เทคนิคการสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ของศิลปิน

เทคนคิ วิธกี ารในการสร้างงานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปิน 51

Venus of Bangkok (1991-2) ภาพจาก http://www.maiiam.com/collection/

เทคนคิ วธิ ีการในการสร้างงานทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปิน 52

เดชำ วรำชนุ

ภาพจาก http://www.barameeofart.com

ศาสตราจารย์เดชา วราชุน เกิดเม่ือวันที่ ๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๘๘ ที่กรุงเทพมหานคร สาเร็จ
การศึกษาศิลปะมหาบัณฑิต สาขาภาพพิมพ์ จาก คณะจิตรกรรมประติมากรรม และภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัย
ศิลปากร เป็นศิลปินท่ีสร้างสรรค์ผลงานและมีผลงานเผยแพร่ต่อสาธารณชนท้ังในประเทศ และต่างประเทศอย่าง
ตอ่ เนอ่ื งตลอดระยะเวลา ๔๐ ปี

ศาสตราจารย์เดชา วราชุน เป็นศิลปินท่ีทุ่มเทในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะมาโดยตลอด ต้ังแต่
พุทธศักราช ๒๕๑๑ การสร้างสรรค์ผลงานใน
ระยะแรกเป็นการใช้รูปทรงที่เรียบง่ายน้อยช้ิน
รูปทรงเรขาคณิตแสดงถึงความนิ่งสงบเป็นส่ิงแทน
ของวตั ถุ และรปู ทรงอนิ ทรียแ์ สดงความเคลือ่ นไหว
ของชีวิต โดยการใช้เทคนิคภาพพิมพ์ซิลค์สกรีน
ผลงานได้รับรางวัลจากการแสดงศิลปกรรม
แหง่ ชาติหลายคร้ังจนได้รับยกย่องให้เป็นศลิ ปินชั้น
เยีย่ ม สาขาภาพพิมพ์ พุทธศกั ราช ๒๕๒๕

Collage1/1977
ภาพจาก http://www.rama9art.org/artisan/artdb/artists

เทคนคิ วธิ ีการในการสรา้ งงานทศั นศิลป์ของศลิ ปิน 53

ต่อมาได้เปล่ียนแนวคิดจากงานภาพพิมพ์มาเป็นงานสื่อผสมเพื่อต้องการแสดงออกทางความคิดและ
ความรสู้ กึ ท่เี ปล่ียนแปลงก้าวหนา้ ขึ้น ผลงานสอื่ ผสมดังกล่าว เป็นผลงานท่โี ดดเด่นเปน็ ตัวของตวั เอง โดยการคน้ พบ
เทคนิคการสร้างพ้ืนผิวบนทองแดง ที่ไม่เคยมีศิลปินคนใดทามาก่อน ทาให้ได้รับรางวัลดีเด่นจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะ
รว่ มสมัยลาสเวกสั ประเทศสหรฐั อเมรกิ า พุทธศกั ราช ๒๕๔๗

การสะท้อน หมายเลข 10 ภาพจาก http://www.rama9art.org/artisan/artdb/artists

นอกจากนั้นยังเป็นผู้เผยแพร่ความรู้ โดยสร้าง
สถานท่ีทางานให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางศิลปะแก่นักศึกษา
ไดเ้ ขา้ มาศึกษาหาความรู้จนได้รับคัดเลือกให้เป็นอาจารย์
ดีเด่นแห่งชาติ ของประธานสภาอาจารย์มหาวิทยาลัย
แห่งประเทศไทย สาขามนุษย์ศาสตร์และศิลปกรรม
ศาสตร์ พุทธศักราช ๒๕๔๗ นับได้ว่า เป็นศิลปินและ
อาจารย์สอนศิลปะที่มีความมุ่งมั่นต่อการสร้างสรรค์งาน
ศลิ ปะ และมีคณุ ปู การต่อวงการศลิ ปะอย่างยงิ่

