The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chonnipanana2541, 2021-03-15 11:26:09

ภูมิปัญญาไทย

เรื่องเล่าจาก . . .










น ้าตาลโตนด









เมืองเพชร









“ ภูมิปัญญาชาวพริบพรี ”




















































ผู้เขียน ชนม์นิภา
ธิดารัตน์

เรื่องเล่าจาก . . .








น้ำตาลโตนด



เมืองเพชร





การเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริและภมิปัญญาไทย (1024305)





ผู้แต่ง : นางสาวชนม์นิภา นุชสวัสดิ์ รหัสนักศึกษา 604145503


นางสาวธิดารัตน์ หอมเมือง รหัสนักศึกษา 604145508


นักศึกษาสาขาวิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ

เพชรบุรี



อาจารย์ที่ปรึกษา : อาจารย์ ดร.เอื้อมพร โตภาณุรักษ์กุล

จากผู้เขียน . . .




ถึงผู้อ่าน







นี่คือ การเรียนรู้ที่รู้สึกดีมากครั้งหนึ่งในชีวิต

ฉันไม่สามารถอธิบายได้ว่าความรู้สึกนั้นมันคืออะไร ราวกับอะไรบ้างอย่างท ี่

ู้
ได้จากการเรียนรในครั้งนี้ไหลเข้ามาอยู่ในตัวของฉัน ลอยอวลอยู่เช่นนั้นเนิ่นนาน

และอะไรบางอย่าง ที่ว่านี้บางส่วนได้ซึมผ่านเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของรางกายและหัวใจ
ของฉันไปแล้ว ส่วนการจะบอกเล่าว่าสิ่งนั้นคืออะไรอาจไม่สามารถทำได้ภายในบท
สนทนาเพียงสั้น ๆ จงเปิดหนังสือนี้หน้าต่อไป จะทำให้คุณพบกับความรู้สึกนี้

เช่นเดียวกันกับฉัน

หนังสือเล่มนี้จะพาคุณออกเดินทางไปเรียนรู้ภูมิปัญญาการทำน้ำตาลโตนด

ของขึ้นชื่อเมืองเพชร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษท่สืบสาน สืบทอด จากร่นแล้ว

รุ่นเล่า มาจนถึงปัจจุบัน จากวิถีชีวิตที่ดำเนินในชีวิตประจำวัน สู่การสร้างรายได้แก่
ครอบครัว จนกลายมาเป็นภูมิปัญญาที่ทรงคุณค่า หากคุณต้องการความลุ้นระทกจาก

หนังสือเล่มนี้ คุณอาจจะรู้สึกผิดหวัง แต่หนังสือเล่มนี้จะพาให้คุณตื่นตา ตื่นใจ กับ
ขั้นตอนการทำน้ำตาลโตนด คุณจะได้รู้ว่ากว่าจะมาเป็นน้ำตาลโตนดให้ได้รับประทาน

นั้นมันยากลำบากเพียงใด ฉันหวังว่าการเรียนรู้ครั้งนี้ของคุณจะรสึกดีเช่นเดียวกันกับ
ู้
ฉัน

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนด

และการทำหนังสือเรื่องเล่าจาก... น้ำตาลโตนดเมืองเพชร เล่มนี้จนสำเร็จลุล่วง ได้แก่
คุณน้ามานิตย์ แก้วเสียง ผู้สอนการขึ้นตาล ปาดตาล และการเคี่ยวน้ำตาล คุณตา

สัมฤทธิ์ บุญปลอด อดีตหนุ่มขึ้นตาลเมืองเพชร และ อาจารย์ ดร.เอื้อมพร โตภาณุรักษ์
กุล อาจารย์ประจำรายวิชาการเรียนรู้ตามแนวพระราชดำริและภูมิปัญญาไทย ที่ทำให้เกิด

การเรียนรู้ภูมิปัญญาการทำน้ำตาลโตนดในครั้งนี้

ด้วยรัก

ผู้เขียน


มีนาคม 2564

สารบัญ





เรื่อง หน้า


ตาลโตนดเมืองเพชร 1-7


แหล่งเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนด ... ภูมิปัญญาชาวพริบพรี 8-10


น้ำตาลโตนดเมืองเพชร 11-20


ทำไมอาชีพคนขึ้นตาลจึงน้อยลง ??? 21-22



บรรณานุกรม 23


ประวัติผู้แต่ง 24-25

1


ตาลโตนด









เมืองเพชร

“เรื่องเล่า ...... น้ำตาลโตนดเมืองเพชร”




ในยามเช้า แสงแดดส่องผ่านหน้าต่างห้องนอน เสียงกระทะและตะหลิว
กระทบกันเกิดเป็นดังเสียงของนาฬิกา ปลุกให้ฉันตื่นขึ้นมายามเช้า เมื่อมองออกไป

นอกหน้าต่างแสงแดดกระทบใบตาลตามคันนา เสียงนกร้องและบินออกจากรังเป็นดัง

สัญญาณที่สรรพสิ่งเร่มดำเนินชีวิตในวันใหม่ วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าตร่ เพื่อเตรียมตัวใน

การไปเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนดที่เห็นคุณยายทำตอนเด็ก ๆ จะมองเป็นเรื่องใกล้ตัวก็


