การทำ คลอดรก (PLACENTA DELIVERY) พบ.324 การผดุงครรภ์ 2 จัดทำ โดย กลุ่ม A5
รายงานเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่ของรายวิชา การพยาบาลผดุงครรภ์ 2 พบ.324 ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้ การทำ คลอดรก อาการแสดงของการลอกตัวของรก วิธีการคลอดรก ข้อควรระวังในการทำ คลอดรก และการตรวจรก ผู้จัดทำ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดทำ เอกสารฉบับนี้จะมีข้อมูล ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาการทำ คลอดรกไม่มากก็น้อย หากมีข้อผิด พลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย คำ นำ 30 สิงหาคม 2566 ผู้จัดทำ ก
เรื่อง หน้าอาการแสดงการลอกตัวของรกวิธีการทำ คลอดรกข้อควรระวังในการทำ คลอดรกการตรวจรกบรรณานุกรมคำ นำสารบัญ ข กข124510
อาการแสดงของสายสะดือ (cord sign) คือ สายสะดือจะเคลื่อนต่ำ ลงมาประมาณ 3 นิ้ว สายสะดือจะคลายเกลียว จะเหี่ยว และคลำ สายสะดือ ไม่พบการเต้นของชีพจร อาการแสดงทางช่องคลอด (vulva sign) คือ จะมี เลือดออกมาให้เห็นทางช่องคลอดประมาณ 30-60 ซี.ซี. พบได้ในรายที่รกเริ่มลอกตัวจากบรเิวณขอบล่าง ของรก เป็นการลอกตัวแบบ เมททิวส์ ดันแคน (Matthews Dancan’s method) ส่วนรกเริ่มลอกตัว บริเวณตรงกลาง เป็นการลอกตัวแบบชูสท์ (Schutze's method) จะไม่มีเลือดออกมาให้เห็นทางช่องคลอด การทำทำทำทำคลอดรก ตามธรรมชาติแล้วรกสามารถคลอดได้เอง โดยอาศัยแรงเบ่งจากผู้คลอด แต่การปล่อยรกคลอดเองโดยธรรมชาติแรงเบ่งของผู้คลอดเพียงอย่างเดียว อาจ ไม่เพียงพอในการขับให้รกคลอดออกมาได้อย่างสมบูรณ์ ทำ ให้รกค้างอยู่ใน โพรงมดลูกส่วนล่าง หรือช่องคลอด เป็นเวลานาน เสี่ยงต่อการตกเลือด ผู้ ทำ คลอดจึงต้องช่วยทำ คลอดรก เพื่อป้องกันการสูญเสียเลือด โดยผู้ทำ คลอดจะ ต้องตรวจอาการแสดงการลอกตัวของรกก่อนที่จะช่วยทำ คลอดรก ภายหลังจากทารกคลอดแล้ว รกจะลอกตัวจากผนังมดลูกภายใน 5 นาที ซึ่งอาการแสดงการลอกตัวของรกมี 3 ลักษณะ ดังต่อไป อาการแสดงของมดลูก (uterine sign) คือ มดลูกจะเปลี่ยนรูปร่างจากแบนเป็นกลมขนาด จะเล็กลง 1
1. ให้ผู้คลอดเบ่งเอง (bearing down effort) โดยอาศัยแรงเบ่งจากมารดาช่วยผลักดันให้รกเคลื่อนต่ำ สูงช่องคลอด และเคลื่อนออกมาภายนอกด้วยแรงถ่วงของรกเอง 2