ของสะสม หมำยเลข 5
ภาพจาก http://www.rama9art.org/artisan/artdb/artists

เทคนคิ วธิ ีการในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ของศลิ ปนิ 54

ใบงานที่ เรือ่ ง ศิลปิ นทศั นศิลป์ สาขาสือ่ ผสม

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเลอื กศลิ ปินสาขาส่อื ผสม (ไมซ่ า้ กบั บทเรยี น) มา 1 ท่าน แลว้ คน้ ควา้ ขอ้ มูลตาม
หวั ขอ้ ทก่ี าหนดให้ พรอ้ มตดิ ภาพศลิ ปินและผลงาน

(ตดิ ภาพศลิ ปิน)

ชอ่ื ศลิ ปิน

ประวตั ิ
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

แนวคิดในกำรสร้ำงสรรคผ์ ลงำน
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

เทคนิควธิ ีการในการสร้างงานทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ 55

เทคนิคและวิธีกำรในกำรสรำ้ งสรรคผ์ ลงำน
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................

(ตดิ ภาพผลงาน)

ช่อื ผลงาน

เทคนิควธิ ีการในการสรา้ งงานทศั นศิลปข์ องศิลปนิ 56

แบบทดสอบหลังเรยี น

เร่อื ง เทคนิควิธีกำรในกำรสรำ้ งงำนทศั นศลิ ปข์ องศลิ ปนิ

วชิ ำศลิ ปะ ศ33102 ช้นั มัธยมศึกษำปที ี่ 6

คำชแี้ จง
1. แบบทดสอบน้เี ป็นแบบเลือกตอบ 4 ตวั เลอื ก จานวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน

ใชเ้ วลา 10 นาที ในการทาแบบทดสอบ
2. ให้นักเรยี นทาเคร่อื งหมายกากบาท (X) ลงในชอ่ งส่เี หล่ียม () ให้ตรงกับตัวอักษร

ก, ข, ค หรือ ง ท่ีเป็นคาตอบท่ีถูกต้องท่สี ดุ เพียงคาตอบเดียว

1. ข้อใด คือ จุดเด่นของผลงาน ฟินเซนต์ ฟาน ก็อก
ก. ศิลปะแบบนามธรรม
ข. ภาพจากคนเหมือน
ค. เป็นภาพถ่ายทอดธรรมชาติ
ง. สะท้อนให้เห็นชีวิตของผู้ยากไร้

2. เทคนิคพิเศษของฟินเซนต์ ฟาน ก็อก คืออะไร
ก. เน้นความกลมกลืน
ข. การระบายสีเป็นแผ่นๆ
ค. เขียนสีนา้ มันบนผืนผ้าใบ
ง. การระบายสีแบบเรียบง่าย

3.ข้อใดคือ บุคคลที่ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินเอก
สาขาจิตรกรรม
ก. ฟินเซนต์ ฟาน ก็อก
ข. ชิต เหรียญประชา
ค. มาร์เซล ดูชอง
ง. โอกูสต์ โรแดง

เทคนิควธิ ีการในการสรา้ งงานทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปนิ 57

4. ใครคือผู้นาการวาดภาพแบบนามธรรม โดยใช้รูปทรง
เรขาคณิต
ก. ถวัลย์ ดัชนี
ข. พีต มอนดรีอัน
ค. ชิต เหรียญประชา
ง. ประเทือง เอมเจริญ

5. เทคนิคที่สาคัญของ พีต มอนดรีอัน คือข้อใด
ก. ระบายสีไล่นา้ หนักแนวเฉียง
ข. ระบายสีเป็นแผ่นๆ ในแนวตั้ง
ค. ระบายสีเป็นแผ่นๆ ในแนวนอน
ง. ระบายสีเป็นแผ่นๆ ในแนวนอนและแนวต้ั ง

