The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by issarapornpud, 2022-05-13 09:46:12

แผนการการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1

แผนการการจัดการเรียนรู้หน่วยที่1

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๑

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ โคลงเรื่องพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๑ เรียนรู้คาราชาศัพท์ เวลา ๑ ช่ัวโมง

ช้ัน.................................วนั ที่.................................................คาบ.............................................

สาระสาคัญ
สังคมไทยมีบุคคลซ่ึงอยใู่ นฐานะแตกต่างกนั และมีคา่ นิยมในการเคารพผูอ้ าวโุ ส เราจึงตอ้ งเขา้ ใจ

ความหมาย
ของคาราชาศพั ทแ์ ละใชใ้ หถ้ ูกตอ้ งเพื่อแสดงการยกยอ่ ง และยงั เป็นการอนุรักษว์ ฒั นธรรมทางภาษาใหค้ งอยตู่ อ่ ไป
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษา

และพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของ
ชาติ

ตัวชี้วดั
ท ๔.๑ ม. ๒/๔ ใชค้ าราชาศพั ท์
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกความหมายคาราชาศพั ท์ (K)
๒. อธิบายหลกั การใชค้ าราชาศพั ท์ (K)
๓. จาแนกชนิดของคาราชาศพั ท์ (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการเรียนรู้คาราชาศพั ท์ (A)
สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้

คาราชาศพั ท์
๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

การจาแนก การปฏิบตั ิ/การสาธิต การแกป้ ัญหา การสรุปความรู้
๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไม่ใช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แต่เป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สงั คมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสมั พนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียน

จะตอ้ งทาดว้ ยตนเองดว้ ยความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม
วธิ ีวดั ผลประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล

๒. ทบทวนความรู้ชว่ั โมงที่ผา่ นมา
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี

ในชีวติ ประจาวนั นกั เรียนตอ้ งใชค้ าราชาศพั ทม์ ากนอ้ ยเพียงใด
๒. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม ๘ กลุ่มแลว้ ส่งตวั แทนจบั ฉลากหมายเลขกลุ่มเพอ่ื ศึกษาตามหวั ขอ้ ต่อไปน้ี

กลุ่มท่ี ๑ คาราชาศพั ทท์ ่ีใชก้ บั พระมหากษตั ริย์
กลุ่มท่ี ๒ คาราชาศพั ทท์ ี่ใชก้ บั สมเด็จพระบรมราชินีนาถ
กลุ่มท่ี ๓ คาราชาศพั ทท์ ี่ใชก้ บั สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช
กลุ่มที่ ๔ คาราชาศพั ทท์ ่ีใชก้ บั สมเดจ็ พระบรมราชกมุ ารี
กลุ่มท่ี ๕ คาราชาศพั ทส์ าหรับพระสงฆ์
กลุ่มที่ ๖ คาราชาศพั ทส์ าหรับสุภาพชน
กลุ่มท่ี ๗ หลกั การใชค้ านามราชาศพั ท์
กลุ่มที่ ๘ หลกั การใชค้ ากริยาราชาศพั ท์
๓. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนทราบถึงการทากิจกรรมวา่ เมื่อนกั เรียนไดห้ วั ขอ้ ท่ีจะศึกษาแลว้ ใหเ้ ขา้
หอ้ งสมุดเพื่อคน้ ควา้ ความรู้ เม่ือหมดเวลาท่ีครูกาหนดใหก้ ลบั มายงั หอ้ งเรียน
๔. เม่ือนกั เรียนกลบั มาห้องเรียนแลว้ ใหน้ าขอ้ มูลที่ไดม้ าปรึกษากนั ภายในกลุ่มเพอ่ื ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและจดั ขอ้ มูลใหเ้ ป็นระบบสาหรับนาเสนอในชวั่ โมงต่อไป

ข้นั สรุป
- ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
๑. สงั คมไทยมีบุคคลซ่ึงอยใู่ นฐานะแตกต่างกนั และมีคา่ นิยมในการเคารพผอู้ าวโุ ส เรา

จงึ ตอ้ งเขา้ ใจความหมายของคาราชาศพั ทแ์ ละใชใ้ หถ้ กู ตอ้ งเพ่ือแสดงการยกยอ่ ง และยงั เป็นการอนรุ กั ษ์

วฒั นธรรมทางภาษาใหค้ งอยตู่ อ่ ไป

๒. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนทุกคนไปอา่ นข่าวจากหนงั สือพิมพต์ ่าง ๆ หรือขา่ วจากอินเทอร์เน็ต
สงั เกตการใชค้ าราชาศพั ทก์ บั บุคคลที่อยใู่ นฐานะแตกตา่ งกนั แลว้ ตรวจสอบวา่ ถูกตอ้ งหรือไม่ บนั ทึกขอ้ มูลท่ีได้
จากการศึกษาแลว้ นาความรู้มาแลกเปลี่ยนกนั ในชว่ั โมงต่อไป

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้
๑. ฉลาก
๒. หนงั สือและสื่ออื่น ๆ ในหอ้ งสมุด

การวดั และประเมินผล

การวดั และ เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์
ประเมินผล วธิ ีการวดั ผล การประเมินผล
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ัต(ิ P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สังเกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนแบง่ กลุ่มศึกษาสานวนและกลวธิ ีการประพนั ธ์อยา่ งอิสระ มีการวางแผน แบง่ งานกนั

ภายในกลุ่ม ฝึกการพูด นาเสนอ เพ่ือนในกลุ่มช่วยแนะนาและเรียนรู้ร่วมกนั ทาให้เกิดความรู้ ความเขา้ ใจ
ง่ายข้ึน ครูอธิบายเพ่ิมเติมใหเ้ ขา้ ใจมากยงิ่ ข้ึน

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากล่มุ สาระหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยดุ า คลงั แสง)

หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ. ……

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๒

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ โคลงเร่ืองพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๒ ราชาศัพท์ในวรรณคดี เวลา ๑ ช่ัวโมง

ช้ัน.................................วนั ท่ี.................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั
ในชีวติ ประจาวนั เราตอ้ งใชค้ าราชาศพั ทอ์ ยเู่ สมอจึงตอ้ งเรียนรู้และใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษา
และพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ

ตวั ชี้วดั
ท ๔.๑ ม. ๒/๔ ใชค้ าราชาศพั ท์

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. สรุปหลกั การใชค้ าราชาศพั ท์ (K)

๒. ใชค้ าราชาศพั ท์ (P)
๓. เห็นความสาคญั ของการใชค้ าราชาศพั ทอ์ ยา่ งถูกตอ้ ง (A)
สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้

คาราชาศพั ท์
๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

การสงั เคราะห์ การปฏิบตั ิ/การสาธิต การสรุปความรู้
๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน รักความเป็นไทย

