The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้อาชีวะศึกษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Aranya khamloy, 2022-03-23 06:14:50

แผนการจัดการเรียนรู้อาชีวะศึกษา

แผนการจัดการเรียนรู้อาชีวะศึกษา

วิ ท ย า ศ า ส ต ร์ เ พื่ อ พั ฒ น า อ า ชี พ เ ก ษ ต ร ก ร ร ม

เอกสารประกอบการสาธิต

ปฏิบัติการสอน

เอกชีววิทยา

ลักษณะรายวิชา
ตารางวิเคราะห์
สมรรถนะการเรียนรู้
โครงสร้างรายวิชา
แผนการจัดการเรียนรู้
สื่อการเรียนการสอน

นางสาวอรัญญา คำลอย

แผนการจัดการเรียนรู้ การศึกษาบัณฑิต สาขาชีววิทยา

เรื่อง เนื้อเยื่อถาวร คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา
(Permanent tissue)

สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

แผนการสอน/การจัดการเรยี นรู้แบบมุ่งเนน้ สมรรถนะอาชพี
และบรู ณาการตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ชื่อวิชา วิทยาศาสตรเ์ พื่อพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม
รหัสวิชา 200000-1305 ท-ป-น 1-2-2
หลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชพี พุทธศักราช 2562
ประเภทวชิ า วิทยาศาสตร์

จดั ทำโดย
นางสาวอรญั ญา คำลอย
การศึกษาบัณฑิต สาขาชวี วิทยา
คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบรู พา

สำนกั งานคณะกรรมการอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร



คำนำ
เอกสารฉบับนจี้ ดั ทำข้ึน เพอ่ื เป็นเอกสารแสดงข้อมลู ประกอบการสอบสาธิตปฏบิ ัตกิ าร
สอน การประเมินตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ภาค ค ความเหมาะสมกับตำแหน่งวชิ าชีพ และปฏบิ ัตงิ าน
ในสถานศึกษา สำหรับการสอบแขง่ ขนั เพอ่ื บรรจแุ ละแต่งตั้งบุคคลเขา้ รับราชการ เป็นข้าราชการ
ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศกึ ษา
ปกี ารศึกษา 2564
ภายในเอกสารฉบบั นี้ ประกอบดว้ ย ลกั ษณะรายวชิ า ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะการเรียนรู้
โครงสร้างรายวชิ า แผนการจัดการเรียนรู้ และสื่อการเรยี นการสอน ซึ่งไดจ้ ัดเรียงหัวขอ้ ไวต้ รงตาม
เกณฑก์ ารประเมินตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย ภาค ค ในครั้งน้ี
ข้าพเจ้าหวงั วา่ เอกสารฉบับนีจ้ ะเปน็ ประโยชน์ ในการประเมินตำแหน่ง ครผู ้ชู ว่ ย ภาค ค
ของขา้ พเจา้ หากมีขอ้ ผดิ พลาดประการใด ข้าพเจ้าขอนอ้ มรบั ไว้ และขออภัยมา ณ ท่ีน้ี

นางสาวอรัญญา คำลอย
ผจู้ ัดทำ

สารบญั ข

เรื่อง หนา้
คำนำ ก
สารบญั ข
1
ลักษณะรายวชิ า 2
ตารางวเิ คราะหส์ มรรถนะการเรยี นรู้ 4
โครงสรา้ งรายวชิ า 12
แผนการจัดการเรยี นรู้
31
เทคนิคการสอนท่ใี ชใ้ นแผนการจัดการเรียนรู้
สอ่ื การเรียนการสอน
บรรณานกุ รม

1

ลกั ษณะรายวชิ า

หลักสตู รรายวิชา รหัส 20000–1305
ชอ่ื วชิ า วทิ ยาศาสตรเ์ พอ่ื พัฒนาอาชพี เกษตรกรรม

ท–ป–น 1–2–2 จำนวนคาบสอน 3 คาบ : สัปดาห์ ระดับชน้ั ปวช.

จุดประสงค์รายวชิ า เพื่อให้

1. รู้และเขา้ ใจเกย่ี วกับเซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ระบบการทาํงานของอวยัวะในพชื และสัตว์พันธุกรรม เทคโนโลยชี ีวภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพและ
สารชวี โมเลกุล
2. สามารถสาํ รวจตรวจสอบเกี่ยวกับเซลลพ์ ืชและเซลล์สัตวร์ ะบบตา่ งๆ ของพชื และสัตว์ การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม และการจำแนกสง่ิ มชี ีวติ โดยใช้
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์
3. มีเจตคตแิ ละกิจนสิ ัยที่ดตี ่อการศกึ ษาและสาํ รวจตรวจสอบดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

สมรรถนะรายวิชา

1. แสดงความรเู้ กี่ยวกับเซลล์พืชและเซลล์สัตวร์ ะบบการทำางานของอวยั วะในพชื และสัตว์พนั ธุกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ ความหลากหลายทางชวี ภาพและ
สารชีวโมเลกุล
2. สำรวจตรวจสอบเกี่ยวกบั โครงสร้างหน้าท่อี งค์ประกอบของเซลล์พืชและสตั วแ์ ละระบบการทำางานของอวัยวะในพืชและสัตว์ตามหลักการ
3. สำรวจตรวจสอบเกย่ี วกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมตามหลกั พนั ธุศาสตร์
4. สำรวจตรวจสอบเกี่ยวกบั เทคโนโลยชี วี ภาพ ความหลากหลายทางชีวภาพและสารชวี โมเลกลุ ดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์

คำอธิบายรายวิชา

ศึกษาและปฏบิ ตั ิเก่ยี วกบั โครงสรา้ งหนา้ ท่อี งคป์ ระกอบของเซลล์พชื และเซลลส์ ตั ว์ ระบบการทำงานของอวยั วะในพชื และสตั ว์พนั ธุกรรม เทคโนโลยชี วี ภาพ
ความหลากหลายทางชีวภาพและสารชีวโมเลกุล

2

ตารางวิเคราะห์สมรรถนะการเรียนรู้

ช่ือวิชา วทิ ยาศาสตร์เพอื่ พฒั นาอาชพี เกษตรกรรม รหสั 20000–1305

ท–ป–น 1–2–2 จำนวนคาบสอน 3 คาบ : สัปดาห์ ระดับชั้น ปวช.

หน่วยการสอน สมรรถนะการเรยี นรู้
สมรรถนะประจำหนว่ ย
หนว่ ยที 1 เซลล์พืชและเซลล์สัตว์
1.1 เซลล์และการคน้ พบ 1. แสดงความร้เู กย่ี วกบั เซลลพ์ ืชและเซลล์สตั ว์
1.2 ชนดิ และรูปร่างของเซลล์ 2. ระบอุ งคป์ ระกอบและหน้าทีข่ องเซลลพ์ ชื และเซลล์สตั ว์
1.3 โครงสร้างและองคป์ ระกอบของเซลล์
1.4 การแบง่ เซลล์ สมรรถนะประจำหน่วย
1.5 การลำเลยี งสารผา่ นเซลล์ 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ระบบการทำงานต่าง ๆ ของพืช

หน่วยที่ 2 ระบบการทำงานของพืช สมรรถนะประจำหนว่ ย
2.1 เนือ้ เยื่อและการเจรญิ เติบโตของพืช 1. แสดงความรเู้ กี่ยวกบั ระบบการทำงานต่าง ๆ ของสตั ว์
2.2 โครงสรา้ งและการเจรญิ เติบโตของราก
2.3 โครงสรา้ งและหน้าที่ของลำตน้ สมรรถนะประจำหน่วย
2.4 โครงสร้างและหนา้ ทข่ี องใบ 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั การถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมตามกฎของเมนเดล
2.5 การลำเลยี งนำ้ ของพชื
2.6 การลำเลยี งสารอาหารของพชื สมรรถนะประจำหนว่ ย
1. แสดงความรูเ้ กี่ยวกบั เทคโนโลยชี ีวภาพและหลกั การผลิตของสงิ่ มีชีวติ
หนว่ ยท่ี 3 ระบบการทำงานของสัตว์ ดัดแปรพันธุกรรม
3.1 ระบบยอ่ ยอาหาร
3.2 ระบบไหลเวยี นเลือด
3.3 ระบบหายใจ
3.4 ระบบขบั ถา่ ย
3.5 ระบบประสาทและอวัยวะรับสมั ผัส

หนว่ ยท่ี 4 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุรรม
4.1 ความหมายและประเภทของพันธกุ รรม
4.2 การคน้ พบความร้ทู างพนั ธศุ าสตร์
4.3 โครโมโซมและยนี
4.4 โรคทางพันธกุ รรม
4.5 การเกดิ มวิ เทชนั

หนว่ ยท่ี 5 เทคโนโลยชี ีวภาพ
5.1 ความหมายและความเปน็ มาของเทคโนโลยชี วี ภาพ
5.2 พันธวุ ิศวกรรม
5.3 การโคลน
5.4 ประโยชนข์ องเทคโนโลยีชวี ภาพ
5.5 ผลของเทคโนโลยชี วี ภาพทีม่ ตี อ่ สังคมและส่งิ แวดลอ้ ม

3

ตารางวเิ คราะห์สมรรถนะการเรียนรู้

ช่ือวิชา วทิ ยาศาสตร์เพ่ือพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม รหัส 20000–1305

ท–ป–น 1–2–2 จำนวนคาบสอน 3 คาบ : สปั ดาห์ ระดับชน้ั ปวช.

