The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by bhangsaaa, 2019-03-18 04:29:43

แผน 3000 1206.doc

แผน 3000 1206.doc

1

แผนการจัดการเรียนรู้

วิชา การสนทนาภาษาองั กฤษ 1
รหสั 3000-1206
ชื่อผสู้ อน

นางสาวเบญจมาศ ผอ่ งไพศาลเสรี

วทิ ยาลัยเทคนคิ ระยอง
สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา

กระทรวงศึกษาธกิ าร

2

แผนการจดั การเรยี นรู้

หลกั สูตร ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้นั สูง

ประเภทวชิ า ชา่ งอุตสาหกรรม สาขาวชิ า ชา่ งอตุ สาหกรรม

รหัสวชิ า 3000-1206 ชื่อวิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 จานวน 2 หนว่ ยกติ 3 ชั่วโมง/สัปดาห์

จุดประสงคร์ ายวิชา
1. เพื่อให้มคี วามรู้ความเขา้ ใจในการใช้ภาษาเพ่ือการส่ือสาร ในสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจาวัน
และการทางาน
2. เพอ่ื ใหม้ คี วามรู้ความเข้าใจวัฒนธรรมสังคมของเจา้ ของภาษาในบรบิ ทที่พบ
3. เพ่อื ให้เหน็ ประโยชน์ของการเรียนภาษาองั กฤษ การแสวงหาความร้แู ละใช้กลยุทธ์ในการเรยี นเพอ่ื
พัฒนาทักษะทางภาษา

มาตรฐานรายวิชา
1. สนทนาโต้ตอบเรื่องราวในชีวติ ประจาวนั และการทางานใน
สถานการณ์ต่าง ๆ ได้ถูกต้องเหมาะสมตามวัฒนธรรมสงั คม
2. เลือกใช้สานวนภาษาไดเ้ หมาะสมกบั บุคคลและกาลเทศะ
3. ใชก้ ลยทุ ธใ์ นการฟัง และอา่ นเพือ่ ความเข้าใจ บอกใจความสาคัญรายละเอยี ดถ่ายโอนข้อมูลจาก
เรื่องที่ฟงั และอ่าน
4. เขยี นบรรยาย เขยี นบนั ทึก เขียนจดหมาย กรอกข้อมลู แบบฟอร์มโดยใช้โครงสรา้ งทางภาษาท่ี
ถกู ต้อง
5. บรู ณาการการเรยี นรใู้ นชนั้ เรยี นกับการเรียนรู้ด้วยตนเองในศูนยก์ ารเรียน โดยมหี ลกั ฐานการเรยี น
บนั ทึกการเรียนรู้ การประเมินผลความกา้ วหนา้ ของตนเอง

คาอธบิ ายรายวชิ า
ศกึ ษา ปฏิบัติ พฒั นาทกั ษะทางด้านการฟัง พดู อ่าน เขียน เพือ่ การสอ่ื สารในชีวิตประจาวัน

เพมิ่ พูนการใช้คา และสานวนในสถานการณต์ า่ งๆ โดยเฉพาะในงานท่ีเกี่ยวข้องกับสายอาชพี และการ
ปฏบิ ตั งิ าน เขา้ ใจความเหมอื นความแตกตา่ งระหวา่ งวฒั นธรรมตามมารยาทสังคม ประเพณี และเจ้าของ
ภาษา ฝึกสนทนาในรูปแบบต่าง ๆ โดยใช้บทบาทสมมติ ตามสถานการณจ์ าลอง เป็นตน้

รหสั วิชา 3000-1206 3
จานวน 2 หน่วยกติ 3 ชว่ั โมง
ลกั ษณะรายวิชา

ช่อื วชิ า การสนทนาภาษาอังกฤษ 1
เวลาเรียนต่อภาค 54 ช่วั โมง

รายวชิ าตามหลักสูตร ปรบั หนว่ ยการเรียนเป็นสมรรถนะ ช่วั โมง

จุดประสงคร์ ายวิชา สมรรถนะ

1. เพอ่ื ใหม้ ีความรู้ความเข้าใจในการใช้ภาษา 1. ทกั ทาย แนะนาตวั และกลา่ วลาดว้ ย

เพอ่ื การส่อื สาร ในสถานการณต์ า่ งๆในชีวิตประจาวัน ภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวัน 6

และการทางาน 2. พูดโต้ตอบทางโทรศัพท์และบันทึกข้อความ

2. เพือ่ ให้มีความรู้ความเขา้ ใจวฒั นธรรมสังคม ทาง โทรศพั ท์ดว้ ยโครงสร้างทางภาษาองั กฤษ 6

ของเจา้ ของภาษาในบรบิ ทท่ีพบ เพอ่ื การส่ือสาร

3. เพื่อใหเ้ หน็ ประโยชน์ของการเรยี น 3. เขยี นข้อความส้นั ๆ โตต้ อบกนั ดว้ ยโครงสร้าง

ภาษาอังกฤษ การแสวงหาความร้แู ละใช้กลยุทธใ์ นการ ภาษาอังกฤษเพ่ือการส่ือสารในชีวิตประจาวัน 6

เรยี นเพ่ือพฒั นาทักษะทางภาษา 4. พดู อ่าน เขยี น ปฏิบตั ติ ามคาสั่งดว้ ย

มาตรฐานรายวิชา ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวติ ประจาวนั 6
1. สนทนาโต้ตอบเร่อื งราวในชีวิตประจาวนั และ 5. เขียนบนั ทกึ ชว่ ยจาและสื่อสารสนทนาดว้ ย 6
6
การทางานในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ถูกต้องเหมาะสม โครงสรา้ งภาษาองั กฤษเพื่อการส่ือสารใน 6
ตามวฒั นธรรมสังคม ชวี ิตประจาวนั
6. อา่ นและเขยี นจดหมายขายด้วยโครงสรา้ ง 6
2. เลือกใช้สานวนภาษาไดเ้ หมาะสมกับบคุ คล ภาษาองั กฤษเพื่อการสื่อสาร
และกาลเทศะ 7. พดู และเขยี นแสดงความยนิ ดใี นโอกาสตา่ ง ๆ 6
ดว้ ยภาษาองั กฤษในชวี ิตประจาวนั
3. ใชก้ ลยุทธใ์ นการฟัง และอ่านเพื่อความเข้าใจ 8. พูดและเขียนเพือ่ ขออนญุ าตมาสายหรอื ขอลา
บอกใจความสาคัญรายละเอียดถ่ายโอนข้อมูลจากเรอื่ ง งานด้วยโครงสรา้ งทางภาษาอังกฤษเพื่อการ
ทีฟ่ งั และอ่าน สื่อสาร
9. อา่ นและสรุปสาระสาคัญของข้อมูลที่อ่านและ
4. เขียนบรรยาย เขยี นบันทกึ เขียนจดหมาย ถา่ ยทอดด้วยสานวนภาษาองั กฤษใน
กรอกข้อมูล แบบฟอรม์ โดยใช้โครงสรา้ งทางภาษาท่ี ชวี ิตประจาวนั เพอ่ื การสอื่ สาร
ถกู ต้อง

5. บูรณาการการเรียนรู้ในชั้นเรยี นกบั การเรียนรู้
ดว้ ยตนเองในศูนยก์ ารเรยี น โดยมีหลกั ฐานการเรยี น

บนั ทกึ การเรยี นรู้ การประเมินผลความกา้ วหนา้ ของ

ตนเอง

คาอธิบายรายวชิ า
ศกึ ษา ปฏิบตั ิ พฒั นาทกั ษะทางดา้ นการฟัง

พดู อ่าน เขียน เพื่อการสื่อสารในชีวิตประจาวันเพม่ิ

พนู การใช้คา และสานวนในสถานการณ์ตา่ งๆ โดย 4
เฉพาะในงานทเ่ี กย่ี วข้องกับสายอาชพี และการปฏิบตั ิ
งาน เขา้ ใจความเหมือนความแตกต่างระหว่าง รวม 54
วัฒนธรรม ตามมารยาทสงั คม ประเพณี และเจ้าของ
ภาษา ฝกึ สนทนาในรูปแบบต่าง ๆ โดยใชบ้ ทบาท
สมมติ ตามสถานการณ์จาลอง เปน็ ตน

5

ตารางวิเคราะหห์ ลักสตู ร

รหัสวชิ า 3000-1206 ชื่อวิชา การสนทนาภาษาองั กฤษ 1 จานวน 2 หนว่ ยกิต 3 ชั่วโมง/สปั ดาห์

ระดับพฤตกิ รรมทีพ่ งึ ประสงค์ เวลา

หนว่ ยท่ี ชอื่ หน่วยหวั ข้อเรื่อง พทุ ธพิ ิสยั ทักษะ จิต (ชม.)

