โครงงานทับทิมนำมาทำลิปบาล์มช่วยบำรุงปาก

โครงงาน
ทบั ทมิ นํามาทาํ ลปิ บาล์มช่วยบาํ รุงปาก

จดั ทาํ โดย

นางสาว กวสิ รา ชุมมสั ยา
นางสาว สุมนิ ตรา อนิ นุพฒั น์
นางสาว สุชาดา นวลศรี

ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี 6/9

การเรียนรู้กระบวนการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน
(ประโยชน์แท้แก่มหาชน) ผ่านโครงงาน

โรงเรียนเฉลมิ พระเกยี รตสิ มเดจ็ พระศรีนครินทร์ ภูเกต็
ในพระราชูปถมั ภ์สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ ารี

สํานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศึกษาพงั งา ภูเกต็ ระนอง

ชื่อโครงงาน ทบั ทิมนาํ มาทาํ ลิปบาลม์ ช่วยบาํ รุงปาก

ชื่อผจู้ ดั ทาํ โครงงาน 1.นางสาว กวสิ รา ชุมมสั ยา เลขที่ 13 ม.6/9
2.นางสาว สุมินตรา อินนุพฒั น์ เลขท่ี 15 ม.6/9
3.นางสาว สุชาดา นวลศรี เลขที่17 ม.6/9

ปี การศึกษา 2565

บทคดั ย่อ

การสรรคส์ ร้างผลงานคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์ เพื่อนาํ ประโยชนข์ องทบั ทิมที่มีมากมาย
มาต่อยอดใหเ้ กิดผลิตภณั ฑ์ และเป็นการศึกษาการทาํ ลิปบาลม์ เพื่อนาํ ไปต่อยอดใหเ้ กิดอาชีพใน
อนาคต คุณของศกั ยภาพดา้ นคุณสมบตั ิใหค้ วามชุ่มช่ืน มาเป็นแนวคิดในการทาํ ลิปบาลม์ จากทบั ทิม
โดยใชแ้ นวทางท่ี 3 น้าํ ทบั ทิม+ปิ โตเลียมเจล+ลิปสติกสีชมพู

ผลการสรรคส์ ร้างงาน พบวา่ ดา้ นลกั ษณะเน้ือ ลิปบาลม์ จากทบั ทิมมีเน้ือมีความน่ิม แตก
ตวั เป็นน้าํ ส่วนกล่ินของลิปทบั ทิมเป็นกล่ินหอมอ่อนๆของน้าํ ผ้งึ และน้าํ มนั มะพร้าว และมีสีชมพู
อ่อนๆของลิปสติกท่ีนาํ มาเป็นส่วนผสม สรรพคุณของลิปบาลม์ ทบั ทิม เนื่องจากเน้ือลิปมีลกั ษณะ
ไม่ล่ืนมากจึงสามารถเกบ็ ความช้ืนไวไ้ ดย้ าวนาน และมีส่วนผสมของน้าํ ผ้งึ จึงช่วยบาํ รุงใหป้ ากไม่
แหง้ และดูอิ่มเอิบ และมีส่วนผสมสมจากทบั ทิมท่ีช่วยป้องกนั ริมฝีปากจากแสงแดด
เป็นประโยชน์ ดงั น้ี 1.)ไดน้ าํ ผลไมท้ อ้ งถิ่นมาใชแ้ ปรรูปใหเ้ กิดประโยชน์

2.)ไดเ้ ป็นกรณีศึกษาตวั อยา่ งแก่ผทู้ ี่สนใจ

กติ ตกิ รรมประกาศ

การเรียนรู้กระบวนการงานสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียน(ประโชนแ์ ทแ้ ก่มหาชน) ผา่ น
โครงงานสาํ เร็จลุล่วงไดด้ ว้ ยความกรุณาช่วยเหลือ แนะนาํ ใหค้ าํ ปรึกษา ตรวจสอบแกไ้ ข
ขอ้ บกพร่องต่าง ๆ ดว้ ยความเอาใจใส่อยา่ งดียงิ่ จาก นางสาว รัตนต์ ิยา เทียนแพ

