โดย
นางมณั ฑนา จอมดวง
ครู กศน.ตาบลแม่พรกิ
ศนู ยก์ ารศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอแม่พรกิ
,
สานกั งานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ลาปาง
คำนำ
Best Practice เร่อื ง เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คณุ ดา้ นเศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ การจดั กิจกรรมการเรียนรู้
ที่สง่ เสริมด้านศึกษาต่อเนอ่ื ง การเรยี นรู้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ประจำปีการศึกษา 2563 พัฒนาผู้เรียนให้
รจู้ ักกระบวนการคิด วเิ คราะหเ์ ตม็ ศักยภาพ และมีความร้คู คู่ ุณธรรม และสามารถสร้างประโยชน์
ผู้จัด หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Best Practice เรื่อง เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คุณ ด้านเศรษฐกิจพอเพียง
จะเปน็ ประโยชน์ในด้านการปลกู พืชผกั รวมถงึ การนำไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตประจำวันและผทู้ เ่ี ก่ียวข้องตอ่ ไป
นางมณั ฑนา จอมดวง
ครู กศน.ตำบล
สารบญั หนา้
คำนำ 1
สารบญั 1
จุดเดน่ 2
ท่มี าและความสำคัญของผลงาน 2
วัตถุประสงค์ 3
ปัจจยั ปอ้ น 6
วิธกี ารดำเนินการ (PDCA) 7
วิธปี ฏิบัตงิ าน 7
ผลลพั ธ์ 9
ผลผลติ 9
เงือ่ นไข/ตัวชี้วดั ต่อความสำเร็จ 9
ปัญหา อปุ สรรค หรือข้อจำกดั ท่เี กิดข้ึนในการปฏิบตั ิงานและแนวทางการแก้ปญั หา 9
ขอ้ เสนอแนะวิธปี ฏิบตั งิ านที่จะทำให้ดยี ิ่งข้ึน
ภาคผนวก
1
ฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คณุ
1.จดุ เดน่ /ความสำเรจ็ ทป่ี รากฏของโครงการ
โครงการฯ นี้ได้ดำเนินการตรงกับสภาพปัญหาของบริบทพื้นที่ตำบลแม่พริกและความต้องการของ
กล่มุ เปา้ หมายประชาชนทั่วไปตำบลแม่พรกิ ที่สามารถนำความร้แู ละทักษะจากกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องการปลูก
ผักยกแคร่ ไปพัฒนาคุณภาพการปลูกพืชผักสวนครัวทั้งในครัวเรือนและใช้กับอาชีพเกษตรกรให้ดีขึ้น รวมถึง
กลุม่ เปา้ หมาย มคี วามไฝเ่ รียนรู้ มีความสามคั คี มีความเสียสละ ในการให้ความร่วมมอื ในการเขา้ รว่ มทุกๆกจิ กรรม
เป็นอยา่ งดี ทำใหท้ ุกกิจกรรมบรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ และในสว่ นของการดำเนินงานในการจัดกิจกรรมต่างๆได้รับ
ความรว่ มมือจากภาคเี ครือข่ายภายในตำบลทุกภาคสว่ น นักศกึ ษา กศน.ตำบลแมพ่ รกิ ให้ความรว่ มมอื เป็นอย่างดี
ตั้งแต่การวิเคราะห์สภาพปัญหาความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย การวางแผน การจัดกิจกรรม ตลอดจนการ
ประเมินผลกจิ กรรม จงึ ทำใหส้ ามารถพฒั นากลมุ่ เป้าหมายไดบ้ รรลตุ ามตวั ชีว้ ัดความสำเร็จของโครงการฯ
2.ทม่ี าและความสำคญั
ตามที่นโยบายสำนัก กศน. มีนโยบายในการส่งเสริมการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม
อัธยาศัย เพื่อสนับสนุนนโยบายโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสถาบัน
พระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะโครงการเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงให้นักศึกษาและประชาชนได้นำหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักปรัชญาในการส่งเสริมชุมชนแลประชาชนนำมาประยุกต์ใช้อย่างเหมาะสมเพ่ือเป็น
การสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม รวมทั้งปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการดำรงชีวิตให้อยู่พื้นฐานความพอเพียงและมีการ
เชอื่ มโยงเปน็ เครือข่ายแลกเปล่ียนเรยี นรเู้ พ่ือให้เกิดการพัฒนาอยา่ งยั่งยืนซ่ึงถือวา่ เปน็ เรือ่ งสำคญั อยา่ งยง่ิ
2
จากสภาพบทริบทพนื้ ทต่ี ำบลแม่พรกิ ประชาชนสว่ นใหญ่ ประกอบอาชพี เกษตรกร และมีการปลูกผักสวน
ครัวไว้บริโภคและจำหน่ายภายในชุมชน ตำบลแมพ่ รกิ จึงไดท้ ำการสำรวจ สอบถามปญั หาและความต้องการของ
กลมุ่ เปา้ หมายเกษตรกรในตำบลแมพ่ รกิ พบวา่ มปี ัญหาเรอ่ื งดินท่ีใช้ในการเพาะปลูกพืชผักสวนครัว ซึ่งสภาพดิน
เรมิ่ เส่อื มโทรม ดินมเี ช้ือโรคและสารพิษตกค้าง และปญั หาเรอ่ื งศัตรูของพืช รวมถงึ กลุ่มเปา้ หมายต้องการลดหรือ
เลิกใชส้ ารเคมีและปยุ๋ เคมีในกระบวนการเกษตร เพื่อใหไ้ ด้ผลผลิตที่ปลอดภยั จากสารพิษ ชว่ ยในการลดต้นทนุ การ
ใช้สารเคมเี กษตร และเป็นการเพิ่มมูลค่าสินคา้ เกษตร
กศน.อำเภอแม่พริก ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
ดังกล่าว จึงมอบหมายให้ กศน.ตำบลแมพ่ รกิ รว่ มกับภาคเี ครือขา่ ยระหวา่ ง กศน.ตำบลแมพ่ ริก และ ศูนย์การ
เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร ร่วมกันหาแนวทางการดำเนินงาน เพื่อให้กลุ่มเกษตรกรที่
ปลูกผักสวนครัว ได้รับความรู้ที่ตรงกับสภาพปัญหา ความต้องการของแต่ละคนอย่างทั่วถึง และเท่าเทียม
ตลอดจนการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและเกษตรทฤษฎีใหม่มาจัดกระบวนการเรียนรู้ให้
ประชาชนและชมุ ชน มาปรับใช้ในชีวิตประจำวนั ให้มคี ุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถใช้ชีวิตทีเ่ หมาะสมตามสภาพ
ของสังคมและวฒั นธรรมในทอ้ งถน่ิ ได้อยา่ งเหมาะสมและยั่งยืน
3.จดุ ประสงค์
4.1. เพอื่ ใหผ้ ้เู รียนมีองค์ความรูเ้ กย่ี วกบั การปลูกผักยกแคร่
4.2. เพ่อื ให้ผเู้ รียนมที กั ษะในการปลูกผักยกแคร่ได้อย่างถูกวิธี
4.3 เพอ่ื ศึกษาเรียนรู้ ทกั ษะ ใช้ปุย๋ หมักไม่กลับกอง ในการปลูกผกั ยกแคร่ร ได้อย่างกกู ต้อง
4.4. เพ่ือปลกู ฝังให้ผเู้ รียนมีนิสัยอยอู่ ย่างพอเพยี ง ปฏบิ ัตติ น และน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพยี งไปปรบั ใช้ในชีวติ ประจำวันได้
4.5 เพ่ือการจัดทำแผนบรูณาการการเรยี นรู้ ฐานเกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ เขา้ กับรายวชิ าที่
ลงทะเบยี นในภาคเรยี น 1/64 ท้ัง 3 ระดบั
4. ปจั จยั ปอ้ น
4.1. คณะดำเนนิ งาน
1. คณะครู กศน.อำเภอแม่พริก
2. หัวหน้าศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลติ สินคา้ เกษตร
3. กล่มุ เกษตรอินทรยี ์บา้ นแม่พริกลุ่ม
4. นักศึกษา กศน.ตำบลแม่พรกิ
5. ผ้นู ำชุมชน/ปราชญ์/ภมู ปิ ญั ญา ตำบลแม่พรกิ
3
4.2 งบประมาณ
งบประมาณจาก ศนู ย์การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยอำเภอแมพ่ ริก ในการจัด
กิจกรรม ดงั น้ี การเรียนรหู้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง โครงการการอบรมเรยี นรกู้ ารปลกู ผกั ยกแคร่ปลอด
สารพิษ หลักสูตร การปลูกผักยกแครป่ ลอดสารพษิ โดยใช้ปุ๋ยหมกั ไม่กลับกอง งบประมาณท่ใี ช้ในโครงการ
จำนวน 2,800.- บาท
โครงการการเรยี นรหู้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสกู่ ารปฏบิ ัตอิ ย่างพอเพยี ง กจิ กรรมพฒั นา
ผเู้ รยี น งบประมาณที่ใชใ้ นโครงการ จำนวน 7,650.- บาท
4.3 สอื่ /วสั ดอุ ปุ กรณ์
- วดี ีทัศน์การปลูกผักยกแคร่
- ใบความรู้เร่อื งการปลูกผกั ยกแคร่
- แผนบรูณาการ ฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ
- แบบฝกึ หัด (แผนบูรณาการ) แนวทางการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมา
ใช้ในการจดั การเรียนรู้ (2 เงอื่ นไข 3 หลักการ 4 มิต)ิ
วัสดอุ ุปกรณ์
- ถงุ เพาะปลกุ
- เมล็ดผัก กลา้ ผัก
- กลา้ สมนุ ไพร
5. กระบวนการ วธิ กี ารดำเนนิ การ ตามวงจรคณุ ภาพของเดมมิ่ง (PDCA) ดงั น้ี
ด้านการวางแผน (P)
ครู กศน.ตำบลแม่พรกิ และหัวหน้าศูนย์การเรียนรูก้ ารเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร
ร่วมปรึกษาหารือเก่ยี วกบั แนวทางการดำเนนิ งานการจัดกิจกรรมใหค้ รอบคลุมกับความตอ้ งการของกลุ่มเป้าหมาย
