องค์ประกอบของดนตรี
องคป์ ระกอบของดนตรปี ระกอบไปดว้ ยสว่ นสำคญั ตำ่ งๆ คือ
1. จังหวะ (Rhythm)
2. ทำนอง (Melody)
3. เสียงประสำน (Harmony)
4. สีสันของเสยี ง (Tone color)
5. คตี ลักษณ์ หรือ รูปแบบ (Form)
จงั หวะ (Rhythm)
จงั หวะ หมำยถงึ กำรจดั เรยี งของเสียงหรอื ควำมเงียบ ซง่ึ มีควำม
สนั้ ยำว ตำ่ งกนั อตั รำจงั หวะตำ่ งๆนนั้ จะใหค้ วำมรูส้ กึ และอำรมณเ์ พลง
ท่ีแตกตำ่ งกนั
ลลี ำจงั หวะ (Rhythmic Pattern) หมำยถงึ กระสวนของ
จงั หวะ หรอื รูปแบบของจงั หวะ ท่ีถกู กำหนดขนึ้ มำ เพ่ือใชบ้ รรเลง
ประกอบบทเพลง เชน่
จงั หวะมำรช์ (March) จงั หวะวอลทซ์ (Waltz)
จงั หวะแทงโก (Tango) จงั หวะรอ็ ค (Rock)
จงั หวะสวงิ (Swing)
ทำนอง (Melody)
ทำนอง หมำยถึง เสยี งสงู - ต่ำ เสยี งยำว - สนั้ ของเครอ่ื งดนตรี
หรอื เสียงคนรอ้ ง ทำนองของดนตรหี รอื บทเพลงนนั้ จะแตกตำ่ งกนั
ออกไป ทงั้ นีก้ ็ขนึ้ อยกู่ บั ควำมประสงคข์ องผปู้ ระพนั ธเ์ พลง
melody
เสียงประสำน (Harmony)
เสียงประสำน หมำยถึง เสยี งของเครอ่ื งดนตรแี ละเสียงรอ้ งเพลง
ของมนษุ ยท์ ่ีมีระดบั เสียงตำ่ งกนั เปลง่ เสยี งออกมำพรอ้ มกนั โดยเสียงท่ี
เปลง่ ออกมำนนั้ จะตอ้ งผสมผสำนกลมกลนื กนั ฟังแลว้ ไมข่ ดั หู
Jingle Bell melody
Jingle Bell ประสำน 1 เสียง
Jingle Bell ประสำน 2 เสยี ง
สีสันของเสียง (Tone color)
สสี นั ของเสยี งคอื คณุ สมบตั ทิ ำงดำ้ นเสยี งของเครอื่ งดนตรชี นดิ
ตำ่ ง ๆ รวมทงั้ เสียงรอ้ งของมนษุ ย์ ซง่ึ มคี วำมแตกตำ่ งกนั นำมำบรรเลง
รว่ มกนั จะทำใหเ้ กิดสีสนั ของเสยี งแตกตำ่ งกนั ไป ตำมควำมสงู ต่ำ ของ
เสียง ตำมลกั ษณะของกำรบรรเลง และตำมลกั ษณะของกำรประสมวง
สีสนั ของเสยี งท่ีไดย้ ินจำกวีดีโอคอื
1. เสียงรอ้ ง
2. เปียโน
3. กีตำร์
4. เบส
คตี ลกั ษณ์ หรือ รูปแบบ (Form)
เป็นลกั ษณะและควำมสมั พนั ธเ์ ก่ียวกบั รูปรำ่ ง, โครงสรำ้ ง,หรอื
กำรจดั ภำยในบทเพลง แบง่ เป็น 5 ประเภทคือ
1. รูปแบบสโตรฟิ ค (Strophic Form) เป็นลกั ษณะของเพลงรอ้ งท่ี
มีแนวทำนองเดยี วตลอดแตม่ ีกำรเปล่ยี นเนือ้ รอ้ ง รูปแบบเป็น AAA
คตี ลกั ษณ์ หรือ รูปแบบ (Form)
2. รูปแบบไบนำรี (Binary Form) เป็นลกั ษณะของเพลงท่ี
มี 2 ทอ่ น (two part form) รูปแบบเป็นกำรถำมและตอบ ซำ้ ไป
มำอำจเป็นหลำยเท่ียวก็ได้ เช่น A:B, AABB, ABAB
คตี ลกั ษณ์ หรือ รูปแบบ (Form)
3. รูปแบบเทอรน์ ำรี (Ternary Form) เป็นลกั ษณะของ
เพลงท่ีมี 3 ท่อน (tree part form) หรอื ทำนองหลกั 3 ลกั ษณะ
โดยมีสว่ นกลำงเป็นสว่ นท่ีแตกตำ่ งไปจำกสว่ นตน้ และสว่ นทำ้ ย เช่น
ABA, AABA รูปแบบเทอรน์ ำรอี ำจเรยี กเป็น “รูปแบบเพลง”
(Song form) เพรำะเพลงโดยท่วั ๆ ไปมกั มีโครงสรำ้ งแบบนี้
คตี ลกั ษณ์ หรือ รูปแบบ (Form)
4. รูปแบบธีมและแวริเอช่ัน (Theme and
Variations) เป็นรูปแบบท่ีประกอบดว้ ยสว่ นสำคญั 2 สว่ น คือ ธีม
(Theme) หรอื ทำนองหลกั และ แวรเิ อช่นั (Variations) หรอื
สว่ นท่ีมีกำรเปล่ยี นแปลงจำกทำนองหลกั เช่น A A1A2A3
คตี ลกั ษณ์ หรือ รูปแบบ (Form)
5. รูปแบบรอนโด (Rondo form) เป็นลกั ษณะของกำร
เนน้ ท่ีแนวทำนองหลกั หรอื เป็นลกั ษณะของเพลงท่มี ีบทดอกสรอ้ ย
กลำ่ วคอื แนวทำนองหลกั ทำนองแรกจะวนกลบั มำอยรู่ ะหวำ่ งแต่ละ
สว่ นท่ีตำ่ งกนั รูปแบบเป็น ABACADA
ใหน้ ักเรียนเขยี น
MY MAP
เรื่ององคป์ ระกอบของดนตรี
ลงในกระดำษ A4 พร้อมตกแต่งใหส้ วยงำม