ไม่เชิง จะว่าไกลตัวก็ไม่น่าจะใช่ เพียงแค่เห็นผ่านตา แต่ไม่ได้เรียนรูอย่างจริงจัง จน
วันหนึ่งการทำน้ำตาลโตนดจึงค่อย ๆ ห่างหายไป วันนี้จึงถือว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ไป

เรียนรู้การทำน้ำตาลโตนดซึ่งเป็นภูมิปัญญาดังเดิมของบรรพบุรุษ โดยไปเรียนรู้การทำ
น้ำตาลโตนดจาก คุณน้ามานิตย์ แก้วเสียง ที่หมู่ 1 ตำบลเวียงคอย อำเภอเมือง

จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งก่อนที่จะได้ไปเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนด ก่อนจะออกเดินทางจึงนำ

เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ออกมาค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับต้นตาลโตนด โดยต้นตาลโตนด

หรือที่ทุกคนเรียกสั้น ๆ ว่าต้นตาล เป็นต้นไม้ที่มีจำนวนมากในจังหวัดเพชรบุรี ดังคำ

กลอนจากนิราศเมืองเพชรของสุนทรภู่กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ที่ว่า


“ทั่วประเทศเขตแคว้นแดนพริบพรี เห็นจะชี้ไปไม่พ้นแต่ต้นตาล”

ประวัติความเป็นมาของต้นตาล จริง ๆ แล้วต้นตาลมีถิ่นกำเนิดในเอเชียตอน

ใต้ แถบฝั่งตะวันออกของประเทศอินเดีย และทั่วภูมิภาคเอเชีย ได้แก่ อินเดีย ศรีลังกา

กัมพูชา มาเลเซีย และประเทศไทยของเราค่ะ โดยในประเทศไทยนั้นได้มีการบันทึก

ข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษรมาตั้งแต่สมัยโบราณ อาทิเช่น จารึกวัดศรีเมือง จารึกวัด

คูณเมือง เป็นต้น ซึ่งจากจารึกเหล่านี้เชื่อกันว่าตาลโตนด หรือต้นตาลนั้น ปลูกมาตั้งแต่

ก่อนสมัยทวาราวดี และแหล่งปลูกต้นตาลในประเทศไทยที่สำคัญได้แก่ จังหวัด
เพชรบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม โดยการแพร่กระจายของแหล่งปลูกต้นตาลนั้น

สันนิษฐานว่า สัตว์เป็นตัวพาไป เช่น ช้างกลืนกินเมล็ดตาลทั้งเมล็ด และช้างเดินทางได้

ไกล จึงทำให้เมล็ดตาลโตนดแพร่กระจายจากที่หนึ่งสู่อีกที่หนึ่งได้ในระยะไกล ๆ

ในขณะที่วัว และควายจะชอบกินผลตาลสุก จะดูดกินความหวานส่วนของเส้นใยผล

ตาลสุกที่ห่อหุ้มรอบเมล็ดแต่ไม่กินเมล็ดตาล แล้วจะทิ้งเมล็ดไว้บริเวณใกล้เคียงที่กิน
จึงทำให้ต้นตาลแพร่กระจายไม่ไกลมากนัก








2

ส่วนความเป็นมาของตาลโตนดในจังหวัดเพชรบุรีนั้น วิถีชีวิตของเกษตรกร

ชาวเพชรบุรีมีความผูกพันกับต้นตาลโตนดมานาน ต้นตาลโตนดน้อยใหญ่อายุนับสิบปี

นับร้อยปี ขึ้นเรียงรายทุกคันนาในท้องทุ่งนาเขียวขจีของเมืองเพชร เป็นตัวบ่งชี้ที่

ชัดเจนถึงความผูกพันที่มีมานาน อีกหนึ่งสิ่งที่ยืนยันได้ คือ ตราจังหวัดเพชรบุรี





ตราและธงประจำจังหวัดเพชรบุรี

ประกอบด้วย พระราชวังพระนครคีรี

(เขาวัง) และต้นตาลโตนด ซึ่งแสดงถึง

เอกลักษณ์ วิถีชีวิต และวัฒนธรรม

ท้องถิ่นของคนเมืองเพชรโดยเฉพาะ
ภาพนาข้าวที่ขนาบข้างด้วยต้น

ตาลโตนด คือ การทำนาเป็นอาชีพหลัก

และการทำน้ำตาลโตนดเป็นอาชีพรอง









นอกจากน้ำตาลที่ได้จากต้นตาลโตนดแล้ว ต้นตาลโตนดยังมีประโยชน์อีกมากมาย ทุก
คน น่าจะเคยเห็น หรือ เคยใช้ผลิตภัณฑ์จากต้นตาลโตนดอย่างแน่นอน อาทิเช่น ขัน

ตักน้ำ โต๊ะ เก้าอี้ ของเล่น ซึ่งวัสดุทำมาจากลำต้นของต้นตาลนั่นเอง
































3

โดยลำต้นของต้นตาล จะมีขนาดใหญ่ มีเส้นรอบวงประมาณ 2-4 ฟุต ผิวดำเป็นเสี้ยน

แข็ง และมีความสูงจากพื้นดินถึงยอดประมาณ 25-30 เมตร ซึ่งนอกจากลำต้นของต้น

ตาลจะนำมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว ยังมีองค์ประกอบอื่น ๆ ของต้นตาลที่สามารถนำมาใช้

ประโยชน์ได้อีกค่ะ เราไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง ?

