การฟงั และการอ่าน
อย่างมวี ิจารณญาณ
ประภัสสร วงวริ ะขนั ธ์ : โรงเรยี นศรบี ุญเรอื งวิทยาคาร
การฟังและการอา่ นอย่างมวี ิจารณญาณ
การรบั รคู ้ วามหมายของ วจิ ารณ คอื การคดิ ใครค่ รวญโดยใช ้ การแปลอกั ษรออกมา
เสยี งทไี่ ดย้ นิ เกดิ ความรู ้ เหตผุ ล
ความเขา้ ใจ เป็ นความร/ู ้ ความคดิ และ
ญาณ คอื ปัญญา เกดิ ความเขา้ ใจ
การฟงั /การอา่ นโดยมวี ิจารณญาณ
หมายถงึ การฟัง/การอา่ นทใี่ ชป้ ัญญาที่
สามารถรหู ้ รอื ใหเ้ หตผุ ลทถี่ กู ตอ้ งได ้
การพฒั นาวจิ ารณญาณ สารทีใ่ หค้ วามรู้
ในการฟังและการอา่ น สารทีโ่ น้มนา้ วใจ
สารที่ทาให้เกดิ ความจรรโลงใจ
6.ประเมนิ กลวิธดี าเนนิ เรอื่ งและภาษา
5.สรุปประโยชนแ์ ละขอ้ คิด
4.ค้นหาประเด็นสาคญั
3.แยกแยะข้อเท็จจริง/ข้อคดิ เห็น
2.วิเคราะหจ์ ดุ ประสงคแ์ ละตคี วาม การพฒั นาวิจารณญาณ
1.ประเมนิ ค่าเบอ้ื งตน้ โดยรบั สารประเภทใหค้ วามรู้
6.ใช้ภาษากระตุ้นความสนใจอยา่ งไร การพัฒนาวจิ ารณญาณ
โดยการรบั สารประเภทโนม้ นา้ วใจ
5.สารนน้ั มีความชัดเจนหรือไม่
4.สารน้นั มปี ระโยชน์เพียงใด
3.กระทบต่อความรูส้ ึกเพียงใด
2.สารนั้นมีน่าเชื่อถอื หรือไม่
1.สารดงึ ดูดน่าสนใจเพยี งใด
การพฒั นาวจิ ารณญาณ
โดยการรบั สารประเภทจรรโลงใจ
2.ทาความเขา้ ใจเนอื้ หา
4.พิจารณา
การใชภ้ าษา
3.พิจารณาวา่ สาร
จรรโลงใจเพียงใด
1.รับสารดว้ ยความตง้ั ใจ