๆ
ตามความสามารถของเดก็ เพอ่ื เปน็ ฐานการเรยี นรใู้ นระดบั เพอื่ ใชเ้ ป็นพนื้ รองแลว้ จึงป้ันเป็นรปู ต่างๆ บางๆ แลว้ น�ำมา
ต่อไป ปะลงบนแผน่ รองโดยใชน้ ว้ิ หรอื ฝา่ มอื กดใหแ้ นบตดิ กนั อาจ
2. ชดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ใช้นวิ้ เกลีย่ ใหก้ ลนื เปน็ เน้ือเดยี วกนั กับแผ่นรอง
ต่ำ� หมายถึง สือ่ การจดั ประสบการณ์ การเรียนรู้ประเภท 5. การพัฒนากลา้ มเนื้อมดั เล็ก หมายถึง ความ
หน่ึงที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเพื่อพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของเด็ก สามารถในการบังคับใช้กล้ามเนื้อมือนิ้วมือและตากับมือ
ปฐมวยั ในดา้ นความคลอ่ งแคลว่ ความยดื หยนุ่ การควบคมุ โดยแบง่ ออกเป็น 4 ด้าน
ในการใชก้ ลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ การประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมอื
กับตา ชุดการจัดกิจกรรมที่สร้างขึ้นส�ำหรับใช้ในการจัด 5.1 ความคล่องแคล่วในการใช้กล้ามเนื้อมดั
ประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ เล็ก หมายถึงความช�ำนาญในการใช้มือและน้ิวได้อย่าง
ด้วยการปัน้ นูนตำ่� เพ่อื พัฒนากลา้ มเนอ้ื มัดเลก็ ส�ำหรับเดก็ คล่องแคล่วในการปฏิบัติกิจกรรมเช่นการหยิบการจับการ
ปฐมวัย ช้ันอนุบาลปีท่ี 1 ได้ลงมือปฏิบัติการปั้นนูนต่�ำ ถอื การร้อยเป็นตน้
จ�ำนวน 8 เล่ม ประกอบด้วย เลม่ ที่ 1 ปัน้ เล่นๆ เนน้ ฝมี อื 5.2 ความยืดหยนุ่ ในการใชก้ ล้ามเนอ้ื มัดเล็ก
เลม่ ที่ 2 ป้นั เล่นๆ เสน้ สรา้ งสรรค์ เล่มท่ี 3 ปนั้ เล่นๆ เปน็ หมายถึงความสามารถในการเคลื่อนไหวนิ้วและมือได้เต็ม
รูปรา่ ง เล่มที่ 4 ปน้ั เลก็ ๆ เปน็ ตวั ฉนั เลม่ ท่ี 5 ปน้ั เลน่ ๆ เปน็ ขดี จากดั ของการเคลอื่ นไหวนนั้ ๆเชน่ การคบี การกดการบบี
ของกนิ เลม่ ท่ี 6 ปน้ั เลน่ ๆ เปน็ ทอี่ ยอู่ าศยั เลม่ ที่ 7 ปน้ั เลน่ ๆ การหมุนการเขยา่ เปน็ ต้น
เปน็ วิทยาศาสตร์ และเลม่ ท่ี 8 ปั้นเลน่ ๆ เรียนรู้สงั คม
5.3 ความสามารถในการควบคุมในการใช้
3. การจดั ประสบการณโ์ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะ กล้ามเน้ือมัดเล็ก หมายถึงความสามารถควบคุมการใช้
สร้างสรรค์การปั้นนูนต่�ำ หมายถึง การจัดประสบการณ์ กล้ามเนื้อน้ิวและมือได้โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่ก�ำหนด
เรยี นรสู้ �ำหรบั เดก็ ปฐมวยั ตามแผนการจดั ประสบการณก์ าร ใหห้ รอื การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเชน่ การระบายสกี ารตดั การเขยี น
เรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคก์ ารปน้ั นนู ตำ�่ เพอ่ื โดยไม่ใหอ้ อกนอกเส้นที่ก�ำหนด
พฒั นากลา้ มเนอื้ มดั เลก็ ของเดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าลปที ่ี 1 ใน
ด้านความคล่องแคล่ว ความยดื หยุ่น การควบคมุ ในการใช้ 5.4 การประสานสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
กลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ การประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา ซงึ่ หมายถงึ การใชน้ วิ้ มอื และมอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมรว่ มกนั กบั การ
มีขนั้ ตอนส�ำคญั การจดั กจิ กรรมดงั นี้ มองเหน็
ข้ันที่ 1 ขนั้ น�ำ เปน็ การจัดกิจกรรมทเี่ นน้ กระตุ้น 6. ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 หมายถึง
ให้ผู้เรียนเกิดความสนใจมีความพร้อมท่ีจะเรียนรู้โดยใช้วิธี ปโดรยะใสชทิ ช้ ธุดิภกาิจพกร(รEม1/ศEลิ 2)ปะขสอรง้ากงาสรรจรัดคป์ดร้วะยสกบากราปรน้ั ณน์กนู าตร่�ำเรยีเพน่ือรู้
การและส่อื ทห่ี ลากหลายประกอบการใช้ค�ำถามกระตนุ้ ซัก พัฒนากล้ามเนอื้ มดั เล็ก ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวยั ช้นั อนุบาลปที ี่
ถ า ม ท บ ท ว น ห รื อ แ ส ด ง ค ว า ม คิ ด เ ห็ น ใ ห ้ ผู ้ เ รี ย น น�ำ 1 ที่ผ่านการหาประสทิ ธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
ประสบการณเ์ ดมิ มาเชื่อมโยงกับประสบการณใ์ หม่
ข้นั ท่ี 2 ข้นั ด�ำเนนิ กจิ กรรม น�ำส่งู านศิลปะ เปน็ 80 ตคัว�แำนรวกณหจามการยอ้ ถยึงละปขรอะงสคิทะธแิภนานพท่ีเด(Eก็ 1ป) ฏขบิ อัตงิ
ขน้ั ตอนระหวา่ งเดก็ กบั ครู ท�ำกจิ กรรมตา่ งๆ รว่ มกนั ตามจดุ กระบวนการ
กจิ กรรมในชดุ การจดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั
ประสงค์การเรยี นรู้ นูนต�่ำ ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวัย ชั้นอนุบาลปที ี่ 1 ได้คะแนนรวม
ข้ันที่ 3 ขั้นสรุป เป็นขนั้ ตอนระหว่างเดก็ กบั ครู ร้อยละ 80 ขน้ึ ไป
สรุปเก่ียวโยงเนื้อหาศิลปะกับการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก
ในกจิ กรรมต่างๆ ร่วมกัน โด8ย0ค�ำตนัววหณลจังากหรมอ้ ายยลถะึงขอปงรคะะสแิทนธนิภเฉาลพยี่ ข(Eอ2ง)เดขก็ อทงี่
ผลลพั ธ์
4. การป้นั นนู ต�่ำ หมายถึงการปั้นใหป้ รากฏรูป ได้จากการทดสอบหลังใช้ชุดการจัดกิจกรรมศิลปะ
175
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
สรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวยั ชน้ั อนบุ าล จ�ำนวน 4 ฉบบั ฉบบั ละ 5 ข้อ รวม 20 ข้อ กบั เดก็ ปฐมวยั
ปที ี่ 1 ได้คะแนนรวมรอ้ ยละ 80 ขน้ึ ไป ช้นั อนบุ าลปที ี่ 1 ทเ่ี ป็นกลุ่มตวั อยา่ ง แล้วบนั ทกึ คะแนน
7. ดัชนปี ระสิทธิผล (Effectiveness index) เกบ็ ไวเ้ ปรียบเทียบกับคะแนนหลงั การทดลอง (Posttest)
หมายถึง ความก้าวหน้าในการเรยี นของ ผูเ้ รียนหลังจากที่ 2. ทดลองจัดประสบการณ์โดยใช้ ชุดการจัด
ไดศ้ กึ ษานวตั กรรมหรอื สอ่ื ตา่ งๆ โดยเปรยี บเทยี บคะแนนท่ี กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำ ส�ำหรับเด็ก
เพมิ่ ขึน้ จากการ ทดสอบก่อนเรยี นกับคะแนนทไ่ี ด้จากการ ปฐมวยั ชั้นอนุบาลปที ่ี 1 โรงเรียนเทศบาลเมอื งปทุมธานี
ทดสอบหลังเรยี น ในภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2560 ใช้เวลาในการสอน 8
สัปดาห์ สปั ดาห์ละ 5 ครั้ง รวมทัง้ ส้ิน 40 คร้งั ใชเ้ วลาครงั้
