นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร นายพลวัฒน์ ศรีเทพ และนายสุขสวัสดิ์ อาภากุลอนุ เขียนนิราศบางแสน นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย รหัส ๖๓ เขียนรวมกลอนสมานมิตร นายสนธยา สุขอิ่ม อาจารย์ที่ปรึกษา นายพลวัฒน์ ศรีเทพ และนายสุขสวัสดิ์ อาภากุลอนุบรรณาธิการ นางสาวพรชิตา ฤกษ์พยับ และนางสาวณัฐธิสา นาคเจือทอง ภาพปก นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย รหัส ๖๓ ภาพประกอบ พิมพ์ครั้งที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
คำนำ อนึ่ง หนังสือกวีนิพนธ์ปนนิราศ เป็นผลงานที่อาจคาดไม่ถึง ทุกบทกลอนสะท้อนให้ใจตะลึง ทุกภาพตรึงความรู้สึกนึกย้อนไป เล่าเรื่องราวย้อนหลังในครั้งนั้น อยู่ช่วงชั้นปีสามจำความได้ ทัศนศึกษาภาษาไทย บันทึกไว้เป็นหนังสือคือเล่มนี้ เรื่องนิราศบางแสนแก่นของเรื่อง หนึ่ง-คุยเฟื่องการเดินทาง, สถานที่ สอง-สะท้อนสัจธรรมนำชีวี สาม-รวมเล่มชั้นปีกวีนิพนธ์ ขอบคุณท่านอาจารย์ ขอบคุณมิตรไมตรีเพื่อนมีผล ขอบคุณคณะทำงานตลอดจน ขอบคุณคนที่อ่าน...ผู้ผ่านมา นายพลวัฒน์ ศรีเทพ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย รหัส ๖๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
นิราศบางแสน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ออกจากรั้วมหาลัยไปด้วยหวัง ภาษาไทยเทพสตรีมีพลัง มุ่งไปยังบางแสนแดนหาดงาม หวังเรียนรู้สิ่งสำคัญสองวันนี้ สานสัมพันธ์ไมตรีชั้นปีสาม รักกันไว้จึงใจสุขในทุกยาม ขนานนามยูงทองคล้องมิคลาย แม้ไม่ผ่านพระกาฬซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันทาขึ้นตั้งจิตนิมิตหมาย พระคุ้มครองแคล้วคลาดปราศอันตราย มากล้ำกลายเข้าใกล้ก็ไม่มี พ่อพระกาฬชุบช่วยอำนวยโชค ความทุกข์โศกอย่าสนองหมองราศี ให้ทุกคนที่สร้างสรรค์สิ่งอันดี สำเร็จที่ตั้งใจในทุกงาน รถขับมาพักใหญ่จึงได้รู้ เพราะป้ายบ่ง โก่งธนู ผู้กล่าวขาน นึก บ้านดาบ ฝังดาบทราบมานาน ขุนแผนผ่านแวะมาขุดจุดต้นไทร เป็นดาบดีมีฤทธิ์พิชิตรบ เมื่อขุดพบยกขึ้นหัวตัวเลื่อมใส มอบให้ลูกพลายงามตามชอบใจ ดาบฟ้าฟื้นบอกไว้ใครใครรู้ จะเดินทางต่อไปไม่รอช้า เข้าดงป่ามีดกระบองต้องมีอยู่ ขุนแผนเดินนำโด่งโก่งธนู หมายศึกสู้อริราชพินาศไป เรื่องที่สองพระรามรบสยบยักษ์ ถามพิเภกจึงทักมียักษ์ใหญ่ พระรามถอนต้นกกยกศรชัย โก่งธนูแผลงไปในทันที ท้าวอุณาราชไม่อาจตายในวันนั้น ตรึงกับ เขาวงพระจันทร์รอวันที่ พระศรีอาริย์ตรัสรู้อยู่หลายปี ซึ่งลูกนี้นางพระจันทร์นั้นเฝ้ารอ เรื่องน้ำส้มสายชูรู้กันทั่ว นางปลอมตัวถามซื้อหรือหลอกล่อ อีกหนึ่งเรื่องไฟไหม้ภัยต้นตอ รู้แล้วขอระมัดระวังทุกครั้งไป ผ่าน บ้านแพรก แยกเจ้าปลุก ลุกกันวุ่น แดดร้อนอุ่นผ่านเข้ามาพาสดใส เพราะเริ่มแจ้งแสงทองส่องแต่ไกล เราจึงได้ตื่นกันทันเวลา ข้ามสะพานผ่าน แม่น้ำลพบุรี เข้าเขต พระนครศรีนี้แดดจ้า เมืองอู่ข้าวอู่น้ำคำกล่าวมา เก้าโมงกว่าเห็นจะได้สุขใจจริง
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร หลวงปู่ทวดองค์ใหญ่ เมื่อได้เห็น นับว่าเป็นแห่งสถานตระการยิ่ง ขอพรให้กาย, ใจสุขทุกข์ปล่อยทิ้ง อันในสิ่งมุ่งหวังสมดั่งปอง ทั้งการเงินการงานแลการเรียน สมพากเพียรขอให้ไม่เป็นสอง เรื่องโชคลาภพร้อมพรั่งทั้งเงินทอง อย่ามัวหมองทุกข์ทนมีมลทิน ทั้งเรื่องรักเมื่อรักใครให้รักตอบ มีคนชอบชื่นใจไร้คนฉิน พอผ่านทาง บางปะหัน บางปะอิน หูได้ยินขึ้นต่อมอเตอร์เวย์ อนิจจา..ทางด่วนชวนให้คิด เหมือนชีวิตคนนั้นมีหันเห ขึ้นอย่าหลงลงอย่าท้อขออย่าเท วนจำเจ...แต่ชั่วดีนี่จีรัง ธรรมดาสามัญอันมนุษย์ ขึ้นสูงสุดเสื่อมได้ไม่สมหวัง อนิจจาชีวีมีดับ, ดัง แต่ชั่วดีอยู่ยังอย่างยั่งยืน ผ่าน หนองเสือ เริ่มล้าแขนขาเมื่อย นั่งมาเรื่อย ลาดกระบัง ยังไม่ชื่น พวกเราเริ่มร้องเพลงยังช่วยฟื้น ด้วยได้ยืนขยับย้ายคลายเส้นดี เวลานี้สนานสนุกสุขทั้งรถ รอยยิ้มเริ่มปรากฏทั้งหมดนี่ ผ่าน สุวรรณภูมิลองมองอีกที เห็นเครื่องบินจึงชี้เพื่อนนี้ชม ประเดี๋ยวถึงสถานที่ที่ตั้งเป้า ฉะเชิงเทรา วัดโสธร พรสุขสม เป็นที่แห่งศรัทธามานานนม ความขื่นขมเข้าวัดขจัดคลาย ก่อนจะถึงซึ่งวัดรถลัดเลาะ ประจวบเหมาะร้านค้าเริ่มมาขาย หนึ่งไข่ต้มใส่ถังตั้งเรียงราย ทั้งหญิงชายซื้อของสองน้ำปลา ไปขอพรหลวงพ่อต่อชีวิต สิ่งใดผิดรู้ทันเห็นปัญหา สิ่งใดดีรู้กระทำนำปัญญา ขอพึ่งบารมีดลบนสิ่งใด พอรถเลี้ยวเข้าวัดเหมือนชีวิต ชโลมจิตแจ่มจ้าพาสดใส พอรถจอดจึงรีบลงมุ่งตรงไป วิหารใหญ่คนต่อแถวริมแนวรั้ว ได้เข้าไปใจจึงถึงที่สงบ ได้ประสบสิ่งประเสริฐเกิดถ้วนทั่ว