1.Modified crede’ Maneuver อาศัยการหดรัดตัวฟแข็งของมดลูกส่วนบนดันเอารกซึ่งอยู่ส่วนล่าง ของมดลูดออกมา 2. ผู้ทำ คลอดช่วยเหลือให้รกคลอด 2.Brandt – Andrews Maneuver อาศัยมือไล่กดรกออกมาโดยตรง โดยใช้มือข้างที่ถนัดกดที่บริเวณท้องน้อย เหนือกระดูกหัวเหน่าดันลงล่าง 3.Controlled cord raction อาศัยการดึงสายสะดือออกมาโดยตรงจะใช้วิธีนี้ได้ก็ต่อเมื่อ รกลอกตัวสมบูรณ์และผ่านลงมาในหาทางคลอดส่วนล่างเท่านั้น 3
1. ต้องทดสอบการลอกตัวของรก ก่อนทุกครั้ง 2. ก่อนทำ คลอดรก ควรคลึงมดลูกให้แข็ง เพื่อป้องกันมดลูกปลิ้นและตกเลือด 3. ห้ามคลึงมดลูกก่อนการประเมินการ ลอกตัวของรก เพราะจะทำ ให้เกิด cervical cramp 4. ทำ คลอดรกให้ถูกวิธี เพื่อป้องกันมดลูกปลิ้น 6. เมื่อรกและเยื่อหุ้มรกคลอดหมดแล้ว ควรตรวจดูการหดรัดตัวของมดลูก พร้อม ทั้งคลึงมดลูกให้แข็งและไล่ก้อนเลือดที่ ค้างในโพรงมดลูกออก 5. ทำ การตรวจรกและเยื่อหุ้มรก ว่าคลอดครบหรือไม่ 4
เพื่อตรวจดูว่ารกและเยื่อหุ้มรกคลอดครบหรือไม่ ป้องกันเศษรกค้าง อาจเกิดการตกเลือดหลังคลอดได้ของรก เพื่อตรวจดูความผิดปกติ ซึ่งสามารถวินิจฉัยความผิดปกติของมารดาและ ทารกได้ เช่น ภาวะรกเกาะต่ำ ภาวะ Vasa previa เป็นต้น การตรวจรกมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. 2. วิธีการตรวจรก มี 4 ลักษณะดังนี้ 1. ตรวจสายสะดือ ลักษณะ : กลมแบน หรือรูปรี ขนาด : 15-20 เซนติเมตร หนา : 2-3 เซนติเมตร น้ำ หนัก : ประมาณ 500 กรัม หรือหนัก 1/5-1/6 ของน้ำ หนักทารก ความยาวของสายสะดือ : ประมาณ 30-100 เซนติเมตร ลักษณะทั่วไปของรก จำ นวนเส้นเลือดในสายสะดือปกติมี 3 เส้น คือ เส้นเลือดดำ (Vein) 1 เส้น และเส้นเลือดแดง (Artery) 2 เส้น ปม (Knot) ปมบนสายสะดือ ลักษณะที่อาจตรวจพบมี 2 ชนิด คือ ชนิด False knot เกิดจากเส้นเลือดในสายสะดือ (umbilical vein) ขดเป็นกระจุก ชนิด True knot สายสะดือผูกกันเป็นปม เกิดจากทารกในครรภ์มีการ เคลื่อนไหวและสายสะดือยาว ชนิด False knot ชนิด True knot 5
2. การตรวจเยื้อหุ้มทารก ลักษณะสายสะดือเกาะบนรก 4 แบบ คือ เกาะตรงกลางรก (insertio centralis) เกาะค่อนไปด้านข้างรก (insertio lateralis) เกาะตรงขอบริมรก (insertio marginalis or battledore placenta) เกาะบนเยื่อหุ้มทารก (insertio velamentosa or membranous insertion) เยื่อหุ้มทารกด้านที่ติดกับผนังมดลูก (chorion) ลักษณะไม่เรียบ และขุ่น เป็นเนื้อเยื่อค่อนข้างยุ่ยฉีกขาดได้ง่าย เยื่อหุ้มทารกด้านที่ห่อหุ้มทารก (amnion) ลักษณะใสและเหนียว บางกว่าเยื่อหุ้มทารกชั้น chorion แต่ฉีกขาดติดค้างในโพรงมดลูก น้อยกว่าชั้น chorion การตรวจเยื่อหุ้มทารกต้องตรวจลักษณะต่างๆ ดังนี้ รอยแตกของถุงเยื่อหุ้มทารก ความสมดุลของถุงเยื่อหุ้มทารกทั้งสองชั้นต้องเท่ากัน ขนาดของถุงเยื่อหุ้มทารก มีสัดส่วนสมดุลกับขนาดของตัวทารก ตรวจเยื่อหุ้มทารก แบ่งออกเป็น 2 ชั้น คือ เยื่อหุ้มทารกด้านที่ติดกับผนัง มดลูก (chorion) และเยื่อหุ้มทารกด้านที่ห่อหุ้มทารก (amnion) โดยแต่ละ ชั้นมีลักษณะเฉพาะ ดังนี้ 6
