The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิธีการสอนใหม่

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by apy.printing, 2021-08-07 05:08:19

วิธีการสอนใหม่

วิธีการสอนใหม่



คู่มือการสอนหลกั สูตรหนึ่ง

1. กราบพระรัตนตรัยแนะนาครูบาอาจารย์
2. แนะนาตวั คณาจารยแ์ ละผเู้ ขา้ ฝึก
3. กล่าวประวตั ิท่านวรินทร์โธและมูลนิธิจิตสู่จิต คุณูปการ 6 ประการ
4. การแผเ่ มตตาแบบจิตสู่จิต
5. รู้จกั “จิต” โดยการเช่ือมจิต เช่ือมฌาน(กาเทียน)

เทสเทียนเหลืองขาวผฝู้ ึกก่อนกา
อาจารยผ์ สู้ อนนาอธิษฐาน
กาเทียนป่ ูใหญ่ 3 และ 5 นาที
ผฝู้ ึกแบ่งปันประสบการณ์
อาจารยผ์ สู้ อนสรุป
6. กาเทียนป่ ูโต 3 และ 5 นาที
อาจารยผ์ สู้ อนนาอธิษฐาน
กาเทียนป่ ูโต 3 และ 5 นาที
ผฝู้ ึกแบ่งปันประสบการณ์
อาจารยผ์ สู้ อนสรุป
7. นอ้ มป่ ูโตจากอากาศ
อาจารยผ์ สู้ อนนาอธิษฐานก่อนนอ้ ม
หลงั นอ้ มอากาศผฝู้ ึกแชร์ประสบการณ์
อาจารยผ์ สู้ อนสรุป
8. ฝึกแผเ่ มตตาท่านงั่ ใชม้ ือ ท่ายนื ใชม้ ือ
สาธิตท่านงั่ นอ้ มแผแ่ บบโกย(ยงั ไม่กาหนดเป้าหมายวา่ แผใ่ หใ้ คร)
ใชท้ ่าทางการนอ้ ม-แผ่ แบบโกย และ ใชม้ ือระเบิดจิต(แฟลช)
ตรวจผฝู้ ึกวา่ นอ้ มเขา้ -แผอ่ อกหรือไม่
ฝึกนอ้ มแผไ่ ปยงั 3 เป้าหมาย เทวดา, สรรพสตั ว,์ เจา้ กรรมนายเวร
9. อานิสงส์การแผเ่ มตตา อาจารยผ์ สู้ อนสรุป
10. ถาม-ตอบปัญหา
11. เชิญนกั ศึกษาเขา้ หอ้ งไลน์หลกั แนะนาระเบียบกติกาในหอ้ งไลน์

รวมเวลาสอนทุกข้นั ตอนไม่เกนิ 3 ชั่วโมง



11 ข้นั ตอนการสอนหลกั สูตร 1

1.กราบพระรัตนตรัย แนะนาครูบาอาจารย์

นากราบพระรัตนตรัย
„ สมเดจ็ องคป์ ฐมบรมจกั รพรรดิ
„ พระศากยมุนีสมั มาสมั พุทธเจา้
„ หลวงป่ ูใหญ่เทพโลกอุดร
„ สมเดจ็ พฒุ าจารยโ์ ต พรหมรังสี
„ กราบท่านวรินทร์โธ อาจารยใ์ หญ่ผกู้ ่อต้งั มูลนิธิจิตสู่จิตฯ
„ อาจารยด์ าราธร หวั หนา้ งานพระสทั ธรรมบุณฑริกสูตร
„ อาจารยอ์ รงค์ หวั หนา้ งานวิชาการมูลนิธิฯ

และแนะนาภาพครูบาอาจารย์
(ภาพครูบาอาจารย์ อ.ถาวร ไดจ้ ดั ไวใ้ หแ้ ลว้ )

2. แนะนาตัว

หลกั การ : ใหน้ ึกอยใู่ นใจเสมอวา่ ผฝู้ ึกทุกท่าน เป็นผฝู้ ึก "รายใหม่" เขา้ ฟังคร้ังแรก และมาฝึกจิตสู่จิตกบั เราเป็นคร้ัง
แรกในชีวิตครับ!!
บทสนทนา
หลงั จากผฝู้ ึกแนะนาตวั เองแลว้
อ.ผสู้ อนทกั ทายกนั แลว้
สนทนาสร้างความสมั พนั ธถ์ ามไถ่รายบุคคล
ทราบขอ้ มูลฝึ กจิตน้ีจากไหน ?
เคยฝึกปฏิบตั ิทางจิตอะไรมาบา้ ง ?
คาดหวงั อะไร ?



3 ประวตั ทิ ่านวรินทร์โธและมูลนิธิจติ สู่จติ

เลา่ ประวตั ิท่านวรินทร์โธส้ันๆ ดงั น้ี

1) อดีตท่านเป็นายทหารเรือ หน่วยนาวิกโยธิน อดีตครูฝึกทหาร ผา่ นการรบมาจริงในสมยั น้นั
และเป็นผอู้ านวยการฝึกหน่วยลีคอน (RECON) เกษียณราชการมาเมื่อปี 2543

2) ท่านฝึ กจิตปฏิบตั ิธรรมมาต้งั แต่หนุ่มๆในหลากหลายวิธี หลายครูบาอาจารย์ ส่วนใหญ่ฝึ กกรรมฐาน
แบบ"สมาธิหลบั ตา" อาทิ สติปัฏฐาน 4 เดินจงกรม ยบุ หนอ พองหนอง มโนมยทิ ธิ มโนสมั ผสั รวม 40 ปี

3) เมื่อท่านวรินทร์โธเกษียณมาในปี 2543 ท่านต้งั คาถามวา่ ..ถา้ ตอ้ งการจะเขา้ ถึงมรรคผลนิพพาน-
ในเพศฆราวาสใหท้ นั ในชาติน้ีจะทาไดห้ รือไม่ ? ตามวธิ ีการต่างๆท่ีท่านฝึกฝนมา

ท่านวรินทร์โธไดค้ าตอบวา่ "ตายก่อนสาเร็จ" !!ท่านจึงต้งั ปณิธานคน้ หาวิธีการท่ี "สาเร็จก่อนตาย"
ใหพ้ บใหจ้ งได้ ถา้ ท่านคน้ พบและ "สาเร็จไดจ้ ริง" ท่านจะเผยแผไ่ ปทว่ั ประเทศไทย

4) ท่านวรินทร์โธ ใชเ้ วลาประมาณ 10 ปี เพอื่ คน้ ควา้ จนพบองคว์ ชิ าจิตสู่จิต-พระสทั ธรรมฯ
อนั เป็น "สายจิต" หรือ "มิติจิต" ไม่มีปริยตั ิมาก.. เนน้ การ "ฝึกจิต" (ท่านวรินทร์โธจะไม่ใชค้ าวา่ "ปฏิบตั ิธรรม" )
ฝึกแลว้ "สาเร็จท่ีจิต จบที่จิต" ซ่ึงท่านวรินทร์โธไดพ้ ิสูจน์ทดลองผลจนมนั่ ใจในองคว์ ิชาจึงก่อต้งั ชมรมจิตสู่จิต เพ่ือ
เผยแผอ่ งคว์ ิชาท่ีคน้ พบน้ีท้งั หมด ต้งั แต่ปี 2553 เป็นตน้ มา

ถึงปัจจุบนั น้ีรวมเวลาท่ีท่านวรินทร์โธเกษียณมาแลว้ ท่านคน้ ควา้ องคว์ ิชา 10 ปี เผยแผม่ าอีก 10 ปี ถึงวนั น้ี
เสน้ ทางธรรมของท่านวรินทร์โธ รวมไดก้ วา่ 60 ปี แลว้

5) เป้าหมายของงานเผยแผข่ องท่านวรินทร์โธ มีประการเดียว คือ เพ่ือนาชาวพุทธผมู้ ีวาสนา ไดฝ้ ึ กจิตกบั
มูลนิธิฯตามองค์วิชาที่ท่านคน้ พบตามแนวทางของพุทธศาสนาน้ี ให้เขา้ สู่มรรคผลนิพพานและถึงท่ีสุดแห่งจิต
(ระนาบ 10)ตามพทุ ธประสงคข์ องพระพุทธองคเ์ ม่ือ 2,500 ปี ที่ผา่ นมา ใหไ้ ดจ้ านวนมากที่สุด



คุณูปการ 6

6) องคว์ ชิ าสาคญั ที่ท่านวรินทร์โธคน้ พบที่ยงั ไม่มีการเผยแผท่ ่ีใดๆ มาก่อน โดยมอบหมายใหช้ มรมฯและ
มูลนิธิฯเผยแผ.่ .มาต้งั แต่ปี 2553 มีดงั น้ี คือ

6.1)องคว์ ิชาจิตสู่จิต : การเชื่อมจิตเพอื่ ใหไ้ ดส้ มาธิและฌานแบบลืมตาไดต้ ลอดเวลา อนั เป็นฌานเพอื่ การแผ่
เมตตาและนาพาสู่การหลุดพน้ ได้

6.2)การแผเ่ มตตาแบบจิตสู่จิต เป็นการแผเ่ มตตาดว้ ยกาลงั ฌานในจิตผฝู้ ึก อนั เป็นฌานระดบั สูง(อรูปฌาน)
ที่มีประสิทธิผลสูงสุดของพทุ ธศาสนา ดว้ ยวธิ ีการจิตสู่จิต (เช่ือมกบั จิตป่ ูโต) “ทาใหผ้ ฝู้ ึกแผเ่ มตตาไดพ้ น้ ชายคา
บา้ น” สามารถแผช่ ดใชเ้ จา้ กรรมนายเวรไดค้ รอบคลุมท้งั 31 ภพภูมิ

Note: ยงั เรียกวา่ "จิต"เฉยๆไม่มีคาวา่ "บารมี"จิต

6.3) การเลื่อนช้นั เรียน การตรวจวาระจิตนกั ศึกษาดว้ ยเจโตปริยญาณ อนั เป็นทิพจกั ขญุ านแขนงหน่ึง

6.4) การพฒั นาจิตออกแนวกวา้ ง (มหคั คตจิต...อรูปฌาน 4)
ท่ีสอนศิษยส์ ร้างจิตแนวกวา้ งจิตแผข่ ยายออกเตม็ จกั รวาลและสากลจกั รวาลทางพทุ ธศาสนา อนั มีคุณคา่ อยา่ งยงิ่
ถา้ ใครพฒั นาจิตสาเร็จ..เป็นอนั หวงั ไดว้ า่ จะจบกิจจิตทนั ชาติน้ีได้
ส่วนใหญ่ในประเทศไทยสอนแนวจิตรวมเป็ นจุด

6.5 ท่านวรินทร์โธ บญั ญตั ิวา่ จุดยนื ของสายธรรมจิตสู่จิต-พระสัทธรรมฯเป็น " สายจิต " ไม่เนน้ " ปริยตั ิ "
(มีบา้ ง)
ดว้ ยหลกั การ

"ฝึกท่ีจิต สาเร็จท่ีจิต จบที่จิต"

พน้ จากการพิจารณาธรรมดว้ ยความคิด(รู้จกั รู้จา)
มุ่งฝึกลงที่จิต พฒั นาจิตใหม้ ีคุณภาพและคุณสมบตั ิ"ถึง"ก่อน

อนั เป็นไปตามเกณฑข์ องพทุ ธศาสนา(ไดฌ้ าน) แลว้ "ธรรม"(ปัญญา) หรือ"วิชชา" หรือ"ญาณ"(รู้) ต่างๆจะบงั เกิด
ข้ึนมาตามวาระ

6.6 ท่านวรินทร์โธเป็นฆราวาสท่านแรก ที่ประกาศเผยแผพ่ ทุ ธมรรคตามพระสทั ธรรมปุณฑริกสูตร สายจิต
มาต้งั แต่ปลายปี 2559 และตลอดไป
เพ่ือนาจิตผมู้ ีบารมี (ผมู้ าฝึกจิต)ไปใหถ้ ึงที่สุดแห่งวถิ ีจิตตามพระสทั ธรรมฯ(เขา้ พทุ ธปัญญา)ใหม้ ากที่สุด

Note: ซ่ึงพระสูตรน้ีจะเผยแผแ่ บบไม่ใช่ท้งั เถรวาทและมหายาน ท้งั 2 นิกายเกิดภายหลงั พระพทุ ธเจา้ ปรินิพพาน
ท้งั หมด



สรุป ท้งั 6 คุณูปการที่ท่านวรินทร์โธคน้ พบและเผยแผ่ นาศิษยส์ ู่เป้าหมายตามพทุ ธประสงคท์ ี่พระพุทธองคท์ รง
ต้งั เป้าหมายใหช้ าวพทุ ธไปใหถ้ ึง..
คือเขา้ ถึง"ความหลุดพน้ "หรือ"นิพพาน"
และเขา้ ถึงพระนิพพานท่ีสมบูรณ์(ระนาบ 10)มีโอกาสสาเร็จไดท้ นั ก่อนตาย
ถา้ ผฝู้ ึกท่านใดในวนั น้ี ยงั ไมต่ ้งั เป้าหมายหลุดพน้ นิพพาน กจ็ ะไดร้ ับอานิสงส์ต่างๆทางโลกในทางบวกท้งั หมด

แนวทางการนาเสนอประวตั ทิ ่านวรินทร์โธและมูลนิธิฯ

1)ให้ อ.ผสู้ อน เล่าประวตั ิท่านวรินทร์โธ โดยคอนเซปทส์ รุปส้ันๆถึงคุณูปการ...การคน้ พบองคว์ ิชาฝึ กจิต
อนั ทรงคุณค่ามหาศาลและสร้างประโยชน์อยา่ งยงิ่ ต่อพทุ ธศาสนาเป็น"สาคญั "ครับ จนกระทงั่ ก่อต้งั เป็นชมรมฯและ
มูลนิธิจิตสู่จิต-พระสทั ธรรมฯในท่ีสุด..เพอ่ื เผยแผอ่ งคว์ ชิ าท่ีท่านวรินทร์โธคน้ พบไปทวั่ ไทยและทว่ั โลกครับ

2)ไม่แนะนา..จนลงลึกและมีการโยงไปถึงเร่ืองกาเทียนตรวจสอบพระเครื่องสมเด็จโต ว่าท่านมีบารมีจิต
สมเดจ็ โตในจิต (รายใหม่จะไม่ทราบวา่ บารมีจิตคืออะไร )และจนหลวงพอ่ วดั เขาไมแ้ ดงมาทกั ท่านนะครับ เพราะถา้
ลงลึกเกร็ดน้ีไป จะยาว แลว้ ดึงกลบั จะยาก ถา้ เล่าไป จะนาเขา้ สู่เรื่องบารมีจิตป่ ูโตไปทนั ที ทาใหห้ ลุดคอนเซปท์ ท่ี
เราจะตอ้ งนาเสนอเร่ืองแผ่เมตตา..เร่ืองจิต..เรื่องจิตสู่จิตก่อนเป็ นลาดับแรกไปครับ และผูฝ้ ึ กเป็ นรายใหม่จะ
ประติดประต่อเช่ือมโยงไม่ไดว้ า่ เมนหลกั ของการมาฝึกคร้ังน้ีคือองคว์ ิชาอะไร?

