พระราชบญั ญตั ิ
บรษิ ทั มหาชนจาํ กดั
พ.ศ. ๒๕๓๕
ภูมิพลอดลุ ยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๕
เปนปที่ ๔๗ ในรชั กาลปจจบุ นั
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลาฯ ให
ประกาศวา
โดยที่เปนการสมควรปรบั ปรุงกฎหมายวา ดวยบริษัทมหาชนจาํ กดั
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลาฯ ใหตราพระราชบัญญัติข้ึนไวโดยคําแนะนําและยินยอมของสภานิติ
บัญญัตแิ หงชาติ ทําหนา ที่รัฐสภา ดังตอไปน้ี
มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตนิ ีเ้ รยี กวา “พระราชบัญญัตบิ รษิ ัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๓๕”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัติน้ีใหใชบังคับเมื่อพนหกสิบวันนับแตวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตน ไป
มาตรา ๓ ใหยกเลิกพระราชบญั ญตั บิ รษิ ัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๒๑
หมวด ๑
บททวั่ ไป
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตนิ ้ี
“บริษัท” หมายความวา บริษทั มหาชนจาํ กัดซ่ึงตั้งขึ้นตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี
“บรษิ ทั เอกชน” หมายความวา บริษัทจาํ กัดซ่ึงตัง้ ข้นึ ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย
“คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการของบรษิ ัทมหาชนจํากัด
“ประธานกรรมการ” หมายความวา ประธานกรรมการของบริษัทมหาชนจํากัด
“กรรมการ” หมายความวา กรรมการของบรษิ ัทมหาชนจํากดั
“นายทะเบียน” หมายความวา อธิบดีกรมทะเบียนการคา และใหหมายความรวมถึงผูซ่ึงอธิบดี
กรมทะเบียนการคามอบหมายดวย
“พนักงานเจาหนา ท่”ี หมายความวา ผซู ่ึงรัฐมนตรีแตงตง้ั ใหปฏบิ ตั ิการตามพระราชบัญญตั นิ ี้
“รัฐมนตร”ี หมายความวา รัฐมนตรีผรู กั ษาการตามพระราชบญั ญัตินี้
มาตรา ๕ ในกรณีท่ีพระราชบัญญัติน้ีกําหนดใหบุคคลใดยื่นเอกสารหรือแจงรายการภายใน
ระยะเวลาท่ีกําหนด ถาบุคคลนั้นมีเหตุจําเปนจนไมสามารถจะปฏิบัติตามกําหนดเวลาได และไดย่ืนคํารองขอ
ขยายหรือเล่ือนกําหนดเวลา โดยแสดงเหตุแหงความจําเปน เมื่อนายทะเบียนพิจารณาเห็นเปนการสมควรจะ
ขยายหรือเล่ือนกําหนดเวลาออกไปตามความจําเปน แกกรณกี ็ได
มาตรา ๖ ในกรณีท่ีพระราชบัญญัตินี้กําหนดใหบุคคลใดมีหนาที่หรือจะบอกกลาวเตือนแจง
ความ หรือโฆษณาขอความใดๆ เก่ียวกับบริษัทใด ใหบุคคลอ่ืนหรือประชาชนทราบโดยทางหนังสือพิมพ ให
บุคคลนั้นโฆษณาขอความน้ันๆ ในหนังสือพิมพรายวันภาษาไทยที่จัดพิมพจําหนาย ณ ทองที่อันเปนท่ีต้ัง
สาํ นกั งานใหญของบรษิ ทั นั้นมีกําหนดเวลาตดิ ตอ กันไมนอ ยกวาสามวนั
ในกรณีท่ีไมมีหนังสือพิมพที่มีลักษณะดังกลาวในวรรคหน่ึง ใหบุคคลนั้นโฆษณาในหนังสือพิมพ
รายวนั ภาษาไทยที่จดั พิมพจ ําหนายในกรุงเทพมหานครแทน
มาตรา ๗ ในกรณีท่ีพระราชบัญญัตินี้กําหนดใหบุคคลใดมีหนาท่ีตองสงคําสั่ง คําเตือน หนังสือ
หรือเอกสารใดๆ ใหแกบุคคลอ่ืน ผูมีหนาท่ีสงหรือผูแทน จะสงมอบใหแกผูรับหรือผูแทนของผูรับโดยตรง หรือ
สง โดยทางไปรษณยี ล งทะเบียนถึงผรู ับ ณ สถานที่อยขู องผรู บั ซึ่งแจงแกผูสงไวแลว หรือถาไมมีการแจงไวลวงหนา
จะสง ณ สถานที่อยอู ันเปน ภมู ิลําเนาของผูรบั ก็ได
ในกรณีท่ีมีการสงทางไปรษณียลงทะเบียน ใหถือวาคําส่ัง คําเตือน หนังสือหรือเอกสารนั้นๆ ถึง
ผูรับในเวลาท่ีคําส่ัง คําเตือน หนังสือหรือเอกสารดังกลาวควรไปถึงตามทางการปกติแหงไปรษณียในชวงเวลาที่มี
การสง นั้น เวน แตจะพิสูจนไดเปนประการอน่ื
มาตรา ๘ ผูถือหุนหรือบริษัทจะถือเอาประโยชนจากบุคคลภายนอกจากขอความหรือรายการ
ใดๆ ทต่ี อ งจดทะเบียนตามพระราชบญั ญัตินี้ไมได จนกวานายทะเบียนจะไดรับจดทะเบียนเรียบรอยแลว แตผูถือ
หุนหรือบริษทั ซึ่งไดรบั ชาํ ระหนีก้ อ นท่จี ะมีการจดทะเบียนไมจ าํ ตองคนื ทรพั ยสินทไี่ ดร ับชาํ ระหนี้
มาตรา ๙ ในระหวางผูถือหุนดวยกันหรือผูถือหุนกับบริษัท ใหสันนิษฐานไวกอนวาบรรดาสมุด
บัญชแี ละเอกสารของบรษิ ทั หรอื ของผูชาํ ระบัญชี ถูกตอ งตามขอความที่ไดบ นั ทึกไวใ นนนั้ ทกุ ประการ
มาตรา ๑๐ บุคคลใดเมื่อไดเสียคาธรรมเนียมแลว มีสิทธิตรวจหรือคัดขอความในทะเบียนหรือ
เอกสารซึ่งนายทะเบียนเก็บรักษาไว หรือจะขอใหนายทะเบียนคัดสําเนาหรือถายเอกสารฉบับใดๆ พรอมดวยคํา
รับรองของนายทะเบยี นวาถูกตอ งหรือจะขอใหนายทะเบียนออกหนังสอื รับรองรายการใดทจ่ี ดทะเบยี นไวก ็ได
มาตรา ๑๑ บริษทั ตอ งปฏบิ ตั ิดังตอไปน้ี
(๑) ใชช ื่อ ซึง่ ตอ งมีคาํ วา “บรษิ ัท” นําหนา และ “จาํ กัด (มหาชน)”ตอทาย หรือจะใชอักษรยอวา
“บมจ.” นําหนา แทนคําวา “บริษัท” และ “จํากัด (มหาชน)” ก็ได แตในกรณีที่ใชช่ือเปนอักษรภาษาตางประเทศ
จะใชคําซง่ึ มคี วามหมายวาเปน “บริษทั มหาชนจาํ กดั ” ตามทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวงแทนก็ได
(๒) แสดงชอื่ ทตี่ ง้ั สาํ นักงาน และเลขทะเบยี นบริษัทไวใ นจดหมาย ประกาศ ใบแจงความ ใบสง
ของและใบเสรจ็ รับเงนิ
(๓) แสดงชอ่ื บริษัทไวในดวงตรา (ถา มี)
(๔) จัดใหมีปายชื่อบริษัทไวหนาสํานักงานใหญและสํานักงานสาขา (ถามี) และดําเนินการมิให
มีปายช่ือดังกลาวในกรณีที่ไมใชสถานที่นั้นเปนสํานักงานหรือสํานักงานสาขาหรือในกรณีที่จดทะเบียนเลิกบริษัท
หรอื สาขาบรษิ ทั แลว
บริษทั ทป่ี ระกอบธุรกิจประเภทใดจะไดรับยกเวนไมตองปฏิบัติตาม (๑) ใหเปนไปตามท่ีกําหนด
ในกฎกระทรวง
การจัดใหมีหรือการดําเนินการมิใหมีปายช่ือตาม (๔) ตองกระทําภายในสิบสี่วันนับแตวันจด
ทะเบียนบริษัท หรือไมใชสถานที่นั้นเปนสํานักงานใหญหรือสํานักงานสาขาหรือจดทะเบียนเลิกบริษัทหรือเลิก
สาขาบริษทั แลวแตกรณี
มาตรา ๑๒ หามมิใหบริษัทเปนหุนสวนในหางหุนสวนสามัญ หรือเปนหุนสวนไมจํากัดความรับ
ผดิ ในหางหุนสว นจํากดั
ความตกลงใดอันมผี ลเปนการฝาฝน วรรคหนง่ึ ความตกลงนั้นเปน โมฆะ
มาตรา ๑๓ ถานายทะเบยี นเหน็ วา ชื่อของบริษัทใดท่ีขอจดทะเบียน ไมวาช่ือนั้นจะเปนภาษาไทย
หรือภาษาตา งประเทศ เหมือนหรือคลายกับชื่อของบริษัทหรือบริษัทเอกชนที่ย่ืนหรือที่จดทะเบียนไวกอน ใหนาย
ทะเบยี นปฏเิ สธการขอจดทะเบียนนั้น และแจงใหผขู อจดทะเบยี นทราบ
มาตรา ๑๔ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงพาณิชยรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ีและใหมีอํานาจ
แตง ต้ังพนกั งานเจา หนาท่ี กาํ หนดแบบพิมพต า งๆ และออกกฎกระทรวงในเรือ่ งดงั ตอไปนี้
(๑) กําหนดหลักเกณฑและวิธีการเก่ียวกับการขอจดทะเบียนและการรับจดทะเบียนตาม
พระราชบญั ญัตนิ ้ี
(๒) กําหนดอัตราคาธรรมเนยี มไมเกินอตั ราทายพระราชบัญญตั นิ ี้
(๓) ยกเวนคา ธรรมเนยี ม
(๔) กําหนดกจิ การอ่ืนเพื่อปฏบิ ัตกิ ารตามพระราชบัญญัตนิ ้ี
กฎกระทรวงนนั้ เมือ่ ไดประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแลวใหใชบ ังคับได
หมวด ๒
การเร่ิมจัดต้งั บริษทั
มาตรา ๑๕ บริษัทมหาชนจํากัด คือ บริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นดวยความประสงคที่จะเสนอขายหุน
ตอประชาชน โดยผูถือหุนมีความรับผิดจํากัดไมเกินจํานวนเงินคาหุนที่ตองชําระและบริษัทดังกลาวไดระบุความ
ประสงคเ ชน น้ันไวใ นหนงั สอื บริคณหส นธิ
มาตรา ๑๖ บุคคลธรรมดาตั้งแตสิบหาคนขึ้นไปจะเร่ิมจัดตั้งบริษัทไดโดยจัดทําหนังสือบริคณห
สนธิ และปฏบิ ตั ิการอยา งอน่ื ตามพระราชบญั ญตั ิน้ี
มาตรา ๑๗ ผเู ริ่มจัดตั้งบริษัทตอ ง
(๑) บรรลุนติ ภิ าวะแลว
(๒) มถี ิน่ ท่ีอยใู นราชอาณาจักรเปน จาํ นวนไมนอยกวากึ่งหนง่ึ ของจาํ นวนผเู ริ่มจัดตั้งท้ังหมด
(๓) จองหุน และหุนท่ีจองทั้งหมดนั้นตองเปนหุนท่ีชําระคาหุนเปนตัวเงินรวมกันไมนอยกวา
รอ ยละหา ของทุนจดทะเบยี น
(๔) ไมเปนคนไรความสามารถ หรือคนเสมือนไรความสามารถ หรือไมเปนหรือเคยเปนบุคคล
ลม ละลาย และ
(๕) ไมเคยรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงท่ีสุดใหจําคุกในความผิดเกี่ยวกับทรัพยที่ไดกระทํา
โดยทุจรติ
มาตรา ๑๘ หนังสือบริคณหสนธิอยา งนอยตอ งมรี ายการดังตอ ไปนี้
(๑) ชื่อบริษทั ตามมาตรา ๑๑ (๑)
(๒) ความประสงคข องบรษิ ัทท่ีจะเสนอขายหนุ ตอ ประชาชน
(๓) วัตถปุ ระสงคของบรษิ ทั ซง่ึ ตองระบุประเภทของธุรกิจโดยชดั แจง
(๔) ทุนจดทะเบียนซ่ึงตองแสดงชนิด จํานวน และมูลคา ของหุน
(๕) ทตี่ ัง้ สาํ นักงานใหญซึ่งตอ งระบุวาจะต้งั อยู ณ ทอ งทใ่ี ดในราชอาณาจกั ร
(๖) ชือ่ วันเดือนปเ กดิ สัญชาติ และที่อยขู องผูเร่มิ จัดตง้ั บริษทั และจํานวนหนุ ทแี่ ตล ะคนจองไว
ชอ่ื บริษทั ตอ งไมมีลักษณะตอ งหา มตามทกี่ ําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๙ หนังสือบริคณหสนธิน้ัน ใหผูเริ่มจัดตั้งบริษัททุกคนลงลายมือช่ือและนําไปขอจด
ทะเบียนตอ นายทะเบยี น
การแกไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณหสนธิที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนแลวกอนการขอจดทะเบียน
เปนบริษัท จะกระทําไดกแ็ ตโ ดยไดรับความยนิ ยอมจากผูเร่ิมจัดต้ังบริษัททุกคนและนําไปขอจดทะเบียนการแกไข
เพ่มิ เตมิ ตอ นายทะเบยี น แตท้ังน้ีจะตองกระทาํ กอนเสนอขายหนุ ตอ ประชาชนหรือบุคคลใดๆ
มาตรา ๒๐ ในกรณีที่ผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทคนใดตาย หรือถอนตัวกอนประชุมจัดต้ังบริษัทเสร็จส้ิน
และผเู ร่ิมจดั ตั้งบริษัททเ่ี หลอื ประสงคจะดําเนนิ การตอไป ใหป ฏบิ ัติดังตอไปนี้
(๑) หาคนแทนที่ภายในหน่ึงเดือนนับแตวันท่ีผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทตายหรือถอนตัว เวนแตผูเร่ิม
จดั ตง้ั บริษัทท่ีเหลือซึ่งมีจํานวนไมน อ ยกวาที่กาํ หนดไวในมาตรา ๑๖ ไดตกลงกันไมหาคนแทนที่
(๒) แจงใหผูจองหุนทราบเปนหนังสือภายในสิบส่ีวันนับแตวันท่ีหาคนแทนท่ีไดหรือวันที่ผูเริ่ม
จัดตง้ั บรษิ ัททเ่ี หลือตกลงกันไมห าคนแทนท่ี
(๓) ขอจดทะเบียนแกไ ขเพมิ่ เติมรายการเกี่ยวกับจํานวนและบุคคลผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทในหนังสือ
บรคิ ณหส นธภิ ายในสามเดือนนับแตวนั ท่ีผเู รม่ิ จัดตงั้ บรษิ ทั ตายหรือถอนตวั
การถอนตัวจากการเปน ผเู รม่ิ จดั ตั้งบรษิ ทั ตอ งไดรบั ความยนิ ยอมจากผูเร่มิ จัดต้ังบริษทั ทกุ คน
ในกรณีที่ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทท่ีเหลือไมประสงคจะดําเนินการตอไปหรือไมปฏิบัติตาม (๑) หรือ
(๓) ใหหนงั สือบรคิ ณหสนธทิ น่ี ายทะเบียนรบั จดทะเบียนไวแลว สิ้นผล นับแตวันที่ผูเร่ิมจัดตั้งบริษัทตายหรือถอน
ตัว หรอื วนั ท่ีพน กําหนดเวลาตาม (๑) หรือ (๓) แลวแตกรณี และใหผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทแจงตอนายทะเบียนและผู
จองหุนภายในสบิ สว่ี ันนบั แตวนั ท่ีหนังสอื บริคณหส นธิน้ันส้นิ ผล
มาตรา ๒๑ ในกรณีทผี่ ูเ ริม่ จัดตัง้ บริษัทคนหน่งึ คนใดตายหรอื ถอนตวั ผูจองหุนจะถอนคําขอการ
จองหนุ ก็ได โดยมหี นังสอื แจง ใหผ เู รมิ่ จดั ตัง้ บริษทั ทราบภายในเจด็ วันนบั แตวันทไี่ ดรับแจงตามมาตรา ๒๐ (๒)
มาตรา ๒๒ ในกรณีที่ผูจองหุนตาย ผูเปนทายาทจะถอนคําขอการจองหุนก็ไดโดยมีหนังสือแจง
ใหผ ูเ รมิ่ จัดต้งั บรษิ ัททราบภายในสิบสวี่ ันนบั แตว นั ที่ผูจองหนุ ตาย เวนแตจ ะมีการชาํ ระคา หนุ ทงั้ หมดพรอ มกับการ
จองหนุ หรือผเู ริ่มจัดตง้ั บริษทั ไดออกหนงั สอื นดั ประชุมจดั ตงั้ บรษิ ัทแลว
มาตรา ๒๓ ภายใตบงั คบั มาตรา ๒๔ เม่ือนายทะเบยี นรับจดทะเบียนหนังสือบริคณหสนธแิ ลว ผู
เร่มิ จดั ตง้ั บรษิ ทั จงึ จะเสนอขายหุน ตอประชาชนหรือบุคคลใดๆ ได
หมวด ๓
การเสนอขายหนุ ตอ ประชาชน
มาตรา ๒๔ การเสนอขายหุนตอประชาชนหรือบุคคลใดๆ ใหเปนไปตามกฎหมายวาดวย
หลักทรพั ยและตลาดหลกั ทรัพย
มาตรา ๒๕ ใหผูเริ่มจัดต้ังบริษัทหรือบริษัทจัดสงเอกสารเกี่ยวกับการเสนอขายหุนตอประชาชน
ท่ีตองจัดทําและสงใหหนวยงานตามกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพย โดยสงใหนายทะเบียนหน่ึง
ชุดภายในสิบหาวันนับแตวันที่สงใหแกหนวยงานดังกลาวแกนายทะเบียนตามหลักเกณฑวิธีการและเงื่อนไขที่นาย
ทะเบยี นกาํ หนด
หมวด ๔
การประชมุ จัดตงั้ และการจดทะเบียนบรษิ ทั
มาตรา ๒๖ เวนแตจ ะมีบทบัญญัติไวเปนอยางอ่ืน ผูเร่ิมจัดตั้งบริษัทจะจําหนายทรัพยสินที่ไดรับ
ชําระเปน คา จองหนุ ของบรษิ ัทหรือนําเงินคา จองหนุ ของบริษทั ไปใชจ า ยในกิจการใดๆ ไมไ ด
มาตรา ๒๗ ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทตองเรียกประชุมจัดต้ังบริษัทเม่ือมีการจองหุนครบตามจํานวนที่
กาํ หนดไวใ นหนงั สือชช้ี วน หรือเอกสารเกย่ี วกับการเสนอขายหนุ ตอประชาชน ซ่งึ ตองไมนอ ยกวารอ ยละหาสิบของ
จํานวนหุนที่กําหนดไวในหนังสือบริคณหสนธิ โดยการเรียกประชุมดังกลาวตองกระทําภายในสองเดือนนับแต
วันที่มีการจองหุนครบตามจํานวนท่ีกําหนดไว แตตองไมเกินหกเดือนนับแตวันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียน
หนงั สือบริคณหส นธิ
ในกรณีท่ีมีความจําเปนไมสามารถเรียกประชุมจัดตั้งบริษัทใหแลวเสร็จภายในกําหนดเวลาตาม
วรรคหน่ึง ถาผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทประสงคจะดําเนินการตอไป ตองขออนุญาตขยายกําหนดเวลาออกไปโดยทําเปน
หนังสือชแี้ จงเหตุผลย่นื ตอนายทะเบยี นไมน อ ยกวา เจ็ดวนั กอนครบกาํ หนดเวลาดังกลาวและในกรณที ีน่ ายทะเบยี น
