1
1
แบบทดสอบ
1 วิชา ศลิ ปวัฒนธรรมไทย
รหัสวิชา 20700-1002
11
1
111 1
จัดทาโดย
นายนริ ตุ เหลอื งอรา่ ม
วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาเพชรบรุ ี
สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
2
บทท่ี 1
มนุษยก์ บั สังคม
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด
1. ปัญหำสังคมที่เกิดจำกกำรจดั ระเบียบสงั คม คือขอ้ ใด
ก. กำรทุจริต ข. กำรศึกษำ
ค. กำรมีบุตรมำก ง. กำรเสพยำเสพติด
2. ศำสนำใดไดเ้ ผยแพร่ศำสนำโดยใชก้ ำรดำเนินกำรดำ้ นกำรศึกษำ และกิจกรรมสังคมสงเครำะห์
ก. ศำสนำพุทธ ข. ศำสนำอิสลำม
ค. ศำสนำพรำหมณ์ ง. ศำสนำคริสต์
3. ปัญหำควำมยำกจน มีสำเหตุมำจำกอะไร
ก. กำรเพม่ิ จำนวนประชำกรอยำ่ งรวดเร็ว ข. กำรติดยำเสพติด
ค. กำรวำ่ งงำน ง. สภำพแวดลอ้ มทำงสังคม
4. สภำพจิตบกพร่อง ควำมบกพร่องทำงร่ำงกำยและกรรมพนั ธุ์ ควำมยำกจน ขำดควำมอบอุ่นใน
ครอบครัวก่อใหเ้ กิดปัญหำในดำ้ นใด
ก. ปัญหำกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ ข. ปัญหำโรคเอดส์
ค. ปัญหำอำชญำกรรม ง. ปัญหำควำมยำกจน
5. คำสอนเรื่องจุดมุ่งหมำยของชีวติ ของศำสนำคริสต์ คือขอ้ ใด
ก. นิพพำน ข. กำรรักผอู้ ่ืนเหมือนรักตวั เอง
ค. กำรมีชีวติ ที่เรียบง่ำย ง. กำรมีชีวติ อยกู่ บั พระเจำ้
6. กระทรวง ทบวง กรม เป็นกำรบริหำรรำชกำรแบบไหน
ก. กำรบริหำรรำชกำรส่วนกลำง ข. กำรบริหำรรำชกำรส่วนภูมิภำค
ค. กำรบริหำรรำชกำรส่วนทอ้ งถ่ิน ง. กำรบริหำรรำชกำรส่วนจงั หวดั
7. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ลกั ษณะเด่นของสงั คมไทย
ก. กำรศึกษำและโภชนำกำรอยใู่ นระดบั ต่ำ
ข. เป็นสงั คมเกษตรกรรม
ค. มีกำรอพยพจำกตำ่ งจงั หวดั เขำ้ สู่ตวั เมือง
ง. มีกำรเปลี่ยนแปลงอยำ่ งชำ้ ๆ คอ่ ยเป็นคอ่ ยไป ท้งั ดำ้ นวตั ถุและจิตใจ
3
8. ศนู ยร์ วมทำงจิตใจและศนู ยร์ วมควำมสำมคั คีของชำวไทยท้งั มวล คือขอ้ ใด
ก. ศำสนำ ข. พระมหำกษตั ริย์
ค. ครอบครัว ง. กำรศึกษำ
9. สมยั อยธุ ยำถึงรัตนโกสินทร์ตอนตน้ มีระบบศกั ดินำ พรระมหำกษตั ริยท์ รงมีฐำนะเป็นพระเจำ้
แผน่ ดินและเป็นเจำ้ ชีวติ ของรำษฎร เนื่องจำกไดร้ ับอิทธิพลวฒั นธรรมแบบใด
ก. แบบขอม ข. แบบเชน
ค. แบบฮินดู หรือพรำหมณ์ ง. แบบซิกข์
10. ขอ้ ใดไมไ่ ดเ้ รียกวำ่ พิธีกรรม
ก. กำรทำบุญตกั บำตร ข. กำรแห่นำงแมว
ค. กำรรับศีลลำ้ งบำป ง. กำรทำละหมำด
ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เครื่องหมำยผิด () หน้ำขอ้ ท่ีผิด หรือใส่
เคร่ืองหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ท่ีถูก
1. วฒั นธรรม กำรจดั ระเบียบแบบแผนในกำรดำเนินชีวติ และควำมรู้ควำมคิดในกำร
กระทำส่ิงตำ่ งๆ ทำใหม้ นุษยแ์ ตกต่ำงกบั สตั ว์
2. ตำแหน่งท่ีไดจ้ ำกกำรเป็นสมำชิกของกลุ่ม วำ่ แตล่ ะคนตอ้ งปฏิบตั ิต่อผอู้ ่ืนอยำ่ งไร มีหนำ้ ท่ี
รับผดิ ชอบอยำ่ งไรบำ้ ง เรียกวำ่ บทบำท
3. สิ่งที่แสดงออกถึงควำมเป็นไทยหรือเอกลกั ษณ์ไทยน้นั มีแตส่ ิ่งที่ดีงำมเทำ่ น้นั
4. ลกั ษณะเด่นของสงั คมไทยอยำ่ งหน่ึงคือ ประชำกรมีฐำนะยำกจน รวมท้งั กำรศึกษำ
และโภชนำกำรอยใู่ นระดบั ต่ำ
5. สังคมของชุมชนเมืองอยู่ดว้ ยกำรแข่งขนั กบั เวลำ กำรจะทำส่ิงใดก็ตำมจะตอ้ งมีเวลำเป็ น
ตวั กำหนด
6. กำรเปลี่ยนแปลงทำงกำรเมืองกำรปกครอง ไมส่ ่งผลใหส้ ังคมและวฒั นธรรมเปลี่ยนแปลง
7. ศำสนำทุกศำสนำตอ้ งมีพธิ ีกรรม
8. สำเหตุท่ีเกิดปัญหำกำรทุจริตและประพฤติมิชอบ คือ กำรมีค่ำนิยมที่ผิด เช่น บูชำเงิน
เป็นพระเจำ้ หรือขำดสำนึกในหนำ้ ท่ีของตนเอง
9. ศำสนำคริสตน์ ิกำยโปรเตสแตนต์ มีควำมเผยแพร่ในวงจำกดั ส่วนใหญ่ขยำยขอบเขตใน
ครอบครัวและสงั คมกนั เอง
10. คุณค่ำทำงศำสนำอย่ำงหน่ึงคือ เป็ นดวงประทีปส่องโลกท่ีมืดมิดดว้ ยอวิชชำให้กลบั
ส่องสวำ่ งไสวดว้ ยวชิ ำ
4
ตอนท่ี 3 : ใหจ้ บั คูค่ ำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
_______1. ผอ่ นคลำยควำมตึงเครียดในกำรทำงำน ก. ศำสนสถำน
_______2. พระมหำกษตั ริยม์ ีฐำนะเป็นสมมติเทพ ข. ไพรเมท
_______3. คำสอน ค. สถำบนั นนั ทนำกำร
_______4. เทวำลยั ศำลำกำรเปรียญ วดั โบสถ์ ง. Monogamy
_______5. ยำรักษำโรค ควำมปลอดภยั จ. สมบูรณำญำสิทธิรำชย์
_______6. ขนำดควำมจุของสมองมำก สติปัญญำสูง ฉ. รัชกำลท่ี 5
_______7. ผวั เดียวเมียเดียว ช. สงั คมไทย
_______8. อิทธิพลของจกั รวรรดินิยมตะวนั ตก ซ. ศำสน
_______9. เคำรพผอู้ ำวโุ ส ครูอำจำย์ ไม่ทอดทิง้ พอ่ แม่ ฌ. ชุมชนชนบท
_______10. ใกลช้ ิดกบั วดั และศำสนำ ญ. ควำมตอ้ งกำรทำงชีวภำพ
5
บทท่ี 2
พฤติกรรมของมนุษย์
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด
1. ขอ้ ใดเป็นวฒั นธรรมทำงวตั ถุ
ก. ภำษำ ข. คำ่ นิยม
ค. ขนบธรรมเนียมประเพณี ง. ศิลปะดนตรี
2. ศิลปกรรมของไทยในเรื่องของคติกำรสร้ำงวดั เรำไดร้ ับอิทธิพลมำจำกชนชำติใด
ก. อินเดีย ข. กมั พชู ำ
ค. จีน ง. ชำวมอญ
3. คติควำมเช่ือในกำรประกอบพิธีกรรมตำ่ ง ๆ ของพรำหมณ์ที่ไทยนำมำปฏิบตั ิ ตรงกบั ขอ้ ใด
ก. กำรอุปสมบท ข. กำรโกนจุก กำรหม้นั
ค. กำรทอดกฐิน ง. พิธีเทศน์
4. วฒั นธรรมในเร่ืองกำรละเล่น มวยไทย ฟันดำบสองมือ กระบ่ีกระบอง เป็ นวฒั นธรรมสำขำอะไร
ก. สำขำศิลปะ ข. สำขำมนุษยศำสตร์
ค. สำขำกีฬำและนนั ทนำกำร ง. สำขำคหกรรมศิลป์