หนว่ ยการสอน สมรรถนะการเรียนรู้
สมรรถนะประจำหน่วย
หนว่ ยท่ี 6 ความหลากหลายทางชีวภาพ
6.1 ความหลากหลายทางชวี ภาพ 1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพ และสามารถจัดจำแนก
6.2 การศกึ ษาความหลากหลายทางชีวภาพ สง่ิ มชี ีวติ ออกเปน็ หมวดหมู่
6.3 อาณาจักรของส่งิ มีชวี ติ
6.4 ความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศไทย สมรรถนะประจำหนว่ ย
6.5 การสญู เสียความหลากหลายทางชวี ภาพ 1. แสดงความรเู้ ก่ยี วกบั สารชีวโมเลกลุ และเลือกบรโิ ภคอาหารในชวี ติ ประจำวันได้
อยา่ งถกู สดั สว่ นและปลอดภยั
หนว่ ยที่ 7 สารชีวโมเลกลุ
7.1 โปรตีน
7.2 เอนไซม์
7.3 คาร์โบไฮเดรต
7.4 ไขมัน

สปั ดาห์ ช่ัวโมง หน่วย/ สมรรถนะการ กจิ กรรมการ สือ่ การสอน เวลา 4
ท่ี (ชวั่ โมง)
ท่ี สาระการเรยี นรู้ เรียนรู้ จัดการเรยี นการสอน ช่วั โมง
1-8 1 รวม
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 เซลลพ์ ชื และเซลลส์ ัตว์ 1
1 2 8
1 - เซลลแ์ ละการ - สืบค้น อภปิ ราย - สอ่ื PowerPoint
2 2 10
ค้นพบ แสดงความรู้ เก่ียวกับเซลล์และการ - ใบความรู้ 2
3
เกย่ี วกบั เซลลพ์ ืช คน้ พบ - ใบกจิ กรรม 2
9-18
3 2 - ชนดิ และรูปร่าง และเซลล์สัตว์ - อธิบาย จำแนกชนิด - ส่อื PowerPoint 2

4 ของเซลล์ และรูปร่างของเซลล์ - ใบความรู้

- ใบกจิ กรรม

3-4 - โครงสรา้ งและ - สืบค้น อภิปราย - สอ่ื PowerPoint

องคป์ ระกอบของ เกย่ี วกับโครงสร้าง - ใบความรู้

เซลล์ และองคป์ ระกอบของ - ใบปฏบิ ตั ิติการ

ระบุ เซลล์ โครงสรา้ งและ

องคป์ ระกอบ - บทปฏบิ ัติติการ องค์ประกอบของ

และหน้าทข่ี อง โครงสร้างและ เซลล์

เซลล์พชื และ องค์ประกอบของ

เซลลส์ ัตว์ เซลล์

5-6 - การแบ่งเซลล์ - สบื ค้น อภปิ ราย - สือ่ PowerPoint

เก่ียวกบั การแบง่ เซลล์ - ใบความรู้

- บทปฏิบัตติ ิการการ - ใบปฏิบตั ิติการ

แบง่ เซลล์ การแบ่งเซลล์

7-8 - การลำเลยี งสาร - สืบค้น อภิปราย - สอ่ื PowerPoint

ผา่ นเซลล์ เกี่ยวกบั การลำเลยี ง - ใบความรู้

สารผ่านเซลล์ - ใบปฏบิ ัตติ ิการ

การลำเลยี งสาร

ผ่านเซลล์

หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 ระบบการทำงานของพชื

9-10 - เนอื้ เย่อื และการ - สืบค้น อภปิ ราย - สื่อPowerPoint
เจรญิ เติบโตของ เกีย่ วกับเน้ือเย่ือ - ใบความรู้
พชื - กิจกรรม สนกุ คิด - ใบกิจกรรม สนุก
พิชิต Plant tissue คดิ พิชิต Plant
tissue
แสดงความรู้
- สอ่ื PowerPoint
11-12 - โครงสร้างและ เกย่ี วกับระบบ - อภปิ รายเก่ียวกับ - ใบความรู้
- ใบปฏบิ ัตติ ิการ
การเจรญิ เติบโต การทำงานตา่ ง ๆ โครงสร้างราก โครงสร้างราก

ของราก ของพชื - บทปฏิบัติตกิ าร

โครงสรา้ งราก

5

สปั ดาห์ ช่ัวโมง หน่วย/ สมรรถนะการ กจิ กรรมการ สือ่ การสอน เวลา ชว่ั โมง

ท่ี ท่ี สาระการเรียนรู้ เรยี นรู้ จดั การเรียนการสอน (ชั่วโมง) รวม

9-18 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 ระบบการทำงานของพชื 10

13-14 - โครงสร้างและ - สืบคน้ อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 2

หนา้ ท่ขี องลำตน้ เกยี่ วกับโครงสร้างลำ - ใบความรู้

ตน้ - ใบปฏบิ ัติติการ

- บทปฏบิ ตั ติ กิ าร โครงสรา้ งลำตน้

5 โครงสร้างลำต้น

15 - โครงสรา้ งและ - สบื คน้ อภิปราย - ส่ือPowerPoint 1

หนา้ ที่ของใบ เก่ียวกบั โครงสรา้ งใบ - ใบความรู้

แสดงความรู้ - บทปฏบิ ัติตกิ าร - ใบปฏิบัตติ ิการ
โครงสร้างใบ โครงสร้างใบ

เกยี่ วกับระบบการ

16-17 - การลำเลยี งน้ำ ทำงานตา่ ง ๆ ของ - สืบค้น อภิปราย - สอื่ PowerPoint 2

ของพืช พชื เกย่ี วกับการลำเลยี ง - ใบความรู้

น้ำของพชื - ใบปฏิบัติติการ

- บทปฏิบตั ิติการ การลำเลียงนำ้

6 การลำเลียงนำ้ ของพืช ของพืช

18 - การลำเลียง - สืบค้น อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 1

สารอาหารของ เกีย่ วกบั การลำเลยี ง - ใบความรู้

พชื สารอาหารของพืช - ใบปฏบิ ตั ิติการ

การลำเลียง

สารอาหารของพืช

19-27 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ระบบการทำงานของสัตว์ 9

19-20 - ระบบย่อย - สบื คน้ อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 2

อาหาร เกี่ยวกับระบบย่อย - ใบความรู้

แสดงความรู้ อาหาร - ใบงานระบบย่อย

เกี่ยวกบั ระบบการ อาหาร

7 21-22 - ระบบไหลเวียน ทำงานตา่ ง ๆ ของ - สืบคน้ อภิปราย - สื่อPowerPoint 2
เลอื ด สัตว์
เกี่ยวกับระบบ - ใบความรู้

ไหลเวยี นเลอื ด - ใบปฏบิ ตั ติ ิการ

- บทปฏิบัตติ ิการ ระบบไหลเวียน

ระบบไหลเวียนเลอื ด เลือด

6

สปั ดาห์ ช่วั โมง หน่วย/ สมรรถนะการ กจิ กรรมการ สอ่ื การสอน เวลา ชว่ั โมง

ท่ี ท่ี สาระการเรียนรู้ เรียนรู้ จัดการเรียนการสอน (ชั่วโมง) รวม

19-27 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ระบบการทำงานของสัตว์ 9