เห็นสมควร อาจอนุญาตใหขยายเวลาออกไปได แตตองไมนอยกวาหน่ึงเดือนและไมเกินสามเดือนนับแตวัน
สน้ิ สดุ กําหนดเวลานนั้
ถาการประชุมจัดต้ังบริษัทไมแลวเสร็จภายในกําหนดเวลาตามมาตราน้ี ใหหนังสือบริคณหสนธิ
สิ้นผลเมื่อพนกําหนดเวลาดังกลาวนั้น และภายในสิบส่ีวันนับแตวันที่หนังสือบริคณหสนธิสิ้นผล ใหผูเร่ิมจัดตั้ง
บริษทั คนื เงินคา จองหนุ ใหแ กผจู องหนุ
มาตรา ๒๘ ในการเรียกประชุมจัดตั้งบริษัท ผเู รมิ่ จัดตงั้ บรษิ ัทตอ ง
(๑) สงหนังสือนัดประชุมไปยังผูจองหุนซ่ึงไดรับการจัดสรรหุนใหแลวไมนอยกวาสิบส่ีวันกอน
วนั ประชมุ พรอมดว ยเอกสารดงั ตอ ไปน้ี
(ก) ระเบียบวาระการประชมุ
(ข) เอกสารเก่ียวกับเรื่องท่ีจะใหที่ประชุมจัดต้ังบริษัทพิจารณาใหสัตยาบันหรืออนุมัติโดยมีผู
เริม่ จดั ต้งั บรษิ ทั สองคนรบั รองวา ถูกตอง
(ค) รา งขอ บังคับของบริษทั
(๒) จัดทําบัญชีผูจองหุน โดยระบุช่ือ สัญชาติ ท่ีอยู และจํานวนหุนท่ีผูเริ่มจัดต้ังบริษัทรับจอง
เพ่อื ใหผ ูจองหนุ ตรวจดูไดในวันประชมุ จดั ต้ังบรษิ ัท ณ สถานท่ที ใ่ี ชส ําหรับประชุมจัดต้งั บรษิ ทั
เมื่อสงหนังสือนัดประชุมพรอมดวยเอกสารไปยังผูจองหุนแลว ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทตองสงสําเนา
หนงั สอื นดั ประชุมพรอ มดว ยเอกสารดงั กลาวไปยงั นายทะเบียนไมนอ ยกวาเจ็ดวันกอ นวันประชมุ
มาตรา ๒๙ ในการสงหนังสือนัดประชุม ถาไดสงทางไปรษณียลงทะเบียน หากปรากฏวามีขอ
ขาดตกบกพรองไมเกินรอยละหาของจํานวนหุนท่ีจัดสรรแลว และไมเกินรอยละหาของจํานวนผูจองหุนซ่ึงไดรับ
การจัดสรรหุนใหแลว และไดโฆษณาคําบอกกลาว นัดประชุมในหนังสือพิมพไมนอยกวาสามวันกอนวันประชุม
ใหถอื วาการสง หนงั สือนดั ประชมุ นน้ั เปนอนั ไดสง โดยชอบแลว
มาตรา ๓๐ ขอบังคับของบริษัทตองไมขัดหรือแยงกับหนังสือบริคณหสนธิและบทแหง
พระราชบญั ญตั นิ ี้ และอยางนอยตอ งกําหนดเรอ่ื งดังตอ ไปนี้
(๑) การออกหนุ และการโอนหนุ
(๒) การประชุมผถู อื หนุ
(๓) จํานวน วิธีการเลือกตั้ง วาระการดํารงตําแหนง การพนจากตําแหนงกอนครบกําหนดออก
ตามวาระ การประชมุ และอาํ นาจกรรมการ
(๔) การบัญชี การเงนิ และการสอบบัญชี
(๕) การออกหุนบรุ มิ สิทธิ (ถาม)ี
(๖) การแปลงหนุ บรุ ิมสิทธเิ ปนหนุ สามญั (ถามี)
มาตรา ๓๑ ภายใตบ งั คับมาตรา ๑๙ วรรคสอง บรษิ ัทจะแกไขเพมิ่ เติมหนังสือบริคณหสนธิหรือ
ขอบังคับของบริษัทไดเมื่อท่ีประชุมผูถือหุนลงมติดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในส่ีของจํานวนเสียงท้ังหมด
ของผูถ ือหนุ ซึง่ มาประชุมและมีสิทธิออกเสยี ง
ในการแกไขเพ่ิมเติมหนังสือบริคณหสนธิหรือขอบังคับของบริษัท ใหบริษัทขอจดทะเบียนแกไข
เพมิ่ เตมิ ภายในสิบส่วี นั นบั แตว นั ท่ที ่ีประชมุ ลงมติ
มาตรา ๓๒ การประชุมจัดตั้งบริษัทตองจัดใหมีข้ึน ณ ทองท่ีที่จะเปนท่ีต้ังสํานักงานใหญของ
บริษัทหรือจังหวัดใกลเคียง และตองมีผูจองหุนซึ่งมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวากึ่งหนึ่งของจํานวนหุนท่ีจองแลว
มาประชมุ จึงจะเปน องคป ระชุม
ในกรณีท่ีผจู องหนุ มาประชมุ ไมครบองคประชมุ ตามวรรคหน่งึ ใหผเู ร่ิมจัดต้ังบริษัทสงหนังสือนัด
ประชมุ ไปยังผูจ องหนุ ภายในสิบสีว่ ันนบั แตว นั ประชุมครัง้ แรก แตไมนอยกวา เจ็ดวนั กอนวันประชมุ
มาตรา ๓๓ ผูจองหุนซึ่งผูเริ่มจัดตั้งบริษัทไดจัดสรรหุนใหแลว มีสิทธิเขาประชุมและออกเสียง
ลงคะแนนในการประชมุ จัดต้งั บริษทั
ผูจ องหนุ คนใดมสี วนไดเ สยี เปนพิเศษในเรอ่ื งใด ผูจ องหุนคนนั้นไมมีสิทธิออกเสียงลงคะแนนใน
เรอื่ งนั้น นอกจากการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการ
การลงมติของที่ประชุมจัดต้ังบริษัท ใหถือคะแนนเสียงขางมากของผูจองหุน ซึ่งมาประชุมและ
มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ถามีคะแนนเสียงเทากัน ใหประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหน่ึงเปน
เสียงชขี้ าด
ในการออกเสียงลงคะแนน ใหผูจองหุนมีคะแนนเสียงเทาจํานวนหุนท่ีจองโดยถือวาหุนหนึ่งมี
เสียงหน่งึ
การออกเสียงลงคะแนนใหกระทําโดยเปดเผย เวนแตผูจองหุนไมนอยกวาหาคนรองขอ และท่ี
ประชุมลงมตใิ หล งคะแนนลับก็ใหลงคะแนนลับ สวนวิธีการออกเสียงลงคะแนนลับน้ันใหเปนไปตามท่ีประธานใน
ที่ประชมุ กาํ หนด
มาตรา ๓๔ ในการประชุมผูจองหุน ผูจองหุนจะมอบฉันทะใหบุคคลซ่ึงบรรลุนิติภาวะแลวเขา
ประชมุ และออกเสียงลงคะแนนแทนตนกไ็ ด การมอบฉันทะตองทาํ เปนหนังสอื และลงลายมือชื่อผูมอบฉันทะ และ
มอบแกบ ุคคลซึ่งผูเรม่ิ จดั ตั้งบริษัทกาํ หนดไว ณ สถานทที่ ปี่ ระชุมกอนผรู บั มอบฉนั ทะเขาประชุม
หนงั สือมอบฉันทะใหเปนไปตามแบบท่นี ายทะเบยี นกาํ หนดซงึ่ อยา งนอยตอ งมีรายการดงั ตอ ไปน้ี
(๑) จาํ นวนหนุ ท่ผี ูมอบฉนั ทะถอื อยู
(๒) ชอ่ื ผรู บั มอบฉนั ทะ
(๓) ครั้งที่ของการประชมุ ท่ีมอบฉนั ทะใหเ ขา ประชุมและออกเสียงลงคะแนน
ในการออกเสียงลงคะแนน ใหถือวาผูรับมอบฉันทะมีคะแนนเสียงเทากับจํานวนคะแนนเสียงท่ีผู
จองหุนมอบฉันทะมีรวมกนั เวนแตผรู บั มอบฉันทะจะแถลงตอทป่ี ระชุมกอนลงคะแนนวาตนจะออกเสียงแทนผูซึ่ง
มอบฉันทะเพยี งบางคน โดยระบุช่อื ผูม อบฉนั ทะและจํานวนหุนท่ผี มู อบฉันทะถืออยดู ว ย
มาตรา ๓๕ กิจการอันจะพงึ ทาํ ในทป่ี ระชุมจัดตั้งบรษิ ทั น้ัน คอื
(๑) พจิ ารณาขอ บังคบั ของบริษัท
(๒) ใหสัตยาบันแกกิจการท่ีผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทไดทําไว และอนุมัติคาใชจายท่ีไดจายไปเนื่องใน
การจดั ต้งั บรษิ ทั
(๓) กําหนดจํานวนเงนิ ที่จะใหแกผูเรมิ่ จัดตัง้ บริษทั ถา ระบุไวเชนน้ันในหนงั สอื ช้ชี วน
(๔) กาํ หนดลกั ษณะแหง หนุ บรุ ิมสิทธิ (ถาม)ี
(๕) กาํ หนดจํานวนหุนสามัญ หรือหุนบุริมสิทธิท่ีจะออกใหแกบุคคลใดเสมือนวาไดรับชําระเงิน
คาหุนเต็มมูลคาแลว เพราะบุคคลน้ันเปนผูใหทรัพยสินอ่ืนนอกจากตัวเงิน หรือให หรือใหใชลิขสิทธิ์ในงาน
วรรณกรรม ศลิ ป หรือวิทยาศาสตร สิทธิบัตร เครื่องหมายการคา แบบหรือหุนจําลอง แผนผัง สูตร หรือกรรมวิธี
ลับใดๆ หรือใหข อ สนเทศเกีย่ วกบั ประสบการณทางอุตสาหกรรม การพาณชิ ยหรอื วิทยาศาสตร
(๖) เลือกต้ังกรรมการ
(๗) เลอื กตงั้ ผสู อบบัญชี และกาํ หนดจาํ นวนเงินคาสอบบญั ชีของบรษิ ัท
มาตรา ๓๖ การเลอื กตงั้ กรรมการใหเ ปน ไปตามท่บี ญั ญตั ิไวในมาตรา ๗๐
มาตรา ๓๗ ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทตองมอบกิจการและเอกสารท้ังปวงของบริษัทแกคณะกรรมการ
ภายในเจ็ดวันนบั แตว นั ทเ่ี สรจ็ สิน้ การประชมุ จัดต้งั บริษทั
เมื่อไดร ับมอบกจิ การและเอกสารแลว ใหคณะกรรมการมีหนังสือแจงใหผูจองหุนชําระเงินคาหุน
เต็มจํานวนภายในเวลาท่กี ําหนดไวในหนงั สือแจง ซ่งึ ตองไมน อ ยกวา สบิ สีว่ นั นับแตว ันที่ไดรับหนงั สอื แจง พรอ มกบั
เรียกใหผูจองหุนท่ีชําระคาหุนดวยทรัพยสินอ่ืนท่ีมิใชตัวเงินโอนกรรมสิทธ์ิทรัพยสินน้ันหรือทําเอกสารหลักฐาน
การใชสิทธิตางๆ ใหแกบริษัทตามวิธีการ และภายในเวลาที่กําหนดไวในหนังสือแจงน้ันซึ่งตองไมนอยกวาหนึ่ง
เดือนนบั แตวนั จดทะเบียนบรษิ ัท
ในการรับชาํ ระคา หนุ จะหักกลบลบหนกี้ ับผเู ร่มิ จัดตง้ั บรษิ ัทหรือบริษทั มไิ ด
มาตรา ๓๘ ถา ผูจ องหุนคนใดไมชําระเงินคาหุนหรือไมโอนกรรมสิทธ์ิทรัพยสินใหแกบริษัทตาม
มาตรา ๓๗ วรรคสอง ใหคณะกรรมการมีหนังสือเตือนใหชําระคาหุนใหเสร็จสิ้น หรือดําเนินการโอนกรรมสิทธ์ิ
ทรัพยสินหรือทําเอกสารหลักฐานการใชสิทธิตางๆใหแกบริษัทภายในสิบส่ีวันนับแตวันท่ีมีหนังสือเตือนพรอมกับ
แจงไปดวยวาถาไมดําเนินการตามวิธีการ และภายในกําหนดเวลาดังกลาวคณะกรรมการจะนําหุนน้ันออกขาย
ทอดตลาดตอไป
เม่ือพนกําหนดเวลาตามวรรคหน่ึงแลว ถาผูจองหุนดังกลาวยังไมชําระคาหุนใหเสร็จส้ินหรือไม
ดาํ เนินการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพยสินหรือทําเอกสารหลักฐานการใชสิทธิตางๆ ใหแกบริษัท ใหคณะกรรมการนําหุน
นน้ั ออกขายทอดตลาดภายในเจด็ วนั นบั แตว ันทีพ่ น กําหนดเวลาดงั กลา วนัน้
ถานําหุนออกขายตามวรรคสองแลว ไดเงินหุนไมครบมูลคาของหุนใหคณะกรรมการเรียกเก็บ
เงนิ คา หนุ ที่ยังขาดอยูจ ากผูจองหนุ โดยไมชกั ชา
มาตรา ๓๙ เมื่อไดรับชําระเงินคาหุนครบตามจํานวนท่ีกําหนดไวในมาตรา ๒๗ แลว ให
คณะกรรมการดําเนินการขอจดทะเบียนบริษัทภายในสามเดือนนับแตวันประชุมจัดตั้งบริษัทเสร็จโดยแสดง
รายการดงั ตอไปน้ี
(๑) ทนุ ชาํ ระแลว ซ่งึ ตองระบุวาเปนเงินทง้ั สิ้นเทาใด
(๒) จํานวนหุนทีจ่ าํ หนา ยไดท ้งั หมดโดยแยกออกเปน
(ก) หนุ สามัญและหุนบุริมสิทธิ (ถาม)ี ท่ชี าํ ระคา หุน เปนตัวเงนิ
(ข) หุนสามัญหรอื หนุ บรุ มิ สิทธิ (ถา มี) ท่ชี ําระคาหนุ ดว ยทรัพยสนิ อื่นนอกจากตวั เงิน และแสดง
เกณฑใ นการตรี าคาทรพั ยสนิ นนั้ ดวย
(ค) หนุ สามัญหรอื หุนบุรมิ สทิ ธิ (ถา มี) ท่ีชําระคาหุนดวยวิธีการตามมาตรา ๓๕ (๕) และแสดง
รายการโดยสงั เขปไวดว ย
(๓) ชื่อ วนั เดือนปเกิด สญั ชาติ และทอ่ี ยขู องกรรมการ
(๔) ช่ือและจํานวนกรรมการซ่ึงมีอํานาจลงลายมือช่ือแทนบริษัท และขอจํากัดอํานาจ (ถามี)
ตามทร่ี ะบไุ วใ นขอบังคับ
(๕) ทต่ี ้ังสํานักงานใหญแ ละสาํ นักงานสาขา (ถา มี)
ในการขอจดทะเบยี นตามวรรคหนึ่ง ใหค ณะกรรมการสง ขอ บังคับบัญชีรายช่อื ผถู ือหนุ โดยระบชุ อื่
สัญชาติ ท่ีอยู จาํ นวนหนุ ทถ่ี อื และเลขที่ใบหุน กับรายงานการประชมุ จดั ตงั้ บริษทั ไปพรอ มกนั ดว ย
มาตรา ๔๐ ในกรณีที่มีการเปล่ียนแปลงรายการใดท่ีแสดงไวตามมาตรา ๓๙ วรรคหนึ่ง ให
บรษิ ัทขอจดทะเบียนการเปลยี่ นแปลงรายการนัน้ ภายในสบิ สี่วันนบั แตว ันทม่ี กี ารเปลย่ี นแปลง
มาตรา ๔๑ บริษัทที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติน้ีแลวเปนนิติบุคคลตั้งแตวันที่นายทะเบียน
รบั จดทะเบยี น
มาตรา ๔๒ บริษทั มอี ํานาจกระทาํ การใดๆ ภายในขอบแหงวัตถุประสงคของบริษัทและถามิไดมี
ขอบังคับกาํ หนดไวเ ปน อยางอ่ืน อํานาจเชนวานี้ใหรวมถึงอาํ นาจท่ีจะกระทําการดงั ตอ ไปน้ดี ว ย
(๑) เปน โจทก รอ งทกุ ข ดําเนนิ การตามกระบวนพจิ ารณาใดๆ ในนามของบริษทั
(๒) ซ้อื จัดหา รับ เชา เชาซือ้ ถือกรรมสทิ ธิ์ ครองครอง ปรับปรงุ ใชแ ละจดั การโดยประการอ่ืน
ซึง่ ทรัพยส ินใดๆ ตลอดจนดอกผลของทรพั ยส ินนนั้
(๓) ขาย โอน จํานอง จํานาํ แลกเปล่ียน และจําหนา ยทรพั ยสนิ โดยประการอนื่
(๔) กยู มื เงิน คํ้าประกนั ออก โอน และสลักหลังตั๋วเงนิ หรือตราสารท่ีเปลีย่ นมอื ไดอยา งอ่ืน
(๕) ขอใหปลอยช่ัวคราวกรรมการ พนักงาน หรือลูกจาง ท่ีถูกดําเนินคดีอาญาในขอหาเกี่ยวกับ
การปฏบิ ัตหิ นา ที่ใหแ กบรษิ ทั
(๖) ถอื หุน จดั การบรษิ ทั อน่ื หรือบรษิ ัทเอกชน และกระทาํ ธุรกจิ เฉพาะอยา งรว มกนั กับบรษิ ทั อนื่
หรอื บรษิ ัทเอกชน
(๗) การกระทําอื่นใดที่บุคคลธรรมดาอาจกระทําได เวนแตโดยสภาพแหงการกระทํานั้นจะพึง
กระทาํ ไดแตเฉพาะบคุ คลธรรมดาเทานัน้ ทง้ั นี้ ภายในขอบวัตถุประสงคข องบรษิ ทั
มาตรา ๔๓ ภายใตบ งั คบั มาตรา ๔๔ คณะกรรมการจะจาํ หนายทรัพยสินที่ไดรับชําระเปนคาจอง
หุน ของบริษทั หรือนําเงินคา จองหุนของบริษทั ไปใชจ า ยในกจิ การใดๆ กอนนายทะเบียนรับจดทะเบียนบริษัทมิได
เวนแตเ งินคาใชจ ายซงึ่ ทปี่ ระชุมจดั ตัง้ บรษิ ัทไดอ นมุ ัติแลว
มาตรา ๔๔ ถาการขอจดทะเบียนบริษัทมิไดกระทําภายในกําหนดเวลาตามมาตรา ๓๙ หรือนาย
ทะเบียนมีคําสั่งไมรับจดทะเบียนและคําสั่งน้ันถึงท่ีสุดแลวใหถือวาบริษัทน้ันเปนอันมิไดจัดต้ังข้ึนและให
คณะกรรมการดาํ เนนิ การดังตอไปน้ี
(๑) คืนเงนิ คา หนุ แกผ ูจองหุน ในกรณที ่ีไดร ับชาํ ระคาหุนเปน ตัวเงิน
(๒) โอนกรรมสิทธิ์ทรัพยสินคืนใหแกผูจองหุน ในกรณีที่ไดรับชําระคาหุนดวยทรัพยสินอื่น
นอกจากตัวเงิน
(๓) คืนลิขสิทธ์ิในงานวรรณกรรม ศิลป หรือวิทยาศาสตร สิทธิบัตร เครื่องหมายการคา แบบ
หรือหุนจําลอง แผนผัง สูตร หรือกรรมวิธีลับใดๆ หรือคืนขอสนเทศเก่ียวกับประสบการณทางอุตสาหกรรม การ
พาณิชย หรือวิทยาศาสตร ใหแกผูใหหรือใหใชซึ่งส่ิงดังกลาว ถาไมสามารถจะคืนใหแกกันได ก็ใหใชเงินตามควร
คา แหงการนน้ั ๆ หรอื ถา มสี ัญญากาํ หนดวา ใหใ ชเ งนิ ตอบแทนก็ใหใชต ามนน้ั
ท้ังนี้ ภายในหนงึ่ เดือนนับแตวนั ท่พี นกําหนดเวลาดงั กลาว
ในกรณีที่บรษิ ทั มไิ ดจดั ต้ังขึน้ เพราะคาํ สงั่ ของนายทะเบยี นอันมิใชเปนผลสืบเน่ืองมาจากความผิด
ของผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทหรือคณะกรรมการ กอนคืนเงินคาหุนแกผูจองหุนตาม (๑) คณะกรรมการจะหักเงิน
คาใชจ า ย ซ่ึงที่ประชุมจัดตงั้ บรษิ ัทไดอนมุ ัติแลวดว ยกไ็ ด
มาตรา ๔๕ กรรมการตองรับผิดรวมกันโดยไมจํากัดจํานวนในการไมปฏิบัติตามมาตรา ๔๔
พรอ มกับชาํ ระดอกเบ้ีย นบั แตวันทพี่ น กาํ หนดเวลาตามมาตรา ๔๔
ในกรณที ่ีกรรมการคนใดสามารถพิสูจนไดวา การไมปฏิบัติตามมาตรา ๔๔ นั้นมิไดเปนความผิด
ของตน กรรมการคนนั้นไมต องรับผดิ ตามวรรคหนึง่
มาตรา ๔๖ ผูเร่ิมจัดตั้งบริษัทตองรับผิดรวมกันในบรรดากิจการตางๆ ที่ไดกระทําไปเนื่องใน
การจัดต้ังบริษัทถาไมสามารถจัดใหมีการประชุมจัดตั้งบริษัทใหเสร็จส้ินได และตองรับผิดรวมกันโดยไมจํากัด
จํานวนในบรรดาหน้ีและการจา ยเงิน ซง่ึ ทป่ี ระชมุ จดั ต้งั บรษิ ัทมิไดอนมุ ัติ