1 2 3 4 5 6 พิสยั พิสยั

1 Greeting Introduction and √√√√ √√6
saying goodbye
√√√√ √√6
2 On the phone
3 Writing note √√√√√√ √ √ 6
4 Instructions
5 Memo writing √√√√ √√6
6 Sales Letter
7 Congratulation √√√√√√ √ √ 6
8 Excusing yourself from work
9 Reading Competence √√√√ √√6

√√√√ √√6

√√√√√√ √ √ 6

√√√√√ √ √ 6

หมายเหตุ 1= ความจา 2 = ความเข้าใจ 3 = การนาไปใช้
ระดบั พุทธพิ ิสยั 4 = วเิ คราะห์ 5 = สงั เคราะห์ 6 = ประเมินคา่

6

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัส 3000-1206 เวลา 6 ชั่วโมง
ชือ่ วิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 3 ชั่วโมง
ช่อื หน่วย Greeting
เร่อื ง Greeting and self-introduction

สาระสาคัญ
การกล่าวทกั ทายและตอบรบั สามารถส่ือเปน็ ภาษาพดู ได้หลากหลายรูปแบบ บางครง้ั อาจแฝง

ความรู้สกึ ห่วงใย หรอื ความสนใจในคาพูดน้ัน หลังจากทักทายแล้วเรามกั จะถามถงึ บางส่งิ บางอยา่ งทีส่ าคัญ
ของบุคคลทเี่ ราพดู ด้วย สานวนการพูดและการทักทายทว่ั ๆ ไป เป็นโครงสรา้ งพื้นฐานข้นั แรกที่นกั ศึกษาต้อง
ทาความคุ้นเคยและจาให้ได้ โดยเฉพาะการทกั ทายและการแนะนาตนเอง นักศกึ ษาตอ้ งฝกึ ฝนเพ่ือหาทกั ษะ
และความชานาญ ในการนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน

สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้
กล่าวทกั ทาย ตอบรับ พูดแนะนาตนเอง เหมาะสมกับโอกาส ด้วยภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวนั

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม)
1. บอกความหมายของคาศัพท์ สานวน ท่ใี ช้ในการกลา่ วทกั ทายได้
2. กลา่ วทักทายโต้ตอบเหมาะสมกบั โอกาส
3. กลา่ วแนะนาตนเองได้
4. สามารถสรา้ งสถานการณ์ในการกล่าวทักทายและแนะนาตนเองไดเ้ หมาะสมกบั โอกาส
5. มคี วามซื่อสตั ย์และมีความสามัคคี กลา้ แสดงความคดิ เหน็

สาระการเรยี นรู้ - I’m doing very Responses - Awful
well. - I’m fine - Pretty
Greeting and responses - Fine - Bad!
Greeting - Very well. - Oh so-so - Terrible!
- Great - Not bad - Not so good
- How are you ? - Fantastic - Pretty good - Not very
- How are you doing? - All right
- Are you doing okay? well
- How’s everything?
- How are things going?
- Is the family ok?
- How do you do ?

7

Greeting

Directions: Read the incomplete dialogue. Choose the best answer to
fill in the blanks. Conversation
1: At the party.
David: Hello, Tom. ………1………?
Tom: ……..2……… thanks………3………?
David: Pretty good. Tom, this is Beth Garza. He’s a new friend from
Mexico.
Tom: ………4………, Beth. I’m Tom Cruise.
Beth: Nice to meet you, too. ………5………?
Tom: I’m from Australia.
Beth: Oh, I love Australia! It’s really beautiful.
Tom: Thanks………6………
Beth: Goodbye.

กจิ กรรมการเรียนการสอน (บรู ณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน)
(ขั้นนา ขั้นกจิ กรรมการเรียนรู้ข้นั วเิ คราะห์ ขนั้ สรุปและประเมินผล)
ขั้นนา

1. ครูแนะนาตนเอง ใหน้ ักศึกษาร้จู ัก และใหน้ กั ศึกษาแต่ละคนได้แนะนาตนเองเพ่ืดสร้าง
ความคนุ้ เคยหลังจากน้นั ครู-ได้แจ้งจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ มาตรฐานรายวิชา คาอธบิ าย
รายวิชา การวัดผลและประเมินผล และสร้างข้อตกลงร่วมกันในการเรียนการสอนในรายวิชานี้
ตลอดภาคเรยี นที่ 1/2552

2. ครูแจง้ วตั ถปุ ระสงค์ในการเรียนในหนว่ ยที่ 1 และใหน้ กั ศกึ ษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน
ขั้นกิจกรรม

3. ครูใหน้ กั ศึกษาดูบทละครสนั้ ๆ เกย่ี วกบั การทักทายและการแนะนาตนเอง จาก VCD และให้
นกั ศึกษาแต่ละคนจบั ใจความประโยคจากละครและครูสุ่มถามทีละคน

4. นกั ศกึ ษา ศึกษาทาความเขา้ ใจและจับใจความประโยคจากละครส้นั ตอบคาถามครู
5. ครูอธบิ ายสานวนประโยคท่ีใชใ้ นการทักทาย การแนะนาตนเองให้เหมาะสมกับโอกาส
ขนั้ วเิ คราะห์
6. ครูให้นักศึกษาจับคูส่ นทนาตามบทละครพร้อมแสดงทา่ ทางประกอบ ครูใหเ้ วลาฝกึ ซ้อม 20

นาที
7. นกั ศกึ ษาฝึกซ้อมแสดงบทบาทสมมติภายในเวลาที่กาหนดและออกมาพูดหน้าชั้นเรียน

8

ขนั้ สรปุ และประเมินผล
8. ครูและนกั ศึกษาร่วมกันสรปุ สาระสาคัญของสานวนในการกลา่ วทักทายและแนะนาตนเอง
9. ครอู ธิบายและให้นักศึกษาทาแบบฝกึ หัดในบทเรยี นเพื่อทบทวนความเขา้ ใจ
10. นักศกึ ษาทาแบบประเมินผลตนเองหลงั เรียน

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. VCD
2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศกึ ษาเพ่มิ เตมิ จากศนู ย์ SALC

หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝึกหัดในบทเรียน
2. หลักฐานการเข้าใช้ศนู ย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เคร่อื งมอื ประเมนิ
1. แบบทดสอบประเมนิ ก่อนเรียนและหลงั เรียน
2. การถาม-ตอบในช้ันเรยี น
3. สังเกตจากการร่วมกิจกรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหดั

เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมของผเู้ รียนต้องได้คะแนนไมต่ ่ากว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น มี 20 ข้อ ถ้าผ่าน 10 คะแนนข้ึนไปถอื ว่าผ่าน

9

แผนการจัดการเรียนรู้

ช่อื วิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 รหัส 3000-1206

ชอ่ื หน่วย Greeting เวลา 6 ช่ัวโมง

เรื่อง Third party introduction and saying goodbye เวลา 3 ช่ัวโมง

สาระสาคัญ
การกล่าวลา และการแนะนาผ้อู นื่ เป็นสิ่งจาเป็นและสาคญั เป็นโครงสรา้ งพ้นื ฐานขั้นแรกที่

นกั ศึกษาต้องทาความคุน้ เคยและจาให้ได้ นักศึกษาต้องฝึกฝนเพ่ือให้เกดิ ทักษะ และความชานาญ ในการ
นาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั

สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
กลา่ วแนะนาผู้อื่น และกล่าวลา เหมาะสมกบั โอกาส ดว้ ยภาษาอังกฤษในชีวิตประจาวนั

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม)
1. บอกความหมายของคาศัพทส์ านวน ท่ีใช้ในการกล่าวลาและแนะนาผอู้ น่ื ได้
2. กล่าวลาและโตต้ อบได้เหมาะสมกับโอกาส
3. กลา่ วแนะนาตนเองและบคุ คลอืน่ ได้
4. สามารถสรา้ งสถานการณใ์ นการกลา่ วลาและแนะนาผู้อ่ืนได้ด้วยตนเองและเหมาะสมกบั โอกาส
5. มคี วามคิดสรา้ งสรรคแ์ ละกล้าแสดงออก
6. บรู ณาการสวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น

สาระการเรยี นรู้ Responses
- Let’s get together again
Saying goodbye and response - Please drop me a line
Saying goodbye - Take care
- Have a nice day
- How are you ? - Have a pleasant weekend
- How are you doing? - Have fun
- Are you doing okay? - Have a good time
- How’s everything?
- How are things going?
- Is the family ok?
- How do you do ?

10

กจิ กรรมการเรียนการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น)
(ขั้นนา ข้นั กจิ กรรมการเรียนรู้ข้นั วิเคราะห์ ขั้นสรปุ และประเมินผล)

ขั้นนา
1. ครทู บทวนบทเรียนทีเ่ รียนในสปั ดาหท์ แ่ี ล้ว
2. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรู้ซ่ึงต่อเนื่องจากสปั ดาหท์ ี่แลว้
3. ใหน้ กั ศึกษาทาแบบประเมนิ ตนเองก่อนเรียน

ขนั้ กิจกรรม
4. ครใู หน้ ักศึกษาดบู ทละครสน้ั ๆเก่ยี วกบั การกล่าวลา และการแนะนาผู้อนื่ ให้ร้จู กั กนั ใน VCD
และใหน้ กั เรียนแต่ละคนจบั ใจความประโยคจากละครและครูสุม่ ถามทลี ะคน
5. นักศกึ ษา ศึกษาทาความเข้าใจและจับใจความประโยคจากละครสั้น ตอบคาถามครู
6. ครูอธิบายสานวนประโยคท่ีใชใ้ นการกลา่ วลา การแนะนาผู้ผู้อื่น ใหเ้ หมาะสมกับโอกาส และครู
ให้ความร้เู กย่ี วกบั สวนพฤกษศาสตรใ์ นโรงเรียนและยกตัวอย่างพนั ธ์ไม้และและให้นักศกึ ษาฝกึ
การตงั้ คาถามและตอบ

ขั้นวเิ คราะห์
7. ครใู ห้นักศึกษาจับค่สู นทนาตามบทละครพร้อมแสดงท่าทางประกอบ โดยใหฝ้ กึ การต้ังคาถาม-
ตอบเกย่ี วกับสวนพฤกษศาสตร์ เพิ่มเติมลงไปในบทสนทนา หลงั จากท่กี ล่าวทักทายกนั แล้ว
เช่น How is Botanical Garden important? , Give the example the plant’s
name of Botanical garden? , What is the color of…….? ครูให้เวลาฝกึ ซ้อม 20 นาที
8. นกั ศกึ ษาฝกึ ซ้อมแสดงบทบาทสมมตภิ ายในเวลาที่กาหนดและออกมาพูดหน้าช้นั เรยี น

ข้นั สรปุ และประเมินผล
9. ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกนั สรุปสาระสาคัญของสานวนในการกลา่ วลาและแนะนาผู้อ่ืน
10. ครูอธบิ ายและให้นกั ศึกษาทาแบบฝึกหดั ในบทเรียนเพื่อทบทวนความเขา้ ใจ
11. นกั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ผลตนเองหลงั เรยี น

สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้

1. VCD

2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศกึ ษาเพ่มิ เตมิ จากศนู ย์ SALC

11

หลักฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝกึ หดั ในบทเรยี น
2. สวนพฤกษศาสตร์ในโรงเรยี น
3. หลกั ฐานการเข้าใช้ศูนย์ SALC

การวัดผล/ประเมนิ ผล
เครือ่ งมอื ประเมนิ
1. แบบทดสอบประเมนิ ก่อนเรียนและหลังเรยี น
2. การถาม-ตอบในช้ันเรียน
3. สังเกตจากการรว่ มกิจกรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝกึ หดั

