รายงานผล
การจดั กจิ กรรม “ลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้”
ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๑
ชอื่ กิจกรรมท่ี ๑ วิทยาการคานวณแบบ Unplugged
เร่ือง คอมพิวเตอร์กับเลขฐานสอง (Binary Number)
ชื่อกจิ กรรมที่ ๒ วทิ ยาการคานวณแบบ Unplugged
เร่ือง ระบบการจดั เรียงลาดับ (Sorting Algorithms)
ครูท่ีปรกึ ษากิจกรรม
นางสาวกลุ ธดิ า สวุ ชั ระกลุ ธร
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์
โรงเรียนมาบตาพดุ พันพิทยาคาร
สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๘
บนั ทกึ ข้อความ
สว่ นราชการ โรงเรียนมาบตาพุดพันพทิ ยาคาร อาเภอเมือง จังหวัดระยอง
ท่ี........................ วันที่ ๘ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๖๒
เร่อื ง รายงานผลการจดั กิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”
....................................................................................... ..................................................................................
เรยี น ผู้อานวยการโรงเรยี นมาบตาพดุ พันพิทยาคาร
ตามท่กี ลมุ่ บริหารวชิ าการโรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร ได้มีการจัดกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
และกาหนดให้ครูผู้สอนส่งรายงานผลการจัดกิจกรรม “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้”ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา
๒๕๖๑ นนั้
บัดนี้ข้าพเจ้า นางสาวกุลธิดา สุวัชระกุลธร กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ได้ดาเนินการจัดทา
รายงานผลการจดั กจิ กรรม “ลดเวลาเรยี น เพิม่ เวลารู้”เรยี บร้อยแลว้
จงึ เรียนมาเพื่อทราบ
ลงช่ือ........................................................
(นางสาวกุลธิดา สวุ ัชระกลุ ธร)
ลงชอื่ ........................................................ ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวบุญรงุ่ บุญอากาศ) (นางสาวขวญั ชนก ทองทัพไทย)
หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ หวั หน้ากจิ กรรมลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้
ลงชอ่ื .............................................................
(นายศริ ิชยั หอมดวงศรี)
รองผู้อานวยการกล่มุ บริหารวิชาการ
ลงช่อื .............................................................
(นายพรศักด์ิ ทพิ ยว์ งษ์ทอง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นมาบตาพุดพันพทิ ยาคาร
แผนกิจกรรมลดเวลาเรยี นเพิ่มเวลารู้
กิจกรรมที่ ๑ วทิ ยาการคานวณแบบ Unplugged
เร่อื ง คอมพิวเตอร์กับเลขฐานสอง (Binary Number)
หลักการและเหตผุ ล
วิทยาการคานวณ (Computer Science: CS) เป็นรากฐานสาคัญของทุกอาชีพ เม่ือเศรษฐกิจเข้าสู่