6. ข้อใดคือ เทคนิคของพิชัย นิรันต์
ก. เขียนสีน้ามันบนพ้ืนผ้าใบ
ข. เขียนสีนา้ มันกับติดทองคาเปลว
ค. เขียนสีโปสเตอร์แล้วติดทองคาเปลว
ง. เขียนสีนา้ มันบนพื้นผ้าใบสลับสีซ้าย-ขวา

7. ประเทือง เอมเจริญ เน้นเทคนิคใดเป็นสาคัญ
ก. องค์ประกอบของทัศนธาตุท่ีเป็นรูปร่าง รูปทร ง
ข. องค์ประกอบของทัศนธาตุที่เป็นสี
ค. การจัดองค์ประกอบของภาพ
ง. การจัดองค์ประกอบศิลป์

8. มีเกลันเจโล บูโอนาร์โรตี ใช้วัสดุในข้อใดสร้างสรรค์ ผลงาน
ก. หินทราย
ข. หินอ่อน
ค. หินอ่อนเนื้อสีขาว
ง. ไม้มะฮอกกานี

9. มณเฑียร บุญมา ใช้วัสดุใดสร้างสรรค์ผลงานสื่อผสม
ก. โลหะและหินทราย
ข. หินอ่อนและไม้
ค. ผ้า ทองแดง
ง. โลหะและสมุนไพร

เทคนิควธิ กี ารในการสร้างงานทัศนศลิ ปข์ องศลิ ปนิ 58

10. เพราะเหตุใด ธนะ เลาหกัยกุล ใช้เทคนิคการป้ั ก่อนจะหล่อด้วยโลหะ
ก. ให้ความสาคัญกับรายละเอียดของงาน
ข. เพื่อให้ได้รูปร่าง รูปทรงท่ีเหมาะสม
ค. เพื่อใช้เป็นต้นแบบในการหล่อ
ง. เพื่อสร้างงานท่ีซับซ้อน

เทคนคิ วธิ ีการในการสรา้ งงานทศั นศลิ ป์ของศลิ ปนิ 59

บตั รคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน

เรอื่ ง เทคนคิ วธิ ีกำรในกำรสรำ้ งงำนทัศนศิลป์ของศลิ ปิน
วิชำศลิ ปะ ศ33102 ชนั้ มัธยมศึกษำปที ่ี 6

ชอ่ื ................................................................เลขท่ี ............ช้ัน ...............

คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นทาเคร่ืองหมายกากบาท (X) ลงในช่องสี่เหลยี่ ม () ให้ตรงกับตัวอักษร
ก, ข, ค หรือ ง ทเี่ ปน็ คาตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพยี งคาตอบเดยี ว
ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

คะแนนทไี่ ด้
ผ้ตู รวจ

เทคนคิ วธิ ีการในการสร้างงานทัศนศลิ ป์ของศลิ ปนิ 60

เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น

เรื่อง เทคนคิ วธิ ีกำรในกำรสรำ้ งงำนทศั นศลิ ป์ของศิลปนิ
วิชำศิลปะ ศ33102 ชน้ั มัธยมศึกษำปีท่ี 6

ข้อ เฉลย
1ง
2ค
3ก
4ข
5ง
6ข
7ข
8ค
9ง
10 ก

เทคนิควิธกี ารในการสรา้ งงานทศั นศลิ ปข์ องศิลปนิ 61

เกณฑ์กำรประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์

ประเดน็ ระดับคุณภำพ

กำรประเมิน 4 3 2 1

1. รักชาติ ปฏบิ ตั ิตนตามสทิ ธิ และ ปฏิบตั ิตนตามสทิ ธิ และ ปฏบิ ตั ิตนตามสิทธิ และ ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธิ และ

ศาสน์ กษตั รยิ ์ หนา้ ท่ขี องนักเรียน หน้าท่ีของนกั เรยี น หน้าทข่ี องนักเรียน หน้าท่ีของนักเรียน

