The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พรานบุญ เจ้าแห่งอาคม อารมณ์ขัน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanokpit nookong, 2024-03-08 06:18:02

พรานบุญ เจ้าแห่งอาคม อารมณ์ขัน

พรานบุญ เจ้าแห่งอาคม อารมณ์ขัน

นิทานเรื่อง พรานบุญ เจ้าอาคม อารมณ์ขัน นวัตกรรมนิทานตำ นานท้องถิ่นภาคใต้ หนังสือนิทานเล่มนี้เหมาะสำ หรับเด็กอายุ ๑๐ ปีขึ้นไป รายวิชา ๐๑๑๑๔๑๑ การเขียนวรรณกรรมสำ หรับเด็ก หลักสูตรการศึกษาบัณฑิต สาขาวิชาภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา พิมพ์ครั้งที่หนึ่ง ๘ มีนาคม ๒๕๖๗ ต้นฉบับ จำ นวน ๓๑ หน้า ISBN ๙๗๘-๖๑๖-๖๑๒-๑๐๑-๘ เรื่อง : กนกพิชญ์ หนูคง และ จีรนันท์ ย้อยนวล ภาพ : อังคณา นันทวิสิทธิ์ อาจารย์ที่ปรึกษา : รศ.ดร.พัชลินจ์ จีนนุ่น พรานบุญ เจ้าอาคม อารมณ์ขัน


คำ นำ “พรานบุญ” เป็นบุคคลในตำ นานภาคใต้ ซึ่งมีที่มาจากวรรณคดี เรื่อง พระสุธน-มโนราห์ และมีตำ นานเรื่องเล่าขานผูกกับวัดยางใหญ่ ในตำ บลท่าขึ้น อำ เภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช ด้วย อนุภาพ และความศักดิ์สิทธิ์ทำ ให้มีผู้คนเคารพบูชา ทางคณะผู้จัดทำ จึงได้นำ เรื่องราวของ “พรานบุญ” ซึ่งเป็น ตำ นานท้องถิ่นภาคใต้ มาเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังนิสัยรักการ อ่าน ของเด็ก โดยนวัตกรรมหนังสือนิทานตำ นานท้องถิ่นเรื่อง “พรานบุญ เจ้าอาคม อารมณ์ขัน” เล่มนี้ ผลิตขึ้นเพื่อเด็กที่มีอายุ ๑๐ ปีขึ้นไป ใช้สำ หรับฝึกอ่านจับใจความ โดยสามารถจูงใจให้ เด็กสนุกสนานและเพลิดเพลิน ไปกับเนื้อหาที่อ่าน พร้อมทั้ง สอดแทรกข้อคิดและ คติสอนใจ ตลอดจนช่วยสร้างความภาคภูมิใจ ในภาษาและวัฒนธรรมของท้องถิ่น ผู้จัดทำ หวังว่าเรื่อง “พรานบุญ เจ้าอาคม อารมณ์ขัน” จะเป็น นิทานตำ นานท้องถิ่นภาคใต้ที่มีส่วนช่วยให้เด็กฝึกทักษะการอ่าน และ สามารถจับใจความได้อย่างครบถ้วน สมบูรณ์ ถูกต้องทุกสาระ อีกทั้งตระหนักถึงคุณค่าของ วรรณกรรม และเกิดความภาคภูมิใจใน ท้องถิ่นของตนเองอย่างแท้จริง กนกพิชญ์ หนูคง จีรนันท์ ย้อยนวล


ณ ลานจอดรถของวัด มีครอบครัวหนึ่งกำ ลังเดิน เข้าวัดผ่านซุ้มประตูชฎา “ปุยฝ้าย! แขบเดินลูก” เด็กสาวไม่ทันที่จะได้ถามว่าคืออะไร ก็ต้องรีบเดิน ตามเสียงของแม่ไป ๑


เธอตื่นเต้นมาก เพราะวันนี้เธอรู้เพียงว่าแม่จะพา มาวัดที่อำ เภอท่าศาลา ไม่คิดว่าวัดจะดูแปลกตาขนาดนี้ เพราะวัดนี้เต็มไปด้วยสีชมพู และมีรูปปั้นนางรำ ที่อยู่ ในท่ารำ แปลกประหลาดมากมาย ๒


วันนี้เป็นวันอาทิตย์ มีคนเข้ามากราบไหว้ อย่างพลุกพล่าน หน้าโบสถ์มีป้ายสลักตัวอักษร สีขาวอยู่ เด็กสาวหยุดอ่าน “หลวงพ่อวัดยางใหญ่ ตาพรานบุญ นครศรีธรรมราช” ก่อนจะรีบวิ่งตามพ่อกับแม่ไป ๓


