1.2.1รายงานการออกแบบหน่วยการเรียนรู้

บนั ทึกขอ้ ความ

สว่ นราชการ โรงเรยี นวัดผาสกุ าราม(สุวรรณวทิ ยาคาร)

ที่ พิเศษ / 2562 วนั ท่ี ๙ พฤษภาคม 2562

เรอื่ ง รายงานการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้

............................................................................................................................. ......................................

เรยี น ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนวัดผาสกุ าราม(สุวรรณวิทยาคาร)

ตามท่ขี ้าพเจา้ นางสาวสวุ รยี ์ จึงเจรญิ รัตน์ ตำแหน่งครู โรงเรยี นวดั ผาสุการาม(สวุ รรณวิทยาคาร) ตำบล
หนองขา้ งคอก อำเภอเมือง จงั หวัดชลบุรี ได้รับมอบหมายใหท้ ำหนา้ ทีค่ รปู ระจำชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 6 และได้
สอนในรายวิชา ท14101 วชิ าภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 ประจำปีการศึกษา 2562 ไดด้ ำเนนิ การ
ออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ วชิ า ท14101 วิชาภาษาไทย จึงไดท้ ำการประเมนิ หลักสูตรดงั กล่าว

บดั นไ้ี ด้ดำเนนิ การออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ รายวิชา ท14101 วิชาภาษาไทย เพื่อพฒั นาการเรยี นรู้
เรียบรอ้ ยแลว้ และไดท้ ำการสรุปผลตามเอกสารที่แนบมาน้ี

จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดทราบ

ลงชื่อ
(นางสาวสวุ รีย์ จึงเจรญิ รตั น์)

ความคิดเหน็ ของผู้บรหิ าร
............................................................................................................................. .......................................................
....................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................................
............................................................................................................................. .......................................................

ลงชอ่ื ...................................................
(นางบุญนภสั บุญไทร)

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนวัดผาสุการาม(สวุ รรณวิทยาคาร)

คำนำ

รายงานฉบบั นี้ จัดทำขน้ึ เพื่อเก็บรวบรวมการออกแบบหน่วยการเรยี นรู้ เพ่ือการจดั การเรียนการสอนให้
สอดคลอ้ งกับความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล ให้ผู้เรยี นมีการเรียนร้อู ยา่ งเต็มตามศักยภาพจากกระบวนการจดั การ
เรียนรู้

การออกแบบหนว่ ยการเรียนรจู้ ากการศึกษาและทำความเขา้ ใจในหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั
พื้นฐาน พทุ ธศักราช 2551 เป็นเบื้องตน้ แล้วว่า เป้าหมายของชาตนิ ั้นต้องการพฒั นาผเู้ รยี นอยา่ งไร และทา่ นเป็น
ครผู ู้สอนกลุม่ สาระการเรียนรู้อะไร ตอ้ งทำความเขา้ ใจอย่างถอ่ งแทใ้ นธรรมชาติของวชิ าน้นั ๆ โดยทำการศึกษา
ลกั ษณะของมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชี้วัด แล้วนำมาวิเคราะหม์ าตรฐานและตวั ชี้วดั ของกลุ่มสาระการเรียนรทู้ ี่
ตนเองรับผดิ ชอบอยา่ งถกู ต้อง โดยทำความเขา้ ใจวา่ มาตรฐานและตวั ชี้วดั ตอ้ งการใหน้ ักเรยี นรู้อะไร ทำอะไรได้
จงึ จะทำใหส้ ามารถจัดการเรียนการสอนเพือ่ พานกั เรยี นใหไ้ ปถึงเป้าหมายได้

เพื่อคุณภาพทด่ี ีในการจดั การเรยี นการสอนใหต้ อบสนองความแตกต่างของผเู้ รยี น และสนบั สนุนใหผ้ เู้ รยี น
มกี ารพัฒนาได้อย่างเหมาะสม เต็มศักยภาพของแตล่ ะบุคคลจงึ ได้จดั ทำรายงานการออกแบบหนว่ ยการเรียนรู้ ที่
เกิดผลทด่ี ีต่อการจัดการเรียนการสอน

นางสาวสวุ รยี ์ จึงเจรญิ รตั น์
ครผู สู้ อน

รายงานการออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้
ปกี ารศึกษา 2562