4 การแผ่เมตตาแบบจติ สู่จติ

เร่ิมดว้ ยถามไปลอยๆแบบอุตลุดไวๆโดยไม่ตอ้ งหวงั คาตอบ เพ่อื กระตุกใหเ้ ขาคิด และไดเ้ ห็นถึงสิ่งที่เขาจะ
ไดใ้ นการฝึกคร้ังน้ีจริงๆ ดงั น้ีครับ

4.1 ทุกท่านเป็นชาวพทุ ธเคยแผเ่ มตตารูปแบบต่างๆกนั มาแลว้ ใช่ไหม ?
4.2 คิดวา่ ที่เราแผเ่ มตตามา รัศมีจิตท่ีแผอ่ อกไป..พน้ ชายคาบา้ นเราหรือไม่?
4.3 คิดวา่ ที่เราแผเ่ มตตาไป จะถึงผรู้ ับท่ีเราต้งั ใจแผใ่ หไ้ หม?
4.4 คุณเคยแผใ่ หญ้ าติผวู้ ายชนมม์ า..คิดวา่ เขาไดร้ ับไหม?
4.5 คุณมีเจา้ กรรมนายเวรคนละก่ีดวงจิต?



4.6 คิดวา่ ที่คุณแผเ่ มตตามาจนถึงอายขุ นาดน้ี ที่แผเ่ มตตาไปใหเ้ จา้ กรรมนายเวรมาแลว้ กี่ปี คุณแผเ่ มตตาไป
ถึงเจา้ กรรมนายเวร..แผไ่ ดถ้ ึงเขาหมดไหม?

4.7 ที่คุณเคยแผเ่ มตตามา คุณคิดวา่ เจา้ กรรมนายเวรเขา"อโหสิกรรม"ใหค้ ุณบา้ งหรือยงั
4.8 คุณคิดวา่ เจา้ กรรมนายเวรของคุณลดนอ้ ยลงไปบา้ งไหม? หรือยงั อยเู่ ท่าเดิมหรือมีเพิ่มข้ึนมาอีก !!
4.9 หลงั จากแผเ่ มตตาตามวธิ ีการเดิมๆ ของคุณท่ีผา่ นมาชีวิตคุณเป็นอยา่ งไร? แยล่ ง เท่าเดิม หรือดีข้ึน ?
4.10 คุณเคยไดย้ นิ ไหม ว่าแผเ่ มตตาปรับภพภูมิได.้ .หรือแผเ่ มตตานาเขา้ สู่การหลุดพน้ หรือนิพพานใหก้ บั ผู้
แผไ่ ด้
4.11 สรุปวา่ …ท่ีถามมาท้งั หมด ท่านวรินทร์โธท่านพสิ ูจน์มาแลว้ วา่ วธิ ีการแผเ่ มตตาเดิมๆที่เราใชแ้ ผเ่ มตตา
กนั มา ในรูปแบบใด ๆ กต็ ามน้นั ไม่ผดิ !ใช่หมด ! แต่ประสิทธิผลจะต่า แผไ่ ปไม่ค่อยถึงผรู้ ับ ซ่ึงมีมหาศาล และเจา้
กรรมนายเวร กระจายอยทู่ ้งั 31 ภพภูมิ เขารับไดไ้ ม่ถึง 10% จึงอโหสิกรรมใหเ้ รานอ้ ย
เพราะส่วนใหญ่เราจะแผเ่ มตตากนั ดว้ ยความคิด ดว้ ยคาท่อง(ไม่ตอ้ งลงรายละเอียด)เป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมี
วิธีการแผเ่ มตตารูปแบบใด ท่ีแผด่ ว้ ยกาลงั ฌาน อนั พระพทุ ธองคท์ รงรับรองไวว้ า่ มีกาลงั สูงสุด ท่ีเรียกวา่ แผ"่ เมตตา
เจโตวมิ ุติ"(แผเ่ มตตาดว้ ยกาลงั ฌาน)
4.12 สรุปปิ ดว่า ต่อไปน้ีท่านจะฝึ กแผเ่ มตตาแบบจิตสู่จิต ตามวิธีที่ท่านวรินทร์โธคน้ พบ เป็นการแผเ่ มตตา
ท่ีง่ายมาก แผด่ ว้ ยกาลงั จิต กาลงั ฌาน
“รับประสิทธิผล ตามท่ีต้งั ถามมาทุกขอ้ 80-100%”
คุณสนใจไหม ตอ้ งการรับองคว์ ชิ าน้ีไปใชไ้ หม?

5 "รู้จกั จติ " โดยการเช่ือมจติ (กาเทียน) ป่ ูใหญ่

5.1 วิธีการแผเ่ มตตารูปแบบน้ีใชช้ ่ือวา่ การแผเ่ มตตาแบบ "จิตสู่จิต " ใช้ "จิต" ที่ฝึกฝนดีแลว้ จนไดฌ้ าน
ก่อน จึงจะแผอ่ อกไป ไม่ไดใ้ ชค้ วามคิดแผ่ หรือใชค้ าท่องแผอ่ อกไป เม่ือแผด่ ว้ ย"จิต "ทุกท่านจึงจาเป็นตอ้ งมารู้จกั
"จิต" กนั ก่อน เป็นพ้ืนฐาน

โดยให้ยิงคาถามอุตลุดไปเลยแบบช่วงแรก ซ่ึงเม่ือถามแลว้ เวน้ ช่วงให้เขาคิดตามนิดนึง ถามแลว้ เฉลย
ส้นั ๆไปทีละขอ้ ครับ

5.2 คุณมีจิตไหม? จิตอยตู่ รงไหน?ช้ีซิครับ คุณเชื่อไหม วา่ คุณมีจิต!!เราเอามือช้ีนา ที่หวั บา้ ง ท่ีหูบา้ ง...



5.3 คนไม่มีจิต มีไหม เขาจะอยทู่ ี่ไหน?(หอ้ งดบั จิตโรงพยาบาล)

5.4 จิตมีรูปร่างอยา่ งไร?ใครเคยเห็นจิตบา้ ง?(ไร้รูป นามธรรม เหมือนคล่ืนโทรศพั ทร์ อบตวั เห็นผกี ใ็ ช่..คือ
จิตหรือวญิ ญาณหลงั ความตาย)

5.5 หมาแมวมีจิตไหม?(สตั วเ์ ดรัจฉานท้งั โลกมีหมด)

5.6 คุณเคยเห็นจิตคุณเองไหม? (ไม่เคย เพราะมองไม่เห็น)

5.7 คุณเคยสมั ผสั จิตคุณเองไหม? เคยสมั ผสั จิตผอู้ ่ืนไหม?

5.8 คุณเคยทราบไหมวา่ พระพทุ ธเจา้ สอนเร่ืองจิตไวอ้ ยา่ งไร?
จิตเหมือนฟองน้า เหมือนอสั นีธาตุ(พลงั งาน)ซึมซบั ได้ ประสานได.้ .
จิตโคจร ไปสถิตยย์ งั กายสตั วโ์ ลกในภพภูมิต่างๆไม่มีที่สิ้นสุด...(ส้นั ๆ)

5.9 คนธรรมดามีจิตทุกคน แต่ยงั ไม่ไดฝ้ ึกจิตเรียกวา่ อะไร?(จิตปุถุชน..แปลวา่ ผหู้ นาไปดว้ ยกิเลส)

5.10 คนทาบุญมากๆจิตจะเป็นอยา่ งไร?(เบา..ตายไปสวรรค์ ..สัตวน์ รก..จิตจะหนกั จึงอยขู่ า้ งล่าง....คนกบั
แมวใครจิตหนกั กวา่ กนั !)

5.11 คนฝึ กจิตดีแลว้ ..จิตจะมีกาลงั เหมือนคนออกกาลงั กายเรียกวา่ อะไร!( "คนมีฌาน" ..มีฌานคือมีกาลงั )
ตอ้ งฝึกอยา่ งไร?( นง่ั สมาธิ )

5.12 มีฌานเพอ่ื ใหจ้ ิตมีกาลงั เอาไปใชใ้ นการแผเ่ มตตาโดยไม่ตอ้ งนง่ั สมาธิมีหรือไม่?
(มี..เมตตาแบบจิตสู่จิต)

สรุป 1

อ.ผูส้ อนสรุปว่า..จิตมีจริง จะพิสูจน์ต่อไปน้ีโดยการกาเทียนเหลืองบรรจุจิตป่ ูใหญ่ อาจยกตวั อย่างพระ
เครื่องสักองค์ 2 องค์ บอกวา่ มีจิตบรรจุอยแู่ บบท่ี อ.ฝ้ายเคยสอนใหช้ ม หรือยกตวั อยา่ งหรือถามวา่ พระหลวงพอ่ คูณ
โคราช มีจิตใครอยใู่ นองคพ์ ระ !!กไ็ ด(้ ยกตวั อยา่ งไดห้ ลายองคค์ รับ)

อธิบายว่า..ต่อไปน้ี จะใหก้ าเทียนเหลือง เทียนขาว เพื่อพิสูจน์ว่าจิตมีจริง สัมผสั ไดท้ างกาย..แบบรูปธรรม
แมจ้ ิตมองไม่เห็นก็ตาม..โดยใชก้ าร "เช่ือมจิต" (เหมือนน้ารวมกบั น้าตาลทรายจะเป็น "น้าเชื่อม" ในภาพที่ส่งใหด้ ู
ทางไลน)์ กบั จิตครูอาจารยช์ ้นั แนวหนา้ ของประเทศไทย 2 องคท์ ่ีไม่มีชีวิตแลว้ แต่จิตท่านยงั อยู่ คือ ป่ ูใหญ่ ในเทียน
เหลือง กบั ป่ ูโตในเทียนขาว



สรุป 2

ให้ อ.ผสู้ อนถามอุตลุดต่อไปเลยครับ #ยงั ไม่ใชค้ าวา่ "บารมีจิต" #ใชค้ าวา่ "จิต" คาเดียว

สรุป 3

อ.ผสู้ อนถามวา่ ..ผฝู้ ึกเคย"เชื่อมจิต"มาก่อนไหม ?
จะเชิญผฝู้ ึกทุกคนเช่ือมจิตของผฝู้ ึกเองกบั เทียนท่ีบรรจุจิต 2 แท่ง ท่ีครูบาอาจารยไ์ ดเ้ ชิญจิตมาบรรจุลงไวใ้ หใ้ นเทียน
แลว้ ..โดยผฝู้ ึกเป็นผถู้ ่ายรูปเทียน ส่งรูปภาพเทียน ไปท่ีชมรมฯ..และเทียนกอ็ ยทู่ ี่บา้ นผฝู้ ึกเอง!

#อ.ผสู้ อนใชค้ าวา่ "เช่ือมจิต" แทนคาวา่ “นอ้ ม”

สรุป 4

เร่ิมกระบวนการเชื่อมจิตผฝู้ ึกกบั จิตป่ ูใหญ่ โดยโชวภ์ าพป่ ูใหญ่ ...เล่าประวตั ิป่ ูใหญ่พอสงั เขป...แลว้ ...