5. คนไทยไดร้ ับสมญำวำ่ “ยมิ้ สยำม” เน่ืองจำกคนไทยยมิ้ ง่ำย เป็นเอกลกั ษณ์ของวฒั นธรรมไทย
ตำมลกั ษณะในขอ้ ใด
ก. กำรแสดงควำมนอบนอ้ มและควำมเคำรพ ข. กำรหำควำมสุขจำกชีวิต
ค. ควำมเช่ือมน่ั ในตนเอง ง. ควำมสุภำพอ่อนโยน
6. กำรประดิษฐใ์ นขอ้ ใดที่ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั กำรประดิษฐท์ ำงวฒั นธรรม
ก. เครื่องบิน ข. จรวด
ค. องคก์ ำรสันนิบำต ง. ดำวเทียม
7. ชนชำติใดท่ีไมม่ ีอิทธิพลต่อวฒั นธรรมไทย
ก. ชำติตะวนั ตก ข. มอญ
ค. จีน ง. เวยี ดนำม
6
8. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ วฒั นธรรมทำงบรรทดั ฐำน
ก. Concepts ข. Folkways
ค. Mores ง. Laws
9. เหล่ำน้ีคือสำเหตุของกำรเปลี่ยนแปลงทำงวฒั นธรรม ยกเวน้ ขอ้ ใด
ก. ควำมรุนแรงของธรรมชำติ ข. กำรเปลี่ยนแปลงดำ้ นกำรปกครอง
ค. ควำมเจริญทำงดำ้ นวตั ถุ ง. กำรเปลี่ยนแปลงในสงั คมภำยนอก
10. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ ง
ก. สถำบนั ชำติเป็ นกำรรวมเอำวฒั นธรรมทำงดำ้ นเนติธรรม สหธรรม คติธรรม และวรรณกรรม
มำรวมเป็นสถำบนั ชำติดว้ ย
ข. วฒั นธรรมท่ีสนองควำมตอ้ งกำรทำงจิตใจ คือ ศำสนำ ควำมเชื่อ กำรละเล่นรื่นเริงต่ำง ๆ
ค. ศิลปะศึกษำท้งั 4 ดำ้ น ไดแ้ ก่ สุนทรียศำสตร์ ประวตั ิศำสตร์ศิลป์ ศิลปวจิ ำรณ์และศิลปะปฏิบตั ิ
สำมำรถเป็นสื่อกลำงในกำรส่งเสริมและปลูกฝังเร่ืองรำวเก่ียวกบั วฒั นธรรมได้
ง. วฒั นธรรมในดำ้ นควำมศรัทธำ ควำมเชื่อ ค่ำนิยม บรรทดั ฐำน ไม่ใช่สิ่งที่สำมำรถควบคุม
สังคมได้ มีเพยี งกฎหมำยเท่ำน้นั ท่ีสำมำรถควบคุมสังคมได้
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เครื่องหมำยผิด () หนำ้ ขอ้ ท่ีผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ที่ถูก
1. กำรเล้ียงดูพอ่ แม่ ตอบแทนเม่ือแก่เฒำ่ ถือเป็นจำรีต
2. วรรณกรรมของอินเดียมกั เก่ียวขอ้ งกบั ศำสนำ ยกยอ่ งเทิดทูนพระมหำกษตั ริย์
3. สมยั อยธุ ยำเรำรับกำรปกครองมำจำกชำวมอญ เรำจึงรับภำษำมอญมำใชม้ ำกข้ึนโดยเฉพำะ
คำรำชำศพั ท์
4. วฒั นธรรมอิสลำม อนุญำตใหช้ ำยมีภรรยำไดม้ ำกกวำ่ 1 คน แต่ไม่เกิน 4 คน และสำมำรถ
มีควำมสัมพนั ธ์ระหวำ่ งเพศเดียวกนั ได้
5. วฒั นธรรมทำงดำ้ นเนติธรรม สหธรรม คติธรรม และวรรณกรรม ถือเป็นสถำบนั ชำติ
ดว้ ย
6. สถำบนั หลกั และเป็นวฒั นธรรมไทยที่สืบทอดกนั มำ เพ่ือชำติไทยจะไดม้ ีควำมสงบสุข
เจริญกำ้ วหนำ้ มีควำมสำมคั คี และเป็นระเบียบเรียบร้อย คือ สถำบนั ศำสนำ
7. วฒั นธรรมของแตล่ ะสงั คมมีควำมแตกตำ่ งกนั ไม่สำมำรถนำมำเปรียบเทียบกนั ได้
7
8. อกั ษรไทยไดร้ ับอิทธิจำกตวั อกั ษรขอม นอกจำกน้นั ยงั นิยมใชภ้ ำษำบำลีและสนั สกฤต
ซ่ึงเป็นผลมำจำกกำรเผยแผศ่ ำสนำพุทธและศำสนำพรำหมณ์
9. สมยั พอ่ ขนุ รำมคำแหงมีกำรทำเคร่ืองป้ันดินเผำ โดยไดม้ ีชำวญี่ป่ ุนมำสอนให้
10. ผลจำกกำรแทรกซึมจำกวฒั นธรรมยโุ รป ทำใหป้ ัจจุบนั คนไทยส่วนใหญ่ใชช้ อ้ นส้อม
ในกำรรับประทำนอำหำร จำกที่เมื่อก่อนรับประทำนอำหำรดว้ ยมือ
ตอนที่ 3 : ใหจ้ บั คู่คำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. วฒั นธรรมเร่ืองอำหำร เส้ือผำ้ กำรแตง่ กำย ก. เจดีย์
2. ทำอะไรดงั ใจคือไทยแท้ ข. สำขำศิลปะ
3. เคร่ืองแสดงควำมเป็นชำติ สร้ำงควำมรัก ค. รักควำมโออ่ ำ่
4. ศิลปกรรมสมยั อยธุ ยำรับอิทธิพลจำกขอม ง. สำขำคหกรรมศิลป์
5. ศิลปกรรมของลงั กำที่มีอิทธิพลสมยั จ. เครื่องหมำย
สุโขทยั
6. วฒั นธรรมในเร่ืองภำษำ วรรณคดี ฉ. ภำษำ
7. ภำษำพดู ภำษำเขียน ช. พระปรำงค์
8. เสียงหวั เรำะ ร้องไห้ ฟ้ ำร้อง ซ. ควำมรักอิสรภำพหรือควำมเป็นไทย
9. ชอบเคร่ืองแบบ ชอบตำแหน่งที่มีเกียรติ ฌ. วฒั นธรรมทำงดำ้ นควำมคิด
10. ควำมเจริญทำงดำ้ นวทิ ยำศำสตร์ ญ. สญั ลกั ษณ์
ควำมเช่ือทำงศำสนำ วรรณคดี สุภำษิต
8
บทท่ี 3
ค่ำนิยม วถิ ีชีวติ และจริยธรรม
ตอนท่ี 1 จงเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งที่สุด
1. สุนิสำเห็นเพ่ือนทำกระเป๋ ำสตำงคต์ กโดยไม่รู้ตวั แตไ่ ม่กลำ้ หยบิ เอำมำเป็ นของตวั เองเนื่องจำก
เกิดควำมละอำยใจ แสดงวำ่ สุนิสำมีคุณธรรมในขอ้ ใด
ก. อุปสมะ ข. ฉนั ทะ
ค. หิริ ง. โอตตปั ปะ
2. หำกเกิดนิวรณ์ หรือ กิเลสท่ีเรียกวำ่ “ถีนมิทธะ” ข้ึนมำเรำควรแกด้ ว้ ยวธิ ีใด
ก. แกไ้ ดด้ ว้ ยกำรหกั หำ้ มใจตนเอง ข. แกด้ ว้ ยกำรทำสมำธิ
ค. แกด้ ว้ ยกำรปรึกษำหำรือผทู้ ่ีมีควำมรู้ ง. แกด้ ว้ ยกำรอำ่ น หรือฟังเรื่องรำวปลุกใจ
3. หลกั ของควำมประพฤติ ถำ้ กำหนดข้ึนเป็นส่วนหน่ึงของศำสนำ เรียกวำ่ อะไร
ก. ศีลธรรม ข. ค่ำนิยม
ค. วถิ ีชีวติ ง. คุณธรรม
4. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ งเกี่ยวกบั กำรตื่นตวั ในกำรสอนศำสนำ และจริยธรรมในโรงเรียนของประเทศ
ในเอเชีย
ก. สิงคโปร์มีกำรสอนหนงั สือดว้ ยภำษำองั กฤษทุกวชิ ำ ยกเวน้ วชิ ำจริยศึกษำท่ีครูไม่สอนดว้ ย
ภำษำองั กฤษ
ข. ปัจจุบนั นกั เรียนในประเทศไทยศึกษำวชิ ำพระพุทธศำสนำวนั ละ 2 ชว่ั โมง
ค. นกั เรียนไตห้ วนั เรียนจริยศึกษำสัปดำห์ละ 40 นำที
ง. กำรสัมมนำในกลุ่มประเทศอำเชียน เร่ืองกำรจดั กำรศึกษำ เรื่องค่ำนิยม ผูเ้ ข้ำประชุม
พจิ ำรณำวธิ ีกำรสอนคำ่ นิยมแบบเอเชียในโรงเรียน โดยเริ่มสอนต้งั แต่เด็กเลก็
5. กำรแตง่ กำยตำมแฟชน่ั โดยแค่เพียงทำตำมอยำ่ งผอู้ ่ืน โดยไม่รู้คุณค่ำของส่ิงน้นั เรียกพฤติกรรม