เครอ่ื งมอื ทใี่ ชใ้ นการศึกษา ละ 30 นาที ในช่วงกิจกรรมสร้างสรรค์ท้ังนี้การจัด
1. แผนการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้ โดยใชช้ ดุ ประสบการณ์แต่ละคร้ัง ผู้วิจัยจะเปิดโอกาสให้เด็กได้ใช้
การจดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ จ�ำนวน ประสาทสัมผสั ทั้งห้า เดก็ ทุกคนจะไดค้ ้นคว้าและสืบค้นสิ่ง
40 แผน มคี ่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 หมายความว่า มคี วาม ต่างๆ ได้ลงมือกระท�ำ ฝึกปฏิบตั กิ จิ กรรม ด้วยตนเองตาม
เหมาะสมอยใู่ นระดับมากท่ีสุด ขั้นตอนการจัดประสบการณ์ที่ก�ำหนด ในระหว่างการจัด
กจิ กรรมแตล่ ะครง้ั ผวู้ จิ ยั จะท�ำการบนั ทกึ คะแนนพฤตกิ รรม
2. ชุดการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการ ของเด็กระหว่างปฏิบัตกิ ิจกรรม
ปน้ั นูนต่ำ� จ�ำนวน 8 เล่ม มีค่าดัชนคี วามสอดคล้องต้งั แต่
0.80-1.00 3. ประเมินหลังการทดลอง (Posttest)โดยใช้
แบบประเมนิ ซงึ่ เปน็ ชดุ เดยี วกบั แบบประเมนิ ทใ่ี ชก้ อ่ นการ
3. แบบประเมินการพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็ก ทดลอง แลว้ บนั ทกึ คะแนน ไว้เปรยี บเทียบกบั คะแนนก่อน
ส�ำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีท่ี 1 ก่อน-หลังการจัด การทดลอง
ประสบการณ์การเรียนรู้ โดยใช้ชุดการจัดกิจกรรมศิลปะ
สร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต่�ำ จ�ำนวน 20 ข้อ มีค่าความ 4. น�ำขอ้ มลู ทไี่ ดจ้ ากการประเมนิ การพฒั นากลา้ ม
สอดคล้อง ต้ังแต่ 0.80 - 1.00 เน้ือมัดเล็ก ไปวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีทางสถิติเพ่ือทดสอบ
สมมติฐาน
วิธีการด�ำเนินวจิ ยั
1.ประเมนิ ก่อนทดลอง (Pretest) โดยใช้แบบ
ประเมินการพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็ก ท่ีผู้วิจัยสร้างขึ้น
176
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู
ตอนที่ 1 ผลการวเิ คราะหห์ าประสทิ ธภิ าพของ ชดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ เพอ่ื พฒั นากลา้ ม
เนือ้ มัดเลก็ ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวยั ช้นั อนุบาลปีที่ 1 ใหม้ ปี ระสิทธภิ าพตามเกณฑ์ 80/80
ตารางท่ี 1 ประสิทธิภาพของ ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำเพื่อพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็กส�ำหรับเด็ก
ปฐมวยั ช้นั อนุบาลปีที่ 1
รายการประเมิน คะแนนเตม็ X S.D รอ้ ยละ
ของคะแนนเฉลีย่
ประสทิ ธภิ าพของกระบวนการ ( E1 ) 40 31.21 1.05 83.03
ประสทิ ธภิ าพของผลลพั ธ์ ( E2 ) 20 16.89 1.52 84.47
ประสิทธิภาพของชดุ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรคด์ ้วยการปัน้ นูนต่ำ� (E1/ E2) เท่ากบั 83.03/84.47
