ติววิทย์

ติติ ติ ว ติ ววิวิ วิ ท วิ ทย์ย์ ย์ เ ย์ เเบบสัสั สั บ สั บ(ไม่ม่ ม่ ห ม่ หลัลั ลั บ ลั บใน) หน่น่ น่ ว น่ วยที่ที่ ที่ที่ 5 พลัลั ลั ง ลั งงานความร้ร้ ร้ อ ร้ อน

°R พลัง ลั งานความร้อน เเบบจำ ลองอนุภาค ความร้อนกับการ เปลี่ยนเเปลงอุณหภูมิ ความร้อนกับการ ขยายตัวหรือหัดตัว ความร้อนกับการ เปลี่ยนสถานะของสสาร

พลัง ลั งานความร้อน การถ่ายโอนความร้อน สมดุลความร้อน

°R หน่วยของอุณหภูมิ องศาเซลเซียส องศาฟาเรนไฮต์ เคลวิน โรเมอร์ R

ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน 1. เครื่อ รื่ งมือ มื ที่ใช้ใช้ นการวัดระดับอุณหภูมิ ภู คื มิ คื อข้อ ข้ ใด ก. บารอมิเ มิ ตอร์ ข. เทอร์ม ร์ อมิเ มิ ตอร์ ค. มาตรวัดพลังงาน ง. แอมมิเ มิ ตอร์

3. เทอร์มอมิเ มิ ตอร์ที่ ร์ ที่ ใช้แ ช้ อลกอฮอล์ นิย นิ มใส่สี ส่ แ สี ดงลงไปเพื่อ พื่ อะไร ก. ป้อ ป้ งกันการแข็ง ข็ ตัว ข. ป้อ ป้ งกันการเกาะติดของผิว ผิ แก้ว ค. ให้ม ห้ องเห็น ห็ ชัด ชั เจนยิ่ง ยิ่ ขึ้น ขึ้ ง. เพื่อ พื่ ให้แ ห้ อลกอฮอล์ขยายตัวได้เร็ว ร็ ขึ้น ขึ้ ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

5. ข้อ ข้ ใดเป็น ป็ จุดเดือดของน้ำ ก. 32 องศาฟาเรนไฮต์ ข. 100 เคลวิน ค. 212 องศาฟาเรนไฮต์ ง. 273 เคลวิน ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

6. นำ สาร 3 ชนิด นิ มาวัดอุณหภูมิ ภู ไมิ ด้ค่า ดังนี้ สารข้อ ข้ ใดมีค่ มี ค่ าอุณหภูมิ ภู เ มิ ท่ากัน ก. สาร X และ Z ข. สาร Y และ Z ค. สาร X และ Y ง. สาร X Y และ Z สาร X = 50 °C สาร Y = 120 °F สาร Z = 323 K ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

7. เทอร์ม ร์ อมิเ มิ ตอร์เ ร์ป็น ป็ อุปกรณ์ที่ ณ์ ที่ ใช้วั ช้ วั ดระดับความร้อ ร้ นของวัตถุ ดังนั้น นั้ ของเหลวที่บรรจุในเทอร์ มอมิเ มิ ตอร์ค ร์ วรมีคุ มี ณ คุ สมบัติ บั ติใด และนิย นิ มใช้ข ช้ องเหลวชนิด นิ ใด ก. หดตัวเร็ว ร็ แต่ขยายตัวช้า ช้ นิย นิ มใช้ปช้ รอทและตะกั่ว ข. หดตัวช้า ช้ แต่ขยายตัวได้ดี นิย นิ มใช้ปช้ รอทและตะกั่ว ค. ขยายตัวและหดตัวได้ดี นิย นิ มใช้ปช้ รอทและน้ำ ใส่สี ส่ สี ง. ขยายตัวและหดตัวได้ดี นิย นิ มใช้ปช้ รอทและแอลกอฮอล์ใส่สี ส่ สี ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

10. คนไข้ที่ ข้ ที่ มีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู มิ104 องศาฟาเรนไฮต์ แตกต่างจากคนปกติกี่องศาเซลเซีย ซี ส ก. 3 องศาเซลเซีย ซี ส ข. 37 องศาเซลเซีย ซี ส ค. 40 องศาเซลเซีย ซี ส ง. 58 องศาเซลเซีย ซี ส ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