ขอขอบคุณคุณครู อรรถชยั มีสุข และญาติพี่นอ้ งทุกคนที่ช่วยเหลือสนบั สนุนท้งั ดา้ น
กาํ ลงั ใจและกาํ ลงั ทรัพยด์ ว้ ยดีตลอดมา นอกจากน้ียงั มีผทู้ ี่ใหค้ วามร่วมมือช่วยเหลืออีกหลายท่าน ซ่ึง
ผเู้ ขียนไม่สามารถกล่าวนามในที่น้ีไดห้ มด จึงขอขอบคุณทุกท่านเหล่าน้นั ไว้ ณ โอกาสน้ีดว้ ย

คุณคา่ ท้งั หลายที่ไดร้ ับจากรายงานการศึกษาความเรียงข้นั สูงฉบบั น้ี ผเู้ ขียนขอมอบเป็น
กตญั ญูกตเวทีแด่บิดามารดา และบูรพาจารยท์ ี่เคยอบรมส่งสอน รวมท้งั ผมู้ ีพระคุณทุกท่าน

คณะผจู้ ดั ทาํ
นางสาว กวสิ รา ชุมมสั ยา
นางสาว สุมินตรา อินนุพฒั น์
นางสาว สุชาดา นวลศรี

สารบัญ หน้า

บทคดั ยอ่ 1
กิตติกรรมประกาศ 2
สารบญั ภาพ 4
บทที่ 1 บทนาํ 6
บทท่ี 2 การรวบรวมและศึกษาขอ้ มูลเชิงลึกเกี่ยวกบั การสร้างสรรคผ์ ลงาน 8
บทที่ 3 สรรคส์ ร้างวธิ ีการ 9
บทที่ 4 กระบวนการสร้างชิ้นงาน 10
บทท่ี 5 ผลงานประโยชนแ์ ทแ้ ก่มหาชน 11
เอกสารอา้ งอิง 13
ภาคนวก 14

ภาคผนวก ก เรียนรู้พืชศึกษา
ภาคผนวก ข ผลงานนกั เรียน
ภาคผนวก ค ภาพกิจกรรม

1

บทที่ 1

บทนํา

ท่ีมาและความสําคญั
ท่ีมาและความสาํ คญั ทบั ทิม เป็นผลไมท้ ี่ไดร้ ับความนิยมสูงเน่ืองจากอุดมไปดว้ ยสารสกดั

ท่ีมีประโยชน์ มากมาย ซ่ึงสารสกดั สาํ คญั ที่พบในทบั ทิมคือ สารประกอบฟี นอลิก มีสรรพคุณใน
การตา้ นมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งผวิ หนงั มะเร็งตบั และมะเร็งเตา้ นม ลดการอกั เสบและการแพ้
ยบั ย้งั เช้ือไวรัสและแบคทีเรีย ชะลอการเกิดโรคอลั ไซเมอร์ รักษา อาการทอ้ งเสีย และเป็นสารตา้ น
อนุมูลอิสระ ดงั น้นั จึงช่วยชะลอความเส่ือมของอวยั วะต่าง ๆ โดยส่วนใหญ่นิยม บริโภคใน รูปของ
น้าํ ทบั ทิม ซ่ึงน้าํ ทบั ทิมมีสรรพคุณช่วยลดระดบั ไขมนั ในหลอดเลือด ลดระดบั กลูโคสในผปู้ ่ วยเบา
หวาน จึงนบั ไดว้ า่ ทบั ทิมเป็นผลไมท้ ่ีมีคุณคา่ ต่อร่างกายอยา่ งแทจ้ ริง

โดยคณะผจู้ ดั ทาํ ใหเ้ ลง็ เห็นถึงประโยชนข์ องทบั ทิม และอยากท่ีจะนาํ มาแปลรูปเป็นลิป
ปาลม์ ซ่ึงจะใช้ ทบั ทิมแดงอินเดียมาใชใ้ นการแปรรูปผลิตภณั ฑ์
ศักยภาพ ของปัจจัยศึกษา

1.ส่วนเน้ือทบั ทิมใหค้ วามชุ่มชื่นต่อผวิ หนงั
2.ส่วนเน้ือทบั ทิมสีแดงติดบนผวิ หนงั
วตั ถุประสงค์
1. เพ่ือศึกษาประโยชนข์ องทบั ทิม
2. เพื่อศึกษาวธิ ีการทาํ ลิปบาลม์
ขอบเขต
วนั ที่ 9 พฤษภาคม 2565 - วนั ท่ี 11 กรกฎาคม 2565.