นอกจากลำต้นแล้ว ใบตาลก็สามารถ

นำมาใช้ประโยชน์ได้ทุกคนอาจจะนึกไม่

ถึงว่าใบตาลนั้นนำมาใช้ทำอะไรได้ แต่
ใบตาลที่มีสีเขียว มีลักษณะรูปพัดนั้น

สามารถนำมาใช้แทนกระดาษเขียน

หนังสือได้ หรือใช้สานเป็นปลาตะเพียน

และภาชนะใส่สิ่งของต่าง ๆ ได้อีกด้วย



เมื่อเล่าถึงของใช้ต่าง ๆ ที่ทำมาจากต้นตาลแล้ว จะไม่

เล่าถึงอาหารที่ทำมาจากต้นตาลก็คงไม่ได้ เพราะ มี

อาหารคาวหวานมากมายที่ทำจากต้นตาล เช่น ขนม

ตาล ลูกตาลลอยแก้ว แกงคั่วหัวโตนด เป็นต้น ซึ่งเป็น
การนำผลตาล มาทำเป็นอาหาร โดยผลตาลนั้นจะเกิด

กับต้นตาลตัวเมียเท่านั้น ต้นตาลตัวผู้จะไม่มีผลนะคะ

ซึ่งผลตาลนั้นจะออกเวียนรอบต้นตามกาบใบ ซึ่งลูก

ตาลลอยแก้ว เกิดจากการนำลูกตาลอ่อนมาต้มใน

น้ำเชื่อม ส่วนขนมตาลนั้นเกิดจากการนำผลตาลสุกมา
คั้นเอาเนื้อซึ่งมีสีเหลืองไปทำเป็นขนมตาล หอมหวาน

แสนอร่อยนั่นเองค่ะ

























4

ตาลตัวผู้ !!! ตาลตัวเมีย !!!


... ตาลไหน ให้น้ำตาล



ตาลตัวผู้ และ ตาลตัวเมีย สามารถให้น้ำตาลได้ทั้งสอง แล้วตาลตัวผู้กับตาล

ตัวเมียแตกต่างกันอย่างไร ต้องบอกเลยว่าการสังเกตต้นตาลว่าเป็นตาลตัวผู้หรือตาล
ตัวเมีย จะดูที่ลักษณะการเรียงตัวของทางใบของต้นตาล โดยถ้าเรียงตัววนไปทางขวา

มือจากโคนไปสู่ยอด แสดงว่าเป็นตาลตัวเมียค่ะ แต่ถ้าการเรียงของทางใบวนไป

ทางซ้ายมือจะเป็นตาลตัวผู้ และลักษณะสำคัญที่สังเกตง่าย ๆ อีกอย่างก็คือ ตาลตัวผู้

จะไม่มีผลตาล แต่ตาลตัวเมียมีผลตาลนะจ๊ะทุกคน








ต้นตาลตัวผู้ ต้นตาลตัวเมีย
































ตาลตัวผู้จะไม่มี
ผลตาล แต่ตาล

ตัวเมียมีผลตาล












5

นอกจากต้นตาลจะแบ่งเป็นต้นตาลตัวผู้และต้นตาลตัวเมียแล้ว ต้นตาลยังมี

หลายสายพันธุ์แตกต่างกัน ไปดูกันค่ะ ว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง

ตาลบ้าน มีจำนวนเต้าตาลในแต่ละผล 1-4 เต้า แบ่งสายพันธุ์ย่อยได้อีกสาม

สายพันธุ์ ได้แก่








ตาลหม้อ
























ตาลไข ่



















ตาลจาก
















6

ตาลป่า มีผลเล็กขนาดตาลไข่ มีผลเขียวคล้ำ มีเต้า 1-2 เต้า ลำต้นสีเขียวสด

ก้านใบยาว (บางคนเรียกว่า ตาลก้านยาว) พบแถบเขาแด่น อำเภอบ้านลาด และในเขต
อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตาลป่ายังไม่เป็นที่รู้จักกันมากนัก เพราะมักขึ้นอยู่ในป่า
































กริ๊ง !!! เสียงนาฬิกาเป็นสัญญาณ บอกว่าถึงเวลาต้องออกเดินทางแลว โดย

เราจะเดินทางไปที่ บ้านคุณน้ามานิตย์ แก้วเสียง เพื่อไปเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนด โดย

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาทีก็ถึงบ้านของคุณน้า เราได้รับการต้อนรับจากเจ้าตูบสี่

ขาสีขาวสองตัว รีบวิ่งออกมาหาพวกเรา แต่เหมือนเราทั้งสองยังโชคดีที่เจ้าตูบเพียงแค่

วิ่งมาทักทายเฉย ๆ ไม่อย่างนั้นคงต้องวัดกันว่าเรากับเจ้าตูบนั้นใครจะวิ่งได้เร็วกว่ากัน

เมื่อเข้าไปในโรงทำน้ำตาลเราได้พบกับคุณยาย ซึ่งเป็นคุณแม่ของคุณน้ากำลังนั่งล้าง
กระบอกน้ำตาลอยู่ เราจึงกล่าวสวัสดีคุณยาย และได้รับรอยยิ้มสดใสพร้อมกับคำถาม

