โครงการสอนรายวิชาเคมี 5 (ว33225) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1/2564
โดย นางสาวชลกร มีกูล
สาระเคมี ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ คาบ KPA วัดผล การวดั ผล คะแนน คุณลกั ษณะอนั สมรรถนะ หมาย
เครอื่ งมอื พงึ ประสงค์ เหตุ
หนว่ ยที่ 1 เคมอี นิ ทรยี ์
1. เข้าใจโครงสรา้ ง 1. สบื ค้นขอ้ มลู และนำเสนอ - พันธะของคาร์บอนใน 2 K ผลการเรยี นรู้ อัตนัย 5 ซือ่ สตั ยส์ จุ รติ 1, 2, 3
อะตอม การ ตวั อย่างสารประกอบอนิ ทรีย์ สารประกอบอินทรีย์ P ระหว่างภาค มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้
จัดเรียงอเิ ล็กตรอน ทีม่ ีพันธะเดย่ี ว พนั ธะคู่ หรือ A มงุ่ มั่นในการทำงาน
ธาตุ สมบัติธาตุ พนั ธะสามที่พบใน
พนั ธะเคมแี ละ ชวี ติ ประจำวนั
สมบัติของสาร 2. เขียนสูตรโครงสร้างลิวอิส - สตู รโครงสรา้ งของ 2 K ผลการเรยี นรู้ อัตนัย ซ่อื สตั ยส์ จุ รติ 1, 2, 3
แกส๊ และสมบตั ิแก๊ส สูตรโครงสรา้ งแบบยอ่ และ สารประกอบอินทรยี ์ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้
ประเภทและสมบตั ิ สตู รโครงสรา้ งแบบเสน้ ของ P ระหวา่ งภาค มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
ของสารประกอบ สารประกอบอนิ ทรยี ์
A
อินทรยี แ์ ละพอลิ 3. วเิ คราะห์โครงสร้างและ - หมู่ฟงั กช์ นั 2 K ผลการเรียนรู้ อตั นัย 2.5 ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ 1, 2, 3
เมอร์ รวมทงั้ นำ ระบปุ ระเภทของ P ระหว่างภาค มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้
ความร้ไู ปใช้ สารประกอบอินทรยี ์จากหมู่ A มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
ประโยชน์ ฟงั ก์ชัน
4. เขียนสูตรโครงสรา้ งและ - ช่อื ของสารประกอบ 4 K ผลการเรียนรู้ อตั นยั 2.5 ซอ่ื สัตยส์ ุจริต 1, 2, 3
เรียกชือ่ สารประกอบอนิ ทรีย์ อินทรยี ์ P ระหวา่ งภาค มีวนิ ัยใฝ่เรียนรู้
ประเภทต่าง ๆ ทมี่ ีหมู่ฟังกช์ ัน A ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
ไมเ่ กิน 1 หมู่ตามระบบ
IUPAC
สาระเคมี ตวั ชวี้ ัด/ผลการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ คาบ KPA วดั ผล การวัดผล คะแนน คณุ ลกั ษณะอนั สมรรถนะ หมาย
เครือ่ งมอื พึงประสงค์ เหตุ
หนว่ ยที่ 1 เคมีอนิ ทรยี ์ (ต่อ)
1. เข้าใจโครงสรา้ ง 5. เขียนไอโซเมอรโ์ ครงสร้าง - ไอโซเมอร์ 7 K ผลการเรียนรู้ อตั นัย 2.5 ซื่อสตั ย์สจุ รติ 1, 2, 3
P ระหว่างภาค มวี ินัยใฝเ่ รยี นรู้
อะตอม การ ของสารประกอบอนิ ทรยี ์ A ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
จดั เรียงอเิ ล็กตรอน ประเภทต่าง ๆ 9 K ผลการเรียนรู้ อัตนยั 2.5 ซื่อสตั ยส์ จุ รติ 1, 2, 3
P ระหวา่ งภาค มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้
ธาตุ สมบตั ิธาตุ 6. วิเคราะห์และเปรยี บเทยี บ - สมบตั ขิ อง A มุ่งมั่นในการทำงาน
พันธะเคมแี ละ สารประกอบอนิ ทรีย์
สมบตั ขิ องสาร จดุ เดอื ด และการละลายใน 5 K ผลการเรียนรู้ อตั นัย 5 ซื่อสตั ยส์ จุ ริต 1, 2, 3
แก๊สและสมบัตแิ กส๊ น้ำ ของสารประกอบอินทรีย์ - ปฏกิ ริ ยิ าเคมีของ P ระหวา่ งภาค มีวนิ ัยใฝ่เรียนรู้
ประเภทและสมบตั ิ ท่ีมหี ม่ฟู ังก์ชนั ขนาดโมเลกลุ สารประกอบอนิ ทรยี ์ A มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
