The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 463415241023-st, 2022-11-03 04:50:01

AI ยานยนต์

ฉบับแก้ไข

คำนำ

รายงานเล่มนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรายวิชาสัมมนา
สำหรับวิทยาการคอมพิวเตอร์ Seminar for computer science
ในกลุ่มชั้นเรียน CSS46341N หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขา
วิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565

เรื่อง AI ยานยนต์ คณะผู้จัดทำหวังว่ารายงานเล่มนี้จะเป็น
ประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการจะศึกษาในเรื่องนี้ หากผิดพลาดประการใด
ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

คณะผู้จัดทำ
วันที่ 30 ตุลาคม 2565

สารบัญ 2
3
คำนำ 4
สารบัญ 5
หัวข้อหลักทั้ง 12 6
หลักการเเละเหตุผล 7
วัตถุประสงค์ 8
AI ยานยนต์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร 9
ประโยชน์ของ AIยานยนต์ 10
ข้อดีข้อเสีย ของAIยานยนต์ 11
กลุ่มเป้าหมาย 12
ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของฮอนด้า 13
ฮอนด้า คลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด 14
ฮอนด้า คลาริตี้ อิเล็คทริค 15
Clarity Fuelcell เซลล์เชื้อเพลิง 16
ฮอนด้า นิววี 17
ฮอนด้า สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์ 18
ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ 19
Honda Riding Assist-e 20
UNI-CUB β 21
Safe Swarm 22
HondaHMI 23
LiB-AID E500 24
ภาคผนวก 25
ตารางกำหนดการ 26-27
วิทยากร 28
ข้อมูลประเมินความพึงพอใจ
บรรณานุกรม

AI AUTOM
OTIVE หัวข้อหลัก ทั้ง 12
ระบบอุปกรณ์
Ai ยานยนต์

1.ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของฮอนด้า
(Automated Driving)
2.ฮอนด้า คลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด
3.ฮอนด้า คลาริตี้ อิเล็คทริค
4.Clarity Fuelcell เซลล์เชื้อเพลิง
5.ฮอนด้า นิววี
6.ฮอนด้า สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์
7.ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์
8.Honda Riding Assist-e
9.UNI-CUB β
10.Safe Swarm
11.Honda HMI (Human Machine
Interface)
12.LiB-AID E500

ห ลั ก ก า ร แ ล ะ เ ห ตุ ผ ล

รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองอัตโนมัติ ความลับของเทคโนโลยี
นี้คือ ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI)
ที่ใช้ในการประมวลผล โดยเฉพาะ AI ที่สามารถเชื่อมต่อกับ

ระบบต่างๆ ที่อยู่ใน Ecosystem ของการจราจร ยก
ตัวอย่างเช่น ในประเทศญี่ปุ่นที่ระบบไฟจราจรเชื่อมโยงเข้ากับ

ระบบนำทาง GPS ในรถยนต์ ช่วยให้ผู้ขับไม่จำเป็นต้อง
สังเกตไฟจราจรบนถนน แถมระบบไฟจราจรยังเชื่อมต่อกับ
อุปกรณ์ความปลอดภัยในรถยนต์อย่างระบบเบรค (เฉพาะ

บางรุ่นเท่านั้น)

วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค์

รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะทำให้ท้องถนนจะมีความ
ปลอดภัยมากขึ้น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่รับรู้และตอบ
สนองต่อสภาพภายนอกได้อย่างรวดเร็วนั้นย่อมจะช่วยให้การ
ขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น การจราจรบนท้องถนนและการ

ใช้เชื้อเพลิงจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลด
อุบัติเหตุนอกจากจะลดความสูญเสียแล้วยังเป็นการกำจัด
สาเหตุที่รถติดบนท้องถนน ลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น
และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่ง

ขึ้นและนี่คือประโยชน์ของวิทยาการสมัยใหม่ที่แท้จริง

AI ยานยนต์เกิดขึ้นมาได้อย่างไร

โดยรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติใช้พลังงานไฟฟ้าจากข้อมูลใน
เอกสารที่ IEEE Spectrum ยื่นต่อ FCC (Federal

Communications Commission คณะกรรมการกลาง
กำกับดูแลกิจการสื่อสารของสหรัฐอเมริกาได้แสดงให้เห็นถึง