ภาคปฏบิ ตั ิ

อาจารย์ผู้สอนนาอธิษฐานก่อนจะกาเทยี นเหลือง

ขา้ พเจา้ (ชื่อ/นามสกุล)ขออธิษฐานเช่ือมจิตเช่ือมฌานกบั หลวงป่ ูใหญ่เทพโลกอุดร ณ บดั น้ี

ใหว้ า่ ที่นกั ศึกษาลองสงั เกตอาการระหวา่ งกาเทียน
โดยยกตวั อย่างว่า มีอาการยิบ ๆ ซ่าน ใช่หรือไม่ หรือเหมือนเข็มแทง หรือเหมือนโดนไฟช็อตไหม ร้อน
ไหม เยน็ ไหม อุ่นไหม วูบวาบไหม เหมือนมีพลงั งานอะไรไหม กระทบกระแสอะไรไหม ตามตวั เป็ นยงั ไงหนัก
ไหม แน่นหนา้ อกไหม หวั ใจเตน้ แรงไหม

แลว้ ใหป้ ฏิบตั ิโดยการกาเทียนเหลืองป่ ูใหญ่ 2 ยก ยกแรก 3 นาที แลว้ กาเทียนเหลืองต่อในยกท่ี 2 ต่อเน่ือง
เลยอีก 5 นาที จึงตรวจจิตโดยผตู้ รวจ

„ อาจารยผ์ สู้ อนแนะนาตวั วทิ ยากรผตู้ รวจ วา่ ตรวจโดยองคว์ ิชาเจโตปริยญาณ
อธิบายวา่ การตรวจ..คือการรับรองวา่ ผฝู้ ึกเชื่อมจิตกบั ป่ ูใหญ่ไดส้ าเร็จ
„ กาเทียนเหลืองป่ ูใหญ่ 3 นาที
„ ผตู้ รวจคอยบอกวา่ “คุณ…เชื่อมจิต เช่ือมฌานไดส้ าเร็จแลว้ สาธุ”
„ อาจารยผ์ สู้ อนสมั ภาษณ์รายบุคคลต่อ

Note

„ ใชว้ า่ "เช่ือมจิต"เชื่อมฌาน"สาเร็จแลว้
ยงั ไม่ใชค้ าวา่ "นอ้ ม"เขา้ แลว้ ..เพราะยงั เป็นสเตป็ ใหร้ ู้จกั จิตโดยการสมั ผสั เท่าน้นั

„ อาจารยอ์ รงคะไดบ้ รรจุบารมีป่ ูใหญ่ในเทียนแบบพิเศษไปให้.. ไม่ตอ้ งนอ้ มเขา้ แค่สมั ผสั เทียนเหลือง กจ็ ะเชื่อม
จิต เช่ือมฌานไดแ้ ลว้ ท้งั น้ีเพือ่ ใหผ้ ฝู้ ึกทุกท่านสมั ผสั จิตได.้ ..ใหร้ ู้วา่ "จิตมีจริง"ก่อนเท่าน้นั

๑๐

สรุป 5

อาจารยผ์ สู้ อนสรุปวา่ "จิตคนอ่ืน" คือจิตป่ ูใหญ่มีจริง
จิตสตั วโ์ ลกภพภูมิต่างมีจริงแมม้ องดว้ ยตาไม่เห็น
จิตเหมือนคล่ืนโทรศพั ท์

ผฝู้ ึกสามารถเชื่อมจิตกบั ป่ ูใหญ่ไดส้ าเร็จ สังเกตจากอาการทางกายของผฝู้ ึกเองที่เล่ามา (ปัตจตั ตงั )และการ
ตรวจจิตของผตู้ รวจดว้ ยเจโตปริยญาณรับรองวา่ ผฝู้ ึกเชื่อมจิตไดจ้ ริง ๆ ผฝู้ ึกสมั ผสั จิตไดจ้ ริงๆ #อนุโมทนา#

สรุป 6

ใหย้ ้าครับที่ผฝู้ ึกเล่าวา่ มีอาการทางกายอาการต่างๆ น้นั เพราะจิตผฝู้ ึกไดเ้ ช่ือมกบั จิตผมู้ ีฌานสาเร็จแลว้ คือ
เชื่อมกบั จิตป่ ูใหญ่ ผฝู้ ึกจึงได้ "ฌาน" ไปดว้ ย เป็น "ฌานลืมตา"

แสดงวา่ "ฌาน" ถ่ายทอดสู่กนั ได้ ดว้ ย อนั เป็นนามธรรมกบั นามธรรม จึงเป็นวธิ ีลดั ที่ไม่มีใครทราบมาก่อน
ท่านผกู้ ารท่านเป็นผคู้ น้ พบวธิ ีการเชื่อมจิตใหไ้ ดฌ้ านน้ี สามารถเช่ือมฌานกนั ไดด้ ว้ ย โดยผฝู้ ึกไม่ตอ้ งไปนง่ั สมาธิ
ใหเ้ กิดฌานก่อน จะไดฌ้ านเลยทนั ที ไวมาก เร็วมาก เพียงกาเทียนเท่าน้นั สภาวะและอาการที่เกิดข้นึ ทางกาย ท่ีผฝู้ ึก
เล่าหลงั จากกาเทียน จึงเป็นสภาวะของฌานที่เกิดข้ึนปกติ เหมือนฌานแบบหลบั ตาทุกประการ

สรุป 7

อาจารยผ์ สู้ อนถามปิ ดทา้ ยวา่ คุณไดฌ้ านแบบลืมตาดว้ ยการกาเทียนป่ ใู หญ่น้ีดีไหม ? ไวไหม?
“วธิ ีน้ีเรียกวา่ จิตสู่จิต” และการกาเทียนเป็นการเช่ือมจิตวธิ ีที่ 1)

7.1 จิตที่ฝึกดีแลว้ ไดฌ้ านแลว้ จะเรียกวา่ จิตมี "บารมี" ป่ ูใหญ่ท่านมีฌาน 4 เตม็ กาลงั สูงมาก ท่านจึงมี"
บารมีจิต"ที่คนปกติจะไม่มีบารมี เพราะไม่ไดฝ้ ึกจิตใหเ้ กิดฌาน และวนั น้ีผฝู้ ึกเป็นคนไม่ปกติแลว้ เพราะเป็นผมู้ ี
ฌานป่ ูใหญ่ ผฝู้ ึกไดฌ้ านแลว้ ผฝู้ ึกจึงจึงเป็นผมู้ ี "บารมี" ...สาธุ สาธุ กบั ผฝู้ ึกครับ/คะ่

7.2 อาจารยผ์ สู้ อน ถาม จิตสู่จิตทาใหค้ ุณเป็นคน "มีบารมี" ใช่ไหม ? (ใช่) ง่ายไหม? (ง่าย) เชิญกราบ
ท่านวรินทร์โธ

7.3 อาจารยผ์ สู้ อน ถามต่อไป เราเป็นผมู้ ีฌานแลว้ จะเอาฌานป่ ูใหญ่ไปใชใ้ นการแผเ่ มตตาไดห้ รือไม่?
(ไม่ได้ เพราะเป็นฤทธ์ิ ร้อน จิตองคไ์ หนๆกไ็ ม่ได้ ท่านวรินทร์โธคดั สรรไวใ้ หแ้ ลว้ ...จิตเมตตาตอ้ งเยน็
เท่าน้นั ..ฉะน้นั ใหเ้ กบ็ เทียนป่ ูใหญ่เอาไวเ้ ป็นวตั ถุมงคล เกบ็ ไวใ้ นท่ีเหมาะสม

๑๑

6 กาเทยี นขาวป่ ูโต

อธิษฐานจิต
ขา้ พเจา้ (ช่ือ/นามสกลุ )ขออธิษฐานเช่ือมจิตเช่ือมฌานกบั สมเดจ็ พระพฒุ าจารย์ (โต พรหมรังสี) ณ บดั น้ี
อาจารยผ์ สู้ อน ใหผ้ ฝู้ ึกกาเทียนขาวป่ ูโตเป็นยก ยกละ 3 และ 5 นาที ตามข้นั ตอนเหมือนกบั ข้นั ตอนการ

กาเทียนป่ ูใหญ่
ใหอ้ าจารยผ์ สู้ อนสรุปวา่
ต่อไปน้ีเราจะเช่ือมจิตเรากบั “บารมีจิตป่ ูโต” อยา่ งเดียว (ใชค้ าวา่ บารมีจิตไดแ้ ลว้ ) นาเอาฌานบารมีป่ ูโตซ่ึง

เยน็ ไปใชใ้ นการแผเ่ มตตาเทา่ น้นั ถา้ จะรอกาเทียนก่อนแลว้ แผจ่ ะชา้ ไป ไม่ทนั การ
เราจะฝึกเชิญ หรือนอ้ ม หรือเชื่อมจิต เชื่อมฌานกบั บารมีจิตป่ ูโตในวธิ ีท่ี 2 เรียกวา่ การเช่ือมจิต หรือ

"นอ้ มจากอากาศ" จะทาใหเ้ ราแผเ่ มตตาดว้ ยฌานป่ ูโต ไดอ้ ยา่ งรวดเร็วทนั ที ไดต้ ลอดเวลา

7 น้อมบารมจี ติ ป่ ูโตจากอากาศ

อธิษฐานจิต
ขา้ พเจา้ ...ชื่อ นามสกลุ ...ขอนอ้ มเชิญ บารมีจิตป่ ูโตท่ีอยใู่ นอากาศรายรอบ ทิศทาง เขา้ สู่จิตของขา้ พเจา้ ณ

บดั น้ี
„ ท่านง่ั ต้งั มือ นอ้ มป่ ูโต 3 นาที
„ ผฝู้ ึกทุกท่านแชร์ประสบการณ์หลงั การนอ้ มอากาศ

๑๒

8 ฝึ กแผ่เมตตาแบบท่าน่ังใช้มือ กบั ท่ายืนใช้มือ

สาธิตการแผเ่ มตตาโดยใชท้ ่าท่าง โดยให้ อาจารยผ์ สู้ อนหรืออาจารยผ์ ชู้ ่วยสาธิต ใหผ้ ฝู้ ึกทาตาม
ฝึ กท่าทางการน้อม-แผ่แบบโกย และการแฟลช (ระเบดิ จติ ) ยงั ไม่กาหนดเป้าหมายวา่ แผใ่ หใ้ คร

ท่าน่ัง

„ นอ้ มโกย 3-5 คร้ัง...หยดุ ก๊ึกกก...เกร็ง (กล้นั หายใจ 1 วิ) ... flash ระเบิดกอ้ นบารมีออกไปจนสุด (หมดยบิ ยบั ๆ
ปลายนิ้วมือ (เท่ากบั 1 รอบ)

„ ตรวจ...
นอ้ มเขา้ ได.้ ..
แผอ่ อกได.้ ..
ท้งั ท่านงั่ และท่ายนื

ท่ายืน (ทาเหมือนท่านั่ง)

น้อมแผ่ ไปยงั 3 เป้าหมาย
- เทวดาฯ
- สัพเพสัตตา สรรพสตั วท์ ้งั หลายท้งั ปวง
- เจา้ กรรมนายเวรท้งั หลายฯ

ตรวจนอ้ มแผไ่ ปยงั เป้าหมาย ไดห้ รือไม่ (ใหก้ าลงั ใจ)

อาจบอกดว้ ย...ถา้ ท่านใด แผอ่ อกหมดแลว้ ...ชว่ั เส้ียว วินาที มีสญั ญาญวปู้ ...กลบั มา...

มนั่ ใจไดว้ า่ ปลายทางรับไดแ้ ละเคา้ โมทนาสาธุกลบั มาแลว้

นาผฝู้ ึ ก"นอ้ มอากาศ" โดยนาอธิษฐาน" ก่อนนอ้ ม และกาหนดเวลานอ้ มเป็นยกๆ และตรวจสอบการนอ้ ม
อากาศโดยผตู้ รวจเหมือนกบั การกาเทียนขาวป่ ูโตในสเตป็ ท่ีผา่ นมา

และอธิบายเพ่ิมเติมว่าเราจะไม่ทิ้งการกาเทียนขาวป่ ูโต เม่ือมีเวลาค่อยไปกาเทียนขาว การกาเทียนเหมือน
เราไดช้ าร์ตแบตเตอร่ีใหเ้ ตม็ อยตู่ ลอดเวลา (บารมีจิตป่ ูโตจะขงั หรือเมมโมร่ีไวใ้ นจิตเราไดด้ ว้ ย อนั เป็นอีกหน่ึงองค์
ความรู้ที่ท่านวรินทร์โธคน้ พบ)

๑๓

สรุปภาพรวมใหญ่

หลงั จากสอบถามอาการท่ีเกิดจากการกาเทียนขาวป่ ูโตเป็ นรายบุคคลแลว้ และตรวจการนอ้ มเขา้ เรียบร้อย
แลว้ และฝึกนอ้ มอากาศ ตรวจการนอ้ มอากาศไดท้ ุกคนเรียบร้อยแลว้

สรุปใหญ่ 1 อาจารยผ์ สู้ อนสรุปว่า เทียนอยทู่ ่ีบา้ นผฝู้ ึ ก 2 แท่งน้นั ผฝู้ ึ กเป็นผหู้ นั่ เทียนเอง ..แลว้ จิตป่ ูใหญ่
อายุ 2,500 ปี จิตป่ ูโตอายเุ กือบ 200 ปี ไปบรรจุที่บา้ นผฝู้ ึกไดอั ยา่ งไร ? สงสยั ไหม? ใหค้ ิดกนั แลว้ จึงสรุปวา่ น่ีคือองค์
วิชา"จิตสู่จิต"ว่าจิตฝึ กฝนดีแลว้ ดว้ ยวิธีการน้ี สามารถคอนโทรลจิตได้ ส่ง นอ้ ม เชิญ เช่ือมไดห้ มด..สามารถนาเอา
พลงั งานจิตฝ่ ายบวกไปลงหรือบรรจุในวตั ถุไดเ้ หมือนอย่างลงบารมีพระเคร่ือง ขณะเดียวกนั พวกสมาธิสายดาก็
สามารถเอาพลงั งานฝ่ ายลบไปใส่ในจิตใครๆไดไ้ หม?(ได)้

