The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การทดลอง พฤติกรรมนิยม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natthamon27aeuw, 2022-11-22 02:48:56

จอห์น บี. วัตสัน_clone

การทดลอง พฤติกรรมนิยม

จอห์น บี. วัตสัน
(John B. Watson)

คำนำ

รายงานเล่มนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็ นส่วนหนึ่ งของรายวิชา

ED201 จิตวิทยาสำหรับครู ในการศึกษาค้นคว้าเพื่อนำข้อมูล

ความรู้มาเสนอ อธิบาย และเพื่อควบคุมและเปลี่ยนแปลง

พฤติกรรมของมนุษย์และสัตว์ จิตวิทยามุ่งศึกษาด้านความ

สัมพันธ์ระหว่างกระบวนการของร่างกายกับจิตใจ ด้วยวิธีการ

ทางวิทยาศาสตร์ที่เป็ นระเบียบแบบแผนเพราะร่างกายและ

จิตใจมักมีการแสดงออกร่วมกัน อีกทั้งยังแสดงออกในแนวทาง

ที่สามารถทำนายได้ ในการจัดทำรายงานเล่มนี้หวังว่ามีข้อมูล

จะเป็ นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจไม่มากก็น้ อยหากผิดพลาดประการ

ใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

นางสาว ณัฐมนฑ์ ผมตาล

6410408002



ประวัติ

เกิด : 9 มกราคม ค.ศ. 1878
Travellers Rest,เซาท์แคโรไลนา อเมริกา

เสียชีวิต : 25กันยายน ค.ศ. 1958
อายุ : 80 ป
สัญชาติ : อเมริกัน
เปน นักจิตวิทยาชาวอเมริกัน
วัตสันไดนําเอาทฤษฎีของ ฟาฟลอฟ มาเปนสําคัญในการ

อธิบายเรื่องการเรียน ผลงานของวัตสันไดรับความนิยม

แพรหลายจนไดร ับการยกยอ งวา เปน
“บิดาของจิตวิทยาพฤติกรรมนิยม” ทฤษฎีของเขามีลักษณะใน

การอธิบาย เรื่องการเกิดอารมณจากการวางเงื่อนไข

(Conditioned emotion)

แนวคิดที่สำคัญ

วัตสัน ไดน ําเอาทฤษฎีของ Pavlov มาเปนหลักสําคัญ

ในการ อธิบายเรื่องการเรียนรแู นวความคิดของ Watson ก็

คือ การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิคทําใหเ กิดการเรียนรกู ลาว

คือ การใชสิ่งเราสองสิ่วเร้า มาคูกันคือสิ่งเรา ที่วางเงื่อนไข

(CS) กับสิ่งเราที่ไมว างเงื่อนไข (UCR) แลวทําใหเกิดการ

ตอบสนองอยางเดียวกัน

วัตสัน ไดทําการทดลองโดยใหเด็กคนหนึ่งชื่อ

อัลเบิร์ต อายุ9เดือนเลนกับหนูขาว และขณะที่เด็กกําลัง

จะจับหนูขาว ก็ทําเสียงดังจนเด็กตกใจรองไห หลังจาก

นั้นเด็กจะกลัวและรองไหเมื่อเห็นหนูขาว ตอมาทดลอง

ใหนําหนูขาวมาใหเด็กดู โดยแมจะกอดเด็กไว จากนั้น

เด็กก็จะคอย ๆ หายกลัวหนูขาว

การทดลองที่ 1 การวางเงื่อนไขความกลัว

ระยะของการ ขั้นที่ การให้สิ่งเร้าและการตอบสนอง
วางเงื่ อนไข 1
2 หนูขาว(UCS) -----> ไม่มีกลัว(UCR)
ก่อนการวางเงื่อนไข เสียงดัง(UCS) -----> กลัวและ
ร้องไห้(UCR)
ระหว่างการวาง
เงื่อนไข


หนูขาว(CS)+และเสียงดัง(UCS)
----->ตกใจกลัวร้องไห้(UCR)

หลังการวางเงื่อนไข 3 หนูขาว(CS) ------> ตกใจร้องไห้
(CR)

การทดลองที่2 การวางเงื่อนไขกลับ

ระยะของการ ขั้นที่ การให้สิ่งเร้าและการตอบสนอง
วางเงื่ อนไข

ก่อนการวางเงื่อนไข 1 มารดาอุ้ม(UCS) -------> ไม่กลัวสิ่งต่างๆ

(UCR

ระหว่างการวาง 2 หนูขาว(CS)+มารดา(UCS) ------->
เงื่อนไข
ไม่กลัว(UCR)

หลังการวางเงื่อนไข 3 หนูขาว(CS) -------> เล่นกับหนูขาว
(CR)

จากการทดลองดังกล่าว วัตสันสรุปเป็ น
ทฤษฎีการเรียนรู้ ดังนี้

1.พฤติกรรมเปนสิ่งที่สามารถควบคุมใหเกิดขึ้นได

โดยการควบคุมสิ่งเราที่
วางเงื่อนไขใหสัมพันธกับสิ่งเราตามธรรมชาติ และการ

เรียนรูจะคงทนถาวรหากมีการให สิ่งเราที่สัมพันธกันนั้น

ควบคูกันไปอยางสม่ำเสมอ

2.เมื่อสามารถทําใหเกิดพฤติกรรมใดๆได
ก็สามารถลดพฤติกรรมนั้นให หายไปได้

ลักษณะของทฤษฎีการวางเงื่ อนไขแบบคลาสสิค

1.การตอบสนองเกิดจากสิ่งเรา หรือสิ่งเราเปนตัวดึงการ

ตอบสนองมา

2.การตอบสนองเกิดขึ้นโดยไมไดตั้งใจ หรือไมไดจงใจ
3.ใหตัวเสริมแรงกอน แลวผูเรียนจึงจะตอบสนอง เชน

ใหผงเนื้ อกอนจึงจะมีน้ำลายไหล
4.รางวัลหรือตัวเสริมแรงไมมีความจําเปนตอการวาง

เงื่ อนไข
5.ไมตองทําอะไรกับผูเรียน เพียงแตคอยจนกระทั่งมีสิ่ง

เรามากระตุนจึงจะเกิดพฤติกรรม
6.เกี่ยวของกับปฏิกิริยาสะทอนและอารมณ ซึ่งมีระบบ

ประสาทอัตโนมัติเขาไปเกี่ยวของในแงของความแตกตาง

ระหวางบุคคล

การประยุกต์ใช้ในด้านการเรียนการสอน

1.ในแงข องความแตกตางระหวางบุคคล
ความแตกตางทางดานอารมณม ีแบบแผนการ
ตอบสนองไดไมเทากัน จําเปนตองคํานึงถึงสภาพ
ทางอารมณผูเ รียนวาเหมาะสมที่จะสอนเนื้อหาอะไร

2.การวางเงื่อนไข เปน เรื่องที่เกี่ยวกับพฤติกรรม
ทางดานอารมณดว ย โดยปกติผูสอน
สามารถทําใหผูเรียน รูส ึกชอบหรือไมชอบเนื้อหาที่เรียนหรือสิ่ง

แวดลอมในการเรียน

3.การลบพฤติกรรมที่วางเงื่อนไข ผูเ รียนที่ถูกวาง
เงื่อนไขใหกลัวผสู อนเราอาจชวยไดโ ดยปองกัน
ให้ผู้สอนทําโทษเขา

บรรณานุกรม

Unknown.(2558).http://nukjit.blogspot.com/2015/12/blog-
post_8.htm

thank you


Click to View FlipBook Version