(ส ส E�าำ2หม)ารเรบัทถเา่ ดนกก็�จบัำปไาปฐก8ใมตช4วาใ้.4ยันร7ากชงดานั้ทรงั อ่ีจน1นดัน้ั บุปพาชรบละดุ วปสก่าทีบจิ ่ีกก1ปารรมรระณมปี สศรก์ ทิ ะลิ าธสปริภทิเะราธสยีพภิรนขา้ารงอพไู้สงด(รกอ้ รEรยค1ะ/า่ด์บงEว้ วม2ยนีป)กกเราทาะรา่รสปกิทน้ั(บั ธนEภิ 1นู 8า)ต3พเำ่� .ท0เพา่3กอ่ื/บัพ8ฒั4.84น37า.ก0ซล3งึ่ า้สมแงู เลกนะวอ้ื า่ มปเกดัรณะเลสฑก็ ิทท์สธกี่�ภิำห�ำาหรพบันขเดดอไก็งวผ้ป8ลฐ0ลม/พั8วยั0ธ์
ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนนความพร้อมพ้ืนฐานด้านทักษะพื้นฐานทาง
คณิตศาสตร์ ของเด็กชน้ั อนบุ าลปีท่ี 2 กอ่ นและหลังการจัดประสบการณก์ ารเรียนรโู้ ดยใช้ชุดกิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรค์
ดว้ ยการปนั้ นูนต�่ำเพอ่ื พฒั นากล้ามเนือ้ มัดเลก็ ส�ำหรับเด็กปฐมวัย ช้นั อนุบาลปีที่ 1
ตารางท่ี 2 การเปรียบเทียบการพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็ก ส�ำหรับเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาลปีท่ี 1 ก่อนและหลังการจัด
ประสบการณโ์ ดยใชช้ ดุ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ดว้ ยการปน้ั นนู ต�ำ่
คะแนน จำ�นวนนักเรยี น คะแนนเต็ม (X) S.D. t-test
1.05 13.05*
ก่อนจัดประสบการณ์ 19 20 11 1.52
หลังจัดประสบการณ์ 19
20 16.89
* มีนยั ส�ำคัญท่ีระดับ .05
จากตารางที่ 2 ผลการเปรยี บเทยี บการพัฒนากลา้ มเนื้อมัดเล็ก ส�ำหรับเดก็ ปฐมวยั ชั้นอนุบาลปที ่ี 1 กอ่ นและหลังการ
จัดประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต่�ำ พบว่า เด็กระดับปฐมวัย ที่ได้รับจัดการจัด
ประสบการณ์โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำ มีคะแนนเฉลี่ยหลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัด
ประสบการณ์ อย่างมีนัยส�ำคัญทางสถิตทิ ีร่ ะดบั .05
ตอนที่ 3 ผลการวิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะ
สร้างสรรค์ด้วยการป้ันนูนต�ำ่ เพ่ือพัฒนากลา้ มเนือ้ มดั เลก็ ส�ำหรบั เด็กปฐมวยั ปฐมวยั ชนั้ อนุบาลปีที่ 1
177
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
ตารางท่ี 3 การวิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะ
สร้างสรรคด์ ว้ ยการปั้นนนู ต�่ำ
N คะแนนเต็ม คะแนน ร้อยละ E.I.
0.6550
ก่อนเรียน หลังเรียน ก่อนเรียน หลังเรยี น
19 20 209 321 55 84.47
จากตารางที่ 3 พบวา่ ดชั นปี ระสทิ ธผิ ลของการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ด้วยการ
ป้ันนูนต่ำ� เฉล่ยี โดยรวมเทา่ กับ 0.6550 แสดงวา่ นกั เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพม่ิ ขนึ้ คิดเปน็ รอ้ ยละ 65.50
การอภิปรายผล ตนเองกับวัตถุ โดยการลงมือกระท�ำกับวัตถุโดยตรงเป็น
ส�ำคญั และกจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ เปน็
1. ประสทิ ธภิ าพของรายงานผลการพฒั นากลา้ ม กิจกรรมท่ีเด็กได้ลงมือกระท�ำกับส่ือวัสดุ อุปกรณ์โดยตรง
เนื้อมัดเล็กโดยการใช้ชุดการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ เช่น ก่อนที่จะลงมือปฏิบัติกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วย
