The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pollaphat2750, 2023-01-27 12:24:14

นาฏศิลป์ไทยในสมัรัชกาลที่ 7

รัชกาลที่ 7

๗ น า ฏ ศิ ล ป ไ ท ย สมัย มั รัช รั กาลที่ ๗ พระบาทสมเด็จ ด็ พระปกเกล้าเจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั ์


คำ นำ หนังสือสืเล่ม ล่ นี้จัดจัทำ ขึ้นขึ้เพื่อพื่เป็นส่ว ส่ นหนึ่งของรายวิชวิาศิลปะ 5 (ศ33101) เพื่อพื่ ให้ไห้ ด้ศึ ด้ ศึกษาหาความรู้ใ รู้ นเรื่อรื่งนาฏศิลป์ไป์ทย สมัยมัรัชรักาลที่ ๗ และได้ศึ ด้ ศึกษาอย่า ย่ งเข้า ข้ใจเพื่อพื่เป็น ประโยชน์กับการเรียรีนผู้จัผู้ ดจัทำ หวังวัว่า ว่ รายงานเล่ม ล่ นี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่ผู้ อ่ าน หรือรืนักเรียรีน นักศึกษา ที่กำ ลังลัหาข้อ ข้ มูลเรื่อรื่งนี้อยู่ หากมีข้มีอ ข้ แนะนำ หรือรืข้อ ข้ ผิดผิพลาดประการใด ผู้จัผู้ ดจัทำ ขอ น้อมรับรั ไว้แ ว้ ละขออภัยมา ณ ที่นี้ด้ว ด้ ย คณะผู้จัดทำ


คำ นำ สารบัญบั บทนำ นาฏศิลป์ไป์ทยในสมัยมัรัชรักาลที่ 7 การละครสมัยมัก่อนการเปลี่ย ลี่ นแปลงการปกครอง การละครสมัยมัหลังลัการเปลี่ย ลี่ นแปลงการปกครอง การละครสมัยมัสงครามโลกครั้ง รั้ ที่ 2 โรงภาพยนตร์ ภาพยนตร์ - แหวนวิเวิศษ ภาพยนตร์ส่ร์ว ส่ นพระองค์ - โชคสองชั้น ชั้ - จันจัทโรภาส กำ เนิดละครหลวงวิจิวิตจิรวาทการ ลักลัษณะละครหลวงวิจิวิตจิรวาทการ สถานที่การแสดง รายชื่อชื่ผู้จัผู้ ดจัทำ สารบัญ บั เรื่อง หน้า ก. ข. 1 2 3 4 5 6 7 8-9 10 11 12 13 14 15 16


คำ ว่า ว่ “นาฏศิลป์”ป์ ตามพจนานุก นุ รมฉบับ บั ราชบัณ บั ฑิตสถาน พ.ศ.2554 ให้ค ห้ วามหมายไว้ว่ ว้ า ว่ ศิลปะแห่ง ห่ การละครหรือ รื การฟ้อ ฟ้ นรำ และสมัย มั รัช รั กาลที่ 7 หมายถึงในรัช รั สมัย มั ของพระบาทสมเด็จ ด็ พระปกเกล้าเจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั คือช่ว ช่ งเวลาตั้ง ตั้ แต่วัน วั ที่ 8 พฤศจิกจิายน พ.ศ. 2436 – วัน วั ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2484 ในขณะ นั้น นั้ การเมือ มื งเกิดภาวะคับขัน ขั และเศรษฐกิจของประเทศทรุด รุ โทรม เสนาบดีส ดี ภา ได้ต ด้ กลงประชุมกันเลิกกรมมหรสพ เพื่อ พื่ ให้มี ห้ ส่ มี ว ส่ นช่ว ช่ ยกู้ก กู้ ารเศรษฐกิจของ ประเทศและต่อมาจึง จึ กลับฐานะมาเป็น ป็ กองขึ้น ขึ้ อีก จนกระทั่ง ทั่ เมื่อ มื่ พ.ศ.2478 กองมหรสพจึง จึ อยู่ใยู่ นสัง สั กัดกรมศิลปากร ข้า ข้ ราชการศิลปินปิจึง จึ ย้า ย้ ยสัง สั กัดมา อยู่ใยู่ นกรมศิลปากร ในสมัย มั นี้มี นี้ ล มี ะครแนวใหม่เ ม่ กิดขึ้น ขึ้ คือ ละครเพลง หรือ รื ที่เป็น ป็ ที่ รู้จั รู้ ก จั กันว่า ว่ “ละครจัน จั ทโรภาส” ตลอดทั้ง ทั้ มีล มี ะครหลวงวิจิวิตจิรวาทการเกิดขึ้น ขึ้ และ นอกจากนี้ยั นี้ ง ยั มีโมี รงภาพยนตร์ที่ ร์ ที่ ทันสมัย มั แห่ง ห่ แรกเกิดขึ้น ขึ้ ในสยามอีกด้ว ด้ ย บทนำ 1