การดำเนินการติดตั้งระบบชาร์จไร้สาย (Wirelessly
Charge) เพื่อใช้ในการชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้กับรถยนต์ โดย
มีการร่วมมือกับ Hevo Power ผู้พัฒนาจุดชาร์จพลังงาน
รถยนต์ไฟฟ้าแบบไร้สายผ่านท่อน้ำระบายน้ำ โดยเทคโนโลยี

ของ Hevo Power ใช้การออกแบบอุปกรณ์ที่มีความ
กลมกลืนไปกับฝาท่อระบายน้ำ เมื่อรถยนต์ขับมาจอดให้ตรง
จุดชาร์จพลังงานจากนั้นจะเกิดการเติมพลังงานในแบบเหนี่ยว
นำไร้สายขึ้น โดยจะสามารถส่งผ่านพลังงานไปยังรถยนต์ได้
ตั้งแต่ 220 โวลต์ ถึง 10 กิโลวัตต์การชาร์จพลังงานไฟฟ้าให้
กับรถยนต์ไร้คนขับ อาจพิจารณารูปแบบอื่น ๆ เพิ่มเติม นอก
เหนือจากการนำเทคโนโลยี Hevo Power มาใช้ เพื่อเป็น

ทางเลือกในการเติมพลังงานไฟฟ้าที่มากขึ้นในอนาคต

ประโยชน์ของ AIยานยนต์

รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติจะทำให้ท้องถนนจะมีความ
ปลอดภัยมากขึ้น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติที่รับรู้และตอบ
สนองต่อสภาพภายนอกได้อย่างรวดเร็วนั้นย่อมจะช่วยให้การ
ขับขี่มีความปลอดภัยมากขึ้น การจราจรบนท้องถนนและการ

ใช้เชื้อเพลิงจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น การลด
อุบัติเหตุนอกจากจะลดความสูญเสียแล้วยังเป็นการกำจัด
สาเหตุที่รถติดบนท้องถนน ลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น
และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ทำให้โลกของเราน่าอยู่มากยิ่ง

ขึ้นและนี่คือประโยชน์ของวิทยาการสมัยใหม่ที่แท้จริง

ข้อดีข้อเสีย ของAIยานยนต์

ข้อดีของ AI

1.รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติทำให้ผู้ขับขี่สบายขึ้น ในการเดินทางอันแสนยาวนาน
คนเราย่อมมีความเหนื่อยล้าเป็นธรรมดา จะดีแค่ไหนที่มีระบบช่วยขับอัตโนมัติที่
ทำให้เราสามารถงีบหลับเพื่อคลายความเมื่อยล้าได้ในขณะขับรถ โดยเฉพาะใน
ช่วงเวลาที่รถติดที่ใช้ความเร็วไม่มาก ทำให้การเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้า

ของผู้ขับขี่ลดลง
2.มีความปลอดภัยบนท้องถนนมากขึ้น ลองคิดดูนะครับถ้ารถยนต์ทุกคันเป็น
รถยนต์ไร้คนขับหมด อุบัติเหตุจะลดลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากรถยนต์ทุกคันมี
เซนเซอร์ มีกล้องมองรอบทิศทาง และใช้ความเร็วที่เหมาะสม อุบัติจากการขับ
ปาดหน้า จี้ท้าย หลับใน จะไม่มี ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นไปอีก




ข้อเสียของ AI

1.ปัญหาจากความไม่ชัดเจนของป้ายจราจร รถยนต์ไร้คนขับจำเป็นต้องมีเซนเซอร์
ในการอ่านป้ายจราจรต่างๆ

2.ปัญหาผิวจราจร ในสภาพความเป็นจริงบางครั้งเราต้องเจอกับถนนที่ไม่เรียบ
เป็นหลุมเป็นบ่อ อาจจะทำให้เซนเซอร์ของรถยนต์ไร้คนขับไม่สามารถแยกหลุมบน

ถนนได้
3.ปัญหาการขับขี่ของรถยนต์คันอื่น อาจทำให้รถยนต์ไร้คนขับเกิดความผิดพลาด
หรืออุบัติเหตุขึ้นได้ เช่น การขับปาดหน้า ขับจี้ท้าย หรือแม้แต่ขับย้อนศร รถยนต์