ด้วยการปั้นนูนต่�ำ ส�ำหรับเด็กปฐมวัย ช้ันอนุบาล การปั้นนูนต่�ำ มีการสนทนากันเก่ียวกับวัสดุที่น�ำใช้ในการ
ปที ี่ 1 โรงเรยี นเทศบาลเมืองปทมุ ธานี เปน็ ไปตามเกณฑ์ จัดกจิ กรรมแตล่ ะกจิ กรรม วัสดุ อุปกรณ์ รูปรา่ ง ลักษณะ
80/80 ที่ก�ำหนดไว้ เท่ากับ 83.03/84.47 ท้ังน้ีอาจเป็น สี ขนาด จ�ำนวน และการน�ำไปใชใ้ นการท�ำผลงาน ซง่ึ ท�ำให้
เพราะ ชุดการจดั กจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ด้วยการปัน้ นนู เดก็ ไดส้ งั เกต รจู้ กั การเปรยี บเทยี บ ความเหมอื น ความตา่ ง
ต�่ำ มีรูปแบบที่หลากหลาย และเด็กให้ความสนใจที่จะ การประยกุ ต์ ความคดิ สร้างสรรค์ให้เกิดเปน็ ชิ้นงาน ซง่ึ ใน
ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมระหวา่ งการจดั ประสบการณ์ ผลการศกึ ษา ขณะที่เด็กท�ำกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำ
ปรากฏว่า ชดุ การจดั กิจกรรมศลิ ปะสร้างสรรคด์ ้วยการปนั้ เด็กยังได้พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งสอดคล้องกับ
นนู ตำ่� มปี ระสทิ ธิภาพเท่ากบั 83.03 หมายความว่าชุดการ สมมุติฐานของการวิจัยคร้ังนี้ แสดงให้เห็นว่าการจัด
จดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ ทผ่ี รู้ ายงาน กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำ สามารถส่งเส
สรา้ งข้ึน มปี ระสทิ ธิภาพ ท�ำใหผ้ ู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ความ ริพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อเล็กของเด็กปฐมวัยให้พัฒนาสูง
เขา้ ใจเกย่ี วกบั กจิ กรรมสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ่� ไดเ้ ปน็ ขน้ึ
อย่างดี ส่งผลให้เด็กปฏิบัติกิจกรรมระหว่างเรียนได้เฉล่ีย
รอ้ ยละ 31.21 และการประเมนิ การพฒั นากลา้ มเนอ้ื มดั เลก็ 3. ดชั นปี ระสทิ ธผิ ลของการจดั ประสบการณก์ าร
หลังการจัดประสบการณ์ด้วยชุดการจัดกิจกรรมศิลปะ เรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์เพื่อพัฒนากล้าม
สรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ เฉลยี่ รอ้ ยละ 84.47 แสดงวา่ เน้อื มดั เล็ก ส�ำหรบั เดก็ ปฐมวยั ช้นั อนบุ าลปีที่ 1 เฉล่ียโดย
ชุดการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วยการปั้นนูนต�่ำเป็น รวมเท่ากับ 0.6550 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้า
ไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตง้ั ไว้ ทางการเรียนเพิ่มข้ึนคิดเป็นร้อยละ 65.50 ทั้งน้ีอาจเน่ือง
มาจากกิจกรรมการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้ชุด
2. การเปรียบเทียบการพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็ก กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ ผวู้ จิ ยั ไดพ้ ฒั นา
กอ่ นจดั ประสบการณแ์ ละหลงั การจดั ประสบการณด์ ว้ ยชดุ ตามหลกั การของการจดั การเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะ
การจดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ สงู มผี ล สรา้ งสรรคด์ ว้ ยการปน้ั นนู ตำ�่ และค�ำนงึ ถงึ ความสามารถใน
การจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนากล้ามเน้ือมัดเล็กสูงกว่า การใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก อีกทั้งก่อนการจัดกิจกรรม ผู้วิจัย
ก่อนการจัดประสบการณ์อย่างมีนัยส�ำคัญที่ระดับ 0.05 ไดก้ ระต้นให้เด็กเกิดความพรอ้ มของกลา้ มเนอื้ มัดเลก็ โดย
เปน็ ไปตามสมมตฐิ านทต่ี ง้ั ไว้ สอดคลอ้ งกบั แนวคดิ ของดวิ อี้ การให้นักเรียนนวดบิด คลึง ดินน้�ำมัน ในลักษณะต่างๆ
(Dewey) ที่กล่าวว่าการเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการกระท�ำ ก่อนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยให้นักเรียนรู้สึกชื่นชอบ
(Learning by doing) และสอดคลอ้ งกบั เพยี เจต์ และเฮลเด กจิ กรรม ซงึ่ สอดคลอ้ งกบั การจดั กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์
อร์ (Piaget ; & Inhlder อา้ งถึงใน รวิพร ผาดา่ น. 2557 : ดว้ ยดินส่งเสรมิ ใหเ้ ดก็ อายุ 4-5 ปี มีความสามารถในการ
60) ทกี่ ลา่ ววา่ เดก็ เขา้ ใจสงิ่ ตา่ ง ๆ และความสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง
178
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
ใช้กล้ามเนอื้ มัดเลก็ สูงขนึ้ (ผกากานต์ นอ้ ยเนียม.(2556 : ขอ้ เสนอแนะ
66) และจากกระบวนการจัดกจิ กรรมที่ผวู้ จิ ัยมกี ารสรา้ ง
บรรยากาศในการเรยี นรู้ใหผ้ เู้ รยี นรู้สึกกระตือรื้นร้น มกี าร 1. ข้อเสนอแนะทัว่ ไป
จดั สภาพแวดลอ้ มในชนั้ เรยี นใหป้ ลอดโปรง่ สะอาดสวยงาม 1.1 การสง่ เสรมิ พฒั นาการดา้ นกลา้ มเนอื้ เลก็
ให้นักเรียนได้ท�ำกิจกรรมตามความสนใจของนักเรียน ไม่ ของเดก็ ปฐมวยั โดยการจดั กจิ กรรมการปน้ั นนู ตำ่� ครจู ะตอ้ ง
บังคับนกั เรยี นท�ำในสิง่ ท่ีไม่อยากท�ำ และมีการจัดกิจกรรม ให้เวลากับเด็กในการปรับตัวที่จะต้องท�ำกิจกรรมร่วมกัน
การทดลอง การส�ำรวจสิ่งต่าง ๆ การปั้นตามจินตนาการ ซ่ึงในช่วงระยะเวลาสัปดาห์แรกเด็กจะไม่กล้าหยิบจับดิน
เปดิ โอกาสให้ผ้เู รยี นแสดงคิดเห็นและตงั้ ชือ่ ผลงาน รวมทัง้ แสดงความรงั เกยี จดนิ ในขณะทเี่ ดก็ ไมอ่ ยากหยบิ จบั ดนิ ครู
ให้เพื่อนๆร่วมกันช่ืนชมผลงานท่ีส�ำเร็จแล้ว ท้ังน้ีอาจเนื่อง ควรกระตุ้นให้เด็กได้ใช้ความสามารถในการใช้มือ น้ิวมือ
มาจากแต่ละขั้นของการจัดกิจกรรมที่ผู้ศึกษาได้พัฒนาขึ้น และการประสานสมั พนั ธร์ ะหวา่ งมอื กบั ตา โดยใหเ้ ดก็ ลงมอื
ตามหลกั การเรยี นรโู้ ดยใชช้ ดุ กจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคด์ ว้ ย กระท�ำโดยการบบี นวด ขย�ำ คลงึ ดินอยา่ งต่อเนื่อง
การปัน้ นนู สง่ ผลให้นักเรียนไดเ้ กดิ การเรียนรู้ทีด่ ี โดยขน้ั ที่
1 ขนั้ น�ำ เปน็ ขนั้ ตอนระหวา่ งเดก็ และครรู ว่ มกนั ท�ำกจิ กรรม 1.2 ในการท�ำกิจกรรมการปั้นดิน ควรเปิด
เพ่ือกระตุ้นให้เด็กมีความสนใจที่จะร่วมกิจกรรม ข้ันท่ี 2 โอกาสใหเ้ ดก็ ไดป้ น้ั อยา่ งอสิ ระตามจนิ ตนาการตามความคดิ