ในสมัย มั รัช รั กาลที่ ๗ แม้บ้ ม้ า บ้ นเมือ มื งจะอยู่ใยู่ นภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ พระมหา กษัตริย์ริก็ ย์ ก็ ทรงทำ นุบํ นุ า บํ รุง รุ การละครและสนับ นั สนุน นุ วงดนตรีไรี ทย ทรงพระราชนิพนินธ์ เพลงไทยเดิมดิที่มีค มี วามไพเราะและบรรเลงอยู่ใยู่ นปัจจุบัน บั การละครก็มิไมิด้สู ด้ ญสู หาย ไป มีก มี ารปรับ รั เปลี่ยนรูป รู แบบให้เ ห้ หมาะสมกับสัง สั คม พัฒ พั นาการของละครให้เ ห้ ข้า ข้ กับ ยุคสมัย มั ซึ่ง ซึ่ อยู่ใยู่ นช่ว ช่ งสงคราม ละครมีเ มี นื้อ นื้ หาปลุก ลุ ใจ การแสดงกระชับ ชั มีก มี าร แสดงสลับระหว่า ว่ งวงดนตรีไรี ทย และวงดนตรีส รี ากล มีก มี ารพัฒ พั นาการร้อ ร้ งเพลง ไทยให้เ ห้ ข้า ข้ กับดนตรีส รี ากลโดยตัดการเอื้อนแบบเพลงไทยเดิมดิอันเป็น ป็ การกําเนิดนิ ของ การร้อ ร้ งเพลงไทยสากล เกิดคณะละครเวทีเอกชนที่มีชื่ มี ชื่ อ ชื่ เสีย สี งหลายคณะ คณะที่ได้รั ด้ บ รั ความนิยนิมจากประชาชนในยุคนั้น นั้ คือคณะจัน จั ทโรภาสของพราบูรณ์ ซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ ละครที่เรีย รี กว่า ว่ หญิงญิเป็น ป็ ชาย ต่อมาเมื่อ มื่ หลวงวิจิวิตจิวาทการเป็น ป็ อธิบธิดีก ดี รม ศิลปากรจึง จึ มีล มี ะครชายจริงริหญิงญิแท้เกิดขึ้น ขึ้ ทั้ง ทั้ ละครร้อ ร้ ง ละครพูด และละคร ย่อ ย่ ย ซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ ที่มาของการแสดงตลกในปัจจุบัน บั นาฏศิล ศิ ป์ไป์ ทย ในสมัย มั รัช รั กาลที่ ๗ 2


หลังการเสด็จ ด็ สวรรคตของรัช รั กาลที่ ๖ ศิลปะทางโขน ละครก็ตกต่ำ ลง ทันที เนื่อ นื่ งจากศิลปินปิต่างรู้สึ รู้ ก สึ เสมือ มื นขาดเสาหลักทางจิตจิ ใจไป และทางการก็มี ประกาศการยุบกรมมหรสพเนื่อ นื่ งจากระยะเศรษฐกิจตกต่ำ ทั่ว ทั่ โลกซึ่ง ซึ่ เป็น ป็ ผลมา จากสงครามโลกครั้ง รั้ ที่ ๑ ทำ ให้ศิ ห้ ศิลปวัต วั ถุสู ถุ ญสู สลายไปในระยะนั้น นั้ จำ นวนมากและ ยกเลิกโรงเรีย รี นพรานหลวงจากการเสด็จ ด็ สวรรคตของรัช รั กาลที่ ๖ ทําให้ข ห้ าดยุว ศิลปินปิจำ นวนมาก ในปี พ.ศ.๒๔๗๒ กองมหรสพจึง จึได้เ ด้ปิดปิรับ รั สมัค มั รเด็ก ด็ ชายและ เด็ก ด็ หญิงญิเข้า ข้ มาฝึกหัด หั โขน ละคร และดนตรี แต่เนื่อ นื่ งจากมิไมิด้เ ด้ปิดปิ โรงเรีย รี นอย่า ย่ ง เป็น ป็ ทางการ จึง จึ ต้องรับ รั เด็ก ด็ มาฝึกหัด หั เฉพาะวิชวิาศิลปะที่จะใช้ง ช้ านได้เ ด้ ท่านั้น นั้ ส่ว ส่ น วิชวิาสามัญ มั ทุก ทุ คนต้องขวนขวายไปหาที่เรีย รี นด้ว ด้ ยตนเอง จึง จึ ส่ง ส่ เด็ก ด็ เหล่านี้ไนี้ป ฝึกหัด หั ตามสถานที่หลายแห่ง ห่ เด็ก ด็ ผู้ชผู้ ายที่ฝึกตัวพระและตัวนางไปฝึกที่เรือ รื นไทย ในวัง วั สวนกุห กุ ลาบ ยัก ยั ษ์และลิงไปฝึกที่บ้า บ้ นเจ้า จ้ พระยาวรพงศ์พิพัพิฒ พั น์ ส่ว ส่ นเด็ก ด็ หญิงญิ ไปฝึกที่ท้ายพระบรมมหาราชวัง วั เมื่อ มื่ฝึกจนมีค มี วามสามารถพอที่จะแสดงได้ แล้วทางราชการก็เรีย รี กตัวออกไปแสดงหลายครั้ง รั้ การละครสมัย มั ก่อ ก่ นการเปลี่ย ลี่ นแปลงการปกครอง รืเ รื อนไท ยในวังวัสวนกุห กุ ลาบ บ้าบ้นเจ้าจ้พระยาวรพง ศ์พิพัฒน์ ท้าท้ ยพระบรมมหาราชวัง วั 3


พ.ศ.๒๔๗๕ คณะราษฎร์ไร์ ด้เ ด้ ข้า ข้ ยึด ยึ อํานาจในการปกครองประเทศ เปลี่ยน ระบอบการปกครองจากระบอบสมบูรณาญาสิทสิธิรธิาชย์ม ย์ าเป็น ป็ ระบอบประชาธิปธิ ไตย ในการนี้ทํ นี้ ทํ าให้พ ห้ ระบาทสมเด็จ ด็ พระปกเกล้าเจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั ทรงประกาศ สละพระราชสมบัติ บั ติเมื่อ มื่ วัน วั ที่ ๒ มีน มี าคม พ.ศ. ๒๔๗๗ เป็น ป็ ที่สิ้นสิ้สุด สุ ของรัช รั กาล ศรีศ รี กร วัล วั ลิโภดม กล่าวไว้ว่ ว้ า ว่ เมื่อ มื่ โอนศิลปินปิจากกองมหรสพ มาสัง สั กัด กรมศิลปากรแล้วโอนเครื่อ รื่ งดนตรีแ รี ละเครื่อ รื่ งโขนละครหลวงที่เหลืออยู่บ ยู่ างส่ว ส่ น มาเป็น ป็ สมบัติ บั ติของกรมศิลปากรจนหมดสิ้นสิ้ต่อมาทางการได้ตั้ ด้ ตั้ ง ตั้ มหาวิทวิยาลัย ศิลปากรขึ้น ขึ้ จึง จึ แยกแผนกช่า ช่ งต่าง ๆ กรมศิลปากรจึง จึปรับ รั ปรุง รุ กิจการกอง ดุริ ดุ ยริางคศิลป์ขึ้ ป์ ขึ้ น ขึ้ ใหม่โม่ ดยเปลี่ยนชื่อ ชื่ ว่า ว่ กองการสัง สั คีต เมื่อ มื่ปีพ ปี .ศ.๒๔๘๕ ส่ว ส่ นโรงเรีย รี นศิลปากร–แผนกนาฏดุริ ดุ ยริางค์ให้เ ห้ปลี่ยนชื่อ ชื่ เป็น ป็ โรงเรีย รี นสัง สั คีตศิลป์ ขึ้น ขึ้ อยู่ใยู่ นกองการสัง สั คีต กรมศิลปากร ระยะที่เปลี่ยนชื่อ ชื่ เป็น ป็ โรงเรีย รี นสัง สั คีตศิลป์ เป็น ป็ ระยะที่การเรีย รี นการสอนเข้า ข้ สู่ยุสู่ ยุ คเสื่อ สื่ มโทรมอีกครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ เพราะอยู่ใยู่ นระหว่า ว่ ง เกิดสงครามโลกครั้ง รั้ ที่ ๒ ตัวอาคารเรีย รี นถูก ถู ระเบิดบิและภายหลังจึง จึ มีคํ มี คํ าสั่ง สั่ให้ หยุดเรีย รี นการสอนไปชั่ว ชั่ คราว เมื่อ มื่ ไม่มี ม่ ก มี ารผลิตศิลปินปิ โขนรุ่น รุ่ ใหม่ขึ้ ม่ ขึ้ น ขึ้ มา จึง จึ ต้อง ใช้ศิ ช้ ศิลปินปิเก่า ทำ ให้ก ห้ ารแสดงของทางราชการจึง จึ จัด จั ได้เ ด้ พีย พี งชุดเบ็ด บ็ เตล็ดเท่านั้น นั้ การละครสมัย มั หลัง ลั การเปลี่ย ลี่ นแปลงการปกครอง มัท มั นี รัต รั นินนิกล่าวไว้ว่ ว้ า ว่ เมื่อ มื่ ยุบเลิกกรมมหรสพแล้วแต่ยัง ยั มีค มี วามจํา จํ เป็น ป็ ต้องใช้ศิ ช้ ศิลปินปิเป็น ป็ ครั้ง รั้ คราวในพระราชพิธีพิข ธี องสํา สํ นัก นั พระราชวัง วั เจ้า จ้ พระยาวรพงศ์ พิพัพิฒ พั น์ (บัง บั คับบัญ บั ชากองมหรสพที่ยัง ยั คงอยู่)ยู่ แก้ไขเหตุก ตุ ารณ์เ ณ์ ฉพาะหน้า น้ โดยลดศิลปินปิเดิมดิ ในกรมมหรสพลง-ลดอัตราเงินเดือ ดื นลง-ย้า ย้ ยตําแหน่ง น่ หน้า น้ ที่ อื่นบ้า บ้ ง จนรายจ่า จ่ ยสมดุล ดุ กับงบประมาณของกระทรวงวัง วั ศิลปินปิ โขนในช่ว ช่ งนั้น นั้ ถูก ถู ปลดออกจากราชการจนหมด แต่ด้ว ด้ ยความประสงค์ของเสนาบดีก ดี ระทรวง วัง วั ข้า ข้ ราชการโขนหลวงจึง จึไปเป็น ป็ ข้า ข้ ราชการของกรมวัง วั และตํารวจวัง วั 4


ตอนระหว่า ว่ งสงคราม ภาพยนตร์ฉ ร์ ายไม่ไม่ ด้ ละครอาชีพ ชี เลยถือโอกาส แสดงกันใหญ่ เป็น ป็ ประเภทเล่นเรื่อ รื่ งตลก ๆ ภายหลังเล่นเป็น ป็ เรื่อ รื่ งแต่ไม่ไม่ ด้ซ้ ด้ อ ซ้ ม กัน สุด สุ แท้จะทำ ได้ใด้ นสมัย มั นั้น นั้ ละครมีชื่ มี ชื่ อ ชื่ ในสมัย มั นั้น นั้ ว่า ว่ "ละครย่อ ย่ ย" โดยมากเป็น ป็ พวกตลก เช่น ช่ เฉลิม บุณยเกียรติ , สนิทนิเกษธนัง นั , ผล วรตรินริคนอื่น ๆ เอา แบบไปเล่นหลังสงครามละครย่อ ย่ ยก็หายไป บุคคลอีกท่านหนึ่ง นึ่ ทีมีเ มี ชื้อ ชื้ สายบรมครูท รู างศิลปินปิที่สำ คัญ คือพระนาง เธอลักษ์มีล มี าวัณ วั ย์ เป็น ป็ ธิดธิาของกรมพระนราธิปธิ ประพัน พั ธ์พ ธ์ งศ์ ทรงนำ เรื่อ รื่ งเก่า ๆ มาแสดงบางเรื่อ รื่ งก็มีผู้ มี อื่ผู้ อื่ นแต่ง เช่น ช่ เรื่อ รื่ งศรีธ รี นนชัย ชั ของ น.ม.ส. กับเรื่อ รื่ ง จินจิตะลีลา เป็น ป็ ต้น นอกจากนั้น นั้ ยัง ยั มีค มี ณะละครมีชื่ มี ชื่ อ ชื่ คือ คณะศิวารมณ์ คณะนี้ไนี้ ด้จั ด้ ด จั การ แสดงระหว่า ว่ งสงครามอย่า ย่ งจริงริจัง จั ตัวละครสำ คัญ ของละครคณะนี้อ นี้ ยู่โยู่ ดยมาก หัน หั ไปเล่นละครโทรทัศน์แ น์ ละภาพยนตร์กั ร์ กั น อนึ่ง นึ่ ควรสัง สั เกตว่า ว่ เมื่อ มื่ ออกจาก ราชการระยะหนึ่ง นึ่ หลวงวิจิวิตจิรวาทการ อดีต ดี อธิบธิดีก ดี รมคิลปากร ก็เคยตั้ง ตั้ คณะ ละครของท่านชื่อ ชื่ คณะวิจิวิตจิรเกษม ได้แ ด้ สดงให้ปห้ ระชาชนชมหลายเรื่อ รื่ ง การละครสมัย มั สงครามโลกครั้ง รั้ ที ๒ 5


ในยุคแรก ๆ โรงภาพยนตร์ใร์ นบ้า บ้ นเราจะเป็น ป็ แค่โรงไม้ห ม้ รือ รื สัง สั กะสี ด้ว ด้ ย ความเฟื่อ ฟื่ งฟูของกิจการภาพยนตร์ใร์ นสมัย มั รัช รั กาลที่ 7 ได้มี ด้ โมี รงภาพยนตร์ที่ ร์ ที่ ทัน สมัย มั แห่ง ห่ แรกเกิดขึ้น ขึ้ ในสยามนั่น นั่ คือ “ศาลาเฉลิมกรุง รุ ” ซึ่ง ซึ่ นับ นั ว่า ว่ เป็น ป็ โรงมหรสพที่ทันสมัย มั มากในยุคนั้น นั้ ตั้ง ตั้ อยู่ริ ยู่ มริถนนเจริญริกรุง รุ แขวงวัง วั บูรพา-ภิรมย์ เริ่มริ่ก่อสร้า ร้ งมาตั้ง ตั้ แต่ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ โดยในหลวงรัช รั กาลที่ ๗ ได้เ ด้ สด็จ ด็ พระราชดำ เนินนิมาทรงวางศิลาฤกษ์ด้ว ด้ ยพระองค์เองในการนี้ท นี้ รงพระ กรุณ รุ าโปรดเกล้าฯ ให้ห ห้ ม่อ ม่ มเจ้า จ้ สมัย มั เฉลิม กฤดากร สถาปนิกนิผู้สำผู้ สำเร็จ ร็ การศึกษา จากสถาบัน บั ชั้น ชั้ นำ ของประเทศฝรั่ง รั่ เศส เป็น ป็ ผู้อผู้ อกแบบและควบคุม คุ การก่อสร้า ร้ ง กระทั่ง ทั่ แล้วเสร็จ ร็ในปี พ.ศ.๒๔๗๖ โรงภาพยนตร์ จากนั้น นั้ ในหลวงรัช รั กาลที่ ๗ ได้ท ด้ รงพระราชทานนามของโรงมหรสพ เพื่อ พื่ เป็น ป็ เกียรติแก่ผู้อผู้ อกแบบ และเป็น ป็ อนุส นุ รณ์แ ณ์ ห่ง ห่ งานฉลองพระนครครบ ๑๕๐ ปี ว่า ว่ “ศาลาเฉลิมกรุง รุ ” อาคารเฉลิมกรุง รุ จัด จั ได้ว่ ด้ า ว่ เป็น ป็ อาคารที่ทันสมัย มั ที่สุด สุ ในเอเชีย ชี ขณะนั้น นั้ ภายในอาคารออกแบบตกแต่งด้ว ด้ ยศิลปะไทยผสมผสานกับศิลปะตะวัน วั ตก มีร มี ะบบแสง สี เสีย สี ง ที่สมบูรณ์ อีกทั้ง ทั้ ยัง ยั เป็น ป็ โรงมหรสพแห่ง ห่ แรกของ ประเทศไทยที่มีก มี ารใช้เ ช้ ครื่อ รื่ งปรับ รั อากาศ นอกจากนั้น นั้ ยัง ยั มีก มี ารนำ ภาพยนตร์ต่ ร์ ต่ าง ประเทศเสีย สี งในฟิล์ฟิ ล์ ม เข้า ข้ มาฉายเป็น ป็ ครั้ง รั้ แรกอีกด้ว ด้ ยครั้น รั้ ต่อมาเมื่อ มื่ ถึงยุคที่ ภาพยนตร์ไร์ ทยเฟื่อ ฟื่ งฟูมากขึ้น ขึ้ ศาลาเฉลิมกรุง รุ จึง จึ เป็น ป็ เสมือ มื นศูนย์ก ย์ ลางของ วงการบัน บั เทิงอย่า ย่ งแท้จริงริเรีย รี กได้ว่ ด้ า ว่ เป็น ป็ “ฮอลลีวูดเมือ มื งไทย” เลยทีเดีย ดี ว 6


