ใหญ่แล้วเครื่องจักรกลนิยมใช้กับผลิตผลที่มีความทนทานต่อการตกกระทบและเก็บเกี่ยวได้พร้อมกันทั้งต้น และเหมาะกับผลิตผลที่เก็บเกี่ยวเพื่อแปรรูปในโรงงาน สำหรับผลิตผลรับประทานสดส่วนใหญ่ยังคง เก็บเกี่ยว ด้วยแรงงานคนอยู่ เนื่องจากเครื่องจักรไม่สามารถแยกแยะความอ่อนแก่ของผลผลิตได้ และการเก็บเกี่ยวไม่ ประณีตเพียงพอ ดังนั้นการเก็บเกี่ยวโดยการใช้เครื่องจักรกลอย่างเดียว จึงนิยมใช้ในผลิตผลพืชไร่ เช่น อ้อย ข้าว และผลิตผลพืชสวนที่เก็บเกี่ยวเพื่อแปรรูปในโรงงานเป็นส่วนใหญ่ เช่น สับปะรด มะเขือเทศ เป็นต้น 3) การเก็บเกี่ยวโดยใช้สัตว์ช่วยเก็บเกี่ยว จากปัญหาในเรื่องแรงงาน และความยากลำบากในการเก็บเกี่ยว ผลผลิตบางชนิด เช่น มะพร้าว ทำให้เกิดธุรกิจการฝึกหัดลิงทางใต้ให้รู้จักปีนต้นมะพร้าว โดยลิงสามารถเลือก ผลที่มี ความบริบูรณ์โดยใช้มือและเท้าบิดก้านผล จนก้านผลขาดและตกลงมายังพื้นดิน เมื่อทำเสร็จต้นหนึ่งก็ สามารถกระโดดข้ามไปเก็บผลิตผลต้นใหม่ได้ เพราะถูกฝึกให้ทำงานและรับประทานอาหารให้เป็นเวลา เช่นเดียวกับคน 5. การจัดการผลิตผลหลังการเก็บเกี่ยว เนื่องจากว่าผลิตผลพืชไร่และผลิตผลพืชสวนมีความแตกต่างกันดังที่ได้กล่าวมาแล้วในหัวข้อ 3 ทำให้การ จัดการหลังการเก็บเกี่ยวผลิตผลทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นจึงขอแยกการจัดผลิตผลหลังการเก็บ เกี่ยวออกเป็น การจัดการหลังการเก็บเกี่ยวผลิตผลพืชไร่และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวผลิตผลพืชสวน การปฏิบัติต่อผลิตผลก่อนการจำหน่ายหรือก่อนการเก็บรักษา 1) ผลิตผลพืชไร่ ผลิตผลพืชไร่ประเภท ธัญพืช และเมล็ดถั่วต่าง ๆ หลังจากที่เก็บเกี่ยวผลผลิตเสร็จแล้ว จะ ทำการตากผลผลิตในแปลงปลูก หรือนำกลับมาตากแดดบนพื้นซีเมนต์ลานบ้านประมาณ 2 - 3 แดด เพื่อทำให้ ผลผลิตแห้ง มีความชื้นภายในเมล็ดต่ำ หลังจากนั้นก็นำผลิตผลมานวดหรือกระเทาะเอาเปลือกออก แล้วทำ ความสะอาดสิ่งที่เจือปนมากับเมล็ดโดยใช้ลมเป่า ถ้าความชื้นของเมล็ดสูงกว่าที่ต้องการก็ให้นำเมล็ดไปตาก แดดหรือเข้าเครื่องอบเมล็ดอีกครั้ง โดยทั่วไปมักลดความชื้นเมล็ดลงมาเหลือประมาณ 12-14 เปอร์เซ็นต์ ซึ่ง ขึ้นอยู่กับชนิดผลิตผล เมื่อผลิตผลแห้งดีแล้วก็จะทำการเก็บรักษาไว้ในฉางเพื่อรอการจำหน่าย หรือบรรจุใส่ กระสอบแล้วขายให้พ่อค้าเพื่อนำไปแปรรูปต่อไป สำหรับผลิตผลพืชไร่บางชนิดที่จำหน่ายในรูปเมล็ดไม่แปรรูป นอกจากต้องเก็บรักษาในสภาพความชื้นสัมพัทธ์ต่ำแล้ว อาจต้องเก็บรักษาในสภาพอุณหภูมิต่ำด้วย เพื่อชะลอ การเสื่อมสภาพเนื่องจากกระบวนการทางชีวเคมีของเมล็ด