The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยกระดูกสะโพกหัก3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Krisanee Hunlek, 2023-08-20 04:32:15

คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยกระดูกสะโพกหัก3

คำแนะนำการดูแลผู้ป่วยกระดูกสะโพกหัก3

กระดูกสะโพกหักในผ ู้สูงอายุ กระดูกสะโพกหักเป็ นปัญหาสุขภาพที่ส าคัญและรุนแรง พบได้บ่อยใน ผู้สูงอายุ 1 ใน 3 ของผู้หญิง และ 1 ใน 5 ของผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 50 ปี มีความเสี่ยงที่เกิดกระดูกหักจากโรคกระดูกพรุน สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจาก การหกล้ม เมื่อกระดูกสะโพกหักจะท าให้ผู้ป่ วยสูญเสียความสามารถในการ ปฏิบัติกิจวัตรประจ าวัน สูญเสียค่าใช้จ่ายในอัตราที่สูง อาจท าให้เกิดความ พิการและมีอัตราเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนได้ การรักษา 1.การรักษาแบบไม่ผ่าตัด เป็ นการรักษาส าหรับผู้ป่ วยที่ไม่สามารถเดิน หรือช่วยตวัเองไดอ้ยู่ก่อนแลว้หรือเป็นผู้ป่ วยที่มีโรคประจ าตัว หรือมีอาการ เจ็บป่วยที่มีความเสี่ยงสูงต่อการผ่าตดัการรักษาจะทา โดยการดึงถ่วงน้า หนัก ผ่านผิวหนงัของขาขา้งที่กระดูกสะโพกหัก เพื่อลดอาการบาดเจ็บของเน้ือเยื่อ อ่อน และลดอาการหดเกร็งของกลา้มเน้ือ หรือรักษาโดยการให้ผปู้่วยนอนพกั ร่วมกับรับประทานยาบรรเทาอาการปวด จนอาการปวดทุเลาลง แล้วจึงให้ กลบัไปพกัฟ้ืนต่อที่บา้น ท้งัน้ีญาติหรือผูดู้แลอาจจา เป็นตอ้งเตรียมรถเข็นนั่ง ไว้ส าหรับผู้ป่ วย ในระยะแรกหลังการบาดเจ็บเนื่องจากมีอาการปวด จะท าได้


เพียงนงั่หรือนอนบนเตียง หรือลงนงั่บนรถเข็นเท่าน้นัสิ่งส าคญในการรักษา ั แบบไม่ผ่าตดัคือการดูแลผูป้่วยไม่ให้เกิดภาวะแทรกซอ้น โดยเฉพาะอย่างยงิ่ การช่วยพลิกตะแคงตัว และการจัดท่าผู้ป่ วยเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับ จากการนอนติดเตียง ที่มา:https://online.pubhtml5.com/fhae/ieif/index.html#p=18


2.การรักษาแบบผ่าตัด มี2 วิธี คือ 2.1 การผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูกที่หักให้เข้าที่ด้วยโลหะ ชนิดต่างๆ ที่มา:https://online.pubhtml5.com/fhae/ieif/index.html#p=18


2.2 การผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม โดยอาจผ่าตัดเปลี่ยนเฉพาะหัวของ กระดูกตน้ขา หรืออาจเปลี่ยนท้งัหวักระดูกตน้ขา และเบา้สะโพก ที่มา:https://online.pubhtml5.com/fhae/ieif/index.html#p=18 ผูป้่วยจะได้รับการผ่าตดัด้วยวิธีใดน้ัน ข้ึนอยู่กับลกัษณะการหัก ความแข็งแรงของกระดูก โรคร่วมและสภาพร่างกายของผู้ป่ วย แพทย์จะ เป็ นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมของผู้ป่ วยแต่ละราย


