The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Narongsak Kaewprathum, 2022-09-15 07:49:21

การพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร

โปรเจค

Keywords: โปรเจค

การพัฒนาเว็บไซตป์ ระชาสมั พันธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร

DEVELOPMENT OF PUBLIC RELATION WEBSITE FOR AGRICULTURAL
PRODUCTS.

ธนเดช ปัถพี

TANADETH PATTAPEE

ณรงค์ศกั ด์ิ แก้วประทุม

NARONGSAK KAEWPRATHUM

โครงงานนเี้ ป็นสว่ นหน่งึ ของการศึกษาตามหลักสตู รประกาศนยี บัตรวิชาชพี ชน้ั สูง (ปวส.)
ประเภทวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร สาขาวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศ
วิทยาลยั เทคโนโลยีสยามบรหิ ารธรุ กจิ นนทบรุ ี (SBAC)
ปีการศกึ ษา 2565

การพฒั นาเวบ็ ไซตป์ ระชาสัมพันธส์ ินค้าทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร

DEVELOPMENT OF PUBLICIZING WEBSITE AGRICULTURAL PRODUCTS
FOR FARMERS.

ธนเดช ปถั พี

TANADETH PATTAPEE

ณรงค์ศักดิ์ แก้วประทมุ

NARONGSAK KAEWPRATHUM

โครงงานนี้เป็นส่วนหนงึ่ ของการศกึ ษาตามหลกั สูตรประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ช้ันสูง (ปวส.)
ประเภทวชิ าเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ
วทิ ยาลัยเทคโนโลยสี ยามบริหารธรุ กจิ นนทบุรี (SBAC)
ปกี ารศึกษา 2565





กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานการพัฒนาเวบ็ ไซต์ประชาสัมพนั ธส์ ินคา้ ทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรฉบับน้ีสำเร็จ
ลลุ ว่ งไปได้ดว้ ยดี เพราะด้วยความอนุเคราะห์จากคณาจารย์หลายท่านที่ใหค้ วามหว่ งใยคอยให้ความรู้
คำแนะนำ ชี้แนะ แนวทางวิธีการทำงานและคำปรึกษาตลอดจนเรื่อยมา ทางคณะผู้จัดทำจึงรู้สึก
ซาบซึ้งในความอนุเคราะห์ของท่านและขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ด้วยโดยเฉพาะ อาจารย์
ปฐมาภรณ์ อสุนี ณ อยุธยา ทป่ี รึกษาโครงงานท่คี อยให้คำปรกึ ษาพรอ้ มท้ังให้คำแนะนำและความรู้ ใน
ส่วนของเนื้อหาภายในรูปเลม่ โครงงาน เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงงานให้ออกมาเปน็
รปู เล่มทีส่ มบรู ณ์ และทัง้ นขี้ อ

กราบขอบพระคุณ ท่านคณะกรรมการทั้ง 3 ท่าน ได้แก่อาจารย์เอกวสิฏฐ พุ่มประทีป
อาจารย์ชลดา สุวรัตน์ และอาจารย์หนึ่งฤทัย กันรัมย์กรรมการผู้ควบคุมการสอบโครงงานในครั้งนี้
ท่ีไดใ้ ห้คำแนะนำแต่ท่ีเป็นประโยชนต์ ่อโครงงาน ตรวจสอบความเหมาะสมและความถูกต้องตลอดจน
โครงงานฉบบั นไ้ี ดส้ ำเร็จลุลว่ ง และมคี วามสมบูรณด์ ว้ ยดี

ขอขอบพระคุณเจา้ ของสวน บา้ นสวนกลางโตง้ โดยเฉพาะอยา่ งย่ิงคุณเกวลิน บัวทิพยเนตรท่ี
ให้คำปรกึ ษา ข้อเสนอแนะ และคำแนะนำพร้อมทั้งใหข้ ้อมลู ท่ีเปน็ ประโยชนแ์ ก่คณะผ้จู ัดทำ

ขอขอบพระคุณอาจารย์แผนกเทคโนโลยีสารสนเทศ วิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกจิ
นนทบุรี (SBAC) ที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับโครงงานการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์
สินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรและใหค้ ำปรึกษาแก่คณะผู้จัดทำตรวจสอบโครงงานเพื่อความ
สมบูรณ์ของโครงงานในการนำเสนอต่อสถานประกอบการ โรงเรียน และชุมชน ขอขอบพระคุณ
เจ้าของบทความ เจ้าของเอกสาร และตำราต่างๆ ที่ได้กล่าวไว้ในบรรณานุกรมทุกท่าน ที่ได้ให้ทาง
คณะผู้จัดทำได้ใช้ในการศกึ ษาและนำมาอ้างอิงเพราะผลงานของท่าน ทำให้โครงงานเล่มนีเ้ กิดความ
สมบรู ณใ์ นด้านเนอื้ หาพร้อมทง้ั ทำให้โครงงานเล่มนส้ี ำเรจ็ ลลุ ่วงไปได้ด้วยดี

กราบขอบพระคุณ ท่านผู้อำนวยการ ดร.ประสาน ประวัติรุ่งเรือง ผู้อำนวยการวิทยาลัย
เทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี (SBAC) ที่ได้เปิดสถาบันเปิดโอกาสและส่งมอบความรู้ ให้กับ
นักเรียนนกั ศึกษาและคณะผู้จดั ทำ ให้มีความรู้ความสามารถ เพอ่ื นำความรไู้ ปตอ่ ยอดเสริมสร้างและ
เปิดโอกาสต่อไปในอนาคตเมื่อจบการศึกษาจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยามบริหารธุรกิจ นนทบุรี
(SBAC)

คณะผู้จัดทำ

III



วทิ ยาลยั เทคโนโลยีสยามบรหิ ารธรุ กจิ นนทบุรี (SBAC)
ใบรบั รองโครงงาน

การพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธส์ ินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร
DEVELOPMENT OF PUBLIC RELATION WEBSITE FOR AGRICULTURAL PRODUCTS.

นายธนเดช ปถั พี
MR.TANADETH PATTAPEE

นายณรงค์ศกั ด์ิ แก้วประทุม
MR.NARONGSAK KAEWPRATHUM

โครงงานน้ีเปน็ สว่ นหน่งึ ของการศกึ ษา
ตามหลกั สตู รประกาศนียบตั รวชิ าชพี ชนั้ สูง (ปวส.) สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ

(คณุ เกวลนิ บัวทพิ ยเนตร)
เจ้าของสวน

บ้านสวนกลางโตง้ จังหวัดลำปาง
วันที่ 20 เดือน สิงหาคม พ.ศ. 2565

สารบญั หนา้

บทคดั ยอ่ ภาษาไทย I
บทคดั ยอ่ ภาษาอังกฤษ II
กติ ตกิ รรมประกาศ III
สารบัญ IV
สารบัญตาราง VI
สารบัญภาพ VII
บทท่ี 1 บทนำ
1
1.1 ความเป็นมาของโครงงาน 2
1.2 วตั ถุประสงคข์ องโครงงาน 2
1.3 ขอบเขตของโครงงาน 3
1.4 ประโยชนท์ คี่ าดวา่ จะได้รับ 4
1.5 นิยามศัพท์เฉพาะทใี่ ช้ในโครงงาน
บทท่ี 2 ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยทเี่ กีย่ วข้อง 5
2.1 ลักษณะการดำเนินงาน 6
2.2 อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการพฒั นาระบบ 8
2.3 โปรแกรมเพอื่ การพฒั นาระบบงาน 13
2.4 ทฤษฎแี ละเอกสารท่ีเกยี่ วข้อง 17
2.5 งานวจิ ัยท่เี กยี่ วข้อง
บทที่ 3 วิธีการดำเนนิ งาน 19
3.1 ประชากรและกล่มุ ตัวอยา่ ง 19
3.2 ขัน้ ตอนการดำเนินงาน 21
3.3 ระยะเวลาการดำเนนิ โครงงาน 22
3.4 แผนผงั การดำเนนิ งาน 23
3.5 เครอ่ื งมอื ทใี่ ช้ในการประเมินโครงงาน 23
3.6 การวิเคราะหข์ อ้ มลู 23
3.7 สถิติทีใ่ ช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 24
3.8 การออกแบบชนิ้ งาน 29
3.9 แผนผังการทำงานของส่งิ ประดิษฐ์ 30
3.10 โครงสร้างแฟ้มข้อมลู 31
3.11 พจนานกุ รมขอ้ มูล 33
3.12 การออกแบบจอภาพเว็บไซต์ (Story Board) 35
3.13 ค่าใช้จา่ ยในการดำเนินงาน
บทท่ี 4 ผลการดำเนนิ งาน 36
4.1 ผลการดำเนนิ งาน 41
4.2 การทดสอบและแก้ไขระบบ

IV

สารบญั (ต่อ)

หนา้

4.3 การใช้งานจรงิ 43

4.4 สัญลักษณ์และอกั ษรยอ่ ทใ่ี ชใ้ นการวเิ คราะหข์ ้อมูล 45

4.5 แบบการประเมินผลโครงงาน 45

บทที่ 5 สรปุ ผลและข้อเสนอแนะ

5.1 สรปุ ผล 47

5.2 ขอ้ เสนอแนะ 47

บรรณานกุ รม

ประวัติผู้จดั ทำ

ภาคผนวก

ภาคผนวก (ก)

- คมู่ ือการใชง้ าน ฉบบั ภาษาไทย

- คมู่ ือการใชง้ าน ฉบบั ภาษาอังกฤษ

- หนังสอื ขอความอนเุ คราะห์จากหนว่ ยงาน/สถานประกอบการ

- แบบบันทึกการเก็บขอ้ มลู จากหนว่ ยงาน/สถานประกอบการ

- เอกสารเผยแพร่ผลงานวชิ าการและวชิ าชพี ของนักเรยี นนักศกึ ษา

- หนังสอื รบั รองการใชป้ ระโยชนจ์ ากหนว่ ยงาน/สถานประกอบการ

- แบบประเมินความพงึ พอใจในการใช้งานจากหนว่ ยงาน/สถานประกอบการ

ภาคผนวก (ข)

- ตัวอยา่ งปกซดี ี

- ตวั อย่างซีดี

- ตวั อย่าง X-Stand

V

สารบญั ภาพ หนา้

ภาพท่ี 7
8
2.1 คอมพวิ เตอร์ 9
2.2 โปรแกรม Visual Studio Code 9
2.3 แสดงการเข้าโปรแกรม Visual Studio Code 10
2.4 การเขา้ ส่โู ปรแกรม Visual Studio Code 11
2.5 หนา้ โปรแกรม Visual Studio Code 11
2.6 โปรแกรม Adobe Photoshop CC 12
2.7 แสดงการเขา้ โปรแกรม Adobe Photoshop CC 12
2.8 การเข้าสู่โปรแกรม Adobe Photoshop CC 22
2.9 หน้าโปรแกรม Adobe Photoshop CC 24
3.1 แผนผังการดำเนินงาน (Flow Chart) 25
3.2 Context Diagram Level 0 26
3.3 Data Flow Level 1 27
3.4 Data Flow Level 2 Process 1 สมัครสมาชิก 28
3.5 Data Flow Level 2 Process 2 เข้าสูร่ ะบบ 29
3.6 Data Flow Level 2 Process 3 เพม่ิ โพสต์ 33
3.7 แบบจำลองความสมั พันธ์ฐานข้อมูล (ER-Diagram) 33
3.8 หน้าหลัก 34
3.9 หนา้ จอลงทะเบยี นสมัครสมาชกิ 34
3.10 หน้าจอเขา้ ส่รู ะบบ 35
3.11 หน้าจอแสดงผลสินค้าสำหรบั ลกู ค้าท่วั ไป 36
3.12 หนา้ จอแสดงผลสินค้าสำหรับลูกค้าสมาชิก 37
4.1 ส่วนหวั เว็บไซต์ Header 38
4.2 ส่วนเน้ือหาเวบ็ ไซต์ Contents 38
4.3 ส่วนท้ายเว็บไซต์ Footer 39
4.4 หนา้ จอลงทะเบียนสมคั รสมาชกิ 39
4.5 หนา้ จอเข้าสรู่ ะบบเวบ็ ไซต์ 40
4.6 หนา้ จอสำหรับโพสต์ประชาสมั พนั ธส์ นิ ค้า 40
4.7 หน้าจอแสดงสินค้าในเวบ็ ไซต์ 42
4.8 หน้าจอแสดงรายละเอยี ดของสนิ คา้ 42
4.9 การทดสอบระบบงานเว็บไซต์ประชาสมั พันธส์ ินคา้ ทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร 44
4.10 การทดสอบระบบงานเวบ็ ไซต์ประชาสัมพนั ธ์สินคา้ ทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร 44
4.11 ภาพการนำไปใช้งานเวบ็ ไซต์ประชาสัมพันธส์ ินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร
4.12 ภาพการนำไปใชง้ านเวบ็ ไซต์ประชาสัมพนั ธ์สนิ คา้ ทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร

VII

สารบญั ตาราง หนา้

ตารางที่ 21
30
3.1 ตารางระยะเวลาการดำเนินโครงงาน (Gantt Chart) 30
3.2 แฟม้ ข้อมูล Users 31
3.3 แฟ้มข้อมูล Post 32
3.4 พจนานกุ รมขอ้ มลู User 35
3.5 พจนานุกรมข้อมูล Post 41
3.6 งบประมาณและคา่ ใช้จ่ายในการดำเนินงาน 43
4.1 ตารางรายงานผลการทดสอบระบบ 46
4.2 ตารางรายงานการบันทกึ ข้อมูลในการนำไปใช้งาน
4. 3 แสดงผลสรุปการประเมินจากผ้ใู ชง้ านทม่ี ีต่อระบบงานเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์

