๒.๔ เตมิ ค�ำเช่ือมสว่ นขยายใจความส�ำคัญ เพอ่ื ตัดส่วนขยายใจความสำ� คัญท้งิ
แนวทางปฏิบัติของการอ่านจับใจความส�ำคัญในข้อ ๒.๓ ข้างต้นน้ัน ผู้เรียนสามารถพิจารณา
ตัดส่วนขยายใจความส�ำคัญในย่อหน้าได้ง่าย โดยสังเกตจากค�ำเชื่อมแสดงส่วนขยายใจความส�ำคัญ
หากทว่าในบางคร้ังผู้เขียนอาจจะเรียบเรียงข้อความในย่อหน้าโดยไม่ใช้ค�ำเช่ือมก็ได้ ดังน้ันหากต้องการ
จะจบั ใจความส�ำคญั ผเู้ รียนจำ� เป็นตอ้ งเตมิ ค�ำเชอื่ มส่วนขยายใจความส�ำคัญ เพอ่ื ตัดส่วนขยายใจความสำ� คัญทิง้
คำ� เชอื่ มที่นิยมเตมิ ในขอ้ ความในย่อหน้า ได้แก่ กล่าวคอื เช่น จึง เพราะ
แบบฝกึ หัด
๑๒. ผักและผลไม้สดจะมีเอนไซม์ที่เป็นตัวช่วยย่อยอาหารให้เป็นโมเลกุลท่ีเล็กที่สุดเข้าสู่กระแสเลือด
ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเร่งปฏิกิริยาการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ เอนไซม์
หลายชนิดเป็นเอนไซม์ท่ีร่างกายไม่สามารถสร้างข้ึนมาได้ จึงต้องได้รับจากการรับประทานผักผลไม้เท่าน้ัน
เอนไซม์บางชนิดยังช่วยเปล่ียนอนุมูลอิสระเป็นน�้ำและออกซิเจน บางชนิดช่วยเผาผลาญพลังงาน สลายไขมัน
และก�ำจดั สารพิษในรา่ งกาย
ข้อใดเป็นใจความสำ� คญั ของขอ้ ความข้างต้น (O-NET ม.๓)
๑) การรบั ประทานผักและผลไม้สดจะช่วยใหร้ ่างกายแข็งแรงสมบูรณ์
๒) ผกั และผลไมส้ ดมีเอนไซม์ช่วยยอ่ ยสารอาหารไปใชป้ ระโยชน์ในร่างกาย
๓) เอนไซม์หลายชนดิ เปน็ เอนไซมท์ ร่ี ่างกายไมส่ ามารถสร้างข้ึนมาไดเ้ อง
๔) เอนไซม์บางชนิดช่วยเปล่ยี นอนุมลู อสิ ระบางชนิดช่วยเผาผลาญพลงั งาน
จากตวั อย่างขา้ งต้น เมื่ออ่านเน้อื หาในยอ่ หนา้ นี้แล้ว
(๑) ต้งั ค�ำถามเพ่อื ท�ำความเข้าใจภาพรวมของเนื้อหาท้ังหมด
(๑.๑) ยอ่ หน้านี้กล่าวถึงเรอ่ื งอะไร
ค�ำตอบ คือ ผักและผลไม้สด
(๑.๒) ผักและผลไมส้ ดเปน็ อยา่ งไร
คำ� ตอบ คอื ผักและผลไม้สดจะมีเอนไซม์
(๑.๓) เอมไซม์ดังกลา่ วเปน็ อยา่ งไร
ค�ำตอบ คือ เป็นตัวช่วยย่อยอาหารให้เป็นโมเลกุลท่ีเล็กท่ีสุดเข้าสู่กระแสเลือดไปใช้ประโยชน์
ในรา่ งกายอยา่ งมีประสทิ ธิภาพมากที่สุด และเรง่ ปฏิกริ ิยาการยอ่ ยอาหารใหส้ มบรู ณ์
(๒) พจิ ารณาหาคำ� สำ� คญั ของยอ่ หนา้ นี้
ย่อหน้าน้ีมีค�ำส�ำคัญ ๒ ค�ำ คือ “ผักและผลไม้สด” (หรือ ผักผลไม้) ซ่ึงปรากฏซ�้ำ ๒ ครั้ง
และ “เอนไซม”์ ซง่ึ ปรากฏซ�้ำ ๔ ครัง้
(๓) เตมิ ค�ำเช่อื มส่วนขยายใจความสำ� คญั เพอื่ ตัดส่วนขยายใจความสำ� คญั ทิ้ง
จากยอ่ หน้าขา้ งตน้ สามารถเติมค�ำเช่อื ม “เพราะ” หน้าขอ้ ความ “เอนไซมห์ ลายชนิดเป็นเอนไซม์
ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้” ท�ำให้เห็นได้ว่าใจความส�ำคัญของย่อหน้าน้ี คือ “ผักและผลไม้สด
จะมีเอนไซม์ที่เป็นตัวช่วยย่อยอาหารให้เป็นโมเลกุลท่ีเล็กที่สุดเข้าสู่กระแสเลือดไปใช้ประโยชน์ในร่างกาย
อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเร่งปฏิกิริยาการย่อยอาหารให้สมบูรณ์” สอดคล้องกับค�ำตอบ
ทไ่ี ด้จากการตัง้ ค�ำถามเพือ่ ทำ� ความเข้าใจภาพรวมของเนือ้ หาทัง้ หมด
คูม่ ือการด�ำ เนนิ งานขับเคล่ือนส่คู วามส�ำ เรจ็ 45
ในการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ผักและผลไม้สดจะมีเอนไซม์ที่เป็นตัวช่วยย่อยอาหารให้เป็นโมเลกุลท่ีเล็กท่ีสุดเข้าสู่กระแสเลือด
ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพมากท่ีสุด และเร่งปฏิกิริยาการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ เพราะเอนไซม์
หลายชนิดเป็นเอนไซม์ท่ีร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาได้ จึงต้องได้รับจากการรับประทานผักผลไม้เท่าน้ัน
เอนไซม์บางชนิดยังช่วยเปลี่ยนอนุมูลอิสระเป็นน้�ำและออกซิเจน บางชนิดช่วยเผาผลาญพลังงาน สลายไขมัน
และก�ำจัดสารพิษในร่างกาย
นอกจากน้ี หากสังเกตเน้ือหาในตอนท้ายของย่อหน้าจะพบว่า เน้ือหาท่ีปรากฏยังสนับสนุน
ใจความส�ำคัญของย่อหน้านี้ให้ชัดเจนขึ้นด้วย ดังเห็นได้จากข้อความ “เอนไซม์บางชนิดยังช่วยเปล่ียนอนุมูลอิสระ
เป็นน�้ำและออกซิเจน บางชนิดช่วยเผาผลาญพลังงาน สลายไขมันและก�ำจัดสารพิษในร่างกาย” ซ่ึงมีลักษณะ
เป็นคำ� ส�ำคญั ลกั ษณะท่ี ๒ ทเี่ ขยี นตา่ งกัน แตส่ ่อื ความหมายเหมอื นกัน ปรากฏซ้�ำ ๆ คอื
(๑) เอนไซม์บางชนิดยงั ช่วยเปลี่ยนอนมุ ลู อสิ ระเป็นนำ�้ และออกซเิ จน
(๒) บางชนิดชว่ ยเผาผลาญพลังงาน
(๓) สลายไขมัน
(๔) กำ� จัดสารพิษในรา่ งกาย
สัมพันธ์กับเนื้อหา “. . .ไปใช้ประโยชน์ในร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด และเร่งปฏิกิริยา