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไม่ใช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แตเ่ ป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สังคมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งมี
ความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผลประเมินผล
เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล
๒. ทบทวนความรู้ในชวั่ โมงท่ีผา่ นมา
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนดูภาพกระบวนพยหุ ยาตราทางชลมารค แลว้ ร่วมกนั สนทนาเก่ียวกบั การจดั พระ
ราชพธิ ีเห่เรือ โดยพยายามใชค้ าราชาศพั ทใ์ หถ้ ูกตอ้ งครูช่วยแนะนา
๒. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอความรู้ เร่ือง คาราชาศพั ทท์ ่ีไดศ้ ึกษาในชว่ั โมงท่ี
แลว้
๓. เม่ือทุกกลุ่มนาเสนอความรู้เรียบร้อยแลว้ ครูช่วยอธิบายเพ่มิ เติมและร่วมกนั สรุปความเขา้ ใ
๔. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั หาคาราชาศพั ทใ์ นโคลงภาพพระราชพงศาวดารอธิบายความหมาย แลว้
ตรวจสอบวา่ การใชค้ าราชาศพั ทน์ ้นั ถูกตอ้ งหรือไม่
๕. ใหน้ กั เรียนทุกคนนาขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการสงั เกตและตรวจสอบการใชค้ าราชาศพั ท์ ในขา่ วทาง
หนงั สือพิมพห์ รืออินเทอร์เน็ต มาสนทนาในกลุ่มของตนเองเพือ่ แลกเปล่ียนความรู้กนั จากน้นั ทุกกลุ่มจึงร่วมกนั
อภิปรายกลุ่มใหญ่อีกคร้ัง
ข้นั สรุป
๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

-ในชีวติ ประจาวนั เราตอ้ งใชค้ าราชาศพั ทอ์ ยเู่ สมอจึงตอ้ งเรียนรู้และใชใ้ หถ้ ูกตอ้ ง
๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี

- การท่ีภาษาไทยมีคาราชาศพั ทม์ ีประโยชนอ์ ยา่ งไร

สื่อ / การเรียนรู้
๑. ภาพ
๒. หนงั สือเรียนภาษาไทย ชุดวรรณกรรมและวรรณคดี ม.๒

การวดั และการประเมนิ ผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์
การประเมินผล
การวดั และ
ประเมินผล วธิ ีการวดั ผล แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม

ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ตั ิ(P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สังเกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนฝึกอา่ นทานองเสนาะดว้ ยตนเอง และร่วมกนั เป็นกลุ่มกบั เพอื่ นอยา่ งอิสระ เพือ่ นสมาชิก

ช่วยกนั ติชม แกไ้ ข ปรับปรุงในดา้ นต่าง ๆ ในบรรยากาศแห่งความรักและมิตรภาพระหวา่ งกนั อีกท้งั ครู
นาแถบบนั ทึกเสียงการอา่ นทานองเสนาะนกั เรียนไดฝ้ ึกปฏิบตั ิจะไดอ้ า่ น ไดด้ ียง่ิ ข้ึน
และจดั กิจกรรมประกวดอา่ นทานองเสนาะ โดยนกั เรียนท่ีเขา้ ประกวดไดค้ ดั เลือก บทร้อยกรอง
ที่ประทบั ใจดว้ ยตนเอง

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยดุ า คลงั แสง)

หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ท่ี…….. เดือน…………………. พ.ศ…….

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๓

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ โคลงเรื่องพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๓ ร้อยกรองคล้องใจ เวลา ๑ ช่ัวโมง

ช้ัน.................................วนั ที่.................................................คาบ.............................................

สาระสาคัญ
การท่องจาบทร้อยกรองที่มีคุณค่าช่วยจรรโลงใจและทาใหม้ ีขอ้ คิดเตือนใจ
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทย

อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง
ตวั ชี้วดั
ท ๕.๑ ม. ๒/๕ ท่องจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดและบทร้อยกรองท่ีมีคุณค่า

ตามความสนใจ
จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. ทอ่ งจาบทร้อยกรองตามความสนใจ (K)

๒. วเิ คราะห์คุณค่าบทร้อยกรอง (P)
๓. เห็นคุณค่าของการท่องจาบทร้อยกรอง (A)
สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้

บทร้อยกรองที่มีคุณค่า

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
การใหเ้ หตุผล การปฏิบตั ิ/การสาธิต การประเมินค่า การสรุปความรู้

๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
ซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน รักความเป็นไทย

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไมใ่ ช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แตเ่ ป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สังคมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสมั พนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งมี
ความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผล
ประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล
๒. ทบทวนความรู้ชว่ั โมงที่ผา่ นมา
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
 เร่ืองราวแบบไหนท่ีนกั เรียนมกั จะจดจาไดเ้ ป็นพิเศษ
๒. ใหน้ กั เรียนอาสาสมคั ร ๒ - ๓ คน ออกมาเล่าเร่ืองราวที่ประทบั อยใู่ นความทรงจาให้เพือ่ นฟัง
๓. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็นวา่ ความทรงจามีประโยชนต์ ่อปัจจุบนั อยา่ งไร
๔. ใหน้ กั เรียนเล่นเกม “เกา้ อ้ีดนตรี” โดยใชก้ ารท่องโคลงที่ครูมอบหมายให้นกั เรียน
ไปฝึกท่องมาในชวั่ โมงท่ีแลว้ แทนเสียงเพลง ในรอบแรกครูจะเป็นผทู้ อ่ งโคลงเอง เมื่อครูทอ่ งโคลงจบ
๑ บท นกั เรียนจึงนง่ั เกา้ อ้ีได้ คนท่ีไมม่ ีเกา้ อ้ีนง่ั ตอ้ งออกจากการแขง่ ขนั และมาเป็นผทู้ ่องโคลงแทน หมุนเวยี นไป
เร่ือย ๆ จนจบการแข่งขนั หรือตามเวลาที่เหมาะสม ใหน้ กั เรียนท่ีเป็นผชู้ นะทอ่ งโคลง เมื่อจบการแขง่ ขนั ถา้ หมด
เวลาก่อนการแข่งขนั จบให้นกั เรียนที่เหลือไปทอ่ งโคลงกบั ครูนอกเวลาเรียน (ในการท่องโคลงขณะแข่งขนั เกา้ อ้ี
ดนตรี นกั เรียนแต่ละคนอาจใชจ้ งั หวะในการท่องใหช้ า้ หรือเร็วกไ็ ดเ้ พื่อเพ่ิมความสนุกสนาน แต่บทโคลงตอ้ ง
ถูกตอ้ ง)

ข้นั สรุป
- ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
 การทอ่ งจาบทร้อยกรองที่มีคุณค่าช่วยจรรโลงใจและทาใหม้ ีขอ้ คิดเตือนใจ

ส่ือ / แหล่งการเรียน
- เกา้ อ้ี หรือ เพลง(ใชแ้ ทน โคลง)

การวดั และประเมินผล เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์
การประเมินผล
การวดั และ
ประเมินผล วธิ ีการวดั ผล แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม

ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ัต(ิ P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพจิ ารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและขอ้ คิดที่ไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพอ่ื นกั เรียน เกิดความ

ซาบซ้ึงและภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพิม่ เติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจ มากยงิ่ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยุดา คลงั แสง)

หวั หน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................