แต่ถา้ ในจิตเรามีจิตฝ่ ายบวกบรรจุอยเู่ ยอะๆอาทิมีบารมีจิตป่ ูโตสะสมอยเู่ ยอะๆ..พลงั งานฝ่ ายลบจะมาบรรจุ
ในจิตเราไดห้ รือไม่? (ตอบไม่ได)้

สรุปใหญ่ 2 อาจารยผ์ สู้ อนโชวภ์ าพออร่าประกอบส้ันๆวา่ บารมีจิตในภาพมีสีอะไร? อยา่ งไร? ..สรุปว่าที่จิต
ป่ ูโตมีพลงั งานแผอ่ อกตลอดเวลา ถา้ บารมีจิตป่ ูโตอยใู่ นจิตผฝู้ ึ กมากๆจะเกิดอะไรข้ึน?(เมตตาในจิตผฝู้ ึกจะสูง จะไม่
คอ่ ยโกรธ)และถา้ เอากระแสจิตเมตตาป่ ูโต แผส่ ่งไปชดใชเ้ จา้ กรรมนายเวรล่ะ จะเกิดอะไรข้ึน(จะไดร้ ับอโหสิกรรม)

สรุปใหญ่ 3 อาจารยผ์ สู้ อน สรุปว่าผฝู้ ึ กรู้จกั ว่าจิตมีจริงแลว้ จิตผอู้ ่ืนมีจริงแลว้ เป็ นจิตครูบาอาจารยเ์ หนือ
มนุษย์ 2 ดวงจิต(องค)์ แลว้ เรียบร้อย และเป็นจิตท่ีมีฌาน เราสามารถสร้างฌานใหเ้ กิดในตนไดง้ ่ายๆโดยการเชื่อมจิต
นอ้ ม หรือเชิญเขา้ สู่จิตตนโดยการกาเทียนไดแ้ ละยงั ทราบว่าจิตป่ ูโต สามารถเชื่อม เชิญ หรือนอ้ มอากาศ มาใชเ้ พื่อ
การแผเ่ มตตาได้ จะเรียกวา่ การแผเ่ มตตาแบบจิตสู่จิต(ดว้ ยกาลงั ฌาน)

๑๔

9 อาจารย์ผู้สอนสรุป

แผ่เมตตาให้
„ เทวดารักษาดวงจิต 5 นาที
„ สรรพสตั วท์ ้งั หลายท้งั ปวง 10 นาที
„ เจา้ กรรมนายเวร 45 นาที
„ อานิสงส์การแผเ่ มตตา :

การแผ่เมตตาดว้ ยกาลงั สมาธิที่เรียกว่า “เมตตาเจโตวิมุติ” มีอานิสงส์สุดประมาณ (อปั มานาเจโตวิมุติ)
อานิสงส์ที่สาคญั คือ “ทาใหบ้ รรลุอรหตั ผลหรืออยา่ งนอ้ ยยอ่ มไปสู่สวรรค์

(พระไตรปิ ฎกเล่มที่ 24 องั คุตรนิกายเอกาทสนิบาต เรื่อง “อานิสงส์ของเมตตาเจโตวิมุตติ” การแผเ่ มตตา
ดว้ ยฌาน 11 ประการ)

Note : ถา้ ไม่มีเวลา ก็สรุปคร่าวๆ โดยไม่ตอ้ งใหผ้ ฝู้ ึ กจด แต่ให้เขา้ ห้องไลน์หลกั สูตร 1 ผฝู้ ึ กจะไดส้ เตป็
ท้งั หมด (เป็นอุบายไฟลทบ์ งั คบั ใหผ้ ฝู้ ึกตอ้ งเขา้ หอ้ ง 1 ครับ)

10 ถามตอบ

ให้ผู้ฝึ กถาม และ อาจารย์ผู้สอนตอบ และให้ผู้ฝึ กแสดงทศั นะการฝึ กในวนั นี้ ได้อะไร? จะไปต่อไหม?
„ ถาม-ตอบ ตามเวลาจะอานวย
„ ชื่นชมตามสภาวการณ์

11 แนะนาการเข้าห้องไลน์หลกั สูตร 1

กติกาหอ้ งไลนห์ ลกั สูตร 1
การสมคั รเขา้ เรียนหลกั สูตร 2

๑๕

ทัศนะเพม่ิ เติม

ท่ีเสนอไดอะลอ็ คคาพดู มาท้งั หมดในช่วงอินโทร..ถา้ ใครนึกออก ...ท้งั หมดคือที่ผมพูดอินโทรช่วงแรกของ
หลกั สูตร 1 ทุกแมทในภาคสนาม เรียงลาดบั อยา่ งน้ีจริงๆครับ

ไม่ไดใ้ ห้ อ.ผสู้ อน ตอ้ งถอดแบบออกมาเป๊ ะๆตามน้ี แต่ให้อยใู่ นแนวทางน้ี เรียงลาดบั ตามน้ี ในสไตลข์ อง
ทุกท่านเองนะครับ เพ่ือ"รายใหม่"จะเขา้ ใจว่าเขามาฝึ กอะไร ไดอ้ ะไร ของจริงไหม ถูกจริตกบั เขาไหม คุม้ ค่ากบั
การสละเวลาหรือไม่ จะไปต่อดีหรือไม่ ! เป็นส่ิงที่เขาแสวงหามาใช่หรือไม่ ! เขาไดส้ มปรารถนาตามที่เขาคิดและ
ตดั สินในการมาทดลองฝึกแลว้ หรือไม่

เราจึงจาเป็ นตอ้ งสร้าง "อภินิหารเลก็ ๆ" หรือสร้างความอศั จรรยจ์ ากองคว์ ิชา ให้เขาประจกั ษจ์ ิตเองครับ
แลว้ "ศรัทธา" เขาจะเกิด เมื่อศรัทธาเกิด เช่ือไดเ้ ลยครับ วา่ เขามีสิทธ์ิไปต่อคอ่ นขา้ งสูง

ฝากสุดทา้ ยนิดครับ ตอนให้ผฝู้ ึ กเล่าอาการหลงั จากกาเทียนป่ ูใหญ่ ป่ ูโต อ.ผสู้ อนควร"นาร่อง"เปิ ดอาการ
ใหเ้ ขานิดนึงวา่ มีอาการยบิ ๆ ซ่าน ใช่หรือไม่ !หรือเหมือนเขม็ แทง หรือเหมือนโดนไฟช็อตไหม ? ร้อนไหม !เยน็
ไหม! อุ่นไหม ?วบู วาบไหม ! เหมือนมีพลงั งานอะไรไหม? กระทบกระแสอะไรไหม?ตามตวั เป็นยงั ไง? หนกั ไหม ?
แน่นหนา้ อกไหม ?หวั ใจเตน้ แรงไหม!!

เพราะผฝู้ ึ กบางท่านเล่าไม่ถูก พอเราไกดอ์ าการไปเขาจึงจะร้องอ๋อ ! แลว้ จะเปิ ดปากพดู ออกมาได้ ถา้ เราไม่
ไกด์ เขากลวั วา่ จะบอกเราผดิ ครับ 555 เพราะส่วนใหญ่จะบอกว่า ว่างๆ เฉยๆ เบาๆ น่ิงๆ(นนั่ เพราะเขากลวั บอกเรา
ผิดครับ)เพราะที่เขาบอกคือบรรทดั ฐานของสมาธิแบบหลบั ตานน่ั เอง ดว้ ยเขาคิดว่าไดส้ มาธิหรือฌานจะตอ้ งเป็ น
แบบน้นั ครับ

คอ่ ยๆอ่านทาความเขา้ ใจไปนะครับ เขียนมายาวหน่อย..และฝากชอ้ ตโนต้ ทุกสเตป็ ไว้ จะไม่พลาดสเตป็ ครับ
ซ่ึงดีเทลหรือรายละเอียดในแนวทางน้ีในทุกสเตป็ จะมาเองครับ เม่ือ อ.ผสู้ อนทุกท่านออกรอบบ่อย ๆ สอนหลายๆ
คร้ังเขา้ จะเก่งไปเองครับ..

และขา้ งตน้ ท้งั หมด คือแนวทางสอนหลกั สูตร 1 ตามแนวทางพระสทั ธรรมฯครับ..กราบสาธุๆครับ

ฝาก อ.ผสู้ อนทุกท่านอีกนิดครับ

ช่วงอธิษฐานตอนก่อนกาเทียนป่ ูโต ป่ ูใหญ่ ที่อธิษฐาน "ขอเชื่อมจิต..เชื่อมฌาน"

เพ่อื ใหผ้ ฝู้ ึ กเขา้ ใจไปเลยว่า ไดเ้ ชื่อมฌานไปดว้ ยแลว้ เวลา อ.ผสู้ อนอธิบายขยายความในภายหลงั ในช่วงถดั ไป ผฝู้ ึก
จะเขา้ ใจไดง้ ่ายข้ึนครับ วา่ การเชื่อมจิตแบบจิตสู่จิตเป็น"All in one"อยา่ งน้ีนี่เองครับ..ขอบคุณ อ.ผสู้ อนทุกท่านครับ

๑๖

@Taweep Muangsuk เมื่อคืนไดด้ ู อ.ทวีปสอนพกั นึง ช่วงถามวา่ "สงสัยไหม" วา่ จิตป่ ูใหญ่ ป่ ูโต ไปอยใู่ นเทียนที่
บา้ นคุณ ท่ีคุณหน่ั เทียนเองไดอ้ ยา่ งไร?

เป็นไปตามคาดครับ ผฝู้ ึกทุกคนพยกั หนา้ บอกสงสยั กนั หมดทุกคนเลย

อ.ทวีปตอบไดด้ ีครับ..วา่ จิตสู่จิต บรรจุจิตได้ ส่งจิตได้ คอนโทรลจิตได้

ฝากเพิ่มดีเทลคาตอบอีดนิดครับ..ว่าส่งไปลงท่ีบา้ นคุณได้ โดยไม่เกี่ยงระยะทาง จะใกลไ้ กลแค่ไหน ส่งจิตไปลงได้
หมด ผฝู้ ึกจะอยทู่ ี่อเมริกากส็ ่งจิตจากกรุงเทพฯไปลงเทียนไดค้ รับ

และอาจพดู เสริมถึงอายจุ ิตป่ ูใหญ่ อายุ 2,000 กว่าปี จิตป่ ูโตเกือบ 200 ปี วิธีการจิตสู่จิตก็อญั เชิญจิตท้งั 2 องคม์ าลง
ไดค้ รับ

๑๗

สังเกตการสอน 1

ขอนาเสนอทศั นะครับ

ได้ชมการฝึ กออนไลน์ของผูส้ อนทุกท่านมาเกือบครบทุกท่านแล้ว ส่วนใหญ่เราคร่ าหวอดและมี
ประสบการณ์เคยเขา้ ร่วมการฝึ กหลกั สูตร 1 ของมูลนิธิกนั มาคนละหลายๆปี จึงสามารถถ่ายทอดออนไลน์กนั ไดด้ ี
ทุกท่านครับ..เพยี งเพิ่งเร่ิมกนั คนละคร้ัง 2 คร้ังเท่าน้นั หากออกรอบหลายๆรอบจะชานาญข้ึนครับ

ในฐานะเคยมีประสบการณ์งานถ่ายทอดน้ีมานาน อยากวเิ คราะห์มุมมองน้ีใหท้ ุกท่านไปปรับใชก้ นั ครับ

คือผูฝ้ ึ กออนไลน์ สมคั รใจมาจากทุกช่องทางที่มูลนิธิประชาสัมพนั ธ์ออกไป ลว้ นเป็ นผูส้ นใจจริงๆและ
ส่วนใหญ่จะมีประสบการณ์ผา่ นการปฏิบตั ิธรรมมาแลว้ มากบา้ งนอ้ ยบา้ งเกือบทุกท่าน

เราจะปิ ดการขาย(ขอยืมภาษาการตลาดมาใชค้ รับ)ดว้ ยหมดั เด็ดหมดั น็อคใดดี !!จนสามารถเปิ ดใจให้เขา
เหล่าน้นั เดินทางไปต่อกบั ชมรมฯเราครับ

ตอ้ งสร้าง"ศรัทธา"ใหเ้ กิดภายใน 1 ชวั่ โมงแรกใหไ้ ดค้ รับ คือตาตอบครับ !!!