ประโยชน์ท่คี าดว่าจะได้รับ
1ไดศ้ ึกษาการทาํ ลิปบาลม์ จากลิปบาลม์
2ไดศ้ ึกษาประโยชนข์ องทบั ทิม

2

บทท่ี 2
การรวบรวมและศึกษาข้อมูลเชิงลกึ เกยี่ วกบั การสร้างสรรค์ผลงาน

จากความประทบั ใจและเลง็ เห็นถึงความงามทางธรรมชาติ ดว้ ยความประทบั ใจดงั กล่าวจึง
นาํ มาสู่การศึกษาขอ้ มูลเชิงลึก เพื่อนาํ ไปสู่การสร้างสรรคผ์ ลงานต่อไป

2.1 อุดมลกั ษณ์ สุขอตั ตะ ประภสั สร รักถาวร เมทิกา ลีบุญญานนท์ และพจมาน พิศเพียง
จนั ทน.์ (2553) ทบั ทิมมีถิ่นกาํ เนิดจากตะวนั ออกของประเทศอิหร่าน ทางตอนใตข้ องอฟั กานิสถานและ
ทาง ตอนเหนือของเทือกเขาหิมาลยั ทบั ทิมจึงชอบอากาศหนาวเยน็ และอยบู่ นพ้ืนที่สูงกวา่
ระดบั น้าํ ทะเลอยา่ งนอ้ ย 300 เมตร ยงิ่ อากาศหนาวเน้ือทบั ทิมจะมีสีแดงเขม้ มากข้ึน ทบั ทิมเป็นผลไมท้ ่ี
อุดมไปดว้ ยสารสกดั ที่มีประโยชนม์ ากมาย ซ่ึงสารสกดั สาํ คญั ที่พบในทบั ทิมคือ สารประกอบฟี นอลิก
มีสรรพคุณในการตา้ นมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็ง ผวิ หนงั มะเร็งตบั และมะเร็งเตา้ นม ลดการอกั เสบ
และการแพ้ ยบั ย้งั เช้ือไวรัสและแบคทีเรีย ชะลอการเกิดโรคอลั ไซ เมอร์ รักษา อาการทอ้ งเสีย และเป็น
สารตา้ นอนุมูลอิสระ ดงั น้นั จึงช่วยชะลอความเส่ือมของอวยั วะต่าง ๆ โดยส่วน ใหญ่นิยม บริโภคในรูป
ของน้าํ ทบั ทิม ซ่ึงน้าํ ทบั ทิมมีสรรพคุณช่วยลดระดบั ไขมนั ในหลอดเลือด ลดระดบั กลูโคสใน ผปู้ ่ วยเบา
หวาน จึงนบั ไดว้ า่ ทบั ทิมเป็นผลไมท้ ี่มีคุณค่าต่อร่างกายอยา่ งแทจ้ ริง ทบั ทิม เป็นผลไมฤ้ ดูหนาว มีสาร
ช่วยตา้ น มะเร็ง ลดการอกั เสบ และชะลอความเสื่อมของอวยั วะ ตา้ นอนุมูลอิสะ และดร.ณฐั พล ต้งั สุภูมิ
สถาบนั วจิ ยั โภชนาการ มหาวทิ ยาลยั มหิดล มีงานวจิ ยั บอกวา่ ดื่มน้าํ ทบั ทิม เป็นประจาํ สามารถช่วยลด
ความเส่ียงของโรคหวั ใจและหลอดเลือด ลดความดนั โลหิต ต่อตา้ นเช้ือแบคทีเรียและ การติดเช้ือจาก
ไวรัส

2.2วธิ ีค้นั น้าํ ทบั ทิม
คิตต้ี เชฟ(2560)
1.ใชม้ ีดตดั หวั หรือทา้ ยกไ็ ดแ้ ลว้ กรีดเปลือกแบ่งทบั ทิมเป็น4ส่วนหรือ5ส่วน
2. จากน้นั กค็ วา่ํ ทบั ทิมไวท้ ่ีฝ่ ามือ หาตวั ช่วยท่ีแขง็ ๆ หรือหนกั ๆ หน่อยตีกน้ ทบั ทิมจนเมด็ ทบั ทิม
หลุดออกจนหมด
3.ใชเ้ ครื่องค้นั น้าํ ส้มค้นั น้าํ ทบั ทิมออกมา