8 23-24 - ระบบหายใจ - สืบคน้ อภิปราย - สอ่ื PowerPoint 2

เก่ยี วกบั ระบบหายใจ - ใบความรู้

- บทปฏิบตั ิตกิ าร - ใบปฏิบัตติ ิการ

ระบบหายใจ ระบบหายใจ

25-26 - ระบบขบั ถ่าย แสดงความรู้ - ส่อื PowerPoint 2
เกีย่ วกบั ระบบการ - สืบค้น อภปิ ราย - ใบความรู้
- ใบปฏิบัตติ ิการ
ทำงานตา่ ง ๆ ของ เกย่ี วกับระบบหายใจ ระบบขับถ่าย
พชื - บทปฏบิ ตั ิตกิ าร

ระบบขับถ่าย

9

27 - ระบบประสาท - สบื คน้ อภิปราย - สือ่ PowerPoint 1

และอวยั วะรับ เก่ียวกบั ระบบ - ใบความรู้

สัมผสั ประสาทและอวัยวะ - ใบงานระบบ

รับสมั ผัส ประสาทและ

อวยั วะรับสัมผัส

28-33 หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุรรม 6

9 28 - ความหมาย - สบื ค้น อภปิ ราย - ส่อื PowerPoint 1

และประเภทของ เก่ียวกบั พันธกุ รรม - ใบความรู้

พนั ธกุ รรม - กิจกรรม พันธุกรรม - ใบกิจกรรม

น่ารู้ พนั ธุกรรมนา่ รู้

แสดงความรู้

29 - การค้นพบ เกี่ยวกบั การ - สืบค้น อภปิ ราย - สอ่ื PowerPoint 1

ความรู้ทางพนั ธุ ถา่ ยทอดลักษณะ เกยี่ วกบั การคน้ พบ - ใบงานการคน้ พบ

ศาสตร์ ทางพนั ธกุ รรม ความรู้ทางพันธุ ความรู้ทางพนั ธุ

ตามกฎของเมน ศาสตร์ ศาสตร์

10 เดล

30-31 - โครโมโซมและ - สบื ค้น อภิปราย - สื่อPowerPoint 2

ยีน เกี่ยวกับโครโมโซม - ใบความรู้

และยีน - ใบปฏบิ ตั ติ ิการ

- บทปฏบิ ตั ติ ิการ โครโมโซม

โครโมโซม

7

สปั ดาห์ ชวั่ โมง หนว่ ย/ สมรรถนะการ กจิ กรรมการ ส่ือการสอน เวลา ชว่ั โมง

ท่ี ท่ี สาระการเรียนรู้ เรยี นรู้ จดั การเรียนการสอน (ช่ัวโมง) รวม

28-33 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 4 การถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธรุ รม 6

32 - โรคทาง - สบื คน้ อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 1

พันธุกรรม แสดงความรู้ เกี่ยวกับโรคทาง - ใบความรู้

เกย่ี วกบั การ พันธกุ รรม - ใบงานโรคทาง

ถา่ ยทอดลักษณะ พันธุกรรม
11 ทางพนั ธุกรรม

33 - การเกดิ มวิ เท ตามกฎของเมน - สบื คน้ อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 1

ชัน เดล เกี่ยวกบั การเกิดมวิ เท - ใบความรู้

ชนั - ใบงานการเกดิ มวิ

เทชนั

34-39 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 5 เทคโนโลยชี ีวภาพ 6

34 - ความหมาย - สืบค้น อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 1

11 และความเป็นมา เกย่ี วกบั เทคโนโลยี - ใบความรู้

ของเทคโนโลยี ชีวภาพ - ใบงานเทคโนโลยี

ชีวภาพ ชวี ภาพ

35-36 - พันธุวิศวกรรม - สืบคน้ อภปิ ราย - สื่อPowerPoint 2
1
เกี่ยวกับพนั ธุ - ใบความรู้ 1
1
วิศวกรรม - ใบกจิ กรรม

- กิจกรรม พันธุวศิ วกรรม
12 แสดงความรู้ พนั ธุวิศวกรรม
37 - การโคลน เกีย่ วกับ
- สบื ค้น อภิปราย - สอ่ื PowerPoint
เทคโนโลยีชีวภาพ เกีย่ วกับการโคลน - ใบงานการโคลน
และหลกั การผลิต

ของสงิ่ มชี ีวิต

ดดั แปร

38 - ประโยชนข์ อง พนั ธุกรรม - สืบคน้ อภปิ ราย - สอ่ื PowerPoint

เทคโนโลยี เกย่ี วกบั ประโยชน์ - ใบงานการโคลน

ชีวภาพ ของเทคโนโลยี ประโยชนข์ อง

ชีวภาพ เทคโนโลยี

13 ชวี ภาพ

39 - ผลของเทคโน - อภปิ รายเก่ียวกับผล - ส่อื PowerPoint

โลยชี วี ภาพที่มี ของเทคโนโลยี - ใบความรู้

ต่อสงั คมและ ชีวภาพทม่ี ีต่อสังคม

สิ่งแวดล้อม และ

8

สปั ดาห์ ชวั่ โมง หน่วย/ สมรรถนะการ กจิ กรรมการ สื่อการสอน เวลา ชั่วโมง

ท่ี ท่ี สาระการเรยี นรู้ เรียนรู้ จดั การเรยี นการสอน (ช่วั โมง) รวม

40-47 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 6 ความหลากหลายทางชีวภาพ 8

40 - ความ - สบื คน้ อภิปราย - ส่อื PowerPoint 1

หลากหลายทาง เก่ยี วกบั ความ - ใบความรู้

ชวี ภาพ หลากหลายทาง - ใบงานความ

ชีวภาพ หลากหลายทาง

ชีวภาพ

14 41-42 - การศกึ ษา - สบื ค้น อภปิ ราย - สอ่ื PowerPoint 2

ความ เกีย่ วกบั การศกึ ษา - ใบความรู้

หลากหลายทาง ความหลากหลายทาง - ใบกจิ กรรม

ชวี ภาพ ชวี ภาพ นกั วิทยส์ ำรวจโลก
แสดงความรู้ - กจิ กรรม นกั วิทย์
เกย่ี วกับความ สำรวจโลก

15 43-45 - อาณาจกั รของ หลากหลายทาง - สบื คน้ อภิปราย - สื่อPowerPoint 3

ส่ิงมีชีวิต ชีวภาพและ เก่ยี วกับอาณาจักร - ใบความรู้

สามารถจัด ของส่ิงมีชีวติ - ใบปฏิบัตติ ิการ

จำแนกสง่ิ มชี วี ติ - บทปฏิบตั ติ กิ าร อาณาจกั รของ

ออกเป็นหมวดหมู่ อาณาจักรของ ส่ิงมชี วี ติ

ส่งิ มีชวี ิต

46 - ความหลาก - อภปิ รายเกี่ยวกับ - สอ่ื PowerPoint 1

หลายทาง ความหลากหลายทาง - ใบงานความ

ชีวภาพใน ชวี ภาพในประเทศ หลาก หลายทาง

ประเทศไทย ไทย ชวี ภาพในประเทศ

16 ไทย

47 - การสูญเสีย - อภิปรายเกย่ี วกับ - สื่อPowerPoint 1

ความหลาก การสูญเสียความ - ใบงานการ

หลายทาง หลาก หลายทาง สญู เสยี ความหลาก

ชวี ภาพ ชวี ภาพ หลายทางชวี ภาพ

9

สปั ดาห์ ชวั่ โมง หนว่ ย/ สมรรถนะการ กจิ กรรมการ สอื่ การสอน เวลา ช่ัวโมง

ท่ี ท่ี สาระการเรยี นรู้ เรียนรู้ จัดการเรียนการสอน (ชั่วโมง) รวม

48-51 หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 7 สารชีวโมเลกุล 4

16 48 - โปรตีน - สืบค้น อภปิ ราย - สือ่ PowerPoint 1

เกีย่ วกับโปรตนี - ใบงานโปรตีน

49 - เอนไซม์ แสดงความรู้ - บทปฏบิ ัตติ ิการ - สอื่ PowerPoint 1

เกย่ี วกบั สารชีว เอนไซม์ - ใบความรู้

โมเลกลุ และเลือก - ใบปฏิบตั ิติการ

บรโิ ภคอาหารใน เอนไซม์

50 - คารโ์ บไฮเดรต ชวี ิตประจำวนั ได้ - สืบค้น จำแนก - ส่ือPowerPoint 1
17 อยา่ งถกู สดั สว่ น อภิปรายเก่ียวกบั - ใบความรู้

และปลอดภยั คารโ์ บไฮเดรต

51 - ไขมัน - สืบคน้ จำแนก - ส่อื PowerPoint 1

18 52-54 อภิปรายเก่ียวกับ - ใบความรู้
รวมตลอดภาคเรียน
ไขมนั - ใบปฏิบตั ิติการ

- บทปฏบิ ัตติ กิ าร ไขมัน

ไขมัน

วดั ผลและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี น 3

18 สปั ดาห์ เวลารวม 54 ช่ัวโมง

10

โครงการจดั การเรียนรู้แบบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ชอ่ื วิชา วทิ ยาศาสตร์เพอื่ พัฒนาอาชพี เกษตรกรรม รหสั 20000–1305

ท–ป–น 1–2–2 จำนวนคาบสอน 3 คาบ : สัปดาห์ ระดับช้นั ปวช.