3. การตรวจรกด้านทารก ตรวจรกด้านลูก (chorionic plate) คือ ส่วนที่อยู่ด้านในของถุงน้ำ คร่ำ มีลักษณะสีเทาอ่อนหรือฟ้าอมเทาและเป็นมัน เนื่องจากมีเยื่อหุ้มทารกด้าน ที่ห่อหุ้มทารก (amnion) คลุมอยู่ ลักษณะสี การกระจายของเส้นเลือดแผ่ออกจากบริเวณที่เกาะของ สายสะดือไปยังขอบรกคล้ายรัศมี แต่ปลายเส้นเลือดจะสิ้นสุดก่อนถึง ขอบรกประมาณ 1-2 เซนติเมตร วงสีขาวรอบขอบรก (closing ring of Wrinkle - Waldeyer) อาจอยู่ห่างจากขอบรกเข้ามาเล็กน้อย ซึ่งวงสีขาวรอบขอบรกนี้เกิด จาก ดิซิดัว เวอร์ร่า (decidue vera) และดิซิดัว แคปซูลลารีส (decidue capsularis) มาเชื่อมกัน การตรวจรกด้านลูก ต้องตรวจลักษณะต่างๆ ดังนี้ 7
4. การตรวจรกด้านแม่ ตรวจรกด้านแม่ (basal plate) คือ ด้านที่ติดกับผนังมดลูก มีลักษณะ เป็นก้อนๆ สีแดงเข้มเหมือนสีเปลือกลิ้นจี่ ซึ่งเรียกแต่ละก้อนว่าคอททีลิดอน (cotyledon) มีประมาณ 15-20 ก้อน แต่ละก้อนจะมีร่องกั้นเรียกว่า พลาเซนตัล ซัลคัส (placental sulcus) ตรวจจำ นวนคอททีลิดอน (cotyledon) โดยประกบเนื้อรกเข้าหากัน สังเกตดูรอยแหว่ง ตรวจดูเนื้อตายของรก (Infarction) เนื้อตายของรกเกิดจากการเสื่อม ตามธรรมชาติ หรือพบในผู้คลอดที่มีภาวะแทรกซ้อน ตรวจหินปูน (calcifcation) หินปูนบนรกเกิดจากการสะสมของ แคลเซียมมีลักษณะเป็นจุดสีขาวหรือสีเทาๆลักษณะสากๆ กระจายอยู่ทั่ว เนื้อรก การสะสมของแคลเซียมเป็นสิ่งปกติตามธรรมชาติ ตรวจรอยบุ๋มบนผิวรก (abrutio placenta) พบได้ในรายที่มีรกลอกตัว ก่อนกำ หนด และมีเลือดขังอยู่หลังรกมาก รอยบุ๋มบนคอททีลิดอน (cotyledon) จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับบริเวณ ความกว้างที่รกลอกตัว ก่อนกำ หนด และจำ นวนเลือดที่ค้างอยู่หลังรก การตรวจรกด้านแม่ ต้องตรวจลักษณะต่างๆ ดังนี้ 8