.................................................................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ท่ี…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๔

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ โคลงเร่ืองพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๔ พรรณนาโวหาร เวลา ๑ ชั่วโมง

ช้ัน.................................วนั ที่.................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั

การเขียนพรรณนาทาใหผ้ เู้ ขียนไดพ้ ฒั นาการใชภ้ าษาใหส้ ละสลวย และผอู้ ่านไดร้ ับอรรถรส

ในการอา่ น

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้

มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ

และเขียนเร่ืองราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ

และรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ

ตัวชี้วดั

ท ๒.๑ ม. ๒/๒ เขียนบรรยายและพรรณนา

ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขียน

จุดประสงค์การเรียนรู้

๑. อธิบายลกั ษณะการเขียนแบบพรรณนา (K)

๒. วเิ คราะห์งานเขียนแบบพรรณนา (P)

๓. เขียนความเรียงแบบพรรณนา (P)

๔. เห็นความสาคญั ของการเขียนพรรณนาและมีมารยาทในการเขียน (A)

สาระการเรียนรู้

๑. ความรู้

การเขียนพรรณนา

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

การใหเ้ หตุผล การสังเคราะห์ การประยกุ ต/์ การปรับปรุง การประเมินค่า

การสรุปความรู้

๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน

การบูรณาการสู่อาเซียน

การศึกษาภาษาและวรรณคดีไมใ่ ช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แต่เป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง

สังคมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นา

๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งมี

ความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผล

ประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล

๒. ทบทวนความรู้ในชว่ั โมงท่ีผา่ นมา

ข้นั สอน

๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี

 คร่าครวญ ราพึงราพนั เพอ้ เจอ้ เหมือนกบั พรรณนาหรือไม่ อยา่ งไร

๒. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้ เร่ือง การเขียนพรรณนา แลว้ ร่วมกนั ตอบคาถามต่อไปน้ี

 การเขียนพรรณนามีลกั ษณะอยา่ งไร (การเขียนรายละเอยี ดสิ่งใดส่ิงหนึ่ง โดยสอดแทรกความรู้สึก

ของผ้เู ขียนลงไปด้วย)

 การเขียนพรรณนาใชเ้ ขียนถึงส่ิงใด (ตวั อย่างคาตอบ ชมความงามของธรรมชาติ ชมโฉม

ชมบ้านเมือง ถ่ายทอดความรู้สึกต่าง ๆ)

 จุดประสงคข์ องการเขียนพรรณนาคืออะไร (ต้องการให้ผู้อ่านเกดิ ภาพพจน์หรือ

อารมณ์คล้อยตาม)

 การพรรณนามกั ใชค้ าเปรียบเทียบเพ่อื อะไร (เพื่อให้เกิดจินตนาการเหน็ ภาพได้

อย่างแจ่มชัด)

๓. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สรุปความเขา้ ใจ ครูอธิบายเพ่ิมเติม

๔. ใหน้ กั เรียนพจิ ารณาขอ้ ความท่ีกาหนดแลว้ ช่วยกนั อธิบายวา่ เป็นพรรณนาโวหารหรือไม่ เพราะเหตุ

ใด ไผซ่ อออ้ เอียดเบยี ดออด ลมลอดไลเ่ ลีย้ วเรียวไผ่

ออดแอดแอดออดยอดไกว แพใบไลน้ า้ ลาคลอง

(เป็ นพรรณนาโวหาร เพราะอธิบายรายละเอยี ดชัดเจน ใช้คาแสดงภาพพจน์ เช่น คาเลยี นเสียงธรรมชาติ ออด
แอดแอดออด)

สถานท่ีท่องเท่ียวในจงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา มีพระราชานสุ าว
รียส์ มเดจ็ พระสรุ โิ ยทยั ซ่งึ สรา้ งขนึ้ เพ่ือราลกึ ถงึ สมเดจ็ พระสรุ โิ ยทยั วีร
กษตั รียข์ องไทย พระองคไ์ ดท้ รงสละพระชนมช์ ีพเพ่ือพระราชสามี คือ
สมเดจ็ -
พระมหาจกั รพรรดใิ หท้ รงปลอดภยั จากอรริ าชศตั รู
(ไม่ใช่พรรณนาโวหาร เพราะเป็ นการบรรยายเรื่องราวทางประวตั ศิ าสตร์)

ดวงอาทติ ยล์ บั ทิวไมไ้ ปแลว้ ลมเยน็ พดั มาเบา ๆ อากาศบรสิ ทุ ธิ์
ไรม้ ลพิษ แมน่ า้ บางปะกงยามสนธยาตา่ งกบั อากาศกรุงเทพฯ สองฟากฝ่ัง
แมน่ า้ เตม็ ไปดว้ ยตน้ ลาพู

(ไม่ใช่พรรณนาโวหาร เพราะเป็ นการบรรยายสถานทอ่ี ย่างคร่าว ๆ ว่ามสี ิ่งใดบ้าง ไม่มีรายละเอยี ดท่ี
ชัดเจนเพยี งพอ)

จนผมโกรน๋ โลน้ เกลีย้ งถงึ เพียงหู ดเู งาในนา้ แลว้ รอ้ งไห้
ฮดึ ฮดั ขดั แคน้ แนน่ ใจ ตาแดงด่งั แสงไฟฟา้

(เป็ นพรรณนาโวหาร เพราะเขยี นแสดงความรู้สึกเสียใจ แค้นใจ ของตัวละครได้ชัดเจน มีการใช้
อุปมาเปรียบเทยี บอย่างเห็นภาพ)

วรรณคดไี ทยมีประวตั ิความเป็นมายาวนานมากกว่า ๗๐๐ ปี
นบั ตงั้ แตส่ มยั สโุ ขทยั อยธุ ยา ธนบรุ ี มาจนถึงรตั นโกสินทร์

(ไม่ใช่พรรณนาโวหาร เพราะเป็ นการอธิบายความรู้ให้เข้าใจไม่ใช่การอธิบายตามความรู้สึก)

๕. ใหน้ กั เรียนเขียนพรรณนาความยาว ๓ - ๕ บรรทดั โดยใหน้ กั เรียนออกไปดูธรรมชาติ
นอกหอ้ งเรียน ครูให้เวลา ๑๕ - ๒๐ นาที แลว้ กลบั หอ้ งเรียนเพอ่ื นาเสนอการเขียนพรรณนา

๖. ใหน้ กั เรียนอาสาสมคั ร ๓ - ๔ คน อ่านการเขียนพรรณนาของตนใหเ้ พื่อนฟัง ครูและเพ่ือนร่วมกนั
ประเมินผลงานเขียนพร้อมท้งั ใหก้ าลงั ใจ

๗. ใหน้ กั เรียนทุกคนนาผลงานมาส่งครูเพื่อคดั เลือกผลงานยอดเยย่ี มไปจดั แสดงบนป้ายนิเทศ

ข้นั สรุป
- ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

 การเขียนพรรณนาเป็นการเพม่ิ รายละเอียดของเร่ืองให้น่าอ่าน เลือกใชถ้ อ้ ยคาใหส้ ละสลวยและใช้
การเปรียบเทียบเพื่อใหผ้ อู้ ่านเกิดภาพพจน์