การยอ่ ยอาหารใหส้ มบูรณ”์ ในใจความส�ำคญั ท่ีปรากฏตอนต้นย่อหน้า
ค�ำตอบของแบบฝึกหัดข้อน้ีจึงตอบข้อ ๒) ผักและผลไม้สดมีเอนไซม์ช่วยย่อยสารอาหาร
ไปใช้ประโยชนใ์ นรา่ งกาย
๑๓. องค์การนาซากล่าวถึงการค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะจากการส่งยานอวกาศไปส�ำรวจดาวเคราะห์
ท่ีมีขนาดใกล้เคียงกับโลกเม่ือปี พ.ศ.๒๕๕๒ ยานอวกาศดังกล่าวจะมองหาดาวฤกษ์และดวงดาวที่อยู่ใกล้ ๆ
กาแล็กซีทางช้างเผือกของเรา การค้นพบคร้ังใหม่นี้สร้างความตื่นเต้นให้แก่นักดาราศาสตร์เป็นอย่างมาก
เน่อื งจากบรรดาดวงดาวที่ค้นพบทั้ง ๑๐ ดวง ซึง่ มีขนาดและอณุ หภูมใิ กล้เคียงกับโลก เอ้อื ต่อการอยอู่ าศัยของส่ิงมีชวี ติ
ข้อใดคอื ใจความส�ำคญั ของขอ้ ความขา้ งต้น (O-NET ม.๓)
๑) การค้นพบครั้งน้ีเปน็ การคน้ พบครัง้ ใหม่ซ่งึ น่าตนื่ เต้นมาก
๒) ดาวเคราะห์ท้ัง ๑๐ ดวงนน้ี า่ จะมขี นาดและอุณหภมู ใิ กลเ้ คียงกับโลก
๓) ขอ้ มลู การคน้ พบดาวเคราะห์ได้มาจากยานอวกาศขององคก์ ารนาซา
๔) องคก์ ารนาซาคน้ พบดาวเคราะห์ ๑๐ ดวงนอกระบบสรุ ิยะท่ีสิง่ มชี วี ติ อาจอยอู่ าศัยได้
๑๔. ข้อใดเป็นประเดน็ ส�ำคัญของขอ้ ความต่อไปนี้ (O-NET ม.๖)
การดับไฟป่าเป็นการต่อสู้ระหว่างคนกับไฟ ขณะที่เกิดไฟไหม้ป่าพนักงานดับไฟจะต้องพลิกแพลง
วิธีการตลอดเวลา โดยเร่ิมควบคุมที่หัวไฟก่อน เพื่อหยุดยั้งการลุกลามของไฟ แล้วจึงกระจายก�ำลังออกดับไฟ
ทางปีกท้ังสองด้านเพื่อไปบรรจบกันท่ีหางไฟ แต่ถ้าแนวหัวไฟมีความร้อนมากไม่อาจเข้าถึงได้ อาจเร่ิมดับไฟ
จากปีกทั้งสองด้านก่อน แล้วบีบเข้าหาหัวไฟเพื่อบังคับให้แนวหัวไฟแคบและเล็กลงเรื่อย ๆ วิธีควบคุมไฟ
คือ ใช้พล่ัวตักดินหรือทรายสาดกลบไฟ หรือใช้น�้ำฉีดเพื่อลดความร้อนและความสูงของเปลวไฟ
จากนั้นจึงใชท้ ี่ตบไฟเข้าไปตบ และคลุมไฟจนดบั
๑) สถานการณไ์ ฟปา่ ๒) กลยทุ ธ์ในการดบั ไฟปา่
๓) การตอ่ สูร้ ะหวา่ งคนกบั ไฟ ๔) ความเส่ยี งของนักผจญเพลงิ
๕) วสั ดุอปุ กรณ์ส�ำหรบั ดับไฟปา่
46 คูม่ ือการดำ�เนนิ งานขบั เคล่ือนสูค่ วามสำ�เร็จ
ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
๑๕. ข้อใดเปน็ ประเดน็ ส�ำคัญของขอ้ ความต่อไปน้ี (O-NET ม.๖)
หลกั สำ� คญั ของแผนนำ้� ประปาปลอดภัย เรม่ิ ตง้ั แตก่ ารดแู ลรักษาแหลง่ น้ำ� ดิบต้ังแต่ต้นทาง เมือ่ นำ้� ดิบ
เข้าสู่โรงงานผลิตน�้ำประปาจะต้องคุมจุดเส่ียงท้ังระบบผลิต ระบบสูบส่งและสูบจ่ายทางท่อเพื่อดูแลรักษา
คุณภาพน�้ำอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการควบคุมการวางท่อ การซ่อมท่อ การเปล่ียนท่อเก่าท่ีหมดอายุ
เพอื่ ความสะอาดของน้�ำจนไปถงึ บา้ นเรือนประชาชน
๑) การควบคุมคณุ ภาพน�ำ้ ประปา ๒) กระบวนการผลติ นำ้� ประปา
๓) การตรวจสอบแหล่งน้ำ� ดิบ ๔) มาตรฐานการดแู ลอุปกรณ์
๕) การจา่ ยนำ�้ ประปาสูช่ ุมชน
๑๖. ขอ้ ใดสรุปความได้ถกู ตอ้ ง (O-NET ม.๖)
น�้ำนมข้าวอุดมด้วยวิตามินและสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นทางเลือกส�ำหรับผู้บริโภค
ท่ีแพ้นมวัวและนมจากพืชตระกูลถั่ว การส่งเสริมให้มีการผลิตน�้ำนมข้าวในประเทศโดยความร่วมมือระหว่าง
เกษตรกร ผ้ปู ระกอบการ ไม่เพยี งแต่ชว่ ยให้เกษตรกรไดร้ ับเงนิ เพม่ิ ข้ึน แตย่ ังช่วยใหค้ นไทยได้บรโิ ภคน้ำ� นมข้าว
ที่เป็นผลผลิตของคนไทยในราคาท่ีเหมาะสม เน่ืองจากปัจจุบันน�้ำนมข้าวที่วางจ�ำหน่ายส่วนใหญ่เป็นผลิตภัณฑ์
ท่ีน�ำเข้าจากต่างประเทศ จึงมรี าคาสูง
๑) น้ำ� นมข้าวถึงแมม้ ปี ระโยชน์แตม่ ีราคาสูงเพราะเป็นผลติ ภณั ฑท์ ่ตี อ้ งนำ� เข้าจากต่างประเทศ
๒) นำ้� นมขา้ วมีสารอาหารที่เปน็ ประโยชน์ต่อร่างกาย ผทู้ ่ีแพน้ มวัวหรอื นมจากพชื ตระกูลถวั่ สามารถ
บรโิ ภคได้
๓) คนไทยควรบรโิ ภคน้ำ� นมข้าวเป็นประจ�ำเพือ่ สุขภาพที่แขง็ แรง การรว่ มมือกันผลติ ภายในประเทศ
จึงเป็นเรือ่ งจำ� เปน็
๔) การส่งเสริมการผลิตน้�ำนมข้าวในประเทศจะท�ำให้คนไทยได้บริโภคในราคาถูกลงและเพิ่มรายได้
แกเ่ กษตรกร
๕) การผลิตน�้ำนมข้าวช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ดีและส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงความส�ำคัญ
ของการรักษาสุขภาพ
๒.๕ สังเกตค�ำหรือกลุม่ คำ� แสดงความขดั แย้งหรือตรงขา้ มกนั ที่ปรากฏในยอ่ หนา้
ปกติแล้วข้อความหรือประโยคแต่ละประโยคที่เรียงต่อกันในย่อหน้าน้ันจะมีเนื้อหาเกี่ยวโยง
ต่อเน่ืองสัมพันธ์กัน การล�ำดับความคิดและการเช่ือมโยงความคิดเป็นไปอย่างมีระเบียบ ชัดเจน