สนิ ค้าทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร

VI

บทท่ี 1

บทนำ

1.1 ความเป็นมาของโครงงาน
ช่วงเทศกาลผลไมไ้ ทยเข้ามาในเวลาท่ียอดการส่งออกตกหล่นเพราะการแพรร่ ะบาดของเช้ือ

ไวรัสโควิด 19 เศรษฐกิจชะงักงันจากการปิดเมือง ปิดธุรกิจห้างร้าน ลดการจ้างงาน กักตัว กักตุน
สนิ คา้ เกบ็ ตวั เพอ่ื กำจดั โรคระบาดทกี่ ำลังคกุ คามผู้คนในขณะน้ี อาจกล่าวไดว้ ่าเปน็ เค้าลางวิกฤติทาง
เศรษฐกิจการเงนิ สว่ นตัว ไปจนถึงระดับประเทศชาติก็ว่าได้ เพราะการแพรร่ ะบาดของเชื้อไวรัสโควิด
19 น้นั เก่ียวพนั โยงใยกบั ธรุ กิจ ธุรกรรมของผคู้ นไปแลว้ ทั่วโลก แมแ้ ต่ชาวสวนชาวไร่กไ็ ด้รับผลกระทบ
ไปด้วยอย่างเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะสถานการณ์ของผลไม้ประจำฤดูกาลสำคัญอย่าง ทุเรียน มังคุด
ลองกอง และเงาะ ทภี่ าครัฐกำลังหว่ งกังวลเพราะทำการสง่ ออกไม่ไดใ้ นช่วงทีม่ กี ารแพรร่ ะบาดของโรค
นี้ ท้งั ในส่วนของภาคตะวันออกที่เริ่มออกสทู่ ้องตลาดแล้วต้ังแต่ตน้ เดือนมกราคม และจะเพ่ิมจำนวน
มากขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงเดือนกรกฎาคม จากนั้นจะส่งไม้ตอ่ ให้แก่ผลไม้ทางภาคใต้ที่จะมีผลิตออกมา
มากที่สุดในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ แต่ยังไม่มีตลาดรองรับ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันให้ความเหน็
ว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด 19 ส่งผลกระทบต่อการนำเข้าผลไม้ไทย เนื่องจาก ผลไม้
ไทยมีราคาสงู ทำใหค้ นจนี ไมน่ ยิ มบรโิ ภคในช่วงน้ี ส่วนใหญจ่ ะเลือกซอื้ สินค้าจำเป็น และเลือกซอื้ ผลไม้
ท้องถิ่นที่ราคาไม่แพง รวมถึงปัญหาที่เกี่ยวกับระบบโลจิสติกส์ภายใน ทำให้ผู้นำเข้าต้องชะลอการ
สงั่ ซ้อื น่ีจงึ เป็นเหตผุ ลหลกั ทพ่ี อจะคาดเดาทิศทางเศรษฐกจิ ของชาวสวนไทยได้ไม่ยาก ว่าจะเกิดอะไร
ขนึ้ ในสภาวะท่คี นตกงาน ว่างงาน รายได้ไม่ขยับ เศรษฐกิจโลกชะลอตัว เศรษฐกจิ ประเทศหยุดชะงัก
เศรษฐกิจระดับครัวเรือนอยู่ในช่วงยากลำบาก จากการประกาศปิดกิจการล็อกดาวน์เมืองหลวง
(ธนาคารกรงุ เทพ, 2563)

ด้วยปัญหานี้ที่เกิดขึ้นในช่วงต้นปีพ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา เกษตรกรหลายๆ คน รวมถึงอาชีพ
อนื่ ๆ จงึ ตอ้ งปรบั ตัวเพื่อเอาตัวรอดในช่วงที่เศรษฐกิจกำลังย่ำแย่ โดยการเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ
มาเป็นในรูปแบบออนไลน์แทน สถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ส่งผลให้วิธีการทำงานรวมถึงการค้าทาง
ธุรกิจ และร้านขายปลีกต้องปรับตัวมาขึ้น และยังต้องรักษารายได้ไว้ จึงต้องปรับตัวเข้าสู่การขาย
ออนไลน์ ด้วยกระแสการเปล่ียนแปลงของโลกท่ีการคา้ ขายออนไลนม์ ีบทบาทเข้ามาในชวี ิต พฤติกรรม
ผู้บริโภคก็ต่างนิยม ซื้อของออนไลน์มากขึน้ ส่งผลหลายภาคธุรกิจหลายแบนด์ รวมถึง ร้านค้าปลีก
ต่างเริ่มปรับตัวที่จะลงมาเปิดตลาดด้านนี้อย่างจริงจัง โดยกลุ่มแรกที่ต้องปรับตัวอย่างหนักคือ
ห้างสรรพสินค้าท่ีถูกสั่งล็อกดาวน์ ปิดกิจการและไม่สามารถขายสินค้าได้ จึงต้องปรับรูปแบบ มีการ
เปิดตัวบรกิ ารต่างๆ เพ่อื ตอบสนองความตอ้ งการของลกู ค้า และไมใ่ ช่เพียงกลมุ่ หา้ งสรรพสินค้าเท่าน้ัน
ที่มีการปรับตัว ร้านอาหารริมทาง กลุ่มชาวบ้านและชุมชน ก็มีการตั้งกลุ่มเฟซบุ๊กเพื่อซื้อขาย
แลกเปลี่ยนสินค้าผ่านออนไลน์เช่นเดียวกัน (pptvhd36, 2564) แต่นั่นก็ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิด
ขึ้นกับเกษตรกรไดท้ ั้งหมด เพราะยังมีเกษตรกรอีกหลายครวั เรือนที่ไม่สามารถเข้าถงึ ระบบออนไลน์
พวกน้ี เนือ่ งจากตัวระบบที่คอ่ นขา้ งจะวนุ่ วาย ซับซอ้ น อาจจะทำใหย้ ากต่อการใช้งานจรงิ

คณะผู้จัดทำได้ทำการสืบค้นข้อมูล และศึกษาเกี่ยวกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในด้านการสร้าง
เวบ็ ไซตส์ ำหรบั ประชาสมั พนั ธ์สนิ ค้าออนไลนข์ องนกั ศกึ ษาระดบั ช้ันประกาศนียบตั รวิชาชพี ชน้ั สงู

2

วิทยาลัยอาชีวะศึกษาสุพรรณบุรี ที่ได้สร้างสรรค์ผลงานขึ้นเป็นเว็บไซต์ในการประชาสัมพันธ์ข้าวใน

จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้เกษตรกรสามารถซื้อขายข้าวได้ในราคาที่ถูกกว่าโรงสี และยังสามารถซื้อ

ขายสนิ คา้ ผ่านเกษตรกรไดโ้ ดยตรง โดยไม่ตอ้ งผา่ นพ่อคา้ คนกลาง (THAIINVENTION, 2564)

จากปัญหาข้างต้นทำให้คณะผู้จัดทำเกิดแนวคิดที่อยากจะนำรูปแบบของเว็บไซต์ของ
นักศึกษากลุ่มนั้นมาพัฒนาต่อ โดยเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายจากเดิมท่ีเป็นเว็บไซต์เพ่ือชาวนาแค่ภายใน
จังหวัดสุพรรณบุรี มาเปน็ เวบ็ ไซต์ประชาสมั พันธ์สินคา้ ทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรทุกคน ไมว่ า่ จะ
ชาวนาหรือชาวสวน ก็สามารถเข้ามาใช้งานเวบ็ ไซตน์ ไี้ ด้ โดยมีแนวความคิดว่าหนา้ ต่างการทำงานและ
การใช้งานเว็บไซต์จะต้องถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่มีระบบที่ซับซ้อนที่ยากต่อการใช้งาน
ทำให้เกษตรกรบางท่านที่อาจจะไม่มีความรู้ในการใช้เทคโนโลยีสามารถประชาสัม พันธ์สินค้าของ
ตนเองไดเ้ ช่นเดียวกับเกษตรกรท่านอ่ืน อีกทั้งความสำคญั ของอาชีพเกษตรกรท่ีมีผลต่อประเทศอย่าง
มาก เน่ืองจากรายได้หลักสว่ นใหญ่ของประเทศไทยมาจากสินค้าสง่ ออกไม่วา่ จะเป็น ข้าว ผลไม้ และ
ยางพารา (ธนาคารแห่งประเทศไทย, 2563) แตอ่ าชีพเกษตรกรกลับกลายเปน็ หนึ่งในอาชีพที่ผู้คนให้
ค่าน้อยที่สุดเลยก็ว่าได้ ทางคณะผู้จัดทำได้เล็งเห็นถึงปัญหาและความสำคัญตรงจุดนี้ จึงได้เกิดเป็น
โครงงานเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรขึ้น เพื่อมาแก้ปัญหาพืชผล
ทางการเกษตรที่ล้นตลาดและเป็นอีกหนึง่ ชอ่ งทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดบั ชุมชนไปจนถึง
ระดับประเทศ

1.2 วัตถปุ ระสงคข์ องโครงงาน
1.2.1 เพอื่ ศึกษาและพฒั นาเว็บไซตป์ ระชาสัมพันธ์สนิ คา้ ทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร
1.2.2 เพอ่ื เป็นชอ่ งทางในการสร้างรายไดเ้ พ่มิ เติมใหก้ ับเกษตรกร
1.2.3 เพื่อประเมินการใช้งานของเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรับ

เกษตรกร
1.2.4 เพอื่ ประเมนิ ความพงึ พอใจผ้ใู ช้งานเว็บไซตป์ ระชาสัมพนั ธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรับ

เกษตรกร

1.3 ขอบเขตของโครงงาน
1.3.1 ศึกษาเก่ยี วกับระบบงานการพัฒนาเว็บไซต์
1.3.1.1 ด้านการพฒั นาระบบ
1.3.1.2 ด้านเศรษฐกจิ
1.3.2 พัฒนาและออกแบบระบบงานโดยใช้ภาษา PHP และ My SQL
1.3.3 อปุ กรณ์ท่ใี ช้ในการพัฒนาและออกแบบระบบงานเว็บไซตป์ ระชาสัมพนั ธ์สนิ ค้าทางการ

เกษตรสำหรับเกษตรกร
1.3.3.1 โปรแกรมทใ่ี ชใ้ นการออกแบบพฒั นาและจัดทำระบบงาน
1) Visual Studio Code
2) Adobe Photoshop
1.3.3.2 อุปกรณ์ท่ใี ช้ในการพัฒนาและจดั ทำระบบงาน
1) คอมพวิ เตอร์

1.3.4 ลักษณะงาน
1.3.4.1 เวบ็ ไซตป์ ระชาสมั พนั ธส์ นิ ค้า

3

1.3.4.2 สามารถลงทะเบยี นสมัครใช้งานและเขา้ สรู่ ะบบดว้ ยชอ่ื ผใู้ ช้กบั รหัสผา่ นได้
1.3.4.3 ผู้ขายที่เป็นเกษตรกรสามารถลงประชาสัมพันธ์สินค้าของตนเองได้และผู้
ซอ้ื ก็สามารถเข้ามาเลือกชมสนิ คา้ ไดเ้ ชน่ เดยี วกัน

1.4 ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะได้รบั
1.4.1 ได้เว็บไซต์ประชาสมั พันธส์ นิ ค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรทส่ี ามารถใช้งานได้จริง

และมปี ระสทิ ธิภาพมากข้นึ
1.4.2 ไดช้ อ่ งทางในการสร้างรายไดเ้ พม่ิ เติมให้กบั เกษตรกรและกระตนุ้ เศรษฐกจิ ในชุมชน
1.4.3 ได้ผลการประเมินการใช้งานของเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรับ

เกษตรกรในระดับดแี ละสามารถนำไปเป็นแนวทางการพฒั นาครัง้ ตอ่ ไปไดด้ ยี ิง่ ข้ึน
1.4.4 ได้รับผลการประเมินความพึงพอใจของเกษตรกรตัวอย่างจากการใช้งานเว็บไซต์

ประชาสมั พันธส์ ินค้าทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกรในระดบั ดีมาก

1.5 นิยามศพั ทเ์ ฉพาะท่ีใช้ในโครงงาน
1.5.1 เว็บไซต์ หมายถึง หน้าเว็บเพจที่จัดทำขึ้น เพื่อนำเสนอข้อมูลต่างๆ ผ่านทาง

คอมพวิ เตอร์และอนิ เทอร์เนต็ โดยจะมหี นา้ เว็บเพจหลายๆ หนา้ ทเ่ี ชอ่ื มโยงเข้ากบั ไฮเปอร์ล้ิงค์ เพ่ือให้
สามารถเปิดไปยังหน้าเพจต่างๆ ได้อย่างง่ายดายและถูกจัดเก็บไว้ใน www. (เวิลด์ไวด์เว็บ) โดย
เว็บไซต์ส่วนใหญ่นั้นก็มีทั้งเว็บไซต์ที่เปิดให้เข้าชมได้ฟรี และเว็บไซต์ที่ต้องสมัครสมาชิกและเสีย
ค่าบริการ จึงจะเข้าใช้งานเว็บได้ ซึ่งข้อมูลในเว็บก็จะมีหลากหลายแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการ
นำเสนอของเจ้าของเว็บไซต์ การเรียกดูเว็บไซต์จะเรียกดูผ่านทางซอฟต์แวร์ ในลักษณะของ
เบราว์เซอร์ เว็บเบราว์เซอร์ คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการท่องเว็บ และมีการจัดเก็บข้อมูล
สารสนเทศต่างๆ ด้วยภาษาเฉพาะ เชน่ ภาษา HTML ซงึ่ กเ็ ปรียบเสมือนกับเป็นเครื่องมือท่ีใช้ในการ
ติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรยี กว่าเวิลด์ไวด์เว็บ นอกจากนี้ยังสามารถดูเอกสารใน
เว็บเซิร์ฟเวอร์ได้ ไม่ว่าเว็บเหล่านั้นจะแสดงข้อมูลในลักษณะของภาพ ระบบมัลติมีเดีย รูปภาพหรือ
ข้อความ ในปัจจุบันเว็บเบราว์เซอร์ที่รองรับระบบ HTML 5 สามารถอ่าน CSS 3 ได้อย่างสวยงาม
และกำลังได้รบั ความนิยมมากท่สี ดุ (1belief, 2560)