การปฏิบัติตัวก่อนผ่าตัด 1. แจ้งแพทย์ และพยาบาลเกี่ยวกับยาที่รับประทานประจ า โดยเฉพาะยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น (wafarin, ASA) รวมท้งัยาตม้ ยาหม้อ ยาลูกกลอน ให้งดก่อนผ่าตดัอย่างน้อย 7วัน หรือข้ึนอยู่กบัการ พิจารณาของแพทย์ผู้รักษา 2.การฝึกบริหารกลา้มเน้ือและขอ้ต่อให้แข็งแรง เพื่อเตรียมความ พร้อมส าหรับการฝึ กยืน และเดินหลังผ่าตัด โดยให้ผู้ป่ วยนอนหงายราบ และฝึ กท าแต่ละท่า จนได้อย่างน้อย ท่าละ 100-200คร้ัง/วนัดงัน้ี 3. ฝึ กการหายใจ และการไอ เพื่อป้องกันปอดอกัเสบติดเช้ือ ดงัน้ี 3.1 ฝึ กการหายใจ โดยการนอนหงายศีรษะสูง 15-30 องศา หายใจเข้าทางจมูกลึกๆ จนหน้าท้องและทรวงอกขยายออก แล้วผ่อนลม หายใจออกทางปากช้าๆ จนทรวงอกและหน้าท้องคืนตัว ท า 5-10คร้ังทุก ชวั่โมงขณะตื่น 3.2ฝึกการไอโดยการสูดหายใจเขา้ทางจมูกลึกๆ กล้นัหายใจไว้ สักครู่แลว้ไอออกมา 2คร้ัง ติดต่อกนัทา ซ้า อีก1-2คร้ัง เพื่อขบเสมหะั ออกจากล าคอ


ท้งัน้ีผูป้่วยที่ไม่ไดผ้่าตดัสามารถฝึกบริหารกลา้มเน้ือและขอ้ต่อ รวมท้งัการฝึกการหายใจ และการไอไดเช่นเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ ้ เกิดกลา้มเน้ือลีบ ขอ้ยดึติด และปอดอกัเสบติดเช้ือ 4. การเตรียมสภาพแวดล้อมที่บ้าน และของใช้ที่จ าเป็ นให้พร้อม ดงัน้ี 4.1 จดับา้นให้สะอาด โล่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางทางเดิน พ้ืนตอ้งไม่ ลื่น และมีแสงสว่างเพียงพอ 4.2จดัเตรียมที่นอน และควรใหผ้ ปู้่วยนอนช้นัล่างของบา้น 4.3 จัดหาเตียงนอนที่มีความสูงระดับข้อพับเข่า และเก้าอ้ีที่มี ความแข็งแรง มีพนักพิง มีที่ทา้วแขน และมีความสูงพอเหมาะ เมื่อนั่ง แลว้ขอ้เข่าไม่สูงกวา่ขอ้สะโพกและเทา้วางราบกบัพ้ืนพอดี 4.4การเตรียมห้องน้า ให้มีราวสา หรับยึดจบัเพื่อให้ผูป้่วยทรงตวั ไดด้ีป้องกนัการลื่นลม้และโถส้วมควรเป็นแบบนงั่ราบ หากเป็ นโถส้วม แบบนงั่ยองๆ และไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ใหจ้ดัหาเกา้อ้ีสุขภณัฑ์หรือ อาจใช้เก้าอ้ีพลาสติก หรือเก้าอ้ีไม้เจาะรูวางครอบโถส้วมแบบนั่งยอง แทน พ้ืนห้องน้า ควรเป็นวสัดุกนัลื่น หรือมีแผ่นรองกนัลื่นบริเวณพ้ืนที่ อาบน้า