“ประดุจน�ำมะลิแต่ละดอกมาร้อยเป็นวงรอบจนเป็นพวงมาลัยที่เป็นระเบียบสวยงาม ท�ำให้ผู้อ่านสามารถติดตาม
เน้อื เร่อื งได้ง่ายไม่สบั สนวกวน อา่ นแลว้ ได้เนือ้ ความที่สมบรู ณแ์ จม่ แจ้ง”
(ราตรี ธันวารชร, ๒๕๔๒, น.๘๒)
วิธีหนึ่งที่ท�ำให้ย่อหน้าเกิดการเชื่อมโยง คือ การใช้ค�ำหรือกลุ่มค�ำเป็นเคร่ืองเช่ือมความ ค�ำ
หรอื กลุ่มค�ำทเ่ี ปน็ เครื่องเชอ่ื มในยอ่ หนา้ นั้นมีหลายลักษณะ แต่มคี �ำหรอื กลุ่มค�ำลักษณะหน่ึงท่ีชว่ ยให้จบั ใจความส�ำคัญ
ไดง้ ่ายขนึ้ คอื คำ� หรือกลมุ่ คำ� แสดงความขดั แย้งหรือตรงข้ามกัน เช่น แต่ ทวา่ แต่หาก แตว่ า่ แต่ทว่า อยา่ งไรกด็ ี
ในทางตรงข้าม ในทางกลับกัน ถึงแม้...แต่ ฯลฯ เพราะใจความส�ำคัญที่ผู้เขียนต้องการส่ือในย่อหน้าน้ัน
อาจอยหู่ ลงั ค�ำหรือกลุ่มค�ำดังกล่าว
คู่มอื การด�ำ เนนิ งานขับเคลื่อนสูค่ วามส�ำ เร็จ 47
ในการพฒั นาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
แบบฝกึ หัด
๑๗. ขอ้ ใดเป็นช่ือเรอื่ งท่สี อดคล้องกับขอ้ ความต่อไปนี้ (O-NET ม.๓)
ก�ำแพงเมืองจีนสร้างข้นึ มาเพ่อื ปอ้ งกันข้าศกึ แตน่ ักประวัติศาสตรต์ ่างลงความเห็นว่ากำ� แพงเมอื งจนี น้ัน
ไม่สามารถป้องกันข้าศึกได้ เพราะข้าศึกสามารถโอบล้อมป้อมปราการเข้ามาได้หลายคร้ัง เช่น กองทัพแมนจู
สามารถยกพลข้ามก�ำแพงมาพิชิตแผ่นดินจีนได้ส่วนหน่ึง นอกจากก�ำแพงเมืองจีนจะไม่สามารถป้องกันข้าศึก
ทางบกไดแ้ ลว้ เมอ่ื กองทพั ชาตยิ โุ รปยกทัพมาทางทะเล ก็ยังสามารถกดดันใหจ้ ีนยอมจำ� นนได้ส�ำเร็จในศตวรรษที่ ๑๙
๑) ความล้มเหลวของกำ� แพงเมอื งจนี ๒) มลู เหตขุ องการสร้างกำ� แพงเมืองจีน
๓) กองทัพแมนจผู ู้พชิ ิตก�ำแพงเมอื งจนี ๔) ก�ำแพงเมืองจีนกับการปอ้ งกนั ข้าศกึ ทางน้ำ�
จากตัวอย่างข้างต้น เมื่อพิจารณาค�ำส�ำคัญจะพบว่า มี ๒ ค�ำ คือ ค�ำว่า “ก�ำแพงเมืองจีน”
และ “ไมส่ ามารถป้องกนั ข้าศึก” ซ่ึงส่ือความหมายถงึ “ยอมจำ� นน” ดว้ ย จากนนั้ จงึ พิจารณาตดั ส่วนขยายใจความส�ำคญั
ท่ีปรากฏ ดังนี้
(๑) “เพราะข้าศึกสามารถโอบล้อมป้อมปราการเข้ามาได้หลายคร้ัง” เพราะเป็นการให้เหตุผล
ที่สนบั สนุนขอ้ ความ “นกั ประวตั ศิ าสตร์ต่างลงความเหน็ ว่ากำ� แพงเมอื งจนี น้ันไม่สามารถปอ้ งกนั ข้าศกึ ได้”
(๒) “เช่น กองทัพแมนจูสามารถยกพลข้ามก�ำแพงมาพิชิตแผ่นดินจีนได้ส่วนหน่ึง” เพราะเป็นการ
ยกตวั อย่างสนับสนนุ ขอ้ ความ “เพราะขา้ ศกึ สามารถโอบล้อมป้อมปราการเขา้ มาไดห้ ลายคร้ัง”
ก�ำแพงเมืองจีนสร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันข้าศึก แต่นักประวัติศาสตร์ต่างลงความเห็นว่าก�ำแพงเมืองจีนน้ัน
ไม่สามารถป้องกันข้าศึกได้ เพราะข้าศึกสามารถโอบล้อมป้อมปราการเข้ามาได้หลายคร้ัง เช่น กองทัพแมนจู
สามารถยกพลข้ามก�ำแพงมาพิชิตแผ่นดินจีนได้ส่วนหนึ่ง นอกจากก�ำแพงเมืองจีนจะไม่สามารถป้องกันข้าศึก
ทางบกได้แล้ว เมื่อกองทัพชาติยุโรปยกทัพมาทางทะเล ก็ยังสามารถกดดันให้จีนยอมจ�ำนนได้ส�ำเร็จ
ในศตวรรษท่ี ๑๙
เม่ือตดั สว่ นขยายใจความส�ำคัญแลว้ จะสังเกตได้ว่า ในยอ่ หนา้ นม้ี กี ารใช้ค�ำวา่ “แต”่ แสดงความขัดแยง้
หรือตรงข้ามกันในย่อหน้า ใจความส�ำคัญที่ผู้เขียนต้องการน�ำเสนอก็คือ “นักประวัติศาสตร์ต่างลงความเห็นว่า
ก�ำแพงเมอื งจนี นน้ั ไมส่ ามารถป้องกันขา้ ศกึ ได”้
ส่วนเน้ือหาในตอนท้าย “เม่ือกองทัพชาติยุโรปยกทัพมาทางทะเล ก็ยังสามารถกดดันให้จีนยอม
จ�ำนนได้ส�ำเร็จในศตวรรษที่ ๑๙” ก็เป็นส่วนขยายในลักษณะการยกตัวอย่างเพื่อสนับสนุนใจความส�ำคัญ
ให้ชดั เจนขึ้น กล่าวคอื แสดงให้เห็นว่า ก�ำแพงเมอื งจีนไม่สามารถปอ้ งกนั ข้าศกึ ทงั้ ทางบกและทางทะเล
คำ� ตอบของแบบฝกึ หัดข้อน้ีจงึ ตอบข้อ ๑) ความลม้ เหลวของกำ� แพงเมืองจีน
๑๘. ขอ้ ใดเปน็ ใจความส�ำคัญของขอ้ ความต่อไปน้ี (O–NET ม.๓)
คนเราเกิดมาไม่มีใครสามารถอยู่ตัวคนเดียวได้ ต่างต้องพึ่งพาอาศัยซ่ึงกันและกันทั้งน้ัน ย่ิงเรารู้จักคน
มากเท่าใด ก็ยิ่งเป็นคนกว้างขวางและจะเป็นประโยชน์แก่ตัวเราเองมากข้ึนเท่าน้ัน ความส�ำเร็จทุกอย่างไม่ว่า
จะเปน็ ทางราชการ ทางการค้าหรือในกิจการสว่ นตัว ลว้ นข้ึนอยู่กับความกวา้ งขวางของตัวเราเปน็ สำ� คัญ ฉะน้ัน
การมีเพ่ือนจึงจ�ำเป็นที่สุด เราจะต้องพยายามรู้จักคนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้โดยไม่ต้องเลือกว่าใครเป็นใคร
แตว่ ่าการคบเพอื่ นนน้ั มีทง้ั คุณและโทษ ฉะนนั้ จงึ ต้องระวงั ให้มาก
๑) ทุกคนตอ้ งพง่ึ พาอาศยั กนั ๒) การคบเพ่อื นจะต้องรอบคอบ