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. พฤติกรรมของผู้เรียนต้องได้คะแนนไม่ต่ากว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น มี 20 ข้อ ถา้ ผา่ น 10 คะแนนขนึ้ ไปถอื ว่าผ่าน

12

รหสั 3000-1206 แผนการจัดการเรยี นรู้
ชอื่ วิชา การสนทนาภาษาองั กฤษ 1
ชอ่ื หน่วย On the phone เวลา 6 ช่ัวโมง
เร่ือง Talking on the phone เวลา 3 ชวั่ โมง

สาระสาคญั
การติดต่อธุรกจิ โดยใช้โทรศัพท์เปน็ สื่อ เปน็ กิจกรรมท่ีทากว้างขวางเพราะสะดวกรวดเรว็ โดยมี

แบบแผนการสนทนาโตต้ อบ คาศัพทท์ ี่ใช้โดยเฉพาะเรยี กว่า Telephone Language การเตรียมประเด็น
ท่ีจะใชส้ นทนาโต้ตอบจะช่วยใหป้ ระหยดั เวลามีความแมน่ ยา และครอบคลุมสาระทจ่ี ะโตต้ อบ

สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
สื่อสารสนทนาทางโทรศัพท์ บันทกึ ข้อความทางโทรศัพท์ ด้วยภาษาอังกฤษในชวี ติ ประจาวนั

จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้( จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม)
1. สามารถบอกความหมาย คาศัพท์ สานวน ท่ีใช้ในการสนทนาทางโทรศัพท์ได้
2. สามารถใช้สานวนในการพูด-ตอบรบั ทางโทรศพั ทใ์ นลกั ษณะต่าง ๆ เช่นการขอสายกบั บุคคลท่ี
3
การบอกใหค้ อย การขอให้โทรศัพท์กลบั
3. แสดงบทบาทสมมติในการสนทนาโต้ตอบทางโทรศพั ทไ์ ด้

สาระการเรยี นรู้

Speaking on the phone

Finding your correspondent Responses
- Hello? May I help you ? - Yes, thank you./Yes, please
- Good morning. How may I help you ? - Just a minute. I’ll connect you .
- Hello. Extension (number),please. - Could you hold?
- May I speak to ( name) please? - Hold on, please
- Hello. Is ( name) in ? - I’m afraid ( name) is in a meeting

13

กจิ กรรมการเรียนการสอน (บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพยี ง,สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรียน)
(ข้ันนา ขน้ั กิจกรรมการเรียนร้ขู ้ันวเิ คราะห์ ขนั้ สรุปและประเมนิ ผล)
ขน้ั นา

1. ครทู บทวนบทเรยี นทีเ่ รียนในสัปดาห์ท่ีแล้ว
2. ครแู จ้งจุดประสงค์การเรยี นรู้ในบทเรยี นนี้
3. ใหน้ กั ศึกษาทาแบบประเมนิ ตนเองก่อนเรยี น

ข้ันสอน
1. ครใู ห้นกั ศึกษาดูบทละครสน้ั ๆเก่ียวกบั การพูดโทรศัพท์ จาก VCD และใหน้ ักศึกษาแต่ละคนแต่
ละคนจับใจความประโยคจากละครและครูส่มุ ถามทลี ะคน
2. นักศกึ ษา ศึกษาทาความเข้าใจและจับใจความประโยคจากละครส้นั ตอบคาถามครู
3. ครอู ธิบายสานวนประโยคท่ีใช้ในการสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆทางโทรศัพท์

ข้นั วิเคราะห์
4. ครูใหน้ กั ศึกษาจับคูส่ นทนาตามบทละครพร้อมแสดงทา่ ทางประกอบ ครูให้เวลาฝกึ ซ้อม 20
นาที
5. นกั ศึกษาฝึกซ้อมแสดงบทบาทสมมติภายในเวลาท่ีกาหนดและออกมาพูดหนา้ ชั้นเรยี น

ขน้ั สรปุ
6. ครแู ละนกั ศึกษาร่วมกนั สรปุ สาระสาคัญของสานวนในการพูดโทรศัพท์
7. ครูอธบิ ายและให้นักศึกษาทาแบบฝึกหดั ในบทเรยี นเพื่อทบทวนความเข้าใจ
8. นกั ศึกษาทาแบบประเมินผลตนเองหลังเรยี น

สอื่ และแหล่งการเรยี นรู้

1. VCD

2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศึกษาเพม่ิ เตมิ จากศูนย์ SALC

หลกั ฐานการเรียนรู้

1. แบบฝึกหัดในบทเรยี น
2. หลักฐานการเข้าใช้ศูนย์ SALC

14

การวัดผล/ประเมนิ ผล
เครอ่ื งมือประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมนิ ก่อนเรียนและหลงั เรยี น
2. การถาม-ตอบในชน้ั เรยี น
3. สงั เกตจากการรว่ มกิจกรรมและความสนใจใฝร่ ู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหัด
เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมของผ้เู รียนต้องได้คะแนนไมต่ า่ กวา่ ร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน มี 20 ข้อ ถา้ ผา่ น 10 คะแนนข้ึนไปถอื วา่ ผ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้ 15

รหัส 3000-1206 เวลา 6 ช่ัวโมง
ชือ่ วิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 3 ชว่ั โมง
ช่ือหน่วย On the phone
เร่อื ง Telephone message

สาระสาคญั
การบันทกึ ข้อความทางโทรศัพท์ เปน็ การแจง้ ข้อมูลข่าวสาร ใหแ้ กผ่ ้ทู ถ่ี ูกโทรศัพทถ์ ึงได้ทราบ ผู้รับ

ทางโทรศัพทจ์ ะบนั ทึกขอ้ ความทสี่ าคัญและจาเปน็ เท่าน้นั เป็นวธิ กี ารแจ้งขา่ วสารทีส่ ะดวกรวดเรว็ ภายใน
บริษทั สถานที่ทางานเดียวกนั

สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
ส่ือสารสนทนาทางโทรศพั ท์ และบันทึกขอ้ ความทางโทรศัพท์ ดว้ ยภาษาอังกฤษในชวี ิตประจาวัน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม)
1. สามารถสรา้ งแบบฟอร์มบันทึกขอ้ ความทางโทรศัพทไ์ ด้
2. อ่านและระบรุ ายละเอียดส่ิงท่ีควรมีในแบบฟอร์มบนั ทกึ ทางโทรศัพทส์ ามารถใช้สานวนในการ
พูด-ตอบรบั ทางโทรศัพท์ในลักษณะต่าง ๆ เชน่ การขอสายกบั บุคคลท่ี 3 การบอกให้คอย การ
ขอให้โทรศัพท์กลบั
3. บนั ทึกข้อความลงในแบบฟอร์มการรบั โทรศัพท์ได้
4. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์และกลา้ แสดงออก

สาระการเรยี นรู้

Telephone Message

Date:……………………………………………..Time:……………….

For::……………………………………………….

From:……………………………………………..Of:………………………

Tel:……………………………………………..

〇 Telephone 〇 Called to see you

〇 Please ring 〇 wants to see you

〇 Will call again 〇 Urgent

16

กิจกรรมการเรยี นการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น)
(ขน้ั นา ข้นั กจิ กรรมการเรียนรขู้ ัน้ วิเคราะห์ ขนั้ สรปุ และประเมินผล)
ขั้นนา

1. ครทู บทวนบทเรียนทเี่ รียนในสัปดาหท์ แี่ ล้ว
2. ครแู จ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ในบทเรียนนี้

ขั้นสอน
1. ครอู ธบิ ายคาศพั ทส์ านวนท่ใี ช้ในการบนั ทึกข้อความทางโทรศพั ท์และรายละเอียดสงิ่ ท่ีควร
มใี นแบบฟอร์มบันทกึ ข้อความทางโทรศัพท์
2. ครยู กตวั อยา่ ง การฝากขอ้ ความทางโทรศัพท์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ใหน้ กั ศึกษาฝกึ เขยี น
และบันทึกข้อความทางโทรศัพท์ และตรวจพรอ้ มกนั ในชั้นเรยี น

ข้ันวิเคราะห์
1. ให้นกั ศกึ ษาฟังเทปบทสนทนาฝากข้อความทางโทรศัพท์ และให้นกั ศึกษาจดบันทกึ
ขอ้ ความ
ทางโทรศพั ท์

ข้ันสรปุ
2. ครแู ละนกั ศกึ ษาร่วมกนั สรุปสาระสาคัญของสานวนในการบันทึกข้อความทางโทรศัพท์

สื่อและแหล่งการเรียนรู้

1. VCD

2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศึกษาเพม่ิ เตมิ จากศนู ย์ SALC

หลักฐานการเรียนรู้
1. แบบฝึกหัดในบทเรียน
2. หลักฐานการเขา้ ใช้ศนู ย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เครอ่ื งมือประเมิน

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรียนและหลงั เรยี น
2. การถาม-ตอบในชน้ั เรียน
3. สงั เกตจากการรว่ มกจิ กรรมและความสนใจใฝร่ ู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝกึ หัด
เกณฑ์การประเมินผล

17

1. พฤติกรรมของผู้เรียนต้องได้คะแนนไม่ตา่ กวา่ ร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น มี 20 ข้อ ถา้ ผ่าน 10 คะแนนข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน

แผนการจัดการเรยี นรู้

รหัส 3000-1206 เวลา 6 ช่ัวโมง
ช่ือวิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 3 ชวั่ โมง
ชือ่ หน่วย “Writing note”
เรือ่ ง Reading notes

สาระสาคญั
การเขียนข้อความทเี่ รยี กวา่ Note มีลักษณะคล้ายจดหมายส้นั ๆ ไม่มรี ูปแบบเคร่งครดั เหมอื น

จดหมายเขียนขน้ึ ด้วยจุดประสงค์ใดจดุ ประสงคห์ น่ึง ไมใ่ ชก่ ารเขียนเพื่อถามข่าวคราวหรือมารยาทสังคม
ระดับความเป็นทางการขน้ึ อยู่กับความสัมพันธ์ ระหวา่ งผเู้ ขียนและผ้รู บั

สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
ใชข้ อ้ มูลท่ีกาหนดให้ในการสื่อสารสนทนาโตต้ อบและเขียนขอ้ ความที่เปน็ Note ดว้ ย

ภาษาองั กฤษในชีวติ ประจาวัน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม)
1. สามารถบอกลกั ษณะของNote ได้
2. บอกความหมายของคาศัพท์ สานวน ข้อความท่ีใช้ในการส่ือสารพูดสนทนา และเขียนข้อความ
ส้นั ๆ ได้
3. อา่ นและสรุปสาระสาคญั ของ Note ได้
4. มคี วามกลา้ แสดงออกในการแสดงความคิดเห็น

18

สาระการเรยี นรู้
Model 1 : Note from friend to friend

Joy,
Do you have any reference books on writing

business letters? If so, will you please give then to the lady
with this letter. She is my best friend and works in my
department

Susan

Model 2: Note from wife to husband

Chai- Meet you at usual at People Plaza Food Center on Friday
about 12.00-1.00 p.m

Love
Pal

กจิ กรรมการเรยี นการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น)
(ข้นั นา ข้นั กิจกรรมการเรยี นรู้ขั้นวิเคราะห์ ขั้นสรุปและประเมนิ ผล)

ข้นั นา
1. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรยี นรู้ในบทเรียนนี้
2. นกั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรยี น

ขั้นสอน
1. ครอู ธิบายคาศัพทส์ านวนท่ีใช้ในการเขียนบันทกึ ขอ้ ความสั้น ๆ และลักษณะของ Note ต่าง ๆ
2. ครูยกตวั อย่างการเขียน note แบบตา่ ง ๆ

ขนั้ วิเคราะห์
1. นกั ศึกษาชว่ ยกนั สรปุ สาระสาคัญของ note ใน model ตา่ ง ๆ โดยแบ่งเปน็ กลมุ่ นาเสนอหน้า
ชนั้ เรียน

19

ข้ันสรุป
1. ครแู ละนักศกึ ษาร่วมกนั สรุปสาระสาคัญของสานวนในการเขยี น note ในสถานการณ์ต่าง ๆ
2. นักศึกษาทาแบบฝกึ หดั เพื่อทบทวนความเขา้ ใจ

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้

1. VCD

2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศกึ ษาเพิม่ เตมิ จากศูนย์ SALC

หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝึกหดั ในบทเรยี น
2. หลักฐานการเขา้ ใช้ศูนย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เครอ่ื งมือประเมิน

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรียนและหลงั เรยี น
2. การถาม-ตอบในช้ันเรยี น
3. สังเกตจากการร่วมกจิ กรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหัด

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. พฤติกรรมของผู้เรียนต้องได้คะแนนไมต่ า่ กว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน มี 20 ข้อ ถา้ ผ่าน 10 คะแนนขน้ึ ไปถอื ว่าผ่าน

20

แผนการจดั การเรียนรู้

รหสั 3000-1206 เวลา 6 ช่ัวโมง
ช่อื วิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 3 ชว่ั โมง
ชอ่ื หน่วย “Writing note”
เรอื่ ง Writing notes

สาระสาคัญ
การเขยี นข้อความท่ีเรียกว่า Note มีลกั ษณะคลา้ ยจดหมายสน้ั ๆ ไม่มรี ูปแบบเคร่งครดั เหมอื น

จดหมายเขยี นขึ้นด้วยจดุ ประสงค์ใดจดุ ประสงค์หนง่ึ ไม่ใช่การเขียนเพื่อถามขา่ วคราวหรือมารยาทสังคม
ระดบั ความเปน็ ทางการขน้ึ อยู่กับความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งผเู้ ขียนและผูร้ บั

สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
ใช้ข้อมูลท่ีกาหนดให้ในการสื่อสารสนทนาโตต้ อบและเขียนข้อความทเี่ ปน็ Note ด้วย

ภาษาองั กฤษในชวี ิตประจาวัน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม)
1. สามารถบอกและนาความรู้ท่ไี ด้รับมาประยุกตใ์ นการเขยี น Note ได้
2. มีความกล้าแสดงออกในการแสดงความคดิ เห็นและมีความคิดสร้างสรรค์

สาระการเรยี นรู้
We usually need to write notes to our own families, our colleagues, our friends

and other people who we are in daily contact with.
We don’t always need to write a full letter; a note will be quite enough for what

we want to say.
Notes and memos are left for people to read, or set to people by hand, not by

post.
You may use “ Dear” at the beginning but it is not necessary. People don not end

the notes with “ Sincerely” but they must put their names on the notes.
In writing notes, it is not necessary to use complete sentences:
“ Don’t forget to leave the key with Joy. I will come back at 3 p.m.”

กจิ กรรมการเรยี นการสอน(บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง,สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น)
(ขั้นนา ข้นั กิจกรรมการเรยี นร้ขู น้ั วเิ คราะห์ ขัน้ สรปุ และประเมนิ ผล)

21

ขัน้ นา
1. ครทู บทวนคาศัพทส์ านวนท่ีใช้ในการเขยี นข้อความสัน้ ๆ และลกั ษณะของnote รูปแบบต่าง ๆ
โดยสมุ่ ถามนกั ศกึ ษาเปน็ รายบคุ คลเพ่ือวัดความเขา้ ใจ

ข้นั สอน
2. ครอู ธบิ ายคาศพั ทส์ านวนทีใ่ ช้ในการเขยี นบันทึกข้อความสั้น ๆ และลักษณะของ Note ตา่ ง ๆ

ขนั้ วเิ คราะห์
3. ครใู ห้นกั ศึกษาฝึกเขียน note ตามสถานการณ์ท่ีครูกาหนดให้

ข้นั สรุป
4. ครูและนกั ศึกษาร่วมกนั สรุปสาระสาคัญของสานวนในการเขียน note ในสถานการณ์ต่าง ๆ
5. นกั ศกึ ษาทาแบบประเมนิ ตนเอง

สื่อและแหล่งการเรยี นรู้

1. VCD

2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศึกษาเพิม่ เติมจากศนู ย์ SALC

หลักฐานการเรียนรู้
1. แบบฝึกหัดในบทเรียน
2. หลกั ฐานการเขา้ ใช้ศูนย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เคร่ืองมอื ประเมิน

1. แบบทดสอบประเมนิ ก่อนเรียนและหลงั เรยี น
2. การถาม-ตอบในช้ันเรยี น
3. สังเกตจากการรว่ มกิจกรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหัด

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. พฤติกรรมของผูเ้ รียนต้องได้คะแนนไมต่ า่ กวา่ ร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น มี 20 ข้อ ถ้าผา่ น 10 คะแนนขึ้นไปถอื วา่ ผ่าน

22

แผนการจัดการเรียนรู้

รหัส 3000-1206 เวลา 6 ช่ัวโมง
ชื่อวิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 6 ชวั่ โมง
ชอื่ หน่วย Instructions
เรือ่ ง Instructions

สาระสาคญั
การเขียนคาช้แี จง คือข้อความที่มอบหมายใหผ้ รู้ ับทาสิ่งหน่ึงส่ิงใด โดยเรยี งลาดับเร่ืองทต่ี ้องทา

เพือ่ ใหง้ า่ ยแกก่ ารเข้าใจ

สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
สื่อสารสนทนาเขียนและอา่ นขอ้ ความทเ่ี ป็น Instructions ตามโครงสรา้ งที่เปน็ ภาษาองั กฤษ

ประสงคก์ ารเรียนรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม)
1. สามารถบอกความหมายของคาศัพท์ สานวน ท่ใี ช้ในการส่ือสารสนทนา และเขียนคาชี้แจงได้
2. สามารถบอกลกั ษณะความแตกตา่ งระหว่าง Note และ Instructions ได้
3. มีความคิดสร้างสรรค์ และความสามคั คี

สาระการเรยี นรู้
You can leave a note with instructions for someone to do something or

leave a list of things to do. Such notes are easier for readers to understand if you give
your instructions some order with number
( 1,2,3) or letters ( a,b,c)

กิจกรรมการเรียนการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น)
(ขนั้ นา ขนั้ กจิ กรรมการเรียนรขู้ ้นั วเิ คราะห์ ขั้นสรุปและประเมินผล)
ขัน้ นา

1. ครแู จง้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ในบทเรยี นน้ี
2. นกั ศึกษาทาแบบทดสอบก่อนเรียน

ข้ันสอน
1. ครอู ่านและอธิบายคาศัพท์ ความหมายของประโยคใน Instruction ให้นักศึกษาทราบจุดรปะ
สงคก์ ารเขยี น Instruction
2. ครอู ธิบายและชใ้ี หเ้ หน็ ความแตกตา่ งในการเขยี น Note และ Instruction
3. ครูอา่ นและอธบิ ายศัพท์ สานวน ความหมายของข้อความ

23

ขน้ั วเิ คราะห์
1. ครแู จกใบความรู้และให้นักศึกษาแต่งบทสนทนาตามสถานการณ์ท่กี าหนด จับคู่ฝกึ สนทนาใน
Activity

ข้ันสรปุ
1. นกั ศึกษาช่วยกันสรปุ สาระสาคญั ของ Instruction
2. ทาแบบฝกึ หัดเพ่ือทบทวนความเขา้ ใจ
3. ทาแบบทดสอบหลังเรียน

สอ่ื และแหล่งการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอน
2. ใบความรู้
3. ศกึ ษาเพ่ิมเตมิ จากศูนย์ SALC

หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝกึ หัดในบทเรียน
2. หลกั ฐานการเข้าใช้ศูนย์ SALC

การวดั ผล/ประเมินผล
เคร่ืองมอื ประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมนิ ก่อนเรยี นและหลังเรียน
2. การถาม-ตอบในชน้ั เรยี น
3. สงั เกตจากการร่วมกจิ กรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหดั

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมของผู้เรยี นต้องได้คะแนนไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน มี 20 ข้อ ถา้ ผา่ น 10 คะแนนขึ้นไปถือวา่ ผ่าน

24

แผนการจดั การเรยี นรู้

รหสั 3000-1206 เวลา 6 ชั่วโมง
ชื่อวิชา การสนทนาภาษาองั กฤษ 1 เวลา 3 ชั่วโมง
ชอื่ หน่วย Memo writing
เร่อื ง Memo writing

สาระสาคญั
Memo หรือบนั ทึกช่วยจาเป็นบันทกึ ท่ใี ช้กันในหน่วยงาน มักมีแบบเฉพาะและค่อนขา้ งเป็น

ทางการระดับความเป็นทางการขึน้ อยู่กับความสัมพนั ธ์ระหว่างผ้เู ขยี นและผรู้ บั เป็นวธิ กี ารทต่ี ดิ ตอ่ ได้สะดวก
รวดเร็ว ชดั เจน กะทดั รดั

สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรียนรู้
1. เขียนรปู แบบเน้ือหาสาระและหลกั การในการบันทึกชว่ ยจา
2. สร้างบทสนทนาสอ่ื สารสั่งให้เขยี นบนั ทึกชว่ ยจาได้

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม)
1. สามารถบอกลักษณะการเขียน Memo ได้
2. อ่านและสรุปสาระสาคัญของการเขยี น Memo ได้
3. บอกรายระเอยี ดจากขอ้ ความต่าง ๆ ทีอ่ า่ นได้จาก Memoได้

สาระการเรยี นรู้

A memo is a written message or an informal letter, usually without personal signature .It is
usually a note to persons working in the dame company. It may be typed or handwritten. It is quick,
concise and convenient way of communicating within a company.