3

2.3วธิ ีทาลิปบาลม์
โรงเรียนภทั รบพิตร(2559)
1.นาํ ทบั ทิมไปต้งั ไฟอ่อนๆกบั ปิ โตรเลียมเจล
2.ใส่น้าํ ผ้งึ น้าํ มนั มะพร้าวสกดั เยน็ ลงไป
3.เติมสีโดยการใส่ลิปสติกสีชมพลู งไป
4.หลงั จากน้นั นา้ มาลา้ งดว้ ยนา้ สะอาด4คร้ัง
5.คนเรื่อยๆจนทุกอยา่ งเขา้ กนั
6.เมื่อทุกอยา่ งเขา้ กนั แลว้ ยกลงจากเตา
7.ต้งั ทิ้งไวส้ กั ครู่หน่ึง
8.น่าไปแช่ตูเ้ ยน็ 5-10นาที กจ็ ะแขง็ ตวั กลายเป็น ลิปบาลม์ จากทบั ทิม

4

บทที่ 3
สรรค์สร้างวธิ ีการ

วธิ ีการทดลองและแนวทางในการออกแบบ
จากการศึกษาทบั ทิม ดา้ นคุณสมบตั ิและสรรพคุณ แนวคิดลิปบาลม์ จากทบั ทิมสอดคลอ้ งกบั

คุณของศกั ยภาพของปัจจยั ศึกษาท่ีเกิดจากการวเิ คราะห์และจินตนาการแนวคิดเพ่ือหาแนวทางใน
การออกแบบ
3.1 วเิ คราะห์สรุปแนวทาง

แนวทางท่ี 1 ปิ โตเลียมเจล+น้าํ ทบั ทิม+น้าํ มะพร้าว+น้าํ ผ้งึ
แนวทางที่ 2 ปิ โตเลียมเจล+น้าํ มนั มะพร้าว+น้าํ ทบั ทิม
แนวทางท่ี 3 น้าํ ทบั ทิม+ปิ โตเลียมเจล+ลิปสติกสีชมพู
3.2 ออกแบบการทดลอง

แนวคิดท่ี1
วธิ ีทาํ นาํ ปิ โตเลียมเจล 1 ชอ้ นโตะ๊ น้าํ มนั

มะพร้าว 1/2 ชอ้ นโตะ๊ น้าํ ผ้งึ 1/2 ชอ้ นโตะ๊ น้าํ
ทบั ทิม 1/2 ชอ้ นโตะ๊ มาผสมกนั ยกข้ึนต้งั ไป
อ่อนๆ นาํ ไมพ้ ายมาคอ่ ยๆคน จากน้นั นาํ ลงจากเตา
แลว้ ทิ้งไวจ้ นแหง้

แนวคิดท่ี 2
วธิ ีทาํ นาํ ปิ โตเลียมเจล 2 ชอ้ นโตะ๊ มา

ละลายในไมโครเวฟ 3 นาที จากน้นั ใส่น้าํ มนั
มะพร้าว 1/4 ชอ้ นโตะ๊ และน้าํ ทบั ทิม 1/2 ชอ้ น
โตะ๊ ลงไปแลว้ ใช่ชอ้ นค่อยๆคน และนาํ ไปเทใส่
บรรจุภณั ฑ์ ทิ้งไวใ้ หเ้ ซ็ตตวั

5

แนวคิดท่ี 3
วธิ ีทาํ นาํ น้าํ ทบั ทิม 1/2 ชอ้ นโตะ๊ ต้งั ไฟอ่อนๆ

กบั ปิ โตเลียมเจล 2 ชอ้ นโตะ๊ หลงั จากน้นั ใส่น้าํ ผ้งึ
1/4 ชอ้ นโตะ๊ และน้าํ มนั มะพร้าว 1/4 ชอ้ นโตะ๊
เติมลิปสติกสีชมพู 1/2 ชอ้ นชา คนเบาๆใหเ้ ขา้ กนั
แลว้ ปิ ดไฟทิ้งไวส้ กั พกั แลว้ นาํ ไปแช่ตูเ้ ยน็ 5-10

