การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่จ าเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกันในหลากหลายสี การไล่โทน การน าเอาดอกไม้หรือ ใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่างๆ มาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กัน และท าให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการที่สืบทอดกันมาช้านาน การจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอกไม้สดธรรมชาติ สิ่งที่ต้องเตรียม 1. ภาชนะส าหรับจัด หมายถึง ภาชนะส าหรับรองรับดอกไม้มีหลายชนิด เช่น แจกันรูปทรง ต่าง ๆ ทรงกลม ทรงเหลี่ยม ทรงสูง ทรงเตี้ย หรือ ที่เป็นลักษณะพิเศษ เช่น กระบุง ตะกร้า ชะลอม เป็นต้น 2. ที่ส าหรับรองภาชนะ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จควรมีสิ่งรองรับเพื่อความสวยงาม ความโดด เด่นของแจกัน เช่น ไม้ไผ่ขัดหรือสานเป็นแพ กระจก แป้นไม้ 3. กรรไกรส าหรับตัดแต่ง 4. เครื่องใช้ต่างๆ เช่น ลวด ทราย ดินน้ ามัน กระดาษสี ฟลอร่าเทปสีเขียว ก้านมะพร้าว ที่ ฉีดน้ าเป็นละออง ลวดเบอร์ 24 และ เบอร์ 30 5. ดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมใบไม้ส าเร็จ 6. เครื่องประกอบตกแต่ง เช่น กิ่งไม้ ขอนไม้ ตุ๊กตา ขดลวด เป็นต้น
ดอกไม้ที่นิยมใช้ 1. ความนิยม เช่น ดอกกุหลาบนิยมใช้ในงานมงคล ดอกบัวใช้บูชาพระ 2. ขนาด เลือกให้เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด 3. การเลือกสี ต้องดูฉากด้านหลัง และจุดประสงค์ว่าต้องการ กลมกลืน หรือตัดกันดอกบัว ใช้บูชาพระ 4. ถ้าเป็นดอกไม้สด ก็ให้ดูความทนทานของดอกไม้ กับสภาพแวดล้อมนั้นๆ ด้วย สิ่งควรค ำนึงในกำรจัด ดอกไม้ 1. สัดส่วน ควรให้ความสูงของดอกไม้พอดีกับแจกันเช่น แจกันทรงสูง ดอกไม้ดอกแรกควร สูง เท่ากับ 1.5 – 2 เท่าของความสูงของแจกัน ส าหรับแจกันทรงเตี้ยดอกไม้ดอกแรกควร สูง เท่ากับ 1.5 – 2 เท่าของความกว้างของแจกัน 2. ความสมดุยลควรจัดให้มีความสมดุล ไม่หนักหรือเอียงข้างใดข้างหนึ่ง 3. ความกลมกลืน เป็นหัวใจของการจัดต้องมีความสัมพันธ์ทุกด้านตั้งแต่ขนาดของแจกัน ความเล็กและใหญ่ของดอกไม้ ความมากน้อยของใบที่น ามาประกอบ 4. ความแตกต่าง เป็นการจัดที่ท าให้สวยงามสะดุดตา เช่นจัดดอกไม้เล็ก ๆ และมีดอกใหญ่ เด่นขึ้นมา 5. ช่วงจังหวะ ช่วยให้ดอกไม้มีชีวิตมากขึ้น ควรไล่ขนาด ดอกตูม ดอกแย้ม จนถึงดอกบาน 6. การเทียบส่วน เป็นความสัมพันธ์กับส่วนต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ดอกเล็กควรใส่แจกันใบเล็ก ตลอดจนที่รองแจกันมีขาดเล็กด้วย
รูปแบบกำรจัดดอกไม้ การจัดดอกไม้โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ 1. การจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ ( เพื่อใช้เอง) เป็นการจัดดอกไม้แบบง่ายๆ เพื่อ ประดับตกแต่งบ้าน โดยอาศัยความเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้ น ามาจัดลงภาชนะ โดยใช้กิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ 3 กิ่ง การจัดดอกไม้แบบนี้ นิยมน าหลักการจัดดอกไม้จากประเทศ ญี่ปุ่นมาประยุกต์ 2. การจัดดอกไม้แบบสากล นิยมจัด 7 รูปแบบ คือ รูปทรงแนวดิ่ง ทรงกลม ทรง สามเหลี่ยมมุมฉากทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ทรงพระจันทร์คว่ า ทรงพระจันทร์เสี้ยว ทรงตัว เอส 3. การจัดดอกไม้แบบสมันใหม่ เป็นการจัดดอกไม้ที่มีรูปแบบอิสระ เน้นความหมายของ รูปแบบบางครั้งไม่จ าเป็นต้องใช้ดอกไม้แต่อาจใช้วัสดุหรือภาชนะเป็นจุดเด่นเป็นการสร้าง ความรู้สึกให้ผู้พบเห็น การจัดดอกไม้แบบนี้ยังอาศัยหลักเกณฑ์ สัดส่วนและความสมดุล ด้วย กำรเตรียมดอกไม้ก่อนจัด 1. ดอกไม้ ใบไม้ ที่ซื้อมาจากตลาดต้องน ามาพักไว้ในน้ าอย่างน้อย 45 นาที – 2 ชั่วโมง 2. น าดอกไม้มาลิดใบที่ไม่สวย เหี่ยว หรือไม่จ าเป็นออกไป 3. ตัดก้านดอกไม้ใต้น้ า หากก้านไม่แข็งให้ตัดตรง หากก้านแข็งให้ตัดเฉียงประมาณ 1 นิ้ว 4. แช่ดอกไม้พักไว้ในน้ ามากๆ 5. ดอกไม้ที่ซื้อมาค้างคืนให้ห่อด้วยใบตองหรือกระดาษ น าไปแช่ไว้ในถังน้ า เพื่อไม่ให้ดอก บานเร็ว
หลักทั่วไปในกำรจัดแจกันดอกไม้ 1. หน้าที่และประโยชน์ใช้สอย ก่อนจัดควรจะทราบวัตถุประสงค์ในการจัดตกแต่งก่อนว่า จะใช้ในงานอะไร และจะจัดวางที่ไหน เช่น วางกลางโต๊ะ วางมุมโต๊ะ ชิดผลัก หรือแจกันติด ผนัง เป็นต้น และควรดูด้วยว่า ลักษณะของห้องที่จะจัดวางเป็นห้องลักษณะแบบใด ทรงใด และขนาดเล็ก ปานกลางหรือใหญ่ เพื่อเราจะได้เลือกแจกันและดอกไม้ที่เหมาะสมกับห้อง นั้น ๆ ด้วย 2. สัดส่วน สัดส่วนเป็นเรื่องส าคัญมาก ที่จะก าหนดว่าแจกันที่จัดเสร็จจะสวยหรือไม่สวย ถ้าสัดส่วนไม่สมดุลย์แจกันที่จัดออกมาก็ไม่สวย สิ่งที่ต้องค านึง 2.1 ภาชนะทรงเตี้ย ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความกว้างของภาชนะ 2.2 ภาชนะทรงสูง ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความสูงของภาชนะ 3. การเทียบส่วน ระหว่างดอกไม้กับแจกัน, แจกันกับขนาดของห้อง 4. ความสมดุลย์ เป็นความถ่วงดุล เช่น ซ้ายขวาเท่ากัน หรือ สองข้างไม่เท่ากันแต่หนักไป ทางใดทางหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัด 5. การเลือกสี เส้นและขนาดให้แตกต่าง กัน เช่น สีกลาง อ่อน เส้นที่โค้งเรียว ขนาดดอกมี ใหญ่เล็กเป็นต้น 6. ความกลมกลืน คือ การเข้ากันอย่างสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ 7. ความแตกต่าง เช่น สีของดอก ใบ และภาชนะที่มีสีแตกต่างกัน แต่ความแตกต่างไม่ควร เกิน 20% 8. การสร้างจุดเด่น คือ จัดให้มีตัวเด่น ตัวรอง และให้มีการส่งเสริมกันและกัน
หลักการจัดดอกไม้พื้นฐาน ดอกไม้ยงัคงเป็นที่ชื่นชอบของมนุษยท์ุกยคุสมยัดอกไมม้ีประโยชน์หลากหลาย ข้ึนอยกู่บัวา่มนุษยน์ ้นัจะนา มนั มาใชอ้ยา่งไร บางคร้ังสามารถนา มาทา เป็นยา อาหาร เครื่องสา อาง หรือแมแ้ต่ยาพิษ เป็นตน้แตส่ ่วนใหญ่ดอกไมม้กัเป็น ตวัแทนแห่งความสุข ความสวยงาม หรือมีความหมายอื่นๆ ในทางสร้างสรรค์ดอกไมเ้มื่อบานอยเู่พียงดอกเดียวที่ตน้ของ มนัก็เพียงพอแลว้ที่ทา ใหผ้ชู้มพึง พอใจเมื่อไดเ้ห็น แตค่วามอยากของมนุษยไ์ม่ไดม้ีเพียงเท่าน้นัยงัตอ้งการสิ่งที่ดีกวา่เลอ เลิศกวา่สะดวกกวา่และความตอ้งการอื่นๆต่อดอกไม้ดงัน้นัศิลปินจึงเริ่มความคิดสร้างสรรคต์ ่างๆข้ึนมา การจดัดอกไมจ้ึง เป็นผลที่เกิดจากศิลปินเหล่าน้นั การ จดัดอกไมเ้รียกไดว้า่เป็น ศิลปะ เกี่ยวกบัการเลือกและ จดัองคป์ระกอบของ ดอกไม้และ ใบไม้ใหเ้ป็นไป ตามที่เราออกแบบ เพื่อใหเ้ป็นที่ชื่นชอบและ น่าสนใจ เนื่องจากศิลปะชิ้นน้ีมนุษยบ์ริโภคดว้ยการ มอง เป็นหลกัมกัไม่เนน้ การสูดดม และสัมผัส วสัดุหลกัทใี่ช ้ในการจดัดอกไม ้ การตัดดอกไม้และใบไม้จากต้น การ เตรียม การคดัเลือก และ การดูแล เหล่าวสัดุพืชสดที่ไดม้า มีความสา คญัต่อการจดัดอกไม้หากทา ไดถู้กวธิี ยอ่มทา ใหก้ารจดัดอกไมเ้ป็นไปตามที่เราตอ้งการ เพราะความสวยงามและองคป์ระกอบที่ดีในการจดัดอกไม้ไม่ไดเ้กิดจาก ราคาหรือการใช้พืชหายาก ตอ้งเตรียมดอกไมแ้ละ ใบไม้ไวก้่อนที่จะนา ไปจดัและดูแลรักษาอยา่งระมดัระวงัการหยบิ-สัมผัส ต้องจับ บริเวณส่วนที่เป็นกา้นหรือส่วนแขง็ โดยดอกไมส้่วนใหญ่มกัเลือกดอกที่ใกลบ้าน เนื่องจากดอกตมูจะไม่ดูดซึมน้า และเฉา อยา่งรวดเร็วแต่ยงัมีดอกไมบ้างชนิดที่ใชด้อกตูมหรือดอกที่เพิ่งบาน ไม่ใชด้อกเหี่ยวหรือดอกที่บานเตม็ที่ตดัโดยใชม้ีดที่คม หรือ กรรไกรตัดดอกไม้ (flower shears) โดยตัดให้เฉียง 45 องศา เพื่อใหดู้ดซึมน้า ไดม้าก และตดักา้นใหย้าวกวา่ที่ตอ้งการ เมื่อตดัแลว้ตอ้งจุ่มกา้นในน้า ทนัทีโดยใหก้า้นจมน้า ประมาณ 1 นิ้ว พกัดอกไม้และ ใบไมท้ี่ตดัแลว้ไวใ้นภาชนะใส่น้า เยน็ วางในที่ร่มไม่ร้อน และวางในที่มืด การเตรียมความพร้อมของวสัดุพชต่างๆ ื การ เตรียมความพร้อม ทา เพื่อใหว้สัดุพืชที่เราตดัไวแ้ลว้ไดม้ีการดูดซบัน้า ใหไ้ดม้ากที่สุด เพราะมีความสา คญัต่อ การจดัดอกไม้และ สามารถนา ไปจดัแสดงไดน้าน หากไม่เตรียมความพร้อมไวก้่อน จะทา ใหว้สัดุพืชน้นัแหง้และเหี่ยวไม่ สามารถน าไปจัดได้ การ เตรียมความพร้อมทา ไดโ้ดยนา วสัดุพืชที่ตดัไวแ้ลว้มาแช่ในน้า อุ่น ใหน้ ้า อุ่นสูงคร่ึงหน่ึงของความยาวกา้น วางในที่เยน็และมืด 1คืน กระบวนการน้ีจะช่วยให้กา้น ใบ และดอกไม้ดูดซบัน้า ทา ใหช้ ่วยรักษาสภาพเอาไวไ้ด้ วนัรุ่งข้ึนตดักา้นอีกคร้ังโดยใหเ้อียง 45 องศา แช่น้า ไวจ้นกวา่จะนา ไปใช้ส่วนใบไมใ้หเ้ด็ดใบที่จมอยใู่ตน้้า ออก และแช่น้า ไวเ้ช่นกนัรอจนเห็นวา่ดอกไม้และใบมีความสดข้ึนก่อนที่จะนา ไปจดั การตดักา้นมีความแตกต่างกนัตามชนิดของพืชดงัน้ี พืชบางชนิดที่ดอกมีลกัษณะอวบและ กา้นมีลกัษณะประกอบดว้ยเสน้ ใย เช่น ดอกหงอนไก่หรือ ดอกทานตะวนั ใหจุ้่มกา้นในน้า เดือดลึกประมาณ ½ นิ้วก่อนนา ไปเก็บไวใ้นภาชนะที่เตรียมไว้ พืชที่มีกา้นแขง็มีเน้ือไม้ตอ้งปอกส่วนที่เป็นเปลือกไมอ้อกก่อน พืชที่มีน้า ยางตอ้งปิดรอยตดัโดยการเผาปลายหรือจุ่มใน Powder alum พืชที่มีกา้นกลวง ใหเ้ติมน้า ในส่วนที่กลวงก่อนแลว้จุ่มในน้า พืชบางชนิด (ส่วนใหญเ่ป็นใบ)จะแช่น้า อุ่น 1คืน