1.5.2 เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ หมายถึง การเผยแพร่ข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าและบริการให้
เข้าถึงผู้บริโภค อาจจะเป็นผู้ซื้อ หรือ ตัวแทนขาย รูปแบบการค้าทั่วไป การโฆษณาประชาสัมพันธ์
ปกติเป็นการสื่อสารทางเดียว (One way communication) ซึ่งอาจมีผู้สนับสนุนเป็นผู้ช่วยเหลือ
ค่าใช้จ่าย อินเทอร์เน็ตเป็นรูปแบบใหม่ของการประชาสัมพันธ์ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ ความสัมพันธ์
ระหว่างลูกค้ากับผู้ขายได้โดยตรง ผู้บริโภคได้รับข้อมูลข่าวสารมากขึ้นเพียงคลิกเมาส์ และสอบถาม
ข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ ถือได้ว่าเป็นการสื่อสารแบบสองทาง (Two-way communication)
(Maliwan Tawisuwan, 2559)

1.5.3 สนิ คา้ ทางการเกษตร หมายถึง ผลผลิตทางการเกษตร สิ่งทไี่ ดม้ าจากการทำเกษตรและ
ยังรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ซง่ึ ได้มาจากการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร สามารถแบง่ ได้เป็น 2 ประเภท
ดงั น้ี

1.5.3.1 ผลผลิตที่ใชเ้ พ่ือการบรโิ ภค ไดแ้ ก่ ข้าว เนอ้ื นม ไข่ พืช ผกั และผลไม้
1.5.3.2 ผลผลติ ที่ใช้อุปการ ไดแ้ ก่ ใยไหม ยางพารา ฝ้าย กระสอบป่าน
แตถ่ า้ ผลผลติ ทางการเกษตรจำแนกตามลกั ษณะของสนิ คา้ แบง่ ได้เป็น 2 ประเภท ดังน้ี

4

1.5.3.3 สินค้าเกษตรกรรม เป็นผลผลิตที่ได้จากเกษตรกรรมโดยตรง ได้แก่ ข้าว
ขา้ วโพด ใบยาสบู ถั่วเขียว กาแฟดิบ

1.5.3.4 สินค้าอุตสาหกรรมการเกษตร เปน็ ผลผลติ ทางการเกษตรที่ผ่านการแปรรูป
ไปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ น้ำตาลทราย ผลไม้กระป๋อง ผลิตณัณฑ์ปอ ผลิตภัณฑ์ยาง

ผลติ ภณั ฑผ์ กั ผลติ ภัณฑผ์ ลไม้ (geocities.ws, 2560)
1.5.4 เกษตรกร หมายถึง ผู้ที่ทำเกษตรกรรมการเพาะปลูกพืช เพาะเลี้ยงปศุสัตว์และการ
ประมงเพ่อื ผลติ อาหาร วตั ถุดบิ เสน้ ใยธรรมชาติ และผลิตผลอ่ืนๆ ท่สี ามารถนำไปใช้ได้ทั้งการอุปโภค

และบริโภค เป็นอาชีพอิสระที่ไม่จำเปน็ ต้องข้ึนตรงกับหน่วยงานใด สามารถบริหารจัดการเวลาและ
วางแผนการทำงานได้เอง การทำเกษตรกรรมน้ันสว่ นใหญต่ อ้ งพ่ึงพาปัจจยั ทางธรรมชาตคิ ่อนข้างมาก

เพราะต้องพึ่งพาลมฟ้าอากาศที่ช่วยให้พืชพรรณเจริญเติบโต นอกจากนั้นยังต้องมีองค์ความรู้และ
ความเข้าใจในธรรมชาติของพืชและสัตว์ เพื่อให้สามารถดูแลผลผลิตให้เจริญเติบโตได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ ซ่ึงหลายอยา่ งนนั้ เป็นองคค์ วามรู้ที่หาได้จากประสบการณ์ หรือจากการบอกเล่าจากผู้ท่ี

เชี่ยวชาญ เช่น การปลูกแนวต้นไม้เพื่อใช้ช่วยบังลม การปลูกพืชผสมผสานเพื่อเกื้อหนุนกัน ฯลฯ
บางครั้งอาจต้องมีการลองผิดลองถูกและเรียนรู้เพือ่ นำมาปรับใช้ เพราะสภาพพื้นที่ของแต่ละคนไม่

เหมือนกัน ประเทศไทยมีเกษตรกรรมเป็นรากฐานสำคัญที่หยั่งลึกมานาน ด้วยสภาพแวดล้อม ภูมิ
ประเทศ ภูมิอากาศ ทำให้บ้านเรามีความเหมาะสมที่จะทำการเพาะปลูกต่างๆ คนไทยจึงนิยมทำ
เกษตรมาแต่สมัยโบราณ จวบจนปจั จุบัน ผลิตผลทางการเกษตรกถ็ อื เปน็ สินค้าส่งออกหลักที่ทำรายได้

ให้กับประเทศมากมาย นอกจากนั้นคนรุ่นใหม่ที่ทำอาชีพเกษตรกรยังมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี
ร่วมกับทักษะทางการตลาด ทักษะการออกแบบ การสอ่ื สาร ฯลฯ ทำให้ผลิตภณั ฑแ์ ละรูปแบบการทำ

เกษตรกรรมเรม่ิ เปล่ียนแปลงไปตามยคุ สมยั (ทรปู ลูกปัญญา, 2558)

บทท่ี 2

ทฤษฎี เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ ก่ียวข้อง

2.1 ลักษณะการดำเนินงาน
2.1.1 ลกั ษณะงานเดิม
เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรของคณะผู้จัดทำนั้นได้รับแรง

บันดาลใจมาจากโครงงานเว็บแอพพลิเคชันฝากขายข้าวเพื่อชุมชนจังหวัดสุพรรณบุรี ของนักศึกษา
ระดับชั้นประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงสาขาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและสาขา
พาณิชยกรรมวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี โดยที่ทางคณะผู้จัดทำได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ
โครงงานไว้ว่า รัฐบาลปัจจุบันมุ่งเน้นการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 พร้อมทั้งนำหลัก
เศรษฐกจิ พอเพยี งมาปรบั ใชใ้ หเ้ ขา้ กบั ยุคสมัย เน้นในเร่ืองการพัฒนาสู่ “ความม่ันคง มงั่ คั่ง และยง่ั ยืน”
ด้วยการสร้าง “ความเข้มแข็งจากภายใน” ขับเคลื่อนตามแนวคิด “ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง”
ผา่ นกลไกให้สอดคลอ้ งกับแนวคิดเศรษฐกิจดิจิทลั จากขอ้ มูลสำนักงานเกษตรจงั หวดั สุพรรณบุรี พบวา่
มพี ื้นทใ่ี นเขตเหมาะสมมากในการปลกู ข้าวถงึ 1,023,420 ไร่ และมบี างชมุ ชนและเกษตรกรสามารถสี
ข้าวและขายได้เองแต่ยังขาดการนำเสนอขอ้ มูลและการสร้างช่องทางการเข้าถึง งานวิจยั จงึ มีแนวคดิ
ในการพัฒนาเว็บแอพพลเิ คชันในการเพิ่มช่องทางการขายและนำเสนอขอ้ มูลแก่ผู้ที่สนใจซ้ือข้าวจาก
ชาวนาโดยตรง โดยเป้าหมายหลักของโครงงานชนิ้ นี้ ถูกจัดทำขึน้ มาเพ่อื พฒั นาการเกษตรในชุมชนให้
เข้ากับยุคสมัยปัจจุบันที่อะไรๆ ก็เป็นออนไลน์ทั้งหมดสอดคล้องกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และเพื่อ
เพิ่มความสะดวกสบายให้กับเกษตรกรในชุมชนให้ก้าวเข้าสู่ยุคของการเกษตรแบบออนไลน์
(THAIINVENTION, 2564) นอกจากน้ียังมสี ารนิพนธข์ องนักศึกษาสตู รวิทยาศาสตรมหาบณั ฑติ สาขา
เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร ที่เขาได้ทำเกีย่ วกับระบบค้าข้าวออนไลน์ซ่ึง
โครงงานนี้เป็นการนําเสนอ ระบบค้าข้าวออนไลน์ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเว็บ สําหรับการสั่งซื้อข้าวผ่าน
ระบบอินเตอร์เน็ต โดยตัวแอปพลิเคชันมีคุณสมบัติในการเรียกดูราคาข้าวแต่ละประเภท การสั่งซื้อ
ข้าว การตรวจสอบสถานะของการสั่งซ้ือ และการชําระเงิน อีกทั้งยังสามารถติดตามข่าวสารบนหน้า
เว็บเพจ และตั้งกระทู้สอบถามได้ อีกทั้งระบบการจดั การหลังร้านนั้นสามารถตรวจสอบข้อมูลสินคา้
ในการสัง่ ซือ้ หรือเปล่ียนแปลงแกไ้ ขได้ ดังนน้ั ระบบที่ทําการพฒั นาขน้ึ มาเป็นการเพิม่ ชอ่ งทางหนึ่งของ
การซื้อบนระบบเครือข่ายอินเตอร์เนต็ ได้ (ธิดารัตน์ เอื้อพัฒนากจิ , 2553) และโครงงานช้ินสุดท้ายที่
คณะผู้จัดทำได้ค้นคว้ามาประกอบการทำเอกสารและตัวระบบเป็นโครงงานการพัฒนาระบบซ้ือขาย
เสื้อผ้าออนไลน์กรณีศึกษาร้านอี๊ดแฟชั่น ซึ่งเป็นรูปแบบของเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์
(E-Commerce) ที่มีการเชื่อมต่อฐานข้อมูล ซึ่งใกล้เคียงกับชิ้นงานที่คณะผู้จัดทำต้องการโดยท่ี
โครงงานการพัฒนาระบบซื้อขายเสื้อผ้าออนไลน์กรณีศึกษาร้านอี๊ดแฟชั่น มีจุดประสงค์เพื่อพัฒนา
ระบบซือ้ ขายเส้ือผ้าออนไลน์ และเพื่อประเมินความพึงพอใจการใชง้ านระบบซื้อขายเสือ้ ผา้ ออนไลน์
เนื่องจากทางร้านมีการขายทางเดียวคือเปิดร้านขายอย่างเดียว ทำให้ไม่สะดวกแก่ลูกค้าที่อยู่ไกล
จึงพัฒนาระบบซือ้ ขายเสือ้ ผา้ ออนไลน์ กรณีศึกษาร้านอ๊ีดแฟชั่น ระบบได้ออกแบบโดย WordPress,
Appserv กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ได้แก่กลุ่มลูกค้าและบุคคลทั่วไป จำนวน 100 คน เครื่องมือที่ใช้ใน
การศึกษา ระบบซื้อขายเสอื้ ผ้าออนไลน์ กรณีศึกษาร้านอ๊ดี แฟชั่น แบบสอบถามความพงึ พอในใน

6

ระบบซื้อขายเสอื้ ผา้ ออนไลน์ กรณศี ึกษารา้ นอ๊ีดแฟช่นั การวิเคราะห์ข้อมลู ใช้สถิติพนื้ ฐาน คือ คา่ เฉลย่ี
และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (อาทิตยา ทามแี ละณัฐวฒุ ิ นามบดุ ดา, 2562)

จากการศกึ ษาและคน้ คว้าข้อมูลของการจัดทำเว็บไซต์แลว้ ทางคณะผูจ้ ดั ทำจงึ แนวคิดทีจ่ ะนำ
โครงงานในข้างตน้ ที่ยกตัวอย่าง มาพัฒนาต่อเนื่องจากบางเวบ็ ไซตท์ ี่คณะผู้จัดทำได้ยกมานัน้ ไม่ใชก่ าร
ทำเวบ็ ท่ีมาจากการเขียนโค้ดขึน้ เอง แต่เป็นการทำโดยใชเ้ ว็บไซต์เทมเพลต เช่น WordPress, Google
Site และอ่นื ๆ รวมถึงไม่มกี ารเช่ือมต่อเข้ากับฐานข้อมูล เป็นระบบท่ที ำใหร้ ้านค้าใชอ้ ย่างเดียวเท่านั้น
คณะผู้จัดทำจึงมีอยากจะหยิบยกแนวคิดตรงนี้มาพัฒนาต่อเป็นเว็บไซต์ที่สมบูรณ์มีการติดต่อ
ฐานขอ้ มลู และเป็นอกี ทางเลอื กใหก้ บั เกษตรกรหลายๆ คน หรอื ประชาชนทวั่ ไปที่สนใจ สามารถเขา้ ถึง
เวบ็ ไซต์ไดง้ ่ายยิง่ ขนึ้ ไม่ใชเ่ พียงแค่ชุมชนหรอื รา้ นค้าเพียงแค่ร้านเดยี ว