สมยั ฝึกท่ีหลกั สูตร 1 ของชมรมฯในภาคสนามกนั ก่อนสมยั พระสทั ธรรมฯ(หลายท่านทนั กนั อย)ู่ เรามีหมดั
เดด็ ตรงกาเทียน และสัมภาษณ์ทุกคนหลงั จากกาเทียนป่ ูใหญ่ป่ ูโตที่ทุกคนเกิดอาการทางกายสารพดั รูปแบบ คนท่ีมี
อาการทางกาย จะอเมซิ่ง "ศรัทธา"จะมาทนั ทีครับ จะเปิ ดใจไดท้ นั ที แมท้ ่านที่ไม่มีอาการ ไดฟ้ ังคนท่ีมีอาการเล่า ก็
เกิดศรัทธาตาม ใจเปิ ดตาม สมยั น้นั เราใหก้ าเทียนแบบโอเพน่ ดิบๆไม่มีลา้ งนิวรณ์ใดๆใหผ้ ฝู้ ึกก่อนเลย

ท่านผกู้ ารบอกว่าเราตอ้ งมีความอศั จรรยข์ องเจโตเป็ นตวั "เปิ ดใจ" เพื่อเรียกแขก เพราะพ้ืนฐานชาวพุทธ
เกือบทุกคน"อยาก"พบกบั ความอศั จรรยจ์ ิตดว้ ยตวั เองครับ

วนั น้ีเราเขา้ มาโหมดพระสัทธรรมฯ พ้ืนฐานแรกมีกาเทียนปกติ เพื่อให้รู้จกั จิตผอู้ ่ืนมีจริง ท่ีจิตน้นั บรรจุอยู่
ในเทียนเหลืองขาว

แต่เราฝึ กออนไลน์ โดยไม่มีการส่งเทียนจากส่วนกลางไปให้ผใู้ ดเลย แต่ให้เจา้ ตวั ผฝู้ ึ กหาเทียนในบา้ นหั่น
ส่งภาพมาลงบารมีจิตทางไลน์

ไฮไลท์อยู่ตรงนีค้ รับ

เม่ือคืนคุณฝ้ายสอนรายใหม่หลกั สูตร 1 กลุ่มใหญ่ 10 กว่าท่าน และคุณฝ้ายใชไ้ ฮไลทต์ รงน้ีไดช้ ดั เจน เพื่อ
เปิ ดใจสร้างความอเมซ่ิงให้เขาศรัทธาต่ององคว์ ิชาจิตสู่จิตไดอ้ ยา่ งน่าช่ืนชม โดยคุณฝ้ายสรุปหลงั จากการกาเทียน
เหลืองเทียนขาวเสร็จแลว้ ผฝู้ ึกเล่าอาการต่างๆเสร็จแลว้ ..ดว้ ยการต้งั คาถามวา่ ..

๑๘

เทียนท่านหั่นเอง อยู่กบั บา้ นท่าน บารมีจิตป่ ูใหญ่ป่ ูโตท่ีท่านสัมผสั เองจนเกิดอาการต่างๆ ท่ีเล่ากนั มาทุก
รูปแบบมาไดอ้ ยา่ งไร

ประเดน็ สาคญั คือเราตอ้ งยงิ คาถาม ถามเขาครับ ใหเ้ ขาไดค้ ิดวา่ "แลว้ บารมีจิตมาไดอ้ ยา่ งไร"
แลว้ เราจึงสรุปให้ชดั ว่า องคว์ ิชาจิตสู่จิต ส่งบารมีจิตไปลงเทียนท่ีบา้ นท่านได้ แมอ้ ยตู่ ่างประเทศไหนก็ส่ง
จิตไปลงได้
ฉะน้นั การแผเ่ มตตา ในลาดบั ต่อไปคือการส่งจิตไปใหเ้ จา้ กรรมนายเวรหรืออ่ืนๆตามสเตป็ ชมรมฯยอ่ มส่ง
ถึงผรู้ ับแน่นอน
ฝากอาจารยผ์ ูส้ อนทุกท่านครับ ..ช่วยต้ังคาถาม!!ให้ผูฝ้ ึ กคิดตามในช่วงไฮไลท์น้ีด้วยนะครับ จะเป็ น
หมดั น็อค หรือการปิ ดการขายท่ีชดั เจนในการสอนออนไลน์ครับ ขอบคุณครับ
ผฝู้ ึกจะศรัทธากบั องคว์ ชิ าแน่นอน ถา้ เราชดั เจนในข้นั ตอนน้ีครับ

สังเกตการสอน 2

ขอฝากอาจารยผ์ สู้ อนทุกท่าน
ยา้ ในช่วงท้าย วา่ การแผโ่ ดยใชท้ ่าทาง จะใหน้ กั ศึกษาฝึกแผโ่ ดยใชท้ ่าทางเพียงแค่ 1 เดือนเท่าน้นั ครับ พอ

นกั ศึกษาเขา้ หลกั สูตร 2 ในเดือนถดั ไป ในหลกั สูตร 2 จะสอนการแผ่โดยไม่ใชท้ ่า ให้แผไ่ ร้ท่าออกไดอ้ ย่างมี
ประสิทธิภาพต่อไปครับ

เหตุผลที่ใชท้ ่าท่าง(มือผายนาร่องท้งั นงั่ และยืน)เพื่อขยายฐานจิตใน 30 วนั แรกให้เกิดวสีจิตให้ไดก้ ่อน
เพราะพ้ืนฐานของนกั ศึกษาทุกคน ส่วนใหญ่จะฝึ กสมาธิแบบจิตเป็ นจุดมาเกือบท้งั น้นั จึงจาเป็นตอ้ งขยายฐานจาก
จิตเป็ นจุด ให้พน้ ความคบั แคบค่อยๆขยายกวา้ งออกไปทีละน้อยก่อนครับ เพราะโหมดแผเ่ มตตาเป็ นโหมดจิตแผ่
กวา้ ง ใชจ้ ิตนาร่องแผโ่ ดยใชจ้ ินตนาการก่อนจะไม่สมั ฤทธิผล

ถา้ หากนกั ศึกษาอยากจะขอแผแ่ บบไร้ท่า
ในทศั นะผมยงั ไม่ควรสอนครับ ใหม้ ารับการถ่ายทอดตามระบบในหลกั สูตร 2 ครับ เพราะจิตนกั ศึกษาพน้ ความคบั
แคบแลว้ พร้อมจะขยายออกได้ โดนการฝึกใชจ้ ินตภาพแลว้ ครับ

๑๙

สังเกตการสอน 3

ไดฟ้ ังพีว่ มิ ลออนไลน์อยปู่ ระมาณ 1 ชม.กวา่ ๆจนถึงช่วงนอ้ มอากาศครับ

อยากใหข้ อ้ สังเกตในรายละเอียดเพ่ือปรับจูนสู่มาตรฐานทางวิชาการเดียวกนั ไม่ว่าผฝู้ ึ กออนไลน์จะฝึ กกบั
อาจารยท์ ่านไหนๆ

โดยขออนุญาตใชจ้ ากการสังเกตพ่ีวิมลเป็ นครูอาจารยใ์ หญ่ให้ทุกท่านดว้ ย และวนั อ่ืนๆถา้ มีอาจารยท์ ่าน
อ่ืนๆข้ึนสอน ถา้ มีจงั หวะผมจะเขา้ สงั เกตและฟี ตแบคใหท้ ุกท่านครับ

จงั หวะจะโคนพี่วมิ ลเป็นไปตามสไตลก์ ารพดู ของพว่ี มิ ลเอง คือเนิบชา้ แต่ชดั
วางสเตป็ แต่ละข้นั ตอนไดด้ ี จดั วางโพสิชน่ั มุมกลอ้ งในการถ่ายทอดตวั พ่ีวมิ ลเองไดด้ ี
ถ่ายทอดเปรียบเทียบไปท่ีเร่ืองจิตให้ชดั เจนก่อน ดีมากครับ ว่าจิตคืออะไร? ใหห้ าคุณลกั ษณะจิตอนั เป็นนามธรรม
ใหเ้ จอ

ขอเสริมเร่ืองคอนเซปทก์ ารนาเสนอในช่วงกาเทียนป่ ูใหญ่หน่อยครับ เขา้ ใจว่าพ่ีวิมลยงั ติดรูปแบบมาจาก
การฝึกจิตรุ่นเก่าที่เนน้ การกาเทียนเหลืองเพอื่ แสดงผลของทางฤทธ์ิ วา่ มีบารมีแห่งฤทธ์ิเป็นสาคญั

ขอปรับคอนเซปทใ์ หม่ ว่าเราเร่ิมกาเทียนเหลืองแท่งแรก โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือให้ผู้ฝึ กทราบว่า "จิตมี
จริง" เท่าน้ัน เพราะท้งั ชีวติ ทุกคนบนโลกใบน้ี เขารู้วา่ จิตเป็นนามธรรมกนั มาเท่าน้นั ไม่เคยสมั ผสั จริงไดจ้ ริงๆ

ฉะน้นั คาพดู ในช่วงน้ีจะซูมไปที่การต้งั คาถามวา่ ...
„ คุณเช่ือวา่ จิตมีจริงไหม?
„ คุณเคยสมั ผสั จิตจริงมาก่อนไหม?
„ คุณเคยสมั ผสั จิตตวั เองไหม?
„ คุณเคยสมั ผสั จิตผอู้ ่ืนไหม?

แลว้ จึงสรุปวา่ วนั น้ีมีครูบาอาจารยค์ ือป่ ูใหญ่เทพโลกอุดร จะมาใหเ้ ราพิสูจน์ว่าจิตอนั เป็น "นามธรรม" น้นั
มีจริง คุณสามารถรับรู้การมีอยจู่ ริงของจิตได้ แลว้ จึงใหก้ าเทียนเหลือง โดยการนาอธิษฐานก่อนการกาเทียน..โดยใช้
คาอธิษฐานปกติที่ใชก้ นั

ก่อนกาเทียนใหร้ ะบุวา่ ในเทียนน้ีมีจิตป่ ูใหญ่บรรจุอยู่
ยงั ไม่ใชค้ าวา่ "บารมีจิต" ป่ ูใหญ่นะครับ ใชค้ าวา่ "จิต"คาเดียว

๒๐

ระหว่างกาเทียน ขอเลี่ยงให้ใช้คาว่า "ระลึก" แทนคาว่าให้ "บริกรรม" โดยใชเ้ ป็ นคาพูดในใจว่า"ป่ ู
ใหญ่ๆๆๆ"หรือเห็นภาพป่ ูใหญ่ในจิต เพราะอนาคตของผฝู้ ึ กจิต "จิตสู่จิต" จะปลอดคาบริกรรมหรือคาภาวนาใดๆ
ท้งั สิ้น

ช่วงอธิบายตอนนอ้ มจิตเขา้ ดว้ ยการกาเทียนน้ี ควรใชค้ าว่าเรา “เชิญ” จิตป่ ูใหญ่ท่านสู่จิตเราดีกว่าว่าเรา
"ดึง" จิตท่านเขา้ มา

พอกาเทียนไป 2 รอบแลว้ ตรงน้ีสาคญั มากครับ ในช่วงท่ีใหผ้ ฝู้ ึ กเล่าอาการสมั ผสั จะเล่ามารูปแบบไหนก็
แลว้ แต่ เราสรุปใหช้ ดั ครับวา่ "คุณสมั ผสั จิตผอู้ ื่น" ไดแ้ ลว้ อาการทางกายท้งั หมดของคุณท่ีเกิดข้ึนคือการสัมผสั จิต
ผอู้ ื่น

สรุปยา้ ..โดยการถามผฝู้ ึกเลยวา่ คุณมีอาการท้งั หมดใช่ไหม

ใหค้ ุณรับทราบเลยวา่ น่ีคือการสมั ผสั จิต คุณสมั ผสั จิตไดแ้ ลว้

แลว้ ถามต่อวา่ ทาไมคุณรู้สึกถึงอาการต่างๆเหล่าน้นั อาทิ อาการที่ร้อนท่ีวบู วาบเหล่าน้นั เพราะน่ีคือ "จิต" ท่ี
มี "ฌาน" ของป่ ูใหญ่ จิตที่ฝึ กดีแลว้ มี "ฌาน" เราจึงเรียกว่า "บารมีจิต" บารมีจิตจะใชก้ บั จิตอยา่ งหลวงป่ ูใหญ่ หลวง
ป่ ูโต

จิตชาวบา้ นท่ีไม่มี "ฌาน" จะไม่เรียกวา่ บารมี

จะมาสรุปกนั วา่ "บารมีจิต" คืออะไร ณ ตรงน้ีครับ ผฝู้ ึกเขาจะแยกความแตกต่างไดท้ นั ทีครับ

****แล้วให้ถามต่อเลยว่า...คุณสงสัยไหมว่าบารมีจิตป่ ูใหญ่ อายุ 2,500 ปี นี่ มาอยใู่ นเทียนแท่งในมือของ
คุณท่ีบา้ นของคุณนี่ไดอ้ ยา่ งไร บารมีจิตป่ ูใหญ่ซ่ึงเป็ นพระอรหนั ต์ มาไดอ้ ยา่ งไร ย้าหลายๆคร้ังครับ เพื่อกระทุง้ จิต
เขาใหเ้ ขาเกิดความอศั จรรยใ์ จ อเมซิ่ง (ช่วงตีเหลก็ กาลงั ร้อน เพอ่ื เปิ ดศรัทธาองคว์ ชิ าจิตสู่จิตครับ)

ผฝู้ ึ กจะงงๆ ให้เรายอ้ นทวนเลยครับ ว่าใหค้ ุณถ่ายรูปเทียนส่งมาไง แลว้ เทียนก็อยบู่ า้ นคุณ ทาไมเทียนจึงมี
บารมีจิตป่ ูใหญ่ได้ (ตอ้ งทวนคาถามใหช้ ดั เลยครับ)