ภาชนะที่ใช้ส าหรับจัดดอกไม้ เลือก ขนาดใหเ้หมาะสมกบัโตะ๊และสถานที่ภาชนะควรมีลกัษณะที่เรียบง่ายเพื่อใหส้ะดวกต่อการจดัดอกไม้ ภาชนะที่มีลกัษณะเด่นเกินไปจะทา ใหล้ดความน่าสนใจของดอกไมท้ี่จดัสีที่ใชม้กัเป็นสีกลางๆเช่น สีแทน, สีน้า ตาล, สีเทา หรือ สีเขียว สีเหล่าน้ีจะเขา้กนัไดด้ีกบัพืชที่ใชจ้ดัและเหมาะที่จะเป็นพ้ืนหลงัสีขาวจะดึงดูดความสนใจไดม้ากกวา่ดอกไม้ วสัดุที่ใชท้า ส่วนใหญเ่ป็น แกว้, ดินเผา, ภาชนะเคลือบ หรือโลหะ มกัไม่ใชภ้าชนะประเภทแกว้ใสเพราะจะทา ใหเ้ห็นกา้น อาจใชภ้าชนะบางหรือหนา ก่อนใชต้อ้งทา ความสะอาดและเติมน้า การเลือกภาชนะตอ้งสอดคลอ้งกบัดอกไมท้ี่จดัเช่น ใช้ ดอกกหุลาบควรใชแ้จกนัมากกวา่ภาชนะดินเผา เป็นตน้ ตัวยึด (Holders) ตวัยดึที่ดีตอ้งสามารถทา ใหว้างกา้นไดอ้ยา่งอิสระและยดึเอาไวอ้ยา่งปลอดภยัตวัยดึตอ้งเขา้กบัรูปแบบของการจดัดอกไม้พชืและภาชนะที่ใช้จัด ตัวยึดแบบเข็ม (Pinpoint Holders) ตวัยดึแบบเขม็มกัใชก้บัการจดัดอกไมแ้บบ Lineและ Line mass ในภาชนะทรงต่า หรือต้ืน วางFloral clay ที่กน้ ภาชนะ และทับด้วยPinpoint Holders ที่มีน้า หนกัมาก กา้นดอกไมท้ี่ใส่จะถูกเขม็เสียบอยหู่รือ ปักอยรู่ะหวา่งเขม็ดอกไม้ กา้นเลก็อาจมดัรวมกนัก่อนจึงวางติดกบัเขม็ Floral Foams Floral foams ที่ใชใ้นการจดัดอกไมส้ามารถใชไ้ดท้ ้งัเปียกและ แหง้แบบเปียกใชส้า หรับยดึกา้นและเป็นแหล่งน้า ใหก้บัดอกไม้แบบแหง้สา หรับยดึดอกไมแ้หง้หรือ ดอกไมผ้า้Floral foamsแบบเปียกไม่ควรนา มาใชใ้หม่เพราะมีรูอยู่ จา นวนหน่ึงซ่ึงจะไม่กกัเก็บน้า Floral foams มกัมีราคาไม่แพงหาซ้ือไดง้่าย เหมาะสา หรับการจดัดอกไมแ้บบ Line mass หรือ Massอาจมีการ น ามาใช้ในการจัดดอกไม้ในรูปแบบ Line บา้งดว้ยเหมือนกนั เตรียม Floral foamsก่อนนา มาใช้โดยนา ไปแช่น้า ควรเติมสารจา พวก Clear floral preservative ในน้า เพื่อรักษา ความสดของดอกไมท้ี่จดัไว้ตดัใส่ใหแ้น่นจนถึงส่วนกน้และ เตม็ภาชนะ และตดัส่วนเลก็ๆตรงมุมของภาชนะออก เพื่อเวน้ ไวเ้ติมน้า ปักกา้นดอกไมใ้หถ้ึงส่วนล่างของFloral foamsและไม่ควรดึงกา้นออกหลงัจดัดอกไมแ้ลว้เพราะจะทา ใหด้อกไม้ เหี่ยวเฉา
รูปแบบการจัดดอกไม้แบบพนื้ฐาน รูปแบบการจดัดอกไมพ้ ้ืนฐานจะเป็นทรงเรขาคณิตอยา่งง่าย มี3 แบบ ไดแ้ก่Line, Line-massและ Mass ซึ่งจะ เป็นรูปแบบพ้ืนฐานสา หรับออกแบบการจดัดอกไมทุ้กชนิดต่อไป Line Floral Arrangements (การจดัดอกไม้รูปแบบเชิงเส้น) การ จดัดอกไมรู้ปแบบเชิงเสน้เดิมมาจากรูปแบบการจดัดอกไมข้องประเทศญี่ปุ่น การจดัดอกไมล้กัษณะน้ีจะ จา กดัปริมาณดอกไม้โดยมีจุดประสงคเ์พื่อเนน้แสดงความงดงามของดอกไมใ้นแต่ละดอกหรือใบใมใ้นแต่ละกิ่ง การจดัแบบเชิงเสน้มีลกัษณะเด่นคือ มีโครงสร้างแบบเปิด การดึงดูดความสนใจเกิดจากความแตกต่างของรูปทรง และโครงสร้าง ส่วน มากมกัจดัเป็น 3 แนวตรงหรือ 3 ตา แหน่ง และมกัจดัแบบไม่สมมาตร โดยจะจดัแสดงเฉพาะ ดา้นหนา้ของดอกไมท้ี่จดัเท่าน้นัอาจมีการจดัแนวใหย้นื่มาทางดา้นหนา้หรือหลงัเพื่อใหเ้กิดความลึก Line-Mass Floral Arrangements (การจดัดอกไม้รูปแบบเชิงเส้นและเป็นกลุ่ม) เป็น การจดัดอกไมโ้ดยการผสมผสานระหวา่งรูปแบบเชิงเสน้ของญี่ปุ่นและรูปแบบกลุ่ม ของทางยโุรป การจดั แบบเชิงเส้นเมื่อมองดูแล้วจะรู้สึกถึงความเป็ นระเบียบ ด้วยลักษณะการจดัวางแบบเชิงเสน้ที่แน่นอน ส่วนการจดัแบบกลุ่ม จะใหค้วามรู้สึกกวา้งใหญ่ช่วยเสริมใหก้ารจดัแบบเชิงเสน้ โดดเด่นข้ึน ซ่ึงจะใชด้อกไมม้ากกวา่การจดัแบบเชิงเสน้ การจดัแบบเชิงเสน้และเป็นกลุ่มมีลกัษณะเด่นคือ การดึงดูดความสนใจเกิดจาก ความแตกต่างของ โครงสร้าง สี และ แนวเส้น Mass Floral Arrangements (การจดัดอกไม้รูปแบบเป็นกลุ่ม) เป็น รูปแบบการจดัที่มาจากทางยโุรป ซ่ึงใชด้อกไมม้ากกวา่การจดัแบบอื่นๆ โดยเนน้ สีสนัของดอกไมแ้ละใบไม้ ท้งัหมด มากกวา่ที่จะเนน้เพียงองคป์ระกอบใดองคป์ระกอบหน่ึง มกัใชรู้ปทรงเป็นกลุ่ม หรือ คอ่นขา้งทรงกลม แต่อาจ ดดัแปลงจดัใหเ้กิดมุมหรือเกิดรูปแบบเชิ่งเสน้ดว้ยการจดัแบบทรงสาม เหลี่ยมก็ได้ การจดัแบบเป็นกลุ่มมีลกัษณะเด่นคือ มีโครงสร้างแบบปิด ใหค้วามรู้สึกแน่น เตม็ ไปดว้ยสีสนั
วสัดุอปุกรณ ์ในการจดัดอกไม ้ คุณสมบัตขิองภาชนะ 1 เป็นภาชนะรูปทรงสูงหรืองทรงเตี้ยก็ได้ 2 มีน้้าหนักเพียงพอที่จะปักดอกไม้แล้วไม้ท้าให้แจกันล้ม เช่น เป็นเซรามิก โลหะ 3 มีความสูงอย่างน้อยประมาณสัก 2 นิ้ว เพื่อที่จะวางฟรอร่าโฟมได้ขังน้้าได้ เพราะเวลาจัดดอกไม้ต้องใส่น้้าลงไปในภาชนะ ดอกไม้ใบไม้จะได้ดูดน้้าไปเลี้ยง ตัวเอง 4 มีความกว้างของปากไม่ต่้ากว่า 3 นิ้ว 5 รูปทรงของแจกันโดยทั่วไปเป็นรูปทรงเรขาคณิต คือ เหลี่ยม รีกลม ยาว สูง แบน ภาชนะใส่อาหารและของใช้ในบ้านบางชนิดก็น้ามาท้าแจกันดอกไม้ได้ 6 สีของภาชนะ ควรเป็นสีกลางๆ ได้แก่สีขาว ครีม เขียว น้้าตาล น้้าเงิน เทา ด้า หรือถ้าเป็นสีก็ควรเป็นสีหม่นๆ ก็ได้เช่น เหลือง แดง ม่วง และฟ้า เป็นต้น ถ้า เป็นโลหะจะเป็นสีทองและสีเงิน สีโลหะก็ใช้ได้ 7 ถ้าจัดดอกไม้ลงตะกร้าหรือกระเช้า ควรน้าก้อนฟรอร่าโฟมห่อด้วยกระดาษ ฟอยส์ก่อนแล้วที่ท้าจากไม้ชนิดต่างๆผุได้ 8 ภาชนะที่ราคาแพงมากๆ ไม่ควรน้ามาจัดอกไม้เช่น แจกันเบญจรงค์และแจกัน ลายคราม ฯลฯ เพราะการใช้งานมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ ภาชนะ ตกหล่น แตก ร้าว ได้จึงไม่ควรน้ามาจัดดอกไม้นอกจากผู้จัดประสงค์มอบภาชนะนั้นแก่ผู้รับ จึงค่อยน้าไปใช้จัด
อุปกรณ ์ ท ี่ใช ้ในการจัดดอกไม ้ 1 มีดจะแยกเป็นมีดตัดดอกไม้และมีดตัด Floral Form ไม่ควรจะใช้มีดตัด ดอกไม้มาตัด Floral Foam เพราะจะท้าให้เสียคมได้ง่าย 2 กรรไกร จะแยกเป็นกรรไกรหรือคีมตัดลวดกรรไกรตัดกระดาษ กรรไกรตัด ริบบิ้น และกรรไกรตัดดอกไม้และกิ่งไม้กรรไกรเหล่านี้ควรแยกประเภทให้ แน่นอน แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้กรรไกรตัดก้านดอกไม้เพราะกรรไกรมีคมที่ หนา เวลาตัดก้านของดอกไม้คมของกรรไกรจะบีบก้านดอกไม้ท้าให้เกิดความ ช้้า ดอกไม้จะดูดน้้าได้ไม่เต็มที่ มีผลท้าให้ดอกไม้ไม่ทน 3 คีมบิดลวด ควรมีปากกว้างพอสมควร
4 แป้นสก๊อตเทป ควรมีความใหญ่และมีน้้าหนักพอสมควร เพื่อเพิ่มความ คล่องตัวในการใช้งาน ส่วนสก๊อตเทปควรเลือกชนิดที่ทนต่อการเปียกน้้าให้มาก ที่สุด 5 ภาชนะเติมน้้าดอกไม้ควรมีปากแคบ และยาว 6 ภาชนะแช่ดอกไม้ควรมีทั้งทรงสูง และทรงเตี้ย ปากกว้าง สามารถล้างท้าความ สะอาดได้ง่ายและจะต้องเก็บได้สะดวก 7 แป้นหมุน ใช้ส้าหรับรองรับภาชนะที่ใช้จัดดอกไม้ท้าให้สะดวกต่อการจัด และ การตรวจเช็คผลงาน 8 ฟรอร่าเทป ควรเลือกสีให้เหมาะสมส้าหรับก้านดอกไม้แต่ถ้าต้องการให้ ส้าหรับตกแต่งอาจเลือกสีที่มีความแตกต่างก็ได้เช่น สีแดง สีเหลือง สีชมพูสี ขาว เป็นต้น นอกจากนี้ควรเลือกฟลอร่าเทปที่เป็นของแท้ซึ่งจะสังเกตได้จาก ความเหนียวในขณะพันก้านดอกไม้
9 ลวด มีทั้งชนิดเป็นขด และชนิดดึงยืดเป็นเส้นตรงที่ตัดส้าเร็จมาเรียบร้อยแล้ว มีหลายขนาดสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับการใช้งาน 10 กระดาษและพลาสติก สามารถเลือกขนาดความกว้างคุณภาพและลวดลาย ตามต้องการ 11 ภาชนะส้าหรับแช่ Floral From ควรมีที่เฉพาะสามารถถ่ายน้้าได้สะดวกและ กักเก็บน้้าได้อย่างดีอาจใช้อ่างน้้าที่มีปุ่มกักหรือถ่ายน้้าออกได้แต่ต้อง ระมัดระวังการอุดตันของท่อน้้าด้วย 12 ตู้แช่ดอกไม้จะต้องมีขนาดและอุณหภูมิที่เหมาะสมกับดอกไม้ 13 ลวดตาข่ายหรือลวดกรงไก่ มีทั้งตาหกเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม ปัจจุบันมีชนิดที่ เป็นพลาสติกด้วย 14 คีมปลิดหนามและใบกุหลาบ สามารถท้างานได้เร็ว แต่มีข้อเสียคือ ท้าให้ก้าน กุหลาบหักง่าย และถลอกไม่สวยงาม เราอาจเปลี่ยนมาใช้มีดปลิดหนามและใบ แทนก็ได้ 15 แจกัน ควรเลือกชนิดที่มีการเคลือบภายใน เพื่อสะดวกต่อการล้างท้าความ สะอาด และยังป้องกันไม่ให้เกิดการตกค้างของเชื้อแบคทีเรีย ควรเลือกชนิด ที่ตั้งได้อย่างมั่นคงและมีปากกว้าง เพื่อจะได้เพิ่งความสะดวกต่อการจัดดอกไม้ 16 ตะกร้า มีหลายขนาด หลายแบบให้เลือกปัจจุบันนี้มีการน้าเอาวัสดุต่างๆ มาใช้ การผลิตตะกร้าท้าให้เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการและความ เหมาะสมในการจัด แต่ทางที่ดีควรเลือกตะกร้าที่มีหูหิ้ว เพื่อสะดวกต่อการ ขนส่งให้กับลูกค้า 17 Floral Foam ใช้ส้าหรับปักดอกไม้ใบไม้มีหลายชนิดให้เลือก ชนิดที่ใช้กับ ดอกไม้สด เรียกว่า “Oasis” ส่วนชนิดที่ใช้กับดอกไม้แห้งหรือดอกไม้ประดิษฐ์
เรียกว่า “Sahara” 18 นอกจากอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมส้าหรับจัดดอกไม้อีก มากมาย เช่น หลอดน้้า ช่อมือถือส้าหรับจัดช่อเจ้าสาว เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้ สามารถเลือกซื้อได้จากร้านขายดอกไม้หรือร้านที่เป็นตัวแทนจ้าหน่ายโดน ทั่วไป