ภาพยนตร์ส่ ร์ ว ส่ นใหญ่จ ญ่ ะเป็น ป็ การบัน บั ทึกพระราชกรณีย ณี กิจ ภาพยนตร์ปร์ ระเภท ข่า ข่ ว รวมทั้ง ทั้ ภาพยนตร์แ ร์ นวดำ เนินนิเรื่อ รื่ ง ซึ่ง ซึ่ ภาพยนตร์ที่ ร์ ที่ ทรงถ่ายทั้ง ทั้ หมด ทรง ตั้ง ตั้ ชื่อ ชื่ ว่า ว่ “ภาพยนตร์อั ร์ อั มพร” ตามพระที่นั่ง นั่ อัมพรสถานอันเป็น ป็ ที่ประทับใน รัช รั กาลของพระองค์ พระราชนิยนิมในการถ่ายทำ ภาพยนตร์นี้ ร์ เ นี้ป็น ป็ ส่ว ส่ นหนึ่ง นึ่ ที่ทำ ให้ กิจการภาพยนตร์ไร์ ทย ได้เ ด้ฟื่อ ฟื่ งฟูไปด้ว ด้ ยในช่ว ช่ งเวลานั้น นั้ พระองค์ได้ท ด้ รงริเริริ่มริ่ก่อ ตั้ง ตั้ “สมาคมภาพยนตร์ส ร์ มัค มั รเล่นแห่ง ห่ สยาม” ในพระบรมราชูปถัมภ์ขึ้น ขึ้ เมื่อ มื่ปี พ.ศ. ๒๔๗๓ มีสำ มี สำนัก นั งานอยู่ใยู่ นพระตำ หนัก นั จิตจิรลดา โดยมีร้ มี า ร้ นขายฟิล์ฟิ ล์ มและ อุปกรณ์ถ่ ณ์ ถ่ ายภาพยนตร์ รวมถึงบริกริารต่าง ๆ และรับ รั ทำ ไตเติ้ลให้กั ห้ กั บสมาชิกชิซึ่ง ซึ่ มีพ มี ระบรมวงศานุว นุ งศ์ ขุนนาง และประชาชนทั่ว ทั่ ไปเป็น ป็ สมาชิกชิกว่า ว่ ร้อ ร้ ยคน ภาพยนตร์ ที่น่า น่ สนใจไปกว่า ว่ นั้น นั้ คือ ทางสมาคมได้จั ด้ ด จั ตั้ง ตั้ ห้อ ห้ งฉาย ภาพยนตร์ขึ้ ร์ ขึ้ น ขึ้ ที่สำ นัก นั งานในพระตำ หนัก นั จิตจิรลดา บรรจุผู้ชผู้ มได้ร้ ด้ อ ร้ ยกว่า ว่ ที่นั่ง นั่ โดยจะจัด จั ฉายภาพยนตร์ใร์ ห้ช ห้ มทุก ทุ เดือ ดื น ซึ่ง ซึ่ในหลวงรัช รั กาลที่ ๗ ได้ท ด้ รงเสด็จ ด็ มา ร่ว ร่ มทอดพระเนตรภาพยนตร์เ ร์ป็น ป็ ประจำ อีกด้ว ด้ ย 7


ภาพยนตร์เ ร์ ก่าแก่เรื่อ รื่ งหนึ่ง นึ่ ของไทยที่นับ นั ได้ว่ ด้ า ว่ เป็น ป็ มรดกหนัง นั เงียบที่ สมบูรณ์ที่ ณ์ ที่ สุด สุ ของชาติ คือ “แหวนวิเวิศษ” สร้า ร้ งขึ้น ขึ้ ในปี พ.ศ. ๒๔๗๑ เป็น ป็ ภาพยนตร์ ขาว-ดำ ความยาว ๒๕นาที ถ่ายทำ ด้ว ด้ ยฟิล์ฟิ ล์ ม ๑๖ มม. ภาพยนตร์เ ร์ รื่อ รื่ งดัง ดั กล่าว อำ นวยการสร้า ร้ ง, เขีย ขี นบท และกำ กับโดย “นายน้อ น้ ย ศรศักดิ์”ดิ์หรือ รื ที่รู้จั รู้ ก จั กันในนามแฝงของพระบาทสมเด็จ ด็ พระปกเกล้า เจ้า จ้ อยู่หั ยู่ ว หั รัช รั กาลที่ ๗ ใช้ชื่ ช้ ชื่ อ ชื่ บริษัริ ษั ทผู้สผู้ ร้า ร้ งว่า ว่ ภาพยนตร์อั ร์ อั มพร ซึ่ง ซึ่ ก็คือนามของ พระที่นั่ง นั่ อัมพรสถาน “แหวนวิเ วิ ศษ” 8


ภาพยนตร์มี ร์ เ มี นื้อ นื้ หาเกี่ยวกับพ่อ พ่ เลี้ยงที่มีลู มี ก ลู เลี้ยงถึง ๕ คน จึง จึ คิดพาลูก ลู เลี้ยงไป ปล่อยเกาะโดยบัง บั คับให้ห ห้ าผลไม้ม ม้ าให้ลู ห้ ก ลู เลี้ยงชื่อ ชื่ ไอ้ซนพบกับนางพรายและเล่าเรื่อ รื่ งของ พ่อ พ่ เลี้ยงใจร้า ร้ ยให้ฟัห้ ง ฟั นางพรายได้ม ด้ อบแหวนวิเวิศษให้ ที่ให้ค ห้ วามปรารถนาเป็น ป็ จริงริสามารถ เสกได้เ ด้ พีย พี งสามครั้ง รั้ เด็ก ด็ ๆ จึง จึ ลองนำ ไปใช้กั ช้ กั บพ่อ พ่ เลี้ยงดู พ่อ พ่ เลี้ยงต้องการแหวนจึง จึ คิด กำ จัด จั ลูก ลู ๆ ไอ้ซนชี้ใชี้ ห้พ่ ห้ อ พ่ เลี้ยงกลายเป็น ป็ สุนั สุ ข นั แต่ต่อมาให้ก ห้ ลับเป็น ป็ คนดัง ดั เดิมดิพ่อ พ่ เลี้ยงรู้ สำ นึก นึ จึง จึ พากันกลับบ้า บ้ น ขณะขึ้น ขึ้ เรือ รื แหวนวิเวิศษเกิดหลุด ลุ ลงน้ำ หายไป หนูแ นู หวนจึง จึ พูด เตือนสติพี่ ๆ ว่า ว่ "ของผีข ผี องสางหายไปก็ดีแ ดี ล้ว" เนื้อ นื้ เรื่อ รื่ ง “แหวนวิเ วิ ศษ” 9


ภาพยนตร์ท ร์ รงถ่าย คือ ภาพยนตร์ที่ ร์ ที่ เป็น ป็ ผลงานฝีพระหัต หั ถ์มีทั้ มี ทั้ ง ทั้ ที่บัน บั ทึก เป็น ป็ เหตุก ตุ ารณ์เ ณ์ บ็ด บ็ เตล็ด เรีย รี กเป็น ป็ สามัญ มั ได้ว่ ด้ า ว่ ภาพยนตร์ใร์ นครอบครัว รั บางเรื่อ รื่ งเป็น ป็ บัน บั ทึกเหตุก ตุ ารณ์ใณ์ นส่ว ส่ นพระองค์จริงริๆมีตั มี ตั วอักษรขึ้น ขึ้ หัว หั ฟิล์ฟิ ล์ มว่า ว่ ห้า ห้ มฉายเผยแพร่สู่ ร่ สสู่ าธารณชน นอกจากนี้ยั นี้ ง ยั มีภ มี าพยนตร์เ ร์ รื่อ รื่ ง แสดงในชุดที่ทรงเรีย รี กว่า ว่ "นิทนิานของลุง ลุ " ภาพยนตร์อั ร์ อั มพร คือ ภาพยนตร์บั ร์ น บั ทึกพระราชกรณีย ณี กิจสำ หรับ รั เผย แพร่อ ร่ ย่า ย่ งเป็น ป็ ทางการถ่ายทำ ระหว่า ว่ งปีพ ปี .ศ.๒๔๖๙-๒๔๗๔เช่น ช่ การเสด็จ ด็ ฯ เลียบมณฑลต่างๆหลังจากเสด็จ ด็ ขึ้น ขึ้ ครองราชย์ การเสด็จ ด็ ฯเยือ ยื นต่าง ประเทศอย่า ย่ งเป็น ป็ ทางการทั้ง ทั้ ในเอเชีย ชี ยุโรปและสหรัฐ รั อเมริกริา พระราช กรณีย ณี กิจในพระราชพิธีพิต่ ธี ต่ าง ๆ เช่น ช่ พระราชพิธีพิ โธี ล้ชิงชิช้า ช้ พระราชพิธีพิ ธี ฉลองพระนคร ๑๕๐ ปี พระราชพิธีพิท ธี างศาสนาและการตรวจพลสวน สนามและการซ้อ ซ้ มรบของกองทัพ ภาพยนตร์ห ร์ ายากร่ว ร่ มรัช รั สมัย มั คือภาพยนตร์ที่ ร์ ที่ มีผู้ มี นำผู้ นำขึ้น ขึ้ ทูล ทู เกล้า ฯ ถวาย และที่ทรงซื้อ ซื้ มาในจำ นวนนี้เ นี้ป็น ป็ ฟิล์ฟิ ล์ ม ภาพยนตร์ส่ ร์ ว ส่ นพระองค์ แบ่ง บ่ ได้ ๓ ประเภท คือ 10


ภาพยนตร์ไร์ ทยเรื่อ รื่ งแรกที่สร้า ร้ งและผลิตโดยคนไทยทั้ง ทั้ หมดเป็น ป็ ภาพยนตร์ เงียบถ่ายทำ ด้ว ด้ ยฟิล์ฟิ ล์ มขาว-ดำ ขนาด ๓๕ มม. ผลิตโดย กรุง รุ เทพภาพยนตร์ บริษัริ ษั ท โครงเรื่อ รื่ ง นายกมล มาโนช(แสดงโดยมานพ ประภารัก รั ษ์) พระเอกของเรื่อ รื่ งเป็น ป็ นายอำ เภอหัว หั เมือ มื งฝ่ายเหนือ นื ได้รั ด้ บ รั มอบหมายให้ล ห้ งมา สืบ สื จับ จั ผู้ร้ผู้ า ร้ ยคนหนึ่ง นึ่ ซึ่ง ซึ่ ซ้อ ซ้ นตัวอยู่ใยู่ นกรุง รุ เทพ นายกมลเข้า ข้ มาพัก พั อยู่ที่ ยู่ ที่ บ้า บ้ น พระยาพิชัพิย ชั (แสดงโดยอุทัย อินทร์ว ร์ งศ์) และมีห มี ลานชื่อ ชื่ ว่า ว่ นางสาววลี ลาวัณ วั ยลักษณ์ (แสดงโดยหม่อ ม่ มหลวงสุด สุ จิตจิตร์ อิศรางกูร กู ) ซึ่ง ซึ่ ทั้ง ทั้ สองได้พ ด้ บรัก รั กัน โดยเร็ว ร็ แต่นายวิงวิธงสี(สี แสดงโดยมงคล สุม สุ นนัฏ นั ) ซึ่ง ซึ่ หมายปองนางสาววลีอยู่ แล้วและชอบไปมาหาสู่พสู่ ระยาพิชัพิย ชั เป็น ป็ เนือ นื ง ๆ และนายวิงวิคนนี้ก็ นี้ ก็ คือคนร้า ร้ ยที่ นายกมลกำ ลังสืบ สื จับ จั อยู่นั่ ยู่ น นั่ เอง นายวิงวิไหวตัวทันเรื่อ รื่ งนายกมลตามคนร้า ร้ ย ก็ วางแผนร้า ร้ ยส่ง ส่ พรรคพวกเข้า ข้ มาทำ ร้า ร้ ยนายกมล แต่นายกมลต่อกรขัด ขั ขวาง กำ ลังได้ จนนายวิงวิและพรรคพวกต้องหลบหนีไนีป นายกมลไล่ตามจับ จั แต่เกิด หลงทางนายวิงวิได้ว ด้ กกลับมาที่บ้า บ้ นพระยาพิชัพิย ชั และจับ จั นางสาววลีไป แต่นายกมล รู้ว่ รู้ า ว่ เป็น ป็ แผนลวง จึง จึ วกกลับบ้า บ้ นพระยาพิชัพิย ชั พบนายวิงวิจึง จึ ตามล่านายวิงวิไปจน เกิดการต่อสู้ขึ้สู้ ขึ้ น ขึ้ กระทั่ง ทั่ ตำ รวจที่พระยาพิชัพิย ชั โทรไปแจ้ง จ้ มาสมทบร่ว ร่ มจับ จั นายวิงวิ และสมุนได้ทั ด้ ทั น นายวิงวิจึง จึ ถูก ถู ตำ รวจจับ จั ส่ว ส่ นนายกมลมีโมี ชคสองชั้น ชั้ นอกจากจะ จับ จั ผู้ร้ผู้ า ร้ ยได้แ ด้ ล้วยัง ยัได้น ด้ างสาววลีมาเป็น ป็ ภรรยาอีกด้ว ด้ ย โชคสองชั้น ชั้ 11


รัช รั กาลที่ ๗ ได้โด้ปรดให้ร ห้ วมกรมมหาดเล็กและกรมมหรสพเข้า ข้ อยู่ใยู่ น กระทรวงวัง วั ครั้น รั้ ต่อมาเมื่อ มื่ ปี พ.ศ.๒๔๗๘ ได้มี ด้ ก มี ารปรับ รั ปรุง รุ กระทรวงวัง วั อีกครั้ง รั้ ข้า ข้ ราชการศิลปินปิจึง จึ ย้า ย้ ยสัง สั กัดมาอยู่ใยู่ นกรมศิลปากร สมัย มั หลังเปลี่ยนแปลงการ ปกครองปี พ.ศ.๒๔๗๕ มีล มี ะครแบบใหม่เ ม่ กิดขึ้น ขึ้ คือละครเพลงหรือ รื ที่รู้จั รู้ ก จั กันว่า ว่ ละครจัน จั ทโรภาสเป็น ป็ ละครเอกชนซึ่ง ซึ่ มีโมี รงละครที่มีชื่ มี ชื่ อ ชื่ เสีย สี งอีกโรงหนึ่ง นึ่ โดยละคร คณะนี้มี นี้ ค มี นสำ คัญที่เป็น ป็ ผู้เผู้ขีย ขี นเรื่อ รื่ ง คือพรานบูรพ์ เราอาจจะเรีย รี กได้ว่ ด้ า ว่ ละครจัน จั ทโรภาสของนายจวงจัน จั ทร์ จัน จั ทรคณา (พรานบูรพ์)พ์ สิ่งสิ่ที่พรานบูรพ์ทำ พ์ ทำ เป็น ป็ หลัก คือปรับ รั ปรุง รุ จากเพลงไทยเดิมดิที่มีทำ มี ทำ นองเอื้อนมาเป็น ป็ เพลงไทยสากลที่ไม่มี ม่ มี ทำ นองเอื้อน เกือบจะเรีย รี กว่า ว่ ท่านผู้นี้ผู้ ในี้ ห้กำ ห้ กำ เนิดนิเพลงไทยสากล ละครเรื่อ รื่ งที่มีชื่ มี ชื่ อ ชื่ เสีย สี งโด่ง ด่ ดัง ดั คือเรื่อ รื่ งจัน จั ทร์เ ร์ จ้า จ้ ขา ละครจัน จั ทโรภาส 12


หลังจากการเปลี่ยนแปลงการ ปกครองใน พ.ศ. ๒๔๗๕ กรม ศิลปากรได้ร ด้ วบรวมศิลปินปิ โขน ละคร และนัก นั ดนตรี เข้า ข้ มารวมกัน ใหม่อี ม่ อี กครั้ง รั้ หนึ่ง นึ่ ตั้ง ตั้ เป็น ป็ กองขึ้น ขึ้ ในกรมศิลปากร ทั้ง ทั้ ได้ตั้ ด้ ตั้ ง ตั้ โรงเรีย รี น นาฏดุริ ดุ ยริางคศาสตร์ขึ้ ร์ ขึ้ น ขึ้ ฝึกฝน นัก นั เรีย รี นด้ว ด้ ยเพื่อ พื่ รัก รั ษาศิลปะของ ชาติไว้มิ ว้ ใมิห้เ ห้ สื่อ สื่ มสูญสู กำ เนิด นิ ละครหลวงวิจิ วิ ต จิ รวาทการ ในระยะนี้ห นี้ ลวงวิจิวิตจิรวาทการ (กิมเหลียง วัฒ วั นปฤดา) ดำ รงตำ แหน่ง น่ อธิบธิดีก ดี รม ศิลปากร ท่านเป็น ป็ ทั้ง ทั้ นัก นั การทูต ทู และนัก นั ประวัติ วั ติศาสตร์ ท่านจึง จึ มองเห็น ห็ คุณ คุ ค่า ทางการละครที่จะใช้เ ช้ป็น ป็ สื่อ สื่ปลุก ลุ ใจให้ปห้ ระชาชนเกิดความรัก รั ชาติ เนื้อ นื้ หาจะนำ มา จากประวัติ วั ติศาสตร์ต ร์ อนใดตอนหนึ่ง นึ่ บทละครของท่านจะมีทั้ มี ทั้ ง ทั้ รัก รั รบ สะเทือน อารมณ์ ความรัก รั ที่มีต่ มี ต่ อคู่รั คู่ ก รั ถึงแม้จ ม้ ะมากมายเพีย พี งไร ก็ไม่เ ม่ ท่ากับความรัก รั ชาติ ตัวเอกของเรื่อ รื่ งสละชีวิ ชี ตวิพลีชีพ ชี เพื่อ พื่ ชาติ ด้ว ด้ ยเหตุที่ ตุ ที่ ละครของท่านไม่เ ม่ หมือ มื นการ แสดงละครที่มีอ มี ยู่ก่ ยู่ ก่ อน หลวงวิจิวิตจิรวาทการปรับ รั ปรุง รุ วิธีวิก ธี ารละครของท่านหลาย อย่า ย่ ง ไม่เ ม่ หมือ มื นละครอื่นใดที่เคยเล่นกันมาแต่ก่อน จะเรีย รี กว่า ว่ ละครสัง สั ดีต ดี ก็ไม่ ตรง จะเรีย รี กว่า ว่ ละครพัน พั ทางก็มีส่ มี ว ส่ นผิดผิกันอยู่ค ยู่ นทั้ง ทั้ หลายจึง จึ เรีย รี กละครของ ท่านว่า ว่ "ละครหลวงวิจิวิตจิรวาทการ" ผู้แผู้ สดง มัก มั ใช้ผู้ ช้ แผู้ สดงทั้ง ทั้ ผู้ชผู้ ายและผู้หผู้ ญิงญิ แสดงตามบทบาทในเรื่อ รื่ งที่กำ หนด 13


จะดำ เนินนิการแสดง ไม่เ ม่ หมือ มื นละครอื่น ๆ มีทั้ มี ทั้ ง ทั้ ลัก ลั ษณะละครหลวงวิจิ วิ ต จิ รวาทการ รำ พูด ร้อ ร้ งเพลงไทย และสากล การแต่งกาย : จะแต่งกายตามเนื้อ นื้ เรื่อ รื่ งและให้ถู ห้ ก ถู ต้องตามประวัติ วั ติศาสตร์ที่ ร์ ที่ เกี่ยวข้อ ข้ งในเรื่อ รื่ งนั้น นั้ ๆ เรื่อ รื่ งที่แสดง : มัก มั เป็น ป็ บทประพัน พั ธ์ข ธ์ องท่านที่แต่งขึ้น ขึ้ มีอ มี ยู่ห ยู่ ลายเรื่อ รื่ งด้ว ด้ ยกัน ดัง ดั นี้ ราชมนู พระเจ้า จ้ กรุง รุ ธน ศึกถลาง เจ้า จ้ หญิงญิแสนหวี พระมหาเทวี เบญจเพส น่า น่ นเจ้า จ้ อนุส นุ าวรีย์ รี ไย์ ทย พ่อ พ่ ขุนผาเมือ มื ง ดาบแสนเมือ มื ง ชนะมาร เจ้า จ้ หญิงญิกรรณิกณิาร์ สีห สี ราชเดโช ตายดาบหน้า น้ ลานเลือดลานรัก รั เพชรรัต รั น์ - พัช พั รา ลูก ลู พระคเณศ ครุฑ รุ ดำ โชคชีวิ ชี ตวิอานุภ นุ าพพ่อ พ่ ขุนรามคำ แหง อานุภ นุ าพแห่ง ห่ ความเสีย สี สละ อานุภ นุ าพแห่ง ห่ ความรัก รั อานุภ นุ าพแห่ง ห่ ศีลสัต สั ย์ และเลือดสุพ สุ รรณ การแสดง : มัก มั มีก มี ารแสดงต่าง ๆ แทรกอยู่เ ยู่ ป็น ป็ ระยะ ๆ เช่น ช่ การรำ อาวุธ การ ประลองอาวุธ การฟ้อ ฟ้ นรำ และระบำ ต่าง ๆ ประกอบเพลง ตลอดจนมีก มี ารแสดง และร้อ ร้ งเพลงสลับฉาก นอกจากนี้ก นี้ ารแสดงของท่านจะมีทั้ มี ทั้ ง ทั้ รำ ร้อ ร้ งเพลงไทย เดิมดิเพลงไทยสากล บางเรื่อ รื่ งผู้แผู้ สดงร้อ ร้ งเอง นอกจากนี้ล นี้ ะครหลวงวิจิวิตจิรวาท การยัง ยั มีลั มี ลั กษณะแปลก คือจะชวนเชิญชิ ให้ผู้ ห้ ชผู้ มร้อ ร้ งเพลงในละครเรื่อ รื่ งนั้น นั้ ซึ่ง ซึ่ เนื้อ นื้ เพลงมีค มี ติสอนใจ ปลุก ลุ ใจให้รั ห้ ก รั ชาติ จึง จึ เป็น ป็ ละครที่มีผู้ มี นิผู้ ยนิมมาก และจะได้รั ด้ บ รั แจก เนื้อ นื้ เพลง สามารถนำ มาร้อ ร้ งให้ลู ห้ ก ลู หลานฟัง ฟั ได้ ในสมัย มั ต่อมาการแสดงฉาก สุด สุ ท้ายตัวละครทุก ทุ ตัวจะต้องออกแสดงหมด ดนตรี : บรรเลงด้ว ด้ ยวงดนตรีไรี ทย และวงดนตรีส รี ากลประกอบกัน เพลงร้อ ร้ ง : มีทั้ มี ทั้ ง ทั้ เพลงไทยเดิมดิและเพลงไทยสากล โดยมี ๓ ลักษณะ คือ เพลง ไทยสากลที่ให้ตั ห้ ตั วละครร้อ ร้ งโต้ตอบกัน มัก มั เป็น ป็ เพลงรัก รั เพลงที่ให้ตั ห้ ตั วละครร้อ ร้ ง ประกอบการแสดง และเพลงปลุก ลุ ใจ 1 14


สถานที่ก ที่ ารแสดง ศาลาเฉลิมกรุง รุ สวนศิวาลัย เรือ รื พระที่นั่ง นั่ นาฏศาลา วัง วั บางปะอิน พระราชวัง วั ดุสิ ดุ ตสิพระราชวัง วัไกลกังวล พระราชอุทยานสราญรมย์ โรงโขนมิสมิกวัน วั ศาลาเริงริและพระตำ หนักนัเปี่ย ปี่ มลุย ลุ วังวัไกลกังวล งานพระราชพิธีพิแ ธี ละฉลองสมโภช เช่น ช่ เสาชิงชิช้า ช้ พระที่นั่ง นั่ เวหาส จำ รูญรู ศาลาหน้า น้ รัฐ รั บาล เป็นต้น 15


ผู้จัผู้ด จั ทำ 1.นายพลภัทร หมวกสกุล กุ 2.นายเมธากรณ์ เกิดสุว สุ รรณ์ 3.น.ส.อิสริยริา เลกากาญจน์ 4.น.ส.ปารมี ธนฉายสวัสวัดิ์ เลขที่ 16 เลขที่ 20 เลขที่ 34 เลขที่ 46 16


Click to View FlipBook Version