ที่มา:https://online.pubhtml5.com/fhae/ieif/index.html#p=18


ที่มา:https://online.pubhtml5.com/fhae/ieif/index.html#p=18


การปฏิบัติตัวหลังผ่าตัด 1. ในรายที่ผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึ งกระดูก ให้ผู้ป่ วยวางขาข้างที่ ผ่าตัดสูงบนหมอน 1 ใบ เพื่อช่วยลดอาการปวดและอาการบวม 2. ในรายที่ผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม ให้ผู้ป่ วยนอนกางขาข้างที่ ผ่าตัดประมาณ 15-30องศา โดยใชห้มอนคนั่ระหว่างขาท้งั2ขา้ง ท้งัขณะ นอนหงายและพลิกตะแคงตัว เพื่อป้องกันข้อสะโพกเทียมเคลื่อนหลุด ยกเวน้บางรายที่ตอ้งนอนหุบขา ท้งัน้ีข้ึนอยกู่บัวิธีการผา่ตดัของแพทย์ 3. ผู้ป่ วยควรสูดลมหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ แล้วผ่อนลมหายใจ ออกทางปากช้าๆ ทา 10 คร้ังทุกชั่วโมง ขณะตื่น และหากมีเสมหะให้ ผูป้่วยสูดลมหายใจเข้าทางจมูกลึกๆ กล้ันหายใจไวส้ ักครู่แล้วไอเอา เสมหะออกมาจากลา คอ ทา เช่นเดียวกนักบัที่ฝึกไวก้่อนผา่ตดั 4.ผูป้่วยควรกระดกขอ้เทา้ข้ึนลงบ่อยๆ เพื่อช่วยให้การไหลเวียน โลหิตดีป้องกนัไม่ใหเ้กิดลิ่มเลือดอุดตนั ในหลอดเลือดดา ของขา 5. ผู้ป่ วยควรบอกอาการปวดเป็ นระดับคะแนน เพื่อให้ได้รับการ บรรเทาความปวดอย่างเหมาะสม เพื่อให้ได้รับการบรรเทาปวดอย่าง เหมาะสม โดยเริ่มจากคะแนน 0 หมายถึงไม่ปวดเลย และเพิ่มข้ึนที่ละ


1 คะแนน คะแนน 1-3 หมายถึง ปวดน้อย คะแนน 4-6 หมายถึง ปวด ปานกลาง และคะแนน 7-10 หมายถึง ปวดมากที่สุด อาการปวดแผล ผา่ตดัน้ีจะค่อยๆ ลดลงภายใน 3-5 วัน การฟื้นฟูสภาพร่างกายหลงัผ่าตัด หลังผ่าตัดวันที่ 1 1.บริหารกลา้มเน้ือและขอ้เหมือนก่อนผา่ตดัท่าที่1-5 2.เปลี่ยนอิริยาบถโดยการพลิกตะแคงตวัดว้ยการเหนี่ยวราวก้นั เตียง หรือใช้บาร์โหนตัว ส าหรับผู้ป่ วยผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม ต้อง ใชห้มอนคนั่ระหวา่งขาเสมอ 3.เริ่มลุกนั่งได้โดยเจา้หน้าที่จะไขเตียงให้ศีรษะสูง 30-45 องศา ควรระมัดระวังไม่ให้ท่อระบายเลือดเลื่อนหลุด หลังผ่าตัดวันที่ 2-3 1.บริหารกลา้มเน้ือและขอ้เหมือนก่อนผ่าตดัท่าที่1-5 และเพิ่ม ท่าบริหารกลา้มเน้ือขอ้ สะโพกเป็นท่าที่6 โดยการเกร็งกลา้มเน้ือตน้ขา แล้วกางขาออกจากแนวกึ่งกลางล าตัว ในช่วงแรกอาจให้คนช่วยพยุงที่