มาตรา ๔๗ เมอ่ื บรษิ ทั ไดจ ดทะเบยี นแลว ผูถอื หนุ จะรองขอใหศาลเพิกถอนการทีต่ นไดซื้อหุนไว
โดยสาํ คัญผิด ถูกขม ขู หรอื ฉอฉลไมได
มาตรา ๔๘ ในกรณีที่บริษัทจัดตั้งสํานักงานสาขาเพื่อดําเนินกิจการของบริษัทไมวาในหรือนอก
ราชอาณาจกั ร ใหขอจดทะเบยี นสาํ นกั งานสาขากอนดาํ เนนิ การ
ในกรณีที่บริษัทเลิกสํานักงานสาขา ใหขอจดทะเบียนเลิกสํานักงานสาขาภายในสิบสี่วันนับแต
วนั ท่เี ลกิ สํานักงานสาขาน้นั
มาตรา ๔๙ ใหน ํามาตรา ๑๐๘ มาใชบ งั คบั แกการประชมุ จดั ต้งั บริษัทโดยอนโุ ลม
หมวด ๕
หุน และผถู อื หนุ
*มาตรา ๕๐ หุนของบริษัทแตล ะหนุ ตอ งมีมูลคา เทากนั
มาตรา ๕๑ ในกรณีท่ีบริษัทจะเสนอขายหุนสูงกวามูลคาหุนท่ีจดทะเบียนไวบริษัทตองใหผูจอง
หุนสงใชจํานวนเงินที่สูงกวามูลคาหุนพรอมกับเงินคาหุน และนําคาหุนสวนท่ีเกินนี้ตั้งเปนทุนสํารองสวนล้ํามูลคา
หุน แยกตางหากจากทุนสํารองตามมาตรา ๑๑๖
มาตรา ๕๒ บริษัทซ่ึงดําเนินการมาแลวไมนอยกวาหนึ่งป ถาปรากฏวามีการขาดทุนจะเสนอขาย
หุนตา่ํ กวามลู คาหนุ ท่ีจดทะเบยี นไวก็ได แตต อง
(๑) ไดร บั ความเห็นชอบจากทป่ี ระชมุ ผถู ือหุน
(๒) กาํ หนดอัตราสว นลดไวแนน อน และระบไุ วใ นหนงั สอื ช้ชี วนดว ย และ
(๓) ปฏิบตั ติ ามมาตรา ๑๓๗ โดยอนุโลม
มาตรา ๕๓ หุน นั้นจะแบงแยกมไิ ด
ถาบุคคลตั้งแตสองคนขึ้นไปจองหุน หรือถือหุน หุนเดียวหรือหลายหุนรวมกัน บุคคลเหลาน้ัน
ตองรับผิดรวมกันในการสงใชเงินคาหุนและเงินท่ีสูงกวามูลคาหุน และตองแตงต้ังใหบุคคลในจํานวนน้ันแตเพียง
คนเดยี วเปนผูใชสทิ ธิในฐานะเปน ผจู องหนุ หรือผูถ อื หุน แลว แตกรณี
มาตรา ๕๔ ภายใตบงั คับมาตรา ๓๕ (๕) และมาตรา ๕๒ หุนทุกหุนตองใชเปนเงินคร้ังเดียวจน
เตม็ มลู คา
ในการชาํ ระคาหุน ผูจองหุนหรอื ผซู อ้ื หนุ จะขอหักกลบลบหนี้กับบรษิ ทั ไมได
** มาตรา ๕๔/๑ บทบัญญัติมาตรา ๕๔ วรรคสอง มิใหนํามาใชบังคับกับกรณีที่บริษัทปรับ
โครงสรางหนี้โดยการออกหุนใหมเพื่อชําระหน้ีแกเจาหนี้ตามโครงการแปลงหน้ีเปนทุนซ่ึงไดรับอนุมัติจากท่ี
ประชุมผูถือหุนดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในส่ีของจํานวนเสียงท้ังหมดของผูถือหุนซึ่งมาประชุมและมีสิทธิ
ออกเสียงลงคะแนน
*แกไขเพมิ่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั บิ รษิ ัทมหาชนจํากดั (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๓
**เพ่มิ โดยพระราชบญั ญัตบิ ริษทั มหาชนจาํ กดั (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๔
การออกหุนเพ่ือชําระหน้ีและโครงการแปลงหนี้เปนทุนตามวรรคหน่ึง ใหเปนไปตามหลักเกณฑ
และวิธีการท่กี าํ หนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๕๕ บริษัทตองจัดทําใบหุนมอบใหแกผูซื้อภายในสองเดือนนับแตวันที่นายทะเบียนรับ
จดทะเบียนบริษัท หรือนับแตวันที่ไดรับชําระเงินคาหุนครบถวนในกรณีท่ีบริษัทจําหนายหุนที่เหลือหรือจําหนาย
หุนทีอ่ อกใหมภายหลังการจดทะเบยี นบรษิ ทั
หามมใิ หอ อกใบหนุ ใหแกบุคคลใดจนกวา จะมกี ารจดทะเบยี นบรษิ ัท หรือจดทะเบยี นเพม่ิ ทุนและ
บคุ คลน้ันไดช ําระเงินคาหนุ ครบถว นแลว
ใบหนุ ท่ีออกโดยฝาฝน บทบัญญัตติ ามวรรคสองเปน โมฆะ
มาตรา ๕๖ ใบหุน นน้ั อยางนอ ยตองมีรายการดังตอ ไปนี้
(๑) ชอื่ บริษทั
(๒) เลขทะเบียนบริษทั และวนั ทน่ี ายทะเบยี นรับจดทะเบียนบรษิ ทั
(๓) ชนดิ มูลคา เลขทใี่ บหุน และ จาํ นวนหุน
(๔) ช่อื ผถู อื หนุ
(๕) ลายมือช่ือกรรมการซึ่งลงหรือพิมพไวอยางนอยหน่ึงคน แตกรรมการจะมอบหมายใหนาย
ทะเบียนหุนตามกฎหมายวาดวยหลักทรพั ยแ ละตลาดหลักทรพั ยลงหรอื พิมพล ายมือช่ือแทนก็ได
(๖) วันเดอื นปท่ีออกใบหนุ
มาตรา ๕๗ บริษัทจะกําหนดขอจํากัดใดๆ ในการโอนหุนมิได เวนแตขอจํากัดน้ันๆ จะเปนไป
เพื่อรักษาสิทธิและผลประโยชนท่ีบริษัทจะพึงไดรับตามกฎหมายหรือเพ่ือเปนการรักษาอัตราสวนการถือหุนของ
คนไทยกับคนตา งดา ว
ผูเร่ิมจัดตั้งบริษัทจะโอนหุนท่ีซื้อตามมาตรา ๑๗ (๓) กอนครบกําหนดสองปนับแตวันจด
ทะเบยี นเปน บริษัทแลว มไิ ด เวนแตจะไดรบั ความเหน็ ชอบจากท่ปี ระชุมผถู ือหุน
มาตรา ๕๘ การโอนหุนยอมสมบูรณเมื่อผูโอนไดสลักหลังใบหุน โดยระบุชื่อผูรับโอนและ
ลงลายมือชื่อของผูโอนกับผูรับโอนและสงมอบใบหุนใหแกผูรับโอน การโอนหุนนั้นจะใชยันบริษัทไดเม่ือบริษัท
ไดรับคํารองขอใหลงทะเบียนการโอนหุนแลว แตจะใชยันบุคคลภายนอกไดเมื่อบริษัทไดลงทะเบียนการโอนหุน
แลว ในการนี้หากบริษัทเห็นวา การโอนหุนนั้นถูกตองตามกฎหมาย ใหบริษัทลงทะเบียนการโอนหุนภายใน
สิบส่ีวันนับแตวันไดรับคํารองขอนั้นหรือหากบริษัทเห็นวาการโอนหุนน้ันไมถูกตองสมบูรณใหบริษัทแจงแก
ผยู ่ืนคํารองภายในเจด็ วัน
ในกรณีที่ผูรับโอนหุนประสงคจะไดใบหุนใหม ใหรองขอตอบริษัทโดยทําเปนหนังสือลงลายมือ
ช่ือของผูรับโอนหุนและมีพยานหน่ึงคนเปนอยางนอยลงลายมือชื่อรับรองลายมือช่ือน้ัน พรอมทั้งเวนคืนใบหุน
เดิมหรือหลักฐานอ่ืนใหแกบริษัท ในการน้ีหากบริษัทเห็นวาการโอนหุนน้ันถูกตองตามกฎหมายแลว ใหบริษัท
ลงทะเบยี นการโอนหุนภายในเจด็ วนั นับแตว ันไดร ับคาํ รองขอและใหบริษัทออกใบหุนใหใหมภายในหนึ่งเดือนนับ
แตวนั ไดรับคํารอ งขอน้นั
มาตรา ๕๙ ในกรณีท่ีผูถือหุนของบริษัทตายหรือลมละลาย อันเปนเหตุใหบุคคลใดมีสิทธิในหุน
น้ัน ถาบุคคลนั้นไดนําหลักฐานที่ชอบดวยกฎหมายมาแสดงครบถวนแลวใหบริษัทลงทะเบียนและออกใบหุนให
ใหมภายในหนง่ึ เดือนนับแตว นั ไดรบั หลักฐานครบถว น
มาตรา ๖๐ ในระหวางยี่สิบเอ็ดวันกอนวันประชุมผูถือหุนแตละครั้งบริษัทจะงดรับลงทะเบียน
การโอนหนุ กไ็ ด โดยประกาศใหผ ถู ือหุน ทราบลวงหนา ณ สํานกั งานใหญแ ละสาํ นักงานสาขาของบริษัททุกแหง ไม
นอยกวาสบิ สวี่ นั กอ นวันเริม่ งดรับลงทะเบยี นการโอนหุน
มาตรา ๖๑ บรษิ ัทตอ งจดั ใหม ีทะเบยี นผถู ือหนุ ซงึ่ อยางนอ ยตองมรี ายการ ดงั ตอไปนี้
(๑) ชือ่ สัญชาติ และทีอ่ ยูข องผถู ือหนุ
(๒) ชนิด มลู คา เลขที่ใบหนุ และจํานวนหุน
(๓) วันเดือนป ทลี่ งทะเบยี นเปนหรอื ขาดจากการเปนผูถอื หนุ
มาตรา ๖๒ บริษัทตองเก็บรักษาทะเบียนผูถือหุนและหลักฐานประกอบการลงทะเบียนไว ณ
สํานักงานใหญของบริษัท แตบริษัทจะมอบหมายใหบุคคลใดทําหนาที่เก็บรักษาทะเบียนผูถือหุนและหลักฐาน
ประกอบการลงทะเบียนแทนบริษัทไว ณ ท่ีใดก็ได แตตองแจงใหผูถือหุนและนายทะเบียนทราบถึงผูเก็บรักษา
ทะเบียนดงั กลาว
ในกรณีที่ทะเบียนผูถือหุนสูญหาย ลบเลือน หรือชํารุดในสาระสําคัญ ใหบริษัทแจงตอนาย
ทะเบียนภายในสิบส่ีวันนับแตวันท่ีทราบหรือควรจะไดทราบถึงการสูญหาย ลบเลือนหรือชํารุดนั้น และจัดทําหรือ
ซอมแซมทะเบียนผูถือหุนใหเ สรจ็ ภายในหน่ึงเดอื นนบั แตว ันทีแ่ จง
ทะเบยี นผถู อื หุนใหส ันนษิ ฐานไวก อนวา ถูกตอ ง
มาตรา ๖๓ ผูถือหุนมีสิทธิขอตรวจรายการในทะเบียนผูถือหุนและหลักฐานประกอบการ
ลงทะเบียนไดในระหวางเวลาทําการของผูเก็บรักษาทะเบียนผูถือหุน ในการน้ีผูเก็บรักษาทะเบียนผูถือหุนจะ
กาํ หนดเวลาไวก็ได แตต องไมน อ ยกวา วันละสองชวั่ โมง
ในกรณีท่ีผูถือหุนขอสําเนาทะเบียนผูถือหุนท้ังหมดหรือบางสวนพรอมดวยคํารับรองของบริษัท
วาถูกตอง หรือขอใหบริษัทออกใบหุนใหมแทนใบหุนท่ีสูญหาย ลบเลือน หรือชํารุดในสาระสําคัญและไดเสีย
คาธรรมเนียมตามขอบังคับของบริษัทใหแกบริษัทแลว บริษัทตองจัดทําหรือออกใหแกผูถือหุนภายในสิบส่ีวัน
นบั แตว นั ไดร ับคาํ ขอ
ใบหนุ ทีส่ ญู หาย ลบเลือน หรอื ชํารุดท่ีไดม กี ารออกใบหนุ ใหมแทนแลว ใหถ ือวา เปนอันยกเลิก
คาธรรมเนียมตามขอ บงั คับของบรษิ ทั ตามวรรคสอง ตองไมเกินอตั ราทีก่ ําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๖๔ บริษัทตองย่ืนบัญชีรายช่ือผูถือหุนที่มีอยูในวันประชุมสามัญประจําปโดยมีรายการ
ตามมาตรา ๓๙ วรรคสอง ตอ นายทะเบียนภายในหนง่ึ เดือนนบั แตว นั เสรจ็ การประชมุ
มาตรา ๖๕ บรุ มิ สิทธิในหนุ ซึ่งไดออกใหแลวจะเปลย่ี นแปลงมไิ ด
การแปลงหุนบุริมสิทธิเปนหุนสามัญจะกระทํามิได เวนแตบริษัทจะมีขอบังคับกําหนดไวเปน
อยา งอื่น ในการน้ใี หทําไดโดยผูถ อื หนุ ย่นื คําขอแปลงหุน ตอบริษัทพรอ มกบั สงมอบใบหุนคนื
การแปลงหุนตามวรรคสองใหมีผลนับแตวันยื่นคําขอ ในการน้ีใหบริษัทออกใบหุนใหมใหแก
ผขู อภายในสิบส่วี ันนับแตวันไดรบั คาํ ขอ
มาตรา ๖๖ บริษัทจะเปน เจาของหนุ หรอื รับจาํ นําหุน ของตนเองมไิ ด
*มาตรา ๖๖/๑ บทบัญญัติมาตรา ๖๖ ในสวนท่ีเกี่ยวกับการที่บริษัทเปนเจาของหุนของตนเอง
มิใหน าํ มาใชบ งั คบั ในกรณีดงั ตอไปน้ี
(๑) บรษิ ทั อาจซื้อหนุ คืนจากผูถอื หนุ ทอ่ี อกเสียงไมเห็นดวยกับมติของท่ีประชุมผูถือหุนซึ่งแกไข
ขอบังคับของบริษัทเก่ียวกับสิทธิในการออกเสียงลงคะแนนและสิทธิในการรับเงินปนผล ซึ่งผูถือหุนเห็นวาตน
ไมไ ดรบั ความเปน ธรรม
(๒) บริษัทอาจซ้อื หนุ คนื เพอ่ื บริหารทางการเงนิ เมื่อบริษัทมีกําไรสะสมและสภาพคลองสวนเกิน
และการซือ้ หนุ คนื นน้ั ไมเ ปน เหตุใหบรษิ ัทประสบปญ หาทางการเงนิ
หุนท่ีบริษัทถืออยูน้ันจะไมนับเปนองคประชุมในการประชุมผูถือหุน รวมทั้งไมมีสิทธิในการออก
เสยี งลงคะแนนและสิทธิในการรับเงนิ ปน ผลดวย
หุนที่ซื้อคืนตามวรรคหน่ึง บริษัทจะตองจําหนายออกไปภายในเวลาท่ีกําหนดในกฎกระทรวง ถา
ไมจําหนายหรือจําหนายไมหมดภายในเวลาที่กําหนด ใหบริษัทลดทุนท่ีชําระแลวโดยวิธีตัดหุนจดทะเบียนสวนท่ี
จาํ หนายไมไ ด
การซื้อหุนคืนตามวรรคหนึ่ง การจําหนายหุน และการตัดหุนตามวรรคสาม ใหเปนไปตาม
หลกั เกณฑและวธิ ีการทก่ี าํ หนดในกฎกระทรวง
หมวด ๖
คณะกรรมการ
มาตรา ๖๗ บริษัทตองมีกรรมการคณะหน่ึงเพื่อดําเนินกิจการของบริษัทประกอบดวยกรรมการ
อยา งนอ ยหา คน และกรรมการไมน อ ยกวากึ่งหนง่ึ ของจํานวนกรรมการทั้งหมดตอ งมถี ิน่ ที่อยใู นราชอาณาจกั ร
มาตรา ๖๘ กรรมการตองเปนบคุ คลธรรมดา และ
(๑) บรรลนุ ิตภิ าวะ
(๒) ไมเปนบุคคลลม ละลาย คนไรความสามารถ หรอื คนเสมอื นไรความสามารถ
(๓) ไมเคยรับโทษจําคุกโดยคําพิพากษาถึงที่สุดใหจําคุกในความผิดเก่ียวกับทรัพยที่ไดกระทํา
โดยทจุ ริต
(๔) ไมเคยถูกลงโทษไลออกหรือปลดออกจากราชการ หรือองคการหรือหนวยงานของรัฐ ฐาน
ทุจรติ ตอ หนาท่ี
มาตรา ๖๙ การกําหนดขอจํากัดใดๆ อันมีลักษณะเปนการกีดกันมิใหผูถือหุนเปนกรรมการน้ัน
จะกระทาํ มไิ ด
มาตรา ๗๐ เวน แตบ รษิ ัทจะมีขอบังคับกําหนดไวเปนอยางอ่ืน กรรมการน้ันใหท่ีประชุมผูถือหุน
เลอื กต้งั ตามหลักเกณฑและวธิ กี ารดังตอ ไปนี้
(๑) ผูถือหุนคนหน่ึงมีคะแนนเสียงเทากับจํานวนหุนที่ตนถือคูณดวยจํานวนกรรมการท่ีจะ
เลอื กตัง้
*เพิ่มโดยพระราชบญั ญัติบริษทั มหาชนจาํ กัด (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๕
(๒) ผูถือหุนแตละคนจะใชคะแนนเสียงท่ีมีอยูทั้งหมดตาม (๑) เลือกตั้งบุคคลคนเดียวหรือ
หลายคนเปน กรรมการกไ็ ด ในกรณีทเี่ ลอื กต้ังบคุ คลหลายคนเปนกรรมการจะแบงคะแนนเสียงใหแกผ ใู ดมากนอย
เพียงใดก็ได
(๓) บคุ คลซึง่ ไดร ับคะแนนเสียงสูงสุดตามลําดับลงมาเปนผูไดรับการเลือกตั้งเปนกรรมการเทา
จํานวนกรรมการท่ีจะพึงมี ในกรณีท่ีบุคคลซึ่งไดรับการเลือกตั้งในลําดับถัดลงมามีคะแนนเสียงเทากันเกินจํานวน
กรรมการทจ่ี ะพึงมี ใหเลอื กโดยวิธจี บั สลากเพื่อใหไ ดจ ํานวนกรรมการทีจ่ ะพงึ มี
ในกรณีท่ีบริษัทมีขอบังคับกําหนดวิธีการเลือกกรรมการไวเปนอยางอื่นขอบังคับน้ันจะตองไมมี
ลักษณะเปนการตัดสทิ ธิผูถือหนุ ในการลงคะแนนเลือกกรรมการ
มาตรา ๗๑ ในการประชุมผูถือหุนสามัญประจําปทุกคร้ัง ใหเลือกต้ังคณะกรรมการทั้งชุดพรอม
กันในคราวเดียวแตใหคณะกรรมการชุดเดิมรักษาการในตําแหนงเพื่อดําเนินกิจการของบริษัทตอไปพลางกอน
เทาที่จาํ เปนจนกวา คณะกรรมการชดุ ใหมจะเขา รบั หนา ท่ี
ความในวรรคหน่งึ มิใหใชบ ังคบั กบั กรณีทบ่ี รษิ ัทมีขอบงั คับกําหนดวิธีการเลือกกรรมการแตกตาง
ไปจากทีก่ ําหนดไวใ นมาตรา ๗๐ ซึ่งในกรณีเชนน้ัน ใหกรรมการออกจากตําแหนงจํานวนหนึ่งในสามเปนอัตราถา
จํานวนกรรมการท่จี ะแบงออกใหต รงเปน สามสวนไมได ก็ใหออกโดยจาํ นวนใกลท่สี ุดกับสวนหน่ึงในสาม
กรรมการที่จะตองออกจากตําแหนงในปแรกและปที่สองภายหลังจดทะเบียนบริษัทน้ัน ถา
ขอบังคับมิไดกําหนดไวเปนอยางอื่น ก็ใหจับสลากกัน สวนปหลังๆ ตอไปใหกรรมการคนท่ีอยูในตําแหนงนาน
ทส่ี ดุ น้ันเปนผอู อกจากตาํ แหนง
กรรมการซ่ึงพนจากตาํ แหนงตามมาตรานี้ อาจไดร บั เลือกตัง้ ใหมได
มาตรา ๗๒ นอกจากการพนจากตําแหนงตามวาระตามมาตรา ๗๑ กรรมการพนจากตําแหนง
เม่ือ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบตั ิ หรอื มลี ักษณะตองหามตามมาตรา ๖๘
(๔) ท่ปี ระชุมผถู ือหุน ลงมติใหอ อกตามมาตรา ๗๖
(๕) ศาลมีคาํ สง่ั ใหอ อก
มาตรา ๗๓ กรรมการคนใดจะลาออกจากตําแหนง ใหยื่นใบลาออกตอบริษัท การลาออกมีผล
นบั แตวนั ที่ใบลาออกไปถึงบริษัท
กรรมการซง่ึ ลาออกตามวรรคหน่งึ จะแจง การลาออกของตนใหนายทะเบยี นทราบดวยกไ็ ด
มาตรา ๗๔ ในกรณีท่ีกรรมการพนจากตําแหนงทั้งคณะ ใหคณะกรรมการท่ีพนจากตําแหนง
ยังคงตองอยูรักษาการในตําแหนงเพ่ือดําเนินกิจการของบริษัทตอไปเพียงเทาที่จําเปนจนกวาคณะกรรมการชุด
ใหมเขารับหนา ท่ี เวน แตศ าลจะมคี าํ ส่ังเปนอยา งอนื่ ในกรณที ีค่ ณะกรรมการพนจากตาํ แหนง ตามมาตรา ๗๒ (๕)
คณะกรรมการที่พนจากตําแหนงตองจัดใหมีการประชุมผูถือหุนเพื่อเลือกต้ังคณะกรรมการชุด