สัปดาหท์ ี่ หนว่ ยที่ ชอื่ หนว่ ย จำนวนคาบ
1 1 เซลล์และการคน้ พบ 1
2 ชนิดและรปู รา่ งของเซลล์ 1
3 2 โครงสรา้ งและองค์ประกอบของเซลล์ 2
4 การแบ่งเซลล์ 1
5 3 การลำเลียงสารผ่านเซลล์ 2
เนอื้ เยอ่ื และการเจริญเติบโตของพืช 2
6 4 โครงสรา้ งและการเจรญิ เติบโตของราก 2
7 5 โครงสรา้ งและหนา้ ทข่ี องลำต้น 2
8 6 โครงสร้างและหนา้ ทีข่ องใบ 1
9 การลำเลยี งน้ำของพืช 2
10 การลำเลียงสารอาหารของพืช 2
11 การลำเลยี งสารอาหารของพชื 1
ระบบย่อยอาหาร 2
12 ระบบไหลเวียนเลือด 2
13 ระบบหายใจ 2
14 ระบบขบั ถ่าย 2
ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผสั 1
ความหมายและประเภทของพันธุกรรม 1
การค้นพบความรทู้ างพนั ธศุ าสตร์ 1
โครโมโซมและยีน 2
โรคทางพนั ธกุ รรม 1
การเกดิ มวิ เทชนั 1
ความหมายและประเภทของพันธกุ รรม 1
พันธุวศิ วกรรม 2
การโคลน 1
ประโยชน์ของเทคโนโลยีชวี ภาพ 1
ผลของเทคโนโลยชี วี ภาพทม่ี ตี ่อสังคมและสิ่งแวดล้อม 1
ความหลากหลายทางชวี ภาพ 1
การศึกษาความหลากหลายทางชีวภาพ 2

11

โครงการจดั การเรียนรแู้ บบมุ่งเน้นสมรรถนะอาชีพและบูรณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

ชอื่ วิชา วทิ ยาศาสตร์เพ่ือพัฒนาอาชีพเกษตรกรรม รหสั 20000–1305

ท–ป–น 1–2–2 จำนวนคาบสอน 3 คาบ : สัปดาห์ ระดับชั้น ปวช.

สปั ดาห์ท่ี หน่วยท่ี ชอื่ หน่วย จำนวนคาบ
15 3
16 อาณาจกั รของสงิ่ มชี ีวติ 1
1
17 6 ความหลากหลายทางชวี ภาพในประเทศไทย 1
18 1
การสูญเสยี ความหลากหลายทางชวี ภาพ 1
1
โปรตนี 3
54
เอนไซม์

7 คาร์โบไฮเดรต

ไขมัน

วัดผลและประเมินผลปลายภาคเรียน

รวม

แผนการจัดการเรยี นร้มู งุ่ เนน้ สมรรถนะ 12
วิชา วิทยาศาสตรเ์ พ่ือพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม
รหัสวิชา 2000-1305 หน่วยที่ 2
สอนครง้ั ที่ 6
ชอ่ื หนว่ ย เนื้อเยื่อถาวร (Permanent tissue) ชัว่ โมงรวม 1 ชว่ั โมง

1. สาระสำคญั
เนอ้ื เยื่อถาวร (Permanent tissue) เปน็ เนอื้ เยือ่ ซึ่งเจริญเติบโตเต็มทีแ่ ล้ว ประกอบด้วยกลุ่มเซลลท์ ี่

เปล่ียนแปลงมาจากเน้ือเยื่อเจรญิ มรี ูปรา่ งคงที่ ไม่มกี ารแบง่ ตวั เพม่ิ ข้ึนอีกและมหี น้าทเ่ี ฉพาะอยา่ ง แบง่ ออกไดเ้ ป็น ดังน้ี
1. เน้อื เยอื่ ถาวรเชิงเด่ียว (Simple permanent tissue) ประกอบดว้ ยกลุ่มเซลลช์ นดิ เดียวกนั ทำหนา้ ท่ี

อยา่ งเดยี วกนั แบง่ ไดห้ ลายชนดิ ตามหน้าท่ีและสว่ นประกอบภายในเซลล์ ไดแ้ ก่
1.1 เอพเิ ดอรม์ สิ (Epidermis) เป็นเนือ้ เย่อื ที่อย่รู อบนอกสดุ ของสว่ นต่าง ๆ ของพชื หน้าทป่ี ้องกันอันตราย
ใหแ้ ก่เนอื้ เยอ่ื ทแ่ี ละการสญู เสยี น้ำของพืช
1.2 พาเรงคิมา (Parenchyma) เป็นเนอื้ เยือ่ ทีพ่ บทัว่ ไปในพชื ทำหนา้ ทส่ี ะสมน้ำและอาหาร
1.3 คอลเลงคมิ า (Collenchyma) เป็นเนื้อเยอื่ ท่ีพบมากท่บี ริเวณเหลยี่ ม มุมของลำตน้ ทำหนา้ ทใี่ ห้
ความแข็งแรงแก่พืช
1.4 สเคอเรงคิมา (Sclerenchyma) เปน็ เนอื้ เย่ือท่ีให้ความแขง็ แรงแกพ่ ชื แบ่งออกเป็น 2 ชนิดคือ ไฟเบอร์
(Fiber) และสเคลอรดี (Sclereid)
1.5 เอนโดเดอร์มิส (Endodermis) เปน็ เนื้อเยอื่ ท่ีอยู่ดา้ นนอกของเน้อื เยื่อลำเลียงของราก
1.6 คอร์ก (Cork)เป็นเนื้อเย่อื ชัน้ นอกสุดของลำตน้ และรากของพชื ทมี่ เี นือ้ ไมท้ ่ีมอี ายุมาก
2. เน้อื เย่อื ถาวรเชงิ ซอ้ น (Complex permanent tissue) ประกอบดว้ ยกลุม่ เซลลห์ ลายชนิดมาอยูร่ วมกัน

และทำงานรว่ มกัน ได้แก่ เนอื้ เยอ่ื ลำเลียง (Vascular tissue) ซ่ึงแบง่ เป็น 2 ประเภทคอื
2.1 ไซเลม็ (Xylem) เปน็ เน้อื เยอ่ื ทท่ี ำหน้าท่เี ก่ียวกับการลำเลียงน้ำและแรธ่ าตุตา่ ง ๆ ประกอบดว้ ย
เซลล์ 4 ชนดิ คือ Tracheid, Vessel, Xylem parenchyma และ Xylem fiber
2.2 โฟลเอม็ (Phloem) เป็นเนือ้ เยือ่ ทท่ี ำหนา้ ท่ีเปน็ ท่อลำเลยี งอาหารประกอบด้วยเซลล์ 4 ชนดิ คือ
Sieve tube, Companion cell , Phloem parenchyma และ Phloem fiber

2. สมรรถนะประจำหน่วย
2.1 แสดงความรู้เก่ียวกับระบบการทำงานตา่ ง ๆ ของพืช

13

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 ดา้ นความรู้
3.1.1 นักเรยี นสามารถอธิบายการทำงานของเน้ือเยือ่ ชนิดต่าง ๆ ของพชื ได้
3.2 ดา้ นทกั ษะ
3.2.1 นกั เรยี นสามารถทำงานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้
3.3 ดา้ นคณุ ลักษณะที่พึงประสงค์
3.3.1 นักเรียนให้ความรว่ มมอื และทำงานร่วมกับผู้อนื่ ได้
3.3.2 นักเรยี นมีความใฝ่เรียนรแู้ ละมงุ่ มัน่ ในการทำกจิ กรรมใหเ้ สร็จตามข้ันตอน