ใหค้ วามรว่ มมือ ร่วมใจ ให้ความรว่ มมือ ร่วมใจ ให้ความรว่ มมอื รว่ มใจ ไมใ่ ห้ความรว่ มมอื รว่ มใจ

ในการทางานกับสมาชกิ ในการทางานกับสมาชกิ ในการทางานกบั สมาชกิ ในการทางานกับสมาชกิ

ในห้องเรียนเปน็ อยา่ งดี ในหอ้ งเรยี นบ่อยครง้ั ในห้องเรยี นเป็นบางครง้ั ในหอ้ งเรียน

ทุกครง้ั

2. ซือ่ สตั ย์ ตัง้ ใจปฏิบตั งิ านทกุ ชิน้ ปฏบิ ัติงานทุกชนิ้ ปฏบิ ัตงิ านทุกชิ้น ปฏิบัตงิ านทกุ ช้นิ

ท่ไี ดร้ บั มอบหมายสาเรจ็ ได้ ท่ไี ด้รับมอบหมายสาเร็จได้ ทีไ่ ดร้ ับมอบหมายสาเร็จได้ ท่ไี ดร้ บั มอบหมายสาเร็จได้

ด้วยตนเอง ไมล่ อกเพอ่ื น ดว้ ยตนเอง แต่มกี ารลอก ด้วยตนเอง ด้วยตนเอง

ไมด่ เู ฉลย เพื่อนหรอื ดเู ฉลย แตม่ กี ารลอกเพ่ือน แตม่ ีการลอกเพอื่ น

เป็นบางคร้ัง และเฉลยบอ่ ยบางคร้งั และเฉลยทุกครั้ง

3. มวี นิ ยั ปฏิบตั ิตามข้อตกลง ปฏิบตั ิตามข้อตกลง ปฏิบตั ติ ามข้อตกลง ไม่ปฏิบตั ิตามข้อตกลง

กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ ระเบยี บ

ขอ้ บังคับในการเรียนรู้ ตรง ขอ้ บงั คับในการเรยี นรู้ ข้อบังคบั ในการเรียนรู้ ข้อบงั คับในการเรยี นรู้

ตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติ ตรงต่อเวลาในการปฏิบตั ิ ตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิ ตรงตอ่ เวลาในการปฏิบตั ิ

กิจกรรมตา่ งๆ ในการ กิจกรรมตา่ งๆ ในการ กจิ กรรมตา่ งๆ ในการ กิจกรรมต่าง ๆ ในการ

เรยี นรทู้ กุ ครงั้ เรยี นรสู้ มา่ เสมอ เรยี นร้นู าน ๆ ครั้ง เรียนรู้

4. ใฝ่เรียนรู้ รว่ มกจิ กรรม ร่วมกิจกรรม รว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ ไม่ร่วมกจิ กรรม

การเรยี นรู้ สบื คน้ ขอ้ มลู การเรยี นรู้ สบื ค้นข้อมูล สบื คน้ ข้อมลู แสวงหา การเรยี นรู้ สบื ค้นขอ้ มลู

แสวงหาความรตู้ ามทไี่ ดร้ บั แสวงหาความรู้ โดยเตม็ ใจ ความรู้ โดยเตม็ ใจใน แสวงหาความรู้

มอบหมายดว้ ยความเตม็ ใจ บางครง้ั

ทกุ คร้ัง

5. อยูอ่ ย่าง ใชว้ ัสดุ อุปกรณ์ในการ ใชว้ ัสดุ อุปกรณใ์ นการ ใช้วสั ดุ อุปกรณใ์ นการ ไม่ใชว้ สั ดุ อุปกรณใ์ นการ

พอเพียง เรยี นรอู้ ย่างประหยดั และ เรยี นรอู้ ย่างประหยดั และ เรยี นรู้อยา่ งประหยัด และ เรียนรู้อยา่ งประหยัด และ