กจิ กรรมการเรยี นการสอน(บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง,สวนพฤกษศาสตรโ์ รงเรยี น)
(ข้นั นา ข้นั กิจกรรมการเรียนรขู้ นั้ วเิ คราะห์ ขัน้ สรปุ และประเมินผล)

ขน้ั นา
1. ครูแจง้ จุดรประสงคก์ ารเรียน
2. ครูใหน้ ักศึกษาทาแบบประเมินตนเองก่อนเรยี น

ขน้ั สอน
1 ครูอ่านและอธบิ ายศัพท์ ความหมายประโยค ใหน้ กั ศึกษาทราบว่าบนั ทกึ ชว่ ยจาคืออะไร ใช้

เม่อื ใด เพือ่ อะไร และมลี กั ษณะอยา่ งไร
2.ครอู า่ นและอธบิ ายศัพท์สานวน ความหมายของประโยคใน Model

25

ข้ันวเิ คราะห์
3. ครมู อบหมายให้นักศกึ ษาชว่ ยกันสรุปสาระสาคัญของ Memo ในModel ตา่ ง ๆโดยแบ่งเป็น
กล่มุ และนาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น

ข้ันสรปุ
4. ครใู หน้ ักศึกษาทาแบบฝึกหดั เพือ่ ทบทวนความเข้าใจ

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอน
2. ศึกษาเพิ่มเติมจากศนู ย์ SALC

หลกั ฐานการเรียนรู้
1. แบบฝกึ หัดในบทเรียน
2. หลกั ฐานการเขา้ ใช้ศนู ย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เครอ่ื งมือประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรยี นและหลังเรียน
2. การถาม-ตอบในชั้นเรยี น
3. สงั เกตจากการร่วมกิจกรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝกึ หดั

เกณฑ์การประเมินผล
1. พฤติกรรมของผ้เู รียนต้องได้คะแนนไม่ตา่ กว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น มี 20 ข้อ ถา้ ผา่ น 10 คะแนนขน้ึ ไปถือว่าผ่าน

26

แผนการจดั การเรยี นรู้

รหัส 3000-1206 เวลา 6 ชั่วโมง
ชอ่ื วิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 3 ช่วั โมง
ชอ่ื หน่วย Memo writing
เร่อื ง Memo writing

สาระสาคญั
Memo หรือบนั ทกึ ชว่ ยจาเป็นบันทกึ ท่ใี ช้กนั ในหน่วยงาน มักมแี บบเฉพาะและค่อนข้างเป็น

ทางการระดับความเปน็ ทางการขน้ึ อยู่กบั ความสมั พันธ์ระหว่างผู้เขียนและผู้รับ เป็นวิธกี ารท่ตี ดิ ตอ่ ได้สะดวก
รวดเรว็ ชัดเจน กะทดั รัด

สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
1. เขยี นรปู แบบเน้ือหาสาระและหลกั การในการบนั ทึกช่วยจา
2. สร้างบทสนทนาสอ่ื สารส่ังให้เขยี นบันทึกชว่ ยจาได้

จุดประสงค์การเรยี นรู้ ( จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรม)
1. สามารถนาความร้ทู ี่ได้รับมาประยกุ ตเ์ ขียนเป็น Memo ได้

สาระการเรียนรู้

Memo
To:………………………………………………….Date……………………….
From:……………………………………………..Subject……………………..

………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………..

Signature

กิจกรรมการเรียนการสอน(บูรณาการเศรษฐกิจพอเพียง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน)
(ขัน้ นา ขั้นกจิ กรรมการเรียนรขู้ ้ันวเิ คราะห์ ขน้ั สรปุ และประเมินผล)

ขน้ั นา
1. ครทู บทวนคาศัพท์สานวนทใ่ี ช้ในการเขียนขอ้ ความส้ัน ๆ และลกั ษณะของ Memo ในรปู แบบ
ตา่ ง ๆ โดยสุ่มถามนักศึกษาเปน็ รายบคุ คลเพื่อวัดความเข้าใจ

27

ข้นั สอน
1. ครูแจกใบความรู้ กาหนดสถานการณ์ต่าง ๆ ใหน้ กั ศกึ ษาฝึกเขยี นบันทึกชว่ ยจา

ขัน้ วิเคราะห์
2. นักศึกษาเขยี น Memo ตามสถานการณ์ทีค่ รูกาหนดให้

ขัน้ สรปุ
1.ครูให้นกั ศึกษาทาแบบทดสอบหลังเรียน

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอน
2. ศึกษาเพม่ิ เตมิ จากศูนย์ SALC

หลักฐานการเรียนรู้
1. แบบฝกึ หดั ในบทเรียน
2. หลักฐานการเข้าใช้ศูนย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เคร่อื งมือประเมิน

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรียนและหลังเรยี น
2. การถาม-ตอบในชน้ั เรียน
3. สงั เกตจากการรว่ มกิจกรรมและความสนใจใฝร่ ู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝกึ หัด

เกณฑ์การประเมินผล
1. พฤติกรรมของผ้เู รียนต้องได้คะแนนไม่ตา่ กว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน มี 20 ข้อ ถา้ ผา่ น 10 คะแนนข้นึ ไปถือวา่ ผ่าน

28

แผนการจัดการเรียนรู้ เวลา 6 ช่วั โมง
รหัส 3000-1206 เวลา 6 ชั่วโมง
ช่อื วิชา การสนทนาภาษาองั กฤษ 1
ชือ่ หน่วย Sale letters
เรอ่ื ง Sale pitch from a sales representative

สาระสาคญั
1.การเสนอขายสินค้าสามารถกระทาได้หลายรูปแบบ การเสนอขายด้วยจดหมายขายสินค้า การใช้

ภาพโฆษณาจูงใจขายสินค้า การสือ่ สารสนทนาเสนอขายสินค้า ต่างเป็นวีที่จะดงึ ดดู ลูกค้าใหส้ นใจและสั่งซื้อ
สนิ คา้

2.การส่ือสารสนทนาเสนอขายสินค้าน้ัน ผู้ซ้อื สามารถซักถามรายระเอียดที่น่าสนใจของสินค้าน้ันๆ
จากผ้ขู ายได้ เป็นการสื่อสารโดยใชภ้ าษาพูด ต่างกับการเสนอขายสินค้า ด้วยจดหมายและภาพโฆษณาขาย
สินค้าซึ่งส่ือความหมายโดยใช้ภาษาเขียน การส่ือความหมายโดยใช้ภาษาเขียนนั้น ผู้เขียนต้องมีความ
พิถีพิถัน เป็นพิเศษในรูปแบบภาษาท่ีใช้ เพราะผู้เขียนจะไม่มีโอกาสได้อธิบายเพิ่มเติมข้อความใดที่ไม่
สมบูรณ์หรือไม่ชดั เจนให้กับผอู้ ่านเลย

สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
1. อา่ นและสรุปขอ้ ความและสาระสาคัญในจดหมายขายเพื่อประโยชนท์ างธรุ กิจ
2. สื่อสารสนทนาการซื้อขายดว้ ยภาษาองั กฤษในชีวิตประจาวัน

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม)
1. แสดงบทบาทและสนทนาโต้ตอบการขายสินค้าและสอ่ื ความหมายได้
2. สรุปสาระสาคญั ของการสนทนาได้
3. สร้างบทสนทนาโตต้ อบการซื้อขายสนิ คา้ ได้
4. อ่านข้อความในภาพโฆษณาสินคา้ และสามารถสรปุ สาระสาคญั และส่ือความหมายได้

5. บูรณาการคณุ ธรรมพื้นฐาน 8 ประการ

สาระการเรียนรู้
A sales letter is a letter written to prospective customers in order to promote

sales.
Sales pitch from a sales representative
SR = sales representative
C = customer
SR: Good morning. I’m Anan from Sunnex Trading Co.
C: Good morning.