ทำให้ยืดอายุการเก็บรักษาได้นานขึ้น ขั้นตอนการ ปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวของผลิตผลพืชไร่ประเภทธัญพืช และ เมล็ดถั่วต่างๆ สำหรับยางพารา ต้นยางพาราโดยทั่วไปเปิดกรีดได้เมื่ออายุประมาณ 6 ปี หรือมีเส้นรอบวงมากกว่า 50 ซม. หลังจากได้น้ำยางพาราแล้ว น้ำยางพาราจะถูกนำมาผลิตเป็นน้ำยางดิบ ใช้ในอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ยาง 2 ประเภทหลักคือ น้ำยางข้น (concentrated latex) และยางแห้ง (dry rubber) เช่น ยางแผ่นรมควัน (ribbed smoked sheet) และยางเครพสีขาว (white crepe) เป็นต้น ดังรูปที่ 12.2 แสดงขั้นตอนการผลิตยางข้น ยาง แผ่นรมควัน และยาง เครพสีขาว หลังจากได้น้ำยางสดมาแล้ว น้ำยางสดจะผ่านการกรองแยกสิ่งสกปรกออก หากต้องการทำน้ำยางข้นต้องเติมแอมโมเนีย เตตราเมทิลไทแรมไดซัลไฟด์ และซิงค์ออกไซด์ รักษาสภาพน้ำ ยาง จากนั้นจึงเติมไดแอมโมเนียมไฮโดรเจนฟอสเฟต ทำให้แมกนีเซียมตกลงก้นถัง นำเข้าเครื่องปั่น แยกน้ำ ยางข้น 60 เปอร์เซ็นต์ออกมา รักษาสภาพด้วยแอมโมเนียความเข้มข้น 0.7 เปอร์เซ็นต์ หรือ 0.2 เปอร์เซ็นต์ ร่วมกับสารช่วยเตตราเมทิลไทแรมไดซัลไฟด์ และซิงค์ออกไซด์ การทำยางแผ่นรมควัน ต้องทำให้น้ำยางสดจับตัวเป็นก้อนด้วยกรดฟอร์มิค หรือกรดอะซิติก จากนั้นจึงใช้ จักรรีดยาง รีดยางให้ได้แผ่นหนาประมาณ 2-3 มม. นำมาผึ่งในที่ร่ม จะได้ยางแผ่นดิบ นำมาทำแผ่นยางรมควัน โดยเข้าโรงรมควันอุณหภูมิ 50-60 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4-10 วัน จากนั้นนำมาตรวจจัดชั้นด้วยสายตาและ
บรรจุหีบห่อเพื่อรอจำหน่ายต่อไป สำหรับการทำยางเครพสีขาว ต้องทำให้น้ำยางสดจับต้วเช่นเดียวกับการทำ ยางแผ่นรมควัน แต่ใช้สารจับตัวต่างกัน คือใช้โซเดียมซัลไฟต์ โซเดียมเมตาไบซัลไฟต์ และกรดฟอร์มิคแทน จากนั้นนำมาผ่านเครื่องรีดเครพ จะได้แผ่นเครพเปียก ผึ่งสะเด็ดน้ำ เข้าโรงอบแห้ง จะได้แผ่นเครพสีขาวพร้อม บรรจุหีบห่อรอจำหน่ายต่อไป ปาล์มน้ำมัน จัดเป็นพืชไร่อุตสาหกรรมที่น่าสนใจอีกชนิดหนึ่ง หลังจากเก็บผลปาล์มที่สุกพอดีมา และ รวบรวมเข้าสู่โรงงานสกัดน้ำมันปาล์ม ผลปาล์มจะผ่านการหีบเอาน้ำมันออกจากเปลือกและส่วนเมล็ดใน โดย นำทะลายปาล์มมาอบด้วยไอน้ำที่ความดัน 2.4-3.4 กก./ซม.2 นาน 40-80 นาที เพื่อทำลายและยับยั้งการ ทำงานของเอนไซม์ไลเปส ช่วยให้ผลปาล์มหลุดออกจากทะลายได้ง่ายเมื่อนำเข้านวด สกัดน้ำออกจากผลปาล์ม ได้ง่าย ลดปริมาณน้ำจากผลปาล์มสุก และเพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นเพื่อทำให้แยกกะลาและเนื้อในออกจากกันได้ ง่ายขึ้น ทะลายปาล์มที่ผ่านการอบไอน้ำแล้วจะผ่านการนวดด้วยเครื่องนวด เพื่อนวดผลปาล์มให้ออกจาก ทะลาย ทะลายเปล่าจะถูกส่งไปยังเตาเผา เพื่อทำปุ๋ยประเภทโปแตสเซียม หรือนำไปทิ้ง ผลปาล์มจะถูกส่งไปยัง เครื่องย่อยบดเพื่อย่อยเปลือกออกจากเมล็ด ในขั้นตอนนี้จะได้เมล็ดใน เปลือก และน้ำมันดิบ เมล็ดในจะถูก ส่งไปยังเครื่องตะแกรงเมล็ด เพื่อแยกส่วนของกะลา และเยื่อในออกจากกัน เนื้อในปาล์มจะถูกส่งไปยังเครื่อง อบแห้ง แล้วบรรจุกระสอบจำหน่ายไปยังโรงกลั่นน้ำมันในปาล์มต่อไป 2) ผลิตผลพืชสวน ผลิตผลพืชสวนประเภทผักและผลไม้นั้น มีการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวบางประการที่ แตกต่างจากผลิตผลที่เป็นดอกไม้ สำหรับผลิตผลผักและผลไม้นั้น หลังจากเก็บเกี่ยวแล้วผลิตผลจะถูกรวบรวม และขนส่งมายังโรงคัดบรรจุ ซึ่งภายในโรงคัดบรรจุนี้จะมีการปฏิบัติต่อผลิตผลเพื่อที่จะทำให้ผลิตผลมีคุณภาพดี พร้อมที่จะส่งไปจำหน่ายหรือเก็บรักษาต่อไป โดยมีการปฏิบัติที่สำคัญดังนี้ 2.1) การถ่ายเทผลิตผล เมื่อผลิตผลมาถึงโรงคัดบรรจุจะต้องมีการถ่ายเทผลิตผลออกจากภาชนะบรรจุที่ใส่ ผลิตผลมาจากแปลงปลูก การถ่ายเทผลิตผลออกจากภาชนะบรรจุนี้ต้องทำด้วยความประณีต โดยอาจจะเท กองลงบนพื้น ซึ่งควรเป็นผลิตผลที่ค่อนข้างทนทานต่อแรงตกกระทบ และเป็นผลิตผลที่ต้องทำการตัดแต่งส่วน ที่ไม่ต้องการออกก่อนที่จะทำความสะอาด ในการปฏิบัติการเทกองผลิตผลนั้นควรปฏิบัติด้วยวิธีการที่ทำให้ ผลิตผลมีการเคลื่อนที่น้อยที่สุด แต่ถ้าเป็นผลิตผลที่บอบบางและจำเป็นต้องล้างน้ำอยู่แล้ว ก็ควรใช้วิธีการ ถ่ายเทลงน้ำเพื่อช่วยลดการชอกช้ำของผลิตผล ส่วนผลิตผลที่บอบบางมากและไม่สามารถเทลงน้ำได้ก็ควรใช้ มือหยิบออกจากภาชนะบรรจุ 2.2) การตัดแต่ง ผลิตผลผักและผลไม้บางชนิด เมื่อทำการเก็บเกี่ยวจะมีส่วนที่ไม่ต้องการติดมาด้วย เช่น ผัก ทานใบ ข้าวโพดฝักอ่อน มะม่วง กล้วย เงาะ ลิ้นจี่ ลำใย เป็นต้น ดังนั้นจึงต้องมีการตัดแต่งส่วนที่ไม่ต้องการ ออกไป 2.3) การทำความสะอาด เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากขั้นตอนหนึ่ง เพราะเป็นการกำจัดสิ่งต่าง ๆ เช่น ดิน ฝุ่น และเชื้อโรคที่ติดมากับผลิตผล การทำความสะอาดส่วนใหญ่แล้วใช้น้ำเป็นตัวกลาง โดยน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำ สะอาด ควรมีการเติมน้ำยาซักฟอกลงไปเล็กน้อย และควรเติมคลอรีนลงไปในน้ำและรักษาให้มีความเข้มข้น 50 - 200 ppm หลังจากล้างน้ำแล้วควรผึ่งผลิตผลให้แห้งไม่มีหยดน้ำเกาะ นอกจากการทำความสะอาดด้วย น้ำแล้ว