คำนำ กระทรวงศึกษาธิการไดประกาศใชหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และได กำหนดมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดกลุมสาระการเรียนรูตางๆ เพื่อใหสถานศึกษานำไปใชเปนกรอบทิศทางใน การพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา วางแผนจัดการเรียนการสอนและจัดกิจกรรมการเรียนรูเพื่อพัฒนาผูเรียนใหมี ความรูความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงคตามมาตรฐานการเรียนรูและตัวชี้วัดที่กำหนดให พรอมทั้ง ดำเนินการวัดประเมินผลการเรียนรูของผูเรียนใหมีคุณภาพตามหลักการของหลักสูตร เพื่อใหเกิดผลสำเร็จตาม เจตนารมณของการปฏิรูปการศึกษาไทย ดังนั้นขั้นตอนการนำหลักสูตรสถานศึกษาไปปฏิบัติจริงในชั้นเรียนของ ครูผูสอน จึงจัดเปนหัวใจสำคัญของการพัฒนาคุณภาพผูเรียนใหบรรลุตามเปาหมายของหลักสูตร ผูจัดทำหนวยการเรียนรูอิงมาตรฐาน ไดดำเนินการออกแบบการจัดการเรียนรูตามรูปแบบที่สำนักวิชาการ และมาตรฐานการศึกษากำหนดขึ้น เพื่อเปนเอกภาพเดียวกันตามองคประกอบตอไปนี้ ณรงคศักดิ์ กุลวงศ ตำแหนงครูผูชวย
สารบัญ เรื่อง หนา คำอธิบายรายวิชา 1 โครงสรางรายวิชา 2 กำหนดการสอนและกิจกรรม 3 แผนการจัดการเรียนรู 8
คำอธิบายรายวิชาพื้นฐาน รหัสวิชา พ 21104 วิชาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ศึกษาค้นคว้ากฎ ทักษะการเคลื่อนไหว กีฬาฟุตบอล รูปแบบการเล่น นำหลักการทางพลศึกษาไปใช้ใน การพัฒนาการเล่นเกม กีฬาฟุตบอล หลักการเล่นกีฬาให้ปลอดภัยและสนุกสนาน หลักการบริหารร่างกายการสร้าง ความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอล การยิงประตู และการป้องกัน วิธีการเล่นฟุตบอลเป็นทีม ขั้นตอน ที่สำคัญในการนำไปสู่ การเล่นฟุตบอล ตำแหน่งในการยืนในกีฬาฟุตบอล หน้าที่ของผู้เล่นในกีฬาฟุตบอล รูปแบบการเล่นฟุตบอลเป็นทีม อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และสนุกสนาน รู้หลักและวิธีการออกกำลังกายที่ถูกต้องโดยใช้กีฬาฟุตบอลเป็นสื่อ รู้ ประวัติ กฎ กติกาการเล่นที่ ถูกต้อง รู้ถึงระเบียบ วินัยของการฝึก เคารพเชื่อฟังผู้สอน มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณรู้จักคุณค่าของความ เป็นผู้มีน้ำใจนักกีฬา รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย เห็นคุณค่าของการเล่นกีฬา สามารถนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวันตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ตัวชี้วัด มาตรฐาน พ 3.1 1/1,1/2,1/3,1/4 มาตรฐาน พ 3.2 1/1,1/2,1/3,1/4,1/5,1/6 รวม 10 ตัวชี้วัด
โครงสร้างรายวิชา ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 เวลา 20 ชั่วโมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต ที่ ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน 1 ปฐมนิเทศ พ 3.1 ม.1/1,ม.1/2 -ความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลและข้อตกลง ระหว่างเรียน -ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลใน ประเทศไทยและต่างประเทศ 2 10 2 การสร้างความคุ้นเคยใน การเล่นกีฬาฟุตบอล พ 3.1 ม.1/3 พ 3.2 ม.1/1,ม.1/2, ม.1/3 -การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อไหว เบื้องต้นในการเล่นกีฬาฟุตบอล -การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬา ฟุตบอล -การเดาะลูกฟุตบอล -การเลี้ยงลูกฟุตบอล -การส่งลูกฟุตบอล 6 30 3 ทักษะพื้นฐานการเล่นกีฬา ฟุตบอล พ 3.2 ม.1/3,ม.1/4, ม.1/5 -การเลี้ยงลูกฟุตบอล -การส่งลูกฟุตบอล 2 10 สอบกลางภาค 1 10 4 ทักษะพื้นฐานการเล่นกีฬา ฟุตบอล พ 3.2 ม.1/3,ม.1/4, ม.1/5,ม.1/6 -การโหม่งลูกฟุตบอล -การหยุดหรือรับลูกฟุตบอล -การยิงประตู -การเป็นผู้รักษาประตู -ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ละตำแหน่ง -การเล่มทีมรุกและทีมรับ -การเล่นฟุตบอลเพื่อการแข่งขัน 8 20 รวมคะแนนระหว่างภาคเรียน 19 80 สอบปลายภาค 1 20 รวมตลอดภาคเรียน 20 100 รหัสวิชา พ 21104 วิชาฟุตบอล กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา
กำหนดการสอ รหัสวิชา พ23103 รายวิชา พื้นฐาน จำนวน 1 คาบ/สัปดาห์ ครูผู้สอน นายณรงค์ศักดิ์ กุลวงศ์ สัปดาห์ที่ หน่วยการเรียนรู้ Unit เนื้อหา Contents มาตรฐาน Standards ตัวชี้วั 1-2 1.ปฐมนิเทศ ความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล และข้อตกลงระหว่างเรียน พ 3.1 ม.1/1, ม.1/2 1.นักเรียนส ทั่วไปเกี่ยวกั (K) 2.นักเรียนส ใช้ในการตอ ทั่วไปเกี่ยวกับ 3.นักเรียนมี ร่วมกับกิจก (A) 3-8 2. การสร้างความคุ้น เคยในการเล่นกีฬา ฟุตบอล การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและ การเคลื่อไหวเบื้องต้นในการ เล่นกีฬาฟุตบอล -การสร้างความคุ้นเคยใน การเล่นกีฬาฟุตบอล -การเดาะลูกฟุตบอล พ 3.1 ม.1/3 พ 3.2 ม.1/1, ม.1/2, ม.1/3 1. นักเรียนส ทั่วไปเกี่ยวกับ กล้ามเนื้อแล ในการเล่นกีฬ -การสร้างคว กีฬาฟุตบอล
นและกิจกรรม รายวิชา สุขศึกษาและพลศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 0.5 หน่วยกิต ภาคเรียนที่ 2 วัด/ผลการเรียนรู้ Indicates เวลา ที่ใช้ (ชม.) การวัดผล หมาย เหตุ ชิ้นงาน/ การปฏิบัติงาน คะแนน วันที่ส่ง สามารถอธิบายความรู้ ับกีฬาฟุตบอลได้ถูกต้อง ามารถนำความรู้ที่ได้มา อบคำถามเรื่องความรู้ บฟุตบอล (P) มีความสนใจและมีส่วน กรรมการเรียนการสอน 2 1.ความรู้เกี่ยวกับ กีฬาฟุตบอล 10 พฤศจิกายน สามารถอธิบายความรู้ บการยืดเหยียด ะการเคลื่อไหวเบื้องต้น ฬาฟุตบอลได้ถูกต้อง วามคุ้นเคยในการเล่น 6 1.การสร้าง ความคุ้นเคยใน การเล่นกีฬา ฟุตบอล 2.การเดาะลูก ฟุตบอล 30 พฤศจิกายนธันวาคม
สัปดาห์ที่ หน่วยการเรียนรู้ Unit เนื้อหา Contents มาตรฐาน Standards ตัวชี้วั -การเลี้ยงลูกฟุตบอล -การส่งลูกฟุตบอล และอธิบายลักษณะของ ปัญหาสุขภาพในชุมชนได้ อย่างถูกต้อง -การเดาะลูก -การเลี้ยงลูก -การส่งลูกฟุต 2.นักเรียนสา การยืดเหยียด ลื่อไหวเบื้องต ฟุตบอล -การสร้างคว กีฬาฟุตบอล -การเดาะลูก -การเลี้ยงลูก -การส่งลูกฟุต 3.นักเรียนมีค ร่วมกับกิจกร (A) 9- 11 3.ทักษะพื้นฐาน การเล่นกีฬา ฟุตบอล -การเลี้ยงลูกฟุตบอล -การส่งลูกฟุตบอล พ 3.2 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5 1.นักเรียนส ทั่วไปเกี่ยวกั กีฬาฟุตบอล 2.นักเรียนส การเลี้ยงลูกฟ 3.นักเรียนมี
วัด/ผลการเรียนรู้ Indicates เวลา ที่ใช้ (ชม.) การวัดผล หมาย เหตุ ชิ้นงาน/ การปฏิบัติงาน คะแนน วันที่ส่ง กฟุตบอล กฟุตบอล ตบอล (K) ามารถปฏิบัติตามทักษะ ดกล้ามเนื้อและการเค ต้นในการเล่นกีฬา วามคุ้นเคยในการเล่น กฟุตบอล กฟุตบอล ตบอล (P) ความสนใจและมีส่วน รรมการเรียนการสอน 3.การเลี้ยงลูก ฟุตบอล 4.การส่งลูก ฟุตบอล สามารถอธิบายความรู้ กับทักษะพื้นฐานการเล่น ล ได้ถูกต้อง (K) สามารถปฏิบัติตามทักษะ ฟุตบอล(P) มีความสนใจและมีส่วน 3 1.การเลี้ยงลูก ฟุตบอล 2.การส่งลูก ฟุตบอล 10 ธันวาคมมกราคม
สัปดาห์ที่ หน่วยการเรียนรู้ Unit เนื้อหา Contents มาตรฐาน Standards ตัวชี้วั ร่วมกับกิจกร นักเรียนสนุ เรียนการสอ 12- 19 4.ทักษะพื้นฐาน การเล่นกีฬา ฟุตบอล -การโหม่งลูกฟุตบอล -การหยุดหรือรับลูกฟุตบอล -การยิงประตู -การเป็นผู้รักษาประตู -ตำแหน่งและหน้าที่ของแต่ ละตำแหน่ง - การเล่มทีมรุกและทีมรับ -การเล่นฟุตบอลเพื่อการ แข่งขัน พ 3.2 ม.1/3, ม.1/4, ม.1/5, ม.1/6 1.นักเรียนสา ทั่วไปเกี่ยวกับ กีฬาฟุตบอล -การโหม่งลู -การหยุดหรื -การยิงประตู -การเป็นผู้รัก -ตำแหน่งแล ตำแหน่ง -การเล่มทีมร -การเล่นฟุตบ (K) 2. นักเรียนส -การโหม่งลูก -การหยุดหรื -การยิงประตู -การเป็นผู้รัก -ตำแหน่งแล
วัด/ผลการเรียนรู้ Indicates เวลา ที่ใช้ (ชม.) การวัดผล หมาย เหตุ ชิ้นงาน/ การปฏิบัติงาน คะแนน วันที่ส่ง รรมการเรียนการสอน กสนานกับกิจกรรมการ น(A) ามารถอธิบายความรู้ บทักษะพื้นฐานการเล่น ได้ถูกต้อง กฟุตบอล อรับลูกฟุตบอล ตู กษาประตู ะหน้าที่ของแต่ละ รุกและทีมรับ บอลเพื่อการแข่งขัน สามารถปฏิบัติตามทักษะ กฟุตบอล อรับลูกฟุตบอล ตู กษาประตู ะหน้าที่ของแต่ละ 8 1.การโหม่งลูก ฟุตบอล 2.การหยุดหรือรับ ลูกฟุตบอล 3.การยิงประตู 4.การเป็นผู้รักษา ประตู 5.ตำแหน่งและ หน้าที่ของแต่ละ ตำแหน่ง 6.การเล่มทีมรุก และทีมรับ 7.การเล่นฟุตบอล เพื่อการแข่งขัน 30 กุมภาพันธ์- มีนาคม