ข้ันสอนโดยที่ครูจะสาธิตการปั้นลักษณะต่างๆ และเปิด ของตนเอง และควรใหเ้ ดก็ ได้เลอื กวัสดอุ ุปกรณอ์ ยา่ งอสิ ระ
โอกาสให้ผู้เรียนปั้นโดยอิสระ ขั้น 3 สรุปสาระที่เรียนรู้ ตามความสนใจทเ่ี ดก็ ต้องการ
เป็นขั้นตอนระหว่างเด็กและครูร่วมกันสรุปเพ่ือเชื่อมโยง
กิจกรรมการปั้นนูนต่�ำกับการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก ใน 1.3 เมอ่ื เสรจ็ สน้ิ การจดั กจิ กรรมในแตล่ ะครงั้
กิจกรรมต่าง ๆ รว่ มกัน นักเรยี นจะไดพ้ ัฒนากล้ามเน้อื มดั ควรมีการน�ำเสนอผลงานร่วมกับเพื่อนในห้องเรียนเพื่อฝึก
เล็กผ่านกิจกรรมท่ีครูจัดให้ผู้เรียนช่ืนชมผลงานของตนเอง เดก็ ใหเ้ กดิ ความกลา้ แสดงออกและชว่ ยกนั เกบ็ วสั ดอุ ปุ กรณ์
และผลงานของผอู้ น่ื ซงึ่ จะท�ำใหผ้ เู้ รยี นเกดิ ความภาคภมู ใิ จ และท�ำความสะอาดบรเิ วณที่ท�ำกจิ กรรมทุกคร้ัง
ในผลงานของตนเองและผอู้ น่ื เกดิ การแลกเปลยี่ นเรยี นรซู้ งึ่ 1.4 ผปู้ กครองสามารถน�ำกจิ กรรมการปน้ั นนู
กนั และกนั ซึ่งสอดคล้องกบั งานวิจัยของ ณภัทสรณ์ นรกจิ ต่ำ� ไปใช้เพอื่ สง่ เสรมิ พัฒนาการด้านกล้ามเน้ือเลก็ ควบคู่ไป
(2555: 66,68-69) ที่ศกึ ษาความสามารถในการใช้มอื ของ กบั ทางโรงเรยี นเพือ่ ให้เด็กไดพ้ ัฒนาอย่างเตม็ ศกั ยภาพ
เด็กปฐมวัยท่ีได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ด้วย
เมล็ดพืช ผลการวิจัยพบว่าความสามารถในการใช้มือของ 2. ขอ้ เสนอแนะในการวิจัย
เด็กปฐมวัยภายหลังจากได้รับการจัดกิจกรรมศิลปะ 2.1 ควรมกี ารศกึ ษาพัฒนาการด้านกลา้ ม
สรา้ งสรรคด์ ว้ ยเมลด็ พชื สงู ขนึ้ กวา่ กอ่ นไดร้ บั การจดั กจิ กรรม เนอ้ื เลก็ ของเดก็ ปฐมวยั โดยการจดั กจิ กรรมการปน้ั นนู ตำ่� ใน
ศิลปะสร้างสรรค์ด้วยเมล็ดพืช โดยกล่าวสรุปว่าจาก กลุ่มเดก็ ปฐมวัยท่พี ่อแมเ่ ลี้ยงแบบปกป้อง
ประสบการณ์ท่ีเด็กได้รับในการท�ำกิจกรรมศิลปะ
สร้างสรรค์ด้วยเมล็ดพืชนั้นส่งเสริมให้เด็กได้ฝึกทักษะการ 2.2 ควรมกี ารศกึ ษาทศั นคติของผู้ปกครอง
ใชม้ อื ในการหยบิ จบั เมลด็ พชื และอปุ กรณต์ า่ งๆ จากการท�ำ เกย่ี วกับกจิ กรรมการปัน้ ดนิ
ซ้�ำๆ บ่อยๆเด็กจะพัฒนากล้ามเน้ือมือทางด้านหยิบจับสิ่ง
ต่างๆ และด้านการเขียนของเด็กปฐมวัยส่งผลให้ความ 2.3 ควรมกี ารศึกษาพัฒนาการด้านอน่ื ๆ
สามารถในการใชม้ อื ทางดา้ นหยบิ จบั ของเดก็ ปฐมวยั สงู ขน้ึ ของเดก็ ปฐมวยั เชน่ พฒั นาการทางอารมณ์ พฒั นาการดา้ น
ส่งผลให้ความสามารถการใช้มือโดยรวมของเด็กปฐมวัยมี สังคม พัฒนาการทางภาษา ความอดทนและการรอคอย
พัฒนาการสูงข้ึนจากความสามารถพ้ืนฐานเดมิ ความเอ้ือเฟอ้ื เผ่อื แผ่ การฝึกสมาธโิ ดยการจัดกิจกรรมการ
ปั้นต่�ำ
179
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
เอกสารอา้ งอิง
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. (2560). คมู่ ือหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศักราช 2546 (ส�ำหรบั เดก็ อายุ 3 – 5 ป)ี .
