จดั ทำโดย นำย รณกร โมสลดุ ม3/2 เลขท่1ี 2
E-Book เขือ่ นเก็บนำลำตะคอง
1. ประวัตควำมเปน็ มำของเข่อื นลำตะคอง
ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ
เนอื้ ท่ีชลประทำนรวม 137,500 ไร่ ใช้คลองธรรมชำติเปน็ คลองส่งนำ้
บรรเทำอุทกภยั ในทุ่งรำบสองฝง่ั ลำตะคอง ซ่งึ เป็นท่ีเพำะปลูกและที่อย่อู ำศัย
กับที่รำบบำงสว่ นของลุ่มนำ้ มลู ให้นอ้ ยลง
ส่งนำ้ เพื่อกำรประปำในเขตสุขำภิบำล เทศบำล และโรงงำนอตุ สำหกรรมของ
จงั หวดั นครรำชสีมำ
เปน็ แหล่งเพำะพันธป์ ลำ ท่องเท่ยี ว และพักผ่อนหยอ่ นใจ
ควำมเป็นมำ
ลำตะคองเป็นสำขำสำคัญสำยหนง่ึ ของแม่น้ำมูล มีต้นน้ำอยู่ระหวำ่ งเขำ
ฟำ้ ผ่ำ อำเภอปำกชอ่ ง จังหวัดนครรำชสีมำ กับเขำฝำละมี อำเภอเมอื ง
นครนำยก จงั หวัดนครนำยก ไหลผำ่ นทต่ี งั้ จังหวดั นครรำชสมี ำไปลงแมน่ ้ำมลู
ทอ่ี ำเภอจกั รำช รวมควำมยำมทัง้ สำย 220 กิโลเมตร
หลงั จำกสงครำมโลกครั้งท่ี 2 ป่ำไม้บรเิ วณตน้ น้ำของลำนำ้ ในภำค
ตะวนั ออกเฉียงเหนอื ได้ถูกบกุ เบกิ เพิ่มข้ึน มำก โดยเฉพำะในบริเวณลุ่มน้ำลำตะ
คอง ซ่งึ เป็นล่มุ นำ้ ทตี่ ิดตอ่ กับภำคกลำง และมที ำงคมนำคมสะดวก จงึ เกิด
สภำพกำรขำดแคลนนำ้ และนำ้ ทว่ มที่รำบสองฝ่งั ลำตะคอง ซึ่งประชำชนอยู่กัน
หนำแน่น จนกระทงั่ ในฤดูแลง้ ไม่มีนำ้ ในลำตะคอง ใชส้ ำหรบั ทำกำรประปำใน
จงั หวดั นครรำชสมี ำ ตอ้ งอำศัยน้ำจำกอำ่ งเก็บน้ำห้วยบำ้ นยำง ซ่ึงเป็นอำ่ ง
ขนำดเล็กมำชว่ ย แตก่ ็ยงั ไม่เพียงพอกับควำมต้องกำร จึงจำเปน็ ตอ้ งสร้ำง
เขอื่ น เก็บนำ้ ทำงต้นน้ำของลำตะคองขึ้นเพ่อื แกป้ ัญหำเร่อื งน้ำดังกลำ่ ว
ลักษณะโครงกำร
เป็นเขือ่ นดินเกบ็ กกั น้ำ ปดิ กนั้ แม่นำ้ ลำตะคอง
สงู 40.3 ม. ยำว 521 ม. มชี ่องระบำย 1 ชอ่ ง
ระดบั สันเข่อื น + 282.30 ร.ท.ก.
ระดับเก็บกกั + 277.00 ร.ท.ก. ระดับน้ำสงู สุด + 280.00 ร.ท.ก.
ปริมำณน้ำทรี่ ะดบั เก็บกัก 310 ล้ำน ลบ.ม. ปรมิ ำณน้ำท่ีระดบั เก็บกักสงู สุด
445 ล้ำน ลบ.ม.
ควำมจุกน้ อ่ำงฯ ทร่ี ะดับ + 261.00 ร.ท.ก. 20 ลำ้ น ลบ.ม.
อำณำเขตรับน้ำ 1,430 ตร.กม. พื้นทีอ่ ่ำงฯ ท่ีระดบั เกบ็ กกั สงู สุด 554 ตร.
กม.