สื่อ / แหล่งการเรียนรู้
๑. แถบขอ้ ความ
๓. ธรรมชาตินอกหอ้ งเรียน

การวดั และประเมินผล

การวดั และ เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์
ประเมินผล วธิ ีการวดั ผล การประเมินผล
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏิบัติ(P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สังเกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและขอ้ คิดท่ีไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพื่อนกั เรียน เกิดความ

ซาบซ้ึงและภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพ่มิ เติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจ มากยงิ่ ข้ึน

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหน้ากลุ่มสาระหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยุดา คลงั แสง)

หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๕

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ โคลงเร่ืองพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๕ ราชาศัพท์ในวรรณคดี เวลา ๑ ชั่วโมง

ช้ัน.................................วนั ที่.................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั
การเขียนพรรณนาทาใหผ้ เู้ ขียนไดพ้ ฒั นาการใชภ้ าษาใหส้ ละสลวย และผอู้ ่านไดร้ ับอรรถรส

ในการอ่าน
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ

และเขียนเรื่องราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศ
และรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วดั
ท ๒.๑ ม. ๒/๒ เขียนบรรยายและพรรณนา
ท ๒.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการเขียน

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. สรุปหลกั การเขียนพรรณนา (K)
๒. เขียนความเรียงแบบพรรณนาโวหาร (P)
๓. เห็นความสาคญั ของการเขียนพรรณนาและมีมารยาทในการเขียน (A)

สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้
การเขียนพรรณนา

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
การจดั ระบบความคิดเป็ นแผนภาพ การสังเคราะห์ การประยกุ ต/์ การปรับปรุง

การประเมินคา่ การสรุปความรู้

๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไมใ่ ช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แตเ่ ป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สังคมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสมั พนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียน
จะตอ้ งมีความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผล
ประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล
๒. ทบทวนความรู้ในชวั่ โมงท่ีผา่ นมา
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
 นกั เรียนคิดวา่ อะไรเป็นสิ่งที่สาคญั ที่สุดในการเขียนพรรณนา
๒. ใหน้ กั เรียนดูภาพธรรมชาติแลว้ ร่วมกนั สนทนาวา่ ถา้ จะเขียนพรรณนาภาพน้ีตอ้ งเขียนเก่ียวกบั
อะไรบา้ ง
๓. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรู้ เร่ือง การเขียนพรรณนา
๔. ใหน้ กั เรียนทาใบงานท่ี ๔ เร่ือง การเขียนพรรณนา ครูกาหนดใหน้ กั เรียนวางโครงเรื่องโดยใช้
แผนภาพความคิดก่อนร่างงานเขียน
๕. ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๔ - ๕ คน นาผลงานของแตล่ ะคนมาร่วมกนั วจิ ารณ์และปรับปรุง
๖. ใหน้ กั เรียนนาผลงานที่ปรับปรุงเรียบร้อยแลว้ มาส่งครูเพื่อประเมินผลงานเป็ นรายบุคคล และ
คดั เลือกผลงานยอดเยย่ี มมาจดั แสดงบนป้ายนิเทศ

ข้นั สรุป
- ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

 การเขียนพรรณนาทาใหผ้ เู้ ขียนไดพ้ ฒั นาการใชภ้ าษาใหส้ ละสลวยและผอู้ า่ นไดร้ ับอรรถรสในการ
อ่าน

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้
๑. ภาพ
๒. ใบงาน
การวดั และประเมินผล

การวดั และ เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์
ประเมินผล วธิ ีการวดั ผล การประเมินผล
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏิบตั (ิ P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีและขอ้ คิดท่ีไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพือ่ นกั เรียน เกิดความ

ซาบซ้ึงและภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพมิ่ เติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจ มากยง่ิ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยดุ า คลงั แสง)

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๖

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๖ ฟังดี พูดตรง เวลา ๑ ชั่วโมง

ช้ัน.................................วนั ท่ี.................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั
การพูดสรุปความจากเร่ืองที่ฟังและดูเป็ นการส่งสารท่ีตอ้ งสรุปสาระสาคญั ของส่ิงที่ฟังและดู
การพูดตอ้ งมีเน้ือหาตามขอ้ เท็จจริง ใชภ้ าษาท่ีเขา้ ใจง่าย และอา้ งอิงแหล่งท่ีมาใหช้ ดั เจนจะทาให้
การพูดสรุปความ เกิดประโยชน์ท้งั ต่อผพู้ ูดและผฟู้ ัง
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพูดแสดงความรู้ ความคิด

และความรู้สึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

ตัวชี้วดั
ท ๓.๑ ม. ๒/๑ พดู สรุปใจความสาคญั ของเร่ืองที่ฟังและดู
ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายหลกั การพูดสรุปความจากเรื่องท่ีฟังและดู (K)

๒. พูดสรุปความจากเร่ืองที่ฟังและดู (P)
๓. เห็นความสาคญั ของการพดู สรุปความจากเร่ืองท่ีฟังและดู และมีมารยาทในการฟัง
การดู และการพดู (A)
สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้

การพูดสรุปความจากเรื่องท่ีฟังและดู

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
การสงั เคราะห์ การปฏิบตั ิ/การสาธิต การแกป้ ัญหา การประยกุ ต/์ การปรับปรุง

การประเมินคา่ การสรุปความรู้

๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมนั่ ในการทางาน

กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นา

๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งมี
ความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผล
ประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล
๒. ใหน้ กั เรียนเตรียมข่าวข้ึนมา เพ่อื จะสนทนาหวั ขอ้ ข่าวท่ีสาคญั ในวนั น้ี

ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ข่าวท่ีน่าสนใจในวนั น้นั โดยเล่าเฉพาะใจความสาคญั ของ
ขา่ ว
๒. ใหน้ กั เรียนสังเกตลกั ษณะการพูดคุยเกี่ยวกบั ขา่ วเม่ือสักครู่น้ี จากน้นั ครูบอกนกั เรียนวา่
นนั่ เป็นลกั ษณะของการพูดสรุปความ
๓. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้ เร่ือง การพดู สรุปความจากเรื่องท่ีฟังและดูแลว้ ร่วมกนั
สรุปความเขา้ ใจ
๔. ใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนร่างขอ้ ความที่จะพดู ในหวั ขอ้ “บา้ นฉนั ก็มีดีจะอวด” ความยาวในการพูด
ประมาณ ๑ นาที
๕. เม่ือทุกคนเตรียมตวั พร้อมแลว้ ใหน้ กั เรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ ๘ - ๑๐ คน สมาชิกภายในกลุ่ม
ผลดั กนั เล่าเรื่องท่ีเตรียมไวจ้ นครบทุกคน จากน้นั ร่วมกนั เลือกเร่ืองท่ีชอบท่ีสุดเพียงกลุ่มละ ๑ เรื่อง เพื่อนามาเล่า
หนา้ ช้นั เรียน
๖. ใหน้ กั เรียนท่ีเป็นเจา้ ของเรื่องที่ไดร้ ับเลือกออกมาเล่าหนา้ ช้นั เรียนทีละกลุ่ม โดยเมื่อฟังจบ
แตล่ ะเรื่องใหก้ ลุ่มอ่ืน ๆ ส่งตวั แทนกลุ่มละ ๑ คน พูดสรุปความจากเรื่องที่ฟัง เมื่อตวั แทนพดู สรุป
ครบทุกกลุ่ม ใหก้ ลุ่มท่ีเป็นเจา้ ของเร่ืองประเมินวา่ ตวั แทนกลุ่มใดพูดสรุปความไดด้ ีท่ีสุด