4. เนื้อหาสาระการเรยี นรู้
4.1 เน้อื เยอ่ื และการเจริญเติบโตของพชื

5. กจิ กรรมการเรียนรู้
จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ โดยใชร้ ปู แบบ 5E
5.1 สร้างความสนใจ (Engagement)
ครูนำเขา้ สู่บทเรยี นด้วยวิธกี ารดังนี้
5.1.1 ครใู ห้นกั เรยี นทุกคนชว่ ยกนั จำแนกชนดิ ของเนอ้ื เยื่อถาวรจากส่ือการเรียนการสอน เร่อื ง เนือ้ เยอ่ื ถาวร

(Permanent tissue) โดยครจู ะยังไมเ่ ฉลยคำตอบเพือ่ นำเขา้ สู่บทเรียนตอ่ ไป
5.2 สำรวจและค้นหา (Exploration)
5.2.1 ครูแบง่ กลุ่มนกั เรยี นออกเป็น 5 กลมุ่ กลุม่ ละ 4 คน แบบคละความสามารถ (เกง่ ปานกลาง อ่อน)

โดยวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นรายบคุ คลจากผลการเรยี นท่ผี า่ นมา เพ่อื รว่ มกันทำกจิ กรรม สนุกคดิ พชิ ิต Plant tissue
5.2.2 จากน้ันครูนำ QR CODE ไปติดบริเวณตา่ ง ๆ ท่วั หอ้ งเรียน
5.2.3 ครอู ธบิ ายและชีแ้ จงเกย่ี วกบั กิจกรรมวา่ ให้นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มตามหา QR CODE ทค่ี รูติดไว้แลว้ สแกน

QR CODE ทพ่ี บ ซง่ึ ใน QR CODE จะเปน็ ขอ้ คำถามท่เี กย่ี วกบั เนอื้ เยือ่ ถาวร (Permanent tissue) จากนน้ั ร่วมกนั หา
คำตอบจากข้อคำถาม โดยเขียนคำตอบที่ได้ลงในใบกจิ กรรมที่ครูเตรยี มไว้ โดยกลมุ่ ทีต่ อบคำถามได้รวดเร็วและครบทกุ
ขอ้ จะได้รบั คะแนนพิเศษ

5.3 อธิบายและลงข้อสรุป (Explanation)
5.3.1 ครแู ละนักเรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรม สนกุ คิดพชิ ติ Plant tissue
5.3.2 เมอื่ ส้ินสุดกจิ กรรมครูสุ่มตวั แทนของแต่ละกลุม่ ให้ออกมาสรปุ เนือ้ หาความร้ทู ่ีได้จากการทำกจิ กรรม และ
ครูอธบิ ายเน้ือหาเพิ่มเติม เร่อื ง เนอื้ เย่ือถาวร (Permanent tissue) โดยใช้สอ่ื การเรยี นการสอน PowerPoint

14

5.4 ขยายความรู้ (Elaboration)
5.4.1 ครูใหน้ ักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ยกตวั อย่างประโยชนข์ องพืชท่ีมเี น้อื เย่อื ถาวร (Permanent tissue)
(แนวคำตอบ เช่น ป่าน ปอ สบั ปะรด ออ้ ย จะมไี ฟเบอร์ (Fiber) เป็นองค์ประกอบในเส้นใย ซ่ึงจะช่วยใหค้ วามแขง็ แรง
แก่พชื ช่วยพยงุ ลำตน้ ให้ตง้ั ตรงแข็งแรง จากคุณสมบตั ดิ ังกลา่ วจงึ ไดม้ กี ารนำมาใชป้ ระโยชนท์ างดา้ นเศรษฐกจิ คอื
การนำเสน้ ใยมาแปรรูปในเชงิ อุตสาหกรรม เชน่ การผลติ กระดาษ เสื้อผา้ เครื่องนุ่มหม่ เสน้ เชอื ก การสร้างถนนจาก
ชานออ้ ย เปน็ ต้น)
5.5 ประเมินผล (Evaluation)
5.5.1 ประเมนิ ผลจากการทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง เนอ้ื เยอื่ ถาวร (Permanent tissue) โดยใชโ้ ปรแกรม
เกม Vonder go
6. ส่อื การเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้
6.1 ส่ือสงิ่ พิมพ์

6.1.1 สื่อการเรียนการสอน เรอื่ ง เนอ้ื เยื่อถาวร (Permanent tissue)
6.1.2 QR CODE ข้อคำถามของกิจกรรม สนุกคดิ พชิ ิต Plant tissue
6.1.3 ใบกจิ กรรม สนกุ คดิ พชิ ติ Plant tissue
6.1.4 ใบความรู้ เร่อื ง เนือ้ เยอื่ ถาวร (Permanent tissue)
6.2 ส่อื โสตทศั น์
6.2.1 ส่อื การเรยี นการสอน PowerPoint เรอื่ ง เน้อื เยอ่ื ถาวร (Permanent tissue)
6.2.2 แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง เน้ือเยอ่ื ถาวร (Permanent tissue) โดยใชโ้ ปรแกรมเกม Vonder go
7. เอกสารประกอบการจดั การเรยี นรู้
- E-Book เร่ือง เนือ้ เย่ือถาวร (Permanent tissue)
8. การบูรณาการ/ความสมั พันธ์กบั วิชาอนื่
- สามารถนำไปประยกุ ตใ์ ช้ในรายวิชาิทยาศาสตร์เพือ่ พฒั นาทกั ษะชีวิต เปน็ พ้นื ฐานในการต่อยอดความรู้ด้าน
วทิ ยาศาสตร์ตอ่ ไป
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ก่อนเรียน
- การทำกจิ กรรมจำแนกชนดิ ของเนอ้ื เยอื่ ถาวรจากส่ือการเรียนการสอน เรอ่ื ง เนื้อเย่อื ถาวร (Permanent
tissue)
9.2 ขณะเรยี น
- การทำกิจกรรม สนุกคดิ พชิ ติ Plant tissue
- แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏบิ ตั ิกิจกรรมกลมุ่
- แบบสังเกตพฤตกิ รรม
9.3 หลังเรยี น
- แบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง เนื้อเยือ่ ถาวร (Permanent tissue) โดยใชโ้ ปรแกรมเกม Vonder go

15

แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิกิจกรรมกลุม่

กลุ่มท.ี่ ..............

คำช้ีแจง ใหค้ รผู สู้ อน สังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิกจิ กรรมกลุม่ ของนกั เรียน ทำเคร่ืองหมาย  ในชอ่ งทีต่ รงกับ
ความเปน็ จรงิ

รายการประเมิน

ช่อื -สกลุ การมสี ว่ นร่วม การปฏิบัตงิ าน การแสดง การยอมรบั การตรงตอ่ รวม
ผ้รู ับการประเมนิ ในการวางแผน ตามบทบาท ความคดิ เห็น ความคดิ เห็น เวลา (15 คะแนน)

1. หนา้ ท่ี

3 2 13 2 1 32 13 2 132 1

2.

3.

4.

รวมเปน็ คะแนนกลมุ่

คา่ เฉล่ียคะแนนกลมุ่

เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน (ดี)
พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน (พอใช)้
พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิบางครั้ง ให้ 1 คะแนน (ปรบั ปรงุ )
พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ัตนิ ้อยคร้ัง

เกณฑ์การประเมินระดับคณุ ภาพ
คะแนน 14-15 อยใู่ นเกณฑ์ ดมี าก
คะแนน 11-13 อยูใ่ นเกณฑ์ ดี
คะแนน 8-10 อยู่ในเกณฑ์ พอใช้
คะแนน 5-7 อยใู่ นเกณฑ์ ปรับปรุง

16

แบบสังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน

การสงั เกต : สัปดาหท์ .่ี ............................วนั /เดือน/ป.ี ........................................เวลา................................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน

ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่ำเสมอ = มากทสี่ ุด ให้ 5 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้งั = มาก ให้ 4 คะแนน

ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ัง = ปานกลาง ให้ 3 คะแนน

ปฏิบัติหรอื แสดงพฤติกรรมนอ้ ยคร้ัง = นอ้ ย ให้ 2 คะแนน

ไมป่ ฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรม = น้อยทส่ี ุด ให้ 1 คะแนน

คำชแี้ จง ทำเคร่ืองหมาย ในช่องวา่ งตามพฤตกิ รรมท่ีเป็นจรงิ

รายการประเมนิ

ชื่อ-สกลุ นกั เรยี นมวี นิ ัยใน นกั เรยี นสนใจในการเรยี น นกั เรียนกระตือรือร้นใน รวม (15 คะแนน)
ผรู้ ับการประเมนิ หอ้ งเรียน การทำกจิ กรรมในกลุม่

543215432154321

1.

2.

3.

4.