แบบน้ีวำ่ อะไร
ก. คำ่ นิยม ข. รสนิยม
ค. สมยั นิยม ง. ควำมนิยม
6. บุคคลในขอ้ ใดเป็นคนไมม่ ีสจั จะ
ก. วฒุ ิชอบกินเหลำ้ กบั เพ่อื นฝงู ข. นฐั ชอบเล่นกำรพนนั
9
ค. ชินนอกใจภรรยำไปมีคนใหม่ ง. ตำลไปเท่ียวไม่ชวนเพ่ือน ๆ
7. จอห์นไมก่ ลำ้ ฆำ่ สตั ว์ เน่ืองจำกกลวั วำ่ จะเป็นบำปติดตวั ถือวำ่ มีคุณธรรมในขอ้ ใด
ก. หิริ ข. โอตตปั ปะ
ค. ทมะ ง. อุปสมะ
8. กำรทำมำหำกินในทำงสุจริต แต่ทำไมถ่ ูกกำลเทศะ บุคคลอยำ่ งน้ีเรียกวำ่ มีควำมประพฤติเป็ น
แบบใด
ก. เป็นอตั ถะและเป็นธรรมะ ข. เป็นอตั ถะแตไ่ ม่เป็ นธรรม
ค. ไม่เป็นอตั ถะและไม่เป็นธรรมะ ง. ไม่เป็นอตั ถะแตเ่ ป็นธรรม
9. กำรใหโ้ ดยไมห่ วงั ผลตอบแทนตรงกบั ขอ้ ใด
ก. ทำน ข. จำคะ
ค. ทมะ ง. กุศล
10. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ผลดีของยคุ “โลกำภิวฒั น์” ซ่ึงเป็นโลกที่ขอ้ มูลขำ่ วสำรติดต่อถึงกนั อยำ่ งรวดเร็ว
ก. ทำใหม้ ีควำมรู้เท่ำเทียมคนอื่นในเวลำเดียวกนั หรือใกลเ้ คียงกนั
ข. ทำใหเ้ ป็นคนทนั สมยั ทนั เหตุกำรณ์
ค. ทำใหไ้ ดร้ ับรู้วฒั นธรรมของชำติอื่น ๆ มำกยง่ิ ข้ึน
ง. เกิดค่ำนิยมใหม่ทำใหต้ ำ่ งชำติเขำ้ มำมีอิทธิพลอยตู่ ลอดเวลำ
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เครื่องหมำยผิด () หนำ้ ขอ้ ที่ผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ท่ีถูก
1. ผูท้ ่ีพ่อแม่เป็ นคนสติปัญญำด้อย หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ขดั ขวำงควำมเจริญทำง
ปัญญำ มีแนวโนม้ จะกลำยเป็นคนโง่
2. เด็กท่ีถูกเล้ียงดูดว้ ยควำมเกลียดชงั ไร้เหตุผล ใช้แต่อำรมณ์ บุคคลน้นั จะเป็ นคนท่ีมี
อำรมณ์ขนุ่ มวั โหดร้ำย กำ้ วร้ำว เอำแตอ่ ำรมณ์
3. ควำมตอ้ งกำรเป็ นท่ียอมรับ เกิดข้ึนลำดบั ต่อไปจำกท่ีบุคคลไดร้ ับกำรตอบสนองดำ้ น
ปัจจยั 4 เรียบร้อยแลว้
4. คนที่อยใู่ นเมืองท่ีอำกำศร้อนมกั มีผวิ คล้ำกวำ่ คนที่อยใู่ นที่มีอำกำศหนำว
5. กำรเล้ียงดูอบรมในครอบครัวและประสบกำรณ์ที่ไดร้ ับมีผลต่อระดบั อำรมณ์ของบุคคล
10
6. พฤติกรรมและพฒั นำกำรของมนุษยเ์ กิดตำมวฒุ ิภำวะ หรือโครงสร้ำงของสติปัญญำท่ี
สำมำรถปรับใหเ้ ขำ้ กบั สภำพแวดลอ้ มได้ เป็นทศั นะของกลุ่มมนุษยน์ ิยม
7. กลุ่มท่ีมีวฒั นธรรมแตกตำ่ งกนั จะมีพฤติกรรมแตกต่ำงกนั ดว้ ย
8. มนุษยเ์ ป็นผลผลิตจำกสิ่งแวดลอ้ ม
9. แรงขบั ท่ีอยใู่ นจิตใตส้ ำนึก ทำใหแ้ ต่ละคนมีพฤติกรรมและบุคลิกภำพแตกตำ่ งกนั
10. ผทู้ ี่มีควำมรู้จบป.6 จะมีควำมตอ้ งกำรแตกตำ่ งจำกผทู้ ่ีจบปวช.
ตอนที่ 3 : ใหจ้ บั คู่คำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. ควำมขยนั หมนั่ เพยี ร กำรประหยดั ก. ขนั ติธรรมประเภท “อดออม”
อดออม
2. ควำมฟ่ ุมเฟื อย กำรหลงอำนำจ ข. ศำสนำ
3. อดทนตอ่ อำนำจกิเลสตระกลู โลภะ ค. ทมะ
และโมหะ
4. ลำภ ยศ สรรเสริญ สุข ง. เมตตำ
5. รู้จกั ข่มจิตของตน จ. ค่ำนิยมท่ีดี
6. สงบใจจำกส่ิงท่ีเป็นขำ้ ศึกแก่ควำมสงบ ฉ. คำ่ นิยมท่ีไม่ดี
7. มำตรฐำนตดั สินควำมดีควำมชวั่ ช. ทิฏฐธมั มิกตั ถะประโยชน์
8. หมน่ั ใชส้ ตติปัญญำใคร่ครวญหำเหตุผล ซ. กรุณำ
9. ปรำรถนำใหผ้ อู้ ่ืนพน้ ทุกข์ ฌ. วมิ งั สำ
10. ปรำรถนำใหผ้ อู้ ื่นเป็นสุข ญ. อุปสมะ
11
บทท่ี 4
ขนบธรรมเนียมประเพณี
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด
1. สิ่งใดท่ีไม่ตอ้ งเตรียมในพธิ ีงำนมงคลโกนผมไฟ ตดั จุก
ก. สงั ข์ ข. กระแจะ
ค. มงคลคู่ ง. หญำ้ แพรก
2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ จุดประสงคข์ องกำรประดบั กระทงดว้ ยดอกไมธ้ ูปเทียนแลว้ นำมำลอยในแม่น้ำ
ลำคลอง
ก. เป็นกำรบชู ำพระแมค่ งคำ
ข. เป็นกำรขอขมำเทพเจำ้ แห่งแม่น้ำที่ไดใ้ ชน้ ้ำในแม่น้ำลำคลองเพือ่ อุปโภคและบริโภค
ค. เพือ่ สักกำระพระพุทธบำทท่ีฝ่ังแมน่ ้ำนมั มทำในอินเดีย
ง. เพื่อเป็ นกำรขอฝนจำกเทวดำ
3. ประเพณีใดอยใู่ นภำคอีสำน
ก. ประเพณีบุญบ้งั ไฟ ข. ประเพณีกำรชกั พระ
ค. ประเพณีปักธงชยั ง. ประเพณีสู่ขวญั ขำ้ ว
4. ในสมยั กรุงศรีอยุธยำ จงั หวดั ใดที่ไดร้ ับอิทธิพลทำงวฒั นธรรมจำกท้งั กรุงศรีอยุธยำและจำก
ต่ำงชำติ
ก. นครนำยก ข. นครสวรรค์
ค. นครศรีธรรมรำช ง. ปรำจีนบุรี
5. ประเพณีกำรไหวค้ รู ประเพณีสงกรำนต์ ประเพณีกำรบวช จดั เป็นประเพณีประเภทใด
ก. จำรีตประเพณี ข. ขนบประเพณี
ค. ธรรมเนียมประเพณี ง. ประเพณีหลวง
6. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ ง
ก. วฒั นธรรมไทยชอบใหบ้ ุตรหลำนรับรำชกำร ส่วนวฒั นธรรมจีนชอบใหบ้ ุตรหลำน
ประกอบอำชีพคำ้ ขำยและทำธุรกิจ
ข. ประเพณีหลวง เป็ นวฒั นธรรมของคนในระดบั ชนช้นั ผนู้ ำ ชนช้นั สูง หรือชนช้นั ปกครอง
12
ค. ประเพณีหลวงและประเพณีรำษฎร์มีควำมสมั พนั ธ์ท่ีแสดงถึงควำมกลมกลืนเป็นอนั หน่ึง
อนั เดียวกนั
ง. สินสอด เป็นทรัพยส์ ินท่ีฝ่ ำยชำยใหไ้ วแ้ ก่ฝ่ ำยหญิง เพ่ือเป้ นหลกั ฐำนกำรหม้นั และประกนั
วำ่ จะ แต่งงำนกบั หญิงน้นั
7. สิ่งใดท่ีไม่ตอ้ งใชใ้ นประเพณีรดน้ำดำหวั
ก. ส้มโอ ข. ส้มป่ อย
ค. มะพร้ำว ง. กลว้ ย
8. สำเหตุที่ตอ้ งทำพธิ ีบุญบ้งั ไฟกนั ในเดือน 6-7 คือขอ้ ใด
ก. เพอ่ื ใหเ้ หมำะสมกบั ฤกษย์ ำม
ข. เพรำะเป็นควำมเชื่อท่ีสืบต่อกนั มำ
ค. เพรำะถำ้ จุดหนำ้ ร้อนอำจเป็นอนั ตรำยทำใหท้ รัพยส์ ินเสียหำยได้