รคู้ ุณคา่ และรู้จกั แนะนา รคู้ ุณคา่ และร้จู ักแนะนา รู้คณุ คา่ เป็นบางคร้งั รคู้ ณุ คา่

ผ้อู ืน่ ใหป้ ฏิบตั ติ าม ผูอ้ นื่ ให้ปฏบิ ัตติ ามเปน็

บางครงั้

เทคนคิ วิธกี ารในการสร้างงานทัศนศิลปข์ องศิลปิน 62

ประเด็น ระดับคณุ ภำพ

กำรประเมนิ 4 3 2 1

6. ม่งุ มั่น ต้ังใจ ปฏบิ ตั งิ าน ต้งั ใจปฏิบัติงาน ที่ไดร้ บั ตง้ั ใจปฏิบตั งิ านที่ไดร้ ับ ไมต่ ั้งใจปฏบิ ตั ิงานท่ีไดร้ ับ
มอบหมาย ทาใหง้ าน
ในการทางาน ทไ่ี ดร้ บั มอบหมายจน มอบหมาย ทาใหง้ าน มอบหมายเป็นบางครัง้ ไม่สาเร็จ ไดต้ ามเปา้ หมาย
ไม่ปฏิบตั ิตามการชี้แนะ
สาเรจ็ โดยมคี วามเพยี ร สาเรจ็ ได้ตามเป้าหมาย ทาใหง้ านไม่สาเรจ็ ได้ แนะนา ตกั เตือนหรอื
ให้กาลงั ใจ
พยายาม อดทน เพอื่ ให้ และต้องอาศัยการชี้แนะ ตามเป้าหมาย โดยอาศยั มจี ิตสานึกในการอนุรกั ษ์
วัฒนธรรมและภมู ปิ ัญญา
งานสาเร็จไดต้ ามเปา้ หมาย แนะนา ตักเตือนหรอื การชแ้ี นะ แนะนา ไทย เห็นคณุ ค่า แตไ่ ม่
ปฏิบตั ิตนตามวัฒนธรรม
ได้ด้วยตนเอง ใหก้ าลังใจ ตักเตอื นหรือให้กาลงั ใจ ไทย

7. รกั ความ เป็นตัวอย่างทด่ี ใี ห้แกเ่ พ่อื น เป็นตวั อย่างทีด่ ีใหแ้ ก่ มจี ติ สานกึ ในการอนรุ ักษ์ ไม่มีจติ อาสารว่ มกัน
ทางาน ช่วยคิด ช่วยทา
เปน็ ไทย ในการมจี ิตสานึกในการ เพอื่ นในการมีจติ สานึกใน วฒั นธรรมและภมู ิปัญญา และแบ่งปนั แก่เพือ่ น
นักเรียนในการเรียนรู้
อนรุ กั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ิ การอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและ ไทย เห็นคณุ ค่า และ

ปญั ญาไทย เห็นคณุ ค่า ภมู ิปัญญาไทย เหน็ คณุ ค่า ปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรม

และปฏบิ ตั ิตนตาม และปฏบิ ตั ิตนตาม ไทยเปน็ บางครั้ง

วฒั นธรรมไทยเสมอ วัฒนธรรมไทยบอ่ ยครง้ั

8. มีจติ มีจติ อาสาร่วมกันทางาน มจี ติ อาสารว่ มกันทางาน มีจิตอาสารว่ มกนั ทางาน

สาธารณะ ชว่ ยคิด ช่วยทา และ ชว่ ยคดิ ช่วยทา และ ช่วยคิด ช่วยทา และ

แบ่งปันแกเ่ พอื่ นนกั เรยี น แบ่งปนั แกเ่ พื่อนนักเรยี น แบง่ ปนั แกเ่ พ่อื นนกั เรยี น