12.อุณหภูมิ ภู ข มิ องวัตถุช ถุ นิด นิ หนึ่ง นึ่ มีค่ มี ค่ าเท่ากับ 30 °C เท่ากับกี่องศาฟาเรนไฮต์ ก. 54 องศาฟาเรนไฮต์ ข. 86 องศาฟาเรนไฮต์ ค. 96 องศาฟาเรนไฮต์ ง. 108 องศาฟาเรนไฮต์ ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

13. อุณหภูมิ ภู ใมิ ดมีค่ มี ค่ าสูง สู สุด สุ ก. 313 เคลวิน ข. 32 องศาโรเมอร์ ค. 45 องศาเซลเซีย ซี ส ง. 104 องศาฟาเรนไฮต์ ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

14. รถยนต์ที่วิ่งบนถนนที่ร้อ ร้ นจัด ยางมัก มั ระเบิด บิ เนื่อ นื่ งจากสาเหตุใ ตุ ด ก. การขยายตัวของเนื้อ นื้ ยาง ข. การขยายตัวของอากาศในยาง ค. การหลอมเหลวของเนื้อ นื้ ยาง ง. การแข็ง ข็ ตัวของเนื้อ นื้ ยาง ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

15. ข้อ ข้ ใดไม่ไม่ ด้เป็น ป็ การใช้ปช้ ระโยชน์ข น์ องการขยายตัวของวัตถุเ ถุ มื่อ มื่ ได้รับ รั ความร้อ ร้ น ก. การสร้า ร้ งเครื่อ รื่ งเรือ รื น ข. การสร้า ร้ งรางรถไฟ ค. การขึง ขึ สายไฟฟ้า ฟ้ให้ห ห้ ย่อ ย่ น ง. การสร้า ร้ งรอยต่อระหว่างสะพาน ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

16. ข้อ ข้ ใดถูกต้อง ก. ของแข็ง ข็ไม่มี ม่ ก มี ารหดตัวและขยายตัว ข. เมื่อ มื่ ของเหลวได้รับ รั ความเย็น ย็ จะขยายตัวมากกว่าแก๊ส ค. เมื่อ มื่ น้ำ เปลี่ยนสถานะเป็น ป็ ของแข็ง ข็ จะมีปมี ริม ริ าตรลดลง ง. เมื่อ มื่ ของเหลวได้รับ รั ความร้อ ร้ นจะมีก มี ารขยายตัวมากกว่าของแข็ง ข็ ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

20. เหตุใ ตุ ดเมื่อ มื่ เทน้ำ เดือดลงไปในแก้ว บางโอกาสแก้วจะเกิดการแตกร้า ร้ วได้ ก. การขยายตัวของแก้วด้านใน ขณะที่ด้านนอกไม่เ ม่ ปลี่ยนแปลง ข. การหดตัวของแก้วด้านใน ขณะที่ด้านนอกพยายามขยายตัว ค. แก้วด้านในและด้านนอกหดตัวพร้อ ร้ มกัน ง. แก้วด้านในและด้านนอกขยายตัวพร้อ ร้ มกัน ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

22. สารต่างชนิด นิ กัน มวลเท่ากัน ให้ค ห้ วามร้อ ร้ นปริม ริ าณเท่ากัน สารทั้งสองจะมีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู มิ เปลี่ยนแปลงเป็น ป็ ไปตามข้อ ข้ ใด ก. เท่ากัน เพราะมวลเท่ากัน ข. เท่ากัน เพราะให้ค ห้ วามร้อ ร้ นเท่ากัน ค. ไม่เ ม่ ท่ากัน เพราะมีค มี วามจุความร้อ ร้ นต่างกัน ง. ไม่เ ม่ ท่ากัน เพราะมีค มี วามร้อ ร้ นแฝงต่างกัน ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

23. ข้อ ข้ ใดถูกต้อง ก. ของแข็ง ข็ไม่มี ม่ ก มี ารหดตัวและขยายตัว ข. เมื่อ มื่ ของแข็ง ข็ ลดความร้อ ร้ นจะหดตัวลง ค. เมื่อ มื่ น้ำ เปลี่ยนสถานะเป็น ป็ ของแข็ง ข็ จะมีปมี ริม ริ าตรลดลง ง. เมื่อ มื่ แก๊สได้รับ รั ความร้อ ร้ นจะขยายตัวน้อ น้ ยกว่าของเหลว ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