หรอื โครงสร้างต่างกนั
ของสารประกอบ
อินทรยี แ์ ละพอลิ 7. ระบุประเภทของ
เมอร์ รวมทัง้ นำ
ความรไู้ ปใช้ สารประกอบไฮโดรคาร์บอน
ประโยชน์ และเขยี นผลติ ภณั ฑ์จาก
ปฏิกิริยาการเผาไหมป้ ฏกิ ริ ยิ า
กับโบรมนี หรอื ปฏิกริ ิยากับ
โพแทสเซยี มเปอรแ์ มงกาเนต
8. เขียนสมการเคมีและ - ปฏกิ ริ ิยาเคมีของ 6 K ผลการเรยี นรู้ อตั นัย ซื่อสตั ยส์ ุจริต 1, 2, 3
P ระหว่างภาค มวี นิ ัยใฝเ่ รียนรู้
อธบิ ายการเกิดปฏิกริ ิยาเอ สารประกอบอินทรยี ์ A มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
สเทอรฟิ เิ คชัน ปฏิกริ ยิ าการ
สงั เคราะห์เอไมด์ปฏิกิรยิ า
ไฮโดรลิซสิ และปฏิกริ ิยาสะ
ปอนนิฟเิ คชัน
สาระเคมี ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ คาบ KPA วดั ผล การวดั ผล คะแนน คณุ ลักษณะอัน สมรรถนะ หมาย
เครอื่ งมือ พึงประสงค์ เหตุ
หนว่ ยที่ 1 เคมอี นิ ทรีย์ (ตอ่ )
1. เข้าใจโครงสร้าง 9. ทดสอบปฏิกิริยาเอสเทอ - ปฏิกิริยาเคมีของ 3 K ผลการเรียนรู้ - อตั นยั ซ่ือสตั ยส์ จุ รติ 1, 2, 3
P ระหว่างภาค - ปฏบิ ตั ิ มวี ินยั ใฝเ่ รียนรู้
อะตอม การ รฟิ ิเคชัน ปฏกิ ิริยาไฮโดรลซิ ิส สารประกอบอนิ ทรยี ์ A มุ่งมนั่ ในการทำงาน
จัดเรยี งอเิ ลก็ ตรอน และปฏิกริ ิยาสะปอนนฟิ ิเค 2 K ผลการเรียนรู้ ช้ินงาน 5 ซอื่ สตั ย์สจุ ริต 1, 2, 3, 4,
P ระหว่างภาค มีวนิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ 5
ธาตุ สมบตั ิธาตุ ชัน A มุ่งม่ันในการทำงาน
พันธะเคมแี ละ 10. สืบคน้ ขอ้ มูลและนำเสนอ - สารประกอบอินทรีย์
สมบัตขิ องสาร ตัวอย่างการนำสารประกอบ ในชีวิตประจำวันและ
แก๊สและสมบัตแิ ก๊ส อนิ ทรียไ์ ปใชป้ ระโยชน์ใน การนำไปใช้ประโยชน์
ประเภทและสมบตั ิ ชีวิตประจำวนั และ
ของสารประกอบ อตุ สาหกรรม
อนิ ทรีย์และพอลิ
เมอร์ รวมทงั้ นำ
ความรู้ไปใช้
ประโยชน์
สาระเคมี ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ คาบ KPA วดั ผล การวดั ผล คะแนน คณุ ลักษณะอัน สมรรถนะ หมาย
เครอ่ื งมือ พึงประสงค์ เหตุ
หน่วยท่ี 2 พอลเิ มอร์
1. เข้าใจโครงสรา้ ง 11. ระบุประเภทของ - พอลิเมอร์และมอนอ 4 K ผลการเรยี นรู้ อัตนัย 2.5 ซอ่ื สัตย์สจุ ริต 1, 2, 3
อะตอม การ ปฏกิ ิรยิ าการเกดิ พอลิเมอร์ เมอร์ P ระหว่างภาค มีวินัยใฝ่เรยี นรู้
จัดเรยี งอเิ ลก็ ตรอน จากโครงสรา้ งของมอนอ - ปฏกิ ริ ยิ าการเกิดพอลิ A มุ่งมัน่ ในการทำงาน
ธาตุ สมบัติธาตุ เมอรห์ รือพอลเิ มอร์ เมอร์
พันธะเคมีและ 12. วิเคราะห์ และอธิบาย - โครงสรา้ งและสมบัติ 2 K ผลการเรยี นรู้ อตั นยั 2.5 ซื่อสตั ยส์ ุจรติ 1, 2, 3
สมบัติของสาร ความสัมพันธร์ ะหวา่ ง P ระหวา่ งภาค มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้
แก๊สและสมบัตแิ กส๊ โครงสร้างและสมบัตขิ องพอลิ ของพอลเิ มอร์ A มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
ประเภทและสมบตั ิ เมอร์ รวมทัง้ การนำไปใช้
ของสารประกอบ ประโยชน์
อนิ ทรยี แ์ ละพอลิ 13. ทดสอบ และระบุ
เมอร์ รวมทั้งนำ - การปรบั ปรงุ สมบัติ 2 K ผลการเรียนรู้ อัตนยั 5 ซอ่ื สัตยส์ ุจริต 1, 2, 3
ความรู้ไปใช้ ประเภทของพลาสตกิ และ ของพอลิเมอร์ P ระหว่างภาค มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้
ประโยชน์ ผลติ ภัณฑย์ าง รวมทั้งการ A มุ่งมัน่ ในการทำงาน
นำไปใช้ประโยชน์