2.1.2 ลกั ษณะงานใหม่
เนอื่ งจากการพัฒนาเว็บไซตใ์ นปจั จบุ นั นนั้ เปน็ อะไรท่คี ่อนข้างจะทำได้งา่ ย ตา่ งจากเมื่อหลาย
สิบปีก่อน การพฒั นาเว็บไซตม์ ีรูปแบบและประเภททหี่ ลากหลายมากขึน้ มตี ัวช่วยในการทำงานที่เพิ่ม
มากขึ้น ซึ่งสามารถพัฒนาผลงานให้ออกมาได้สวยงาม และตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้งานได้งา่ ย
ยิ่งขึ้น นั่นจึงหมายความว่าการพัฒนาเว็บไซต์ในครัง้ นี้ สามารถทำออกมาให้ดีขึ้นทั้งในส่วนของหน้า
ติดต่อผู้ใช้งานและในส่วนติดต่อกับฐานข้อมูล ซึ่งระบบงานที่ทางผู้จัดทำได้วางแผนกันไว้คือ ในตัว
เว็บไซต์มีระบบสมัครสมาชิก เพื่อรองรับผู้ใช้งานใหม่ และสามารถเข้าสู่ระบบได้ โดยใช้ชื่อผู้ใช้งาน
และรหัสผ่าน รวมไปถึงให้ผู้ใช้งานสามารถลงประชาสัมพันธ์สินค้าของตนได้เองซึ่งจะง่ายกว่า
แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์อ่ืนๆ ที่จะต้องลงทะเบียนซ้ำแล้วซ้ำอีกหากต้องการที่จะเป็นผู้ขาย
แนวคิดของเว็บไซต์คณะผู้จัดทำต้องการใช้หน้าต่างการใช้งานถูกออกแบบมาให้ง่ายต่อความเข้าใจ
เพราะเกษตรกรส่วนใหญ่ในปจั จุบันเป็นกลุม่ ผ้ใู หญ่ตอนปลายขน้ึ ไป และเกษตรกรบางท่านก็ค่อนข้าง
ทจ่ี ะไม่ถนัดทางด้านเทคโนโลยี จึงอยากทำมาใหพ้ วกเขาได้เขา้ ถงึ และใชง้ านได้ทกุ คนโดยไม่มีข้อจำกัด
ในส่วนของการออกแบบฐานข้อมูล คณะผู้จัดทำเลือกใช้ระบบ My SQL เข้ามาจัดการในด้าน
ฐานข้อมูลนี้โดยเฉพาะ เนื่องจากคณะผูจ้ ัดทำมคี วามรู้เบือ้ งต้นในระบบนี้เป็นอยา่ งดีอยู่แล้ว จึงเลือก
นำมาใช้ เพราะคิดว่ามันจะส่งผลให้ทำชิ้นงานออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและบรรลุตาม
วัตถปุ ระสงค์ท่ีได้กลา่ วไว้ในบทนำ และสำเร็จตามกำหนดการดำเนินงานที่ไดว้ างแผนไว้

2.2 อุปกรณ์ทใี่ ชใ้ นการพฒั นาระบบ
2.2.1 คอมพวิ เตอร์
คอมพิวเตอร์ (computer) เข้ามามบี ทบาทท่ีสำคัญยิง่ ต่อสงั คมของมนษุ ย์เราในปัจจุบันแทบ

ทุกวงการล้วนนำคอมพิวเตอร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการใช้งาน จนกล่าวได้ว่าคอมพิวเตอร์เป็นปัจจัยที่
สำคญั อย่างยง่ิ ตอ่ การดำเนนิ ชวี ิตและการทำงานใน ชวี ิตประจำวนั ฉะนั้น การเรียนรู้เพื่อทำ ความรู้
จักกับคอมพิวเตอร์จึงถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นเป็นอย่างยิ่ง เพื่อที่จะทราบว่าคอมพิวเตอร์คืออะไร
ทำงานอย่างไรและมีความสำคัญต่อมนุษย์อยา่ งไร ความหมายของคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์มาจาก
ภาษาละตนิ วา่ Computare ซึ่งหมายถึง การนับ หรอื การคำนวณ ดงั นน้ั ถ้ากล่าวอย่างกวา้ งๆ เครื่อง
คำนวณที่มสี ่วนประกอบเป็นเครอ่ื งกลไกหรือเครื่องไฟฟ้า ตา่ งก็จัดเปน็ คอมพวิ เตอรไ์ ด้ทั้งส้ิน ลูกคิดที่
เคยใชก้ นั ในร้านค้า ไม้บรรทัด คำนวณ (slide rule) ซ่ึงถือเป็นเครือ่ งมอื ประจำตัววิศวกรในยุคยี่สิบปี
ก่อน หรือเครื่องคิดเลข ล้วนเป็นคอมพิวเตอร์ได้ทั้งหมด ในปัจจุบันความหมายของคอมพิวเตอร์จะ
ระบเุ ฉพาะเจาะจง หมายถงึ เครื่องคำนวณอิเลก็ ทรอนกิ ส์ที่สามารถทำงานคำนวณผลและเปรียบเทียบ
ค่าตามชดุ คำสัง่ ด้วยความเร็วสูงอย่างตอ่ เนอื่ งและอัตโนมตั ิ พจนานุกรมฉบับราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ.

7

2525 ได้ให้คำจำกดั ความของคอมพิวเตอร์ไว้ค่อนข้างกะทัดรัดวา่ เครื่องอิเลก็ ทรอนิกส์แบบอัตโนมัติ
ทำหน้าที่เสมือนสมองกล ใช้สำหรับแก้ปัญหาต่างๆ ทั้งที่ง่ายและซับซ้อน โดยวิธีทางคณิตศาสตร์

คอมพิวเตอร์จึงเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้ทำงานแทนมนุษย์ ในด้านการคิด
คำนวณและสามารถจำข้อมูล ทั้งตัวเลข และ ตัวอกั ษรได้เพื่อการเรียกใชง้ านในครง้ั ต่อไป นอกจากนี้

ยังสามารถจดั การกับสญั ลักษณ์ได้ด้วยความเรว็ สูง โดยปฏบิ ัตติ ามขน้ั ตอนของโปรแกรม คอมพิวเตอร์
ยังมีความสามารถในด้านต่างๆ อีกมาก อาทิเช่น การเปรียบเทียบทางตรรกศาสตร์ การรับส่งข้อมูล
การจัดเกบ็ ขอ้ มลู ในตัวเครอื่ งและสามารถประมวลผลจากข้อมลู ตา่ งๆ ได้

ภาพที่ 2.1 คอมพิวเตอร์

8

2.3 โปรแกรมเพอ่ื พฒั นาระบบงาน
2.3.1 โปรแกรม Visual Studio Code

โปรแกรม Visual Studio Code หรือ VSCode เป็นโปรแกรม Code Editor ที่ใช้ในการ
แก้ไขและปรับแต่งโค้ด จากค่ายไมโครซอฟท์ มีการพัฒนาออกมาในรูปแบบของ Opensource

จึงสามารถนำมาใช้งานได้แบบฟรีๆ ต้องการความเป็นมืออาชีพ ซึ่ง Visual Studio Code
นั้น เหมาะสำหรับนักพัฒนาโปรแกรมที่ต้องการใช้งานข้ามแพลตฟอร์ม รองรับการใช้งานทั้งบน
Windows, macOS และ Linux สนับสนุนทัง้ ภาษา JavaScript, TypeScript และ Node.js สามารถ

เชอ่ื มต่อกบั Git ได้ นำมาใช้งานไดง้ ่ายไม่ซับซอ้ น มเี ครอื่ งมือส่วนขยายต่างๆ ใหเ้ ลอื กใช้อยา่ งมากมาก
ไม่ว่าจะเป็น 1.การเปิดใช้งานภาษาอ่ืนๆ ทั้ง ภาษา C++, C#, Java, Python, PHP หรือ Go

2.Themes 3.Debugger 4.Commands เป็นตน้

ภาพท่ี 2.2 โปรแกรม Visual Studio Code

9

การเขา้ สู่โปรแกรม ทำได้โดย คลกิ Start > All apps > Visual Studio Code เข้าสู่โปรแกรม

ภาพที่ 2.3 แสดงการเข้าโปรแกรม Visual Studio Code

ภาพที่ 2.4 การเขา้ ส่โู ปรแกรม Visual Studio Code

10

ภาพที่ 2.5 หนา้ โปรแกรม Visual Studio Code
2.3.2 โปรแกรม Adobe Photoshop CC
โปรแกรม Adobe Photoshop CC เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe ที่ใช้สำหรับตกแต่ง
ภาพถ่ายและภาพกราฟิก ได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ ไมว่ า่ จะเปน็ งานดา้ นสง่ิ พิมพ์ นติ ยสาร และงานด้าน
มัลติมีเดยี อีกทั้งยังสามารถ retouching ตกแต่งภาพและการสรา้ งภาพ ซึ่งกำลังเปน็ ที่มนิยมสงู มาก
ในขณะนี้ เราสามารถใช้โปรแกรม Photoshop ในการตกแต่งภาพ การใส่ Effect ต่างๆให้กับภาพ
และตัวหนังสือ การทำภาพขาวดำ การทำภาพถ่ายเป็นภาพเขียน การนำภาพมารวมกัน
การ Retouch ตกแต่งภาพต่าง สามารถเรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรม Adobe Photoshop นี้ได้ด้วย
ตัวเอง สามารถทจี่ ะทำการแก้ไขภาพ ตกแต่งภาพ ซ้อนภาพในรปู แบบต่างๆ ได้อย่างงา่ ยดาย และสิ่ง
ที่ขาดไม่ได้ก็คือ การใส่ข้อความประกอบลงในภาพด้วย และเนื่องด้วย Adobe Photoshop มีการ
พัฒนาโปรแกรมมาอย่างต่อเนื่อง แต่ที่สำคัญ เมื่อเรียนรู้การใช้คำสั่งในเวอร์ชันเก่า ก็ยังคงสามารถ
นำไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั เวอร์ชันใหมๆ่ ได้ดว้ ย

11

ภาพท่ี 2.6 โปรแกรม Adobe Photoshop CC
การเข้าสู่โปรแกรม ทำได้โดย คลกิ Start > All apps > Adobe Photoshop CC เขา้ สโู่ ปรแกรม

ภาพท่ี 2.7 แสดงการเข้าโปรแกรม Adobe Photoshop CC

12

ภาพท่ี 2.8 การเข้าสู่โปรแกรม Adobe Photoshop CC
ภาพที่ 2.9 หนา้ โปรแกรม Adobe Photoshop CC

13

2.4 ทฤษฎแี ละเอกสารท่ีเกยี่ วขอ้ ง
2.4.1 ทฤษฎีในการออกแบบเว็บไซต์ เว็บไซต์เป็นสื่อที่ได้รับความนิยมอย่างมากบน

อินเตอร์เน็ต ซึ่งเว็บไซต์เป็นสื่อที่อยู่ในความควบคุมของผู้ใช้โดยสมบูรณ์ กล่าวคือ ผู้ใช้สามารถ
ตัดสินใจเลือกได้ว่าจะดูเว็บไซต์ใดและจะไมเ่ ลือกดูเว็บไซต์ใด ได้ตามต้องการ จึงทำให้ผู้ใช้ไม่มีความ
อดทนต่ออุปสรรคและปญั หาท่เี กิดจากการออกแบบเวบ็ ไซต์ผิดพลาดถ้าผ้ใู ชเ้ ห็นวา่ เว็บทีก่ ำลังดูอยู่น้ัน
ไม่มีประโยชน์ต่อตัวเขา หรือไม่เข้าใจว่าเว็บไซต์นี้จะใช้งานอย่างไร เขาก็สามารถที่จะเปลี่ยนไปดู
เวบ็ ไซตอ์ นื่ ๆ ได้อย่างรวดเรว็ เนือ่ งจากในปจั จุบันมเี ว็บไซต์อย่มู ากมาย และยังมเี วบ็ ไซด์ท่ีเกิดขึ้นใหม่
ทุกวนั ผ้ใู ช้จงึ มที างเลอื กมากขนึ้ และสามารถเปรยี บเทยี บคุณภาพของเวบ็ ไซดต์ ่างๆ ได้เอง เว็บไซด์ท่ี
ได้รบั การออกแบบอยา่ งสวยงาม มกี ารใชง้ านทสี่ ะดวก ยอ่ มไดร้ บั ความสนใจจากผู้ใช้มากกว่าเว็บไซด์
ที่ดูสับสนวุ่นวายมขี ้อมลู มากมายแตห่ าอะไรไมเ่ จอ นอกจากน้ยี งั ใชเ้ วลาในการแสดงผลแตล่ ะหนา้ นาน
เกินไป ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นผลมาจากการออกแบบเว็บไซด์ไม่ดีทั้งสิ้น ดังนั้น การออกแบบเว็บ
ไซด์จึงเป็นกระบวนการสำคญั ในการสร้างเว็บไซด์ ใหป้ ระทบั ใจผ้ใู ช้ ทำให้เขาอยากกลับเข้ามาเว็บไซด์
เดมิ อกี ในอนาคต ซ่งึ นอกจากตอ้ งพัฒนาเว็บไซด์ทีด่ มี ีประโยชน์แลว้ ยังตอ้ งคำนึงถงึ การแข่งขันกับเว็บ
ไซด์อื่นๆ อีกด้วย และการออกแบบเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพนั้นต้องคำนึงถึง องค์ประกอบสำคัญ
ดังต่อไปนี้

2.4.1.1 ความเรียบง่าย (Simplicity) คือ การจำกัดองค์ประกอบเสริมให้เหลือ
เฉพาะองค์ประกอบหลกั กลา่ วคอื ในการส่อื สารเนื้อหากบั ผู้ใช้น้ัน เราต้องเลอื กเสนอสิ่งที่เรา
ต้องการนำเสนอจริงๆ ออกมาในส่วนของกราฟิก สีสัน ตัวอักษรและภาพเคลื่อนไหว ต้อง
เลือกให้พอเหมาะ ถ้าหากมีมากเกินไปจะรบกวนสายตาและสร้างความรำคาญต่อผู้ใช้
ตัวอย่างเว็บไซต์ที่ได้รับการออกแบบที่ดี ได้แก่ เว็บไซต์ของบริษัทใหญ่ๆ อย่างเช่น Apple,
Adobe, Microsoft หรือ Kokia ที่มีการออกแบบเว็บไซต์ในรูปแบบที่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อน
และใช้งานอยา่ งสะดวก