25.ข้อ ข้ ใดที่มีก มี ารขยายตัวเชิง ชิ พื้น พื้ ที่เมื่อ มื่ ได้รับ รั ความร้อ ร้ น ก. ลวด ข. ลูก ลู ตุ้ม ตุ้ ค. ฝาขวด ง. ของเหลว ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

31. น้ำ 50 กรัม รั ทำ ให้ร้ ห้ อ ร้ นจาก 30 °C เป็น ป็ 70 °C ต้องการความร้อ ร้ นกี่แคลอรี ก. 1,000 แคลอรี ข. 2,000 แคลอรี ค. 4,000 แคลอรี ง. 6,000 แคลอรี ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

32.ถ้าต้องการทำ ให้น้ำ ห้ น้ำมวล 1,000 กรัม รั มีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู เ มิปลี่ยนจาก 25 °C เป็น ป็ 75 °C จะต้องใช้ปช้ ริม ริ าณ ความร้อ ร้ นเท่าใด (กำ หนดให้ ความจุความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ เท่ากับ 1 cal/g-°C ) ก. 20,000 แคลอรี ข. 30,000 แคลอรี ค. 40,000 แคลอรี ง. 50,000 แคลอรี ติววิทย์เ ย์ เบบสับ สั ไม่ห ม่ ลับใน

ติววิทย์ 33. การลดอุณหภูมิ ภู ข มิ องแอลกอฮอล์ 20 กรัม รั จากอุณหภูมิ ภู มิ50 °C มาเป็น ป็ 30 °C จะต้องคายความ ร้อ ร้ นออกมาเท่าใด ( กำ หนดให้ ความจุความร้อ ร้ นจำ เพาะของแอลกอฮอล์เท่ากับ 0.8 cal/g-°C ) ก. 320 แคลอรี ข. 450 แคลอรี ค. 480 แคลอรี ง. 500 แคลอรี

ติววิทย์ 34. ปริม ริ าณความร้อ ร้ นที่ทำ ให้น้ำ ห้ น้ำมวล 70 กรัม รั ที่อุณหภูมิ ภู มิ25 องศาเซลเซีย ซี สมีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู สู มิ ง สู ขึ้น ขึ้ เป็น ป็ 55 เซลเซีย ซี สเท่ากับเท่าใด (ความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ มีค่ มี ค่ าเท่ากับ 4,186 J / kg • K) ก. 8,790.6 J ข. 8,900. 0 J ค. 9,000.0 J ง. 9,790.6 J

ติววิทย์ 35. พลังงานความร้อ ร้ นที่ทำ ให้แ ห้ ผ่น ผ่ อะลูมิ ลู เ มิ นีย นี ม 350 กรัม รั มีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู เ มิ พิ่ม พิ่ จาก 30 °C เป็น ป็ 55 °C มีค่ มี ค่ ากี่จูลเมื่อ มื่ ความจุความร้อ ร้ นจำ เพาะของอะลูมิ ลู เ มิ นีย นี มเท่ากับ 880 J / kg • K ) ก. 4,700 J ข. 5,700 J ค. 6,700 J ง. 7,700 J

ติววิทย์ 36. น้ำ แข็ง ข็ มวล 20 กรัม รั เมื่อ มื่ ทำ ให้เ ห้ กิดการหลอมเหลวเป็น ป็ น้ำ จนหมด จะต้องใช้ปช้ ริม ริ าณ ความร้อ ร้ นเท่าไร ก. 1,400 แคลอรี ข. 1,600 แคลอรี ค. 2,200 แคลอรี ง. 2,700 แคลอรี

ติววิทย์ 37. ถ้าใช้ปริม ริ าณความร้อ ร้ น 80,000 แคลอรี จะทำ ให้น้ำ ห้ น้ำแข็ง ข็ หลอมเหลวได้ทั้งหมดกี่กิโลกรัม รั ( กำ หนดให้ ความร้อ ร้ นแฝงจำ เพาะของการหลอมเหลวของน้ำ แข็ง ข็ มีค่ มี ค่ าเท่ากับ 80 แคลอรีต่ รี ต่ อกรัม รั ) ก. 1 กิโลกรัม รั ข. 2 กิโลกรัม รั ค. 3 กิโลกรัม รั ง. 4 กิโลกรัม รั