จากแนวทางที่ 1 พบวา่ เน้ือสมั ผสั เหลว น้าํ ผ้งึ ทาํ ใหเ้ น้ือสมั ผสั นุ่มข้ึน แตกตวั เป็นน้าํ
จากแนวทางที่ 2 พบวา่ เน้ือมีความแน่นแต่ไม่นุ่ม แตกตวั เป็นน้าํ
จากแนวทางท่ี 3 พบวา่ เมด็ สีชดั เจน เน้ือลิปมีความนุ่ม ใหค้ วามชุ่มชื่นไดด้ ี แตกตวั ป็นน้าํ
สรุปแนวทางการสรรคส์ ร้าง แนวทางท่ี 3 เหมาะสมสุดเพราะ เน้ือลิปมีคุณภาพและตรงความ
ตอ้ งการมากท่ีสุด ใหค้ วามชุ่มชื่นมากกวา่ แนวที่1และแนวคิดที่2 เน้ือลิปมีความนุ่ม แตกตวั เป็นน้าํ
และมีเมด็ สีท่ีชดั เจน

6

บทที่ 4
กระบวนการสร้างชิ้นงาน

การสร้างชิ้นงานเป็นวธิ ีออกแบบและสร้างชิ้นงานข้ึนมาตามจุดประสงคแ์ บบมีเป้าหมายชดั เจน
ออกแบบสร้างสรรคต์ ามวธิ ีทาํ วางไว้

4.1 เน้ือของผลิตภณั ฑต์ อ้ งมีความนุ่มล่ืน เมื่อสมั ผสั กบั ริมฝีปากจะดตกตวั เป็นน้าํ ใความชุ่มชื่น
กบั ริมฝีปาก เน้ือลิปมีสีอมชมพเู ลก็ นอ้ ย มีกล่ินอ่อนๆของทบั ทิม
วตั ถุดิบ
1. ทบั ทิม
2. ปิ โตเลียมเจล
3. น้าํ มนั มะพร้าว
4. น้าํ ผ้งึ
5. ลิปสติกสีชมพู
อุปกรณ์
1. บรรจุภณั ฑ์
2. ถว้ ยผสม
3. ชอ้ นตวง
วธิ ีการทาํ
1. นาํ ปิ โตเลียมเจลกบั น้าํ ทบั ทิมไปต้งั ไฟอ่อน
2. หลงั จากน้นั ใส่น้าํ ผ้งึ และน้าํ มนั มะพร้าวลงไป
3. เติมลิปสติกสีชมพู
4. คนใหเ้ ขา้ กนั แลว้ ปิ ดไฟ
5. ทิ้งไวส้ กั พกั แลว้ น่าไปแช่เยน็

7

4.2 ลิปบาลม์ เป็นผลิตภณั ฑท์ ี่ใชก้ บั ริมฝีปาก ซ่ึงถา้ ลิปบาลม์ มีสารอนั ตรายอาจจะส่งผลกระทบ
ต่อร่างกายของเราดว้ ยตรง ด้งั น้นั ลิปบาลม์ ที่ดีควรจะไม่มีสารกนั บูด ใหค้ วามชุมช่ืนไดด้ ี เน้ือสมั ผสั
นุ่ม แตกตวั เป็นน้าํ มีความติดทด ด้งั น้นั จึงจดั ทาํ แบบฟอร์มประเมินความพ่ึงพอใจในการใชล้ ิป
บาลม์ จากทบั ทิม

4.3 จากการนาํ ไปใหค้ ุณครู ผปู้ กครอง และเพ่ือนร่วมช้นั ทดลองและทาํ แบบประเมินความพึง
พอใจในการใชล้ ิปบาลม์ จากทบั ทิมมีผลดงั น้ี (โดยเกณฑก์ ารประเมินคือ 5 = ดีมาก , 4 = ดี , 3 =
ปานกลาง , 2= ควรปรับปรุง , 1 = ตอ้ งปรับปรุง คะแนน:คน )
1. สีของลิปบาลม์ 5:9 , 4:2
2. กลิ่นของลิปบาลม์ 5:8 , 4:3
3. เน้ือสมั ผสั 5:11
4. ความติดทน 5:9 , 4:2
5. ความชุ่มช่ืน 5:11