_____________________________________________________________________

การออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้

จากการศึกษาและทำความเข้าใจในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 เป็น
เบื้องต้นแล้วว่า เป้าหมายของชาตินั้นต้องการพัฒนาผู้เรียนอย่างไร และท่านเป็นครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้
อะไร ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ในธรรมชาติของวิชานนั้ ๆ โดยทำการศึกษาลักษณะของมาตรฐานการเรียนรู้
และตัวช้ีวดั แลว้ นำมาวิเคราะหม์ าตรฐานและตวั ช้วี ดั ของกลุ่มสาระการเรียนรู้ท่ีตนเองรับผิดชอบอย่างถูกตอ้ ง โดย
ทำความเข้าใจว่า มาตรฐานและตัวชี้วัดต้องการให้นักเรียนรู้อะไร ทำอะไรได้ จึงจะทำให้สามารถจัดการเรียน
การสอนเพื่อพานกั เรยี นให้ไปถงึ เปา้ หมายได้

การออกแบบหน่วยการเรียนรมู้ ีอยู่ 3 ขั้นตอน ดังนี้
ขน้ั ตอนท่ี 1 การกำหนดเป้าหมายการเรยี นรู้
เปา้ หมายของหน่วยการเรียนรู้ คอื มาตรฐานและตัวชีว้ ดั ซงึ่ แต่ละหนว่ ยการเรยี นร้จู ะมมี าตรฐาน/ตัวชี้วัด

ตั้งแต่ 1 ตัวชี้วัดขึ้นไป แต่ไม่ควรมากเกินไป ควรมีตัวชี้วัดที่หลากหลายทั้งมาตรฐานที่มีลักษณะของเนื้อหา และ
กระบวนการเรียนรู้ เพื่อช่วยให้การจัดการเรียนการสอนมีความหมายต่อนักเรียน สามารถสร้างความคิดรวบยอด
ได้ ซงึ่ มาตรฐาน/ตวั ชีว้ ัดอาจเปน็ กลมุ่ เดียวกันหรือต่างกลุ่มสาระได้

เลือกมาตรฐาน/ตัวชี้วัดที่จะสอนในหน่วยการเรียนรู้ได้แล้ว ก็แสดงว่าได้กำหนดเป้าหมายการเรียนรู้ของ
หน่วยนั้นแล้ว ต่อมาครูต้องวิเคราะห์หาคำสำคัญในตัวชี้วัดว่าต้องการให้นักเรียนรู้อะไร ทำอะไรได้ แล้วทำการ
สังเคราะห์เป็นแก่นความรู้หรอื เรยี กว่า Concept ของหน่วยน้ันในลกั ษณะท่ีนักเรียนเข้าใจ

องคป์ ระกอบของเปา้ หมายการเรียนรู้ ไดแ้ ก่ ความคิดรวบยอด (สาระสำคญั ) มาตรฐาน/ตวั ช้วี ดั สาระการ
เรียนรู้ สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน และคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์

ขนั้ ตอนที่ 2 การกำหนดหลักฐาน/ร่องรอยการเรียนรู้
การกำหนดหลักฐาน/ร่องรอยการเรียนรู้ ก็คือกำหนดชิ้นงาน/ภาระงานและการประเมิน ซึ่งครูผู้สอน
จะต้องนำมาตรฐาน/ตัวชี้วัด จากเป้าหมายการเรียนรู้ในหน่วยมากำหนดชิ้นงาน/ภาระงานที่จะให้นักเรียนได้
แสดงออกตามเป้าหมายที่กำหนด หรืออาจให้นักเรียนร่วมกำหนดขึ้นได้ ซึ่งต้องสอดคล้องกับมาตรฐาน/ ตัวชี้วัด
ครูผู้สอนต้องทำการประเมินว่าชิ้นงาน/ภาระงานที่ผู้เรียนแสดงออกมีคุณภาพหรือไม่ โดยกำหนดประเด็นการ
ประเมินเป็นมิติ หรือเป็นระดับคณุ ภาพวา่ ผ้เู รียนมีคณุ ภาพอยใู่ นระดบั ใด