การจัดดอกไม้ การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่จ าเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกันในหลากหลายสี การไล่โทน การน าเอาดอกไม้หรือ ใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่าง ๆ มาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์ กัน และท าให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการที่สืบทอดกันมา ช้านาน การจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอกไม้สดธรรมชาติ สิ่งที่ต้องเตรียม 1. ภาชนะส าหรับจัด หมายถึง ภาชนะส าหรับรองรับดอกไม้มีหลายชนิด เช่น แจกันรูปทรงต่าง ๆ เช่น กระบุง ตะกร้า ชะลอม 2. ที่ส าหรับรองภาชนะ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จควรมีสิ่งรองรับเพื่อความสวยงาม ความโดดเด่นของแจกัน เช่นไม้ไผ่ขัดหรือสานเป็นแพ กระจก แป้นไม้ 3. กรรไกรส าหรับตัดแต่ง 4. เครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ลวด ทราย ดินน้ ามัน กระดาษสีฟลอร่าเทปสีเขียว ก้านมะพร้าว ลวดเบอร์ 24 และ เบอร์ 30 5. ดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมใบไม้ส าเร็จ 6. เครื่องประกอบตกแต่ง เช่น กิ่งไม้ ขอนไม้ ตุ๊กตา ขดลวด เป็นต้น ดอกไม้ที่นิยมใช้ 1. เลือกดอกไม้ตามวัตถุประสงค์ส าหรับงานนั้น ๆ 2. ความทนทานของดอกไม้ประดิษฐ์ 3. ขนาด เลือกให้เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด 4. การเลือกสี ต้องดูฉากด้านหลังและจุดประสงค์ว่าต้องการ กลมกลืน หรือตัดกัน 5. ความนิยม เช่นดอกกุหลาบนิยมใช้ในงานมงคล ดอกบัวใช้บูชาพระ สิ่งควรค านึงในการจัด ดอกไม้ 1. สัดส่วน ควรให้ความสูงของดอกไม้พอดีกับแจกันเช่น แจกันทรงสูง ดอกไม้ดอก แรกควรสูง เท่ากับ 1.5 - 2 เท่าของความสูงของแจกัน ส าหรับแจกันทรงเตี้ยดอกไม้ดอก แรกควรสูง เท่ากับ 1.5 - 2 เท่าของความกว้างของแจกัน 2. ความสมดุยลควรจัดให้มีความสมดุลไม่หนักหรือเอียงข้างใดข้างหนึ่ง
3. ความกลมกลืน เป็นหัวใจของการจัดต้องมีความสัมพันธ์ทุกด้านตั้งแต่ขนาด ของแจกัน ความเล็กและใหญ่ของดอกไม้ ความมากน้อยของใบที่น ามาประกอบ 4. ความแตกต่าง เป็นการจัดที่ท าให้สวยงามสะดุดตา เช่นจัดดอกไม้เล็ก ๆ และ มีดอกใหญ่เด่นขึ้นมา 5. ช่วงจังหวะ ช่วยให้ดอกไม้มีชีวิตมากขึ้น ควรไล่ขนาด ดอกตูม ดอกแย้ม จนถึง ดอกบาน 6. การเทียบส่วน เป็นความสัมพันธ์กับส่วนต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ดอกเล็กควรใส่ แจกันใบเล็ก ตลอดจนที่รองแจกันมีขาดเล็กด้วย รูปแบบการจัดดอกไม้ การจัดดอกไม้โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ 1. การจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ ( เพื่อใช้เอง) เป็นการจัดดอกไม้แบบง่าย ๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้าน โดยอาศัยความเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้ น ามาจัดลง ภาชนะ โดยใช้กิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ 3 กิ่ง การจัดดอกไม้แบบนี้ นิยมน าหลักการจัดดอกไม้ จากประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ 2. การจัดดอกไม้แบบสากล นิยมจัด 7 รูปแบบ คือ รูปทรงแนวดิ่ง ทรงกลม ทรง สามเหลี่ยมมุมฉากทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ทรงพระจันทร์คว่ า ทรงพระจันทร์เสี้ยว ทรง ตัวเอส 3. การจัดดอกไม้แบบสมันใหม่ เป็นการจัดดอกไม้ที่มีรูปแบบอิสระ เน้น ความหมายของรูปแบบบางครั้งไม่จ าเป็นต้องใช้ดอกไม้แต่อาจใช้วัสดุหรือภาชนะเป็น จุดเด่นเป็นการสร้างความรู้สึกให้ผู้พบเห็น การจัดดอกไม้แบบนี้ยังอาศัยหลักเกณฑ์ สัดส่วนและความสมดุลด้วย การเตรียมดอกไม้ก่อนจัด 1. ดอกไม้ ใบไม้ ที่ซื้อมาจากตลาดต้องน ามาพักไว้ในน้ าอย่างน้อย 45 นาที - 2 ชั่วโมง
2. น าดอกไม้มาลิดใบที่ไม่สวย เหี่ยว หรือไม่จ าเป็นออกไป 3. ตัดก้านดอกไม้ใต้น้ า หากก้านไม่แข็งให้ตัดตรง หากก้านแข็งให้ตัดเฉียง ประมาณ 1 นิ้ว 4. แช่ดอกไม้พักไว้ในน้ ามาก ๆ 5. ดอกไม้ที่ซื้อมาค้างคืนให้ห่อด้วยใบตองหรือกระดาษ น าไปแช่ไว้ในถังน้ า เพื่อ ไม่ให้ดอกบานเร็ว หลักทั่วไปในการจัดแจกันดอกไม้ 1. หน้าที่และประโยชน์ใช้สอย ก่อนจัดควรจะทราบวัตถุประสงค์ในการจัดตกแต่ง ก่อนว่า จะใช้ในงานอะไร และจะจัดวางที่ไหน เช่น วางกลางโต๊ะ วางมุมโต๊ะ ชิดผลัก หรือแจกันติดผนัง เป็นต้น และควรดูด้วยว่า ลักษณะของห้องที่จะจัดวางเป็นห้อง ลักษณะแบบใด ทรงใด และขนาดเล็ก ปานกลางหรือใหญ่ เพื่อเราจะได้เลือกแจกันและ ดอกไม้ที่เหมาะสมกับห้องนั้น ๆ ด้วย 2. สัดส่วน สัดส่วนเป็นเรื่องส าคัญมาก ที่จะก าหนดว่าแจกันที่จัดเสร็จจะสวย หรือไม่สวย ถ้าสัดส่วนไม่สมดุลย์แจกันที่จัดออกมาก็ไม่สวย สิ่งที่ต้องค านึง 2.1 ภาชนะทรงเตี้ย ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความกว้างของภาชนะ 2.2 ภาชนะทรงสูง ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความสูงของภาชนะ 3. การเทียบส่วน ระหว่างดอกไม้กับแจกัน, แจกันกับขนาดของห้อง 4. ความสมดุลย์ เป็นความถ่วงดุล เช่น ซ้ายขวาเท่ากัน หรือ สองข้างไม่เท่ากันแต่ หนักไปทางใดทางหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัด 5. การเลือกสี เส้นและขนาดให้แตกต่าง กัน เช่น สีกลาง อ่อน เส้นที่โค้งเรียว ขนาดดอกมีใหญ่เล็กเป็นต้น 6. ความกลมกลืน คือ การเข้ากันอย่างสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ 7. ความแตกต่าง เช่น สีของดอก ใบ และภาชนะที่มีสีแตกต่างกัน แต่ความ แตกต่างไม่ควรเกิน 20% 8. การสร้างจุดเด่น คือ จัดให้มีตัวเด่น ตัวรอง และให้มีการส่งเสริมกันและกัน.
การจัดดอกไม้ส าหรับงานเเต่งงาน หลักในการจัดดอกไม้ในงานเเต่งงาน ดอกไม้ในงานแต่งงาน เปรียบได้กับเครื่องประดับชิ้นสวยของงาน ที่เจ้าภาพ จัดเตรียมไว้ต้อนรับสร้างความประทับใจให้กับแขกเหรื่อ และยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะ ช่วยท าให้ความทรงจ าที่เก็บไว้ในภาพถ่ายงดงาม นักจัดดอกไม้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า การจัดดอกไม้ในงานแต่งงานไม่ได้ยึดถือเรื่องเท รนด์เป็นส าคัญ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของดอกไม้และความชอบของคู่บ่าว-สาวมากกว่า ดังนั้น ก่อนจะไปพบนักจัดดอกไม้ คุณควรท าการบ้านโดยการพูดคุยตกลงกันว่าด้วยประเด็น ต่างๆดังต่อไปนี้ ต้องมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในใจ ว่าจะจัดงานแต่งงานแบบไหน ชอบดอกไม้โทนสี อะไร สไตล์ไหน ทุกวันนี้คนนิยมจัดดอกไม้โทนสีขาว-เขียว เพราะเป็นสีที่ปลอดภัยหาย ห่วง ดูเรียบร้อยและโก้หรู แต่เวลาถ่ายรูปออกมาสีอาจจืดชืดไป ถ้าคุณชอบสีสันสดใส แนะน าให้ลองจัดธีมสีแดง-ชมพู หรือสีเหลือง-ส้ม โทนสีเหล่านี้มีดอกไม้ให้เลือกใช้ได้ มากมายหลายชนิด เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้ว อย่าลืมถามความเห็นชอบของครอบครัวด้วย โดยเฉพาะ ญาติผู้ใหญ่ที่ช่วยซัพพอร์ทงบประมาณการจัดงานแต่งงานให้คุณ หากขัดแย้งกันควร พูดคุยให้เข้าใจ ดีกว่าต้องมารื้อหน้างาน เพราะจะเป็นเรื่องวุ่นวายมาก หาสถานที่จัดงานให้เรียบร้อยเสียก่อน คอนเซ็ปต์ของดอกไม้ที่คุณคิดไว้ควรไปกัน ได้กับสไตล์ของห้องที่จะจัดงาน เช่น ถ้าห้องหรูหรา ใหญ่โต แต่อยากจัดดอกไม้สไตล์ มินิมัลลิสม์คงไม่เหมาะ เพราะดอกไม้จะจมหายไปทันที งบประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ความส าคัญกับดอกไม้ในงานแต่งงาน มากแค่ไหน นักจัดดอกไม้ส่วนใหญ่ชอบให้ลูกค้าบอกงบประมาณในใจมาก่อน เพราะจะ ท างานได้ง่ายขึ้น รู้ว่าควรจะครีเอทมากแค่ไหน เพราะถ้าให้คิดไปก่อนโดยไม่บอก งบประมาณ บางคนอาจมีไอเดียบรรเจิด อยากสร้างสรรค์งานของคุณให้สวยที่สุด แต่ สุดท้ายก็ท าไม่ได้ เพราะติดเรื่องงบประมาณ ท าให้เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย เมื่อทราบงบประมาณคร่าวๆ นักจัดดอกไม้จะดีไซน์การจัดดอกไม้เลือกชนิดของ ดอกไม้ที่จะใช้ แล้วกลับมาคุยกันอีกครั้ง หากคุณชอบใจและตกลงราคากันได้ จะต้อง เตรียมสตางค์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการด าเนินงานล่วงหน้าด้วย จ านวนเงินจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่จะตกลงกัน
ควรมีเวลาเตรียมงานล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน เพราะนักจัดดอกไม้จะต้องไปดู ขนาดห้องที่จะจัดงานเพื่อออกแบบและคิดค านวนว่าจะต้องใช้ดอกไม้มากน้อยแค่ไหนถึง ก าลังสวย แล้วจึงสั่งดอกไม้ ดอกไม้บางชนิดต้องน าเข้าจากต่างประเทศ แล้วยังต้อง เตรียมงานโครงสร้างต่างๆ เช่น โครงเหล็กซุ้มประตู ท า backdrop หรือฉากหลังไว้ ส าหรับถ่ายรูป ประเภทของการจัดดอกไม้ จัดดอกไม้สไตล์ Topiary โทปิอารี่ (Topiary) เป็นศิลปะการตกแต่งไม้พุ่มให้เป็นรูปทรงต่างๆ โดยเฉพาะ รูปทรงเรขาคณิต เช่น รูปทรงกลม รูปสามเหลี่ยม หรือรูปสี่เหลี่ยม รวมทั้งการตกแต่งให้ เป็นรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ ซึ่งศิลปการตกแต่งดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมตั้งแต่ยุค โบราณจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้และต่อมานักจัดดอกไม้ก็ได้น าศิลปะการจัดโทปิอารี่มาใช้ ในการจัดดอกไม้ด้วย โดยโทปิอารี่ที่จัดง่ายที่สุดคือรูปทรงกลม และดอกไม้ที่จัดโทปิอารี่ ได้สวยที่สุดก็คือ ดอกกุหลาบนั่นเอง การจัดดอกไม้รวม การจัดดอกไม้รวมให้ออกมาดี คือ ดอกไม้แต่ละแบบต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน และการ ส่งเสริมกันนี้ จะท าให้ความงามของดอกไม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การจัดดอกไม้สีโทนร้อน