สัปดาห์ที่ หน่วยการเรียนรู้ Unit เนื้อหา Contents มาตรฐาน Standards ตัวชี้วั ตำแหน่ง -การเล่มทีมร -การเล่นฟุตบ (P) 3.นักเรียนมี ร่วมกับกิจกร นักเรียนสนุก เรียนการสอ 20 สอบปลายภาค รวม การประเมินผลการเรียน ประกอบด้วย 1. คะแนนรหว่างภาค 80 คะแนน 2. คะแนนปลายภาค 20 คะแนน 3. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 4. การประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
วัด/ผลการเรียนรู้ Indicates เวลา ที่ใช้ (ชม.) การวัดผล หมาย เหตุ ชิ้นงาน/ การปฏิบัติงาน คะแนน วันที่ส่ง รุกและทีมรับ บอลเพื่อการแข่งขัน ความสนใจและมีส่วน รรมการเรียนการสอน กสนานกับกิจกรรมการ น(A) 1 แบบทดสอบปลาย ภาค 20 มีนาคม 20 100
ลงชื่อ...................................................ผู้สอน (..............................................) ........./......................../........... ลงชื่อ........................................... (................................. ........../......................../ ลงชื่อ................................. (.......................... ผู้อำนวยการโรง ........./...................
ลงชื่อ...................................................หัวหน้ากลุ่มสาระฯ (....................................) ........./......................../........... ........หัวหน้ากลุ่มบริหารวิชาการ ..) /........... ..................... .............) งเรียน ...../...........
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา ฟุตบอล รหัสวิชา พ 21104 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การปฐมนิเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 แผนการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง ความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลและข้อตกลงระหว่างเรียน เวลา 1 ชั่วโมง ********************************************************************************** สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกมและการเล่นกีฬาโดยการปฏิบัติเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขันและชื่นชมสุนทรียภาพ ของการกีฬา สาระสำคัญ การเล่นกีฬาเป็นการออกกำลังชนิดหนึ่งซึ่งจะทำให้ร่างกายของเราแข็งแรง กีฬาทุกประเภทมีความ แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคลที่เลือกสามารถจะเล่นกีฬาประเภทไหนแต่ในการเรียนกีฬา ฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีมที่มีความสนุกสนานและเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย กีฬาฟุตบอลมีประวัติความ เป็นมาและวิวัฒนาการตั้งแต่สมัยกรีกโบราณ และเผยแพร่เข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชกาลที่ 5 การเล่น กีฬาฟุตบอลก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนมีความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลและข้อตกลงระหว่างเรียน (K) ๒. นักเรียนสามารถปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างเรียนวิชาฟุตบอลได้(P) ๓. นักเรียนเห็นความสำคัญของการเรียนกีฬาฟุตบอลและข้อตกลงระหว่างเรียน (A) สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ความรู้เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลและข้อตกลงระหว่างเรียน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในด้านการสื่อสาร ๒. ความสามารถในด้านการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย ๑. ครูรวมนักเรียนสำรวจนักเรียนและตรวจดูการแต่งกายของนักเรียนว่าแต่งกายเรียบร้อยพร้อมที่ จะเรียนหรือยัง โดยถามถึงสุขภาพของนักเรียน คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก ๒. แบ่งกลุ่มนักเรียนเป็น ๖ กลุ่มเข้าแถวตอนลึก เรียงตามลำดับความสูง 3. ครูดำเนินการปฐมนิเทศ อธิบายเบื้องต้นในการเรียนดังนี้ 3.๑ การปฏิบัติตนก่อนเข้าเรียน เดินแถวมาจากห้องเรียน
3.๒ เครื่องแต่งกายต้องเป็นชุดพลศึกษาตามที่โรงเรียนกำหนด 3.๓ ครูแจ้งจุดประสงค์การเรียนให้นักเรียนทราบ 3.๔ การปฏิบัติหลังเลิกเรียน การรวมกลุ่ม จัดแถว การบอกเลิกแถว 3.๕ การเดินกลับห้องเรียน ขั้นอธิบายและสาธิต ๑. อธิบายเงื่อนไขการจัดการเรียนรู้กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ระเบียบแถวการเข้าชั้นเรียนการแต่งกาย การวัดและประเมินผล ๒. ครูอธิบายเกี่ยวกับกติกากีฬาฟุตบอลให้นักเรียนจดบันทึกไว้เพื่อให้นักเรียนได้มีความรู้และความ เข้าใจเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลเพิ่มมากขึ้น ๓. นักเรียนนำสมุดที่จดกติกามาส่งครูตรวจ ขั้นฝึกปฏิบัติ ๑. ครูอธิบายเกี่ยวกับทักษะการเล่นกีฬาฟุตบอลนักเรียนจดและสรุปลงในสมุดส่งครู ๒. ครูอธิบายอุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน ลูกฟุตบอล ประตูฟุตบอล สนามฟุตบอล อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ขั้นนำไปใช้ ๑. นักเรียนอธิบายลักษณะการเล่นฟุตบอล 2. นักเรียนเข้าใจกฎกติกา ระเบียบ ข้อบังคับ การเข้าชั้นเรียนการแต่งกายการวัดและประเมินผล ขั้นสรุป ๑. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปเรื่องเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอลหลังจากนั้นร่วมกันอภิปราย ซักถาม ๒. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถามและนัดหมายการเรียนในสัปดาห์หน้า
๓. นักเรียนรู้เกี่ยวกับสุขปฏิบัติให้นักเรียนล้างมือ,ล้างหน้า,ดื่มน้ำเป็นการสอดแทรกเนื้อหาสุขศึกษา เข้าไปในชั่วโมงเรียนด้วย สื่อ/แหล่งเรียนรู้ แหล่งเรียนรู้ - สนามกีฬาฟุตบอล - Internet -ห้องสมุดโรงเรียน -ห้องพลศึกษา การวัดและการประเมินผล เป้าหมายการเรียนรู้ หัวข้อการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือ วิธีวัดผล เกณฑ์การประเมิน ความรู้ ความเข้าใจ (K) นักเรียนสามารถ อธิบายความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล ได้ถูกต้อง แบบสอบถาม ประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คุณภาพดีขึ้นไป เจตคติ (A) ๑. นักเรียนมีความ สนใจและมีส่วน ร่วมกับกิจกรรมการ เรียนการสอน ๒. นักเรียน สนุกสนานกับ กิจกรรมการเรียน การสอน แบบประเมินเจตคติ สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คุณภาพผ่านขึ้นไป ทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถนำ ความรู้ที่ได้มาใช้ใน การตอบคำถามเรื่อง ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ ฟุตบอล แบบประเมินการ ทักษะการนำความรู้ ทั่วไปเกี่ยวกับกีฬา ฟุตบอลไปใช้ในการ ตอบคำถาม ประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คุณภาพดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ด้าน ความสามารถในการ สื่อสาร 1. แบบประเมิน สมรรถนะที่สำคัญ ด้านความสามารถ ในการสื่อสาร 2. แบบประเมิน สมรรถนะที่สำคัญ สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คะแนนผ่าน (1) ขึ้น ไป
เป้าหมายการเรียนรู้ หัวข้อการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือ วิธีวัดผล เกณฑ์การประเมิน 2. ด้าน ความสามารถในการ คิด ด้านความสามารถ ในการคิด คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 1. แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ข้อที่ ๓ มี วินัย 2. แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ข้อที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คะแนนผ่าน (1) ขึ้น ไป เกณฑ์การประเมิน ภายใน ๓๐ นาที -ตอบคำถามถูก ๕ ข้อได้ ๕ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๔ ข้อได้ ๔ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๓ ข้อได้ ๓ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๒ ข้อได้ ๒ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๑ ข้อได้ ๑ คะแนน