๓) คนเราจะขาดการคบเพ่ือนไมไ่ ด ้ ๔) การรูจ้ ักคนมากเปน็ ประโยชนใ์ นการทำ� งาน
48 คู่มอื การด�ำ เนินงานขบั เคลื่อนสคู่ วามสำ�เรจ็
ในการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
๑๙. ขอ้ ใดเปน็ ประเดน็ สำ� คญั ของขอ้ ความตอ่ ไปน้ี (O-NET ม.๖)
ฝายชะลอน้�ำแม้จะไม่ใช่ส่ิงก่อสร้างที่จะน�ำไปใช้แก้ปัญหาน้�ำท่วมในเมืองหรือน้�ำท่วมในปริมาณ
มหาศาล แต่ก็จะช่วยชะลอน�้ำไม่ให้ไหลเร็วเกินไปเพื่อป้องกันน�้ำท่วมพื้นท่ีปลายน�้ำ ฝายจะช่วยเก็บกักน�้ำ
ให้พื้นท่ีมคี วามชุ่มช้นื ไดน้ าน เป็นแหลง่ สำ� รองน้�ำในหนา้ แล้งได้ดว้ ย การสร้างมิไดซ้ บั ซอ้ นยงุ่ ยาก ชาวบา้ นกช็ ่วยกนั สรา้ งได้
อกี ทัง้ ไม่ตอ้ งตดั ต้นไมใ้ นพืน้ ท่ที ่จี ะสร้าง
๑) วิธใี ชฝ้ ายแก้ปญั หาน�ำ้ ท่วม ๒) ประโยชน์ของฝายชะลอนำ�้
๓) การแกป้ ญั หาน้ำ� ทว่ มและภยั แลง้ ๔) ฝายชะลอน้�ำกับการอนุรกั ษธ์ รรมชาติ
๕) ความร่วมมอื ในการแก้ปญั หาของชุมชน
๒๐. ข้อใดเปน็ ประเดน็ ส�ำคญั ของขอ้ ความตอ่ ไปน้ี (O-NET ม.๖)
ไขมันทรานส์เป็นกรดไขมันไม่อ่ิมตัวซ่ึงได้รับความนิยมมากในอุตสาหกรรมการผลิตอาหาร
ส่วนมากไขมันทรานส์เกิดจากการปรุงแต่งของมนุษย์ โดยกระบวนการเติมไฮโดรเจนลงในกรดไขมันไม่อ่ิมตัว เช่น
นำ�้ มนั พชื เพ่ือเปล่ียนสภาพของน�ำ้ มนั ใหแ้ ข็งข้ึน ทำ� ใหเ้ กบ็ ได้นาน ไมม่ ีกลิ่นหนื อยา่ งไรก็ตามการบรโิ ภคไขมันทรานส์
ส่งผลเสียต่อสุขภาพ เส่ียงต่อการเกิดโรคหัวใจความดันโลหิตสูงและเบาหวาน องค์การอนามัยโลกประกาศรณรงค์
ใหท้ ่วั โลกยุติการใช้ไขมันทรานส์ภายในปี ค.ศ. ๒๐๒๓ หากยุตไิ ดจ้ ะช่วยชวี ติ คนได้ถงึ ๑๐ ลา้ นคน
๑) อันตรายของไขมันทรานส ์ ๒) ปัจจยั เสยี่ งการเกดิ โรคหวั ใจ
๓) การผลติ อาหารดว้ ยไขมันทรานส์ ๔) การรณรงคข์ ององคก์ ารอนามัยโลก
๕) การลดอัตราการเสยี ชีวติ ของผู้บริโภค
๒.๖ หากย่อหน้านั้นไม่ปรากฏประโยคใจความส�ำคัญ ต้องพิจารณาเน้ือความในบริบทอ่ืน ๆ
โดยเฉพาะข้อความในย่อหน้าก่อนและหลัง โดยน�ำใจความส�ำคัญหรือความคิดหลักที่กระจายอยู่ในย่อหน้านั้น
น�ำมาประมวลและเรียบเรยี งให้เปน็ ประโยคใจความส�ำคญั ดว้ ยส�ำนวนภาษาของตนเอง
ตัวอยา่ ง
พืชที่คนไทยน�ำรากมาใช้ย้อมผ้า เช่น ขม้ิน ข่า และยอป่า พืชท่ีคนไทยน�ำล�ำต้นมาใช้ย้อมผ้า
ได้แก่ มะพูด หากใชเ้ ฉพาะส่วนเปลอื กนน้ั มหี ลายชนิด เชน่ กราย ฉำ� ฉา กระหดู โกงกาง ปอแดง และประดู่
ส่วนพืชทีเ่ ราน�ำแกน่ ของเนอื้ ไมม้ าใชย้ อ้ มผ้า คือ ขนนุ ขเี้ หลก็ และเข พชื ที่เรานำ� ผลของมันมาใชใ้ นการย้อมผา้
คือ กระจาย หวา้ มะเกลือ และตะโก เมลด็ จากผลก็สามารถนำ� มาใช้ยอ้ มผ้าได้ดว้ ย เชน่ คำ� แสด พืชที่เรานำ� ดอก
มาใช้ในการย้อมผ้า คือ อัญชัน และค�ำฝอย พืชท่ีใบให้สีในการย้อมผ้า ได้แก่ หูกวาง และคราม ซึ่งครามน้ัน
นอกจากจะใชใ้ บจากตน้ ครามย้อมผา้ ได้แลว้ เรายังสามารถใชก้ ิง่ ของมนั ในการยอ้ มผา้ ได้ด้วย
(ปรบั จาก ดาวรัตน์ ชทู รพั ย์, ๒๕๔๗, น.๑๗๔ - ๑๗๕)
จากตัวอย่างข้างต้น เมอื่ อ่านย่อหนา้ จบแลว้ ส่ิงที่ตอ้ งพจิ ารณาในการจับใจความส�ำคญั คอื
(๑) ย่อหน้านี้กล่าวถงึ เรือ่ งอะไร
ค�ำตอบ คอื เร่อื งเก่ียวกบั การใช้สว่ นต่าง ๆ ของพชื มาย้อมผา้ ของคนไทย
(๒) พจิ ารณาหาคำ� สำ� คัญของย่อหนา้ นี้
ค�ำส�ำคัญลักษณะท่ี ๑ ท่ีปรากฏซ้�ำ ๆ ตั้งแต่ต้นจนจบในย่อหน้าคือ ค�ำว่า “พืช” “คนไทย”
ซึง่ ในบางประโยคจะใช้คำ� วา่ “เรา” แทนค�ำวา่ “คนไทย” และ “ยอ้ มผ้า”
ค่มู ือการด�ำ เนินงานขบั เคล่อื นส่คู วามสำ�เรจ็ 49
ในการพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
ส่วนค�ำสำ� คญั ลักษณะท่ี ๒ ในยอ่ หนา้ คอื คำ� ว่า “ราก” “ล�ำต้น” “เปลอื ก” “แก่นของเนือ้ ไม”้ “ผล”
“เมล็ดจากผล” “ดอก” “ใบ” และ “กง่ิ ” จะเห็นได้วา่ ทุกคำ� นัน้ ส่ือถึงสว่ นตา่ ง ๆ ของพชื
(๓) พิจารณาเนอ้ื ความทเ่ี ปน็ ส่วนประกอบคำ� สำ� คญั เพื่อตดั สว่ นขยายใจความส�ำคญั
เนื้อความที่เป็นส่วนประกอบค�ำส�ำคัญ คือ การอธิบายให้รายละเอียดเก่ียวกับส่วนต่าง ๆ ของพืช
ทคี่ นไทยนำ� มาใช้ยอ้ มผา้ คอื ราก ลำ� ตน้ เปลอื ก แกน่ ของเนอ้ื ไม้ ผล เมล็ดจากผล ดอก ใบ และกง่ิ ประกอบกับ
การยกตัวอย่างพืชที่คนไทยน�ำส่วนต่าง ๆ แต่ละส่วนนั้นมาใช้ย้อมผ้า สังเกตจากค�ำว่า “เช่น” “ได้แก่”
และ “คือ” ทงั้ หมดน้คี ือ ส่วนขยายใจความส�ำคญั ที่ตอ้ งตดั ทิ้ง
(๔) น�ำใจความส�ำคัญมาเรียบเรียงเป็นประโยคใจความส�ำคัญด้วยส�ำนวนภาษาของผู้อ่าน
โดยคงตามเนื้อความเดิม จากตัวอย่างข้างต้น ประโยคใจความส�ำคัญของย่อหน้านี้คือ “คนไทยน�ำส่วนต่าง ๆ