ติววิทย์ 39. ในการเปลี่ยนสถานะของสารสิ่ง สิ่ใดไม่เ ม่ ปลี่ยนแปลง ก. ความดัน ข. อุณหภูมิ ภู มิ ค. ปริม ริ าตร ง. ทุก ทุ ข้อ ข้ ที่กล่าวมา

ติววิทย์ 40. ในขณะที่ของแข็ง ข็ หลอมเหลวเป็น ป็ น้ำ อุณหภูมิ ภู จ มิ ะเป็น ป็ อย่า ย่ งไร ก. เพิ่ม พิ่ ขึ้น ขึ้ ข. ลดลง ค. คงที่ ง. ข้อ ข้ ก และ ข ถูก ถู ต้อง

ติววิทย์ 42. ปริม ริ าณความร้อ ร้ นที่ทำ ให้น้ำ ห้ น้ำ 60 กรัม รั เปลี่ยนสถานะกลายเป็น ป็ ไอจนหมดมีค่ มี ค่ าเท่าใด ก. 10.8 กิโลแคลอรี ข. 24.6 กิโลแคลอรี ค. 32.4 กิโลแคลอรี ง. 38.4 กิโลแคลอรี

ติววิทย์ 43. ข้อ ข้ ใดมีก มี ารใช้ค ช้ วามร้อ ร้ นแฝงของการหลอมเหลว ก. ต้มน้ำ ให้ร ห้ ะเหย ข. ต้มน้ำ ให้เ ห้ ดือด ค. น้ำ แข็ง ข็ หลอมเหลว ง. น้ำ กลายเป็น ป็ น้ำ แข็ง ข็

ติววิทย์ 44. ความร้อ ร้ นแฝงจำ เพาะของการกลายเป็น ป็ ไอเป็น ป็ การดูด ดู ความร้อ ร้ นเมื่อ มื่ วัตถุเ ถุ ปลี่ยนสถานะ ตามข้อ ข้ ใด ก. ของแข็ง ข็ กลายเป็น ป็ แก๊ส ข. ของเหลวกลายเป็น ป็ ของแข็ง ข็ ค. ของเหลวกลายเป็น ป็ แก๊ส ง. ของแข็ง ข็ กลายเป็น ป็ ของเหลว

ติววิทย์ 47. ในขณะที่น้ำ เปลี่ยนสถานะจากน้ำ เดือดกลายเป็น ป็ ไอจะมีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู เ มิป็น ป็ อย่า ย่ งไร ก. คงที่ 100 องศาเซลเซีย ซี ส ข. ต่ำ ลงจาก 100 องศาเซลเซีย ซี ส ค. สูง สู ขึ้น ขึ้ จาก 100 องศาเซลเซีย ซี ส ง. ยัง ยั สรุปแน่น น่ อนไม่ไม่ ด้ขึ้น ขึ้ อยู่กั ยู่ กั บปริม ริ าณน้ำ

ติววิทย์ 49. ค่าความร้อ ร้ นแฝงของการกลายเป็น ป็ ไอน้ำ เดือดมีค่ มี ค่ าเท่าใด ก. 80 cal/kg ข. 80 cal/g ค. 540 cal/kg ง. 540 cal/g

ติววิทย์ 50. เมื่อ มื่ ต้องการให้น้ำ ห้ น้ำมวล 20 กรัม ที่อุณหภูมิ ภู มิ100 °Cระเหยจนหมดพอดี จะต้องใช้ความร้อ ร้ น เท่าใด(ความร้อนแฝงจำ เพาะของการกลายเป็น ป็ ไอของน้ำ มีค่ มี ค่ าเท่ากับ 2300 kJ / kg) ก. 25 kJ ข. 32 kJ ค. 46 kJ ง. 53 kJ

ติววิทย์ 52. ปริม ริ าณความร้อ ร้ น 5,400 แคลอรี จะทำ ให้น้ำ ห้ น้ำเดือดมวลกี่กรัม รั กลายเป็น ป็ ไอได้หมด พอดี(ความร้อ ร้ นแฝงจำ เพาะของการกลายเป็น ป็ ไอมีค่ มี ค่ า 540 cal/g) ก. 10 g ข. 20 g ค. 30 g ง. 40 g