ยุคดิจิตอลคนไทยจาเป็นต้องมีความรู้ด้านโลกสมัยใหม่ การเรียนรู้ด้านวิทยาการคานวณ ไม่จาเป็นต้องเรียนรู้
เฉพาะเขียนโปรแกรมเท่าน้ัน แต่เป็นการเรียนรู้เพ่ือฝึกทักษะสาคัญ 4 ทักษะ คือ การแบ่งปัญหาใหญ่ให้เป็น
ปัญหาย่อย (decomposition) การมองหารูปแบบของปัญหา (pattern recognition) การคิดเชิงนามธรรม
(abstraction) และออกแบบข้ันตอนวิธีการแก้ปัญหา (algorithm design) ดังน้ันการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาการคานวณจงึ ไม่จาเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ กิจกรรมการเรียนรู้แบบ Unplugged จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลอื ก
สาหรับการสอนเด็กให้ใช้การวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ช่วยพัฒนาการใช้สมองสร้างสรรค์ผลงานในการ
ทางาน รู้จักการทางานเป็นทีมและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ด้วย นอกจากน้ี ทักษะการคิดเชิงคานวณที่เด็กไทย
จะได้เรียนรู้ยังสามารถต่อยอดไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตประจาวัน มองปัญหาอย่างมีทางแก้ด้วยระบบ เข้าใจ
และสามารถควบคุมระบบอัตโนมัติได้ในเบ้ืองตน้ ซ่งึ จะสามารถเพ่ิมประสิทธภิ าพในการทางานในอนาคตได้ หาก
เขียนโปรแกรมได้รับรองว่าไม่ตกงาน เพราะปัจจบุ ันโปรแกรมเมอร์ในตลาดแรงงานไทยมีน้อยมาก และยงั คงเป็น
ที่ตอ้ งการอย่างต่อเนอื่ ง
การประมวลผลในคอมพิวเตอร์จะใช้ระบบเลขฐานสอง ที่ประกอบดว้ ยตวั เลข ๒ ตัว คือ เลข ๐ และเลข
๑ เพราะภายในเคร่ืองคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ท่ีมีหลักการทางานแบบดิจิตอล และใช้
ระดบั แรงดนั ไฟฟา้ 2 ระดับ คอื สวติ ช์เปดิ (on) กบั สวติ ช์ปดิ (off) โดยกาหนดใหส้ ถานะของการ "เปดิ " แทนดว้ ย
เลข "๐" และ"ปดิ " แทนด้วยเลข "๑" ซง่ึ เลขฐานสองจานวนหนึง่ หลกั เราเรยี กวา่ "บติ "
วตั ถุประสงค์
การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เร่ือง คอมพิวเตอร์กับเลขฐานสอง (Binary Number)
มวี ตั ถปุ ระสงค์ ดังน้ี
๑. อธิบายวธิ ีการเกบ็ ข้อมูลและส่งข้อมูลของคอมพิวเตอร์ในระบบเลขฐานสอง
๒. แสดงวิธีการเปลี่ยนเลขฐานสองกับเลขฐานสิบ
๓. แสดงวธิ กี ารเปลยี่ นตวั อกั ษรกบั เลขฐานสอง
เป้าหมาย
จากวัตถปุ ระสงค์ดงั กลา่ ว สามารถกาหนดเปา้ หมายการจดั กจิ กรรม ไดด้ ังต่อไปนี้
เป้าหมายเชิงปริมาณ
๑. นกั เรยี นรอ้ ยละ ๗๐ สามารถอธิบายวธิ กี ารเกบ็ ข้อมลู และส่งขอ้ มูลของคอมพิวเตอร์ได้
๒. นกั เรียนรอ้ ยละ ๗๐ สามารถเปลีย่ นเลขฐานสองกับเลขฐานสบิ ได้
๓. นกั เรียนร้อยละ ๗๐ สามารถกาหนดวธิ กี ารเปลี่ยนตัวอักษรเปน็ เลขฐานสองได้
เป้าหมายเชิงคณุ ภาพ
นักเรยี นสามารถนาความร้เู ร่อื งระบบเลขฐานสองไปใช้ในการเกบ็ และขอ้ มูลของ
คอมพวิ เตอร์ ท้ังข้อมลู ทเ่ี ป็นตัวเลขและตัวอกั ษรได้ถกู ตอ้ ง
ข้นั ตอนการจดั กิจกรรม
๑. ข้ันนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
