ส่วนต่าง ๆ ของบัวหลวงนี้เกี่ยวข้องกับการสืบพันธุ์อย่างไร ครูเรียม จันปุญนะ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนวิทยานุกูลนารี
ดอกไม้ที่เห็นนี้มีลักษณะที่เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร..?
ดอกที่มีลักษณะแตกต่างกันท าหน้าที่เหมือนกันหรือไม่ อย่างไร..?
1. โครงสร้างของดอกและชนิดของผล อธิบายเกี่ยวกับจ านวนรังไข่และการเจริญเป็ นผลชนิดต่าง ๆ
โครงสร้างของดอก
โดยทวั่ ไปดอกประกอบดว ้ ยส ่ วนต ่ างๆ 4 ช ้ นัต ิ ดอยบ ู ่ นฐาน ดอก (receptacle) ซ่ึ งค ื อส ่ วนของขอ ้ และปลอ ้ งท ี่อดัตวักนัแน ่ น เก ื อบอยใ ู ่ นระดบัเด ี ยวกนัท ี่ปลายของกา ้ นดอก(peduncle) ท าหน้าที่ รองรับส ่ วนประกอบต ่ างๆ ของดอกโดยเร ี ยงลา ดบัจากช ้ นัท ี่อย ู ่ ดา ้ นนอกเขา ้ส ู ่ ดา ้ นใน ไดแ ้ ก ่ ช ้ นั 1.วงกล ี บเล ้ ี ยง (calyx) 2.วงกลีบดอก (corolla) 3.วงเกสรเพศผู้ (androecium) 4.วงเกสรเพศเมีย (gynoecium) โครงสร้างของดอก
โครงสร้างของดอก (anther) (filament) (ovary) (style) (stigma) (petal) (sepal) (receptacle) (ovule)
ชนิดของดอก 1. ดอกครบส่วน (Complete flower) หมายถึง ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบครบทั้ง 4 วง คือ กลีบเลี้ยง กลีบดอก เกสรตัวผู้ และเกสรตัวเมีย อยู่ในดอกเดียวกัน เช่น ดอกแพงพวย ดอกบัว ดอกผักบุ้ง ดอก กุหลาบ ดอกชบา ดอกพู่ระหง และดอกมะเขือ ดอกต้อยติ่ง 2. ดอกไม่ครบส่วน (Incomplete flower) หมายถึง ดอกไม้ที่มีส่วนประกอบไม่ครบทั้ง 4 วงในดอก เดียวกัน เช่น ดอกจ าปา ไม่มีกลีบเลี้ยง ดอกต าลึงไม่มีเกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมีย ดอกข้าวโพด ดอก มะละกอ ดอกฟักทอง ดอกแตงกวา และดอกบวบ
ชนิดของดอก ถ้าพิจารณาเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียเป็นเกณฑ์ จะแบ่งชนิดของดอกไม้ได้ 2ชนิด 1. ดอกสมบ ู รณเ ์ พศ (perfect flower) หมายถึง ดอกที่มีท ั ง ้ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียอยู่ในดอก เดียวกัน เช่น ดอกมะเขือ ดอกชบา ดอกข้าว ดอกต้อยติ่ง ดอกมะม่วง ดอกบัว ดอกชงโค ดอกอัญชัน ดอก ถั่ว ดอกกุหลาบ 2. ดอกไม่สมบ ู รณเ ์ พศ (imperfect flower) หมายถึง ดอกที่มีแต่เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใด อย่างหนึ่ง เช่น ดอกข้าวโพด ดอกต าลึง ดอกฟักทอง ดอกมะละกอ และดอกบวบ ** ดอกของพืชแต่ละชนิดจะมีจ านวนดอกบนก้านดอกไม่เท่ากัน จึงสามารถแบ่งดอกออกเป็น 2 ประเภท คือดอกเดียว (Solotary flower) และดอกช่อ (Inflorescences flower)
ชนิดของดอก ดอกเดี่ยว (Solotary flower) หมายถึง ดอกหนึ่งดอกที่พัฒนามาจากตาดอกหนึ่งตา ดังนั้นดอกเดี่ยวจึง มีหนึ่งดอกบนก้านดอกหนึ่งก้าน เช่น ดอกมะเขือเปราะ จ าปี บัว เป็นต้น ดอกช่อ (Inflorescences flower) หมายถึง ดอกหลายดอกที่อยู่บนก้านดอกหนึ่งก้าน เช่น เข็ม ผักบุ้ง มะลิ กะเพรา กล้วย กล้วยไม้ ข้าว เป็นต้น แต่การจัดเรียงตัว และการแตกกิ่งก้านของช่อดอกมีความ หลากหลาย นักวิทยาศาสตร์ใช้ลักษณะการจัดเรียงตัวและการแตกกิ่งก้านของช่อดอกจ าแนกช่อดอก ออกเป็นแบบต่างๆ
ดอกเดี่ยว กุหลาบ คุณนายตื่นสาย บัวหลวง ดอกช่อ เข็ม กล้วยไม้ ราชพฤกษ์
ดอกที่มีรังไข่เหนือวงกลีบ (superior ovary) ดอกที่มีรังไข่ใต้วงกลีบ (inferior ovary) ดอกมะเขือ ดอกแตงกวา
ชนิดของผล
ชนิดของผล 1. ผลเดย ี ่ ว (simple fruit) เป็นผลที่เกิดจากดอกเดี่ยว หรือ ช่อดอกซึ่งแต่ละ ดอกมีรังไข่เพียงอันเดียวเช่น ลิ้นจี่ เงาะ ล าไย ทุเรียน ตะขบ เป็นต้น กระถิน ดอกย่อย ผล ตะขบฝรั่ง
ชนิดของผล (ต่อ) 2. ผลกลุ่ม (aggregate fruit) เป็นผลที่เกิดจากดอกหนึ่งดอกซึ่งมีหลายรังไข่ อยู่แยกกันหรือติดกันก็ได้อยู่บนฐานรองดอกเดียวกัน เช่น น้อยหน่า กระดังงา สตรอเบอรี่ มณฑา เป็นต้น
น้อยหน่า บัวหลวง เกสรเพศเมีย เกสรเพศผ ้ ู เกสรเพศผ ้ ู ยอดเกสรเพศเมีย ฐานดอก ผลย่อย 1 ผล ผลย่อย 1 ผล
ชนิดของผล (ต่อ) 3. ผลรวม (multiple fruit) เป็นผลเกิดจากรังไข่ของดอกย่อยแต่ละดอกของ ช่อดอกหลอมรวมกันเป็นผลใหญ่ เช่น ยอ ขนุน สับปะรด เป็นต้น
1. พืชดอกม ี การสร ้ างดอกเพ ื ่ อใช ้ในการส ื บพน ั ธ ์ ุ แบบอาศ ั ยเพศ 2. ภายหลังการปฏิสนธิ ออว ุ ลจะมีการเจริญและพัฒนาเป็ นเมล็ด รังไข่จะเจริญและพัฒนาไปเป็นผล 3. การเจริญเป็ นผลชนิดต่าง ๆ เกี่ยวข้องกับจ านวนรังไข่ในดอกและจ านวนดอกที่กลายเป็ นผล ผลกล ่ ุ ม ผลเดี่ยว ผลรวม