แลว้ เราจึงเฉลยวา่ "นี่คือวธิ ีการจิตสู่จิต" ครับ จิตป่ ูใหญ่ 2,500 ปี ถูกอญั เชิญโดยจิตมนุษยย์ คุ ปัจจุบนั น้ีเอง ที่
ไม่ไดอ้ ยบู่ า้ นคุณ คนเชิญเขาอยอู่ ีกจงั หวดั นึง เชิญจิตอดีตกาลของป่ ูใหญ่ มาลงเทียนใหค้ ุณที่บา้ นคุณได้ และป่ ูใหญ่
กย็ นิ ดีมาลงในเทียนที่บา้ นคุณ มาเป็ นอาจารยใ์ หญ่ให้คุณถึงบา้ น ใหค้ ุณรู้ว่าจิตมีจริง น่ีคือองคว์ ิชาจิตสู่จิตที่ท่านวริ
นทร์โธคน้ พบและประสาทวชิ ามาให้ แมค้ ุณอยอู่ เมริกากล็ งเทียนได้

สรุปคอนเซปท์ ว่าจิตเคล่ือนที่ได้ ส่งได้ เคล่ือนยา้ ยจิตไปไหนมาไหนได้ คอนโทรลได้ ตามนิยามจิตท่ีเรา
อธิบายไป และน่ีคือ "วิชาจิตสู่จิต" คุณอศั จรรยใ์ จไหม

๒๑

สรุปต่อว่า ที่ตรวจจิตคุณซ่ึงอยคู่ นละสถานท่ีเห็นแค่ในจอโทรศพั ท์ ผมทราบไดอ้ ยา่ งไร ว่าคุณนอ้ มบารมี
จิตป่ ูใหญ่เขา้ สู่จิตคุณไดห้ รือไม่ได้ ก็หลกั การเดียวกนั จิตตรวจสอบจิตได้ เราสามารถรู้สภาวะจิตผอู้ ่ืนได้ น่ีคือวิชา
ของพระพทุ ธเจา้ เป็น"สายจิต"ไม่ใช่สาย"ปริยตั ิ"

ขอใหซ้ ูมสรุปมาลงท่ี วตั ถุประสงค์ น้ีกนั ใหไ้ ดน้ ะครับน่ีคือ การสร้าง "ศรัทธา" ต่อองคว์ ิชาจิตสู่จิตในยก
แรกครับ

เทียนป่ ูโตก็ทานองเดียวกนั แต่เพิ่มว่า เราจะนาบารมีจิตป่ ูโตมาใชใ้ นการแผเ่ มตตา ท่านจะมาเป็ นอาจารย์
ใหญ่กบั คุณและอยกู่ บั คุณตลอดไป

ครับผมขอเพิ่มเติมในส่วนที่ผมฟังอยเู่ ท่าน้ีครับ ฝากทุกท่านศึกษาตามแนวทางท่ีนาเสนอน้ีครับ และฝากทุก
ท่านไปซอ้ มปฏิบตั ิดว้ ยครับ จะไดเ้ ป็นมาตรฐานเดียวกนั ครับ คร้ังแรกๆจะไม่คล่องแต่ออกสนามจริงสกั คร้ัง 2 คร้ัง
จะบินปร๋ อครับ

เราเปล่ียนมาเป็นแนวทางกาเทียนป่ ูใหญ่เพื่อใหร้ ู้วา่ "จิตมีจริง" น้ี.. มาต้งั แต่มูลนิธิฯ ปรับเขา้ สู่โหมดพระ
สัทธรรมฯ ประมาณ ปี 2560 แลว้ ครับ เพราะหลกั สูตรเดิมเรายงั อยกู่ บั การอธิบายฤทธ์ิของป่ ูใหญ่ เพ่ือนาบารมีจิต
ท่านมาลงเทียนกนั (หลายท่านอยทู่ นั หลกั สูตรลงเทียน) จึงเนน้ อธิบายเร่ืองอิทธะ ฤทธะป่ ูของใหญ่กนั เป็นหลกั แต่
วนั น้ีเราปรับมาเป็ นโหมดนอ้ ม-แผเ่ มตตาแลว้ ครับ มาโฟกสั ท่ีป่ ูโตแทน ป่ ูใหญ่จึงมีวตั ถุประสงคใ์ หร้ ู้จกั ว่าจิตมีจริง
เท่าน้นั ครับ(เปิ ดใจผฝู้ ึกใหอ้ เมซ่ิง)

แต่อยา่ งไรก็ตาม ช่วงเล่าผลการกาเทียนของรายใหม่ในหลกั สูตร 1 ถือเป็นไฮไลทท์ ี่สายธรรมอ่ืนๆไม่มีกนั
น่ีคือจุดขาย(selling point)ของสายธรรมจิตสู่จิตเราครับ ถา้ เราจบั ทริคตรงน้ีให้ดี ๆ จะเปิ ดใจผฝู้ ึ ก นาสู่ "ศรัทธา"
ต้งั แต่เร่ิมตน้ ฝึก เม่ือศรัทธาผฝู้ ึกเกิด นี่คือความสาเร็จของผถู้ ่ายทอดแลว้ (อยา่ งอื่นจะฝึกง่ายตาม)

ขอบพระคุณและอนุโมทนาสาธุกบั พ่ีวิมลครับ และทุกท่านท่ีจะข้ึนเป็ นอาจารยใ์ นคิวต่อๆไป ผมไม่ไดม้ า
จบั ผิดนะครับ ไม่ตอ้ งเกร็งเมื่อผมเขา้ ไปส่องนะครับ แต่จะเป็ นกระจกให้ทุกท่านสู่มาตรฐานทางวิชาการเดียวกนั
ของชมรมฯครับ...กราบสาธุๆครับ

๒๒

สังเกตการสอน 4

กถ็ ือโอกาสเรียน อาจารยผ์ สู้ อนทุกท่านทราบและนาไปปรับลดโทนการนาเสนอขอ้ มูลบางตวั ในหลกั สูตร
1 ออนไลน์ของเราดว้ ยครับ

ซ่ึงบางเร่ืองเป็ นความจริงท่ีเราภาคภูมิใจ อยากนาเสนอ แต่ก็สุ่มเส่ียงต่อการ "ล่อเป้า" และเป็ นตาบล
กระสุนตกครับ ซ่ึงผมเองกเ็ ป็นผเู้ ขียนรายละเอียดไปให้ อาจารยผ์ สู้ อนเองแหละครับ แต่ในการนาเสนอ จากน้ีไปจะ
ขอใหล้ ดโทนการเนน้ ย้า..หรือพดู ตรงๆ(ตอ้ งออ้ มๆแลว้ ครับ) เท่าที่นึกไดก้ ม็ ี 2--3 เรื่องน้ีก่อนนะครับ คือ

1.ในช่วงอินโทร ท่ีบอกวา่ ระบบการเลื่อนช้นั เรียนทุกหลกั สูตรของเรา จะเลื่อนช้ันเรียนโดยการตรวจวาระ
จิตนักศึกษาด้วยเจโตปริยญาณ บอกแคน่ ้ีเฉยๆครับ

โดยไม่ตอ้ งบอกว่า เป็ นแห่งแรก แห่งเดียวในประเทศไทยท่ีตรวจวาระจิตนกั ศึกษา(ซ่ึงผมเคยเขียนไปให้
เอง 555)

เหตุท่ีใหป้ รับการนาเสนอเพราะสานกั อื่นเขาจะเขม่นเอาครับ 555

2.นกั ศึกษาหลกั สูตร 1 เราจะไม่อธิบายลึกไปถึงคาวา่ "พทุ ธมรรค"
บอกเพยี งว่ามูลนิธิเราสอนองค์วชิ าจติ สู่จิตและพระสัทธรรมปุณฑริกสูตร ส้นั ๆแค่น้ีพอครับ

และจะไม่พูดถึงคาวา่ "จิตพุทธะ"กบั หลกั สูตร 1 เลยครับ (ซ่ึงหลายเดือนมาแลว้ มูลนิธิไดแ้ จง้ เพ่ือทราบกนั
ไปแลว้ วา่ เราใชค้ าวา่ "ระนาบ 10" แทนคาวา่ "จิตพทุ ธะ"ครับ)

3.เราจะไม่พูดวา่ เราสอนในหลกั สูตรท่ี "เหนือกว่าอรหนั ต์ " (ซ่ึงปกติเราจะไม่ใชค้ าของศาสนามาเรียกช่ือ
ภูมิจิตใดๆอยแู่ ลว้ ครับ อาทิ เราไม่ใชค้ าวา่ โสดา สกิทา....เราใชล้ ะวาง 1-8 เลยครับในการพดู ถึงภูมิจิต)

ดว้ ยเหตุที่เรามีขอ้ มูลว่า ผทู้ ่ีฝึ กออนไลน์กบั เรา ไม่ไดไ้ ปกบั เราท้งั หมด คือไม่ไดม้ าฝึ กหลกั สูตร 2 ท้งั หมด
ครับ ออกไปก่อนก็มี เพราะหลายๆท่านสมคั รเขา้ มาเรียน เพื่ออยากรู้ว่าจิตสู่จิตคืออะไร ? อยากพิสูจน์ อยาก…
สารพดั เกรงวา่ ถา้ ไม่ถูกจริตเขา เขาออกไป แลว้ ..เขาเอาเราไปวิพากษว์ ิจารณ์สร้างประเด็นกบั สังคม เราจึงตอ้ งเซฟ
โซนการนาเสนอใหป้ ลอดภยั เอาไวก้ ่อนครับ (จะเห็นตวั อยา่ งจาก อ.เรนน่ีโดนกระแสสงั คมเล่นงานกนั แลว้ นะครับ
วา่ ทศั นะทางมิติโลกท่ียงั เขา้ ไม่ถึงมิติจิตเขาจะแรงๆกนั ท้งั น้นั ครับ

และวนั น้ี เราเป็ นมูลนิธิแลว้ ในท่ีประชุมคณะกรรมการมูลนิธิ ไดม้ ีนโยบายอีกหลายๆประการท่ีกาลงั ให้
ปรับองคาพยพ(องคก์ ร)ใหเ้ ขา้ รูปเขา้ รอย องคก์ รมาตรฐานทางสังคมครับ

๒๓

สังเกตการสอน 5

ผมต้งั ขอ้ สงั เกตเวลาดูการสอน ..อาจารยผ์ สู้ อนหลายๆท่าน เวลาพดู หรืออธิบายนาเสนอเรื่อง สมาธิ
เร่ืองฌาน เรื่องญาณ จะพดู กนั ไม่ค่อยเตม็ ปากเตม็ คาเหมือนไม่ค่อยมนั่ ใจในสิ่งท่ีพดู บางท่านกพ็ ดู สลบั กนั ไปมา
ไม่ลงตวั

ผมประเมินว่า อ..ผูส้ อนบางท่าน..อาจจะยงั ไม่ค่อยเขา้ ใจโครงสร้างของมิติจิตในเร่ืองน้ี กัน ผมจึงทา
โครงสร้างมาใหศ้ ึกษากนั ครับ ค่อยๆทาความเขา้ ใจกนั ไปนะครับ ถา้ เขา้ ใจทะลุแลว้ เวลาเราพดู ถ่ายทอด เราจะไม่
กกุ กกั เลยครับ เพราะมนั เขา้ ใจไงครับ

ท่านผกู้ ารนาพวกเราใชว้ ิธีการจิตสู่จิต..เราจึงพาสจาก สติ..สมาธิ..ผา่ นเขา้ สู่
อปั ปนาสมาธิ ข้นั "อรูปฌาน 1,2,3,4 " แบบลืมตาเลยทนั ทีครับ (ดูแผนผงั ครับ) ต้งั แต่หลกั สูตร 1 เลย (น่ีคือคุณูปการ
ท่านผกู้ าร)และจะได้ "รูปฌาน 4 " มาเป็นของแถม (โดยไม่ตอ้ งนอ้ มป่ ูใหญ่ เพราะในจิตป่ ูโตกม็ ี "รูปฌาน 4" แต่อาจ
ไม่แรงจดั ชดั จริงเท่าฌาน 4 ในจิตป่ ูใหญ่ครับ)

อานาจ "สมั มาฌาน" ท่ีเราได้ จะเกิดสามญั ผล(ยงั ไงกต็ อ้ งเกิด) คือ "ญาณ" หรือ "วิชชา" ท่ีเราไดแ้ บบลืมตา
ดว้ ย ใหส้ งั เกตไปที่ครูบาอาจารยม์ ูลนิธิทุกท่าน ท่านจะใช้ "ญาณ" ในขณะลืมตาปกติเชค็ โน่นเชค็ น่ีไดส้ ารพดั นนั่ เอง
ครับ

"วิชชา"หลกั ๆ ก็มี 3 วิชชา เรียกว่า "วิชชา 3" วิชชาแบบสเปเช่ียลก็มีถึง 8 วิชชา บางคร้ังจะพบเห็นเขา
เรียกวา่ "อภิญญา" กม็ ี

“ญาณ” หรือ "วชิ ชา" ท่ีสาคญั ที่สุดคือ "อาสวักขญญาณ" เป็ นญาณเพ่ือ "กาจัดกเิ ลส" ควรใชค้ าว่า "กาจดั "
กนั นะครับ จะตรงความหมายท่ีสุด ซ่ึงเราจะพบทว่ั ไปเขาใชว้ า่ ..ฟอกจิตบา้ ง ชาระกิเลสบา้ ง..ลา้ งกิเลสบา้ ง มากมาย
ครับ