ไร้คนขับอาจตัดสินใจผิดพลาดได้
4.ด้านราคา ถึงแม้ในปัจจุบันรถยนต์ไร้คนขับเป็นเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทในชีวิต

ของเราในอนาคตอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ แต่สำหรับปัญหาตอนนี้ คือ ราคาของ
รถยนต์ไร้คนขับมีราคาที่ค่อนข้างสูงมาก ทำให้การซื้อรถยนต์ไร้คนขับสำหรับ

บุคคลทั่วไปแทบเป็นไปไม่ได้เลย

ก ลุ่ ม เ ป้า ห ม า ย

อุตสาหกรรมยานยนต์เป็นหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมที่เริ่มใช้ AI
ในช่วง 4-5 ปีหลังมานี้ โดยในขณะนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นกลุ่มที่มี
การใช้ AI ในระดับปานกลางนำหน้ากลุ่ม Oil & Gas แต่ยังคง

ตามหลังกลุ่มการเงินและค้าปลีก ในปี 2020 มีการสำรวจ
โรงงานอุตสาหกรรมยานยนต์กว่า 500 แห่งทั่วโลก พบว่า
มากกว่า 25% ของโรงงานเหล่านั้นเริ่มมีการนำ AI มาใช้จริง
และมีเพียง 26% เท่านั้นที่ยังไม่ได้เริ่มวางแผนหรือพัฒนา AI

เมื่อสำรวจลึกลงไปถึงตัวอย่าง use case ของ AI ใน
อุตสาหกรรมนี้ พบว่า AI ถูกนำมาใช้ตั้งแต่การทำ research
& development (R&D) เพื่อออกแบบยานยนต์ การผลิต ไป
จนถึงการขาย และการบริการหลังการขาย โดยเราจะนำเสนอ

ตัวอย่าง use case ในแต่ละขั้นตอนที่ถูกใช้จริงในบริษัท
รถยนต์แต่ละแห่ง

ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของฮอนด้า (Automated Driving)
แนวคิดในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของฮอนด้า

สาเหตุหลักของการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ส่วนใหญ่มาจากความผิดพลาดของมนุษย์
ฮอนด้าจึงมุ่งมั่นคิดค้นเทคโนโลยีต่างๆ เพื่อช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนน

โดยเน้นให้ความสำคัญกับการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ เพื่อสร้างสังคมที่ปลอด
อุบัติเหตุ

นอกจากนี้ ฮอนด้ายังต้องการสร้างความสุข และความสะดวกสบายในการเดินทางให้กับ
ทุกคน

เพื่อให้ทุกคนในสังคมสามารถใช้ชีวิตประจำวันในการเดินทางได้อย่างปลอดภัย รวมถึงผู้
สูงอายุ

ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติของฮอนด้า จึงมุ่งเน้นการมอบความสุขภายในห้องโดยสารที่เป็น
พื้นที่ส่วนตัว ตลอดการเดินทาง

สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติในการจราจรบนท้องถนนที่มีความซับซ้อนนั้น
ต้องอาศัยการคำนวนความเสี่ยงที่มีความแม่นยำสูง เพื่อประเมินสถานการณ์ที่อาจทำให้
เกิดอุบัติเหตุได้ล่วงหน้า และสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์เหล่านั้นได้ ระบบขับเคลื่อนอัต
โนมัติของฮอนด้า จึงให้ความสำคัญกับการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ขับขี่ เพราะความ

ปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญในการเดินทาง
ด้วยเหตุนี้ ฮอนด้าจึงได้เริ่มพัฒนาเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ที่มีระบบช่วยการขับขี่
ภายใต้ชื่อ Honda Sensing และในอนาคต ฮอนด้าจะยังคงมุ่งมั่นต่อยอดการพัฒนา
เทคโนโลยีความปลอดภัยใน 4 ด้าน ได้แก่ ลดการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เพิ่มวิสัยทัศน์ให้

กับผู้ขับขี่ หลีกเลี่ยงการเกิดอุบติเหตุ และลดภาระของผู้ขับขี่

ฮอนด้า คลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด สามารถวิ่งโดยใช้พลังงานไฟฟ้า
ทั้งหมดได้ระยะทางถึง 100 กม. ซึ่งเป็นระยะทางที่วิ่งได้ไกลที่สุดเมื่อ