29

SR: I’d like to talk to you about our product if you have time.
C: All right.
SR: My company is a leader in the air-conditioning business. Her is our latest air-
conditioner. It is available in 9,000-16,000 BTU and suitable for a small office. It has an
automatic timer and computerized cooling system with remote control. It’s economical.
You pay only 700 baht electricity per month.
C: That’s interesting. What about the cost?
SR: Our prices are very reasonable . This one is only 20,000 baht.
C: I’ll think about it. Do you have a business card?
SR: Oh, yes….here.
C: All right. I’ll let you know.
SR: Thank you. Good bye
C: Good bye

กจิ กรรมการเรียนการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน)
(ขนั้ นา ขัน้ กจิ กรรมการเรียนรู้ขั้นวเิ คราะห์ ขัน้ สรปุ และประเมนิ ผล)
ขน้ั นา

1. ครแู จง้ จุดประสงคก์ ารเรียน
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน
ขนั้ สอน
1. ครูให้นกั ศึกษาฟังเทปบทสนทนาเก่ยี วกับการซื้อขายสนิ ค้าและอธบิ ายสานวนในบทสนทนา
2. ครอู ธิบายคาศพั ท์ สานวน ข้อความในบทสนทนา
3. นักศกึ ษาจบั ค่ฝู ึกสนทนาตามเทป
4. ครอู ธิบายคาศพั ท์ สานวน ขอ้ ความหมายในจดหมาย
ขั้นวเิ คราะห์
1. นักศึกษาฝึกอ่านจดหมายขายและสรุปสาระสาคัญของจดหมายขาย
2. ครใู ห้นกั ศึกษาสร้างบทสนทนาโตต้ อบเก่ียวกับการซื้อขายตามสถานการณท์ ่ีกาหนดและฝึก

สนทนากัน
โดยนักศกึ ษานอ้ งยึดหลกั คุณธรรมพ้นื ฐาน 8 ประการ เชน่ การซอื้ ขายต้องมีความซ่ือสตั ย์
ขั้นสรปุ

1. ทาแบบฝึกหดั เพ่ือทบทวนความเขา้ ใจ
2. ทาแบบทดสอบหลงั เรียน
3. บูรณาการเรียนในชั้นเรียนกับศูนย์การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง

30

ส่ือและแหล่งการเรียนรู้
1. เทป
2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศกึ ษาเพม่ิ เตมิ จากศูนย์ SALC

หลกั ฐานการเรียนรู้
1. แบบฝกึ หัดในบทเรยี น
2. หลกั ฐานการเข้าใช้ศนู ย์ SALC

การวัดผล/ประเมนิ ผล
เครอ่ื งมอื ประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรยี นและหลงั เรยี น
2. การถาม-ตอบในชนั้ เรยี น
3. สังเกตจากการร่วมกิจกรรมและความสนใจใฝร่ ู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหัด
เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมของผเู้ รยี นต้องได้คะแนนไม่ตา่ กว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรียน มี 20 ข้อ ถา้ ผ่าน 10 คะแนนขนึ้ ไปถอื วา่ ผ่าน

31

แผนการจัดการเรยี นรู้ เวลา 6 ช่ัวโมง
รหสั 3000-1206 เวลา 6 ช่ัวโมง
ชือ่ วิชา การสนทนาภาษาองั กฤษ 1
ช่ือหน่วย Congratulations
เรอ่ื ง Congratulation and responding

สาระสาคัญ
การแสดงความยนิ ดีเปน็ มารยาทสังคมทีน่ ิยมปฏิบตั แิ ละควรจะแสดงทนั ทีท่มี ีโอกาสเขียนเปน็

จดหมายลักษณะคล้าย จดหมายสว่ นตัวส้นั ๆ หรอื เป็นบัตรอวยพร หรอื โดยการส่ือสารสนทนา

สมรรถนะประจาหน่วยการเรยี นรู้
1. พูดแสดงความยินดีและเขียนจดหมายอวยพรแสดงความยินดีด้วยสานวนภาษาอังกฤษได้
เหมาะสมกบั โอกาส
2. ทาการ์ดอวยพรโดยบูรณาการปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง เลือกใช้สานวนทง่ี ่ายเพื่อความ
ประหยัด

จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ (จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม )
1. สามารถบอกความหมายของศัพท์ สานวน ประโยคในการแสดงความยินดีได้
2. กลา่ วแสดงความยินดแี ละสอื่ สารโตต้ อบได้
3. สามารถเขียนจดหมายหรอื บัตรอวยพรแสดงความยินดีได้

สาระการเรียนรู้
1. Congratulating and responding

- Congratulations to________on_________( Congratulations to you on your wedding )
- I congratulate _________on ____________( I congratulate you n passing your

examination.)
2. Congratulating letters

Letters of this type offer a real opportunity to draw friends, acquaintances and
relatives close together. Such letters must be true ad sincere

32

กจิ กรรมการเรยี นการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน)
(ขัน้ นา ข้นั กจิ กรรมการเรียนร้ขู น้ั วเิ คราะห์ ขนั้ สรุปและประเมินผล)

ขั้นนา
1. ครูแจ้งจดุ ประสงค์การเรียน
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน

ขนั้ สอน
1. ครูอธิบายคาศัพทส์ านวน รปู ประโยคทใี่ ช้ในการกล่าวแสดงความยนิ ดี
2. ฟงั เทปบทสนทนา และใหน้ กั ศกึ ษาฝึกออกเสยี งภาษาอังกฤษตามเทป
3. ครอู ธบิ ายคาศพั ท์ สานวน รปู ประโยคที่ใช้ในการเขียนข้อความแสดงความยนิ ดี
4. ทบทวนรปู ประโยคตา่ งๆท่ใี ช้ในการเขยี นข้อความแสดงความยินดี

ข้ันวิเคราะห์

1. นักศกึ ษาฝกึ อ่านและระบปุ ระโยคตา่ งๆท่ใี ชใ้ นการแสดงความยินดี
2. จบั คู่สนทนากลา่ วแสดงความยินดตี ามสถานการณ์ที่กาหนด
3. ครูอธิบายหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง และใหห้ ลักแนวคิดของเศรษฐกจิ พอเพยี งว่า เป็นการ

พัฒนาทต่ี ั้งอย่บู นพ้ืนฐานของทางสายกลางและไม่ประมาทโดยคานงึ ถงึ ความประมาณ ความมี
เหตผุ ล การสรา้ งภูมคิ มุ้ กนั ท่ีดีในตัว ตลอดจนใชค้ วามรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม ประอบ
การวางแผนการตัดสินใจและการกระทา ( 3 ห่วง 2 เง่ือนไข)
4. ครไู ด้มอบหมายงานให้นกั ศึกษาทา การ์ดแสดงความยินดี สง่ ในคาบหนา้ และช่วยกันวเิ คราะห์
วา่ เข้ากับหลักเศรษฐกจิ พอเพียงไดอ้ ย่างไร
ข้ันสรุป
1. ทาแบบฝกึ หัดเพ่ือทบทวนความเขา้ ใจ
2. ทาแบบทดสอบหลังเรยี น
3. บรู ณาการเรยี นในชน้ั เรียนกับศูนย์การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง

ส่ือและแหล่งการเรยี นรู้
1. เทป
2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศึกษาเพม่ิ เตมิ จากศูนย์ SALC

หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝึกหดั ในบทเรียน
2. หลกั ฐานการเข้าใช้ศนู ย์ SALC

33

การวดั ผล/ประเมินผล
เครือ่ งมือประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรยี นและหลงั เรียน
2. การถาม-ตอบในชัน้ เรียน
3. สังเกตจากการรว่ มกิจกรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝกึ หัด
6. การ์ดแสดงความยนิ ดี

เกณฑก์ ารประเมินผล
1. พฤติกรรมของผเู้ รียนต้องได้คะแนนไมต่ า่ กวา่ ร้อยละ 80 %
2.คะแนนแบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรยี น มี 20 ข้อ ถ้าผา่ น 10 คะแนนข้ึนไปถือว่าผา่ น

34

บูรณาการหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสูก่ ารเรยี นการสอน
โดยใหน้ กั ศกึ ษาทากิจกรรมเป็นกลุม่ ออกแบบ Congratulation Card บรู ณาการดงั นี้

ความพอประมาณ
- กาหนดเนื้อหาได้พอเหมาะกับผู้เรียน
- จานวนชิ้นงานพอเหมาะกับศักยภาพผู้เรียน
- เตรียมวสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการจัดทาให้เหมาะสมกบั งานและหาง่าย
- ระยะเวลาพอเหมาะ

ความมีเหตุผล
- การวเิ คราะหเ์ ลือกวสั ดใุ หเ้ หมาะสมและเปน็ ประโยชน์
- ถ้ากาหนดเน้ือหายากเกนิ ไป ทาใหไ้ ม่เกิดผลสัมฤทธทิ์ างการเรียน
- ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์

มภี มู ิคมุ้ กัน
- มีความตระหนกั และร้จู ักประยกุ ตใ์ ช้ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงในการดาเนินชีวิต

เงอ่ื นไขความรู้
- หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
- มีความรใู้ นการเลือกใชส้ านวนภาษาอังกฤษ.ในการอวยพรให้เหมาะสมกบั โอกาส
- มคี วามคดิ สรา้ งสรรคใ์ นการออกแบบการด์ อวยพร

เงอ่ื นไขคุณธรรม
- มคี ุณธรรมและจริยธรรม
- มคี วามรบั ผิดชอบ
- สามารถทางานรว่ มกนั ได้

แผนการจดั การเรียนรู้ 35
รหสั 3000-1206
ชอ่ื วิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 6 ช่ัวโมง
ชื่อหน่วย Excusing เวลา 6 ชว่ั โมง
เรื่อง Excusing yourself from work

สาระสาคัญ
เหตุการณท์ ่ีไม่คาดคิดอาจเกิดข้ึนไดใ้ นชีวิตประจาวันและเป็นเหตุให้ต้องมีการทางานสายหรือลา

งาน อยา่ งไรกด็ ีสมควรที่จะแจ้งขออนญุ าตก่อนโดยการสื่อสารสนทนาหรอื เขยี นขอ้ ความสั้นๆ

สมรรถนะประจาหน่วยการเรียนรู้
พดู สนทนาโต้ตอบเก่ียวกบั การขออนญุ าตมาสายหรือขอลางาน ด้วยสานวนภาษาองั กฤษให้

เหมาะสมกบั โอกาส

จุดประสงค์การเรยี นรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม)

1. บอกความหมายของศพั ท์ สานวน ประโยค ทใ่ี ชใ้ นการส่ือสารสนทนาเก่ียวกับการขออนุญาตมาสายหรือขอ
ลางานได้

2. สื่อสารสนทนาโต้ตอบเกยี่ วกับการขออนญุ าตมาสายหรือขอลางานได้
3. ระบปุ ระโยคท่ใี ช้ในการเขียนข้อความหรือจดหมายส้ันๆ เพือ่ ขออนญุ าตมาสายหรือขอลางานได้
4. เขียนขอ้ ความหรือจดหมายส้ันๆ เกีย่ วกบั การขออนุญาตมาสายหรอื ขอลางานได้
5.