ใหมภายในหน่ึงเดอื นนับแตว ันพนจากตาํ แหนง โดยสง หนังสอื นดั ประชมุ ใหผถู อื หุนทราบไมน อ ยกวาสิบสี่วันกอน
วนั ประชุม
มาตรา ๗๕ ภายใตบังคับมาตรา ๘๓ ในกรณีที่ตําแหนงกรรมการวางลงเพราะเหตุอ่ืนนอกจาก
ถึงคราวออกตามวาระ ใหคณะกรรมการเลือกบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไมมีลักษณะตองหามตามมาตรา ๖๘ เขา
เปนกรรมการแทนในการประชุมคณะกรรมการคราวถัดไป เวน แตว าระของกรรมการจะเหลือนอยกวาสองเดอื น
มติของคณะกรรมการตามวรรคหน่ึงตองประกอบดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในสี่ของ
จํานวนกรรมการทย่ี ังเหลืออยู
บุคคลซ่ึงเขาเปนกรรมการแทนตามวรรคหน่ึงอยูในตําแหนงไดเพียงเทาวาระท่ียังเหลืออยูของ
กรรมการซึ่งตนแทน
มาตรา ๗๖ ที่ประชุมผูถือหุนอาจลงมติใหกรรมการคนใดออกจากตําแหนงกอนถึงคราวออก
ตามวาระได ดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในสี่ของจํานวนผูถือหุนซึ่งมาประชุมและมีสิทธิออกเสียง และมีหุน
นบั รวมกันไดไ มน อยกวา กึ่งหนึง่ ของจาํ นวนหนุ ทถ่ี อื โดยผถู อื หนุ ทม่ี าประชมุ และมสี ทิ ธิออกเสียง
มาตรา ๗๗ คณะกรรมการมีอาํ นาจและหนา ทจ่ี ดั การบริษัทใหเ ปนไปตามวัตถุประสงคขอบังคับ
และมติของท่ปี ระชมุ ผถู อื หุน
คณะกรรมการอาจมอบหมายใหก รรมการคนหน่ึงหรือหลายคนหรือบุคคลอ่ืนใดปฏิบัติการอยาง
ใดอยางหนึ่งแทนคณะกรรมการก็ได เวนแตบริษัทจะมีขอบังคับไมใหคณะกรรมการมีอํานาจดังกลาวโดยระบุไว
ชัดแจง
มาตรา ๗๘ ใหคณะกรรมการเลือกกรรมการคนหนงึ่ เปนประธานกรรมการ
ในกรณีท่ีคณะกรรมการพิจารณาเห็นสมควร จะเลือกกรรมการคนหน่ึงหรือหลายคนเปนรอง
ประธานกรรมการกไ็ ด รองประธานกรรมการมหี นาทตี่ ามขอ บงั คับในกจิ การซ่ึงประธานกรรมการมอบหมาย
มาตรา ๗๙ คณะกรรมการตองประชุมอยางนอยสามเดือนตอครั้งณ ทองที่อันเปนที่ต้ัง
สํานกั งานใหญของบริษทั หรือจังหวัดใกลเคยี ง เวนแตขอบังคบั ของบรษิ ทั จะกาํ หนดใหมกี ารประชมุ ณ ทอ งทอ่ี น่ื
มาตรา ๘๐ ในการประชุมคณะกรรมการ ตองมีกรรมการมาประชุมไมนอยกวาก่ึงหน่ึงของ
จาํ นวนกรรมการทงั้ หมดจงึ จะเปน องคป ระชมุ ในกรณีที่ประธานกรรมการไมอยูในท่ีประชุมหรือไมสามารถปฏิบัติ
หนาที่ได ถามีรองประธานกรรมการ ใหรองประธานกรรมการเปนประธาน ถาไมมีรองประธานกรรมการ หรือมี
แตไ มสามารถปฏิบัติหนา ท่ไี ด ใหกรรมการซงึ่ มาประชมุ เลอื กกรรมการคนหนึง่ เปน ประธานในท่ีประชุม
การวนิ จิ ฉัยชขี้ าดของทปี่ ระชมุ ใหถือเสยี งขางมาก
กรรมการคนหนึ่งมีเสียงหน่ึงในการลงคะแนน เวนแตกรรมการซึ่งมีสวนไดเสียในเรื่องใดไมมี
สิทธิออกเสียงลงคะแนนในเร่ืองนั้น ถาคะแนนเสียงเทากัน ใหประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่ง
เปน เสียงชข้ี าด
มาตรา ๘๑ ประธานกรรมการเปนผูเ รยี กประชมุ คณะกรรมการ
ถา กรรมการตั้งแตสองคนขน้ึ ไปรอ งขอใหเรียกประชมุ คณะกรรมการใหป ระธานกรรมการกําหนด
วนั ประชุมภายในสิบสี่วนั นับแตว ันทีไ่ ดร ับการรองขอ
มาตรา ๘๒ ในการเรียกประชมุ คณะกรรมการ ใหประธานกรรมการหรือผูซ่ึงไดรับมอบหมายสง
หนังสือนัดประชุมไปยังกรรมการไมนอยกวาเจ็ดวันกอนวันประชุม เวนแตในกรณีจําเปนรีบดวนเพื่อรักษาสิทธิ
หรอื ประโยชนของบรษิ ทั จะแจงการนดั ประชมุ โดยวิธีอ่ืนและกาํ หนดวนั ประชุมใหเรว็ กวานนั้ ก็ได
มาตรา ๘๓ ในกรณีท่ีตําแหนงกรรมการวางลงจนเหลือนอยกวาจํานวนท่ีจะเปนองคประชุม ให
กรรมการท่ีเหลืออยูกระทําการในนามของคณะกรรมการไดแตเฉพาะการจัดใหมีการประชุมผูถือหุนเพื่อเลือกตั้ง
กรรมการแทนตาํ แหนงที่วา งทั้งหมดเทา นัน้
การประชุมตามวรรคหนึ่ง ใหกระทําภายในหนึ่งเดือนนับแตวันที่จํานวนกรรมการวางลงเหลือ
นอยกวา จาํ นวนทีจ่ ะเปนองคป ระชมุ
บุคคลซ่ึงเขาเปนกรรมการแทนตามวรรคหนึ่งอยูในตําแหนงไดเพียงเทาวาระท่ียังเหลืออยูของ
กรรมการซ่ึงตนแทน
มาตรา ๘๔ บรรดากิจการของบริษัทที่คณะกรรมการ หรือกรรมการ หรือบุคคลซ่ึงไดรับ
มอบหมายจากคณะกรรมการไดกระทําไปในนามของบริษัท ยอมมีผลสมบูรณและผูกพันบริษัทแมจะปรากฏใน
ภายหลังวามขี อ บกพรองเกย่ี วกบั การเลอื กต้งั แตง ตง้ั หรอื คุณสมบัติของกรรมการ
มาตรา ๘๕ ในการดําเนินกิจการของบริษัท กรรมการตองปฏิบัติหนาที่ใหเปนไปตามกฎหมาย
วัตถุประสงค และขอบังคับของบริษัท ตลอดจนมติท่ีประชุมผูถือหุนดวยความซ่ือสัตยสุจริตและระมัดระวังรักษา
ผลประโยชนของบรษิ ัท
ในกรณีที่กรรมการคนใดกระทําการหรือละเวนกระทําการใดอันเปนการไมปฏิบัติตามวรรคหนึ่ง
บริษัทหรอื ผูถ ือหนุ แลวแตก รณี อาจดําเนนิ การไดดังตอไปน้ี
(๑) ถา การกระทําหรือละเวนการกระทํานั้นเปนเหตุใหบริษัทไดรับความเสียหาย ใหบริษัทเรียก
คา สนิ ไหมทดแทนจากกรรมการคนนน้ั ได
ในกรณีที่บริษัทไมเรียกรอง ผูถือหุนคนหน่ึงหรือหลายคนซ่ึงถือหุนรวมกันไมนอยกวารอยละหา
ของหนุ ที่จําหนายไดท้ังหมดจะแจงเปนหนังสือใหบริษัทดําเนินการเรียกรองก็ได หากบริษัทไมดําเนินการตามท่ีผู
ถอื หุนน้นั แจง ผถู อื หนุ น้ันๆ จะนาํ คดขี ึน้ ฟองรองเรียกคาสินไหมทดแทนแทนบริษทั กไ็ ด
(๒) ถาการกระทําหรือละเวนการกระทํานั้นอาจทําใหเกิดความเสียหายแกบริษัทผูถือหุนคน
หน่ึงหรือหลายคนซ่ึงถือหุนรวมกันไมนอยกวารอยละหาของหุนท่ีจําหนายไดท้ังหมด จะขอใหศาลสั่งระงับการ
กระทําดงั กลาวก็ได
ในกรณที ี่ผูถือหุนเปนผูดําเนินการตามวรรคสอง ผูถือหุนจะขอใหศาลสั่งใหกรรมการคนนั้นออก
จากตําแหนงก็ได
ผถู ือหนุ ซึง่ ดาํ เนนิ การตามวรรคสองและวรรคสาม ตองถือหุนของบริษทั อยูในขณะทกี่ รรมการคน
นั้นกระทําการหรือละเวนกระทําการอันเปนเหตุใหบริษัทเสียหายหรืออาจทําใหเกิดความเสียหายแกบริษัท
แลวแตกรณี
มาตรา ๘๖ หามมิใหกรรมการประกอบกิจการอันมีสภาพอยางเดียวกันและเปนการแขงขันกับ
กิจการของบริษัท หรือเขาเปนหุนสวนในหางหุนสวนสามัญ หรือเปนหุนสวนไมจํากัดความรับผิดในหางหุนสวน
จํากัด หรือเปนกรรมการของบริษัทเอกชนหรือบริษัทอื่นที่ประกอบกิจการอันมีสภาพอยางเดียวกัน และเปนการ
แขงขันกับกิจการของบริษัทไมวาจะทําเพื่อประโยชนตน หรือประโยชนผูอื่น เวนแตจะไดแจงใหท่ีประชุมผูถือหุน
ทราบกอนทีจ่ ะมมี ตแิ ตงตั้ง
ในกรณีที่กรรมการคนใดฝาฝนบทบัญญัติวรรคหน่ึง บริษัทจะเรียกคาสินไหมทดแทนในการที่
บริษัทไดรับความเสียหายจากกรรมการคนนั้นก็ได ทั้งน้ี ตองฟองภายในหน่ึงปนับแตวันที่บริษัททราบถึงการฝา
ฝนและไมเ กนิ สองปนบั แตวนั ฝาฝน
ในกรณีที่บริษัทไมใชสิทธิเรียกรองตามวรรคสอง ผูถือหุนคนหนึ่งหรือหลายคนซึ่งถือหุนรวมกัน
ไมน อยกวารอ ยละหาของหุนทีจ่ ําหนายไดทัง้ หมดจะแจง เปนหนังสอื ใหบรษิ ทั ดําเนินการเรียกรอ งก็ได ถาบริษัทไม
ดําเนินการตามท่ีผูถือหุนแจงภายในหน่ึงเดือนนับแตวันท่ีแจง หรืออายุความตามวรรคสองเหลือนอยกวาหน่ึง
เดือน ผูถือหุนดังกลาวจะใชสิทธิเรียกรองน้ันเพื่อบริษัทก็ได และใหนํามาตรา ๘๕ วรรคสอง (๒) และวรรคสาม
มาใชบ ังคบั โดยอนุโลม
มาตรา ๘๗ กรรมการคนใดซ้ือทรัพยสินของบริษัท หรือขายทรัพยสินใหแกบริษัทหรือกระทํา
ธุรกิจอยางใดอยางหนึ่งกับบริษัท ไมวาจะกระทําในนามของตนหรือของบุคคลอื่น ถามิไดรับความยินยอมจาก
คณะกรรมการแลว การซือ้ ขายหรอื กระทาํ ธุรกิจนน้ั ไมมผี ลผูกพันบริษทั
มาตรา ๘๘ ใหก รรมการแจงใหบ ริษัททราบโดยมิชกั ชาเมอ่ื มีกรณดี ังตอ ไปนี้
(๑) มีสวนไดเสียไมวาโดยตรงหรือโดยออมในสัญญาใดๆ ที่บริษัททําข้ึนระหวางรอบปบัญชี
โดยระบขุ อ เท็จจรงิ เกีย่ วกับลกั ษณะของสญั ญา ชื่อของคสู ญั ญาและสว นไดเ สียของกรรมการในสัญญานน้ั (ถามี)
(๒) ถือหุนหรือหุนกูในบริษัทและบริษัทในเครือ โดยระบุจํานวนท้ังหมดท่ีเพิ่มขึ้นหรือลดลงใน
ระหวางรอบปบ ญั ชี (ถา มี)
มาตรา ๘๙ หามมใิ หบริษัทใหก ูยืมเงนิ แกก รรมการ พนกั งาน หรอื ลูกจา งของบริษัทเวนแต
(๑) เปน การใหกูยมื เงนิ ตามระเบยี บการสงเคราะหพนักงานและลกู จา ง หรอื
(๒) เปนการใหกูยืมเงินตามกฎหมายวาดวยการธนาคารพาณิชย กฎหมายวาดวยการประกัน
ชีวิต หรือกฎหมายอน่ื
การใหกูยืมเงินดังตอไปนี้ ใหถือวาเปนการใหกูยืมแกกรรมการ พนักงาน หรือลูกจางของบริษัท
ตามวรรคหนึ่ง
(ก) การใหกูยืมเงินแกคูสมรส หรือบุตรที่ยังไมบรรลุนิติภาวะของกรรมการ พนักงาน หรือ
ลูกจาง
(ข) การใหกูยืมเงินแกหางหุนสวนสามัญที่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจาง คูสมรส หรือบุตรท่ี
ยงั ไมบ รรลนุ ติ ิภาวะของกรรมการ พนักงาน หรอื ลกู จางนัน้ เปนหนุ สว น
(ค) การใหกูยืมเงินแกหางหุนสวนจํากัดที่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจาง คูสมรส หรือบุตรที่
ยงั ไมบรรลุนติ ิภาวะของกรรมการ พนกั งาน หรือลกู จา งนัน้ เปนหนุ สวนจาํ พวกไมจาํ กัดความรบั ผิด
(ง) การใหกูยืมเงินแกบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนที่กรรมการ พนักงาน หรือลูกจาง คูสมรส
หรือบุตรที่ยังไมบรรลุนิติภาวะของกรรมการ พนักงาน หรือลูกจางนั้น ถือหุนรวมกันเกินกึ่งหนึ่งของจํานวนหุน
ทั้งหมดของบริษทั อ่ืนหรือบริษัทเอกชนนั้น
การใหกูยืมเงินตามวรรคหนึ่ง หมายความรวมถึงการคํ้าประกันการรับซ้ือหรือซื้อลดตั๋วเงิน และ
การใหหลักประกนั เกยี่ วกบั เงนิ ทก่ี ูยืมดวย
มาตรา ๙๐ หามมิใหบริษัทจายเงินหรือทรัพยสินอื่นใดใหแกกรรมการเวนแตจายเปน
คาตอบแทนตามขอ บังคับของบรษิ ัท
ในกรณที ข่ี อบงั คับของบรษิ ทั มไิ ดกาํ หนดไว การจายคาตอบแทนตามวรรคหน่ึงใหเปนไปตามมติ
ของท่ีประชุมผูถือหุน ซึ่งประกอบดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสองในสามของจํานวนเสียงท้ังหมดของผูถือหุนซ่ึง
มาประชุม
มาตรา ๙๑ กรรมการตองรับผิดรวมกันเพื่อความเสียหายใดๆ อันเกิดข้ึนแกบริษัทในกรณี
ดังตอไปนี้
(๑) การเรยี กใหผูจ องหนุ ชําระเงนิ คาหนุ หรือโอนกรรมสิทธทิ์ รัพยสินใหแกบริษัทโดยไมปฏิบัติ
ตามมาตรา ๓๗ หรือมาตรา ๓๘
(๒) การนําเงินคาหุนไปใชจายหรือจําหนายทรัพยสินท่ีไดรับชําระเปนคาหุนของบริษัทโดย
ฝา ฝน มาตรา ๔๓
(๓) การดาํ เนินการใดๆ โดยฝาฝน มาตรา ๘๕
(๔) การใหก ูยมื เงนิ โดยฝาฝนมาตรา ๘๙
(๕) การจายเงนิ หรอื ทรัพยส นิ อ่ืนใดใหแกก รรมการโดยไมป ฏบิ ัติตามมาตรา ๙๐
(๖) การจายเงินปนผลใหแกผูถือหุนโดยฝาฝนมาตรา ๑๑๕ หรือการรับผิดตามมาตรา ๑๑๘
เวน แตจ ะพสิ จู นไดว าไดก ระทําการโดยสุจรติ และอาศัยหลักฐาน หรือรายงานทางการเงินท่ีประธานกรรมการ หรือ
เจา หนาท่กี ารเงินของบริษทั หรือผูสอบบัญชีรับรองวา ถูกตอ งแลว
(๗) การไมจัดทําหรือเก็บรักษาบัญชี ทะเบียน หรือเอกสารของบริษัทตามพระราชบัญญัติน้ี
เวนแตจะพิสจู นไ ดว า ตนไดกระทําการอันสมควรเพ่ือมใิ หม กี ารฝา ฝน แลว
มาตรา ๙๒ กรรมการไมตองรบั ผดิ ตามมาตรา ๙๑ ในกรณีดงั ตอ ไปน้ี
(๑) พิสูจนไดวาตนมิไดรวมกระทํากิจการน้ันๆ หรือกิจการดังกลาวไดกระทําไปโดยมิไดอาศัย
มตขิ องทปี่ ระชมุ คณะกรรมการ
(๒) ไดคัดคานในท่ีประชุมคณะกรรมการโดยปรากฏในรายงานการประชุมหรือไดทําเปน
หนังสือย่นื ตอ ประธานท่ปี ระชุมภายในสามวนั นับแตส ้นิ สุดการประชุม
มาตรา ๙๓ ในกรณีท่ีกรรมการตองรับผิดเพื่อความเสียหายใดๆ ท่ีเกิดขึ้นแกบริษัทตามมาตรา
๙๑ (๖) ใหกรรมการดังกลาวมีสิทธิเรียกเงินปนผลสวนท่ีเกินคืนจากผูถือหุนซึ่งไดรับไปโดยทราบวาเปนการจาย
โดยฝา ฝน มาตรา ๑๑๕ หรอื การตองรับผดิ ตามมาตรา ๑๑๘ ดว ย
มาตรา ๙๔ กรรมการตองรับผิดรวมกันเพ่ือความเสียหายใดๆ อันเกิดข้ึนแกผูถือหุนและ
บคุ คลซง่ึ เก่ยี วของกบั บรษิ ัทในกรณดี งั ตอไปน้ี เวนแตจ ะพิสจู นไดว า ตนมไิ ดม สี ว นในการกระทําความผดิ นน้ั ดว ย
(๑) การแจงขอความอันเปนเท็จ หรือปกปดขอความอันควรตองแจงเกี่ยวกับฐานะการเงิน
และผลการดาํ เนนิ งานของบริษทั ในการเสนอขายหุน หนุ กูหรอื ตราสารการเงินของบรษิ ัท
(๒) การแสดงขอ ความหรือลงรายการในเอกสารที่ย่นื ตอนายทะเบียน โดยขอความหรือรายการ
น้นั เปน เท็จ หรือไมตรงกับบญั ชี ทะเบยี น หรือเอกสารของบริษัท
(๓) การจัดทํางบดุลและบัญชีกําไรขาดทุน รายงานการประชุมผูถือหุนหรือรายงานการประชุม
คณะกรรมการอันเปนเท็จ
มาตรา ๙๕ กรรมการคนใดกระทําการใดที่ท่ีประชุมผูถือหุนมีมติใหอํานาจอนุมัติหรือให
สตั ยาบนั แลว แมตอมาจะมีการเพิกถอนมติน้ัน กรรมการคนน้ันไมตองรับผิดในการกระทํานั้นตอบริษัท ผูถือหุน
หรือเจา หนี้ของบริษัท
มาตรา ๙๖ บริษัทตองจัดใหมีทะเบียนกรรมการ รายงานการประชุมคณะกรรมการและรายงาน
การประชุมผูถือหุน และเก็บรักษาไว ณ สํานักงานใหญของบริษัท แตบริษัทจะมอบหมายใหบุคคลใดทําหนาท่ี
เก็บรักษาเอกสารและทะเบียนดังกลาวแทนบริษัทไว ณ ท่ีใดก็ได แตตองแจงใหนายทะเบียนทราบกอนและตอง
เกบ็ รกั ษาไวในทองทอี่ นั เปนทต่ี ง้ั สํานักงานใหญห รอื จงั หวัดใกลเคยี ง
ทะเบียนกรรมการน้นั อยางนอ ยตอ งมรี ายการดงั ตอ ไปนี้
(๑) ช่ือ วันเดือนปเกดิ สญั ชาติ และทอ่ี ยูของกรรมการ
(๒) ชนดิ มูลคา เลขทใี่ บหนุ และจาํ นวนหนุ ทีก่ รรมการแตล ะคนถอื
(๓) วันเดอื นป ทเ่ี ปนหรอื ขาดจากการเปนกรรมการ
รายงานการประชุมคณะกรรมการและรายงานการประชุมผูถือหุนนั้นคณะกรรมการตองจัดทําให
เสรจ็ ภายในสบิ สว่ี นั นับแตวนั ประชมุ
มาตรา ๙๗ เวนแตจะมีบัญญัติไวในหมวดนี้เปนอยางอ่ืน ความเกี่ยวพันระหวางกรรมการกับ
บรษิ ัทและบรษิ ทั กบั บคุ คลภายนอก ใหเปน ไปตามประมวลกฎหมายแพง และพาณิชยวาดว ยตัวแทน
หมวด ๗
การประชุมผูถอื หุน