ในการเรยี นรทู้ กุ ครัง้ ในการเรียนรู้สมา่ เสมอ ในการเรยี นรนู้ าน ๆ ครั้ง

เทคนคิ วิธกี ารในการสรา้ งงานทัศนศลิ ป์ของศิลปนิ 63

เกณฑก์ ำรประเมนิ กำรอำ่ น คิดวิเครำะห์ และเขยี นส่ือควำม

ประเดน็ ระดบั คุณภำพ
กำรประเมนิ
4 32 1
1. การอา่ น
สามารถอา่ นเพื่อ สามารถอ่านเพ่อื สามารถอ่านเพอ่ื ไมส่ ามารถอา่ นเพื่อ
2. การจบั ประเด็น การศกึ ษา ค้นคว้า การศึกษา ค้นควา้
สาคญั เพิ่มพนู ความรู้ การศึกษา ค้นควา้ การศกึ ษา คน้ ควา้ เพ่ิมพนู ความรู้
ประสบการณ์และ ประสบการณ์และ
3. การคิดวเิ คราะห์ ประยกุ ตใ์ ชใ้ น เพมิ่ พูนความรู้ เพม่ิ พนู ความรู้ ประยุกตใ์ ช้ใน
และวพิ ากษ์ ชวี ิตประจาวนั ได้ ชีวติ ประจาวันได้ตอ้ ง
อย่างดีเลศิ ประสบการณแ์ ละ ประสบการณ์และ ได้รับการแก้ไข
4. การประเมนิ คา่ สามารถจบั ประเดน็ ไมส่ ามารถจับ
สาคญั ลาดับ ประยุกตใ์ ชใ้ น ประยุกต์ใช้ใน ประเดน็ สาคญั
5. การเขียน เหตุการณจ์ ากการ ลาดบั เหตุการณจ์ าก
อ่านสือ่ ทม่ี คี วาม ชีวติ ประจาวันไดเ้ ป็นที่ ชวี ิตประจาวนั ได้แต่ การอา่ นสอื่ ทีม่ ีความ
ซับซอ้ นได้อยา่ งดีเลศิ ซบั ซอ้ นได้
ยอมรบั ยังมีข้อบกพร่อง
สามารถวิเคราะห์ส่ิงที่ ไมส่ ามารถวเิ คราะห์
ผเู้ ขยี นตอ้ งการส่อื สาร สามารถจบั ประเดน็ สามารถจับประเดน็ สงิ่ ทผ่ี ้เู ขยี นต้องการ
กับผ้อู า่ น และ สอื่ สารกบั ผูอ้ ่าน
สามารถวิพากษใ์ ห้ สาคัญ ลาดับ สาคัญ ลาดบั และสามารถวพิ ากษ์
ขอ้ เสนอแนะในแง่มมุ ให้ข้อเสนอแนะใน
ต่าง ๆ ได้อย่างดเี ลศิ เหตกุ ารณ์จากการอ่าน เหตุการณจ์ ากการ แงม่ มุ ต่าง ๆ ได้

สามารถประเมินค่า สือ่ ทมี่ ีความซบั ซ้อนได้ อา่ นสอ่ื ทม่ี คี วาม ไม่สามารถประเมนิ
ความนา่ เชอื่ ถอื คา่ ความน่าเช่อื ถือ
คณุ ค่า แนวคดิ ทไ่ี ด้ เปน็ ท่ียอมรบั ซับซอ้ นไดแ้ ตม่ ี คณุ คา่ แนวคิดทไ่ี ด้
จากสิง่ ทีอ่ า่ นอยา่ ง จากสิง่ ทีอ่ า่ นได้
หลากหลายมีคณุ ภาพ ขอ้ บกพรอ่ ง
ดเี ปน็ เลิศ ไมส่ ามารถเขียน
สามารถเขยี นแสดง สามารถวิเคราะหส์ ิง่ ท่ี สามารถวิเคราะหส์ ่ิง แสดงความคดิ เห็น
ความคดิ เหน็ โตแ้ ยง้ โต้แย้ง สรปุ ไมม่ ี
สรปุ โดยมขี ้อมลู ผู้เขียนตอ้ งการส่อื สาร ทีผ่ ้เู ขียนตอ้ งการ ขอ้ มูลอธบิ าย
อธิบายสนบั สนนุ
กบั ผู้อ่าน และสามารถ สื่อสารกบั ผอู้ า่ น

