๒ หม่ำเมืองพล อำเภอพล จังหวัดขอนแก่น นางสาวกชกร เอกาพันธ์ นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ Soft Power เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy ที่มาจากองค์ความรู้ต่างๆ ทรัพย์สินทางปัญญา และการวิจัย เชื่อมโยงกับวัฒนธรรม พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ การสั่งสมความรู้ของสังคม เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อใช้ในการพัฒนาธุรกิจ การผลิตสินค้าและบริการ ในรูปแบบใหม่ซึ่งสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจหรือคุณค่าทางสังคมอย่างได้ผล กระทรวงวัฒนธรรมซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องสำคัญกับ “Soft Power” นั้น ก็ได้มีการพัฒนา แนวนโยบายเพื่อการยกระดับงานวัฒนธรรม ซึ่งมีประเด็นการยกระดับ soft power ไทยสู่เวทีโลกเป็นส่วนหนึ่ง โดยกำหนด นโยบายมุ่งส่งเสริมวัฒนธรรม 5 F ที่เป็น Soft Power ของไทยให้กลายเป็นสินค้าส่งออก ทางวัฒนธรรมสำคัญของไทย ได้แก่ 1.อาหาร (Food) 2.ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3.การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) 4.ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และ 5.เทศกาลประเพณีไทย (Festival) และสำนักงาน วัฒนธรรมจังหวัดขอนแก่น ในฐานะหน่วยงานผู้แทนกระทรวงในพื้นที่ มีหน้าที่ช่วยส่งเสริม Soft Power ให้ประชาชนในพื้นที่เข้าใจ และเห็นอย่างเป็นรูปธรรม โดยขอยกตัวอย่าง Soft Power ด้านอาหาร (Food) ที่โดดเด่น รายการหนึ่งของอำเภอพล ซึ่งตลอดเส้นทางถนนสายมิตรภาพ ระหว่างช่วงอำเภอพล จะสังเกตเห็นร้านค้าริมทาง ที่ขายสินค้าอย่างหนึ่ง ลักษณะเหมือนไส้กรอก แขวนตากกันไว้เต็มสองฝั่งฟากถนน ร้านค้าเหล่านี้มักตั้งอยู่ ทางถนนสายหลักเป็นเพียงเพิงเล็กๆ มักมีแม่ค้าพ่อค้า ยืนโบกกวักมือเรียกให้เราเข้าไปอุดหนุนสินค้าแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง และนี่คือเรื่องราวของ “หม่ำ” อาหารอีสาน ที่ชาวอีสานทุกคนรู้จักกันอย่างดี ที่มาและความสำคัญ หม้ำ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน หรือ หม่ำ ในภาษาท้องถิ่นอีสาน คือชื่ออาหารชนิดหนึ่ง ใช้ตับวัวหรือตับควายสับให้ละเอียด คลุกข้าวสุก เกลือ และเครื่องปรุง ขยำให้เข้ากันแล้วยัดใน กระเพราะหมู มีลักษณะเหมือน “ไส้กรอก” มีเครื่องปรุงที่สำคัญ คือ ตับสับ ม้ามสับ เนื้อสับ ปรุงเครื่องแล้วยัดใส่ในถุงกระเพาะหมู สีของหม่ำจะมีสีเข้มกว่าไส้กรอกเล็กน้อย มีส่วนผสมมากกว่า จึงทำให้หม่ำราคาแพงกว่าไส้กรอก นอกจากนี้หม่ำ ยังสามารถเก็บไว้ได้นานหลายเดือนอีกด้วย ที่สำคัญยังเป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวบ้านในอำเภอพลอีกด้วย และถือว่าเป็นการถนอมอาหารที่เป็นเอกลักษณ์และแสดงถึงภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวอำเภอพลในรูปแบบหนึ่ง หม่ำ เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านของชาวอีสานในการใช้ประโยชน์จากเนื้อสัตว์อย่างคุ้มค่า และยังสามารถเก็บ รักษาถนอมอาหารไว้เป็นเวลานาน ซึ่งถือเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งที่เห็นชัดของอาหารพื้นบ้านทางภาคอีสาน คือมักจะเป็นอาหารที่ผ่านการหมักดองเพื่อเก็บถนอมอาหาร เช่น ปลาแดก ปลาส้ม เป็นต้น เพียงแต่หม่ำ จะมีวิธีการหมักแบบแห้ง ต้องผึ่งแดดและใช้เครื่องในเป็นส่วนผสม จึงทำให้ หม่ำ แตกต่างไปจากวิธีการถนอม อาหารประเภทอื่น ๆ หม่ำ ของชาวอีสานโบราณ ส่วนมากจะทำจากเนื้อวัว และเนื้อควาย สำหรับกรรมวิธีในการทำหม่ำเนื้อ ก็จะใช้ตับวัวบด ม้ามบด เนื้อแดงบด เกลือ กระเทียม ข้าวคั่ว ยัดใส่ไปในถุงน้ำดี หรือไส้วัว และต่อมามีการพัฒนา กรรมวิธีการปรุงโดยการใช้หมู ซึ่งอาจเป็นเพราะคนบริโภคเนื้อน้อยลง คนอีสานโบราณจะนิยมทำหม่ำกันเมื่อมี การจัดงานบุญ ซึ่งส่วนมากจะเป็นหม่ำเนื้อ เช่น ในงานแต่ง งานบวช และงานบุญอื่น ๆ
๓ หม่ำ นับว่าเป็นอาหารพื้นเมืองของชาวอีสานที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานาน ปัจจุบัน จะเห็นว่านอกจากหม่ำ ที่ทำจากเนื้อวัวและเนื้อควายแล้ว หม่ำที่ทำจากเนื้อหมูก็ได้รับความนิยมเช่นกัน ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่าภูมิปัญญา ของชาวบ้านในการแปรรูปอาหารที่ใช้เนื้อสัตว์ ผสมตับ ม้าม กระเทียม ข้าวคั่ว เกลือ แล้วยัดใส่ในกระเพาะสัตว์นั้น จะเป็นที่นิยมบริโภคมากที่สุด ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด โดยเฉพาะภาคอีสาน ที่สำคัญยังนิยมซื้อเป็นของกิน ของฝากจนทำให้หม่ำ เป็นสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ประเภทอาหารพื้นบ้านที่สำคัญ ของภาคอีสานใน ปัจจุบัน กระบวนการผลิต สำหรับ “หม่ำ” เป็นเมนูอาหารจานโปรดขึ้นชื่อของชาวอีสานมานาน นิยมรับประทานกันทั่วไป ผลิตจากเนื้อวัว หรือหมู ผ่านการบด หมัก พร้อมปรุงรสแล้วนำมายัดเข้าไปในไส้เทียม หรือไส้แท้ มัดเป็นท่อนๆ รอ 3 - 7 วัน มีรสชาติออกเปรี้ยวนิด ๆ นำมาทอด ย่าง หั่นเป็นท่อน ๆ กินเป็นกับแกล้ม หรือกับข้าวก็ได้ ที่พบเห็นส่วนมากจะนิยมซื้อเป็นของฝากประจำถิ่น หม่ำ เป็นการนำเนื้อวัวหรือควายหรือเนื้อหมูสับให้ละเอียด ผสมกับตับสับ ม้ามสับ กระเทียม ข้าวเหนียว นึ่ง ข้าวคั่ว คลุกเกลือ กระเทียม ขยำให้เข้ากัน แล้วยัดในไส้หรือกระเพาะหมู หม่ำจะมีลักษณะแห้ง เวลาซื้อต้อง เลือกที่แห้งสนิท เพราะสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือน การเลือกซื้อ ควรเลือกที่มีสีไม่แดง เพราะถ้าแดงแสดงว่า ใช้ตับแก่ รสจะขม ส่วนผสม - เนื้อสัตว์ไร้มัน บดละเอียด (เนื้อวัว เนื้อควาย หรือเนื้อหมู) - ไส้หมู - ผงชูรส - ตับบด - เกลือ - กระเทียม ปอก บดหยาบ - ข้าวเหนียวนึ่งสุก - ข้าวคั่ว - กระเทียม - น้ำตาลทราย - เกลือ วิธีทำ - นำเนื้อ ตับ ม้าม เข้าเครื่องบดให้ละเอียด - บดกระเทียมทั้งเปลือกให้ละเอียดแล้วเติมข้าวสุกลงไปเคล้าให้ทั่ว จากนั้นใส่ลงในเนื้อที่บดไว้ - เติมเกลือป่น ข้าวคั่ว ลงไปเคล้ากับเนื้อที่บดไว้ขยำให้ทั่วกันจนเหนียว - ยัดเนื้อบดลงไปในไส้หมูแล้วใช้ด้ายหนา ๆ มัดเป็นข้อ ๆ - นำหม่ำที่ได้ไปผึ่งลมไว้ในร่มให้แห้งสนิท