ว่า กินข้าวกันมาหรือยังลก เราจึงตอบไปพร้อมกับรอยยิ้มว่า กินแลวค่ะ จากนั้นคุณ


ยายจึงบอกเราว่า เข้าไปดูที่เตาตาลสิลูก กำลังอุ่นน้ำตาลพอดี ส่วนคนขึ้นตาล (คุณน้า


มานิตย์นั่นเอง) “เขาล้างรถแมคโครอยู่เดี๋ยวก็มา” เราจึงเข้าไปดเตาน้ำตาลที่กำลังอุ่น
น้ำตาลที่เอาลงมาจากต้นตาลเมื่อเช้ามืด เมื่อเราเข้าไปกลิ่นของน้ำตาลโตนดลอยหอม
ฟุ้ง ทำเอาใจละลายจนอดไม่ได้ที่จะเข้าไปชะโงกหน้ามองดูเตาเคี่ยวน้ำตาลใกล้ ๆ


ถ้าใครอยากรู้ขั้นตอนการทำน้ำตาลโตนดโปรดติดตามบทต่อไปนะคะ !!!







7

8



































แหล่งเรียนรู้การทานาตาลโตนด ...








ภูมปัญญาชาวพรบพร ี


แหล่งเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนด ...

ภูมิปัญญาชาวพริบพรี




ู้
สถานที่แหล่งเรียนรการทำน้ำตาลโตนดเมืองเพชร ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิม
ของชาวพริบพรี ตั้งอยู่ที่ หมู่1 ตำบลเวียงคอย อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี


โดยแหล่งเรยนรู้นี้ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองเพชรบุรีเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร
เมื่อเราเดินทางมาถึงแหล่งเรียนรู้การทำน้ำตาล

โตนด เราจะพบกับคุณน้ามานิตย์ แก้วเสียง
และคุณป้า คุณยาย ที่กำลังทำน้ำตาลโตนดกัน

อยู่ ซึ่งเราได้ข้อมูลการขึ้นตาลโตนดจากคุณน้า

มานิตย์ โดยคุณน้าใจดีมาก ได้สาธิตการขึ้นต้น
ตาล และอธิบายวิธีการขึ้นต้นตาล พร้อมทั้งนำ

อุปกรณ์การขึ้นต้นตาลมาให้เราดูอีกด้วย
นอกจากนี้เรายังได้เรียนรู้ภูมิปัญญาการทำน้ำตาล

โตนดจากคุณยาย ซึ่งทำให้เราได้เห็นภูมิปัญญา
ดั้งเดิมของชาวเพชรบุรีที่มีมายาวนานอีกด้วย

โดยก่อนจะกลับนั้นเรายังได้ของฝากจากคุณน้า

คุณน้ามานิตย์ แก้วเสียง มานิตย์เป็นลูกตาลอ่อน หวาน กรอบ อร่อย
กลับมารับประทานอีกด้วย ค่ะ ร่วมกันสืบสานภูมิ

ปัญญาท้องถิ่น โดยการศึกษา เรียนรู้ และประชาสัมพันธ์ให้บุคคลอื่นได้รับรกันนะคะ
ู้
ดังนั้นขอฝากน้ำตาลโตนดเมืองเพชร ภูมิปัญญาดั้งเดิม ที่หล่อเลี้ยงชาวเพชรบุรีมาอย่าง
ยาวนานด้วยนะคะ ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนอยากเรียนรู้วิธีการทำน้ำตาลโตนด สามารถไป
สอบถาม เรียนรู้จากคุณน้ามานิตย์ ได้เลยค่ะ
























9

ขั้นตอนการทำน้ำตาลโตนด















ตะแกรงกรองน้ำตาล





















การล้างกระบอกน้ำตาล















10

11

“ น้ำตาลโตนด ”




“ น้ำตาลโตนดภูมิปัญญาดั้งเดิมชาวพริบพรี ” ภูมิปัญญา คือ องค์ความรู้ ความ

เชื่อ ความสามารถของคนในท้องถิ่นที่ได้จากการสั่งสมประสบการณ์และการ

เรียนรู้มาเป็นระยะเวลายาวนาน มีลักษณะเป็นองค์รวม และมีคุณค่าทาง
วัฒนธรรม โดยคำกล่าวที่ว่าน้ำตาลโตนดเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวพริบพรี

หรือชาวจังหวัดเพชรบุรี เนื่องจากน้ำตาลโตนดเริ่มต้นมาจากวิถีชีวิตของชาว

จังหวัดเพชรบุรี เพราะจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่มีต้นตาลเป็นจำนวนมาก
แล้วถ้าถามว่าจังหวัดอื่นไม่มีต้นตาลเหรอ ??? เราก็คงต้องตอบว่ามี และเราก ็


ต้องย้อนกลับไปถึงลักษณะนิสัย หรือข้อมูลทางพฤกษศาสตร์ของต้นตาลกน
ค่ะ จากเนื้อหาด้านหน้าที่เราได้เล่าถึงต้นตาลมาแล้ว เพื่อน ๆ คงทราบกันแล้ว
ว่าต้นตาล เป็นพืชที่ชอบขึ้นตามคันนา และเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในดิน

ทรายน้ำกร่อย ดังนั้น ที่ใดมีนาที่นั่นมีตาล ซึ่งจังหวัดเพชรบุรีเป็นจังหวัดที่ปลูก

ข้าว ทำนา จึงมีต้นตาลมาก หลังจากทำนาเกี่ยวข้าว จึงขึ้นตาล ปาดตาล นำ
น้ำตาลมาทำน้ำตาลสด น้ำตาลโตนด จากการทำเพื่อรับประทานใน

ครอบครัว เมื่อมีจำนวนมากจึงนำมาขาย จากวิถีชีวิตที่อยู่คู่กับธรรมชาติ

กลายเป็นการสร้างรายได้หล่อเลี้ยงครอบครัว จึงเกิดการสั่งสอนจากรุ่นปู่ ส ู่

รุ่นลูก และรุ่นหลานสืบมา ดังนั้นจึงกลายมาเป็นภูมิปัญญาที่ตกทอดมาถึง
ลูกหลาน จากรุ่น สู่รุ่น เพื่อให้ภูมิปัญญาคงสืบทอดต่อไป เราจะพาเพื่อน ๆ ไป

เรียนรู้การทำน้ำตาลโตนดแท้ดังเดิมไม่มีสารเจือปน เพื่อน ๆ จะได้รู้ถึงหยาด

เหงื่อจากร่างกายของคนเคี่ยวตาลหน้าเตาที่ร้อนระอุ จนได้น้ำตาลโตนดหอม
หวาน ละมุนลิ้น เพียงแค่ได้กลิ่น ใจก็ละลายแล้วค่ะ เราไปติดตามขั้นตอนการ

ทำน้ำตาลโตนดกันเลยค่ะ โดยเริ่มจากการขึ้นตาล การเคี่ยวน้ำตาล จนถึง

การหยอดน้ำตาล ค่ะ

























12

“ น้ำตาลโตนด ”



การทำน้ำตาลโตนด แต่เดิมทำเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน ถ้าเหลือก ็

แจกจ่ายญาติพี่น้อง โดยใช้เวลาว่างหลังจากการทำนาแล้ว ปัจจุบันมีการทำ
น้ำตาลโตนดเพื่อจำหน่ายเป็นอาชีพ มีการจัดตั้งกลุ่มผู้ผลิตน้ำตาลโตนด

รวบรวมน้ำตาลสดเพื่อส่งเตาเคี่ยวน้ำตาลผลิตน้ำตาลปีบ และน้ำตาลปึก

ส่งขายทั้งใน และนอกประเทศค่ะ



ช่วงเวลาในการเก็บน้ำตาล


เดือนธันวาคม ถึง เดือนมิถุนายน
การเก็บน้ำตาล (เดือนมี.ค. ถึง เม.ย. ทำเยอะ เริ่มหมดช่วง

พ.ค.) ทำได้ทั้งต้นตัวผู้และต้นตัวเมีย ปกติ

ต้นตาลจะสามารถทำน้ำตาลได้ ต้องอยู่ใน
วัยเจริญพันธุ์อายุตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป อยู่ในระยะ

แทงช่อดอกใหม่ๆ


อุปกรณ์
















มีดปาดตาล กระบอกใส่น้ำตาล พะอง





















ไม้คาบ เปลือกไม้พะยอม





13

การเก็บน้ำตาลจากต้นตาลตัวผู้

วิธีการเก็บน้ำตาล เก็บช่วงเช้าตรู่ของวัน โดยทั่วไปงวงตาล


ตัวผู้จะผลิตน้ำตาลสดมากกว่างวงตาลตัวเมีย
ขั้นตอนการทำน้ำตาลโตนดจากตาลโตนดตัวผู้มี

ขั้นตอน ดังนี้

ต้นตาลที่จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ต้องเป็นต้นตาลที่ออกงวงและมีความยาวของ
งวงประมาณ 50 เซนติเมตร (อายุต้นตาล 10 ปีขึ้นไป) คนขึ้นตาลต้องไต่พะองข้นไป

บนต้นตาลรวบงวงเขาด้วยกันและใช้ไม้คาบตาลตัวผู้ซึ่งมีลักษณะแบน 2 อันประกบกัน
ื่
มีงวงตาลอยูตรงกลาง และบีบไม้คาบเบา ๆ เพอนวดงวงตาลให้นิ่มตลอดทั้งงวง การ
นวดงวงตาลจะทำวันละครั้งตอนเช้าตรู่ของวัน รวมเวลานวดประมาณ 3-4 วัน (ขั้นตอน
นี้เรียกว่า การนวด) จากนั้นนำกระบอกไม้ไผ่ซึ่งบรรจุน้ำธรรมดาขึ้นไปแช่ตาลท่นวด

แล้วประมาณ 2 วัน 2 คืน (ขั้นตอนนี้เรียกว่า การแช่)































คนขึ้นตาลขึ้นไปทดสอบโดยการเฉือน (ปาด) งวงตาลสวนปลายสุดตามขวาง
ออกเล็กน้อย แล้วตรวจสอบว่ามีน้ำตาลโตนดไหลซึมออกจากสวนปลายที่เฉือน

หรือไม่หากยังไม่มีน้ำตาลไหลออกมา จะต้องทำการเฉือนปลายงวงทุกวัน จนกระทั่ง
พบว่ามีน้ำตาลใสไหลซึมและหยดออกจากงวงตาลตลอดเวลาไม่หยุด แสดงว่าใช้ได้แล้ว