8

บทท่ี 5
ผลงานประโยชน์แท้แก่มหาชน

การสรรคส์ ร้างลิปบาลม์ จากทบั ทิม
สรุปผลการศึกษา

ทบั ทิมมีสารตา้ นอนุมูลอิสระ ช่วยในการชะลอความเสื่อมของอวยั วะ ซ่ึงทาํ ใหก้ ารนาํ
ทบั ทิมมาทาํ ลิปบาลม์ ช่วยทาํ ใหป้ ากมีความชุ่มชื่น ดูสุขภาพดี แกป้ ากคล้าํ ริมฝีปากอวบอิ่มอมชมพู
และยงั มีตวั ช่วยเสริมจากน้าํ ผ้งึ และน้าํ มนั มะพร้าวที่ยงั มีสรรพคุณช่วยเติมเตม็ ความชุ่มช่ืน ทาํ ใหร้ ิม
ฝีปากของเราไม่แตกหรือลอก ทาํ ใหล้ ิปบาลม์ ท่ีทาํ ออกมาใหค้ วามชุ่มช่ืน เน้ือนุ่มน่าสมั ผสั แตกตวั
เป็นน้าํ มีสีอมชมพเู ลก็ นอ้ ย ใชง้ านง่าย พกพาสะดวกและยงั สามารถใชไ้ ดท้ ุกเพศทุกวยั
อภิปรายผลการศึกษา

อุดมลกั ษณ์ สุขอตั ตะ,และคณะ (2553) จากการจดั ทาํ โครงงานพบวา่ ทบั ทิมเป็นผลไมท้ ี่
อุดมไปดว้ ยสารสกดั ที่มีประโยชนม์ ากมาย ซ่ึงสารสกดั สาํ คญั ท่ีพบในทบั ทิมคือ สารประกอบ
ฟี นอลิก มีสรรพคุณในการตา้ นมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็ง ผวิ หนงั มะเร็งตบั และมะเร็งเตา้ นม
ลดการอกั เสบและการแพ้ ยบั ย้งั เช้ือไวรัสและแบคทีเรีย ชะลอการเกิดโรคอลั ไซเมอร์ รักษา อาการ
ทอ้ งเสีย และเป็นสารตา้ นอนุมูลอิสระ ดงั น้นั จึงช่วยชะลอความเสื่อมของอวยั วะต่าง ๆ โดยส่วน
ใหญ่นิยม บริโภคในรูปของน้าํ ทบั ทิม ซ่ึงน้าํ ทบั ทิมมีสรรพคุณช่วยลดระดบั ไขมนั ในหลอดเลือด
ลดระดบั กลูโคสใน ผปู้ ่ วยเบา หวาน จึงนบั ไดว้ า่ ทบั ทิมเป็นผลไมท้ ี่มีคุณคา่ ต่อร่างกายอยา่ งแทจ้ ริง
จึงเลง็ เห็นท่ีจะนาํ ประโยชนข์ องทบั ทิมมาทาํ ลิปบาลม์ เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของตลาด
เน่ืองจากปัจจุบนั มีผคู้ นหนั มาสนใจ ผลิตภณั ฑอ์ อร์เกนิคมากข้ึน ลิปบาลม์ จากทบั ทิมจ่ึงอาจเป็นอีก
หน่ึงตวั เลือกของใครหลายคน
ข้อเสนอแนะ

จากการจดั ทาํ โครงงานพบวา่ ลิปบาลม์ จากทบั ทิมน้นั ใหค้ วามชุ่มช่ืนไดด้ ี สามารถใชไ้ ดก้ บั
ทุกเพศ ริมฝีปากไดร้ ับการบาํ รุงจากตวั ของทบั ทิมและส่วนผสมต่างๆอยา่ งดี สามาถใชง้ านได้
ตลอดเวลา และจากการสาํ รวจหลายคนมีความช่ืนชอบท่ีต่างกนั ทาํ ใหเ้ ร่ือง สีของลิปบาลม์ หรือกล่ิน
ของลิปบาลม์ อาจยงั ไม่ตอบโจทยส์ าํ หรับบางคน มีการเสนอแนะใหท้ าํ เมด็ สีใหช้ ดั ข้ึนและใหก้ ลิ่น
ของทบั ทิมโดดเด่นข้ึนมาอีก

9

เอกสารอ้างองิ

https://docs.google.com/forms/d/1YCQ16xY92VvCw8H2GKO_pSMeBkdR27NiEnNi0BhEG18/
edit
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8
http://mymelodylovesong.blogspot.com/2016/09/blog-post.html
https://cooking.kapook.com/view166298.html
https://today.line.me/th/v2/article/EojnWa

10

ภาคผนวก

11

ภาคผนวก ก เรียนรู้พืชศึกษา

12

13

ภาคผนวก ข ผลงานนักเรียน

14

ภาคผวก ค ภาพกจิ กรรม