ช้ินงาน/ภาระงาน
ชิ้นงาน มีลักษณะเป็นผลงานที่ผู้เรียนแสดงออกมาโดยผ่านงานเขียนต่าง ๆ เช่น คัดลายมือ เรียงความ
จดหมาย บทความ สารคดี โคลง/กลอน คำขวัญ บรรยายภาพ เขียนสร้างสรรค์ รายงาน บันทึกการทดลอง หรือ
บนั ทกึ ต่าง ๆ หนงั สือเลม่ เลก็ แผนภมู ิ แผนภาพ ภาพวาด กราฟ ตาราง ประตมิ ากรรม สิ่งประดิษฐ(์ งานประดิษฐ์)
งานแสดงนิทรรศการ หนุ่ จำลอง แฟ้มสะสมงาน เป็นตน้
ภาระงาน มลี กั ษณะเปน็ การแสดงออกหรือพฤติกรรมของผู้เรียนทแี่ สดงออกมาโดยผ่านการพดู การแสดง
การเล่น เช่น การพูดในลักษณะในโอกาสต่างๆ การรายงานปากเปล่า การนำเสนอ การอภิปราย การอ่าน การ
กลา่ วรายงาน โต้วาที การรอ้ งเพลง เล่นดนตรี การแสดงละคร แสดงนาฏศลิ ป์ การเคล่อื นไหวร่างกาย การเล่น
กฬี า การแสดงบทบาทสมมตุ ิ การทดลอง เปน็ ต้น
และยังมีงานในลักษณะผสมผสานกันระหว่างชิ้นงาน/ภาระงาน เช่น โครงงาน การทดลอง การสาธิต
ละคร วีดิทศั น์ เป็นตน้

การประเมนิ เป็นการตัดสนิ วา่ เมือ่ ผู้เรยี นสร้างช้ินงาน/ภาระงานในลกั ษณะทีเ่ กดิ จากการปฏิบัติกิจกรรม
(Performance tasks) ในขณะเรียนรู้ว่าชิ้นงาน/ภาระงานนั้นมีคุณภาพหรือไม่ การประเมินดังกล่าวจึงต้องใช้
เกณฑ์ที่กำหนดตามธรรมชาติของงานที่ปฏิบัติจึงเรียกว่า เกณฑ์การประเมิน หรือ ระดับคุณภาพ ( rubric) ซึ่งมี
ลกั ษณะดงั นี้

1) มีเกณฑป์ ระเมนิ ทเ่ี ช่อื มโยงกับตวั ชว้ี ัดที่กำหนดในหน่วยการเรียนรู้
2) อธบิ ายลักษณะชนิ้ งานหรือภารงานท่คี าดหวังไดอ้ ยา่ งชดั เจน
3) มคี ำอธบิ ายคุณภาพช้ินงานทช่ี ดั เจนและบ่งบอกคุณภาพงานในแตล่ ะระดับ
ทุกครั้งทจ่ี บการเรยี นรใู้ นแตล่ ะหน่วยการเรียนรู้ ครูผู้สอนจะต้องมีการบันทึกของตนเองวา่ มี
มาตรฐาน/ตัวชี้วัดในรายวิชาที่ครูสอนนั้น มีตัวชี้วัดใดบ้างที่สอนแล้วหรือยังไม่ได้สอน และถ้าสอนแล้วมีตัวชี้วัด
ใดบ้างที่นักเรียนผ่านหรอื ไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน ครูผู้สอนก็จะสามารถควบคุมหรือมองเห็นภาพการเรยี นการ
สอนในชั้นเรียนได้ชัดเจนขนึ้ ว่า นักเรียนในช้ันมีความสามารถหรือจะตอ้ งพัฒนาในตวั ชีว้ ดั ใดเพมิ่ เติม

ขัน้ ตอนที่ 3 การกำหนดกิจกรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมการเรียนรู้ ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนา ทำให้ผู้เรียนมีความรู้และ
ทกั ษะตามมาตรฐานและตัวชวี้ ัดทก่ี ำหนดไวใ้ นแตล่ ะหน่วยการเรยี นรู้ รวมทัง้ ชว่ ยในการปลกู ฝังคณุ ธรรม จรยิ ธรรม
และค่านิยมอันพึงประสงค์ที่ต้องการให้เกิดกับผู้เรียน ซึ่งครูผู้สอนอาจจัดขั้นตอนการเรียนการสอนตามรูปแบบ
ทฤษฎี วิธีสอน กระบวนการเรียนรู้ เทคนิคการสอน เทคนิคการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่หลากหลายได้ตาม
ความประสงค์ ถ้าวิธีการดังกล่าวช่วยให้ผู้เรียนบรรลุมาตรฐานและตัวชี้วัดที่กำหนดได้ หลักสำคัญในการจัด
กจิ กรรมการเรยี นรู้ทค่ี รูผู้สอนพึงคำนึง คือ