๑.๑ ครูให้นกั เรยี นดูชดุ ตวั เลข 10010010100 จากนั้นให้นักเรยี นรว่ มกนั อภิปราย
เกี่ยวกับชุดตวั เลขดังกล่าว โดยใชค้ าถามดังน้ี
- นักเรียนเคยเหน็ ชุดตวั เลขลกั ษณะดงั กลา่ วหรอื ไม่ อยา่ งไร
- เพราะเหตุใด คอมพิวเตอร์จึงใช้ชดุ ตวั เลขท่ปี ระกอบดว้ ยตัวเลข ๐ กบั ๑
เท่านัน้ ในการรับหรือเก็บขอ้ มูล
๑.๒ ครูบอกใหน้ ักเรยี นทราบว่าในหน่วยประมวลผลของคอมพวิ เตอรป์ ระกอบดว้ ย
transistor ซงึ่ เปน็ อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสท์ ม่ี สี ถานการณ์ทางานได้ ๒ สถานะ คือ ON และ OFF ดังน้ัน
ในแตล่ ะหนว่ ยประมวลผลของคอมพวิ เตอรจ์ ะสามารถรับค่าข้อมลู ได้เพยี ง ๒ คา่ ซ่งึ จะใช้ตัวเลข ๐ และ
๑ แทนสถานะ ON และ OFF ซึง่ ตัวเลขดังกล่าวเปน็ ตวั เลขในระบบเลขฐานสอง
๑.๓ ครูใชค้ าถามเพ่ือนานักเรียนเขา้ สกู่ ารทากิจกรรม “หากนักเรยี นต้องการส่งขอ้ มูล
ตวั เลข ๕ ให้คอมพวิ เตอร์ จะสง่ ไดอ้ ย่างไร”
๒. ขนั้ กิจกรรมการเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรียนทากจิ กรรมเพ่อื จาลองระบบการรับและเกบ็ ข้อมูลในคอมพวิ เตอร์ โดยครู
จาลองให้นักเรียนอาสาสมัคร ๘ คน แทนหน่วยประมวลผลของคอมพิวเตอร์แต่ละหน่วย อาสาสมัคร
นกั เรยี นท้งั ๘ คน รบั แผ่นป้ายแสดงค่าประจาแต่ละหนว่ ยของตนเอง จากนนั้ ครูอธิบายว่าแตล่ ะหนว่ ย
ประมวลผลของคอมพวิ เตอร์เรียกว่า บิต (bit) เมื่อนาหน่วยประมวลผลมาประกอบเข้าด้วยกนั เพ่ือให้
สามารถเกบ็ ข้อมลู ไดเ้ พ่มิ มากขึน้ โดย ๘ บิต = ๑ ไบต์ (byte) ดังแสดงในภาพ
๒.๒ ครใู ชค้ าถามเพื่อใหน้ ักเรียนฝึกเปลีย่ นเลขฐาน ๑๐ เปน็ เลขฐาน ๒ “หากตอ้ งการ
ส่งขอ้ มลู ตัว ๙, ๒๕, ...... จะตอ้ งสง่ั ให้แตบ่ ิตแสดงเป็น ๐ หรือ ๑”
๒.๓ นกั เรยี นฝึกเปลี่ยนเลขฐาน ๑๐ เป็นเลขฐาน ๒ และเปลยี่ นเลขฐาน ๒ เป็นเลข
ฐาน ๑๐ ในใบกิจกรรม เร่อื ง คอมพวิ เตอร์กับเลขฐานสอง ในกิจกรรมท่ี ๑ Working with Binary
๒.๔ ครูใชค้ าถามเพ่ือใหน้ ักเรียนคดิ วิธีการส่งข้อมลู ท่ีเป็นตัวอักษรให้กับคอมพวิ เตอร์
“หากต้องการส่งขอ้ มูลทีเ่ ป็นข้อความว่า LOVE ให้คอมพิวเตอร์ จะส่งั งานอยา่ งไร”
๒.๕ ครูใหน้ ักเรยี นรว่ มกนั กาหนดตวั เลขฐานสบิ ให้กับตวั อักษรแต่ละตัว จากนนั้ ให้
นกั เรยี นทากจิ กรรมท่ี ๒ Sending Secret Messages เพอ่ื ถอดรหัสเปน็ ข้อความที่ต้องการสง่ ถึงผ้รู บั
ตามสถานการณ์ท่ีกาหนด
๒.๖ นกั เรยี นทากิจกรรมสายลบั รหัสลบั เพ่อื รบั และสง่ ข้อมลู โดยใช้รหัสลับในระบบ
เลขฐานสอง
๓. ขนั้ ประเมิน
๓.๑ นักเรียนทากิจกรรม ปา้ ยชอ่ื เก๋ไก๋ สไตล์ 4.0 โดยให้นักเรยี นเขยี นป้ายชือ่ ของ
ตนเองในระบบเลขฐานสอง
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม
จานวน ๔ ช่วั โมง
สถานท่ีจดั กิจกรรม
ห้อง ๓๒๑ โรงเรยี นมาบตาพุดพนั พิทยาคาร
ผลที่คาดวา่ จะได้รบั
๑. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวิธีการเก็บข้อมูลและส่งข้อมูลของคอมพิวเตอร์ในระบบ
