การอาบน้า
วาญบิ
อสิ ลามศกึ ษา
ม.4
ความหมายและความสำคญั
❑ การอาบนา้ (ทำฆสุ ลฺ ) คือ การชำระล้างทำความสะอาดโดยใช้นา้ ท่สี ะอาด
ลา้ งใหท้ ่วั ทง้ั รา่ งกาย ดว้ ยวิธีการทเ่ี ฉพาะ ซ่ึงเป็นส่งิ ที่บ่งบอกถงึ ความ
ประเสริฐของอิสลามอกี อย่างหนงึ่ ว่าเปน็ ศาสนาทส่ี ะอาด บรสิ ทุ ธ์ิ
สง่ิ ที่ทำใหว้ ายบิ ตอ้ งอาบนา้ มี 6 กรณี
1. การร่วมประเวณีระหวา่ ง ชาย หญงิ จะมีอสุจเิ คลื่อนออกมาหรือไมก่ ็ตาม
2. อสุจิเคลื่อนออก ดว้ ยการกระทำของบุคคลหรอื การฝนั หรืออื่นใดก็ตาม
3. การตาย นอกจากการตายชะฮีด
4. เลือดเฮด คือ เลอื ดประจำเดือน
5. เลอื ดนิฟาส คอื เลอื ดท่อี อกหลงั จากการคลอดบตุ ร
6. การคลอดบตุ ร ( วลิ าดะห์ ) การคลอดน้ันจะมีโลหติ ออกมาดว้ ยหรอื ไม่กต็ าม
ฟัรดูของการอาบนา้ วายบิ มี 3 ประการ
1) เหนียต (การต้ังเจตนา)
2) ขจดั นะญิสอยั นี(มองเหน็ ด้วยตาเปลา่ ) ออกจากรา่ งกายใหห้ มดกอ่ นที่จะลง
มืออาบนา้ วายิบ
3) ล้างนา้ ให้ท่วั ทั้งรา่ งกายทัง้ ผม ขนทุกเสน้ และผิวหนงั ภายนอก
ขัน้ ตอน ❑ เอาน้ารดศีรษะ 3 คร้ัง พร้อมเอามือสาง
การอาบนา้ วาญบิ ผมใหน้ ้าเปยี กเขา้ ถงึ หนงั ศรี ษะ
❑ เหนียต (การต้งั เจตนา) ❑ รดน้าชำระล้างให้ทั่วร่างกาย โดยเริ่มจาก
❑ กล่าว “บิสมิลลาฮฺ” เเละล้างมือทั้งสอง
ซีกขวาก่อน จากนั้นรดซีกซ้าย พร้อมท้ัง
3 คร้ัง จากน้ันล้างอวัยวะเพศเเละส่ิง ใช้มือถูบริเวณร่างกาย เพื่อให้น้าเข้าถึง
เปรอะเปอ้ื น ทุกส่วนของร่างกาย
❑ เรม่ิ ทำการอาบนา้ ละหมาดอย่างสมบูรณ์ ❑ เม่ือม่ันใจว่าน้าเข้าถึงทุกส่วนของร่างกาย
เเต่ให้ละเว้นการล้างเท้าท้ังสองไว้ก่อน เเล้ว ก็ให้ขยับที่เล็กน้อย เเละทำการล้าง
หรือจะล้างเท้าก็ได้ เพราะท่านนบี เท้าทั้งสอง (ถ้าหากยังไม่ล้างเท้าใน
ซ็อลลัลลอฮุอลัยฮิวะซัลลัม ปฏิบัติท้ัง ขั้นตอนการอาบนา้ ละหมาด)
สองลักษณะ
❑ เม่ือเสร็จสิ้นการอาบน้าฆุซลฺเเล้ว ส่งเสริม
ใ ห ้ ก ล ่ า ว ดุ อ า อฺ ที่ ใ ช ้ ก ล ่ า ว ห ลั ง อ า บ น้ า
ละหมาด
ขอ้ ห้ามสำหรับผทู้ มี่ ญี นู ุบ ข้อห้ามสำหรบั ผู้ที่มเี ฮด,นฟิ าส,วลิ าดะห์