กรงุ เทพฯ
ณภัทสรณ์ นรกจิ . (2555). ความสามารถในการใช้มอื ของเดก็ ปฐมวยั ทีไ่ ด รบั การจดั กจิ กรรม ศิลปะ สร้างสรรค์
ดว้ ยเมลด็ พชื . ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. (การศกึ ษาปฐมวยั ).มหาวทิ ยาลยั ศรนี ครินทรวิโรฒ
บบุ ผา เรืองศลิ ป์ (2553). ผลของการจัดกิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรค์ทีม่ ีตอ่ ทกั ษะการเขียนของเด็กปฐมวยั
ปรญิ ญานพิ นธ.์ กศ.ม. (การศกึ ษาปฐมวัยศึกษา). เพชรบุร:ี บณั ฑิตวทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลัยเพชรบรุ ี
ผกากานต์ น้อยเนียม. (2556). ความสามารถในการใช้กลา้ มเนอ้ื มัดเล็กของเดก็ อาย4ุ -5 ปที ่ไี ดร้ บั การจดั กจิ กรรม
ศิลปะสรา้ งสรรคด์ ้วยดิน.ปรญิ ญานพิ นธ์ กศ.ม.มหาวิทยาลยั ศรีนครินทรวโิ รฒ
ฝา่ ยวชิ าการโรงเรียนเทศบาลปทุมธานี. (2560). รายงานการประเมนิ คณุ ภาพภายในโรงเรยี นเทศบาลเมอื ง
ปทุมธานี 2560. ปทมุ ธานี. โรงเรยี นเทศบาลเมืองปทมุ ธาน.ี
รชยา ธนธญั ชูโชติ. (2554). ผลของการใช้กิจกรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคแ์ บบตารางสีที่มตี ่อความสามารถในการใช้
กลา้ มเนือ้ มัดเลก็ ของเดก็ ปฐมวยั (ปฐมวัยศกึ ษา). กรุงเทพฯ: บณั ฑิตวิทยาลัยมหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์
รวิพร ผาด่าน (2557). ความสามารถในการใช้กล้ามเนื้อมดั เล็กของเดก็ ปฐมวยั ท่ไี ด้รับการจดั กิจกรรมศลิ ป
สรา้ งสรรคก์ ารฉกี ตดั ปะ เศษวสั ด.ุ ปรญิ ญาการศกึ ษามหาบัณฑติ . สาขาวชิ าการศกึ ษาปฐมวัย.
มหาวิทยาลยั ศรนี ครินทรวโิ รฒ
รงุ่ รวี กนกวิบลู ย์ศร.ี (2555). การพัฒนากลา้ มเนือ้ มดั เลก็ ของเด็กนกั เรียนชั้นอนบุ าลปที ่ี 2/2 โดยใชก้ จิ กรรม
การประกอบอาหารประเภทขนมไทย. (การศึกษาปฐมวัย). กรุงเทพฯ: บณั ฑติ วทิ ยาลัย มหาวิทยาลัย
ราชภฎั สวนสนุ ันทา
สรวงพร กศุ ลสง่ . (2559). บรรยากาศองค์กรท่ีสง่ ผลตอ่ การจัดประสบการณ์ส�ำหรับเดก็ ปฐมวัย. เพชรบรู ณ์ :
มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบรู ณ.์
อรุณี หรดาล. (2560). แนวทางการจดั ประสบการณเพ่ือพฒั นาเดก็ ปฐมวยั . ในประมวล สาระวิชาชดุ การ
วัดประสบการณส์ �ำหรับเดก็ ปฐมวยั . หนว่ ยที่ ๒ นนทบรุ ี : มหาวทิ ยาลัยสโุ ขทัยธรรมาธิราช.
อาทติ ยา วงศ์มณี (2554 ). ผลการจดั กิจกรรมการปน้ั ทม่ี ตี อ่ ทักษะกล้ามเน้อื มัดเลก็ ของเดก็ ปฐมวยั .ปรญิ ญานิพนธ.์
กศ.ม. (ปฐมวยั ศึกษา). กรุงเทพฯ: บณั ฑติ วิทยาลยั มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร ์
กองบรรณาธิการ
180
Vol 2 No 6 September - December 2019 Journal of EdFuaccuattyiol nofalEdTueccahtnioonloMgayhaansdaraCkohmammunUinciavetirosnitsy
181
วารสาร เทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา ปีที่ 2 ฉบับที่ 6 กันยายน - ธันวาคม 2562
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
182