1) เปน็ กิจกรรมทพ่ี ฒั นาผเู้ รยี นไปสูม่ าตรฐานและตวั ช้ีวดั ท่ีกำหนดไวใ้ นหนว่ ยการเรยี นรู้
2) เป็นกิจกรรมทนี่ ำไปสู่การสร้างชิน้ งาน/ภารงาน ทแ่ี สดงถงึ การบรรลุมาตรฐานและ
ตวั ช้วี ัดของผู้เรยี น

3) สอดคล้องกับความสามารถและธรรมชาติของผู้เรียนเป็นกลุม่ หรือรายบุคคล หรือนักเรียน
พิเศษ

4) เปน็ กจิ กรรมทีผ่ เู้ รยี นมสี ว่ นร่วมในการออกแบบและจดั กิจกรรม
5) กิจกรรมควรมีความหลากหลาย เหมาะสมกบั นักเรยี นและเนอื้ หาสาระ
6) มกี ารสอดแทรกคณุ ธรรม จริยธรรมและค่านยิ มอนั พึงประสงค์
7) ควรจดั กิจกรรมท่ีเชื่อมโยงไปสูช่ วี ติ จริง/ ทอ้ งถนิ่
8) เปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นไดล้ งมือปฏบิ ตั ิจรงิ
9) ช่วยใหผ้ ู้เรยี นสามารถเขา้ สแู่ หลง่ เรียนร้แู ละเครอื ข่ายการเรยี น
10) ใชเ้ ทคนคิ การจดั การเรยี นรทู้ ี่กระต้นุ การเรยี นรใู้ หก้ ับนักเรยี น
11) การสรุปความรู้ สรา้ งความรู้และขยายความรไู้ ด้ด้วยตนเอง

ออกแบบการเรียนรเู้ ป็นเอกสารหนว่ ยการเรียนรูท้ ชี่ ดั เจน ซึ่งมีลกั ษณะสำคญั ขององค์ประกอบหน่วย
การเรยี นรู้ ดังนี้

1) ช่ือหน่วยการเรียนรู้
2) มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้วี ดั
3) สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
4) สาระการเรียนรู้

-สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
-สาระการเรยี นรู้ท้องถิ่น (ถา้ มี)
5) สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน
6) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
7) ชิ้นงาน/ภาระงาน
8) การวดั และประเมินผล
9) กิจกรรมการเรียนรู้
10) เวลาเรยี น/จำนวนชั่วโมง

การเขียนแผนการจดั การเรียนรู้
หลักในการเขียนแผนการจัดการเรียนรู้จะมีลักษณะคล้ายกับการจัดทำหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน

เพียงแต่เป้าหมาย ชิ้นงาน/ภาระงาน การวัดประเมินผล และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นส่วนหนึ่งของหน่วย
การเรียนรู้ และเมื่อสอนครบทุกแผนแล้วจะต้องชว่ ยให้ผู้เรียนบรรลุมาตรฐาน/ตัวชี้วัด ซึ่งเป็นเป้าหมายของหน่วย
การเรียนรู้ และสามารถทำชิน้ งาน/ภาระงานรวบยอดของหน่วยนั้น ๆ ได้

แผนการจดั การเรยี นรู้หรือแผนการสอน เปน็ เอกสารสำคัญที่ครูผู้สอนต้องจัดทำขึ้นไวล้ ่วงหน้าก่อนสอน
เสมอ เพื่อวางแผนการสอนและเตรียมการสอน และขณะที่สอนหรือจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามที่กำหนดไว้ ซึ่ง
ครูผู้สอนแตล่ ะคนเปน็ บุคคลสำคัญท่ีจะต้องออกแบบกจิ กรรมการเรียนรแู้ ละลงมอื เขียนแผนการจัดการเรียนรู้ด้วย

ตนเอง ในปัจจุบันนี้ แผนการจัดการเรียนรู้ควรเน้นการสร้างองค์ความรู้ ซึ่งหมายความว่า นักเรียนต้องสร้าง

ความรู้ด้วยตนเอง เน้นทักษะการคิดของนักเรียนให้มากขึ้น จึงเรียกได้ว่าเป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียน

เปน็ สำคญั

รูปแบบของการเขียนแผนการสอน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

ไม่ได้กำหนดไว้เป็นรูปแบบตายตัว ขึ้นอยู่กับครูผู้สอนจะเขียนตามรูปแบบที่มีความถนัดและตามความเข้าใจเดิม

แตไ่ ม่วา่ จะเขยี นในลักษณะใดกต็ าม ควรมอี งคป์ ระกอบสำคญั ของแผนการสอน ดังนี้

1. สาระสำคญั
2. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
3. ทักษะการคิด (นำไปส่)ู สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น
4. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
5. สาระการเรียนรู้
6. กจิ กรรมการเรยี นรู้
7. ส่อื /แหลง่ เรียนรู้
8. การวดั / ประเมินผล
9. เกณฑ์การประเมินผล
10.ภาคผนวก (ถ้ามี)

ข้าพเจ้าได้ออกแบบหนว่ ยการเรยี นรู้ประจำปกี ารศกึ ษา 2562

วชิ า ภาษาไทย รหสั ท14101 ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เวลา 160 ชว่ั โมง
สาระสำคัญ
ลำดบั ช่อื หน่วยการ มาตรฐานการ เวลา นำ้ หนกั
ที่ เรียนรู้ เรียนร้/ู ตวั ช้วี ัด เรียน (คะแนน)
(ชัว่ โมง)

หลักภาษาและการใช้ภาษา การเขียนสะกดคำและบอกความหมาย 11 5
๑ มาตราตวั สะกด ท 2.1ป.4/1 ของคำอยา่ งถูกตอ้ ง การคดั ลายมอื 11 5
ท 3.1 ป.4/2 ตามรูปแบบ การพูดสรุปความจากการ
ป.4/6 ฟัง และดู รวมทั้งมมี ารยาทในการฟงั 11 5
ท 4.1ป.4/1 และดู ช่วยใหก้ ารสอ่ื สารสมั ฤทธิ์ผล
การสะกดคำ และบอกความหมาย
๒ อกั ษรควบ ท 1.1ป.4/1 ของคำ ช่วยให้การอ่านออกเสียงบท
อักษรนำ ท 2.1 ป.4/6 ร้อยแก้วและ บทรอ้ ยกรองไดถ้ ูกต้อง
การเขียนบนั ทึก และการเขียน
ป.4/8 รายงานการศึกษาคน้ ควา้ การพูดเรอ่ื ง
ท 3.1 ป.4/5 ท่ศี ึกษาคน้ ควา้ รวมท้งั การมมี ารยาท
ในการเขยี น มารยาทในการพูด ทำให้
ป.4/6 การใช้ภาษามปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ข้นึ
ท 4.1ป.4/1 การอ่านจับใจความจากส่ือต่างๆ ใน
เวลาทก่ี ำหนด แลว้ ตอบคำถาม
๓ การผัน ท 1.1ป.4/2 อธิบายความหมายของคำ ประโยค
วรรณยกุ ต์ ป.4/3 และสำนวน แยกข้อเท็จจรงิ และ
ป.4/4 ขอ้ คิดเหน็ สรุปความร้แู ละขอ้ คิดจาก
ป.4/6 เรอื่ ง เพ่ือนำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั
ป.4/7 อ่านหนังสือทม่ี คี ุณคา่ ตามความสนใจ
ป.4/8 อยา่ งสมำ่ เสมอ และแสดงความ
คิดเห็นเกยี่ วกบั หนงั สือที่อ่าน สะกด
ท 4.1ป.4/1 คำและบอกความหมายของคำใน
บริบทต่างๆ

ลำดับ ชอื่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
ท่ี เรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชีว้ ัด เรยี น (คะแนน)
(ชัว่ โมง)
๔ คำในภาษาไทย ท 2.1ป.4/3
ป.4/4 การมคี วามรูเ้ ร่ือง ชนดิ และหน้าที่ของ 10 4
ป.4/8 คำ การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง

ท 4.1ป.4/2 แผนภาพความคิด และมีมารยาทใน

๕ ประโยค ถ้อยคำ ท 1.1ป.4/4 การเขยี น ชว่ ยพัฒนาการเขียนยอ่
สำนวน ท 2.1 ป.4/5
ป.4/8 ความได้
ท 3.1 ป.4/1
ป.4/3 การเขยี นจดหมายถงึ เพ่ือนและบิดา 11 5
ท 4.1ป.4/4 มารดา อยา่ งมีมารยาทได้นน้ั มาจาก
ป.4/6
การศกึ ษาเร่ืองการแตง่ ประโยคได้