เลขฐานสอง
๒. นักเรียนสามารถนาความรู้เรื่องระบบเลขฐานสองไปใช้ในการเก็บและข้อมูลของคอมพิวเตอร์ ท้ัง
ขอ้ มลู ทีเ่ ป็นตัวเลขและตัวอักษรได้
ลงช่ือ.......................................................ครูท่ปี รึกษากจิ กรรม
(นางสาวกลุ ธดิ า สวุ ชั ระกุลธร)
แผนกจิ กรรมลดเวลาเรียนเพ่ิมเวลารู้
กิจกรรมที่ ๒ วิทยาการคานวณแบบ Unplugged
เร่อื ง ระบบการจดั เรียงลาดับ (Sorting Algorithms)
หลักการและเหตุผล
วิทยาการคานวณ (Computer Science: CS) เป็นรากฐานสาคัญของทุกอาชีพ เม่ือเศรษฐกิจเข้าสู่
ยุคดิจิตอลคนไทยจาเป็นต้องมีความรู้ด้านโลกสมัยใหม่ การเรียนรู้ด้านวิทยาการคานวณ ไม่จาเป็นต้องเรียนรู้
เฉพาะเขียนโปรแกรมเท่าน้ัน แต่เป็นการเรียนรู้เพ่ือฝึกทักษะสาคัญ 4 ทักษะ คือ การแบ่งปัญหาใหญ่ให้เป็น
ปัญหาย่อย (decomposition) การมองหารูปแบบของปัญหา (pattern recognition) การคิดเชิงนามธรรม
(abstraction) และออกแบบขั้นตอนวิธีการแก้ปัญหา (algorithm design) ดังนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
วิทยาการคานวณจึงไม่จาเป็นต้องใชค้ อมพิวเตอร์ กิจกรรมการเรียนร้แู บบ Unplugged จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลอื ก
สาหรับการสอนเด็กให้ใช้การวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ช่วยพัฒนาการใช้สมองสร้างสรรค์ผลงานในการ
ทางาน รู้จักการทางานเป็นทีมและมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่น ๆ ด้วย นอกจากนี้ ทักษะการคิดเชิงคานวณที่เด็กไทย
จะได้เรียนรู้ยังสามารถต่อยอดไปใชใ้ นการแก้ปัญหาในชีวติ ประจาวัน มองปัญหาอย่างมีทางแก้ด้วยระบบ เข้าใจ
และสามารถควบคุมระบบอัตโนมัติได้ในเบ้ืองตน้ ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทางานในอนาคตได้ หาก
เขียนโปรแกรมได้รับรองว่าไม่ตกงาน เพราะปจั จุบนั โปรแกรมเมอร์ในตลาดแรงงานไทยมีน้อยมาก และยงั คงเป็น
ทีต่ อ้ งการอยา่ งต่อเนื่อง
การเรียงลาดับข้อมูล (Sorting Algorithms) เป็นกระบวนการที่สาคัญและต้องทาเป็นประจาในการ
ประมวลผลข้อมูล เน่ืองจากข้อมูลที่เรียงลาดับอย่างมีระเบียบ มักทาให้การตีความ การหาความสัมพันธ์ของ
ข้อมูลต่าง ๆ กระทาได้ง่ายขึ้น การจัดเรียงข้อมูลให้เรียงลาดับตามเงื่อนไขที่กาหนดไว้ โดยอาจเรียงจากน้อยไป
มาก หรือค่ามากไปน้อยก็ได้ โดยการเรียงลาดับข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์มีหลายรูปแบบ เช่น การจัดเรียง
แบบบับเบิล (Bubble Sort) และการจัดเรยี งแบบเครอื ขา่ ย (Sorting Network) เป็นตน้
วัตถุประสงค์
การจัดกิจกรรมลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ เรื่อง ระบบการจัดเรียงลาดับ (Sorting Algorithms) มี
วัตถุประสงค์ ดังนี้
๑. แสดงวธิ ีการเรียงลาดบั ข้อมูลแบบบบั เบิลได้
๒. แสดงวธิ ีการเรียงลาดับขอ้ มลู แบบเครือข่ายได้