ของพชื มาใชย้ ้อมผา้ ”
๒๑. ฟอร์มาลินหรือสารละลายฟอร์มาลดีไฮด์ ชาวสวนชาวไร่นิยมใช้ฆา่ เช้ือจุลินทรีย์และเช้ือราในดิน ใช้ท�ำปุ๋ย
และป้องกันการเน่าเสียของพืชผักผลไม้ แต่ส่วนใหญ่เราจะรู้จักในฐานะเป็นส่วนผสมของน�้ำยาท�ำความสะอาด
น้�ำยาล้างจาน น�้ำยาปรับผ้านุ่ม น�้ำยาท�ำความสะอาดพรม แม้กระท่ังในพลาสติกและโฟมก็มีส่วนผสม
ของฟอร์มาลินอยู่ด้วยเช่นกัน ในโรงงานทอผ้าก็จะใช้เพ่ือให้ผ้าท่ีทอนั้นไม่ยับ ตามโรงพยาบาลจะใช้เพ่ือฆ่าเชื้อ
ดบั กลิน่ และท�ำใหศ้ พไม่เนา่
ใจความส�ำคัญ คอื __________________________________________________________
๒๒. ชาวอาหรบั โบราณเชอ่ื วา่ ไข่มุกเปน็ นำ�้ ตาของเทพเจา้ ชาวโรมนั เชอื่ ว่าไข่มกุ กอ่ รูปร่างมาจากผลกึ ของนำ�้ คา้ ง
และหอยกินเข้าไป บางต�ำนานเช่ือว่าไข่มุกมาจากหยาดหยดน้�ำตาของเทพธิดาองค์หนึ่งซึ่งสงสารประชาชน
ผทู้ กุ ข์ยาก ส่วนชาวอินเดียเชื่อกันวา่ เกิดจากฟนั ของมารตนหนงึ่ ที่รว่ งหลน่ พรา่ งพรายลงสมู่ หาสมุทร และกลายสภาพ
เป็นไข่มกุ มคี วามงามประกายวาววาวด่งั แสงเดือนที่สาดใส่ในคืนเดอื นเพญ็
ใจความส�ำคัญ คือ __________________________________________________________
๒๓. การท�ำน�้ำตาลโตนดเริ่มจากทุก ๆ เช้า ชาวบ้านจะเก็บกระบอกไม้ไผ่ที่รองน�้ำหวานมาท้ังคืนจากช่อดอก
ของต้นตาลหรือที่เรียกว่า งวงตาล จากน้ันน�ำน�้ำหวานมากรองเอาเปลือกไม้พะยอมออกก่อนที่จะน�ำไปเค่ียว
เม่ือเคี่ยวน�้ำตาลจนงวดได้ที่ ก็มาถึงข้ันตอนการกวนและตีเพ่ือให้น้�ำตาลขึ้นตัว แล้วจึงหยอดลงเบ้าหรือพิมพ์
เรามักเห็นกันในรูปครึ่งวงกลมคล้ายถ้วย ชาวบ้านจะเรียกรูปแบบน้ีว่า น้�ำตาลปึก แต่หากใส่ในภาชนะต่าง ๆ
ก็จะมชี ่ือเรียกตามภาชนะทใ่ี ส่ เชน่ น�้ำตาลปบ๊ี นำ�้ ตาลหมอ้ เป็นต้น
ใจความสำ� คญั คอื __________________________________________________________
๒๔. การคิดอยากจะมีรถเก๋งไว้ใช้สักคันก็เปรียบดังหนุ่มสาวท่ีรักกันก�ำลังคิดจะแต่งงานกัน และหลังจาก
ได้ตกลงปลงใจซื้อรถเก๋งแล้วก็ย่อมดุจหนุ่มสาวคู่นั้นได้แต่งงานแล้วเสร็จมาแรมปี พร้อมมีลูกไว้เชยชมอีกคนหนึ่ง
ช่างเป็นสิ่งท่ีน่าชื่นชมทางใจไม่น้อยเลย แต่ส่วนลึกของความชื่นชมนั้น ท่านต้องเสียค่าใช้จ่ายชนิดปฏิเสธไม่ได้
อย่างมากมายเช่นกัน จนมีคนเปรียบไว้ว่ามีรถเก๋งก็เหมือนมีลูกคนเล็กจะต้องดูแลรักษา บริการ และเอาใจใส่
สารพนั ซ่ึงกค็ ือ เงิน เงิน และกเ็ งินอยา่ งแนน่ อน
ใจความส�ำคัญ คอื __________________________________________________________
50 คมู่ ือการดำ�เนนิ งานขับเคลอ่ื นสู่ความส�ำ เรจ็
ในการพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
จากวิธีการอ่านจับใจความส�ำคัญ ทั้ง ๖ วิธีข้างต้น สามารถจัดท�ำเป็นแผนภาพเพื่อช่วยความจ�ำ
เก่ียวกบั วิธีการอ่านจับใจความส�ำคัญ โดยใชช้ ่อื ว่า “บนั ได ๖ ข้ัน สู่ความสำ� เร็จในการอ่านจบั ใจความสำ� คัญ”
ตวั อยา่ งแบบฝึกหดั การอา่ นจบั ใจความส�ำคัญบทอา่ นหลายยอ่ หน้าและบทอ่านท่มี รี ปู ภาพประกอบ
อา่ นขอ้ ความต่อไปนแ้ี ลว้ ตอบคำ� ถาม (O-NET ม.๓)
(๑) สิ่งที่มีค่าสูงสุดในชีวิตมนุษย์ก็คือ “ตัวชีวิตเอง” ค�ำกล่าวนี้เป็นความจริงโดยท่ีใครไม่อาจปฏิเสธ
แต่ท้ัง ๆ ที่รู้ มนุษย์ก็ปฏิบัติกับชีวิตเหมือนไม่รู้จักรักชีวิต หากจะเปรียบก็คงเป็นเช่นเสนาอมาตย์
ข้าราชบริพารของพระมหาชนกท่ีชอบรับประทานมะมว่ ง แต่ขณะเดียวกนั กลบั โคน่ ต้นมะม่วงทง้ิ มนุษย์รกั ชวี ติ
แต่ปฏิบัติต่อชีวิตไม่ถูกต้อง ชีวิตอันเป็นสิ่งสูงค่ายิ่งกว่าสมบัติบรรดามีใดทั้งหมดของตน ก็เลยพลอย
มอี นั แตกหกั บ่นิ รา้ ว แหลกสลายลงไปกอ่ นวัยอนั สมควร
(๒) น่าเสียดายชีวิตที่ถูกเหว่ียงไปอย่างไร้จุดหมายวันแล้ววันเล่า ล่องลอยไปในกระแส
กิน กาม เกียรติ เหมอื นขอนไมแ้ หง้ หรือกอสวะท่ไี รอ้ นาคต แทนทเ่ี ราจะเปน็ ฝา่ ยก�ำหนดชวี ติ กลบั ปลอ่ ยให้ชวี ิต
ถูกกิเลส สังคม การงาน วัฒนธรรมความหลงผิดมาเป็นฝ่ายก�ำหนด แทนท่ีจะเป็นนายของชีวิตกลับกลายเป็นทาส
ของชวี ิต แทนท่จี ะเป็นฝา่ ยเลอื กใชช้ วี ติ กลับถกู ชวี ติ ผลักไสไปตามยถากรรม
(๓) ท�ำไมไม่อนุญาตให้ตัวเองได้อยู่เงียบ ๆ คนเดียวสักระยะหนึ่ง แล้วลองไตร่ตรองมองตนดูว่า
หลายตขัววอบยปา่ ีทงแ่ีผบ่านบมฝกึาเหรัดากไดาร้ใชอ้ชา่ นีวิตจบัไปใจใหค้วคาุ้มมคส่าำมคาัญกบหทรืออา่นน้อหยลเพายียยงอ่ไรหนม้าีสแิ่งลใะดบทท่ีคอวา่ รนแทก่ีม่คีรวปู าภมาภพูมปิใรจะแกลอะบมีส่ิงใด