ใบความรู้ กติกาฟุตบอล 17 ข้อ ข้อ 1 สนามแข่งขัน สนามต้องเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีความยาวไม่ต่ำกว่า 90 เมตร (100 หลา) และไม่เกินกว่า 120 เมตร (130 หลา) มีความกว้างไม่ต่ำกว่า 45 เมตร (50 หลา) และสูงสุด 90 เมตร (100 หลา) และมีเส้น สนามเป็นสีขาวทั้งหมด มีองค์ประกอบของสนามดังนี้ เขตประตู (The Goal Area) เขตโทษ (Penalty Area) เสาธง (Flagposts) ส่วนโค้งมุมสนาม(The Corner Arc) ประตู (Goals) ข้อ 2 ลูกฟุตบอล บอลต้องเป็นทรงกลม ท่าจากหนังหรือวัสดุอื่นๆ ที่เหมาะสมไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่น มีเส้นรอบวงไม่ เกินกว่า 70 เซนติเมตร (28 นิ้ว) ไม่น้อยกว่า 68 เซนติเมตร (27 นิ้ว) ข้อ 3 จำนวนผู้เล่น โดยผู้เล่น 2 ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่นไม่เกิน 11 คน และต้องมีคนหนึ่งเป็นผู้รักษาประตู ถ้า หากผู้เล่นทีมใดน้อยกว่า 7 คน จะไม่อนุญาตให้ทีมทำการแข่งขัน การเปลี่ยนตัว ผู้เล่นต้องออกจากสนาม ด้วยการเดินออกจากสนาม ในฝั่งที่ใกล้ที่สุด ไม่จำเป็นต้องเดิน มาเปลี่ยนตัว ณ เส้นกึ่งกลางสนาม บริเวณจุดยืนของผู้ตัดสินที่ 4 หากผู้เล่นปฏิเสธจะออกจากสนาม ให้ ดำเนินการแข่งขันต่อไปทันที ข้อ 4 อุปกรณ์การแข่งขันของผู้เล่น ผู้รักษาประตูแต่ละทีมต้องสวมชุดทีมีสีแตกต่างจากผู้เล่นคนอื่นๆ รวมทั้งผู้ตัดสิน อุปกรณ์ของผู้เล่นที่ เป็นข้องบังคับเบื้องต้น คือ 1. เสื้อยืดหรือเสื้อเชิ้ต 2. กางเกงขาสั้น ถ้าใส่กางเกงปรับอุณหภูมิต้องไว้ภายใน และมีสีเหมือนกางเกงชั้นนอก 3. ถุงเท้ายาว 4. สนับแข้ง ต้องใส่อยู่ภายใต้ถุงเท้า 5. รองเท้า ข้อ 5 ผู้ตัดสิน ผู้ตัดสิน มีอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่ในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกติกาการแข่งขัน ผู้ตัดสินไม่สามารถเปลี่ยนคำตัดสินได้ ในกรณีที่การแข่งขัน กลับมาแข่งขันต่อ หลังมีการตัดสินไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ผู้ตัดสินสามารถเปลี่ยนคำตัดสินได้ หากเกมยังไม่กลับมาดำเนินต่อ หรือหากผู้ตัดสินได้ใช้ เทคโนโลยี รีวิวเหตุการณ์การแข่งขัน ก็สามารถเปลี่ยนคำตัดสินได้ หากมีการเล่นนอกเกม จนเป็นเหตุให้ต้องแจกใบเหลืองหรือใบแดง แต่ผู้ตัดสินที่ 1 ไม่เห็นเหตุการณ์ สามารถเป่าหยุดเกมในภายหลัง เพื่อย้อนมาให้โทษแก่ผู้เล่นได้
หากมีการแสดงพฤติกรรมไม่เคารพต่อผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินสามารถกล่าวตักเตือน, ให้ใบเหลือง และ ใบแดง ได้ในทันที รวมไปถึงผู้เล่นและทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ในบริเวณเขตเทคนิคทุกคน ในกรณีที่ไม่สามารถระบุตัวตน ผู้กระทำผิดได้ว่าเป็นใคร หัวหน้าผู้ฝึกสอน ในเขตเทคนิค จะต้องรับโทษแทน หากผู้เล่นถูกทำฟาวล์ ในเขตโทษ และต้องการเป็นผู้ยิงจุดโทษ ด้วยตัวเอง แต่ได้รับบาดเจ็บ จนต้อง รับการปฐมพยาบาล สามารถปฐมพยาบาลได้ในสนาม โดยไม่ต้องออกนอกสนามแต่อย่างใด ข้อ 6 ผู้ช่วยผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน 2 คน ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นผู้ชี้แนะ แสดงให้ผู้ตัดสิน ทราบสิ่งต่างๆ ส่วนการตัดสินในเป็นหน้าที่ของผู้ตัดสิน ข้อ 7 ระยะเวลาของการแข่งขัน ฟุตบอลมี 2 ช่วงเวลาด้วยกันคือครึ่งแรก และครึ่งหลัง แต่ละครึ่งมีเวลา 45 นาทีโดยไม่รวมการทด เวลาและพักครึ่งได้ไม่เกิน 15 นาที มีการเพิ่มเติมช่วงพัก 2 ครั้งคือ กำหนดเวลาพักที่ชัดเจน ระหว่าง “Drinks Breaks” และ “Cooling Breaks” โดย drinks breaks มีเวลาพักไม่เกิน 1 นาที ส่วน cooling breaks มีเวลาพัก 90 วินาที – 3 นาที ข้อ 8 การเริ่มการแข่งขันและการเริ่มเล่นใหม่ การเสี่ยงเหรียญ ทีมที่ชนะการเสี่ยงจะเป็นฝ่ายเลือกประตูที่จะทำการรุกในครึ่งเวลาแรกของการ แข่งขัน อีกทีมจะเป็นฝ่ายได้เตะเริ่มเล่น (Kick-off) เพื่อเริ่มต้นการแข่งขัน ทีมที่ชนะการเสี่ยงจะทำการเตะเริ่ม เล่นเพื่อเริ่มต้น การแข่งขันในครึ่งเวลาหลังของการแข่งขัน ทั้งสองทีมจะเปลี่ยนแดนกันในครึ่งเวลาหลังของ การแข่งขัน และท่าการรุกประตูตรงข้าม ข้อ 9 ลูกบอลอยู่ในและนอกการเล่น ลูกบอลจะอยู่นอกการเล่นเมื่อลูกบอลได้ผ่านเส้นประตูหรือเส้นข้างออกไปหมดทั้งลูก และเมื่อผู้ตัดสิน สั่งหยุดเกม หากลูกฟุตบอลสัมผัสโดนตัวผู้ตัดสิน และบอลอยู่ในสนาม ซึ่งส่งผลกระทบต่อการเล่นของทีมบุก, บอลเปลี่ยนทางเข้าประตู หรือทีมสูญเสียการครองบอล ให้ถือว่าบอลนั้น เป็นบอลตาย และเริ่มเกมใหม่อีกครั้ง ด้วยการดร็อปบอล หากบอลสัมผัสโดนตัวผู้ตัดสิน แล้วไปชนเสา, ชนคาน หรือธงเตะมุม ให้ถือว่าเกมยังดำเนินต่อไป ข้อ 10 การนับประตู การนับประตูหรือการนับคะแนน ในการยิงเข้า 1 ลูกให้นับได้ว่าคือ 1 แต้ม จะได้ประตูเมื่อลูกบอลทั้ง ลูกได้ผ่านเส้นประตู ภายใต้เงื่อนไขว่าต้องไม่มีการกระทำผิดกติกาการแข่งขันเกิดขึ้นก่อนที่ทีมนั้นจะทำประตูได้ ข้อ 11 การล้ำหน้า ตำแหน่งล้ำหน้า คือ จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ อวัยวะส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายฝ่ายรุก (ยกเว้นมือและ แขน) อยู่เหนือว่าผู้เล่นตัวสุดท้ายของผู้เล่นฝ่ายรับ เมื่อกรรมการตัดสินให้เป็นลูกล้ำหน้า กรรมการจะให้ฝ่ายรับ เล่นลูกตั้งเตะจากบริเวณที่ล้ำหน้า ถ้าผู้รักษาประตูขว้างบอล เข้าสู่ประตูของฝ่ายตรงข้ามโดยตรง ไม่ถือว่าเป็นประตู และให้เริ่มเกมใหม่ ด้วยการเตะลูกตั้งเตะแทน
ข้อ 12 การเล่นที่ผิดกติกา ผู้เล่นได้ได้รับการคาดโทษ 3 แบบคือ ตักเตือน, ใบเหลือง และใบแดง หากผู้เล่นกระทำผิดตาม ความผิดข้อหนึ่งข้อใดต่อไปนี้ โดยผู้ตัดสินพิจารณาเห็นว่าขาดความระมัดระวัง ไม่ไตร่ตรองยั้งคิด หรือ ใช้กำลัง แรงเกินกว่าเหตุ จะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยตรง ได้แก่ เตะหรือพยายามเตะคู่ต่อสู้ ขัดขาหรือพยายามขัดขาคู่ต่อสู้ กระโดดเข้าใส่คู่ต่อสู้แบบไม่โดนฟุตบอล ชนคู่ต่อสู้ ทำร้ายหรือพยายามท่าร้ายคู่ต่อสู้ ผลักคู่ต่อสู้ สกัดกั้นคู่ต่อสู้เพื่อแย่งการครอบครองลูกบอล แต่ท่าการปะทะถูกตัวคู่ต่อสู้ก่อนที่จะสัมผัสลูกบอล ดึงคู่ต่อสู้ ถ่มน้ำลายใส่คู่ต่อสู้ เล่นลูกบอลด้วยมือโดยเจตนา (ยกเว้นผู้รักษาประตูที่อยู่ในเขตโทษของตนเอง) ข้อ 13 การเตะโทษ (Free Kicks) การเตะโทษมีทั้งโทษโดยตรง และโทษโดยอ้อม การเตะโทษโดยตรง ถ้าเตะโดยตรง เตะทีเดียวเข้าประตูของฝ่ายตรงข้ามโดยตรงจะถือว่าเป็นประตู ถ้าเตะโทษโดยตรง เตะทีเดียวเข้าประตูของตนเองโดยตรงจะให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะจากมุม การเตะโทษโดยอ้อม ผู้ตัดสินจะให้สัญญาณการเตะโดยการยกแขนชูขึ้นเหนือศีรษะค้างไว้ จนกว่าได้ทำการเตะไปแล้วและ ลูกบอลถูกสัมผัสโดยผู้เล่นอื่นๆ ข้อ 14 การเตะลูกโทษ การเตะลูกโทษ ณ จุดโทษ เป็นการทำผิดกติกาของทีมฝ่ายรับในกรอบเขตโทษของตนเอง ในขณะที่ ลูกบอลอยู่ในการเล่น สามารถทำประตูได้โดยตรงจากการเตะจุดโทษ ข้อ 15 การทุ่ม การทุ่ม เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการเริ่มเล่นใหม่ เมื่อฝ่ายตรงข้ามทำบอลออกเส้นข้างสนาม การทุ่มที่ถูกต้อง 1. หันหน้าเข้าสนาม มือทั้งสองข้างจับลูกฟุตบอล 2. ส่วนเท้าทั้งสองข้างอยู่บนเส้น หรือบนสนามนอกเส้นข้าง 3. ใช้มือทั้งสองข้าง ปล่อยลูกบอลจากด้านหลัง ผ่านศีรษะ และปล่อยบอลออกจากมือพร้อมกัน โดย เท้าทั้งสองข้างจะต้องสัมผัสพื้นอยู่ ข้อ 16 การเตะจากประตู การเตะจากประตู โกลคิก คือ เป็นวิธีการอย่างหนึ่งของการเริ่มเล่นใหม่ด้วยการเตะจากเขตประตู จากการที่ฝ่ายตรงข้ามทำบอลออกหลัง การเตะจากประตูสามารถทำประตูโดยได้เลย
ข้อ 17 การเตะมุม เกิดขึ้นเมื่อลูกบอลทั้งลูกได้ผ่านเส้นประตูออกไปยังนอกสนาม ไม่ว่าจะกลิ้งหรือลอยออกไปนอกสนาม ก็ตาม โดยผู้รักษาประตูเป็นคนสัมผัสบอลคนสุดท้ายก่อนลูกออก เมื่อได้ลูกเตะมุมผู้เตะต้องตั้งบอลในเขตเตะ มุม ใกล้กับธงมุมและเมื่อเตะลูกออกจะต้องไม่ทำให้ธงเคลื่อนที่ ในการเตะมุมถ้าเตะทีเดียวแล้วลูกเข้าประตูให้ นับว่าเป็นประตู ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามกับผู้เตะมุมจะเข้าใกล้ผู้เตะมุมน้อยกว่า 10 หลาไม่ได้นอกจากผู้เตะจะเตะลูก ไปไกลแล้วอย่างน้อยเท่ากับระยะรอบวงของลูกจึงจะเริ่มเล่นต่อไปได้ และจะเล่นลูกนั้นซ้ำไม่ได้จนกว่าลูกนั้น จะถูกตัวของผู้เล่นคนใดคนหนึ่งก่อน