ปรมิ ำณนำ้ ไหลลงอำ่ ง 212 ลำ้ น ลบ.ม./ปี ปริมำณฝนเฉลี่ย 1,113 มม./ปี
River Outlet ขนำดเส้นผำ่ ศนู ย์กลำง 3.50 ม. สง่ นำ้ ได้ 20 ลบ.ม./
วนิ ำที ระดบั ธรณีทอ่ + 261.00 ร.ท.ก.
Service Spillway ขนำด 6.0 ม. จำนวน 7 ช่อง ระบำยนำ้ ได้
1,530 ลบ.ม./วนิ ำที
ทำงระบำยนำ้ ฉกุ เฉนิ กวำ้ ง 40.0 ม. ระบำยน้ำได้ 600 ลบ.ม./วนิ ำที
ระยะเวลำกอ่ สร้ำง 6 ปี (ปี พ.ศ.2507 – 2512)
คำ่ กอ่ สร้ำง ทั้งโครงกำร 249 ล้ำนบำท
2. อำณำเขตขงเขอ่ื นลำตะคอง(เหนือ/ใต้ออกตก)
1. ทต่ี ัง้ และลกั ษณะภูมปิ ระเทศ
สถำนวี จิ ัยเพื่อรกั ษำตน้ นำ้ ลำตะคอง ตงั้ อยตู่ อนบนของพ้ืนทีล่ มุ่ นำ้ ลำตะคอง ใน
ทอ้ งที่ตำบลหมูสี อำเภอปำกชอ่ ง จังหวัดนครรำชสมี ำ อยู่ระหว่ำงเสน้ ละติจูดท่ี 14
องศำ 30 ลิบดำ - 14 องศำ 32 ลบิ ดำ เหนอื และลองจิจูดท่ี 101 องศำ 19
ลบิ ดำ - 101 องศำ 22 ลบิ ดำ ตะวนั ออก หำ่ งจำกกรุงเทพมหำนครประมำณ
195 กม. กอ่ นถงึ อำเภอปำกชอ่ ง 5 กม. จะมที ำงแยกไปอุทยำนแห่งชำตเิ ขำใหญ่
ใหเ้ ลี้ยวไปตำมถนนธนะรชั ต์ ประมำณ 21 กม. จะมีทำงแยกทำงขวำมอื เข้ำไปทท่ี ำ
กำรสถำนีวิจยั ฯ ลำตะคอง ระยะทำงประมำณ 4 กม.
ลมุ่ นำ้ ลำตะคองบริเวณเหนืออ่ำงเก็บน้ำลำตะคอง มีพน้ื ท่ีท้งั หมด ประมำณ 1,315
ตร.กม. หรอื ประมำณ 821,875 ไร่ ตง้ั อยใู่ นท้องท่ีตำบลจันทึก ตำบลปำกช่อง
ตำบลหนองสำหรำ่ ย ตำบลหมสู ี ตำบลขนงพระ ตำบลวงั กะทะ ตำบลคลองม่วง
และตำบลโปร่งตำลอง อ.ปำกช่อง จ.นครรำชสีมำ ซง่ึ ครอบคลมุ พน้ื ทร่ี วม 8 ตำบล
ครอบคลมุ พนื้ ที่บรเิ วณห้วยลำตะคองตอนบน ห้วยลำตะคองตอนล่ำง และหว้ ยหิน
ลบั และอยู่ในปำ่ สงวนแห่งชำติป่ำเขำเสียดอำ้ ปำ่ เขำนกยูง ปำ่ เขำอำ่ งหิน ตำม
ประกำศกระทรวงฉบบั ท่ี 147 (พ.ศ.2509) เล่มที่ 83 ตอนท่ี 104 รำชกจิ จำ
นุเบกษำ 22 พฤศจิกำยน 2509 ป่ำโครงกำรเพ่อื ใช้สอยแบบเอนกประสงค์ปำก
ช่อง-สีคว้ิ (นม. 10) และอทุ ยำนแห่งชำติเขำใหญ่
2. ลกั ษณะทำงอทุ กวทิ ยำ
ลมุ่ น้ำลำตะคองมพี ้ืนท่ีท้ังหมดประมำณ 1,315 ตร.กม. หรอื ประมำณ 821,875 ไร่
โดยแบง่ เปน็ ลมุ่ นำ้ ย่อยได้ 3 ลุม่ น้ำ คือ
1. ลุ่มนำ้ ลำตะคองตอนบน มีพนื้ ท่ีประมำณ 495 ตร.กม.มีรูปรำ่ งเป็นแบบ
Rectangular
Form Factor เท่ำกบั 0.21 ควำมสงู ของลมุ่ นำ้ 330-1,142 เมตร ควำมสงู
เฉล่ยี 526.4 เมตร ควำมลำดชนั ของลุ่มน้ำ 10.5 % ทิศด้ำนลำดของลมุ่ น้ำมีทศิ
ไปทำงทิศเหนอื order of stream (First stream order) เท่ำกบั 4 (102)
ควำมหนำแน่นของกำรระบำยน้ำ 0.373 กม./ตร.กม. ควำมหนำแน่นของลำห้วย
0.206 ลำหว้ ย/ตร.กม.