1.ห้ามละหมาดฟัรดูหรือสนุ ตั 1.หา้ มละหมาดทัง้ ฟัรดู หรือสนุ ตั
2.ห้ามตอ้ วาฟบยั ต้ลุ ลอฮท์ ง้ั ฟัรดูหรือสนุ ตั 2.ห้ามถือศลี อดทั้งฟรั ดู หรือสนุ ตั
3.ห้ามจับ,ถอื อัลกรุ อาน เวน้ แต่ในกรณี 3.ห้ามตอ้ วาฟบยั ต้ลุ ลอฮ์ทงั้ ฟัรดู หรือสนุ ัต
4.ห้ามจับ กระทบ ถืออัลกุรอาน เว้นแต่
คับขนั ในกรณคี ับขนั
4.หา้ มเขา้ ไปหยุดพักในมัสยดิ โดยไม่ 5.ห้ามเข้าไปในมัสยิด (เกรงว่าโลหิตจะ
หยด หากป้องกันไว้ ไม่ให้หยดได้ การ
จำเปน็ เข้าไปในมัสยิด เป็นแต่เพียงมักโระฮ์
เท่านั้น สว่ นการหยดุ พกั น้ันหา้ มเดด็ ขาด)
7.ห้ามร่วมประเวณี
8.หา้ มสามี ภรรยาหยอกเย้ากัน ระหว่าง
สะดือถงึ หัวเขา่
การอาบนา้
สนุ ัต
อสิ ลามศกึ ษา
ม.4
การอาบนา้ ท่ีเปน็ สนุ ตั มหี ลายประการ เชน่
1.การอาบนา้ วนั ศุกร์
2.อาบน้าในวนั ตรษุ ฟติ ร์และตรุษอฎั ฮา
3.อาบนา้ เนือ่ งจากอาบน้าศพ
4. อาบนา้ เพือ่ จะทำการเอี๊ยะห์รอมฮจั ย์ หรืออุมเราะฮ์หรอื ฮจั ยแ์ ละอมุ เราะฮ์
5. การอาบน้าในคืนจนั ทรคราส และวันสุริยคราส
1.การอาบน้าวันศุกร์ คอื สุนัตให้อาบเฉพาะบคุ คลทีจ่ ะไปละหมาดวันศุกร์ มี
กำหนดเวลาต้งั แต่แสงอรุณขน้ึ จนถึงเวลาเข้าทำละหมาด เวลาทด่ี ยี งิ่ นน้ั ใหอ้ าบ
ใกลเ้ วลาทจ่ี ะไป
2.อาบน้าในวนั ตรษุ ฟิตร์และตรุษอัฎฮา คอื สุนตั ใหอ้ าบน้าในวันตรษุ ท้งั
สองแกท่ ุกๆคน ทง้ั ผ้ปู ระสงคจ์ ะไปหรือไมไ่ ปละหมาดไมจ่ ำกดั วา่ จะเป็นเดก็ หรอื
ผูใ้ หญ่ หญงิ หรือชาย มีกำหนดเวลาต้งั แต่เท่ยี งคนื ของวนั ตรษุ จนกระท่ัง
ตะวันตกในวันตรษุ เวลาท่ดี ีย่งิ นั้น ให้อาบหลังจากแสงอรุณขน้ึ แล้ว
3.อาบนา้ เนอ่ื งจากอาบน้าศพ คือ สุนัตใหผ้ ู้ท่ีอาบน้าศพน้ัน อาบนา้ หลงั จาก
ที่ตนได้อาบนา้ ให้แก่ศพเรียบรอ้ ยแล้ว
4. อาบน้าเพือ่ จะทำการเอ๊ียะหร์ อมฮัจย์ หรืออุมเราะฮห์ รอื ฮจั ยแ์ ละอุมเราะฮ์ คอื
สุนัตให้อาบน้า สำหรับผทู้ จ่ี ะทำเอี๊ยะหร์ อมดังกล่าวนน้ั นั้น มีกำหนดเวลา
ตัง้ แต่ประสงคจ์ ะเอี๊ยะหร์ อมจนกระทัง่ เขา้ พธิ ีเอยี๊ ะหร์ อม
5. การอาบนา้ ในคนื จนั ทรคราส และวันสรุ ยิ คราส คอื สุนตั ใหอ้ าบนา้ ใน
คนื จนั ทรคราส และวันสรุ ยิ คราสแกบ่ ุคคลทุกคน