มาตรา ๙๘ คณะกรรมการตองจัดใหมีการประชุมผูถือหุนเปนการประชุมสามัญประจําปภายใน
สเี่ ดอื นนับแตวนั ส้ินสดุ ของรอบปบัญชขี องบรษิ ทั
การประชุมผถู ือหุนคราวอน่ื นอกจากวรรคหน่ึง ใหเ รียกวาการประชมุ วิสามัญ
มาตรา ๙๙ คณะกรรมการจะเรียกประชุมผูถือหุนเปนการประชุมวิสามัญเม่ือใดก็ไดสุดแตจะ
เหน็ สมควร
มาตรา ๑๐๐ ผูถือหุนซ่ึงมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวาหนึ่งในหาของจํานวนหุนที่จําหนายได
ทง้ั หมดหรอื ผถู ือหุนไมน อ ยกวายี่สิบหา คน ซึ่งมหี นุ นับรวมกนั ไดไมนอยกวาหนึง่ ในสบิ ของจํานวนหนุ ท่จี ําหนา ยได
ท้ังหมด จะเขาช่ือกันทําหนังสือขอใหคณะกรรมการเรียกประชุมผูถือหุนเปนการประชุมวิสามัญเม่ือใดก็ได แต
ตองระบเุ หตผุ ลในการทขี่ อใหเ รยี กประชุมไวใ หชดั เจนในหนังสือดังกลาวดวย ในกรณีเชนนี้คณะกรรมการตองจัด
ใหม กี ารประชุมผูถอื หุนภายในหนึ่งเดอื นนับแตว ันไดร บั หนงั สอื จากผูถอื หุน
มาตรา ๑๐๑ ในการเรียกประชุมผูถ ือหุนน้ัน ใหคณะกรรมการจัดทําเปนหนังสือนัดประชุม ระบุ
สถานที่ วัน เวลา ระเบยี บวาระการประชมุ และเรื่องท่ีจะเสนอตอที่ประชุมพรอมดวยรายละเอียดตามสมควร โดย
ระบุใหชัดเจนวาเปนเรื่องท่ีจะเสนอเพื่อทราบ เพ่ืออนุมัติ หรือเพ่ือพิจารณา แลวแตกรณี รวมท้ังความเห็นของ
คณะกรรมการในเร่ืองดังกลาวและจัดสงใหผูถือหุนและนายทะเบียนทราบไมนอยกวาเจ็ดวันกอนวันประชุม ทั้งนี้
ใหโฆษณาคําบอกกลาวนดั ประชมุ ในหนงั สือพมิ พไ มน อ ยกวาสามวันกอนวันประชุมดวย
สถานท่ีที่จะใชเปนที่ประชุมตามวรรคหน่ึง ตองอยูในทองท่ีอันเปนท่ีตั้งสํานักงานใหญของบริษัท
หรอื จังหวัดใกลเ คียง เวน แตข อบงั คับจะกาํ หนดไวเปน อยางอื่น
มาตรา ๑๐๒ ผูถอื หนุ มสี ทิ ธิเขา ประชมุ และออกเสยี งลงคะแนนในการประชุมผูถือหุนแตจะมอบ
ฉันทะใหบุคคลอ่ืนเขาประชุมและออกเสียงลงคะแนนแทนก็ได ในการนี้ใหนํามาตรา ๓๓ วรรคสอง วรรคสี่ และ
วรรคหา และมาตรา ๓๔ มาใชบังคับโดยอนุโลมโดยในกรณีการมอบฉันทะใหย่ืนหนังสือมอบฉันทะตอประธาน
กรรมการหรอื ผทู ปี่ ระธานกรรมการกําหนด
* การออกเสียงลงคะแนนในวรรคหน่ึงในสวนที่ถือวาหุนหน่ึงมีเสียงหน่ึงนั้นมิใหใชบังคับกับกรณีที่
บรษิ ัทไดออกหนุ บุรมิ สิทธิและกําหนดใหม ีสทิ ธิออกเสยี งลงคะแนนนอ ยกวาหุนสามัญ
มาตรา ๑๐๓ เวนแตพระราชบัญญัตินี้จะบัญญัติไวเปนอยางอ่ืน ในการประชุมผูถือหุน ตองมีผู
ถอื หุน และผรู บั มอบฉันทะจากผถู ือหนุ (ถาม)ี มาประชุมไมน อ ยกวา ยี่สบิ หา คนหรือไมนอยกวากึ่งหน่ึงของจํานวน
ผูถือหุนทั้งหมดและตองมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวาหนึ่งในสามของจํานวนหุนท่ีจําหนายไดทั้งหมด จึงจะเปน
องคประชมุ
ในกรณีที่ปรากฏวาการประชุมผูถือหุนครั้งใด เม่ือลวงเวลานัดไปแลวถึงหนึ่งชั่วโมงจํานวนผูถือ
หุนซึง่ มาเขารว มประชุมไมครบเปน องคประชมุ ตามทกี่ าํ หนดไวในวรรคหนึง่ หากวา การประชุมผถู อื หุนน้ันไดเรียก
นดั เพราะผูถือหุนรองขอตามมาตรา ๑๐๐ การประชุมเปนอันระงับไป ถาการประชุมผูถือหุนน้ันมิใชเปนการเรียก
ประชุมเพราะผูถือหุนรองขอตามมาตรา ๑๐๐ ใหนัดประชุมใหม และใหสงหนังสือนัดประชุมไปยังผูถือหุนไม
นอ ยกวาเจด็ วนั กอ นวนั ประชุม ในการประชมุ คร้ังหลงั นไ้ี มบ ังคับวาจะตอ งครบองคประชุม
มาตรา ๑๐๔ ประธานกรรมการเปนประธานของท่ีประชุมผูถือหุน ในกรณีที่ประธานกรรมการ
ไมอ ยใู นทีป่ ระชุมหรือไมส ามารถปฏิบัติหนาที่ได ถามีรองประธานกรรมการใหรองประธานกรรมการเปนประธาน
ถาไมมีรองประธานกรรมการ หรือมีแตไมสามารถปฏิบัติหนาท่ีได ใหผูถือหุนซ่ึงมาประชุมเลือกผูถือหุนคนหน่ึง
เปนประธานในทีป่ ระชุม
มาตรา ๑๐๕ ประธานในที่ประชุมผูถือหุน มีหนาที่ควบคุมการประชุมใหเปนไปตามขอบังคับ
ของบริษัทวาดวยการประชุม ในการนี้ตองดําเนินการประชุมใหเปนไปตามลําดับระเบียบวาระที่กําหนดไวใน
หนังสือนัดประชุม เวนแตที่ประชุมจะมีมติใหเปล่ียนลําดับระเบียบวาระดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสองในสาม
ของจาํ นวนผูถ ือหนุ ซึ่งมาประชมุ
เมื่อที่ประชุมพิจารณาเสร็จตามวรรคหนึ่งแลว ผูถือหุนซึ่งมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวาหน่ึงใน
สามของจํานวนหุนท่ีจําหนายไดท้ังหมด จะขอใหท่ีประชุมพิจารณาเรื่องอื่นนอกจากที่กําหนดไวในหนังสือนัด
ประชมุ อีกกไ็ ด
ในกรณีท่ีที่ประชุมพิจารณาเร่ืองตามลําดับระเบียบวาระไมเสร็จตามวรรคหนึ่งหรือพิจารณาเร่ือง
ที่ผูถือหุนเสนอไมเสร็จตามวรรคสอง แลวแตกรณี และจําเปนตองเล่ือนการพิจารณา ใหท่ีประชุมกําหนดสถานท่ี
วัน และเวลาที่จะประชุมครั้งตอไป และใหคณะกรรมการสงหนังสือนัดประชุมระบุสถานท่ี วัน เวลา และระเบียบ
วาระการประชุมไปยังผูถือหุนไมนอยกวาเจ็ดวันกอนวันประชุม ท้ังน้ีใหโฆษณาคําบอกกลาวนัดประชุมใน
หนังสือพิมพไมน อ ยกวาสามวนั กอ นวนั ประชุมดวย
มาตรา ๑๐๖ การสงหนังสือนัดประชุมตามที่กําหนดไวในหมวดน้ีใหนํามาตรา ๒๙ มาใชบังคับ
โดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๐๗ เวนแตพระราชบัญญัติน้ีจะบัญญัติไวเปนอยางอื่น มติของที่ประชุมผูถือหุนน้ันให
ประกอบดวยคะแนนเสียดงั ตอ ไปนี้
(๑) ในกรณีปกติ ใหถือคะแนนเสียงขางมากของผูถือหุนซ่ึงมาประชุมและออกเสียงลงคะแนน
ถามีคะแนนเสยี งเทา กัน ใหป ระธานในทปี่ ระชมุ ออกเสยี งเพิ่มขึน้ อกี เสียงหนง่ึ เปนเสียงช้ีขาด
*เพิ่มโดยพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๖
มาตรา ๑๑๓ คณะกรรมการตองจัดสงเอกสารดังตอไปนี้ใหผูถือหุนพรอมกับหนังสือนัดประชุม
สามญั ประจาํ ป
(๑) สําเนางบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนที่ผูสอบบัญชีตรวจสอบแลว ตามมาตรา ๑๑๒ พรอมท้ัง
รายงานการตรวจสอบบญั ชขี องผูส อบบัญชี
(๒) เอกสารแสดงรายการตามมาตรา ๑๑๔ (๑) และ (๒) (ถา ม)ี
(๓) รายงานประจําปของคณะกรรมการ
มาตรา ๑๑๔ ในรายงานประจาํ ปข องคณะกรรมการน้นั อยางนอยตองปรากฏรายงานเกีย่ วกบั
(๑) ชอ่ื สถานท่ตี ้ังสํานกั งานใหญ ประเภทธรุ กจิ จาํ นวนและชนิดหนุ ท้ังหมดที่ออกจําหนายแลว
ของบริษัท จํานวนและชนิดหุนที่บริษัทถืออยูในบริษัทในเครือ (ถามี) ลักษณะของบริษัทท่ีจะเปนบริษัทในเครือ
ใหเปน ไปตามทก่ี ําหนดในกฎกระทรวง
(๒) ช่ือ สถานที่ต้ังสํานักงานใหญ ประเภทธุรกจิ จํานวนและชนิดหนุ ทั้งหมดท่ีออกจําหนายแลว
จํานวนและชนิดหนุ ของบริษัทอื่นหรือบริษัทเอกชนท่ีบริษัทถือหุนอยูเปนจํานวนตั้งแตรอยละสิบข้ึนไปของจํานวน
หนุ ทอี่ อกจําหนายแลว ของบรษิ ัทอน่ื หรือบริษัทเอกชนนน้ั (ถา มี)
(๓) รายละเอียดท่กี รรมการแจงตอ บรษิ ทั ตามมาตรา ๘๘
(๔) ผลประโยชนตอบแทน หุน หุนกู หรือสิทธิประโยชนอยางอื่นท่ีกรรมการไดรับจากบริษัท
พรอมกับระบุช่อื กรรมการซึง่ เปนผูไดรบั น้นั
(๕) รายการอยางอ่ืนตามที่กําหนดในกฎกระทรวง
มาตรา ๑๑๕ การจายเงินปนผลจากเงินประเภทอ่ืนนอกจากเงินกําไรจะกระทํามิได ในกรณีท่ี
บรษิ ัทยงั มียอดขาดทนุ สะสมอยู หา มมิใหจ ายเงินปน ผล
เงนิ ปน ผลนั้นใหแ บงตามจํานวนหุน หุนละเทาๆ กัน เวนแตจะมีขอบังคับกําหนดไวเปนอยางอื่น
ในเรอ่ื งหุนบรุ ิมสทิ ธิ โดยการจา ยเงินปน ผลตองไดร บั อนมุ ัตจิ ากทป่ี ระชุมผูถอื หนุ
เม่ือขอบังคับของบริษัทกําหนดใหทําได คณะกรรมการอาจจายเงินปนผลระหวางกาลใหแกผูถือ
หนุ ไดเปน คร้ังคราว เมื่อเห็นวาบริษัทมีกําไรสมควรพอท่ีจะทําเชนนั้นและเม่ือไดจายเงินปนผลแลว ใหรายงานให
ทีป่ ระชุมผถู ือหุนทราบในการประชุมคราวตอไป
การจายเงินปนผลน้ันใหกระทําภายในหน่ึงเดอื นนับแตวันท่ีท่ีประชุมผูถือหุน หรือคณะกรรมการ
ลงมติ แลวแตกรณี ท้ังนี้ ใหแจงเปนหนังสือไปยังผูถือหุนกับใหโฆษณาคําบอกกลาวการจายเงินปนผลน้ันใน
หนงั สอื พมิ พด ว ย
มาตรา ๑๑๖ บรษิ ัทตอ งจัดสรรกาํ ไรสุทธิประจําปสว นหนงึ่ ไวเ ปน ทนุ สาํ รองไมนอยกวารอยละหา
ของกําไรสทุ ธิประจาํ ปหักดวยยอดเงนิ ขาดทุนสะสมยกมา (ถามี) จนกวาทุนสํารองน้จี ะมีจาํ นวนไมนอ ยกวารอยละ
สบิ ของทนุ จดทะเบียน เวน แตบ ริษัทจะมขี อบงั คบั หรือกฎหมายอนื่ กาํ หนดใหต องมีทนุ สาํ รองมากกวาน้นั
มาตรา ๑๑๗ ในกรณที ่บี ริษทั ยังจาํ หนา ยหนุ ไมค รบตามจาํ นวนที่จดทะเบียนไว หรอื บริษัทไดจ ด
ทะเบียนเพ่ิมทุนแลว บริษัทจะจายเงินปนผลท้ังหมดหรือบางสวน โดยออกเปนหุนสามัญใหมใหแกผูถือหุนโดย
ไดรับความเห็นชอบจากท่ีประชุมผูถือหนุ กไ็ ด
มาตรา ๑๑๘ ในกรณีที่บริษัทจายเงินปนผลใหแกผูถือหุนโดยฝาฝนมาตรา ๑๑๕ มาตรา ๑๑๖
หรือมาตรา ๑๑๗ เปนเหตุใหเจาหน้ีของบริษัทเสียเปรียบ เจาหนี้จะฟองผูถือหุนใหคืนเงินปนผลท่ีไดรับไปแลวก็
ได โดยตองฟอ งภายในหนึ่งปน ับแตว ันท่ีทีป่ ระชุมผูถือหุนลงมตแิ ตผ ูถ อื หนุ คนใดไดรบั เงินปนผลไปแลวโดยสจุ รติ
จะบังคบั ใหคืนเงนิ มไิ ด
* มาตรา ๑๑๙ เม่อื ไดรับอนมุ ัตจิ ากท่ปี ระชุมผูถอื หุนแลว บริษทั อาจโอนทนุ สํารองตามมาตรา ๕๑
ทนุ สาํ รองตามมาตรา ๑๑๖ หรือเงินสาํ รองอื่น เพื่อชดเชยผลขาดทนุ สะสมของบริษทั กไ็ ด
การชดเชยผลขาดทุนสะสมตามวรรคหนึ่ง ใหหักชดเชยจากเงินสํารองอ่ืนกอนแลวจึงหักจากทุน
สํารองตามมาตรา ๑๑๖ และทุนสํารองตามมาตรา ๕๑ ตามลาํ ดบั
มาตรา ๑๒๐ ใหท่ีประชุมผูถือหุนสามัญประจําปแตงตั้งผูสอบบัญชี และกําหนดจํานวนเงินคา
สอบบญั ชีของบริษัททกุ ป ในการแตงตัง้ ผสู อบบัญชีจะแตง ต้ังผูสอบบัญชีคนเดิมอีกก็ได
มาตรา ๑๒๑ ผูสอบบัญชีตองไมเปนกรรมการ พนักงาน ลูกจางหรือผูดํารงตําแหนงหนาที่ใดๆ
ของบริษัท
มาตรา ๑๒๒ ผูสอบบัญชีมีอํานาจตรวจสอบบัญชี เอกสารและหลักฐานอื่นใดท่ีเกี่ยวกับรายได
รายจายตลอดจนทรัพยสินและหนี้สินของบริษัทไดในระหวางเวลาทําการของบริษัท ในการน้ีใหมีอํานาจสอบถาม
กรรมการ พนักงาน ลูกจาง ผูดํารงตําแหนงหนาท่ีใดๆ ของบริษัท และตัวแทนของบริษัท รวมทั้งใหชี้แจง
ขอเท็จจริงหรอื สงเอกสารหลกั ฐานเกย่ี วกบั การดําเนินกิจการของบรษิ ทั ได
มาตรา ๑๒๓ ผูสอบบัญชีตองทํารายงานเสนอตอท่ีประชุมผูถือหุนสามัญประจําปตามกฎหมาย
วา ดว ยการสอบบญั ชี
มาตรา ๑๒๔ งบดุล บัญชีกําไรขาดทุน และรายงานของผูสอบบัญชีของบริษัทตองทําเปน
ภาษาไทยโดยจัดพมิ พใหเ รียบรอ ย
มาตรา ๑๒๕ ผูส อบบญั ชมี สี ทิ ธิทาํ คาํ ช้ีแจงเปนหนังสือเสนอตอท่ีประชุมผูถือหุนและมีหนาท่ีเขา
รวมประชุมในการประชุมผูถือหุนของบริษัททุกคร้ังที่มีการพิจารณางบดุลบัญชีกําไรขาดทุน และปญหาเก่ียวกับ
บัญชีของบริษัทเพื่อช้ีแจงการตรวจสอบบัญชีตอผูถือหุนและใหบริษัทจัดสงรายงานและเอกสารของบริษัทที่ผูถือ
หนุ จะพึงไดร ับในการประชมุ ผถู อื หนุ คร้ังนั้นแกผสู อบบญั ชดี วย
มาตรา ๑๒๖ ผูถือหุนมีสิทธิขอตรวจงบดุล บัญชีกําไรขาดทุน และรายงานของผูสอบบัญชีของ
บริษัทไดทุกเวลาในระหวางเวลาทําการของบริษัท และจะขอใหบริษัทสงสําเนาเอกสารดังกลาวพรอมดวยคํา
รับรองวาถูกตอ งกไ็ ด ในการนบ้ี ริษทั อาจเรียกคา ใชจ ายไดต ามท่ีกําหนดไวใ นขอ บงั คับของบรษิ ทั
มาตรา ๑๒๗ บริษัทตองจัดสงรายงานประจําป พรอมกับสําเนางบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนที่
ผูสอบบัญชีไดตรวจสอบและท่ีประชุมผูถือหุนไดอนุมัติแลว และสําเนารายงานการประชุมผูถือหุนเฉพาะท่ี
เกย่ี วกบั การอนมุ ตั งิ บดุล การจัดสรรกําไร และการแบงเงินปนผล โดยมีผูมีอํานาจลงนามแทนบริษัทลงลายมือช่ือ
รับรองวาถูกตองไปยังนายทะเบียน สําหรับงบดุลนั้นบริษัทตองโฆษณาใหประชาชนทราบทางหนังสือพิมพมี
กาํ หนดเวลาอยา งนอ ยหนึ่งวันดว ย ทั้งน้ี ภายในหน่งึ เดอื นนับแตวันทีท่ ป่ี ระชุมผถู ือหุนอนุมัติ
*แกไ ขเพม่ิ เติมโดยพระราชบญั ญัตบิ รษิ ทั มหาชนจาํ กดั (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๗
หมวด ๙
การตรวจสอบ
มาตรา ๑๒๘ ผูถือหุนซึ่งมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวาหน่ึงในหาของจํานวนหุนที่จําหนายได
ทั้งหมด หรือผูถือหุนไมนอยกวาหน่ึงในสามของจํานวนผูถือหุนทั้งหมดจะเขาช่ือกันทําคําขอเปนหนังสือใหนาย
ทะเบียนแตงต้ังผูตรวจสอบเพ่ือดําเนินการตรวจสอบกิจการและฐานะการเงินของบริษัทตลอดจนตรวจสอบการ
ดําเนินงานของคณะกรรมการดว ยก็ได
ในคําขอตามวรรคหน่ึง ผูขอตองระบุประเด็นท่ีจะใหตรวจสอบโดยแจงชัดพรอมกับแจงช่ือและ
สถานที่อยขู องผูถอื หุนคนหน่งึ เปน ตวั แทนดวย
ใหนายทะเบียนมีคําสั่งแตงตั้งพนักงานเจาหนาที่คนหนึ่งหรือหลายคนเปนผูตรวจสอบและใน
คําสัง่ แตงต้งั ผูตรวจสอบ นายทะเบยี นตอ งระบปุ ระเด็นท่จี ะใหตรวจสอบโดยแจง ชัด
มาตรา ๑๒๙ นายทะเบียนจะแตงตั้งพนักงานเจาหนาที่คนหนึ่งหรือหลายคนเปนผูตรวจสอบ
เพ่ือดาํ เนินการตรวจสอบบริษัทก็ไดเ ม่อื มเี หตุอนั ควรสงสยั วา
(๑) บริษัทไดกระทําการเพ่ือโกงเจาหนี้ของบริษัท หรือกอหนี้โดยที่รูอยูวาไมสามารถจะชําระ
คนื ได
(๒) บริษัทฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ หรือแจงขอความที่เปนเท็จในการขอจด
ทะเบยี นในงบดุลหรือบญั ชีกําไรขาดทุน หรอื ในรายงานทยี่ นื่ ตอ นายทะเบยี นหรอื ทเี่ ปด เผยแกป ระชาชนท่ัวไป
(๓) กรรมการหรือพนักงานช้ันบริหารของบริษัทดําเนินการผิดวัตถุประสงคของบริษัทหรือ
กระทําการทุจรติ ตอบรษิ ทั หรือผูถ ือหุนของบริษัท
(๔) มกี ารกระทําอนั เปน การทําใหผถู ือหนุ ฝา ยขางนอ ยเสียเปรียบโดยไมเ ปน ธรรม
(๕) การบริหารกจิ การของบริษทั อาจกอ ใหเกดิ ความเสยี หายแกผูถอื หุน