ข้ันสรุป
๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
 การพูดสรุปความจากเร่ืองที่ฟังและดูเป็นการส่งสารที่ตอ้ งสรุปสาระสาคญั ของสิ่งท่ีฟังและดู การพดู
ตอ้ งมีเน้ือหาตามขอ้ เทจ็ จริง ใชภ้ าษาท่ีเขา้ ใจง่าย และอา้ งอิงแหล่งท่ีมาใหช้ ดั เจนจะทาใหก้ ารพดู สรุปความ เกิด
ประโยชน์ท้งั ต่อผพู้ ดู และผฟู้ ัง
๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี

ในชีวติ ประจาวนั ตอ้ งใชท้ กั ษะการพดู สรุปความในสถานการณ์ใดบา้ ง

สื่อ / แหล่งเรียนรู้
- หนงั สือเรียนภาผาไทย ชุดหลกั ภาษาและการใชภ้ าษา

การวดั และประเมินผล

การวดั และ เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์
ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล การประเมินผล
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ัติ(P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและขอ้ คิดท่ีไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพอื่ นกั เรียน เกิดความ

ซาบซ้ึงและภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพม่ิ เติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจ มากยง่ิ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลุ่มสาระหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยดุ า คลงั แสง)

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ท่ี…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๗

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๗ พดู ดีเป็ นศรีศักด์ิ เวลา ๑ ช่ัวโมง

ช้ัน.................................วนั ท.ี่ ................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั
การพูดสรุปความตอ้ งใชภ้ าษาท่ีเขา้ ใจง่าย มีสาระสาคญั ครบถว้ นตรงตามขอ้ เท็จจริงของเรื่อง

และอา้ งอิงแหล่งที่มาใหช้ ดั เจน
มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด

และความรู้สึกในโอกาสตา่ ง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์
ตัวชี้วดั
ท ๓.๑ ม. ๒/๑ พูดสรุปใจความสาคญั ของเร่ืองที่ฟังและดู
ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. สรุปหลกั การพดู สรุปความจากเร่ืองที่ฟังและดู (K)
๒. พูดสรุปความจากเรื่องท่ีฟังและดู (P)
๓. เห็นความสาคญั ของการพดู สรุปความจากเรื่องท่ีฟังและดู และมีมารยาทในการฟัง

การดู และการพูด (A)

สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้
การพูดสรุปความจากเรื่องท่ีฟังและดู

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด

การสงั เคราะห์ การปฏิบตั ิ/การสาธิต การประเมินค่า การสรุปความรู้
๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสัตยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน
รักความเป็นไทย มีจิตสาธารณะ

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไม่ใช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แต่เป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สงั คมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งมี

ความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผล
ประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล

๒. ทบทวนความรู้ในชว่ั โมงที่ผา่ นมา
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
 นกั เรียนเคยหรือไมท่ ่ีดูละครหรือภาพยนตร์บางเร่ืองแลว้ ไมเ่ ขา้ ใจ นกั เรียนคิดวา่
เป็ นเพราะเหตุใด
๒. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั สนทนาเกี่ยวกบั ละครหรือภาพยนตร์เรื่องที่กาลงั ไดร้ ับความนิยม
ในขณะน้นั
๓. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั ทบทวนความรู้ เร่ือง การพดู สรุปความจากเร่ืองท่ีฟังและดู
๔. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกชื่อเร่ืองละครหรือภาพยนตร์ท่ีมีเน้ือเร่ืองราวเก่ียวกบั การเสียสละ
เพอ่ื บา้ นเมือง การแสดงความกตญั ญูกตเวทีต่อแผน่ ดินเกิด หรือการทาประโยชน์เพื่อสังคม ครูบนั ทึก
ช่ือเร่ืองบนกระดาน
๕. ใหน้ กั เรียนเลือกพดู สรุปความละครหรือภาพยนตร์ที่เคยดู ๑ เร่ือง โดยวางแผน ร่างบทพูด และ
ฝึกซอ้ มการพูด

๖. ใหน้ กั เรียนออกมาพูดสรุปความที่เตรียมไวใ้ หเ้ พ่ือนฟังหนา้ ช้นั เรียน ครูและเพ่อื นร่วมกนั วจิ ารณ์

และประเมินผลการพูด พร้อมท้งั ใหค้ าแนะนาและใหก้ าลงั ใจ

๗. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

 การพดู สรุปความตอ้ งใชภ้ าษาท่ีเขา้ ใจง่าย มีสาระสาคญั ครบถว้ นตรงตามขอ้ เท็จจริงของเรื่อง และ

อา้ งอิงแหล่งท่ีมาใหช้ ดั เจน

ส่ือ / แหล่งเรียนรู้

- ละครหรือภาพยนตร์

การวดั และการประเมินผล

การวดั และประเมินผล

การวดั และ เกณฑ์

ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมือวดั ผล การประเมินผล

จุดประสงค์

ความรู้ความเข้าใจ(K) การตอบคาถาม แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย

ก่อนเรียน ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ัต(ิ P) ใบงาน ตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพิจารณาคุณคา่ ของวรรณคดีและขอ้ คิดที่ไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพ่ือนกั เรียน เกิดความ

ซาบซ้ึงและภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพิม่ เติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจ มากยง่ิ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๘

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๒

หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑ เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ชั่วโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑๘ ฟัง ดู คิด พนิ ิจด้วยปัญญา เวลา ๑ ชั่วโมง

ช้ัน.................................วนั ท.่ี ................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั
การพูดวิเคราะห์และวจิ ารณ์จากเร่ืองที่ฟังและดูเป็ นการพูดท่ีตอ้ งวิเคราะห์ขอ้ มูลและแสดง

ความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล นาเสนอสิ่งที่วเิ คราะห์แลว้ ออกมาเป็ นถอ้ ยคาที่ทาใหผ้ ฟู้ ังเกิดความรู้ความคิด
มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด

และความรู้สึกในโอกาสต่าง ๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณและสร้างสรรค์

ตัวชี้วดั
ท ๓.๑ ม. ๒/๓ วเิ คราะห์วิจารณ์เรื่องที่ฟังและดูอยา่ งมีเหตุผล เพ่ือนาขอ้ คิดมาประยกุ ตใ์ ช้

ในการดาเนินชีวิต
ท ๓.๑ ม. ๒/๖ มีมารยาทในการฟัง การดู และการพดู

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายหลกั การพูดวเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเรื่องท่ีฟังและดู (K)
๒. พดู วเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเร่ืองที่ฟังและดู (P)
๓. เห็นความสาคญั ของการพูดวเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเร่ืองท่ีฟังและดู และมีมารยาท

