I
M
P
R
E
S
SI
O
N
I
S
M ศิ ล ป ะ แ บ บ อิ ม เ พ ร ส ชั่ น นิ ส ม์
จุดเริ่มต้น
ศิลปะอิมเพรสชันนิสม์ หรือ ลัทธิประทับใจ ( Impressionism)
เป็นขบวนการศิลปะที่เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19 ซึ่งเริ่มต้นจากการรวม
ตัวกันอย่างหลวม ๆ ของจิตรกรทั้งหลายที่มีนิวาสถานอยู่ในกรุงปารีส
พวกเขาเริ่มจัดแสดงงานศิลปะในช่วงทศวรรษที่ 1860 ชื่อของ
ขบวนการนี้มีที่มาจากภาพวาดของโกลด มอแน (Claude Monet)
ที่มีชื่อว่า Impression,Sunrise (“Impression, soleil levant”
ในภาษาฝรั่งเศส) และนักวิจารณ์ศิลปะนามว่าหลุยส์ เลอรัว (Louis
Leroy) ก็ได้ให้กำเนิดคำคำนี้ขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจในบทวิจารณ์ศิลปะ
เชิงเสียดสีซึ่งตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ LeCharivari อิทธิพลของอิม
เพรสชันนิสม์ ยังแผ่ออกจากวงการศิลปะไปยังดนตรีและวรรณกรรม
Impression,Sunrise (“Impression, soleil levant” ในภาษาฝรั่งเศส)
วาดโดย โกลด มอแน (Claude Monet) ในปี ค.ศ. 1872
ภาพของ
โกลด มอแน
(Claude Monet)
ภาพของ
หลุยส์ เลอรัว
(Louis Leroy)
ลักษณะของภาพวาดแบบอิมเพรสชันนิสม์
(Impressionism)
การใช้พู่กันตวัดสีอย่างเข้ม ๆ ใช้สีสว่าง ๆ มีส่วนประกอบ
ของภาพที่ไม่ถูกบีบ เน้นไปยังคุณภาพที่แปรผันของแสง (มักจะเน้น
ไปยังผลลัพธ์ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของเวลา) เนื้อหาของภาพ
เป็นเรื่องธรรมดา ๆ และมีมุมมองที่พิเศษ จิตรกรแนวอิมเพรสชันนิ
สม์ได้ฉีกกรอบการวาดที่มาตั้งแต่อดีต พวกเขาจึงได้ชื่อว่าเป็นพวก
ขบถ พวกเขาได้วาดภาพจากสิ่งที่อยู่ตรงหน้าในปัจจุบันให้ดู
ประหลาดและไม่สิ้นสุดสำหรับสาธารณชนที่มาดูงานของพวกเขานัก
วาดแนวนี้ปฏิเสธที่จะนำเสนอความงามในอุดมคติ และมองไปยัง
ความงามที่เกิดจากสิ่งสามัญแทน พวกเขามักจะวาดภาพกลางแจ้ง
มากกว่าในห้องสตูดิโอ อย่างที่ศิลปินทั่วไปนิยมกัน เพื่อที่จะลอก
เลียนแสงที่แปรเปลี่ยนอยู่เสมอในมุมมองต่าง ๆ
The Water Lilly Pond
วาดโดย โกลด มอแน (Claude Monet) ในปี ค.ศ. 1899
ภาพวาดแบบอิมเพรสชันนิสม์ ประกอบด้วยการตวัดพู่กันแบบเป็น
เส้นสั้น ๆ ของสีซึ่งไม่ได้ผสมหรือแยกเป็นสีใดสีหนึ่ง ซึ่งได้ให้ภาพที่
เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีชีวิตชีวา พื้นผิวของภาพวาดนั้นมักจะเกิด
จากการระบายสีแบบหนา ๆ ซึ่งทำให้พวกเขาแตกต่างจากนักเขียน
ยุคเก่าที่จะเน้นการผสมผสานสีอย่างกลมกลืนเพื่อให้ผู้อื่นคิดว่ากำลัง
มองภาพวาดบนแผ่นแฟรมให้น้อยที่สุด องค์ประกอบของอิมเพรส
ชันนิสม์ ยังถูกทำให้ง่ายและแปลกใหม่ และจะเน้นไปยังมุมมอง
แบบกว้าง ๆ มากกว่ารายละเอียด
ศิลปะของกลุ่ม Impressionism ได้มีการสอดแทรกการเคลื่อนไหว
ที่เรียกว่า Impressionist movement ที่ได้มาพร้อมกับแนวคิด
ของคนที่เริ่มยอมรับในความเป็นตัวเองมากขึ้น และเริ่มรับรู้ถึงความ
งามจากสิ่งที่เรียบง่าย ไม่ต้องเป็นสิ่งที่ Perfect หรืออะไร เป็นเพียง