สาระการเรยี นรู้

- Excusing yourself from work

- Personal leave form

กจิ กรรมการเรยี นการสอน(บูรณาการเศรษฐกิจพอเพยี ง, สวนพฤกษศาสตร์โรงเรยี น)
(ขั้นนา ข้ันกจิ กรรมการเรียนรขู้ ้นั วเิ คราะห์ ขัน้ สรปุ และประเมนิ ผล)

ขนั้ นา
1. ครูแจ้งจุดประสงค์การเรยี น
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน

36

ขัน้ สอน
1. ครูบอกความหมายของศพั ท์ สานวน รปู ประโยคใช้ในการกลา่ วสนทนา เกีย่ วกับการขอมา
สาย
หรือการลางาน
2. ครฝู กึ สนทนากับนักศึกษาเก่ียวกบั การขอมาสาย
3. ครูฝกึ สนทนาใหเ้ หตผุ ลกับนักเรยี นเกยี่ วกับการขอลางาน

ข้ันวเิ คราะห์
1. นักศกึ ษาฟังเทปสนทนาและจับคูฝ่ กึ พูดสนทนากบั เพื่อน
2.ครูอธบิ ายศัพทแ์ ละรายละเอียดของแบบฟอร์มลากิจ ลาปว่ ยตา่ ง ๆการกรอกขอ้ ความตามเหตุผล
3.นกั ศกึ ษาฝึกกรอกข้อความ

ข้นั สรุป
1. ทาแบบฝึกหดั เพอื่ ทบทวนความเขา้ ใจ
2. ทาแบบทดสอบหลงั เรยี น
3. บูรณาการในชนั้ เรียนกับศูนย์การเรียนร้ดู ้วยตนเอง

สื่อและแหล่งการเรียนรู้
1. เทป
2. เอกสารประกอบการสอน
3. ศึกษาเพ่ิมเตมิ จากศูนย์ SALC

หลกั ฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝึกหดั ในบทเรียน
2. หลกั ฐานการเข้าใช้ศูนย์ SALC

การวัดผล/ประเมนิ ผล
เคร่ืองมอื ประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมินก่อนเรยี นและหลังเรยี น
2. การถาม-ตอบในชนั้ เรียน
3. สังเกตจากการร่วมกจิ กรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. การแสดงบทบาทสมมติ
5. แบบฝึกหดั

เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมของผ้เู รยี นต้องได้คะแนนไมต่ ่ากวา่ ร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลังเรยี น มี 20 ข้อ ถา้ ผา่ น 10 คะแนนข้ึนไปถือวา่ ผ่าน

37

แผนการจดั การเรียนรู้

รหสั 3000-1206 เวลา 6 ชั่วโมง
ชื่อวิชา การสนทนาภาษาอังกฤษ 1 เวลา 6 ช่ัวโมง
ชือ่ หน่วย Reading
เรือ่ ง Reading Competence

สาระสาคญั
การอ่านข้อความตา่ งๆ เปน็ ภาษาอังกฤษทั้งเกี่ยวกับวัฒนธรรมและสาระอื่นๆ ท่วั ไป เพื่อการ

ค้นควา้ เป็นความรู้และปฏิบัติได้ถูกต้องจากขอ้ ความนนั้

สมรรถนะประจาหนว่ ยการเรยี นรู้
ฟังและสรปุ สาระสาคัญของข้อความที่ฟังเปน็ ภาษาพูดและภาษาเขียนเพื่อสื่อความหมาย

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ (จดุ ประสงคเ์ ชิงพฤติกรรม)
1. อ่านและบอกความหมายของคาศัพท์ สานวน ประโยค ข้อความได้ถกู ต้อง
2. บอกรายละเอยี ดจากข้อความตา่ งๆท่ีอ่านได้
3. สรปุ ประเดน็ สาคญั จากข้อความต่างๆ ได้
4. แสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั ข้อความทอี่ ่านได้

สาระการเรียนรู้
- Reading information

กิจกรรมการเรียนการสอน(บูรณาการเศรษฐกจิ พอเพียง,สวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน)
(ขน้ั นา ขั้นกจิ กรรมการเรียนรขู้ น้ั วเิ คราะห์ ขั้นสรปุ และประเมนิ ผล)
ขน้ั นา

1. ครูแจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรียน
2. ทาแบบทดสอบก่อนเรียน
ขั้นสอน
1. ครยู กตวั อย่างสถานการณ์ที่เกีย่ วข้องกับการให้ข้อมลู ข่าวสารในชวี ิตประจาวัน
2. ครูอา่ นและอธิบายศัพท์ ความหมายประโยคในการใหข้ ้อมูลขา่ วสารในชวี ติ ประจาวนั และให้
นกั ศกึ ษาทราบวา่ การอา่ นนั้นมีหลายลักษณะ เช่นการอา่ นจับใจความ อา่ นเพื่อวิเคราะห์เป็นตน้
ขน้ั วเิ คราะห์
1. ครใู หน้ ักศึกษาชว่ ยกันสรุปสาระสาคญั ของ Reading Passage ซึง่ มีทงั้ หมด 5 เรือ่ ง ให้

แบง่ เป็นกล่มุ และนาเสนอหน้าชั้นเรียน

38

ขัน้ สรปุ
1 ครอู ธิบายซกั ถามให้นักศึกษาบอกรายละเอยี ดต่างๆและสรุปประเด็นสาคญั
2 นักศกึ ษาทาแบบฝกึ หดั เพ่อื ทบทวนความเขา้ ใจ
3 ทาแบบทดสอบหลังเรยี น
4 บรู ณาการในชน้ั เรียนกับศนู ย์การเรียนรดู้ ้วยตนเอง

ส่อื และแหล่งการเรียนรู้
1. เอกสารประกอบการสอน
2. ศึกษาเพมิ่ เติมจากศนู ย์ SALC

หลักฐานการเรยี นรู้
1. แบบฝกึ หดั ในบทเรยี น
2. หลักฐานการเขา้ ใช้ศูนย์ SALC

การวดั ผล/ประเมนิ ผล
เครอื่ งมอื ประเมนิ

1. แบบทดสอบประเมนิ ก่อนเรยี นและหลังเรยี น
2. การถาม-ตอบในชน้ั เรียน
3. สังเกตจากการรว่ มกจิ กรรมและความสนใจใฝ่รู้
4. งานทีม่ อบหมายเปน็ กจิ กรรมกลุ่ม
5. แบบฝกึ หดั

เกณฑ์การประเมนิ ผล
1. พฤติกรรมของผ้เู รียนต้องได้คะแนนไมต่ ่ากว่าร้อยละ 80 %
2. คะแนนแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น มี 20 ข้อ ถ้าผา่ น 10 คะแนนข้ึนไปถือว่าผ่าน

39

ภาคผนวก

40

แบบสังเกตพฤตกิ รรมรายบุคคล

พฤติกรรม

ทางาน

ลาดั ช่อื -สกุล ความ การแสดง การตอบ การรับฟัง ตามท่ี รวม
บที่ สนใจ ความ คาถาม ความ ไดร้ ับ
คิดเหน็ คิดเห็น
มอบหมา



1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20

เกณฑก์ ารวัดผล ให้คะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤติกรรมดังนี้

ดีเยย่ี ม = 4 สนใจฟัง ไม่หลับ ไม่พูดคุยในชั้น มีคาถามที่ดี ตอบคาถามถูกต้อง

ทางานส่งครบตรงเวลา

ดีมาก = 3.5 สนใจฟงั มีการตง้ั คาถามบา้ ง ตอบคาถามบา้ ง ส่งงานครบตรงเวลา

ดี = 3 สนใจฟงั ไมค่ ่อยมกี ารตง้ั คาถาม ตอบคาถามบ้าง ส่งงานครบตรงเวลา

พอใช้ = 2.5 สนใจฟงั แตไ่ มค่ ่อยแสดงออก ส่งงานครบแตไ่ มต่ รงเวลา

ปานกลาง = 2 สนใจฟังบา้ งแตม่ ีการแสดงออกอยู่ในเกณฑ์น้อย ประมาณ 50%

ควรปรบั ปรงุ = 1.5 เข้าชน้ั เรยี น แต่การแสดงออกนอ้ ยมาก สง่ งานไม่ตรงเวลา

ควรปรบั ปรุงอยา่ งยง่ิ = 1 เข้าชั้นเรียนบ้าง ไม่สนใจฟัง ไม่มีการต้ังคาถาม ไม่ส่งงาน และไม่ตรง

เวลา

ต้องแก้ไข = 0 เข้าชั้นเรียนน้อยมาก ไม่สนใจฟัง ไม่มกี ารตัง้ คาถาม ไม่สง่ งานและไมต่ รง

เวลา

ลงชื่อ……………………………….ผสู้ ังเกต

(………………………….……)

…………/…………/………..

41

แบบประเมินพฤติกรรมการเขา้ รว่ มกจิ กรรมกลุ่ม

คาสง่ั กล่มุ ท…ี่ ……..ช้นั /แผนก……………….
คาชแี้ จง ให้สังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนตามพฤติกรรมท่ีกาหนด
กลุ่ม ให้ผ้สู อนประเมนิ และใสเ่ คร่ืองหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับพฤติกรรมของนกั เรียนในแตล่ ะ

ลาดั พฤติกรรม
บที่
หวั ขอ้ เร่อื ง ความ การแสดง ความ ทางาน การ รวม
ร่วมมือกนั ความ ตัง้ ใจใน เสร็จตาม นาเสนอ
คิดเหน็ ผลงาน
การ เวลา
ทางาน

1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20

เกณฑ์การให้คะแนน

ดีเย่ียม = 4 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 90% ขึ้นไป

ดีมาก = 3.5 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 88% ขึ้นไป

ดี = 3 ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 75% ข้ึนไป

พอใช้ = 2.5 ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 70% ขึ้นไป

ปานกลาง = 2 ประสทิ ธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 65% ข้นึ ไป

ปรับปรุง = 1.5 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 60% ข้นึ ไป

ควรปรับปรงุ = 1 ประสิทธิภาพตา่ กว่าเกณฑ์ 55% ขึ้นไป

ควรปรบั ปรุงอย่างยิง่ = 0 ประสิทธภิ าพตา่ กว่าเกณฑ์ 50%

ลงชื่อ………………………………ผสู้ ังเกต
(…………………………….)
………./……………/………

42

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเข้ารว่ มกิจกรรมกลุ่ม

กลมุ่ เช่ยี วชาญท่ี…..…….ช้นั /แผนก……………….