แบบประเมินเจตคติ คำชี้แจง : ให้ครูทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน รวม หมายเหตุ ๓ ๒ ๑ ๑. ความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการ สอน ๒. นักเรียนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและ มีความสนุกสนาน ในการทำกิจกรรม คะแนนรวม ลงชื่อ………………….…………………….ผู้ประเมิน (………………..…………..………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนเป็นบางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๕ – ๖ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๓– ๔ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๑ – ๒ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจ กล้าแสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญ ด้านความสามารถในการสื่อสาร คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ตัวชี้วัดที่ ๑ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึกและทัศนะของตนเองด้วยการพูดและการ เขียน พฤติกรรมบ่งชี้ เขียนถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะของตนเองจากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษา ของตนเองได้ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) เขียนถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะของ ตนเองจากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษาของตนเองได้ เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษาของ ตนเองได้ เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึก และ ทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษา ของตนเองได้ ใจความ ครอบคลุม ครบถ้วนและ ถูกต้องตาม หลักการใช้ภาษา เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกและ ทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดู ด้วยภาษา ของตนเองได้ ใจความสำคัญ เป็นส่วนใหญ่แต่ ไม่ครบถ้วน สมบูรณ์และมี ข้อบกพร่องใน การใช้ภาษา วรรคตอนและ การเขียนคำไม่ เกิน ๒ แห่ง เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกและ ทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษา ของตนเอง ได้ใจ ความสำคัญเป็น บางส่วนและมี ข้อบกพร่องในการ ใช้ภาษาวรรคตอน และการเขียนคำ ตั้งแต่ ๓ แห่ง แต่ ไม่เกิน ๕ แห่ง เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกและ ทัศนะของ ตนเองจากสาร ที่อ่าน ฟังหรือดู ตามแบบ
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญ ด้านความสามารถในการคิด คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด คำชี้แจ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... ตัวชี้วัดที่ ๑ คิดพื้นฐาน (การคิดวิเคราะห์) พฤติกรรมบ่งชี้ หาความสัมพันธ์ของส่วนประกอบต่าง ๆ ของข้อมูลที่พบเห็นในบริบทของการดำเนิน ชีวิตประจำวัน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) หาความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ข้อมูลที่พบเห็นในบริบท ของการดำเนิน ชีวิตประจำวัน เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) หาความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของข้อมูลที่พบเห็นใน บริบทของการดำเนิน ชีวิตประจำวัน ระบุความสัมพันธ์ ของส่วนประกอบ ต่าง ๆ ของข้อมูล และสามารถ เชื่อมโยงกับ เหตุการณ์ ประจำวันได้ ถูกต้องครบถ้วน ระบุความสัมพันธ์ ของส่วนประกอบ ต่าง ๆ ของข้อมูล และสามารถ เชื่อมโยงกับ เหตุการณ์ที่พบ เห็นในประจำวัน ได้ถูกต้อง ระบุความสัมพันธ์ ของส่วนประกอบ ต่าง ๆ ของข้อมูล ได้ถูกต้อง แต่ไม่ สามารถเชื่อมโยง กับ เหตุการณ์ที่ พบเห็นในชีวิต ประจำวันได้ ไม่สามารถระบุ ความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของข้อมูล และ ไม่สามารถเชื่อม โยกับเชีวิตประจำ วันได้
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ ๓ มีวินัย คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... ตัวชี้วัดที่ ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๓.๑.๑ ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน และ รับผิดชอบในการทำงาน เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๓.๑.๑ ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลกฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครัว โรงเรียน และ สังคมไม่ ละเมิด สิทธิของ ผู้อื่น ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใช้ ชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบใน การ ทำงาน ไม่ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัวและ โรงเรียน ปฏิบัติตาม ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัวและ โรงเรียน ตรงต่อ เวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ปฏิบัติตาม ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัวและ โรงเรียน ตรงต่อ เวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบใน การทำงาน ปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ของครอบครัว โรงเรียน และ สังคม ไม่ละเมิด สิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบใน การทำงาน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้อที่ ๔ ใฝ่เรียนรู้ คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... ตัวชี้วัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๔.๑.๑ ตั้งใจเรียน ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ต่าง ๆ เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๔.๑.๑ ตั้งใจเรียน ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมี ความเพียร พยายามในการเรียนรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้าร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ ต่าง ๆ ไม่ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรง เวลาตั้งใจเรียน เอาใจใส่ในการ เรียน มีส่วนร่วม ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ เป็นบางครั้ง เข้าเรียนตรง เวลาตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียร พยายามในการ เรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการ เรียนรู้ และเข้า ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ บ่อยครั้ง เข้าเรียนตรง เวลาตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียร พยายามในการ เรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการ เรียนรู้ และเข้า ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ ทั้ง ภายในและ ภายนอก โรงเรียนเป็น ประจำ
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้..................คน คิดเป็นร้อยละ.................. นักเรียนนี่ไม่ผ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ........................ ..................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ........................ ..................................................................................................................................... ................ 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) ..................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................ 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ............................................................................................................................. ........................ ................................................................................................ ..................................................... ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ................................................................ครูผู้สอน ( ................................................... ) ตำแหน่ง ........................................... …………./……………./………