เทียบกับรถปลั๊ก-อิน ไฮบริด ขนาดกลางรุ่นอื่น และสามารถวิ่งได้
ระยะทางถึง 340 ไมล์ (ประมาณ 547 กม.) ในโหมดการใช้พลังงาน
ไฟฟ้าร่วมกับการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson-

Cycle 4 สูบ 16 วาล์ว ที่เป็นแหล่งพลังงานขับเคลื่อนโดยตรง
เมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ สามารถให้กำลังสูงสุด 181
แรงม้า ด้วยแรงบิดสูงสุดที่ 232 ปอนด์-ฟุต (หรือประมาณ 315 นิว
ตัน-เมตร) และแบตเตอรี่ 17 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่สามารถชาร์จไฟได้
ถึง 240 โวลต์ ภายใน 2.5 ชั่วโมง โดยคลาริตี้ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด มี
อัตราการประหยัดน้ำมัน (EPA Fuel economy rating) สูงถึง

110 ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน (MPGe) (หรือประมาณ 46.76
กิโลเมตร/ลิตร) นับว่าดีที่สุดในรถยนต์ประเภทเดียวกัน

ฮอนด้า คลาริตี้ อิเล็คทริค เหมาะกับผู้ที่ต้องการรถซีดานที่มีห้อง
โดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย และตอบโจทย์การใช้งานในชีวิต
ประจำวัน ฮอนด้า คลาริตี้ อิเล็คทริค มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้

กำลังสูงสุด 161 แรงม้า (120 กิโลวัตต์) ด้วยแรงบิดสูงสุดที่
221 ปอนด์-ฟุต (หรือประมาณ 299.64 นิวตัน-เมตร) และ
แบตเตอรี่ 25.5 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ที่สามารถชาร์จไฟได้ถึง 240
โวลต์ ภายใน 3 ชั่วโมง และเมื่อใช้การชาร์จแบบเร็วด้วยไฟฟ้า
แบบกระแสตรง พร้อมระบบหัวชาร์จมาตรฐาน SAE (SAE
Combined Charging System) จะสามารถชาร์จได้ถึงร้อยละ

80 ภายใน เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น

ฮอนด้าให้ความสำคัญกับเซลล์เชื้อเพลิง ที่สุดแห่งเทคโนโลยียานยนต์ที่
ไม่มีค่าไอเสีย และคลาริตี้ ฟิวเซลล์ นับเป็นผู้นำเทคโนโลยีอันล้ำสมัยเพื่อ

สิ่งแวดล้อมแห่งอนาคต
แผงเซลล์เชื้อเพลิง (fuel cell stack) นับเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการ
ติดตั้งใน คลาริตี้ ฟิวเซลล์ โดยมีขนาดเล็กลงร้อยละ 33 และสามารถ
เพิ่มพลังงานได้ถึง ร้อยละ 60 เมื่อเทียบกับ เอฟซีเอ็กซ์ คลาริตี้ ที่เป็น
รุ่นก่อนหน้านี้ โดยแผงเซลล์เชื้อเพลิงที่ผสานระบบส่งกำลัง มีขนาด
เทียบเท่ากับเครื่องยนต์ V-6 และได้รับการติดตั้งในห้องเครื่อง จึงทำให้

ภายในห้องโดยสารกว้างขวาง สะดวกสบาย สำหรับ 5 ที่นั่ง
คลาริตี้ ฟิวเซลล์ สามารถวิ่งได้ระยะทางถึง 366 ไมล์ (ประมาณ 589
กม.) นับเป็นรถยนต์ที่สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลที่สุด เมื่อเทียบกับรถ
ฟิวเซลล์ และรถพลังงานไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่รุ่นอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา
และมีอัตราการประหยัดน้ำมัน (EPA Fuel economy rating) 68
ไมล์ต่อน้ำมันหนึ่งแกลลอน (MPGe) (หรือประมาณ 28.3 กิโลเมตร/