ในการฟัง การดู และการพูด (A)
สาระการเรียนรู้

๑. ความรู้
การพดู วเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเรื่องท่ีฟังและดู

๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
การใหเ้ หตุผล การสงั เคราะห์ การปฏิบตั ิ/การสาธิต การแกป้ ัญหา

การประยกุ ต/์ การปรับปรุง การประเมินค่า การสรุปความรู้

๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไมใ่ ช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แตเ่ ป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สงั คมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียนจะตอ้ งมี
ความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผล

ประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี
 วเิ คราะห์กบั วจิ ารณ์ตา่ งกนั อยา่ งไร
๒. ใหน้ กั เรียนศึกษาความรู้ เร่ือง การพูดวเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเร่ืองที่ฟังและดู แลว้ ร่วมกนั สรุป

ความเขา้ ใจ
๓. ใหน้ กั เรียนช่วยกนั คดั เลือกรายการโทรทศั น์ที่มีประโยชนห์ ลาย ๆ รายการ ครูบนั ทึกช่ือรายการบน

กระดาน จากน้นั ใหน้ กั เรียนเลือกรายการที่ตนเองสนใจ ๑ รายการ
๔. ใหน้ กั เรียนท่ีสนใจชมรายการเดียวกนั มารวมกลุ่มช่วยกนั วเิ คราะห์และวจิ ารณ์รายการน้นั โดยสรุป

ขอ้ คิดท่ีไดร้ ับรวมท้งั เสนอแนวทางการนาไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นการดาเนินชีวติ แลว้ ส่งตวั แทนมาแลกเปลี่ยนความรู้
ระหวา่ งกลุ่มหนา้ ช้นั เรียน

๕. ครูและเพื่อนช่วยกนั ประเมินการพดู วิเคราะห์วจิ ารณ์แลว้ นกั เรียนสรุปโดยครูร่วมอธิบายเพม่ิ เติม
ข้นั สรุป
๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
 การพดู วเิ คราะห์และวจิ ารณ์จากเร่ืองที่ฟังและดูเป็นการพูดท่ีตอ้ งวิเคราะห์ขอ้ มูล
และแสดงความคิดเห็นอยา่ งมีเหตุผล นาเสนอสิ่งท่ีวเิ คราะห์แลว้ ออกมาเป็ นถอ้ ยคาท่ีทาใหผ้ ฟู้ ังเกิดความรู้
ความคิด

๒. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนไปศึกษาแหล่งรวบรวมหลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ในจงั หวดั
ของตนเอง และสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งขอ้ มูลสารสนเทศเกี่ยวกบั โคลงภาพพระราชพงศาวดารเร่ืองอ่ืน ๆ
หรือภาพวาดท่ีสะทอ้ นเร่ืองราวทางประวตั ิศาสตร์ไทย เพ่ือนาขอ้ มูลมาแลกเปลี่ยนกนั ในชว่ั โมงตอ่ ไป

สื่อ / แหล่งเรียนรู้
- รายการโทรทศั น์

การวดั และการประเมินผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์
การวดั และประเมินผล การประเมินผล
การวดั และ
ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล -แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

จุดประสงค์ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ความรู้ความเข้าใจ(K) -การตอบคาถาม

-การทดสอบหลงั เรียน

ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ตั ิ(P) ใบงาน การตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉลี่ย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สังเกตพฤติกรรมการ แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพจิ ารณาคุณค่าของวรรณคดีและขอ้ คิดท่ีไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพื่อนกั เรียน เกิดความซาบซ้ึง

และภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพิ่มเติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจมากยง่ิ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยุดา คลงั แสง)

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้บริหารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ท่ี…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๑๙

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เรื่อง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๑๙ คัดสรรวรรณกรรมน่าอ่าน เวลา ๑ ช่ัวโมง

ช้ัน.................................วนั ท.ี่ ................................................คาบ.............................................

สาระสาคัญ
วรรณกรรมท่ีมีคุณคา่ จะสะทอ้ นสภาพสงั คมไทยและใหข้ อ้ คิดท่ีสามารถนาไปใชใ้ นชีวติ จริงได้

จึงควรเลือกอ่านวรรณกรรมอยา่ งหลากหลาย

มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั

มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพ่ือนาไปใชต้ ดั สินใจ

แกป้ ัญหาในการดาเนินชีวิต และมีนิสัยรักการอา่ น

ตวั ชี้วดั
ท ๑.๑ ม. ๒/๗ อา่ นหนงั สือ บทความ หรือคาประพนั ธ์อยา่ งหลากหลาย

และประเมินคุณค่าหรือแนวคิดที่ไดจ้ ากการอา่ น เพ่ือนาไปใชแ้ กป้ ัญหา
ในชีวติ
ท ๑.๑ ม. ๒/๘ มีมารยาทในการอ่าน

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายคุณคา่ หรือแนวคิดที่ไดจ้ ากการอา่ นวรรณกรรม (K)
๒. อ่านวรรณกรรมตามความสนใจ (P)
๓. ประเมินคุณคา่ หรือแนวคิดท่ีไดจ้ ากการอ่านวรรณกรรม (P)
๔. เห็นความสาคญั ของการอ่าน และมีมารยาทในการอ่าน (A)
๕. เห็นคุณค่าของวรรณกรรมที่ใหข้ อ้ คิดในการดาเนินชีวติ และสะทอ้ นประวตั ิศาสตร์ไทย (A)

สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้
วรรณกรรม เรื่อง สี่แผน่ ดิน รัตนโกสินทร์ ทวภิ พ
๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
การจดั ระบบความคิดเป็ นแผนภาพ การสังเคราะห์ การแกป้ ัญหา

การประยกุ ต/์ การปรับปรุง การประเมินคา่ การสรุปความรู้
๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ซ่ือสตั ยส์ ุจริต มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุง่ มน่ั ในการทางาน

รักความเป็ นไทย

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไม่ใช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เท่าน้นั แต่เป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สงั คมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี

กจิ กรรมการเรียนรู้
ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมนกั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียน

จะตอ้ งทาดว้ ยตนเองดว้ ยความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จทุกกิจกรรม
วธิ ีวดั ผลประเมินผล เกณฑใ์ นการวดั ผลประเมินผล

๒. ทบทวนความรู้ชว่ั โมงท่ีผา่ นมา
ข้นั สอน
๑. ใหน้ กั เรียนร่วมกนั แสดงความคิดเห็น โดยครูใชค้ าถามทา้ ทาย ดงั น้ี

 นกั เรียนมีวธิ ีเลือกอ่านหนงั สืออยา่ งไร
๒. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่มตามวรรณกรรมท่ีเลือกอ่านซ่ึงครูมอบหมายไปในชว่ั โมงท่ีแลว้ ไดแ้ ก่ ส่ี
แผน่ ดิน รัตนโกสินทร์ และทวภิ พ แต่ละกลุ่มอาจมีจานวนสมาชิกไม่เทา่ กนั กไ็ ด้ และถา้ วรรณกรรมเร่ืองใดมี
จานวนนกั เรียนที่เลือกอ่านมากใหแ้ บง่ เป็นหลายกลุ่มได้
๓. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มวเิ คราะห์วรรณกรรมที่เลือกอ่านในประเด็นต่อไปน้ี
 สรุปเน้ือเร่ืองยอ่