ขอ้เทา้และขอ้พบัขา เพื่อช่วยให้ขยบัขาได้ง่ายข้ึน นับ 1 ถึง 5 แล้วจึง ค่อยๆ หุบขาเขา้หาแนวก่ึงกลางลา ตวัทา ทีละขา้งค่อยๆ เพิ่มจา นวนข้ึน เรื่อย ๆ จนได้อย่างน้อย 100-200คร้ัง/วนั หลังผ่าตัดวันที่ 4จนถึงวันที่แพทย์อนุญาตให้กลบับ้าน 1.ปฏิบัติเช่นเดียวกับหลังผ่าตัดวันที่ 2-3 2.เพิ่มท่าบริหารขอ้ สะโพกและขอ้เข่า เป็นท่าที่7 โดยค่อยๆ ลาก ส้นเท้าเลื่อนเข้ามาใกล้ก้นให้มากที่สุด แล้วจึงค่อยๆเลื่อนส้นเท้าออก จน ขาเหยียดตรง (ทา เฉพาะขาขา้งที่ผ่าตดั) ทา 10คร้ัง/รอบ อย่างนอ้ยวนัละ 3-5 รอบ 3.ฝึ กลงมายนืขา้งเตียง และฝึกเดินโดยใชว้อลค์เกอร์หรือไมค้้า ยนั รักแร้โดยเดินลงน้า หนกัขาขา้งที่ผา่ตดั


การปฏิบัติตัวเม ื่อกลบัไปอยู่บ้าน ผู้ป่ วยกระดูกสะโพกหัก ที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะยึดตรึงกระดูก หรือผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเทียม จ าเป็ นที่จะต้องปฏิบัติตัวให้ถูกต้องเมื่อ กลับไปอยู่บ้าน เพื่อฟื นฟูสภาพร่างกายให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ ป้องกันไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ดงัน้ี 1.รับประทานยาตามแผนการรักษา เช่น ยาปฏิชีวนะ แคลเซียม วิตามินดี ยารักษาโรคประจ าตัว เป็ นต้น หากมีอาการแพ้ยา มีผื่น คัน แน่นหน้าอก หรือหายใจไม่สะดวก ให้หยุดรับประทานยา แล้วรีบไป โรงพยาบาล หรือ สถานพยาบาลใกล้บ้าน พร้อมน ายาและซองยาไปด้วย 2.ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งสะอาด เมื่อครบ 10-14 วัน หลังผ่าตัด ผูป้่วยจะไดร้ับการตดัไหม หรือเอาลวดที่เยบ็ออก และต่อจากน้นัอีก 24 ชวั่โมงผปู้่วยจึงจะอาบน้า ไดต้ามปกติ 3.ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูง เช่น เน้ือสัตว์ไข่เตา้หู้ถวั่ต่าง ๆ รวมท้งัอาหารที่มีแคลเซียมสูง เช่น นม จืด เตา้หู้ผกัใบเขียวรวมท้งัอาหารที่มีวิตามินดีสูง เช่น ปลาสวาย น้า มนั ตับปลา เป็ นต้น


4.บริหารกลา้มเน้ืออย่างสม่า เสมอ ตามที่ฝึกไวก้่อนและหลงัผา่ตดั ท้งั7 ท่า และให้บริการเน้ือตน้ขาดา้นหน้า เพิ่มเติม เป็นท่าที่8 โดยการ นงั่เกา้อ้ีที่มีพนกัพิงหลงัและมีที่ทา้วแขน แลว้ยกเทา้ข้ึนจากพ้ืนทีละขา้ง ให้เข่าเหยียดตรง เกร็งค้างไว้ นับ 1 ถึง 5 แล้วค่อย ๆ งอเข่าลงช้า ๆ จนเท้า วางบนพ้ืน นบัเป็น 1คร้ัง ทา ซ้า ขา้งละ 10คร้ัง รวมกนั ใหไ้ด้วนัละ 100- 200คร้ัง 5.ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเดิน เช่น วอลค์เกอร์หรือไมค้้า ยนัรักแร้โดย เดินลงน้า หนักตามค าแนะน าของแพทย์ จนกว่าแพทย์จะอนุญาตให้เลิก ใช้ และให้เดินได้ตามปกติ ในผู้ป่ วยบางรายแพทย์อาจเห็นสมควรให้ใช้ รถเขน็นงั่แทนการลุกเดิน การใชอุ้ปกรณ์ช่วยเดิน มีวิธีการใช้ดงัน้ี 5.1 การเดินด้วยวอล์คเกอร์ ให้ผู้ป่ วยจับวอล์คเกอร์ให้มั่นคง แล้วยกวอล์คเกอร์ไปทาง ดา้นหนา้กา้วขาขา้งที่ทา ผ่าตดัไปก่อน ให้น้า หนกัตวัอยู่บนมือท้งั2ขา้ง แล้วจึงก้าวขาข้างที่ดีตามไป