รวมเป็นคะแนนกลุม่

คา่ เฉลี่ยคะแนนกลมุ่

เกณฑ์การประเมินคุณภาพ
คะแนน 13-15 อยู่ในเกณฑ์ ดี
คะแนน 9-12 อยู่ในเกณฑ์ พอใช้
คะแนน 5-8 อยใู่ นเกณฑ์ ปรบั ปรงุ

17

สอื่ การเรียนการสอน PowerPoint
เรือ่ ง เนอื้ เย่อื ถาวร (Permanent tissue)

18

QR CODE ข้อQคRำCถOำDมEขขออ้ คงำกถาิจมขกอรงกรจิ มกรรสมนสกุนกุคคิดดพพชิ ติ ชิ PิตlanPt tliassnuet tissue

ข้อ 1 ขอ้ 2 ขอ้ 3
ข้อ 4 ข้อ 5 ข้อ 6
ขอ้ 7 ขอ้ 8

19

คำถำมสนกุ คิดพชิ ิต Plant tissue

แนวตัง้ แนวนอน

1. เป็นเซลลช์ นั้ ที่อย่นู อกสุดของพืช ชว่ ยปอ้ งกัน 2. เป็นเนื้อเยือ่ ที่มผี นงั หนา ไมม่ ชี วี ิต
อันตรายใหแ้ ก่เนื้อเยือ่ พบในกาลามะพรา้ ว

3. เปน็ ช้ันในสดุ ของราก พบแถบแคสพาเรยี น สตริป 4. เปน็ เนือ้ เยอ่ื ทพ่ี บดา้ นนอกสดุ ของลำตน้

(Casparian strip) ก่งิ หรือราก ทม่ี กี ารเจรญิ เตบิ โตทุติยภมู ิ

(Secondary growth)

5. เปน็ เนอื้ เยอื่ ที่ใช้ลำเลยี งน้ำและแร่ธาตุ 7. เปน็ เนอื้ เยอื่ ที่พบได้ทกุ ส่วนของพืช
ทำหน้าท่สี ะสมอาหารและนำ้

6. เปน็ เนือ้ เยื่อทใ่ี ช้ลำเลียงอาหาร 8. เปน็ เน้อื เยือ่ ทพี่ บได้ตามเหลย่ี มมุมของ
ลำต้นพืช มผี นงั เซลลห์ นาไมส่ มำ่ เสมอ

20

ใบกิจกรรม สนกุ คิดพชิ ิต Plant tissue

จงเติมคำศพั ท์เปน็ ภาษาองั กฤษ (เอกพจน์) ลงในชอ่ งว่างตามหมายเลขที่กำหนด โดยให้มีความหมายตรงกบั ข้อความ

สมาชกิ ในกลมุ่

1.) …………………………………………….. 2.) ………………………………………………
3.) …………………………………………….. 4.) ………………………………………………

21

เฉลยใบกิจกรรม สนกุ คิดพชิ ิต Plant tissue

จงเตมิ คำศัพทเ์ ปน็ ภาษาองั กฤษ (เอกพจน์) ลงในช่องวา่ งตามหมายเลขที่กำหนด โดยใหม้ คี วามหมายตรงกับขอ้ ความ

22

คำอธิบำยเพม่ิ เติม

1. เอพิเดอรม์ สิ (Epidermis) เป็นเซลลช์ นั้ ทอ่ี ยนู่ อกสุดของพืชชว่ ยปอ้ งกนั อนั ตรายให้แก่เนือ้ เย่ือท่ีอย่ภู ายในและ
เสริมความแขง็ แรง

2. สเกลอเรงคมิ า (Sclerenchyma) มผี นังเซลล์ทุตยิ ภมู ิ (Secondary cell wall) คอ่ นข้างหนา และเซลล์ทโ่ี ตเตม็ ท่ี
เซลลจ์ ะไม่มีชีวติ

3. เอนโดเดอรม์ ิส (Endodermis) เป็นเซลลท์ พ่ี บอย่ดู ้านนอกของเนอ้ื เยอื่ ลำเลยี งของราก มแี คสพาเรยี น สตริป
(Casparian strip)

4. คอร์ก (Cork) เป็นเซลลท์ ีพ่ บด้านนอกสุดของลำตน้ กิง่ หรือราก ที่มีการเจรญิ เตบิ โตทุติยภูมิ (Secondary growth)

5. ไซเลม็ (Xylem) เปน็ เนื้อเยื่อท่ีทำหน้าทลี่ ำเลยี งนำ้ และแร่ธาตุ จากรากไปยังสว่ นต่าง ๆ ของพืช

6. โฟลเอ็ม (Phloem) เปน็ เน้อื เย่ือทที่ ำหนา้ ทล่ี ำเลยี งอาหารท่ไี ด้จากกระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง หรอื จาก
การสลายอาหารทีส่ ะสม ส่งไปยงั ส่วนตา่ ง ๆ ของพชื

7. พาเรงคมิ า (Parenchyma) เปน็ เน้ือเย่ือที่พบได้ในทกุ ส่วนของพชื ประกอบด้วยเซลลท์ ีม่ ชี วี ติ เรียกว่า
เซลลพ์ าเรงคิมา (Parenchyma cell) ทำหน้าทส่ี ะสมอาหารและน้ำ

8. คอลเลงคมิ า (Collenchyma) เปน็ เน้อื เยอ่ื ท่พี บได้ตามเหลี่ยมมุมของลำตน้ พชื มีผนังเซลลห์ นาไมส่ มำ่ เสมอ
เพราะมสี ารพวกเพคตนิ มาสะสม

23

ใบควำมรู้ เร่ือง เน้ือเยื่อถำวร (Permanent tissue)

เนอ้ื เยอ่ื ถาวร (Permanent tissue) คอื เย่ือพชื ซ่งึ ประกอบด้วยเซลล์ทีแ่ บ่งตวั ไม่ได้และมรี ปู ร่างคงที่
ไม่เปลยี่ นแปลง โดยจะคงรูปรา่ งลักษณะเดมิ ไวต้ ลอดชีวิตของส่วนนัน้ ๆ ของพชื เนอ้ื เย่ือชนดิ น้เี จริญเติบโตและ
เปลยี่ นแปลงมาจากเนื้อเย่อื เจรญิ เพ่อื หนา้ ทต่ี า่ งๆ กนั จนเซลลม์ รี ปู รา่ งเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม มีแวควิ โอลและ
ผนงั เซลลก์ ็เปลีย่ นไปขนึ้ อยูก่ ับว่าจะกลายไปเป็นเนอื้ เย่ือถาวรชนดิ ไหน ซ่งึ โดยมากมักมีสารประกอบตา่ งๆ
ไปสะสมบนผนังเซลลใ์ หห้ นาขึ้นเพื่อให้เกิดความแขง็ แรง

เนอื้ เย่ือถาวรจำแนกตามชนิดของเซลล์ทมี่ าประกอบกัน แบ่งได้เปน็ 2 กล่มุ คอื

1. เนอื้ เย่ือถาวรเชิงเดี่ยว (Simple tissue)

คือ เนอ้ื เยอ่ื ที่ประกอบข้นึ จากเซลล์เพยี งชนิดเดยี ว ไดแ้ ก่

1.1 เอพิเดอรม์ สิ (Epidermis) หรอื เนอื้ เยื้อชัน้ เปน็ เนอื้ เยื่อทีเ่ กิดจากเอพิเดอร์มสิ หลายเซลลอ์ ย่รู วมกนั

มลี กั ษณะสำคญั

• เปน็ เซลล์ชน้ั ทอี่ ยู่นอกสดุ ของพืช
• ผนังเซลล์บาง มีพวกสารคิวติน (Cutin) มาเคลือบ
• เปลีย่ นแปลงไปทำหน้าทพ่ี ิเศษ เช่น เซลล์คมุ (Guard cell)

เซลลข์ น (Trichome) ,ขนราก (Root hair)

หน้าทส่ี ำคัญของเอพิเดอรม์ สิ

• ชว่ ยปอ้ งกนั อันตรายให้แกเ่ นอ้ื เยอื่ ทอ่ี ยภู่ ายในและเสริมความแข็งแรง
• ช่วยปอ้ งกนั การระเหย และการคายน้ำของพืช
• ชว่ ยดดู ซึมน้ำและแรธ่ าตุ

เซลลค์ ุม (Guard cell) เซลล์ขน (Trichome) ขนราก (Root hair)

24

1.2 พาเรงคิมา (Parenchyma) เปน็ เซลลพ์ ืน้ ฐานทวั่ ไป และพบมากทสี่ ุดในพืช มีแทรกอยแู่ ทบทุกส่วน