ได้มกี ารร่วมกนั กำหนดแผนการจดั กิจกรรมการอบรมการให้ความร้รู ่วมถงึ กิจกรรมตา่ งๆ
ด้านการดำเนนิ งาน (D)
1. คณะผู้จดั ทำได้มกี ารประสานงานกับกลุม่ เป้าหมาย โดยแจ้งกำหนดการการจัดกจิ กรรมต่างๆ
2. ครู กศน.ตำบลแม่พริก และหัวหน้าศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า
เกษตร ได้รว่ มกนั จัดกจิ กรรมตามแผนงานทไ่ี ด้กำหนด ในดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี
2.1 โครงการการอบรมเรยี นรูก้ ารปลูกผักยกแคร่ปลอดสารพษิ หลักสตู ร การปลกู ผกั ยกแคร่ 4
ปลอดสารพิษ โดยใช้ป๋ยุ หมักไมก่ ลบั กอง วันที่ 20 มิถนุ ายน 2564
2.2 โครงการการเรียนรหู้ ลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัตอิ ยา่ งพอเพียง กิจกรรม
พัฒนาผ้เู รยี น (กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น) วันท1ี่ 3 สงิ หาคม 2564
3. การจัดทำแผนบรณู าการการเรียนรู้ ฐานเกษตรยกแคร่ แบบแคร์คณุ เขา้ กับรายวิชาที่
ลงทะเบียนในภาคเรยี น 1/64 ทง้ั 3 ระดับ
ดา้ นการตรวจสอบและประเมนิ ผล(C)
คณะผู้จัดกจิ กรรมได้ร่วมตดิ ตามประเมินผล หลังการจดั กิจกรรม
1. การติดตาม สงั เกต สอบถาม พฤติกรรมกลุ่มเป้าหมาย
2. แบบประเมินผลการจัดการศกึ ษาต่อเนอื่ ง
3. แบบติดตามผ้เู รียนหลังจบหลักสตู รการศึกษาต่อเนื่อง
4. แบบฝึกหดั (แผนบรู ณาการ) แนวทางการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมา
ใชใ้ นการจัดการเรยี นรู้ (2 เง่ือนไข 3 หลักการ 4 มติ ิ)
ด้านการปรบั ปรงุ และพฒั นาผลการปฏบิ ตั งิ าน (A)
1.การขยายกล่มุ เปา้ หมายให้ครอบคลุมทกุ หมู่บ้านในตำบลแม่พริก
2.การนำความรเู้ ร่ืองการปลกู ผกั ยกแคร่ สอดแทรกบูรณาการในเน้อื หาการเรียนการสอนในทุก
รายวิชาของนกั ศึกษาทง้ั 3 ระดับ
6
6. วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ าน ดังน้ี
1. ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอแม่พริก ร่วมปรึกษาหารือและให้คำแนะนำในรูปแบบการจัด
กิจกรรม ร่วมกับ ครู กศน.ตำบลแมพ่ ริก และหัวหน้าศูนยก์ ารเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสนิ คา้ เกษตร
เกย่ี วกบั แนวทางการดำเนินงานการจดั กิจกรรมให้ครอบคลุมกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ได้มีการร่วมกัน
กำหนดกรอบการค้นหาและคัดกรองกลุ่มตัวอย่างในรว่ มกิจกรรม การกำหนดแผนการจัดกิจกรรมการอบรมการ
ให้ความรูร้ ่วมถงึ กจิ กรรมต่าง ๆ เพ่ือให้ตรงกับความต้องการ และเกิดประโยชน์สูงสดุ แก่กลมุ่ เป้าหมาย
2. การดำเนินงานแบบมีสว่ นร่วม กศน.ตำบลแม่พรกิ ไดป้ ระสานกลมุ่ เกษตรกรปลูกผกั สวนครัว
กลุ่มเศรษฐกจิ พอเพียงตำบลแม่พริก และหัวหนา้ กล่มุ เกษตรอินทรยี บ์ า้ นแมพ่ ริกลุ่ม เพอ่ื รับสมัครเกษตรกรทีส่ นใจ
เข้าร่วมโครงการ
3. การจัดกจิ กรรม และจดั ทำโครงการและหลักสูตรเสนอแก่หนว่ ยงาน
กศน.ตำบลแมพ่ ริกไดด้ ำเนินการเสนอ แกผ่ บู้ รหิ าร เพอ่ื อนมุ ัติการจัดโครงการฯ ดงั นี้
3.1 โครงการการอบรมเรียนรกู้ ารปลกู ผกั ยกแครป่ ลอดสารพษิ หลักสูตร การปลกู ผกั ยกแคร่
ปลอดสารพิษ โดยใช้ปุย๋ หมกั ไม่กลับกอง (งานการเรียนรู้หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง)
3.2 โครงการสง่ เสรมิ ชมุ ชนสรา้ งสรรค์ สมนุ ไพรสรา้ งสขุ หลักสตู ร การอนรุ ักษแ์ ละขยายพชื
สมุนไพร (การศึกษาเพ่อื พฒั นาสังคมชุมชน) วนั ที่ 30 มิถุนายน 2564
3.3 โครงการการเรียนรู้หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสูก่ ารปฏบิ ัตอิ ยา่ งพอเพยี ง
(กิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี น ) วันท่ี13 สิงหาคม 2564
3.4 แผนบรณู าการการเรยี นรู้ แบบบูรณาการฐานเกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ เขา้ กบั
รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชอ่ งทางการพฒั นาอาชีพ ทักษะการเขา้ ส่อู าชพี มหศั จรรยสิง่ มชี วี ติ และความหลากหลาย
ของสง่ิ มชี วี ติ
4. ข้ันการอบรมใหค้ วามรสู้ กู้ ารปฏิบัติ
4.1 กศน.ตำบลแมพ่ ริก ดำเนนิ การจัดโครงการการอบรมเรียนรู้การปลกู ผกั ยกแครป่ ลอด
สารพิษ หลักสูตร การปลูกผักยกแครป่ ลอดสารพษิ โดยใช้ปุย๋ หมกั ไมก่ ลบั กอง จำนวน 6 ช่วั โมง วนั ที่ 20 เดอื น
มิถนุ ายน พ.ศ. 2564 กลุม่ เป้าหมายผปู้ ลกู ผักสวนครวั และกลมุ่ เศรษฐกิจพอเพียงตำบลแมพ่ ริก จำนวน 22 คน
วิทยากรโดยหวั หนา้ ศนู ยก์ ารเรยี นรูก้ ารเพิ่มประสิทธภิ าพการผลิตสนิ ค้าเกษตร บรรยายให้ความรู้
4.2
กศน.ตำบลแม่พริก ดำเนินการจัดโครงการการเรียนรูห้ ลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสู่การ
ปฏิบัติอย่างพอเพียง จำนวน 6 ชั่วโมง วันที่ 13 สิงหาคม 2564 กลุ่มเป้าหมายนักศึกษา จำนวน 30 คน โดยมี
กิจกรรมการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2 เงื่อนไข 3 หลักการ สมดุล 4 มิติ
กิจกรรมการแจกเมลด็ พนั ธผ์ุ ักบนแคร่ และกจิ กรรมการปลูกผกั สวนครวั และฟ้าทะลายและจัดเรยี งบนแคร่
7
4.4 กศน.ตำบลแมพ่ ริก ได้บรู ณาการจัดทำแผนการเรยี นรู้ ฐานการเรียนรปู้ ลูกผกั ยกแคร่ แบบ
แครค่ ณู เขา้ กบั แผนการเรียนรู้ ในภาคเรยี นท่ี 1/2564 ของนักศกึ ษาทัง้ 3 ระดับ ได้แก่ รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช่อง
ทางการพฒั นาอาชีพ ทกั ษะการเขา้ สูอ่ าชพี มหศั จรรยสงิ่ มชี ีวติ และความหลากหลายของสิง่ มีชวี ติ
5.คณะผ้จู ัดกิจกรรมไดร้ ว่ มติดตามประเมนิ ผล หลังการจดั กิจกรรม
1. การติดตาม สังเกต สอบถาม พฤตกิ รรมกลมุ่ เป้าหมาย
2. แบบประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาตอ่ เน่ือง
3. แบบติดตามผเู้ รยี นหลังจบหลักสตู รการศึกษาตอ่ เนอื่ ง
4. แบบฝึกหัด (แผนบรู ณาการ) แนวทางการนำหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมา
ใช้ในการจัดการเรยี นรู้ (2 เงอ่ื นไข 3 หลักการ 4 มิติ)
7.ผลผลติ
ผลจากการดำเนินกิจกรรม พบวา่ กลมุ่ เป้าหมาย มีความรู้ ทกั ษะในการใชป้ ๋ยุ หมักไมก่ ลบั กอง มาใชก้ ับ
การปลูกผกั ยกแคร่ได้ถูกวิธี และการเลือกปลกู พชื ผกั สวนครวั ท่เี หมาะสมในการแบบแคร่ รวมถงึ สมุนไพรท่ี
เหมาะสมกับการจัดวางบนแคร่ได้ กลุ่มเปา้ หมายยังสามารถเผยแพรค่ วามรู้แก่คนชมุ ชนได้
ดา้ นการบรู ณาการแผนการเรยี นรู้ ผ้เู รยี นมีความรู้ ความเข้าใจ เกิดทักษะการคิด การเรยี นรู้ ตามแผน
บรู ณาการแผนการเรยี นรู้ ฐานเกษตรยกแคร่ แบบแคร์คุณ ในแต่ละรายวชิ าได้
8.ผลลพั ธ์
ผลจากการดำเนนิ กิจกรรม พบวา่ กลมุ่ เปา้ หมายท้งั ประชาชนและนักศกึ ษา มีความรู้ ทกั ษะการ
ปลูกผักยกแครท่ ่ีถูกวิธี และได้นำความรเู้ ร่อื งการใช้ปุ๋ยหมักไมก่ ลับกอง มาใช้กบั การปลกู ผักยกแครไ่ ด้ถูกวิธี ไป
ใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัวในครัวเรือนได้จริง พบว่า ช่วยลดปัญหาเรื่องดินเสื่อมโทรม เชื้อโรคและสารพิษ
ตกค้างในดิน มีเกิดการลดการใช้สารเคมแี ละปุย๋ เคมีในการเพราะปลูก ทำให้ได้ผลผลติ ที่ปลอดภัยจากสารพษิ
นอกจากน้กี ล่มุ เป้าประชาชนและนกั ศกึ ษา หมายยงั สามารถเผยแพร่ความร้แู ก่คนชมุ ชนได้
8
แบบประเมนิ ผลการจัดการศกึ ษาต่อเน่ือง แบบติดตามผูเ้ รยี นหลังจบหลักสตู รการศึกษา
ต่อเนอ่ื ง ( แบบ กศ.ตน.22 ) ในรูปเล่มรายงาน
ตวั อยา่ ง แบบฝึกหัด (แผนบูรณาการ) รายวิชาคณิตศาสตร์
แบบฝึกหดั (แผนบรู ณาการ) แนวทางการนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมา
ใช้ในการจดั การเรียนรู้ (2 เงอ่ื นไข 3 หลกั การ 4 มติ ิ)
9
9.เงอ่ื นไข/ปจั จยั ทสี่ ง่ ผลตอ่ ความสำเรจ็
6.1 การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานระหว่าง กศน.ตำบลแม่พริก และศูนย์การเรียนรู้การเพิ่ม