ถกู ต้องตามหลักภาษา และการบอก

ความหมายของสำนวน การพูดแสดง

ความรู้ ความคดิ เหน็ และความรสู้ กึ

จะตอ้ งแยกข้อเท็จจริงและข้อคดิ เหน็

จากเรอ่ื งท่ีอา่ น ฟงั และดู

๖ เคร่ืองหมาย ท 1.1ป.4/1 การอา่ นออกเสียงและการบอก 9 4
วรรคตอน ท 5.1ป.4/3 ความหมายของบทร้อยแก้วและบท 9 4
รอ้ ยกรองท่ีประกอบด้วยอักษรยอ่ และ
๗ คำพ้อง ท 1.1 ป.4/1 เครอื่ งหมายวรรคตอน จะตอ้ งอา่ นให้
ท 4.1ป.4/1 ถูกต้องตามอักขรวธิ ี และสามารถรอ้ ง
เพลงพื้นบา้ นได้
ป.4/3 การสะกดคำและบอกความหมาย
ป.4/5 ของ คำพ้องทอี่ ยู่ในบรบิ ทตา่ งๆ ใช้
ท 5.1ป.4/4 พจนานุกรมค้นหาความหมายของคำ
อ่านออกเสยี งและทอ่ งจำบทอาขยาน
ทเ่ี ปน็ รอ้ ยกรองได้ถูกต้อง และแต่ง
บทร้อยกรองเองได้

ลำดับ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั
ที่ เรียนรู้ เรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั เรยี น (คะแนน)
(ช่ัวโมง)

๘ คำขวัญ ท 1.1 ป.4/5 การเขียนคำขวัญและเขยี นเร่ืองตาม 8 4
ท 2.1ป.4/2 จินตนาการจะต้องใชค้ ำได้ชัดเจนและ

ป.4/7 เหมาะสม สามารถคาดคะเน
ท 4.1ป.4/5
เหตกุ ารณ์จากเรือ่ งท่อี ่านโดยระบุ
ป.4/7
ท 5.1ป.4/3 เหตุผลประกอบ และเปรยี บเทียบ

ภาษาไทยมาตรฐานกับภาษาถน่ิ รวม

ไปถงึ ร้องเพลงพ้ืนบา้ นได้

วรรณคดีและวรรณกรรม ท 1.1 ป.4/1 การอ่านเรื่องส้ันในเวลาท่ีกำหนด 7 3
ป.4/2 ต้องอา่ นออกเสียงได้ถูกต้อง อธิบาย 9 4
๙ ไมอ่ ยากเป็น ป.4/3 ความหมายของคำ ประโยค และ 7 3
ควาย ป.4/6 สำนวน ตอบคำถาม สรปุ ความรู้ และ
ข้อคิดจากเร่ืองที่อ่านเพอ่ื นำไปใช้ใน
ท 4.1ป.4/6 ชวี ิตประจำวัน

๑๐ สงิ โตเจา้ ปัญญา ท 1.1 ป.4/1 การอ่านออกเสยี งบทร้อยแกว้ และ
ป.4/2 บทรอ้ ยกรอง จะต้องอธบิ าย
ป.4/3 ความหมายของคำ ประโยค สำนวน
และสามารถระบุข้อคิดที่ได้จากนิทาน
ท 5.1ป.4/1 เพื่อนำไปปรับใช้ ในชวี ิตจรงิ ได้

๑๑ เล่นกลางแจ้ง ท 1.1 ป.4/1 การอ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและ
ป.4/2 บทร้อยกรอง จะตอ้ งอธิบาย
ความหมายของคำ ประโยค สำนวน
ท 5.1ป.4/2 และสามารถอธิบายข้อคดิ ที่ไดจ้ าก
เรือ่ งที่อา่ นเพื่อนำไปใช้ในชีวติ จรงิ ได้