2.4.1.2 ความสม่ำเสมอ (Consistency) คือ การสร้างความสม่ำเสมอให้เกิดขึ้น
ตลอดทั้งเว็บไซต์ โดยอาจเลือกใช้รปู แบบเดยี วกันตลอดทั้งเว็บไซต์ก็ได้ เพราะถ้าหากว่าแต่
ละหนา้ ในเวบ็ ไซต์นัน้ มีความแตกต่างกนั มากจนเกนิ ไป อาจทำให้ผ้ใู ช้เกิดความสับสนและไม่
แนใ่ จวา่ กำลังอยู่ในเว็บไซต์เดิมหรอื ไม่ เพราะฉะนั้นการออกแบบเวบ็ ไซต์ในแต่ละหน้าควรที่
จะมีรูปแบบ สไตล์ของกราฟิก ระบบเนวิเกชั่น (Navigation) และโทนสีที่มีความคล้ายคลึง
กนั ตลอดทัง้ เวบ็ ไซต์

2.4.1.3 ความเป็นเอกลักษณ์ (Identity) คือ ในการออกแบบเว็บไซต์ต้องคำนึงถึง
ลักษณะขององค์กรเป็นหลัก เนื่องจากเว็บไซต์จะสะท้อนถึงเอกลักษณ์และลักษณะของ
องค์กร การเลือกใช้ตัวอักษร ชุดสี รูปภาพหรือกราฟิก จะมีผลต่อรูปแบบของเว็บไซต์เป็น
อย่างมาก ตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องออกแบบเว็บไซต์ของธนาคารแต่เรากลับเลือกสีสันและ
กราฟิกมากมาย อาจทำให้ผู้ใช้คิดว่าเป็นเว็บไซต์ของสวนสนุกซึ่งส่งผลต่อความเชื่อถือของ
องคก์ รได้

2.4.1.4 เน้ือหา (Useful Content) คือ ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในเว็บไซต์ เนื้อหาใน
เว็บไซต์ต้องสมบูรณ์และได้รับการปรับปรุงพัฒนาให้ทันสมัยอยู่เสมอ ผู้พัฒนาต้องเตรียม
ข้อมูลและเนื้อหาที่ผู้ใช้ต้องการให้ถูกต้องและสมบูรณ์ เนื้อหาที่สำคัญที่สุดคือเนื้อหาที่ทีม
ผู้พฒั นาสรา้ งสรรค์ขน้ึ มาเอง และไม่ไปซำ้ กบั เว็บอ่ืน เพราะจะถือเป็นสิง่ ท่ีดึงดูดผู้ใช้ให้เข้ามา

14

เว็บไซตไ์ ดเ้ สมอ แตถ่ ้าเป็นเวบ็ ที่ลิงก์ข้อมูลจากเว็บอนื่ ๆ มาเมอื่ ใดก็ตามที่ผู้ใช้ทราบว่า ข้อมูล
นั้นมาจากเวบ็ ใด ผ้ใู ชก้ ไ็ มจ่ ำเป็นต้องกลับมาใช้งานลงิ ก์เหลา่ นัน้ อกี

2.4.1.5 ระบบนำทาง หรือเนวิเกช่ัน (User-Friendly Navigation) คือ ส่วนประกอบ
ที่มีความสำคัญต่อเว็บไซต์มาก เพราะจะช่วยไม่ให้ผู้ใช้เกิดความสับสนระหว่างดูเว็บไซต์
ระบบเนวิเกชั่นจึงเปรียบเสมือนป้ายบอกทาง ดังนั้นการออกแบบเนวิเกชั่นจึงควรให้เข้าใจ
ง่าย ใชง้ านไดส้ ะดวก ถา้ มีการใชก้ ราฟกิ ก็ควรสือ่ ความหมาย ตำแหน่งของการวางเนวิเกชั่นก็
ควรวางใหส้ มำ่ เสมอ เช่น อย่ตู ำแหนง่ บนสดุ ของทกุ หน้าเป็นต้น ซ่งึ ถา้ จะใหด้ ีเมอ่ื มีเนวเิ กช่ันท่ี
เป็นกราฟิกก็ควรเพิ่มระบบเนวิเกชั่นที่เป็นตัวอักษรไว้ส่วนล่างด้วย เพื่อช่วยอำนวยความ
สะดวกให้กับผใู้ ช้ทย่ี กเลกิ การแสดงผลภาพกราฟิกบนเวบ็ เบราเซอร์

2.4.1.6 คณุ ภาพของสง่ิ ที่ปรากฏให้เห็นในเว็บไซต์ (Visual Appeal) คือ ลักษณะท่ี
น่าสนใจของเว็บไซตน์ ้ัน ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลเปน็ สำคญั แต่โดยรวมแล้วก็สามารถ
สรุปไดว้ า่ เว็บไซตท์ นี่ ่าสนใจน้ันสว่ นประกอบต่างๆ ควรมีคุณภาพ เช่น กราฟิกควรสมบูรณ์ไม่
มีรอยหรือขอบขัน้ บันได้ให้เห็น ชนิดตัวอักษรอ่านง่ายสบายตา มีการเลือกใช้โทนสีท่ีเขา้ กัน
อย่างสวยงาม

2.4.1.7 ความสะดวกของการใชใ้ นสภาพต่างๆ (Compatibility) คอื การใช้งานของ
เว็บไซต์นั้นไม่ควรมีขอบจำกัด กล่าวคือ ต้องสามารถใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่
หลากหลายไม่มีการบังคับให้ผู้ใช้ต้องติดตั้งโปรแกรมอื่นใดเพิ่มเติม นอกเหนือจากเว็บ
บราวเซอร์ ควรเปน็ เวบ็ ทแ่ี สดงผลได้ดีในทกุ ระบบปฏบิ ัตกิ าร สามารถแสดงผลได้ในทุกความ
ละเอียดหน้าจอ ซึ่งหากเปน็ เว็บไซต์ที่มีผู้ใช้บรกิ ารมากและกลุ่มเป้าหมายหลากหลายควรให้
ความสำคญั กบั เร่อื งนใ้ี ห้มาก

2.4.1.8 ความคงที่ในการออกแบบ (Design Stability) คือ ถ้าต้องการให้ผู้ใช้งาน
รสู้ กึ ว่าเวบ็ ไซต์มีคุณภาพ ถูกตอ้ ง และเช่อื ถอื ได้ ควรให้ความสำคัญกับการออกแบบเว็บไซต์
เป็นอย่างมาก ต้องออกแบบวางแผนและเรียบเรยี งเนื้อหาอย่างรอบคอบ ถ้าเว็บที่จัดทำข้นึ
อย่างลวกๆ ไม่มีมาตรฐานการออกแบบและระบบการจัดการข้อมูล ถ้ามีปัญหามากขึ้นอาจ
ส่งผลให้เกิดปัญหาและทำให้ผใู้ ช้หมดความเชือ่ ถอื

2.4.1.9 ความคงทีข่ องการทำงาน (Function Stability) คือ ระบบการทำงานตา่ งๆ
ในเว็บไซต์ควรมีความถูกต้องแน่นอน ซงึ่ ตอ้ งได้รบั การออกแบบสร้างสรรค์และตรวจสอบอยู่
เสมอ ตัวอย่างเช่น ลิงก์ต่างๆ ในเว็บไซต์ ต้องตรวจสอบว่ายังสามารถลิงก์ข้อมูลได้ถูกต้อง
หรือไม่ เพราะเว็บไซต์อื่นอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ปัญหาที่เกิดจากลิงก์ ก็คือ
ลงิ ก์ขาด ซงึ่ พบไดบ้ ่อยเป็นปัญหาท่ีสรา้ งความรำคาญกบั ผ้ใู ช้เปน็ อย่างมาก
โครงสร้างเว็บไซต์ (Site Structure) เป็นแผนผังของการลำดับเนื้อหาหรือการจัดวาง
ตำแหน่งเว็บเพจทงั้ หมด ซ่ึงจะทำให้เราร้วู า่ ทง้ั เวบ็ ไซต์ประกอบไปดว้ ยเน้อื หาอะไรบ้าง และมีเว็บเพจ
หน้าไหนที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงถึงกัน ดังนั้นการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์จึงเป็นเรื่องสำคัญ
เปรียบเสมือนกับการเขียนแบบอาคารก่อนที่จะลงมือสร้าง เพราะจะทำให้เรามองเห็นหน้าตาของ
เว็บไซต์เป็นรูปธรรมมากขึ้น สามารถออกแบบระบบเนวิเกชั่นได้เหมาะสม และเป็นแนวทางการ
ทำงานที่ชัดเจน สำหรับขั้นตอนต่อๆ ไป นอกจากน้ีโครงสรา้ งเว็บไซต์ท่ีดียังช่วยให้ผู้ชมไม่สับสนและ
ค้นหาขอ้ มลู ทตี่ ้องการไดอ้ ย่างรวดเรว็ วิธีการจัดโครงสร้างเว็บไซต์สามารถทำได้หลายแบบ แตแ่ นวคิด

15

หลักๆ ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 แบบคือ จัดตามกลุ่มเนื้อหา (Content-based Structure) และ จัดตาม
กลุ่มผชู้ ม (User-based Structure) (Padoungkiat, 2554)

2.4.2 พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออีคอมเมิร์ซ เป็นการทำธุรกรรมซื้อขาย หรือแลกเปลี่ยน
สินค้าและบริการบนอินเทอร์เน็ต โดยใช้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเป็นสื่อในการนำเสนอสินค้าและ
บริการต่างๆ รวมถึงการติดต่อกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทำให้ผู้เข้าใช้บริการจากทุกที่ทุกประเทศ
หรือทุกมุมโลกสามารถเข้าถึงร้านค้าได้ง่ายและตลอด 24 ชั่วโมง e-Commerce เป็นส่วนหนึ่งของ
ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Transaction) ที่ขอบเขตกว้างกว่า โดยธุรกรรมทาง
อิเล็กทรอนิกส์ หรือ ธุรกรรมทางออนไลน์ หมายถึง กิจกรรมใดๆ ที่กระทำขึ้นระหว่างหน่วยธุรกิจ
บุคคล รฐั ตลอดจนองคก์ รเอกชนหรอื องคก์ รของรฐั ใดๆ เพือ่ วัตถุประสงคท์ างธรุ กจิ การคา้ และการ
ติดต่องานราชการ โดยใชว้ ิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ท้ังหมดหรอื แต่บางส่วน ยกตัวอย่าง เช่น การซ้ือ-
ขายสินค้าผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต, การสมัครสมาชิกผ่านระบบออนไลน์, การตกลงทำสัญญาซื้อ-
ขาย หรือสัญญาตกลงตามข้อบังคับต่างๆ บนเครือข่าย, การโอนเงินด้วยระบบอัตโนมัติผ่านระบบ
เครือข่าย, การสื่อสารรับ-ส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ด้วยเครือข่ายการสื่อสาร และการสอบถามข้อมูล
ผา่ นระบบออนไลน์ เป็นตน้ (สำนักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ล็กทรอนกิ ส,์ 2563)

2.4.3 ทฤษฎีสีในการออกแบบ หมายถึง ลักษณะกระทบต่อสายตาให้เห็นเป็นสีมีผลถึง
จิตวิทยาคือมีอำนาจให้เกิดความเข้มของแสงที่อารมณ์และความรู้สึกได้ การที่ได้เห็นสีจากสายตา
สายตาจะสง่ ความรู้สกึ ไปยังสมองทำให้เกดิ ความรสู้ กึ ต่างๆ ตามอทิ ธิพลของสี เชน่ สดชื่น ร้อน ตน่ื เต้น
เศร้า สีมีความหมายอย่างมากเพราะศิลปินต้องการใช้สีเป็นสื่อสร้างความประทับใจในผลงานของ
ศิลปะและสะท้อนความประทับใจนั้นให้บังเกิดแก่ผู้ดูมนุษย์เกี่ยวขอ้ งกับสีต่างๆ อยู่ตลอดเวลาเพราะ
ทุกสิง่ ทอี่ ยูร่ อบตัวนนั้ ล้วนแตม่ ีสีสนั แตกต่างกันมากมาย สเี ปน็ สิ่งที่ควรศึกษาเพื่อประโยชน์กับตนเอง
และ ผู้สร้างงานจิตรกรรมเพราะ เรื่องราวองสีนั้นมีหลักวิชาเป็นวิทยาศาสตร์จึงควรทำความเข้าใจ
วทิ ยาศาสตร์ ของสีจะบรรลุผลสำเรจ็ ในงานมากขึ้น ถา้ ไมเ่ ข้าใจเรอ่ื งสีดพี อสมควร ถ้าได้ศกึ ษาเรื่องสีดี
พอแลว้ งานศิลปะกจ็ ะประสบความสมบรู ณ์เปน็ อย่างย่งิ (homegame9, 2556)

2.4.4 ฐานข้อมูล หมายถงึ กลุ่มของขอ้ มลู ทถ่ี ูกเก็บรวบรวมไว้ โดยมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและ
กัน เพื่อลดความซำ้ ซอ้ นของข้อมูลและเกบ็ ข้อมลู เหล่าน้ีไว้ท่ศี ูนยก์ ลาง เพ่อื ท่จี ะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้
ร่วมกัน