การใช้ลมเป่าทำความสะอาดก็เป็นอีกวิธีการหนึ่ง ส่วนมากใช้กับผลิตผลที่ไม่สามารถล้างด้วยน้ำได้เช่น หอมแดงและกระเทียม หรือใช้ในการไล่แมลงที่อยู่ตามซอกกลีบเลี้ยงมังคุด หรือแมลงที่อยู่ตามร่องหนามของ ทุเรียน 2.4) การคัดเลือก ผลิตผลผักและผลไม้ ที่เก็บเกี่ยวมาแล้วมีมากมายหลายลักษณะปะปนกันมา เช่นมีทั้ง อ่อนและแก่ มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ มีทั้งที่มีตำหนิและไม่มีตำหนิ จึงต้องมีการคัดเลือกผลิตผลที่มี ลักษณะที่ไม่ดีออกไป และคัดเลือกผลที่มีลักษณะใกล้เคียงกันให้อยู่พวกเดียวกัน ผลิตผลที่ได้รับการคัดเลือก
แล้วจะขายได้ราคากว่าผลิตผลที่ขายคละกันไป ซึ่งการคัดเลือกผลิตผลนี้สามารถแบ่งออกเป็นการคัดขนาดและ การคัดคุณภาพ การคัดขนาดนั้นเป็นการคัดเลือกโดยใช้การวัดขนาดและการชั่งน้ำหนักของผลิตผล ส่วนการ คัดคุณภาพเป็นการคัดเลือกในหลายลักษณะประกอบกัน เช่น การคัดคุณภาพโดยพิจารณาจากสี ความอ่อน แก่ และตำหนิที่ปรากฏ 2.5) การบรรจุหีบห่อ การบรรจุหีบห่อผลิตผลผักและผลไม้ ในภาชนะบรรจุชนิดใดขึ้นอยู่กับชนิดของผลิต และการตลาด ผลิตผลที่เป็นพืชหัว เช่น หอม กระเทียม มันฝรั่ง นิยมบรรจุในถุงตาข่าย ส่วนผลิตผลที่ชอกช้ำ ได้ง่าย นิยมบรรจุในลังไม้ ตระกร้าพลาสติก ถาดพลาสติก หรือกล่องกระดาษลูกฟูก การบรรจุหีบห่อผลิตผล เพื่อการขายส่ง มักจะบรรจุในภาชนะขนาดใหญ่ เช่น ลังไม้ ตระกร้าพลาสติก กล่องกระดาษลูกฟูก เข่ง ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ ส่วนการบรรจุผลิตผลเพื่อการขายปลีกจะบรรจุในภาชนะบรรจุขนาดเล็ก เช่น ถาด กระดาษ ถาดพลาสติก หรือถาดโฟมที่ห่อด้วยฟิล์มพลาสติกใส ถุงตาข่าย ถุงพลาสติกเจาะรู การบรรจุหีบห่อ ผลิตผลนั้นควรบรรจุไห้เต็มพอดี ไม่แน่นเกินไปหรือน้อยเกินไป ภาชนะบรรจุต้องมีรูเล็กๆ เพื่อให้มีการระบาย อากาศป้องกันไม่ให้มีการสะสมของแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์และความร้อน ที่เกิดจากการหายใจของผลิตผล 2.6) การลดความร้อน หลังจากที่เก็บเกี่ยวผลิตผลออกจากแปลงปลูก ผลิตผลจะมีอุณหภูมิสูงใกล้ เคียงกับอุณภูมิในแปลงปลูกขณะที่เก็บเกี่ยวผลิตผล ซึ่งการที่ผลิตผลมีอุณหภูมิที่สูงนี้ จะทำให้ผลิตผลมีการ เสื่อมคุณภาพอย่างรวดเร็ว ดังนั้นหลังการเก็บเกี่ยวควรมีการลดอุณหภูมิหรือลดความร้อนของผลิตผลให้เร็ว ที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการปฏิบัตินั้นอาจทำการลดความร้อนขณะขนส่งมายังโรงคัดบรรจุ โดยใช้รถปรับอากาศ หรือรถห้องเย็นในการขนส่ง หรือการลดความร้อนในโรงคัดบรรจุ เช่น การล้างในน้ำเย็น หรือการนำผลิตผลไป