พลาเซนต้า ซัคเซนทูเรียต้า (placenta succenturiata) รกที่มีรกน้อยร่วมด้วย ลักษณะรกที่ผิดปกติ มีดังนี้ พลาเซนต้า สพูเรี่ยม (placenta spurium) รกที่มีรกน้อยร่วมด้วยแยกออกจากตัวรกใหญ่โดยเด็ดขาด แต่ไม่มีเส้นเลือดเชื่อมโยงระหว่างรกใหญ่และรกน้อย พลาเซนต้า เมมเบรนาเซีย (placenta membranacea) รกที่มีลักษณะแผ่กว้างใหญ่และแบนกว่าปกติ ปัญหาของ รกชนิดนี้ คือ อาจมีภาวะเลือดออกจากรกเกาะต่ำ รกลอกตัว ยาก หรือลอกตัวได้ไม่ดี และรกมักฉีกขาดค้างภายใน โพรงมดลูก พลาเซนต้า เซอร์คัมวัลลาต้า (placenta circumvallate) รกที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ พลาเซนต้า วิลลาเมนโตซ่า (placenta velamentosa) รกที่มีการเกาะของสายสะดือที่แขนงของเส้นเลือด จาก สายสะดือทอดผ่านเยื่อหุ้มทารก แบ็ททัลดอร์ พลาเซนต้า (battledore placenta) สายสะดือติดที่ริมรก ถ้าสายสะดือติดริมรกด้านล่าง มีโอกาสเกิดสายสะดือย้อยหรือสายสะดือเป็นส่วนนำ 9
วีรวรรณ ภาษาประเทศ, เพ็ญพักตร์ ลูกอินทร์ และสิตานันท์ ศรีใจวงศ์. (2556). การคลอดรก. ใน วีรวรรณ ภาษาประเทศ, เพ็ญพักตร์ ลูกอินทร์และ สิตานันท์ ศรีใจวงศ์ (บ.ก.), การพยาบาลระยะคลอด (พิมพ์ครั้งที่ 1). (น. 157-166). นนทบุรี: บริษัท ยุทธรินทร์ การพิมพ์ จำ กัด. เยาวเรศ สมทรัพย์. (2566). การช่วยเหลือการคลอดปกติ [PowerPoint]. มหาวิทยาลัยพายัพ: คณะพยาบาลศาตร์แมคคอร์มิค. 10 ดวงพร ผาสุวรรณ. (2564). ปฏิบัติการพยาบาลในระยะที่ 3 ของการคลอด [PowerPoint]. สืบค้น 30 สิงหาคม 2566 http://courseware.npru.ac.th/admin/files/20210902141850 _1de80f6914e02ec95de21fc25637ea04.pdf
นางสาวเปรมจิจิจิตจิ ต์ต์ ต์ต์ นางสาวชญาณ์ณ์ ณ์ นั ณ์ นันันัท์ท์ ท์ท์ นางสาวฝนทิทิทิพทิ ย์ย์ ย์ย์ นางสาวพัพัพัชพัริริริญริ า นางสาวกุกุกุ ล กุ ลจิจิจิรจิา นางสาวอุอุอุ ทุ อุ ทุทุ ม ทุ มพรรณ นางสาวศศิศิศิปศิ ระภา นางสาวธัธัธันธัวรัรัรักรัษ์ษ์ ษ์ษ์ นางสาวกุกุกุ ณ กุ ณฑิฑิฑินัฑินันันัทน์น์ น์น์ นางสาวสุสุสุ ป สุ ปรีรี รี ยรี ยา นางสาวดนยา นางสาววริริรินริ ยุยุยุ พ ยุ พา นางสาวจัจัจันจัทร์ร์ ร์ จิ ร์ จิจิรจิา 1. 2. 3. 4. 5. 6. 7. 8. 9. 10. 11. 12. 13. รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา รหัหัหัสหันันันักนัศึศึศึกศึษา 6401210057 6401210088 6401210262 6401210316 6401210354 6401210361 6401210385 6401210392 6401210415 6401210743 6401210811 6401210880 6401211030 หาญหม่ม่ม่อม่ง สุสุสุ ว สุ วรรณศิศิศิลศิา พงษ์ษ์ ษ์ สุ ษ์ สุสุ ว สุ วรรณ สิสิสิงสิหาทา พาณิณิณิชณิ ย์ย์ ย์ พิ ย์ พิพิทัพิทัทักทัษ์ษ์ ษ์ษ์ ชัชัชัยชัวัวัวังวั ทะริน บุบุบุญบุ ก่ก่ก่อก่น ศรีรี รี ภัรี ภัภักภัดีดี ดีดี ปิปิปิดปิดวง มั่มั่ มั่ นมั่ นกุกุกุ ง กุ ง ตาคำ แซ่ซ่ซ่ลี กลุ่ลุ่ลุ่มลุ่ A5