คอวา่ นรแขก้อค่ ววาามมสตล่อดไปสงันเแ้ีวชลก้วตบั อกบารคกำรถะาทม�ำข(Oอง-NตัวEเTอมง.๓พ)ินจิ ตนดว้ ยตน สอนตนดว้ ยตน ดกี ว่าให้ใครต่อใครมากมาย
มาเสี้ยมสอน ซึ่งแน่นอนวา่ เรารับฟัง แตค่ งไมม่ ีผลตอ่~ค5ว2าม~เปล่ยี นแปลงใด ๆ เหมอื นกับการสอนตนดว้ ยตนเอง
ค่มู ือการด�ำ เนินงานขบั เคลอื่ นสู่ความสำ�เรจ็ 51
ในการพัฒนาคุณภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
(๔) มนุษยเ์ กดิ มาในโลกอย่างมีความหมาย ไม่มใี ครเกดิ มาไรค้ ่าหรอื เกิดมาเพอื่ จะถกู ลืม ยกเว้นแต่
คนท่ีพยายามจะท�ำให้คนอื่นลืมตนเอง ไม้ทุกต้น หญ้าทุกชนิด ก็เช่นเดียวกับนอตทุกตัวท่ีผลิตขึ้นมา
เพ่ือให้เหมาะสมกับภารกิจใดภารกจิ หนึ่ง ณ เวลาใดเวลาหนง่ึ เสมอ มนุษยก์ ็เช่นกัน ต่างมาส่โู ลกนี้เพ่ือจะบำ� เพ็ญกรณีย์
บางอย่าง บางประการ ซ่ึงล้วนแต่มีความส�ำคัญไม่ย่ิงหย่อนไปกว่ากัน มนุษย์ทุกคนล้วนมีศักยภาพแฝงเร้น
ทจ่ี ะบรรลุภารกจิ ของตนได้อย่างงดงามท้ังสน้ิ แตม่ นษุ ยต์ ระหนักรถู้ ึงศักยภาพพิเศษของตนตรงนหี้ รือไม่
(๕) น้�ำเน่าอาจระเหยกลายเป็นเมฆฝนหล่อเล้ียงผืนโลก กรวดทรายต่�ำต้อยอาจถูกหล่อหลอม
เป็นศิลป์สถาปัตย์ที่ทรงคุณค่าระดับสากล ข้าวเปลือกในนาอาจกลายเป็นสุธารสของพระมหาจักรพรรดิ
ลูกกุลีอาจกลายเป็นเศรษฐีพันลา้ น ฯลฯ ขอเพียงมนุษยไ์ มด่ ูถูกตวั เอง ตระหนกั รู้ถงึ ศกั ยภาพพิเศษที่ซ่อนอยใู่ นตน
แล้วเพียรเจียระไนชีวิต ให้แวววาวพราวพรายด้วยการศึกษาเรียนรู้ ซึมซับเก็บรับบทเรียนจากการงาน
และการใช้ชีวติ อย่างสุขุมก็ย่อมจะมีชีวติ ที่คมุ้ ค่า สงบ ร่มเย็น และเปน็ สุขไมย่ ากเย็น
๒๕. ใจความสำ� คญั ของขอ้ ความทค่ี ดั มาใหอ้ า่ นคอื ขอ้ ใด
๑) มนษุ ยค์ วรจัดสรรเวลาส่วนหนงึ่ ของชีวติ ส�ำหรับตัวเองเพ่อื ท�ำความเข้าใจชวี ิต
๒) ชีวติ ของมนุษย์ทุกคนมคี ุณค่าข้ึนอยู่กบั ว่ามนษุ ย์มองเห็นคุณค่านั้นหรอื ไม่
๓) คนที่ปล่อยชีวิตให้เปน็ ไปตามกเิ ลสคอื คนทใ่ี ชช้ วี ิตอยา่ งไรจ้ ดุ หมาย
๔) ไม่มคี ำ� สอนของผใู้ ดท่จี ะดีเทา่ ค�ำสอนทีต่ นเองสอนตนเองด้วยตนเอง
๒๖. ค�ำวา่ “ขา้ วเปลือกในนา” ในยอ่ หน้าที่ ๕ หมายความถึงส่ิงใด
๑) ความภาคภมู ใิ จของมนษุ ย ์ ๒) การใช้ชีวติ อยา่ งสขุ ุมของมนุษย์
๓) ความสามารถพิเศษของมนุษย์ ๔) การมชี ีวิตอยา่ งค้มุ คา่ ของมนษุ ย์
๒๗. ข้อความขา้ งตน้ มีเนอื้ หาใกล้เคียงกบั สภุ าษิตในขอ้ ใดมากทสี่ ดุ
๑) รกั ดหี ามจั่ว รักช่วั หามเสา ๒) ขา้ งนอกสุกใส ข้างในเปน็ โพรง
๓) ไม้ออ่ นดดั งา่ ย ไมแ้ ก่ดัดยาก ๔) ช้า ๆ ได้พร้าสองเลม่ งาม
๒๘. ข้อใดคอื จดุ มุ่งหมายของข้อความนี้
๑) เพอ่ื ย�้ำใหเ้ ห็นความสำ� คัญของมนษุ ย์ในฐานะทเ่ี ปน็ สตั วส์ ังคม
๒) เพอ่ื เชิญชวนใหผ้ อู้ า่ นทุกคนหนั มาให้ความส�ำคัญกบั การท�ำงาน
๓) เพ่ือแนะนำ� ให้หันกลับมาพิจารณาและพฒั นาชีวติ ของตนเอง
๔) เพ่ือสงั่ สอนใหไ้ ม่ลุ่มหลงอยู่ในกิเลสและความย่ัวยุท้ังปวง
52 คมู่ อื การด�ำ เนนิ งานขบั เคลอ่ื นสคู่ วามสำ�เร็จ
ในการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
จงใช้ขอ้ ความต่อไปนีต้ อบค�ำถาม (O-NET ม.๓)
หินลบั มดี
(๑) หินลับมีดก็คล้ายกับยางลบ คล้ายกันตรงที่มีคู่กรณีจึงจะมีความหมาย ถ้าหินลับมีดไม่มีมีด
มันก็คงไมร่ ู้จะลับอะไร อาจกลายร่างไปเป็นหนิ ทบั กระดาษ หนิ ยนั ประตู หินปาหวั สนุ ขั ไปแทน แตเ่ พราะโลกน้ี
มมี ีด จงึ มีหนิ ลับมีดเกิดขึน้
(๒) หินลับมดี เป็นส่ิงของทมี่ หี น้าตาธรรมดา ๆ เป็นกอ้ นสี่เหลี่ยมดำ� ๆ ไม่นา่ พิสมยั อะไร คงไม่มใี คร
เอาหินลับมีดไปวางโชว์ในห้องรับแขกหรือแขวนไว้หน้าบ้านคู่กับกระถางคุณนายตื่นสาย มันมักจะถูกซ่อนไว้
ในพื้นทที่ ี่ไมม่ ใี ครมองเหน็ แมไ้ ม่อยากให้ใครเห็น แตท่ ุกบา้ นท่ที �ำครัวย่อมมหี ินลับมีด บา้ นใดไมม่ ี มดี ย่อมไมค่ ม
เมอ่ื มดี ไม่คม แล้วจะหนั่ ผักหนั่ ปลามาท�ำอาหารให้อร่อยได้อยา่ งไร
(๓) หากเปรียบการท�ำงานเป็นการหั่นการเฉือน หินลับมีดย่อมเป็นอุปกรณ์ที่คอยเตือนเราให้หยุดพัก
ไม่ใช้งานมีดหนักจนเกินไป มีด ที่หมายถึง สมอง ความคิด และฝีมือ เพราะถ้าใช้มาก ๆ อาจจะทื่อเอาได้
มดี ทุกเลม่ ยอ่ มมคี วามคมเปน็ คณุ สมบัติ แต่พอตดั ไปมาก ๆ แลว้ อาจตดั ไม่ขาด เฉอื นไม่ออก ท�ำให้ต้องออกแรงเยอะ
เวลาที่จะใช้มดี เล่มนนั้ มคิ วรรอใหถ้ ึงเวลานนั้ พ่อครัวท่ีดคี วรลบั มีดอยูเ่ สมอ
(๔) การใช้มดี ที่ดคี ือ การบริหารเวลาระหวา่ งการใชม้ ดี และการลับมีดให้สมดุล ไมเ่ อียงไปขา้ งใดขา้ งหนง่ึ
หากมัวแต่นั่งลับมีดจนไม่ท�ำงานท�ำการก็คงจะไม่มีอาหารกินกัน แน่นอนว่า เวลาที่แบ่งไปใช้กับการลับมีด