สีโทนร้อนได้แก่ สีแดง สีส้มหรือสีแสด สีเหลือง สีม่วง เป็นต้น สีโทนร้อนเป็นสีที่ แสดงถึงพลัง ความบ้าคลั่ง ความตื่นเต้นเร้าใจ การเย้ายวน ความกระฉับกระเฉง และไม่ พ่ายแพ้ง่าย ๆ ถ้าคุณจะจัดดอกไม้โทนร้อนในบ้าน ควรเลือกมุมที่แสงแดดส่องถึง การ จัดล าดับสีโทนร้อนมีความหลากหลาย ที่จะท าให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่จ ากัด การจัดดอกไม้สีโทนอ่อน สีโทนอ่อนเป็นสีเย็นตา เช่น สีขาว มักใช้ในโอกาศส าคัญเกี่ยวกับทางศาสนา เช่น งานแต่ง ดอกไม้สีขาวเป็นทางเลือกคลาสสิค ความงามตามธรรมชาติของดอกไม้สีอ่อน ท าให้ดูดีขึ้นได้ด้วยการเลือกใบอย่างชาญฉลาด ภาชนะที่ใส่ถ้าเป็นดอกสีขาว ภาชนะ อาจจะเลือกให้อยู่ในโทนเดียวกันก็ได้ จะให้ความงามที่สบายตา และดูมีรสนิยม การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ ต้องการภาชนะที่ใหญ่และหนัก ภาชนะที่ใช้อาจจะเป็น แจกันขนาดใหญ่ โอ่งขนาดเล็กหรือกลาง หรือง่าย ๆ ถังสีที่คุณใช้แล้ว ท าความสะอาด สักหน่อย ก็จะให้ความสวยที่ไม่แพ้กับแจกันราคาแพง ยิ่งเป็นการจัดดอกไม้ใหญ่เท่าไร ความส าคัญของภาชนะก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นจุดสนใจด้วย การจัดดอกไม้สมัยใหม่ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจาก ญี่ปุ่นเป็นอันมาก โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะลักษณะรูปแบบ ในการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่ค านึงถึงความง่าย ความ สะดวก เช่นเดียวกับการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและ อุปกรณ์แต่อย่างได หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องท าให้ได้ส่วนสัมพันธ์ และรับกันกับแบบของเครื่องเรือนหรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่น ามันไปประดับ เป็นส่วนประกอบมากกว่าอื่นใดทั้งหมด
ความสวยงามละลานตาตามคติเก่าๆ ในการจัดดอกไม้ แทบจะไร้ความหมาย ส าหรับการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่นี้ เหตุนี้เอง หลักส าคัญในการจัดดอกไม้แบบนี้ จึงขึ้นอยู่กับแนวหรือเส้นของรูปพรรณ อันเป็นผลท าให้ไม้และใบไม้ได้เข้ามามีบทบาท ส าคัญยิ่งกว่าดอกไม้เสียด้วยซ้ า การค านึงในเรื่องของสีได้เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษทีเดียว เพราะ รสนิยมของคนในสมัยใหม่นั้น ส่วนมากมักไม่ใคร่ชอบสีที่ตัดกันอย่างแท้จริง หากแต่ชอบ สีที่กลมกลืนคล้ายคลึงกันมากกว่า เช่น ห้องสีแดง ก็มักจะจัดดอกไม้สีแดงแก่หรืออ่อน หรือสีชมพู หรือสีส้ม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองสามอย่างควบคู่กัน ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ รสนิยมของแต่ละบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น แม้การเลือกสีจะเป็นสีที่มีโทนเดียวกัน แต่ก็ยังต้อง ค านึงถึงน้ าหนักของสีอีกด้วย กล่าวคือ มักจะไม่นิยมใช้สีที่สดกว่า หรือแก่กว่ากัน จนเกินไป ถ้าสมมุติว่า ห้องนั้นเป็นสีอ่อนหรือสีจางๆ ก็มักจะต้องใช้ดอกไม้สีอ่อนหรือ จางด้วย จะเข้มกว่าหรือจางกว่าก็เพียงเล็กน้อย ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนัก การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่นั้น เราอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ แบบโมเดิร์น หรือแบบทันสมัย แบบแอ๊บสแตร็ค หรือแบบค านึงถึงสัญลักษณ์มากกว่าความสมจริง แบบแฟนซี หรือแบบที่ดูแปลกๆ พิสดาร ลักษณะ วิธีการ และรูปแบบ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ทั้ง 3 ประการนั้น ส่วน ใหญ่มิได้แตกต่างกันมากนัก เพราะหลักการส าคัญที่ยึดถืออยู่ก็คือ เส้นหรือแนวนั้นเอง จนอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นการจัดแบบเดียวกัน แต่ที่แยกประเภทเอาไว้นั้น ก็เพื่อที่จะให้ เป็นที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น และเป็นการสะดวกที่จะท าความเข้าใจกันในโอการต่อไปเท่านั้น งานศิลปะนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประเภทใด ต่างก็ต้องการรูปแบบที่สร้างสรรค์ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร ทั้งนี้หากเราสร้างสรรค์งานศิลปะได้แต่เพียงวิธีที่ ต้องลอกเลียนแบบเสียแล้ว งานก็ย่อมไม่ก้าวหน้า ความสามารถก็จะมีอยู่ในขอบเขตที่ จ ากัด ถ้าเปรียบเทียบ ก็จะเหมือนกับนกแก้วหรือนกขุนทองที่พูดได้ก็เฉพาะถ้อยค าที่ เจ้าของสอนเอาไว้ให้พูดเท่านั้น จะคิดหรือพูดค าอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งมันไม่ผิดอะไรกับ เครื่องจักร ดังเช่นวิทยุ โทรทัศน์ ที่จะเกิดภาพหรือมีเสียงก็แต่เฉพาะที่คนจัดรายการ ส่งออกอากาศเท่านั้น คนที่รับฟังหรือชมอยู่ แม้จะอยากชมสิ่งแปลก ก็ไม่สามารถฟังหรือ ชมได้ดังใจปรารถนา ค่าของมันก็ลดน้อยลง คราวนี้ถ้าเรามาลองสมมุติกันดูว่า หากเรามี
โทรศัพท์ที่สามารถจะให้ภาพให้เสียงได้ตามที่ใจเราต้องการจะได้เห็นได้ยิน หรือมีวิทยุที่ สามารถส่งเสียงเพลงที่เราต้องการฟังได้ทุกขณะทุกเวลา วิทยุหรือโทรทัศน์เครื่องนั้นๆ จะกลายเป็นของที่มีค่าเลอเลิศเพียงใดเห็นจะไม่จ าเป็นต้องพูดถึงกันอีก การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นเป็นอันมาก โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะลักษณะรูปแบบในการจัดดอกไม้ ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่ค านึงถึงความง่าย ความสะดวก เช่นเดียวกับ การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและอุปกรณ์แต่อย่างได หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องท าให้ได้ส่วนสัมพันธ์และรับกันกับแบบของ เครื่องเรือน หรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่น ามันไปประดับเป็นส่วนประกอบ มากกว่าอื่นใดทั้งหมด ความสวยงามละลานตาตามคติเก่าๆ ในการจัดดอกไม้ แทบจะไร้ความหมาย ส าหรับการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่นี้ เหตุนี้เอง หลักส าคัญในการจัดดอกไม้แบบนี้ จึงขึ้นอยู่กับแนวหรือเส้นของรูปพรรณ อันเป็นผลท าให้ไม้และใบไม้ได้เข้ามามีบทบาท ส าคัญยิ่งกว่าดอกไม้เสียด้วยซ้ า การค านึงในเรื่องของสีได้เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษทีเดียว เพราะ รสนิยมของคนในสมัยใหม่นั้น ส่วนมากมักไม่ใคร่ชอบสีที่ตัดกันอย่างแท้จริง หากแต่ชอบ สีที่กลมกลืนคล้ายคลึงกันมากกว่า เช่น ห้องสีแดง ก็มักจะจัดดอกไม้สีแดงแก่หรืออ่อน หรือสีชมพู หรือสีส้ม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองสามอย่างควบคู่กัน ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ รสนิยมของแต่ละบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น แม้การเลือกสีจะเป็นสีที่มีโทนเดียวกัน แต่ก็ยังต้อง ค านึงถึงน้ าหนักของสีอีกด้วย กล่าวคือ มักจะไม่นิยมใช้สีที่สดกว่า หรือแก่กว่ากัน จนเกินไป ถ้าสมมุติว่า ห้องนั้นเป็นสีอ่อนหรือสีจางๆ ก็มักจะต้องใช้ดอกไม้สีอ่อนหรือ จางด้วย จะเข้มกว่าหรือจางกว่าก็เพียงเล็กน้อย ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนัก การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่นั้น เราอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ แบบโมเดิร์น หรือแบบทันสมัย แบบแอ๊บสแตร็ค หรือแบบค านึงถึงสัญลักษณ์มากกว่า ความสมจริง แบบแฟนซี หรือแบบที่ดูแปลกๆ พิสดาร ลักษณะ วิธีการ และรูปแบบ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ทั้ง 3 ประการนั้น ส่วน ใหญ่มิได้แตกต่างกันมากนัก เพราะหลักการส าคัญที่ยึดถืออยู่ก็คือ เส้นหรือแนวนั้นเอง จนอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นการจัดแบบเดียวกัน แต่ที่แยกประเภทเอาไว้นั้น ก็เพื่อที่จะให้ เป็นที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น และเป็นการสะดวกที่จะท าความเข้าใจกันในโอการต่อไปเท่านั้น
งานศิลปะนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประเภทใด ต่างก็ต้องการรูปแบบที่สร้างสรรค์ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร ทั้งนี้หากเราสร้างสรรค์งานศิลปะได้แต่เพียงวิธีที่ ต้องลอกเลียนแบบเสียแล้ว งานก็ย่อมไม่ก้าวหน้า ความสามารถก็จะมีอยู่ในขอบเขตที่ จ ากัด ถ้าเปรียบเทียบ ก็จะเหมือนกับนกแก้วหรือนกขุนทองที่พูดได้ก็เฉพาะถ้อยค าที่ เจ้าของสอนเอาไว้ให้พูดเท่านั้น จะคิดหรือพูดค าอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งมันไม่ผิดอะไรกับ เครื่องจักร ดังเช่นวิทยุ โทรทัศน์ ที่จะเกิดภาพหรือมีเสียงก็แต่เฉพาะที่คนจัดรายการ ส่งออกอากาศเท่านั้น คนที่รับฟังหรือชมอยู่แม้จะอยากชมสิ่งแปลก ก็ไม่สามารถฟังหรือ ชมได้ดังใจปรารถนา ค่าของมันก็ลดน้อยลง คราวนี้ถ้าเรามาลองสมมุติกันดูว่า หากเรามี โทรศัพท์ที่สามารถจะให้ภาพให้เสียงได้ตามที่ใจเราต้องการจะได้เห็นได้ยิน หรือมีวิทยุที่ สามารถส่งเสียงเพลงที่เราต้องการฟังได้ทุกขณะทุกเวลา วิทยุหรือโทรทัศน์เครื่องนั้นๆ จะกลายเป็นของที่มีค่าเลอเลิศเพียงใดเห็นจะไม่จ าเป็นต้องพูดถึงกันอีก การจัดช่อดอกไม้แบบต่าง ๆ 1. การ จัดช่อดอกไม้ในก ามือ - วิธีการ ผู้จัดจะต้องออกแบบลักษณะของช่อดอกไม้ไว้ แล้ว และก่อนจัด ผู้จัดจะต้องแบ่งดอกไม้ออกเป็นดอก ๆ แยกดอก แยกใบ และน า ดอกไม้ ใบไม้ ทีละอย่างมาใส่ในก ามือ จัดวางต าแหน่งตามความพอใจ เสร็จแล้ว จึงน า ช่อดอกไม้มาผูกมัดด้วยเชือกหรือเทป จากนั้นน าส าลี ถุงน้ า เพื่อหล่อเลี้ยงดอกไม้ใบไม้ให้ สด และตกแต่งการห่อด้วยวัสดุที่ชื่นชอบ สุดท้ายผูกโบให้สวยงามเรีัยบร้อย 2. การจัดช่อดอกไม้โดยใช้อุปกรณ์การจัด - บูเก้ โฮลเดอร์ เป็นอุปกรณ์ส าเร็จรูปที่ท า ให้สะดวกต่อการจัด เพราะมีฟลอรัลโฟมส าหรับปักดอกไม้ และการปักแต่ละครั้งไม่ควร รื้อถอนบ่อย ก่อนที่จะปักดอกไม้ไป ควรจะใช้เทคนิคลวดยึดเพื่อไม่ให้ดอกไม้หลุดร่วงได้ ง่าย 3. การใช้เทคนิคต่อก้านดอกไม้ ใบไม้ - โดยใช้ลวดเบอร์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับชนิด และใบ รวมถึงน้ าหนักด้วย ซึ่งวิธีนี้จะท าให้ดอกไม้สวยงามคงทน 4. การจัดช่อตามความคิดสร้างสรรค์ - เป็นการออกแบบโดยอิสระ รูปทรงอาจไม่ เหมือนกับรูปแบบทั่วไป และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ อาจมีการดัดแปลง น าวัสดุต่าง ๆ มาใช้ใน การตกแต่งได้ เช่น ผลไม้ ผัก ขนนก อลูมิเนียม ผ้า ดิ้นเงิน ดิ้นทอง เป็นต้น
การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่จ าเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกันในหลากหลายสี การไล่โทน การน าเอาดอกไม้หรือ ใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่างๆ มาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์กัน และท าให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการที่สืบทอดกันมาช้านาน การจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอกไม้สดธรรมชาติ สิ่งที่ต้องเตรียม 1. ภาชนะส าหรับจัด หมายถึง ภาชนะส าหรับรองรับดอกไม้มีหลายชนิด เช่น แจกันรูปทรง ต่าง ๆ ทรงกลม ทรงเหลี่ยม ทรงสูง ทรงเตี้ย หรือ ที่เป็นลักษณะพิเศษ เช่น กระบุง ตะกร้า ชะลอม เป็นต้น 2. ที่ส าหรับรองภาชนะ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จควรมีสิ่งรองรับเพื่อความสวยงาม ความโดด เด่นของแจกัน เช่น ไม้ไผ่ขัดหรือสานเป็นแพ กระจก แป้นไม้ 3. กรรไกรส าหรับตัดแต่ง 4. เครื่องใช้ต่างๆ เช่น ลวด ทราย ดินน้ ามัน กระดาษสี ฟลอร่าเทปสีเขียว ก้านมะพร้าว ที่ ฉีดน้ าเป็นละออง ลวดเบอร์ 24 และ เบอร์ 30 5. ดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมใบไม้ส าเร็จ 6. เครื่องประกอบตกแต่ง เช่น กิ่งไม้ ขอนไม้ ตุ๊กตา ขดลวด เป็นต้น
ดอกไม้ที่นิยมใช้ 1. ความนิยม เช่น ดอกกุหลาบนิยมใช้ในงานมงคล ดอกบัวใช้บูชาพระ 2. ขนาด เลือกให้เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด 3. การเลือกสี ต้องดูฉากด้านหลัง และจุดประสงค์ว่าต้องการ กลมกลืน หรือตัดกันดอกบัว ใช้บูชาพระ 4. ถ้าเป็นดอกไม้สด ก็ให้ดูความทนทานของดอกไม้ กับสภาพแวดล้อมนั้นๆ ด้วย สิ่งควรค ำนึงในกำรจัด ดอกไม้ 1. สัดส่วน ควรให้ความสูงของดอกไม้พอดีกับแจกันเช่น แจกันทรงสูง ดอกไม้ดอกแรกควร สูง เท่ากับ 1.5 – 2 เท่าของความสูงของแจกัน ส าหรับแจกันทรงเตี้ยดอกไม้ดอกแรกควร สูง เท่ากับ 1.5 – 2 เท่าของความกว้างของแจกัน 2. ความสมดุยลควรจัดให้มีความสมดุล ไม่หนักหรือเอียงข้างใดข้างหนึ่ง 3. ความกลมกลืน เป็นหัวใจของการจัดต้องมีความสัมพันธ์ทุกด้านตั้งแต่ขนาดของแจกัน ความเล็กและใหญ่ของดอกไม้ ความมากน้อยของใบที่น ามาประกอบ 4. ความแตกต่าง เป็นการจัดที่ท าให้สวยงามสะดุดตา เช่นจัดดอกไม้เล็ก ๆ และมีดอกใหญ่ เด่นขึ้นมา 5. ช่วงจังหวะ ช่วยให้ดอกไม้มีชีวิตมากขึ้น ควรไล่ขนาด ดอกตูม ดอกแย้ม จนถึงดอกบาน 6. การเทียบส่วน เป็นความสัมพันธ์กับส่วนต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ดอกเล็กควรใส่แจกันใบเล็ก ตลอดจนที่รองแจกันมีขาดเล็กด้วย
รูปแบบกำรจัดดอกไม้ การจัดดอกไม้โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ 1. การจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ ( เพื่อใช้เอง) เป็นการจัดดอกไม้แบบง่ายๆ เพื่อ ประดับตกแต่งบ้าน โดยอาศัยความเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้ น ามาจัดลงภาชนะ โดยใช้กิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ 3 กิ่ง การจัดดอกไม้แบบนี้ นิยมน าหลักการจัดดอกไม้จากประเทศ ญี่ปุ่นมาประยุกต์ 2. การจัดดอกไม้แบบสากล นิยมจัด 7 รูปแบบ คือ รูปทรงแนวดิ่ง ทรงกลม ทรง สามเหลี่ยมมุมฉากทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ทรงพระจันทร์คว่ า ทรงพระจันทร์เสี้ยว ทรงตัว เอส 3. การจัดดอกไม้แบบสมันใหม่ เป็นการจัดดอกไม้ที่มีรูปแบบอิสระ เน้นความหมายของ รูปแบบบางครั้งไม่จ าเป็นต้องใช้ดอกไม้แต่อาจใช้วัสดุหรือภาชนะเป็นจุดเด่นเป็นการสร้าง ความรู้สึกให้ผู้พบเห็น การจัดดอกไม้แบบนี้ยังอาศัยหลักเกณฑ์ สัดส่วนและความสมดุล ด้วย กำรเตรียมดอกไม้ก่อนจัด 1. ดอกไม้ ใบไม้ ที่ซื้อมาจากตลาดต้องน ามาพักไว้ในน้ าอย่างน้อย 45 นาที – 2 ชั่วโมง 2. น าดอกไม้มาลิดใบที่ไม่สวย เหี่ยว หรือไม่จ าเป็นออกไป 3. ตัดก้านดอกไม้ใต้น้ า หากก้านไม่แข็งให้ตัดตรง หากก้านแข็งให้ตัดเฉียงประมาณ 1 นิ้ว 4. แช่ดอกไม้พักไว้ในน้ ามากๆ 5. ดอกไม้ที่ซื้อมาค้างคืนให้ห่อด้วยใบตองหรือกระดาษ น าไปแช่ไว้ในถังน้ า เพื่อไม่ให้ดอก บานเร็ว
หลักทั่วไปในกำรจัดแจกันดอกไม้ 1. หน้าที่และประโยชน์ใช้สอย ก่อนจัดควรจะทราบวัตถุประสงค์ในการจัดตกแต่งก่อนว่า จะใช้ในงานอะไร และจะจัดวางที่ไหน เช่น วางกลางโต๊ะ วางมุมโต๊ะ ชิดผลัก หรือแจกันติด ผนัง เป็นต้น และควรดูด้วยว่า ลักษณะของห้องที่จะจัดวางเป็นห้องลักษณะแบบใด ทรงใด และขนาดเล็ก ปานกลางหรือใหญ่ เพื่อเราจะได้เลือกแจกันและดอกไม้ที่เหมาะสมกับห้อง นั้น ๆ ด้วย 2. สัดส่วน สัดส่วนเป็นเรื่องส าคัญมาก ที่จะก าหนดว่าแจกันที่จัดเสร็จจะสวยหรือไม่สวย ถ้าสัดส่วนไม่สมดุลย์แจกันที่จัดออกมาก็ไม่สวย สิ่งที่ต้องค านึง 2.1 ภาชนะทรงเตี้ย ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความกว้างของภาชนะ 2.2 ภาชนะทรงสูง ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความสูงของภาชนะ 3. การเทียบส่วน ระหว่างดอกไม้กับแจกัน, แจกันกับขนาดของห้อง 4. ความสมดุลย์ เป็นความถ่วงดุล เช่น ซ้ายขวาเท่ากัน หรือ สองข้างไม่เท่ากันแต่หนักไป ทางใดทางหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัด 5. การเลือกสี เส้นและขนาดให้แตกต่าง กัน เช่น สีกลาง อ่อน เส้นที่โค้งเรียว ขนาดดอกมี ใหญ่เล็กเป็นต้น 6. ความกลมกลืน คือ การเข้ากันอย่างสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ 7. ความแตกต่าง เช่น สีของดอก ใบ และภาชนะที่มีสีแตกต่างกัน แต่ความแตกต่างไม่ควร เกิน 20% 8. การสร้างจุดเด่น คือ จัดให้มีตัวเด่น ตัวรอง และให้มีการส่งเสริมกันและกัน
หลักการจัดดอกไม้พื้นฐาน ดอกไม้ยงัคงเป็นที่ชื่นชอบของมนุษยท์ุกยคุสมยัดอกไมม้ีประโยชน์หลากหลาย ข้ึนอยกู่บัวา่มนุษยน์ ้นัจะนา มนั มาใชอ้ยา่งไร บางคร้ังสามารถนา มาทา เป็นยา อาหาร เครื่องสา อาง หรือแมแ้ต่ยาพิษ เป็นตน้แตส่ ่วนใหญ่ดอกไมม้กัเป็น ตวัแทนแห่งความสุข ความสวยงาม หรือมีความหมายอื่นๆ ในทางสร้างสรรค์ดอกไมเ้มื่อบานอยเู่พียงดอกเดียวที่ตน้ของ มนัก็เพียงพอแลว้ที่ทา ใหผ้ชู้มพึง พอใจเมื่อไดเ้ห็น แตค่วามอยากของมนุษยไ์ม่ไดม้ีเพียงเท่าน้นัยงัตอ้งการสิ่งที่ดีกวา่เลอ เลิศกวา่สะดวกกวา่และความตอ้งการอื่นๆต่อดอกไม้ดงัน้นัศิลปินจึงเริ่มความคิดสร้างสรรคต์ ่างๆข้ึนมา การจดัดอกไมจ้ึง เป็นผลที่เกิดจากศิลปินเหล่าน้นั การ จดัดอกไมเ้รียกไดว้า่เป็น ศิลปะ เกี่ยวกบัการเลือกและ จดัองคป์ระกอบของ ดอกไม้และ ใบไม้ใหเ้ป็นไป ตามที่เราออกแบบ เพื่อใหเ้ป็นที่ชื่นชอบและ น่าสนใจ เนื่องจากศิลปะชิ้นน้ีมนุษยบ์ริโภคดว้ยการ มอง เป็นหลกัมกัไม่เนน้ การสูดดม และสัมผัส วสัดุหลกัทใี่ช ้ในการจดัดอกไม ้ การตัดดอกไม้และใบไม้จากต้น การ เตรียม การคดัเลือก และ การดูแล เหล่าวสัดุพืชสดที่ไดม้า มีความสา คญัต่อการจดัดอกไม้หากทา ไดถู้กวธิี ยอ่มทา ใหก้ารจดัดอกไมเ้ป็นไปตามที่เราตอ้งการ เพราะความสวยงามและองคป์ระกอบที่ดีในการจดัดอกไม้ไม่ไดเ้กิดจาก ราคาหรือการใช้พืชหายาก ตอ้งเตรียมดอกไมแ้ละ ใบไม้ไวก้่อนที่จะนา ไปจดัและดูแลรักษาอยา่งระมดัระวงัการหยบิ-สัมผัส ต้องจับ บริเวณส่วนที่เป็นกา้นหรือส่วนแขง็ โดยดอกไมส้่วนใหญ่มกัเลือกดอกที่ใกลบ้าน เนื่องจากดอกตมูจะไม่ดูดซึมน้า และเฉา อยา่งรวดเร็วแต่ยงัมีดอกไมบ้างชนิดที่ใชด้อกตูมหรือดอกที่เพิ่งบาน ไม่ใชด้อกเหี่ยวหรือดอกที่บานเตม็ที่ตดัโดยใชม้ีดที่คม หรือ กรรไกรตัดดอกไม้ (flower shears) โดยตัดให้เฉียง 45 องศา เพื่อใหดู้ดซึมน้า ไดม้าก และตดักา้นใหย้าวกวา่ที่ตอ้งการ เมื่อตดัแลว้ตอ้งจุ่มกา้นในน้า ทนัทีโดยใหก้า้นจมน้า ประมาณ 1 นิ้ว พกัดอกไม้และ ใบไมท้ี่ตดัแลว้ไวใ้นภาชนะใส่น้า เยน็ วางในที่ร่มไม่ร้อน และวางในที่มืด การเตรียมความพร้อมของวสัดุพชต่างๆ ื การ เตรียมความพร้อม ทา เพื่อใหว้สัดุพืชที่เราตดัไวแ้ลว้ไดม้ีการดูดซบัน้า ใหไ้ดม้ากที่สุด เพราะมีความสา คญัต่อ การจดัดอกไม้และ สามารถนา ไปจดัแสดงไดน้าน หากไม่เตรียมความพร้อมไวก้่อน จะทา ใหว้สัดุพืชน้นัแหง้และเหี่ยวไม่ สามารถน าไปจัดได้ การ เตรียมความพร้อมทา ไดโ้ดยนา วสัดุพืชที่ตดัไวแ้ลว้มาแช่ในน้า อุ่น ใหน้ ้า อุ่นสูงคร่ึงหน่ึงของความยาวกา้น วางในที่เยน็และมืด 1คืน กระบวนการน้ีจะช่วยให้กา้น ใบ และดอกไม้ดูดซบัน้า ทา ใหช้ ่วยรักษาสภาพเอาไวไ้ด้ วนัรุ่งข้ึนตดักา้นอีกคร้ังโดยใหเ้อียง 45 องศา แช่น้า ไวจ้นกวา่จะนา ไปใช้ส่วนใบไมใ้หเ้ด็ดใบที่จมอยใู่ตน้้า ออก และแช่น้า ไวเ้ช่นกนัรอจนเห็นวา่ดอกไม้และใบมีความสดข้ึนก่อนที่จะนา ไปจดั การตดักา้นมีความแตกต่างกนัตามชนิดของพืชดงัน้ี พืชบางชนิดที่ดอกมีลกัษณะอวบและ กา้นมีลกัษณะประกอบดว้ยเสน้ ใย เช่น ดอกหงอนไก่หรือ ดอกทานตะวนั ใหจุ้่มกา้นในน้า เดือดลึกประมาณ ½ นิ้วก่อนนา ไปเก็บไวใ้นภาชนะที่เตรียมไว้ พืชที่มีกา้นแขง็มีเน้ือไม้ตอ้งปอกส่วนที่เป็นเปลือกไมอ้อกก่อน พืชที่มีน้า ยางตอ้งปิดรอยตดัโดยการเผาปลายหรือจุ่มใน Powder alum พืชที่มีกา้นกลวง ใหเ้ติมน้า ในส่วนที่กลวงก่อนแลว้จุ่มในน้า พืชบางชนิด (ส่วนใหญเ่ป็นใบ)จะแช่น้า อุ่น 1คืน