5.2การเดินดว้ยไมค้้า ยนัรักแร้ ให้ผู้ป่ วยยืนทรงตัวให้ดีจบั ไมค้้า ยนัรักแร้ให้มนั่คงแลว้ยกไมค้้า ยนัรักแร้ท้งั2 ขา้ง พร้อมก้าวขาขา้งที่ท าผ่าตัดออกไปทางด้านหน้าใน ระนาบเดียวกัน ให้น้า หนกัตวัอยู่บนมือท้งั2ขา้ง หลงัจากน้นัจึงกา้วขา ขา้งดีตามไป ใหข้าขา้งดีเป็นขา้งที่รับน้า หนกัตวัเมื่อทรงตวัดีแลว้จึงกา้ว เดินต่อไป 5.3การข้ึน ลงบนัได เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการพลัดตกหกล้ม จากการข้ึน ลงบนั ได ควรจัดให้ผูป้่วยอยู่ช้นัล่างของบา้น หากจา เป็นตอ้งอยู่ช้นับน ผูป้่วยไม่ ควรข้ึน ลงบนัได เพียงลา พงัตอ้งมีญาติหรือผดูู้แลคอยช่วยในการข้ึน ลง บันไดเสมอ การข้ึนบนัได ให้ผู้ป่ วยใช้มือข้างหนึ่งจับราวบันได และมืออีกข้าง จับวอล์คเกอร์หรือไมค้้า ยนัรักแร้โดยขณะข้ึนบนัไดใหอ้อกแรงกดที่มือ ท้งั2ขา้งกา้วขาขา้วดีนา ไปก่อน แลว้จึงกา้วขาขา้งที่ทา ผา่ตดัตามข้ึนไป การลงบนั ได เมื่อจะลงบนั ไดให้กลบักนักลบัการข้ึนบนั ได โดย ผู้ป่ วยใช้มือข้างหนึ่งจับราวบันได มืออีกข้างจับวอล์คเกอร์หรือไมค้้า ยนั รักแร้นา ลงมาก่อน พร้อมกา้วขาขา้งที่ผา่ตดัออกแรงกดที่มือท้งั2ขา้ง แล้วก้าวขาข้างที่ดีตาม


6. การขับรถ ผู้ป่ วยที่ได้รับการผ่าตัดข้อสะโพกข้างซ้าย จะ สามารถเริ่มขบัรถ ไดใ้นระยะเวลาประมาณ 6-8 สัปดาห์หลังผ่าตัด หาก ผ่าตัดข้อสะโพกข้างขวา อาจใช้เวลามากกว่าน้ีหรือควรปรึกษาแพทย์ ก่อนจะขบัรถ 7. การกลับไปท างาน ข้ึนอยู่กับลักษณะงานที่ท า โดยทั่วไป สามารถกลับไปท างานได้ในระยะประมาณ 2-3 เดือน หลังผ่าตัด ควร ปรึกษาแพทยก์ ่อน 8. ไปตรวจตามแพทย์นัด และควรไปพบแพทย์ทันทีโดยไม่ต้อง รอใหถ้ึงวนันดัเมื่อมีอาการดงัน้ี 8.1 มีไข้แผลบวม แดง มีเลือด หรือน้า เหลืองซึมออกมาจากแผล ผ่าตัด 8.2 ปวดสะโพกมากผิดปกติ ขณะเคลื่อนไหว 8.3 เหนื่อย หายใจล าบาก และเจ็บหน้าอก


การปฏิบัติตัวเฉพาะส าหรับผู้ป่วยเปลยี่นข้อสะโพกเทียม ข้อควรปฏิบัติส าหรับผู้ป่ วยผ่าตัด เปลี่ยนข้อสะโพกเทียมที่ต้อง ระมดัระวงัเพื่อป้องกนัขอ้สะโพกเทียมเคลื่อนหลุด มีดงัน้ี 1.การนงั่เกา้อ้ี ผปู้่วยควรนงั่บนเกา้อ้ีที่แขง็แรง มีพนกัพิง มีที่เทา้แขน และมีความ สูงพอเหมาะ เมื่อนงั่แลว้เทา้วางพอดีกบัพ้ืน และขอ้เข่าตองไม่สูงกว่าข้อ ้ สะโพก ไม่นั่งเก้าอ้ีที่มีระดับต่า กว่าขอ้ สะโพกถา้เก้าอ้ีต่า เกินไปให้ใช้ เบาะรองนงั่เสริม และไม่ควรนงั่เกา้อ้ีที่เป็นโซฟา เกา้อ้ีนอน เกา้อ้ีที่มีลอ้ เขน็หรือเกา้อ้ีโยก เมื่อจะนั่งเกา้อ้ีให้ผูป้่วยหันหลงัให้ขาชิดเกา้อ้ีเหยียดขาขา้งที่ทา ผ่าตดัไปดา้นหน้า แลว้จึงเอ้ือมมือจากวอล์คเกอร์ไปจบัที่เทา้แขนเก้าอ้ี พร้อมท้งัยอ่ลงนงั่แลว้ค่อยๆขยบัตวันงั่ใหห้ลงัพิงพนงัเกา้อ้ี เมื่อจะลุกจากเก้าอ้ีให้ทา กลับกันกับการนั่งเก้าอ้ีโดยให้ผูป้่วย เลื่อนตัวมาด้านหน้าเล็กน้อยเหยียดขาข้างที่ท าผ่าตัดออกไปทางด้านหน้า แลว้ใชม้ือจบัที่เทา้แขนเกา้อ้ีเพื่อยนัตวัลุกข้ึนยืน พร้อมท้งัเลื่อนมือไปจบั วอลค์เกอร์ที่วางอยทู่างดา้นหนา้ผปู้่วย แลว้จึงลุกข้ึน


วิธีการนั่ง หรือลุกจากเก้าอ้ีน้ีสามารถน าปใช้ในการนั่งเก้าอ้ี สา หรับอาบน้า นงั่ในรถยนต์หรือนงั่บนโถส้วมได้แต่การนงั่บนโถส้วม น้นัตอ้งมีราวสา หรับจบัยดึดว้ย 2.การข้ึนรถ-ลงรถ ให้ผูป้่วยหันหลงัเขา้หาที่นงั่โดยใชข้าสัมผสักบับนัไดรถใชม้ือจบั พนักเบาะรถให้มนั่คง เหยียดขาข้างที่ท าผ่าตัดไปด้านหน้า แล้วค่อย ๆ หย่อนตวัลงนงั่ยกขาขา้งที่ทา ผ่าตดัข้ึน แลว้ตามดว้ยขาขา้งดีเวลาลงจาก รถใหท้า กลบักนัโดยใชข้าขา้งที่ดีกา้วลงมาก่อน แล้วก้าวตามลงมาด้วยขา ขา้งที่ทา ผ่าตดัท้งัข้ึนและลงจากรถยนต์ต้องระวังไม่ให้ข้อเข่าสูงกว่าข้อ สะโพก 3.การข้ึนเตียงนอน-การลุกจากเตียงนอน การข้ึนเตียงนอน ใหผ้ ปู้่วยนงั่ลงบนขอบเตียง พร้อมท้งัยกขาขา้งดี ข้ึนมาบนเตียงก่อน แลว้ตามด้วยขาขา้งที่ทา ผ่าตดัค่อยๆเอนตวัลง ใช้ ข้อศอกช่วยยันที่นอน โดยใช้ขาข้างที่ท าผ่าตัดอยู่ในท่ากางออกเล็กน้อย การลุกจากเตียงนอน ให้ทา กลบักนักบัการข้ึนเตียงนอน โดยให้ ผู้ป่ วยเลื่อนตัวมาที่ขอบเตียงด้านเดียวกับขาข้างที่ท าผ่าตัด และยกขาข้าง ที่ทา ผ่าตดัลงมาจากเตียงก่อน แลว้ใช้ขอ้ศอกยนัที่นอนค่อย ๆ ขยับตัว