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร อันทุกข์โศกโรคภัยไม่ใกล้ตัว อันมืดมัวหนทางสว่างเลย มีปัญหามากมายอยู่รายล้อม ขอให้พร้อมเผชิญสู้รู้เฉลย อันครอบครัวรักใคร่ให้เหมือนเคย ศัตรูเอยอ่อนแอแพ้ภัยตน ออกไปข้างวิหารหนึ่งซี่งหลวงพ่อ ถวายสังฆทานขอต่อกุศล ถวายเครื่องไทยธรรมรับน้ำมนต์ ออกมาข้ามถนนวนเสี่ยงดวง ละครรำแก้บนหลวงพ่อนี้ วรรณคดีอิเหนาเจ้าเมืองหลวง มีบทรักบทรบครบเล่ห์ลวง จบเป็นช่วงเป็นตอนต่อรอผู้มา เตรียมขึ้นรถไปต่อพอจะก้าว อาจารย์ป่าวประกาศให้ไปข้างหน้า เราจึงรีบเดินไปไม่ได้ช้า หยุดอยู่ริมธาราน่าตื่นใจ สมคำว่า บางประกง เลี้ยงชีวิต พระศักดิ์สิทธิ์พ่อโสธรพรยิ่งใหญ่ เห็นสายน้ำคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะไป ประหนึ่งคนรู้ไว้ให้ระแวง ต่อหน้าซื่อนอบน้อมถ่อมตนนัก ลับหลังหักหลังให้ใจแสลง หอกข้างแคร่แพ้คนใกล้ไม่เคลือบแคลง โดนทิ่มแทงรู้ไม่ทันอันตราย ไม่รอช้ากลับมานั่งซึ่งยังที่ หลายนาทีรถบึ่งถึงจุดหมาย อ่างศิลา ไม่ได้ลงคงเสียดาย เก็บรูปถ่ายร่วมกันพลันขึ้นไป นั่งฟังเพลงเพราะหูอีกครู่หนึ่ง รถก็ถึง หาดบางแสน แดนสดใส วน วงเวียนปลาโลมา น่าตื่นใจ เห็นของให้อยากลองต้องรับประทาน มีร้านค้าร้านขายหลายร้านอยู่ มีร้านหมูกระทะกับอาหาร วนกลับเข้าสถาบันอันโอฬาร บูรพา เด่นตระหง่านอ่านป้ายรู้ สถาบันวิทยาศาสตร์สัตว์น้ำ ใหญ่ รีบลงไปซื้อบัตรจัดเป็นหมู่ มีฟอสซิลสัตว์ใหญ่ให้ได้ดู เพียงชั่วครู่บัตรมาแจกแยกกันไป ตรงเข้าไปอยากดูซึ่งตู้นั้น แมงกระพรุนพระจันทร์นั่นสดใส เขาสลับแสงสีหรี่แสงไฟ ผ่านตู้ใหม่ปลาการ์ตูนไม่สูญพันธุ์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร เข้าอุโมงค์ปลามาตื่นตายิ่ง ตู้ปลาใหญ่ใสจริงสิ่งสร้างสรรค์ มีการให้อาหารปลามาดูทัน ถ่ายภาพกันทุกคนสนใจดู ปลากระเบนปลาเก๋าว่ายเข้าหา แลเห็นปลาฉลามตามมาอยู่ ไฉนฉลามอยู่เดียวดายก็ไม่รู้ ดีเพื่อนหมู่เรามาภาษาไทย อนึ่ง ปลาได้อาหารทานแล้วอิ่ม ต่างกับคนได้รอยยิ้มก็อิ่มได้ ปลาก็สุขคนก็สุขทุกข์ห่างไกล แล้วออกไปเตรียมขึ้นรถหมดเวลา รถออกจากสถาบันอันยิ่งใหญ่ แล้วออกไปหาดบางแสนแดนหรรษา ดูคึกคักนักท่องเที่ยว...เลี้ยวขวามา จึงถึงหน้าที่พักเราสักที บ่ายสามครึ่งถึงที่หมายได้พักแรง เตรียมตัวแบ่งบ้านกันจัดสรรที่ ตกลงห้องของใครให้เหมาะดี รับกุญแจวิ่งรี่ปรี่ห้องตน บ้างขอนอนก่อนไปชายทะเล บ้างเตร็ดเตร่เดินข้ามตามถนน จุดสุดท้ายหมายรวมร่วมทุกคน ริมหาดทรายมากจนยากค้นใคร มาเก็บภาพความทรงจำล้ำเลอค่า ทุกเวลามีรอยยิ้มปริ่มเปรมได้ หาดบางแสนสุขยิ่งกว่าสิ่งใด เพียงปล่อยใจเป็นสุขเช่นทุกครา เห็นมะพร้าวคู่หาดขาดไม่ได้ ดูเอนไหวตามลมโบหกโยกเข้าหา เปรียบกับคนหูเบาเขลาปัญญา ต้องเอนไปเอนมาให้ทุกข์ตรม มองทางไหนได้เห็นเป็นสนุก เที่ยวกับเพื่อนเลือนทุกข์แสนสุขสม มีกอดคอหยอกล้อให้ได้รื่นรมย์ กระชับปมสายใยใจผูกพัน แต่วันนี้น่าเสียดายชายหาดปิด ร้านค้า, คนเงียบสนิทไม่คิดฝัน เขาทำตามกำหนดกฎครบครัน อังคารนั้นห้ามขายของต้องหยุดลา มองเห็นวิวทิวทัศน์ชัดแจ่มแจ้ง ทุกหนแห่งยืนยงคงคุณค่า มองทางไหนงานล้ำจำเริญตา เพียงมองพาสุขพ้นทุกข์ใจ เล่นเสียเพลินเกินเวลาฟ้าเปลี่ยนสี ส้มทองมีตัดสลับกับน้ำใส
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร สะท้อนแสงแรงร้อนดั่งฟอนไฟ ที่โหมไหม้อยู่ท่ามกลางระหว่างน้ำ คลื่นกระทบซบหาดไม่ขาดสาย อาทิตย์ฉายอ่อนลงคงใกล้ค่ำ ฟ้าอร่ามเรืองรองดั่งทองคำ เป็นสิ่งย้ำเตือนว่าเวลาเย็น เรียกรวมตัวทั่วทุกจุดครั้งสุดท้าย เพื่อจะถ่ายรูปจำย้ำเมื่อเห็น ศิษย์อาจารย์เบิกบานใจไร้ลำเข็ญ นี่แหละเป็นความงามตามต้องการ แล้วขึ้นรถใจจดจ่อรอถึงที่ ถึงพอดีตาสอดส่องมองอาหาร มองทางขวาก็น่าสนคนละลาน มองทางซ้ายหลากร้านตระการตา เป็นเมืองแห่งแสงสีสันสวรรค์ย่อม ทุกสิ่งพร้อมให้เลือกสรรความหรรษา ระยิบระยับประดับแสงเหมือนแข่งฟ้า ดูดารามืดดับลับลงไป เมื่อเอมอิ่มเลือกชิมรสหมดทุกอย่าง ค่อยก้าวย่างมารอรถกำหนดให้ บางคนว่าช้านานเกินกาลไกล จึงเลือกไม่รอนานเนิ่นเดินกลับพลัน สองฟากข้างทางขวาซ้ายแนวชายหาด สุดประหลาดไร้เงาคนทนหวาดหวั่น เพียงลมโบกโยกมะพร้าวเข้าหากัน ให้นึกสั่นใจกลัวทั่วทั้งกาย แหงนมองฟ้าจ้าแอร่มแจ่มรังสี เพ็ญรัศมีสว่างส่องผองนวลฉาย คืนนี้ฟ้าราตรีเหงาจันทร์เดียวดาย ดูจันทร์คล้ายกับเราเศร้ากังวล แล้วเดินไปใกล้คลื่นค่อยชื่นฉ่ำ สัมผัสน้ำเย็นใจในทุกหน นิยามน้ำตามความคิดของจิตตน เปรียบกับคนรักจริงใจตรงไปมา น้ำจะมาหาฝั่งดังเช่นนี้ ไม่เคยหนีห่างไกลฝั่งไห้หา จะกลับไปซบใกล้ฝั่งทุกครั้งครา จึงกล่าวว่าเปรียบคนรักสมัครใจ เดินเรื่อยเรื่อยเฉื่อยช้าจนมาถึง ที่พักซึ่งจองกันเลือกสรรได้ เข้ายังห้องของตัวเองเร่งรีบไป นอนพักให้มีกำลังวังชากัน พออาบน้ำสำเร็จเสร็จสรรพพร้อม ก็มาล้อมวงใหญ่ได้สังสรรค์ กิจกรรมนำมาสารพัน แสนสุขนั้นตามชื่อเมืองเรื่องจริงเชียว
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร เป็นคืนที่มีความสุขสนุกมาก ไม่คิดจากห่างไปไร้แลเหลียว เมื่อมีสุขทุกนาทีมีแป๊บเดียว ต้องเก็บเกี่ยวความสุขไว้ให้จงดี เวลาผ่านนานเนิ่นเกินกำหนด เราทั้งหมดต้องขยับกลับเข้าที่ เร่งก้าวเท้ากลับเข้าห้องของตนมี ไว้พรุ่งนี้เริ่มวันใหม่ได้เจอกัน เมื่อเข้าห้องของตัวไม่มัวช้า มือวันทาไหว้พระก่อนจึงนอนฝัน ค่ำคืนนี้พระคุ้มครองป้องชีวัน เกษมสันต์นอนเป็นสุขเช้าลุกมา พอเช้าแจ้งแสงตะวันผันสาดส่อง เตรียมเก็บของใส่กระเป๋าจัดเข้าหา อาบน้ำกันแต่งตัวไม่มัวช้า แล้วมุ่งหน้าเดินไปยังฝั่งหาดทราย เป็นวันพุธสุดดีมีร้านเปิด อาหารเลิศรสล้วนชวนซื้อขาย สองฟากข้างทางเดินเกินบรรยาย คนมากมายซื้อของกินกลับถิ่นกัน เมื่อเลือกซื้อถือของเต็มสองข้าง แล้วเดินทางกลับมาพาสุขสันต์ มีสิ่งใดแลกสลับรับแบ่งปัน จนอิ่มหนำสำราญพลันเช้าวันนี้ เมื่อท้องอิ่มยิ้มออกบอกเดินหน้า เพื่อไปหาวัดใกล้ใกล้ในพื้นที่ เป็นวัดงามตามแบบบทกฎธรรมชี้ สอนชีวีสัจธรรมนำใส่ใจ วัดแสนสุข มีสิ่งของลองศึกษา เป็นวัดที่มีค่าน่าเลื่อมใส เป็นวัดที่มีธรรมนำจิตไป เป็นวัดที่ใครใครต้องได้ดู เมืองสวรรค์นั้นสื่อคือความสุข ไร้เรื่องทุกข์ใดใดให้อดสู เพียงกระทำกรรมดีที่เชิดชู ไม่ร่วงสู่นรกร้ายอบายพลัน แดนนรกหมกไหม้ใจคิดชั่ว กระทำตัวเลวสุดฤทธิ์จิตหวาดหวั่น จุดสุดท้ายอบายรอท้อชีวัน จงยึดมั่นทางธรรมมะพระกล่าวไว้ เดินสุดทางเห็นปูนก่อบ่อสี่เหลี่ยม แวะเข้าเยี่ยมเยียนดูจึงรู้ได้ มองเห็นเต่าคลานเวียนวนทนทุกข์ใจ ช่วยซื้อผักนำไปให้เป็นทาน ออกจากวัดทัศนาว่าถึงไหน ตลาดใหญ่ หนองมน คนกล่าวขาน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ข้าวหลามอร่อยคนรอต่อแถวนาน อีกอาหารของดีมีกลับไป ทั้งของฝากลดกระหน่ำซื้อนำกลับ ข้าวหลามวางสลับกระบอกใหญ่ เลือกสิ่งของตามต้องการสำราญใจ เพื่อซื้อให้ญาติมิตรสนิทกัน ขอลาก่อนจรไกลกลับไปถิ่น ยังถวิลบางแสนแดนสุขสันต์ เพียงหนึ่งคืนได้จดจำเชื่อมสัมพันธ์ ไม่มีวันลืมลงคงไม่มี ห้าชั่วโมงรถแล่นบึ่งถึงที่หมาย จุดสุดท้ายงามตาลวะศรี สถาบันยิ่งใหญ่เทพสตรี ลงรถลา...โอกาสมีคงดีใจ โบกมือลาพาใจให้หมองเศร้า ไม่นานเรากลับมาฟ้าสดใส มาร้อยรักถักทอต่อสายใย ภาษาไทยผูกพันนิรันดร์เอย ในวัยฝันและศุกร์สวัสดิ์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร รวมกลอนสมานมิตร
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ร้างบางแสน แสงอาทิตย์จวนลาลับกลับขอบโลก สายลมโบกวกวนจนหันเห ระลอกคลื่นเคลื่อนกระเซ็นซัดทะเล ใจว้าเหว่เมื่อจำจรจากเมืองชล ถิ่นแสนสุขมนุษย์สุขไม่ถึงแสน แสร้งว่าแดนปราศทุกข์กว่าทุกหน ลวงเล่นกับความรู้สึกทำชอบกล กับดักคนรักร้างพลางคร่ำครวญ หาดบางแสนคนนับแสนบางคนเหงา เคยเกี่ยวก้อยเดินเคียงเจ้าทรามสงวน ภาพฝังแน่นตรึงจิตคิดรัญจวน ห่างเนื้อนวลเหมือนทะเลห่างหาดทราย ลาหนองมนไกลหน้ามนใจเจียนขาด เคยพาน้องเที่ยวตลาดเมื่อตอนสาย ปลาอินทรีเหมือนอินทรีย์พี่เดียวดาย ขนมจากจากแต่กายจิตอาวรณ์ นิราศรักคิดถึงเจ้าแน่งน้อย ตะวันคล้อยเคยชมทุ่งกับสมร ทั้งทวงรักฝากลมเป็นบทกลอน วานจันทรกระซิบรักยามสนธยา ใต้ดิน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร กว่าจะถึงฟ้าสวยที่บางแสน ทัศนาบางแสนที่ใฝ่ฝัน นัดแนะวันแจ้งประสงค์ลงหมุดหมาย วันอังคารนัดพบกันตระเตรียมกาย ห้ามขาดหายขึ้นรถกันให้ทันกาล ระหว่างทางบ้างร้องเล่นเต้นกินนอน ได้พักผ่อนยามเดินทางเกษมศานต์ พักทานข้าวอ่างศิลาเดินสะพาน หลังกราบกรานหลวงพ่อวัดโสธร หวังได้พบเกลียวคลื่นทะเลคราม หาดทิวงามทอดไกลทุกข์ถ่ายถอน ทรายสีขาวปลกคลุมดั่งอาภรณ์ ไร้นิวรณ์ละวางจิตละปล่อยใจ ถึงเวลาทินกรจะลาลับ แสงระยับงามตาพาหลงใหล นี่แต้มด้วยศิลปินจากถิ่นใด วิจิตรไร้ติติงน่ายลยิน หมดเวลาของตะวันทำหน้าที่ ลับนทีขอบหาดลับโขดหิน เปลี่ยนพระจันทร์ดูแลฟ้าเฝ้าธานิน เห็นแดนดินได้งดงามยามค่ำคืน นางพยัคฆ์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร บางแสนที่รอคอย ถึงบางแสนสถานที่ที่รอคอย เมื่อเท้าน้อยเหยียบลงทรายสุขหรรษา ลืมความเหนื่อยที่ได้เผชิญมา น้ำสีฟ้าคือสิ่งเยียวยาใจ ทะเลงามยามเย็นเป็นดั่งฝัน คือสวรรค์ชวนคนให้หลงใหล ทุกคนต่างเดินเล่นชมวิวไป น้ำสีใสทรายสีขาวล้วนกลืนกลม ดวงอาทิตย์ใกล้ลับกับขอบฟ้า มองทะเลทุกคราน่าสุขสม แสงส่องมากระทบคลื่นชื่นตาชม ละลิ่วลมล่องพัดสัมผัสกาย ฟังเสียงคลื่นทะเลครามในยามเย็น น้ำกระเซ็นตลอดฝั่งทั้งแนวสาย หยุดยืนนิ่งฟังความเงียบบนหาดทราย ไร้จุดหมายได้ยินเพียงเสียงหัวใจ บรรยากาศแสนเศร้าเข้าทุกที ไร้สุขีเหงาจิตคิดถึงใหญ่ สุดขอบฟ้าข้างหน้าที่กว้างไกล คิดถึงใครคนหนึ่งซึ่งจากมา คริกซี
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ณ บางแสน อยู่บางแสนยามเย็นแสนสงบ แสงกระทบสาดสะท้อนแผ่นน้ำใหญ่ น้ำคลื่นซัดสูบทุกข์ผ่านพัดไป แล้วพาคลื่นสุขใหม่ใกล้ฝั่งมา คลื่นลูกนี้มีเสียงว่าซู่ซู่ เปลี่ยนชีวิตที่หดหู่ละห้อยหา ให้สดชื่นรื่นฤดีมีชีวา ด้วยเสียงจำนรรจามหรรณพ สุริยาอ่อนล้าลดลงถอย คืนสู่ขอบฟ้าคอยเวียนบรรจบ ย้ำชีวิตเรานั้นมีจากพบ ดั่งตะวันต้องซบผิวพื้นดิน ทินกรลาลับจากขอบฟ้า เริ่มนำพาความมืดมิดปิดทั่วถิ่น จงตั้งใจรอวันอันคุ้นชิน เจ้าจะได้ยลยินรุ่งอรุณ แสงสว่างทอแสงชีวิตใหม่ เช้าสดใสเปลี่ยนชีวิตที่มัวขุ่น ดังเม็ดทรายแสงต้องมองละมุน แม้คลื่นซัดเจือจุนให้อุ่นใจ ไม่เต็มสิบ
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร บูรพา ปลาโลมาน้อยใหญ่คอยต้อนรับ ตั้งประดับเด่นสง่าหน้าสถาน เป็นน้ำพุคู่แห่งนี้มายาวนาน ย้อนวันวานที่เราเคยเข้ามา ตัวสีใสกระทบแสงแสดงเห็น ว่านั่นเป็นแมงกะพรุนที่ค้นหา คือมหัศจรรย์สัตว์น้ำบูรพา สุดล้ำค่ากลางความมืดไม่มืดมน เดินตามทางพบปลาหลากชนิด หลายชีวิตแหวกว่ายไม่สับสน มีรูปร่าง แปลก, สวย ด้วยปะปน ไม่ใช่คนแต่เป็นปลาในตู้งาม อีกปลาไหลกระเบนว่ายบนหัว อยู่รอบตัวรายล้อมด้วยฉลาม พิพิธภัณฑ์มองเห็นเป็นสีคราม ใครก็ตามได้มาเพลิดเพลินใจ เข้ามาชมสัตว์น้ำที่บางแสน ไม่ขาดแคลนความสุขอันสดใส ผู้คนมาแวะเวียนอยู่ร่ำไป สุดยิ่งใหญ่สถาบันทางทะเล แป๊ะยิ้ม