ประสทิ ธภิ าพการผลิตสินค้าเกษตร รว่ มถงึ ภาคเี ครอื ข่ายภายในตำบลแม่พรกิ ในการวเิ คราะห์สภาพปัญหาความ
ต้องการของกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกผักสวนครัว ทำให้รู้สภาพปัญหา และความต้องการพัฒนาไปสู่เป้าหมายที่
ต้องการได้
6.2 โครงการฯ นี้ได้ดำเนินการตามแนวทางวงจรคุณภาพของเดมมิ่ง ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างเป็น
ระบบ สามารถตรวจสอบได้ โดนเริ่มตั้งแต่การสำรวจสภาพปัญหาความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยมีการ
วางแผนและการดำเนินงาน ระหว่าง กศน.ตำบลแม่พริก ศูนย์การเรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้า
เกษตร และกล่มุ เป้าหมาย ตลอดจนการติดตามประเมนิ ผลทกุ ข้ันตอน จงึ ทำใหส้ ามารถพัฒนากลุ่มเป้าหมายได้
บรรลตุ ามตัวชว้ี ดั ความสำเรจ็ ของโครงการ
6.3 กลุ่มเป้าหมาย เกษตรกรผู้ปลูกพืชผักสวนครัว มีความเข็มแข็ง มีความสามัคคี มีความเสียสละ ใน
การใหค้ วามร่วมมือในการเขา้ รว่ มทุกๆกิจกรรมเปน็ อย่างดี
6.4 นักศึกษา กศน.ตำบลแม่พริก มีความสามัคคี มีความเสียสละ ในการให้ความร่วมมือในการเข้าร่วม
ทุกๆกิจกรรมเปน็ อยา่ งดี
10.ปญั หา อปุ สรรค หรอื ขอ้ จำกดั ทเ่ี กิดขน้ึ ในการปฏบิ ตั ิงานและแนวทางแกไ้ ขใหป้ ระสบความสำเรจ็
ปัญหาอุปสรรค จากการดำเนินการ การทำแคร่ พบวา่ แครย่ งั ไม่ค่อยมีความแข็งแรง ไดใ้ ห้คำแนะนำ
เกีย่ วกบั ขนาดของแคร่ที่เหมาะสม การเลือกใช้วสั ดใุ นการทำแคร่ รวมถึงขนาดของผักทีจ่ ะนำมาปลูกบนแคร่
11.ขอ้ เสนอแนะวธิ ปี ฏบิ ตั ิงานทจ่ี ะทำใหด้ ยี งิ่ ขน้ึ
1.การนำความรู้เรื่องการปลูกผักยกแคร่ สอดแทรกบูรณาการในเนื้อหาการเรยี นการสอนในทุกรายวชิ า
ของนกั ศกึ ษาท้ัง 3 ระดับทกุ ภาคเรยี น
2. การหาบุคคลต้นแบบเรื่องการการปลูกผักยกแคร่ ที่ประสบผลสำเร็จ และร่วมถ่ายทอดความรู้แก่
ประชาชนในพ้ืนท่ี
ภาคผนวก
ภาพประกอบ
โครงการอบรมเรียนร้กู ารปลกู ผักยกแคร่ปลอดสารพษิ โดยใช้ปุ๋ยหมักไมก่ ลับกอง
หลกั สตู ร การปลกู ผกั ยกแคร่ปลอดสารพิษ โดยใช้ปุ๋ยหมกั ไม่กลับกอง จำนวน 6 ช่วั โมง
วนั ที่ 20 เดอื น มิถุนายน พ.ศ. 2564
ณ กศน.ตำบลแม่พริก ม.1 ตำบลแมพ่ ริก อำเภอแม่พริก จงั หวดั ลำปาง
ผ้เู ข้ารว่ มกิจกรรมรว่ มกันเริม่ ทำฐาน แคร่
ผ้เู ขา้ รว่ มกิจกรรมร่วมกนั นำไมไ้ ผ่มามัดตดิ บนแคร่
ผู้เข้ารว่ มโครงการ นำกลา้ ผักมาแยกเพอื่ ปลูกในถุงเพาะปลกู
โดยใชด้ นิ ผสมพรอ้ มปลูกและปุ๋ยทไ่ี ดจ้ ากการหมักแบบไม่กลบั กอง มาผสมเขา้ ดว้ ยกนั กอ่ นใส่ลงถงุ เพาะปลกู
นำตน้ กลา้ ทปี่ ลูกในถงุ เพาะปลูก มาวางเรยี งไวบ้ นแคร่ใหเ้ รยี บรอ้ ย แล้วคุมด้วยแสลนขา้ งบนแคร่
รปู แครป่ ลกู ผักทเ่ี สร็จเรยี บรอ้ ยแล้ว
โครงการการเรยี นรหู้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งสกู่ ารปฏบิ ตั อิ ย่างพอเพยี ง
วนั ที่ 13 สงิ หาคม 2564
ณ กศน.อำเภอแมพ่ รกิ ตำบลแมพ่ รกิ อำเภอแมพ่ รกิ จงั หวดั ลำปาง
เปดิ โครงการการเรียนรหู้ ลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงสกู่ ารปฏบิ ตั อิ ย่างพอเพียง โดยได้รบั เกยี รตจิ าก
นางจนั ทนี อนิ นนั ชยั ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอแม่พรกิ เปดิ โครงการ
วิทยากรให้ความรู้ เกีย่ วกับองค์ความรู้ 2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มิติ
ในฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร์ แบบแคร์คุณ นำโดย ผอ.กศน.อำเภอแมพ่ รกิ ครูผชู้ ว่ ย
และครู กศน.ตำบลแม่พริก
มอบเมลด็ พชื ผักสวนครัวให้ผ้เู ขา้ ร่วมโครงการ
การปลูกพืชผักสวนครัวและสมนุ ไพร และจดั วางบนแคร่
การเรยี นรู้ ของนกั ศกึ ษา กบั แผนบรูณาการการเรียนรู้ ฐานเกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ รายวชิ าที่ลงทะเบียนใน
ภาคเรียน 1/64
………………………………………………………………………………
แผนการจดั การเรยี นรฐู้ าน
1. ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ
วชิ า พค 11001 คณิตศาสตร์ สาระ พืน้ ฐาน
อช 11001 ชอ่ งทางการพฒั นาอาชพี สาระ การประกอบอาชพี
อช 11002 ทักษะการพัฒนาอาชีพ สาระ การประกอบอาชีพ
พว 12011 วัสดศุ าตร์ 1 สาระ สาระความรู้พ้ืนฐาน
ช้ัน ประถมศึกษา จำนวน 1 ครงั้
2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานที่ 1.2 มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับจำนวนและการดำเนินการ เศษสว่ น ทศนยิ ม และรอ้ ยละ
การวัด เรขาคณติ สถิติและความนา่ จะเปน็ เบอื้ งต้น
มาตรฐานท่ี 3.1 มีความรู้ ความเข้าใจและเจตคติทดี่ ี ในงานอาชีพมองเหน็ ช่องทาง และตดั สินใจ
ประกอบอาชีพไดต้ ามความต้องการ และศกั ยภาพของตนเอง
มาตรฐานที่ 1.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะในอาชีพทต่ี ัดสินใจเลือกบนพ้นื ฐานความรู้ กระบวนการ
ผลติ กระบวนการตลาด ที่ใช้นวตั กรรมเทคโนโลยที เ่ี หมาะสม
มาตรฐานที่ 2.2 มีความรู้ ความเข้าใจ และทกั ษะพื้นฐานเกย่ี วกบั คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ
เทคโนโลยี
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ใหผูเรียนมีความรู้ ความเขาใจ มีทักษะสามารถคำนวณการแคร่ปลูกผักได้มีมาตราฐานที่ได้ขนาดและ
สดั ส่วนท่ีเหมาะสม โดยใช้หลักการทางคณติ ศาสตร์ และการมอี าชพี เปนความภมู ใิ จของคนทุกคน ซ่ึงเราสามารถ
เลือกประกอบอาชีพใหเหมาะสมกบั ความถนดั ความชอบของตน และตรงกบั ความตองการของตลาด นอกจากน้ี
ควรเป็นอาชีพที่ตองไมมี ผลกระทบใด ๆ ตอสิ่งแวดลอม ดังนั้นการจะตัดสินใจเลือกอาชีพใดอาชีพหนึ่งจะตอง
ศึกษา วิเคราะห ขอมูลอาชีพอยางถองแท เพื่อที่จะตัดสินใจเลือกอาชีพใหมีความเสี่ยงนอยที่สุด รวมถึงการ
จัดการวัสดุที่ใช้แลว้ ด้วยหลกั 3R เปน็ แนวทางการปฏบิ ตั ใิ นการลดปรมิ าณวสั ดทุ ีใ่ ชแ้ ลว้
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
4.1.1 คณติ ศาสตร์
4.1.1.1 จำนวนและการดำเนินการ
4.1.1.2 การวัด
4.1.1.3 เรขาคณิต
4.1.2 ชอ่ งทางการพฒั นาอาชพี
4.1.2.1 การงานอาชพี
4.1.2.2 ชอ่ งทางการเข้าสู่อาชพี
4.1.2.3 การตัดสนิ ใจเข้าส่อู าชีพ
4.1.3 ทกั ษะการพฒั นาอาชพี
4.1.3.1 ทักษะในการเขา้ สอู่ าชพี
4.1.3.2 การทำแผนธรุ กิจเพ่ือการเขา้ สู่อาชพี
4.1.3.3 การจดั การการตลาด
4.1.3.4 การขบั เคลอื่ นสร้างธุรกิจเพอื่ เข้าสูอ่ าชพี
4.1.3.5 โครงการเข้าสู่อาชพี
4.1.4 วสั ดศุ าสตร1์
4.1.4.1 การจัดการและกำจัดวัสดทุ ่ีใชแ้ ล้ว
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
5.1 สมรรถนะการคดิ
5.2 สมรรถนะการจดั การตนเอง
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 อยู่อย่างพอเพียง
7. กิจกรรมการเรยี นรู้
กจิ กรรมท่ี 1 (ข้ันนำ 20 นาที) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1. ครอู ธบิ ายตัง้ ประเดน็ คำถาม เพือ่ นำนกั ศึกษาเข้าส่บู ทเรียน
Q1 : ครสู อบถามผู้เรียน เก่ียวกับการปลูกผักในครัวเรอื นของแตล่ ะคนเปน็ แบบไหนบา้ ง
Q2 : ครสู อบถามผู้เรยี น รจู้ ัก การปลกู ผกั ยกแคร่ หรอื ไม่ อยา่ งไร
2. ครูเปิด VDO ผ้ปู ระสบความสำเรจ็ ในการทำเกษตรยกแครใ่ ห้นักศึกษาดู
กจิ กรรมที่ 2 (ข้นั สอน 2 ชัว่ โมง 20 นาท)ี (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1. ครูเปิด VDO เร่อื ง การปลูกผักยกแคร่ ให้นกั ศกึ ษา ศกึ ษาทำความเข้าใจ
2. ครอู ธิบาย ความสำคญั ข้อดแี ละประโยชน์ รวมถึงข้นั ตอน การปลูกผักยกแคร่
3. ครูบรรยายขน้ั ตอนการปลกู ผกั ยกแคร่ ตัง้ แตก่ ารเตรยี มพ้ืนที่ การทำแคร่ การนำชนิดผกั ทนี่ ำมาปลูก
บนแคร่ รวมถึงการดแู ลรักษา
4. ครุอธิบาย การนำวดั สุทใ่ี ช้แลว้ หรอื วัสดตุ า่ งๆที่สามารถใช้ทดแทนกนั ได้ในการทำแคร่ สำหรบั ปลกู