๓. เปรยี บเทียบความแตกต่างระหว่างวิธีการเรยี งลาดบั ขอ้ มลู แบบบับเบลิ และแบบเครือขา่ ยได้
เป้าหมาย
จากวตั ถปุ ระสงค์ดังกลา่ ว สามารถกาหนดเป้าหมายการจดั กจิ กรรม ได้ดงั ต่อไปน้ี
เป้าหมายเชิงปริมาณ
๑. นกั เรยี นร้อยละ ๗๐ สามารถเรยี งลาดับข้อมูลแบบบับเบิล
๒. นกั เรยี นร้อยละ ๗๐ สามารถเรียงลาดับข้อมูลแบบเครือขา่ ย
๓. นักเรียนร้อยละ ๗๐ สามารถเปรยี บเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งวิธีการเรียงลาดับข้อมลู
แบบบับเบิล และแบบเครอื ขา่ ย
เป้าหมายเชิงคุณภาพ
นกั เรียนสามารถนาความรู้เรือ่ งการเรยี งลาดบั ข้อมูลแบบบับเบลิ และแบบเครือขา่ ย ไปใช้ใน
การจัดเรยี งข้อมลู ตามสถานการณ์ทกี่ าหนดให้ได้
ข้ันตอนการจดั กจิ กรรม
๑. ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
๑.๑ ครใู ห้นักเรียนจดั เรียงลาดบั ข้อมูลในแผน่ ปา้ ย ๔ ใบ “B D A C เป็น A B C D”
โดยใชจ้ านวนครัง้ ในการจดั เรียงนอ้ ยทสี่ ุด
๑.๒ นกั เรยี นนาเสนอวธิ กี ารจัดเรยี งข้อมลู “B D A C เป็น A B C D” โดยใช้จานวน
คร้งั ในการจดั เรียงนอ้ ยท่สี ุด หน้าชั้นเรยี น
๑.๓ ครถู ามนักเรยี นวา่ “ถา้ มีข้อมลู เป็นตวั เลขตง้ั แต่ ๐ – ๑๐๐ และนักเรยี นได้รับ
มอบหมายใหจ้ ัดเรียงลาดบั ข้อมลู ตัวเลขดังกล่าวจากน้อยไปมาก นักเรียนคดิ ว่าจะใช้เวลาในการจัดเรียง
ข้อมูลดงั กลา่ วเทา่ ไร” และ “ถา้ นกั เรยี นใชค้ อมพิวเตอร์ในการส่งั งานให้เรยี งลาดับตัวเลขตง้ั แต่ ๐ –
๑๐๐ นักเรยี นคิดวา่ คอมพิวเตอร์จะใช้เวลาในการจดั เรียงขอ้ มูลดงั กลา่ วเท่าไร” และ “เพราะเหตุใด
คอมพวิ เตอร์สามารถจัดเรียงลาดับขอ้ มลู ไดร้ วดเรว็ ”
๑.๔ ครูใชค้ าถามเพ่อื นานักเรียนเข้าสู่การทากิจกรรม “คอมพวิ เตอร์มวี ิธใี นการจดั
เรียงลาดับข้อมลู อย่างไร”
๒. ขัน้ กจิ กรรมการเรยี นรู้
๒.๑ นกั เรยี นดูวิดโี อการจัดเรียงลาดับแบบบับเบลิ (bubble sort) จากวดิ ีโอเรื่อง Bubble-
sort with Hungarian folk dance แหล่งที่มา https://www.youtube.com/watch?v=lyZQPjUT5B4
๒.๒ นกั เรียนร่วมกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั วิธีการจัดเรียงลาดับแบบบับเบลิ จนสามารถสรปุ
วิธีการจดั เรยี งลาดบั แบบบบั เบิลได้
๒.๓ นักเรียนฝกึ จดั เรียงลาดบั แบบบบั เบลิ ในใบกิจกรรมเร่ือง การจัดเรยี งลาดับ
แบบบับเบิล
๒.๔ นกั เรียนอภิปรายขอ้ ดีและข้อเสยี ของวธิ กี ารจัดเรียงลาดับแบบบับเบลิ
๒.๕ ครบู อกใหน้ กั เรียนทราบว่าวิธีการจัดเรยี งแบบบบั เบิล เปน็ วธิ กี ารจดั เรียงขอ้ มูลที่
คอมพิวเตอร์ใชใ้ นยุคแรก ๆ แต่ปัจจุบันไมน่ ยิ มใชเ้ นอ่ื งจากเปน็ การจัดเรยี งข้อมลู แบบทางเดยี ว ทาใหใ้ ช้เวลา
ในการจดั เรยี งข้อมูลมาก
๒.๖ ครแู จกแผนผังการจดั เรยี งข้อมลู แบบเครือข่าย (sorting network) จากน้นั ให้นกั เรยี น
ใช้แผนผังดังกลา่ วในการจดั เรียงขอ้ มูลทกี่ าหนดให้
๒.๗ นกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายเกี่ยวกบั วิธีการจดั เรยี งลาดับแบบเครอื ขา่ ย จนสามารถสรปุ
วธิ กี ารจัดเรียงลาดบั แบบเครือขา่ ย ได้
๒.๘ นักเรียนฝึกจดั เรยี งลาดบั แบบเครอื ข่าย ในใบกิจกรรมเร่อื ง การจัดเรยี งลาดับแบบ
เครือข่าย
๒.๙ นกั เรยี นเปรียบเทยี บความแตกตา่ งระหวา่ งวธิ ีการจดั เรียงข้อมูลแบบบบั เบิล และการ
จัดเรียงลาดบั แบบเครือข่าย จนสามารถสรปุ ไดว้ ่าวิธกี ารจัดเรยี งลาดับแบบเครือข่าย เป็นการจัดเรยี งข้อมูล
พร้อมกนั ทลี ะหลาย ๆ คู่ ทาใหล้ ดเวลาในการจัดเรียงลาดับ ทาให้จดั เรยี งลาดับข้อมูลได้รวดเรว็
๓. ขั้นประเมนิ
๓.๑ นกั เรยี นทากจิ กรรม sort dance โดยใหน้ กั เรยี นจดั เรียงข้อมลู ทก่ี าหนดให้
(ข้อมูลเกี่ยวกับลาดับวิวัฒนาการของมนุษย์ ระยะห่างจากดวงอาทติ ย์ของดาวเคราะหใ์ นระบบสรุ ยิ ะ
และความสว่างของดาวฤกษ์) โดยใช้วิธีการจัดเรยี งแบบบับเบิล และวิธีการจดั ลาดับแบบเครอื ข่าย
พรอ้ มคดิ ทา่ ทางประกอบการจดั เรยี งลาดับข้อมูลทีไ่ ด้รบั
ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรม
จานวน ๔ ชวั่ โมง
สถานที่จดั กจิ กรรม
ห้อง ๓๒๑ โรงเรียนมาบตาพุดพนั พิทยาคาร
ผลที่คาดวา่ จะได้รับ
๑. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับวิธีการจัดเรียงลาดับแบบบับเบิล และการจัด
เรียงลาดับแบบเครอื ขา่ ย
๒. นักเรียนสามารถนาความรเู้ รื่องวิธีการจัดเรียงลาดบั แบบบับเบลิ และการจดั เรียงลาดับแบบ
เครอื ขา่ ยไปใช้ในการจดั เรยี งขอ้ มูลตา่ ง ๆ ตามสถานการณท์ ่กี าหนดให้ได้
ลงชอ่ื .......................................................ครูทป่ี รกึ ษากิจกรรม
(นางสาวกลุ ธดิ า สุวชั ระกลุ ธร)
แบบรายงานผลกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
กจิ กรรมที่ ๑ คอมพิวเตอร์กับเลขฐานสอง (Binary Number)
สัปดาหท์ ่ี ระดับชั้นทีเ่ ขา้ รว่ ม จานวนนักเรียน ผา่ น (คน) ไมผ่ ่าน (คน) หมายเหตุ
กจิ กรรม ท้ังหมด หมายเหตุ
๑ ๓/๒ ๔๓ ๔๓ ๐
๒ ๓/๑ ๔๒ ๔๒ ๐
๐
๓ ๓/๑๔ ๓๑ ๓๑ ๐
๔ ๓/๑๓ ๒๘ ๒๘ ๐
๕ ๓/๑๒ ๓๔ ๓๔ ๐
๖ ๓/๑๑ ๓๙ ๓๙ ๐
๗ ๓/๑๐ ๔๐ ๔๐
๘ ๐
๓/๙ สอบกลางภาค ๐
๙ ๓/๘ ๐
๑๐ ๓/๗ ๔๐ ๔๐ ๐
๑๑ ๓/๖ ๔๒ ๔๒ ๐
๑๒ ๓/๕ ๓๒ ๓๒ ๐
๑๓ ๓/๔ ๔๒ ๔๒
๑๔ ๔๑ ๔๑
๔๑ ๔๑
กิจกรรมท่ี ๒ ระบบการจดั เรยี งลาดับ (Sorting Algorithms)
สปั ดาหท์ ่ี ระดับชั้นที่เขา้ รว่ ม จานวนนกั เรยี น ผา่ น (คน) ไม่ผ่าน (คน)
กิจกรรม ท้ังหมด
๑๕ ๓/๓ ๔๓ ๔๓ ๐
๑๖ ๓/๒ ๔๓ ๔๓ ๐
๑๗ ๐
๑๘ ๓/๑ ๔๒ ๔๒
สอบปลายภาค
๒. สรุป จานวนนักเรียนท่ีเข้าร่วมกจิ กรรมทั้งหมด ๑๘ สปั ดาห์ ๖๒๓ คน
จานวนนกั เรยี นท่ีผ่านกจิ กรรมท้ังหมด ๖๒๓ คน คิดเปน็ ร้อยละ ๑๐๐
จานวนนกั เรยี นที่ไม่ผ่านกิจกรรมท้งั หมด ๐ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๐
๓. ปญั หาและอุปสรรคในการจัดกจิ กรรม
การจัดกิจกรรมการเรยี นรใู้ นบางสปั ดาหไ์ มส่ ามารถจัดกิจกรรมการเรียนร้ไู ด้ครบถ้วน
๔ ชั่วโมง ตามท่ีออกแบบกิจกรรมไว้ เน่อื งจากเป็นวนั หยดุ ราชการ