ลิตร) สำหรับการขับขี่แบบผสม

ฮอนด้า นิววี เป็นรถยนต์ต้นแบบที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงาน
ไฟฟ้า และเป็นการผสานฟังก์ชั่นการขับเคลื่อนอัตโนมัติ และ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างลงตัว โดย NeuV
สามารถตรวจจับสภาวะทางอารมณ์ของผู้ขับได้ โดยประมวล
ผลจากการแสดงออกทางสีหน้า และน้ำเสียง แล้วจึงเลือกฟัง
ก์ชั่นที่ช่วยให้ผู้ขับสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้
NeuV ยังสามารถเรียนรู้ไลฟ์สไตล์และความชอบของผู้ขับ

และสามารถนำเสนอทางเลือกต่างๆ ให้กับผู้ขับ ขึ้นอยู่กับ
แต่ละสถานการณ์ จึงนับเป็นการเชื่อมต่อการสื่อสารกัน
ระหว่างคนกับรถได้อย่างเป็นธรรมชาติ และที่สำคัญ NeuV
ยังเป็นรถขับเคลื่อนอัตโนมัติที่สามารถแบ่งปันการใช้งานกับผู้
อื่นได้ด้วย ในกรณีที่เจ้าของรถไม่ได้ใช้งานและเจ้าของรถ

อนุญาต

ฮอนด้า สปอร์ต อีวี คอนเซ็ปต์ มุ่งเน้นการสร้างความรู้สึกที่เป็นหนึ่ง
เดียวกับรถ ผสมผสานระบบการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้อย่างลงตัว รถยนต์ต้นแบบรุ่นนี้ใช้
แพลตฟอร์มเดียวกับ ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ (Honda Urban
EV Concept) ด้วยดีไซน์โครงสร้างตัวถังอันเป็นเอกลักษณ์ แผงหน้า
ปัดด้านหน้าที่ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่ายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
และรูปลักษณ์ภายนอกโค้งมน จึงเป็นยนตรกรรมสปอร์ตแห่งอนาคตที่
พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกเร้าใจ และสร้างความผูกพันทาง

อารมณ์ในการครอบครองเป็นเจ้าของรถรุ่นนี้

ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ ได้รับการออกแบบแพลตฟอร์มที่
พัฒนาขึ้นมาใหม่สำหรับยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าเท่านั้น นับเป็น
แนวทางการออกแบบยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้ารุ่นที่จะผลิตและจำหน่าย
ในอนาคต ด้วยโครงสร้างตัวถังขนาดคอมแพคท์ จึงเหมาะกับการขับขี่
ในเมือง และการออกแบบที่เรียบง่าย จึงมอบ “ความสุขในการขับขี่ได้
อย่างมีชีวิตชีวา” (Joy of Lively Driving) และเป็น “เพื่อนร่วมทาง
ที่สร้างความผูกพัน” (Friendliness that inspires attachment)
กับลูกค้าผู้เป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ฮอนด้า เออร์เบิน อีวี คอนเซ็ปต์ ยัง

รองรับการสื่อสารระหว่างคนกับรถ ผ่านเทคโนโลยีต่างๆ อาทิ
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และจอแสดงผลด้านหน้าของรถ ที่

สามารถแสดงข้อความและทักทายผู้คนได้

Honda Riding Assist-e ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีควบคุม
การทรงตัว อันเป็นเอกลักษณ์ของฮอนด้า ที่ได้วิจัยกับหุ่นยนต์คล้าย

มนุษย์ รถจักรยานยนต์ที่มีระบบช่วยการทรงตัวนี้ สามารถทรงตัวอยู่ได้
เอง แม้ขณะขับขี่ด้วยความเร็วต่ำ เพื่อช่วยลดการแบกรับน้ำหนักของผู้
ขับขี่ รถจักรยานยนต์รุ่นนี้จึงขับขี่ได้ง่าย และทำให้การใช้งานในชีวิต
ประจำวันสนุกมากยิ่งขึ้น Honda Riding Assist-e ขับเคลื่อนด้วย
มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นอีกก้าวของฮอนด้า ตามวิสัยทัศน์ที่มุ่งสร้าง
“ความสุขในการเดินทางให้กับผู้คน” (Enjoying the Freedom of
Mobility) และ “การเป็นสังคมที่สะอาดปราศจากมลพิษ” (carbon-

free society)