ความเห็นของหัวหน้าบริหารงานวิชาการ ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ............................................................. แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ลงชื่อ..................................................หัวหน้าวิชาการ (...............................................) ตำแหน่ง ครู ………/ ………… / ………………. ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (..............................................) ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน.............................. ………/ ………… / …………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา ฟุตบอล รหัสวิชา พ 21104 หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง การปฐมนิเทศ ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 แผนการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยและต่างประเทศ เวลา 1 ชั่วโมง ********************************************************************************** สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกมและการเล่นกีฬาโดยการปฏิบัติเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขันและชื่นชมสุนทรียภาพ ของการกีฬา สาระสำคัญ กีฬาฟุตบอล เป็นกีฬาที่มีผู้สนใจทั้งการเป็นผู้เล่นและผู้ชมเป็นจำนวนมาก การที่จะเล่นและดูฟุตบอล อย่างสนุกสนานและเข้าใจการเล่นอย่างถูกต้อง จำเป็นต้องเรียนรู้กฎ กติกา มารยาท การบำรุงรักษาอุปกรณ์ และการบำรุงรักษาสุขภาพ เพื่อให้การเล่นกีฬาฟุตบอลเกิดประสิทธิภาพสูงสุด จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนสามารถอธิบายประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลได้ (K) ๒. นักเรียนปฏิบัติตามขั้นตอนการรายงานประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลได้ (P) ๓. นักเรียนเห็นความสำคัญในการเล่นกีฬาฟุตบอลเป็นประจำสม่ำเสมอ (A) สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย ๒. ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในต่างประเทศ ๓. ความสำคัญของกีฬาฟุตบอล ๔. ประโยชน์ของกีฬาฟุตบอล สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในด้านการสื่อสาร ๒. ความสามารถในด้านการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย ๑. ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก 4 แถว
๒. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม ๓. ครูผู้สอนสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่จะเรียน ๔. ให้นักเรียนทำท่ากายบริหาร (ตัวแทนนักเรียนเป็นผู้นำ) ขั้นอธิบายและสาธิต ๑. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม เรื่อง ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยและ ต่างประเทศ จากนั้นแบ่งกลุ่มให้นักเรียน ๒ แถว โดยการคละนักเรียนหญิงและนักเรียนชาย เท่าๆ กัน ครู พูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล โดยมีการซักถามนักเรียน ให้นักเรียนตอบและบอกเป้าหมายในการ เรียนการสอน 2. ครูอธิบายประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยและต่างประเทศพอสังเขป ขั้นฝึกปฏิบัติ 1.แบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ ละ 6 คน ครูแจกใบความรู้ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษา 2.นักเรียนสรุปความรู้ที่ได้จาการศึกษาลงในสมุดตัวเอง ก่อนส่งครูตรวจ ขั้นนำไปใช้ 1. ให้แต่ละกลุ่มส่งตัวแทนมากลุ่มละ 2 คน ออกมาอธิบายประวัติความเป็นมาของกีฬา ฟุตบอล ความสำคัญและประโยชน์ของกีฬาฟุตบอล ขั้นสรุปและสุขปฏิบัติ ๑. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการเรียนการสอนและทบทวนบทเรียนโดยการถามนักเรียนให้ นักเรียนตอบโดยครูคอยให้คำแนะนำ และสอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ให้ นักเรียนมีความตระหนัก และบังเกิดกับนักเรียนทุกคน ๒. เก็บรักษาอุปกรณ์การเรียน ๓. นักเรียนปฏิบัติกิจกรรมสุขปฏิบัติ ( ทำความสะอาดร่างกาย เช่น มือ แขน และใบหน้า ) สื่อ/แหล่งเรียนรู้ สื่อ - ใบความรู้ แหล่งเรียนรู้ - Internet -ห้องพลศึกษา
การวัดและการประเมินผล เป้าหมายการเรียนรู้ หัวข้อการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือ วิธีวัดผล เกณฑ์การประเมิน ความรู้ ความเข้าใจ (K) นักเรียนสามารถ อธิบายความรู้ทั่วไป เกี่ยวกับประวัติความ เป็นมาของกีฬา ฟุตบอลในประเทศ ไทยและต่างประเทศ ได้ถูกต้อง แบบสอบถาม ประเมินจาก แบบสอบถาม ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คุณภาพดีขึ้นไป เจตคติ (A) ๑. นักเรียนมีความ สนใจและมีส่วน ร่วมกับกิจกรรมการ เรียนการสอน ๒. นักเรียน สนุกสนานกับ กิจกรรมการเรียน การสอน แบบประเมินเจตคติ สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คุณภาพผ่านขึ้นไป ทักษะ/กระบวนการ (P) นักเรียนสามารถนำ ความรู้ที่ได้มาใช้ใน การตอบคำถามเรื่อง ประวัติความเป็นมา ของกีฬาฟุตบอลใน ประเทศไทยและ ต่างประเทศ แบบประเมินการ ทักษะการนำความรู้ ทั่วไปเกี่ยวกับ ประวัติความเป็นมา ของกีฬาฟุตบอลใน ประเทศไทยและ ต่างประเทศ สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คุณภาพดีขึ้นไป สมรรถนะสำคัญ 1. ด้าน ความสามารถในการ สื่อสาร 2. ด้าน ความสามารถในการ คิด 1. แบบประเมิน สมรรถนะที่สำคัญ ด้านความสามารถ ในการสื่อสาร 2. แบบประเมิน สมรรถนะที่สำคัญ ด้านความสามารถ ในการคิด สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คะแนนผ่าน (1) ขึ้น ไป
เป้าหมายการเรียนรู้ หัวข้อการวัดและ ประเมินผล เครื่องมือ วิธีวัดผล เกณฑ์การประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 1. แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ข้อที่ ๓ มี วินัย 2. แบบประเมิน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ข้อที่ 4 ใฝ่เรียนรู้ สังเกตจากการร่วม กิจกรรมในชั้นเรียน ผ่านเกณฑ์การ ประเมินที่ระดับ คะแนนผ่าน (1) ขึ้น ไป เกณฑ์การประเมิน ภายใน ๓๐ นาที -ตอบคำถามถูก ๕ ข้อได้ ๕ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๔ ข้อได้ ๔ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๓ ข้อได้ ๓ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๒ ข้อได้ ๒ คะแนน -ตอบคำถามถูก ๑ ข้อได้ ๑ คะแนน
เรื่อง ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทยและต่างประเทศ จุดประสงค์ เพื่อให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับความรู้ทั่วไปของกีฬาฟุตบอล ว่ากีฬาฟุตบอลมีความเป็นมาอย่าง ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2443 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี (สนั่น เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ซึ่งตอนนั้นมียศเป็นหลวงไพศาลศิลปศาสตร์ เป็นผู้ริเริ่มร่างกติกากีฬาฟุตบอลใน สยามเป็นครั้งแรก จนกระทั่งเกิดความนิยมแผ่ขยายกว้างขวางไปทั่วประเทศ การแข่งขันฟุตบอลนัดแรกที่ถูก บันทึกในประเทศไทย โดยใช้กติกาของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ เกิดขึ้นในวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2443 ระหว่าง ทีมชาวบริเตนในบางกอก กับทีมกรมศึกษาธิการ การแข่งขันจบลงด้วยผลเสมอ ฟุตบอลในประเทศสยามเริ่มเป็นที่นิยมกว้างขวางมากขึ้น ในปี พ.ศ. 2443 จึงมีการแข่งขันฟุตบอล นักเรียนชิงโล่ห์กรมศึกษาธิการ ใช้กติกาแบบแพ้คัดออก โดยมี 9 ทีมเข้าร่วมในการแข่งขันนั้น พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งสโมสรคณะฟุตบอล สยาม ขึ้นโดยมีพระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ทรงลงแข่งขันเป็นผู้เล่นเอง และเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2458 มีการจัดแข่งขันในระดับนานาชาติขึ้นเป็นครั้งแรกระหว่างทีมชาติสยาม (ปัจจุบันคือ ฟุตบอลทีม ชาติไทย) กับทีมราชกรีฑาสโมสร ที่สนามราชกรีฑาสโมสร โดยมีดักลาส โรเบิร์ตสัน เป็นกรรมการผู้ตัดสิน จากนั้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2459 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้ง สมาคมฟุตบอลแห่งชาติสยาม ขึ้นโดยทรงรับเข้าอยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ตั้งแต่เริ่มแรก พร้อมทั้งตราข้อบังคับสมาคมฯ และแต่งตั้งสภากรรมการบริหารชุดแรก ประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ 7 ท่าน โดยมีพระยาประสิทธิ์ศุภการ (หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ; ต่อมาโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็น เจ้าพระยารามราฆพ) เป็นนายกสภาฯ และพระราชดรุณรักษ์ (เสริญ ปันยารชุน; ต่อมาโปรดเกล้าฯ เลื่อน บรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นพระยาปรีชานุสาสน์) เป็นเลขาธิการ ต่อมาราวปลายปีเดียวกัน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ริเริ่มการแข่งขัน "ฟุตบอลถ้วยทองของ หลวง" ขึ้น มี 12 ทีมเข้าร่วมในขณะนั้น ซึ่งต่อมาการแข่งขันนี้จะรู้จักกันในชื่อฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน ประเภท ก. และแยกกับฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานประเภท ข. ทั้งนี้สมาคมฯ เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสหพันธ์ ใบความรู้
ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2468 การแข่งขันฟุตบอลระหว่างชาตินัดแรกของทีม ชาติไทย เป็นการพบกับทีมชาติสหภาพอินโดจีนของฝรั่งเศส ในปี พ.ศ. 2473 ช่วงเวลาเดียวกับการเสด็จ ประพาสสหภาพอินโดจีนของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประชาธิปก โดยเป็นชัยชนะอย่างเด็ดขาดของทีม ชาติไทย ด้วยผลการแข่งขัน 4-0 สืบเนื่องจากที่รัฐบาลจอมพลแปลก พิบูลสงคราม ประกาศรัฐนิยมเปลี่ยนชื่อประเทศจากสยามเป็น ไทยเมื่อปี พ.ศ. 2482 จึงเปลี่ยนชื่อสมาคมเป็น สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ เปลี่ยนชื่อฟุตบอลทีมชาติเป็น ฟุตบอลทีมชาติไทย มีการแข่งขันฟีฟ่ารับรองนัดแรกในปี พ.ศ. 2491 ที่ กรุงเทพมหานคร ทีมชาติไทยพ่ายทีมชาติสาธารณรัฐจีนไป 1-6 โดยสมาคมฯ ส่งฟุตบอลทีมชาติไทยลงแข่งขัน ระดับนานาชาติเป็นครั้งแรก ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนครั้งที่ 16 ที่นครเมลเบิร์นของออสเตรเลีย เมื่อ ปี พ.ศ. 2499 จากนั้นสมาคมฯ เข้าร่วมเป็นสมาชิกของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) เมื่อปี พ.ศ. 2500 และ เข้าร่วมเป็นสมาชิกก่อตั้งของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟเอฟ) เมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2527 ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2504 สมาคมฯ จัดระบบการแข่งขันฟุตบอลเสียใหม่เป็นระดับชั้น (Division) โดยตั้ง วัตถุประสงค์เพื่อความเป็นเลิศ ตามรูปแบบของสมาคมฟุตบอลอังกฤษในขณะนั้น คือจัดเป็นฟุตบอลถ้วย พระราชทาน ประเภท ก, ข, ค และ ง ตลอดจนไทยเอฟเอคัพ (เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2513) รวมถึง ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ (เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2511) และควีนสคัพ (เริ่มจัดครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2513) เป็นต้น นอกจากนี้ ยังจัดการแข่งขันในระดับอื่นเช่น ฟุตบอลนักเรียน, ฟุตบอลอาชีวศึกษา, ฟุตบอล เยาวชนและอนุชน, ฟุตบอลเตรียมอุดมศึกษา, ฟุตบอลอุดมศึกษา รวมทั้งกำกับดูแลในการส่งทีมฟุตบอลต่างๆ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างประเทศอีกด้วย
ประวัติความเป็นมาของกีฬาฟุตบอลในต่างประเทศ ฟุตบอล (Football) หรือ ซอกเกอร์ (Soccer) เป็นกีฬาที่มีคนสนใจในการเล่น และเข้าชมสูงที่สุดของ โลก แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่า กีฬาฟุตบอลถือกำเนิดมาจากชนชาติใด โดยเฉพาะเป็นกีฬายอดนิยมสูงสุดของ โลก ก็ยิ่งทำให้ทุกๆ ประเทศมีวิวัฒนาการทางการกีฬา ยืนยันว่าเป็นกีฬาที่เกิดจากประเทศของตนทั้งสิ้น แต่ ประเทศที่อ้างว่าเป็นกีฬาที่เกิดขึ้นจากตนเอง ก็ไม่สามารถหาหลักฐาน ยืนยัน จึงเพียงแต่กล่าวว่า น่าจะเป็นไป ได้ทั้งสิ้น ทั้งนี้ จะเป็นจริงหรือไม่อย่างใดนั้น สามารถวิเคราะห์ได้ว่าเกิดจากที่ใด สรุปได้ดังนี้คือ เมื่อประมาณ 2,500 ปีมาแล้ว มีหลักฐานบันทึกไว้ว่า ในประเทศจีนมีการเล่นเกมอย่างหนึ่ง เรียกว่า ซูจู (Tsu Chu) ซึ่งหมายถึง เกมที่ใช้เท้าเตะลูกบอล โดยมากการเล่นเกมนี้ จะเป็นการเล่นถวายพระเจ้า จักรพรรดิ ผู้ชนะจะได้รางวัลอย่างงาม ส่วนผู้แพ้บางครั้งจะถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยน ชาวญี่ปุ่นก็เป็นอีกชาติหนึ่งที่มีเกมการเล่นในลักษณะที่ใช้เท้าเล่น เรียกว่า เกมาริ (Kemari) โดยมีการ กำหนดขอบเขต และมุมของสนามด้วยต้นสน ต้นเชอรี่ ต้นเมเปิล หรือต้นวิลโล เป็นแนวเขตธรรมชาติ ชาวโรมันในสมัยโบราณมีเกมการเล่นชนิดหนึ่งเรียกว่าฮาร์พาสเตียม (Harpastium) โดยใช้กระเพาะ ปัสสาวะของหมูเอามาสูบลมแล้วนำมาเตะกัน นอกจากจะเตะแล้วอาจใช้การผลัก ถือ วิ่ง ชก ขว้างปา ให้ลูก บอลไปถึงที่หมายของฝ่ายตรงข้ามให้ได้ ซึ่งคล้ายกับกีฬารักบี้ฟุตบอล ในสมัยปัจจุบัน ในเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี มีเกมคล้าย ๆ กันนี้ เรียกว่า กัลโช (Calcio) โดยเล่นกันที่เปียซซ่า เดลลา โครเก (Piazza della Croce) มีผู้เล่นข้างละ 27 คน แต่ละทีมจะสวมชุดเครื่องแต่งกายประจำถิ่นหรือ หมู่บ้านนั้น ๆ ตามความนิยมในสมัยนั้น ปัจจุบันเกมนี้ยังคงได้รับการฟื้นฟูจากทางการของอิตาลีจัดแสดงให้ นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เชื่อกันว่าชาวโรมันเป็นผู้นำเกมการเล่นแบบเตะลูกบอล(Harpastium) มายังประเทศอังกฤษ แต่ก็ไม่ ปรากฏหลักฐานแน่ชัด จนกระทั่งหลายศตวรรษ หลังจากโรมันได้จากเกาะอังกฤษไปแล้ว ในประมาณปี พ.ศ. 1343 กองทัพเดนมาร์ค ได้ยกเข้าโจมตีที่มั่นของอังกฤษที่เมืองคิงสตัน (Kingston) นักประวัติศาสตร์บางท่าน บอกว่าเป็นที่มั่นเมืองเชสเตอร์ (Chester) ทหารอังกฤษที่ประจำอยู่ที่มั่นดังกล่าว ได้ต่อสู้เป็นสามารถ ในที่สุด เมื่อได้รับการสนับสนุนจากเมืองหลวง คือ ลอนดอน (London) ก็สามารถตีกองทัพเดนมาร์คแตกพ่ายไป แม่ ทัพเดนมาร์คถูกฆ่าตาย และทหารอังกฤษได้ตัดเอาศีรษะของเขามาเตะเล่นกันไปรอบ ๆ ค่ายทหาร วันที่ อังกฤษได้รับชัยชนะนั้น คือ วันมาดิกราส์ (Shrove Tuesday) ซึ่งต่อมาถือเป็นวันสำคัญแห่งชาติอังกฤษไป เกมการเตะศีรษะคนก็เปลี่ยนมาเป็นเกมการเตะลูกบอลที่ทำด้วยหนัง กลายเป็นกิจกรรมสำคัญสำหรับฉลองใน
เทศกาลวันสำคัญดังกล่าว และแพร่หลายไปตามชนบท คนทั้งหมู่บ้านออกมาเตะฟุตบอลเล่นกัน ผู้เล่นสามารถ ใช้ทุกส่วนสัมผัสลูกบอลได้ ประตูซึ่งอาจจะเป็นประตูเมือง หรือต้นไม้ จะอยู่ห่างกันหลายร้อยเมตร เป็นการ เล่นที่รุนแรง (ถูกนำมาใช้) ทำให้เกิดความเสียหายและบาดเจ็บต่อผู้เล่นเป็นจำนวนมาก จนบางครั้งดูเป็นความ โหดร้ายป่าเถื่อน จนถึงขึ้นการจลาจลบ่อย ๆ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 2 และพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 จึงได้ทรงห้ามไม่ให้ มีการเล่นเกมฟุตบอลที่โหดร้ายนี้อีกต่อไป แต่ก็ยังมีการเล่นอยู่ประปราย ความรุนแรงของการเล่นฟุตบอลค่อย ๆ ลดลง จนกระทั่งปี พ.ศ.2243 โรงเรียนที่มีชื่อเสียงในอังกฤษ เช่น โรงเรียนรักบี้ (Rugby) และโรงเรียนอีตัน (Eton) ก็นำเกมฟุตบอลมาฟื้นฟู มีการพยายามกำหนดกฎ กติกาการเล่น แต่ก็ยังไม่เป็นมาตรฐาน เพราะแต่ละแห่งจะสร้างกติกา เพื่อประโยชน์ของทีมตนเองทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขกฎกติกาการเล่นของแต่ละแห่งทำให้นักกีฬาใหม่ขึ้นมา อยู่ 2 ลักษณะ คือ ไปในแนวทางรักบี้ฟุตบอล (Rugby Football) และฟุตบอล (Soccer or Association Football) ปี พ.ศ.2343 กีฬาฟุตบอลได้รับการพัฒนาให้มีการเล่นที่สุภาพมากขึ้น มีความปลอดภัยมากขึ้น มี การรวมกลุ่มกันจัดตั้งสมาคมฟุตบอลแห่งอังกฤษขึ้นเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ.2406 โดยการรวมกลุ่มของสโมสร ฟุตบอลในลอนดอน 11 แห่ง เพื่อร่วมกันปรับปรุง แก้ไข กฎ กติกา การเล่นให้เป็นไปในแนวทางเดียวกันอัน ถือว่าเป็นการเริ่มต้นการเล่นกีฬาฟุตบอลในรูปแบบปัจจุบัน การเล่นฟุตบอลในประเทศอังกฤษได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย การเผยแพร่ของทหารบกและทหารเรือของอังกฤษ ซึ่งขณะนี้มีประเทศที่เป็นอาณานิคมอยู่แทบทุกหนทุกแห่ง จึงได้มีการก่อตั้งสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (The Federation International de Football Association) หรือเรียกว่า ฟีฟ่า (F.I.F.A.) โดยมีสำนักงานใหญ่ ตั้งอยู่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีประเทศ สมาชิกก่อตั้ง 7 ประเทศ ปัจจุบันนี้มีประเทศต่าง ๆ สมัครเป็นสมาชิกเกือบ 200 ประเทศ ปัจจุบันฟุตบอลถือได้ว่าเป็นกีฬายอดนิยมอันดับหนึ่ง มีการจัดการแข่งขันรายการต่าง ๆ มากมาย ทั้ง ระดับภายในประเทศ ระดับนานาชาติ และ ระดับโลก การแข่งขันที่ถือว่าเป็นสุดยอดของรายการแข่งขัน ฟุตบอล ได้แก่ การแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup) ซึ่งจะมีการแข่งขันทุกๆ 4 ปีต่อครั้ง โดยเริ่มจัดการ แข่งขันครั้งแรกที่ประเทศอุรุกวัย เมื่อปี พ.ศ. 2473 และอุรุกวัยเป็นประเทศแรกที่ชนะเลิศฟุตบอลโลก ได้ ครองถ้วย จูล ริเมต์ (Jules Rimet) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มให้มีการแข่งขันฟุตบอลโลกขึ้น และประกอบกับท่านเป็น ประธานสหพันธ์ฟุตบอลโลก หรือ F.I.F.A. ในขณะนั้นด้วย ต่อมาถ้วยใบนี้ได้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของประเทศ บราซิล เมื่อบราซิลเป็นประเทศแรกที่ชนะเลิศฟุตบอลโลกครบ 3 ครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2513 ที่ประเทศเม็กซิโก เป็นเจ้าภาพ F.I.F.A. จึงได้จัดทำถ้วยใบใหม่เพื่อจัดการแข่งขันต่อไป ซึ่งทวีปเอเชียได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพ จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี พ.ศ. 2545 ณ ประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ และ ปี พ.ศ. 2549 ประเทศเยอรมัน ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน มีทีมเข้าร่วมการแข่งขันรอบสุดท้าย 32 ทีม จากทุกทวีป