(ขั้นตอนนี้เรียกว่าการปาด) รวมระยะเวลาการนวด การแช่และการปาด 3 ขั้นตอน ต้อง
ใช้เวลาประมาณ 15 วัน










14

เมื่อน้ำตาลสดเริ่มหยดจากงวงตาล ให้นำกระบอกไม้ไผ่ซึ่งผ่านการรมควันเพอ
ื่
ฆ่าจุลินทรย์ทำให้กระบอกแห้ง และรักษาความสะอาดและใส่เปลือกไม้พะยอม จำนวน

2-3 ชิ้น รองไว้สวนล่างสุดภายในกระบอก ไปรองรับน้ำตาลสดที่ไหลหยดออกจากงวง
ตาล กระทำเช่นนี้วันละครั้งตอนเช้าตรู่ตลอดไปทุกวัน
จนกระทั่งพบว่าปริมาณน้ำตาลสดที่ไหลหยดจากงวงตาลมี

ปริมาณน้อยเกินไปไม่คุ้มค่ากับการขึ้นตาล จึงหยุดการขึ้น

ตาล (ไม่เก็บเกี่ยวน้ำตาล)










การเก็บน้ำตาลจากต้นตาลตัวเมีย


ลักษณะทั่วไปของต้นตาลโตนดตัวเมียงวงตาลจะผลิตน้ำตาลสดน้อยกว่างวงตาล
ต้นตัวผู้และจะผลิตผลตาล (ลูกตาล) ด้วย ต้นตาลที่จะให้ผลผลิตน้ำตาลจะสังเกตได้จาก

งวงตาลที่ติดผลและผลมีขนาดเทาผลมะนาวขั้นตอนการทำน้ำตาลโตนดจากตาลโตนด

ตัวเมีย มีดังนี้

คนขึ้นตาลต้องปีนพะองขึ้นไปบนต้นตาลรวบงวงตาลเขาด้วยกันแล้วใช้ไม้คาบ
ตาลตัวเมีย ซึ่งมีลักษณะกลม 2 อัน ประกบกัน มีงวงตาลอยูตรงกลางแล้วบีบไม้คาบ

เบา ๆ เพื่อนวดงวงเบา ๆ เพื่อนวดงวงตาลระหว่างผล โดยหลีกเลี่ยงไม่นวดให้ถูกผลตาล
ู่
นวดให้นิ่มตลอดทั้งงวง การนวดงวงตาลจะทำวันละครั้งตอนเช้าตรของวัน รวมเวลานวด
ประมาณ 3-4 วัน (ขั้นตอนนี้เรียกว่าการนวด)









ต้นตาลโตนด 1 ต้น จะผลิตน้ำตาลสด

ประมาณ 4-5 กระบอกไม้ไผ่ (กระบอกตาล)

หรือประมาณ 20 ลิตร ตอต้น ตอวัน
















15

การทำน้ำตาลโตนด
























อุปกรณ์







เตาเคี่ยวน้ำตาล









ตัวกรอง









กระทะเหล็ก











เหล็กกระแทก


















16

วิธีการทำน้ำตาลโตนด




เมื่อเก็บน้ำตาลมาแล้วให้ทำการกรองด้วยผ้าขาวบาง โดยกรองใส่กระชอน
จากนั้นนำน้ำตาลที่กรองได้มาใส่กระทะเคี่ยวจนน้ำตาลเดือด แล้วเมื่อน้ำตาล

เดือดจะนำเหล็กกระแทกให้น้ำตาลแห้ง พร้อมทั้งใช้ไม้ขนานช่วยคน เมื่อน้ำตาล

แห้งได้ที่นำไปหยอดลงแป้นพิม โดยต้องนำผ้าขาวบางบนแป้นพิมพ์ก่อนที่จะ

หยอด


































ข้อควรรู้






กระบอกน้ำตาลเมื่อใช้เสร็จแล้ว
ถ้าตักฟองออกขณะที่น้ำตาล ในสมัยก่อนจะใช้เตาลม โดยนำ

เดือดน้ำตาลจะขาว ซึ่งถ้าทำน้ำ กระบอกไปวางไว้บนเตาให้แห้ง ซึ่งจะ

สดนิยมตักออก แต่ถ้าทำ ทำให้น้ำตาลปึกมีกลิ่นหอม แต่
น้ำตาลโตนดไม่นิยมตักออก ปัจจุบันหาดูยากแล้ว ซึ่งในปัจจุบัน

ซึ่งจะได้น้ำตาลสีคล้ำ
จะใช้น้ำร้อนลวกกระบอกตาลแทน






17

ข้อควรรู้

(การทำความสะอาดกระบอกน้ำตาล)


หลังจากเทน้ำตาลออกจากกระบอกตาลแล้ว จะทำ

ความสะอาดโดยใช้น้ำสะอาดเขย่าๆ แล้วเททิ้งไปหลัง

จากนั้น นำไปรมควันโดยวางครอบรูเตาประมาณ 30 นาท ี

ระวังอย่าให้ไฟแรงเกินไป จะทำให้กระบอกแตกได้ บางท้องท ี่
อาจจะใช้น้ำร้อนเทลวกกระบอกก็ได้ จากการสอบถามถึง