ให้คมข้ึนนั้นไม่ได้น�ำมาซึ่งผลผลิตใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลงานหรือการเงิน การลับมีดย่อมมิใช่การท�ำอาหาร
การน่ังอ่านหนังสือย่อมไม่ใช่การเขียน การเรียนภาษาย่อมไม่ใช่การท�ำงาน ทว่ากิจกรรมเหล่าน้ัน
ล้วนแลว้ แตท่ �ำใหม้ ดี คมขึ้น เมือ่ มีดคมก็ใช้งานไดด้ ี คล่องแคล่วข้นึ และสนุกขึ้น พ่อครัวทุกคนย่อมรดู้ วี ่า การมมี ดี ท่ือ ๆ
อย่ใู นมอื น้นั มันน่าอดึ อดั ขนาดไหน
(๕) เม่ือมีดยังต้องการลับ สมองของเราย่อมต้องการการเหลาและขัดเกลาเช่นกัน ในวันท่ีท�ำงานหนัก
ควรแบ่งเวลาพักมาลับมีดบ้าง การลับมีดนั้นไม่ต้องกระท�ำอย่างจริงจังเอาเป็นเอาตายสามารถลับแบบสบาย ๆ
ลับไป ผวิ ปากไปก็ยังได้ หินลับสมองมอี ยทู่ ่วั ไป ท้ังประสบการณใ์ หม่ แรงบนั ดาลใจใหม่ จากสถานท่ีใหม่ ทย่ี งั ไมเ่ คยไป
ไม่เคยเหน็ หนงั สือหลายเลม่ ทร่ี อเราเปิดอ่าน หนงั ดี ๆ หลายเรื่องทีร่ อเราไปดู เพลงหลายเพลงที่รอไหลเข้าสู่รหู ู
ของเรา พิพธิ ภณั ฑท์ ีน่ า่ สนใจมากมายทีต่ ั้งเรียงรายทั้งในเมือง นอกเมอื ง และเมอื งนอก กิจกรรมสมั มนานา่ สนกุ
ที่เชิญวิทยากรผู้มีประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง รายการทีวีดี ๆ มีสาระ ดีวีดีสารคดีเกี่ยวกับเร่ืองที่เราสนใจ
เวบ็ ไซต์คณุ ภาพ ที่มเี น้ือหานา่ อา่ น รวมไปถงึ บทสนทนาดี ๆ จากผู้คนรอบ ๆ ตัว
(๖) หินลับสมองก็เช่นเดียวกับหินลับมีด มันวางอยู่ข้าง ๆ ตัว วางอยู่ในครัวใกล้มือ อยู่ที่เราจะมีเวลา
หยบิ มันขึ้นมาลับหรอื ไม่
๒๙. ข้อใดคือจดุ ประสงคห์ ลักของเร่อื ง ๒) เสนอใหร้ ู้จกั การแบง่ เวลาใหเ้ หมาะสม
๑) แสดงใหเ้ หน็ ความส�ำคญั ของหินลับมดี ๔) เชญิ ชวนใหห้ าความบนั เทิงใหแ้ กช่ ีวิต
๓) แนะนำ� ใหห้ าแรงบนั ดาลใจในการทำ� งาน
๓๐. จากเน้ือเรื่องข้อใดสรุปไดถ้ กู ต้อง
๑) หินลับมดี เปน็ อปุ กรณก์ ารท�ำครัวพน้ื ฐานท่ที กุ บา้ นต้องมี
๒) การลบั มีดใหม้ คี วามคมอยเู่ สมอมผี ลกับการทำ� อาหารให้อรอ่ ย
๓) การพยายามพาตวั ใหพ้ ้นจากสภาพความจำ� เจเป็นการลบั สมอง
๔) สมองตอ้ งการการพักผอ่ นและผอ่ นคลายจากภาวะตงึ เครียด
คู่มอื การด�ำ เนนิ งานขบั เคลอื่ นสคู่ วามสำ�เรจ็ 53
ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
จากภาพท่กี �ำหนดให้ใช้ตอบคำ� ถามข้อ ๓๑ - ๓๓ (O-NET ม.๓)
๓๑. จากขอ้ มลู ทป่ี รากฏในภาพข้อใดสรปุ ถูกต้อง
๑) ในบรรดาขนมไทยทกุ ชนดิ ลอดชอ่ งน�้ำกะทิมีปรมิ าณนำ้� ตาลในขนมนอ้ ยที่สุด
๒) ระหวา่ งทองหยอดกบั ฝอยทอง หากเลอื กกินฝอยทองจะได้รับปริมาณน�้ำตาลนอ้ ยกวา่
๓) ข้าวเหนียวหนา้ ปลาแหง้ กบั หน้าสงั ขยามีปรมิ าณน�้ำตาลที่ตา่ งกันเพราะหน้าขนมทใ่ี ช้
๔) ข้าวตม้ จิ้มและขนมกล้วยแมจ้ ะมีส่วนผสมคล้ายกนั แต่ขนมกลว้ ยใช้นำ�้ ตาลมากกวา่
๓๒. หากจะใช้ข้อมูลที่ได้จากภาพเพื่อพูดสรุปว่า “คนไทยมีแนวโน้มท่ีจะบริโภคน�้ำตาลมากข้ึนเป็น ๓ เท่า”
นกั เรียนคิดว่าข้อมลู ทม่ี ีเพยี งพอหรอื ไม่ต่อการสรปุ
๑) เพียงพอ เพราะมตี ัวอย่างของขนมไทยที่หลากหลายพร้อมบอกปริมาณนำ้� ตาลอย่างชัดเจน
๒) เพยี งพอ เพราะเป็นข้อมูลท่ไี ด้จากการวิจัยและรายงานโดยหน่วยงานทีม่ คี วามนา่ เชอื่ ถอื
๓) ไมเ่ พยี งพอ เพราะไมม่ ีข้อมลู ทเี่ ชื่อมโยงการบริโภคน�้ำตาลกบั ปรมิ าณนำ้� ตาลในรา่ งกาย
๔) ไมเ่ พียงพอ เพราะเนอื้ หาทก่ี �ำหนดใหม้ เี ฉพาะของหวานเท่านนั้ ไม่ไดก้ ลา่ วถึงอาหารชนดิ อ่นื
54 คมู่ อื การด�ำ เนนิ งานขับเคลอ่ื นสู่ความส�ำ เร็จ
ในการพฒั นาคณุ ภาพการเรียนการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
๓๓. จากขอ้ มลู ท่ไี ด้ ขอ้ ใดเป็นการเขียนวจิ ารณ์พฤติกรรมการกินของคนไทยได้เหมาะสมท่สี ุด
๑) คนไทยมีนสิ ัยกินหวานมาตงั้ แตอ่ ดตี การกนิ หวานจงึ เปน็ วัฒนธรรมท่คี วรยกเลิก
๒) สว่ นผสมทีช่ รู สขนมไทยคอื น้ำ� ตาล ยง่ิ ใส่มากขนมกย็ ่งิ นา่ รบั ประทานและอร่อยมากขน้ึ
๓) ความสะดวกในการหาซ้ือขนมหวาน ทำ� ให้การบริโภคขนมหวานงา่ ยและสะดวกขนึ้
๔) ขนมไทยมีความหลากหลายจงึ ควรควบคุมปรมิ าณการบรโิ ภคให้เหมาะสมกับรา่ งกาย
๓. สิง่ ทคี่ วรค�ำนงึ ในการจบั ใจความส�ำคัญ
การจับใจความส�ำคัญนั้น แม้จะมีหลักและวิธีการดังกล่าวแล้ว แต่ทุกครั้งที่จับใจความส�ำคัญ
ควรค�ำนึงถึงประเดน็ ต่าง ๆ ดงั น้ี (ฐติ ริ ัตน์ ลดาวัลย์, ๒๕๕๖, น.๕๖ - ๕๗)
๓.๑ วตั ถปุ ระสงค์
การจับใจความส�ำคัญควรวิเคราะห์ทุกคร้ังว่า ผู้เขียนมีวัตถุประสงค์อย่างไรในการส่งสาร
