Hoarding Disorder: โรคชอบเกบ็ สะสมสิง่ ของ
ดร.อภิรชั ศกั ดิ์ รัชนีวงศ์
การชอบเก็บสะสมของสวย ๆ งาม ๆ หรือ มีคุณค่าทางจิตใจน้ันมิใช่เร่ืองแปลก
แตถ่ า้ คณุ ชอบเก็บสะสมของที่หมดอายแุ ล้วจนกองท่วมบ้านนี่สิแปลกของแท้ เพราะน่ันคืออาการ
ของโรคเก็บสะสมของ (Hoarding Disorder)3 สมาชิกในบ้านต้ังใจจะเก็บบ้านอย่างจริงจังเสียที
แต่พอถึงเวลานั่งลงคัดแยกของทาไมกลายเป็นท้ิงอะไรไม่ได้มาก หรือสุดท้ายก็กลับไปเ ก็บ
เหมอื นเดิม นงั่ ทะเลาะกันอย่นู านระหว่าง “ทีมเกบ็ ” กับ “ทมี ทิง้ ”
โรคชอบเก็บสะสมสิ่งของ หรือ “Hoarding Disorder” เป็นโรคท่ีผู้ป่วยรู้สึกอยากเก็บ
ของทุกอย่างไว้ ไม่สามารถท้ิงสิ่งไหนได้เลย เพราะคิดว่าของเหล่านั้นยังมีประโยชน์ในอนาคต
(ชอบเก็บสะสมสงิ่ ของ ถือเปน็ โรคทางจติ ทคี่ วรรกั ษา)1
สมาคมจิตเวชศาสตร์ในสหรัฐอเมริกา หรือ American Psychiatric Association2
ได้ใหค้ านยิ ามถงึ โรคชอบเกบ็ สะสมส่งิ ของวา่ “เป็นการเก็บสะสมสิ่งของท่ผี อู้ นื่ มองว่าไม่มีค่าไว้มาก
เกินไป” โดยผทู้ ีม่ อี าการดังกลา่ วจะไมส่ ามารถตัดใจท้ิงสิ่งของท่ีเก็บสะสมเอาไว้ได้ โดยเชื่อว่าของ
เหลา่ นจี้ ะเป็นประโยชน์ในอนาคต จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจาวัน ทาให้บ้านหรือที่ทางานเต็ม
ไปด้วยสิ่งของที่ไม่จาเป็น อย่างไรก็ตามผู้ที่เป็นโรคน้ีจะมีพฤติกรรมแตกต่างจากนักสะสม
เนอ่ื งจากจะเก็บแต่สงิ่ ของทวั่ ไปทไ่ี มไ่ ด้หายากหรือมรี าคา และไมส่ ามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น
หนังสือพิมพ์เก่า นิตยสารเก่า กล่องพัสดุ ขวดน้า เป็นต้น ผู้ที่มีอาการของโรคชอบเก็บสะสม
สิง่ ของมีจานวนประมาณรอ้ ยละ 2-6 ของประชากรบนโลก และสว่ นใหญม่ กั พบไดใ้ นกลมุ่ ผสู้ ูงอายุ
ทมี่ ีอายรุ ะหว่าง 55-94 ปี
ที่มา https://pankansociety.com/news-events/5329
๒
สาเหตุของโรค1,2 (๑) ปัจจัยทางพันธุกรรม ร้อยละ 50 ของคนที่เป็น พบว่าคนใน
ครอบครัวก็เป็นโรคนี้ด้วย (๒) ความผิดปกติทางสมองของผู้ป่วยที่เลือกเก็บสะสมของบางชนิด
(๓) โรคย้าคิดย้าทา หรือ Obsessive-Compulsive Disorder (OCD) (๔) โรควิตกกังวล
(๕) อาการผิดปกติทางบุคลิกภาพ (๖) โรคซึมเศร้า (๗) พฤติกรรมเสพติดต่างๆ (๘) โรค PTSD
หรือ Post-Traumatic Stress Disorder (๙) ภาวะสูญเสียท่ีรุนแรง (๑๐) โรคชราท่ีส่งผลให้ขยับ