๔. ข้อเสนอแนะหรือแนวทางแก้ไข
ในสัปดาห์ท่ไี มส่ ามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไดค้ รบท้งั ๔ ชว่ั โมง ครูมกี ารปรับกจิ กรรมการ
เรยี นร้บู างสว่ นเพ่ือให้เหมาะสมกบั ระยะเวลาในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่เหลืออยู่
สรปุ และรายงานผลภายหลังเสร็จส้นิ กจิ กรรม
กิจกรรมท่ี ๑ คอมพวิ เตอร์กบั เลขฐานสอง (Binary Number)
เรม่ิ วันท่ี ๒๙ เดอื น ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
สิ้นสุดวนั ท่ี ๓๐ เดือน มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒
๑. การดาเนนิ งานในภาพรวม
( ✓ ) บรรลุเกินเป้าหมาย ( ) บรรลตุ ามเป้าหมาย ( ) บรรลุตา่ กวา่ เปา้ หมาย
๒. สภาพการดาเนินงาน
( ✓ ) เป็นไปตามแผนปฏบิ ัติงานทกี่ าหนด มากกว่ารอ้ ยละ ๘๐
( ) เป็นไปตามแผนปฏบิ ตั ิงานทก่ี าหนด ร้อยละ ๕๐ - ๘๐
( ) เปน็ ไปตามแผนปฏบิ ัติงานทีก่ าหนด น้อยกวา่ รอ้ ยละ ๕๐
๓. สภาพปัญหาและข้อเสนอแนะในการดาเนินงาน
๓.๑ สภาพปญั หา
๑. นักเรยี นบางสว่ นคดิ คานวณคณิตศาสตรไ์ มค่ ล่อง ทาให้เปลี่ยนเลขฐาน ๑๐ เป็นเลข
ฐาน ๒ หรือเปล่ยี นเลขฐาน ๒ เป็นเลขฐาน ๑๐ ไดช้ ้า และมีขอ้ ผดิ พลาด
๒. การจดั กจิ กรรมการเรียนรใู้ นบางสัปดาหไ์ มส่ ามารถจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ได้
ครบถว้ น ๔ ช่ัวโมง ตามทอี่ อกแบบกิจกรรมไว้ เนื่องจากเป็นวันหยดุ ราชการ
๓.๒ ข้อเสนอแนะในการดาเนินการคร้ังต่อไป
๑. สาหรับนกั เรียนท่ีมีปญั หาคิดคานวณคณติ ศาสตร์ไม่คล่อง หรอื มีขอ้ ผิดพลาดบ่อย ครู
ใหค้ าแนะนาและใหค้ วามสนใจเปน็ พเิ ศษ เพื่อกระตุ้นใหน้ ักเรยี นฝกึ คิด และเพม่ิ ความรอบคอบในการคดิ คานวณ
๒. ในสัปดาหท์ ่ีไม่สามารถจัดกจิ กรรมการเรียนร้ไู ด้ครบทัง้ ๔ ช่ัวโมง ครูมกี ารปรับ
กจิ กรรมการเรียนรู้บางสว่ นเพื่อใหเ้ หมาะสมกับระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ท่เี หลอื อยู่ ดังน้ันในการจัด
กิจกรรมครั้งตอ่ ไป ควรออกแบบกิจกรรมให้มีความยืดหยุน่ มากขน้ึ
๕. ผลงานทเี่ กิดขน้ึ จากการจดั กิจกรรม
๑. ใบกิจกรรม เรอ่ื ง คอมพวิ เตอรก์ บั เลขฐานสอง
๒. แผ่นปา้ ย “ป้ายชื่อเกไ๋ ก๋ สไตล์ ๔.๐”
๖. สิ่งทีภ่ าคภูมิใจในการจัดกจิ กรรมคร้งั น้ี
๖.๑ นกั เรยี นสามารถเรยี นรู้ไดบ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงค์การเรยี นรู้ที่ต้ังไว้ โดยนกั เรยี นให้ความรว่ มมอื
ในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมดว้ ยความเต็มใจ และสนุกสนาน
๖.๒ นักเรียนไดพ้ ัฒนาทักษะการคิดเชงิ คานวณ ซ่งึ เปน็ ทักษะสาคัญสาหรับนักเรียนในยุค ๔.๐
ลงชือ่ ......................................................ครูท่ปี รึกษากจิ กรรม
(นางสาวกลุ ธดิ า สวุ ชั ระกลุ ธร)
ลงชื่อ.........................................................หวั หน้ากจิ กรรมลดเวลาเรียน เพม่ิ เวลารู้
(นางสาวขวัญชนก ทองทัพไทย)