ง. เพรำะเป็นกำรขอใหฝ้ นตกตอ้ งตำมฤดูกำล
9. ประเทศใดที่ไทยไมไ่ ดร้ ับแบบแผนมำผสมผสำนจนกลำยเป็นประเพณีหลวงโดยสมบูรณ์
ก. เปอร์เซีย ข. ฝรั่งเศส
ค. อินเดีย ง. ชวำ
10. ขอ้ ใดเป็นพระรำชพิธีที่เกี่ยวกบั ควำมสุขสมบูรณ์ของแผน่ ดิน
ก. รัฐพิธีฉลองวนั พระรำชทำนรัฐธรรมนูญ
ข. พระรำชพิธีบำเพญ็ พระรำชกศุ ลมำฆบูชำ
ค. รัฐพธิ ีพชื มงคลและจรดพระนงั คลั แรกนำขวญั
ง. พระรำชพธิ ีพยหุ ยำตรำทำงสถลมำรค
ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เคร่ืองหมำยผิด () หนำ้ ขอ้ ที่ผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ที่ถูก
1. พระรำชพธิ ีบรมรำชำนุสรณ์สมเดจ็ พระนเรศวรมหำรำช ที่ทรงทำยตุ ถหตั ถีชนะพมำ่
ทำงรำชกำรถือวำ่ เป็นวนั กองทพั ไทย
2. วนั ฉตั รมงคล คือวนั ที่ 5 พฤษภำคมของทุกปี เพรำะตรงกบั วนั พระรำชพิธีบรม
รำชำภิเษกเสด็จข้ึนครองรำชยข์ อง รัชกำลที่ 9
13
3. กำรทำขวญั เดือน ทำข้ึนเพื่อถือวำ่ เดก็ พน้ ขีดอนั ตรำยจำกกำรเป็นลูกผมี ำเป็ นคนได้
ตอนหน่ึง
4. ประเพณีบุญบ้งั ไฟ กระทำหลงั จำกวนั มหำปวำรณำ 1 วนั
5. วนั แตง่ งำนนิยมจดั ข้ึนในเดือนคู่ ไม่นิยมจดั ในเดือนคี่
6. ประเพณีกำรชกั พระ ก่อใหเ้ กิดวฒั นธรรมอ่ืน ๆ สืบเนื่องหลำยอยำ่ ง เช่น กำรแข่งเรือ
พำย กีฬำซดั ตม้ กำรทำตม้ ยำ่ ง และกำรเล่นเพลงเรือ เป็ นตน้
7. ถำ้ สงกรำนตป์ ี ใด วนั อำทิตยเ์ ป็นวนั มหำสงกรำนต์ ปี น้นั ไร่นำเรือกสวนเจริญงอกงำม
8. วนั มหำสงกรำนต์ คือ วนั ท่ี 13 เมษำยน วนั เนำ คือ วนั ท่ี 14 เมษำยน และวนั เถลิงศก
คือ วนั ที่ 15 เมษำยน
9. ประเพณีชกั พระหรือลำกพระ จะทำพิธีกนั ในเดือน 6
10. งำนพธิ ีต่ำง ๆ มกั จะนิมนตพ์ ระเป็นเลขค่ีเสมอ ไม่วำ่ จะเป็ นงำนใดก็ตำม
ตอนที่ 3 : ใหจ้ บั คูค่ ำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. กฎศีลธรรม ก. กำรทำบุญบ้งั ไฟ
2. กำรเล่นเพลงฉ่อย เพลงลำตดั โนรำ ข. วนั ศุกร์
3. กำรฟ้ อนผไู้ ทย กำรรำในงำนบุญมหำชำติ ค. จำรีตประเพณี
4. เป็นวนั มหำสงกรำนต์ จะเกิดอนั ตรำย ง. ประเพณีพ้ืนเมือง
กลำงเมือง
5. เป็นวนั มหำสงกรำนต์ ขำ้ วน้ำ ลูกหมำก จ. ประเพณีพ้ืนบำ้ น
รำกไมท้ ้งั หลำยจะอุดม
6. กำรบูชำพระธำตุเกศแกว้ จุฬำมณีสวรรค์ ฉ. วนั สงกรำนต์
7. หมำกพลู ขำ้ วปลำจะแพง แพอ้ ำมำตย์ ช. ประเพณีแห่นำงแมว
8. รำชบณั ฑิตจะมีสุขสำรำญ ซ. วนั องั คำร วนั เสำร์
9. กำรใหศ้ ีลใหพ้ รใหอ้ ยเู่ ยน็ เป็ นสุข ฌ. วนั พุธเป็นวนั เถลิงศก
10. ขอฝนเม่ือยำมฝนแลง้ ญ. วนั องั คำรเป็นวนั เนำ
14
บทที่ 5
ควำมรู้เกี่ยวกบั ศิลปกรรม
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด
1. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ผลงำนศิลปะท่ีตอบสนองดำ้ นจิตใจมำกกวำ่ ประโยชนใ์ ชส้ อย
ก. วรรณกรรม ข. ดุริยำงคศิลป์
ค. จิตรกรรม ง. สถำปัตยกรรม
2. สิ่งสำคญั ท่ีทำใหจ้ ิตรกรรมไทยเปล่ียนแปลงรูปแบบและเน้ือหำตำมแนวตะวนั ตกคืออะไร
ก. ผลกระทบของพฒั นำกำรดำ้ นสังคม เศรษฐกิจ และกำรเมือง
ข. เพอื่ ควำมสวยงำม แปลกใหม่
ค. มีควำมทนั สมยั มำกกวำ่
ง. ไดร้ ับกำรสนบั สนุนจำกหลำย ๆ ฝ่ ำย
3. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ ลกั ษณะของวรรณศิลป์
ก. จินตนำกำร ข. อำรมณ์ปลุกใจ
ค. อำรมณ์สะเทือนใจ ง. กำรแสดงออกทว่ งทำนอง
4. วดั ใดที่เป็นที่รวมของสถำปัตยกรรมต้งั แต่ รัชกำลที่ 1 ถึงรัชกำลท่ี 4
ก. วดั อรุณรำชวรำรำม ข. วดั ระฆงั โฆสิตำรำม
ค. วดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลำรำม ง. วดั พระศรีรัตนศำสดำรำม
5. สถำปัตยกรรมไทย มีลกั ษณเด่นที่เก่ียวเน่ืองกบั อะไรเป็นสำคญั
ก. กำรเมืองและกำรปกครอง ข. ศำสนำและกำรเมือง
ค. ศำสนำและกำรปกครอง ง. ควำมเช่ือและกำรปกครอง
6. งำนศิลปะชนิดใดท่ีตอ้ งกำรปริมำตร หรือตอ้ งกำรเน้ือที่ในอำกำศ
ก. สถำปัตยกรรม ข. ประติมำกรรม
ค. นำฏกรรม ง. จิตรกรรม
7. หยำดน้ำคำ้ ง หรือ ดวงแกว้ บนเจดียน์ ้นั มีควำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร
ก. ดวงปัญญำหรือควำมใสสะอำด ข. ผซู้ ่ึงขดั เกลำจิตใจดีแลว้
ค. ผทู้ ี่มีควำมบริสุทธ์ิ ง. ผทู้ ่ีอยเู่ หนือโลก
15
8. รูปเจดียท์ ้งั หมดเป็ นรูปกรวยต้งั ยอดแหลมพงุ่ สู่ทอ้ งฟ้ ำ มีควำมหมำยวำ่ อยำ่ งไร
ก. เป็นพลงั และควำมคิดสร้ำงสรรค์
ข. เป็นภำวะที่จิตใจมีควำมสุขต่อกำรรับรู้ในส่ิงที่ดี
ค. เป็นภำวะควำมมีอิสระทำงควำมคิด
ง. เป็ นภำวะของผฝู้ ึ กฝนและขดั เกลำจิตใจตนเองดีแลว้ ยอ่ มไปสู่ควำมวำ่ งและจิตใจกวำ้ งขวำง
9. กำรท่ีสตั วโ์ ลกเกิดอำรมณ์ทุกขห์ รือสุขอยำ่ งแรงกลำ้ จนกล้นั ไวไ้ ม่ไหวตอ้ งแสดงออกมำเป็น
กิริยำ ทำ่ ทำง เรียกวำ่ อะไร
ก. กำรละคร ข. กำรละเล่น
ค. กำรฟ้ อนรำ ง. กำรเตน้ รำ
10. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ งเก่ียวกบั ประโยชนข์ องกำรสร้ำงสรรคศ์ ิลปะ
ก. มนุษยท์ ่ีฝักใฝ่ ในศิลปะ มกั ไมป่ ระพฤติชวั่ ทำควำมเดือดร้อนใหแ้ ก่ผอู้ ื่น
ข. ศิลปะเป็นพ้นื ฐำนทำงศีลธรรม
ค. ศิลปะก่อใหเ้ กิดประโยชนท์ ำงเศรษฐกิจ
ง. ศิลปะไมส่ ำมำรถเป็นกำรบนั ทึกและกำรสื่อสำรได้
ตอนท่ี 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เครื่องหมำยผิด () หน้ำขอ้ ท่ีผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ที่ถูก