 วเิ คราะห์ภาพสะทอ้ นของประวตั ิศาสตร์ไทย
 ประเมินคุณค่าในดา้ นตา่ ง ๆ
 เสนอแนวทางการนาขอ้ คิดไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ
๔. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มส่งตวั แทนออกมานาเสนอความคิดของกลุ่ม ทุกคนร่วมกนั
แสดงความคิดเห็นเพ่ิมเติม
๕. ใหน้ กั เรียนเขียนความรู้ ความคิด และความรู้สึกอยา่ งอิสระจากการเรียนรู้และฝึกฝนทกั ษะ
ในหน่วยการเรียนรู้น้ี ครูตรวจสอบบนั ทึกของนกั เรียนเป็ นรายบุคคลแลว้ คดั เลือกบนั ทึกท่ีน่าสนใจ
มาจดั แสดงบนป้ายนิเทศใหท้ ุกคนไดอ้ ่าน

ข้นั สรุป
- ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี

 วรรณกรรมที่มีคุณค่าจะสะทอ้ นสภาพสังคมไทยและใหข้ อ้ คิดที่สามารถนาไปใช้
ในชีวติ จริงได้ จึงควรเลือกอ่านวรรณกรรมอยา่ งหลากหลาย

สื่อ / แหล่งเรียนรู้
- วรรณกรรม เรื่อง สี่แผน่ ดิน รัตนโกสินทร์ ทวภิ พ

การวดั และการประเมินผล เครื่องมือวดั ผล เกณฑ์
การประเมินผล
การวดั และ
ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล -แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) -การตอบคาถาม ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉลี่ย

-การทดสอบหลงั เรียน

ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ัต(ิ P) ใบงาน การตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

วดั และประเมินผลเฉล่ีย

ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สงั เกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน
การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย

ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีและขอ้ คิดที่ไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพือ่ นกั เรียน เกิดความซาบซ้ึง

และภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพ่ิมเติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจมากยง่ิ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยุดา คลงั แสง)

หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไี่ ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ท่ี…….. เดือน…………………. พ.ศ………

แผนการจัดการเรียนรู้ ๒๐

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๒

หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง โคลงภาพพระราชพงศาวดาร เวลา ๒๐ ช่ัวโมง

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๒๐ ย่อความคดิ ประดิษฐ์ภาษา เวลา ๑ ชั่วโมง

ช้ัน.................................วนั ท่.ี ................................................คาบ.............................................

สาระสาคญั
การเขียนยอ่ ความเป็ นการเรียบเรียงสาระสาคญั ท่ีไดจ้ ากการรับสารใหก้ ระชบั และเขา้ ใจง่าย ซ่ึงเป็ นประโยชน์
ต่อการศึกษาคน้ ควา้ การฝึกทกั ษะการจบั ใจความสาคญั ของเร่ืองและการเรียบเรียงขอ้ ความอยเู่ สมอจะทาให้
สรุปความไดร้ วดเร็ว ครบถว้ น และเรียบเรียงไดก้ ระชบั ชดั เจน

มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียน
เรื่องราวในรูปแบบตา่ ง ๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงาน
การศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ
ตัวชี้วดั
ท ๒.๑ ม. ๒/๔ เขียนยอ่ ความ
ท ๒.๑ ม. ๒/๘มีมารยาทในการเขียน

จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายหลกั การและรูปแบบของการเขียนยอ่ ความ (K)
๒. จบั ใจความและสรุปความจากเรื่องท่ีอา่ น (K)
๓. เขียนผงั ความคิดจากเรื่องที่อา่ น (P)
๔. เขียนยอ่ ความ (P)
๕. เห็นความสาคญั ของการเขียนยอ่ ความและมีมารยาทในการเขียน (A)

สาระการเรียนรู้
๑. ความรู้
การเขียนยอ่ ความ
๒. ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ

การใหเ้ หตุผล การจดั ระบบความคิดเป็นแผนภาพ การสงั เคราะห์ การแกป้ ัญหา การ
ประยกุ ต/์ การปรับปรุง
การประเมินคา่ การสรุปความรู้

๓. คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
มีวนิ ยั ใฝ่ เรียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทางาน

การบูรณาการสู่อาเซียน
การศึกษาภาษาและวรรณคดีไม่ใช่การศึกษาในเชิงสุทรียศาสตร์เทา่ น้นั แตเ่ ป็นการวเิ คราะห์ภาษา

และวรรณคดีในฐานะเป็นตวั บททางวฒั นธรรม โดยศึกษาในลกั ษณะสหวทิ ยาการ และการใชบ้ ริบททาง
สังคมมาช่วยอธิบาย สามารถแสดงถึงความสัมพนั ธ์ของภาษาและวรรณคดีกบั วฒั นธรรมไดเ้ ป็นอยา่ งดี
กจิ กรรมการเรียนรู้

ข้นั นา
๑. ครูแจง้ จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมใหน้ กั เรียนทราบวา่ ในการเรียนรู้ซ่ึงนกั เรียน
จะตอ้ งทางานเป็นกลุ่มในชวั่ โมงน้ี ดว้ ยความต้งั ใจ สนใจเอาใจใส่ มีสมาธิ จะทาใหป้ ระสบความสาเร็จ
ทุกกิจกรรม วธิ ีวดั ผลประเมินผล
๒. ครูบอกความหมายของการยอ่ ความใหน้ กั เรียนฟัง โดยสงั เขป
ข้นั สอน

๑. ครูใหน้ กั เรียนอา่ นแถบขอ้ ความท่ีครูติดบนกระดาน ดงั น้ี

น้าใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ของคนเราหลายประการคือ ใชใ้ นการด่ืม การหุงตม้ การชาระสิ่งโสโครก
ต่าง ๆ และยงั มีประโยชนแ์ ก่ประเทศชาติหลายประการ ไดแ้ ก่ การคมนาคม การอุตสาหกรรม การเกษตร
การประมง แต่ปัจจุบนั แมน่ ้าลาธารขาดหายไปหลายสาย เพราะคนตดั ไมท้ าลายป่ า ซ่ึงจะมีผลกระทบทา
ใหโ้ ลกแหง้ แลง้ ทาไร่ทานาไมไ่ ด้ ทุกวนั น้ีน้าลดนอ้ ยไปทุกที เราจึงควรรู้จกั วธิ ีการใชน้ ้า

จากหนงั สือ คิดและเขียนเชิงสร้างสรรค์ เรียงความยอ่ ความ และ
สรุปความของกระทรวงศึกษาธิการ

๒. ครูใหน้ กั เรียนช่วยกนั บอกสาระสาคญั ของขอ้ ความที่อ่าน (โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ)
(ในชีวติ ประจาวนั เราต้องใช้นา้ เพ่ือทากจิ กรรมหลายอย่าง แต่ปัจจุบันปริมาณนา้ ลดลงทกุ ที เราจึงควรรู้รัก