ติววิทย์ 55. ข้อ ข้ ใดแสดงความสัม สั พัน พั ธ์ข ธ์ องสมดุล ดุ ความร้อ ร้ นได้ถูก ถู ต้อง ก. ปริม ริ าณความร้อ ร้ นเพิ่ม พิ่ = ปริม ริ าณความร้อ ร้ นเพิ่ม พิ่ ข. ปริม ริ าณความร้อ ร้ นลด = ปริม ริ าณความร้อ ร้ นลด ค. ปริม ริ าณความร้อ ร้ นเพิ่ม พิ่ = ปริม ริ าณความร้อ ร้ นลด ง. ปริม ริ าณความร้อ ร้ นคงที่ = ปริม ริ าณความร้อ ร้ นลด

ติววิทย์ 57. สมดุล ดุ ความร้อ ร้ นจะเกิดขึ้น ขึ้ ได้อย่า ย่ งไร ก. การถ่ายเทพลังงานจนอุณหภูมิ ภู ต่ มิ ต่ างกัน ข. การถ่ายเทพลังงานจนอุณหภูมิ ภู เ มิ ท่ากัน ค. การถ่ายเทพลังงานจนปริม ริ าณเท่ากัน ง. การถ่ายเทพลังงานจนปริม ริ าณต่างกัน

ติววิทย์ 60. เมื่อ มื่ ใช้น้ำ ร้อ ร้ นมวล 100 กรัม รั ที่ 90 °C ผสมกับน้ำ เย็น ย็ ที่ 15 °C เพื่อ พื่ ให้ไห้ ด้อุณหภูมิ ภู มิ ผสมเป็น ป็ 40 °C จะต้องใช้น้ำ ช้ น้ำเย็น ย็ มวลเท่าใดมาผสม ก. 100 กรัม รั ข. 150 กรัม รั ค. 200 กรัม รั ง. 250 กรัม รั

ติววิทย์ 61. เมื่อ มื่ ใช้น้ำ ร้อ ร้ นมวล 100 กรัม รั ที่ 90 °C มาผสมกับน้ำ เย็น ย็ มวล 200 กรัม รั ที่ 15 °C แล้วได้ น้ำ อุ่น จงหาอุณหภูมิ ภู ผ มิ สมของน้ำ อุ่น ก. 30 °C ข. 40 °C ค. 50 °C ง. 60 °C

ติววิทย์ 62. เทน้ำ อุ่น 200 กรัม รั 60 °C ผสมกับน้ำ เย็น ย็ 5 °C จำ นวน 500 กรัม รั น้ำ ที่ได้มีอุ มี อุ ณหภูมิ ภู มิ ผสมเท่าไร ก. 20.7 °C ข. 5.3 °C ค. 48.3 °C ง. 13.6 °C

ติววิทย์ 63. การเปลี่ยนสถานะในลักษณะใดที่เป็น ป็ การเปลี่ยนแปลงแบบคายความร้อ ร้ น ก. ของแข็ง ข็ กลายเป็น ป็ ไอ ข. ของเหลวกลายเป็น ป็ ไอ ค. แก๊สกลายเป็น ป็ ของเหลว ง. ของแข็ง ข็ กลายเป็น ป็ ของเหลว

ติววิทย์ 64. เมื่อ มื่ วัตถุคายความร้อ ร้ นจะเกิดอะไรขึ้น ขึ้ ก. มวลของวัตถุจะลดลงครึ่ง รึ่ หนึ่ง นึ่ ข. วัตถุจะมีน้ำ มี น้ำหนัก นั เพิ่ม พิ่ เป็น ป็ สองเท่า ค. วัตถุจะเกิดการหดตัว ง. วัตถุจะเกิดการขยายตัว

ติววิทย์ 66. เมื่อ มื่ปลูก ลู บ้า บ้ นเรือ รื นเพื่อ พื่ ลดอุณหภูมิ ภู ค มิ วามร้อ ร้ นภายในตัวบ้า บ้ น ควรฉาบผนัง นั และทาสีบ้ สี า บ้ นอย่า ย่ งไร ก. ฉาบผนัง นัให้ข ห้ รุขระและทาสีดำ สี ดำ ข. ฉาบผนัง นัให้เ ห้ รีย รี บและทาสีข สี าว ค. ฉาบผนัง นัให้เ ห้ รีย รี บและทาสีน้ำ สี น้ำเงิน ง. ฉาบผนัง นัให้ข ห้ รุขระและทาสีเ สี หลือง