1. ประติมำกรรมไทย มีวตั ถุประสงคเ์ ก่ียวเนื่องกบั ศำสนำและควำมเชื่อ จำกน้นั จึงได้
คล่ีคลำยมำเป็นศิลปะสัจนิยม เพอ่ื ตอบสนองควำมตอ้ งกำรทำงสังคม เศรษฐกิจ และ
กำรเมือง
2. งำนจิตรกรรมไทยแบบประเพณี นิยมเล่ำเร่ืองอดีตของพระพุทธเจำ้ นิทำนชำดกพุทธ
ประวตั ิดว้ ยภำพตำ่ ง ๆ ที่ตกแต่งฝำผนงั พระปรำงค์ พระอุโบสถวหิ ำร
3. วรรณคดีเก่ียวกบั กำรเดินทำงในอดีตจะมีเน้ือหำเก่ียวกบั กำรศึกสงครำม มีกำรสดุดีวีรชน
ที่กลำ้ หำญ
4. นำฏศิลป์ ไทยสมยั อยธุ ยำ มีกำรระบำเตน้ กรีดกรำยท่ำทำงเป็นหมูป่ ระกอบดว้ ยเพลง
ดนตรีต่ำง ๆ
5. ดนตรีไทยเริ่มเส่ือมลงหลงั จำกที่วฒั นธรรมตะวนั ตกแพร่หลำย และไดร้ ับกำรฟ้ื นฟอู ีก
คร้ังในสมยั รัชกำลท่ี 5
6. สถำปัตยกรรมไทยมีลกั ษณะเด่นท่ีเก่ียวเนื่องกบั ศำสนำและกำรปกครอง
16
7. วงเครื่องสำย วงป่ี พำทย์ และวงมโหรี เป็ นพฒั นำกำรของเคร่ืองดีด สี ตี เป่ ำ ต้งั แต่อยธุ ยำ
มำจนถึงปัจจุบนั
8. สุนทรียภำพทำงภำษำเป็ นอำภรณ์สำคญั ของวรรณคดี ควำมงำมของภำษำอยทู่ ี่คุณค่ำ
ของควำมหมำยและเสียง
9. สถำปัตยกรรมไทยสมยั อยธุ ยำในระยะแรกไดร้ ับอิทธิพลจำกพระร่วง
10. สิ่งท่ีใชจ้ ำแนกวรรณคดีและวรรณกรรม คือ วรรณศิลป์
ตอนท่ี 3 : ใหจ้ บั คู่คำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. ควำมงำมท่ีใหค้ วำมรู้สึกพอใจ ยนิ ดี
เฉพำะส่วนตวั ก. มณั ฑนศิลป์
2. ควำมงำมที่ใหค้ วำมรู้สึกก่ึงแบบอยำ่ งที่
สมบรู ณ์ท่ีสุด เป็นควำมจริงภำยนอก ข. วจิ ิตรศิลป์
3. กำรสร้ำงสรรคศ์ ิลปะ เพอื่ ตอบสนองกำร
รับรู้ทำงประสำทตำ ค. ภววสิ ยั
4. งำนโลหะ งำนไม้ งำนจกั สำน ง. พำณิชยศิลป์
5. กำรออกแบบเครื่องเรือน ตกแตง่ อำคำร
สถำนที่ จ. อตั วสิ ยั
6. ป้ ำยโฆษณำ กำรจดั ตูโ้ ชว์ ตกแต่งอำคำร
ร้ำนคำ้ ฉ. วรรณศิลป์
7. อนุสำวรียใ์ หญ่ ๆ อำคำรรำชกำร ช. ทศั นศิลป์
8. ประณีตศิลป์ ซ. พกุ ำม และลำพนู
9. ศิลปะในกำรแต่งหนงั สือ ฌ. อุตสำหกรรมศิลป์
10. สถำปัตยกรรมแบบลำ้ นนำ ญ. สถำปัตยกรรม
17
บทที่ 6
ศลิ ปวฒั นธรรมไทย
ตอนท่ี 1 จงเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด
1. รูปแบบของงำนศิลปวฒั นธรรมในสมยั ก่อนกรุงสุโขทยั เป็ นงำนแบบใด
ก. เป็นงำนที่เกี่ยวเน่ืองกบั ธรรมชำติ ข. เป็นงำนที่เก่ียวเนื่องกบั กำรปกครอง
ค. เป็นงำนท่ีเกี่ยวเน่ืองกบั ศำสนำพทุ ธและฮินดู ง. เป็นงำนท่ีเก่ียวเนื่องกบั สงั คม
2. ลกั ษณะของงำนศิลปะทวำรวดีท่ีน่ำสนใจ คืออะไร
ก. พระปรำงคส์ ำมยอด ข. ปรำสำทหินพิมำย
ค. ปรำสำทหินพนมรุ้ง ง. ธรรมจกั รหินขนำดใหญ่
3. พระพุทธรูปท่ีมีพระพกั ตร์ค่อนขำ้ งกลมหรือรูปเหลี่ยมเล็กนอ้ ย พระองคค์ ่อนขำ้ งอวบอว้ น
นิ้วพระหตั ถท์ ้งั สี่มีปลำยเสมอกนั เป็นประติมำกรรมแบบใด
ก. ประติมำกรรมแบบเมืองพษิ ณุโลก ข. ประติมำกรรมแบบอู่ทองหรืออโยธยำ
ข. ประติมำกรรมแบบสุโขทยั ง. ประติมำกรรมแบบกรุงรัตนโกสินทร์
4. วรรณกรรมใดแตง่ ข้ึนเพ่ือเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ
ก. ลิลิตพระลอ ข. ลิลิตยวนพำ่ ย
ค. ลิลิตตะเลงพำ่ ย ง. ลิลิตเพชรมงกุฎ
5. อิเหนำ และดำหลงั เป็นวรรณกรรมท่ีแตง่ ข้ึนในสมยั ใด
ก. สมยั สมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ ข. สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
ค. สมเด็จพระเจำ้ อยหู่ วั ทำ้ ยสระ ง. สมยั สมเดจ็ พระเจำ้ บรมโกศ
6. นวนิยำยอิงประวตั ิศำสตร์เร่ืองแรก คืออะไร
ก. ผชู้ นะสิบทิศ ข. ยอดขนุ พล
ค. ดำบศกั ด์ิเหล็กน้ำพ้ี ง. ถล่มหงสำวดี
7. ช่วงหวั เล้ียวหวั ตอ่ ของวรรณกรรมไทย อยใู่ นสมยั รัชกำลใด
ก. รัชกำลท่ี 3 ข. รัชกำลท่ี 4
ค. รัชกำลท่ี 5 ง. รัชกำลที่ 6
18
8. งำนประติมำกรรมใด ไม่ถือวำ่ เป็ นงำนจำหลกั หินอ่อนหรือหล่อสำริดส่งมำจำกยโุ รปที่ถือวำ่
เป็นกำรเริ่มรับแบบอยำ่ งกำรป้ันรูปเหมือนและอนุสำวรียแ์ บบตะวนั ตก
ก. พระบรมรูปทรงมำ้
ข. รูปป้ันสุนขั ยำเหล
ค. ภำพเหมือนตกแต่งพระท่ีนง่ั ในพระบรมมหำรำชวงั
ง. พระสยำมเทวำธิรำช
9. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ สถำปัตยกรรมไทยแบบประยกุ ต์
ก. เรือนเคร่ืองผกู ข. พระที่นงั่ จกั รีมหำปรำสำท
ค. พระท่ีนง่ั วมิ ำนเมฆ ง. พระรำชวงั มฤคทำยวนั
10. ขอ้ ใดกล่ำวไมถ่ ูกตอ้ ง
ก. โขนสมยั โบรำณ ผแู้ สดงเป็นชำยลว้ น
ข. ละครนอก เป็ นละครของชำวบำ้ น กำรแสดงมุ่งเนน้ ที่บทตลกมำกกวำ่ อวดศิลปะกำรร่ำยรำ
ค. กำรแสดงโนรำ มกั แสดงในกำรแกบ้ นเป็ นส่วนใหญ่
ง. ละครใน เป็นละครของหลวงในรำชสำนกั ตำ่ งจำกละครนอกท่ีควำมประณีตงดงำมใน
กำรแสดง
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เคร่ืองหมำยผิด () หนำ้ ขอ้ ท่ีผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ท่ีถูก
1. ศิลปะศรีวชิ ยั มีศนู ยก์ ลำงบริเวณภำคใตข้ องไทย แถบจงั หวดั นครศรีธรรมรำช และ
จงั หวดั
สุรำษฎร์ธำนี (อำเภอไชยำ)
2. ศิลปะทวำรวดี เป็นศิลปะเนื่องในคติของศำสนำพุทธนิกำยมหำยำน
3. ศิลปะสุโขทยั ไดร้ ับอิทธิพลจำกศิลปะลงั กำ ศรีวชิ ยั ขอม พม่ำ ผสมผสำนปรับปรุงให้
สอดคลอ้ งกบั อุดมคติของตนเอง
4. มหำชำติคำหลวง จดั เป็นวรรณกรรมพระรำชพธิ ี
5. ในสมยั รัชกำลที่ 4 ไดเ้ กิดนกั วชิ ำกำรทำงวรรณกรรมข้ึน
6. เรือนที่ปลูกสร้ำงข้ึนดว้ ยไมจ้ ริง และเป็นที่อยแู่ ขง็ แรงกวำ่ เรือนเครื่องผกู เรียกวำ่ เรือน