ผกั โดยการคำนึกถงึ หลัก 3R เปน็ แนวทางการปฏิบตั ิ
5. ครูใหผ้ ู้เรยี นแบง่ กลุ่มๆละ 4-5 คน รว่ มกนั ระดมความคิด ออกแบบแคร์ (โดยวาดรปู ทรงแคร่บอก
ขนาดของแตล่ ะส่วน) และบรรยายขั้นตอนการทำปลกู ผกั ยกแคร่ ทถ่ี ูกตอ้ ง พรอ้ มบอกแนวทางการพัฒนาต่อยอด
การปลูกผักแคร่ ให้สามารถสร้างรายไดเ้ กิดขน้ึ ในครวั เรือนได้
6. ผ้เู รยี นนำเสนอผลงานของกล่มุ
7. ครูมอบหมายให้ผเู้ รยี นแบ่งกลุ่มๆละ 4-5 คน ร่วมกนั ระดมความคิดเกี่ยวกบั การปลกู ผกั ยกแครโ่ ดย
ถอดบทเรยี นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้ในการวเิ คราะห์หาข้อมูลตามหัวข้อ ดังนี้
- 2 เง่ือนไข คือ ความรูแ้ ละคณุ ธรรมในการปลกู ผักยกแคร่
- 3 หลักการ คือ ความพอประมาณ มเี หตุผล และมีภูมคิ ้มุ กัน อย่างไรในการปลูกผกั ยกแคร่
- 4 มติ ิ คือ ด้านวตั ถุ/เศรษฐกจิ ดา้ นสังคม ดา้ นส่ิงแวดล้อม ดา้ นวัฒนธรรม เม่อื ผเู้ รียนประกอบอาชพี
การปลกู ผักยกแคร่แล้ว ส่ิงผลตอ่ ท้งั 4 มิติน้ีอย่างไรบา้ ง
8. ผู้เรยี นนำเสนอผลงานของตนเอง
กจิ กรรมท่ี 3 (ขน้ั สรุป 20 นาท)ี (ครู:ความรู้ เหตุผล พอประมาณ ภูมคิ ุ้มกัน)
5.ครูตง้ั ประเด็นคำถามเพ่อื สรปุ องค์ความรูผ้ เู้ รียน
Q3 : ในขั้นตอนการปลูกผกั ยกแครผ่ ู้เรยี นตอ้ งคำนวณอะไรบ้าง อาทิ เชน่
-ขนาดของแคร่
-ระยะเวลาในการทำ
-รปู ทรงแคร่
Q4 : ทำไมผู้เรยี นถงึ ตดั สนิ ใจเลือกการปลกู วธิ ีการปลกู ผกั ยกแคร่เพ่อื แก้ปญั หาดนิ ในชุมชน
Q5 : ครูสอบถามผู้เรียนเกย่ี วกับการปลกู ผกั ยกแคร่ หากตอ้ งการพัฒนาใหเ้ ป็นอาชีพผ้เู รียนคดิ ว่า
ตอ้ งใชท้ กั ษะอะไรบา้ ง
6.ครูใหน้ กั ศกึ ษาทำใบงาน ฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร๋ แบบแคร์คณุ
7. ครูให้ผู้เรียนศึกษาเพิม่ เติม เกี่ยวกับวิธีการปลูกผักยกแคร่ โดยจัดกลุ่มนกั ศึกษา กลุ่มละ 3-4 คน ทำ
โครงงานเกีย่ วกับการปลกู ผักยกแคร่
8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
8.1 ใบงานหลักคิด และฝกึ ปฏิบตั ิ 2 เง่ือนไข 3 หลกั การ 4 มิติ
8.2 ใบงานฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คุณ
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ประเมินใบงาน
9.2 ประเมนิ ช้นิ งาน
10. เวลาเรยี น/จำนวนชวั่ โมงเรยี น
10.1 การเรียนรู้ จำนวน 1 ครัง้
11. สอื่ /แหลง่ เรยี นรู้
11.1 หนังสือเรยี น วิชา พค 11001 คณิตศาสตร์
11.2 หนงั สือเรยี น วชิ า อช 11001 ชอ่ งทางการพฒั นาอาชีพ
11.3 หนังสือเรยี น วิชา อช 11002 ทักษะการพฒั นาอาชีพ
11.4 หนังสอื เรยี น วชิ า พว 12011 วสั ดุศาตร์1
11.5 VDO ผปู้ ระสบความสำเร็จในการทำเกษตรยกแคร่
11.6 VDO เรอื่ ง การปลกู ผักยกแคร่
ชดุ คำถามเพื่อกระตนุ้ คณุ ลักษณะอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง
กิจกรรม 1 (ขนั้ นำ 20 นาท)ี
Q1 : ครสู อบภามผ้เู รยี น เกี่ยวกบั การปลกู ผกั ในครัวเรอื นของแต่ละคนเปน็ แบบไหนบา้ ง
Q2 : ครูสอบถามผเู้ รียน รจู้ กั การปลกู ผักยกแคร่ หรอื ไม่ อยา่ งไร
กิจกรรม 2 (ขั้นสอน 2 ชวั่ โมง 20 นาท)ี
-
กิจกรรม 3 (ข้ันสรปุ 20 นาที)
Q3 : ในข้ันตอนการปลกู ผักยกแคร่ผูเ้ รียนตอ้ งคำนวณอะไรบา้ ง อาทิ เช่น
-ขนาดของแคร่
-ระยะเวลาในการทำ
-รปู ทรงแคร่
Q4 : ทำไมผเู้ รียนถึงตดั สินใจเลือกการปลูกวิธีการปลูกผักยกแคร่เพ่อื แกป้ ัญหาดนิ ในชุมชน
Q5 : ครูสอบถามผูเ้ รยี นเกี่ยวกบั การปลูกผกั ยกแคร่ หากต้องการพฒั นาใหเ้ ป็นอาชีพผู้เรียนคิดว่าต้อง
ใช้ทักษะอะไรบา้ ง
12. การนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใชใ้ นการจัดการเรยี นรู้
1. ผสู้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ค่ี รจู ำเปน็ ตอ้ งมี - รู้องค์ความรู้รายวิชาคณติ ศาสตร์
- รู้องคค์ วามรู้รายวชิ าช่องทางการพัฒนาอาชีพ
- รู้องคค์ วามรู้รายวชิ าทักษะการพัฒนาอาชพี
- รอู้ งคค์ วามรู้การปลูกผักยกแคร่
- รู้เรื่องแหล่งเรยี นรู้/วทิ ยาเรอื่ งการปลกู ผกั ยกแคร่
คุณธรรมของครู - ความเมตตาต่อศษิ ย์
- ความใฝเ่ รยี นรู้
ความพอประมาณ - เวลาที่สอนมีความเหมาะสมกบั เนือ้ หาทีใ่ ชเ้ รียน
มเี หตผุ ล - เพ่อื ให้ผู้เรยี นเกดิ กระบวนการเรยี นรู้และมีทักษะการประกอบอาชีพในชมุ ชนของ
ตนเองได้
มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี - ครูผู้สอนเตรยี ม
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - ออกแบบการจัดการเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสม ทำใหก้ ารดำเนนิ การจัดกจิ กรรมการ
เรียนรู้เปน็ ไปตามเวลาทก่ี ำหนด
สงั คม - ได้รว่ มกนั วางแผนกจิ กรรมการเรยี นรกู้ บั ครทู า่ นอน่ื และมกี ารแลกเปล่ยี นเรียนรู้
วฒั นธรรม ซ่งึ กันและกนั
- สร้างวฒั นธรรมองค์การใหเ้ ป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนข้อมลู
สง่ิ แวดลอ้ ม - การเกบ็ กวาดหอ้ งเรยี นใหส้ ะอาดเปน็ ระเบียบ จัดอุปกรณก์ ารเรียนการสอนให้
พรอ้ มตอ่ การเรียนรู้
2. ผลทเี่ กิดขน้ึ กบั ผเู้ รยี นสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ่ตี อ้ งมกี อ่ นเรยี น - รู้องค์ความรู้รายวชิ าคณิตศาสตร์
- รู้องคค์ วามรู้รายวชิ าชอ่ งทางการพฒั นาอาชีพ
- รู้องคค์ วามรู้รายวชิ าทักษะการพัฒนาอาชพี
- องค์ความรู้ในการปลูกผักยกแคร่
- ทกั ษะการขยายยอาชพี การปลกู ผักยกแคร่
คณุ ธรรม - ความรับผิดชอบ
- มนี ้ำใจ
ความพอประมาณ - การใช้วัสดุ อปุ กรณ์ในการทำชิ้นงาน ใบงาน อย่างพอดีเหมาะสม
มเี หตผุ ล - เกิดกระบวนการเรยี นรู้และทกั ษะในการสืบคน้ ดว้ ยตนเองในเรื่องแหล่งเรียนรูใ้ น
มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ท่ดี ี ชุมชน
- เหน็ คุณคา่ ของแหล่งเรยี นร้ใู นชุมชน
- รูจ้ กั และใชแ้ หลง่ เรยี นรใู้ นชุมชนใหเ้ กดิ ประโยชน์ได้ จากความรู้และทกั ษะทไ่ี ด้รับ
จากการสบื คน้ แหล่งเรียนร้ใู นชมุ ชน
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - การเลือกใชอ้ ุปกรณ์ในการทำช้นิ งาน ใบงานได้อย่างถกู ตอ้ งและไดผ้ ลงานตามท่ี
ต้องการ
สงั คม - ให้ความช่วยเหลือซึง่ กันและกัน และมีปฏิสัมพันธท์ ่ีดตี อ่ กัน มีการแลกเปล่ียน
วฒั นธรรม เรียนรกู้ นั
- เกิดความรักและความภาคภมู ใิ จในทอ้ งถนิ่ ตน
สงิ่ แวดลอ้ ม - ทำความสะอาดห้องเรียนให้สะอาดเป็นระเบียบ ทุกครงั้ หลงั เลิกเรียน
แผนการจดั การเรยี นรฐู้ าน
1. ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ
วิชา พค21001 คณิตศาสตร์ สาระ พื้นฐาน
อช 21001 ช่องทางการพัฒนาอาชีพ สาระ การประกอบอาชีพ
อช 21002 ทกั ษะการพฒั นาอาชีพ สาระ การประกอบอาชีพ
อช21003 พัฒนาอาชพี ให้มีความเข้มแข็ง สาระ การประกอบอาชพี
ชนั้ มธั ยมศึกษาตอนตน้ จำนวน 2 คร้งั
2. มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐานที่ 2.2 มคี วามรู้ความเข้าใจและทกั ษะพ้ืนฐานเก่ยี วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
มาตรฐานท่ี 3.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ มีเจตคติท่ีดีในงานอาชีพ มองเห็นช่องทางและตัดสินใจประกอบ
อาชพี ได้ตามความต้องการและศักยภาพของตนเอง
มาตรฐานที่ 3.2 มคี วามรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะในอาชพี ท่ีตัดสินใจเลอื ก
มาตรฐานท่ี 3.4 มคี วามรู้ความเข้าใจในการพัฒนาอาชีพใหม้ คี วามม่ันคง
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
ใหผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ และเจตคตทิ ่ีดีในการพัฒนาอาชีพ การปลูกผกั ยกแคร่ วเิ คราะห์ลักษณะ
ชุมชนท่ีเหมาะกบั การปลูกผกั ยกแคร่ และมีความรู้ ความเขาใจเกี่ยวกับการคำนวณ ปรมิ าตรพื้นทใ่ี นการทำแปลง