ในคําส่ังแตงต้ังผูตรวจสอบ นายทะเบียนตองระบุประเด็นที่จะใหตรวจสอบโดยแจงชัดและมี
หนังสือแจงใหบรษิ ัททราบ
มาตรา ๑๓๐ ในการปฏบิ ัติหนาทตี่ ามมาตรา ๑๒๘ และมาตรา ๑๒๙ ผตู รวจสอบมีอํานาจดงั นี้
(๑) เขาไปในสาํ นกั งานและสถานทใ่ี ดๆ ของบรษิ ัทระหวา งเวลาทําการของบรษิ ัท
(๒) สง่ั กรรมการ พนกั งาน ลกู จาง ผูดํารงตาํ แหนง หนาทใ่ี ดๆ ของบรษิ ัทและตวั แทนของบริษัท
และผสู อบบัญชี รวมท้ังบุคคลซึ่งเคยดํารงตําแหนงหรือมีหนาที่ดังกลาวและพนจากตําแหนงหรือหนาที่นั้นไมเกิน
หนง่ึ ปม าใหถอ ยคาํ
(๓) ส่ังใหบุคคลตาม (๒) แสดงหรือสงบัญชีและเอกสารที่เกี่ยวของกับการดําเนินกิจการของ
บริษัทท่อี ยูในความรบั ผิดชอบของตนเพ่ือตรวจสอบ
ในกรณีที่ผูตรวจสอบพิจารณาเห็นวา ในการตรวจสอบตามท่ีไดรับแตงตั้งนั้นมีความจําเปนตอง
ตรวจสอบบริษัทอื่น หรือบริษัทเอกชนตามมาตรา ๑๑๔ (๑) และ (๒) ดวยเพราะมีกรณีเก่ียวเน่ืองกัน ผู
ตรวจสอบตองไดรับความเห็นชอบจากนายทะเบียนกอนจึงจะมีอํานาจตรวจสอบบริษัทน้ันเฉพาะในเรื่องที่
เกย่ี วของนน้ั ไดด ว ย
ในการปฏบิ ตั หิ นา ท่ีของผูต รวจสอบตามวรรคหน่ึงหรือวรรคสอง ใหผูตรวจสอบเปนเจาพนักงาน
ตามประมวลกฎหมายอาญา และใหบคุ คลซึ่งเก่ียวขอ งชวยเหลือและอํานวยความสะดวกใหต ามสมควร
มาตรา ๑๓๑ ผูตรวจสอบตองทํารายงานผลการตรวจสอบพรอมดวยความเห็นเสนอนาย
ทะเบียนภายในสองเดือนนับแตวันไดรับแตงตั้ง ถาไมสามารถกระทําใหเสร็จภายในกําหนดเวลาดังกลาว ผู
ตรวจสอบตองรายงานการตรวจสอบตอนายทะเบยี นทกุ สองเดอื น
มาตรา ๑๓๒ เม่ือนายทะเบยี นไดร บั รายงานผลการตรวจสอบจากผูตรวจสอบแลวใหดําเนินการ
ดังตอ ไปนี้
(๑) สง สําเนารายงานนน้ั ไปยังบรษิ ัทภายในเจ็ดวนั นบั แตวนั ทไ่ี ดร บั รายงาน
(๒) แจงตอ เจา พนักงานท่ีเกยี่ วขอ งเพื่อดําเนินคดแี กผูซ ่ึงกระทาํ ความผิดตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี
(๓) สงั่ ใหบริษทั ดาํ เนินการใหถ กู ตอ งตามพระราชบญั ญัติน้ี
(๔) แจงเปนหนังสือตอเจาหน้ีหรือบุคคลซ่ึงอาจไดรับความเสียหายตามท่ีปรากฏจากรายงาน
การตรวจสอบ
มาตรา ๑๓๓ ใหบริษัทท่ีไดรับรายงานตามมาตรา ๑๓๒ (๑) สรุปรายงานและสงใหผูถือหุน
ทราบภายในสบิ สวี่ ันนับแตว ันท่ไี ดร ับรายงาน ในการนี้ บริษทั ตองจดั ใหม ีสําเนารายงานครบชดุ ไวท ี่บรษิ ทั เพอื่ ใหผ ู
ถือหนุ ตรวจสอบได
มาตรา ๑๓๔ คาใชจา ยในการตรวจสอบบริษัทนนั้ ใหบุคคลดงั ตอ ไปนีท้ ดรองจา ยไปกอน คือ
(๑) ผถู อื หนุ ซ่ึงเปน ผขู อใหน ายทะเบียนแตงต้งั ผูตรวจสอบ
(๒) นายทะเบยี น ในกรณที ม่ี กี ารตรวจสอบตามมาตรา ๑๒๙
มาตรา ๑๓๕ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบเปนไปดังท่ีประสงคจะตรวจสอบท้ังหมดหรือบางสวน
ใหบ ริษัทรับผดิ ชดใชค าใชจ า ยในการตรวจสอบท่ีบุคคลตามมาตรา ๑๓๔ ไดอ อกทดรองจายไป
หมวด ๑๐
การเพม่ิ ทนุ และการลดทุน
มาตรา ๑๓๖ บรษิ ทั จะเพิม่ ทนุ จากจาํ นวนทจ่ี ดทะเบยี นไวแ ลว ไดโดยการออกหุนใหมเพ่มิ ข้นึ
การออกหนุ เพิ่มตามวรรคหนงึ่ จะกระทาํ ไดเ ม่อื
(๑) หุนทั้งหมดไดออกจําหนายและไดรับชําระเงินคาหุนครบถวนแลว หรือในกรณีหุนยัง
จาํ หนายไมครบ หุนทีเ่ หลอื ตองเปน หนุ ท่ีออกเพอื่ รองรับหุนกูแปลงสภาพหรือใบสําคญั แสดงสทิ ธทิ จ่ี ะซอ้ื หนุ
(๒) ท่ีประชุมผถู อื หนุ ลงมตดิ วยคะแนนเสยี งไมน อ ยกวา สามในสี่ของจํานวนเสียงท้ังหมด ของผู
ถอื หุนซ่ึงมาประชมุ และมสี ทิ ธิออกเสียงลงคะแนน และ
(๓) นํามตินั้นไปจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนจดทะเบียนตอนายทะเบียนภายในสิบส่ีวันนับแต
วนั ทท่ี ป่ี ระชมุ ลงมติดังกลาว
ท้ังน้ี ใหน าํ หมวด ๓ และหมวด ๕ มาใชบงั คับโดยอนุโลม
มาตรา ๑๓๗ หุนที่เพ่ิมขึ้นตามมาตรา ๑๓๖ จะเสนอขายทั้งหมดหรือบางสวนก็ไดและจะเสนอ
ขายใหแกผูถอื หนุ ตามสวนจํานวนท่ีผูถอื หุนแตล ะคนมีอยูแ ลวกอ น หรอื จะเสนอขายตอ ประชาชนหรอื บุคคลอน่ื ไม
วา ทั้งหมดหรือแตบางสวนกไ็ ด ทั้งน้ี ตามมตขิ องทปี่ ระชมุ ผถู อื หนุ และใหน าํ มาตรา ๓๘ มาใชบงั คับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๓๘ เม่ือบริษัทจําหนายหุนท่ีเพิ่มไดบางสวนแลว บริษัทจะขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง
ทุนชําระแลวตอนายทะเบียน โดยแบงออกเปนงวด งวดละไมนอยกวารอยละย่ีสิบหาของจํานวนหุนที่เสนอขายก็
ได แตตองกําหนดไวใ นหนังสอื ชีช้ วนหรอื ในเอกสารเกย่ี วกบั การเสนอขายหุนตอ ประชาชนดว ย
นอกจากกรณีที่บัญญัติไวในวรรคหนึ่งแลว ใหบริษัทขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชําระแลว
ภายในสิบส่ีวันนับแตวันที่ไดรับชําระคาหุนครบตามจํานวนที่เสนอขายและกําหนดไวในหนังสือช้ีชวนหรือใน
เอกสารเก่ยี วกับการเสนอขายหุน ตอ ประชาชน
ในการขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชําระแลวตามมาตรานี้ บริษัทตองสงบัญชีรายชื่อผูถือหุน
ของบรษิ ทั เฉพาะผถู อื หุน ท่ีเพิม่ โดยระบชุ ือ่ สัญชาติ ทีอ่ ยู จาํ นวนหุนที่ถอื และเลขทใี่ บหนุ ไปดวย
* มาตรา ๑๓๙ บรษิ ทั จะลดทุนจากจาํ นวนที่จดทะเบียนไวแลวไดโดยการลดมูลคาหุนแตละหุนให
ตาํ่ ลงหรือลดจํานวนหุนใหนอยลงกไ็ ด แตจะลดทนุ ลงไปใหถ งึ ต่าํ กวา จาํ นวนหนึ่งในส่ีของทุนทงั้ หมดหาไดไ ม
ในกรณีท่ีบริษัทขาดทุนสะสม และไดมีการชดเชยผลขาดทุนสะสมตามมาตรา ๑๑๙ แลวยังคงมี
ผลขาดทนุ สะสมเหลืออยู บริษัทอาจลดทุนใหเ หลือตาํ่ กวาจํานวนหนึง่ ในสี่ของทุนท้ังหมดก็ได
การลดมูลคาหนุ หรอื ลดจาํ นวนหุนตามวรรคหนงึ่ หรอื วรรคสองเปน จาํ นวนเทาใด และดว ยวิธีการ
อยางใด จะกระทําไดตอเม่ือที่ประชุมผูถือหุนลงมติดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในสี่ของจํานวนเสียงท้ังหมด
ของผูถือหุนที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียงลงคะแนน ทั้งน้ี บริษัทตองนํามตินั้นไปขอจดทะเบียนภายในสิบส่ีวัน
นับแตวันท่ีท่ปี ระชมุ ลงมติ
มาตรา ๑๔๐ ท่ีประชุมผูถือหุนอาจลงมติใหลดทุนโดยวิธีตัดหุนจดทะเบียนท่ีจําหนายไมไดหรือ
ที่ยังมิไดนําออกจําหนายไดเม่ือที่ประชุมมีมติแลวใหบริษัทขอจดทะเบียนลดทุนภายในสิบส่ีวันนับแตวันที่ท่ี
ประชุมลงมติ
มาตรา ๑๔๑ ในการลดทนุ ที่มิใชกรณีตามมาตรา ๑๔๐ บริษทั ตองมหี นงั สอื แจงมติการลดทุนไป
ยังเจาหนี้ของบริษัทท่ีบริษัททราบภายในสิบสี่วันนับแตวันท่ีที่ประชุมผูถือหุนลงมติ โดยกําหนดเวลาใหสงคํา
คัดคานภายในสองเดือนนับแตวันท่ีไดรับหนังสือแจงมติน้ัน และใหบริษัทโฆษณามติน้ันทางหนังสือพิมพภายใน
กาํ หนดเวลาสิบส่วี นั นนั้ ดวย
ถา มกี ารคัดคาน บริษัทจะลดทนุ มไิ ดจ นกวา จะไดช ําระหนหี้ รือใหประกันเพ่อื หนนี้ ัน้ แลว
มาตรา ๑๔๒ เม่ือไดดําเนินการตามมาตรา ๑๓๙ และมาตรา ๑๔๑ แลว ใหบริษัทขอจด
ทะเบยี นลดทนุ ตอนายทะเบยี นภายในกาํ หนดเวลาดังตอ ไปน้ี
(๑) สบิ สี่วนั นับแตวนั ทพ่ี นกาํ หนดตามมาตรา ๑๔๑ ในกรณที ไี่ มมีเจาหนค้ี ัดคานหรือ
(๒) สิบสีว่ ันนับแตวนั ท่ไี ดช ําระหนหี้ รือใหประกนั เพื่อหนี้ ในกรณที ีม่ เี จา หนค้ี ดั คาน
ท้ังน้ี ใหนํามาตรา ๑๓๘ วรรคสาม มาใชบังคับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๔๓ เม่ือบริษัทไดดําเนินการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชําระแลวตามมาตรา ๑๓๘
หรอื จดทะเบียนลดทุนตามมาตรา ๑๔๐ หรือมาตรา ๑๔๒ แลว ใหบริษัทแจงแกผูถือหุนเปนหนังสือและประกาศ
โฆษณาในหนังสือพิมพอยางนอยหนึ่งฉบับภายในสิบส่ีวัน นับแตวันท่ีไดจดทะเบียนเพ่ิมทุน หรือลดทุน แลวแต
กรณี
*แกไขเพิม่ เตมิ โดยพระราชบัญญตั ิบริษัทมหาชนจํากดั (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๔ มาตรา ๙
มาตรา ๑๔๔ ในกรณีที่เจาหนี้คนใดมิไดคัดคานการลดทุนของบริษัทภายในกําหนดเวลาตาม
มาตรา ๑๔๑ เพราะไมทราบมตกิ ารลดทุน และเหตทุ ไ่ี มทราบนั้นมิไดเปนความผิดของเจาหน้ีคนน้ัน ถาเจาหนี้คน
นั้นประสงคจะใหถือหุนซึ่งไดรับเงินคาหุนคืนแลวตองรับผิดตอตนในจํานวนเงินท่ีไดรับคืนไปดวย ตองฟองคดี
ภายในหนง่ึ ปน บั แตว นั ทไี่ ดจ ดทะเบียนลดทุน
หมวด ๑๑
หนุ กู
มาตรา ๑๔๕ การกูเงินของบริษัทโดยการออกหุนกูเพื่อเสนอขายตอประชาชน ใหเปนไปตาม
กฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลกั ทรัพย และใหน าํ มาตรา ๒๕ มาใชบ งั คับโดยอนุโลม
มติท่ใี หออกหุนกูต ามวรรคหน่ึงตองใชม ตขิ องทป่ี ระชมุ ผูถ ือหุน ดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสาม
ในส่ีของจาํ นวนเสียงท้งั หมดของผถู อื หนุ ซงึ่ มาประชมุ และมสี ิทธิออกเสียงลงคะแนน
หมวด ๑๒
การควบบริษทั
มาตรา ๑๔๖ บรษิ ทั ตัง้ แตส องบรษิ ัทขึ้นไป หรอื บรษิ ัทกับบริษัทเอกชนจะควบกันเปนบริษัทก็ได
โดยที่ประชุมผูถือหุนของแตละบริษัทท่ีจะควบกันลงมติดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในส่ีของจํานวนเสียง
ท้ังหมดของผถู อื หุน ซง่ึ มาประชมุ และมีสิทธอิ อกเสยี งลงคะแนน และในกรณีท่ีเปน การควบกับบริษัทเอกชน ตองมี
มติพเิ ศษตามทีก่ าํ หนดไวในประมวลกฎหมายแพง และพาณชิ ย
ในกรณีที่มีมติใหควบบริษัทตามวรรคหน่ึงแลว แตมีผูถือหุนคัดคานการควบบริษัท บริษัทตอง
จัดใหมีผูซื้อหุนของผูถือหุนดังกลาวในราคาที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพยครั้งสุดทายกอนวันที่มีมติใหควบบริษัท
และในกรณีไมมีราคาซ้ือขายในตลาดหลักทรัพยใหใชราคาตามท่ีผูประเมินราคาอิสระที่ท้ังสองฝายแตงต้ังขึ้นเปน
ผูกําหนด ถาผูถือหุนน้ันไมยอมขายภายในสิบส่ีวันนับแตวันไดรับคําเสนอขอซ้ือใหบริษัทดําเนินการควบบริษัท
ตอไปได และใหถอื วาผูถอื หุนดงั กลาวนน้ั เปนผูถ ือหนุ ของบริษทั ทค่ี วบกนั แลว
มาตรา ๑๔๗ บริษัทตองมีหนังสือแจงมติการท่ีจะควบกันกับบริษัทอ่ืนไปยังเจาหน้ีของบริษัท
และใหน าํ มาตรา ๑๔๑ มาใชบังคับโดยอนุโลม
มาตรา ๑๔๘ เมื่อไดดําเนินการตามมาตรา ๑๔๗ แลว ใหประธานกรรมการของบริษัทที่จะควบ
กนั เรียกประชมุ ผถู ือหุน ของบรษิ ทั นนั้ ๆ ใหม าประชุมรวมกันเพือ่ พิจารณาในเรื่องดังตอ ไปน้ี
(๑) จดั สรรหุนของบรษิ ทั ท่คี วบกนั ใหแกผูถอื หนุ
(๒) ชื่อของบริษัทท่ีควบกัน โดยจะใชช่ือใหมหรือจะใชช่ือเดิมของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่จะควบ
กนั กไ็ ด
(๓) วตั ถปุ ระสงคของบรษิ ัทท่ีควบกัน
(๔) ทุนของบริษัทท่ีควบกัน โดยจะตองมีทุนไมนอยกวาทุนชําระแลวของบริษัทท่ีจะควบกัน
ท้ังหมดรวมกัน และถาบริษัทท่ีจะควบกันไดนําหุนออกจําหนายครบตามจํานวนที่จดทะเบียนไวแลวจะเพิ่มทุนใน
คราวเดยี วกันน้ีกไ็ ด
(๕) หนังสอื บริคณหส นธขิ องบริษัททค่ี วบกนั
(๖) ขอ บงั คบั ของบรษิ ัททค่ี วบกัน
(๗) เลือกตงั้ กรรมการบริษทั ทคี่ วบกัน
(๘) เลือกตงั้ ผสู อบบญั ชบี รษิ ทั ที่ควบกัน
(๙) เรอ่ื งอืน่ ๆ ทจ่ี าํ เปนในการควบบรษิ ัท (ถา ม)ี
ทั้งนี้ ตองดําเนินการประชุมใหเสร็จสิ้นภายในหกเดือนนับแตวันท่ีบริษัทใดบริษัทหน่ึงไดลงมติ
ใหควบกันเปนรายหลังสุด เวนแตท่ีประชุมตามมาตรานี้ลงมติใหขยายเวลาออกไป แตเม่ือรวมเวลาท้ังหมดแลว
ตองไมเกนิ หนึง่ ป
มาตรา ๑๔๙ ในการประชุมเพื่อพิจารณาเรื่องตางๆ รวมกันตามมาตรา ๑๔๘ ใหนําบทบัญญัติ
วา ดว ยการนนั้ ๆ มาใชบ งั คับโดยอนโุ ลม เวนแตทีบ่ ญั ญตั ไิ วด ังตอไปน้ี
(๑) สถานที่ที่จะใชเปนที่ประชุมตองอยูในทองท่ีอันเปนท่ีต้ังสํานักงานใหญ หรือจังหวัด
ใกลเคียงของบริษัทใดบริษทั หน่ึงท่จี ะควบกัน
(๒) ตองมีผูถือหุนซึ่งมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวากึ่งหน่ึงของจํานวนหุนที่จําหนายไดท้ังหมด
ของบริษัทท่จี ะควบกันมาประชมุ จงึ จะเปน องคประชุม
(๓) ใหผูถอื หุนซงึ่ มาประชุมเลือกผถู ือหนุ คนหนึง่ เปน ประธานในท่ปี ระชมุ
(๔) การวนิ ิจฉัยชี้ขาดของท่ปี ระชุม ใหถือเสียงขา งมากของผถู ือหนุ ซึง่ มาประชมุ ตาม (๒)
มาตรา ๑๕๐ คณะกรรมการบริษัทเดิมตองสงมอบกิจการ ทรัพยสิน บัญชี เอกสาร และ
หลักฐานตางๆ ของบริษัทใหแกคณะกรรมการบริษัทที่ควบกันแลวภายในเจ็ดวันนับแตวันท่ีเสร็จส้ินการประชุม
ตามมาตรา ๑๔๘
มาตรา ๑๕๑ คณะกรรมการบริษัทท่ีควบกันแลวตองขอจดทะเบียนการควบบริษัทพรอมกับย่ืน
หนังสือบริคณหสนธิ และขอบังคับที่ท่ีประชุมตามมาตรา ๑๔๘ ไดอนุมัติแลวตอนายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับ
แตว นั ท่ีเสร็จส้นิ การประชมุ ตามมาตรา ๑๔๘ และใหน าํ มาตรา ๓๙ มาใชบังคับโดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๕๒ เมื่อนายทะเบียนรับจดทะเบียนการควบบริษัทแลว ใหบริษัทเดิมหมดสภาพจาก
การเปน นิตบิ ุคคล และใหนายทะเบียนหมายเหตไุ วในทะเบยี น
มาตรา ๑๕๓ บริษัทที่ควบกันและจดทะเบียนแลวยอมไดไปทั้งทรัพยสิน หน้ี สิทธิ หนาท่ีและ
ความรับผดิ ชอบของบรษิ ทั เหลา นั้นทงั้ หมด
หมวด ๑๓
การเลกิ บริษัท
มาตรา ๑๕๔ เมอ่ื มีเหตใุ ดเหตหุ นงึ่ ดงั ตอ ไปนี้ ใหด าํ เนนิ การเลิกบริษทั
(๑) เม่ือที่ประชุมผูถือหุนลงมติใหเลิกดวยคะแนนเสียงไมนอยกวาสามในสี่ของจํานวนเสียง
ท้งั หมดของผูถือหนุ ซ่งึ มาประชุมและมีสทิ ธิออกเสียงลงคะแนน
(๒) เมอื่ บริษทั ลมละลาย
(๓) เมอื่ ศาลมีคําส่ังใหเ ลกิ บริษัทตามมาตรา ๑๕๕ และคําส่งั นน้ั ถงึ ท่ีสุดแลว
มาตรา ๑๕๕ ผูถือหุนซ่ึงมีหุนนับรวมกันไดไมนอยกวาหนึ่งในสิบของจํานวนหุนท่ีจําหนายได