เด็กสาวตามพ่อกับแม่เข้าโบสถ์ ส่วนป๊อกแป๊กต้อง นั่งรอนอกโบสถ์ เมื่อเข้ามาภายในก็ได้ยินเสียงเพลงที่ คล้ายบทสวดไม่คุ้นหูดังชัดขึ้น ๔


ใจกลางของโบสถ์มีรูปปั้นชายชราขนาดใหญ่ ผิวกาย ออกไปทางสีชมพู กางเกงโจงสีแดง มีผ้าขาวม้าพาดไหล่ ทาหน้าด้วยสีแดงสด นั่งท่าชันเข่า มือซ้ายถือไม้ตะพด มือขวากุมถุงทองที่เขียนว่า “รวย” “หรือนี่จะเป็นตาพรานบุญ” ๕


ปุยฝ้ายนั่งลงตามพ่อกับแม่ เลียนแบบสิ่งที่พ่อกับแม่ กำ ลังทำ “ท่องตามพ่อนะลูก” เด็กสาวกล่าวตามอย่างว่าง่าย ๖


หลังจากไหว้ตาพรานบุญเสร็จ เด็กสาวบังเอิญ ไปสะดุดตากับป้าย ‘ของเซ่นไหว้สักการะบูชา’ “พ่อคะ ของพวกนั้นเอาไปทำ ไอไหรคะ” “เขาเอาไปบนบานตาพรานบุญตรงนั้นไง ต้องใช้ ผ้าขาวม้า ๑ ผืน กับเหล้าขาว ๑ ขวด” พ่อตอบ ๗


“บนบานคือไหรคะ” “บนบาน เป็นการขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย โดยจะให้ ของตอบแทนหากสิ่งที่ขอเป็นจริง” ๘


หลังขอพรเสร็จ พ่อกับแม่ก็พากันนั่งเสี่ยงเซียมซี เสียงเขย่ากระบอกปนกับเสียงเพลงที่เหมือนบทสวด ผ่านหูของปุยฝ้ายหลายรอบ คงจะเป็นคาถาบูชา ตาพรานบุญ เพราะเนื้อเพลงเหมือนกับคาถาที่เธอ เพิ่งท่องไป ๙


“นั่งตรงนี้อย่าไปไหนนะลูก” พ่อบอกก่อนจะเดินไปอ่านใบเซียมซี “ค่ะพ่อ” เด็กสาวตอบพ่อไปอย่างส่ง ๆ ๑๐


ปุยฝ้ายมองออกไปนอกโบสถ์ แต่กลับไม่เห็น เจ้าป๊อกแป๊ก จึงรีบวิ่งออกไปตามหา ๑๑


“ป๊อกแป๊ก! ป๊อกแป๊ก!” เมื่อได้ยินเสียงเจ้าของก็รีบวิ่งไปหาต้นเสียงเด็กสาวพบว่า มันอยู่กับคุณลุงคนหนึ่ง ปุยฝ้ายจึงไหว้ ก่อนจะวิ่งออกไป กับเจ้าตูบ ๑๒


ห่างออกไปไม่ไกลจากม้านั่งของคุณลุง ปุยฝ้ายพบกับ รูปปั้นผู้หญิงที่มีปีกเหมือนนก สวมชุดสีแวววาวสวยงาม อีกทั้งสวมเครื่องประดับชิ้นโตบนหัว เด็กสาวจึงพยายาม จะกระโดดไปแตะ ๑๓


“อย่าไปแตะมันนะ! นั่นเรียกว่าเทริด ใช้สวมใน การแสดงมโนราห์” เด็กจอมซนอย่างปุยฝ้ายมีหรือจะฟัง คุณลุงพูดยัง ไม่ทันขาดคำ เธอก็กระโดดเต็มแรงจนเอื้อมถึงเทริด ๑๔


ทันใดนั้นก็เกิดแสงสว่างจ้า! ปุยฝ้ายจึงรีบหลับตาลงทันที ๑๕


เมื่อลืมตาขึ้น กลับพบว่าเธอหลุดมาอยู่ในสถานที่ แปลกตา เป็นป่าที่ดูน่าอัศจจรย์ มีแต่สัตว์ที่ไม่เคยพบ ไม่เคยเห็นมาก่อน ๑๖


“ที่ไหนกันนิ” “โฮ่ง!” เสียงเห่าของเจ้าป๊อกแป๊กทำ ให้ปุยฝ้ายหลุดออก จากภวังค์ “แกก็ทำ ด้วยเออ” เด็กสาวหันไปถามเจ้าเพื่อนซี้สี่ขา ๑๗


ถึงแม้จะอยู่ในสถานที่ไม่คุ้นเคย แต่ปุยฝ้ายก็ไม่ได้ คิดกลัวเลย ทั้งยังตื่นเต้นกับสิ่งที่พบเจอ ทันใดนั้นเธอก็ เห็นนกตัวหนึ่งกำ ลังจ้องมองมาที่เธอกับป๊อกแป๊ก ๑๘