เก็บในห้องเย็น หรือใช้ลมเย็นเป่า ในขณะที่รอการขนส่งผลิตผลไปจำหน่าย นอกจากขั้นตอนที่สำคัญเหล่านี้แล้ว ผักและผลไม้บางชนิดยังมีการเคลือบไข (wax) เพื่อทดแทนไข ธรรมชาติที่สูญเสียไปขณะทำการล้างทำความสะอาด ทำให้ผลิตผลมีสูญเสียน้ำน้อย ผิวไม่เหี่ยว นอกจากนี้ ผลิตผลยังมีความเงางาม เป็นที่ดึงดูดใจของผู้บริโภค ผลิตผลที่มีการเคลือบไข ได้แก่ ส้ม แอปเปิล และ มะม่วง เป็นต้น ขั้นตอนการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวของผลิตผลผักและผลไม้
แบบฝึกหัดท้ายบทหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 1. จงบอกความหมายของการเก็บเกี่ยวผลผลิต ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 2. จงอธิบายวิธีการเก็บเกี่ยวมาพอเข้าใจ …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 3. ผักและผลไม้บางชนิดเคลือบไข (wax) เพื่ออะไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 4. นักเรียนคิดว่าการจัดการเก็บเกี่ยวผลผลิตมีประโยชน์อย่างไร ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………….. 5. ถ้านักเรียนต้องการบรรจุหีบห่อผลไม้ประเภทส้มเพื่อส่งออกต่างจังหวัด ควรบรรจุหีบห่ออย่างไร เพราะ อะไร …………………………………………………………………………………………………………………………………………………….…… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………..……… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 การจัดจำหน่ายและทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย สาระสำคัญ การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย คือ การรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายการค้าของกิจการ ฟาร์มบันทึกใน รูปตัวเงิน จำแนกหมวดหมู่ สรุปผล และจัดทารายงานทางการเงิน เพื่อใช้ประโยชน์ใน การตัดสินใจดำเนินการ แก้ปัญหาของฟาร์มและช่วยปรับปรุงการดำเนินกิจการฟาร์มให้ได้ผลิต สมรรถนะประจำหน่วย แสดงความรู้เกี่ยวกับการจัดจำหน่ายและทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย จุดประสงค์การเรียนรู้ประจำหน่วย จัดจำหน่ายและทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เนื้อหาสาระ การบันทึกรายรับ-รายจ่าย ตอนที่ 1. การบันทึกการปฏิบัติงาน 1. การบันทึกการปฏิบัติงาน หมายถึง การบันทึกรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติงาน ปัญหาที่พบและวิธีแก้ปัญหา อาจบันทึกเป็นรายวัน หรือรายสัปดาห์ก็ได้ เพื่อนำเป็นหลักฐานไป ประเมินผลงานและปรับปรุงแก้ไขการทำงานในครั้งต่อไป นอกจากนั้นอาจบันทึกข้อมูลรายรับ - รายจ่ายของการปฏิบัติงานไว้เพื่อเป็นข้อมูลในการประเมินผล การปฏิบัติงานเมื่อสิ้นสุดโครงการนั้น ๆ ประโยชน์ของการบันทึกการปฏิบัติงาน การบันทึกการปฏิบัติงาน เป็นสิ่งจำเป็นมากในการดำเนินกิจการปลูกพืชสมุนไพร เพราะ ก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการพอสรุปได้ดังนี้ 1. ช่วยบันทึกความทรงจำว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้างระหว่างการปฏิบัติงาน 2. เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผนการปฏิบัติงาน 3. เพื่อใช้เป็นข้อมูลฐานะทางการเงินของกิจการ 4. เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประเมินผลการดำเนินงาน 5. ช่วยพัฒนานิสัยในการทำงานอย่างเป็นระบบและมีระเบียบแบบแผน 1) การบันทึกทรัพย์สิน หนี้สิน เป็นการบันทึกรายการทรัพย์สินต่าง ๆ เช่น ที่ดิน, เครื่องมือ, เครื่องจักรกลต่าง ๆ , อุปกรณ์ การเกษตรต่าง ๆ , ปุ๋ย, ปัจจัยการผลิตอื่น ๆ , จำนวนผลผลิต, ผลผลิตที่คงเหลือ ตลอดจนหนี้สินต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในการดำเนินการผลิต ในการบันทึกทรัพย์สิน - หนี้สินต่าง ๆ เพื่อจะนำไปใช้ในการสรุปฐานะ ทางการเงินและเป็นข้อมูลที่จะใช้ในการคำนวณหารายได้สุทธิต่อไป 2) การจดบันทึกการปฏิบัติงาน
เป็นการบันทึกข้อมูลในด้านการผลิต ที่สำคัญได้แก่ 2.1 พันธุ์ บันทึก ชื่อพันธุ์ การคัดพันธุ์ การเตรียมพันธุ์ รวมถึงรายละเอียดต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อ เปรียบเทียบ เพื่อหาลักษณะ วิธีการที่เหมาะสมและให้ผลดีที่สุดในท้องถิ่นของตน วิธีการเก็บเกี่ยว โรคแมลง ศัตรูพืชอื่น ๆ เพื่อพิจารณาการปลูกครั้งต่อไป 2.2 ความอุดมสมบูรณ์ของดิน เช่น ผลการทดสอบดิน รวมทั้งชนิดและปริมาณปุ๋ยที่ใช้ ความเป็นกรดเป็นด่างของดินเพื่อ ป้องกันและหาวิธีการปรับปรุงรักษาดินให้สมบูรณ์และรักษาความสมดุลของธาตุอาหารตลอดไป 2.3 ผลผลิต เป็นรายงานปริมาณของผลผลิตที่ส่งจำหน่ายทั้งตลาดบริโภค และส่งจำหน่ายตลาด อุตสาหกรรม เพื่อเป็นแนวในการวางแผน กำหนดจำนวน และขนาดของพื้นที่ในการผลิตครั้งต่อไปได้ อย่างถูกต้อง 2.4 สภาพแวดล้อม เป็นข้อมูลทั่วๆ ไปของสภาพแวดล้อมในการปลูกในขณะนั้นได้แก่ ปริมาณน้ำฝน การกระจาย ตัวของฝน สภาพแสง อุณหภูมิสูงสุด-ต่ำสุด ทิศทางลม กระแสลม รวมถึงโรค-ศัตรูอื่น ๆ มาตรการการ ป้องกันกำจัด ปริมาณผลผลิตที่ได้คุ้มค่ากับการลงทุนหรือไม่ และเพื่อหาวิธีการปรับปรุงในการปลูกครั้ง ต่อไป 2.5 การตลาด ถือเป็นหัวใจที่มีความสำคัญและจำเป็นมาก