รา่ งกายไมไ่ ด้ (๑๑) โรคสมองเส่ือม (๑๒) โรคจติ เภท (๑๓) โรคกลวั การเข้าสงั คม
อาการของโรคท่ีสังเกตเห็นได้ชัดมีดังนี้2 (๑) ตัดใจทิ้งสิ่งของไม่ได้ถึงแม้ว่าส่ิงของน้ัน
จะไม่มีประโยชน์และความจาเป็นจะต้องใช้ (๒) ชอบเก็บส่ิงของที่ไม่สาคัญ เช่น หนังสือพิมพ์
จดหมายเกา่ หรอื นิตยสารเกา่ (๓) มคี วามตอ้ งการอยากเก็บสะสมสิ่งของ (๔) รู้สึกทกุ ขท์ นเม่ือต้อง
ท้งิ ส่ิงของ (๕) วางสงิ่ ของตามทางเดนิ ในบ้านจนไมเ่ หลือพน้ื ทใี่ ช้สอย (๖) ทอี่ ย่อู าศยั ไมส่ ะอาด หรือ
มีส่ิงสกปรกที่อาจก่อให้เกิดการสะสมของเช้ือโรค (๗) ยึดติดว่าของทุกชิ้นเป็นของสาคัญ
(๘) ไม่อยากพบปะผู้คน (๙) เสพติดการซ้ือของ (๑๐) ชอบอยู่ในที่มืด Hoarding Disorder3
เป็นอาการทางจิตอย่างหน่ึง ถือเป็นโรคทางจิตเวชชนิดใหม่ พบได้ท่ัวไป 2-5 เปอร์เซ็นต์
ทางการแพทย์อธิบายไว้อย่างชัดเจนว่า เข้าข่ายเป็นโรคชอบเก็บและสะสมสิ่งของ Hoarding
Disorder มอี าการที่ชดั เจนตรงทีอ่ ยากเกบ็ ขา้ วของทุกชน้ิ เอาไว้ ตดั ใจทิ้งไม่ลงสักอย่าง ไม่เพียงแค่
ทิ้งไมล่ ง แต่คดิ ดว้ ยว่าสกั วันหนง่ึ ของท่เี ก็บเหล่าน้ันจะมีประโยชน์หรือได้ใช้ในอนาคต ทว่าสุดท้าย
กเ็ ก็บจนรกบ้านช่องห้องหอไม่มีพื้นที่แม้แต่จะเดิน อาการของความผิดปกติที่เรียกว่า Hoarding
Disorder ไม่ใช่อยู่ดีๆ ก็เกิดขึ้น แต่อาการน้ีต้องอาศัยระยะเวลายาวนานมาก เริ่มเป็นตั้งแต่ช่วง
วยั รุ่นและคอ่ ยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ตวั ชวี้ ดั อกี อยา่ งคอื ขา้ วของท่ีรกรุงรังและจานวนมากขึ้นเร่ือยๆ
การเกบ็ สิ่งของไวเ้ ยอะๆ หมักหมมสุ่มอยู่ บวกกับความช้ืนในห้องมีผลต่อการเจริญเติบโตของเชื้อ
แบคทีเรยี และไวรัส นอกจากนี้ ข้าวของที่ระเกะระกะอยู่ตามพื้นยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย
มหิ นาซา้ หากคนรอบข้างไม่เขา้ ใจหรือไมร่ วู้ า่ น่ีคืออาการของโรคอย่างหนึ่ง อาจหนักข้อกลายเป็น
มานั่งทะเลาะเบาะแว้ง หรือมีปากเสียงกับคนท่ีเอาข้าวของไปทิ้งโดยไม่บอกกล่าวเ ลยก็ได้
ถ้าเข้าข่าย Hoarding Disorder และอาการหนักถึงข้ันบ้านไม่มีแม้แต่ทางเดิน หรือบ้านเริ่มส่ง
กลนิ่ เหมน็ คอ่ ยๆ ตะล่อมรีบพาคนไข้ไปหาหมอดกี ว่า จิตแพทยค์ ือฮีโร่ที่จะช่วยได้ดีที่สุด หมออาจ
ใชว้ ิธีบาบัดพฤติกรรมและความคิด หรือรักษาด้วยยา แต่ถ้าหากคุณอยากเกลี้ยกล่อมเขาดูสักต้ัง