2. ล่มุ น้ำลำตะคองตอนลำ่ ง มีพนื้ ทีป่ ระมำณ 380 ตร.กม. มีรปู ร่ำงเป็นแบบ
Rectangular
Form Factor เทำ่ กับ 0.29 ควำมสงู ของลมุ่ น้ำ 282-824 เมตร ควำมสูง
เฉลีย่ 380.5 เมตร ควำมลำดชันของลุ่มน้ำ 6.6 % ทศิ ดำ้ นลำดของลุม่ นำ้ มีทิศไป
ทำงทศิ ตะวันออกเฉียงเหนอื order of stream (First stream order)
เทำ่ กบั 3 (35) ควำมหนำแน่นของกำรระบำยนำ้ 0.242 กม./ตร.กม. ควำม
หนำแน่นของลำห้วย 0.092 ลำห้วย/ตร.กม.
3. ล่มุ น้ำยอ่ ยห้วยหินลับ มพี น้ื ทปี่ ระมำณ 440 ตร.กม. มีรูปรำ่ งเป็นแบบ
Rectangular
Form Factor เท่ำกับ 0.26 ควำมสูงของลุ่มนำ้ 281-782 เมตร ควำมสงู
เฉลีย่ 376.6 เมตร ควำมลำดชนั ของล่มุ น้ำ 4.7 % ทิศดำ้ นลำดของลมุ่ นำ้ มที ศิ ไป
ทำงทศิ เหนอื order of stream (First stream order) เท่ำกับ 5 (88)
ควำมหนำแน่นของกำรระบำยน้ำ 0.458 กม./ตร.กม. ควำมหนำแน่นของลำห้วย
0.2 ลำห้วย/ตร.กม.
3. ลกั ษณะทำงธรณีวิทยำ
โครงสร้ำงทำงธรณวี ทิ ยำของลุ่มนำ้ ลำตะคอง นบั ว่ำเก่ำแกม่ ำกแหง่ หนง่ึ ของประเทศ
กำรสร้ำงตัวทำงธรณวี ทิ ยำเป็นผลมำจำกวฏั จักรของกำรทบั ถมของตะกอน กำรยก
ตัวของเปลอื กโลก และกำรกัดชะพงั ทลำยของดนิ และหนิ สลับกับกำรระเบดิ ของภูเขำ
ไฟในยคุ พำลโี อโซอคิ (Palaeozoic) หรือประมำณ 300-400 ล้ำนปีมำแล้ว หิน
ท่เี ปน็ รำกฐำนพบวำ่ เป็นหนิ ชุดโครำช ชุดกำญจนบุรี ชุดรำชบุรี ซงึ่ มีทัง้ หนิ ปูน หนิ
ทรำย หินดินดำน และหินไดโอไรท์
ในยคุ พำลโี อโซอคิ พื้นท่บี ริเวณลมุ่ น้ำลำตะคองได้รบั กำรทบั ถมของตะกอนขนำดหนัก
ตะกอนเหลำ่ นถ้ี ูกพัดพำมำตำมลำนำ้ แล้วไปทบั ถมตำมบรเิ วณที่รำบชำยฝั่งจนมี
ควำมสูงถึง 3,000 เมตร ซ่งึ เป็นจุดเรมิ่ แรกของกำรเกิดหินชุดกำญจนบุรี และ
นบั วำ่ เปน็ หินช้ันล่ำงสดุ ของหินทีป่ รำกฎในพื้นท่ีลมุ่ น้ำลำตะคอง เมือ่ พ้ืนที่รอบ ๆ
หยดุ กำรผลติ ตะกอน กำรชะลำ้ งพังทลำยในบริเวณน้กี ็เกิดขน้ึ แทน ควบคู่ไปกับกำร
ยกตัวของเปลือกโลก ทำให้นำ้ ทะเลซ่ึงมอี ยู่ในบริเวณนไี้ หลไปส่จู ดุ อน่ื พร้อมกับกำรชะ