ผักแคร่ มีการวางแผนการปลูกผักยกแคร่ และมีภูมิคุ้มกันในการลดความเสี่ยงในการปลกู ผักยกแคร่ มีทักษะใน
พฒั นาอาชพี ในการปลกู ผกั ยกแคร่ใหม้ คี วามเขม้ แข็ง
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
4.1.1 คณิตศาสตร์
-จำนวนและการดำเนนิ การ
-ปริมาตรและพื้นผิว
-การใช้ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในงานอาชีพ
4.1.2 ช่องทางการพฒั นาอาชพี
-การงานอาชพี
- ช่องทางการพัฒนาอาชพี
- การตดั สินใจเลือกพัฒนาอาชพี
4.1.3 ทกั ษะการพฒั นาอาชพี
-ทักษะในการพฒั นาอาชพี
-การทำแผนธุรกิจเพ่ือพัฒนาอาชพี
-การจัดการความเสย่ี ง
-โครงการพฒั นาอาชพี
4.1.4 พฒั นาอาชพี ใหม้ ีความม่นั คง
-ศกั ยภาพธุรกจิ
-การจดั ทำแผนการตลาด
-การจดั ทำแผนพัฒนาการผลติ หรอื การบรกิ าร
-โครงการพฒั นาอาชีพใหม้ ีความเขม้ แขง็
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
5.1 สมรรถนะการคดิ
5.2 สมรรถนะการจดั การตนเอง
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 อยู่อย่างพอเพียง
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ครง้ั ท่ี 1
กจิ กรรมที่ 1 (ขน้ั นำ 1 ชัว่ โมง) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1. ครอู ธบิ ายให้ผเู้ รียนเขา้ ใจถงึ ความสำคญั และความจาํ เปน็ ในการพัฒนาอาชีพ
2. ครอู ธบิ ายตงั้ ประเดน็ คำถาม เพ่ือนำนักศึกษาเข้าสู่บทเรยี น
Q1 : ครอบครวั หรอื ในชมุ ชนผเู้ รยี น ส่วนใหญ่ประกอบอาชพี อะไร
3. ครมู อบหมายใหผ้ ้เู รยี นสำรวจกลุ่มอาชพี เกษตรในชมุ ชน
4. ครูพดู คุยแลกเปลี่ยนเรียนรูก้ บั ผู้เรยี นในชมุ ชนถึงปัญหาของอาชพี เกษตรกรรม
5. ครนู ำคลปิ VDO การปลูกผกั ยกแคร่ ช่วยแก้ปัญหาสภาพดนิ และสารเคมตี กค้างในดนิ ในการเพราะ
ปลกู ผัก ให้ผู้เรียนดู โดยตั้งประเดน็ คำถาม
Q2 : ในการปลกู ผกั ยกแครช่ ่วยแก้ปญั หาสภาพดินและสารเคมีตกคา้ งในดนิ ในการเพราะปลกู ผัก
อะไรบา้ ง
กจิ กรรมท่ี 2 (ขน้ั สอน 4 ชั่วโมง) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
6. ครอู ธิบายให้ผู้เรียนเขา้ ใจถึงเรือ่ ง ขัน้ ตอนตา่ งๆของการปลูกผกั ยกแคร่
7. ครใู ห้แต่ละกลุ่มสรุปข้ันตอนวิธีการทำปลกู ผกั ยกแคร่ เปน็ Mind maping และนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
8. ผู้เรยี นนำเสนอ Mind maping หน้าชนั้ เรียน
กจิ กรรมท่ี 3 (ข้ันสรปุ 1 ช่ัวโมง) (ครู:ความรู้ เหตุผล พอประมาณ ภูมคิ ้มุ กัน)
9. ครใู หน้ ักศึกษาทำใบงาน ฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร๋ แบบแคร์คณุ
10. ครูตงั้ ประเดน็ คำถามเพ่ือสรุปองค์ความรผู้ ู้เรียน
Q3 : การทำแครส่ ำหรับปลกู ผัก มีวัสดอุ ปุ กรณ์อะไรบา้ ง
11. ครูมอบหมายให้นกั ศกึ ษา จัดเตรียมวสั ดุอุปกรณ์ สำหรบั ทำ แครป่ ลูกผัก และเตรียมกลา้ ผัก สำหรับ
การทำกิจกรรมในคร้ังตอ่ ไป
ครง้ั ที่ 2
กจิ กรรมที่ 1 (ขัน้ นำ 1 ช่วั โมง) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1. ครูนำคลปิ VDO ขน้ั ตอน การทำแคร่ และการปลูกผักบนแคร่ รวมถึงวิธกี ารดแู ลรักษาการปลูกผักบน
แคร่
Q2 : ในการปลูกผกั ยกแคร่ตอ้ งใชท้ กั ษะอะไรบ้าง
กจิ กรรมที่ 2 (ข้ันสอน 4 ชั่วโมง) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
2. ครใู หผ้ ู้เรียนแต่ละคนปฏิบัติการทำผกั ยกแคร่ โดยมีข้นั ตอนดังน้ี
2 1. การทำฐานแคร่ สูงจากระดับพ้ืนดินประมาณ 80-90 ซม. ขุดหลุมฐานแคร่ จำนวน 4 หลมุ ลึก
ประมาณ 20 ซม. โดยเว้นระยะห่างของหลุม กวา้ ง 1.2 เมตร ยาว 2.4 เมตร แล้วตัดทอ่ พวี ีซสี ำหรบั ทำขาแคร่
ขนาด 2 นิ้ว ยาว 60 ซม. จำนวน 4 อนั นำท่อพวี ี ท่ีตดั ตามขนาด ลงหลมุ (สว่ นที่ฝัง่ ลงดนิ 20 ซม.) แล้วผสมปูน
เทคลบปดิ ปากหลมุ ส่วนคานฐานตดั ท่อพีวีซี ขนาด 2 นิ้ว ยาว 2.4 เมตร จำนวน 2 ท่อนและต่อดว้ ยข้อตอ่
2.2 ขนั้ ตอนการแประกอบแคร่ มัดแครด่ ้วยไม้ไผ่ใหต้ ิดกนั จนเตม็ แคร่ แล้วนำไม้ฝาเฌอรา่ มาติดขอบข้าง
ท้งั 4 ดา้ นของแคร่ แล้วปูพน้ื แครด่ ว้ ยแสลนใหเ้ ตม็
2.3 นำดินที่ผสมแลว้ ดกั ใสแ่ ครใ่ หเ้ ตม็ กระบะแคร่ เกลยี่ ดินใหเ้ สมอกัน
2.4 การนำกล้าผักหรอื เมลด็ ผกั ทต่ี อ้ งการลงปลูกได้ตามต้องการ
3. ครูให้แต่ละกลมุ่ สรปุ ขน้ั ตอนวธิ กี ารทำและปญั หาอปุ สรรคท่ีเกดิ จาก การทำปลูกผักยกแคร่
กิจกรรมท่ี 3 (ขัน้ สรุป 1 ชัว่ โมง) (ครู:ความรู้ เหตุผล พอประมาณ ภมู ิคุ้มกัน)
4. ครตู งั้ ประเด็นคำถามเพ่ือสรุปองค์ความรู้ผเู้ รยี น
Q4 : ในข้ันตอนการปลูกผกั ยกแครผ่ เู้ รียนตอ้ งคำนวณอะไรบา้ ง อาทิ เชน่
-จำนวนระยะเวลาในการเตรียมพ้นื ท่ี
-ระยะเวลาในการทำแคร่
-ขนาดของแคร่ท่ีเหมาะสม
5. ครูและผเู้ รยี นรว่ มกันแลกเปลี่ยนความรู้ สรุปองค์ความรู้ จากการทำกจิ กรรมการเกษตรยกแคร่ แบบ
แคร์คุณ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการนำมาใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันลงในใบงาน ถอด
บทเรยี น หลักคดิ และฝึกปฏิบัติ 2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มติ ิ ทไ่ี ดร้ บั
Q5 : หากผู้เรียนตอ้ งการพฒั นาต่อยอดอาชีพการปลกู ผกั ยกแคร่ มีแนวทางการวางแผนเพือ่ เตรียมความ
พร้อมอย่างไร
6. ครูให้ผู้เรียนศึกษาเพิม่ เตมิ เกี่ยวกับวิธีการปลกู ผักยกแคร่ โดยจัดกลุ่มนักศึกษา กลุ่มละ 3-4 คน ทำ
โครงงานเก่ยี วกบั การพัฒนาอาชพี การปลกู ผักยกแคร่
8. ชน้ิ งาน/ภาระงาน
8.1 ใบงานหลักคิด และฝกึ ปฏบิ ัติ 2 เงื่อนไข 3 หลกั การ 4 มิติ
8.2 ใบงานฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ณุ
8.3 การทำปลกู ผักยกแคร่
8.4 ใบงานฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ณุ
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ประเมินใบงาน
9.2 ประเมนิ ชน้ิ งาน
10. เวลาเรยี น/จำนวนครงั้ ทเี่ รยี น
10.1 การเรียนรู้ จำนวน 2 ครง้ั
11. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
11.1 หนงั สอื เรียน วชิ า พค21001 คณิตศาสตร์
11.2 หนงั สอื เรยี น วิชา อช 21001 ช่องทางการพฒั นาอาชีพ
11.3 หนังสอื เรียน วชิ า อช 21002 ทกั ษะการพฒั นาอาชีพ
11.4 หนงั สอื เรียน วิชา อช21003 พฒั นาอาชีพให้มคี วามมั่นคง
11.5 VDO ขัน้ ตอน การทำแคร่ และการปลกู ผักบนแครแ่ ละวิธกี ารดแู ลรกั ษาการปลกู ผกั บนแคร่
11.6 VDO การแกไ้ ขปญั หาเร่อื งดนิ เสอ่ื มโทรม และสารตกค้าง โดยวิธกี าร การปลูกผกั ยกแคร่
ชุดคำถามเพอ่ื กระตุน้ คณุ ลักษณะอยอู่ ย่างพอเพยี ง
กจิ กรรมที่ 1 (ข้ันนำ 1 ชั่วโมง)
Q1 : ครอบครัว หรอื ในชุมชนผูเ้ รียน ส่วนใหญป่ ระกอบอาชีพอะไร
Q2 : ในการปลูกผักยกแคร่ช่วยแก้ปัญหาสภาพดินและสารเคมตี กคา้ งในดินในการเพราะปลกู ผัก
อะไรบา้ ง
Q3 : ในการปลกู ผักยกแคร่ต้องใชท้ กั ษะอะไรบา้ ง
กจิ กรรมที่ 2 (ขั้นสอน 4 ชัว่ โมง)
-
กิจกรรมท่ี 3 (ข้ันสรปุ 30 นาที)
Q1 : ในข้นั ตอนการปลกู ผกั ยกแครผ่ เู้ รียนต้องคำนวณอะไรบา้ ง อาทิ เชน่
-จำนวนระยะเวลาในการเตรยี มพื้นท่ี
-ระยะเวลาในการทำแคร่
-ขนาดของแคร่ทีเ่ หมาะสม
Q2 : การทำแคร่สำหรับปลกู ผัก มีวัสดุอปุ กรณ์อะไรบา้ ง
Q3 : หากผู้เรยี นต้องการพัฒนาต่อยอดอาชพี การปลกู ผกั ยกแคร่ มีแนวทางการวางแผนเพ่ือเตรยี มความ
พรอ้ มอย่างไร
12. การนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชใ้ นการจดั การเรยี นรู้
1. ผสู้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ี่ครจู ำเปน็ ตอ้ งมี - รอู้ งคค์ วามรู้การปลูกผักยกแคร่
- ร้เู รอื่ งแหล่งเรยี นรู้/วทิ ยาเรื่องการปลูกผกั ยกแคร่ในชุมชนตำบลแม่พรกิ
- ความรเู้ ร่อื ง ชอ่ งทางการพัฒนาอาชพี ทักษะการพฒั นาอาชีพ พัฒนาอาชพี
