The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะเรื่่ิงสั้น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Phu Com, 2024-02-29 10:28:04

ขาซ้ายของเเม่

วิเคราะเรื่่ิงสั้น

วิเคราะห์เรื่องสั้น เสนอ จัดทำ โดย ครูอรวรรณ ธวัชวงษ์ เรื่อง ขาซ้ายของเเม่ 1. นาย บุญทวี ดีเหมือน เลขที่ 2 2.นาย ภูวนาท ไพคำ นาม เลขที่ 3 3.นาย เจนธรรม อัคราช เลขที่ 13 4.นาย ปองภพ อุทกธาร เลขที่ 15 5.นาย ธีธัช โง้วศิริ เลขที่ 21 6.นาย ชนะพล กลิ่นเอียม เลขที่ 22 7.นางสาว ปัญญาพร ขำ บุญรอด เลขที่ 24 8.นางสาว ชนนิกานต์ อ้นขำ เลขที่ 28 9.นางสาว ธีริศรา สิทธิ เลขที่ 33 10.นางสาว วรณัน ผึ่งผดุง เลขที่ 37 ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 4/4 รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทยพื้นฐาน ท31102 โรงเรียนลาดยาววิทยาคม


คำ นำ รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาภาษาไทยพื้นฐาน ท31102 ในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีีท่ 4 โดยมีจุดประสงค์เพื่อ การเรียนเรื่องสั้น ขาซ้ายของเเม่ ซึ้งผู้จัทำ ได้รับมอบหมายจาก ครูผู้สอนให้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม จากอินเทอร์เน็ต เเละเเหล่ง ข้อมูลต่างๆ โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้รู้ เรื่องขาซ้ายของเเม่ เเละ นำ สิ่งที่ได้ศึกษาค้นคว้าเก็บไว้เป็นประโยชน์ต่อการเรียนการ สอนของครูต่อไป ผู้จัดทำ หวังว่า รายงานเล่มนี้จะเป็นปรโยชน์กับผู้อ่าน หรือนักเรียน หากข้อมูล ข้อเเนะนำ หรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทำ ขอน้อมรับไว้ เเละขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ผู้จัดทำ คณะผู้จัดทำ


สารบัญ ๑. แก่นเรื่อง ๒. โครงเรื่อง ๓. เนื้อเรื่อง ๔. ตัวละคร ๕. ฉาก ๖. บทสนทนา ๑) ด้านเนื้อหา ๒) ด้านวรรณศิลป์ ๓) ด้านสังคม 1 2 3 4 5 6 7 8 9 หน้า


เรื่องขาซ้ายของแม่สะท้อนสภาพสังคมปัจจุบันว่า ความรักที่แม่มีให้ต่อ ลูกนั้นมีมาก ยอมลำ บาก อดทนได้เพื่อลูก ในขณะที่ลูกกลับให้ความ สำ คัญกับแม่น้อยกว่าเรื่องอื่นๆ แม้ว่าจิตสำ นึกของลูกจะรู้ว่าควรทำ สิ่ง ใดก็ตาม แก่นเรื่อง


โครงเรื่อง ผู้เขียนเลือกถ่ายทอดเรื่องราวโดยการเล่าความขัดแย้งที่มีอยู่ในใจของ ตัวละครหลักที่ต้องต่อสู้กับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีโดยการยกภาพ สลับไปมาให้เห็นภาพของแม่ผู้เสียสละ ผู้กรำ งานหนักเพื่อลูก ภาพความ รู้สึกผิดที่อยู่ในใจของตัวละครหลัก ผู้เขียนเปิดเรื่องผ่านมุมมองความ คิดของตัวละครหลักที่ได้รับจดหมายจาก สร้างปมปัญหาผ่านมโน สำ นึกที่ตัวละครหลักควรจะทำ เพื่อรักษาสุขภาพของแม่ แต่เมื่อกลับมา อยู่ในสังคมเมือง ความจำ เป็นอื่นๆ ทำ ให้ปัญหานี้ถูกมองข้ามและจัดอยู่ ในลำ ดับท้ายๆ และจบเรื่องที่ขัดแย้งกับความรู้สึกผู้อ่านด้วยการให้ตัว ละครหลักเลือกใช้โชคเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพของแม่ แทนที่จะใช้เงินของ ตนเองรีบพาแม่ไปรักษา