ลำ้ งพงั ทลำยแบบรุนแรงอกี ดว้ ย
ตอ่ มำภำยหลังน้ำทะเลทว่ มถงึ พ้ืนทอ่ี ีก กำรพดั พำตะกอนมำทบั ถมก็ตำมมำอีกคร้ัง
หน่ึง น้ำทะเลบริเวณนม้ี ีอุณหภูมิคอ่ นข้ำงสงู ระดับนำ้ ไมล่ กึ และคล้ำยคลงึ กบั บริเวณ
อ่ำวไทย ตลอดจนมที ศั นยี ภำพใกล้เคยี งกบั พทั ยำในปัจจุบัน หนิ ปนู และหินดนิ ดำน
เริ่มกบั ถมอยู่ตอนบนของหนิ ชุดกำญจนบุรี และถกู เรียกช่ือใหม่ว่ำเป็นหินชุดรำชบรุ ี
ซงึ่ สงั เกตุได้จำกกำรมซี ำกสงิ่ มชี วี ติ ทำงทะเลผสมอยใู่ นเนอื้ หนิ ซึ่งมีอำยปุ ระมำณ
250 ล้ำนปี ทเี่ รียกกันว่ำ เปอร์เมียน (Permian) ในพน้ื ทบี่ ำงแห่งพบว่ำตะกอนที่
ทับถมเปน็ หนิ รำชบุรี มีควำมสงู ถึง 2,300 เมตร
ตอ่ มำของเหลวท่ีสะสมอยู่ภำยใต้เปลอื กโลกมีกำรเคลอ่ื นไหวอยำ่ งรุนแรง ซ่ึงนับวำ่
เปน็ จดุ เรมิ่ ต้นของส่งิ ตำ่ ง ๆ บนผวิ โลก สสำรขนำดใหญ่มคี วำมแข็งและผิวหยำบ
โผลอ่ อกมำจำกพน้ื ผวิ ของช้ันตะกอนตอนบน ทำให้พ้นื ผิวมีกำรม้วนตวั บดิ เบ้ียวและ
แตกเปน็ ร่อง หินดินดำนถกู เปลี่ยนไปเป็นหินชนวนและฟิลไลท์ หนิ ทรำยเป็นควอทไซด์
และหินปนู ชุดรำชบุรกี ลำยเป็นหนิ อ่อน เมอื่ ทุกอย่ำงสงบลง กำรชะล้ำงพงั ทลำยก็เข้ำ
มำแทนทอ่ี ีกครั้งหน่ึง โดยทีเ่ ปลือกโลกในส่วนทมี่ ีกำรมว้ นตวั ถกู ทำลำยลง
ภูมิอำกำศเริ่มเปล่ยี นแปลง พ้นื ท่ีบนท่รี ำบสูงกลำยเป็นกง่ึ แห้งแล้ง มลี กั ษณะคล้ำย
เขตแหง้ แล้งของโลกในปจั จุบัน พบวำ่ มหี นิ ทรำยสีแดง และหินดนิ ดำนผสมกบั ตะกอน
ยบิ ซัมและเกลอื อยู่ทว่ั ไป สำรต่ำง ๆ เหล่ำนพ้ี บว่ำสลำยตวั มำจำกหนิ ชุดกำญจนบรุ ี
ดังน้ันหนิ ชุดโครำช ซง่ึ พบท่วั ไปในบรเิ วณทีร่ ำบสูงภำคตะวันออกเฉียงเหนอื จึงเกดิ
จำกกำรทับถมและก่อตวั ของส่งิ ต่ำง ๆ เหล่ำนี้จนสงู มำกกว่ำ 4,500 เมตร และที่
ฐำนของหินชุดโครำชจะพบวำ่ มหี ินชุดกำญจนบุรแี ละรำชบรุ ีอยู่ท่ัวไป
กำรทบั ถมของตะกอนยังคงดำเนินต่อไปเร่อื ย ๆ จนกระทัง่ เกิดระเบดิ ของภเู ขำไฟท่ี
เขำใหญ่ ลำธำรของหนิ ภูเขำไฟท่เี รียกว่ำ ไรโอไลท์ (Rhyolite flows) ไหลผำ่ น
