ประวัติผู้แต่ง
แต่งด้วยลิลิตสุภาพ ประกอบด้วย ร่ายสุภาพ โคลงสอสุภาพ
โคลงสามสุภาพ และโคลงสี่สุภาพ แต่งสลับกันไปจำนวน 439
บท โดยได้แบบอย่างการแต่งมาจากลิลิตยวนพ่ายที่แต่งขึ้นในสมัย
อยุธยาตอนต้น ลิลิตเปรียบได้กับงานเขียนมหากาพย์ จัดเป็น
วรรณคดีประเภทเฉลิมพระเกียรติพระมหากษัตริย์
ร่ายสุภาพ โคลงสองสุภาพ
โคลงสามสุภาพ โคลงสี่สุภาพ
สมเด็จพระนเรศวร
๑.มีความเป็ นนักรบ
๒.เป็ นนักปกครองที่ดี
๓.มีพระปรีชาญาณ
พระมหาอุปราชา
๑.เป็ นลูกกตัญญู
๒.มีพระทัยอ่อนไหว
๓.มีขัตติยผานะ
➤ คุณค่าด้านเนื้อหา
๑.รูปแบบ
▶ ลิลิตตะเลงพ่ายแต่งเป็นลิลิตสุภาพผู้แต่งบท
ประพันธ์เลือกประเภทร่ายสุภาพและโคลงสุภาพในงาน
ประพันธ์ทั้งนิยมพรรณนาเรื่องสูงส่ง
๒.โครงเรื่อง
▶นำมาจากประวัติศาสตร์กำหนดเนื้อหาเรื่อง การทำ
สงครามยุทธหัตถีเนื้อหาสำคัญของ เรื่องตะเลงพ่าย คือ
การดำเนินเค้าเรื่องตามพงศาวดาร ได้แก่ การทำสงคราม
เนื้อหาส่วนเพิ่มเติมคือพรรณนาการเดินทาง
๓.ฉากและบรรยากาศ
▶ฉากที่ปรากฏในเรื่อง คือ เหตุการณ์ภายในเมือง
มอญและบรรยากาศระหว่างการเดินทัพ
ผู้แต่งได้บรรยายฉากและบรรยากาศได้สมจริง
๔.กลวิธีการแต่ง
▶เริ่มต้นด้วยบทสดุดีมีเนื้อเรื่องและตอนท้ายกล่าวสดุดี
สมเด็จพระนเรศวรมหาราชและจบด้วยการกล่าวจุดมุ่งหมาย
ของกวี
การสร่างบทบาทบุคคลในเรื่อง มุ่งแสดงให้เห็นพระบรม
เดชานุภาพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงมีการแทรกเรื่อง
อิทธิปาฏิหาริย์
➤ คุณค่าด้านวรรณศิลป์
▶การสรรคำ
๑.การใช้คำที่เหมาะสมแก่เนื้อเรื่องและฐานะของบุคคลกวี
เลือกใช้คำที่แสดงฐานะของขุคคล
เช่น นฤนาถ หมายถึง กษัตริย์
องค์ หมายถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๑.๑ การใช้คำโดยคำนึงถึงเสียง
๑.๒ มีการใช้สัมผัสสระและสัมผัสพยัญชนะในคำประพันธ์
ทุกบท
๑.๓ มีการใช้สัมผัสพยัญชนะเดียวกันเกือบทั้งวรรค
๑.๔ มีการใช้สัมผัสสระในแต่ละวรรคคล้ายกลบท
๑.๕ การเล่นคำเพื่อให้มีความลึกซึ้งและเกิดอารมณ์
๑.๖ การเลียนเสียงธรรมชาติ
๑.๗ การใช้คำอัพภาส คือ การซ้ำเสียงอักษร
▶การใช้โวหาร
๑. การใช้คำให้เกิดจินตภาพ เช่น คำที่แสดงให้เห็นภาพการต่อสู้
อย่างห้าวหาญของพลทหารผลัดกันรุกรับขับเคี่ยวจนต่างฝ่าย
ต่างล้มตาย
๒.การใช้โวหารเปรียบเทียบ ว่าสมเด็จพระนเรศวรมีฤทธิ์เหมือน
พระรามยามต่อสู้กับทศกัณฐ์ ข้าศึกศัตรูที่พ่ายแพ้ไปเหมือน
พลยักษ์พระนเรศวรก็เหมือนองค์พระนารายณ์อวตารลงมา
๓.การใช้ถ้อยคำสร้างอารมณ์และความรู้สึก
▶การใช้ถ้อยคำให้เกิดความรู้สึกอาลัยอาวรณ์
▶การใช้ถ้อยคำให้เกิดอารมณ์สะเทือนใจ
▶การใช้ถ้อยคำให้เกิดความรู้สึกอับอาย
▶การใช้ถ้อยคำแสดงความโศกเศร้า
▶คุณค่าด้านสังคม
๑.สะท้อนให้เห็นธรรมชาติของมนุษย์ เช่น
สมเด็จพระนเรศวรตกอยู่วงล้อมข้าศึกทรงใช้วาทศิลป์ตรัสเชิญ
พระมหาอุปราชามารบตัวต่อตัวเพื่อเป็นเกียรติยศและศักดิ์ศรี
ของทั้งสองพระองค์ภายหน้าจะไม่มีการรบที่กล้าหาญนี้อีก
๒.สะท้อนให้เห็นขนบธรรมเนียมประเพณี ได้แก่
การประสาทให้โอวาท การสร้างขวัญกำลังใจแก่ทหารและเด็ด
ขาดในการรบความรู้ตำราพิชัยสงครามตั้งทัพ ประเพณี และ
พิธีกรรมเกี่ยวกับสงคราม เช่น พิธีโขลนทหารตัดไม้ข่มขาน
๓.สะท้อนให้เห็นความเชื่อของสังคมไทย เช่น ตอนสมเด็จ
พระนเรศวรทรงพระสุบิน จึงตรัสโหราจารย์ทำนายนิมิต
๔.สะท้อนข้อคิดเพื่อนำไปใช้ในการดำเนินชีวิต เช่น
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ ความเมตตากรุณา ความ
นอบน้อม การให้อภัย โดยแทรกอยู่ในบทประพันธ์
๕.แสดงเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้อธิบายเหตุการณ์
ในประวัติศาสตร์ตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระมหาธรรม
ราชา สมเด็จพระนเรศวรทรงขึ้นครองราชย์ พระเจ้าหงสาวดีมีพระ
ราชบัญชาให้พระอุปราชาและพระนเรศวรมหาราชทรงได้รับชัยชนะ