การจัดการฐานข้อมูล (Database Management) คือ การบริหารแหล่งข้อมูลที่ถูกเก็บ
รวบรวมไว้ท่ีศูนย์กลาง เพ่ือตอบสนองตอ่ การใชง้ านอย่างมีประสิทธิภาพและลดการซ้ำซอ้ นของข้อมูล
รวมทั้งลดความขัดแยง้ ของข้อมลู ทเี่ กิดข้ึนภายในองค์กรด้วย ตัวอยา่ ง : การจัดระบบฐานขอ้ มูลที่ใช้ใน
ปัจจุบัน เช่น ฐานข้อมูลผู้ใช้โทรศัพท์ ฐานข้อมูลหนังสือ-วารสารในห้องสมุด ฐานข้อมูลนักศึกษา
ฐานข้อมูลประชากร ฐานข้อมูลศิลปวัฒนธรรมไทยและฐานข้อมูลงานวิจัย เป็นต้น การจัดการ
ฐานข้อมูลต้องอาศัย โปรแกรมที่ทำหน้าที่ในการกำหนดลักษณะข้อมูลที่จะเก็บไว้ในฐานข้อมูล
อำนวยความสะดวกในการบันทึกข้อมูลลงในฐานข้อมูล กำหนดผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ฐานข้อมูลได้
พร้อมกับกำหนดด้วยว่าให้ใช้ได้แบบใด เช่น ให้อ่านข้อมูลได้อย่างเดียวหรือให้แก้ไขข้อมูลได้ด้วย
นอกจากนั้นยังอำนวยความสะดวกในการค้นหาขอ้ มูล การแก้ไขปรับปรุงข้อมูล ตลอดจนการจัดทำ
ข้อมูลสำรองด้วย โดยอาศัยโปรแกรมที่เรียกว่า ระบบการจัด การฐานข้อมูล(Database
Management System: DBMS) ซึ่งโปรแกรมที่ได้รับความนิยมในการจัดการฐานข้อมูล ได้แก่
Microsoft Access, Oracle, Informix, dBase, FoxPro, และ Paradox

16

การออกแบบฐานข้อมูล โดยทั่วไป การออกแบบฐานข้อมูลเพื่อนำมาใช้งานภายในองค์กร
สามารถจำแนกได้ 2 วิธี คือ วธิ ีอปุ นัย (Inductive approach) และวธิ นี ริ นัย (Deductive approach)

วิธีอุปนัย การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีอุปนัย เป็นการออกแบบฐานข้อมูลจากล่างขึน้ บน
(Bottom-up design) ด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลที่มีการใช้งานอยู่แล้วภายในหน่วยงานต่างๆ
ขององคก์ ร มาเชื่อมโยงเข้าดว้ ยกันเพอ่ื จดั ทำเป็นระบบฐานข้อมูลขององคก์ ร ซ่ึงมขี ้อจำกัด คอื การนำ
กรรมวธิ ียอ่ ยๆ จากการทำงานของหน่วยงานต่างๆ มารวมเขา้ ด้วยกันเปน็ เรื่องท่ีทำได้ไม่งา่ ยนัก และ
ต้องใชเ้ วลามากจึงจะสามารถออกแบบและสรา้ งระบบฐานขอ้ มลู ท่สี มบูรณ์ได้

วิธีนิรนัย การออกแบบฐานข้อมูลด้วยวิธีนิรนัย เป็นการออกแบบฐานข้อมูลจากบนลงล่าง
(Top-down design) เป็นการออกแบบฐานข้อมูลด้วยการเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน ขั้นตอนการ
ทำงานของหนว่ ยงาน ตา่ งๆ ภายในองคก์ ร และความต้องการใช้งานฐานข้อมูล จากการสังเกตการณ์
สอบถาม หรือสัมภาษณ์บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูล ตลอดจนรวบรวมข้อมูลจาก
แบบฟอร์มตา่ งๆ ที่มีใช้อยู่ภายในหน่วยงาน เพื่อนำมาออกแบบโครงสร้างฐานข้อมลู ขององค์กร ซึ่งมี
ข้อจำกัดในการออกแบบ คือ บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานฐานข้อมูลต้องให้ความสำคัญ
และความร่วมมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล จึงจะทำให้ได้ระบบฐานข้อมูลที่ถูกต้องและครอบคลุม
ระบบงานต่างๆ ภายในองค์กร (พมิ พช์ นก ชิณภา, 2558)

ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ (Relational Database) คือ ฐานข้อมูลที่ได้รับการใช้มากที่สุด
โดยขึน้ กับพ้ืนฐานทางทฤษฎีท่เี ข้มแขง็ ดา้ นพชี คณติ เชิงสัมพนั ธ์ ไม่มคี วามจำเปน็ ในการทำความเข้าใจ
ทางทฤษฎีความสมั พนั ธใ์ นการใชฐ้ านข้อมูลเชงิ สมั พนั ธ์ แตจ่ ำเป็นต้องเข้าใจแนวคิดฐานข้อมูลพื้นฐาน
บางประการสัมพันธ์ ฐานข้อมูลแบบนี้แสดง การจัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของตาราง ที่มีลักษณะเป็น
สองมิติ คือ แถว (Row) และคอลัมน์ (Column) ซึ่งในการเชื่อมโยงกันระหว่างข้อมูลใน ตารางสอง
ตาราง หรอื มากกวา่ จะเชอื่ มโยงโดยใชแ้ อททรบิ วิ ต์ที่มีอย่ใู นตารางที่ตอ้ งการเชอ่ื มโยงข้อมูลกัน โดยที่
แอททริบิวต์จะแสดงคณุ สมบัติของรีเลชั่นต่างๆ ซึ่งรเี ลช่ันตา่ งๆ ได้ผ่านกระบวนการทำรีเลชั่นใหเ้ ป็น
บรรทดั ฐาน (Normalized) ในระหว่าง การออกแบบเพอ่ื ละความซำ้ ซ้อน เพ่ือให้การจัดการฐานขอ้ มูล
เป็นไปอยา่ งมีประสิทธภิ าพ

ชนดิ ของความสัมพันธ์ มดี ังนี้
ความสัมพันธ์หนึ่งต่อหนึ่ง (One – to- One Relationships) คือความสัมพันธ์ของเรคอร์ด
ในหนึง่ ตารางจะมีความสัมพนั ธก์ บั อกี หน่ึงเรคอร์ดในอกี หน่ึงตารางเทา่ นน้ั ไมส่ ามารถเกินหน่งึ ได้ (1:1)
ความสัมพันธแ์ บบหนึง่ ต่อกลุ่ม (One-to-many Relationships) คือการแสดงความสัมพันธ์
ของข้อมูลในเอนทติ ี้หน่งึ ที่มคี วามสมั พันธก์ ับขอ้ มลู หลายๆ ขอ้ มลู ในอีกเอนทิต้หี นึ่ง ในลกั ษณะ (1:m)
ความสัมพันธ์แบบกลมุ่ ตอ่ กลุ่ม (Many to Many Relationships) คือการแสดงความสัมพันธ์
ของข้อมูลสองเอนทติ ี้ในลกั ษณะกลุ่มต่อกลุ่ม (m:n)
ชนิดของคยี ใ์ นฐานข้อมูลเชงิ สมั พนั ธ์ มีดังน้ี
คีย์หลัก (Primary Key) จะเป็นฟิลด์ที่ไม่ซำ้ กันในแต่ละเรคอร์ดในตารางน้ัน เราสามารถใช้
ฟิลดท์ ี่เป็น Primary Key นเี้ ปน็ ตวั แทนของตาราง
คีย์คู่แข่ง (candidate Key) เป็นฟิลด์หนึ่งหรือหลายฟิลด์ที่มีคุณสมบัติที่เป็น Primary Key
แต่ไมค่ ีย์หลัก เช่น ช่ือและนามสกุล สามารถรวมกันเป็นคียค์ ู่แขง่ ได้
Composite Key เป็นฟิลด์ที่ใช้รวมกับฟิลด์อื่นๆ ที่เป็น Composite key เหมือนกันมาใช้
เป็น Primary Key ของตาราง

17

Foreign Key เป็นฟิลด์ในตารางหนึ่ง ที่มีความสัมพันธ์กับ primary Key ในอีกตารางหนึ่ง
(ขจรศักดิ์ บานเยน็ , 2560)

2.5 งานวจิ ยั ที่เกีย่ วขอ้ ง
จากการศึกษางานวิจยั ทีเ่ กี่ยวข้องกับการพฒั นาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สนิ ค้าทางการเกษตร

สำหรบั เกษตรกร พบว่ามผี ู้พัฒนาระบบงานทีเ่ กยี่ วข้องจำนวน 5 ผลงาน ประกอบไปดว้ ย
อัคคพล วศิ ษิ ฎช์ ยั นนท์ (2558) รายงานการคน้ คว้าอสิ ระน้ีเป็นการพัฒนาระบบซื้อขายสินค้า

เกษตรออนไลน์โดยใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่งเพื่อให้เกิดประโยชน์กับผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจภาค
การเกษตร ได้แก่เกษตรกรผู้บริโภค และผู้ขนส่ง ระบบนี้จะช่วยเพิ่มโอกาสให้เกษตรกรหรือผู้ขาย
สนิ คา้ ด้านการเกษตรสามารถเพิ่มชอ่ งทางการจำหน่ายและชว่ ยให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ในวงกว้างมากขึ้น
ช่วยให้ผ้บู รโิ ภคสามารถเข้าถึงสนิ คา้ การเกษตรท้องถ่นิ ท่ีสดใหม่ และชว่ ยใหผ้ ู้ประกอบการท่ีต้องการ
หาแหล่งวัตถดุ ิบเพือ่ ใช้ในการผลิตหรือแปรรูปสามารถเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบเหล่าน้ันได้ในวงกวา้ งมาก
ขึ้น นอกจากนีก้ ารใช้เทคโนโลยีระบุตำแหน่งของระบบยังเป็นเครือ่ งมอื ที่ช่วยดา้ นกิจกรรมการขนส่ง
ของระบบโลจิสติกส์ในการขนส่งสินค้าจากเกษตรกรหรือผู้ขาย ไปยังผู้บริโภค ตลอดจนเป็น
แหล่งข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าการเกษตรในแต่ละพืน้ ที่เพือ่ นำไปใช้ประโยชน์ต่อไป ระบบมีขอบเขตการ
ทำงานครอบคลุมตั้งแต่การสมคั รสมาชิก จดั การขอ้ มูลสมาชกิ จัดการขอ้ มูลสินค้าและพิกัดของสินค้า
สมาชิกสามารถค้นหาสินค้าที่อยู่ใกล้กับตำแหน่งสมาชิกหรือจากตำแหน่งที่ต้องการ สามารถสั่งซ้ือ
สินค้า และสามารถเรียกใช้บริการขนสง่ จากผู้ขนสง่ ในระบบ ผู้ขนส่งสามารถคน้ หางานขนส่งที่อยู่ใกล้
กับตำแหน่งของผู้ขนส่ง โดยสามารถเรียกดูรายละเอียดงานขนส่งและเส้นทางการขนส่งเพื่อใช้
พจิ ารณาเพอ่ื เสนอราคาขนส่ง สมาชิกสามารถประเมนิ ความพอใจซ่ึงกนั และกนั และมีระบบรายงาน
เพื่อการดำเนินการในด้านการซื้อขายและขนส่งสำหรับสมาชิก ระบบมีสถาปัตยกรรมแบบ Web
Based โดยผพู้ ัฒนาใช้แนวคดิ การวิเคราะห์และออกแบบระบบเชงิ วตั ถุ (Object-Oriented analysis
and design) ในการวเิ คราะห์และออกแบบระบบ ใช้ UML 2.3 (Unified Modeling Language) ใน
การสร้างตัวแบบระบบดังกล่าว เขียนโปรแกรมด้วยภาษา HTML5 และ C# ภายใต้ASP.NET ด้วย
โครงสร้างโปรแกรมแบบ MVC โดยใช้ โปรแกรม Visual Studio 2013 ร่วมกับฐานข้อมูล MySQL
เปน็ เครอื่ งมอื ในการพัฒนาโปรแกรมร่วมกับการใช้ Google Map API

อาทิตย์ สุวรรณสนธ์ิ (2563) เว็บไซต์บริหารจัดการร้านตุ๊กตาระบายสี โครงงานนี้มี
วัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์และออกแบบเว็บไซต์บริหารจัดการร้านตุ๊กตาระบายสี ซึ่งในการพัฒนา
ระบบได้มีการออกแบบฐานข้อมูลเพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลสินค้า ข้อมูลวัตถุดิบ ข้อมูลค่าใช้จ่าย
ข้อมูลการขายสินค้าและออกรายงาน เพื่อสามารถจัดการข้อมูลและลดความซ้าซ้อนของข้อมูลและ
ออกแบบเว็บไซต์ส้าหรับจ้าหน่ายสินค้า เพื่อเพิ่มยอดขายและประชาสัมพันธ์ร้านตุ๊กตาระบายสี
ในการพัฒนาเว็บไซต์บริหารจัดการร้ายตุ๊กตาระบายสี ได้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการจัดการข้อมูล
ต่างๆ ให้เป็นระบบและออกแบบเว็บไซต์ส้าหรับการจ้าหน่ายสินค้า ซึ่งท้าให้ง่ายต่อการค้นหา ลด
ความซ้าซอ้ นของขอ้ มูลและท้าให้ลูกค้าสามารถเข้าถงึ รา้ นค้าไดง้ ่ายย่ิงข้นึ โดยด้าเนินวิธีการวิเคราะห์
และออกแบบระบบ ตามวงจรการพัฒนาระบบ (SDLC) อีกทั้งยังได้เลือกใช้โปรแกรม Adobe
Dreamweaver CS6 มาช่วยในการออกแบบเว็บไซต์ร้านตุ๊กตาระบายสี จากการพัฒนาระบบพบว่า
สามารถบรหิ ารจดั การข้อมูลพ้นื ฐาน เชน่ ขอ้ มูลสนิ ค้า ข้อมลู วตั ถุดบิ ข้อมูลค่าใช้จ่าย โดยสามารถเพ่ิม

18

ลบ แก้ไขได้ ท้ังยงั สามารถบริหารรายการสง่ั ซ้ือและการขายสนิ ค้าโดยสามารถปรับสถานการณ์จัดส่ง
สินค้าได้ การออกรายงานและพมิ พใ์ บเสรจ็ ได้ตามวัตถปุ ระสงค์ของโครงงาน