ลำดับ ชือ่ หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั
ที่ เรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั เรยี น (คะแนน)
๑๒ ตน้ ไม้ (ชวั่ โมง)
ท 1.1 ป.4/1
๑๓ เรื่องของ ป.4/3 การอ่านเร่ืองสั้นต้องอ่านออกเสียง 12 5
มา่ เหม่ียว ป.4/5 บอกความหมายให้ถกู ต้อง จับใจความ
ป.4/6 เร่ืองที่อ่าน และอา่ นในเวลาที่กำหนด
๑๔ บ้านพิลึก พรอ้ มท้ังตอบคำถามจากเร่อื งทอ่ี ่าน
ท 2.1ป.4/2 คาดคะเนเหตกุ ารณ์ ระบุความรแู้ ละ
ป.4/8 ขอ้ คิดเพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั
รวมทั้งเขียนคำขวัญโดยใชค้ ำได้
ท 3.1ป.4/6 ถูกต้อง ชดั เจน และเหมาะสม
ตลอดจนมีมารยาทในการเขยี น
ท 1.1 ป.4/1
ป.4/2 การอ่านวรรณกรรมเรื่อง เร่ืองของ 8 3
ป.4/3 มา่ เหมยี่ ว ต้องอา่ นออกเสียง บอก
ป.4/6 ความหมายของคำและสำนวนให้
ป.4/8 ถกู ต้อง จับใจความสำคญั จากเรือ่ งที่
อา่ น และอ่านตามเวลาที่กำหนด
ท 5.1ป.4/2 พร้อมทั้งตอบคำถามจากเร่ืองท่อี ่าน
สรุปความรู้และข้อคิดเพ่ือนำไปใช้ใน
ท 1.1 ป.4/1 ชวี ติ ประจำวนั อธบิ ายข้อคดิ ท่ไี ด้
ป.4/2 จากการอา่ นเพ่ือนำไปใชใ้ นชีวิตจริง
ป.4/3 ตลอดจนมมี ารยาทในการอ่าน
ป.4/6
การอา่ นวรรณกรรมเร่ือง บา้ นพิลึก 9 4
จะตอ้ งอ่านออกเสียง อธิบาย
ความหมายของคำให้ถูกต้อง จบั
ใจความสำคัญของเรอื่ งที่อ่าน พร้อม
ท้ังตอบคำถามจากเร่ืองที่อ่าน สรุป
ความรู้และข้อคดิ เพ่ือนำไปใช้ใน
ชวี ติ ประจำวนั

ลำดับ ชอ่ื หน่วยการ มาตรฐานการ สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั
ท่ี เรียนรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด เรยี น (คะแนน)
(ชั่วโมง)

๑๕ โทรทศั นเ์ ป็นเหตุ ท 1.1 ป.4/1 การอ่านวรรณกรรมเร่ือง โทรทศั นเ์ ป็น 12 5
ป.4/2 เหตุ ต้องอ่านออกเสยี ง อธิบาย
ป.4/3 ความหมายของ คำใหถ้ ูกตอ้ ง จบั
ป.4/6 ใจความสำคัญของเรอ่ื ง ท่ีอ่าน และ
ป.4/7 อ่านในเวลาที่กำหนด พรอ้ มท้ังตอบ
คำถามจากเร่ืองที่อ่าน สรุปความรู้
ป.4/8 และข้อคดิ เพอื่ นำไปใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวนั แสดงความคิดเหน็
เกยี่ วกับเรอ่ื งท่อี ่าน ตลอดจนมี
มารยาทในการอ่าน

๑๖ นางในวรรณคดี ท 1.1 ป.4/1 การอ่านเรื่อง นางในวรรณคดี 16 7
ป.4/2 จะตอ้ ง อา่ นออกเสยี ง อธบิ าย
ป.4/3 ความหมายของคำและสำนวนให้
ป.4/6 ถูกต้อง จบั ใจความสำคัญของเรื่องท่ี
อา่ น และอ่านในเวลาท่ีกำหนด
ท 2.1ป.4/3 พร้อมทง้ั ตอบคำถามจากเร่ืองทอี่ า่ น
ท 5.1ป.4/1 สรปุ ความรู้และข้อคิดเพื่อนำไปใชใ้ น
ชวี ติ ประจำวัน ตลอดจนเขียน
ป.4/2 แผนภาพโครงสร้างจากการอ่าน

รวม ๑๖๐
รวมคะแนนระหวา่ งปี ๗๐

รวมคะแนนระหว่างเรียน ๓๐
รวมคะแนนทั้งหมดของวิชานี้ ๑๐๐