ก่อนอ่ืนก็คงต้องเริ่มต้นด้วยความเข้าใจในความเป็นโรคชอบสะสมส่ิงของนี้เสียก่อน สิ่งของที่
หมักหมมอยู่น้ัน อาจไม่ใช่แค่ส่ิงของธรรมดา แต่อาจเป็นความทรงจาของเขา หรือของบางช้ิน
อาจท่มี ีทมี่ าท่ีไป กระทง่ั มเี รื่องราวซ่อนอยู่ เม่ือคณุ เขา้ ไปในโลกของคนท่ีเป็นโรคนี้ได้แล้ว ลองเร่ิม
ชกั ชวนเขาคดั แยกสง่ิ ของให้เปน็ หมวดหมู่ และเทคนิคท่ีโดง่ ดังในการคดั และจัดแยกสิ่งของในบ้าน
คือเทคนิคการจัดบ้านแบบคมมาริ (Konmari) เจ้าของแนวคิดน้ีเกิดขึ้นโดย Marie Kondo
เจ้าของหนังสืออันโด่งดังชื่อ ‘The Life- Changing Magic of Tidying up’ เทคนิกคมมาริ
เป็นการจัดเก็บข้าวของที่เน้นการคัดแยกสิ่งของว่าส่ิงไหนจะเก็บไว้ และส่ิงไหนที่ต้องท้ิงไป
พร้อมกับการชวนให้ฝึกคิดทบทวนตัวเอง สร้างทัศนคติใหม่ ๆ ในการลด ละ เลิก พฤติกรรม
๓
แบบเดิมท่ีทาให้เกิดปัญหา คุณและเขาอาจนั่งลงและแบ่งข้าวของให้เป็นหมวดหมู่ ได้แก่
กองเส้อื ผ้า กองหนังสือ กองเอกสาร และของจิปาถะอ่ืน ๆ โดยหมวดหมู่ท่ีเข้าข่ายของท่ีมีคุณค่า
ทางจิตใจจะทาการดูแลมันเป็นลาดับท้ายๆ และควรเลือกจัดให้เสร็จไปทีละหมวดหมู่ แม้ว่าจะ
อาจตดั ใจทิ้งได้ยากลาบาก แต่ส่ิงที่จะมาตัดสินว่าส่ิงไหนควรท้ิง ส่ิงไหนควรยังอยู่คือเม่ือหยิบขึ้น
มาแล้วส่ิงน้ันทาให้มีความสุขหรือไม่ หากชิ้นไหนหยิบข้ึนมาแล้วจุดประกายความสุขแบบที่ใน
หนังสือบอกว่า Spark Joy ก็เก็บไว้ แต่ถ้า “ไม่” ก็จัดการท้ิงเสีย แม้ว่าข้าวของหมวดหมู่ท่ี
ทรงคุณค่าต่อจิตใจจะตัดใจท้ิงยากหน่อย หรือรู้สึกลังเลเสียดายจนท้ิงไม่ลงบ้าง แต่เม่ือฝึกแบ่ง
แยกแยะ และค่อยๆ ตัดสิ่งที่ไม่จาเป็นท้ิง นานเข้าต่อมแยกแยะว่าของช้ินไหน Spark Joy จริงๆ
หรือไม่ก็จะดีข้ึน หรืออีกวิธีท่ีจะช่วยให้ความรู้สึกของการท้ิงนั้นยังไม่ได้หายไปเสียทั้งหมด
คือการนาส่ิงของท่ีคัดออกและไม่ Spark Joy นั้น ไปหย่อนลงในกล่องรับบริจาคตามสถานที่
รับบริจาคท้งั หลาย ไมว่ า่ จะรบั บรจิ าคเสื้อผ้า รบั บรจิ าคหนังสือ บริจาคสิ่งของเหลือใช้ก็จะช่วยลด
ปรมิ าณข้าวของลงไดโ้ ดยท่ยี ังมีความรสู้ ึกวา่ สิ่งของยงั อยู่และเปน็ น้าหลอ่ เลี้ยงหัวจิตหวั ใจ
ทมี่ า https://pankansociety.com/news-events/5329
ผลกระทบของโรค1 (๑) ส่งผลต่อสุขภาพ อาจทาให้เกิดการสะสมของเช้ือโรคได้
(๒) ส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุภายในที่อยู่อาศัย (๓) อาจเกิดร่วมกับอาการทางจิตอ่ืน ๆ ได้แก่