รัชกฤช วรภิญโญภาส และคณะ (2561) เว็บไซต์ออนไลน์ที่อำนวยความสะดวกในเรื่องของ
การซ้ือขายเสื้อผ้าที่มีความสัมพันธ์กบั ข้อมูลสินค้าได้อย่างง่ายดาย ช่วยลดความยุ่งยากที่เกิดขึ้นของ
การจัดสินค้าทไ่ี ม่เป็นระเบียบเพราะมีเว็บไซต์ขายของออนไลน์ท่ีคอยอำนวยความสะดวกในด้านการ
ชมสินค้า เว็บไซต์ขายของออนไลน์นี้จะช่วยทำให้สามารถที่จะดูสินค้าที่เราต้องการที่สนใจหรือ
ต้องการจะซ้ือโดยที่ไม่ต้องไปดูถึงหน้าร้าน โดยสามารถดูสินค้าได้ทุกอย่างภายในเว็บไซต์โดยจะมี
ระบบ Login ซ่ึงจะมีเพยี งแอดมินของเว็บไซต์เท่าน้ันที่จะสามารถเข้าใชง้ าน ปรับปรงุ เพ่ิม-ลด แก้ไข
ข้อมูลของสินค้าได้เพื่อรักษาความปลอดภัย ผู้เข้าใช้ระบบจะสามารถเปิดเข้าใช้งานเว็บไซต์เกี่ยวกับ
สินคา้ เส้ือผา้ มือสองเพือ่ เปน็ ประโยชน์ให้กบั ธุรกิจการคา้ และสร้างความสะดวกในการตรวจสอบสินค้า
ภายในร้าน เพื่อตอบสนองความต้องการของผูเ้ ขา้ ใช้เว็บไซต์ทีเ่ ราจัดทำ ทั้งน้ีคณะผู้จดั ทำไดค้ ำนึงถงึ
ความสามารถในการตอบสนองความต้องการของผ้ใู ช้

พงศภ์ คั กุลขลา (2562) ระบบประชาสมั พนั ธง์ านกรณีศึกษาจงั หวดั กาญจนบรุ ีมีวตั ถปุ ระสงค์
เพอ่ื ประชาสมั พนั ธง์ านและรับสมคั รงานในจังหวัดกาญจนบรุ ี ใหม้ คี วามถูกต้อง มีความรวดเร็ว สร้าง
ความประทับใจให้กบั ผู้ที่กำลังจะหางานทำและประชาสัมพันธง์ านให้กับหน่วยงานที่กำลังหาพนักงาน
เข้ามาทำงาน การพัฒนาระบบประชาสมั พนั ธง์ าน กรณศี ึกษาจงั หวัดกาญจนบรุ ี มขี ั้นตอนการพัฒนา
ระบบ คือ เก็บรวบรวมข้อมูลและศึกษาระบบ วิเคราะห์ข้อมูลและปัญหา ออกแบบระบบ พัฒนา
ระบบ โดยใช้โปรแกรมVisual Studio 2019 ในการพัฒนาโปรแกรม ใช้ Microsoft SQL Server
Management Studio 2017 ในการจัดการฐานข้อมูล ผลการศึกษาค้นคว้า ได้จัดการระบบ
ประชาสัมพันธ์งาน กรณศี ึกษาจังหวัดกาญจนบุรที ่ีสามารถจัดการข้อมูลงาน ประวัตกิ ารรับสมัครงาน
และขอ้ มูลประชาสมั พันธง์ าน ทต่ี รงตามความตอ้ งการของผวู้ ิจัย สามารถนำระบบไปใช้ได้จริงอย่างมี
ประสิทธภิ าพ

ศุภชัย วิกยานนท์ (2561) ผู้จัดทำได้พัฒนาเว็บไซต์ซื้อขายจักรยานมือสองขึ้นมาเพื่อ
ตอบสนองความตอ้ งการของผใู้ ชบ้ ริการ ด้วยว่าระบบรา้ นค้าทั่วไปมีข้อจำกดั ทางด้านการลงขายสินค้า
หรือขอ้ จำกัดทางดา้ นระบบการค้นหา ซ่งึ ส่งผลต่อการซ้อื ขายสินคา้ ซ่ึงในโครงงานนเ้ี ปน็ ระบบการซื้อ
ขายสินค้าออนไลน์ประเภทจักรยานมือสอง โดยใช้ระบบซื้อขายสินค้าออนไลน์ ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้
PHP, HTML และ ระบบจัดการฐานข้อมูล MySQL ในระบบการซื้อขายสินค้าออนไลน์ประกอบได้
ดว้ ยขอบเขตการดำเนินงาน คอื เปน็ ระบบที่เปรยี บเสมือนตัวกลางการซื้อขายระหวา่ งผู้ซื้อและผู้ขาย
มีหนา้ ที่คือจัดการดแู ลพน้ื ท่กี ารลงขายสนิ ค้าใหแ้ ก่ผู้ท่ีตอ้ งการขายสินค้าในเวบ็ ไซต์ และมีหน้าทใี่ นการ
ทำให้ผู้ที่สนใจสินค้ามีการค้นหาสินค้าที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น และมีแหล่งให้ข้อมูลข่าวสารสำหรับผู้ที่
ต้องการหาความร้เู กีย่ วกับทางด้านจกั รยาน

บทที่ 3

วธิ กี ารดำเนินงาน

ในการจัดทำโครงงานในครัง้ นี้คณะผ้จู ัดทำได้ศึกษาความพึงพอใจของ เกษตรกรเจ้าของสวน
บ้านสวนกลางโต้ง อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง จำนวน 1 คน ซึ่งคณะผู้จัดทำได้ดำเนินการ
ศึกษารายละเอียดเกีย่ วกับวธิ กี ารดำเนนิ การจดั ทำโครงงานและไดน้ ำเสนอเป็นหัวข้อตามลำดับ ดงั นี้

3.1 ประชากรและกลุ่มตวั อย่าง
3.1.1 ประชากรที่ใช้ในโครงงานครง้ั น้ี คอื เกษตรกร
3.1.2 กลมุ่ ตวั อยา่ งทใ่ี ช้ในโครงงานครง้ั น้ีคอื เกษตรกรเจา้ ของสวนบ้านสวนกลางโต้ง อำเภอ

เมอื งลำปาง จังหวัดลำปาง จำนวน 1 คน

3.2 ขนั้ ตอนการดำเนินงาน
ในการจัดทำโครงงานครงั้ นี้จะมขี ั้นตอนการดำเนินงานดงั น้ี คือ
3.2.1 กำหนดปัญหาศกึ ษาข้อมูลและกระบวนการตา่ งๆ
3.2.1.1 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาเว็บไซต์โดยใช้ภาษา PHP และออกแบบ

ฐานข้อมูลโดย MySQL
3.2.1.2 ศกึ ษาข้อมูลเก่ยี วกบั เกษตรกร
3.2.1.3 ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานเวบ็ ไซต์

3.2.2 ศึกษาความเปน็ ไปได้ ความเหมาะสมในด้านต่างๆ ของโครงงาน
3.2.2.1 กำหนดปัญหา
3.2.2.2 กำหนดขอบเขตของระบบงาน
3.2.2.3 กำหนดจุดประสงค์หรือเป้าหมายของการทำโครงงาน
3.2.2.4 กำหนดความต้องการของระบบใหม่

3.2.3 วิเคราะหข์ ้อมูลทไี่ ดม้ าจากการศึกษาเบ้อื งต้น
3.2.3.1 วิเคราะห์หลักการออกแบบระบบงานการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์

สนิ ค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร
3.2.3.2 วิเคราะห์ขัน้ ตอนการออกแบบระบบงานการพัฒนาเว็บไซตป์ ระชาสัมพันธ์

สินค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร
3.2.4 การพฒั นาระบบงาน

3.2.4.1 พัฒนาระบบงานการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตร
สำหรบั เกษตรกรตามการออกแบบ
3.2.5 การทดสอบระบบท่ีเหมาะสมเพ่ือไมใ่ หม้ ผี ลกระทบตอ่ การดำเนนิ งาน

3.2.5.1 ทดสอบระบบงานการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตร
สำหรับเกษตรกรว่าทำงานได้จริงตามท่ีกำหนด

3.2.5.2 นำระบบงานเผยในพนื้ ที่ของอำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง

20

3.2.5.3 ทดสอบการทำงานของระบบงานใช้ได้ตรงตามวัตถุประสงค์
3.2.6 ขนั้ ตอนการติดตั้งระบบงาน

3.2.6.1 ทดสอบระบบงานการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตร
สำหรับเกษตรกร

3.2.6.2 ทำเอกสารประกอบโครงงาน
3.2.7 ขน้ั ตอนการบำรุงรกั ษาและจัดทำคมู่ ือ

3.2.7.1 การสรุปผลงานเพื่อปฏบิ ัติงาน
3.2.7.2 ทบทวนและปรับปรุงระบบงานใหม้ ีประสิทธิภาพมากขึ้น

3.3 ตารางระยะเวลาการดำเนินโครงงาน (Gantt Chart)

ตารางระยะเวลาการดำเนนิ งานโครงงาน โครงงาน : การพฒั นาเวบ็ ไซ
สถานท่ี : วิทยาลยั เทคโนโลยสี ยามบริหารธุรกจิ นนทบุรี
ผู้จัดทำ : นายธนเดช ปัถพี
49/178 ม.8 ถ.รัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ นายณรงค์ศกั ด์ิ แก
อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000
มิถุนายน ก
ลำดับ รายละเอียด

1 กำหนดปญั หา ศึกษาข้อมลู กระบวนการต่างๆเพอื่ ความ
เข้าใจระบบสอ่ื การเรียนการสอน

2 ศกึ ษาความเป็นไปได้ศกึ ษาความเหมาะสมดา้ นต่างๆ
ของระบบสอ่ื สารการเรียนการสอน

3 วิเคราะหแ์ บบ วิเคราะห์ข้อมูลท่ีไม่ไดม้ าจากการศึกษา
เบ้อื งตน้ และกำหนดความต้องการ

4 การออกแบบระบบ ออกแบบงานใหม่ต้งั แต่
กระบวนการทำงาน

5 สร้างระบบงานการพฒั นาเวบ็ ไซต์ประชาสมั พันธ์สนิ ค้า
ทางการเกษตรสำหรับเกษตรกรและกำหนดขั้นตอน
การทำงาน

6 ตดิ ตั้งระบบทดสอบตรวจสอบ โครงงานให้เหมาะสม
เพื่อไม่ให้มีผลกระทบการดำเนนิ งานในภาพรวมขอ
โครงงาน

7 การประเมนิ ผลและบำรงุ รักษาระบบงานใหม่ใหเ้ ปน็ ไป
ตามทีอ่ อกแบบ

ตารางท่ี 3.1 ตารางระยะ

ซตป์ ระชาสัมพนั ธส์ ินคา้ ทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร

เรมิ่ ดำเนนิ การ : 1 มิถนุ ายน 2565

กว้ ประทมุ สน้ิ สุดโครงงาน : 15 กันยายน 2565

ระยะเวลาการดำเนนิ การโครงงาน 4 เดือน

กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน

ะเวลาการดำเนนิ โครงงาน

21

22

3.4 แผนผังการดำเนินงาน (Flow Chart)

เริ่มต้น

ประกาศการจัดทำโครงงานวิชาชพี
ซือ้ คูม่ ือการจดั ทำโครงงานวชิ าชีพ
อบรมขนั้ ตอนวิธีการทำโครงงานวิชาชพี
ศึกษาปญั หา ความเป็นไปได้ และกำหนดหัวขอ้ โครงงาน
ไม่ใช่
นำเสนอหวั ข้อตอ่ อาจารย์ทปี่ รึกษา

ใช่
วิเคราะหแ์ ละออกแบบระบบงาน
ดำเนนิ การสร้างเอกสารและโปรแกรม
ไมใ่ ช่ ตรวจสอบความถูกต้องกบั

อาจารย์ปรึกษา
ใช่

เตรยี มเอกสารตรวจประเมนิ โครงงานวชิ าชีพ
ไมใ่ ช่ สอบประเมนิ กับคณะกรรมการ

ใช่
ติดต้งั และใช้งานโปรแกรม
หวั หนา้ แผนกลงนามอนุมัติ

สน้ิ สดุ การดำเนินงาน

ภาพท่ี 3.1 แผนผังการดำเนนิ งาน (Flow Chart)

23

3.5 เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นการประเมินโครงงาน
3.5.1 ลักษณะเครอ่ื งมอื
เครื่องมอื ท่ีใช้ในการประเมินโครงงานครัง้ น้ี ประกอบด้วยแบบสอบถาม 1 ชุด มีคำถามเพื่อ

ประเมินระบบงานในคร้ังนีโ้ ดยดูจากระดับความพึงพอใจเป็น 5 ระดับ คือ ระดับความพึงพอใจมาก
ทสี่ ดุ มาก ปานกลาง นอ้ ย และนอ้ ยท่ีสุด

3.5.2 วธิ ีสรา้ งเครอ่ื งมอื
การสร้างเคร่อื งมอื ใชใ้ นการเก็บรวบรวมขอ้ มูลวิทยาลยั เทคโนโลยีสยามบรหิ ารธุรกิจ

นนทบุรี (SBAC) จำนวน 2 คน ไดส้ รา้ งขึ้นเอง ตามข้ันตอนดงั น้ี
3.5.2.1 ศึกษาหลักการทฤษฎีจากตำรา เอกสาร บทความทางวิชาการและงานวิจัย
3.5.2.2 นำข้อมูลที่ได้มากำหนดกรอบแนวความคิดในการวิจัย
3.5.2.3 สร้างเครื่องมือเป็นแบบสอบถามตามมาตราส่วนประมาณค่า (Rating

Scale) 5 ระดับ คือ ระดับความพึงพอใจมากทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย และน้อยที่สุดแล้ว
นำมาพิจารณาความเหมาะสมของสำนวนภาษาการใช้ถ้อยคำและนำแบบสอบถามไป
ปรบั ปรงุ แกไ้ ข