แล้วตามมาด้วยขาข้างดี โดยให้ขาข้างที่ท าผ่าตัด อยู่ในท่ากางออก เลก็นอ้ยแลว้จึงลุกข้ึนนงั่บนเตียง 4.การลุกจากพ้ืนข้ึนมานงั่บนเกา้อ้ี ให้ผูป้่วยใชแ้ขนท้งัสองขา้งช่วยยนัตวัและค่อยๆขยบัตวัลุกข้ึนนงั่ ท้งัน้ีญาติหรือผูดู้แลอาจช่วยประคองดา้นหลงัจะทา ให้ผูป้่วยลุกนั่งได้ สะดวกข้ึน และเมื่อผูป้่วยตอ้งการลงนอนกบัพ้ืนก็ให้ทา กลบักนั โดยใช้ แขนท้งัสองขา้งช่วยยนัตวัค่อยๆขยบัและเอนตวัลงนอน เมื่อลุกข้ึนนงั่จากพ้ืนไดแ้ลว้ ให้นา เกา้อ้ีและมา้นงั่มาวางให้ชิดกน้ ของผูป้่วยให้ผูป้่วยค่อยๆ ขยบัตวัลุกข้ึนจากพ้ืนมานงั่บนมา้นงั่ก่อน โดย การใชม้ือท้งัสองขา้งจบัที่มา้นงั่พร้อมกบัชนัเข่าขาขา้งดีข้ึน ให้ออกแรงที่ มือท้งัสองขา้งและขาขา้งดีพร้อมกนัเพื่อช่วยยนัและยกตวัข้ึนมานงั่บน มา้นงั่แลว้จึงขยบัตวัจากมา้นงั่ลุกข้ึนมานงั่บนเกา้อ้ีตามลา ดบัท้งัน้ีผูป้่วย ควรมีญาติหรือผดูู้แลคอยใหก้ารช่วยเหลืออยู่ดว้ย เมื่อผปู้่วยลุกข้ึนนงั่บน เกา้อ้ีไดเ้รียบร้อยแลว้ หากต้องการลุกเดินก็ให้ใช้อุปกรณ์ช่วยในการเดิน และเมื่อจะลงนั่งกบัพ้ืนก็ให้ทา กลบักนักบัการลุกข้ึนจากพ้ืน โดยค่อยๆ ขยบัตวัจากเกา้อ้ีลงมานงั่บนมา้นงั่ก่อน หลงัจากน้นั ให้ผูป้่วยค่อยๆ ขยบั ตวัจากมา้นงั่ลงมานงั่กบัพ้ืน