โดยเฉพาะการจับใจความส�ำคัญจากการอ่านในย่อหน้าที่ไม่ปรากฏรูปประโยคใจความส�ำคัญ เพราะจะท�ำให้
เขา้ ใจสารน้นั มากขึ้น ท�ำใหจ้ บั ใจความส�ำคญั ได้อย่างถกู ต้อง
๓.๒ ประเภทของสาร
การจับใจความส�ำคัญของสารแต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน เช่น หากจับใจความส�ำคัญ
จากขา่ ว หรอื บนั เทงิ คดีตา่ ง ๆ เช่น นวนยิ าย เรือ่ งสนั้ บทละคร การจับใจความส�ำคญั จะเป็นลักษณะการจับใจความรวม
ของท้ังเร่ือง ไม่จ�ำเป็นต้องจับใจความทีละย่อหน้า หากเนื้อหาสาระมีความยาวมากก็ควรจับใจความ
เปน็ ตอน ๆ แล้วจงึ น�ำมาประมวลเป็นใจความส�ำคญั ของเรือ่ ง
๓.๓ วิธีการเขยี นของผูเ้ ขียน
ปกติแล้วในหน่ึงย่อหน้าจะมีใจความส�ำคัญประการเดียว แต่ผู้เขียนบางคนอาจเขียนย่อหน้า
โดยมีใจความส�ำคัญมากกว่าหน่ึงข้อความ หรือเขียนเป็นย่อหน้าสั้น ๆ โดยแต่ละบรรทัดจะมีใจความส�ำคัญ
หรอื ไม่ก็ได้ การจบั ใจความสำ� คญั ลกั ษณะน้คี วรจับใจความสำ� คญั รวมทั้งเรอื่ ง
การจับใจความส�ำคัญเป็นเร่ืองท่ีผู้เรียนต้องศึกษาและฝึกฝน โดยต้องเข้าใจวิธีการจับใจความส�ำคัญ
เข้าใจสารที่ได้รับ ตลอดจนวัตถุประสงค์ของผู้เขียน การจับใจความส�ำคัญจึงจะบรรลุผล ช่วยให้ผู้อ่าน
เข้าใจเน้อื หา และความคดิ ของผู้เขียน ซ่ึงจะเป็นประโยชน์ในการอา่ นขั้นสงู คอื การอ่านวเิ คราะห์และตคี วามตอ่ ไป
รายการอา้ งองิ
ฐิติรัตน์ ลดาวัลย์, ม.ล. (๒๕๕๖). “การอ่านจับใจความส�ำคัญ,” การใช้ภาษาไทย. (พิมพ์ครั้งท่ี ๕).
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ คณะศลิ ปศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย. หนา้ ๔๗ - ๕๘.
ดาวรตั น์ ชทู รพั ย์. (๒๕๔๗). หนงึ่ รอ้ ยพนั ผสาน. กรุงเทพมหานคร : บรษิ ทั นิพลฟิลม์ จำ� กัด.
ถนอมวงศ์ ลำ�้ ยอดมรรคผล. (๒๕๖๑). การอ่านใหเ้ ก่ง. (พิมพค์ รั้งท่ี ๑๗). นนทบุรี: ภาพพมิ พ์.
รตั นา ชาฤทธิ์. (๒๕๔๖). “มลู สถานแหง่ ราชวงศ,์ ” ภาษาไทยวนั นี้ เล่ม ๗. กรุงเทพมหานคร : โรงพมิ พค์ ุรุสภา
ลาดพร้าว, หน้า ๑๗๑ - ๑๗๓.
ราตรี ธนั วารชร. (๒๕๔๒). “การเขียนยอ่ หนา้ ,” การใช้ภาษาไทย ๑. (พิมพค์ รั้งที่ ๓). มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คณะศลิ ปศาสตร์ ภาควิชาภาษาไทย. หน้า ๗๕ - ๙๕.
ส.พลายนอ้ ย. (๒๕๖๐). เกดิ ในเรือ. กรงุ เทพมหานคร : พิมพ์คำ� .
คู่มอื การด�ำ เนนิ งานขับเคล่ือนสู่ความสำ�เร็จ 55
ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
คณะผจู้ ัดท�ำ
ท่ปี รกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน
นายอมั พร พินะสา รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
นางเกศทิพย์ ศภุ วานิช ผอู้ �ำนวยการสำ� นักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
นางสาวรัตนา แสงบวั เผอื่ น
ผู้ประสานการจดั ท�ำตน้ ฉบบั และเรียบเรยี ง สถาบันภาษาไทย ส�ำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
นางสาวดวงใจ บญุ ยะภาส
นางสาวเสาวลกั ษณ์ วรวิเศษ สถาบนั ภาษาไทย ส�ำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา
คณะบรรณาธกิ าร
นางสาวดวงใจ บญุ ยะภาส สถาบันภาษาไทย สำ� นักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวพชั รา ตระกลู สริ ิพนั ธ์ุ สถาบันภาษาไทย สำ� นกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวเสาวลักษณ์ วรวิเศษ สถาบนั ภาษาไทย สำ� นกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
นางสาวอมราลกั ษณ์ วัฒนาปยิ รมย ์ สถาบันภาษาไทย ส�ำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา
นายธนา เขอื่ นแกว้ นกั ศกึ ษาฝึกประสบการณ์วชิ าชีพ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั บุรีรมั ย์
นางสาวขนิษฐา สกุลจร นักศึกษาฝกึ ประสบการณว์ ิชาชีพ มหาวิทยาลยั ราชภัฏบุรรี มั ย์
นางสาวปฏญิ ญา รอดรศั มี นกั ศึกษาฝึกประสบการณว์ ิชาชพี มหาวทิ ยาลัยมหาสารคาม
นางสาวสโรชา เขตนาวัง นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชพี มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม
56 ค่มู ือการด�ำ เนนิ งานขบั เคลอ่ื นสคู่ วามสำ�เร็จ
ในการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นการสอนภาษาไทย ปงี บประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
สถาบนั ภาษาไทย
สำานกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา
สาำ นักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน