40 1.2 หาค่าอำนาจจำแนก (r) เป็นรายข้อ โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ 1.3 หาค่าความเชื่อมั่นของผู้ให้คะแนนทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ซึ่ง คำนวณหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบครอนบัค โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ 2. สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการบรรยาย ททข้อมูล สถิติพื้นฐานในการบรรยายข้อมูลใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติ ประกอบด้วย 2.1 ค่าเฉลี่ย (Mean) 2.2 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Diviation) 3. สถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐาน ผู้วิจัยได้วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปทางสถิติในการเปรียบเทียบ ทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมแบบทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ก่อน และหลังการจัดกิจกรรมด้วยการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t-test for Dependent Sample)
41 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล สัญลักษณ์ที่ใช้ในการเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูล สำหรับการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยกำหนดสัญลักษณ์และอักษรย่อที่ใช้ในการวิเคราะห์และแปล ข้อมูล ดังนี้ N แทน จำนวนเด็กปฐมวัยในกลุ่มตัวอย่าง x̅ แทน ค่าเฉลี่ย S.D. แทน ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน T แทน ค่าสถิติพื้นฐานใน t-distribution ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้เสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลำดับ ดังนี้ 1. วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบประเมินทักษะสมอง EFสำหรับเด็กปฐมวัย โดยนำข้อมูลไปหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) 2. นำคะแนนที่ได้จากการทดสอบมาเปรียบเทียบกันระหว่างก่อนและหลังการทดลอง โดยการใช้การทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t-test Dependent Sample) 1. ค่าสถิติพื้นฐานการพัฒนาทักษะทางสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย ผู้วิจัยได้นำคะแนนทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยก่อน และหลังการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มาหาค่าสถิติพื้นฐาน คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของคะแนนปรากฏดังแสดงใน ตารางที่ 4
42 ตารางที่ 4 ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลัง การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ระยะการจัดกิจกรรม N x̅ S.D. ก่อนการจัดกิจกรรม 27 21.30 2.52 หลังการจัดกิจกรรม 27 36.56 3.73 จากตารางที่ 4 พบว่า คะแนนทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยก่อนได้รับการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 21.30 และหลังได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 36.56 ตามลำดับ 2. เปรียบเทียบคะแนนทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ผู้วิจัยได้นำคะแนนทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มาหาค่าสถิติพื้นฐานและ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานมาเปรียบเทียบกันโดยใช้สถิติt-test for Dependent Sample ดังแสดงใน ตารางที่ 5 ตารางที่ 5 การเปรียบเทียบคะแนนทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ระยะการจัดกิจกรรม N x̅ S.D. t ก่อนการจัดกิจกรรม 27 21.30 2.52 34.77* หลังการจัดกิจกรรม 27 36.56 3.73 *มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 จากตารางที่ 5 พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีทักษะสมอง EF หลังการจัดประสบการณ์สสูง กว่าการจัดประสบการณ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05
43 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ การวิจัยครั้งนี้มุ่งศึกษาผลการเปรียบเทียบทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ วัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อเปรียบเทียบทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ก่อนและหลังได้รับการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) สมมติฐานของการวิจัย เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีทักษะสมอง EF หลังจัดการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรม ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1. ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลที่อยู่ในจังหวัดอุดรธานี 2. กลุ่มตัวอย่าง เด็กนักเรียนชาย – หญิง อายุ 4 – 5 ปี กำลังศึกษาอยู่ระดับชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนบ้านหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 จำนวน 27 คน ที่ได้มาโดยการสุ่ม แบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) 2. แบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย
44 การดำเนินการจัดกิจกรรม ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการจัดกิจกรรม ดังนี้ 1. นำแบบประเมินทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยที่ผ่านการวิเคราะห์และปรับปรุง แก้ไขแล้วนำไปประเมินเด็กก่อนจัดกิจกรรม 2. ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) จำนวน 6 หน่วย หน่วยละ 3 แผน รวม 18 แผน เป็นเวลา 6 สัปดาห์ 3. หลังจากดำเนินการทดลองการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ครบตามกำหนดในแผนแล้ว ผู้วิจัยนำแบบประเมินการ พัฒนาทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัยฉบับเดิมไปประเมินเด็กหลังการจัดประสบการณ์ 4. นำคะแนนไปวิเคราะห์ การวิเคราะห์ข้อมูล การวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูล ดังนี้ 1. วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากแบบประเมินการพัฒนาทักษะสมอง EF ของ เด็กปฐมวัยโดยนำข้อมูลไปหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) 2. นำคะแนนที่ได้จากแบบประเมินการพัฒนาทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยมา เปรียบเทียบกันระหว่างก่อนและหลังการทดลองโดยใช้การทดสอบแบบทีแบบไม่อิสระ (t-test Dependent Sample) สรุปผลการวิจัย เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีทักษะสมอง EF หลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 อภิปรายผลการวิจัย จากการวิจัยครั้งนี้พบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีทักษะสมอง EF หลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อน การจัดกิจกรรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ซึ่งสามารถอภิปรายได้ว่าการจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ช่วยส่งเสริมทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัยได้ เนื่องมาจาก แผนการจัดกิจกรรมทั้ง 18 แผน ได้ผ่านการตรวจสอบจาก ผู้เชี่ยวชาญและได้นำไปทดลองใช้เพื่อหาคุณภาพที่เหมาะสม ดังนั้น กิจกรรมตามแผน
45 การจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) จึงสามารถนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมทักษะสมอง EF ของ เด็กปฐมวัยได้อย่างมี ประสิทธิภาพ เนื่องมาจากที่ครูได้นำการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) โดยในการเรียนการสอนครูจะมีการทำการทดลอง กิจกรรมครูให้เด็กสังเกตการทดลองร่วมกันและให้เด็กออกมาลองทำกิจกรรมด้วยตัวเองซึ่งเด็กจะมี การจดจ่อใส่ใจในขณะที่ทำกิจกรรมทดลองและเด็กยังได้ความสนุกสนาน มีความสุขในการทำกิจกรรม ซึ่งก่อนที่จะทดลองครูจะให้เด็กได้บันทึกผลของการทำนายเอาไว้ก่อนแล้วซึ่งเด็กที่ทายผลถูก จะไม่ล้อเลียนเพื่อน เพื่อนที่ทายผลการทดลองผิดเด็กสามารถควบคุมอารมณ์ได้จนจบการทำกิจกรรม และ ในขั้นของการทำนายเด็กยังสามารถที่จะคิดริเริ่มในการทำนายได้เมื่อเห็นอุปกรณ์ในการทดลอง ว่าในการทอลองนี้ผลจะเป็นอย่างไรซึ่งสอดคลองกับทฤษฎีของ เพียเจต์ กล่าวว่าสติปัญญาเป็นผล เนื่องมาจากการที่เด็กได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตัวเองจากกระบวนการเรียนรู้รูปแบบแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) เด็กได้เป็นผู้ลงมือทำกิจกรรมด้วยตัวเอง ดังนั้นความสามารถหรือกระบวนการใน การคิดทักษะสมอง EF ของเด็กจึงเกิดขึ้นจากการลงมือ ปฏิบัติและต่อมาในขั้นอธิบายครูใช้คำถามกระตุ้นเพื่อให้เด็กได้ทบทวนมีการจดจ่อในการค้นหา คำอธิบาย โดยในแต่ละสัปดาห์เด็กจะได้ทำกิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะสมอง EF ทดลอง โดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) มีพื้นฐานแนวคิดจากทฤษฎี วีก็อทสกี้ (Vygotsky) ว่าด้วยการเรียนรู้ว่าเกิดขึ้นในบริบทที่ผู้เรียนสร้าง ความรู้ในขณะที่ได้รับประสบการณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ซึ่งทฤษฎีนี้เกิดจากการสังเกต การเรียนรู้ของเด็กเล็ก ๆ จะสร้างความรู้โดยการมีปฏิสัมพันธ์แบบต่าง ๆ เช่น ดู ฟัง ชิม ดม สัมผัส แสดงว่าเด็กสร้างความรู้ด้วยการมีส่วนร่วมอย่างตื่นตัวกับสถานการณ์จริงในชีวิตและมีปฏิสัมพันธ์ กับสิ่งแวดล้อม เช่น บ้าน โรงเรียน ชุมชน และโลกโดยมีครูคอยกิจกรรมการเรียนรู้ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วม ในการสังเกต คาดคะเนสิ่งที่จะเกิดขึ้นการทำกิจกรรม ให้ผู้เรียนได้สร้างความรู้ด้วยตนเอง ซึ่งได้สอดคล้องกับ พัชรินทร์ ธัมมา (2563) ที่ศึกษาผลของการเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทาง คณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยก่อนและหลังได้รับการจัดกิจกรรม การเล่านิทานเสริมด้วยการสอนตาม รูปแบบ POE ผลการวิจัยพบว่า เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเล่านิทานเสริมด้วยการสอน ตามปแบบ POE มีทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์หลังการจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนการจัดกิจกรรม และสอดคล้องกับ อามีเนาะ ตารีตา (2560) ที่ได้ศึกษาผลของ การจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็น ฐาน ร่วมกับกลวิธี POE ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ และความพึงพอใจ ต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการวิจัย พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่า ก่อนเรียนคะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยร้อย ละ 30.00 และคะแนนหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 66.11 และนักเรียนมีทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์สูงกว่าก่อนเรียน คะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 26.25 และคะแนนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 65.42
46 ข้อเสนอแนะ จากการวิจัยครั้งนี้มีข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ และข้อเสนอแนะในการทำวิจัย ครั้งต่อไป ดังนี้ 1. ข้อเสนอแนะในการนำผลวิจัยไปใช้ 1.1 ผู้ที่มีความประสงค์จะนำการจัดประสบการณ์การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (POE) ไปใช้ควรศึกษาและทำความเข้าใจในทฤษฎี แนวคิดพื้นฐานและ หลักการเป็นอย่างดี เพื่อให้สามารถใช้รูปแบบการจัดการจัดประสบการณ์การจัดประสบการณ์ การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (POE) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเด็กยังไม่สามารถทำนาย ได้ครูควรจะใช้คำถามเพื่อกระตุ้นเด็ก เพื่อให้เด็กได้ทบทวน และพิจารณาเกี่ยวกับการขั้นตอนใน การทำกิจกรรม 1.2 ครูควรระวังการใช้คำถามหรือการสัมภาษณ์ในระหว่างที่เด็กทำกิจกรรมไม่ให้ รบกวนสมาธิเด็กในการทำกิจกรรม หากสังเกตพบว่าเด็กต้องการความช่วยเหลือหรือทำกิจกรรมไม่ เป็นไปตามที่วางแผนครูจึงจะเข้าไปสอบถามและช่วยเหลือเด็ก 1.3 ครูควรมีบทบาทในการดูแลให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำเมื่อเด็กต้องการให้ การเสริมแรงกล่าวคำชมเชยและถ้าเด็กมีปัญหาระหว่างการทำกิจกรรมครูต้องให้ความช่วยเหลือเด็ก 2. ข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป 2.1 ควรมีการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (POE) ต่อความสามารถด้านอื่นๆ เช่น ด้านทักษะทางคณิตศาสตร์เป็นต้น 2.2 ควรมีการศึกษาเพื่อศึกษาการเปรียบเทียบทักษะทางสมอง EF ของเด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (POE) ในระดับชั้นอื่น ๆ ต่อไป
47 บรรณานุกรม
48 บรรณานุกรม กมลรัตน์ คะนองเดชและคณะ. (2565). การจัดประสบการณ์โดยใช้สื่อและของเล่นที่มีต่อทักษะ EF (Executive Functions) ของ เด็กปฐมวัยในโรงเรียนร่วมพัฒนาวิชาชีพครู เขตพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้. คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราฃภัฏยะลา. กระทรวงศึกษาธิการ.(2555.) “หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551”. กรุงเทพฯ : กระทรวงศึกษาธิการ. ----------------------. (2560). หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560. กรุงเทพมหานคร : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย. กาญจนา วงศ์ไชยา. (2558). ผลการจัดกาเรียนรู้แบบทำนาย-อธิบาย-สังเกต-อธิบาย-อภิปราย เรื่อง เซลล์กัลป์วานิกเพื่อพัฒนาทักษะกระบวนกาทางวิทยาศาสตร์สำหรับนักเรียน มัธยมศึกษา ปีที่ 6. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี. คันธรส ภาผล. (2563). ผลการจัดกิจกรรมนิทานหุ่นเงาที่ส่งผลต่อส่งเสริมการคิดเชิงบริหารสมอง สำหรับเด็กปฐมวัย. วารสารครุศาสตร์สาร มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. 14(1). 100-113. พัชรินทร์ ธัมมา. (2563). การเปรียบเทียบทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยกที่ได้รับ การจัดกิจกรรมการเล่านิทานเสริมด้วยการสอนตามรูปแบบ POE. วิทยานิพนธ์ สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์,มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี. ชนาธิป พรกุล. (2554). การสอนกระบวนการคิดทฤษฎีและการนำไปใช้. (พิมพ์ครั้งที่ 2 ). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย. ดุษฎี อุปการและอรปรียา ญาณะชัย. (2561). การเสริมสร้างพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กปฐมวัยควร เลือกใช้หลักการใด: การเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐาน หรือ การคิดเชิงบริหาร. วารสารวิชาการ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยลัยศิลปากร ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ. 11(1). 1641 – 1642. ทวิ้งโค่. (ม.ป.ป.). ทักษะสมอง EF (Executive Functions) คืออะไร ความสำคัญและกิจกรรมพัฒนา ทักษะ EF. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2566. จาก https://www.twinkl.co.th/teaching-wiki. นัชชา แดงงาม และสุระ วุฒิพรหม. (2557). ผลการจัดการเรียนรู้แบบทำนาย–สังเกต–อธิบายร่วมกับ การสาธิตอย่างง่ายต่อความคิดรวบยอดเรื่องการเคลื่อนที่แบบหมุน. วารสารหนวยวิจัยวิทยา ศาสตรเทคโนโลยีและสิ่งแวดลอมเพื่อการเรียนรู้ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์ศึกษา 5(1). 88. นวลจันทร์ จุฑาภักดีกุล. (2560). การพัฒนาและหาค่าเกณฑ์มาตรฐานเครื่องมือประเมินการคิดเชิง บริหารในเด็กปฐมวัย. มหาวิทยาลัยมหิดล: กรุงเทพ.
49 นันทา โพธิ์คํา. (2563). ทักษะสมอง EF สําหรับเด็กปฐมวัย. วารสารมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย วิทยาเขตร้อยเอ็ด. 9(2). 710. ปรีญานันท์พร้อมสุขกุล. (2561). แนวทางการพัฒนาการจัดการเรียนรู้ดนตรีสำหรับเด็กปฐมวัยใน โรงเรียนดนตรีเอกชนนอกระบบ. วารสารวิชาการ วารสารอิเล็กทรอนิกส์ มหาวิทยลัยศิลปากร ฉบับภาษาไทย สาขามนุษยศาสตร์สังคมศาสตร์และศิลปะ. 11(2). 1775- 1792. วภาวิณี รัตนคอน. (2557). การศึกษาเจตคติต่อการเรียนวิชาโครงงานวิทยาศาสตร์ของนักเรียนเพศ ชายและเพศหญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ Predict Observe Explain (POE). โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา. รักลูก. (2020). EF คืออะไรทำไมถึงสำคัญกับลูกมากกว่า EQ และ IQ. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2566. จาก https://www.rakluke.com/child-development-all/kid-development/item. รัตนาพร ง้าวทองและจันทิมา เคลือบสำราญ. (2566). การจัดกิจกรรมทดลองสนุกคิดกับวิทยาศาสตร์ เพื่อส่งเสริมทักษะสมอง EF ด้านการกำกับตนเองของเด็กปฐมวัย. วารสารนวัตกรรมการบริหาร การศึกษา. 2(2). 34. ศักดิ์ชัย ใจซื่อตรง. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดประสบการณ์ศิลปะที่ส่งเสริมทักษะการจัด การสมอง (EF) สําหรับเด็กปฐมวัย. ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาการวิจัยและพัฒนา หลักสูตร. มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สุนิษา ภารตระศรี และ ชวนพิศ รักษาพวก. (2565). ผลการจัดประสบการณ์เรียนรู้โดยใช้นิทานเพื่อ พัฒนาทักษะสมอง (EF) ของเด็กปฐมวัย. วารสารวิทยาลัยนครราชสีมา สาขามนุษยศาสตร์และ สังคมศาสตร์. 16 (2). 353-368. สุทธิดา รักกะเปา และเทพอักษร เพ็งพันธ์. (2557). การเพิ่มความเข้าใจแนวคิดรวบยอดเรื่องกฎ การเคลื่อนที่ของนิวตันของนักศึกษาโดยวิธีการสอนแบบทำนาย - สังเกต - อธิบาย (POE). ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สุภาพร แหลมแก้ว. (2556). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะกระบวนการทาง วิทยาศาสตร์ และเจตคติในการเรียนวิทยาตาสตร์ เรื่องไฟฟ้า ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยใช้เทคนิคการสอน แบบทำนาย สังเกต อธิบาย กับใช้วิธีสอนแบบสืบเสาะหา ความรู้แบบ 5E. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน, มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี. สุภาวดี หาญเมธี. (2561). คู่มือพัฒนาทักษะสมอง EF Executive Functions สำหรับครูปฐมวัย. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพฯ.: มติชน. สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และสถาบัน RLG (รักลูก เลิร์นนิ่ง กรุ๊ป). (2561). คู่มือพัฒนาทักษะสมอง EF Executive functions ในเด็กวัย 7 – 12 ปี สำหรับพ่อแม่ และครู. กรุงเทพมหานคร: มติชน
50 สํานักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด. (2558). EF ภูมิคุ้มกันชีวิตและป้องกัน ยาเสพติด คู่มือสําหรับครูอนุบาล. กรุงเทพมหานคร : พิมพ์ดี. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกระทรวงศึกษาธิการ. (2544). การจัดการเรียนรู้โดยใช้ เทคนิค POE. กรุงเทพฯ: กระทรวงศึกษาธิการ. อรรัตน์ เชาว์กุลจรัสศิริ. (ม.ป.ป.). EF Executive Function สำคัญต่อพัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัย อย่างไร. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2566. จาก https://www.manarom.com/blog/EF_. อามีเนาะ ตารีตา. (2560). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้สมองเป็นฐานร่วมกับกลวิธี POE ที่มีต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความพึง พอใจ ต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. ปริญญานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์. สืบค้นเมื่อ 25 ตุลาคม 2566. จาก https://www.manarom.com/blog/EF_Executive_Function.html?fbclid Diamond, A. and Lee, K. (2011). Interventions shown to Aid Executive Function Development in Children 4-12 Years Old. Sciencemag, 333(6045), 959-964. Fmakinwa Adebayo, Bello Theodora Olufunke. (2015). Generative an ObserveExplain Instructional Strategies: Towards Enhancing Basic Science Practical Skills of Lower Primary School Pupils. 4(4): 86-92. Haysom J. & Bowen M. (2010). Predict-Observe-Explain Activities Enhancing Scientific Understanding. Texas: The National Science Teachers Association. Rakluke. (2020). EF : Executive Functions. Retrieved October 25, 2023, From https.//www.porentsone.com/9-fundamentals of creating-good-and-good-children- with-ef. Vadapally, P. (2014). Exploring students' perceptions and performance on predict- observe- explain tasks in high school chemistry laboratory (Unpublished Doctoral dissertation). University of Northern Colorado, USA. Wu, T. Y & Tsai, C. C. (2005). Effects of Constructivist – Oriented Instruction on Elementary School Students Cognitive Structures. Journal of Biology Education, 39(3): 113-119. Zuziwe, M. (2012). Using the Predict-Observe-Explain technique to enhance the students'understanong of chemical reactions (Short report on pilot study). Master's thesis,University of Natal King George V Natal.
51 ภาคผนวก
52 ภาคผนวก ก รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือ
53 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบเครื่องมือ 1. นางจินตนา ปานนูน ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 1 2. นางสาวศุภรดา วงษ์แก้ว ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนบ้านหมากแข้ง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา อุดรธานี เขต 1 3. ดร. ศศิธร อมรินทร์แสงเพ็ญ อาจารย์ประจำสาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี
54 ภาคผนวก ข แบบประเมินความสอดคล้อง (IOC) ของแบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย
55 ตารางที่ 6 แบบประเมินความสอดคล้อง (IOC) ของแบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย แบบประเมิน การพัฒนา ทักษะทาง สมอง EF ข้อที่ประเมิน ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC คนที่1 คนที่ 2 คนที่ 3 ด้านที่ 1 การจดจ่อ ใส่ใจ การตั้งใจ ทำกิจกรรม ที่ได้รับ มอบหมาย +1 +1 +1 3 1.0 การทำ กิจกรรมให้ เสร็จตาม เวลาที่ กำหนด +1 +1 +1 3 1.0 การทำ กิจกรรม ต่อเนื่องได้ แม้มี สิ่งรบกวน +1 +1 +1 3 1.0 ด้านที่ 2 การควบคุม อารมณ์ การระงับ ความวิตก กังวลขณะ ทำกิจกรรม +1 +1 +1 3 1.0 การจัดการ อารมณ์ให้ เหมาะกับ สถานการณ์ +1 +1 +1 3 1.0 การปรับ อารมณ์ให้ ลดลงเมื่อมี ผู้ชี้แนะ +1 +1 +1 3 1.0
56 ตารางที่ 6 แบบประเมินความสอดคล้อง (IOC) ของแบบประเมินการพัฒนาทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย (ต่อ) แบบประเมิน การพัฒนา ทักษะทาง สมอง EF ข้อที่ประเมิน ความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ IOC คนที่1 คนที่ 2 คนที่ 3 ด้านที่ 3 การริเริ่ม ลงมือทำ การ วางแผน ปฏิบัติ กิจกรรม อย่างง่าย ด้วยตนเอง +1 +1 +1 3 1.0 การ ตัดสินใจ ปฏิบัติ กิจกรรม ด้วยตนเอง +1 +1 +1 3 1.0 การทำ กิจกรรม ทันทีเมื่อ ได้รับ มอบหมาย +1 +1 +1 3 1.0
57 ภาคผนวก ค ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น ของแบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย
58 ตารางที่ 7 ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่นของแบบประเมินทักษะสมอง EF แบบประเมิน ทักษะสมอง EF ข้อที่ประเมิน ค่า อำนาจจำแนก แปลผล ด้านที่ 1 การจดจ่อ ใส่ใจ การตั้งใจทำกิจกรรมที่ได้รับ มอบหมาย 0.68 นำไปใช้ได้ การทำกิจกรรมให้เสร็จตาม เวลาที่กำหนด 0.67 นำไปใช้ได้ การทำกิจกรรมต่อเนื่องได้ แม้มีสิ่งรบกวน 0.65 นำไปใช้ได้ ด้านที่ 2 การควบคุม อารมณ์ การระงับความวิตกกังวล ขณะทำกิจกรรม 0.55 นำไปใช้ได้ การจัดการอารมณ์ให้เหมาะ กับสถานการณ์ 0.70 นำไปใช้ได้ การปรับอารมณ์ให้ลดลง เมื่อมีผู้ชี้แนะ 0.60 นำไปใช้ได้ ด้านที่ 3 การริเริ่ม ลงมือทำ การวางแผนปฏิบัติกิจกรรม อย่างง่ายด้วยตนเอง 0.80 นำไปใช้ได้ การตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรม ด้วยตนเอง 0.73 นำไปใช้ได้ การทำกิจกรรมทันทีเมื่อ ได้รับมอบหมาย 0.62 นำไปใช้ได้ ค่าความเชื่อมั่นของแบบประเมินทักษะสมอง EF ของเด็กปฐมวัย มีค่าเท่ากับ 0.90
59 ภาคผนวก ง ตัวอย่าง แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE)
60 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้รูปแบบ POE สาระที่ควรเรียนรู้ เรื่องราวเกี่ยวกับบุคคลและสถานที่แวดล้อมเด็ก หน่วย ขนาด รูปร่าง รูปทรง เรื่อง การเปรียบเทียบขนาดรูปทรงสี่เหลี่ยม ช่วงกิจกรรม เสริมประสบการณ์ เวลา 40 นาที ……………………………………………………………………………………………………………………….. จุดประสงค์การเรียนรู้ เพื่อให้เด็กสามารถ 1. บอกลักษณะทรงสี่เหลี่ยมได้ (K) 2. เปรียบเทียบขนาดทรงสี่เหลี่ยมได้ (K) 3. ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ชี้แนะได้ (P) 4. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นกับครูและเพื่อนได้ (A) สาระการเรียนรู้ 1. สาระที่ควรเรียนรู้ เปรียบเทียบขนาดทรงสี่เหลี่ยม 2. ประสบการณ์สำคัญ 1. การฟังเพลง นิทาน คำคล้องจองหรือเรื่องราวต่างๆ 2. การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของเหตุการณ์และความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ 3. การสังเกตลักษณะส่วนประกอบของสิ่งต่างๆ โดยใช้ประสาทสัมผัส อย่างเหมาะสม 4. การรับรู้และแสดงความคิดความรู้สึกผ่านสื่อ วัสดุ กิจกรรมเสริมประสบการณ์ 1. ขั้นนำ 1.1 ครูนำเด็กเข้าสู่กิจกรรมโดยการร้องเพลง “รูปร่าง รูปทรง” (การจดจ่อใส่ใจ) 1.2 ครูและเด็กร่วมกันสร้างข้อตกลงในการทำกิจกรรม ดังนี้ - ไม่หยอกล้อกันขณะทำกิจกรรม - ไม่คุยกันเสียงดังขณะทำกิจกรรม - ยกมือขึ้นก่อนจะตอบหรือถามคำถาม 2. ขั้นสอน ขั้นทำนาย (P) 2.1 ครูแนะนำกิจกรรม “เล็กใหญ่กล่องไหนนะ” พร้อมแนะนำอุปกรณ์ ดังนี้ 2.1.1 กล่องสี่เหลี่ยม 3 กล่องที่มีขนาดไม่เท่ากัน - กล่องที่ 1 มีขนาดเล็ก
61 - กล่องที่ 2 มีขนาดกลาง - กล่องที่ 3 มีขนาดใหญ่ 2.1.2 รูปทรงสี่เหลี่ยม 3 รูป - ทรงสี่เหลี่ยมที่ 1 มีขนาดใหญ่ - ทรงสี่เหลี่ยมที่ 2 มีขนาดเล็ก - ทรงสี่เหลี่ยมที่ 3 มีขนาดกลาง 2.2 ครูกระตุ้นให้เด็กทำนายผลของการทำกิจกรรม โดยใช้คำถามดังนี้ (ควบคุมอารมณ์) - เด็ก ๆ คิดว่าทรงสี่เหลี่ยมที่ 1 จะอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมกล่องที่เท่าไหร่ - เด็ก ๆ คิดว่าทรงสี่เหลี่ยมที่ 2 จะอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมกล่องที่เท่าไหร่ - เด็ก ๆ คิดว่าทรงสี่เหลี่ยมที่ 3 จะอยู่ในกล่องสี่เหลี่ยมกล่องที่เท่าไหร่ 2.3 เด็กบันทึกการทำนายโดยใช้แบบบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ทำนายสังเกต-อธิบาย Predict - Observe - Explain (POE) (ริเริ่มลงมือทำ) ขั้นสังเกต (O) 2.4 เด็กและครูร่วมกันสังเกตผลการทำกิจกรรม ดังนี้ 2.4.1 ครูนำรูปทรงสี่เหลี่ยมรูปที่ 1 ที่มีขนาดใหญ่มาลองใส่ในกล่องที่ 1 ไม่ สามารถลงกล่องได้ ครูนำไปทดลองกับกล่องที่ 2 และกล่อง ที่ 3 ซึ่งรูปทรงสี่เหลี่ยมรูปที่ 1 สามารถใส่ ในกล่องที่ 3 2.4.2 ปฏิบัติกิจกรรมในข้อ 2.4.1 ซ้ำ ให้ครบทั้ง 3 ขนาด 2.5 เด็กบันทึกผลการทำนายโดยใช้แบบบันทึกกิจกรรมการเรียนรู้แบบ ทำนายสังเกต-อธิบาย Predict - Observe - Explain (POE) ขั้นอธิบาย (E) 2.6 เด็กและครูร่วมกันอธิบายผลของการกิจกรรม โดยครูใช้คำถามดังนี้ - ทำไมทรงสี่เหลี่ยมรูปที่ 1 ถึงไม่สามารถลงกล่องที่ 1 ได้ - ทำไมทรงสี่เหลี่ยมรูปที่ 2 ถึงนำลงกล่องที่ 2 ไม่พอดีกับกล่อง - ทำไมทรงสี่เหลี่ยมรูปที่ 3 ถึงสามารถลงกล่องที่ 3 ได้พอดี 2.7 เมื่อหมดเวลา ครูให้สัญญาณเด็กเก็บอุปกรณ์ 3. ขั้นสรุป 3.1 ครูและเด็กร่วมกันสรุปและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการทำกิจกรรม สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. เพลง “รูปร่าง รูปทรง” 2. เล็กใหญ่กล่องไหนนะ
62 การวัดและประเมินผล สังเกต 1. บอกลักษณะทรงสี่เหลี่ยม 2. เปรียบเทียบขนาดทรงสี่เหลี่ยม 3. ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองโดยไม่มีผู้ชี้แนะ 4. ร่วมสนทนาและแสดงความคิดเห็นกับครูและเพื่อน เพลง รูปร่าง รูปทรง ผู้แต่ง : สถาบันวิจัยการเรียนรู้ วงกลมเหมือนวงล้อ เส้นโค้งงอมาชนกัน สี่เหลี่ยมสี่เส้นนั้น เรียงต่อกันเหมือนประตู สามเหลี่ยมเส้นน้อยกว่า ช่างแปลกตาลองวาดดู เด็ก เด็ก เฝ้ามองอยู่ จึงได้รู้ แตกต่างกัน
63 ภาคผนวก จ ตัวอย่าง แบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย
64 คู่มือการใช้เครื่องมือ แบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย คำชี้แจง 1. เครื่องมือแบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 3 ด้าน คือ ด้านการ จดจ่อใส่ใจ ด้านการควบคุมอารมณ์และด้านการริเริ่มลงมือทำ ของเด็กชั้นอนุบาลปีที่ 2 อายุ 4 - 5 ปี ที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) โดยประเมินเป็นรายบุคคล 2. เครื่องมือแบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 1 ชุด ดังนี้ 2.1 แบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 3 ด้าน คือ 2.1.1 ทักษะการจดจ่อใส่ใจ 2.1.1.1 ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมสามารถลงมือปฏิบัติกิจกรรมทันที เมื่อเด็กเลือก กิจกรรมที่ตนเองสนใจแล้วเด็กต้องทำงานให้สำเร็จ ไม่ผัดวันประกันพรุ่ง 2.1.1.2 เมื่อมีการทำกิจกรรมต้องทำกิจกรรมให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด 2.1.1.3 มีความคิดอิสระและมีจินตนาการ เด็กลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง โดยที่ครูไม่ได้เข้ามาก้าวก่ายเพียงแค่แนะนำอยู่ใกล้ ๆ 2.1.2 ด้านการควบคุมอารมณ์ 2.1.2.1 การระงับความวิตกกังวลขณะทำกิจกรรม 2.1.2.2 การจัดการอารมณ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ 2.1.2.3 การปรับอารมณ์ให้ลดลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ 2.1.3 ด้านการริเริ่มลงมือทำ 2.1.3.1 วางแผนปฏิบัติกิจกรรมอย่างง่ายด้วยตนเอง 2.1.3.2 ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง 2.1.3.3 เมื่อได้ทำกิจจะทำกิจกรรมทันทีเมื่อได้รับมอบหมาย 3. ตรวจให้คะแนนความถูกต้องของเครื่องมือแบบประเมินทักษะสมอง EF สำหรับเด็ก ปฐมวัย มีเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้ 1 หมายถึง เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกน้อยที่สุด 2 หมายถึง เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกน้อย 3 หมายถึง เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกปานกลาง 4 หมายถึง เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาก 5 หมายถึง เด็กมีพฤติกรรมที่แสดงออกมากที่สุด
65 4. ระยะเวลาในการประเมิน แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) จำนวน 18 แผน แผนละ 40 นาที สัปดาห์ละ 3 แผน รวม 6 สัปดาห์ วิธีดำเนินการประเมิน 1. ผู้ดำเนินการประเมิน ศึกษาคู่มือการประเมินและเครื่องมือการประเมินให้เข้าใจ กระบวนการในการประเมิน จนสามารถสาธิตและใช้ภาษาที่ชัดเจนเป็นธรรมชาติในการพูดกับเด็ก 2. ผู้ดำเนินการประเมินตรวจสอบความพร้อมของอุปกรณ์ชุดการประเมินให้ครบถ้วนและ เตรียมแบบบันทึกผลการประเมินให้เพียงพอกับจำนวนเด็ก 3. เตรียมกิจกรรมและอุปกรณ์ที่ใช้ในการประเมิน ดังนี้ 3.1 คู่มือการใช้เครื่องมือแบบประเมินการพัฒนาทักษะทางสมอง EF สำหรับ เด็กปฐมวัยจำนวน 1 ชุด 3.2 แบบบันทึกผลการแบบประเมินการพัฒนาทักษะทางสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย จำนวน 27 ชุด 3.3 แผนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) 18 หน่วย 3.4 ชุดอุปกรณ์สำหรับการจัดประสบการณ์การจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) 4. ก่อนเริ่มทำการทดสอบควรให้เด็กทำธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย เช่น ดื่มน้ำ เข้าห้องน้ำ เพื่อให้เด็กมีสมาธิในขณะทำการประเมิน 5. ผู้ดำเนินการประเมินสร้างความคุ้นเคยกับเด็กโดยการพูดคุยเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดี กับเด็กเพื่อให้เด็กคลายความกังวน ไม่ตื่นเต้น เมื่อเห็นเด็กพร้อมเริ่มทำการประเมิน
66 แบบประเมินการพัฒนาทักษะสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย ระดับชั้นอนุบาล 2 /…. โรงเรียนบ้านหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ชื่อผู้สังเกต................................................................................................................ ............................. ชื่อผู้ถูกสังเกต......................................................................................................................................... อายุ............ปี.......เดือน ระดับชั้นอนุบาลปีที่........./.......... โรงเรียนบ้านหมากแข้ง จังหวัดอุดรธานี วัน/เดือน/ปีที่สังเกต................................................................... คำชี้แจง : ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนตามแบบประเมินการพัฒนาทักษะทางสมอง EF สำหรับเด็กปฐมวัย ข้อ พฤติกรรมด้านทักษะทางสมอง EF ระดับคะแนน หมายเหตุ 5 4 3 2 1 ด้านการริเริ่มและลงมือทำ 1 การตั้งใจทำกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย 2 การทำกิจกรรมให้เสร็จตามเวลาที่กำหนด 3 การทำกิจกรรมต่อเนื่องได้แม้มีสิ่งรบกวน ด้านการด้านการควบคุมอารมณ์ 4 การระงับความวิตกกังวลขณะทำกิจกรรม 5 การจัดการอารมณ์ให้เหมาะกับสถานการณ์ 6 การปรับอารมณ์ให้ลดลงเมื่อมีผู้ชี้แนะ ด้านการมุ่งเป้าหมาย 7 การวางแผนปฏิบัติกิจกรรมอย่างง่ายด้วยตนเอง 8 การตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง 9 การทำกิจกรรมทันทีเมื่อได้รับมอบหมาย รวมคะแนน..............................คะแนน ข้อเสนอแนะ................................................................................................................................................... .......................................................................................................................................................................
67 ภาคผนวก ฉ ตัวอย่าง ภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE)
68 (ตัวอย่าง) ภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) ครูแนะนำกิจกรรม แนะนำอุปกรณ์และกระตุ้นให้เด็กทำนายผลของการทำกิจกรรม เด็กบันทึกผลการทำนาย
69 (ตัวอย่าง) ภาพการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ ทำนาย สังเกต อธิบาย (Predict Observe Explain: POE) (ต่อ) เด็กสังเกตกิจกรรมพร้อมทดลองทำกิจกรรม เด็กบันทึกผลของกิจกรรมพร้อมอธิบายผล
70 ประวัติย่อผู้วิจัย
71 ประวัติย่อผู้วิจัย ชื่อ นางสาวปิยะธิดา คำเวียงชัย วันเกิด 1 มีนาคม 2544 สถานที่เกิด อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย สถานที่อยู่ปัจจุบัน 197 หมู่ 11 บ้านมะเขือ ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมือง จังหวัดหนองคาย โทรศัพท์ 0986086242 ประวัติการศึกษา พ.ศ.2555 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมะเขือดอนหมูโพธิ์วิทยา พ.ศ.2558 มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร พ.ศ.2561 มัธยมศึกษาตอนปลาย จโรงเรียนปทุมเทพวิทยาคาร พ.ศ.2567 ครุศาสตรบัณฑิต (สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย) มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธาน