The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นางในวรรณคดีไทย (กัลยากร รหัส022)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanyakron.popeye, 2022-02-14 04:29:02

นางในวรรณคดีไทย (กัลยากร รหัส022)

นางในวรรณคดีไทย (กัลยากร รหัส022)

น า ง ใ น ว ร ร ณ ค ดี ไ ท ย

THAI
LITERATURE

จากผู้เขียนสู่ผู้อ่าน

From the author to the reader

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย มาอ่านกันเยอะๆนะ

นางในวรรณคดี สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกคนหนังสืวรรณคดีไทยเป็น
หนังสือให้ความรู้จัดทำในรูปแบบนิตยสาร
แต่ได้ใส่ความเป็นไทยเข้าไป ทำให้มีความน่า
สนใจมากยิ่งขึ้นในหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่
รวบรวมเกร็ดความรู้ของนางในวรรณคดีเอา
ไว้ อาจจะไม่มากเท่าที่ควรแต่ผู้เขียนหวังว่า
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้
อ่านได้ไม่มากก็น้อยและสุดท้ายนี้ผู้เขียนก็ขอ
ให้ผู้อ่านสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับหนังสือ
นางวรรณคดีเล่มนี้ด้วยนะคะ

NOTES

"วรรณคดีและวรรณกรรมสื่อให้ถึงเอกลักษณ์ของชนชาติไทย แต่ไม่ว่าชาติ
ไหนๆก็ย่อมมีเอกลักษณ์ของตนไม่แพ้กัน"

เท้าความเรื่องราวในเล่ม

LITERATURE

วรรณคดี โบราณคดีสโมสร

วรรณคดี เป็ นคำนาม “วรรณคดี” เป็ นที่รู้จัก

หมายถึง วรรณกรรมที่ อย่างเป็ นทางการเมื่อ

ได้รับยกย่องว่าแต่งดี มี พ.ศ.2450 สมัยพระบาท

คุณค่าเชิงวรรณศิลป์ ถึง สมเด็จพระจุลจอมเกล้า

ขนาด เช่น พระราชพิธี เจ้าอยู่หัว สมัยที่ชาติตะวัน

สิบสองเดือน มัทนะ ตกเริ่มเข้ามามีอิทธิพลใน

พาธา สามก๊ก เสภา ทุกๆ ด้าน พระองค์ทรงตั้ง
เรื่องขุนช้างขุนแผน “โบราณคดีสโมสร” ขึ้น

ต่อมาใน พ.ศ. 2457 สมัย เพื่อส่งเสริมการประพันธ์

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า การศึกษาประวัติศาสตร์
และงานทางโบราณคดี
เจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรด รวมทั้งพิมพ์ เผยแพร่
วรรณคดีโบราณ เช่น
เกล้าฯ ตราพระราชกฤษฎีกาจัด
ตั้ง “วรรณคดีสโมสร” ขึ้น โดยมี
วัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการ

แต่งหนังสือ ให้ถูกต้องตามหลัก ลิลิตยวนพ่าย ทวาทศมาส

ภาษาไทย สนับสนุนให้แต่งเรื่อง และนิราศพระยาตรัง
ที่อ่านแล้วได้สาระประโยชน์
เป็ นต้น
เช่นเดียวกับวัตถุประสงค์ของ

โบราณคดีสโมสร

นางในวรรรคดีไทย
สาวงาม อมนุ ษย์ นางฟ้ า ผู้เลอโฉมในวรรณคดี

รูปโฉมงดงามปานใคร
เทียบได้

วรรณคดี ถือเป็ นวรรณกรรมหรืองาน
เขียนที่ได้รั บการยกย่ องว่ า นอกจากจะ
มีเนื้ อหาสาระในเชิ งสร้างสรรค์ แล้ว ยั ง
มีคุ ณค่ าทางวรรณศิ ลป์ สามารถทำให้
ผู้อ่ านคล้อยตามเนื้ อเรื่องได้เป็ นอย่ าง
ดี

กล้าหาญ สุภาพ
อ่อนโยน

ทั้ งนี้ วรรณคดีส่ วนใหญ่ มักให้ความ
สำคั ญที่ตั วละคร รวมถึ งการดำเนิ น
เรื่อง และสิ่ งที่ได้รั บความสนใจเป็ น
อย่ างมากไม่ แพ้เนื้ อหา คือ นางใน
วรรณคดี ที่แต่ ละเรื่องที่มีอุ ปนิ สั ยแตก
ต่ างกั น

จุดเริ่มต้นแห่งเรื่องราวโศก
เศร้าในวรรณคดีไทย

ซึ่ งนางในวรรณคดีเหล่ านี้ บ้างก็ พบกั บ
โชคชะตาที่ยากลำบาก หรืออุ ปสรรค
ต่ าง ๆ กระทั่งนำไปสู่ บทสรุ ปที่แตก
ต่ างกั นไป ทั้ งนี้ ก็ เพื่อให้ผู้อ่ านได้นำไป
เป็ นแบบอย่ างในการดำเนิ นชี วิ ตนั่นเอง

นางวันทอง

"นางผู้โดนตราหน้าว่ามี2ใจ"

"การแย่งชิง นางวันทอง ระหว่างชาย นางวันทอง(พิมพิลาไลย)
ทั้งสอง ต้องจบลงเนื่องจากเกิดเป็ นคดี
วันทอง เป็ นชื่อนางในเสภาเรื่อง
ความและ พระพันวษา พระเจ้าแผ่นดิน ขุนช้างขุนแผน เป็ นนิทานพื้นบ้าน
ของเมืองสุพรรณบุรี นางวันทอง
ทรงเข้ามาตัดสินเอง โดยให้วันทอง เป็ นหนึ่งในตัวละครเด่น สาวงาม
แห่งเมืองสุพรรณ ลูกสาวของ
เลือกว่าจะอยู่กับใคร แต่วันทองไม่ยอม บ้านผู้มีฐานะดี มีนิสัยเจ้าคารม
เลือกเป็ นเหตุให้ พระพันวษา ทรงกริ้ว ชอบประชดประชัน เสียดสี
จนสั่งให้ประหารชีวิตในที่สุด" วันทองถูกผู้ชาย 2 คนตกหลุมรัก
อันได้แก่ ขุนช้าง และ ขุนแผน จน
ก่อให้เกิดมหากาฬแย่งชิงกัน
ระหว่าง ชายหนุ่มทั้ง 2 คน แต่
แรกเริ่ม วันทอง เลือกแต่งงานกับ
ขุนแผน แต่ด้วยปั ญหาความเจ้าชู้
ของขุนแผนและความเจ้าเลห์ของ
ขุนช้าง ทำให้ วันทอง ต้องจำใจ
แต่งงานกับ ขุนช้าง ในภายหลัง

" พ ร ะ ลั ก ษ มี เ ป็ น ม เ ห สี เ อ ก ข อ ง พ ร ะ น า ร า ย ณ์ อ ว ต า ร ล ง ม า เ พื่ อ เ ป็ น คู่
ครองของพระราม"

น า ง สี ด า

สีดา เป็นตัวละครหญิงที่มีชื่อเสียงมากที่สุด และเป็นตัวละครหญิงที่ได้รับการ
อ้างอิงว่านางเป็นแบบอย่างของผู้หญิงที่มีความรัก ซื่อสัตย์ต่อสามีเป็นเลิศ นาง
เป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในเรื่องรามเกียรติ์ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่
จะโยงไปสู่การทำสงครามระหว่างฝ่ายธรรมะกับฝ่ายอธรรม ในการดำเนินเรื่อง สี
ดามีบทบาทน้อยมาก เพราะเนื้อเรื่องส่วนใหญ่เป็นการรบมากกว่า แต่ด้วยบทบาท
ที่ปรากฏทำให้สีดา เป็นตัวละครอุดมคติที่เป็นแบบของความดีงาม ซึ่งเป็นแบบ
อย่างของตัวละครที่มีทั้ง ความดี และ ความงาม

นางสีดา เป็นตัวละครเอกในเรื่องรามเกียรติ์ เรื่องของนางเริ่มขึ้นเมื่อพระ
นารายณ์ได้อวตารลงไปเกิดเป็นพระราม นางสีดา คือ พระลักษมี พระชายาแห่ง
พระนารายณ์จึงทรงอวตารลงไปเกิดเป็นคู่ครองพระรามตามบัญชาของพระอิศวร
นางสีดาถือกำเนิดเป็นพระธิดาของทศกัณฐ์กับนางมณโฑ เพื่อเป็นชนวนของการ
ทำศึกสงคราม



องค์พระลักษมีบั งอร ไปเกิ ดในนครลงกา
ชื่ อว่าสี ดานงลักษณ์ เป็ นบุ ตรทศพัตร์ยักษา

นางศกุนตลา

"ศกุรตโลปาขยาณ"
นางผู้มีผิวขาวดั่งดอกมะลิ

นางศกุนตลา เป็ นธิดาของ พระวิ
ศวามิตรกับนางฟ้ าเมนกา แต่นาง
ได้ถูกทิ้งไว้ในป่ าตามลำพัง ต่อมา
นางนกมาพบเข้าจึงนึกสงสาร
และและนำตัวนางกลับไปเลี้ยงดู
เหมือนลูกแท้ ๆ ที่อาศรมของตน
ต่อมานางศกุนตลาเติบโตเป็ นสาว
รุ่นที่งดงามอย่างหาที่ติไม่ได้ นาง
ได้พบกับท้าวทุษยันต์ กษัตริย์
จันทรวงศ์ แห่งนครหัสดิน จนทั้ง
คู่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน แต่เมื่อ
ท้าวทุษยันต์ต้องเดินทางกลับ
เมือง จึงทำการมอบแหวนวงหนึ่ง
ไว้ให้แก่นาง จนกระทั่งเช้าวันหนึ่ง
พระฤาษีทุรวาสผู้มีปากร้าย ได้มา
เรียกนางที่หน้าประตู แต่นางไม่
ได้ออกไปต้อนรับ ทำให้พระฤาษี
ทุรวาสโกรธสาปให้นางถูกคนรัก
จำไม่ได้ ต่อมาเมื่อพระฤาษีทุรวา
สหายโมโหแล้ว เพราะรู้ว่านางไม่
ได้ตั้งใจแสดงอาการไม่เคารพกับ
ตนจึงให้พรกำกับว่า หากคนรัก
ของนางได้เห็นของที่ให้ไว้เป็ นที่
ระลึกก็จะจำนางได้

ภาพวาดนางศกุนตลาของ
ครูเหม เวชกร

พระเพื่อน

พระแพง

"เสียงลือเสียงเล่าอ้าง
อันใด พี่เอย"

สองธิดาเมืองสรวง

เรานั้นรู้ดีกันอยู่แล้วว่า พระลอ
นั้น เป็นหนุ่มรูปงามเป็นที่เลื่อง
ลือไปทั่วจนทำให้พระเพื่อน พระ
แพง เกิดความรักและ
ปรารถนาที่จะได้พระลอมาเป็น
สวามี พี่เลี้ยงของพระเพื่อน
พระแพง ชื่อนางรื่น นางโรย
จึงได้ออกอุบายส่งคนไปขับซอ
ยอโฉมพระเพื่อน พระแพง ให้
พระลอฟัง และให้
ปู่เจ้าสมิงพรายทำเสน่ห์ให้พระ
ลอเกิดความรักหลงใหลคิด
เสด็จไปหานาง จนเกิดเป็นโศก
นาฎกรรมความรักในเรื่องลิลิต
พระลอนั่นเอง

นางเอื้อย

สุภาพเรียบร้อย อ่อนน้อมถ่อมตน อ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ

นางเอื้อย

นางเอกจากวรรณกรรมพื้นบ้าน เรื่องปลาบู่ทอง ซึ่ง
เป็ นเรื่องที่รู้จักกันดีอีกเรื่องหนึ่ง แม่นางเอื้อยถูกพ่อ
ทุบตีจนตกน้ำตาย กลายเป็ นปลาบู่ทองมาหาลูก ส่วน
นางเอื้อยก็ถูกกลั่นแกล้งจากแม่เลี้ยงและนางอ้ายลูก
แม่เลี้ยงต่างๆนานา แต่นางก็เป็ นคนที่มีความกตัญญู
รู้คุณยิ่ง แม้แม่จะเป็ นปลาก็ยังหาอาหารไปให้แม่ ครั้น
แม่ปลาถูกฆ่าตายกลายไปเป็ นต้นมะเขือ ก็พยายาม
บำรุงรดน้ำต้นมะเขืออย่างดี ครั้นมะเขือถูกทำลายก็
หาทางนำเมล็ดไปปลูกใหม่จนกลายเป็ นต้นโพธิ์เงิน
โพธิ์ ทอง และต่อมาได้เข้าวังเป็ นสนมเอก ถูกหลอก
ว่าพ่อป่ วย ก็รีบมาเยี่ยมโดยไม่ได้คิดอาฆาตที่พ่อ
ทำร้ายแม่ ในที่สุดก็ถูกแม่เลี้ยงทำอุบายฆ่าตายกลาย
เป็ นนกแขกเต้า นางเอื้อยที่ได้เกิดเป็ นนกแขกเต้าบิน
ไปหาท้าวพรหมทัต นางอ้ายจับได้ก็เอาไปให้แม่ครัว
แกงให้กินแต่นกนั้นบินไปแอบในรูหนู แล้วบินไปพึ่ง
ใบบุญพระฤาษี ท่านก็แปลงโฉมให้เป็ นนางเอื้อย
เหมือนเดิม และชุบลูกให้นางเอื้อยเลี้ยง ลูกของนาง
เอื้อยได้ซักถามเกี่ยวกับพ่อของตน เอื้อยจึงเล่าให้ฟั ง
ว่า อ้ายแปลงตัวเป้ นตนแล้วสวมรอยแทน ลูกนาง
เอื้อยแค้นนัก จึงแอบไปหาท้าวพรหมทัตในวัง ไปทูล
ความจริงให้ท้าวพรหมทัตทราบ ท้าวพรหมทัตจึงไป
รับตัวเอื้อยกลับเข้าวัง อ้ายรู้ว่าเอยกลับมาแล้วไม่รู้จะ
ทำอย่างไรจึงชิงฆ่าตัวตายไปก่อน แต่ที่จริงเอื้อยก็ทูล
ขอชีวิตอ้ายกับท้าวพรหมทัตแล้วล่ะ ต่อมาเมืองพราณ
สีจึงอยู่เย็นเป็ นสุขเรื่อยมา