และซึมลงในเนอ้ื หินชุดตำ่ ง ๆ จนเกดิ เป็นชดุ หิน ไดโอไรท์ (Diorites) โผล่ให้เหน็ ใน
บริเวณล่มุ นำ้ ลำตะคอง
ตอ่ กำรกำรชะล้ำงพังทลำยเริม่ เกิดขึน้ อกี และเป็นอยูจ่ นกระทั่งปจั จุบนั ตะกอนทีม่ ี
ขนำดเล็กถกู นำ้ พัดพำไปทับถมกนั ในบริเวณทรี่ ำบระหวำ่ งภูเขำ ซ่ึงกำรทบั ถมลกั ษณะ
น้ี จะพบเห็นไดท้ วั่ ไปในพนื้ ที่ลุ่มน้ำ
,มำจำกเว็บ
http://www.dnp.go.th/watershed/research/ltk_station.htm
3. ขนำดควำมจปุ ริมำณกำรเก็บนำ้ ในเขือ่ นเกบ็ นำ้ ลำ
ตะคง
ระดบั เกบ็ กกั + 277.00 ร.ท.ก. ระดบั นำ้ สูงสดุ + 280.00 ร.ท.ก.
ปริมำณน้ำที่ระดับเก็บกัก 310 ล้ำน ลบ.ม. ปริมำณนำ้ ท่รี ะดบั เก็บกักสูงสุด
445 ล้ำน ลบ.ม.
https://www.thaiwater.net/DATA/REPORT/php/rid_bigcm.html
4. โรงไฟฟำ้ ลำตะคองฯ ตดิ ต้งั เครือ่ งกำเนิดไฟฟ้ำ
ขนำด 250 เมกะวัตต์ จำนวน 2 เคร่อื ง รวมกำลงั ผลติ ตดิ ตงั้ 500 เมกะ
วตั ต์ ตอ่ มำไดต้ ิดตง้ั เครอ่ื งกำเนิดไฟฟ้ำเพม่ิ เติมอกี จำนวน 2 เคร่อื ง ทำให้มี
กำลงั ผลิตติดตงั้ รวมทั้งสนิ้ 1,000 เมกะวตั ต์
โรงไฟฟ้ำลำตะคองชลภำวัฒนำ
ภำคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื เป็นภูมิภำคท่ีใหญ่และมปี ระชำกรมำกท่ีสดุ ใน
ประเทศไทย มคี วำมตอ้ งกำรใชไ้ ฟฟ้ำเพม่ิ มำกขนึ้ ทกุ ๆ ปี กฟผ. จึงพจิ ำรณำนำ
เทคโนโลยที ่ีทนั สมัย คอื โรงไฟฟ้ำพลงั น้ำแบบสูบกลับ มำสรำ้ งโรงไฟฟ้ำในภำคนี้
เป็นแห่งแรกของประเทศไทย
โรงไฟฟ้ำพลังนำ้ ลำตะคองฯ แบบสูบกลบั สรำ้ งอยู่ใกล้กบั เขือ่ นลำตะ
คอง ห่ำงจำกตัวเมืองนครรำชสีมำประมำณ 70 กิโลเมตร ทำงำนโดยกำรสูบ
นำ้ จำกอ่ำงเกบ็ น้ำเขือ่ นลำตะคองของกรมชลประทำนไปเกบ็ ไวท้ ่อี ่ำงพักน้ำบนเขำ
ยำยเท่ียง ในชว่ งเวลำท่ีมีควำมตอ้ งกำรใชไ้ ฟฟ้ำนอ้ ยหรือชว่ งกลำงคืนถงึ เชำ้
และเม่ือมีควำมต้องกำรใช้ไฟฟำ้ สงู ในช่วงกลำงวนั ถึงค่ำ จะปลอ่ ยน้ำเพื่อผลติ
ไฟฟำ้ และปล่อยลงอำ่ งเกบ็ นำ้ เข่อื นลำตะคองเหมอื นเดมิ
อำ่ งพกั นำ้ บนเขำยำยเท่ยี งสร้ำงแบบหินถมดำดดว้ ยยำงมะตอย เพ่ือ