ท้งั หมดจะรองขอใหศ าลส่งั เลกิ บริษัทกไ็ ด เมอื่ มเี หตใุ ดเหตุหน่ึงดงั ตอไปน้ี
(๑) ผูเร่ิมจัดต้ังบริษัทฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามบทบัญญัติเก่ียวกับการประชุมจัดตั้งบริษัทหรือ
การจัดทํารายงานการจัดตั้งบริษัท หรือคณะกรรมการบริษัทฝาฝนหรือไมปฏิบัติตามบทบัญญัติเก่ียวกับการชําระ
เงินคาหุน การโอนกรรมสิทธ์ิทรัพยสินหรือทําเอกสารหลักฐานการใชสิทธิตางๆ ใหแกบริษัทเพื่อชําระคาหุน การ
จัดทาํ บญั ชรี ายชือ่ ผูถือหุน หรือการจดทะเบยี นบริษทั
(๒) ถาจํานวนผถู อื หุนลดนอ ยลงจนเหลือไมถงึ สิบหาคน
(๓) กิจการของบริษัท หากทาํ ไปจะมแี ตข าดทนุ และไมม ีหวงั จะกลับฟน ตวั ไดอีก
เม่ือมีการรองขอใหศาลสั่งในกรณีตาม (๑) หรือ (๒) ศาลจะสั่งใหบริษัทแกไขหรือปฏิบัติให
ถูกตอ งตามกฎหมายภายในเวลาที่กําหนด แตไ มเกินหกเดอื นแทนการส่ังเลิกบริษทั กไ็ ด
มาตรา ๑๕๖ ในการเลิกหรือส่ังเลิกบริษัท ท่ีประชุมผูถือหุน หรือศาล แลวแตกรณีตองแตงตั้ง
และกาํ หนดคา ตอบแทนผูช ําระบัญชแี ละผูส อบบญั ชีในคราวเดียวกนั ดว ย
มาตรา ๑๕๗ เมื่อมีการเลิกบริษัท ใหคณะกรรมการสงมอบทรัพยสิน บัญชี และเอกสาร
หลักฐานตางๆ ทง้ั หมดของบริษัทใหแกผ ชู ําระบญั ชีภายในเจ็ดวันนบั แตว นั เลกิ
มาตรา ๑๕๘ การเลิกบริษัทใหมีผลนับแตวันที่นายทะเบียนรับจดทะเบียนเลิกบริษัท แตถาการ
ชําระบญั ชยี ังไมเสร็จ ใหถ อื วาบรษิ ทั ยงั ดํารงอยเู ทาเวลาทจ่ี าํ เปน เพ่ือการชาํ ระบญั ชี
หมวด ๑๔
การชาํ ระบญั ชี
มาตรา ๑๕๙ ในกรณีที่บริษัทเลิกโดยเหตุอ่ืนนอกจากเหตุลมละลายใหจัดการชําระบัญชีตาม
บทบญั ญัตแิ หง หมวดนี้
มาตรา ๑๖๐ ผูชําระบญั ชีมอี าํ นาจและหนาท่ีดงั ตอไปน้ี
(๑) ดําเนินการงานของบริษัทเฉพาะท่ีจําเปนเพื่อชําระสะสางกิจการงานที่คางอยูใหเสร็จส้ินไป
แตห ามมิใหด าํ เนนิ กจิ การขนึ้ ใหม
(๒) เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพยสินท่ีบริษัทมีสิทธิจะไดรับจากบุคคลอ่ืนหรือขาย
ทรัพยส ินของบรษิ ทั
(๓) ดําเนนิ การทง้ั ปวงเกยี่ วกบั คดแี พงหรือคดีอาญา หรอื ประนีประนอมยอมความในเร่ืองใดๆ
ในนามของบรษิ ัท
(๔) ชาํ ระหนใี้ นนามของบรษิ ทั
(๕) เรียกประชุมผถู อื หุน
(๖) แบงเงนิ หรอื ทรพั ยส ินทเ่ี หลอื อยูภ ายหลังการชาํ ระหนใ้ี หแกผูถอื หุน
(๗) ดําเนนิ การตามมาตรา ๑๑ วรรคสาม
(๘) ดําเนนิ การอยา งอื่นทจ่ี ําเปนเพอ่ื ใหการชาํ ระบญั ชีเสร็จสนิ้
ในกรณีที่ผูชําระบัญชีดําเนินกิจการตาม (๑) เกินความจําเปน จนเปนเหตุใหเกิดการขาดทุนข้ึน
ผชู าํ ระบัญชตี อ งรับผดิ ตอ บริษทั ในสวนที่ขาดทุนนนั้
มาตรา ๑๖๑ ภายในเจด็ วันนบั แตวนั ไดรับการแตง ตัง้ ผูช าํ ระบัญชีตอง
(๑) ขอจดทะเบียนเปนผูชาํ ระบัญชี
(๒) ขอจดทะเบยี นเลกิ บริษัท
(๓) ประกาศโฆษณาการเลกิ บรษิ ทั ใหป ระชาชนทราบโดยทางหนังสือพิมพ
มาตรา ๑๖๒ ภายในหนึ่งเดือนนบั แตวนั ไดรับการแตงตั้ง ผูชาํ ระบัญชตี อ ง
(๑) แจงเปนหนังสือใหเจาหนี้ที่ซ่ึงมีชื่อปรากฏอยูในบัญชีและเอกสารของบริษัทยื่นคําทวงหนี้
แกผูช าํ ระบญั ชีภายในหน่งึ เดอื นนบั แตว ันท่ไี ดร บั แจง
(๒) แจงเปนหนังสือใหลูกหน้ีซึ่งมีช่ือปรากฏอยูในบัญชีและเอกสารของบริษัทชําระหน้ีแกผู
ชาํ ระบญั ชี
มาตรา ๑๖๓ กอนชาํ ระบญั ชีเสรจ็ ผชู าํ ระบัญชีและผสู อบบัญชีพน จากตําแหนงเมอื่
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ท่ีประชมุ ผถู อื หนุ ลงมตใิ หถ อดถอน
(๔) ศาลสงั่ ถอดถอน
เม่ือผูชําระบัญชีหรือผูสอบบัญชีซ่ึงที่ประชุมผูถือหุน หรือศาลแตงต้ัง ตาย หรือลาออก ใหที่
ประชุมผูถือหุน หรือศาล แลวแตกรณี แตงต้ังผูอ่ืนเปนผูชําระบัญชีหรือผูสอบบัญชีแทน และใหนํามาตรา ๑๖๑
(๑) มาใชบงั คบั แกผ ชู ําระบัญชซี ่งึ ไดร ับแตง ตั้งใหมดวย
มาตรา ๑๖๔ เม่ือมีเหตุอันสมควร ผูถือหุนนับรวมกันไดไมนอยกวาหน่ึงในสิบของจํานวนหุนที่
จําหนายไดท้ังหมด จะเรียกประชุมผูถือหุน และขอใหท่ีประชุมผูถือหุนถอดถอนผูชําระบัญชีหรือผูสอบบัญชีท่ีผู
ถือหุนแตงต้ังไวแลวและแตงต้ังผูอ่ืนแทนเมื่อใดก็ได แตถาผูชําระบัญชีหรือผูสอบบัญชีน้ันเปนผูซึ่งศาลเปนผู
แตง ต้งั ผถู อื หุน คนใดคนหนงึ่ จะรอ งขอใหศ าลถอดถอนก็ได
เมื่อผูถือหุนคนใดคนหน่ึงรองขอและนายทะเบียนเห็นวาผูชําระบัญชีหรือผูสอบบัญชีไมปฏิบัติ
หนาท่ีใหถูกตองตามพระราชบัญญัติน้ี นายทะเบียนจะรองขอใหศาลถอดถอนผูชําระบัญชีหรือผูสอบบัญชี และ
แตง ตงั้ ผอู ่ืนแทนเมอื่ ใดก็ได
มาตรา ๑๖๕ ผูชําระบัญชีตองจัดใหมีการทํางบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนของบริษัท ต้ังแตวัน
เรมิ่ ตน รอบปบ ัญชจี นถงึ วันท่ีจดทะเบียนเลกิ บรษิ ทั และสงใหผ สู อบบัญชตี รวจสอบภายในสี่เดอื นนบั แตวันทไี่ ดร บั
การแตง ต้ังและเสนอใหท่ปี ระชุมผถู อื หุนอนุมัติภายในหนงึ่ เดอื นนบั แตวนั ที่ไดรับจากผูสอบบัญชี
มาตรา ๑๖๖ ผูชําระบัญชีตองสงสําเนางบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนท่ีที่ประชุมผูถือหุนไดอนุมัติ
แลว พรอมดวยสําเนารายงานการประชุมผูถือหุนท่ีอนุมัติงบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนนั้นใหนายทะเบียนภายใน
สิบสี่วนั นับแตว ันทที่ ป่ี ระชุมผูถือหุนอนุมตั ิ
มาตรา ๑๖๗ ขอจํากัดอํานาจใดๆ ของผูชําระบัญชีนั้น จะยกข้ึนเปนขอตอสูบุคคลภายนอก
ผกู ระทาํ การโดยสุจรติ มไิ ด
มาตรา ๑๖๘ ในกรณีท่ีมีการแตงต้ังผูชําระบัญชีหลายคน ผูชําระบัญชีแตละคนจะกระทําการ
ใดๆ โดยลําพังมิได เวนแตที่ประชุมผูถือหุน หรือศาลจะไดกําหนดไวเปนอยางอื่นในเวลาแตงต้ังผูชําระบัญชี
และผูชําระบัญชีไดข อจดทะเบียนไวแ ลว พรอ มกับการขอจดทะเบียนเลกิ บรษิ ัท
มาตรา ๑๖๙ ผูชําระบัญชีตองจัดการชําระคาธรรมเนียม คาภาระติดพันและคาใชจายซึ่งตอง
เสียในการชําระบญั ชีตามลาํ ดับกอนหนสี้ นิ รายอ่ืน
มาตรา ๑๗๐ ถาเจาหน้ีของบริษัทมิไดย่ืนคําทวงหนี้แกผูชําระบัญชี ใหผูชําระบัญชีวางเงินเทา
จาํ นวนหนต้ี ามทปี่ รากฏในบญั ชีและเอกสารหลักฐานของบริษัทไว ณ สํานักงานวางทรัพยตามกฎหมายวาดวยการ
วางทรัพยสนิ และใหผ ชู ําระบัญชีประกาศโฆษณาใหเจา หนท้ี ราบโดยทางหนังสอื พมิ พ
บรรดาเงินท่ีวางไว ณ สํานักงานวางทรัพยน้ัน ถาเจาหนี้มิไดเรียกเอาภายในหาป ใหตกเปนของ
แผนดิน
มาตรา ๑๗๑ ในกรณีท่ีผูชําระบัญชีเห็นวาจําเปนแกการชําระบัญชี หรือเม่ือเจาหน้ีของบริษัท
รองขอ ผูชําระบัญชีจะเรียกเจาหนี้ของบริษัทมาประชุมรวมกันกับผูชําระบัญชีเพ่ือพิจารณากิจการและฐานะ
การเงินของบรษิ ัท และทาํ ความตกลงในเรอ่ื งทจ่ี ะชาํ ระหน้กี ็ได
ความตกลงในเรอ่ื งการชําระหนี้แตเพยี งบางสว นหรอื โดยวิธอี นื่ ใดยอ มมผี ลผกู พันเฉพาะเจาหน้ีที่
ตกลงยนิ ยอมดว ย
มาตรา ๑๗๒ เม่ือไดชําระหน้ีหรือกันเงินเพ่ือการชําระหนี้ท้ังหมดของบริษัทแลว ถายังมี
ทรัพยสินเหลืออยูอีก ใหผูชําระบัญชีแบงทรัพยสินน้ันระหวางผูถือหุนตามสวนของหุนท่ีแตละคนถือ เวนแตจะมี
ขอ ตกลงไวเปนอยา งอน่ื ในขอ บังคบั ของบรษิ ทั ในเรอ่ื งหนุ บรุ ิมสทิ ธิ
มาตรา ๑๗๓ ถาผูชําระบัญชีไดดําเนินการตามท่ีบัญญัติไวในหมวดนี้แลว เห็นวาทรัพยสินของ
บริษัทยังไมพอชําระหน้ี และไมสามารถทําความตกลงประนอมหนี้กับเจาหน้ีทั้งหมดได ใหผูชําระบัญชีรองขอตอ
ศาลเพ่ือส่งั ใหบรษิ ทั นนั้ ลม ละลาย
มาตรา ๑๗๔ ผูชําระบัญชีตองจัดทํารายงานการชําระบัญชีพรอมกับบัญชีรับจายในการชําระ
บญั ชีเสนอตอ นายทะเบียนทุกระยะสามเดอื นนับแตว ันไดรับการแตง ตงั้ จนกวา จะเสรจ็ การชาํ ระบัญชี
รายงานการชําระบัญชีและบัญชีรับจายในการชําระบัญชีตองทําตามแบบและมีรายการตามที่
กําหนดในกฎกระทรวง
ถาปรากฏวามีขอบกพรองในการชําระบัญชี นายทะเบียนมีอํานาจสั่งใหผูชําระบัญชีแกไข
ขอบกพรองดังกลาวได ในการนี้ผูชําระบัญชีตองดําเนินการแกไขและรายงานใหนายทะเบียนทราบภายในเวลาที่
นายทะเบยี นกาํ หนด
มาตรา ๑๗๕ ถาการชําระบัญชีไมอาจทําใหเสร็จไดภายในหน่ึงปนับแตวันท่ีนายทะเบียนรับจด
ทะเบียนเลิกบริษัท ผูชําระบัญชีตองเรียกประชุมผูถือหุนทุกรอบปภายในสี่เดือนนับแตวันครบรอบป เพ่ือเสนอ
รายงานการชําระบัญชีท่ีไดกระทําไปแลวและที่จะกระทําตอไปอีก พรอมดวยงบดุลและบัญชีกําไรขาดทุนใหผูถือ
หนุ ทราบ
มาตรา ๑๘๒ คณะกรรมการบริษัทเอกชนตองสงมอบกิจการ ทรัพยสิน บัญชี เอกสารและ
หลักฐานตางๆ ของบริษัทเอกชนใหแกคณะกรรมการท่ีไดรับเลือกต้ังใหมภายในเจ็ดวันนับแตวันเสร็จสิ้นการ
ประชุมตามมาตรา ๑๘๑
มาตรา ๑๘๓ คณะกรรมการท่ีไดรับเลือกต้ังใหมตองขอจดทะเบียนการแปรสภาพบริษัทเอกชน
พรอมกับย่ืนรายงานการประชุม หนังสือบริคณหสนธิ และขอบังคับที่ที่ประชุมตามมาตรา ๑๘๑ ไดอนุมัติแลวตอ
นายทะเบียนภายในสิบสี่วันนับแตวันที่เสร็จสิ้นการประชุมตามมาตรา ๑๗๙ และใหนํามาตรา ๓๙ มาใชบังคับ
โดยอนโุ ลม
มาตรา ๑๘๔ เม่ือนายทะเบียนรับจดทะเบียนการแปรสภาพเปนบริษัทตามพระราชบัญญัตินี้
แลว ใหบริษัทเอกชนเดิมหมดสภาพจากการเปนบริษัทจํากัดตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย และใหนาย
ทะเบยี นหมายเหตไุ วใ นทะเบียน
มาตรา ๑๘๕ บริษัทเอกชนท่ีจดทะเบียนแปรสภาพเปนบริษัทแลวยอมไดไปท้ังทรัพยสิน หน้ี
สิทธิ และความรบั ผิดของบริษัทเอกชนเดิมทั้งหมด
หมวด ๑๖
นายทะเบียนและพนกั งานเจา หนาท่ี
มาตรา ๑๘๖ ในการดําเนินการรับจดทะเบียนตามพระราชบัญญัติน้ีใหนายทะเบียนและ
พนักงานเจาหนาท่ีมีอํานาจสอบถามขอเท็จจริง และใหผูขอจดทะเบียนสงเอกสารหลักฐานท่ีเก่ียวของหรือนํา
บคุ คลซ่งึ เก่ียวของมาใหถ อ ยคาํ ไดตามความจําเปน
มาตรา ๑๘๗ ในกรณีที่คําขอจดทะเบียนถูกตองและครบถวนแลว ใหนายทะเบียนรับจด
ทะเบียนแตถาปรากฏวาคําขอจดทะเบียนมีรายการไมถูกตอง หรือแนบเอกสารไมครบถวน หรือรายการใดในคํา
ขอจดทะเบียนหรือเอกสารมีขอความขัดตอกฎหมาย ใหนายทะเบียนแจงใหผูขอจดทะเบียนจัดการแกไขให
ถูกตอง หรือจัดใหมีครบถวน หรือทําใหถูกตองตามกฎหมายกอน เม่ือผูขอจดทะเบียนจัดการตามท่ีไดรับแจง
แลว ใหนายทะเบยี นรับจดทะเบยี น
เม่ือรับจดทะเบียนแลว ใหนายทะเบียนประกาศรายการยอแสดงขอความที่รับจดทะเบียนไวใน
ราชกจิ จานเุ บกษา
เม่อื มกี ารประกาศขอความตามวรรคสองแลว ใหถ ือวา บคุ คลทว่ั ไปไดทราบขอความท่ปี ระกาศนบั
แตวันถดั จากวนั ประกาศเปนตน ไป
ในกรณีท่นี ายทะเบยี นมีคําสงั่ ไมร ับจดทะเบียน ใหแจงคําส่งั พรอมดวยเหตุผลท่ีไมรับจดทะเบียน
เปนหนังสือใหผูขอจดทะเบียนทราบโดยเร็ว ในการน้ีผูขอจดทะเบียนจะอุทธรณคําสั่งของนายทะเบียนตอ
รัฐมนตรภี ายในหนง่ึ เดอื นนับแตวันไดร ับแจง คาํ สั่งก็ได
คําวนิ จิ ฉัยของรัฐมนตรีใหเปนท่ีสุด
มาตรา ๑๘๘ ในกรณีที่นายทะเบียนตรวจพบวาบัญชีรายชื่อผูถือหุนซ่ึงบริษัทยื่นตามมาตรา ๖๔
ไมถ ูกตอง ใหมอี ํานาจส่งั เปนหนงั สือใหบ รษิ ัทแกไ ขใหถกู ตอ งภายในเวลาอนั สมควรตามท่นี ายทะเบยี นกาํ หนด
มาตรา ๑๘๙ เมื่อความปรากฏตอนายทะเบียนวามีกรณีตามมาตรา ๑๕๕ (๑) หรือ (๒) เกิด
ขนึ้ กับบรษิ ัทใด ใหนายทะเบยี นมอี าํ นาจส่ังใหบรษิ ทั แกไ ขหรือปฏบิ ตั ใิ หถ กู ตองภายในเวลาทน่ี ายทะเบยี นกาํ หนด
มาตรา ๑๙๐ เพื่อปฏิบัติการใหเปนไปตามพระราชบัญญัตินี้ ใหนายทะเบียนและพนักงาน
เจาหนาที่มีอํานาจเขาไปในสํานักงานและสถานที่ใดๆ ของบริษัทในระหวางเวลาทําการของบริษัทเพื่อตรวจสอบ
เอกสารและหลกั ฐานตางๆ ที่บริษัทตอ งจดั ทําขึ้นตามพระราชบัญญัติน้ี รวมท้ังมีอํานาจเรียกบุคคลซึ่งเก่ียวของมา
ใหถอยคําดวย ในการน้ีใหพนักงานเจาหนาท่ีแสดงบัตรประจําตัวตอบุคคลดังกลาว และใหบุคคลเหลานั้น
ชวยเหลอื และอาํ นวยความสะดวกใหตามสมควร
บัตรประจําตัวพนกั งานเจา หนาท่ใี หเปนไปตามแบบท่รี ัฐมนตรกี าํ หนด
หมวด ๑๗
บทกาํ หนดโทษ
มาตรา ๑๙๑ บริษัทใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๑ มาตรา ๒๕ มาตรา ๓๑ วรรคสอง มาตรา ๔๐
มาตรา ๔๘ มาตรา ๕๑ มาตรา ๕๕ วรรคหนึ่ง มาตรา ๕๘ มาตรา ๕๙ มาตรา ๖๒ วรรคสอง มาตรา ๖๓ วรรค
สอง มาตรา ๖๔ มาตรา ๖๕ วรรคสาม มาตรา ๑๐๘ วรรคสอง มาตรา ๑๒๗ มาตรา ๑๓๓ มาตรา ๑๓๘ วรรค
สอง มาตรา ๑๔๒ มาตรา ๑๔๓ มาตรา ๑๔๕ วรรคสอง มาตรา ๑๘๘ หรือมาตรา ๑๘๙ ตองระวางโทษปรับไม
เกินสองหมนื่ บาท
มาตรา ๑๙๒ ผูเริ่มจัดตั้งบริษัทคนใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๒๐ วรรคสาม มาตรา ๒๘ หรือ
มาตรา ๓๗ วรรคหน่ึง ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกินสองหมื่นบาท
มาตรา ๑๙๓ ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทคนใดฝาฝนมาตรา ๒๖ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือ
ปรับไมเกินหกแสนบาท หรือทง้ั จาํ ท้ังปรับ
มาตรา ๑๙๔ ผูเริ่มจัดต้ังบริษัทคนใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๒๗ ตองระวางโทษปรับไมเกินหนึ่ง
แสนบาท
มาตรา ๑๙๕ คณะกรรมการบริษัทใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๓๗ วรรคสอง มาตรา ๗๔ มาตรา
๗๙ มาตรา ๘๓ วรรคสอง มาตรา ๙๖ วรรคสาม มาตรา ๙๘ วรรคหน่ึง มาตรา ๑๐๐ มาตรา ๑๐๑ มาตรา ๑๐๕
วรรคสาม มาตรา ๑๑๒ มาตรา ๑๑๓ มาตรา ๑๑๕ วรรคส่ี มาตรา ๑๕๑ หรือมาตรา ๑๘๓ ตองระวางโทษปรับไม
เกินสองหมืน่ บาท
มาตรา ๑๙๖ คณะกรรมการบรษิ ทั ใดไมปฏบิ ตั ิตามมาตรา ๓๙ มาตรา ๔๐ มาตรา ๑๕๐ มาตรา
๑๕๗ หรอื มาตรา ๑๘๒ ตอ งระวางโทษปรับไมเกนิ สีห่ ม่ืนบาท