ที่ผู้ผลิตควรรับทราบข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การตลาด เช่น แหล่งรับซื้อ พ่อค้าคนกลาง ความเคลื่อนไหวที่เกี่ยวกับปริมาณและราคาของผลผลิตใน แต่ละช่วงของปี การบันทึกข้อมูลดังกล่าวนี้จะเป็นข้อมูลพื้นฐานอย่างหนึ่ง ที่จะช่วยในการตัดสินใจ เกี่ยวกับการจัดระบบการปลูกพืช การปรับปรุงดินบำรุงดินต่าง ๆ ตลอดจนช่วงเวลาที่เหมาะสมในการ ที่จะปลูกพืชในปีต่อไป 3. แนวทางการจดบันทึกการปฏิบัติงานในการปลูกพืชสมุนไพร ในการดำเนินการปลูกพืชสิ่งที่ต้องทำการจดบันทึกขณะปฏิบัติงานคือ 1. ข้อมูลเกี่ยวกับพืชสมุนไพรที่ปลูก ชื่อ พันธุ์ สภาพสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสมกับการปลูก การปลูก การปฏิบัติดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว การเก็บรักษาและการจำหน่าย เพื่อให้ผู้ปลูกรับทราบและเป็น แนวทางในการปฏิบัติต่อไป 2. การจดบันทึกการปฏิบัติงานทุก ๆ ขั้นตอนที่ได้ปฏิบัติในการปลูกพืช จนถึงการเก็บเกี่ยวและการ จำหน่ายผลผลิต 3. จดบันทึกค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งในการปลูกใน 1 ฤดูกาล เช่น 1) ค่าพันธุ์พืช 2) ราคาปุ๋ย 3) ยาป้องกันกำจัดศัตรูพืช
4) เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในการปลูกพืช 5) ค่าแรงงาน แล้วจดบันทึกค่าใช้จ่ายรวมยอดไว้ 4. จดบันทึกผลผลิตที่ได้ในการปลูกใน 1 ฤดูกาล เช่น 1) ผลผลิตจำนวนกี่กิโลกรัมต่อเนื้อที่ 1 แปลง 2) ในการนำไปจำหน่ายได้กิโลกรัมละเท่าไร 3) ขายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมและขายให้กับตลาดบริโภคสดในอัตราร้อยละเท่าไร 5. นำเงินทุนและรายได้นำไปคำนวณหาผลกำไร ตอนที่ 2. การทำบัญชี การทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย หมายถึง การจดบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเงินหรือ อย่างน้อยที่สุดบางส่วนเกี่ยวข้องกับการเงิน โดยผ่านการวิเคราะห์ จัดประเภทและบันทึกไว้ใน แบบฟอร์ม ที่กำหนดเพื่อแสดงฐานะการเงิน และผลการดำเนินงานของกิจการในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ประโยชน์ของการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย 1. เป็นหลักฐานประกอบการดำเนินกิจการ เพื่อให้ทราบว่ามีทรัพย์สิน หนี้สิน และเงินทุนเป็นจำนวน เท่าใด 2. เป็นหลักฐานในการตรวจสอบ ตัวเงินสดกับยอดบัญชีว่าถูกต้อง หรือมีข้อผิดพลาดอย่างไร 3. เป็นสถิติช่วยในการบริหาร การควบคุม การทำงบประมาณ เพื่อให้ผลงานมีประสิทธิ ภาพดียิ่งขึ้น 4. ช่วยเป็นหลักฐานในการบริหารงาน เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่เกิดขึ้นอีก 5. ช่วยในการคำนวณผลการดำเนินงานว่ามีกำไรหรือขาดทุนอย่างไร 6. ช่วยให้ทราบฐานะทางการเงินของกิจการว่า ทรัพ์สิน หนี้สิน และเงินทุนในขณะใดขณะ หนึ่ง เป็น จำนวนเท่าใด สรุป การจดบันทึกการปฏิบัติงานและการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย เป็นการช่วยความทรงจำ และถ้า มีการจดบันทึกกิจการต่าง ๆ อย่างมีระบบ การลงบัญชีที่ดี มีความเข้าใจในการจดบันทึก และการสรุป ข้อมูลให้เหมาะสมแล้ว สามารถนำข้อมูลที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจทำการปลูกพืชให้ สอดคล้องกับความต้องการของตลาด แนวโน้มของราคา ตลอดจนเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มีผลกระทบต่อ การดำเนินกิจกรรมได้อย่างเหมาะสมยิ่งขึ้น ทำให้ผู้ผลิตทราบได้ว่ากิจการของตนเป็นอย่างไร และ วิธีการอย่างหนึ่งที่จะแสดงฐานทางการเงินและผลการดำเนินงานว่ามีรายรับ-รายจ่ายอย่างไร ช่วยใน การประเมินผลการดำเนินงานว่ามีกำไร หรือขาดทุนอย่างไรอีกด้วย รูปแบบการบันทึกการปฏิบัติงานและการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การบันทึกการปฏิบัติงานและการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย อาจบันทึกในหัวข้อต่อไปนี้
1. การบันทึกเกี่ยวกับการใช้เครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ เพื่อจะได้ทราบว่าในการผลิตพืชสมุนไพร จำเป็นต้องใช้เครื่องมือ และวัสดุอุปกรณ์อะไรบ้าง จำนวนเท่าใด ถ้าจำเป็นจะต้องซื้อจะเสีย ค่าใช้จ่ายมากน้อยเพียงใด แบบรายการเครื่องมือและวัสดุอุปกรณ์ ลำดับที่ รายการ จำนวนหน่วย ราคา/หน่วย หมายเหตุ บาท สต. 2. การบันทึกการปฏิบัติงานปลูกพืชสมุนไพร เป็นการบันทึกข้อมูลในการปฏิบัติงาน เพื่อจะได้ทราบ ว่าการปฏิบัติงานในแต่ละวันหรือแต่ละสัปดาห์มีงานอะไรบ้าง มีปัญหาในการดำเนิน งานอย่างไร และได้แก้ปัญหานั้นอย่างไรควรมีการลงชื่อผู้ปฏิบัติงานด้วย แบบบันทึกการปฏิบัติงาน วัน เดือน ปี งานที่ ปฏิบัติ ปัญหาและ อุปสรรค ข้อเสนอแนะ และ การแก้ไข ผู้ปฏิบัติ งาน ผู้ตรวจ/ครู/ ผู้ปกครอง
3. การบันทึกบัญชึรายรับ-รายจ่าย การบันทึกรายรับและรายจ่ายนับว่ามีความสำคัญ เนื่องจากเป็น แหล่งข้อมูลที่ต้องการใช้ในการกำหนดรายได้-รายจ่าย, การจัดทำแผนและงบประมาณ รวมถึงการ กำหนดราคาขายด้วย แบบบัญชีรายรับ-รายจ่าย วันเดือนปี รายรับ จำนวนเงิน วันเดือนปี รายรับ จำนวนเงิน บาท สต. บาท สต. แบบฟอร์มบัญชีเงินสด วันเดือนปี รายการ รายรับ รายจ่าย คงเหลือ บาท หมายเหตุ บาท สต. บาท สต.