แบบประเมินเจตคติ คำชี้แจง : ให้ครูทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน ประเด็นการประเมิน ระดับคะแนน รวม หมายเหตุ ๓ ๒ ๑ ๑. ความกระตือรือร้นในการเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนการ สอน ๒. นักเรียนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและ มีความสนุกสนาน ในการทำกิจกรรม คะแนนรวม ลงชื่อ………………….…………………….ผู้ประเมิน (………………..…………..………….……) …………/…………/……….. เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนเป็นบางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่ำเสมอ ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๕ – ๖ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๓– ๔ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๑ – ๒ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะการนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม คำชี้แจง ให้ครูทำเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนตามเกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑. ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ในการตอบคำถาม ๒. การแสดงออก -ความตั้งใจ ความมั่นใจและกล้าแสดงออก เกณฑ์การประเมินทักษะการนำความรู้มาตอบคำถาม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) ผ่าน (๑) ไม่ผ่าน (๐) ๑.ความรู้และทักษะ - การนำความรู้มาใช้ ในการตอบคำถาม มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องทั้งหมด มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๘๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องมากกว่า ๕๐% มีความรู้และ ทักษะ ตอบคำถามได้ ถูกต้องน้อย ๕๐% ๒. ความตั้งใจ ความ มั่นใจและกล้า แสดงออก มีความตั้งใจ ความ มั่นใจ กล้าแสดงออก มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก ไม่มีความตั้งใจ ขาดความกล้า แสดงออก เกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพ คะแนนระหว่าง ๖ คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนนระหว่าง ๔ – ๕ คะแนน หมายถึง ดี คะแนนระหว่าง ๒ – ๓ คะแนน หมายถึง ผ่าน คะแนนระหว่าง ๐ – ๑ คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินทักษะกระบวนการพลศึกษา ชื่อ ชั้น คำชี้แจง : ให้ ผู้สอน สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ ลงในช่อง ที่ตรงกับระดับคะแนน ลำดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน 3 2 1 1 ปฏิบัติได้ตามวิธีการ 2 ปฏิบัติได้อย่างคล่องแคล่ว 3 ปฏิบัติได้ตามเวลาที่กำหนด 4 ปฏิบัติด้วยความระมัดระวังด้านความปลอดภัย 5 มีน้ำใจนักกีฬา รวม ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ............../.................../................ เกณฑ์การให้คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญ ด้านความสามารถในการสื่อสาร คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ตัวชี้วัดที่ ๑ใช้ภาษาถ่ายทอดความรู้ ความเข้าใจ ความคิด ความรู้สึกและทัศนะของตนเองด้วยการพูดและการ เขียน พฤติกรรมบ่งชี้ เขียนถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะของตนเองจากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษา ของตนเองได้ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) เขียนถ่ายทอดความคิด ความรู้สึกและทัศนะของ ตนเองจากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษาของตนเองได้ เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึก และทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษาของ ตนเองได้ เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึก และ ทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษา ของตนเองได้ ใจความ ครอบคลุม ครบถ้วนและ ถูกต้องตาม หลักการใช้ภาษา เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกและ ทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดู ด้วยภาษา ของตนเองได้ ใจความสำคัญ เป็นส่วนใหญ่แต่ ไม่ครบถ้วน สมบูรณ์และมี ข้อบกพร่องใน การใช้ภาษา วรรคตอนและ การเขียนคำไม่ เกิน ๒ แห่ง เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกและ ทัศนะของตนเอง จากสารที่อ่าน ฟัง หรือดูด้วยภาษา ของตนเอง ได้ใจ ความสำคัญเป็น บางส่วนและมี ข้อบกพร่องในการ ใช้ภาษาวรรคตอน และการเขียนคำ ตั้งแต่ ๓ แห่ง แต่ ไม่เกิน ๕ แห่ง เขียนถ่ายทอด ความคิด ความรู้สึกและ ทัศนะของ ตนเองจากสาร ที่อ่าน ฟังหรือดู ตามแบบ
แบบประเมินสมรรถนะสำคัญ ด้านความสามารถในการคิด คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด คำชี้แจ สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... ตัวชี้วัดที่ ๑ คิดพื้นฐาน (การคิดวิเคราะห์) พฤติกรรมบ่งชี้ หาความสัมพันธ์ของส่วนประกอบต่าง ๆ ของข้อมูลที่พบเห็นในบริบทของการดำเนิน ชีวิตประจำวัน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) หาความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ข้อมูลที่พบเห็นในบริบท ของการดำเนิน ชีวิตประจำวัน เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ดีเยี่ยม (๓) ดี (๒) พอใช้ (๑) ปรับปรุง (๐) หาความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของข้อมูลที่พบเห็นใน บริบทของการดำเนิน ชีวิตประจำวัน ระบุความสัมพันธ์ ของส่วนประกอบ ต่าง ๆ ของข้อมูล และสามารถ เชื่อมโยงกับ เหตุการณ์ ประจำวันได้ ถูกต้องครบถ้วน ระบุความสัมพันธ์ ของส่วนประกอบ ต่าง ๆ ของข้อมูล และสามารถ เชื่อมโยงกับ เหตุการณ์ที่พบ เห็นในประจำวัน ได้ถูกต้อง ระบุความสัมพันธ์ ของส่วนประกอบ ต่าง ๆ ของข้อมูล ได้ถูกต้อง แต่ไม่ สามารถเชื่อมโยง กับ เหตุการณ์ที่ พบเห็นในชีวิต ประจำวันได้ ไม่สามารถระบุ ความสัมพันธ์ของ ส่วนประกอบต่าง ๆ ของข้อมูล และ ไม่สามารถเชื่อม โยกับเชีวิตประจำ วันได้
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ข้อที่ ๓ มีวินัย คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... ตัวชี้วัดที่ ๓.๑ ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๓.๑.๑ ปฏิบัติตนตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของครอบครัว โรงเรียน และสังคม ไม่ ละเมิดสิทธิของผู้อื่น ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน และ รับผิดชอบในการทำงาน เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๓.๑.๑ ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลกฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับของ ครอบครัว โรงเรียน และ สังคมไม่ ละเมิด สิทธิของ ผู้อื่น ๓.๑.๒ ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใช้ ชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบใน การ ทำงาน ไม่ปฏิบัติตนตาม ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัวและ โรงเรียน ปฏิบัติตาม ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัวและ โรงเรียน ตรงต่อ เวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน ปฏิบัติตาม ข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบข้อบังคับ ของครอบครัวและ โรงเรียน ตรงต่อ เวลาในการปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบใน การทำงาน ปฏิบัติตาม ข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ของครอบครัว โรงเรียน และ สังคม ไม่ละเมิด สิทธิของผู้อื่น ตรงต่อเวลาในการ ปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน และรับผิดชอบใน การทำงาน
แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ข้อที่ ๔ ใฝ่เรียนรู้ คำสั่ง ให้สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนตามพฤติกรรมที่กำหนด คำชี้แจง สังเกตพฤติกรรมของนักเรียนแล้วเติมเครื่องหมาย ลงในช่องระดับคะแนนให้ตรงกับความเป็นจริง ชื่อ-นามสกุล..........................................................................................................................เลขที่............ รายวิชา.......................................................รหัสวิชา..................................ชั้น........................................... ตัวชี้วัดที่ ๔.๑ ตั้งใจ เพียรพยายามในการเรียนและเข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๔.๑.๑ ตั้งใจเรียน ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมีความเพียร พยายามในการเรียนรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้าร่วมกิจกรรม การเรียนรู้ต่าง ๆ เกณฑ์การประเมิน พฤติกรรมบ่งชี้ ระดับคะแนน ไม่ผ่าน (๐) ผ่าน (๑) ดี (๒) ดีเยี่ยม (๓) ๔.๑.๑ ตั้งใจเรียน ๔.๑.๒ เอาใจใส่และมี ความเพียร พยายามในการเรียนรู้ ๔.๑.๓ สนใจเข้าร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ ต่าง ๆ ไม่ตั้งใจเรียน เข้าเรียนตรง เวลาตั้งใจเรียน เอาใจใส่ในการ เรียน มีส่วนร่วม ในการเรียนรู้ และเข้าร่วม กิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ เป็นบางครั้ง เข้าเรียนตรง เวลาตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียร พยายามในการ เรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการ เรียนรู้ และเข้า ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ บ่อยครั้ง เข้าเรียนตรง เวลาตั้งใจเรียน เอาใจใส่และมี ความเพียร พยายามในการ เรียนรู้ มีส่วน ร่วมในการ เรียนรู้ และเข้า ร่วมกิจกรรมการ เรียนรู้ต่าง ๆ ทั้ง ภายในและ ภายนอก โรงเรียนเป็น ประจำ
บันทึกผลหลังการจัดการเรียนรู้ สรุปผลหลังการจัดการเรียนรู้ 1. นักเรียนจำนวน..................คน ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้......................คน คิดเป็นร้อยละ.................. ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้..................คน คิดเป็นร้อยละ.................. นักเรียนนี่ไม่ผ่าน มีดังนี้ 1............................................................ 2............................................................ 3............................................................ 4............................................................ 5............................................................ 6............................................................ แนวทางแก้ไขนักเรียนที่ไม่ผ่านจุดประสงค์การเรียนรู้ ............................................................................................................................. ........................ ..................................................................................................................................................... 2. นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจ (K) ............................................................................................................................. ........................ ..................................................................................................................................... ................ 3. นักเรียนมีความรู้เกิดทักษะ (P) ..................................................................................................................................................... ............................................................................................................................. ........................ 4. นักเรียนมีเจตคติ ค่านิยม คุณธรรมจริยธรรม (A) ............................................................................................................................. ........................ ................................................................................................ ..................................................... ปัญหา อุปสรรค และแนวทางแก้ไข …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ข้อเสนอแนะ …………………………………………………………………………………………………………………………………………. ลงชื่อ................................................................ครูผู้สอน ( ................................................... ) ตำแหน่ง ........................................... …………./……………./………
ความเห็นของหัวหน้าบริหารงานวิชาการ ได้ทำการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้ของ............................................................. แล้วมีความเห็นดังนี้ 1. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง 2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรียนรู้ เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมาใช้ในการสอนได้อย่างเหมาะสม ยังไม่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ควรปรับปรุงพัฒนาต่อไป 3. เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ที่ นำไปใช้ได้จริง ควรปรับปรุงก่อนนำไปใช้ ลงชื่อ..................................................หัวหน้าวิชาการ (...............................................) ตำแหน่ง ครู ………/ ………… / ………………. ข้อเสนอแนะของผู้บริหาร ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ.................................................. (..............................................) ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน.............................. ………/ ………… / …………
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สุขศึกษาและพลศึกษา รายวิชา ฟุตบอล รหัสวิชา พ 21104 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาฟุตบอล ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 แผนการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อไหวเบื้องต้นในการเล่นกีฬาฟุตบอล เวลา 1 ชั่วโมง ********************************************************************************** สาระที่ ๓ การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลื่อนไหว กิจกรรมทางกายภาพ การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกมและการเล่นกีฬาโดยการปฏิบัติเป็นประจำ อย่างสม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขันและชื่นชมสุนทรียภาพ ของการกีฬา สาระสำคัญ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อเป็นสิ่งจําเป็นในการเล่นกีฬาฟุตบอลเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ เพราะเอ็นข้อต่อ และเส้นใยกล้ามเนื้อที่ได้รับการยืดเหยียดก่อนลงสนามจะมีความยาวและมุมการเคลื่อนไหวที่ดี ช่วยป้องกัน การฉีกขาดของเส้นใยกล้ามเนื้อ ลดการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นจากการเล่นกีฬาฟุตบอล และการเคลื่อนไหวเป็น พื้นฐานในการเล่นกีฬาฟุตบอลที่สำคัญมาก จุดประสงค์การเรียนรู้ ๑. นักเรียนมีความรู้และความเข้าใจวิธีการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อไหวเบื้องต้นในการเล่น กีฬาฟุตบอล (K) ๒. นักเรียนสามารถปฏิบัติตามทักษะการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อไหวเบื้องต้นในการเล่น กีฬาฟุตบอลได้ (P) ๓. นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการฝึกการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อไหวเบื้องต้นในการ เล่นกีฬาฟุตบอล (A) สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้แกนกลาง ๑. การสร้างความคุ้นเคยในการเล่นกีฬาฟุตบอล 1.1 ยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการเคลื่อไหวเบื้องต้นในการเล่นกีฬาฟุตบอล สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ๑. ความสามารถในด้านการสื่อสาร ๒. ความสามารถในด้านการคิด คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝ่เรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นเตรียมและอบอุ่นร่างกาย ๑ ให้นักเรียนเข้าแถวตอนลึก ๕ แถว ๒. ให้นักเรียนนั่งลงกับพื้นฟังรายละเอียดกิจกรรม