น า ง มั ท น า ที่ใดมีรั ก
ที่นั่นย่อมมีทุ กข์

นางมัทนา

มัทนะพาธา
เป็ นนางฟ้ าที่มีรูปโฉมงดงาม จนจอม ตำนานรั กดอกกุ หลาบ
เทพสุเทษณ์ติดตาตรึงใจและใคร่จะได้
นางเป็ นชายา แต่นางมัทนาไม่เคย
สนใจจอมเทพสุเทษณ์ เพราะได้ตั้ง
ปณิธานไว้ว่าจะครองคู่กับชายที่ตนรัก
เท่านั้น ด้านจอมเทพสุเทษณ์เป็ นเทพ
ผู้ใหญ่บนสรวงสวรรค์ แต่กลับเป็ น
ทุกข์อยู่ด้วยความลุ่มหลงเทพธิดา
มัทนา แม้จิตระรถสารถีคู่บารมีจะนำ
รูปของเทพเทวีผู้เลอโฉมหลายต่อ
หลายองค์มาถวายให้เลือกชม จอม
เทพสุเทษณ์ก็มิสนใจไยดี และไม่ว่า
เกี้ยวพาหรือรำพันรักอย่างไร นาง
มัทนาก็ได้แต่ปฏิเสธว่า ไม่มีจิตเสน่หา
ตอบ ดังนั้นจอมเทพสุเทษณ์จึงโกรธ
มาก กระทั่งจะสาปนางมัทนาให้ไปเกิด
ในโลกมนุษย์ นางมัทนาไปจุติเป็ น
กุหลาบงามอยู่ในป่ าหิมะวันแลได้พบ
รักกับพระรถเสน แต่นางต้องพบกับ
อุปสรรคนานัปการ จนนางต้อง
อ้อนวอนขอร้องให้จอมเทพสุเทษณ์
ช่วยนาง ด้านจอมเทพสุเทษณ์ยินดีแก้
คำสาปให้แต่ยังคงต้องการรับนางเป็ น
มเหสีอยู่เช่นเดิม แต่นางมัทนาได้
ปฏิเสธอีกครั้ง ดังนั้นจอมเทพสุเทษณ์
จึงสาปส่งให้นางมัทนาเป็ นดอกกุหลาบ
ไปตลอดกาล มิอาจกลายร่างเป็ น
มนุษย์ได้อีก

นางจิตราวตรี

"งามงอนอ่อนระทวยนวยแน่ง ดำแดงนวลเนื้อสองสี

นางในธานีไม่เทียมทัน"

ผ่องพักตร์ผิวพรรณดังจันทรี

เป็ นธิดาของระตูหมันหยากับประไหมสุหรี มเหสีลำดับที่ 1

ของอิเหนา นางมีอายุเท่ากันกับอิเหนาแต่อ่อนเดือนกว่า เมื่อ

ครั้งอิเหนาเดินทางมาเยี่ยมระตูหมันหยาที่เมืองหมันหยาได้

เห็นนางจินตหราก็หลงรัก อิเหนาตามเกี้ยวพาราสีนางอยู่

นาน โดยอาศัยการติดสินบนบาหยันและซ่าเหง็ด ส่งสารไป

หาจินตหรา ซึ่งจินตหราเองก็พอใจอิเหนาเช่นกัน ในที่สุดระตู

หมันหยาก็ใจอ่อนยกจินตหราให้อิเหนา ต่อมาอิเหนาไปทำศึก

สงครามได้ธิดาระตูโฉมงามสองนางมาเป็ นชายาอีกสองนาง

คือ นางสะการะวาตีและนางมาหยารัศมี ซึ่งจินตหราวาตีเอง

ก็มิได้แสดงอาการหึงหวง และรักใคร่ทั้งสองนางดั่งเป็ นน้อง

สาวแท้ๆของตน ในช่วงนั้น อิเหนารักนางจินตหราวาตีมาก

ถึงขนาดออกปากตัดรอนบุษบาคู่ตุนาหงันทีเดียว เเต่เมื่อท้าว

ดาหาแห่งเมืองดาหาส่งสารมาให้อิเหนามาช่วยรบกับวิหยา

สะกำ ระตูผู้น้อยที่หวังจะมาชิงตัวบุษบาไป ตอนแรกจินตหรา

ร้องไห้เสียใจ กลัวว่าอิเหนาหลอกนางเพื่อไปแต่งงานกับ

บุษบา แต่อิเหนาก็ปลอบโยนนางพร้อมบอกว่าท้าวดาหาส่ง

สารมาจริง และเมื่อตนเสร็จศึกนี้เมื่อไหร่จะรีบกลับมาหานาง

ที่เมืองหมันหยา แต่กลับกลายเป็ นว่าอิเหนาไปหลงรักบุษบา

และห่างหายจินตหราไปนานมาก ไม่ยอมโผล่หน้ามาที่เมือง

หมันหยาถึง 7 ปี กว่า เมื่อพบกันอีกครั้งในพิธีสยุมพรจินตหรา

ก็ทั้งโกรธทั้งน้อยใจไม่ยอมมองหน้าหรือพูดคุยด้วย ความจริง

แล้วจินตหราวาตีก็งามมากอยู่ ถ้าจะเเต่งงานใหม่กับชายอื่นก็

คงไม่มีปั ญหา แต่นางยังคงรออิเหนาจึงไม่ยอมแต่งงานใหม่

นางไอ่คำ(ผาแดงนางไอ่)