เนื้อเรื่อง เนื้อเรื่องขาซ้ายของแม่ถ่ายทอดความรู้สึกผิดในใจของตัวละครเอกที่เป็นลูกชายจากบ้าน มาทำ งานในเมืองหลวง เมื่ออ่านจดหมายที่แม่เขียนมาให้หลังจากเขาขาดการติดต่อไปเป็น ปี ทำ ให้ภาพขาซ้ายปัญหาสุขภาพของแม่ที่เขาได้เห็นเมื่อคราวกลับไปเยี่ยมบ้านเมื่อปีก่อน กลับมาทำ ให้เขาวิตกกังวลอีกครั้ง ตอนแรกที่เขาทราบปัญหาเขาตั้งใจไว้ว่าจะต้องพาแม่ ไปหาหมอ แต่เมื่อกลับมาอยู่เมืองหลวงแล้วเขากลับมีข้ออ้างต่างๆ มากมายจนในที่สุด แล้วเรื่องการรักษาแม่ก็อยู่ในลำ ดับท้ายๆ ที่เขานึกถึง จนกระทั่งได้รับจดหมายฉบับนี้ ความสำ นึกผิดก็ถาโถมเข้ามา ในที่สุดแล้วเขาเลือกใช้การเสี่ยงโชคเพื่อหวังจะได้เงินสัก ก้อนสำ หรับพาแม่ไปรักษาตามที่ตั้งใจไว้


ตัวละคร ตัวละครลูกนั้นเป็นชายหนุ่มวัยทำ งานที่มาทำ งานในเมืองหลวง มีตำแหน่งฐานะการเงิน มากพอสมควร แต่กลับไม่สามารถแบ่งเงินส่วนนั้นมารักษาแม่ได้ด้วยข้ออ้างต่างๆ โดย เฉพาะเรื่องการเตรียมตัวสร้างครอบครัวใหม่กับคนรัก และไม่ทำ ในสิ่งที่คนในฐานะเป็น ลูกพึงทำ จากเรื่องจะสังเกตได้ว่าแม้ว่าลูกนั้นจะมีสำ นึกรู้ผิดชอบชั่วดีแต่กลับไม่มีความ มุ่งมั่นตั้งใจจะทำ ให้ได้ตามที่สำ นึกของคนเป็นลูกตอกย้ำ ส่วนแม่นั้นเป็นผู้หญิงสูงวัยที่ผ่านการกรำ งานหนักมาตลอดชีวิตเพื่อเลี้ยงดูลูก ๖ คน แม้ว่าขาซ้ายจะมีปัญหาแต่เมื่อเห็นลูกกลับมาบ้านก็ยังตั้งใจไปเก็บผลไม้มาให้ แสดงให้ เห็นถึงความรักที่มีต่อลูก โดยเฉพาะเนื้อความในจดหมายนั้นจะเห็นได้ว่าตัวละครที่เป็น แม่เป็นห่วงความรู้สึกลูก แม้ว่าจะมีปัญหาก็ไม่ได้เล่าชัดเจน มิหนำ ซ้ำ ยังลงท้ายว่าไม่ต้อง เป็นห่วง เพราะไม่อยากให้ลูกวิตกกังวลเรื่องของตนเอง