๔ คุณค่าทางอาหาร หม่ำ เป็นอาหารพื้นบ้านท้องถิ่นที่มีคุณค่าทางโภชนาการ โดยให้โปรตีนและวิตามินซีเครื่องปรุงและ ส่วนผสมที่ใช้ในการทำก็หาได้ง่ายในท้องถิ่น ที่สำคัญสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายวัน จะรับประทานสุกหรือดิบ ก็ได้ ถ้าจะให้ดีควรปรุงให้สุกก่อนรับประทาน “หม่ำ” นอกจากจะทำรับประทานในครอบครัวแล้ว ยังสามารถ จำหน่ายเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัวได้อีกทางด้วย ภาพประกอบกรรมวิธีการผลิต 1.เตรียมส่วนผสมที่จะทำหม่ำ ที่มา: http://is.it.msu.ac.th/2564/12/j5.html 2.ล้างไส้ที่เตรียมไว้เพื่อยัดเนื้อสัตว์ ที่มา: http://is.it.msu.ac.th/2564/12/j5.html
๕ 3.คลุกส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำเนื้อที่บดยัดลงไปในใส้ที่เตรียมไว้ ที่มา: http://is.it.msu.ac.th/2564/12/j5.html 4.เมื่อนำเนื้อยัดลงในไส้เรียบร้อยแล้ว ให้นำไม้ที่แหลมมาจิ้มเพื่อให้หม่ำได้ระบายอากาศ จากนั้นให้นำเชือกมามัดให้เป็นข้อ ที่มา: http://is.it.msu.ac.th/2564/12/j5.html 5. เมื่อมัดเสร็จแล้ว ให้นำหม่ำที่ได้ไปผึ่งลมไว้ในร่มให้แห้ง เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อย ที่มา: https://food.trueid.net/detail/9awW1jw9ErEa
๖ ภาพประกอบแหล่งจำหน่าย “หม่ำเมืองพล” ศักยภาพและแนวทางการพัฒนา Soft Power ของหม่ำเมืองพล หม่ำ เป็น Soft Power ด้านอาหารที่มีความนิยมสูง โดยเฉพาะในภูมิภาคอีสาน ซึ่งในแต่ละภูมิภาค มีความหลากหลายในการสร้างสรรค์เมนูอาหารที่แตกต่างกัน ถึงแม้จะชื่อคล้าย ๆ กันแต่ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันอีก ทั้งยังสามารถเชื่อมโยงผู้คนเข้าหากันผ่านวัฒนธรรมการกิน ผ่านการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบ การเดินทางต่าง ๆ อีกด้วย ซึ่งสามารถนำมาสร้างเป็นเรื่องราวเพื่อเพิ่มความน่าสนใจได้ในอีกทางหนึ่ง เนื่องจากหม่ำ เป็นของฝากขึ้นชื่อ ของอำเภอพล เมื่อนักเดินทาง นักท่องเที่ยวเดินทางสัญจรผ่านไปผ่านมาก็จะพบกับหม่ำที่วางขายเรียงราย ตามริมถนน หม่ำสามารถเก็บรักษาในอุณหภูมิปกติได้นาน 1 เดือน หากนำไปแช่ในตู้เย็นเก็บได้นานถึง 3 เดือน กลุ่มลูกค้าที่มาเลือกซื้อหานอกจากจะเป็นนักท่องเที่ยวและประชาชนที่ใช้เส้นทางถนนมิตรภาพแล้ว หม่ำยังได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่มีญาติพี่น้องที่อาศัยอยู่ต่างประเทศจะซื้อส่งไปให้ญาติหรือลูกที่อยู่ ต่างประเทศ ดังนั้น การที่จะเพิ่มอิทธิพลของ Soft Power ทางวัฒนธรรมการกินมากขึ้น สร้างมุมมองใหม่ ต่อชาวต่างชาติได้นอกเหนือจากต้มยำกุ้งและผัดไทย ไม่เพียงเท่านั้น หม่ำยังสามารถนำมาประยุกต์อาหารอีสาน กับอาหารตะวันตก เกิดเป็นเมนูใหม่ๆ และสร้างมูลค่าเพิ่มได้ซึ่งภูมิปัญญาของชาวอีสานนั้น เป็นภูมิปัญญาที่เอื้อ ต่อวิถีชีวิตของคนอีสานมาอย่างยาวนาน บางครั้งเพียงแค่อาจจะนำมาผสมผสานกับศาสตร์การทำอาหารรุ่นใหม่ ๆ ให้มีความสากลมากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้เกิดรสชาติอาหารใหม่ ๆ หม่ำ ยังสามารถสร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น สามารถสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนในพื้นที่ และที่สำคัญยังสามารถสร้างการรับรู้ให้กับผู้คนภายนอกอีกด้วย Soft Power จึงนับเป็นต้นทุนทางปัญญาและ วัฒนธรรมที่หาได้ง่ายและลงทุนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตาม ต้องอาศัยความร่วมมือกันทั้งภาครัฐ เอกชน และ ประชาชน
๗ ➢ ร้านภูมิสุขเมืองพล กับตัวอย่างการพัฒนาต่อยอด “หม่ำ” ที่มา:https://www.bangkokbanksme.com/en/phoomsook ยกระดับอาหารพื้นบ้าน สู่แบรนด์อินเตอร์ ที่ผ่านการปรับปรุงพัฒนารสชาติมาอย่างต่อเนื่อง ‘หม่ำอินเตอร์’ เกิดจากการมองเห็นปัญหาที่ลูกค้ามักจะถามหาผลิตภัณฑ์หม่ำจากที่ร้าน หรือให้แนะนำว่าเจ้าใด ที่อร่อย จึงเกิดแนวคิดในการทำหม่ำขึ้นมาจำหน่ายเองภายใต้แบรนด์ของบริษัท โดยมีให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะ เป็น หม่ำหมู หม่ำเนื้อ ไส้กรอกอีสาน จุดเด่นของ ผลิตภัณฑ์บริษัท ภูมิสุขเมืองพล อยู่ที่คุณภาพของ วัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิต นอกจากนี้ ยังมีความ ใส่ใจเรื่องของแพคเกจจิ้ง ที่ใช้เทคโนโลยี แบบ สุญญากาศ ซึ่งสามารถช ่ว ยยื ด อ า ยุ ของผลิตภัณฑ์ และช่วยในการเก็บกลิ่น ทำให้ลูกค้า สามารถพกพาไปได้อย่างสะดวกการเพิ่มยอดขาย ที่สำคัญยังเปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้ลิ้มลองเพื่อสัมผัส รสชาติความอร่อยก่อนตัดสินใจเลือกซื้ออีกด้วย รวมทั้งการยังให้ความสำคัญในการสร้างรูปลักษณ์ ความสวยงามเมื่อพฤติกรรมการซื้อสินค้าในยุคนี้เปลี่ยนเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น บวกกับสถานการณ์ที่ผ่านมา ทั่วโลก ประสบปัญหากับการแพร่ระบาดของโควิด 19 ส่งผลให้ภูมิสุขเมืองพลที่มียอดขายจากหน้าร้านเป็นหลักได้รับ ผลกระทบ นอกจากการขายหน้าร้าน ยังมีช่องทางการขายแบบออนไลน์ เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายอื่น ๆ เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Line, JD Central, Lazada, Shopee และยังมีบริการจัดส่งให้ทั่วประเทศอีกด้วย
๘ ข้อมูลอ้างอิง กรุงเทพธุรกิจ. "Soft Power" ชูความเป็นไทยผ่านสินค้าและบริการวัฒนธรรมทางเลือกนักธุรกิจ.เข้าถึง เมื่อ 14 กุมภาพันธ์2566.เข้าถึงได้จาก https://www.bangkokbiznews.com /social/1008281 กวินทรา ใจซื่อ.หม่ำอินเตอร์คุณภาพขายต่างแดน.เข้าถึงเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2566.เข้าถึงได้จาก https://www.komchadluek.net/kom-lifestyle/136747 จิรวัสส์ สุทธิพิทยศักดิ์. 'หม่ำอีสาน' ต้นกำเนิด จากความรัก. เข้าถึงเมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2566.เข้าถึงได้ จาก https://food.trueid.net/detail/9awW1jw9ErEa ธนาคารกรุงเทพ.ภูมิสุขเมืองพลยกระดับสินค้า Local สู่ Global.เข้าถึงเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2566.เข้าถึง ได้จาก https://www.bangkokbanksme.com/en/phoomsook บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน).อาหารไทย จะเป็น Soft Power เครื่องมือกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แค่ไหน. เข้าถึงเมื่อ 14 กุมภาพันธ์2566.เข้าถึงได้จากhttps://www.sentangsedtee.com/ today-news/article_222430 ราชบัณฑิตยสถาน.พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถานพ.ศ.2554.กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊ค พับบลิเคชั่น,2554.