ให้มีความเขม้ แข็ง
คุณธรรมของครู - ความเมตตาต่อศิษย์
- ความใฝเ่ รียนรู้
ความพอประมาณ - เวลาทสี่ อนมีความเหมาะสมกับเนื้อหาทใ่ี ช้เรยี น
มเี หตผุ ล - เพอื่ ให้ผเู้ รียนเกดิ กระบวนการเรยี นรู้และและสามารถพัฒนาอาชีพในชมุ ชน
ของตนเองได้
มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ที่ดี - ครผู ู้สอนเตรียม
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - ออกแบบการจัดการเรียนร้ทู เี่ หมาะสม ทำใหก้ ารดำเนินการจัดกิจกรรมการ
เรยี นร้เู ปน็ ไปตามเวลาท่ีกำหนด
สงั คม - ไดร้ ่วมกันวางแผนกิจกรรมการเรียนรูก้ บั ครูทา่ นอื่น และมกี ารแลกเปล่ียน
วฒั นธรรม เรยี นรู้ซึง่ กนั และกนั
สง่ิ แวดลอ้ ม
- สร้างวัฒนธรรมองค์การใหเ้ ปน็ องคก์ รแหง่ การเรยี นรูแ้ ละแลกเปลี่ยนข้อมูล
- การเกบ็ กวาดหอ้ งเรยี นใหส้ ะอาดเปน็ ระเบียบ จัดอปุ กรณก์ ารเรยี นการสอน
ใหพ้ ร้อมตอ่ การเรยี นรู้
2. ผลทเ่ี กิดขน้ึ กบั ผเู้ รยี นสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ต่ี อ้ งมกี อ่ นเรยี น - รู้เรือ่ งปญั หาดนิ เกย่ี วกับการเกษตร
คณุ ธรรม - ความรบั ผดิ ชอบ
- มีน้ำใจ
ความพอประมาณ - การใช้วัสดุ อปุ กรณ์ในการทำชน้ิ งาน ใบงาน อย่างพอดเี หมาะสม
มเี หตผุ ล - เกิดกระบวนการเรยี นรแู้ ละทักษะในการสืบค้นดว้ ยตนเองในเรอื่ งแหล่ง
มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี เรียนรู้ในชมุ ชน
- เหน็ คณุ ค่าของแหลง่ เรยี นรใู้ นชมุ ชน
- รู้จักและใช้แหลง่ เรยี นรู้ในชมุ ชนใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้ จากความรู้และ
ทกั ษะทไี่ ดร้ บั จากการสืบคน้ แหลง่ เรียนรู้ในชุมชน
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - การเลือกใชอ้ ุปกรณ์ในการทำชนิ้ งาน ใบงานได้อย่างถกู ต้องและได้
ผลงานตามท่ีตอ้ งการ
สงั คม - ให้ความชว่ ยเหลือซึ่งกันและกัน และมีปฏิสมั พันธท์ ดี่ ตี อ่ กนั มีการ
แลกเปลยี่ นเรียนรูก้ นั
วฒั นธรรม - เกดิ ความรักและความภาคภมู ิใจในทอ้ งถน่ิ ตน
สง่ิ แวดลอ้ ม - ทำความสะอาดห้องเรยี นให้สะอาดเปน็ ระเบียบ ทกุ ครง้ั หลงั เลกิ เรยี น
แผนการจดั การเรยี นรฐู้ าน
1. ชอื่ หนว่ ยการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ
วชิ า อช31001 ช่องทางการขยายอาชพี สาระ การประกอบอาชีพ
สาระ การประกอบอาชีพ
อช31002 ทกั ษะการขยายอาชีพ สาระ การประกอบอาชพี
ครั้ง
อช31003 พฒั นาอาชีพใหม้ ีความมั่นคง
ช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย เวลา 1
2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานที่ 3.1 มคี วามรู้ ความเขา้ ใจและเจตคตทิ ดี่ ี ในงานอาชีพมองเหน็ ช่องทาง และตัดสนิ ใจประกอบอาชพี
ไดต้ ามความต้องการ และศกั ยภาพของตนเอง
มาตรฐานที่ 3.2 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะในอาชีพท่ีตัดสินใจเลอื ก
มาตรฐานท่ี 3.4 มีความรู้ ความเขา้ ใจ ในการพัฒนาอาชีพให้มีความม่ันคง
3. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การปลูกผกั ยกแคร่ เปน็ การทำเกษตรแบบอินทรียท์ ี่แก้ไขปญั หาการรบกวนของแมลงวัชพืชและศัตรูพืช
สามารถสร้างเปน็ อาชีพให้มีความมัน่ คงได้โดยการขยายฐานการผลิตการ เพิ่มทักษะตา่ งๆที่เกี่ยวกับการปลูกผัก
ยกแคร่ ให้กับตนเอง รวมถึงการศกึ ษาตลาด เพอ่ื รองรับการผลิตและสร้างรายไดใ้ หก้ ับตนเองครอบครัวชุมชนให้
เกิดความยงั่ ยืน
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 สาระการเรียนรู้แกนกลาง
4.1.1 วชิ า ชอ่ งทางการขยายอาชพี
- การงานอาชีพ
- ช่องทางการขยายอาชพี
- การตดั สินใจเลือกขยายอาชีพ
4.1.2 วิชา ทักษะการขยายอาชพี
- ทกั ษะในการขยายอาชพี
- การพฒั นาตนเองเพื่อการขยายอาชพี
- ความหมาย ความสําคัญของการขยายอาชีพ
- โครงการขยายอาชีพ
4.1.3 วิชา การพัฒนาอาชีพใหม้ คี วามมน่ั คง
- ศกั ยภาพธรุ กิจ
- การจัดทำแผนพัฒนาการตลาด
- การจดั ทำแผนพฒั นาการผลิต
- โครงการพัฒนาอาชีพใหม้ ีความม่นั คง
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
5.1 สมรรถนะการคิด
5.2 สมรรถนะการจัดการตนเอง
5.3 สมรรถนะการสอ่ื สาร
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 อยู่อย่างพอเพียง
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
กิจกรรมท่ี 1 (ข้นั นำ 20 นาที) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1. ครอู ธบิ ายตงั้ ประเด็นคำถาม เพื่อนำนกั ศกึ ษาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
Q1 : ครอบครวั หรือในชุมชนผเู้ รยี น ส่วนใหญ่ประกอบอาชพี อะไร
2. ครอู ธิบายให้ผูเ้ รียนเขา้ ใจถึง ความสำคญั และความจําเปน็ ในการขยายอาชพี
3. ครูมอบหมายใหผ้ ู้เรียนศึกษาความร้เู รือ่ งของการปลกู ผักยกแคร่จาก VDO เร่อื งการปลูกผักยกแคร่
และจากใบองค์ความร้เู รอ่ื ง เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ณุ
Q2 : ครูสอบถามผเู้ รียนเกี่ยวกับการปลกู ผักยกแครห่ ากต้องการพฒั นาใหเ้ ปน็ อาชีพผู้เรยี นคิดว่าต้อง
ใช้ทักษะอะไรบ้าง
กิจกรรมท่ี 2 (ขัน้ สอน 2 ช่ัวโมง 20 นาที) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
4. ครูอธิบายให้ผเู้ รียนเข้าใจการประยุกตใชปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการพัฒนาขยายอาชีพให้มี
ความมั่นคง และมอบหมายให้แต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะหการประกอบอาชีพของตนเอง หรือสัมภาษณ
ภูมิปญญาในชุมชน วาได้ยึดหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เปนแนวทางในการประกอบอาชีพหรือไม่ โดย
วิเคราะหใ์ หครบท้งั 5 องคประกอบ
4.1 ความมเี หตผุ ล 4.2 ความพอดี
4.3 ภมู คิ มุ กนั
4.4 ความรอบรู
4.5 คุณธรรม
5. ครมู อบหมายให้ผูเ้ รียนแบ่งกลุ่ม 5-6 คน รว่ มกันวเิ คราะห์ประเด็นของสภาพบรบิ ทในแตละดาน
ดวยเทคนคิ SWOT ของอาชีพการปลกู ผกั ยกแคร่ ดงั นี้
สถานการณภายในชมุ ชน
จดุ แขง็ จุดออน 1. ทรัพยากรธรรมชาติ
2. ลักษณะภมู อิ ากาศ
3. ภูมิประเทศ
4. ศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวิถชี ีวิต
5.ทรัพยากรมนษุ ย์
สถานการณภายนอกชุมชน
โอกาส อปุ สรรค 1. ทรพั ยากรธรรมชาติ
2. ลักษณะภูมอิ ากาศ
3. ภูมปิ ระเทศ
4. ศลิ ปะ วัฒนธรรม ประเพณี และวถิ ชี ีวิต
5.ทรัพยากรมนษุ ย์
6. เมอื่ ผเู้ รียนแต่ละกลุ่มรว่ มกันวเิ คราะหข์ อ้ มลู เสร็จแล้ว ใหเ้ ขียนสรุปผลการวิเคราะหเ์ ปน็ ความเรียงและ
ออกมานำเสนอหนา้ ช้นั เรยี น
กิจกรรมที่ 3 (ขั้นสรุป 20 นาท)ี (ครู:ความรู้ เหตผุ ล พอประมาณ ภมู ิคุ้มกนั )
7. ครูและผู้เรียนรว่ มกันแลกเปลี่ยนความรู้ สรุปองค์ความรู้ จากการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ฐาน เกษตร
ยกแคร่ แบบแคร์คณุ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการนำมาใช้ในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวันลงในใบ
งานถอดบทเรยี น หลกั คิด และฝึกปฏบิ ตั ิ 2 เงือ่ นไข 3 หลกั การ 4 มิติ ท่ไี ดร้ ับ
Q3 : นกั ศึกษาคิดว่าสามารถนำความรู้ การปลูกผักยกแคร่ ท่ไี ด้รับไปใชใ้ นการดำเนินชีวติ อยา่ งไรบ้าง
Q4 : หากผเู้ รยี นต้องการพฒั นาต่อยอดอาชีพการปลูกผักยกแคร่ มแี นวทางการวางแผนเพอื่ เตรยี ม
ความพรอ้ มอย่างไร
8.ครูให้นกั ศึกษาทำใบงาน ฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร๋ แบบแครค์ ุณ
8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
8.1 ใบงานหลกั คิด และฝกึ ปฏิบตั ิ 2 เงื่อนไข 3 หลักการ 4 มิติ
8.2 ช้นิ งาน วิเคราะหการประกอบอาชีพ
8.3 ช้นิ งาน วิเคราะหป์ ระเดน็ ของสภาพบริบทในแตละดานดวยเทคนคิ SWOT