มีลกั ษณะสำคญั

• เม่ือโตเต็มทเี่ ซลล์ยงั มชี ีวติ
• มแี วควิ โอลใหญ่เกอื บเตม็ เซลล์

• มีรปู ร่างหลายแบบ เมอ่ื อยู่รวมกันเกดิ ช่องว่าง ที่เรียกว่า
แอเรงคิมา (Aerenchyma)

• ผนงั เซลล์บาง

หนา้ ท่สี ำคญั ของพาเรงคิมา

• ทำหนา้ ทีเ่ ก็บสะสมน้ำและอาหาร

• สามารถแปรสภาพเป็นเน้ือเย่ือเจริญได้ คลอเรงคมิ า รเี ซริ ฟ์ ว พาเรงคิมา

• สะสมคลอโรพลาสต์อยู่ในเซลล์ เรยี กวา่ คลอเรงคมิ า (Chlorenchyma)

• สะสมแปง้ โปรตีน หรอื ไขมนั อยู่ เรยี กว่า รเี ซิร์ฟว พาเรงคมิ า (Reserved parenchyma)

1.3 คอลเลงคิมา (Collenchyma) เปน็ เนื้อเย่ืออยู่ถดั จากเอพเิ ดอรม์ สิ พบมากทีบ่ ริเวณมมุ ของลำตน้ หรอื กา้ นใบ

หรือเส้นกลางใบ

มีลกั ษณะสำคญั

• มีรูปร่างหลายเหลย่ี ม ค่อนข้างยาว
• ผนงั เซลล์หนาไมส่ มำ่ เสมอ มีสารพวกเพคตนิ มาสะสม
• เม่ือโตเตม็ ทเ่ี ซลล์ยังมีชวี ิต

หนา้ ทส่ี ำคัญของคอลเลงคมิ า

• ใหค้ วามแขง็ แรงแก่พืช
• ป้องกันแรงเสียดทานได้
• สามารถกลบั มาเป็นเนื้อเยอื่ เจรญิ ได้

คอลเลงคมิ า (Collenchyma)

25

1.4 สเกลอเรงคมิ า (Sclerenchyma) พบในเนอื้ เยื่อพื้นของลำต้น ใบ ผล เปลือกไม้ เปลือกผล

มลี ักษณะสำคญั

• ผนงั เซลล์ทุติยภมู ิ มกี ารสะสมสารลิกนิน ไฟเบอร์ (Fiber)
• เซลลท์ โ่ี ตเต็มทเี่ ซลล์จะไมม่ ชี ีวิต

จำแนกออกไดเ้ ปน็ 2 ชนดิ ตามรปู ร่างของเซลล์ ดังนี้

1. ไฟเบอร์ (Fiber, L. fibra = เส้นดา้ ย) มรี ปู รา่ งเรยี วยาว
ปลายแหลมผนังเซลล์หนาเพราะว่ามีสารลกิ นิน
มหี นา้ ท่ชี ่วยใหค้ วามแขง็ แรงแกพ่ ืช

2. สเกลอรีด (sclereid or stone cell, Gr. skleros = แข็ง) สเกลอรดี (Sclereid)
หรอื เซลลส์ โตน (Stone cell) เป็นเซลลท์ ม่ี รี ูปร่างหลายเหลี่ยม ผนงั หนา

มีลกิ นินสะสม มรี ู (Pit) พบทเี่ ปลอื กผลไม้ทีแ่ ข็ง เชน่ ผลสาล่ี ฝรั่ง นอ้ ยหนา่ กาลามะพร้าว

1.5 เอนโดเดอรม์ สิ (Endodermis) พบอยดู่ า้ นนอกของเน้อื เยอ่ื มาพอกหนา
(Casparian
ลำเลยี งของราก ผนงั เซลลม์ สี ารลิกนิน (Lignin) และซูเบอรนิ (Suberin)
ใหเ้ ปน็ แถบ หรือปลอกอยู่เรียกว่า แคสพาเรยี น สตรปิ
strip)

1.6 คอรก์ (Cork) พบดา้ นนอกสดุ ของลำต้น กิ่ง หรือรากทมี่ กี ารเจรญิ เตบิ โตทตุ ิยภูมิ (Secondary growth) เซลล์

ซ้อนกนั หลายชน้ั มีการสรา้ งสารซเู บอริน ซึง่ เป็นสารท่ีมีสนี ้ำตาลมาเคลอื บทีผ่ นัง ทำหน้าทีป่ อ้ งกันการระเหยน้ำ

26

2. เนอื้ เยื่อถาวรเชงิ ซอ้ น (Complex permanent tissue)

คือ เซลลห์ ลายชนดิ มาอยรู่ วมกันและทำหน้าทเ่ี ดยี วกนั ไดแ้ ก่

2.1 ไซเลม็ (Xylem) ทำหนา้ ทล่ี ำเลียงนำ้ และแรธ่ าตุ จากรากไปยงั ส่วนต่าง ๆ ของพืช

ไซเลม็ (Xylem) ประกอบดว้ ยเนอื้ เยอ่ื 4 ชนิดคือ
1. เทรคีด (Tracheid) มีรปู ร่างยาว ปลายแหลม เมื่อเซลล์เจริญเต็มทแี่ ลว้ จะตาย ผนงั เซลลห์ นา
มสี ารพวกลิกนนิ พบในพชื พวกเฟิร์น และกลมุ่ จิมโนสเปริ ม์ (Gymnosperm)
2. เวสเซล เมมเบอร์ (Vessel member) พบเฉพาะในพืชดอก เซลล์มีลักษณะเป็นทอ่ กลวง
ผนงั เซลล์ มีลิกนินพอกหนา ผนังดา้ นขวางเป็นรู เรยี กแผน่ มรี ู (Perforation plate)
3. ไซเลม็ พาเรงคมิ า (Xylem parenchyma) เปน็ เซลลท์ ่ีมีชีวติ ทำหน้าที่สะสมอาหาร
4. ไซเลม็ ไฟเบอร์ (Xylem fiber) เปน็ เซลลท์ ี่ตายแล้ว ทำหน้าที่ชว่ ยเสริมความแขง็ แรงแก่พืช

Tracheid Xylem parenchyma

Vessel member

27

3. เน้อื เยอื่ ถาวรเชิงซ้อน (Complex permanent tissue)

2.2 โฟลเอม็ (Phloem) ทำหน้าท่ีลำเลยี งอาหาร

โฟลเอ็ม (Phloem) ประกอบดว้ ยเน้ือเยือ่ 4 ชนิดคอื

1. ซีฟทวิ บเ์ มมเบอร์ (Sieve tube member) เปน็ เซลลท์ ่ีมชี ีวิตแตไ่ มม่ นี ิวเคลยี ส ผนงั เซลลบ์ างดา้ นขวาง
มีลกั ษณะเป็นตะแกรง เรยี กวา่ ซฟี เพลท (Sieve plate) ชฟี ทิวบเ์ มมเบอรแ์ ต่ละอนั มาต่อกันเรยี กวา่ ซฟี ทวิ บ์ (Sieve
tube) ทำหน้าทลี่ ำเลียงอาหาร

2. คอมพาเนียนเซลล์ (Companion cell) อยขู่ า้ ง ๆ ซฟี ทวิ บ์เมมเบอร์ เปน็ เซลล์ที่มีชวี ิตขนาดเลก็
แตม่ นี ิวเคลยี สใหญ่ ทำหนา้ ทช่ี ว่ ยเหลอื การทำงานของซฟี ทิวบ์

3. โฟลเอม็ พาเรงคมิ า (Phloem parenchyma) เป็นเซลลท์ ่มี ชี วี ติ ทำหน้าที่สะสมอาหาร

4. โฟลเอ็มไฟเบอร์ (Phloem fiber) เปน็ เซลลท์ ีต่ ายแลว้ ทำหนา้ ทชี่ ่วยเสรมิ ความแขง็ แรงแกพ่ ชื

Phloem parenchyma

28

แบบทดสอบหลังเรียน ไดค้ ะแนน
เร่อื ง เน้อื เย่ือถาวร (Permanent tissue)
_________________

คะแนน

ชื่อ ______________________ นามสกุล_______________________ ชนั้ _____________ เลขท_่ี __________

คำชี้แจง จงเลอื กจับคใู่ หส้ มั พันธก์ ัน โดยนำตัวอกั ษรหน้าขอ้ ความทางขวามอื ซ่ึงเป็นลกั ษณะและหนา้ ทขี่ อง
เน้ือเย่ือพชื มาลงในช่องว่างหนา้ ช่ือชนิดของเนอ้ื เยือ่ ถาวรซ้ายมอื (เลือกไม่ซ้ำได้)