3.2.5.4 นำแบบสอบถามที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้กับผู้อื่นที่กลุ่มตัวอย่าง
หลังจากนั้นจึงนำมาปรับปรุงแก้ไขอีกครั้งก่อนนำไปทดลองใชเ้ พ่ือหาคุณภาพรายข้อและหา
ค่าอำนาจจำแนกโดยการหาค่าสัมพนั ธ์ระหวา่ งคะแนนรายขอ้ กับคะแนนรวม

3.6 การวเิ คราะหข์ ้อมูล
ขอ้ มูลที่รวบรวมได้จากแบบสอบถามนำมาทำการวิเคราะห์ โดยข้อมูลเกยี่ วกับสถานภาพของ

ผู้ตอบแบบสอบบถามใช้การวเิ คราะหข์ อ้ มูลโดยการ แจกแจงความถี่ หาค่ารอ้ ยละ

3.7 สถิตทิ ่ีใช้ในการวเิ คราะหข์ อ้ มลู
นำขอ้ มูลทีไ่ ดจ้ ากแบบทดสอบมาคำนวณคา่ สถิติ โดยใชค้ ่าสถิตจิ ากกรมวิชาการ

ค่าเฉลย่ี ของความพึงพอใจ

=
n

เมื่อ  คอื ค่าเฉลี่ยของคะแนนความพงึ พอใจท่ีได้

  คอื ผลรวมของคะแนนความพึงพอใจทัง้ หมด
n คอื จำนวนผู้ตอบแบบสอบถามท้ังหมด
ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน

= √ ∑ − (∑ )
( − )

เมอื่ SD คือ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน

X คือ ความพงึ พอใจของผตุ้ อบแบบสอบถาม

∑ คอื ผลรวมของคะแนนความพงึ พอใจท้ังหมด

คอื จำนวนผตู้ อบแบบสอบถามทั้งหมด

24

3.8 แผนภาพการถา่ ยทอดข้อมูล
3.8.1 การออกแบบขั้นตอนและการทำงานของระบบ Context Diagram ของการพัฒนา

เวบ็ ไซต์ประชาสัมพนั ธส์ นิ ค้าทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร

ภาพที่ 3.2 Context Diagram Level 0
จากภาพที่ 3.2 เป็นการไหลของกระแสข้อมูลในระดับ Level 0 ของการพัฒนาเว็บไซต์
ประชาสมั พนั ธส์ ินคา้ ทางการเกษตร บนั ทกึ ระบบการโพสต์สินค้า รายละเอยี ดข้อมูลลกู ค้าทั่วไป ลูกค้า
สมาชิก ซึ่งมกี ารทำงานระหว่างข้อมูลท่ีผู้ใช้งานโพสต์ประชาสมั พนั ธ์สินค้าไปยังเว็บไซต์ และเว็บไซต์
ส่งขอ้ มลู ไปท่ฐี านข้อมลู และมกี ารสง่ ขอ้ มูลกลบั มายังผใู้ ช้งาน

25

3.8.2 Data Flow Level 1

ภาพที่ 3.3 Data Flow Level 1

จากภาพที่ 3.3 เป็นการแสดงการทำงานของการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการ
เกษตรสำหรบั เกษตรกร โดยเร่มิ ตน้ จากการสมัครสมาชกิ และเข้าสรู่ ะบบเพอ่ื เลือกชมสินค้าหรือโพสต์
ประชาสมั พันธส์ นิ ค้าได้

26

3.8.3 Data Flow Level 2 Process 1 สมคั รสมาชกิ

ภาพที่ 3.4 Data Flow Diagram Level 2 Process 1 สมัครสมาชิก

จากภาพที่ 3.4 เป็นการแสดงขั้นตอนการสมัครสมาชิก โดยมีการกรอกรายละเอียดในการ
สมคั รสมาชิก ตรวจสอบข้อมูลการสมัคร และบันทึกการสมคั ร

27

3.8.4 Data Flow Level 2 Process 2 เขา้ สรู่ ะบบ

ภาพท่ี 3.5 Data Flow Level 2 Process 2 เข้าสู่ระบบ

จากภาพที่ 3.5 เป็นการแสดงขั้นตอนการเข้าสู่ระบบ โดยการกรอกข้อมูล User และ
Password จากนั้นระบบจะทำการตรวจสอบข้อมูลสมาชิก เข้าสู่ระบบ และแสดงข้อมูลการเข้าสู่
ระบบ

28

3.8.5 Data Flow Level 2 Process 3 เพิม่ โพสต์ประชาสมั พันธ์

ภาพที่ 3.6 Data Flow Level 2 Process 3 เพมิ่ โพสตป์ ระชาสมั พันธ์

จากภาพที่ 3.6 เป็นการแสดงขัน้ ตอนการเพิม่ โพสตป์ ระชาสัมพนั ธ์สนิ ค้า โดยที่สมาชิก เพิ่ม
โพสต์และเพิ่มข้อมูลชองสินค้า และกดอัปโหลดข้อมูลเข้าสู่ระบบ หลังจากที่ตรวจสอบข้อมูลเสร็จ
โพสต์ประชาสมั พนั ธ์จะถูกแสดงข้นึ บนหนา้ เวบ็ ไซต์

29

3.9 แบบจำลองความสัมพนั ธฐ์ านขอ้ มูล (ER-Diagram)
3.9.1 แบบจำลองข้อมูลความสัมพันธ์ของการพัฒนาเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการ

เกษตรสำหรบั เกษตรกร

ภาพท่ี 3.7 แบบจำลองความสมั พนั ธฐ์ านขอ้ มลู (ER-Diagram)

30

3.10 โครงสรา้ งแฟม้ ขอ้ มลู ชนิด ขนาด ตวั อย่าง
3.10.1 แฟม้ ขอ้ มูล Users int 10 1
varchar 255 ธนเดช
ลำดับ รายการ ตวั แปร varchar 255 ปัถพี
1 เก็บเลข ID users_id varchar 255 [email protected]
2 เกบ็ ชือ่ จริง firstname varchar 255 15069
3 เกบ็ นามสกลุ lastname varchar 255 user
4 เก็บอเี มล email
5 เก็บรหัสผ่าน password
6 เก็บระดบั ผใู้ ช้ urole

ตารางท่ี 3.2 แฟ้มข้อมูล Users
Primary key : users_id
Relations : 1:1

3.10.2 แฟม้ ขอ้ มูล Post

ลำดับ รายการ ตัวแปร ชนดิ ขนาด ตัวอย่าง
10 001
1 เกบ็ Post id post_id int 255 มะมว่ ง
255 0932423254
2 เกบ็ Postname name varchar - รูป
- รปู
3 เกบ็ Contact contact varchar รปู
รูป
4 เก็บรปู 1 Image1 text ขอ้ มูล

5 เก็บรปู 2 Image2 text

6 เกบ็ รูป3 Image3 text -

7 เกบ็ รปู 4 Image4 text -

8 เก็บdetail detail varchar 5000

ตารางที่ 3.3 แฟ้มข้อมลู Post
Primary key : post_id
Relations : 1:M

31

3.11 พจนานุกรมข้อมลู
3.11.1 พจนานุกรมข้อมูล Users

No. Attribute Description Datatype Size Format Range Key Reference
Name Type Table

1 user_id เกบ็ เลข ID int 10 ตัวเลข 0-9 PK
10ตัว

2 firstname เก็บช่อื จรงิ varchar 255 ตวั เลข A-Z -
และ 0-9

ตวั อักษร ก-ฮ
255ตวั
3 lastname เกบ็ นามสกลุ varchar 255 ตวั เลข A-Z -
และ 0-9
ตัวอกั ษร ก-ฮ
255ตัว
4 email เกบ็ อเี มล varchar 255 ตวั เลข A-Z FK PostTable
และ 0-9
ตวั อกั ษร ก-ฮ
255ตัว
5 password เกบ็ รหัสผ่าน varchar 255 ตวั เลข A-Z FK PostTable
และ 0-9
ตวั อักษร ก-ฮ
255ตัว
6 urole เก็บระดับ varchar 255 ตัวเลข A-Z FK PostTable
ผู้ใช้ และ 0-9
ตัวอกั ษร ก-ฮ
255ตัว

ตารางที่ 3.4 พจนานุกรมข้อมลู Users

32

3.11.2 พจนานกุ รมขอ้ มูล Post

No. Attribute Description Datatype Size Format Range Key Reference
Name เก็บPost id Type Table

1 id เกบ็ int 10 ตัวเลข 10 0-9 PK
2 name Postname ตัว
เกบ็ Contact
3 contact varchar 255 ตวั เลขและ A-Z -
เก็บรูป1 ตัวอกั ษร 0-9
4 Image1 เกบ็ รูป2 255ตัว ก-ฮ
5 Image2 เก็บรูป3
6 Image3 เก็บรูป4 varchar 255 ตวั เลขและ A-Z -
7 Image4 เกบ็ detail ตวั อักษร 0-9
8 detail 255ตัว ก-ฮ

text - ไฟลร์ ปู ภาพ Jpg -
Png

text - ไฟล์รูปภาพ Jpg -
Png

text - ไฟล์รูปภาพ Jpg -
Png

text - ไฟล์รปู ภาพ Jpg -
Png

varchar 5000 ตวั เลขและ A-Z -
ตัวอักษร 0-9
255ตัว ก-ฮ

ตารางท่ี 3.5 พจนานุกรมข้อมลู Post

33

3.12 การออกแบบจอภาพเวบ็ ไซต์ (Story Board)
3.12.1 หนา้ หลกั

ภาพที่ 3.8 หน้าหลัก
3.12.2 หน้าจอลงทะเบยี นสมัครสมาชกิ

ภาพท่ี 3.9 หน้าจอลงทะเบยี นสมคั รสมาชกิ

34

3.12.3 หนา้ จอการเข้าสู่ระบบ

ภาพท่ี 3.10 หน้าจอการเขา้ สู่ระบบ
3.12.4 หน้าจอแสดงสินค้าสำหรับลกู ค้าทวั่ ไป

ภาพท่ี 3.11 หน้าจอแสดงผลสนิ คา้ สำหรบั ลกู คา้ ท่วั ไป

35

3.12.5 หน้าจอแสดงสนิ ค้าสำหรบั ลูกค้าสมาชกิ

ภาพท่ี 3.12 หนา้ จอแสดงสนิ ค้าสำหรบั ลูกคา้ สมาชกิ

3.13 ค่าใช้จ่ายในการดำเนนิ งาน

ลำดับท่ี รายการ คา่ ใชจ้ ่าย(บาท)

1 กระดาษ A4 115
300
2 ค่าเข้ารูปเลม่ โครงงาน 250
200
3 คา่ ไรท์แผน่ ซีดแี ละพมิ พห์ นา้ ปก 390

4 คา่ ออกแบบโลโก้เวบ็ ไซต์ 1,255

5 คา่ จดโดเมนเวบ็ ไซต์

รวมเปน็ เงนิ

ตารางท่ี 3.6 งบประมาณและค่าใชจ้ า่ ยในการดำเนินงาน

บทท่ี 4

ผลการดำเนินงาน

4.1 ผลการดำเนนิ งาน
เม่อื นำส่วนการออกแบบจอภาพเว็บไซต์ (Story Board) มาพฒั นาควบคู่กับการจัดทำระบบ

ฐานขอ้ มูล ตามท่ีไดอ้ อกแบบไว้ในบทที่ 3 เพือ่ การพัฒนาเว็บไซตป์ ระชาสัมพันธ์สินค้าทางการเกษตร
สำหรบั เกษตรกร จะได้ผลลัพธด์ งั ต่อไปน้ี

4.1.1 หนา้ แรก (Index) ประกอบไปด้วยขอ้ มูลต่างๆ ดังตอ่ ไปนี้
4.1.1.1 ส่วนหวั เวบ็ ไซต์ Header

ภาพที่ 4.1 สว่ นหัวเวบ็ ไซต์ Header
จากภาพที่ 4.1 เป็นภาพแสดงส่วนหัว Header ของเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการ
เกษตรสำหรับเกษตรกร แสดงข้อความ We have fruits and Vegetables to offer to you.” เพื่อ
สื่อความหมายว่าเว็บไซต์นี้มีสินค้าทางการเกษตรมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของคณุ ด้าน
บนสุดมีแทบเมนเู พือ่ อำนวยความสะดวกในการใชง้ านเว็บไซต์

37

4.1.1.2 สว่ นเนือ้ หาเว็บไซต์ Contents

ภาพที่ 4.2 สว่ นเน้ือหาเว็บไซต์ Contents
จากภาพที่ 4.2 เป็นภาพแสดงส่วนเนื้อหา Contents ของเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้า
ทางการเกษตรสำหรบั เกษตรกร จะแสดงเน้ือหาเกีย่ วกับผลไมป้ ระจำฤดูกาลต่างๆ และสินค้าท่ีได้รับ
ความนิยมที่สดุ ในเวลานนั้ ๆ

38

4.1.1.3 ส่วนทา้ ยเวบ็ ไซต์ Footer

ภาพที่ 4.3 สว่ นท้ายเวบ็ ไซต์ Footer
จากภาพที่ 4.3 เป็นภาพแสดงส่วนท้าย Footer ของเว็บไซต์ประชาสัมพันธ์สินค้าทางการ
เกษตรสำหรับเกษตรกร ในหน้านจี้ ะแสดงข้อมูลการตดิ ตอ่ ของคณะผ้จู ัดทำ
4.1.2 หนา้ จอลงทะเบยี นสมคั รสมาชิก

ภาพท่ี 4.4 หน้าจอลงทะเบยี นสมคั รสมาชิก
จากภาพท่ี 4.4 เปน็ ภาพแสดงหนา้ ลงเพอ่ื สมัครเป็นสมาชกิ ของเว็บไซต์ประชาสัมพนั ธ์สินค้า

ทางการเกษตรสำหรับเกษตรกร


Click to View FlipBook Version