นางไอ่คำ (ธิดาพระยาขอม) จากตำนานพื้นบ้านเรื่อง ผาแดงนางไอ่

นิทานท้องถิ่นอีสาน ที่สืบทอดกันมาตามตำนานเล่าขานสืบต่อมา
มูลเหตุที่ทำให้เกิด "หนองหาน" เป็ นวรรณคดีพื้นบ้านที่กล่าวถึงการ
ทำบุญบั้งไฟ วัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ของชาวอีสาน นางไอ่คำมีสิริโฉม
งดงามเป็ นที่เลื่องลือไปในนครต่างๆ ทั้งโลกมนุษย์และบาดาลจึงมี
ชายหนุ่มหมายปองมากมาย รวมทั้งท้าวผาแดงแห่งเมืองตาโพง
และท้าวพังคี โอรสพญาสุทโธนาค เมืองบาดาล ซึ่งทั้งสองได้ผูกพัน
กับนางไอ่คำมาตั้งแต่อดีตชาติ ต่างช่วงชิงได้เคียงคู่กับนาง แต่ท้าว
ทั้งสองก็ต้องพลาดหวังเพราะแข่งขันบั้งไฟแพ้ ด้วยความรักและ
ต้องการตัวนางไอ่คำ ท้างพังคีได้แปลงกายเป็ นกระรอกเผือกคอย
ติดตามนางไอ่คำ สุดท้ายถูกฆ่าตาย ทำให้พญาสุทโธนาคผู้เป็ นพ่อ
โกรธแค้นเข้ามาถล่มเมืองล่มไปกลายเป็ นหนองน้ำใหญ่ คือ
หนองหานในปั จจุบัน

นางกากี

นางกากี นอกจากจะมีรูปกายงดงามราวกับเทพธิดาแล้วยังมีกลิ่นกายหอมชวนหลงใหลเมื่อ
ชายใดแตะต้องหรือสัมผัสนางกลิ่นกายนางก็จะหอมติดชายคนนั้นไปถึงเจ็ดวัน เดิมทีนางกากี
เป็ นพระมเหสีของท้าวบรมพรหมทัตซึ่งโปรดการเล่นสกามากและมีพระยาครุฑเวนไตยซึ่งแปลง
ร่างเป็ นมานพรูปงามมาเล่นสกาอยู่ด้วยเนืองๆจนวันหนึ่งท้าวบรมพรหมทัตเล่นสกาเพลินมิได้
ไปหานางกากี นางจึงมาแอบดูและสบตาเข้ากับพระยาครุฑแปลง จากนั้นทั้งสองต่างเกิดอาการ
หวั่นไหว จนพระยาครุฑได้ตัดสินใจลักพาตัวนางไปอยู่ที่วิมานฉิมพลี ทำให้ท้าวพรหมทัต
กลัดกลุ้มพระทัยมาก ซึ่งเป็ นพี่เลี้ยงของท่านท้าวท้าวบรมพรหมทัตจึงอาสาพานางกลับมา โดย
การแปลงตัวเป็ นไรแทรกอยู่ในขนครุฑเพื่อตามไปที่วิมานของครุฑ จากนั้นเมื่อพระยาครุฑบิน
ออกไปหาอาหารคนธรรพ์นาฏกุเวรก็ปรากฏกายออกมา แต่แทนที่จะพานางกากีกลับเมือง กลับ
เกี้ยวพาราสีและเล้าโลมนางจนได้เสียกัน ต่อมาคนธรรพ์นาฏกุเวรกลับมารายงานท้าวบรม
พรหมทัตว่า นางกากีจะอยู่กับครุฑและตนได้เสียกับนางแล้วเพื่อให้ท้าวบรมพรหมทัตรังเกียจ
นาง ซึ่งท้าวบรมพรหมทัตก็โกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ เมื่อพระยาครุฑแปลงกายมาเล่นสกาอีกก็ถูก
คนธรรพ์นาฏกุเวรเยาะเย้ย เมื่อพญาครุฑทราบเรื่องทั้งหมดก็โกรธนางกากีมาก ถึงขั้นนำนาง
มาปล่อยไว้ในเมืองส่วนท้าวบรมพรหมทัตเอง เมื่อเห็นนางก็ต่อว่าถากถางก่อนนำนางไป
ลอยแพกลางทะเลระหว่างนั้นนางกากีได้รับความช่วยเหลือจากนายสำเภา ก่อนตกเป็ นภรรยา
ของชายผู้นี้ แต่เคราะห์กรรมนางก็ยังไม่หมด เมื่อถูกโจรลักพาตัวไปเพราะหลงใหลรูปโฉม แต่
ปรากฏว่าในหมู่โจรก็เกิดการแย่งชิงนางเกิดขึ้น เมื่อนางหนีไปได้ก็ได้ไปเป็ นมเหสีของท้าวทศ
วงศ์ กษัตริย์อีกเมืองหนึ่ง เมื่อคนธรรพ์นาฏกุเวรได้ครองเมืองแทนท้าวบรมพรหมทัตที่สวรรคต
ลง ก็ได้ตามไปชิงนางกลับคืนมาโดยการฆ่าท้าวทศวงศ์ เรื่องจึงจบลงซึ่งนับดูแล้วพบว่านางกากี
มีสามีถึง 5คนและต้องตกระกำลำบากรวมถึงถูกสังคมประณามเนื่องจากมีเสน่ห์มากเกินไป