มาตรา ๑๙๗ คณะกรรมการบริษัทใดฝาฝนมาตรา ๔๓ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินสามป หรือ
ปรับไมเกินหกแสนบาท หรอื ทงั้ จําท้ังปรับ
มาตรา ๑๙๘ ผูใดฝาฝนมาตรา ๕๕ วรรคสอง ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งป และปรับไม
เกินสองแสนบาท
มาตรา ๑๙๙ ผูเริ่มจัดตั้งบริษัทคนใดฝาฝนมาตรา ๕๗ วรรคสอง ตองระวางโทษปรับไมเกิน
สองหมน่ื บาทหรือสองเทาของมลู คา หนุ ท่โี อน สดุ แตจ าํ นวนใดจะมากกวา
มาตรา ๒๐๐ บริษัทใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๖๑ มาตรา ๖๒ วรรคหนึ่ง หรือมาตรา ๙๖ วรรค
หนึ่ง ตอ งระวางโทษปรับไมเกินหาหม่ืนบาท
มาตรา ๒๐๑ บริษัทใดฝาฝนมาตรา ๖๖ ตองระวางโทษปรับไมเกินหาหมื่นบาท หรือสองเทา
ของมลู คาหุนทีถ่ ือหรือรบั จาํ นาํ ไว สุดแตจาํ นวนใดจะมากกวา
มาตรา ๒๐๒ ประธานคณะกรรมการบริษัทหรือผูไดรับมอบหมายผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๘๑
วรรคสอง หรอื มาตรา ๘๒ ตองระวางโทษปรบั ไมเกินหนง่ึ หมื่นบาท
มาตรา ๒๐๓ กรรมการบริษัทคนใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๘๘ หรือปฏิบัติตามแตไมครบถวน
หรอื ไมตรงกับความจริง ตอ งระวางโทษปรับไมเกินสองหมนื่ บาท
มาตรา ๒๐๔ กรรมการ กรรมการผูจัดการ หรือบุคคลซ่ึงมีอํานาจกระทําการแทนบริษัทผูใด
กระทําการใดๆ อันเปน การฝา ฝนมาตรา ๘๙ ตองระวางโทษปรับไมเกนิ สองหม่ืนบาท หรอื สองเทา ของจํานวนเงิน
ท่ใี หก ยู ืม สุดแตจ ํานวนใดจะมากกวา
มาตรา ๒๐๕ บริษัทใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๐๙ ตองระวางโทษปรับไมเกินสองแสนบาท และ
ปรับเปน รายวนั อกี วันละสองพนั บาทจนกวา จะปฏิบตั ถิ ูกตอง
มาตรา ๒๐๖ บริษัทใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๑๐ มาตรา ๑๑๑ หรือมาตรา ๑๓๗ ตองระวาง
โทษปรบั ไมเกนิ สองหมนื่ บาท
มาตรา ๒๐๗ คณะกรรมการบริษัทใดแสดงรายการตามมาตรา ๑๑๔ (๓) (๔) หรือ (๕) ไม
ครบถว นหรอื ไมต รงกบั ความจริง ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ สองหมน่ื บาท
มาตรา ๒๐๘ บริษัทใดไมดําเนินการใหถูกตองตามคําสั่งของนายทะเบียนซึ่งส่ังตามมาตรา
๑๓๒ (๓) ตองระวางโทษปรบั ไมเ กนิ หาหมื่นบาท
มาตรา ๒๐๙ ผูชําระบัญชผี ใู ดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๖๐ (๗) หรอื มาตรา ๑๖๑ ตองระวางโทษ
ปรับไมเกินหนึง่ หม่ืนบาท
มาตรา ๒๑๐ ผูชําระบัญชีผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๖๕ มาตรา ๑๖๖ มาตรา ๑๗๐ วรรคหนึ่ง
มาตรา ๑๗๔ วรรคหน่ึงหรือวรรคสอง มาตรา ๑๗๕ มาตรา ๑๗๖ วรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หรือไมปฏิบัติตาม
คําส่งั ของนายทะเบียนตามมาตรา ๑๗๔ วรรคสาม ตอ งระวางโทษปรบั ไมเกนิ สองหม่ืนบาท
มาตรา ๒๑๑ ผูชําระบัญชีผูใดไมปฏิบัติตามมาตรา ๑๗๗ ตองระวางโทษปรับไมเกินหาหม่ืน
บาท
มาตรา ๒๑๒ ผูใดขัดขวาง หรือไมอํานวยความสะดวกใหแกผูตรวจสอบซึ่งปฏิบัติหนาที่ตาม
มาตรา ๑๓๐ หรือพนกั งานเจาหนาทซี่ ่ึงปฏิบตั หิ นา ทตี่ ามมาตรา ๑๙๐ ตองระวางโทษจําคุกไมเกินหนึ่งเดือน หรือ
ปรับไมเ กินหนึ่งหม่ืนบาท หรอื ท้ังจําทง้ั ปรับ
มาตรา ๒๑๓ ผูใดใชชื่อหรือยี่หอซึ่งมีอักษรไทยวา “บริษัทมหาชน จํากัด” “บริษัท” หรือ “จํากัด
(มหาชน)” หรือ “บมจ.” หรืออักษรตางประเทศซ่ึงมีความหมายดังกลาวประกอบในจดหมาย ประกาศ ใบแจง
ความ ใบสงของ ใบเสร็จรับเงินหรือเอกสารอยางอ่ืนเกี่ยวกับธุรกิจของบริษัท โดยมิไดเปนบริษัท เวนแตเปนการ
ใชในการขอจดทะเบียนเกี่ยวกับการจัดต้ังบริษัท หรือในแบบแสดงรายการขอมูลการเสนอขายหุนตอประชาชน
หรือในหนังสือชี้ชวนใหซ้ือหุน ตองระวางโทษปรับไมเกินสองหม่ืนบาท และปรับอีกวันละหนึ่งพันบาท จนกวา
จะเลิกใช
มาตรา ๒๑๔ กรรมการหรือผูชําระบัญชีของบริษัทใด โดยทุจริต แสดงออกซ่ึงความเท็จหรือ
ปกปดความจริงซึ่งควรบอกใหแจงตอท่ีประชุมผูถือหุนในเรื่องฐานะการเงินของบริษัทนั้น ตองระวางโทษปรับไม
เกนิ หาหมืน่ บาท
มาตรา ๒๑๕ บุคคลใดซ่งึ รบั ผดิ ชอบในการดาํ เนนิ งานของบรษิ ัทใดกระทาํ การหรือไมกระทําการ
เพ่ือแสวงหาประโยชนท่ีมิควรไดโดยชอบดวยกฎหมายเพ่ือตนเองหรือผูอื่นอันเปนการเสียหายแกบริษัทนั้น ตอง
ระวางโทษปรับไมเกนิ หา หมื่นบาท
มาตรา ๒๑๖ บุคคลใดซงึ่ รับผิดชอบในการดาํ เนนิ งานของบริษัทใดกระทําหรือยนิ ยอมใหกระทํา
การดงั ตอไปน้ี
(๑) ทําใหเสียหาย ทําลาย เปลี่ยนแปลง ตัดทอน หรือปลอมบัญชี เอกสาร หรือหลักประกัน
ของบริษัท หรือทีเ่ กย่ี วกบั บรษิ ัท หรือ
(๒) ลงขอความเท็จ หรือไมลงขอความสําคัญในบัญชีหรือเอกสารของบริษัท หรือที่เกี่ยวกับ
บริษทั
ถากระทาํ หรอื ยินยอมใหก ระทาํ เพือ่ ลวงใหบ รษิ ัทหรอื ผูถอื หุน ขาดประโยชนอันควรได ตองระวาง
โทษจาํ คุกไมเกินหาป หรอื ปรับไมเ กนิ หน่ึงลานบาท หรอื ทง้ั จําทัง้ ปรบั
มาตรา ๒๑๗ ผูใดโฆษณาโดยอางถึงบุคคล ตําแหนงหนาที่ บัญชี รายงาน หรือกิจการอัน
เก่ยี วกบั บรษิ ทั อันเปน เท็จในสาระสําคัญ หรือปกปดขอ ความอันเปนสาระสําคญั เพอ่ื
(๑) ลวงผูมีสวนไดเ สียในบรษิ ัทนน้ั ใหข าดประโยชนอนั ควรไดจ ากบรษิ ทั นนั้ หรือ
(๒) จูงใจบุคคลใหเขาเปนผูถือหุนหรือหุนกู ใหมอบหมายหรือใหสงทรัพยสินใหแกบริษัทนั้น
หรอื ใหเ ขา เปนผูค ํา้ ประกันหรอื ใหทรัพยส ินเปน ประกนั บรษิ ัทนนั้
ตองระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กินสามป หรือปรบั ไมเกนิ หกแสนบาท หรือทัง้ จาํ ทัง้ ปรบั
มาตรา ๒๑๘ ผูใดเขารวมในท่ีประชุมจัดตั้งบริษัทหรือในที่ประชุมผูถือหุน และลงคะแนนออก
เสียงหรอื งดลงคะแนนเสียงโดยลวงวา ตนเปนผจู องหนุ ผูถ ือหนุ หรอื ผมู ีสทิ ธอิ อกเสยี งแทนผูจ องหุน หรือผูถือหุน
ตองระวางโทษปรับไมเ กนิ สองหมนื่ บาท
ผูใดใหอุปการะแกการกระทําความผิดในวรรคหน่ึง โดยสงมอบเอกสารแสดงการจองหุนหรือใบ
หุนซึ่งไดใชเพอื่ การดงั กลา วแลว ตอ งระวางโทษเชน เดยี วกัน
มาตรา ๒๑๙ ผูใดโดยทุจริตกําหนดคาทรัพยสินหรือส่ิงที่นํามาชําระเปนคาหุนสูงกวามูลคาท่ี
แทจ รงิ ตองระวางโทษปรับไมเ กินสองเทาของจํานวนท่สี ูงกวามลู คา ทีแ่ ทจ ริงน้ัน
มาตรา ๒๒๐ ผูใดไดลวงรกู จิ การของบรษิ ทั ใดเนอ่ื งจากการปฏิบัตติ ามอํานาจหนาทีท่ ่กี ําหนดไว
ในพระราชบญั ญตั ิน้ี อนั เปน กจิ การทตี่ ามปกติวิสยั ของบรษิ ทั จะพงึ สงวนไวไ มเ ปด เผย ถา ผนู ้ันนาํ ไปเปด เผย
นอกจากตามอาํ นาจหนา ทห่ี รอื เพือ่ ประโยชนแกการสอบสวนหรือการพจิ ารณาคดี ตอ งระวางโทษจาํ คกุ ไมเ กนิ
หน่ึงป หรอื ปรับไมเกนิ สองแสนบาท หรอื ทงั้ จําทั้งปรบั
มาตรา ๒๒๑ ในกรณที ่ีนติ บิ ุคคลเปนผูกระทําความผิดและถูกลงโทษตามพระราชบัญญัติน้ี ผูแทน
นิติบุคคลซ่ึงรูเห็นเปนใจกับการกระทําความผิดน้ันหรือซ่ึงมิไดจัดการตามสมควร เพ่ือปองกันมิใหเกิด
ความผดิ น้ัน ตองรบั โทษตามทีบ่ ญั ญตั ิไวส ําหรับความผิดน้ันๆ ดวย
มาตรา ๒๒๒ ในกรณีท่ีบริษัทเปนผูกระทําความผิดและถูกลงโทษตามพระราชบัญญัตินี้กรรมการ
ซ่ึงรูเห็นเปนใจกับการกระทําความผิดนั้น หรือซึ่งมิไดจัดการตามสมควรเพื่อปองกันมิใหเกิดความผิดนั้น
ตองรบั โทษ ตามท่บี ัญญัตไิ วส ําหรบั ความผดิ นน้ั ๆ ดว ย
*มาตรา ๒๒๒/๑ บรรดาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ที่มี โทษปรับสถานเดียว ใหอธิบดีกรม
พัฒนาธุรกิจการคาหรือผูซ่ึงอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการคามอบหมายมีอํานาจเปรียบเทียบได เม่ือผูกระทํา
ความผิดไดชําระเงินคาปรับตามจํานวนที่เปรียบเทียบภายในระยะเวลาที่กําหนดแลว ใหถือวาคดีเลิกกัน
ตามประมวลกฎหมายวธิ พี ิจารณาความอาญา
ถาผกู ระทาํ ความผิดไมยนิ ยอมตามทเี่ ปรยี บเทียบหรอื เมื่อยินยอมแลวไมช าํ ระเงนิ คา ปรบั ภายใน
เวลาทก่ี าํ หนดใหด ําเนินคดตี อ ไป
บทเฉพาะกาล
มาตรา ๒๒๓ ใหบรรดาบริษัทที่ไดจัดต้ังตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๒๑
กอนวนั ที่พระราชบญั ญตั ิน้ใี ชบ งั คับเปนบริษัทตามบทบัญญัติแหงพระราชบญั ญัตนิ ี้
มาตรา ๒๒๔ การเสนอขายหุนและหุนกูตอประชาชนที่ไดรับการจดทะเบียน หนังสือช้ีชวนใหซ้ือหุน
หรือหุนกูโดยถูกตองตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ กอนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช
บังคับ ใหดําเนนิ การตามพระราชบัญญัตดิ ังกลาวตอ ไปได
มาตรา ๒๒๕ บรรดากฎกระทรวง ประกาศและคําสัง่ ที่ออกตามพระราชบัญญตั บิ ริษทั มหาชนจาํ กดั
พ.ศ. ๒๕๒๑ ซึ่งใชบังคับอยูในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใชบังคับ ใหยังคงใชไดตอไปเทาที่ไมขัดหรือแยงกับ
บทบัญญัติแหงพระราชบัญญัตินี้ จนกวาจะมีกฎกระทรวง ประกาศ และคําส่ังท่ีออกตามพระราชบัญญัตินี้
ใชบ งั คบั
ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ
อานนั ท ปน ยารชุน
นายกรฐั มนตรี
* เพิม่ เตมิ โดยพระราชบญั ญตั บิ ริษทั มหาชนจาํ กดั (ฉบับท่ี ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๓
อตั ราคา ธรรมเนียม
(๑) การจดทะเบียนหนงั สือบริคณหสนธบิ ริษทั ๑,๐๐๐ บาท
ทกุ จาํ นวนเงนิ ไมเกนิ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๕๐,๐๐๐ บาท
แหง จาํ นวนทนุ ท่กี ําหนดไว
เศษของ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใหคิดเปน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
แตเม่อื รวมกนั แลว ไมเ กิน
(๒) การจดทะเบียนแกไ ขเพ่มิ เติมหนังสือบรคิ ณหสนธิ ๑,๐๐๐ บาท
๕๐,๐๐๐ บาท
เพอื่ เพิม่ ทุนกอ นจดทะเบียนเปน บริษัท
ทกุ จํานวนเงนิ ไมเ กิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
แหงจาํ นวนทนุ ทก่ี ําหนดเพม่ิ ข้ึน
เศษของ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใหคดิ เปน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
แตเ มอื่ รวมกนั แลว ไมเกิน
(๓) การจดทะเบยี นบรษิ ัท ๑,๐๐๐ บาท
ทุกจํานวนเงินไมเกิน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๒๕๐,๐๐๐ บาท
แหงจาํ นวนทนุ ทกี่ ําหนดไว
เศษของ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใหค ิดเปน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
แตเ มอ่ื รวมกนั แลว ไมเ กิน
(๔) การจดทะเบยี นแปรสภาพบรษิ ทั เอกชน ๑,๐๐๐ บาท
ทุกจํานวนเงนิ ไมเ กนิ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๕๐,๐๐๐ บาท
แหงจํานวนทนุ ทก่ี ําหนดไว
เศษของ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใหคดิ เปน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
แตเ มือ่ รวมกนั แลว ไมเกิน
(๕) การจดทะเบียนเพมิ่ ทุนบรษิ ทั ๑,๐๐๐ บาท
ทกุ จํานวนเงินไมเ กนิ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ๒๕๐,๐๐๐ บาท
แหง จํานวนทนุ ท่กี าํ หนดเพมิ่ ขึน้
เศษของ ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท ใหคดิ เปน ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท
แตเมอื่ รวมกนั แลว ไมเกิน
(๖) การจดทะเบยี นลดทนุ บริษัท ๕๐๐ บาท
(๗) การจดทะเบียนแกไ ขเพม่ิ เติมหนังสอื บรคิ ณหสนธิ ๕๐๐ บาท
บริษัทนอกจากกรณีเพม่ิ ทุนตาม (๒)
(๘) การจดทะเบยี นแกไขเพ่มิ เตมิ ขอบงั คบั ของบรษิ ทั ๕๐๐ บาท
(๙) การจดทะเบยี นตง้ั กรรมการใหม คนละ ๕๐๐ บาท
(๑๐) การจดทะเบยี นควบบรษิ ทั ๑๐,๐๐๐ บาท
(๑๑) การจดทะเบยี นเลิกบรษิ ทั ๕๐๐ บาท
(๑๒) การจดทะเบียนเรื่องอืน่ ๆ เร่อื งละ ๕๐๐ บาท
(๑๓) การออกใบสําคัญหรอื ใบแทนใบสําคญั ฉบบั ละ ๒๐๐ บาท
แสดงการจดทะเบยี น
(๑๔) การตรวจเอกสารของแตละบริษทั ครัง้ ละ ๕๐ บาท
(๑๕) การขอสําเนาหรอื ขอใหถายเอกสาร หนาละ ๕๐ บาท
พรอมทั้งคํารบั รอง
ถา เปน การขอสาํ เนาหรือขอถา ยเอกสาร
พรอมทงั้ คํารับรองของบริษทั นอกเขตจังหวัดอนั เปน
ท่ีตั้งสํานกั งานใหญของบริษทั นน้ั ใหเรยี กเก็บคาใชจ าย
เพม่ิ เติมไดเ ทา ทจ่ี ําเปนและใชจายไปจริง
(๑๖) การรบั รองขอความในทะเบยี น เรื่องละ ๕๐ บาท
ถา เปนการรบั รองขอความในทะเบียน
ของบริษัทนอกเขตจงั หวดั อนั เปน ท่ีตงั้ สาํ นักงานใหญ
ของบรษิ ทั นน้ั ใหเ รยี กเก็บคาใชจ า ยเพมิ่ เตมิ ได
เทา ที่จําเปน และใชจ ายไปจริง
(๑๗) คาธรรมเนยี มในการออกเอกสารตา งๆ ตามขอ บงั คบั ๑๐ บาท
ของบรษิ ทั /ครง้ั /ฉบบั /หนา ละ
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบบั นี้ คอื โดยที่พระราชบัญญตั บิ ริษทั มหาชนจํากัด พ.ศ.
๒๕๒๑ ไดใชบังคับมาเปนเวลากวาสิบป แตการจัดต้ังบริษัทมหาชนจํากัดก็ยังไมแพรหลายเทาท่ีควร ทั้งน้ี
เน่ืองจากบทบัญญัติบางมาตรายังไมเอื้ออํานวยตอการประกอบธุรกิจการคาและอุตสาหกรรมในรูปบริษัทมหาชน
จํากัด สมควรผอนคลายความเครงครัดของบทบัญญัติเหลานั้น เพ่ือสงเสริมการจัดต้ังหรือการดําเนินการของ
บริษทั มหาชนจาํ กัด ใหเปนไปโดยคลอ งตัวข้นึ พรอ มท้ังแยกกรณกี ารเสนอขายหนุ และหนุ กตู อ ประชาชนไปรวมไว
ในกฎหมายวาดวยหลักทรัพยและตลาดหลักทรัพยซ่ึงเปนกฎหมายวาดวยการซื้อขายหลักทรัพยโดยเฉพาะ และ
โดยท่ีมีการแกไขในมาตราตางๆ เปนจํานวนมาก ดังน้ัน เพื่อใหเกิดความสะดวกแกการใชบังคับกฎหมายสมควร
ปรับปรุงเสียในคราวเดียวกันโดยยกเลิกพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจํากัด พ.ศ. ๒๕๒๑ จึงจําเปนตองตรา
พระราชบัญญตั นิ ี้