พาหนะส่วนบุคคลที่ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “การกลมกลืน
ร่วมกับผู้คน” และสามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่ผู้คนสัญจรผ่านไป-มา
UNI-CUB β ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัวของ
ฮอนด้า จึงสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระในทิศทางด้านหน้า ด้านหลัง
ด้านข้าง และในแนวทแยงมุม เพียงแค่โน้มตัวไปในทิศทางที่ต้องการ
UNI-CUB β มาพร้อมระบบปฏิบัติการหุ่นยนต์ (ROS - Robot
Operating System) ที่สามารถใช้ได้กับโปรแกรมการเชื่อมต่อการใช้
งานแอพพลิเคชั่น (API – Application Program Interface) จึง
สามารถควบคุมพาหนะส่วนบุคคลเครื่องนี้ได้จากระยะไกล และสามารถ
ใช้งานได้หลายแบบ อาทิ การบริการจัดส่งของ หรือ การนำทางแขกไป
ยังที่นั่งด้วยการตั้งโปรแกรมเส้นทางไว้ล่วงหน้า ฮอนด้ายังคงมุ่งมั่น
สร้างสรรค์พาหนะส่วนบุคคลเครื่องนี้เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย

ยิ่งขึ้น ตามคอนเซปท์ “ridable Internet of Things”

คอนเซ็ปท์ “Safe Swarm” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากโลกธรรมชาติ
ซึ่งเป็นการนำเสนอแนวคิดของฮอนด้าเพื่อทำให้การจราจรลื่นไหลและ
คล่องตัว (เป็นการเลียนแบบพฤติกรรมของฝูงปลา) โดยใช้เทคโนโลยี

การเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างรถยนต์แต่ละคันผ่านอินเทอร์เน็ต
(Internet-connected and vehicle-to-vehicle

communication automotive technologies) จากคอนเซ็ปท์
“Safe Swarm” ฮอนด้ามุ่งมั่นที่จะสร้างสังคมแห่งการเดินทางที่ทำให้
ภาพรวมการจราจรทั้งหมดปลอดภัยและคล่องตัว ไม่เพียงแต่รถคันใด
คันหนึ่งเท่านั้น โดยคอนเซปท์การสื่อสารระหว่างรถยนต์ เพื่อแบ่งปัน
ข้อมูลเกี่ยวกับสภาพถนนและสิ่งกีดขวางบนถนน นอกจากนี้ ยังช่วยลด
การจราจรติดขัดด้วยการช่วยผู้ขับเปลี่ยนเลน และเมื่อถึงทางแยกที่มี
การรวมเลน ระบบจะวิเคราะห์ความเร็วของรถ และลดความเร็วในระยะ
เวลาที่เหมาะสม เพื่อให้การเปลี่ยนเลนและรวมเลนลื่นไหลและคล่องตัว

คอนเซปท์ Honda HMI (Human Machine Interface)
เป็นการนำเสนอแนวคิดของฮอนด้า ในสภาพการขับขี่แบบ
ใหม่ ที่ทำให้การขับขี่สะดวกสบาย และปลอดภัย โดยเป็น
ระบบการจดจำภาพที่มีการขับขี่อัตโนมัติ รวมถึงมีหน้าจอแส
ดงผลแบบใหม่ ที่รวมเอาระบบหน้าจอสัมผัสและการควบคุม

จากระยะไกลเข้าไว้ด้วยกัน

แบตเตอรี่แปลงพลังงานไฟฟ้าขนาดพกพา ที่ให้พลังงาน
ไฟฟ้าคุณภาพสูง เทียบเท่ากับแหล่งพลังงานจากภายใน
บ้าน LiB-AID E500 จึงเป็นแบตเตอรี่แปลงพลังงาน
ไฟฟ้าที่พกพาได้อย่างสะดวกสบายในการใช้ชีวิตประจำ
วัน หรือทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยเป็นแหล่งพลังงานที่

ไม่มีการปล่อยค่าไอเสีย

ภาคผนวก





ข้อมูลประเมินความพิงพอใจ

ข้อมูลประเมินความพิงพอใจ

บรรณานุกรม

ระบบAI by Honda
https://www.honda.co.th/th/ne

wtechnology/
ระบบAI

https://www.exclusive.co.th/blo
g/read/16


Click to View FlipBook Version