ภาชนะที่ใช้ส าหรับจัดดอกไม้ เลือก ขนาดใหเ้หมาะสมกบัโตะ๊และสถานที่ภาชนะควรมีลกัษณะที่เรียบง่ายเพื่อใหส้ะดวกต่อการจดัดอกไม้ ภาชนะที่มีลกัษณะเด่นเกินไปจะทา ใหล้ดความน่าสนใจของดอกไมท้ี่จดัสีที่ใชม้กัเป็นสีกลางๆเช่น สีแทน, สีน้า ตาล, สีเทา หรือ สีเขียว สีเหล่าน้ีจะเขา้กนัไดด้ีกบัพืชที่ใชจ้ดัและเหมาะที่จะเป็นพ้ืนหลงัสีขาวจะดึงดูดความสนใจไดม้ากกวา่ดอกไม้ วสัดุที่ใชท้า ส่วนใหญเ่ป็น แกว้, ดินเผา, ภาชนะเคลือบ หรือโลหะ มกัไม่ใชภ้าชนะประเภทแกว้ใสเพราะจะทา ใหเ้ห็นกา้น อาจใชภ้าชนะบางหรือหนา ก่อนใชต้อ้งทา ความสะอาดและเติมน้า การเลือกภาชนะตอ้งสอดคลอ้งกบัดอกไมท้ี่จดัเช่น ใช้ ดอกกหุลาบควรใชแ้จกนัมากกวา่ภาชนะดินเผา เป็นตน้ ตัวยึด (Holders) ตวัยดึที่ดีตอ้งสามารถทา ใหว้างกา้นไดอ้ยา่งอิสระและยดึเอาไวอ้ยา่งปลอดภยัตวัยดึตอ้งเขา้กบัรูปแบบของการจดัดอกไม้พชืและภาชนะที่ใช้จัด ตัวยึดแบบเข็ม (Pinpoint Holders) ตวัยดึแบบเขม็มกัใชก้บัการจดัดอกไมแ้บบ Lineและ Line mass ในภาชนะทรงต่า หรือต้ืน วางFloral clay ที่กน้ ภาชนะ และทับด้วยPinpoint Holders ที่มีน้า หนกัมาก กา้นดอกไมท้ี่ใส่จะถูกเขม็เสียบอยหู่รือ ปักอยรู่ะหวา่งเขม็ดอกไม้ กา้นเลก็อาจมดัรวมกนัก่อนจึงวางติดกบัเขม็ Floral Foams Floral foams ที่ใชใ้นการจดัดอกไมส้ามารถใชไ้ดท้ ้งัเปียกและ แหง้แบบเปียกใชส้า หรับยดึกา้นและเป็นแหล่งน้า ใหก้บัดอกไม้แบบแหง้สา หรับยดึดอกไมแ้หง้หรือ ดอกไมผ้า้Floral foamsแบบเปียกไม่ควรนา มาใชใ้หม่เพราะมีรูอยู่ จา นวนหน่ึงซ่ึงจะไม่กกัเก็บน้า Floral foams มกัมีราคาไม่แพงหาซ้ือไดง้่าย เหมาะสา หรับการจดัดอกไมแ้บบ Line mass หรือ Massอาจมีการ น ามาใช้ในการจัดดอกไม้ในรูปแบบ Line บา้งดว้ยเหมือนกนั เตรียม Floral foamsก่อนนา มาใช้โดยนา ไปแช่น้า ควรเติมสารจา พวก Clear floral preservative ในน้า เพื่อรักษา ความสดของดอกไมท้ี่จดัไว้ตดัใส่ใหแ้น่นจนถึงส่วนกน้และ เตม็ภาชนะ และตดัส่วนเลก็ๆตรงมุมของภาชนะออก เพื่อเวน้ ไวเ้ติมน้า ปักกา้นดอกไมใ้หถ้ึงส่วนล่างของFloral foamsและไม่ควรดึงกา้นออกหลงัจดัดอกไมแ้ลว้เพราะจะทา ใหด้อกไม้ เหี่ยวเฉา
รูปแบบการจัดดอกไม้แบบพนื้ฐาน รูปแบบการจดัดอกไมพ้ ้ืนฐานจะเป็นทรงเรขาคณิตอยา่งง่าย มี3 แบบ ไดแ้ก่Line, Line-massและ Mass ซึ่งจะ เป็นรูปแบบพ้ืนฐานสา หรับออกแบบการจดัดอกไมทุ้กชนิดต่อไป Line Floral Arrangements (การจดัดอกไม้รูปแบบเชิงเส้น) การ จดัดอกไมรู้ปแบบเชิงเสน้เดิมมาจากรูปแบบการจดัดอกไมข้องประเทศญี่ปุ่น การจดัดอกไมล้กัษณะน้ีจะ จา กดัปริมาณดอกไม้โดยมีจุดประสงคเ์พื่อเนน้แสดงความงดงามของดอกไมใ้นแต่ละดอกหรือใบใมใ้นแต่ละกิ่ง การจดัแบบเชิงเสน้มีลกัษณะเด่นคือ มีโครงสร้างแบบเปิด การดึงดูดความสนใจเกิดจากความแตกต่างของรูปทรง และโครงสร้าง ส่วน มากมกัจดัเป็น 3 แนวตรงหรือ 3 ตา แหน่ง และมกัจดัแบบไม่สมมาตร โดยจะจดัแสดงเฉพาะ ดา้นหนา้ของดอกไมท้ี่จดัเท่าน้นัอาจมีการจดัแนวใหย้นื่มาทางดา้นหนา้หรือหลงัเพื่อใหเ้กิดความลึก Line-Mass Floral Arrangements (การจดัดอกไม้รูปแบบเชิงเส้นและเป็นกลุ่ม) เป็น การจดัดอกไมโ้ดยการผสมผสานระหวา่งรูปแบบเชิงเสน้ของญี่ปุ่นและรูปแบบกลุ่ม ของทางยโุรป การจดั แบบเชิงเส้นเมื่อมองดูแล้วจะรู้สึกถึงความเป็ นระเบียบ ด้วยลักษณะการจดัวางแบบเชิงเสน้ที่แน่นอน ส่วนการจดัแบบกลุ่ม จะใหค้วามรู้สึกกวา้งใหญ่ช่วยเสริมใหก้ารจดัแบบเชิงเสน้ โดดเด่นข้ึน ซ่ึงจะใชด้อกไมม้ากกวา่การจดัแบบเชิงเสน้ การจดัแบบเชิงเสน้และเป็นกลุ่มมีลกัษณะเด่นคือ การดึงดูดความสนใจเกิดจาก ความแตกต่างของ โครงสร้าง สี และ แนวเส้น Mass Floral Arrangements (การจดัดอกไม้รูปแบบเป็นกลุ่ม) เป็น รูปแบบการจดัที่มาจากทางยโุรป ซ่ึงใชด้อกไมม้ากกวา่การจดัแบบอื่นๆ โดยเนน้ สีสนัของดอกไมแ้ละใบไม้ ท้งัหมด มากกวา่ที่จะเนน้เพียงองคป์ระกอบใดองคป์ระกอบหน่ึง มกัใชรู้ปทรงเป็นกลุ่ม หรือ คอ่นขา้งทรงกลม แต่อาจ ดดัแปลงจดัใหเ้กิดมุมหรือเกิดรูปแบบเชิ่งเสน้ดว้ยการจดัแบบทรงสาม เหลี่ยมก็ได้ การจดัแบบเป็นกลุ่มมีลกัษณะเด่นคือ มีโครงสร้างแบบปิด ใหค้วามรู้สึกแน่น เตม็ ไปดว้ยสีสนั
การจัดดอกไม้ การจัดดอกไม้ ถือเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งที่จ าเป็นต้องอาศัยทักษะ ประสบการณ์ เพราะจะต้องใช้ดอกไม้ที่แตกต่างกันในหลากหลายสี การไล่โทน การน าเอาดอกไม้หรือ ใบไม้ ตลอดจนวัสดุต่าง ๆ มาจัดให้อยู่ในองค์ประกอบทางศิลปะ ซึ่งต้องมีความสัมพันธ์ กัน และท าให้เกิดมุมมองที่สวยงาม นับได้ว่าเป็นศิลปะและวิวัฒนาการที่สืบทอดกันมา ช้านาน การจัดดอกไม้โดยส่วนใหญ่นิยมจัดเลียนแบบดอกไม้สดธรรมชาติ สิ่งที่ต้องเตรียม 1. ภาชนะส าหรับจัด หมายถึง ภาชนะส าหรับรองรับดอกไม้มีหลายชนิด เช่น แจกันรูปทรงต่าง ๆ เช่น กระบุง ตะกร้า ชะลอม 2. ที่ส าหรับรองภาชนะ เมื่อจัดดอกไม้เสร็จควรมีสิ่งรองรับเพื่อความสวยงาม ความโดดเด่นของแจกัน เช่นไม้ไผ่ขัดหรือสานเป็นแพ กระจก แป้นไม้ 3. กรรไกรส าหรับตัดแต่ง 4. เครื่องใช้ต่าง ๆ เช่น ลวด ทราย ดินน้ ามัน กระดาษสีฟลอร่าเทปสีเขียว ก้านมะพร้าว ลวดเบอร์ 24 และ เบอร์ 30 5. ดอกไม้ประดิษฐ์พร้อมใบไม้ส าเร็จ 6. เครื่องประกอบตกแต่ง เช่น กิ่งไม้ ขอนไม้ ตุ๊กตา ขดลวด เป็นต้น ดอกไม้ที่นิยมใช้ 1. เลือกดอกไม้ตามวัตถุประสงค์ส าหรับงานนั้น ๆ 2. ความทนทานของดอกไม้ประดิษฐ์ 3. ขนาด เลือกให้เหมาะกับภาชนะ สถานที่ตั้ง และแบบของการจัด 4. การเลือกสี ต้องดูฉากด้านหลังและจุดประสงค์ว่าต้องการ กลมกลืน หรือตัดกัน 5. ความนิยม เช่นดอกกุหลาบนิยมใช้ในงานมงคล ดอกบัวใช้บูชาพระ สิ่งควรค านึงในการจัด ดอกไม้ 1. สัดส่วน ควรให้ความสูงของดอกไม้พอดีกับแจกันเช่น แจกันทรงสูง ดอกไม้ดอก แรกควรสูง เท่ากับ 1.5 - 2 เท่าของความสูงของแจกัน ส าหรับแจกันทรงเตี้ยดอกไม้ดอก แรกควรสูง เท่ากับ 1.5 - 2 เท่าของความกว้างของแจกัน 2. ความสมดุยลควรจัดให้มีความสมดุลไม่หนักหรือเอียงข้างใดข้างหนึ่ง
3. ความกลมกลืน เป็นหัวใจของการจัดต้องมีความสัมพันธ์ทุกด้านตั้งแต่ขนาด ของแจกัน ความเล็กและใหญ่ของดอกไม้ ความมากน้อยของใบที่น ามาประกอบ 4. ความแตกต่าง เป็นการจัดที่ท าให้สวยงามสะดุดตา เช่นจัดดอกไม้เล็ก ๆ และ มีดอกใหญ่เด่นขึ้นมา 5. ช่วงจังหวะ ช่วยให้ดอกไม้มีชีวิตมากขึ้น ควรไล่ขนาด ดอกตูม ดอกแย้ม จนถึง ดอกบาน 6. การเทียบส่วน เป็นความสัมพันธ์กับส่วนต่าง ๆ เช่น ดอกไม้ดอกเล็กควรใส่ แจกันใบเล็ก ตลอดจนที่รองแจกันมีขาดเล็กด้วย รูปแบบการจัดดอกไม้ การจัดดอกไม้โดยทั่ว ๆ ไปแบ่งออกเป็น 3 แบบ ดังนี้ 1. การจัดดอกไม้เลียนแบบธรรมชาติ ( เพื่อใช้เอง) เป็นการจัดดอกไม้แบบง่าย ๆ เพื่อประดับตกแต่งบ้าน โดยอาศัยความเจริญเติบโตของต้นไม้ ดอกไม้ กิ่งไม้ น ามาจัดลง ภาชนะ โดยใช้กิ่งไม้ขนาดต่าง ๆ 3 กิ่ง การจัดดอกไม้แบบนี้ นิยมน าหลักการจัดดอกไม้ จากประเทศญี่ปุ่นมาประยุกต์ 2. การจัดดอกไม้แบบสากล นิยมจัด 7 รูปแบบ คือ รูปทรงแนวดิ่ง ทรงกลม ทรง สามเหลี่ยมมุมฉากทรงสามเหลี่ยมด้านเท่า ทรงพระจันทร์คว่ า ทรงพระจันทร์เสี้ยว ทรง ตัวเอส 3. การจัดดอกไม้แบบสมันใหม่ เป็นการจัดดอกไม้ที่มีรูปแบบอิสระ เน้น ความหมายของรูปแบบบางครั้งไม่จ าเป็นต้องใช้ดอกไม้แต่อาจใช้วัสดุหรือภาชนะเป็น จุดเด่นเป็นการสร้างความรู้สึกให้ผู้พบเห็น การจัดดอกไม้แบบนี้ยังอาศัยหลักเกณฑ์ สัดส่วนและความสมดุลด้วย การเตรียมดอกไม้ก่อนจัด 1. ดอกไม้ ใบไม้ ที่ซื้อมาจากตลาดต้องน ามาพักไว้ในน้ าอย่างน้อย 45 นาที - 2 ชั่วโมง
2. น าดอกไม้มาลิดใบที่ไม่สวย เหี่ยว หรือไม่จ าเป็นออกไป 3. ตัดก้านดอกไม้ใต้น้ า หากก้านไม่แข็งให้ตัดตรง หากก้านแข็งให้ตัดเฉียง ประมาณ 1 นิ้ว 4. แช่ดอกไม้พักไว้ในน้ ามาก ๆ 5. ดอกไม้ที่ซื้อมาค้างคืนให้ห่อด้วยใบตองหรือกระดาษ น าไปแช่ไว้ในถังน้ า เพื่อ ไม่ให้ดอกบานเร็ว หลักทั่วไปในการจัดแจกันดอกไม้ 1. หน้าที่และประโยชน์ใช้สอย ก่อนจัดควรจะทราบวัตถุประสงค์ในการจัดตกแต่ง ก่อนว่า จะใช้ในงานอะไร และจะจัดวางที่ไหน เช่น วางกลางโต๊ะ วางมุมโต๊ะ ชิดผลัก หรือแจกันติดผนัง เป็นต้น และควรดูด้วยว่า ลักษณะของห้องที่จะจัดวางเป็นห้อง ลักษณะแบบใด ทรงใด และขนาดเล็ก ปานกลางหรือใหญ่ เพื่อเราจะได้เลือกแจกันและ ดอกไม้ที่เหมาะสมกับห้องนั้น ๆ ด้วย 2. สัดส่วน สัดส่วนเป็นเรื่องส าคัญมาก ที่จะก าหนดว่าแจกันที่จัดเสร็จจะสวย หรือไม่สวย ถ้าสัดส่วนไม่สมดุลย์แจกันที่จัดออกมาก็ไม่สวย สิ่งที่ต้องค านึง 2.1 ภาชนะทรงเตี้ย ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความกว้างของภาชนะ 2.2 ภาชนะทรงสูง ความสูงที่จัดควรเป็น 1.5-2 เท่า ของความสูงของภาชนะ 3. การเทียบส่วน ระหว่างดอกไม้กับแจกัน, แจกันกับขนาดของห้อง 4. ความสมดุลย์ เป็นความถ่วงดุล เช่น ซ้ายขวาเท่ากัน หรือ สองข้างไม่เท่ากันแต่ หนักไปทางใดทางหนึ่งก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของผู้จัด 5. การเลือกสี เส้นและขนาดให้แตกต่าง กัน เช่น สีกลาง อ่อน เส้นที่โค้งเรียว ขนาดดอกมีใหญ่เล็กเป็นต้น 6. ความกลมกลืน คือ การเข้ากันอย่างสอดคล้องระหว่างองค์ประกอบต่าง ๆ 7. ความแตกต่าง เช่น สีของดอก ใบ และภาชนะที่มีสีแตกต่างกัน แต่ความ แตกต่างไม่ควรเกิน 20% 8. การสร้างจุดเด่น คือ จัดให้มีตัวเด่น ตัวรอง และให้มีการส่งเสริมกันและกัน.