14. อธิบายผลของการ - การปรับปรงุ สมบตั ิ 8 K ผลการเรยี นรู้ - อัตนัย ซอื่ สัตยส์ จุ ริต 1, 2, 3
มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้
ปรับเปล่ยี นโครงสร้าง และ ของพอลเิ มอร์ P ระหวา่ งภาค - ปฏิบัติ มงุ่ มั่นในการทำงาน
การสังเคราะหพ์ อลิเมอรท์ ่มี ี A
ตอ่ สมบตั ิของพอลิเมอร์
15. สืบคน้ ข้อมูล และ - การแกป้ ญั หาขยะจาก 2 K ผลการเรียนรู้ - อัตนยั 5 ซื่อสตั ย์สุจริต 1, 2, 3, 4,
นำเสนอตัวอย่างผลกระทบ พอลเิ มอร์ P ระหว่างภาค - ชน้ิ งาน มวี ินยั ใฝ่เรียนรู้ 5
จากการใช้และการกำจดั A มงุ่ ม่นั ในการทำงาน
ผลิตภณั ฑ์พอลิเมอรแ์ ละแนว
ทางแกไ้ ข
สาระเคมี ตัวชีว้ ัด/ผลการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ คาบ KPA วัดผล การวัดผล คะแนน คณุ ลักษณะอนั สมรรถนะ หมาย
ระหว่างภาค : กลางภาค : ปลายภาค : รวม เคร่ืองมอื พึงประสงค์ เหตุ
40 : 30 : 30 คดิ เป็น 100 คะแนน
สมรรถนะผู้เรียน
๑. ความสามารถในการสอ่ื สาร เปน็ ความสามารถในการรับและส่งสาร มวี ัฒนธรรมในการใช้ภาษาถา่ ยทอดความคิด ความรู้ ความเข้าใจ ความรูส้ ึก และทศั นะของตนเอง เพือ่ แลกเปลีย่ นขอ้ มูล
ข่าวสารและประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมทง้ั การเจรจาต่อรอง เพอ่ื ขจัดและลดปญั หาความขดั แย้งตา่ ง ๆ การเลอื กรบั หรือไมร่ บั ขอ้ มลู ข่าวสาร ด้วยหลกั เหตผุ ลและ
ความถกู ตอ้ ง ตลอดจนการเลอื กใช้วธิ กี ารส่อื สารทม่ี ปี ระสทิ ธภิ าพ โดยคำนึงถึงผลกระทบทีม่ ตี อ่ ตนเองและสงั คม
๒. ความสามารถในการคดิ เปน็ ความสามารถในการคิดวเิ คราะห์ การคดิ สังเคราะห์ การคิดอยา่ งสร้างสรรค์ การคดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ และการคิดเปน็ ระบบ เพอ่ื นำไปส่กู ารสรา้ งองค์ความรู้
หรือสารสนเทศ เพ่อื การตดั สนิ ใจเก่ยี วกบั ตนเองและสงั คมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
๓. ความสามารถในการแก้ปญั หา เปน็ ความสามารถในการแกป้ ัญหาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ท่ีเผชญิ ไดอ้ ย่างถูกต้องเหมาะสม บนพ้ืนฐานของหลักเหตุผล คุณธรรม และขอ้ มลู สารสนเทศ เขา้ ใจ
ความสัมพันธแ์ ละการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรูม้ าใชใ้ นการปอ้ งกันแกไ้ ขปัญหา และมกี ารตดั สนิ ใจท่มี ปี ระสิทธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้นตอ่
ตนเอง สังคม และส่งิ แวดลอ้ ม
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ เปน็ ความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ในการดำเนินชวี ิตประจำวนั การเรยี นรู้ด้วยตนเอง การเรยี นรอู้ ยา่ งต่อเนอื่ ง การทำงาน และการอยู่
ร่วมกันในสงั คม ด้วยการสร้างเสริมความสมั พันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหา และความขัดแยง้ ตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม และ
การรู้จักหลีกเลี่ยงพฤตกิ รรมไมพ่ ึงประสงคท์ ส่ี ง่ ผลกระทบตอ่ ตนเองและผอู้ น่ื
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือกและใชเ้ ทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพอ่ื การพัฒนาตนเองและสงั คม ในด้านการเรียนรู้
การสอื่ สาร การทำงาน การแกป้ ญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมคี ุณธรรม