สาเหตุที่ไม่ใช้สารเคมีทำความสะอาดกระบอกตาลได้ความ


ว่า ถ้าใช้สารเคมีแล้วจะทำใหน้ำตาลหดได้ (น้ำตาลทีได้จะ
น้อยกว่าปกติ) และน้ำตาลที่ได้จะมีกลิ่นของสารเคมีปนได้












ปัจจัยที่มีผลต่อสีของน้ำตาล





จากการศึกษาพบว่า ถ้าฝนตก คุณภาพของน้ำตาลไม่ดีเท่าที่ควร
เนื่องจากความเข้มข้นของน้ำตาลลดลง สีจะขุ่น และถ้าแดดจัด สีของน้ำตาล

สดจะจางใส ความเข้มข้นของน้ำตาลจะมาก จากการสังเกตพบว่า พื้นที่ปลูก
แต่ละแหล่งให้คุณภาพของน้ำตาลต่างกัน และเมื่อนำไปเคี่ยวจะได้เนื้อน้ำตาล

ต่างกันด้วย












18

ความแตกต่างระหว่างน้ำตาลโตนดแท้กับน้ำตาลโตนดเทียม










น้ำตาลโตนดแท ้ น้ำตาลโตนดเทียม
สีจะออกขาว สีจะออกแดง

ถูกอากาศจะเหลว แข็งอยู่ได้นาน
รสหวานนุ่ม รสหวานเลี่ยน

มีกลิ่นตาลโตนดชัดเจน มีกลิ่นตาลโตนดน้อย
เนื้อละเอียด













น้ำตาลแท้












น้ำตาลเทียม




















19

อาชีพคนขึ้นตาล ...
เสี่ยงแค่ไหนกันนะ ???










ผลิตผลหลักที่สำคัญจากต้นตาลโตนด คือ น้ำตาลสด
ดังนั้นวิธีการนำน้ำตาลลงมาจากต้นตาลซึ่งมีความสงเทยบได้


กับตึก 4-5 ชั้น จึงนำเป็นกระบวนการที่สำคัญ เนื่องจากต้องอาศัย

ความรู้ ประสบการณ์ท่ถ่ายทอดต่อ ๆ กันมา จากรุ่นพ่อส่รุนลูก




และรุ่นหลาน ต่อ ๆ ไป ไม่มีสถานศกอบรม ไม่มีโรงเรียนสอน

จึงถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของคนเพชรที่ถ่ายทอดและสงสมกนมา
ั่
นานนับ 100 ปี บุคคลผู้นำน้ำตาลลงมาจากต้นตาลเกาแกอาย ุ


เป็น 100 ปีเช่นกัน รู้จักกันในนามว่า “คนขึ้นตาล”


















































20

21




ท ำไมอำชีพคนขึ้นนตำลจึง




น้อยลง ? ? ? ?

ทำไมอาชีพพคนขึ้นตาลจึงน้อยลง ???




ทำไมปัจจุบันอาชีพคนขึ้นตาลจึงน้อยลง ??? นี่ถือเป็นข้อสงสัยจากการที่ได้ทำ
การสืบค้นและหาแหล่งเรียนรู้การทำน้ำตาลโตนดพบว่า การทำน้ำตาลโตนดแท้โดยไม่

ผสมน้ำตาลทราย หรือสิ่งอื่น ๆ นั้นหาได้ยากมาก จึงได้ข้อมูลมาว่า “คนทำน้ำตาล
โตนดนั้นหายากเนื่องจากน้ำตาลสดจากต้นตาลนั้นหายาก เพราะจำนวนคนขึ้นตาล
ิ์
นั้นน้อยลง เด็กสมัยใหม่นี้ไม่ขึ้นตาลกันแล้ว” ซึ่งเป็นคำกล่าวของคุณตาสัมฤทธ บุญ
ปลอด อดีตหนุ่มขึ้นตาลเมืองเพชร ที่ปัจจุบันอายุ 77 ปีแล้ว

จากคำบอกกล่าวที่ว่า “เด็กสมัยนี้ไม่ขึ้น
ตาลกันแล้ว” เราจึงสอบถามคุณตาว่า

เพราะอะไรอาชีพคนขึ้นตาลจึงน้อยลง
เรื่อย ๆ เราได้คำตอบมาว่า การขึ้นตาลนั้น

ต้องใช้พะองในการปีนขึ้นต้นตาล ซึ่งใน
ปัจจุบันไม้ที่จะนำมาทำพะองนั้นหายาก
แล้ว และการขึ้นต้นตาลนั้นมีความเสี่ยง

นั่นก็คือ เสี่ยงอันตรายในการที่จะตกต้น
ตาลนั่นเอง เนื่องจากต้นตาลนั้นสูง คน

ส่วนมากในปัจจุบันจึงนิยมทำน้ำตาล
มะพร้าวแทน เพราะต้นมะพร้าวนั้นเตี้ยกว่า

ต้นตาล และทำง่ายกว่าอีกด้วย


ดังนั้นสาเหตุที่อาชีพคนขึ้นตาลน้อยลง มี 2 สาเหตุนั่นก็คือ สาเหตุท ี่

หนึ่ง ไม้พะองที่ใช้ปีนต้นตาลนั้น ในปัจจุบันหาไม้มาทำได้ยากแล้ว
ส่วนสาเหตุที่สองนั้น การขึ้นต้นตาลต้องเสี่ยงอันตรายมากพอสมควร
เนื่องจากต้นตาลนั้นสูง การตกจากต้นตาลนั้นถึงกับเสียชีวิตได้เลย