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร รักร้างที่...บางแสน ยืนอยู่ริมหาดให้ใจรู้สึก เสี้ยวส่วนลึกร้าวสะท้านซ่านหวั่นไหว ว่าบางแสนแสนสุขสบายใจ จากกันไกลบางแสนแสนทุกข์จริง เจ้าจำจากพี่ไปในวันนั้น นี่...สำคัญคงขุ่นเคืองเรื่องบางสิ่ง ซึ่งคำพี่หนักเบาจึงเจ้าทิ้ง แท้พี่ติงเพียงเตือน...เบือนหน้าไป ฟังเสียงคลื่นครืนครืนเซาะพื้นหาด วันทั้งคืนซัดสาดหาดทนได้ พี่หวังดีที่ว่าอย่าน้อยใจ กลับมาใหม่มาอยู่เป็นคู่เชย ตะวันจวนจะลับฟ้า...กลับมาคิด คล้ายชีวิตคู่เราจริงเจ้าเอ๋ย เมื่อ รุ่ง, รัก สมัครใจทุกข์ไม่เคย เมื่อ ลับ, รัก สุขเอยไม่เคยมี จากวันนั้นจนวันนี้ที่บางแสน ยังรอแฟนคนก่อนย้อนคืนที่ มาลบรอยร้างรักอีกสักที มาปลูกรักใหม่นี้ในที่เดิม ในวัยฝัน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ยามอาทิตย์อัสดง ในยามเย็นตะวันลับกับขอบฟ้า เป็นเวลาใกล้ค่ำแสงสลัว แสงส้มทองใกล้หมดเริ่มมืดมัว นกเตรียมตัวรวมฝูงบินกลับรัง ทะเลนิ่งเงียบงันคลื่นสงบ เหมือนกับพบความเหงาสิ้นความหวัง ไม่มีคนข้างกายอยู่ลำพัง ไร้พลังเรี่ยวแรงจะหายใจ ยิ่งทะเลกว้างขวางไม่สิ้นสุด เหล่ามนุษย์ตัวเล็กกว่าสิ่งไหน มากปัญหาให้เจอเสมอไป ทำสิ่งใดก็หมดสิ้นศรัทธา หากเราอยู่โดดเดี่ยวกำลังน้อย จะสู้ร้อยกำลังดั่งหินผา ที่มีคนมากมายหลายอัตรา จะดีกว่าถ้าเราสู้อยู่ด้วยกัน แม้ทะเลจะกว้างไม่มีผล อยู่หลายคนไม่เหงาเราสุขสันต์ พื้นที่ใหญ่หลายคนด้วยช่วยฝ่าฟัน ในสักวันปัญหาจะหมดไป ดาวเหนือ
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร วัดแสนสุขสัจธรรมนำชีวิต มาถึงถิ่นดินแดนวัดแสนสุข ไร้เรื่องร้ายคลายทุกข์ตามวิถี ได้พบเจอสัจธรรมนำชีวี ลงรถมาคนมากมีที่มาเจอ เห็นรูปปั้นยมบาลท่านตัดสิน ได้ยลยินยามชีพดับลับเสมอ ดวงชะตาชีวิตของพวกเธอ อย่ามั่วเผลอหลงใหลในสิ่งงาม สังขารดับจิตเราอาจได้พบ มาบรรจบตรงหน้าท่านว่าถาม เคยทำดีหรือไม่ให้ตอบความ ที่เป็นตามเรื่องจริงสิ่งทำมา ขอมนุษย์ทั้งหลายจงรู้สึก อย่าได้คึกคะนองลองชั่วหนา มันจะเป็นบาปผิดติดชีวา จะนำพาดวงจิตคิดเถิดเรา จงทำบุญบำรุงศาสนา บุญนำพามีสุขยังเหมือนดั่งเสา ที่มั่นคงแข็งแรงช่วยบรรเทา ยามทุกข์เศร้าถาโถมไม่ตรมทรวง นามปากกาล่องหน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ทะเลกับเพื่อน ตามรอยศาสตร์ศิลป์อักษรสุนทรภู่ คือยอดครูกวีศรีสยาม ประเด็นถ้อยร้อยวจีนิราศงาม น่าติดตามเที่ยวท่องต้องลงแรง ฉันและผองเพื่อนรักมาปักหมุด บางแสนสุดสวยสมชมสีแสง แสงอาทิตย์สะกิดน้ำนำแสดง ทั่วทุกแห่งระยิบระยับจับหาดทราย กาญจนีนามฉันมาปั่นสุข พร้อมมาบุกบรรยากาศหาดเฉิดฉาย อีกผองเพื่อนทั้งสามตามข้างกาย ไม่เดียวดายถ่ายรูปละเล่นกัน เฟื่องระบิลปัญพรนิศารัตน์ เกลอคู่กัดรู้ใจรักใคร่ฉัน นัดกันไปนั่งคาเฟโม้ประชัน แสนสุขสันต์กินขนมชมสาคร จิบกาแฟดื่มด่ำฉ่ำชื่นจิต ทบทวนคิดถึงคำเคยพร่ำสอน การเดินทางต่างพบเพื่อจากจร พึงสังวรณ์นิราศรสให้บทเรียน หลินหลิน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร จิตศรัทธาบูชาองค์โสธร ธูปเทียนทองดอกไม้พร้อมไหว้พระ เพื่อที่จะขอพรผ่อนทุกข์เศร้า ทุกข์โศกรุมกลุ้มจิตคิดบรรเทา ให้ตัวเราสุขล้นคนเมตตา คิดตั้งมั่นพอวันนี้ถึงที่หมาย จิตผ่อนคลายดวงใจได้หรรษา ให้ร่มเย็นเป็นสุขในทุกครา ดั่งฝนทิพย์จากฟ้ามาสู่ใจ กลิ่นธูปย้ำนำพรวิงวอนกล่าว พาเรื่องราวที่คิดจิตปราศรัย สู่ทวยเทพทุกชั้นฟ้าสุราลัย แล้วอวยชัยสุขสมอารมณ์ปอง ปัญญาจงสว่างไสวดั่งไฟเทียน ในการเรียนฝึกหัดไม่ขัดข้อง รู้สิ่งผิดคิดสิ่งชอบตามครรลอง ไร้สิ่งที่หมางหมองห้องหัวใจ กราบสามครั้งหวังพึ่งซึ่งหลวงพ่อ พรที่ขอประสิทธิผลิผลได้ องค์โสธรศักดิ์สิทธิ์ฤทธิ์ลือไกล ขอน้อมไหว้ด้วยแรงแห่งศรัทธา ศุกร์สวัสดิ์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร เที่ยวบางแสนแสนหรรษา วันสิบสามเดือนสิบสองปีหกห้า นักศึกษาเอกไทยไปท่องเที่ยว เสื้อขาวส้มร่วมใจเป็นหนึ่งเดียว ดูกลมเกลียวพร้อมใจไปเมืองชล แวะไหว้พระขอพรที่วัดหลวง ช่วยเสริมดวงชีวิตจิตกุศล ทั้งคนไทยต่างชาติมากปะปน ศรัทธาล้นเลื่อมใสวัดไทยเรา เยี่ยมชมโลกใต้น้ำที่บางแสน เมืองดินแดนตู้ปลาพาไม่เหงา เดินดูปลาอากาศเย็นร้อนบรรเทา เพราะค่าเข้าข้างในก็ไม่แพง มาถึงหาดทรายขาวน้ำสีฟ้า สุริยาส่องน้ำกระทบแสง ลงเล่นน้ำทะเลจนตาแดง นั่งหมดแรงสนุกแสนสุขใจ เที่ยวทะเลครั้งนี้แสนหรรษา สุขอุรายิ้มแย้มอย่างสดใส
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ความทรงจำที่ดีตลอดไป เป็นสายใยผูกพันมิผันแปร คุณนายตื่นสาย มหัศจรรย์ทะเลบางแสน ได้เวลาล้อหมุนอรุณสาง เมฆหมอกจางเป็นวันที่สดใส เก็บเสื้อผ้าเตรียมตัวพบทะเลไกล เตรียมกายใจผ่อนพัก ณ ต่างแดน แดดรอนรอนกระทบลงตรงหน้า นี่แหละหนาถึงแล้วที่บางแสน เห็นคนเขาเดินเป็นคู่จูงมือแฟน เราควงแขนครอบครัวมิสนใจ สูดหายใจรับลมให้เต็มปอด ทางยาวทอดเห็นเป็นต้นไม้ใหญ่ ชลบุรีแหล่งท่องเที่ยวของเมืองไทย มิแพ้ใครสวยงามตามเลื่องลือ ยินเสียงคลื่นดังแว่วกระทบฝั่ง ปะการังฝูงปลาดูหน้าซื่อ ก่อกองทรายกับน้องน้อยด้วยสองมือ สลักชื่อเราสองคนไว้คู่พลัน ปล่อยร่างกายไปปะทะน้ำเย็นเย็น สาดกระเซ็นราวกับว่าเป็นความฝัน อยากจะชวนเธอนี้มาด้วยกัน มาพบฉันอีกหนที่ชลบุรี จันทร์ชมพู
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร แสนสุข โอ้เช้าตรู่ของวันนี้ดีหนักหนา ทุกคนนั้นพร้อมหน้าพาสุขสันต์ ลากกระเป๋าสะพายบ่ามาพร้อมกัน เร่งเร็วพลันจุดหมายชลบุรี แวะกราบไหว้พ่อโสธรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดั่งใจคิดพรอวยชัยให้สุขี ไม่มีทุกข์มีแต่สุขพบสิ่งดี สถานที่บางปะกงวนเวียนมา เดินทางต่อเห็นทะเลอันกว้างใหญ่ เห็นน้ำใสผ่อนคลายได้หรรษา น้ำซัดหาดสาดกระเซ็นเย็นอุรา สมชื่อว่าบางแสนแสนสุขใจ นั่งฟังเสียงคลื่นซัดกระทบฝั่ง เสียงดุจดั่งบทเพลงบรรเลงใกล้ สายลมพัดผ่านหน้าพาคลั่งไคล้ พาจิตใจคลายสุขเป็นอาจิณ สุริยันลากลับลับขอบฟ้า เปลี่ยนทิวาเป็นคืนค่ำซ้ำถวิล จำต้องจากบางแสนกลับแดนดิน มิลืมถิ่นสุขล้นชลบุรี ภัสสร
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ท่องเที่ยวถึงบางแสน ออกจากราชภัฏไปพร้อมหน้า นิราศพาท่องเที่ยวถึงบางแสน ล้อรถหมุนมุ่งหน้าสู่ดินแดน ที่วางแผนเที่ยวชมชลบุรี แต่ก่อนถึงเป้าหมายที่ตั้งมั่น พวกเราพลันไหว้พระเป็นศักดิ์ศรี กราบหลวงพ่อโสธรเพื่อบารมี ฉะเชิงเทรานั้นดีชวนให้มา เมื่อออกวัดโสธรวราราม เดินทางตามสถานที่แสนมีค่า มาถึงถิ่นชลบุรีที่ตื่นตา บูรพาสถานีที่ต่อไป สถาบันวิทยาศาสตร์สัตว์ใต้น้ำ พิพิธภัณฑ์ชั้นนำน่าหลงใหล สัตว์ทะเลมากมายน่าสนใจ ว่ายว่องไวผ่านตาพาชื่นชม ที่สุดท้ายทะเลของบางแสน คือดินแดนท่องเที่ยวน่าสุขสม ถอดรองเท้าวิ่งไปนั่งกินลม ปล่อยอารมณ์ตามคลื่นซัดที่พัดพา มองทอดยาวทะเลงามยามเมื่อใกล้ ดวงฤทัยหวนนึกยามเห็นหน้า
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร พ่อและแม่ของฉันเคยพามา มากคุณค่าชลบุรีนี้ไม่เลือน นิลกาฬ ที่...บางแสน โอ้บางแสนครวญไห้ใจจำพราก ครั้นถึงคราลาจากลวะศรี โอกาสงามประชิดติดสิ้นปี เหมาะพอดีไปกลับมินับนาน ยามเมื่อรุ่งอรุณส่องแสงทองให้ สิ้นทุกข์ไปใจสุขเกษมศานต์ ออกสัญจรตรอกซอกซอยเหมาะแก่กาล ร่วมเบิกบานแลกเปลี่ยนจำนรรจา ถึงเวลาทัศนาอารามใหญ่ คิดสิ่งใดสมมุ่งมาดปรารถนา พ่อโสธรพระท่านนั้นเมตตา คุ้มบิดามารดรแคล้วคลาดภัย เมื่อเวลาผันผ่านไม่นานนัก พอได้พักเก็บรอยยิ้มริมน้ำใส ถึงที่หมายชายหาดอย่างเร็วไว พาหัวใจปลดเปลื้องเรื่องทุกข์ทน ยินเสียงสาดเซ็งแซ่บันดาลจิต พาหวนคิดถึงบ้านขึ้นอีกหน จึ่งตั้งใจเก็บเกี่ยวภาพพื้นสายชล ไปฝากคนทางบ้านแสนสุขจริง วารีวัส
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร คะนึงนิจ ถึงบางแสนแสนสุขทุกข์ไหลสิ้น สายชลรินไหลไปไม่ใคร่หยุด สายธาราไกลดั่งใจมนุษย์ สายสมุทรบางแสนก็แสนดี ได้มาเที่ยวถิ่นน้ำเมืองสวรรค์ เทพสร้างสรรค์ใครเยือนเป็นสุขี ข้าวหลามหนองมนชลบุรี ประดับศรีเมืองงามน้ำอ่าวไทย ถึงเมืองนี้ของดีมีมากล้น ให้ผู้คนจับจองไม่สงสัย แสนคุ้มค่าได้มาเยือนแดนไกล ด้วยห่วงใยซื้อของดีฝากเธอ มาเที่ยวชลกับเพื่อนแสนสนุก ด้วยกายสุขแต่ใจเหมือนแอบเก้อ ต้องจากไกลหวานใจหน้าไม่เจอ ฉันแทบเพ้อทุกเวลามิวางใจ น้ำทะเลกระทบแสงอาทิตย์ พาดวงจิตข้านั้นให้หวั่นไหว
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ถ้าวันหนึ่งเจ้านั้นจากฉันไกล กลางฤทัยคงเหมือนนกไร้รัง ล้อมสมุทร แสนคิดถึง ตะวันรอนอ่อนอับจะลับฟ้า เฝ้ามองหาหวนให้ใจขื่นขม เสียงคลืนคลืนคลื่นซัดสาดหาดระทม แว่วยินเพียงเสียงลมตรมคร่ำครวญ ฉันเดินเล่นริมหาดทรายในเย็นนี้ บางแสนมีความทรงจำทำให้หวน ก่อนเคยมีหวานใจไม่เรรวน แต่ปั่นป่วนหวานใจเราเขาไม่มา นึกถึงตอนเคยนั่งอยู่ริมหาด เราเคยวาดรูปหัวใจให้คุณค่า เกิดเป็นรักผ่านผันวันเวลา แล้วลมพารักร้างห่างกันไกล วันนี้มาอยากบอกเขาเล่าให้รู้ ยังรออยู่ที่นั่นไม่ไปไหน อยู่ตรงนี้อยู่ที่เก่าเคยเข้าใจ กลับมาใหม่ผูกรักเราเข้าอีกที ตะวันลับไร้แสงแห่งความหวัง แต่บางแสนเติมพลังให้เต็มที่
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร แล้วเพื่อนด้วยช่วยปลอบใจในวันนี้ ในวันที่ไม่มีเธอฉันเพ้อรัก... ชิสา บางแสนแสนเศร้า โอ้เคยได้ยินเรื่องเล่าเขาบอกว่า ถ้าอกหักรักลาให้มานี่ ได้ปล่อยทุกข์ลอยไปกับวารี ขอให้ลืมรักนี้สักทีเชียว โอ้บางแสนแหงนมองฟ้าพาใจหม่น คิดถึงคนเคยชวนจะพาเที่ยว ในวันนี้เหลือน้องมาคนเดียว ช่างเปล่าเปลี่ยวไม่มีพี่ไม่มีเรา โอ้ตะวันยามบ่ายสาดแสงส่อง หาดทรายทองมองไกลพาใจเหงา หากตะวันลับฟ้าทาสีเทา น้องนั่งเศร้าโดดเดี่ยวอยู่เดียวดาย โอ้ได้ยินเสียงคลื่นที่ซัดหาด มันซัดสาดดังครืนครืนขมขื่นหลาย เพราะรักนี้ไม่มีพี่ข้างกาย หากหาดทรายไม่มีคลื่นคงเหมือนกัน โอ้ตะวันได้เคลื่อนคล้อยลอยลับฟ้า ได้เวลาจันทรพาคิดฝัน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ถึงความรักที่ผ่านมาทุกคืนวัน ฝากดวงจันทร์ลาพี่ให้ทีเอย ฟ้าประทาน นิราศสัตว์น้ำใต้พื้นผิวทะเล เรื่องดีดีมากมายในวันนี้ เป็นวันที่ออกเดินทางกับผองเพื่อน บันทึกความทรงจำคอยย้ำเตือน ไม่ลืมเลือนสิ่งที่เจอเกลอสุขใจ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมีให้เห็น ฝูงปลาเป็นสีสันแสนสดใส แมงกะพรุนเรืองแสงสวยกว่าใคร เขาเปลี่ยนตามสีไฟสวยงามตา จุดนัดพบนักดำน้ำที่น่ารัก เข้าไปทักใต้อุโมงค์เห็นใบหน้า พร้อมถ่ายรูปเป็นภาพจำก่อนจากลา มันมีค่าทางจิตใจเกินบรรยาย เดินกับเพื่อนที่เรารักสุดหัวใจ ถ้าขาดใครซักคนคงใจหาย ถึงเวลาไม่ได้ไปน่าเสียดาย แสนสบายไปไม่ไกลที่เมืองชล ใครใครเห็นคงต้องได้ไปเที่ยว