“นกตัวนั้นมองเราอยู่นิ” เด็กสาวพูดพึมพำ “ข้าฟังไม่เข้าใจ พูดใหม่ซิ” เจ้านกตอบ ปุยฝ้ายตกใจว่าทำ ไมนกจึงพูดได้ ๑๙


“เจ้าชื่ออะไร คงจะมาจากรูปปั้นสินะ” นกพูดพลางย่อร่างบินมาเกาะไหล่เธอ “หนูชื่อปุยฝ้าย ส่วนนี่เจ้าป๊อกแป๊ก หนูคิดว่า น่าจะเป็นอย่างนั้นนะจ๊ะ เพราะมีีแสงสว่างวาบออก พอลืมตาหนูก็มาอยู่ที่นี่เลยค่ะ” เด็กสาวตอบนก ๒๐


อย่างนั้นข้ามีอะไรสนุก ๆ ให้เจ้าดู แต่เจ้าต้อง สัญญาว่าจะดูอยู่เฉย ๆ “หนูสัญญาจ้ะ” “งั้นข้าจะพาไป” ๒๑


หลังจากนั้นนกก็พาไปที่สระแห่งหนึ่ง “เจ้ารู้ไหมว่ามันชื่อว่าอะไร” เด็กสาวส่ายหน้า “สระนี้ชื่อว่า สระอโนดาต เจ้าจงรอดู อีกเดี๋ยวจะมี กินรีมาเล่นน้ำ ” “กินรีคืออะไรจ๊ะ” เจ้านกไม่ตอบ เด็กสาวจึงทำ ได้ แค่รอ ๒๒


“เหมือนกับรูปปั้นที่พาหนูมาเลยจ้ะ” “นี่แหละกินรี” หากเป็นตัวผู้จะเรียกว่า กินร (กิน-นอน) มีลักษณะครึ่งคนครึ่งนก ท่อนบนเป็นคน ท่อนล่างเป็นนก ซึ่งตอนที่เรากำ ลังจะเห็นเป็นฉากสำ คัญ ในวรรณคดีเรื่อง พระสุธน-มโนราห์ ๒๓


“วรรณคดีคืออะไรจ๊ะ” เด็กสาวเอียงคอถามอีกครั้ง ด้วยความสงสัย “โตขึ้นก็ได้เรียน เจ้าคงจะรู้ชื่อพรานบุญแล้วสินะ เดี๋ยวอีกไม่นานเขาจะมาจับตัวน้องคนเล็กที่ชื่อมโนราห์” ๒๔


“รู้จักจ้ะ หนูเพิ่งไปกราบไหว้มาเอง ว่าแต่... เขาจะ จับนางไปที่ไหนคะ” เด็กสาวถามด้วยความเป็นห่วง “ไม่ต้องห่วงหรอก เขาแค่พาไปพบเนื้อคู่และ สุดท้ายก็ได้ครองรักกัน” ได้ฟังดังนั้นรู้สึกโล่งใจ ๒๕


“ส่วนอาวุธของพรานบุญ ในตำ นานเล่าว่าพราน บุญไปขอยืมบ่วงจากท้าวชมพูจิตพื่อนำ ไปจับกินรี ซึ่งบ่วงนั้นเป็นพญานาคราช เดิมเป็นศรของอินทรชิต ที่ยิงไปแล้วกลายเป็นงูรัด” แม้ท้าวชมพูจิตจะรู้ว่าให้ไป แล้วจะไม่ได้คืน แต่ก็จำ ใจ เพราะเคยสัญญาไว้ตอน พรานบุญช่วยชีวิตว่า “ขออะไรก็จะให้” ๒๖


หลังจากฟังเจ้านกเล่าจบ เด็กสาวก็นึกสนุกอยากลง ไปเล่นน้ำ ในสระอโนดาต จึงรีบย่องออกจากบริเวณนั้น แต่ก็ถูกเจ้านกจับได้เสียก่อน ๒๗


“เจ้าคิดจะไปไหน ข้าบอกให้อยู่เฉย ๆ” “หนูแค่เห็นว่าน้ำ ในสระอโนดาตน่าเล่น” “อย่าไปไหนเดี๋ยวก็เจออันตรายหรอก” เด็กสาวพยักหน้า ทั้งสองคุยกันโดยไม่รู้ตัวว่าพรานบุญ ได้ย่องมาขโมยปีกของกินรีไว้ ๑ ชุดแล้ว ๒๘


และแล้วความดื้อของปุยฝ้ายก็เอาชนะคำ มั่นสัญญา เธอกระโดดออกไปจนเป็นที่สังเกต ทำ ให้กินรีทั้ง ๗ ตน บินหนี เหลือเพียงนางมโนราห์ผู้น้องสุดที่ไม่มีปีก ๒๙