โรคซึมเศรา้ โรคยา้ คดิ ยา้ ทา โรควิตกกงั วล หรอื โรคกลวั การเขา้ สังคม
๔
ทมี่ า https://pankansociety.com/news-events/5329
วัยท่ีเส่ียงต่อโรค1 (๑) เริ่มมีอาการตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น (๒) จะแสดงชัดเจนเม่ืออายุ 30 ปี
ข้นึ ไป และเรม่ิ แสดงให้เหน็ ว่าผู้ป่วยไม่ยอมท้ิงอะไรเลย โดยจะเก็บไว้จนรกบ้าน
วิธีการรักษา1 (๑) รักษาได้ด้วยยา ที่จะช่วยปรับสารเคมีในสมองเก่ียวกับวิธีคิด
(๒) รักษาไดด้ ้วยการบาบัดพฤตกิ รรมและความคดิ
แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุที่เป็นโรคชอบเก็บสะสมส่ิงของ โรคชอบเก็บ
สะสมสงิ่ ของจะส่งผลกระทบตอ่ ทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของคนที่คุณรัก โดยคนในครอบครัว
สามารถให้การช่วยเหลอื ผู้สูงอายทุ ่ีเป็นโรคชอบเกบ็ สะสมส่ิงของได้ตามแนวทางดงั น้ี2
1. ทาความเขา้ ใจเกยี่ วกบั โรคและผู้ป่วย สิ่งแรกท่ีคนในครอบครัวจะต้องทา คือการทา
ความเข้าใจว่าโรคนี้เกิดจากความผิดปกติทางความสมอง เป็นเหตุให้ผู้ป่วยไม่สามารถตัดใจ
ท้ิงส่ิงของได้ และเป็นปัญหาเรื้อรังท่ีต้องได้รับการแก้ไข ไม่ใช่แค่เพียงการทาความสะอาดท่ีอยู่
อาศยั เท่าน้นั แต่จะต้องมีการพูดคุยเพ่ือปรับความเข้าใจกับผู้ป่วย โดยผู้พูดจะต้องเลือกใช้คาพูด
อย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการตาหนิติเตียน เพื่อไม่ให้เกิดการกระทบกระท่ังหรือความขัดแย้ง
ระหว่างกัน เพราะจะทาให้ผู้ป่วยเกิดความรู้สึกด้านลบ ปิดก้ันการรับฟังและไม่ยอมรับความ
ช่วยเหลอื
2. อย่เู คียงขา้ ง ผทู้ ี่มอี าการของโรคดังกล่าวมักจะเกบ็ ตัวและไมอ่ ยากพบปะผู้คน ดังนั้น
ครอบครัวจงึ เป็นกาลงั ใจสาคัญ ที่จะชว่ ยสร้างความมั่นใจให้กบั ผู้ป่วยวา่ จะไม่ถกู ทอดท้งิ ให้อยู่เพียง
ลาพัง ควรทากิจกรรมร่วมกันและใช้เวลาด้วยกันให้มากข้ึนเพ่ือให้ผู้ป่วยเปิดใจรับฟังและยอมรับ
ความชว่ ยเหลือในอนาคต
๕
3. เร่ิมลงมือทาจากส่ิงเล็กๆ การจัดการทาความสะอาดบ้านหรือห้องของผู้สูงอายุ
ในทันทอี าจไมใ่ ช่วิธีการที่ดีเท่าไรนัก เพราะหากผู้สูงอายุไม่เห็นด้วยหรือไม่ให้ความยินยอมก็อาจ
เกิดความขดั แย้งได้ เมื่อผ้สู งู อายุเรมิ่ เปิดใจรับความชว่ ยเหลอื แล้ว คนในครอบครัวควรเริ่มจากการ
จดั ระเบยี บส่งิ เล็กๆ เช่น ชั้นวางของ ล้ินชัก หรือโต๊ะอาหาร พยายามโน้มน้าวให้ผู้ป่วยปล่อยวาง
