The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประเภทของเเต่ละเเนวเพลง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by cuuun, 2022-09-13 07:09:45

ประเภทของเเนวเพลง Music Genre

ประเภทของเเต่ละเเนวเพลง

Keywords: ประเภทเเนวเพลง,เพลงไทย,เพลงสากล,เเนวเพลง,เพลงไทยเดิม,เพลงลูกกรุง,เพลงลูกทุ่ง,เพลงเพื่อชีวิต,เพลงไทยสากล,คลาสสิค,ดนตรีป๊อป,เพลงป๊อป,เเจ๊ส,แจ๊ส,เเจซ,แจซ,R&B,rhythm and blues,แรป,แร็ป,ฮิปฮอป,hiphop,ร็อก,ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์,อะแคปเปลลา,เทคโน,แนวเพลงเทคโน

mguesnicre

- เพลงไทย เพลงสากล
- ความหมายเเนวเพลงต่างๆ
- ประวัติความเป็นมา

เพลงไทย
เพลงไทยเดิม
เพลงลูกกรุง
เพลงลูกทุ่ง
เพลงเพื่อชีวิต
เพลงไทยสากล

เเพพลลงงสสาากกลล
ดนตรีคลาสสิค
ดนตรีป๊อป
เเจ๊ส
ริทึมแอนด์บลูส์
เเรป
ฮิปฮอป
ร็อก
ดนตรีอิเล็กโทรนิกส์
เทคโน
อะแคปเปลลา

เพลงไทย

เพลงไทยเดิม

เพลงที่มีการขับร้องด้วยวิธีการแบบไทย เช่น การ
เอื้อน พร้อมบรรเลงดนตรีไทยในขณะที่กำลังขับ
ร้อง หรือบรรเลงเฉพาะดนตรีไม่มีการขับร้อง

เครื่องดนตรีที่ใช้เป็นเครื่องดนตรีไทยที่ปรากฏในปัจจุบัน ที่
บรรพบุรุษไทยได้เปลี่ยนแปลงและประยุกต์ให้เข้ากับเพลงไทยเดิม
มีลักษณะดังนี้

คีตกวีหรือนักแต่งเพลงไทยเดิม จะแต่งทำนองก่อนตั้งชื่อเพลงนั้น เนื้อ
ร้องบางครั้งจะเอาจากคำประพั นธ์ในวรรณคดีต่าง ๆ เช่นจากพระอภัยมณี
พระลอ ขุนช้างขุนแผน ฯลฯ

การแต่งเพลงขึ้นตอนแรกจะมีจังหวะปานกลาง แต่บางครั้งก็เอา
ทำนองไปขยายให้ยาวหรือยุบให้สั้นลง แล้วนำมาบรรเลงต่อกันโดยเริ่ม
ทำนองด้วยจังหวะช้าเรียกว่าจังหวะ 3 ชั้น ต่อด้วยทำนองเดิมจังหวะ
ปานกลางเรียกว่า 2 ชั้น และต่อด้วยทำนองที่ยุบให้สั้นด้วยจังหวะเร็ว
เรียกว่า ชั้นเดียว ซึ่งเรียกว่า เพลงเถา

ถ้านำไปบรรเลงเพี ยงจังหวะเดียวเรียกเพลงเกร็ด และนำเพลงเกร็ดหลายๆ
เพลงที่มีอัตราจังหวะเดียวกันมาบรรเลงติดต่อกันเรียกว่า เพลงตับ

การเอื้อน มาจากการที่เพลงไทยอาศัยเนื้อร้องจากคำประพั นธ์อื่นมาใส่
ทำนองที่แต่งไว้ แต่ทำนองและเนื้อร้องไม่พอดีกัน โดยใช้เสียง “เออ”
หรือ “เอย”มาช่วย และลักษณะนี้เองทำให้เพลงไทยมีเอกลักษณ์ที่เด่น
และไพเราะ

เเพพลลงงลลููกกกกรรุุงง

เป็นเพลงที่บอกเล่าความรู้สึกของสังคม และคนเมืองหลวง การถ่ายทอดอารมณ์ของ
กลุ่มนักร้องจะมีรูปแบบ ออกมานุ่มนวล เนื้อร้องเป็นร้อยแก้ว ร้อยกรอง มีความหมาย