คาส่งั ใหป้ ระธานกลุม่ สังเกตพฤติกรรมสมาชิกในกลุ่มตามพฤติกรรมทกี่ าหนด

คาชแ้ี จง ให้ประธานกลุ่มประเมินและใสเ่ ครอ่ื งหมาย ✓ ลงในช่องท่ีตรงกบั พฤตกิ รรมของสมาชกิ ในกลุ่ม

พฤติกรรม

ลาดับ ชื่อ-สกุล ความ การแสดง การรบั ฟัง ความ การมี รวม
ที่ สมาชกิ กลุ่ม ร่วมมอื ความ ความ ตัง้ ใจใน ส่วน-ร่วม
คดิ เห็น คิดเห็น ในการ
กนั การ อภิปราย
ทางาน

1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 1 2 3 4 20

เกณฑ์การให้คะแนน

ดีเยี่ยม = 4 ประสิทธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 90% ข้นึ ไป

ดมี าก = 3.5 ประสทิ ธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 88% ข้ึนไป

ดี = 3 ประสิทธภิ าพอยู่ในเกณฑ์ 75% ขึน้ ไป

พอใช้ = 2.5 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 70% ขึน้ ไป

ปานกลาง = 2 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 65% ข้ึนไป

ปรบั ปรุง = 1.5 ประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ 60% ขน้ึ ไป

ควรปรบั ปรุง = 1 ประสิทธิภาพต่ากว่าเกณฑ์ 55% ขนึ้ ไป

ควรปรับปรุงอย่างยง่ิ = 0 ประสทิ ธิภาพตา่ กว่าเกณฑ์ 50%

ลงชือ่ ………………………………ผู้สังเกต
(…………………………….)
………./……………/………

43

แบบประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ช่ือผปู้ ระเมนิ /กล่มุ ประเมนิ …………………………………………………………………………………..
ชื่อกลุ่มรับการประเมนิ ………………………………………………………………………………………
ประเมนิ ผลคร้ังที่…………....…….. วนั ที่ ……………..…. เดือน ………..………. พ.ศ. ……...….…..
เรอ่ื ง…………………………………………………………………………………………………………….

ระดบั พฤตกิ รรม

ที่ คณุ ลักษณะ/พฤตกิ รรมบ่งช้ี เกดิ = 1 ควรปรับปรงุ = คะแนนทไี่ ด้
0
1 ความมีมนษุ ยสมั พนั ธ์
แสดงกริ ยิ าท่าทางสภุ าพต่อผู้อื่น

2 ความมีวินยั
ปฏบิ ตั ติ ามกฎระเบียบ ข้อบงั คบั และข้อตกลง
ตา่ งๆ ของวทิ ยาลยั ได้แก่ แต่งกายถูกต้องตาม
ระเบยี บ ข้อบังคบั ตรงต่อเวลา

3 ความรบั ผดิ ชอบ
มกี ารเตรียมความพร้อมในการเรียน

4 ความซือ่ สัตย์สุจรติ
พูดความจริง

5 ความเชอ่ื มัน่ ในตนเอง
กล้าแสดงออกในสิ่งท่ีถกู ต้อง

6 การประหยัด
ใช้วัสดุถูกต้องและเหมาะสมกับงาน

7 ความสนใจใฝ่รู้
มีความกระตือรอื รน้ ในการใฝ่หาความรู้ใหม่

8 การละเว้นสิง่ เสพติดและการพนนั
ไมเ่ สพสง่ิ เสพติด

9 ความรักสามัคคี
ร่วมมือในการทางาน

10 ความกตญั ญกู ตเวที
มีสัมมาคารวะตอ่ ครู-อาจารย์อย่างสม่าเสมอ
ทั้งตอ่ หน้าและลับหลงั

รวมคะแนนท่ีไดท้ ้งั หมด = …………… คะแนน
หมายเหตุ : แบบประเมินน้ใี ชแ้ บบเดยี วกันท้ังผู้สอนและประธานกลุม่ และประเมินคุณลกั ษณะดังกลา่ ว

ตลอดภาคการศึกษา

44

แบบรวมคะแนนการประเมินคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม
และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ตลอดภาคการศกึ ษา

ช่อื -สกุล………………………………………………………....รหสั ประจาตวั ……………………………
ระดบั ชน้ั …………..กลมุ่ ……………………………...แผนกวชิ า…………………….……………………

ครงั้ ท่ีประเมนิ

คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
คะแนนรวม
หารจานวนครั้งท่ี
ประเมิน
คะแนน ี่ทไ ้ด

คะแนนท่ีได้

1. ความมมี นุษยสมั พนั ธ์
2. ความมีวนิ ยั
3. ความรบั ผดิ ชอบ
4. ความซื่อสตั ย์สจุ ริต
5. ความเช่ือมัน่ ในตนเอง
6. การประหยัด
7. ความสนใจใฝ่รู้
8. การละเว้นส่ิงเสพติดและการ

พนัน
9. ความรักสามัคคี
10. ความกตัญญูกตเวที

ลงช่อื ……………………………….ผปู้ ระเมนิ
(………………………….……)
…………/…………/………..

หมายเหตุ : แบบรวมคะแนนนี้ใชแ้ บบเดยี วกันท้งั ผ้สู อนและประธานกลุ่ม

45

แบบสรปุ ผลการประเมนิ
คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

ภาคเรียนท่ี……………………ปีการศกึ ษา…………………

รหสั วชิ า………………………………… ความ ีมมนุษยสัม ัพนธ์
ชอ่ื วิชา………………………………….. ความมี ิวนัย
ระดบั ช้ัน……………………………….. ความรับผิดชอบ
แผนก / กลมุ่ ……………………………. ความซื่อสัตย์สุจริต
ความเชื่อ ่ัมนในตนเอง
การประห ัยด
ความสนใจใฝ่รู้
การละเว้นส่ิงเสพติดและการพนัน
ความรักสามัค ีค
ความกตัญญูกตเว ีท
รวม (ในส่วนของผู้สอน)
รวม (ในส่วนของประธานกลุ่ม)
รวมคะแนนท่ีไ ้ดจาก ้ัทง ๒ ส่วน

ลาดบั รหสั ชอื่ -สกลุ 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 10 10 20
ที่ ประจาตัว

46

วธิ กี ารใชแ้ บบประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม
และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

1. ในการทากิจกรรมทุกครั้ง ผสู้ อนจะใชแ้ บบประเมนิ คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม และ
คณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ทาการสังเกตและประเมินนักศึกษา

2. ในขณะเดยี วกัน เพ่ือความเที่ยงตรงในการประเมนิ ผู้สอนจะมอบแบบประเมนิ คุณธรรม
จริยธรรม และค่านิยม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ซึ่งเป็นชุดเดยี วกับของผู้สอนใหป้ ระธานกล่มุ สังเกตและ
ประเมินนกั ศกึ ษา

3. คณุ ลกั ษณะทปี่ ระเมินตลอดจนพฤติกรรมบง่ ชท้ี ี่ระบุในแบบประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ ม
และคณุ ลักษณะอันพึงประสงคน์ ีม้ าจาก กรมอาชวี ศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร ท่ี ศธ ๐๙๑๑/๓๓๖๓ ลงวนั ที่
๙ กรกฎาคม ๒๕๔๔ เร่ือง แนวปฏิบัติในการกากับดูแลการบูรณาการคุณธรรม ท่ีกาหนดให้ครู อาจารย์
ผ้สู อนต้องบูรณาการคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านยิ ม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ในทกุ รายวชิ าโดยให้มี
คะแนน 20 % เม่ือการจัดการเรยี น การสอนครบทุกรายวชิ าตามโครงสร้างของหลักสตู รแล้ว จะต้องมีการบูร
ณาการ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ครบ 1 คุณลักษณะ

ดังนัน้ คณุ ลักษณะทีป่ ระเมิน ตลอดจนพฤตกิ รรมบ่งชีจ้ ึงขึ้นอยู่กับสถานศึกษาและผูส้ อนเห็นสมควร
ว่าเหมาะสมกับเน้ือหาวิชาเพียงใด ตัวอยา่ งท่ีแสดงมานจี้ ึงสามารถเปล่ียนแปลงได้ ในท่ีนไ้ี ด้เลอื ก
คุณลักษณะและพฤติกรรมบง่ ช้ี จานวน 10 ขอ้ กาหนดข้อละ 1 คะแนน

3. เม่ือทาการประเมินในแต่ละครั้ง ผู้สอนจะนาคะแนนของนักศึกษาแต่ละคนไปสรุปในแบบ
รวมคะแนนการประเมินคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ตลอดภาคการศึกษา เพื่อ
ดพู ัฒนาการของผเู้ รียน

5. ผู้สอนมอบให้ประธานกลมุ่ สรุปคะแนนการประเมนิ ในแตล่ ะครง้ั ท่ีประเมินลงในแบบรวม
คะแนน การประเมนิ คณุ ธรรม จรยิ ธรรม คา่ นยิ ม และคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ตลอดภาคการศึกษา

6. หลงั จบภาคการศึกษานาหลักฐานคะแนนท่ีได้ท้ัง 2 สว่ น คือจากผู้สอนและประธานกลมุ่ ไป
สรปุ ลงในแบบสรปุ ผลการประเมินคุณธรรม จรยิ ธรรม คา่ นิยม และคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ในทีน่ ้ีไดแ้ บ่ง
คะแนนทไ่ี ดจ้ ากผ้สู อน 10 % และจากประธานกลมุ่ 10% ก็จะได้ผลรวมคะแนนคุณธรรม จริยธรรม
คา่ นิยม และคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 20 %


Click to View FlipBook Version