เคร่ืองสบั
19
7. พระท่ีนง่ั ไอศวรรยท์ ิพยอำสน์ กลำงสระน้ำท่ีพระรำชวงั บำงปะอิน สร้ำงดว้ ยไม้ มี
ขนำดเล็ก ลงรักปักทอง เป็ นสถำปัตยกรรมไทยแท้
8. กำรแสดงโนรำ เป็นกำรแสดงที่ใชเ้ ตน้ ประกอบจงั หวะดนตรี และคำพำกย์
9. รัชกำลท่ี 3 ทรงพระรำชนิพนธ์บทละครท่ีสำมำรถแสดงเป็นละครไดจ้ ริง
10. งำนเขียนท่ีไดร้ ับควำมนิยมสูงสุดในช่วงกลำงสมยั รัชกำลที่ 6 คือ นิยำยอิงพงศำวดำร
พมำ่ ไทย เร่ือง ผชู้ นะสิบทิศ
ตอนท่ี 3 : ใหจ้ บั คูค่ ำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. อุโบสถในน้ำ ก. พระพุทธรูปสมยั อทู่ อง
2. พระพุทธชินรำช พระพุทธชินสีห์
พระศรีศำสดำ ข. นทีสีมำ
3. มหำโพธำรำม ค. หลวงพอ่ โต
4. มีกำรสร้ำงเจดียเ์ หลี่ยมหรือเจดียย์ อ่ ไม้
สิบสอง ง. ประติมำกรรมแบบเมืองพิษณุโลก
5. พระพทุ ธไตรรัตนนำยก จ. ลิลิตโองกำรแช่งน้ำ
6. พระพกั ตร์เหลี่ยม มีไรพระสก พระหนุ
ป้ ำน พระนำสิกคมสนั ฉ. ลิลิตพระลอ
7. กำพยม์ หำชำติ ช. ประติมำกรรมแบบลำ้ นนำรุ่นหลงั
8. นนั โทปนนั ทสูตรคำหลวง ซ. สมยั อยธุ ยำตอนตน้
9. ใชใ้ นพระรำชพธิ ีถือน้ำพระพิพฒั น์สัตยำ ฌ. เจำ้ ฟ้ ำธรรมำธิเบศร์
10. เป็นวรรณกรรมเพือ่ ควำมบนั เทิง และ
ควำมงำมในวรรณศิลป์ ญ. สมยั พระเจำ้ ทรงธรรม
20
บทที่ 7
ศิลปะสมบตั ิไทย
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสุด
1. พระมหำกษตั ริยพ์ ระองคใ์ ดแห่งกรุงศรีอยุธยำ ที่โปรดใหต้ รำพระไอยกำรตำแหน่งนำยพลเรือน
และทหำรข้ึนใหเ้ ป็นระเบียบในกำรบริหำรรำชกำร
ก. สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ ข. สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
ค. สมเด็จพระนเรศวรมหำรำช ง. สมเดจ็ พระเจำ้ ปรำสำททอง
2. ขอ้ ใด ไม่ใช่ ส่วนประกอบของเน้ือผงถม
ก. ตะกวั่ ข. ทองแดง
ค. กำมะถนั ง. ปรอท
3. ลวดลำยส่วนมำกท่ีใชใ้ นกำรลงยำ คืออะไร
ก. ลำยลำธำร ข. ลำยไทย และลำยดอกไม้
ค. ลำยป่ ำไม้ ง. ลำยทิวทศั นต์ ำ่ ง ๆ
4. ขอ้ ใดเป็นศิลปะประเพณี
ก. กำรป้ันรูปเคำรพต่ำง ๆ ข. ภำพจิตรกรรมฝำผนงั
ค. กำรทอผำ้ และกำรเยบ็ ปักถกั ร้อย ง. โขน
5. สิ่งใดท่ี ไมใ่ ช่ วสั ดุที่นำมำทำกำกะเยยี
ก. งำชำ้ ง ข. ไมแ้ กว้
ค. ไมเ้ น้ืออ่อน ง. ไมม้ ะเกลือ
6. พระภมู ิเจำ้ ที่องคใ์ ดมีหนำ้ ที่รักษำเรือนหอ
ก. พระทนั ธิรำช ข. พระชยั กสั สป
ค. พระชยั มงคล ง. พระนครธรรพ์
7. ขอ้ ใดกล่ำวไมถ่ ูกตอ้ ง
ก. พระเจดียศ์ รีสุริโยทยั จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยำ มีกำรทำฐำนเจดียย์ อ่ มุมไมส้ ิบสอง
ข. ยอ่ มุมทอ้ งปลิง ถำ้ มีเส้นคิ้วหรือขอบขนำนไปท้งั สองขำ้ ง เรียกวำ่ ทอ้ งปลิงยกั คิว้
ค. อียปิ ตน์ ิยมดอกบวั มำก ถึงกบั ประดิษฐเ์ ป็นลำยหวั เสำในงำนสถำปัตยกรรม
ง. ดอกกลว้ ยไม้ เป็นสัญลกั ษณ์ของควำมอุดมสมบูรณ์
21
8. ในประเทศอินเดีย ขณะที่ควำมนิยมในกำรสร้ำงพระพทุ ธรูปยงั ไมเ่ กิดข้ึน ส่ิงใดท่ีใชเ้ ป็นสิ่ง
แทนพระพุทธองค์
ก. ธง ข. ธรรมจกั ร
ค. ปฏำกะ ง. บวั แกว้
9. บวั ชนิดใด มีลกั ษณะดงั ดอกบวั แยม้ เรียกอีกอยำ่ งหน่ึงวำ่ “บวั โถ” มกั ประดิษฐ์เป็นหวั เสำ
ก. บวั จงกล ข. บวั หลงั เจียด
ค. บวั กลุ่ม ง. บวั กระจงั -บวั กระหนก
10. ตพู้ ระธรรมชนิดใดนิยมใส่คมั ภีร์เรื่องพระมำลยั
ก. ตสู้ วด ข. ตเู้ ทำ้ สิงห์
ค. ตฐู้ ำนสิงห์ ง. หีบหนงั สือ
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เคร่ืองหมำยผิด () หนำ้ ขอ้ ท่ีผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ท่ีถูก
1. กลองวนิ ิจฉยั เภรี ใชใ้ นสมยั รัชกำลท่ี 4 สำหรับผทู้ ่ีตอ้ งกำรถวำยฎีกำ
2. สภำพทำงภูมิศำสตร์ และส่ิงแวดลอ้ มเป็นตน้ เหตุของกำรสร้ำงศิลปะพ้ืนบำ้ นในแต่ละ
ทอ้ งถ่ินท่ีแตกต่ำงกนั ไป
3. รักสมุก ใชท้ ำก่อนทำกำรปิ ดทอง เพอ่ื ยดึ ทองใหต้ ิดแน่น
4. กลองเล็ก ๆ ของจีน ใชบ้ รรเลงในวงเครื่องสำย เรียกวำ่ กลองตอ๊ ก
5. ศิลปะพ้นื บำ้ น มีควำมเก่ียวพนั กบั ขนบธรรมเนียมประเพณี ควำมเช่ือ ศำสนำ ผสี ำง
เทวดำ และไสยศำสตร์ตำ่ ง ๆ ท่ีคนในชุมชนน้นั นบั ถือ
6. กำรตีเหลก็ เป็นมีดอรัญญิก กำรทำจอบ เสียม บำตรพระเป็ นศิลปะพ้ืนบำ้ นอยำ่ งหน่ึง
7. กำรต้งั ศำลพระภมู ิ นิยมต้งั ศำลวนั ศุกร์ จะไดอ้ ยเู่ ยน็ เป็นสุข
8. บวั กระจงั เป็นบวั ท่ีใชป้ ระสำนขอบใหด้ ูกลมกลืนกบั ส่วนของกำแพง
9. ยอ่ มุมลูกแกว้ คือ กำรลบเหล่ียมใหม้ ีส่วนโคง้ เล็กนอ้ ย ถำ้ ทำเป็นเส้นขอบเพ่มิ ข้ึนท้งั
สองขำ้ ง เรียกวำ่ “ลูกแกว้ ยกั คิ้ว”
10. ธงประจำพระองคพ์ ระมหำกษตั ริย์ เรียกวำ่ “ธงมหำรำชใหญ่” เป็ นรูปสี่เหลี่ยมจตุรัส
พ้ืนสีเหลือง
22
ตอนท่ี 3 : ใหจ้ บั คูค่ ำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. ใชต้ ีขณะมีศึกบอกสญั ญำณใหร้ ุกหรือถอยก. กำกะเยยี
2. ใชต้ ีเม่ือมีเหตุเภทภยั ข. สมุดคืบ
3. ใชบ้ รรเลงประกอบกำรเป่ ำปี่ ไฉนและปี่ ชวำ
ในกระบวนแห่พยหุ ยำตรำ ค. ครุฑ
4. ใชเ้ ขียนบญั ชีส่ิงของ เขียนคำถำอำคม ง. สมุดถือเฝ้ ำ
5. ใชเ้ ขียนจดหมำยเหตุ จดบนั ทึกเร่ืองที่
ประชุม จ. พระนำครำช
6. ท่ีวำงหนงั สือ หรือคมั ภีร์ สำหรับอ่ำน ฉ. กลองพิฆำตไพรี
7. เคร่ืองหมำยแสดงยศศกั ด์ิ ตำแหน่ง ตลอด
จนเคร่ืองคุม้ กนั ไปในตวั ช. กลองชนะ
8. รักษำบำ้ นเรือน ซ. กลองอินทรเภรี
9. รักษำประตู และหวั บนั ได ฌ. พระธำสธำรำ