วิพากษใ์ ห้ และสามารถวิพากษ์

ขอ้ เสนอแนะในแง่มมุ ให้ขอ้ เสนอแนะใน

ตา่ ง ๆ ได้เปน็ ที่ แง่มมุ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ตม่ ี

ยอมรับ ขอ้ บกพร่อง

สามารถประเมนิ คา่ สามารถประเมินค่า

ความนา่ เชอ่ื ถือ คณุ ค่า ความนา่ เชือ่ ถอื

แนวคิดทไี่ ดจ้ ากสงิ่ ท่ี คณุ ค่า แนวคิดทไี่ ด้

อา่ นอยา่ งหลากหลาย จากสิ่งที่อา่ นอย่าง

มคี ุณภาพเปน็ ท่ี หลากหลายแตม่ ี

ยอมรับ ข้อบกพร่อง

สามารถเขียนแสดง สามารถเขียนแสดง

ความคิดเห็นโต้แยง้ ความคดิ เห็นโต้แย้ง

สรปุ โดยมขี ้อมลู สรุป โดยมีขอ้ มลู

อธบิ ายสนับสนนุ อยา่ ง อธบิ ายสนับสนุน

เทคนคิ วธิ ีการในการสร้างงานทศั นศลิ ป์ของศลิ ปนิ 64

ประเดน็ ระดบั คณุ ภำพ
กำรประเมนิ
4 32 1

อย่างเพยี งพอและ เพียงพอและ อยา่ งเพยี งพอและ สนบั สนนุ อย่าง
เพยี งพอและ
สมเหตสุ มผล เขียนได้ สมเหตสุ มผล เขยี นได้ สมเหตุสมผล เขยี น สมเหตสุ มผล

สละสลวย มคี ณุ ภาพ สละสลวย มคี ุณภาพ ได้สละสลวย แต่มี

ดเี ลศิ อยเู่ สมอ ดเี ปน็ ทย่ี อมรบั ขอ้ บกพร่อง

เทคนิควิธีการในการสร้างงานทัศนศิลป์ของศิลปิน 65

เกณฑ์กำรประเมินสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น

ประเด็น ระดบั คณุ ภำพ
กำรประเมิน
1. ความสามารถ 4 3 21
ในการส่อื สาร
มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ขาดความสามารถในการ
2. ความสามารถ
ในการคดิ ในการส่อื สาร ในการสอื่ สาร ในการส่ือสาร สือ่ สารขาดทกั ษะ

3. ความสามารถ การถ่ายทอดความรู้ การถา่ ยทอดความรู้ การถา่ ยทอดความรู้ การถา่ ยทอดความรู้
ในการแกป้ ญั หา
ความคดิ สอื่ สารชดั เจน ความคดิ สอื่ สารได้ แสดง ความคิด มีวธิ กี ารสื่อสาร มีวธิ ีการสอ่ื สาร และ
4. ความสามารถ
ในการใช้ทักษะ แสดงความคดิ เหน็ อยา่ งมี ความคิดเหน็ อยา่ งมี แสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี แสดงความคดิ เห็น
ชีวติ
เหตผุ ล และถกู ตอ้ งตาม เหตุผล และถูกตอ้ ง เหตผุ ลและถูกต้องตามหลกั อยา่ งมีเหตผุ ลแต่ผดิ