ทีเดียว ซึ่งจากการได้เรียนรและเห็นวิธีการทำน้ำตาลโตนดมาแล้วนั้น
ู้
ทำให้เราเห็นคุณค่า วิถีชีวิต และภูมิปัญญาของท้องถิ่นที่หลอมรวมกัน

มาเป็นน้ำตาลโตนด สินค้าขึ้นชื่อของเพชรบุรีค่ะ




น้ำตาลโตนด


“วิถีชีวิต ภูมิปัญญา และการเลี้ยงชีพ”







22

บรรณานุกรม





กาญจนา บุญส่ง และคณะ. (2554). แนวทางการสืบสานวัฒนธรรมตาลเมืองเพชรท ี่
เอื้อต่อวิถีชีวิตของชุมชนบ้านลาด อำเภอบ้านลาด จังวัดเพชรบุรี. เพชรบุรี :
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี.
พรพิศ ดาษดื่น. (2543).ตาลโตนด,สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2564.จาก.

http://sugarpalm76.blogspot.com/2018/05/blog-post_70.html
วันวิสา.(2558).ต้นตาลโตนด,สืบค้นเมื่อ 18 มกราคม 2564.จาก.
http://tntaltond.blogspot.com/2015/08/blog-post_46.html

สำนักงานการเกษตรจังหวัดสงขลา. (2542).ประโยชน์ของต้นตาล.สืบค้นเมื่อ 18
มกราคม 2564.จาก. https://sites.google.com/site/suantanlungthanom/

























































23



วีดัด ... สวัดดี





สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อ ธิดารัตน์ หอมเมือง

ชื่อเล่น เนย เป็นลูกสาวคนเดียวของ
บ้าน ลืมตาดูโลกตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17
ตุลาคม พุทธศักราช 2541 ปัจจุบัน

อายุ 22 ปี 4 เดือน ซึ่งปัจจุบันศึกษา
หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต เอกเคมี


มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี เนื่องจากมีความใฝ่ฝันอยากเป็นครู ซึ่งความฝนของ
ฉันใกล้ความเป็นจริงแล้ว นอกจากความฝันที่อยากเป็นครู ฉันมีความฝันอีกหนึ่งสิ่ง
นั่นก็คือ การอยากเป็นนักเขียน เนื่องด้วยเป็นคนชอบอ่านหนังสือตั้งแต่เด็ก ๆ การ


อ่านหนังสือถือเป็นงานอดิเรกของฉน นอกจากการอ่านหนังสือแล้วฉันยังชอบปลูก
ต้นไม้ ดอกไม้อีกด้วย การปลูกต้นไม้ทำให้ฉนจิตใจสงบ และเกิดสมาธิ ฉนเป็นคน


ชอบกินขนมหวาน ชอบมากคือขนมครก เป็นคนชอบกินมากแต่กลับเป็นคนไม่ชอบ
ทำซะงั้น เมื่อเจออุปสรรคในชีวิตฉนจะมีคติพจน์ค่อยเตือนใจตัวเองเสมอ ๆ ว่า

“สิ่งใดเกิดขึ้น สิ่งนั้นดีเสมอ” จงมองหาสิ่งดี ๆ ในทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิต
เสมอ









































24

ื่
ื่








สวสดคะ ฉนชอนางสาวชนมนภา นชสวสดิ์ ชอเลนปราย



อายุ 23 ป เกิดวนที่ 4 เดือนกนยายน พ.ศ.2541






กฬาที่ชอบคอ วอลเลย์บอล แตเลนไมเกงเลย







ดิฉนชอบการเดินทางการทองเที่ยวธรรมชาติ เชน นาตก ลองแพ แตก็ไมคอยม ี


โอกาสเดินทางทองเที่ยวเลย








งานอดิเรกของฉนคอ ปกผาเสรมรายได เลนเกมและฟงเพลง
ี่
ี้






สตวเลยงที่ชอบคอ แมวเหมยวและเจาสนข




ดิฉนมเปาหมายของการใชชีวิตคอ จะตองเรยนจบและพยายามสอบบรรจุเขา




ิ่
ื่









รบราชการครู หรอหางานท าใหได เพอพอและแม รวมถึงท าสงที่ชอบใหสาเรจ











คติประจ าใจของฉนมอยูวา “ความสงสยไมใชจุดออน สงสย...แตไมหาขอสรป




ตางหากที่เปนจดออน”



“ ทั่วประเทศเขตแค้วนแดนพริบพรี



เห็นจะชี้ไปไม่พ้นแต่ต้นตาล



ที่พวกท้าน้้าตาลโตนดประโยชน์ทรัพย์



มีดส้าหรับเหน็บข้างอย่างทหาร


พะองยาวก้าวตีนปีนทะยาน



กระบอกตาลแขวนก้นคนละพวง ”





นราศเมองเพชร สุนทรภู่



“ ภูมิปัญญาชาวพริบพรี ”


Click to View FlipBook Version