5. การแต่งตัว การใส่กางเกงควรใส่กางเกงเอวยางยืด โดยให้ใส่ขาข้างที่ท าผ่าตัด ก่อน เวลาถอดให้ถอดออกจากขาขา้งดีก่อน ให้ผูห้ลีกเลี่ยงการกม้ตวัลง ใส่กางเกง ควรหาผู้ช่วยใส่กางเกง หรือใช้ที่คีบอเนกประสงค์ช่วยคีบ กางเกงข้ึนมาแทนการกม้ตวัลงไปหยบิกางเกงข้ึนมาใส่ การสวมถุงเท้า การใส่รองเท้า ผู้ป่ วยไม่ควรก้มลงสวมถุงเท้าหรือ ใส่รองเท้าเอง ควรหาผู้ช่วยสวมถุงเท้า หรือช่วยใส่รองเท้าหรือใช้ช้อน รองเทา้ช่วยจะทา ให้ใส่รองเทา้ไดง้่ายข้ึน รองเทา้เป็นแบบที่สวมใส่ง่าย ไม่มีเชือกผกูพ้ืนรองเทา้ตอ้งไม่ลื่น 6. การท างานบ้าน ผูป้่วยสามารถทา งานบา้นได้โดยเก็บสิ่งของที่ใช้บ่อยให้อยู่สูง ระดับเอว ห้ามก้มลงขัดพ้ืน เช็ดเตียง หรือปีนข้ึนเช็ดหน้าต่างเมื่อ จา เป็นตอ้งหยิบของบนพ้ืน วิธีที่ปลอดภยั ควรเหยียดขาข้างที่ท าผ่าตัด ออกไปทางด้านหลัง ย่อเข่าข้างดีลง แล้วจึงก้มตัวลงเก็บของให้หลีกเลี่ยง การก้ม หรือโน้มตัวไปข้างหน้าควรใช้ที่คีบอเนกประสงค์ช่วยคีบของที่ อยบู่นพ้ืน 7. ท่าที่ไม่ควรท า ห้ามผู้ป่ วยหุบขา ไขว้ขา หมุน หรือบิดขาเข้าด้านใน เวลานอน นงั่ ยืน เดิน และห้ามก้มตัวลงเก็บของ หรือท ากิจกรรมใด ๆ โดยเฉพาะใน ระยะ 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด เช่น ก้มตัดเล็บเท้าเอง หรือก้มหยิบผ้าห่ม


จากปลายเตียงข้ึนมาห่ม เป็นตน้ท้งัน้ีข้ึนอยู่กบัวิธีการผ่าตดัในผูป้่วยแต่ ละราย ดงัน้นัจึงควรปรึกษาแพทยผ์ูท้า การรักษาก่อน และผู้ป่ วยไม่ควร นงั่เกา้อ้ีที่เป็นโซฟา เกา้อ้ีนอน หรือเกา้อ้ีโยก 8. สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง 8.1 หลีกเลี่ยงการยกของ หรื อการแบกของหนักเพราะให้ข้อ สะโพกเทียมสึกกร่อน และเกิดการหลวมของข้อสะโพก 8.2 หลีกเลี่ยงการกระท าใด ๆ ที่ต้องงอข้อสะโพกมากกว่า 90 องศา เช่น การขี่จักรยานอานเต้ีย อาจเป็นสาเหตุให้ข้อสะโพกเทียม เคลื่อนหลุดได้ 8.3 หลีกเลี่ยงการออกก าลังกาย หรือเล่นกีฬาชนิดที่มีการกระโดด หรือมีแรงปะทะ เช่น การวิ่ง เทนนิส แบดมินตนั ฟุตบอล หรือการปื นที่ สูง เพราะจะทา ให้เกิดการศึกของผิวขอ้ สะโพกเทียมเร็วข้ึน การออก กา ลงักายที่แนะนา คือการเดิน การวา่ยน้า 9.ควบคุมน้า หนกัตวัอยา่ ใหอ้ว้น ผูท้ี่มีน้า หนักตวัมากเกินเกณฑ์จะท าให้ข้อสะโพกและข้อเข่ารับ น้า หนกัมาก อาจทา ให้เกิดการเสื่อม หรือหลวมของขอสะโพกเทียมเร็ว ้ กว่าก าหนด 10.การมีเพศสัมพันธ์ ผู้ป่ วยสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังผ่าตัดประมาณ6 สัปดาห์ และ ต้องระวังไม่ให้ข้อสะโพกเคลื่อนหลุด โดยผู้ป่ วยต้อง อยู่ในท่านอนหงาย


Click to View FlipBook Version