พร้อมเก็บเกี่ยวความรู้อีกหลายหน สัตว์ทะเลนั้นมีค่าต่อทุกคน ศึกษาจนอนุรักษ์ไว้ให้ยั่งยืน ไบร์ทมูน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ดวงอาทิตย์ที่รัก ณ บางแสน ออกเดินทางเมื่อยามรุ่งตะวันส่อง เฝ้าเหม่อมองทิวากรค่อยฉายแสง ถึงวัดพ่อโสธรแดดจ้าแดง พักเอาแรงแวะกินข้าวอ่างศิลา บ่ายแก่แล้วดวงอาทิตย์ร้อนดั่งไฟ มิหวั่นไหวพากันดูหมู่มัจฉา พอตกเย็นถึงบางแสนแหงนมองฟ้า สุดคุ้มค่านภาแจ่มแช่มชื่นใจ วันอังคารย่านนี้ช่างว่างเปล่า ทะเลเหงาเศร้าสลดมิสดใส หยิบมือถือถ่ายภาพส่งถึงคนไกล พร้อมข้อความว่าอยากให้มาด้วยกัน พลบค่ำแล้วสุริยาเตรียมลาลับ ยังไม่กลับต้องพักแรมคืนชวนฝัน กินบุฟเฟต์หมูกระทะใต้ดวงจันทร์ สุขครานั้นยิ่งทวีถ้ามีเธอ เช้าลืมตาอากาศหนาวถึงทรวงใน ความคิดถึงเข้าใกล้เมื่อยามเผลอ ผ่านหนองมนพ้นแล้วคงได้เจอ พาเพื่อนเกลอซื้อข้าวหลามไปฝากกัน สิบห้าวันฝันถึงฟ้าวันศุกร์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร บางแสน ดินแดนสุข ณ สิบสี่ธันวานำพาสุข พวกเราบุกไปที่ริมหาดบางแสน เหล่าพวกพ้องสุขสนุกต่างดินแดน มีเฟื่องแนนและเราทั้งห้าคน น้อยครั้งนักที่จะได้เที่ยวพร้อมหน้า ล้วนมีค่าแก่เรากว่าทุกหน ต่างพากันวิ่งเล่นอย่างซุกซน สุขเสียจนมิอยากจะกลับเลย ก่อนถึงหาดแวะชมเหล่ามัจฉา ช่างตื่นตาตื่นใจกว่าใครเอ๋ย ได้เห็นฝูงฉลามอย่างไม่เคย มีอุโมงค์ให้เงยมองดูปลา มีแหล่งเที่ยวมากมายหลากหลายที่ อันของดีข้าวหลามเลื่องลือกว่า ช่างอิ่มเอมเปรมปรีดิ์สุขอุรา ที่ได้มาพักผ่อนและหย่อนใจ เที่ยวส่งท้ายก่อนแยกจบปีสี่ เพื่อนมากมีนึกแล้วใจสั่นไหว เก็บเกี่ยวความทรงจำก่อนหายไป เหล่าเทพไทยรักกันดั่งครอบครัว จัน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร เพื่อนใจในบางแสน แสงอาทิตย์งดงามสว่างตา ผู้คนมาผ่อนคลายทั้งกายจิต ภาษาไทยร่วมใจต่างเป็นมิตร พาพิชิตหาดทรายในต่างแดน ทั้งเพื่อนพ้องยิ้มแย้มและแจ่มใส ดึงกันไปเดินเล่นหาดบางแสน ความสัมพันธ์นั้นสุดจะแน่นแฟ้น ต่างเหมือนแม้นพื้นทะเลที่ยาวไกล จากความหิวเดินไปไม่ย่อท้อ มุ่งนำหน้าเดินต่อพาหลงใหล มองดูวิวทะเลแล้วเดินไป แสนสดใสยิ่งชมยิ่งเพลินตา พระอาทิตย์เหมือนชีวิตคิดรอบคอบ ในหนึ่งรอบมีทุกข์สุขหรรษา แล้วก็คล่อยเคลื่อยลับนับเวลา รอถึงฟ้าวันใหม่สุขใจเรา ได้ท่องเที่ยวบางแสนในครั้งนี้ ก็ยังมีเพื่อนคู่อยู่คลายเหงา แม้จะเคยมาเที่ยวเมื่อวัยเยาว์ ไม่เหมือนเก่าครั้งนี้มีเพื่อนใจ จิ๋ว
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร แดนความทรงจำ แสงตะวันสีทองไม่เลือนหาย เย็นสบายแสนสุขแสนสดใส เพื่อนทั้งหลายหยอกล้อร่าเริงไป สนุกในทะเลงามสุดลับตา ชายทะเลบางแสนที่เรารัก ผู้คนมักนั่งเล่นรับแดดจ้า ถ่ายรูปวิวทะเลแลท้องฟ้า เก็บไว้ดูเวลาที่ห่างไกล เสียงหัวเราะพูดคุยอารมณ์ขัน ช่างเป็นวันที่สนุกสุขสดใส พ่อโสธรน้อมกราบสุขกายใจ จะทำให้ชื่นอุราพาผ่อนคลาย พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำอลังการ ที่โปรดปรานมีปลาที่หลากหลาย ตู้ปลาใหญ่ที่อยู่อย่างเรียงราย ให้เลือกถ่ายรูปภาพอย่างใกล้ชิด เที่ยวกับเพื่อนด้วยใจที่สุขี คือสิ่งที่พวกเราได้ลิขิต มิตรภาพนำพาให้นึกคิด เลือกไม่ผิดพวกเราร่วมเที่ยวกัน ดวงกมล
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ครั้งแรก ขอเล่าถึงรูปถ่ายที่ได้มา รอยยิ้มพาให้โลกมิโศกศัลย์ มีความสุขตลอดทั้งสองวัน ผ่อนคลายพลันเดินชมลมยามเย็น มองทะเลเห็นคลื่นเห็นชายหาด ดุจภาพวาดที่สร้างไว้ให้คนเห็น อาทิตย์สาดส่องไว้ให้เหมือนเป็น แสงนำทางคลายลำเค็ญก้าวต่อไป ถึงพบค่ำเดินเล่นชมบางแสน รถโลดแล่นบนถนนสุขหาไหน มีสถานที่ครึกครื้นชื่นหัวใจ ผู้คนใช้บริการยามค่ำคืน ฉันและเพื่อนเดินชมจนเหนื่อยล้า แต่นำพาความสุขใจให้ระรื่น สองวันนี้เหมือนกายได้พักฟื้น ได้สิ่งอื่นนอกเหนือเรียนตำรา ฉันสี่คนสุขใจที่ได้พบ เพื่อนมาครบไม่ต้องสืบแสวงหา รอยยิ้มที่ปรากฏชัดเจนพา สิ่งหรรษาประทับลงความทรงจำ หมูหวาน
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ไทยเทพสู่บางแสน หกโมงเช้าล้อหมุนใจสั่นไหว ตื่นเต้นใหญ่ท่องเที่ยวตามความฝัน เตรียมกระเป๋าขึ้นรถร่วมใจกัน สร้างสัมพันธ์เพื่อนพ้องอย่างสุขใจ มาถึงวัดโสธรวราราม ขอพรตามศรัทธาผุดผ่องใส แลแม่น้ำบางปะกงแสนกว้างไกล เหล่าเทพไทยแวะเยือนรื่นฤดี มาถึงถิ่นบางแสนแสนชื่นมื่น มองเห็นพื้นหาดขาวงามฉวี เดินชมแช่เล่นน้ำชลธี เพื่อนมากมีร่วมอยู่คู่เคียงมา มาบางแสนแหล่งเที่ยวล้วนหลากหลาย วัดแสนสุขหญิงชายบาปแรงกล้า มาจ้องดูตู้ใสมีฝูงปลา ได้วิชาความรู้นานาพันธุ์ ก่อนจากลาของฝาก ณ หนองมน ชื่อเมืองชลข้าวหลามดังลือลั่น ปลื้มปริ่มใจมีสุขกว่าทุกวัน เพื่อนและฉันจำได้ไม่ลืมเลือน ญาจันทร์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ทะเลชีวิต มาถึงชลบุรีที่แห่งหนึ่ง ผ่านมาถึงบางแสนแสนไกลถิ่น มองเห็นดวงตะวันลับลงดิน แสงใกล้สิ้นเพื่อฉายในอีกวัน แสงสีทองสาดส่องลงผืนน้ำ เหมือนคอยย้ำเวลาที่แปรผัน มีพบเจอย่อมมีลาจากกัน ความสุขสันต์ผองเพื่อนไม่ลืมเลือน ทะเลงามยามคลื่นซัดลมพัดผ่าน เปลี่ยนวันวานรอคอยให้คล้อยเคลื่อน อุปสรรคขวากหนามเข้ามาเยือน ยังมีเพื่อนคอยอยู่เป็นคู่ใจ ตราบที่ท้องทะเลยังมีคลื่น จะหาความราบรื่นจากที่ไหน ชีวิตต้องต่อสู้อยู่เรื่อยไป มุ่งแก้ไขปัญหาอย่ารอรี โอ้อาทิตย์อัสดงลงขอบฟ้า ยามนภาพลบค่ำจึงเปลี่ยนสี เหมือนดั่งทุกทุกวันของชีวี จำต้องมีเรื่องราวที่ต่างกัน ผ้าทอ