ฉาก ฉากในเรื่องที่เห็นชัดเจนคือฉากบ้านสวนของตัวละคร ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทำ ให้ตัวละคร หลักทราบปัญหาสุขภาพของแม่ ผู้อ่านสามารถนึกภาพตามผู้เขียนได้ว่าตัวละครลูกมี ความวิตกกังวลต่อภาพที่เห็นตรงหน้ามากเพียงใด ด้วยการพรรณนาให้เห็นภาพ การ เคลื่อนไหวของแม่ที่บ่งบอกปัญหาสุขภาพ และฉากตลาดสดซึ่งเป็นสถานที่นำ ตัวละคร หลักไปสู่การตัดสินใจเสี่ยงดวงเพื่อนำ มารักษาแม่ หากสังเกตการเลือกใช้ถ้อยคำ สำ นวนในการพรรณนาความรู้สึกนึกคิดของตัวละครแล้ว จะเห็นได้ชัดเจนว่าผู้เขียนต้องการมุ่งไปที่อารมณ์ความรู้สึกผิดของลูก ดังจะเห็นได้จาก “สมองผมพล่านไปกับภาพที่ประตูสวนและขาซ้ายถูกลากไปจนดึกดื่น พอหลับตาลง มัน ช่างแจ่มชัดและบางครั้งขยายใหญ่จนน่าเกลียด ลากผ่านไป-มาอยู่ในห้วงคำ นึงเหมือนจะ เหยียบย่ำ สำ นึกส่วนด้านหนาให้เละเหลว แล้วจู่ๆ ความอ้างว้างว้าเหว่อย่างเดียวกับ ความรู้สึกต้องออกจากบ้านมาในครั้งแรก กรูเข้ามาในหัวใจ หอบเอาความหดหู่เข้าห่อ หุ้ม ลุกขึ้นอ่านจดหมายซ้ำ สอง ซ้ำ สาม


บทสนทนา บทสนทนาในเรื่องนี้จะเน้นไปที่การพูดคุยระหว่างแม่กับลูกที่บ่งบอกความรัก ความห่วงใยที่แม่มีให้กับลูกเสมอมา จากเหตุการณ์ที่ตัวละครลูกกลับไปเยี่ยม บ้านนั้นจะเห็นได้ว่าแม่ไม่ต้องการให้ลูกวิตกกังวลเรื่องของตัวเอง จึงพูด ตัดบท ดังเห็นได้จาก “โอ๊ย! จะไปทำ ไมให้เปลืองเงิน คนเฒ่าคนแก่แถวนี้เขาช่วยจับเส้น สายนวดให้ก็ดีเอง นี่ไม่ได้นวดมาหลายวันเลยดูมันแย่หน่อย” แม่บ่ายเบี่ยงด้วย น้ำ เสียงและสีหน้าปกติ ไม่มีอะไรสลักสำ คัญ “น่าจะไปเสียหน่อยหนึ่ง” “แก..อย่า ห่วงไปเลย” แม้กระทั่งเนื้อความในจดหมาย แม่ก็ห่วงความรู้สึกของลูก “...สำ หรับแม่สบายดี พักนี้เพียงแค่ขาปวดบ่อยๆ ขึ้น แต่ไม่เป็นไรหรอก แม่ให้เขา นวดบ่อยๆ แกไม่ต้องเป็นห่วง...


ด้านเนื้อหา ผู้เขียนสะท้อนมุมมองที่มีต่อสังคมผ่านทางเนื้อหาที่ดูเรียบง่าย แต่มีน้ำ หนักการเล่าเรื่อง ที่บีบคั้นอารมณ์ให้ผู้อ่านได้คิดย้อนตาม โดยเฉพาะเรื่องระหว่างแม่ลูกนั้นนับเป็นเรื่อง สากลที่คนส่วนใหญ่มีอารมณ์ร่วมไปในทิศทางเดียวกันได้อย่างง่ายดาย การวางโครง เรื่องนั้นน่าสนใจตรงที่ใช้จดหมายมาเป็นสื่อดึงให้ตัวละครย้อนมโนสำ นึกของความเป็น ลูกกลับไป แม้เรื่องราวจะถ่ายทอดอย่างเรียบง่าย แต่ในช่วงท้ายเรื่องนั้นจบด้วยการดึง อารมณ์และแฝงน้ำ เสียงเย้ยหยันไปในตัวเมื่อลูกตัดสินใจให้หน้าที่หรือสิ่งที่ลูกควรทำ นั้น กลายเป็นเรื่องของโชคแทนที่จะลงมือกระทำ ด้วยตนเอง”