ปอ้ งกันน้ำซึม เก็บกักน้ำได้ 10.3 ล้ำนลูกบำศกเ์ มตร ตัวอำคำรโรงไฟฟำ้ ถกู
สร้ำงไวใ้ ตร้ ะดบั ผวิ ดินลึกกวำ่ 350 เมตร เพ่อื เพ่ิมระยะทำงจำกอ่ำงเก็บนำ้ บน
เขำถึงอำคำรโรงไฟฟำ้ ใหน้ ำ้ ทีไ่ หลลงมำมกี ำลังแรงขนึ้ ทำให้โรงไฟฟ้ำลำตะคอง
ชลภำวัฒนำ เปน็ โรงไฟฟ้ำใต้ดนิ แห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ซ่ึงก่อสรำ้ ง
แลว้ เสร็จและนำไฟฟำ้ เข้ำสูร่ ะบบเมื่อปี พ.ศ. 2547
https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=
article&id=2449&Itemid=117
5. วธิ ีของชำวบำ้ นท่อี ำศัยอยู่ ใกล้เข่อื นเก็บน้ำลำตะ
คอง
ชำวบำ้ นจับปลำแถวนั้นเกป้นอำหำร
https://www.google.co.th/search
6. หลง่ ทองเที่ยวทน่ี ่ำสนใจ
ตำมเวบ็ น้ีไปเลยคำ้ บบ
https://th.tripadvisor.com
7. ถนนมเตอรเ์ วย์ท่ตี ัดผ่ำนเขอ่ื นเกบ็ ลำตะคอง
โครงกำรทำงหลวงพิเศษระหว่ำงเมืองหมำยเลข 6 สำยบำงปะอนิ -นครรำชสีมำ
หรอื ทำงหลวงพเิ ศษระหว่ำงเมอื งหมำยเลข M6 เปน็ หนึ่งโครงกำรสำคญั ท่ีมี
ควำมจำเป็นเรง่ ด่วน โดยได้รับกำรบรรจใุ นแผนมำตรกำรเร่งรดั กำรลงทุน
Action Plan ของกระทรวงคมนำคม และมำตรกำรเรง่ รัดโครงกำรใหเ้ อกชน
รว่ มลงทนุ ในกิจกำรของรัฐ (PPP Fast Track) ของกระทรวงกำรคลัง เพอื่
เรง่ รดั กำรลงทนุ โครงกำรขนำดใหญ่ให้เกดิ ผลเปน็ รปู ธรรมโดยเร็ว
ปจั จบุ ันกรมทำงหลวงอย่รู ะหวำ่ งดำเนินกำรก่อสรำ้ งงำนโยธำซง่ึ แบง่ ออกเป็น
40 สญั ญำ เพื่อเร่งรดั กำรดำเนนิ งำนกอ่ สร้ำงให้เป็นไปตำมแผนงำนท่กี ำหนด
สำหรบั กำรกอ่ สร้ำงงำนระบบ กำรดำเนินงำนและกำรบำรงุ รักษำภำยหลังจำก
โครงกำรเปิดให้บรกิ ำร คณะรัฐมนตรีได้มมี ติ เมื่อวันท่ี 22 สงิ หำคม 2560
อนมุ ัติใหก้ รมทำงหลวงเปิดโอกำสให้ภำคเอกชนร่วมลงทนุ และบรหิ ำรจดั กำร ใน
รูปแบบ PPP Gross Cost ซ่ึงเอกชนจะเป็นผูล้ งทนุ ก่อสร้ำงงำนระบบและ
จัดเกบ็ รำยได้ทั้งหมดสง่ มอบให้แก่ภำครฐั โดยภำคเอกชนจะได้รับค่ำจ้ำงตอบ
แทนในกำรดำเนินงำนและบำรุงรกั ษำ พรอ้ มท้ังจำ่ ยคืนคำ่ ก่อสรำ้ งงำนระบบตำ