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ชมบางแสน ชมบางแสนเมืองงามที่แสนสุข เขาสามมุขเลื่องลือนามกล่าวขาน เล่าความรักสืบต่อเป็นตำนาน ยามเมื่อผ่านกราบไหว้คนนิยม หาดทรายขาวแวววาวระยิบระยับ คนต่างขับรถมาเที่ยวให้สุขสม เดินริมหาดพักกายใจได้รื่นรมย์ ต่างชื่นชมมองฟ้าทะเลไกล สุริยาจะลาลับขอบฟ้า เห็นนกกาบินว่อนอย่างอ่อนไหว ความโศกเศร้าทั้งมวลเริ่มจางไป ทิ้งทุกข์ใจหม่นหมองลอยทะเล โอ้บางแสนงดงามยามพลบค่ำ ได้เก็บความทรงจำย้ำเสน่ห์ สงบว่างสบายใจในโพล้เพล้ ลมกล่อมเห่ยามเย็นแสนสุขใจ ยามรุ่งเช้าเสียดายต้องกลับบ้าน ประสบการณ์เรียนรู้เพื่อนชิดใกล้ ต่างมาเที่ยวผูกพันจากถิ่นไกล พบกันใหม่บางแสนแดนคุ้นเคย เปรียบดั่งลักษณะอันรุ่งเรือง
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ถึง...เพื่อน โอ้บางแสนดินแดนที่นึกถึง คอยคำนึงเมื่อยามไม่เห็นหน้า แล้วเมื่อไรจะได้พบเพื่อนยา วันเวลาลิขิตพบคนสำคัญ ถึงบางแสนดินแดนแห่งความสุข หมดเรื่องทุกข์ทิ้งไปใจไม่หวั่น ต่างถ่ายรูปเล่นน้ำสนุกกัน สานสัมพันธ์จดจำไม่ลืมเลือน ถึงยามเย็นเดินเล่นหาของกิน มาถึงถิ่นบูรพาอิ่มพร้อมเพื่อน ขาเดินกลับแข่งกันนับดาวเดือน ความสุขเหมือนเคยฝันเดินทางไกล ถึงเพื่อนเพื่อนเจ็ดคนที่ฉันรัก หลายครั้งนักชวนเที่ยวแม้ทางใกล้ แต่ก็ล่มมิเป็นท่าต้องอดไป ครั้งนี้ใช่โอกาสดีเพื่อนผูกพัน หาดบางแสนแน่นแฟ้นไปด้วยเพื่อน คอยย้ำเตือนทะเลแรกดังใจฝัน เห็นความสุขมิตรภาพพร้อมหน้ากัน แสนสุขสันต์มีภาพงามความทรงจำ สาวชาวไร่อ้อย
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ความทรงจำที่บางแสน เช้าสิบสามธันวาท้องฟ้าสวย ตื่นเต้นด้วยเดินทางไปบางแสน ขึ้นรถทัวร์นั่งมองคนต่างแดน เริ่มวางแผนถ่ายภาพวิวหาดทราย ระหว่างรอรถถึง ณ พื้นที่ โอกาสดีร่วมคุยกับสหาย นึกถึงภาพของทะเลได้ผ่อนคลาย ก่อนที่หมายบางแสนอันแสนไกล เมื่อถึงวัดโสธรวราราม ต่างเดินตามธรรมะเพื่อกราบไหว้ แล้วมุ่งสู่เส้นทางที่ต่อไป ตะลุยในดินแดนชลบุรี เดินลอดใต้อุโมงค์ชมมัจฉา แหวกว่ายอยู่ไปมาหลากหลายสี เลยถ่ายรูปเก็บไว้น่ารักดี ความทรงจำครั้งนี้เคยหมายปอง จนถึงวันอำลาพาใจหวั่น ก่อนแยกกันเลือกสินค้าซื้อข้าวของ ตลาดใหญ่หนองมนเลือกจับจอง ขอรับรองมาบางแสนแสนสุขจริง ลีลาวดี
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ของฝากจากบางแสน ออกเดินทางรุ่งสางหวังให้ถึง ทุกคนจึงรีบเร่งเก็บกระเป๋า สถานที่แรกจังหวัดฉะเชิงเทรา ได้น้อมเข้ากราบไหว้นมัสการ หลวงพ่อโสธรตั้งเด่นเป็นสง่า สิ่งล้ำค่าศักดิ์สิทธิ์อภินิหาร เหล่าประชาหลั่งไหลมาบนบาน คนกล่าวขานไข่ถวายหลายร้อยฟอง รถเคลื่อนไปถิ่นใหม่แล้วหยุดพัก ดูคึกคักฝูงชนไร้เศร้าหมอง เสียงหัวเราะหญิงชายคิดหมายปอง พวกเพื่อนพ้องเก็บภาพโดยเร็วพลัน ชลบุรีเมืองนี้ไฟอร่าม หาดทรายงามบางแสนเหมือนอย่างฝัน ทั้งของสดของแห้งซื้อแบ่งปัน เป็นของขวัญญาติมิตรติดตัวมา ก่อนจากลามุ่งหน้าอีกหนึ่งที่ แหล่งของดีจับจ่ายใคร่เลือกหา ในหนองมนอิ่มเอมเปรมปรีดา วันข้างหน้ามีรถขับกลับมาเยือน พวงชมพู
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร บางแสน...แสนรัก ท้องทะเลสีครามตัดขอบฟ้า ที่ทอแสงสว่างตาให้สุขสม แต่ดวงใจฉันนี้แสนระทม ต้องคอยข่มดวงจิตให้ลืมเธอ เสียงคลื่นซัดอยากให้ซัดความคิดถึง แต่ดวงใจยังคะนึงถึงเสมอ โถ! ที่รักฉันอยากไปพบเจอ สุดแสนเพ้อเป็นอยู่ทุกคืนวัน มองหาดทรายโอบกอดท้องทะเล ต่างกับฉันช่างว้าเหว่ไร้คู่ขวัญ มองทอดไปปลายขอบฟ้าคือดวงจันทร์ ขึ้นทอแสงสลับกันกับอาทิตย์ โถ...จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้าข้าขอพร ข้าขอวอนให้ท่านช่วยลิขิต ดลใจเขาให้คิดถึงฉันสักนิด จะไม่คิดร้องขอสิ่งใดใด โถ...จันทร์เอ๋ยข้าวแกงข้าไม่เอา ข้าขอเขามารักมาหลงใหล แหวนทองแดงจะมีค่าสักเท่าไร ก็มิอาจเทียบเขาได้สักนิดเลย กวีนักดอง
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร บางแสน แดนรัก ปักใจ เยือนบางแสนแลเห็นท้องทะเล มีเสน่ห์ชวนชมให้หลงใหล ยามตะวันเคลื่อนลับกลับหายไป เปล่าเปลี่ยวใจเห็นจันทราเพียงลำพัง บางแสนแสนงามมอบความรัก เหมือนได้พักฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง หาดทรายยาวมะพร้าวสูงช่วยบดบัง เติมพลังสร้างความสุขได้เพียงพอ อีกไม่นานก็พ้นผ่านคืนมืดมิด สู่ชีวิตในวันใหม่ให้สู้ต่อ ยังหายใจมีแรงกายอย่าได้ท้อ เร่งรีบก่อแม้ว่าจะยากเย็น บางแสนจุดรวมคนเมืองชล รวมผู้คนมากหน้าได้มาเห็น เจ็บจากรักพักใจน้ำตากระเด็น บางแสนเป็นที่เยียวยาให้แก่กัน บางแสนแดนรักรวมเพื่อนพ้อง มานั่งมองชมคลื่นดั่งใจฝัน สร้างความสุขผองเพื่อนด้วยผูกพัน เป็นอีกวันที่ดีไม่ลืมเลือน ทิวทัศน์
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ฟ้างามเมื่อยามเย็น ตะวันลาฟ้าใสเพราะใกล้ค่ำ ถึงยามย่ำสนธยาฟ้าเปลี่ยนสี เป็นแสงทองส่องผืนฟ้าก่อนราตรี สุนทรีย์ศิลปะ ณ ยามเย็น ลองพินิจคิดความตามดวงจิต ดวงอาทิตย์มีกฎกำหนดเห็น ต้องวนเวียนเปลี่ยนขึ้นลงตามที่เป็น เกิดประเด็นคิดสนุกเป็นอาจิณ ลองคิดเปรียบเทียบคนเป็นเช่นนี้ ย่อมต้องมีขึ้นลงคงไม่สิ้น ยามสูงล้นพ้นภัยไร้มลทิน คือชีวินที่แสนสุขมิทุกข์ใจ เมื่อถึงยามตกลงคงไม่พ้น ความหมองหม่นเข้ามาต่อท้อร้องไห้ กมลร้อนแรงร้ายคล้ายเปลวไฟ ที่โหมไหม้เผาทรวงหน่วงอุรา ต้องรอรุ่งพรุ่งนี้มีแสงใหม่ จงตั้งใจทำดีมีคุณค่า