8.4 ใบงาน ฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร๋ แบบแคร์คณุ
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ประเมินใบงาน
9.2 ประเมนิ ชน้ิ งาน
10. เวลาเรยี น/จำนวนชวั่ โมงเรยี น
10.1 การเรียนรู้ จำนวน 1 ครง้ั
11. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
11.1 หนังสอื เรยี น วิชา ชอ่ งทางการขยายอาชีพ อช31001
11.2 หนงั สือเรียน วิชา ทกั ษะการขยายอาชพี อช31002
11.3 หนังสือเรียน วิชา พฒั นาอาชีพให้มีความมนั่ คง อช31003
11.4 VDO เรือ่ ง การปลกู ผักยกแคร่
11.5 ใบงาน ฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ณุ
ชุดคำถามเพื่อกระตนุ้ คณุ ลักษณะอย่อู ย่างพอเพียง
กิจกรรม 1 (ข้ันนำ 20 นาที)
Q1 : ครอบครวั หรอื ในชุมชนผเู้ รียน ส่วนใหญ่ประกอบอาชพี อะไร
Q2 : ครสู อบถามผู้เรียนเกีย่ วกบั การปลูกผกั ยกแครห่ ากตอ้ งการพฒั นาให้เป็นอาชพี ผเู้ รยี นคิดวา่ ต้องใช้ทกั ษะ
อะไรบา้ ง
กิจกรรมที่ 2 (ขัน้ สอน 2 ชัว่ โมง 20 นาท)ี
-
กจิ กรรม 3 (ข้นั สรุป 20 นาที)
Q3 : นักศึกษาคิดว่าสามารถนำความรู้ การปลูกผักยกแคร่ ท่ไี ด้รบั ไปใช้ในการดำเนนิ ชีวติ อย่างไรบา้ ง
Q4 : หากผเู้ รียนต้องการพฒั นาต่อยอดอาชีพการปลกู ผักยกแคร่ มีแนวทางการวางแผนเพื่อเตรียมความพรอ้ ม
อยา่ งไร
12. การนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจดั การเรียนรู้
1. ผสู้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ่ีครจู ำเปน็ ตอ้ งมี - รู้เรือ่ งองค์ความรู้การปลูกผักยกแคร่
- ความรูเ้ รื่อง ชอ่ งทางการขยายอาชพี ทักษะการขยายอาชพี พัฒนาอาชีพให้
มีความมน่ั คง
คุณธรรมของครู - ความเมตตาต่อศษิ ย์
- ความใฝ่เรยี นรู้
ความพอประมาณ - เวลาท่ีสอนมีความเหมาะสมกับเนื้อหาท่ใี ช้เรียน
มเี หตผุ ล - เพื่อให้ผเู้ รยี นเกิดกระบวนการเรยี นร้แู ละทกั ษะการวเิ คราะหพฒั นาอาชพี ให้
มีความมั่นคง
มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทีด่ ี - เพือ่ ให้ผเู้ รียนรจู้ ักและมีทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - ออกแบบการจัดการเรยี นรทู้ ่ีเหมาะสม ทำใหก้ ารดำเนนิ การจัดกิจกรรมการ
เรียนรเู้ ป็นไปตามเวลาทีก่ ำหนด
สงั คม - ไดร้ ว่ มกันวางแผนกจิ กรรมการเรียนรู้กับครทู ่านอืน่ และมีการแลกเปล่ยี น
วฒั นธรรม เรยี นรซู้ ึ่งกนั และกัน
สง่ิ แวดลอ้ ม
- สร้างวัฒนธรรมองคก์ ารให้เปน็ องค์กรแห่งการเรียนรแู้ ละแลกเปล่ยี นขอ้ มูล
- การเกบ็ กวาดหอ้ งเรียนให้สะอาดเปน็ ระเบียบ จัดอุปกรณก์ ารเรยี นการสอน
ให้พร้อมต่อการเรยี นรู้
2. ผลทเ่ี กดิ ขนึ้ กบั ผเู้ รยี นสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ี่ตอ้ งมกี อ่ นเรยี น - รู้เรอื่ งเกษตรอนิ ทรใ์ นชมุ ชน
- รู้เร่ืองปัญหาทางการเกษตรของชมุ ชน
คณุ ธรรม - ความรบั ผิดชอบ
- มนี ำ้ ใจ
ความพอประมาณ - การใช้วัสดุ อุปกรณ์ในการทำชน้ิ งาน ใบงาน อย่างพอดเี หมาะสม
มเี หตผุ ล - เกดิ กระบวนการเรยี นรแู้ ละทักษะในการสืบคน้ ด้วยตนเองในเรื่อง
สามารถวิเคราะห์พัฒนาอาชพี ให้มีความม่นั คง
มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ท่ดี ี - รู้จักและใช้ความร้เู รอื่ งไผใ่ นชมุ ชนใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - การเลอื กใช้อุปกรณใ์ นการทำชิ้นงาน ใบงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและได้
ผลงานตามที่ต้องการ
สงั คม - ให้ความช่วยเหลือซ่ึงกนั และกัน และมีปฏสิ มั พนั ธท์ ด่ี ตี อ่ กัน มีการ
แลกเปลีย่ นเรยี นร้กู นั
วฒั นธรรม - เกดิ ความรกั และความภาคภูมใิ จในทอ้ งถ่ินตน
สงิ่ แวดลอ้ ม - ทำความสะอาดหอ้ งเรียนให้สะอาดเปน็ ระเบียบ ทุกคร้งั หลงั เลกิ เรียน
แผนการจดั การเรยี นรฐู้ าน
1. ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค่ ุณ
วชิ า พค31001 คณิตศาสตร์ สาระ ความรู้พื้นฐาน
พว32061 มหศั จรรย์ของสง่ิ มชี วี ติ สาระ ความรูพ้ ื้นฐาน
พว32017 ความหลากหลายของส่ิงมชี วี ิต สาระ ความรพู้ ้ืนฐาน
ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย เวลา 2 ครงั้
2. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐานท่ี 2.2 มีความร้คู วามเขา้ ใจและทักษะพนื้ ฐานเกีย่ วกบั คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
3. สาระสำคัญ/ความคดิ รวบยอด
การปลูกผักยกแคร่ เป็นวิธีการปลกู พืชทีแ่ ก้ไขปัญหาเร่ืองดิน เนื่องจาก พบว่าการปลกู พืชบนดินนัน้ ใน
ดินนั้น มีเชื้อโรค มีศัตรูของพืชมาก แต่การปลูกผักยกแคร่ สามารถบริหารจัดการเรื่องวัชพืชและศัตรูพืชได้ดี
ดงั นน้ั ผู้เรียนจำเปน็ ต้องมีความรู้ ความเขาใจเกีย่ วกับพืชผกั ทค่ี วรปลกู บนแคร่ การดูแลรกั ษาสมดลุ ของสง่ิ มีชวี ติ ที่
ควรมีบนแคร่ และในการทำแคร่สำหรับปลูกผัก จำเป็นต้องมีความรู้เรื่องรูปทรง การคำนวณขนาดขแงแคร่ท่ี
เหมาะสม โดนใช้ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาตรใ์ นงานอาชพี อยา่ งถูกตอ้ ง
4. สาระการเรยี นรู้
4.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
4.1.1 วิชา คณติ ศาสตร์
- จำนวนและการดำเนนิ การ
- การใชทกั ษะกระบวนการทางคณติ ศาสตรในงานอาชพี
4.1.3 วชิ า มหัศจรรยข์ องส่งิ มีชีวติ
- การสืบพนั ธุ์ การขยายพันธ์ุ และวัฏจกั รชีวิตของพชื ดอก
4.1.4 วิชา ความหลากหลายของสง่ิ มีชีวติ
5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น
5.1 สมรรถนะการคิด
5.2 สมรรถนะการจดั การตนเอง
5.3 สมรรถนะการสื่อสาร
6. คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
6.1 อยู่อย่างพอเพียง
7. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ครง้ั ที่ 1
กิจกรรมที่ 1 (ขั้นนำ 1 ชั่วโมง) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1.ครเู ปิด VDO เรื่อง มหัศจรรยข์ องส่ิงมีชวี ิตและความหลากหลายของสง่ิ มชี วี ิต ใหน้ กั ศกึ ษาทำความ
เข้าใจ และครูตง้ั ประเดน็ คำถาม
Q1 : ครูสอบถามผู้เรียน ให้ผเู้ รยี น ยกตัวอยา่ งสิ่งมชี วี ิตทีพ่ บในแปลงผักมอี ะไรบา้ ง และส่งผลตอ่
สิ่งแวดล้อมอย่างไร
2.ครูพดู คยุ แลกเปล่ยี นเรยี นรูก้ ับผู้เรียนถึงปญั หาของอาชีพเกษตรกรรมในชมุ ชน
Q2 : ครูสอบถามผู้เรียน รูจ้ ัก การปลูกผักยกแคร่ หรือไม่ อยา่ งไร
3.ครูอธิบายใหผ้ ู้เรียนเขา้ ใจถึง ความสำคัญ ของการทำ เกษตร แบบยกแคร่
4. ครนู ำคลปิ VDO การปลกู ผกั ยกแคร่ ชว่ ยแก้ปัญหาสภาพดนิ และสารเคมีตกค้างในดนิ ในการเพราะ
ปลกู ผัก ให้ผูเ้ รยี นดู โดยต้งั ประเด็นคำถาม
Q3 : ในการปลูกผักยกแคร่ชว่ ยแกป้ ัญหาสภาพดนิ และสารเคมตี กค้างในดินในการเพราะปลกู ผัก
อะไรบา้ ง
กจิ กรรมท่ี 2 (ข้ันสอน 4 ชั่วโมง) (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
5.ครใู ห้นักศกึ ษาทำใบงาน ฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแครค์ ุณ
(พว32061 มหศั จรรยข์ องสิ่งมชี วี ติ /พว32017 ความหลากหลายของสิ่งมชี ีวติ )
6.ครอู ธบิ ายให้ผู้เรยี นเข้าใจถงึ เร่ือง ขน้ั ตอนต่างๆของการปลูกผักยกแคร่
7. ครูใหแ้ ต่ละกล่มุ สรปุ ขนั้ ตอนวิธกี ารทำปลูกผักยกแคร่ เป็น Mind maping และนำเสนอหน้าช้นั เรยี น
8. ผู้เรยี นนำเสนอ Mind maping การทำปลกู ผกั ยกแคร่ หนา้ ชั้นเรยี น
กจิ กรรมที่ 3 (ขัน้ สรุป 1 ชัว่ โมง) (ครู:ความรู้ เหตผุ ล พอประมาณ ภูมคิ ุ้มกัน)
9. ครูตงั้ ประเด็นคำถามเพือ่ สรุปองค์ความรผู้ เู้ รยี น
Q3 : การทำแคร่สำหรับปลูกผกั มีวสั ดอุ ุปกรณอ์ ะไรบ้าง
10. ครูมอบหมายใหน้ กั ศึกษา จัดเตรยี มวัสดุอุปกรณ์ สำหรบั ทำ แคร่ปลกู ผกั และเตรียมกลา้ ผกั สำหรับ
การทำกิจกรรมในครัง้ ตอ่ ไป
ครงั้ ท่ี 2