การจัดดอกไม้ส าหรับงานเเต่งงาน หลักในการจัดดอกไม้ในงานเเต่งงาน ดอกไม้ในงานแต่งงาน เปรียบได้กับเครื่องประดับชิ้นสวยของงาน ที่เจ้าภาพ จัดเตรียมไว้ต้อนรับสร้างความประทับใจให้กับแขกเหรื่อ และยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่จะ ช่วยท าให้ความทรงจ าที่เก็บไว้ในภาพถ่ายงดงาม นักจัดดอกไม้ได้เห็นพ้องต้องกันว่า การจัดดอกไม้ในงานแต่งงานไม่ได้ยึดถือเรื่องเท รนด์เป็นส าคัญ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลของดอกไม้และความชอบของคู่บ่าว-สาวมากกว่า ดังนั้น ก่อนจะไปพบนักจัดดอกไม้ คุณควรท าการบ้านโดยการพูดคุยตกลงกันว่าด้วยประเด็น ต่างๆดังต่อไปนี้ ต้องมีคอนเซ็ปต์ชัดเจนในใจ ว่าจะจัดงานแต่งงานแบบไหน ชอบดอกไม้โทนสี อะไร สไตล์ไหน ทุกวันนี้คนนิยมจัดดอกไม้โทนสีขาว-เขียว เพราะเป็นสีที่ปลอดภัยหาย ห่วง ดูเรียบร้อยและโก้หรู แต่เวลาถ่ายรูปออกมาสีอาจจืดชืดไป ถ้าคุณชอบสีสันสดใส แนะน าให้ลองจัดธีมสีแดง-ชมพู หรือสีเหลือง-ส้ม โทนสีเหล่านี้มีดอกไม้ให้เลือกใช้ได้ มากมายหลายชนิด เมื่อเห็นพ้องต้องกันแล้ว อย่าลืมถามความเห็นชอบของครอบครัวด้วย โดยเฉพาะ ญาติผู้ใหญ่ที่ช่วยซัพพอร์ทงบประมาณการจัดงานแต่งงานให้คุณ หากขัดแย้งกันควร พูดคุยให้เข้าใจ ดีกว่าต้องมารื้อหน้างาน เพราะจะเป็นเรื่องวุ่นวายมาก หาสถานที่จัดงานให้เรียบร้อยเสียก่อน คอนเซ็ปต์ของดอกไม้ที่คุณคิดไว้ควรไปกัน ได้กับสไตล์ของห้องที่จะจัดงาน เช่น ถ้าห้องหรูหรา ใหญ่โต แต่อยากจัดดอกไม้สไตล์ มินิมัลลิสม์คงไม่เหมาะ เพราะดอกไม้จะจมหายไปทันที งบประมาณ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวให้ความส าคัญกับดอกไม้ในงานแต่งงาน มากแค่ไหน นักจัดดอกไม้ส่วนใหญ่ชอบให้ลูกค้าบอกงบประมาณในใจมาก่อน เพราะจะ ท างานได้ง่ายขึ้น รู้ว่าควรจะครีเอทมากแค่ไหน เพราะถ้าให้คิดไปก่อนโดยไม่บอก งบประมาณ บางคนอาจมีไอเดียบรรเจิด อยากสร้างสรรค์งานของคุณให้สวยที่สุด แต่ สุดท้ายก็ท าไม่ได้ เพราะติดเรื่องงบประมาณ ท าให้เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย เมื่อทราบงบประมาณคร่าวๆ นักจัดดอกไม้จะดีไซน์การจัดดอกไม้เลือกชนิดของ ดอกไม้ที่จะใช้ แล้วกลับมาคุยกันอีกครั้ง หากคุณชอบใจและตกลงราคากันได้ จะต้อง เตรียมสตางค์ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการด าเนินงานล่วงหน้าด้วย จ านวนเงินจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่จะตกลงกัน
ควรมีเวลาเตรียมงานล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งเดือน เพราะนักจัดดอกไม้จะต้องไปดู ขนาดห้องที่จะจัดงานเพื่อออกแบบและคิดค านวนว่าจะต้องใช้ดอกไม้มากน้อยแค่ไหนถึง ก าลังสวย แล้วจึงสั่งดอกไม้ ดอกไม้บางชนิดต้องน าเข้าจากต่างประเทศ แล้วยังต้อง เตรียมงานโครงสร้างต่างๆ เช่น โครงเหล็กซุ้มประตู ท า backdrop หรือฉากหลังไว้ ส าหรับถ่ายรูป ประเภทของการจัดดอกไม้ จัดดอกไม้สไตล์ Topiary โทปิอารี่ (Topiary) เป็นศิลปะการตกแต่งไม้พุ่มให้เป็นรูปทรงต่างๆ โดยเฉพาะ รูปทรงเรขาคณิต เช่น รูปทรงกลม รูปสามเหลี่ยม หรือรูปสี่เหลี่ยม รวมทั้งการตกแต่งให้ เป็นรูปคน สัตว์ หรือสิ่งของต่างๆ ซึ่งศิลปการตกแต่งดังกล่าวนี้เป็นที่นิยมตั้งแต่ยุค โบราณจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้และต่อมานักจัดดอกไม้ก็ได้น าศิลปะการจัดโทปิอารี่มาใช้ ในการจัดดอกไม้ด้วย โดยโทปิอารี่ที่จัดง่ายที่สุดคือรูปทรงกลม และดอกไม้ที่จัดโทปิอารี่ ได้สวยที่สุดก็คือ ดอกกุหลาบนั่นเอง การจัดดอกไม้รวม การจัดดอกไม้รวมให้ออกมาดี คือ ดอกไม้แต่ละแบบต้องส่งเสริมซึ่งกันและกัน และการ ส่งเสริมกันนี้ จะท าให้ความงามของดอกไม้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น การจัดดอกไม้สีโทนร้อน
สีโทนร้อนได้แก่ สีแดง สีส้มหรือสีแสด สีเหลือง สีม่วง เป็นต้น สีโทนร้อนเป็นสีที่ แสดงถึงพลัง ความบ้าคลั่ง ความตื่นเต้นเร้าใจ การเย้ายวน ความกระฉับกระเฉง และไม่ พ่ายแพ้ง่าย ๆ ถ้าคุณจะจัดดอกไม้โทนร้อนในบ้าน ควรเลือกมุมที่แสงแดดส่องถึง การ จัดล าดับสีโทนร้อนมีความหลากหลาย ที่จะท าให้คุณมีความคิดสร้างสรรค์แบบไม่จ ากัด การจัดดอกไม้สีโทนอ่อน สีโทนอ่อนเป็นสีเย็นตา เช่น สีขาว มักใช้ในโอกาศส าคัญเกี่ยวกับทางศาสนา เช่น งานแต่ง ดอกไม้สีขาวเป็นทางเลือกคลาสสิค ความงามตามธรรมชาติของดอกไม้สีอ่อน ท าให้ดูดีขึ้นได้ด้วยการเลือกใบอย่างชาญฉลาด ภาชนะที่ใส่ถ้าเป็นดอกสีขาว ภาชนะ อาจจะเลือกให้อยู่ในโทนเดียวกันก็ได้ จะให้ความงามที่สบายตา และดูมีรสนิยม การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ การจัดดอกไม้ขนาดใหญ่ ต้องการภาชนะที่ใหญ่และหนัก ภาชนะที่ใช้อาจจะเป็น แจกันขนาดใหญ่ โอ่งขนาดเล็กหรือกลาง หรือง่าย ๆ ถังสีที่คุณใช้แล้ว ท าความสะอาด สักหน่อย ก็จะให้ความสวยที่ไม่แพ้กับแจกันราคาแพง ยิ่งเป็นการจัดดอกไม้ใหญ่เท่าไร ความส าคัญของภาชนะก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากเป็นจุดสนใจด้วย การจัดดอกไม้สมัยใหม่ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจาก ญี่ปุ่นเป็นอันมาก โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะลักษณะรูปแบบ ในการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่ค านึงถึงความง่าย ความ สะดวก เช่นเดียวกับการจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและ อุปกรณ์แต่อย่างได หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องท าให้ได้ส่วนสัมพันธ์ และรับกันกับแบบของเครื่องเรือนหรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่น ามันไปประดับ เป็นส่วนประกอบมากกว่าอื่นใดทั้งหมด
ความสวยงามละลานตาตามคติเก่าๆ ในการจัดดอกไม้ แทบจะไร้ความหมาย ส าหรับการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่นี้ เหตุนี้เอง หลักส าคัญในการจัดดอกไม้แบบนี้ จึงขึ้นอยู่กับแนวหรือเส้นของรูปพรรณ อันเป็นผลท าให้ไม้และใบไม้ได้เข้ามามีบทบาท ส าคัญยิ่งกว่าดอกไม้เสียด้วยซ้ า การค านึงในเรื่องของสีได้เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษทีเดียว เพราะ รสนิยมของคนในสมัยใหม่นั้น ส่วนมากมักไม่ใคร่ชอบสีที่ตัดกันอย่างแท้จริง หากแต่ชอบ สีที่กลมกลืนคล้ายคลึงกันมากกว่า เช่น ห้องสีแดง ก็มักจะจัดดอกไม้สีแดงแก่หรืออ่อน หรือสีชมพู หรือสีส้ม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองสามอย่างควบคู่กัน ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ รสนิยมของแต่ละบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น แม้การเลือกสีจะเป็นสีที่มีโทนเดียวกัน แต่ก็ยังต้อง ค านึงถึงน้ าหนักของสีอีกด้วย กล่าวคือ มักจะไม่นิยมใช้สีที่สดกว่า หรือแก่กว่ากัน จนเกินไป ถ้าสมมุติว่า ห้องนั้นเป็นสีอ่อนหรือสีจางๆ ก็มักจะต้องใช้ดอกไม้สีอ่อนหรือ จางด้วย จะเข้มกว่าหรือจางกว่าก็เพียงเล็กน้อย ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนัก การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่นั้น เราอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ แบบโมเดิร์น หรือแบบทันสมัย แบบแอ๊บสแตร็ค หรือแบบค านึงถึงสัญลักษณ์มากกว่าความสมจริง แบบแฟนซี หรือแบบที่ดูแปลกๆ พิสดาร ลักษณะ วิธีการ และรูปแบบ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ทั้ง 3 ประการนั้น ส่วน ใหญ่มิได้แตกต่างกันมากนัก เพราะหลักการส าคัญที่ยึดถืออยู่ก็คือ เส้นหรือแนวนั้นเอง จนอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นการจัดแบบเดียวกัน แต่ที่แยกประเภทเอาไว้นั้น ก็เพื่อที่จะให้ เป็นที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น และเป็นการสะดวกที่จะท าความเข้าใจกันในโอการต่อไปเท่านั้น งานศิลปะนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประเภทใด ต่างก็ต้องการรูปแบบที่สร้างสรรค์ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร ทั้งนี้หากเราสร้างสรรค์งานศิลปะได้แต่เพียงวิธีที่ ต้องลอกเลียนแบบเสียแล้ว งานก็ย่อมไม่ก้าวหน้า ความสามารถก็จะมีอยู่ในขอบเขตที่ จ ากัด ถ้าเปรียบเทียบ ก็จะเหมือนกับนกแก้วหรือนกขุนทองที่พูดได้ก็เฉพาะถ้อยค าที่ เจ้าของสอนเอาไว้ให้พูดเท่านั้น จะคิดหรือพูดค าอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งมันไม่ผิดอะไรกับ เครื่องจักร ดังเช่นวิทยุ โทรทัศน์ ที่จะเกิดภาพหรือมีเสียงก็แต่เฉพาะที่คนจัดรายการ ส่งออกอากาศเท่านั้น คนที่รับฟังหรือชมอยู่ แม้จะอยากชมสิ่งแปลก ก็ไม่สามารถฟังหรือ ชมได้ดังใจปรารถนา ค่าของมันก็ลดน้อยลง คราวนี้ถ้าเรามาลองสมมุติกันดูว่า หากเรามี