ด้านวรรณศิลป์ การใช้ถ้อยคำ สำ นวนในเรื่องนี้เน้นไปที่การเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกของผู้ อ่านให้รับรู้ร่วมไปกับตัวละครหลักที่มีความรู้สึกผิดอัดแน่นที่ไม่สามารถทำ ตามสิ่งที่ตัวเองตั้งใจเอาไว้ได้ และเน้นไปที่การบอกเล่าพระคุณของแม่เพื่อดึง ความรู้สึกร่วมของผู้อ่านให้นึกย้อนกลับไปถึงความยากลำ บากของ ผู้เป็นแม่ ในการดูแลลูกจนเติบใหญ่ “ภาพคำ นึงเบื้องหน้ากระดาษขาวซีดออกเหลือง เผยให้เห็นหญิงร่างท้วมเจ้าเนื้อ ค่อนข้างเตี้ย มือหยาบหนา นิ้วอวบสั้น รอย แผลเป็นแนวนูนพาดทาบอยู่หลายแนว ข้อนิ้วแตกแยกเป็นร่องลึกดังรอย จารึกประวัติชีวิตอันยาวนาน แผ้วทางให้ลูก ๖ คนก้าวไปข้างหน้า บนใบหน้า ริ้วรอยของกาลเวลาลากผ่านเกิดร่องหล่ม ดวงตาสีน้ำ ตาลอ่อนละมุน ซ่อนเร้นความทรหดและทุกข์ท้อเอาไว้มิดชิด ไม่เคยเผยออกมาแม้ทางน้ำ เสียง ความชรากัดกร่อนบั่นทอนร่างกายให้อ่อนล้าลง เส้นผมเปลี่ยนสีไปจนเห็นชัดใน ครั้งสุดท้ายที่ผมได้พบแม่” ......... “บางทีน่าจะเป็นเช่นนั้นสำ หรับหญิงชราบ้านนอก ไม่มีความรู้ใดๆ นอกจากตัดเย็บเสื้อผ้าให้คนรุ่นเก่า ค้าขาย และทำ งานสารพัด กรำ ชีวิต เนิ่นนาน โถมทุ่มแรงเหนื่อยหนักจนขาลาก สู้ทนเก็บหอมรอมริบ...ลูก ๔ คน เรียนจบมีงานทำ เป็นหลักเป็นฐานกระจัดกระจายไป ..... ลูกจอมทโมนกระโจนเข้า แย่งตะกร้ากับข้าว ค้นหาขนมกระจองอแง... ใครคิดถึงขาข้างนั้นของแม่บ้าง...”


ด้านสังคม เรื่องสั้นเรื่องนี้สามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านนึกย้อนกลับไปพิจารณาบทบาท หน้าที่ของความเป็นลูก และสะท้อนมุมมองที่ผู้แต่งมีต่อสังคมเมือง ปัจจุบันที่ให้ความสำ คัญกับบางสิ่งบางอย่างน้อยเกินไป ดังจะเห็นได้จาก การกระทำ ของตัวละครลูกที่ความจริงแล้วสามารถจะแบ่งเงินมารักษา แม่ได้ แต่กลับเลือกที่จะให้ความสำ คัญกับเรื่องอื่นมากกว่า และมองข้าม การทำ หน้าที่ตอบแทนพระคุณแม่ด้วยการให้ความสำ คัญกับผู้หญิงคน อื่นแทนแม่ของตัวเอง


Click to View FlipBook Version