ส่วน "ฌานลึก" ระดบั ที่ 4 ถดั จากอรูปฌานไป ของเราที่มูลนิธิฯ กต็ ้งั แต่หลกั สูตร 4 ,5 เป็นตน้ ไป จะเขา้
โหมดน้ีกนั ตอนน้ีก็คือใหท้ า "ดีฟ" จะเขา้ สู่สภาวะน้ีไดน้ นั่ เองครับ ไดแ้ ก่ "สุญญตฌาน "ต้งั แต่ละวาง 8 เป็นตน้ ไป
จะเร่ิมใชค้ าน้ีครับ

"สุญญตฌาน" คือสภาวะว่างเปล่า (ไม่ใช่จิตว่างนะครับ) ไม่มีอะไร ปลอดความคิด จะไร้นิมิต จึงเรียกว่า
"อนิมิตฌาน" ใครยงั เห็นภาพนิมิตอะไรอยู่ จะยงั ไม่ถึงข้นั น้ีนะครับ ตอ้ งปลอดนิมิตใดๆจริงๆครับ

และหากในสภาวะสุญญตฌานน้ีไดฝ้ ึ กแผจ่ ิตกวา้ งออกไปอยา่ งรวดเร็ว ทนั ทีทนั ใด จะเรียกว่า "อปั ปนิหิต
ฌาน" ซ่ึงของจิตสู่จิตกค็ ือการแผเ่ มตตาแบบจิตสู่จิต ออกสู่ "สากลจกั รวาล" ของเราในขณะที่ทาดีฟน้ีนนั่ เองครับ

"จิตแผก่ วา้ ง" จะมีคาเรียกอื่นๆอีกมากมาย ต้งั แต่ คาว่ามหัคคตจิต (คาแปลเขาคือ จิตพน้ ความคบั แคบ)
อปั ปมญั ญา (คาแปล คือไม่มีประมาณ,ไร้ขอบเขต)

๒๔

ในพระไตรปิ ฎก จะเรียกการแผเ่ มตตาแบบของเราวา่ เมตตาเจโตวมิ ุติกม็ ี
อปั มานาเจโตวิมุติ..ก็เคยเห็น ลว้ นแต่มีความหมายว่าแผ่เมตตาแบบจิตกวา้ งขวางดว้ ยกาลงั ฌานท้งั น้นั แต่เราเรียก
"เมตตาแบบจิตสู่จิต" เพอ่ื ใหเ้ ป็นลิขสิทธ์ิของท่านผกู้ ารและของมูลนิธิ แลว้ เราค่อยขยายความเอาวา่ คืออะไรครับ!

สาหรับเวลาฟังท่านผกู้ าร ท่านพดู ในคลิป ท่านยงั ใชว้ า่
"เมตตาแบบอปั ปมญั ญา" อยู่ ดว้ ยท่านยงั คุน้ ชินเคยเรียกมาแต่เดิมปี 2553 นนั่ เองครับ ยงั ไม่ไดป้ รับมาตามมูลนิธิ
แต่ท่ีเรามาปรับกเ็ พือ่ ใหเ้ กียรติท่าน และมูลนิธิ
ดงั กล่าว ตรงน้ีฝากทาความเขา้ ใจนะครับ กค็ ืออนั เดียวกนั

บางท่านกส็ งสยั อีกวา่ แลว้ ทาไมท่านผู้การใช้ "จติ ต้ังม่นั " เป็ นหลกั

"จิตต้งั มนั่ " ก็คือ สมาธิ ก็คือ ฌานนน่ั เอง ท่านผกู้ าร ท่านใชเ้ รียกเป็ นองคร์ วมของท้งั ระบบตามแผนผงั ใน
ภาพน้ีเลยครับ ต้งั แต่ สติ สมาธิ ฌาน ทุกระดบั ไล่มาจิตจะต้งั มน่ั ระดบั ต่าๆไดแ้ ก่ขณิกสมาธิ ไปจนถึงต้งั มนั่ ในระดบั
สูงสุดคือสุญญตฌานเลยครับ

ท่านผกู้ ารท่านเลือกใชค้ าวา่ "จิตต้งั มนั่ " คาน้ีคาเดียว กเ็ พ่ือไม่ใหเ้ ราสับสนกบั เรื่องของ "ฌาน" ซ่ึงมีชื่อเรียก
มากมายนนั่ เองครับ เพราะคนทวั่ ไปจะเขา้ ใจเร่ืองฌานกนั ยาก

ผมเคยถามท่านผกู้ ารสมยั มาศึกษากบั ท่านใหม่ๆ ท่านก็ยกตวั อยา่ งเลยว่าท่านพุทธทาสยงั ใชค้ าว่า "จิตวา่ ง"
เพอื่ ใหค้ นทุกระดบั เขา้ ใจ ท่านผกู้ ารจะขอใชค้ าวา่
"จิตต้งั มน่ั " เพือ่ ใหค้ นทุกระดบั เขา้ ใจในเร่ือง"ฌาน"เช่นเดียวกนั

ทีน้ีกม็ ีคนสงสยั อีกว่า "จิตต้งั มนั่ " กบั "สมั มาสมาธิ" กบั "สมั มาฌาน" กบั "จิตเป็นกลาง" กบั "จิตวา่ ง" กบั
"อุเบกขาจิต" เหมือนหรือต่างกนั ไหม?

กข็ ออธิบายครับวา่ เหมือนกนั ครับ แต่จะเรียกต่างกนั ที่ระดบั ความด่ิง น่ิง ลึก ของสภาวะจิตท่ีเกิดข้ึนขณะ
ปฏิบตั ิครับ ถา้ ดูแผนผงั โครงสร้างตามภาพแลว้ จะเขา้ ใจครับ มีระดบั ความลึกหรือละเอียดจิตถึง 4 ระดบั

วนั น้ีในตาราปริยตั ิต่างๆทวั่ ไปจะเรียกอยา่ งกลางๆวา่ "สมั มาสมาธิ" กนั ท่านผกู้ ารกใ็ ชค้ าน้ีอยตู่ ลอด ตามท่ี
ตาราปริยตั ิทวั่ ไปเขาใชก้ นั ครับ

แต่ในความจริงของจิตสู่จิตเราใช้ "เช่ือมฌาน" กบั ครูบาอาจารยเ์ หนือมนุษย์
ป่ ูใหญ่ ป่ ูโต เพราะถา้ ป่ ูโต ป่ ูใหญ่ มีจิตแค่ระดบั "สมาธิ" จิตท่านจะดารงมา 2,500 ปี ไม่ไดค้ รับ..จิตเราเม่ือเชื่อมกบั
ฌานป่ ูใหญ่ ป่ โู ตป๊ ุบ..จึง "พาส" ผา่ นเขา้ ถึง "ฌาน" เลย จึงเกิด "ญาณ" ต่างๆทนั ที ใหเ้ ราใช้ "ญาณ" ทางาน(ตรวจจิต
ต่างๆ)เราจึงใชญ้ าณต่างๆไดเ้ ลยทนั ที ถา้ ยงั ไม่ด่ิงลึกถึงระดบั ฌาน อยแู่ ค่ "สมาธิ" จะไม่เกิด “ญาณ" จะ "ไม่มี" ญาณ
มาใหเ้ ราใชง้ านกนั ครับ มูลนิธิจึงใชว้ า่ "สมั มาฌาน"เป็นหลกั ในงานเขยี น และพดู ทว่ั ไป ซ่ึงถา้ จะใชค้ าวา่ "
สมั มาสมาธิ" กไ็ ม่ไดผ้ ดิ อะไร ใชไ้ ด้ แต่ถา้ เรารู้โครงสร้างตามแผนผงั ภาพน่ี จะเขา้ ใจ แค่เราพดู ไม่ตรงกบั สภาพตาม
ความเป็นจริงของสภาวะจิตท่ีเกิดข้ึน ณ ขณะน้นั ..ตามโหมดฝึกจิตของจิตสู่จิตเท่าน้นั เองครับ

๒๕

สาหรับบางท่านอาจบอกวา่ เวลาใช้ "ญาณ" จะตอ้ งถอยจิตมาที่ "อุปจารสมาธิ" ก่อน (ในตาราทว่ั ไปเขียน
ไวค้ รับ)

กใ็ ช่ครับ ถา้ เป็นรูปแบบสมาธิแบบหลบั ตา กต็ อ้ งแบบน้นั แน่นอนครับ เพราะถา้ เขา้ ถึงฌาน 4 อยใู่ นสภาวะ
เอกคั ตารมณ์ มนั จะดบั หมดครับ หูดบั ตวั หาย เหลือแต่ดิ่งลึกอยา่ งเดียว จะไปใช้ "ญาณ" กนั ไดอ้ ยา่ งไรใช่ไหมครับ
แต่จิตสู่จิตเราฝึ ก "ฌานลืมตา" ไม่ตอ้ งเขา้ เกียร์ถอยจิตมาที่ "อุปจารสมาธิ" ใชญ้ าณไดท้ นั ทีเลยครับ ท้งั ท่ีลืมตาอยนู่ ี่
แหละครับ ผมจึงถูกกล่าวหาว่า "มโน" อยูบ่ ่อยๆ เพราะไปเช็คเพื่อนๆท่ีไม่ไดอ้ ยู่สายศาสนา เขาบอกไม่เห็นผม
หลบั ตาก่อนจะเชค็ เลย

ในส่วนของสายจีน(มหายาน)เขาจะใช้ "จิตเป็นกลาง" เป็นหลกั ลองสงั เกตกนั ดูนะครับ
สภาวะความเป็นกลางจะอยใู่ นช่วงของ "อุเบกขา" นน่ั เอง ซ่ึงกค็ ือ "จิตต้งั มนั่ " อีกนนั่ แหละครับ

ดว้ ย "อุเบกขาจิต" จะเป็นจุดพีค ของฌาน....สภาวะ "เอกคั ตารมณ์ " จะน่ิงด่ิงเป็นเอก เป็นหน่ึง นนั่ เองครับ
เม่ือเราไดฌ้ านทุกคร้ัง จิตเราจะเขา้ สู่เขตอุเบกขาจิตอยแู่ ลว้ ทุกคร้ัง และจากการเชื่อมจิตกบั ป่ ูโต ในเน้ือจิตป่ ูโตท่าน
กม็ ี "พรหมวหิ าร 4 เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา" จิตเราจะเช่ือม เพ่ิมพนู ในส่วนของ "อุเบกขา" ในพรหมวิหารป่ ูโต
เขา้ ไปอีกดว้ ยครับ

ส่วนหลายๆท่าน ยงั สงสยั คาวา่ "สมั มาฌาน" เหมือนหรือต่างกนั กบั คาวา่ "สัมมาสมาธิ" หรือไม่ กม็ ีถาม
มากนั ครับ

"สมั มา" แปลวา่ "ถูกตอ้ ง" เมื่อใชร้ ่วมกบั สมาธิหรือฌาน จึงเป็นคาว่า "สัมมาสมาธิหรือสมั มาฌาน" น้นั
แปลวา่ สมาธิหรือฌานที่ถูกตอ้ ง ความหมายเดียวกนั แต่ในสภาวะจิต สมั มาฌานจะลึกกวา่ ระดบั จิตของสัมมาสมาธิ
ใหเ้ ขา้ ใจวา่ อนั เดียวกนั ท่านผกู้ ารท่านกใ็ ช้ ดงั เรียนขา้ งตน้ ครับ

สัมมาสมาธิหรือสัมมาฌาน จึงเป็ น สมาธิหรือฌาน ท่ีจะนาจิตเขา้ สู่สภาวะ สมาธิหรือฌานแบบไม่เพ่งไม่
จอ้ ง ไม่กดข่ม ไม่เกร็งไม่ตึงแต่ "ทรง" หรือ "ดารง" แบบ "เฝ้าดู" อยหู่ ่างๆ แบบผอ่ นคลาย ทางศาสนาจึงเรียกว่า
"ลกั ขณูปนิชฌาน" จดั เป็นสมาธิหรือฌานเพอ่ื การ "วปิ ัสสนา" สร้างปัญญาละวางนนั่ เองครับ

จิตสู่จิตของเราเป็ น "ลกั ขณูปนิชฌาน" เม่ือจิตไม่ตึง เกร็ง ...กลไกภายในจิต คือ อาสวกั ขยญาณ จะทางาน
ไดด้ ีมีประสิทธิผลสูงในการกาจดั กิเลสไดด้ ีครับ

ต่างจาก "มิจฉาฌาน" ฌานแบบฤาษี เกร็ง กดข่มเพง่ จอ้ ง ทางศาสนาจะเรียกวา่ "อารัมมณูปนิชฌาน" จะ
บงั เกิด "ญาณ" เหมือนกนั เกิด "อาสวกั ขยญาณ" ปกติ แต่กลไกการทางานกาจดั กิเลสจะไม่ค่อยเวริ ์ค ไม่คล่องตวั
ดว้ ยจิตเกร็งตึงแน่น จึงตอ้ งใชเ้ วลากาจดั กิเลสล่าชา้ มาก

ถา้ จะหวงั กาจดั กิเลสเพื่อเขา้ สู่มรรคผลนิพพาน โดยใช้ "รูปฌาน 1-4 "แบบ
อารัมมณูปนิชฌานน่ีอยา่ งเดียว(หลบั ตา)สงั เกตไหมครับ สายพระคุณเจา้ จะใชว้ ธิ ีปกติน้ีเกือบท้งั หมด จะใช้เวลาเข้า
มรรคผลนิพพานกนั ยาวนานมาก