10. รักษำวดั ญ. พระชยั มงคล
23
บทท่ี 8
กำรศกึ ษำนอกสถำนท่ี
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบที่ถูกตอ้ งท่ีสุด
1. ขอ้ ใด ไมใ่ ช่ เร่ืองสำคญั ท่ีตอ้ งตกลงใหแ้ น่ชดั ในกำรศึกษำดูงำนนอกสถำนที่
ก. หนำ้ ที่และควำมรับผดิ ชอบ ข. กำรเตรียมวทิ ยำกร หรือผบู้ รรยำย
ค. วตั ถุประสงคข์ องกำรศึกษำ ง. ค่ำใชจ้ ำ่ ย
2. เขำเขียว จงั หวดั ชลบุรี จดั เป็ นสถำนอนุรักษท์ รัพยำกรธรรมชำติรูปแบบใด
ก. วนอุทยำน ข. เขตรักษำพนั ธุ์สตั วป์ ่ ำ
ค. เขตหำ้ มล่ำสัตวป์ ่ ำ ง. พ้นื ท่ีสงวนชีวำลยั
3. กิจกรรมที่สนบั สนุนกำรคน้ ควำ้ หำควำมรู้ และยงั ทำให้รู้จกั หนงั สือประเภทต่ำง ๆ ในหอ้ งสมุด
คือขอ้ ใด
ก. กำรจดั กลุ่มสนใจ ข. กำรแนะนำหนงั สือ
ค. กำรเล่ำเรื่องหนงั สือ ง. กำรแข่งขนั ตอบปัญหำ
4. พิพิธภณั ฑสถำนประเภทใด ที่เป็ นสถำบนั ท่ีสร้ำงควำมเขำ้ ใจระหวำ่ งสังคมมนุษย์ จดั แสดง
ควำมเป็ นมำของสังคมมนุษยแ์ ต่ละเผ่ำพนั ธุ์ต้งั แต่อดีต แสดงร่องรอยกำรเข่นฆ่ำระหว่ำง
เผำ่ พนั ธุ์
ก. พิพิธภณั ฑสถำนทำงประวตั ิศำสตร์และโบรำณคดี
ข. พพิ ธิ ภณั ฑสถำนทำงมำนุษยวทิ ยำและชำติพนั ธุ์วทิ ยำ
ค. พิพิธภณั ฑสถำนประจำทอ้ งถ่ิน
ง. พิพิธภณั ฑสถำนทำงธรรมชำติวทิ ยำ
5. ขอ้ ใดเป็นตวั อยำ่ งของพิพิธภณั ฑสถำนท่ีเก็บรวบรวมงำนศิลปะที่มีค่ำชองชำติ รักษำ ให้เขำ้ ชม
และศึกษำ และจดั แสดงประวตั ิศำสตร์ศิลป์ ดำ้ นตำ่ ง ๆ ดว้ ย
ก. หอศิลป์
ข. พิพธิ ภณั ฑก์ ลำงแจง้ ของมหำวทิ ยำลยั ศิลปำกร
ค. พิพิธภณั ฑศิลปำชีพพเิ ศษ ณ พระท่ีนง่ั อภิเษกดุสิต
ง. พพิ ธิ ภณั ฑสถำนแห่งชำติ
6. ขอ้ ใดไม่เก่ียวขอ้ งกบั วตั ถุประสงคใ์ นกำรจดั ต้งั ศนู ยว์ ทิ ยำศำสตร์เพื่อกำรศึกษำ
24
ก. เป็นแหล่งวทิ ยำกำรเพื่อกำรเรียนรู้ดำ้ นวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ข. เป็ นแหล่งในกำรคน้ ควำ้ ทดลอง วจิ ยั พฒั นำ สำธิต ส่งเสริมและเผือ่ แพร่กำรปฏิบตั ิกำรดำ้ น
วทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ค. เพ่อื ก่อให้เกิดบรรยำกำศของควำมร่วมมือในกำรศึกษำดำ้ นวทิ ยำศำสตร์และเทคโนโลยี
ง. เพ่ือใหเ้ กิดควำมประทบั ใจ เห็นคุณค่ำของส่ิงของน้นั ๆ ใหไ้ ดร้ ับควำมรู้ควำมเขำ้ ใจ
7. ขอ้ ใดกล่ำวไม่ถูกตอ้ ง เกี่ยวกบั อุทยำนแห่งชำติและสถำนอนุรักษท์ รัพยำกรทำงธรรมชำติ
ก. อุทยำนแห่งชำติเขำใหญ่ เป็นอุทยำแห่งชำติแห่งแรกของประเทศไทย ในพ.ศ. 2505
ข. สวนรุกขชำติ เป็นสถำนท่ีท่ีทำงกำรรวบรวมพนั ธุ์ไมไ้ วท้ ุกชนิด เพ่ือกำรศึกษำวจิ ยั
ค. ระบบอุทยำนของประเทศไทย มีพ้ืนที่อนุรักษ์ 2 ประเภท คือ อุทยำนแห่งชำติ และวน-
อุทยำน
ง. บึงบรเพด็ จงั หวดั นครสวรรค์ เป็นสถำนีพฒั นำและส่งเสริมกำรอนุรักษส์ ตั วป์ ่ ำ
8. ขอ้ ใดต่อไปน้ีเป็ นเขตหำ้ มล่ำสตั วป์ ่ ำ (Non-Hunting Area)
ก. ถ้ำผำน้ำทิพย์ ข. เวยี งลอ
ค. น้ำตกโตนงำชำ้ ง ง. หว้ ยขำแขง้
9. สิ่งใดสำมำรถกระทำไดใ้ นเขตอุทยำนแห่งชำติ
ก. เกบ็ ดอกไม้ ใบไม้ หรือผลไม้ ข. นำของเขำ้ ไปคำ้ ขำยได้
ค. นำจกั รยำนเขำ้ ไปข่ี จะไดด้ ูไดท้ ว่ั ทุกพ้ืนท่ี ง. นำเต๊นท์ ไปพกั คำ้ งแรมในบริเวณที่กำหนด
10. ขอ้ ใด ไม่ใช่ วตั ถุประสงคข์ องกำรจดั ต้งั พพิ ิธภณั ฑสถำน
ก. Preservation ข. Education
ค. Identifying ง. Travelling
25
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เคร่ืองหมำยผิด () หนำ้ ขอ้ ท่ีผิด หรือใส่
เคร่ืองหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ท่ีถูก
1. กำรไปศึกษำนอกสถำนที่ จะสำมำรถช่วยใหผ้ เู้ รียนไดร้ ับประสบกำรณ์ตรง ทำให้เขำ้ ใจ
และมีเจตคติที่ดีตอ่ แหล่งควำมรู้น้นั
2. เมื่อไปถึงสถำนที่เป้ ำหมำยเรียบร้อยแลว้ สำมำรถปล่อยใหน้ กั เรียนไปศึกษำตำมควำม
สนใจไดเ้ ลย
3. วำรสำร เป็ นส่ิงพิมพท์ ่ีเสนอข่ำว เหตุกำรณ์ควำมเคล่ือนไหวตำ่ ง ๆ
4. หลงั จำกศึกษำเสร็จแลว้ ควรมีกำรสรุปบทเรียนทนั ทีถำ้ มีเวลำ เน่ืองจำกผเู้ รียนยงั จำ
ควำมคิด ประสบกำรณ์ และควำมรู้สึกตำ่ ง ๆ ไดด้ ี
5. กฤตภำค เป็นขอ้ ควำมท่ีตดั จำกหนงั สือ วำรสำร หรือส่ิงพิมพอ์ ่ืน ๆ แลว้ นำไปผนึกกบั
กระดำษจดั เขำ้ แฟ้ มเป็นเรื่อง ๆ ไวบ้ ริกำร
6. กิจกรรมเพ่ือกำรศึกษำ โดยใชโ้ สตทศั นวสั ดุต่ำง ๆ เช่น รูปภำพ ตวั อกั ษร แผนภูมิเพื่อ
แจง้ ข่ำวสำรประจำวนั เรียกวำ่ กำรจดั ป้ ำยนิเทศ
7. กำรแสดงปำฐกถำ เป็นกำรเชิญผรู้ ู้มำฟังเป็นกำรพฒั นำควำมคิดไดอ้ ีกรูปแบบหน่ึง
8. ในเขตอุทยำนแห่งชำติสำมำรถปิ ดประกำศโฆษณำได้ แต่หำ้ มขีดเขียนในท่ีตำ่ ง ๆ
9. อุทยำนแห่งชำติ คือ พ้ืนท่ีธรรมชำติอนั กวำ้ งใหญ่ไพศำล มีทรัพยำกรธรรมชำติที่สวยงำม
และมีคุณคำ่ ดำ้ นกำรศึกษำหำควำมรู้
10. กำรจะเปิ ดช้นั เรียนในพิพธิ ภณั ฑสถำนน้นั จำเป็ นตอ้ งเป็นเรื่องเกี่ยวกบั โบรำณคดีเสมอ
26
ตอนท่ี 3 : ใหจ้ บั คู่คำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. วทิ ยำศำสตร์ทำงทะเล แพทยศำสตร์ ก. กำรแสดงหุ่น
2. พพิ ิธภณั ฑส์ ถำนแห่งชำติ หอศิลป์ และ
หอภำพยนตร์แห่งชำติ ข. พพิ ิธภณั ฑสถำนเฉพำะทำง
3. ธรณีวทิ ยำ พฤกษศำสตร์ สัตววทิ ยำ
มำนุษยวทิ ยำ ค. โสตทศั นวสั ดุ
4. น้ำตก หุบเหว ถ้ำ หนำ้ ผำ ขุนเขำ ง. กำรเล่ำนิทำน
5. เป็นกิจกรรมกำรสอนท่ีเป็ นเร่ืองจำก
วรรณคดี นิทำนพ้นื เมือง จ. พพิ ิธภณั ฑสถำนทำงธรรมชำติวทิ ยำ