............1.) เอพเิ ดอรม์ สิ (Epidermis) ก. พบในทุกสว่ นของพืช ทำหน้าทส่ี ะสมอาหารและนำ้
............2.) สเกลอเรงคมิ า (Sclerenchyma)
............3.) พาเรงคมิ า (Parenchyma) ข. อยู่นอกสุดของพชื ช่วยป้องกันอนั ตรายให้แก่เนอื้ เยอื่
............4.) เอนโดเดอรม์ สิ (Endodermis) ท่ีอยู่ภายใน
............5.) คอลเลงคิมา (Collenchyma)
............6.) คอรก์ (Cork) ค. พบไดต้ ามเหล่ียมมุมของลำต้นพืช มีผนังเซลลห์ นา
............7.) เวสเซล เมมเบอร์ (Vessel member) ไม่สม่ำเสมอเพราะมีสารพวกเพคตนิ มาสะสม
............8.) เทรคดี (Tracheid)
............9.) ซฟี ทวิ บเ์ มมเบอร์ (Sieve tube member) ง. พบด้านนอกสดุ ของลำต้น กงิ่ หรือรากทมี่ ี
............10.) คอมพาเนียนเซลล์ (Companion cell) การเจริญเติบโตทุติยภูมิ

จ. มีผนงั เซลลท์ ตุ ิยภูมิ คอ่ นขา้ งหนา แบ่งออกเปน็
ไฟเบอร์ และเซลลส์ โตน

ฉ. อยู่ดา้ นนอกของเนอื้ เยื่อลำเลียงของราก
มแี คสพาเรียน สตริป (Casparian strip)

ช. มีขนาดใหญ่ปลายเซลลเ์ ปน็ แผ่นมีรู (Perforation
plate) หน้าทหี่ ลกั ในการลำเลียงนำ้ ให้กับพชื ดอก

ฌ. เป็นทรงกระบอกยาว ปลายเซลลท์ ง้ั สองดา้ น มแี ผ่น
ตะแกรง และเป็นเซลลท์ ่มี ีชีวิต

ฎ. มีรูปร่างยาว ปลายแหลม ไม่มชี วี ิต พบในเฟริ น์ และ
กลุม่ จมิ โนสเปิรม์ (Gymnosperm)

ฐ. เปน็ เซลล์ที่มีชีวติ มีนิวเคลยี ส รปู รา่ งผอมยาว
ทำหน้าทีส่ รา้ งพลงั งาน

29

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น ได้คะแนน
เรอ่ื ง เนือ้ เยอ่ื ถาวร (Permanent tissue)
_________________

คะแนน

ชื่อ ______________________ นามสกลุ _______________________ ช้นั _____________ เลขท_่ี __________

คำชแ้ี จง จงเลอื กจบั คู่ใหส้ มั พันธก์ นั โดยนำตวั อักษรหน้าขอ้ ความทางขวามอื ซึง่ เป็นลักษณะและหนา้ ท่ีของ
เนื้อเยือ่ พืชมาลงในช่องวา่ งหน้าชื่อชนิดของเน้ือเยือ่ ถาวรซ้ายมือ (เลือกไม่ซำ้ ได)้

......ข......1.) เอพเิ ดอร์มสิ (Epidermis) ก. พบในทกุ ส่วนของพืช ทำหน้าทส่ี ะสมอาหารและนำ้
......จ.......2.) สเกลอเรงคมิ า (Sclerenchyma)
......ก......3.) พาเรงคมิ า (Parenchyma) ข. อยู่นอกสุดของพืชชว่ ยปอ้ งกนั อันตรายให้แกเ่ น้อื เย่ือ
......ฉ......4.) เอนโดเดอรม์ สิ (Endodermis) ที่อยู่ภายใน
......ค......5.) คอลเลงคมิ า (Collenchyma)
......ง......6.) คอรก์ (Cork) ค. พบไดต้ ามเหล่ียมมุมของลำต้นพืช มผี นงั เซลล์หนา
......ช......7.) เวสเซล เมมเบอร์ (Vessel member) ไมส่ ม่ำเสมอเพราะมีสารพวกเพคตินมาสะสม
......ฎ......8.) เทรคดี (Tracheid)
......ฌ......9.) ซีฟทิวบ์เมมเบอร์ (Sieve tube member) ง. พบด้านนอกสุดของลำต้น กง่ิ หรือรากทม่ี ี
......ฐ......10.) คอมพาเนยี นเซลล์ (Companion cell) การเจรญิ เตบิ โตทุติยภมู ิ

จ. มผี นงั เซลลท์ ุตยิ ภมู ิ ค่อนขา้ งหนา แบง่ ออกเปน็
ไฟเบอร์ และเซลลส์ โตน

ฉ. อยูด่ ้านนอกของเนือ้ เยื่อลำเลียงของราก
มแี คสพาเรยี น สตริป (Casparian strip)

ช. มีขนาดใหญ่ปลายเซลล์เปน็ แผน่ มรี ู (Perforation
plate) หน้าทหี่ ลักในการลำเลยี งน้ำให้กบั พืชดอก

ฌ. เปน็ ทรงกระบอกยาว ปลายเซลลท์ ั้งสองดา้ น มแี ผ่น
ตะแกรง และเปน็ เซลล์ทมี่ ชี ีวติ

ฎ. มรี ปู ร่างยาว ปลายแหลม ไม่มชี วี ติ พบในเฟริ น์ และ
กลุม่ จมิ โนสเปริ ม์ (Gymnosperm)

ฐ. เปน็ เซลลท์ ่ีมชี วี ิต มีนวิ เคลียส รปู รา่ งผอมยาว
ทำหนา้ ทสี่ ร้างพลงั งาน

30

แผนการจดั การเรยี นรู้มงุ่ เนน้ สมรรถนะ หน่วยท่ี 2
วิชา วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือพฒั นาอาชพี เกษตรกรรม
รหสั วิชา 2000-1305 สอนครัง้ ท่ี 6
ชอ่ื หนว่ ย เน้อื เยื่อถาวร (Permanent tissue)
ชวั่ โมงรวม 1 ชว่ั โมง

10. บนั ทกึ หลังสอน
สอนวนั ที่ ..........................ระดบั ช้ัน/สาขาวิชา........................................................................
10.1 ผลการใช้แผนการจัดการเรยี นรู้

......................................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................

10.2 ผลการเรยี นรู้ของนกั เรียน นักศึกษา

.....................................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................
.

10.3 แนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการเรยี นรู้

......................................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................................................

(.............................................................) (................................................................)

ครผู สู้ อน หวั หนา้ แผนกวิชา

(...............................................................) (...............................................................)

รองผู้อำนวยการฝา่ ยวชิ าการ ผอู้ ำนวยการวิทยาลยั เทคนคิ

31

บรรณานกุ รม

ปัทมา เมืองถี. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิทยาศาสตร์และพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้โดยใช้เกมประกอบการสอนวิทยาศาสตร์ .
วทิ ยานิพนธ์ปรญิ ญาการศึกษามหาบัณฑิต :มหาวทิ ยาลัยศรนี ครนิ ทรวิโรฒ, 2552.

ณัฐญา อัมรนิ ทร. วิทยาศาสตร์เพ่ือพฒั นาทักษะชีวติ . กรงุ เทพฯ: แมค็ เอ็ดดูเคชั่น,2562.
ณฐั ญา อมั รนิ ทร์.วิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาอาชพี เกษตรกรรม. กรงุ เทพฯ:แมค็ เอด็ ดูเคช่ัน,2562.
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (2562).หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช

2562. กรุงเทพฯ: โรงพิมพค์ ุรุสภาลาดพรา้ ว.
อังคณา ลังกาวงศ.์ ความสามารถในการแก้ปญั หาของนกั เรยี นชว่ งช้ันท่ี 3 ทีไ่ ดร้ ับการสอนโดยเสริมเกมวิทยาศาสตร์.

วทิ ยานพิ นธ์ปริญญาศกึ ษาศาสตรม์ หาบัณฑิต :มหาวิทยาลยั เชยี งใหม่, 2552.

ครูที่ดี คือ

"ครู"ที่ทำหน้าที่มากกว่าคำว่า

การศึกษาที่ดี
ต้องช่วยให้เด็กทุกคน
ก้าวสู่ความสำเร็จ
ตามศักยภาพและความ

ถนัดของแต่ละคน


Click to View FlipBook Version