แค่ความประทับใจในวินาทีใดวินาทีหนึ่งก็มีคุณค่าได้เหมือนกัน
The Swing and The Ball at The Moulin De Galette
วาดโดย Pierre-Auguste Renoir (ปิแอร์ ออกุสต์ เรอนัวร์) ในปี ค.ศ. 1876
5
ศิ ล ปิ น เ อ ก
Impressionism
โกลด มอแน Claude Monet (1840 - 1926)
ผลงานของ Monet คือตัวแทนแห่ง
ความอภิรมย์ สวยงาม สบายตา ดูแล้ว
เหมือนได้รับลมเย็นๆ ธรรมชาติจาก
ชนบทฝรั่งเศสฝีแปรงบันทึกการโบก
สะบัดอย่างรวดเร็วความแม่นยำในการ
ผสมสีที่หลากหลายแต่เก็บบรรยากาศ
มาได้อย่าครบถ้วน ทำให้เขาเป็นศิลปิน
ที่มีชื่อเสียงอย่างมากแห่งยุค
Impressionism ตัวอย่างผลงาน
เอดัวร์ มาแน Edouard Manet (1832 - 1883)
Edouard Manet เรียกว่าเป็นหนึ่ง
ในหัวก้าวหน้าแห่งวงการศิลปะเลยก็ว่า
ได้ เขาเป็นคนแรกที่กล้าท้าทายความ
หมายศิลปะแบบดั้งเดิม บุกเบิกงาน
ศิลปะสมัยใหม่พลิกความหมายของ
ศิลปะไปตลอดกาลได้ด้วยการชนของ
เขาคนนี้
ตัวอย่างผลงาน
แอดการ์ เดอกา Edgar Degas (1834 - 1917)
ภาพที่โด่งดังของ Degas นั้น ต้องยก
ให้การวาดภาพนักเต้นบัลเล่ต์ที่อยู่ใน
อิริยาบทหลากหลาย ทั้งระหว่างซ้อม
หรือหลังเวที ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากกจาก
การเก็บรายละเอียดความเคลื่อนไหว
กล้ามเนื้อระหว่างการเต้น Degas ยัง
เป็นนักสังเกตชั้นยอด โดยมักเลือกที่
จะวาดภาพมุมที่คนอื่นอาจไม่ได้ใส่ใจ
หรือช่วงจังหวะเผลในcomposition
ที่แตกต่างจากศิลปินท่านอื่น เป็นการ
วาดภาพเก็บเรื่องราวที่เสมือนการได้
ถ่ายภาพเพื่อบันทึก ณ ขณะนั้นเอาไว้
ตัวอย่างผลงาน
ป(ี1แ8ย41ร์--โอ1ก9ุ1ส9ต)์ เรอนัวร์ Pierre-Auguste Renoir
ภาพของ Renoir จะมีความสดใส
ชวนมองด้วยการใช้สีสันที่สว่าง
สบายตาวาดลงผ้าใบด้วยฝีแปรง
อิสระโดยส่วนมากจะเป็นการบันทึก
ชีวิตของคนฐานะดีอยู่ในช่วงจังหวะ
บรรยากาศผ่อคลายกำลังสนุกสนาน
Renoirคือศิลปินผู้เป็นตัวแทนแห่ง อยู่กับคนรอบข้างสาวๆ ที่ทุกคนล้วน
ความสวยงามและรื่นรมย์ผู้ใดได้ชม หน้าตาน่าเอ็นดู แก้มแดง ให้เราได้
ภาพเป็นต้องอมยิ้มนึกถึงความสุข เพลิดเพลินในการได้มองสาวๆ
กับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในภาพ เหล่านี้
ของเขา ตัวอย่างผลงาน
ปอล เซซาน Paul Cézanne (1839 - 1906)
Paul Cezanne คือศิลปินที่ทำงาน
คาบเส้นระหว่างสองยุค นั่นก็คือทั้ง
Impressionism และ Post-
Impressionism (ลัทธิประทับใจ
ยุคหลัง) ที่ตามมาติดๆ เพื่อหักล้าง
แนวคิดแบบ Impressionism และนอกจากจะเป็นตัวท้อปแห่ง
อย่างไรก็ตาม Cezanne ก็ยังโดด ยุคImpressionismและ
เด่นอย่างมากในช่วงของ Post-Impressionism แล้ว
Impressionism จากภาพวาดวิว เขายังเป็นต้นแบบคนสำคัญ
ทิวทัศน์ธรรมชาติของเมืองโพร สำหรับCubismถึงขั้นมีข่าวว่า
วองซ์และชนบทรอบๆ ที่แลดูแล้วมี ทั้งMatisse และ Picasso
ความสามมิติในองค์ประกอบสอง ยกย่องให้เป็น “father of us
มิติจากการจัดวางองค์ประกอบ all” หรือบิดาแห่งทุกสถาบันกัน
ตัวอย่างผลงาน เลยทีเดียว