และตัดใจทิ้งส่ิงของท่ีไม่จาเป็น นอกจากน้ีควรกล่าวชื่นชมและให้กาลังใจเมื่อผู้ป่วยทาสาเร็จ
จากน้ันจึงคอ่ ยๆ ขยบั ไปจดั ระเบยี บหอ้ งท่ีใหญข่ น้ึ
4. ให้ผ้สู ูงอายุมสี ่วนร่วม ผู้สูงอายุมักเกิดความไม่ไว้วางใจและมีความวิตกกังวลว่าผู้อื่น
จะทาให้ส่ิงของท่ีตนเก็บรักษาไว้เสียหาย คนในครอบครัวควรส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีส่วนร่วมใน
ข้ันตอนการเก็บกวาดและทาความสะอาด มีการสอบถามถึงความคิดเห็นหรือความพึงพอใจของ
ผู้สูงอายุอย่างสม่าเสมอ ไม่ควรจัดการเก็บกวาดส่ิงของให้โดยไม่บอกกล่าว เน่ืองจากจะทาให้
ผสู้ งู อายุเกดิ ความร้สู กึ โกรธ ขุ่นเคือง หรือถกู กา้ วกา่ ยความเป็นส่วนตัว ซ่ึงอาจไปนาสู่ภาวะเครียด
และปญั หาดา้ นสุขภาพจติ ในท่ีสุด
5. ปรกึ ษาจติ แพทยผ์ ้เู ชย่ี วชาญ หากคนในครอบครวั พยายามอย่างเต็มท่ีแล้วยังไม่ได้ผล
หรอื ผู้ป่วยมีอาการแย่ลง ควรปรึกษาจิตแพทย์ผู้เช่ียวชาญเพ่ือให้คนท่ีคุณรักได้รับการดูแลรักษา
อย่างถูกวิธี โดยโรคน้ีจะสามารถรักษาให้อาการดีขึ้นได้ด้วย 2 วิธี ได้แก่ (1) การใช้ยาเพ่ือลด
ความเครียดและความหมกมุ่นในการสะสมของ (2) การทาพฤติกรรมบาบัด โดยเป็นมุ่งเน้นการ
ฝกึ ทักษะการตัดสินใจให้ผปู้ ว่ ยสามารถจัดการทิ้งสิ่งของทีไ่ ม่จาเป็นไดอ้ ยา่ งมีเหตผุ ลยงิ่ ข้ึน
ทีม่ า https://www.marumura.com/hoarding-disorder/
๖
ที่มา https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/
๗
ท่ีมา https://www.marumura.com/hoarding-disorder/
อ้างองิ
1 รามาแชนแนล. 2561. ชอบเก็บสะสมส่งิ ของ ถือเป็นโรคทางจิตที่ควรรกั ษา. เข้าถงึ ขอ้ มูล
ได้จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/ วนั ท่สี บื ค้นขอ้ มูล
15 สงิ หาคม 2565.
2 บา้ นลลสิ า. ม.ป.พ. รู้จกั “Hoarding Disorder” โรคชอบเกบ็ สะสมสิ่งของท่ีมักพบไดใ้ น
วัยสงู อายุ. เข้าถงึ ขอ้ มูลได้จาก https://baanlalisa.com/blog/understanding-hoarding-
disorder-in-seniors/ วันท่ีสบื ค้นขอ้ มูล 15 สิงหาคม 2565.
3 รนิ ณพชั ญ์ คงสุขศรภี ัสร์. ม.ป.พ. ภัยเงยี บ! เอะอะกเ็ สยี ดาย สดุ ทา้ ยอาจเข้าข่ายกลายเปน็ โรค
Hoarding Disorder. เข้าถึงขอ้ มูลได้จากมูลนิธิยุวพัฒน์ https://pankansociety.com/
news-events/5329 วันท่สี บื ค้นข้อมลู 15 สงิ หาคม 2565.