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร แม้สิ้นแสงตะวันลับขอบฟ้า จงหาญกล้ารอรุ่งเช้าก้าวต่อไป นภารัตน์ บางแสนแสนรัก แสงอาทิตย์ลงลับสุดขอบฟ้า แสงจันทราสว่างส่องคืนฟ้าใหม่ แสงส่องทั่วพื้นแผ่นน้ำอันกว้างไกล แสนสุขใจเกิดอารมณ์สุนทรีย์ แสงก็เปรียบดั่งคนมีล้มลุก ทั้งความทุกข์ปะปนความสุขี บ้างร่ำรวยบ้างยากจนบ้างมั่งมี บ้างจะดีบ้างชั่วเพราะตัวคน มองนภากว้างใหญ่ไร้ชีวิต สื่อถึงจิตให้รู้ทุกแห่งหน แม้ฝูงนกยังบินกลับรังตน แม้รวยจนมีบ้านให้กลับไป มองเมฆาบดบังแสงอาทิตย์ เหมือนชีวิตมีปัญหาถาโถมใส่ อุปสรรคเหมือนหนามบั่นทอนใจ แสงวันใหม่ช่วยลดปลดหนามแทง เพ้อถึงเรื่องความรักมักแสนเศร้า โอ้ตัวเราช่างอับรักดั่งกับแสง
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ที่ตกสู่พื้นดินสิ้นเรี่ยวแรง ยากเปลี่ยนแปลงรักร้าวคนเข้าใจ ชาลาลัย ทะเลความรัก โอ้ทะเลแสนสวยฟ้าสดใส ช่างสุขใจมาเที่ยวหาดบางแสน ชาวท้องถิ่นมีสุขทั่วดินแดน คนทั้งแคว้นมีจิตมิตรไมตรี ยามอาทิตย์ลาลับจากนภา ก้อนเมฆาลอยเลื่อนเคลื่อนเปลี่ยนสี ดวงดาราเริ่มปรากฏในยามนี้ ตะวันหนีลาลับกลับพื้นดิน หมู่มวลนกเข้ากลับมารังพัก เฝ้าฟูมฟักลูกน้อยคอยถวิล มวลแมลงส่งเสียงร้องออกหากิน คนในถิ่นเปิดร้านผับและบาร์ ช่วงกลางคืนนักท่องเที่ยวต่างเคยกล่าว เริ่มเรื่องราวผู้คนมีตัณหา พักจากงานดื่มน้ำเมาเคล้าชีวา อกหักเศร้าพึ่งสุราเยียวยาใจ เปรียบความรักเป็นคลื่นของสายน้ำ อุราช้ำเหมือนสึนามิเข้ามาใกล้ ช่างยากนักที่จะหักห้ามดวงฤทัย มิหวั่นไหวคำลวงของผู้ชาย รักครั้งแรกเมื่อพบราวน้ำหวาน ชวนต้องการนำมาดื่มแก้กระหาย ผ่านเวลานานวันยิ่งเดียวดาย รักทลายพังสิ้นลงจมน้ำตา
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร เมื่อทะเลมีคลื่นลมของพายุ ที่พัดดุโหมกระหน่ำราวคนบ้า มีผู้คนล้มหายวายชีวา เหมือนพี่ลาจากน้องไม่หวนคืน หรือจะลืมสัญญาที่เคยให้ ด้วยเหตุใดกันหนอช่างขมขื่น ลมปากชายสร้างคำเจ็บดั่งโดนปืน ทั้งที่ยื่นคมมีดกรีดฤทัย ครั้นรุ่งสางแสงอาทิตย์ที่ลาลับ ก็หวนกลับสู่นภาอันกว้างใหญ่ เปรียบเสมือนดังชีวิตผ่านพ้นไป ชีวิตใหม่กำลังเริ่มขึ้นอีกครา เรื่องอดีตผ่านมาคือคำสอน ให้เว้าวอนหวนคิดคะนึงหา ลองตรองคิดทบทวนเป็นวิชา ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่สอนใจ แสงดารา เมื่อทินกรลับขอบฟ้า แสงอาทิตย์งดงามยามใกล้ค่ำ เมฆผืนดำลอยใกล้มาแทนที่ บดบังมิดมิให้เห็นยามราตรี เหมือนวันนี้เช่นทุกวันทุกครั้งไป สัจธรรมย้ำว่ามีพรุ่งนี้ แสงรวีขึ้นมาสู่วันใหม่ แสงสว่างเหมือนความหวังพลังใจ ธรรมชาติสอนไว้ในความจริง ดั่งมนุษย์ที่หมดไฟในทุกอย่าง เหนื่อยทุกทางทุกวันหวั่นใจยิ่ง เจองานหนักไม่มีใครให้พักพิง ทั้งโดนทิ้งจนเป็นแผลในใจ
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร เปรียบดั่งคนเราเป็นเช่นสุริยา ต่างหมุนพาโลกเปลี่ยนสู่วันใหม่ วันเมฆครึ้มเหมือนทุกข์จากภายใน วันฟ้าใสเหมือนมีสุขพาผ่อนคลาย พระอาทิตย์ลาลับกลับหมุนเปลี่ยน เป็นบทเรียนเดินต่อมีจุดหมาย เริ่มต้นทางสร้างชีวิตอย่าเสียดาย จงเป็นคล้ายดวงตะวันเช่นนั้นพอ โบตั๋นสีแดง บางแสน ความทรงจำ เพื่อน เด็กเอกไทยทุกคนมารวมกัน ต่างวาดฝันชายหาดชื่อบางแสน ออกเดินทางยาวไกลถึงต่างแดน รวบรวมแผนของเพื่อนแต่ละคน เป็นวันดีที่พบกันพร้อมหน้า ล้อมเข้ามาพูดคุยกันนั้นน่าสน ใช้เวลาสักพักถึงเมืองชล ก็วิ่งบนพื้นทรายช่างสุขใจ พอตกเย็นเดินเล่นไปตามทาง อยู่ท่ามกลางแสงสีน่าหลงใหล มองดูวิวทะเลอันกว้างไกล ที่แสงไฟสวยงามตระการตา อควาเรียมขึ้นชื่อน่ารื่นรมย์ แวะเวียนชมสัตว์น้ำเพื่อศึกษา อลังการเกินจะพรรณนา มีพันธุ์ปลาน้อยใหญ่แสนมากมาย
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร ประสบการณ์บางแสนอยากแนะนำ ความทรงจำครั้งนี้ช่างหลากหลาย มีเพื่อนพ้องรู้ใจเคียงข้างกาย เก็บรูปถ่ายไว้เป็นที่ระลึก สาวชุดแดง Odile-Elfleda ถึงชายหาดดาษแสงทองที่ส่องฟ้า นึกถึงหน้าผู้หนึ่งพึงถวิล เคยได้เดินเชยชมสมอาจินต์ ให้ได้กลิ่นคิดถึงในวันวาน แต่เวลาเห็นทีไม่คอยท่า สิ่งต่างต่างนำพาอวสาน ต่อให้คิดถึงอยู่ไม่ยาวนาน ก็พบพานรู้ได้ในความจริง วัดหลวงพ่อโสธรแต่ก่อนเก่า มีเรื่องเล่ามากมายหลากหลายสิ่ง
นิราศบางแสน และรวมกลอนสมานมิตร สุขสมหวังดั่งไม่ประวิง ได้แอบอิงบารมีทั่วกันไป ผู้คนล้วนมาตามความเรื่องเล่า ใครที่เศร้าหม่นหมองไม่ผ่องใส จงห่างทุกข์สุขรอดและปลอดภัย มีดวงใจร่มรื่นสดชื่นกัน ในบางแสนแดนทะเล ณ แห่งนี้ ยังมีที่มากมายให้เลือกสรร ใครได้ไปที่ไหนเชิญแบ่งปัน เที่ยวไทยสดใสจริง นิราศภัทรา ครั้งหนึ่งถึงบางแสน เดือนธันวาไปเที่ยว ณ บางแสน พ้องเพื่อนเดินเกี่ยวแขนแบกกระเป๋า วันสบายปล่อยทุกข์ไปบางเบา เที่ยวกันเราเดินทางชมหาดทราย ถึงหลวงพ่อโสธรแวะกราบกราน สุขสราญนำธูปเทียนมาถวาย ขอพรมิให้มีอันตราย ถึงจุดหมายที่หวังดังตั้งใจ บางปะกงแม่น้ำที่ไหลผ่าน เดินมินานข้ามถนนไปใกล้ใกล้