ใช้นา้ ให้คุ้มค่า)

๓. ครูอธิบายใหน้ กั เรียนเขา้ ใจวา่ สิ่งที่นกั เรียนทาน้ีคือการจบั ใจความและสรุปความจากเร่ืองท่ี
อา่ น ซ่ึงเป็นทกั ษะพ้ืนฐานของการเขียนยอ่ ความ

๔. ใหน้ กั เรียนศึกษาใบความรู้ เร่ือง การเขียนยอ่ ความ จากน้นั ช่วยกนั ตอบคาถามเพื่อสรุปความ
เขา้ ใจ ดงั น้ี

๑) ภาษาในการเขียนยอ่ ความควรเป็นอยา่ งไร (เป็ นสานวนภาษาของผ้ยู ่อเอง)
๒) การยอ่ หนา้ คือการตดั ทอนขอ้ ความใหส้ ้นั ลงใช่หรือไม่ (ไม่)
๓) ยอ่ หนา้ แรกของการยอ่ ความเรียกวา่ อะไร (คานาย่อความ)
๔) คานายอ่ ความมีประโยชน์อยา่ งไร (บอกทม่ี าของเรื่องทนี่ ามาย่อ)
๕) เมื่อยอ่ ความแลว้ จะมีท้งั หมดกี่ยอ่ หนา้ (๑-๒ ย่อหน้า)
๖) ในการยอ่ ความหากขอ้ ความท่ียอ่ มีเคร่ืองหมายอญั ประกาศตอ้ งทาอยา่ งไร (ตัด

เคร่ืองหมายอญั ประกาศออก แล้วเรียบเรียงข้อความใหม่)
๗) ถา้ เร่ืองท่ีจะยอ่ ใชส้ รรพนามบุรุษที่ ๑ และ ๒ ตอ้ งทาอยา่ งไร (เปล่ยี นเป็ นสรรพนามบุรุษ

ท่ี ๓)
๘) ในการยอ่ ความถา้ มีคาราชาศพั ทอ์ ยตู่ อ้ งทาอยา่ งไร (คงคาราชาศัพท์ไว้เหมือนเดิม)
๙) ถา้ จะยอ่ บทร้อยกรองตอ้ งทาอยา่ งไร (ถอดความให้เป็ นร้อยแก้วก่อน)
๑๐) เม่ือยอ่ ความแลว้ เร่ืองท่ียอ่ ควรมีสดั ส่วนเป็ นเทา่ ใดของขอ้ ความเดิม (ประมาณ ๑ ใน ๔

ของเรื่องเดิม)
๕. ใหน้ กั เรียนศึกษารูปแบบของคานายอ่ ความแต่ละประเภท ดงั น้ี

บทร้อยกรอง

ยอ่ (ประเภทของบทรอ้ ยกรอง) เร่ือง ตอน
ความวา่
ของ จากหนงั สือ หนา้

บทความ สารคดี เรื่องสั้น นิทาน

ยอ่ ความเร่ืองของ จาก

หนา้ ความวา่

พระราชดารัส พระบรมราโชวาท โอวาท ปาฐกถา สุนทรพจน์

ยอ่ (ประเภทของงาน) ของ พระราชทานแก/่

กลา่ วแก่/แสดงแก่ (ใคร) เร่อื ง

เน่ืองในงาน ณ วนั ท่ี เดือน ปี

ความว่า

๖. ใหน้ กั เรียนแบง่ กลุ่ม ๕ กลุ่มตามประเภทของงานเขียนที่จบั ฉลากไดใ้ นชว่ั โมงท่ีแลว้ ไดแ้ ก่
บทความ เร่ืองส้ัน นิทาน บทร้อยกรอง สารคดี พระบรมราโชวาท โอวาท หรือคาสอนต่าง ๆ

๗. ใหน้ กั เรียนแต่ละกลุ่มนางานเขียนที่เตรียมไวม้ าแลกเปล่ียนกนั อา่ นเพื่อคดั เลือกเรื่องที่
น่าสนใจที่สุด ๑ เรื่อง แลว้ มาช่วยกนั เขียนยอ่ ความ ลงในกระดาษท่ีครูแจกให้ ครูกาหนดเวลาตาม
ความเหมาะสม

๘. เมื่อทุกกลุ่มเขียนยอ่ ความเสร็จใหแ้ ตล่ ะกลุ่มนาผลงานมาส่งใหค้ รูตรวจ
ข้นั สรุป

๑. ใหน้ กั เรียนและครูร่วมกนั สรุปความรู้ ดงั น้ี
 การเขียนยอ่ ความเป็นการเรียบเรียงสาระสาคญั ท่ีไดจ้ ากการรับสารใหก้ ระชบั
และเขา้ ใจง่าย ซ่ึงเป็นประโยชนต์ ่อการศึกษาคน้ ควา้ การฝึกทกั ษะการจบั ใจความสาคญั ของ
เร่ืองและการเรียบเรียงขอ้ ความอยเู่ สมอจะทาใหส้ รุปความไดร้ วดเร็ว ครบถว้ น และเรียบเรียงได้
กระชบั ชดั เจน
๒. ในชวั่ โมงต่อไป ใหต้ วั แทนทุกกลุ่มออกมารายงานหนา้ ช้นั เรียนใหเ้ พื่อน ๆ ฟัง

สื่อ / แหล่งเรียนรู้
๑. แถบขอ้ ความ

๒. งานเขียนประเภทตา่ ง ๆ
๓. ใบความรู้การเขียนยอ่ ความ

การวดั และประเมินผล

การวดั และ เคร่ืองมือวดั ผล เกณฑ์
ประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล การประเมินผล
จุดประสงค์
ความรู้ความเข้าใจ(K) -การตอบคาถาม -แบบทดสอบวดั นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร

-การทดสอบหลงั เรียน ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย

ร้อยละ ๘๐

ทกั ษะปฏบิ ัต(ิ P) ใบงาน การตรวจใบงาน นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

คุณลกั ษณะนิสัย(A) สังเกตพฤติกรรมการ แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ าร
เรียน การเรียน วดั และประเมินผลเฉล่ีย
ร้อยละ ๘๐

กจิ กรรมเสนอแนะ
นกั เรียนพิจารณาคุณค่าของวรรณคดีและขอ้ คิดที่ไดร้ ับดว้ ยตนเอง เพ่ือนกั เรียน เกิดความซาบซ้ึง

และภาคภูมิใจในวรรณคดีอยา่ งแทจ้ ริง ครูช่วยอธิบายเพ่มิ เติมใหเ้ กิดความเขา้ ใจมากยงิ่ ข้ึน

ความเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากล่มุ สาระหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
........................................................................................................................

...........................................................
(นางเปรมยุดา คลงั แสง)

หัวหน้ากล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
วนั ที่…….. เดือน…………………. พ.ศ……..

ความเหน็ /ข้อเสนอแนะของผ้บู ริหารหรือผู้ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................

.........................................................
(...........................................)

...............................................................
วนั ท่ี…….. เดือน…………………. พ.ศ………


Click to View FlipBook Version