สรปุ และรายงานผลภายหลงั เสรจ็ สนิ้ กิจกรรม
กิจกรรมที่ ๒ ระบบการจดั เรียงลาดบั (Sorting Algorithms)
เร่มิ วนั ที่ ๒๙ เดอื น ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๖๑
สนิ้ สุดวันที่ ๓๐ เดอื น มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๒
๑. การดาเนนิ งานในภาพรวม
( ✓ ) บรรลเุ กินเปา้ หมาย ( ) บรรลุตามเป้าหมาย ( ) บรรลตุ า่ กวา่ เปา้ หมาย
๒. สภาพการดาเนนิ งาน
( ✓ ) เป็นไปตามแผนปฏิบัตงิ านทีก่ าหนด มากกว่าร้อยละ ๘๐
( ) เป็นไปตามแผนปฏบิ ัติงานทกี่ าหนด ร้อยละ ๕๐ - ๘๐
( ) เป็นไปตามแผนปฏิบัติงานท่ีกาหนด น้อยกว่าร้อยละ ๕๐
๓. สภาพปัญหาและข้อเสนอแนะในการดาเนินงาน
๓.๑ สภาพปัญหา
๑. การทากจิ กรรม Sorting Dance ตอ้ งใช้พน้ื ทีใ่ นการจัดกจิ กรรมมาก สภาพพ้นื ที่
ห้อง ๓๒๑ ทีใ่ ชใ้ นการทาจดั กิจกรรมมีพ้ืนทีไ่ ม่เพยี งพอ
๒. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ในบางสปั ดาหไ์ ม่สามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้ได้
ครบถ้วน ๔ ชัว่ โมง ตามทีอ่ อกแบบกิจกรรมไว้ เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ
๓.๒ ขอ้ เสนอแนะในการดาเนินการคร้ังต่อไป
๑. นกั เรียนบางกลุ่มแยกออกไปทากิจกรรมบรเิ วณนอกห้องเรียน ทาให้รบกวน
ห้องเรียนข้างเคียง ดงั น้ันในการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ครงั้ ถัดไป ควรเลือกพ้ืนทจ่ี ัดกิจกรรมทก่ี วา้ งพอสมควร
๒. ในสัปดาหท์ ี่ไม่สามารถจัดกิจกรรมการเรยี นรไู้ ด้ครบทง้ั ๔ ชว่ั โมง ครูมกี ารปรบั
กิจกรรมการเรียนรู้บางสว่ นเพื่อใหเ้ หมาะสมกับระยะเวลาในการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ทเี่ หลืออยู่ ดงั น้ันในการจัด
กจิ กรรมครั้งตอ่ ไป ควรออกแบบกจิ กรรมให้มคี วามยืดหยุ่นมากข้นึ
๕. ผลงานท่เี กดิ ขึ้นจากการจัดกจิ กรรม
๑. ใบกจิ กรรม เร่อื ง การเรยี งลาดบั แบบบบั เบลิ
๒. ใบกจิ กรรม เรอื่ ง การเรยี งลาดับแบบเครือข่าย
๓. ผลงาน Sorting Dance
๖. สงิ่ ทีภ่ าคภูมใิ จในการจดั กจิ กรรมครัง้ น้ี
๖.๑ นักเรยี นสามารถเรียนรไู้ ดบ้ รรลวุ ัตถปุ ระสงค์การเรียนร้ทู ต่ี งั้ ไว้ โดยนกั เรยี นให้ความร่วมมือ
ในการปฏิบตั กิ ิจกรรมด้วยความเตม็ ใจ และสนกุ สนาน
๖.๒ นักเรียนไดพ้ ัฒนาทักษะการคดิ เชงิ คานวณ ซึง่ เป็นทักษะสาคัญสาหรับนกั เรียนในยุค ๔.๐
ลงชอื่ ......................................................ครูท่ปี รึกษากิจกรรม
(นางสาวกุลธดิ า สุวัชระกลุ ธร)
ลงช่ือ.........................................................หวั หนา้ กจิ กรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้
(นางสาวขวัญชนก ทองทัพไทย)
ภาคผนวก
ภาพกจิ กรรม
กจิ กรรมท่ี ๑ คอมพิวเตอร์กบั เลขฐานสอง (Binary Number)
ภาพกจิ กรรม
กจิ กรรมท่ี ๑ คอมพิวเตอร์กบั เลขฐานสอง (Binary Number)
ภาพกิจกรรม
กิจกรรมที่ ๒ ระบบการจดั เรียงลาดบั (Sorting Algorithms)