6. สถำนีวจิ ยั สะแกรำช หว้ ยทำก ป่ ำชำยเลน
บำ้ นหงำว ฉ. สื่ออิเลก็ ทรอนิกส์
7. พ้ืนท่ีที่รัฐบำลเกบ็ รักษำไวใ้ หม้ ีสภำพเป็น
ป่ ำไม้ เพ่ือประโยชนห์ ลำยรูปแบบ ช. พิพิธภณั ฑสถำนสำหรับศิลปะร่วมสมยั
8. รูปภำพ แผนที่และลูกโลก ภำพน่ิง ซ. พ้นื ที่สงวนชีวำลยั
9. ทรัพยำกรสำรสนเทศ ฌ. วนอุทยำน
10. ปลูกนิสัยรักกำรอ่ำน ญ. ป่ ำสงวนแห่งชำติ
27
บทท่ี 9
แหล่งศกึ ษำศิลปวฒั นธรรมไทย
ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบท่ีถูกตอ้ งที่สุด
1. ขอ้ ใดจบั คูไ่ มถ่ ูกตอ้ ง เกี่ยวกบั ประตูพระบรมมหำรำชวงั
ก. ประตสู ุนทรทิศำ – รับอิทธิพลจำกยโุ รป
ข. ประตอู นงคำรักษ์ – ประตปู ้ อมแบบคฤห
ค. ประตมู ณีนพรัตน์ – งำมแบบฉบบั ประตยู อดปรำงคส์ มยั รัตนโกสินทร์
ง. ประตเู ทวำภิรมย์ – เป็นสถำปัตยกรรมสมยั ประชำธิปไตย
2. สถำนท่ีใด ปัจจุบนั เป็ นที่ประชุมองคมนตรี
ก. พระท่ีนงั่ วมิ ำนเมฆ ข. พระที่นง่ั อนนั ตสมำคม
ค. พระที่นงั่ รำชกรัณยสภำ ง. พระที่นงั่ จกั รีมหำปรำสำท
3. ภำพเทพชุมนุม 3 ช้นั ที่ผนงั ดำ้ นขำ้ ง และภำพมำรผจญที่ผนงั หนำ้ พระอุโบสถ ตลอดจนภำพ
ทศชำติชำดกท่ีผนงั ดำ้ นล่ำงระหวำ่ งขอบหนำ้ ต่ำงที่วดั อินทรำรำม มีลกั ษณะคลำ้ ยคลึงกบั ภำพ
ผนงั ในวดั ใด
ก. วดั ระฆงั โฆสิตำรำม ข. วดั สุวรรณำรำม
ค. วดั อรุณรำชวรำรำม ง. วดั พระยำทำ
4. สถำปัตยกรรมช้นั ยอดของวดั พระยำทำ คืออะไร
ก. หอระฆงั รูปครุฑ และยกั ษแ์ บกส่วนบนของหอ
ข. บำนทวำรสลกั ไมอ้ นั มีชื่อเสียง
ค. ธรรมำสนส์ ลกั ไมบ้ นศำลำกำรเปรียญ
ง. พระมณฑป ประดบั กระเบ้ืองเคลือบถว้ ยหลำกสี
5. วดั ใดที่พระอุโบสถ มีหนำ้ บนั งำม เสำแปดเหล่ียม หวั เสำบวั กลุ่ม เป็นแบบสกุลช่ำงอยธุ ยำ
ก. วดั พุทไธศวรรย์ ข. วดั พนญั เชิง
ค. วดั หนำ้ พระเมรุ ง. วดั มงคลบพิตร
6. หมู่พระสถูป ในวดั ไชยวฒั นำรำม จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยำ ซ่ึงถือวำ่ เป็นแบบฉบบั ที่ดีท่ีสุด
สร้ำง ข้ึนในสมยั พระมหำกษตั ริยพ์ ระองคใ์ ด
ก. สมเดจ็ พระเจำ้ ทำงธรรม ข. สมเดจ็ พระเจำ้ ปรำสำททอง
ค. สมเดจ็ พระบรมไตรโลกนำถ ง. สมเด็จพระนำรำยณ์มหำรำช
28
7. รัชกำลใด เป็นผแู้ ต่งต้งั สุนทรภเู่ ป็นขนุ สุนทร และโปรด ฯ ใหเ้ ขำ้ รับรำชกำรในกรมอำลกั ษณ์
ก. รัชกำลที่ 1 ข. รัชกำลท่ี 2
ค. รัชกำลที่ 3 ง. รัชกำลที่ 4
8. ผใู้ ดท่ีไดร้ ับพระรำชทำนยศเป็นหลวงประดิษฐม์ นูธรรม หลงั จำกเขำ้ รับรำชกำร
ก. ศำสตรำจำรย์ ศิลป์ พีระศรี ข. คอซิมบ้ี ณ ระนอง
ค. พระยำรัษฎำนุประดิษฐ์ มหิศรภกั ดี ง. ปรีดี พนมยงค์
9. อนุสำวรียใ์ ดสร้ำงข้ึนเพื่อเป็นอนุสรณ์ที่พร้อมพลีชีพเพื่อชำติดว้ ยควำมกลำ้ หำญและเสียสละ
ก. อนุสำวรียพ์ ระยำรัษฎำนุประดิษฐม์ หิศรภกั ดี ข. อนุสำวรียป์ ระชำธิปไตย
ค. อนุสำวรียท์ ำ้ วสุรนำรี ง. อนุสำวรียพ์ ทิ กั ษร์ ัฐธรรมนูญ
10. บุคคลใด ไมใ่ ช่ หวั หนำ้ ชำวบำ้ นที่รวบรวมผคู้ นเขำ้ ต่อสู้กบั พม่ำที่บำ้ นบำงระจนั
ก. นำยดอก ข. ขนุ สรรค์
ค. พนั เรือง ง. นำยทองแดง
ตอนที่ 2 : ให้นกั เรียนอ่ำนขอ้ ควำมต่อไปน้ี แลว้ ใส่เคร่ืองหมำยผิด () หน้ำขอ้ ที่ผิด หรือใส่
เครื่องหมำยถูก ( ) หนำ้ ขอ้ ที่ถูก
1. พระที่นง่ั ดุสิตมหำปรำสำท เป็ นสถำปัตยกรรมสืบทอดจำกสถำปัตยกรรมสมยั อยุธยำ
สร้ำงในรัชกำลท่ี 1
2. หมู่พระมหำมณเฑียร ประกอบดว้ ย หระที่นงั่ จกั รพรรดิพิมำน พระที่นง่ั รำชกรัณยสภำ
และพระท่ีนงั่ บุษบกมำลำมหำพมิ ำน
3. ภำพเขียนแบบผนงั พระอุโบสถในวดั บวรนิเวศวหิ ำร เป็ นฝีมือของ “ขรัวอินโข่ง”
4. หอไตรในวดั ระฆงั โฆสิตำรำม ชำวบำ้ น เรียกวำ่ “ตำหนกั ตน้ จนั ทน์”
5. วดั พระศรีรัตนศำสดำรำม จดั เป็นวดั ในพระบรมมหำรำชวงั เช่นเดียวกบั วดั พระศรี-
สรรเพชญ์
6. วดั ระฆงั โฆสิตำรำม ไดร้ ับสมญำวำ่ “มหำวทิ ยำลยั แห่งแรก” ของประเทศไทย
7. พระวหิ ำรพระพทุ ธไสยำสน์ แบะพระพุทธไสยำสนใ์ นวดั พระเชตุพนวิมลมงั คลำรำมน้นั
ไดส้ ร้ำงเพมิ่ เติมในสมยั รัชกำลท่ี 2
8. วดั ที่พระบำทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ ำจุฬำโลก โปรดให้สร้ำงข้ึนกลำงเมืองพร้อมกบั
กำรสร้ำงกรุงเทพมหำนคร คือ วดั สุทศั นเทพวรำรำม
29
9. เพนียดคลอ้ งชำ้ ง จงั หวดั พระนครศรีอยธุ ยำ เป็นสถำปัตยกรรมกลำโหมประเภทคลอ้ ง
ชำ้ งแห่งเดียวในโลกท่ีมีอยู่
10. วดั เบญจมบพิตรดุสิตวนำรำม เป็นจุดเริ่มของสถำปัตยกรรมไทยร่วมสมยั
ตอนที่ 3 : ใหจ้ บั คู่คำตอบมำใส่หนำ้ ขอ้ ใหถ้ ูกตอ้ ง
1. วดั โพธ์ิ ก. วดั อินทรำรำม
2. วดั แรกท่ีก่อกำเนิดสงฆน์ ิกำยธรรมยตุ ข. อนุสำวรียพ์ ทิ กั ษร์ ัฐธรรมนูญ
3. วดั แจง้ ค. อนุสำวรียพ์ ระนำงจำมเทวี
4. เป็นวดั ท่ีสร้ำงสมยั อยธุ ยำ ชำวบำ้ น
เรียกวำ่ วดั ใหญ่ ง. วดั อรุณรำชวรำรำม
5. ปรำสำทหินพิมำย ปรำสำทหินพนมรุ้ง
ปรำงคส์ ำมยอด จ. อนุสำวรียส์ ุนทรภู่
6. สร้ำงข้ึนเพอ่ื เป็นอนุสรณ์ และบรรจุอฐั ิ
ทหำรและตำรวจ ฉ. วดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลำรำม
7. พระพทุ ธมหำมณีรัตนปฏิมำกร ช. พระยำรัษฎำนุประดิษฐม์ หิศรภกั ดี
8. ประดิษฐำนอยทู่ ี่ จ.ลำพนู (หริภุญชยั ) ซ. วดั บวรนิเวศวหิ ำร
9. ประดิษฐำน ณ เมืองแกลง จ.ระยอง ฌ. พระแกว้ มรกต
10. นกั ปกครองที่มีควำมคิดริเร่ิมในทำงบำรุง
บำ้ นเมืองและควำมเป็นอยขู่ องรำษฎร ญ. สถำปัตยกรรมขอม