หลักศลิ ปะไดเ้ ปน็ อย่างดี ตามหลักศลิ ปะ ศิลปะได้เลก็ น้อย หลกั ศลิ ปะ

ไดเ้ ปน็ ส่วนใหญ่

มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ขาดทกั ษะในการคิด

ในการคดิ วเิ คราะห์ ในการคิดวเิ คราะห์ ในการคิดวเิ คราะห์ วเิ คราะห์ สังเคราะห์

สังเคราะห์ คิดนอกกรอบ สังเคราะห์ คดิ นอกกรอบ สงั เคราะห์ คิดนอกกรอบ คิดนอกกรอบ

มีความคดิ สร้างสรรค์ มีความคิดสร้างสรรค์ มคี วามคดิ สร้างสรรค์ มคี วามคิดสร้างสรรค์

คิดอย่างเป็นระบบ และ คิดอย่างเป็นระบบ คิดอย่างเปน็ ระบบ คิดอยา่ งเปน็ ระบบ

สามารถแกป้ ญั หาไดเ้ ป็น และสามารถแก้ปญั หาได้ และสามารถแกป้ ญั หาได้ และสามารถแก้ปญั หา

อยา่ งดี เปน็ สว่ นใหญ่ เลก็ น้อย ได้

มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ขาดความสามารถใน

ในการแก้ปญั หา ในการแกป้ ัญหา ในการแก้ปัญหา การแก้ปัญหา ขาดการ

มีเหตผุ ลในการแก้ปัญหา มเี หตผุ ลในการแก้ปัญหา มีเหตผุ ลในการแก้ปัญหา ให้เหตุผลในการ

สามารถแสวงหาความรู้ สามารถแสวงหาความรู้ สามารถแสวงหาความรู้ แก้ปญั หา ไมส่ ามารถ

ประยุกตค์ วามรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้ ประยุกตค์ วามรู้ แสวงหาความรู้

มาใชใ้ นการแก้ไขปญั หาได้ มาใช้ในการแก้ไขปัญหาได้ มาใชใ้ นการแกไ้ ขปัญหาได้ ประยุกตค์ วามรมู้ าใช้

เป็นอยา่ งดี เปน็ ส่วนใหญ่ เลก็ น้อย ในการแกไ้ ขปญั หาได้

มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ไม่สามารถตดั สนิ ใจ

ในการตดั สินใจ ในการตดั สนิ ใจ ในการตดั สนิ ใจ นาความรทู้ ไ่ี ดร้ ับจาก

นาความรูท้ ีไ่ ด้รบั จาก นาความรู้ที่ไดร้ บั จาก นาความร้ทู ีไ่ ด้รบั จาก กิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรมการเรียนรไู้ ปใช้ กจิ กรรมการเรยี นรไู้ ปใช้ กิจกรรมการเรียนรไู้ ปใช้ ไปใชป้ ระโยชน์

ประโยชน์ใน ประโยชน์ใน ประโยชนใ์ น ในชีวติ ประจาวนั ได้

ชีวิตประจาวันได้ ชีวิตประจาวัน ชวี ิตประจาวัน

ไดบ้ ้าง ได้เล็กนอ้ ย

เทคนิควิธีการในการสรา้ งงานทัศนศิลป์ของศิลปิน 66

ประเดน็ 4 ระดับคณุ ภำพ 1
กำรประเมนิ สามารถใชเ้ ทคโนโลยี 32 ไมส่ ามารถใช้
5. ความสามารถ สารสนเทศ และการ สามารถใช้เทคโนโลยี สามารถใชเ้ ทคโนโลยี เทคโนโลยสี ารสนเทศ
ในการใช้ ส่ือสารไดอ้ ย่างเหมาะสม สารสนเทศ และการ สารสนเทศ และการ และการส่ือสารได้
เทคโนโลยี ปลอดภยั มีประสิทธภิ าพ ส่อื สารไดอ้ ย่างเหมาะสม ส่ือสารได้ แตย่ งั ไมเ่ กิด อย่างเหมาะสม
เกดิ ประโยชนต์ ่อการ ปลอดภัย เกิดประโยชน์ ประโยชน์ ปลอดภัย
เรียนรสู้ ูงสดุ ตอ่ การเรยี นรู้