สลับซับซ้อน

การกำเนิดเพลงลูกกรุง

บางเเหล่งบอก เพลงลูกกรุงกำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.
2474 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยกำลังจะเปลี่ยนแปลงระบอบ
การปกครองฯ ในรัชกาลที่ 7

บางแหล่งบอก ปลายรัชกาลที่ 6 ประมาณ พ.ศ. 2455
โดยการจ้างครูจากอิตาลีนำเครื่องสายสากลเข้ามาสอน

แต่เพลงลูกกรุงเริ่มชัดเจนเมื่อประมาณ ปี พ.ศ.
2475 โดยเริ่มมีแนวเพลง เนื้อร้อง ทำนอง

นำทำนองเพลงของรัชกาลที่ 6 ที่เรียบเรียงเสียงประสานใช้เครื่องดนตรีสากลบรรเลงประกอบ
เป็นเพลงในกิจการลูกเสือ ต่อมาได้มีการนำเพลง "ลาทีกล้วยไม้" ของขุนวิจิตรมาตรา มาทำใน
จังหวะรุมบ้าเพลงแรกของไทย และบทเพลงของจิตร ภูมิศักดิ์ และอื่น ๆ ซึ่งแต่ง และใช้เครื่อง

ดนตรีสากลบรรเลงประกอบ เป็นเครื่องบ่งบอกการกำเนิดของเพลงลูกกรุง

ปี พ.ศ. 2482 วงสุนทราภรณ์ก่อตั้งเป็นวงดนตรีวงใหญ่ ซึ่งทำให้สังคมเมือง
ในยุคนั้น เริ่มตื่นตัวการฟังเพลง ผู้ฟังและค่ายเพลงต่าง ๆ เริ่มจัดประเภท
เพลง สร้างนักร้องให้มีรูปแบบความเป็นคนเมืองหลวง นักดนตรี นักแต่ง

เพลง นักร้องต่างมีรูปแบบ หาแฟชั่นนำสังคม ทั้งเรื่องแฟชั่น การแต่งกาย มี
คลับมีบาร์ แถวถนนราชดำเนิน ตามย่านชุมชน โรงแรมใหญ่ ๆ มีห้องบอลรูม
เพื่อให้มีการจัดแสดงดนตรีประกอบ และเริ่มมีการเปรียบเทียบระหว่างเพลง

ลูกทุ่งและเพลงลูกกรุง

เพลงลูกทุ่ง

คือเพลงที่สะท้อนวิถีชีวิต สภาพสังคมอุดมคติและวัฒนธรรมไทย โดยมีท่วงทำนอง คำร้อง
สำเนียง และลีลาการร้องการบรรเลงที่เป็นแบบแผน มีลักษณะเฉพาะซึ่งให้บรรยากาศ ความ
เป็นลูกทุ่ง

วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 เพลงลูกทุ่งนำมาดัดแปลงแล้วใส่ ดนตรีแบบสากล เป็นลักษณะ
เพลงแบบใหม่ ส่ วนคำว่า "เพลงลูกทุ่ง" โดยอาจารย์จำนง รังสิ
กุล คิดประดิษฐ์ขึ้นใช้เมื่อวันนี้

ในช่วงปี พ.ศ. 2506–2513 ไชยพิพัฒน์ จัดรายการเพลงสถานีไทย โทรทัศน์ ใช้ชื่อรายการ
ว่า "เพลงลูกทุ่ง"สุรพล สมบัติเจริญ ได้ทำให้เพลงลูกทุ่งอยู่ใน
ความนิยม จนเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของเพลงลูกทุ่ง

หลังเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เพลงลูกทุ่งก็อยู่ในยุคเพลงเพื่อชีวิต เนื้อหาเพลงลูกทุ่ง
ได้สอดแทรกเนื้อหาเพลงเพื่อชีวิต โดยในยุคนั้นมีเพลง
ลูกทุ่งเพื่อชีวิตเป็นจำนวนมาก

ระหว่าง พ.ศ. 2520–2528 วงดนตรีเพลงลูกทุ่งได้เข้าสู่ ระบบทุนมากขึ้น มีการแสดงเพลงลูก
ทุ่งมีการประกวดประชันการเต้นและเครื่องแต่งกายของหาง
เครื่องประกอบ