ติววิทย์ 69. การที่ก้อนดินน้ำ มัน มั หลอมเหลวตกจากแท่งวัตถุ เพราะดินน้ำ มัน มั ได้รับ รั ความร้อ ร้ นจากน้ำ เดือด โดยผ่า ผ่ นวัตถุม ถุ าสู่ก้ สู่ ก้ อนดินน้ำ มัน มั วิธีก ธี ารนี้เ นี้ รีย รี กว่าอะไร ก. การขยายตัว ข. การพาความร้อ ร้ น ค. การนำ ความร้อ ร้ น ง. การแผ่รั ผ่ ง รั สีค สี วามร้อ ร้ น

ติววิทย์ 1. กลีเซอรอล 150 กรัม รั อุณหภูมิ ภู เ มิ พิ่ม พิ่ ขึ้น ขึ้ จาก 15 องศาเซลเซีย ซี ส เป็น ป็ 80 องศาเซลเซีย ซี ส กลีเซอรอลได้รับ รั พลังงานกี่เเคลอรี (ความร้อ ร้ นจำ เพาะของกลีเซอรอล มีค่ มี ค่ า 0.58 เเคลอรี/รี กรัม รั องศาเซลเซีย ซี ส)

ติววิทย์ 2. ขดลวดร้อ ร้ นให้ค ห้ วามร้อ ร้ นนาทีละ 3,000 แคลอรี แก่น้ำ มวล 5 กิโลกรัม รั อุณหภูมิ ภู มิ30 °C นาน 45 นาที อุณหภูมิ ภู ข มิ องน้ำ จะเพิ่ม พิ่ ขึ้น ขึ้ เป็น ป็ กี่องศาเซลเซีย ซี ส (ความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ เท่ากับ 1 cal/g°C)

ติววิทย์ 3. ต้องใช้พลังงานความร้อ ร้ นกี่กิโลเเคลอรีที่ รี ที่ ทำ ให้น้ำ ห้ น้ำมวล 150 กรัม รั ที่อุณหภูมิ ภู มิ30 °C เปลี่ยน สถานะเป็น ป็ ไอน้ำ หมดพอดีที่ 100 °C (ความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ เท่ากับ 1 cal/g°C , ความร้อ ร้ น เเฝงของการกลายเป็น ป็ ไอของน้ำ เท่ากับ 540 cal/g)

ติววิทย์ 4. น้ำ เเข็ง ข็ ที่อุณหภูมิ ภู มิ-5 °C มวล 10 กรัม รั หลอมเหลวกลายเป็น ป็ น้ำ ที่อุณหภูมิ ภู มิ50 จะต้องใช้พ ช้ ลังงานความ ร้อ ร้ นทั้งหมดกี่จูล (ความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ เเข็ง ข็ เท่ากับ 0.5 cal/g°C , ความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ เท่ากับ 1 cal/g °C , ความร้อ ร้ นเเฝงจำ เพาะของการหลอมเหลวของน้ำ เท่ากับ 80 cal/g , 1 cal = 4.18 J)

ติววิทย์ 1. นำ ลูก ลู เหล็กร้อ ร้ นมวล 5 กรัม รั อุณหภูมิ ภู มิ80 °C ใส่ล ส่ งในน้ำ 40 กรัม รั อุณหภูมิ ภู มิ20 °C ที่ภาวะสมดุล ดุ ความ ร้อ ร้ นอุณหภูมิ ภู ผ มิ สมมีค่ มี ค่ าเท่าไร (ความร้อ ร้ นจำ เพาะของน้ำ เท่ากับ 1 cal/g°C ,ความร้อ ร้ นจำ เพาะของเหล็ก เท่ากับ 0.11 cal/g°C)

ของเเข็ง ทบทวนความรู้ ของเหลว เเก๊ส การกลายเป็นไอ การหลอมเหลว การควบเเน่น การเเข็งตัว การระเหิด การระเหิดกลับ ก ข ค ง จ ฉ