โทรศัพท์ที่สามารถจะให้ภาพให้เสียงได้ตามที่ใจเราต้องการจะได้เห็นได้ยิน หรือมีวิทยุที่ สามารถส่งเสียงเพลงที่เราต้องการฟังได้ทุกขณะทุกเวลา วิทยุหรือโทรทัศน์เครื่องนั้นๆ จะกลายเป็นของที่มีค่าเลอเลิศเพียงใดเห็นจะไม่จ าเป็นต้องพูดถึงกันอีก การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ ดูเหมือนจะได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่นเป็นอันมาก โดยมีอิทธิพลของจิตรกรเป็นส่วนประกอบด้วย เพราะลักษณะรูปแบบในการจัดดอกไม้ ตามแบบสมัยใหม่ มีทีท่าส่อไปในรูปแบบที่ค านึงถึงความง่าย ความสะดวก เช่นเดียวกับ การจัดดอกไม้แบบญี่ปุ่น ไม่พิถีพิถันในการเลือกสรรวัสดุการจัดและอุปกรณ์แต่อย่างได หากแต่ว่าได้เน้นหนักไปในทางที่จะต้องท าให้ได้ส่วนสัมพันธ์และรับกันกับแบบของ เครื่องเรือน หรือลักษณะและรูปแบบของห้องที่น ามันไปประดับเป็นส่วนประกอบ มากกว่าอื่นใดทั้งหมด ความสวยงามละลานตาตามคติเก่าๆ ในการจัดดอกไม้ แทบจะไร้ความหมาย ส าหรับการจัดดอกไม้ตามแบบสมัยใหม่นี้ เหตุนี้เอง หลักส าคัญในการจัดดอกไม้แบบนี้ จึงขึ้นอยู่กับแนวหรือเส้นของรูปพรรณ อันเป็นผลท าให้ไม้และใบไม้ได้เข้ามามีบทบาท ส าคัญยิ่งกว่าดอกไม้เสียด้วยซ้ า การค านึงในเรื่องของสีได้เป็นสิ่งที่พึงระมัดระวังเป็นกรณีพิเศษทีเดียว เพราะ รสนิยมของคนในสมัยใหม่นั้น ส่วนมากมักไม่ใคร่ชอบสีที่ตัดกันอย่างแท้จริง หากแต่ชอบ สีที่กลมกลืนคล้ายคลึงกันมากกว่า เช่น ห้องสีแดง ก็มักจะจัดดอกไม้สีแดงแก่หรืออ่อน หรือสีชมพู หรือสีส้ม อย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองสามอย่างควบคู่กัน ทั้งนี้ต้องแล้วแต่ รสนิยมของแต่ละบุคคล ยิ่งไปกว่านั้น แม้การเลือกสีจะเป็นสีที่มีโทนเดียวกัน แต่ก็ยังต้อง ค านึงถึงน้ าหนักของสีอีกด้วย กล่าวคือ มักจะไม่นิยมใช้สีที่สดกว่า หรือแก่กว่ากัน จนเกินไป ถ้าสมมุติว่า ห้องนั้นเป็นสีอ่อนหรือสีจางๆ ก็มักจะต้องใช้ดอกไม้สีอ่อนหรือ จางด้วย จะเข้มกว่าหรือจางกว่าก็เพียงเล็กน้อย ไม่แตกต่างกันจนเกินไปนัก การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่นั้น เราอาจจะแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท คือ แบบโมเดิร์น หรือแบบทันสมัย แบบแอ๊บสแตร็ค หรือแบบค านึงถึงสัญลักษณ์มากกว่า ความสมจริง แบบแฟนซี หรือแบบที่ดูแปลกๆ พิสดาร ลักษณะ วิธีการ และรูปแบบ การจัดดอกไม้แบบสมัยใหม่ทั้ง 3 ประการนั้น ส่วน ใหญ่มิได้แตกต่างกันมากนัก เพราะหลักการส าคัญที่ยึดถืออยู่ก็คือ เส้นหรือแนวนั้นเอง จนอาจจะกล่าวได้ว่า เป็นการจัดแบบเดียวกัน แต่ที่แยกประเภทเอาไว้นั้น ก็เพื่อที่จะให้ เป็นที่เห็นได้ชัดเจนขึ้น และเป็นการสะดวกที่จะท าความเข้าใจกันในโอการต่อไปเท่านั้น
งานศิลปะนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปะประเภทใด ต่างก็ต้องการรูปแบบที่สร้างสรรค์ เป็นตัวของตัวเอง ไม่ลอกเลียนแบบใคร ทั้งนี้หากเราสร้างสรรค์งานศิลปะได้แต่เพียงวิธีที่ ต้องลอกเลียนแบบเสียแล้ว งานก็ย่อมไม่ก้าวหน้า ความสามารถก็จะมีอยู่ในขอบเขตที่ จ ากัด ถ้าเปรียบเทียบ ก็จะเหมือนกับนกแก้วหรือนกขุนทองที่พูดได้ก็เฉพาะถ้อยค าที่ เจ้าของสอนเอาไว้ให้พูดเท่านั้น จะคิดหรือพูดค าอื่นๆ ไม่ได้ ซึ่งมันไม่ผิดอะไรกับ เครื่องจักร ดังเช่นวิทยุ โทรทัศน์ ที่จะเกิดภาพหรือมีเสียงก็แต่เฉพาะที่คนจัดรายการ ส่งออกอากาศเท่านั้น คนที่รับฟังหรือชมอยู่แม้จะอยากชมสิ่งแปลก ก็ไม่สามารถฟังหรือ ชมได้ดังใจปรารถนา ค่าของมันก็ลดน้อยลง คราวนี้ถ้าเรามาลองสมมุติกันดูว่า หากเรามี โทรศัพท์ที่สามารถจะให้ภาพให้เสียงได้ตามที่ใจเราต้องการจะได้เห็นได้ยิน หรือมีวิทยุที่ สามารถส่งเสียงเพลงที่เราต้องการฟังได้ทุกขณะทุกเวลา วิทยุหรือโทรทัศน์เครื่องนั้นๆ จะกลายเป็นของที่มีค่าเลอเลิศเพียงใดเห็นจะไม่จ าเป็นต้องพูดถึงกันอีก การจัดช่อดอกไม้แบบต่าง ๆ 1. การ จัดช่อดอกไม้ในก ามือ - วิธีการ ผู้จัดจะต้องออกแบบลักษณะของช่อดอกไม้ไว้ แล้ว และก่อนจัด ผู้จัดจะต้องแบ่งดอกไม้ออกเป็นดอก ๆ แยกดอก แยกใบ และน า ดอกไม้ ใบไม้ ทีละอย่างมาใส่ในก ามือ จัดวางต าแหน่งตามความพอใจ เสร็จแล้ว จึงน า ช่อดอกไม้มาผูกมัดด้วยเชือกหรือเทป จากนั้นน าส าลี ถุงน้ า เพื่อหล่อเลี้ยงดอกไม้ใบไม้ให้ สด และตกแต่งการห่อด้วยวัสดุที่ชื่นชอบ สุดท้ายผูกโบให้สวยงามเรีัยบร้อย 2. การจัดช่อดอกไม้โดยใช้อุปกรณ์การจัด - บูเก้ โฮลเดอร์ เป็นอุปกรณ์ส าเร็จรูปที่ท า ให้สะดวกต่อการจัด เพราะมีฟลอรัลโฟมส าหรับปักดอกไม้ และการปักแต่ละครั้งไม่ควร รื้อถอนบ่อย ก่อนที่จะปักดอกไม้ไป ควรจะใช้เทคนิคลวดยึดเพื่อไม่ให้ดอกไม้หลุดร่วงได้ ง่าย 3. การใช้เทคนิคต่อก้านดอกไม้ ใบไม้ - โดยใช้ลวดเบอร์ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับชนิด และใบ รวมถึงน้ าหนักด้วย ซึ่งวิธีนี้จะท าให้ดอกไม้สวยงามคงทน 4. การจัดช่อตามความคิดสร้างสรรค์ - เป็นการออกแบบโดยอิสระ รูปทรงอาจไม่ เหมือนกับรูปแบบทั่วไป และวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ อาจมีการดัดแปลง น าวัสดุต่าง ๆ มาใช้ใน การตกแต่งได้ เช่น ผลไม้ ผัก ขนนก อลูมิเนียม ผ้า ดิ้นเงิน ดิ้นทอง เป็นต้น
วสัดุอปุกรณ ์ในการจดัดอกไม ้ คุณสมบัตขิองภาชนะ 1 เป็นภาชนะรูปทรงสูงหรืองทรงเตี้ยก็ได้ 2 มีน้้าหนักเพียงพอที่จะปักดอกไม้แล้วไม้ท้าให้แจกันล้ม เช่น เป็นเซรามิก โลหะ 3 มีความสูงอย่างน้อยประมาณสัก 2 นิ้ว เพื่อที่จะวางฟรอร่าโฟมได้ขังน้้าได้ เพราะเวลาจัดดอกไม้ต้องใส่น้้าลงไปในภาชนะ ดอกไม้ใบไม้จะได้ดูดน้้าไปเลี้ยง ตัวเอง 4 มีความกว้างของปากไม่ต่้ากว่า 3 นิ้ว 5 รูปทรงของแจกันโดยทั่วไปเป็นรูปทรงเรขาคณิต คือ เหลี่ยม รีกลม ยาว สูง แบน ภาชนะใส่อาหารและของใช้ในบ้านบางชนิดก็น้ามาท้าแจกันดอกไม้ได้ 6 สีของภาชนะ ควรเป็นสีกลางๆ ได้แก่สีขาว ครีม เขียว น้้าตาล น้้าเงิน เทา ด้า หรือถ้าเป็นสีก็ควรเป็นสีหม่นๆ ก็ได้เช่น เหลือง แดง ม่วง และฟ้า เป็นต้น ถ้า เป็นโลหะจะเป็นสีทองและสีเงิน สีโลหะก็ใช้ได้ 7 ถ้าจัดดอกไม้ลงตะกร้าหรือกระเช้า ควรน้าก้อนฟรอร่าโฟมห่อด้วยกระดาษ ฟอยส์ก่อนแล้วที่ท้าจากไม้ชนิดต่างๆผุได้ 8 ภาชนะที่ราคาแพงมากๆ ไม่ควรน้ามาจัดอกไม้เช่น แจกันเบญจรงค์และแจกัน ลายคราม ฯลฯ เพราะการใช้งานมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุ ภาชนะ ตกหล่น แตก ร้าว ได้จึงไม่ควรน้ามาจัดดอกไม้นอกจากผู้จัดประสงค์มอบภาชนะนั้นแก่ผู้รับ จึงค่อยน้าไปใช้จัด
อุปกรณ ์ ท ี่ใช ้ในการจัดดอกไม ้ 1 มีดจะแยกเป็นมีดตัดดอกไม้และมีดตัด Floral Form ไม่ควรจะใช้มีดตัด ดอกไม้มาตัด Floral Foam เพราะจะท้าให้เสียคมได้ง่าย 2 กรรไกร จะแยกเป็นกรรไกรหรือคีมตัดลวดกรรไกรตัดกระดาษ กรรไกรตัด ริบบิ้น และกรรไกรตัดดอกไม้และกิ่งไม้กรรไกรเหล่านี้ควรแยกประเภทให้ แน่นอน แต่ถ้าเป็นไปได้ไม่ควรใช้กรรไกรตัดก้านดอกไม้เพราะกรรไกรมีคมที่ หนา เวลาตัดก้านของดอกไม้คมของกรรไกรจะบีบก้านดอกไม้ท้าให้เกิดความ ช้้า ดอกไม้จะดูดน้้าได้ไม่เต็มที่ มีผลท้าให้ดอกไม้ไม่ทน 3 คีมบิดลวด ควรมีปากกว้างพอสมควร
4 แป้นสก๊อตเทป ควรมีความใหญ่และมีน้้าหนักพอสมควร เพื่อเพิ่มความ คล่องตัวในการใช้งาน ส่วนสก๊อตเทปควรเลือกชนิดที่ทนต่อการเปียกน้้าให้มาก ที่สุด 5 ภาชนะเติมน้้าดอกไม้ควรมีปากแคบ และยาว 6 ภาชนะแช่ดอกไม้ควรมีทั้งทรงสูง และทรงเตี้ย ปากกว้าง สามารถล้างท้าความ สะอาดได้ง่ายและจะต้องเก็บได้สะดวก 7 แป้นหมุน ใช้ส้าหรับรองรับภาชนะที่ใช้จัดดอกไม้ท้าให้สะดวกต่อการจัด และ การตรวจเช็คผลงาน 8 ฟรอร่าเทป ควรเลือกสีให้เหมาะสมส้าหรับก้านดอกไม้แต่ถ้าต้องการให้ ส้าหรับตกแต่งอาจเลือกสีที่มีความแตกต่างก็ได้เช่น สีแดง สีเหลือง สีชมพูสี ขาว เป็นต้น นอกจากนี้ควรเลือกฟลอร่าเทปที่เป็นของแท้ซึ่งจะสังเกตได้จาก ความเหนียวในขณะพันก้านดอกไม้
9 ลวด มีทั้งชนิดเป็นขด และชนิดดึงยืดเป็นเส้นตรงที่ตัดส้าเร็จมาเรียบร้อยแล้ว มีหลายขนาดสามารถเลือกได้ตามความเหมาะสมกับการใช้งาน 10 กระดาษและพลาสติก สามารถเลือกขนาดความกว้างคุณภาพและลวดลาย ตามต้องการ 11 ภาชนะส้าหรับแช่ Floral From ควรมีที่เฉพาะสามารถถ่ายน้้าได้สะดวกและ กักเก็บน้้าได้อย่างดีอาจใช้อ่างน้้าที่มีปุ่มกักหรือถ่ายน้้าออกได้แต่ต้อง ระมัดระวังการอุดตันของท่อน้้าด้วย 12 ตู้แช่ดอกไม้จะต้องมีขนาดและอุณหภูมิที่เหมาะสมกับดอกไม้ 13 ลวดตาข่ายหรือลวดกรงไก่ มีทั้งตาหกเหลี่ยม และสี่เหลี่ยม ปัจจุบันมีชนิดที่ เป็นพลาสติกด้วย 14 คีมปลิดหนามและใบกุหลาบ สามารถท้างานได้เร็ว แต่มีข้อเสียคือ ท้าให้ก้าน กุหลาบหักง่าย และถลอกไม่สวยงาม เราอาจเปลี่ยนมาใช้มีดปลิดหนามและใบ แทนก็ได้ 15 แจกัน ควรเลือกชนิดที่มีการเคลือบภายใน เพื่อสะดวกต่อการล้างท้าความ สะอาด และยังป้องกันไม่ให้เกิดการตกค้างของเชื้อแบคทีเรีย ควรเลือกชนิด ที่ตั้งได้อย่างมั่นคงและมีปากกว้าง เพื่อจะได้เพิ่งความสะดวกต่อการจัดดอกไม้ 16 ตะกร้า มีหลายขนาด หลายแบบให้เลือกปัจจุบันนี้มีการน้าเอาวัสดุต่างๆ มาใช้ การผลิตตะกร้าท้าให้เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความต้องการและความ เหมาะสมในการจัด แต่ทางที่ดีควรเลือกตะกร้าที่มีหูหิ้ว เพื่อสะดวกต่อการ ขนส่งให้กับลูกค้า 17 Floral Foam ใช้ส้าหรับปักดอกไม้ใบไม้มีหลายชนิดให้เลือก ชนิดที่ใช้กับ ดอกไม้สด เรียกว่า “Oasis” ส่วนชนิดที่ใช้กับดอกไม้แห้งหรือดอกไม้ประดิษฐ์
เรียกว่า “Sahara” 18 นอกจากอุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้แล้ว ยังมีอุปกรณ์เสริมส้าหรับจัดดอกไม้อีก มากมาย เช่น หลอดน้้า ช่อมือถือส้าหรับจัดช่อเจ้าสาว เป็นต้น อุปกรณ์เหล่านี้ สามารถเลือกซื้อได้จากร้านขายดอกไม้หรือร้านที่เป็นตัวแทนจ้าหน่ายโดน ทั่วไป