พรานบุญสบโอกาสก็โยนบ่วงนาคราชออกไป เพื่อจับนางมโนราห์ แต่บ่วงดันจับปุยฝ้ายติดไปด้วย ๓๐


“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” เด็กสาวตะโกนอย่างตกใจสุดชีวิต ไม่รอช้าเจ้าหมาผู้ซื่อสัตย์ก็กระโดดเข้าไปขัดขวาง พรานบุญจนบ่วงคลายออก แต่ตัวมันเองกลับกระแทก เข้ากับต้นไม้จนหมดสติ ๓๑


เจ้านกไม่รีรอ รีบบินเข้าไปช่วยปุยฝ้ายกับป๊อกแป๊ก แล้วรีบบินออกมาจากตรงนั้นทันที ๓๒


เมื่อเจ้านกบินออกมาไกลพอประมาณก็วางทั้งคู่ลง แต่เจ้าป๊อกแป๊กสลบไปแล้ว เด็กสาวเริ่มร้องไห้ด้วย ความรู้สึกผิด “ฉันขอโทษ เพราะฉันแท้ ๆ แกถึงต้องเป็นแบบนี้ ถ้าฉันรักษาคำ พูดและฟังที่เจ้านกเตือน แกคงไม่เป็น แบบนี้” ๓๓


“หากเจ้ารู้สึกผิดจากใจจริง ข้าจะช่วย แต่จงสัญญา กับข้ามาว่าเจ้าจะไม่ทำ เช่นนั้นอีก” “หนูสัญญาว่าจะไม่ผิดคำ พูด และจะสัญญาว่าจะ เชื่อฟังพ่อแม่จ้ะ” แล้วแสงสว่างจ้าก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ๓๔


แสงจ้าพาปุยฝ้ายกับป๊อกแป๊กกลับมายังด้านหน้า รูปปั้นดังเดิม พ่อแม่รีบวิ่งมาอย่่างเป็นห่วง “ไปไหนมาลูก ไซหายไปนานเลย” “นุ้ยไปเดินเล่นมาค่ะ ขอโทษนะคะที่หายไป หม้ายบอก” ๓๕


พ่อแม่ดูโล่งใจที่ได้เจอลูกสาว เด็กสาวผละตัวออก แล้วรีบดูอาการของป๊อกแป๊ก พบว่ามันไม่มีแผลจาก การต่อสู้้เลยแม้แต่น้อย “โชคดีที่แกไม่เป็นอะไร” ว่าพลางน้ำ ตาก็ไหลคลอ ๓๖


ปุยฝ้ายนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ทราบตอนจบของเรื่อง จึงรีบวิิ่งไปหาคุณลุง “คุณลุงคะ นุ้ยขอโทษที่ไม่ฟังนะคะ” คุณลุงยิ้มตอบ ก่อนพูด “ไม่เป็นไร” ๓๗


“หลังจากถวายมโนราห์ให้พระสุธนแล้ว พรานบุญ ก็ได้รับแก้วแหวนเงินทองที่พระสุธนประทานให้” พรานบุญจึงมีคนนับถือบูชา เพราะโดดเด่นทางคุณ ด้านโชคลาภและทรัพย์สิน ๓๘


“ขอบคุณนะคะคุณลุงสำ หรับความรู้” “จะกลับยังล่ะ อย่าลืมเป็นเด็กดีกันนะ” ปุยฝ้ายยิ้มตอบ ไหว้ขอบคุณก่อนวิ่งออกไป ๓๙


“พันพรือมั่งลูกวันนี้ พ่อพามาเที่ยวที่วัดยางใหญ่ นุ้ยชอบหม้าย” พ่อถาม “หนุกค่ะพ่อ” เด็กสาวตอบด้วยท่าทางประทับใจ ในตาเป็นประกาย “ขึ้นรถหวาไปพ่อ ปุยฝ้าย ช้าอยู่เดี๋ยวถึงบ้านค่ำ ” เสียงแม่ดังมาจากไกล ๆ ๔๐


“นุ้ยสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ค่ะ” “จ้าลูก” พ่อแม่ตอบ สัญญาค่ะตาพราน นุ้ยจะเป็นเด็กดีและรักษาคำ พูด (เธอได้แต่กล่าวอยู่ในใจ) ๔๑


๔๒


๔๒๔๓


นางสาวจีรนันท์ ย้อยนวล (แอม) นิสิตชั้นปีที่ ๓ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ศิษย์เก่า โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช นางสาวกนกพิชญ์ หนูคง (ปอ) นิสิตชั้นปีที่ ๓ คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาภาษาไทย มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา ศิษย์เก่า โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดนครศรีธรรมราช รู้จักผู้แต่ง


Click to View FlipBook Version