นางมณโฑ มเหสีองค์ที่ ๑
ของท้าวทศกัณฐ์
นางมณโฑเทวีเป็ นนางฟ้ าผู้รับใช้ใกล้
ชิดของพระอุมาเทวี อดีตชาติเป็ นนาง
กบ ที่ได้อาศัยอยู่กับพระฤๅษี ๔ องค์ที่
บำเพ็ญตบะมาหลายหมื่นปี ทุกเช้าจะ
มีนางโคห้าร้อยตัวมาหยดน้ำนมลงใน
อ่างให้ฤๅษีดื่มกิน ฤๅษีก็จะแบ่งน้ำนม
ให้แก่นางกบกินด้วยทุกวัน อยู่มาวัน
หนึ่งมีนางนาคขึ้นมาจากเมืองบาดาล
ด้วยความกำหนัดใคร่หาชายามาสมสู่
ด้วย หาเท่าไรก็ไม่เจอผู้ชายซักคนจน
ไปพบงูดินเพศผู้ตัวหนึ่งจึงกลายร่าง
เป็ นพญานาคและร่วมสมสู่กับงูดิน
ฤๅษีทั้ง๔เดินมาพบก็แปลกใจเหตุใด
พญานาคลดตัวต่ำมาร่วมรักกับงูดินได้
พระฤๅษีจึงเอาไม้เท้าเคาะที่กลางหลัง
นางนาคตกใจและอับอายหนีหายเข้า
เมืองบาดาล

นางนาคคิดได้จึงคิดฆ่าพระฤๅษีเพราะกลัวว่า
จะนำเรื่องของตนไปเผยแพร่ จึงได้คายพิษใส่

ในอ่างน้ำนมนางกบมาเห็นจึงกินนมในอ่างจน

หมดจนตนเองตาย พระฤๅษีมาเห็นจึงเพ่งตบะ
เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด จึงทำการชุบชีวิตและ
เสกนางเป็ นสาวงามและตั้งชื่อว่า นางมนโฑ
ซึ่งหมายถึง นางกบ และนำนางไปถวายแก่

พระอิศวร พระอิศวรรับนาง และให้นางไปเป็ น

นางพระกำนัล ของพระอุมาเทวี พระมเหสี
ของตน ภายหลังได้ประทานให้แก่ทศกัณฐ์ที่
สามารถชลอเขาไกรลาศให้ตั้งตรงได้

จากนางเมรีสู่ นางมโนราห์

นาง นางมโนราห์ จากเรื่อง.
มโนราห์ พระสุธณ-มโนราห์

นางมโนราห์ เป็ นธิดาองค์เล็กของท้างทุม
ราชผู้เป็ นพระยากินนร นางมีพระพี่นาง
อีกหกองค์ล้วนมีหน้าตาเหมือน กันและ
งดงามยิ่งกว่านางมนุษย์ โดยทุกองค์มีปี ก
และหางที่ถอดออกได้ เมื่อใส่ปี กใส่หาง
แล้วกินนรก็สามารถบินไปยังที่ต่าง ๆ ได้
นางมโนราห์และพี่น้องทั้งหกได้ไปเล่นน้ำ
ที่สระน้ำอโนดาต เจอพรานบุญที่ต้องการ
จับตัวนางกินรีเพราะเห็นว่านางงดงาม
คู่ควรแก่พระสุธน โอรสแห่งเมืองปั ญจา
ลนคร พรานบุญจึงไปยืมบ่วงนาคบาศจาก
ท้าวชมพูจิต พญานาคราช
ทำให้สามารถจับนางมโนราห์ไปถวายแค่
พระสุธนได้ พระสุธนเมื่อเห็นนางเข้าก็
เกิดหลงรักและพานางกลับเมืองจนได้
อภิเษกกัน

ต่อมาปุโรหิตคนหนึ่งได้เกิดจิตอาฆาตแค้นแก่
พระสุธน เพราะพระสุธนไม่ให้ตำแหน่งแก่บุตร
ของตน เมื่อถึงคราวเกิดสงคราม พระสุธนออก
ไปรบ เมื่อพระบิดาพระสุธนได้ทรงพระสุบิน
ปุโรหิตจึงทำนายว่าจะเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ โดย
ให้นำนางมโนราห์ไปบูชายัญเพื่อแก้เคล็ด เมื่อ
ท้าวอาทิตยวงศ์ยินยอมตามนั้น นางมโนราห์ที่
รู้เข้าก็เกิดตกใจ จึงออกอุบาย ของปี กกับหาง
ขอนางคืน เพื่อร่ายรำหน้ากองไฟก่อนจะตาย
เมื่อนางได้ปี กกับหางแล้ว นางจึงร่ายรำสักพัก
ก่อนบินหนีไป