กิจกรรมที่ 1 (ข้ันนำ 20 นาท)ี (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
1.รนู ำคลปิ VDO ข้นั ตอน การทำแคร่และการปลูกผักบนแคร่ รวมถึงวิธีการดูแลรกั ษาการปลกู ผักบนแคร่
Q1 : ในการปลูกผักยกแคร่ต้องใช้ทกั ษะอะไรบา้ ง
กจิ กรรมที่ 2 (ขั้นสอน 2 ช่วั โมง 20 นาท)ี (ครู:ความรู้ พอประมาณ)
3. ครูอธบิ ายให้ผูเ้ รียนเข้าใจถึงเร่ือง ขัน้ ตอนต่างๆของการเตรยี มการทำเกษตรยกแคร่
4. ครูให้ผู้เรยี นแตล่ ะคนปฏบิ ัตกิ ารทำผกั ยกแคร่ โดยมีขน้ั ตอนดงั นี้
4.1 1. การทำฐานแคร่ สูงจากระดบั พ้ืนดนิ ประมาณ 80-90 ซม. ขุดหลุมฐานแคร่ จำนวน 4 หลมุ ลึก
ประมาณ 20 ซม. โดยเว้นระยะหา่ งของหลุม กวา้ ง 1.2 เมตร ยาว 2.4 เมตร แล้วตัดท่อพีวีซสี ำหรบั ทำขาแคร่
ขนาด 2 นิ้ว ยาว 60 ซม. จำนวน 4 อนั นำทอ่ พีวี ทีต่ ัดตามขนาด ลงหลมุ (ส่วนทฝ่ี ่งั ลงดิน 20 ซม.) แล้วผสมปนู
เทคลบปดิ ปากหลุม ส่วนคานฐานตดั ท่อพีวีซี ขนาด 2 น้ิว ยาว 2.4 เมตร จำนวน 2 ทอ่ นและต่อด้วยข้อต่อ
4.2 ข้ันตอนการแประกอบแคร่ มดั แคร่ดว้ ยไมไ้ ผใ่ หต้ ิดกันจนเต็มแคร่ แลว้ นำไมฝ้ าเฌอร่ามาติดขอบข้าง
ทั้ง 4 ดา้ นของแคร่ แลว้ ปูพนื้ แคร่ดว้ ยแสลนให้เตม็
4.3 นำดนิ ทีผ่ สมแล้วดกั ใสแ่ คร่ใหเ้ ต็มกระบะแคร่ เกล่ยี ดนิ ให้เสมอกนั
4.4 การนำกลา้ ผกั หรือเมล็ดผักทตี่ ้องการลงปลกู ไดต้ ามต้องการ
5. ครนู ำคลปิ VDO เกยี่ วกบั ผู้ประสบการ์ความสำเรจ็ ในการทำเกษตรแบบยกแคร่ มาให้ผ้เู รียนดู
6. ครู อธบิ ายขอ้ ดีของการปลูกผกั ยกแคร่ ในการบรหิ ารจัดการศตั รพู ืช และวชั พืช ให้ผเู้ รียนและต้งั
ประเดน็ คำถาม
Q2 : นกั ศกึ ษาคิดว่าประโยชน์ของการปลกู ผัก ยกแคร่มีอะไรบา้ ง
Q3 : นักศกึ ษาคดิ ว่าการปลูกผกั ยกแครเ่ หมาะกบั บริบทของชมุ ชนแม่พรกิ หรอื ไม่อยา่ งไร
กจิ กรรมท่ี 3 (ขน้ั สรุป 20 นาท)ี (ครู:ความรู้ เหตผุ ล พอประมาณ ภมู คิ มุ้ กัน)
7. ครูและผู้เรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนความรู้ สรุปองค์ความรู้ จากการทำกิจกรรมการเรียนรู้ฐาน เกษตร
ยกแคร่ แบบแครค์ ณุ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการนำมาใช้ในการดำเนนิ ชวี ิตประจำวันลงในใบ
งานถอดบทเรยี น หลักคดิ และฝกึ ปฏบิ ัติ 2 เงอ่ื นไข 3 หลักการ 4 มติ ิ ทไี่ ด้รับ
Q3 : นักศึกษาคดิ วา่ สามารถนำความรู้ทีไ่ ด้รบั ไปใชใ้ นการดำเนินชีวิตอย่างไรบ้าง
8.ครูให้นกั ศึกษาทำใบงาน ฐานการเรยี นรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คณุ (วิชา พค 31001 คณิตศาสตร์)
8. ชนิ้ งาน/ภาระงาน
8.1 ใบงานหลกั คิด และฝึกปฏิบตั ิ 2 เงือ่ นไข 3 หลกั การ 4 มิติ
8.2 ชน้ิ งาน การทำปลูกผักยกแคร่
8.3 ใบงาน ฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คณุ (วชิ า พค 31001 คณิตศาสตร์)
8.4 ใบงาน ฐานการเรียนรู้ เกษตรยกแคร่ แบบแคร์คณุ (พว32061 มหศั จรรยข์ องส่ิงมีชีวิต /
พว32017 ความหลากหลายของส่ิงมชี ีวติ )
9. การวดั และประเมนิ ผล
9.1 ประเมนิ ใบงาน
9.2 ประเมนิ ชิน้ งาน
10. เวลาเรยี น/จำนวนชวั่ โมงเรยี น
10.1 จำนวนเรียน จำนวน 2 ครั้ง
11. สอ่ื /แหลง่ เรยี นรู้
11.1 หนงั สอื เรียน วชิ า คณิตศาสตร์ พค31001
11.2 หนงั สือเรียน วชิ า การใชไ้ ฟฟา้ ในชีวิตประจำวัน พว32023
11.3 มหัศจรรยข์ องสิ่งมชี วี ติ พว32061
11.3 ความหลากหลายของส่งิ มีชีวติ พว32017
11.3 VDO ข้นั ตอน การทำแคร่ และการปลกู ผักบนแคร่ รวมถงึ วธิ ีการดแู ลรักษาการปลูกผกั บนแคร่
11.4 VDO ผู้ประสบการ์ความสำเร็จในการทำเกษตรแบบยกแคร่
ชุดคำถามเพ่ือกระตุ้นคุณลักษณะอยู่อยา่ งพอเพียง
กจิ กรรม 1 (ขนั้ นำ 20 นาท)ี
Q1 : ครสู อบถามผ้เู รยี น ให้ผู้เรียน ยกตัวอยา่ งสง่ิ มชี วี ิตที่พบในแปลงผักมีอะไรบ้าง และสง่ ผลตอ่
สิ่งแวดล้อมอย่างไร
Q2 : ครูสอบถามผู้เรยี น ร้จู ัก การปลกู ผักยกแคร่ หรือไม่ อยา่ งไร
Q3 : ในการปลกู ผกั ยกแครช่ ่วยแก้ปัญหาสภาพดินและสารเคมีตกค้างในดินในการเพราะปลกู ผัก
อะไรบา้ ง
Q4 : ในการปลูกผกั ยกแคร่ตอ้ งใชท้ กั ษะอะไรบ้าง
กจิ กรรมที่ 2 (ขน้ั สอน 2 ชว่ั โมง 20 นาท)ี
Q5 : นักศกึ ษาคดิ วา่ ประโยชนข์ องการปลูกผกั ยกแคร่มอี ะไรบ้าง
Q6 : นกั ศึกษาคดิ วา่ การปลูกผกั ยกแครเ่ หมาะกบั บริบทของชมุ ชนแมพ่ ริกหรือไม่อย่างไร
กจิ กรรมท่ี 3 (ขน้ั สรปุ 20 นาท)ี
Q7 : การทำแครส่ ำหรับปลกู ผัก มีวสั ดอุ ุปกรณอ์ ะไรบา้ ง
Q8: นักศกึ ษาคิดว่าสามารถนำความรทู้ ไี่ ดร้ ับไปใช้ในการดำเนนิ ชีวิตอยา่ งไรบา้ ง
12. การนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในการจดั การเรยี นรู้
1. ผสู้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ี่ครจู ำเปน็ ตอ้ งมี - รูเ้ รอื่ งองค์ความรู้การปลูกผกั ยกแคร่
- ความรูเ้ รือ่ ง การป้องกนั และกำจัดศัตรพู ชื ในการปลูกผกั ยกแคร่
คณุ ธรรมของครู - ความเมตตาต่อศษิ ย์
- ความใฝเ่ รยี นรู้
ความพอประมาณ - เวลาทส่ี อนมคี วามเหมาะสมกบั เน้อื หาทใี่ ช้เรยี น
มเี หตผุ ล - เพอ่ื ให้ผู้เรยี นเกดิ กระบวนการเรียนรู้และทกั ษะการปฏบิ ตั ิการการปลูก
ผักยกแคร่
มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ที่ดี - เพือ่ ให้ผูเ้ รียนรจู้ กั และมีทักษะการคิดวเิ คราะห์
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - ออกแบบการจัดการเรียนรู้ที่เหมาะสม ทำใหก้ ารดำเนนิ การจัดกิจกรรม
การเรียนรู้เปน็ ไปตามเวลาทกี่ ำหนด
สงั คม - ได้ร่วมกนั วางแผนกจิ กรรมการเรยี นรูก้ ับครทู า่ นอน่ื และมกี าร
แลกเปลย่ี นเรียนรู้ซึ่งกนั และกัน
วฒั นธรรม - สรา้ งวัฒนธรรมองค์การให้เป็นองค์กรแหง่ การเรียนร้แู ละแลกเปลี่ยน
ขอ้ มูล
สง่ิ แวดลอ้ ม - การเก็บกวาดห้องเรยี นให้สะอาดเปน็ ระเบยี บ จัดอุปกรณก์ ารเรียนการ
สอนใหพ้ รอ้ มต่อการเรยี นรู้
2. ผลทเี่ กิดขน้ึ กบั ผเู้ รยี นสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรทู้ ่ีตอ้ งมกี อ่ นเรยี น - รู้เรอ่ื งการปลกู พืชผักในชมุ ชนแมพ่ รกิ
-สภาพดนิ ของชุมชน
คุณธรรม - ความรับผดิ ชอบ
- มีนำ้ ใจ
ความพอประมาณ - การใชว้ ัสดุ อปุ กรณ์ในการทำช้นิ งาน ใบงาน อย่างพอดีเหมาะสม
มเี หตผุ ล - เกิดกระบวนการเรียนรแู้ ละทักษะการปฏิบตั ิการปลูกผักยกแคร่
มภี มู ิคมุ้ กนั ในตวั ทด่ี ี - รจู้ กั และใชค้ วามรู้เร่ืองเกษตรอนิ ทรียใ์ นชุมชนใหเ้ กิดประโยชน์ได้
วตั ถ/ุ เศรษฐกจิ - การเลอื กใช้อปุ กรณ์ในการทำชนิ้ งาน ใบงานไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและได้
ผลงานตามที่ตอ้ งการ
สงั คม - ให้ความช่วยเหลือซง่ึ กนั และกนั และมปี ฏิสมั พนั ธ์ที่ดีตอ่ กนั มกี าร
แลกเปล่ยี นเรียนรู้กัน
วฒั นธรรม - เกดิ ความรกั และความภาคภูมใิ จในทอ้ งถนิ่ ตน
สงิ่ แวดลอ้ ม - ทำความสะอาดหอ้ งเรยี นให้สะอาดเปน็ ระเบยี บ ทกุ คร้ังหลงั เลิกเรยี น
(แผนบรู ณาการ)
แนวทางการนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจดั การเรยี นรู้
1. ผสู้ อนนำหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้
ความรูท้ ่ีครจู ำเปน็ ต้องมี
คุณธรรมของครู มีเหตุผล มีภมู ิคุ้มกันในตวั ท่ีดี
หลกั พอเพียง
ความพอประมาณ
ประเด็น
เวลา
เน้ือหา
2. ผลทเี่ กดิ ขน้ึ กบั ผเู้ รยี นสอดคลอ้ งกบั หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง จากการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
2.1 ผเู้ รยี นไดเ้ รยี นรหู้ ลกั คดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ิ 2 เงอื่ นไข 3 หลกั การ ดงั นี้
ความรู้ทผี่ ้เู รยี นได้เรยี นรู้
คุณธรรมของผู้เรยี น
ความพอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู ิคุม้ กันในตัวท่ีดี