๒๖

ส่วน "มิจฉาฌาน" อีกความหมายหน่ึงกค็ ือ ฌานสายดา จะไม่เก่ียวกบั คาอธิบายน้ีนะครับ

สุดทา้ ย "จิตวา่ ง" กเ็ ป็นอนั เดียวกนั กบั "จิตต้งั มนั่ " อีกเช่นเดียวกนั แต่ "วา่ ง" มีหลายลกั ษณะเหลือเกินครับ

"วา่ ง" ในฌาน 4 ช่วงเอกตั คตารมณ์กม็ ี ใชเ้ จโตตรวจจิตไป ในความวา่ งของฌาน 4 ยงั มีการตอบรับมาหนกั
แน่นของสิ่งปนเป้ื อน(กิเลส)ในจิตครับ

"วา่ ง" ในอรูปฌานท้งั 4 กเ็ ช่นกนั ตรวจจิตไปยงั ตอบรับกลบั มาอยแู่ ต่บางเบามากครับ

"วา่ ง" ในแนวทางจิตสู่จิต คือวา่ งแบบ “สุญญตฌาน" คือจิตจะละเอียดเหนือ อรูปฌานข้ึนไป ทางศาสนาเขา
จะเรียกวา่ "เขา้ นิโรธ" หรือ "เขา้ สญั ญาเวทยติ นิโรธ" จะดบั สญั ญาใดๆหมด อยา่ งท่ีสายพระสายหลบั ตาเขาเขา้ ถ้าเขา้
นิโรธกนั คร้ังละนบั หลายๆวนั หรือเป็นเดือนกม็ ี

ในแนวทางจิตสู่จิต ท่านใดอยหู่ อ้ ง 5 เขา้ พทุ ธปัญญา 9.7 ไปแลว้ "ทาดี"จะอยใู่ นสภาวะน้ีครบเครื่องเลยครับ
ตรวจเชค็ จิตไปยงั ตอบรับมาบางเบามาก

โน่นแหละครับ เขา้ ระนาบ 10 แลว้ ตรวจจิตไป จะไม่เจออะไรเลย "วา่ งเปล่า" จริงๆ ไม่มีตอบรับใดๆมาเลย
น่ีคือ "สุญญตาที่สมบูรณ์" ครับ

สาหรับหลกั สูตร 1 อาจารยผ์ สู้ อนไม่ตอ้ งไปอธิบายกนั ลึกนะครับ ให้นักศึกษาหลกั สูตร 1 เข้าใจเพยี งว่า ใน
เส้นทางของพุทธศาสนาน้ัน ถ้าไม่เข้า "ฌาน" ก่อน ไม่ทาฌานก่อน ก็หมดสิทธ์ิจะหลุดพ้นจากสังสารวัฏนี้ไปได้
เพราะเราสาเร็จกนั ทม่ี ิตจิ ิต จติ ต้องบังเกดิ "ฌาน" ก่อนเท่าน้ันแล้วกระบวนการทางานต่างๆของจติ จึงจะบงั เกดิ ขึน้

เขา้ พระนิพพานได้ โดยไร้ฌาน จะไม่ใช่แนวทางของพทุ ธศาสนาโดยพระพทุ ธองคแ์ น่นอนครับ

สาธุๆครับ เพราะดูแม่ชีสอนเม่ือคืนครับ จึงอยากอธิบายใหท้ ราบเรื่อง ฌาน ญาณ โดยทว่ั กนั ครับ..

๒๗

ตารางบันทกึ การฝึ กว่าท่นี ักศึกษา

ช่ือ/สกลุ ช่ือเล่น Line
เทยี นป่ ใู หญ่
เทยี นป่ ูโต

รู้จักมูลนิธิได้อย่างไร
เคยปฏบิ ัติอะไรบ้าง
คาดหวงั อะไร

อาการเม่ือกาเทยี นป่ ใู หญ่
อาการเมื่อกาเทยี นป่ ูโต
อาการเม่ือน้อมอากาศ

ชื่อ/สกลุ ชื่อเล่น Line
เทยี นป่ ใู หญ่
เทยี นป่ ูโต

รู้จักมูลนิธิได้อย่างไร
เคยปฏิบตั อิ ะไรบ้าง
คาดหวงั อะไร

อาการเมื่อกาเทยี นป่ ใู หญ่
อาการเม่ือกาเทยี นป่ โู ต
อาการเมื่อน้อมอากาศ

๒๘ ตารางบันทกึ การฝึ กว่าที่นักศึกษา

ช่ือ/สกลุ ชื่อเล่น Line
เทยี นป่ ูใหญ่
เทยี นป่ ูโต
รู้จกั มูลนิธิได้อย่างไร
เคยปฏิบัติอะไรบ้าง
คาดหวงั อะไร
อาการเมื่อกาเทยี นป่ ูใหญ่
อาการเม่ือกาเทยี นป่ โู ต
อาการเมื่อน้อมอากาศ

ชื่อ/สกลุ ช่ือเล่น Line
เทยี นป่ ใู หญ่
เทยี นป่ ูโต
รู้จักมูลนิธิได้อย่างไร
เคยปฏบิ ัติอะไรบ้าง
คาดหวงั อะไร
อาการเม่ือกาเทยี นป่ ูใหญ่
อาการเมื่อกาเทยี นป่ ูโต
อาการเม่ือน้อมอากาศ

๒๙

ตารางบันทกึ การฝึ กว่าท่นี ักศึกษา

ช่ือ/สกลุ ช่ือเล่น Line
เทยี นป่ ใู หญ่
เทยี นป่ ูโต

รู้จักมูลนิธิได้อย่างไร
เคยปฏบิ ัติอะไรบ้าง
คาดหวงั อะไร

อาการเม่ือกาเทยี นป่ ใู หญ่
อาการเมื่อกาเทยี นป่ ูโต
อาการเม่ือน้อมอากาศ

ชื่อ/สกลุ ชื่อเล่น Line
เทยี นป่ ใู หญ่
เทยี นป่ ูโต

รู้จักมูลนิธิได้อย่างไร
เคยปฏิบัตอิ ะไรบ้าง
คาดหวงั อะไร

อาการเมื่อกาเทยี นป่ ใู หญ่
อาการเม่ือกาเทยี นป่ โู ต
อาการเม่ือน้อมอากาศ

๓๐

ภาคผนวก

ประวตั หิ ลวงป่ ูใหญ่เทพโลกอดุ ร

หลวงป่ ูใหญ่เทพโลกอุดร เป็นพระอรหนั ตย์ คุ พทุ ธกาล ในวงการนกั ปฏิบตั ิมากมายไดเ้ คยพบท่านในฝัน
บา้ ง ในนิมิตบา้ ง ท่านเป็นครูบาอาจารยท์ ี่คอยแนะนาผทู้ ่ีปฏิบตั ิธรรมมาหลายยคุ หลายสมยั ท่านคือพระอุตรเถระ ที่
เดินทางมาเผยแผพ่ ระพทุ ธศาสนาบริเวณดินแดนสุวรรณภูมิในช่วงหลงั พทุ ธปรินิพพาน

ในสมยั พระเจา้ อโศกมหาราช เม่ือประมาณพ.ศ. ๒๓๖ หลวงป่ ูใหญ่เป็นพระอรหนั ตย์ คุ พทุ ธกาล แต่ยงั ไม่
ดบั ขนั ธ์ ใชว้ ิธีเจริญฌาน ต่ออายเุ พื่อช่วยเหลือพทุ ธศาสนามาจนถึงปัจจุบนั น้ี หลวงป่ ใู หญ่ ต้งั ปณิธานวา่ จะสืบอายุ
พระพทุ ธศาสนาใหค้ รบ ๕๐๐๐ ปี

อภินิหารของ "หลวงป่ ูเทพโลกอุดร" เป็นเรื่องที่เลื่องลือนานมาแลว้ ต้งั แต่ช่วงสงครามเวียดนาม คอย
ช่วยเหลือทหารที่กาลงั ตกอยใู่ นภาวะอนั ตรายจนรอดตายมาได้ แมแ้ ต่หลวงพอ่ ฤๅษีลิงดา หลวงพอ่ จรัญ หรือผู้
ปฏิบตั ิจิตมากมาย มกั จะไดพ้ บท่านในนิมิตบา้ ง ในฝันบา้ งเพ่อื สอนธรรม

หลวงป่ ูพระเทพโลกอุดร เป็นชาวเนปาล การที่ท่านพดู ภาษาไทยไดก้ เ็ นื่องจากบรรลุปฏิสมั ภิทาญาณ
สามารถรู้ภาษาคนและสตั วไ์ ด้ ท่านมีสภาวะจิตที่รวดเร็วมากเพียงนึกถึงท่าน ท่านกม็ า “เม่ือเจา้ ตอ้ งการพบเรา เราก็
มา เรามาจากทางไกล” หลวงป่ ูมีเมตตาต่อลูกศิษยม์ าก ท่านไดเ้ ผยความในใจของท่านวา่ "อยากใหล้ ูกศิษยท์ ุกๆคน
เป็นคนดี อยใู่ นศีลในธรรม อยากใหล้ ูกศิษยต์ ้งั ใจปฏิบตั ิธรรมอยา่ งจริงจงั และสาเร็จทกุ ๆคน อยากใหล้ ูกศิษย์ รู้ถึง
กฎแห่งกรรม จะไดต้ ้งั ใจบาเพญ็ ศีลภาวนา เพ่อื ใหช้ ีวติ รุ่งเรืองท้งั ปัจจุบนั และอนาคตขา้ งหนา้ อยากใหล้ ูกศิษยท์ ุกๆ
คน ช่วยเผยแผธ่ รรมะออกไป ใหก้ วา้ งไกล เพื่อพระพทุ ธศาสนาจะไดเ้ จริญรุ่งเรืองยงิ่ ๆข้ึนไปอีก"

ท่านพดู เสมอวา่ “เพือ่ พทุ ธศาสนิกชนชาวสยาม และเพื่อพทุ ธศาสนาแลว้ ท่านยอมท่ีจะเหนื่อย ยอมท่ีจะทา
การทุกอยา่ งที่จะเผยแผพ่ ระธรรมใหม้ ากท่ีสุด เพราะท่านอยากใหส้ รรพสตั วท์ ้งั หลายในโลกน้ี มีชีวติ อนั มีความสุข
กายสุขใจ ดาเนินชีวิตประจาวนั อยา่ งมีความสุข”

๓๑

ประวตั สิ มเดจ็ พระพฒุ าจารย์(โต พรหมรังสี)

สมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านเป็ นพระอรหันต์ ที่โด่งดังที่สุดยุคกรุ งรัตนโกสิ นทร์ เกิดในรัชสมัย
พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือลน้ เกลา้ รัชกาลที่ 1 ตรงกบั วนั ท่ี 17 เมษายน พ.ศ. 2331 ณ
อาเภอท่าเรือ จงั หวดั พระนครศรีอยุธยา ท่านมีจริยาวตั รดา้ นความสมถะอนั โดดเด่นของคาถาอาคม และทรงคุณ
ทางดา้ น เมตตามหานิยม ท่านมีอุปนิสัยทาสิ่งใดตามความพอใจของตน ไม่ถือเอาความนิยมของผอู้ ่ืนเป็นหลกั และ
ไม่ปรารถนายศศกั ด์ิหรือลาภสกั การะใดๆ ท่านรอบรู้แตกฉานใน พระธรรมวินยั และธรรมปฏิบตั ิ ความเป็นเลิศใน
การเทศนา ไดร้ ับการยกยอ่ งสรรเสริญในสติปัญญาและ ปฏิญาณโวหารท่ีฉลาดหลกั แหลม เปี่ ยมดว้ ยจิตเมตตากรุณา
แก่ผตู้ กยาก

สมเด็จพระพุฒาจารยโ์ ต มีอธั ยาศยั มกั นอ้ ย สันโดษ ท่านถือปฏิบตั ิในขอ้ ธุดงคว์ ตั รทุกประการ คือ ฉนั ใน
บาตร ถือผา้ สามผืนออกธุดงคเ์ ย่ียมป่ าชา้ นง่ั ภาวนา เดินจงกรม จนวาระสุดทา้ ย สมณศกั ด์ิช้นั สูงสุดท่ีท่านไดร้ ับ
ตราบจนกระทง่ั ถึงวนั มรณภาพ คือ สมเดจ็ พระพุฒาจารย์ คนทวั่ ไปนิยมเรียกท่านว่า "สมเด็จโต" หรือ "สมเด็จวดั
ระฆงั "

สมเด็จพระพฒุ าจารย์ (โต) ก็ไดม้ รณภาพบนศาลาเก่าวดั บางขนุ พรหม ตรงกบั วนั ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2415
ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว ลน้ เกลา้ รัชกาลท่ี 5 สิริรวมอายุได้ 84 ปี อยใู่ นสมณเพศ 64
พรรษา เป็นเจา้ อาวาสครองวดั ระฆงั โฆสิตารามได้ 20 ปี

บารมีจิตของหลวงป่ ูโตเป็ นคลื่นกระแสเยน็ เบาโปร่ง สมบูรณ์ดว้ ยเมตตาบารมีท่ีแผ่กวา้ งเต็ม 31 ภพภูมิ
และเตม็ เป่ี ยมดว้ ยอาสวกั ขยญาน อนั เป็นญานเพอื่ ทาใหส้ ิ้นซ่ึงอาสวะกิเลสท้งั หลาย


Click to View FlipBook Version