นางจัน(นทาวงดเีงพืัอนกป)ี หลวง

นางเงือก มีร่างครึ่งคนครึ่งปลากาย
ท่อนบนเป็นหญิงสาวสวย แต่ท่อนล่าง
ตั้งแต่เอวลงไปมีหางเป็นปลาอาศัยอยู่ใน
ทะเล นางเงือกกับพ่อแม่ของนางได้ช่วย
พาพระอภัยมณีกับสินสมุทรหนีนาง
ผีเสื้อสมุทรไปที่เกาะแก้วพิสดาร แต่พ่อ
แม่ของนางหนีไม่ทันจึงโดนนางผีเสื้อ
สมุทรจับกิน แล้วนางเงือกก็ตกเป็น
ภรรยาของพระอภัยมณี

ต่อมาพระภัยมณีกับสินสมุทรบวชเป็น
โยคีและอาศัยเรือของท้าวสิลราชกลับไป
บ้านเมือง ก่อนจากกันพระอภัยมณีไป
ล่ำลานางเงือกและฝากแหวนกับปิ่นไว้ให้
ลูกในท้องนาง เวลาผ่านไปนางเงือก
คลอดลูกชาย รูปร่างหน้าตาเป็นมนุษย์
อย่างสมบูรณ์และฝากให้โยคีเลี้ยงดูแลให้
เพราะนางเลี้ยงลูกเองไม่สะดวก โยคีตั้ง
ชื่อให้ว่า สุดสาคร

นางสุ พรรณมัจฉา

"ในอดีตเมื่อถึงช่ วงเวลาทอด เป็ นตัวละครจากวรรณคดีเรื่อง
กฐิ นจะมีการประดั บธง คือ รามเกียรติ์ อันเป็ นธิดาของทศกัณฑ์
"ธงจระเข้" คู่กับ "ธงนาง ที่ต่อมาได้ตกเป็ นภรรยาคนหนึ่งของ
มัจฉา" เมื่อทอดกฐิ นเสร็ จ หนุมานทหารเอกของพระราม อัน
แล้วก็ จะต้องเอาธงนี้ ไปปั ก เป็ นตัวเอกของวรรณคดีเรื่องดังกล่าว
หน้าวัด เพื่อให้ผู้ที่ผ่ านไปมา
รู้ว่าวัดนี้ ได้ทอดกฐิ นแล้ว นางปรากฏตัวครั้งแรกเมื่อครั้งที่
ผู้คนก็ จะยกมือขึ้นอนุ โมทนา พระรามให้หนุมานถมมหาสมุทรข้าม
ในการกุ ศลกฐิ นด้วย ด้วย ไปยังกรุงลงกา ทศกัณฑ์จึงให้นาง
เหตุ นี้ ธงจระเข้และนางมัจฉา สุพรรณมัจฉาและบริวารที่เป็ นปลา
จึงเป็ นเครื่องหมายการกฐิ นที่ ลอบขนหินถมทะเลดังกล่าวไปทิ้ง
หนุมานสงสัยจึงดำลงไปใต้ท้องทะเล
จำเป็ นสมัยก่ อน เพราะเวลา จึงพบนางสุพรรณมัจฉา ภายหลังทั้ง
แห่ สามารถจะรู้ได้ว่าเป็ นแห่ สองได้ร่วมรักกันและมีบุตรคือ
กฐิ น ผิ ดกว่างานบุ ญอื่น ๆ" มัจฉานุ ที่ตัวเป็ นลิงมีหางเป็ นปลา

นางสัมนักขา

นางสำมนักขา

เป็ นยักษ์ กายสีเขียว เป็ นน้องร่วมมารดาคนสุดท้องของทศกัณฐ์ สามีชื่อ
ชิวหา ต่อมาชิวหาถูกทศกัณฐ์ขว้างจักรตัดลิ้นขาดถึงแก่ความตาย นางสำมนักขาจึง
เป็ นม่าย มีความว้าเหว่ ออกท่องเที่ยวไปจนได้พบพระราม นางเห็นพระรามรูปงาม
ก็นึกรักอยากได้เป็ นคู่ครอง ถึงกับตบตีนางสีดาด้วยความหึงหวง จึงถูกพระลักษมณ์
ตัดหู จมูก มือและเท้าแล้วไล่ไป นางสำมนักขากลับไปฟ้ องพี่ชายคือ ทูษณ์ ขร และ
ตรีเศียร ว่าถูกพระรามข่มเหงแต่ยักษ์ทั้ง 3 ตน ก็ถูกพระรามสังหาร นางสำมนักขา
จึงไปหาทศกัณฐ์ชมโฉมนางสีดาให้ฟั ง จนทศกัณฐ์นึกอยากได้เป็ นชายา จนกระทั่ง
ไปลักพานางสีดามา

"สำมนักขาชื่ออ้าง อสุรพันธุ์
นาฏขนิษฐาทศกรรฐ แก่นไท้
ฉวีกายสกลวรรณ เขียวสด สอาดนอ
เป็ นเอกชาเยศรได้ อยู่ด้วยชิวหา

ขุนมหาสิทธิโวหาร"

นางผีเสื้อสมุทร

ยักษา ตาโตโมโหมาก รูปก็กากปากก็เปราะ ไม่เหมาะ
เหมง นมสองข้างอย่างกระโปรงดูโตงเตง อาศัยอยู่
ในถ้ำซึ่งอยู่กลางทะเล สามารถแปลงร่างเป็ นหญิง
สาวสวยได้ ชาติก่อนได้พรจากพระอิศวรให้ถอด
ดวงใจใส่ไว้ในก้อนหินได้ นางจึงกำเริบใจไปต่อสู้กับ
พระเพลิงจึงถูกไฟกรดเผาจนร่างมอดไหม้ นางก็
กลายเป็ นปี ศาจสิงอยู่ในก้อนหินที่ฝากดวงใจไว้ พระ
อภัยมณีถูกนางผีเสื้อสมุทรจับไปอยู่ในถ้ำอย่างไม่
เต็มใจ จนตกเป็ นสามีของนางผีเสื้อน้ำอีท่าไหนไม่รู้
และมีลูกด้วยกัน 1 คน คือสินสมุทร สินสมุทรอายุ 8
ขวบ วันหนึ่งขณะที่แม่ไม่อยู่ถ้ำ ด้วยความซุกซนบวก
พละกำลังแบบคนที่มีแม่เป็ นยักษ์ ก็ลองผลักหินที่
นางผีเสื้อสมุทรใช้ปิ ดปากถ้ำของเด็จพี่ภัยไว้ แล้ว
ออกไปลั้นลา จับปลากระโห้โลมาเล่นจนไปเจอเงือก
เฒ่า ด้วยความสงสัยจึงจับตัวมาให้พ่อดูว่านี่มันตัว
อะไรกันแน่เงือกเฒ่าก็แสนดี พอได้พบพระอภัยมณีก็
เกิดอาการเห็นใจ อาสาจะพาหนีไปพึ่งบารมีพระเจ้า
ตา (โยคีขมังเวทย์) ยังเกาะแก้วพิสดารซะอย่างนั้น
วางแผนกันเสร็จ พระอภัยมณีก็ใช้อุบายหลอกนาง
ยักษ์ไปถือศีลอดอาหารอยู่ 3 วัน ระหว่างนั้นก็เกาะ
หลังเงือกประหนึ่งเล่นเจ็ตสกีโต้ลมทะเลไปจนเกือบ
จะเข้าฝั่ ง นางผีเสื้อสมุทรกลับมาถ้ำไม่เจอสามี จึงรู้
ว่าถูกหลอก รีบตามไปจนทันกันที่หาดใสทรายสวย
ร่ำรวย ณ เกาะแก้วพิสดารแบบหวุดหวิด (เงือกเฒ่า
ผัวเมียโดนจับกินไปเรียบร้อย เหลือแต่เงือกน้อย ที่
จะตกเป็ นเมียอีกคนของพี่ภัยในเวลาต่อมา)

"ครั้นเวลาผ่านไปเนิ่นนานหลายปี ก้อนหินก็มีแขนขา หน้าตางอกออกมา แล้วในที่สุดก็มีชีวิตขึ้นมาอีก วันหนึ่งนางเห็น
พระอภัยมณีก็นึกรักจึงอุ้มไปอยู่กับนางในถ้ำ จนมีลูกชายด้วยกันชื่อสินสมุทร ต่อมาพระอภัยมณีกับสินสมุทรก็พากันหนี
ไปจากนาง นางผีเสื้อสมุทรออกติดตามไปด้วยความรัก แต่แล้วนางก็ต้องตายด้วยเสียงปี่ของพระอภัยมณี ร่างของนางก็
กลับกลายเป็ นหินอยู่ที่ชายหาดริมทะเลนั่นเอง"

บรรณานุ กรม

bibliography

HTTPS://SITES.GOOGLE.COM/A/SILPAKORN.ED
U/CHARACTERS-IN-LITERATURE

ตั ว ช่ ว ย ใ น ก า ร ค้ น ห า ป ร ะ วั ติ
นางในวรรณคดี ความเป็ นมา

ข้ อ มู ล ต่ า ง ๆ

GOOGLE PHOTO

ค้นหารูปนางในวรรณคดี
สวยๆ มาเป็ นส่วนประกอบ

ใ น ห นั ง สื อ

WIKIPEDIA, THE FREE
ENCYCLOPEDIA

ตั ว ช่ ว ย เ พิ่ ม เ ติ ม เ มื่ อ ต้ อ ง ก า ร
ข้อมูลอื่นๆ

ผู้ จั ด ทำ มหาวิทยาลัยราชภัฏ
พระนคร
BOOK MAKER

นางสาวกัลยากร ขวัญแย้ม

นักศึกษาชั้นปี ที่3

สาขาวิชาภาษาไทย

คณะมนุษยศษสตร์และ
สังคมศาสตร์

รหัส 6210123312022

หมู่เรียนที่1

"ทางผู้จัดทำหวังว่าทุกคนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้จะมี
ความสุขและได้ความรู้เล็กๆน้อยๆกลับไปหลังจาก
การอ่านเล่มนี้กันนะคะ ขอบคุณค่ะ"

น า ง ใ น ว ร ร ณ ค ดี ไ ท ย

THAI
LITERATURE


Click to View FlipBook Version