ในปัจจุบัน มีศิลปินลูกทุ่งหน้าใหม่เข้าสู่ วงการเพลงลูกทุ่งของค่ายเพลง
หน้าใหม่ ตลาดเพลงลูกทุ่งเป็นตลาดใหญ่ เพลงลูกทุ่งได้รับ
ค ว า ม นิ ย ม อี ก ค รั้ ง

ขุนวิจิตรมาตราบันทึกไว้ในหนังสือเรื่องของละครและเพลง
ว่าเพลงลูกทุ่งเป็นวงดนตรีแบบสากลที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา

หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประมาณปีหรือสองปี



ลักษณะเพลงลูกทุ่งในระยะเริ่มแรก มาจากการร้องรำทำ
เพลงของไทยดั้งเดิม อาทิ แหล่เทศน์ สวดคฤหัสถ์ จำอวด

ลิเก (ทรงเครื่อง) ลิเกลูกบท (ไม่แต่งเครื่อง) ลิเกบันตน
ลำตัด เพลงขอทาน เพลงพื้นเมืองบางเพลง ฯลฯ

เพลงเพื่อชีวิต

เมื่อก่อนหมายถึงเพลงที่มีเนื้อหากล่าวถึงชีวิต
ของคน โดยเฉพาะคนชนชั้นล่าง กล่าวถึงความ
ยากลำบากในการใช้ชีวิต การถูกเอารัดเอาเปรียบ

เพลงในแนวเพื่ อชีวิตในยุคนี้โดยมากจะเป็นเพลงลูกทุ่ง เช่น
เพลง กลิ่นโคลนสาบควาย ของชาญ เย็นแข
เพลง จักรยานคนจน ของยอดรัก สลักใจ
เพลง น้ำมันแพง ของสรวง สันติ เป็นต้น

แนวดนตรีได้เปิดกว้างขึ้นเป็นแนวอคูสสติกหรือร็อก โดยได้รับอิทธิพลและ
แรงบันดาลใจจากศิลปินต่างประเทศ

เทียบได้กับ เพลงประท้วง (Protest song) ของสหรัฐอเมริกา โดยคำว่า
"เพลงเพื่อชีวิต" นั้น มาจากคำว่าศิลปะเพื่อชีวิต หรือวรรณกรรมเพื่อชีวิต
ซึ่งเป็นวรรณกรรมที่ว่าถึงชีวิตและการต่อสู้ของมนุษย์ในสังคม ในยุคนี้เพลง
เพื่อชีวิตเฟื่ องฟูมาก จนอาจกล่าวได้ว่าเป็น "เพชรเม็ดงามของวรรณกรรม

เพื่อชีวิต"



ค ว า ม เ ป็ น ม า

เพลงเพื่ อชีวิตในประเทศไทยเริ่มเฟื่ องฟู เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมช่วงหลังเหตุการณ์
14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 โดยเนื้อหาของเพลงไม่จำกัดเฉพาะชีวิตของคนชั้นล่างอย่าง
เดียว แต่ยังรวมถึงการเรียกร้องประชาธิปไตยและการเหน็บแนมการเมืองอีกด้วย

ลั ก ษ ณ ะ เ พ ล ง เ พื่ อ ชี วิ ต

เพลงเพื่ อชีวิตมักจะรวมเอาองค์ประกอบของดนตรีตะวันตก และเพิ่ มเป็นจังหวะของดนตรีไทย
เช่น สามช่า หมอลำ ดนตรีคลาสสิคไทย และลูกทุ่ง

เพลงเพื่ อชีวิตในยุคแรกจะเป็นดนตรีโฟล์กตะวันตกพร้อมกับการใช้เครื่องดนตรีอคูสติก ซึ่งต่อ
มาได้เพิ่ มดนตรีร็อกพร้อมกับกีตาร์ไฟฟ้า เบส และกลองชุด บางศิลปินยังได้รับอิทธิพลของเร้ก
เก้ สกา และเพลงละตินบ้างและบางศิลปินยังใช้เครื่องดนตรีไทยเซ่น พิ ณ ขลุ่ย และซออู้

เพลงไทยสากล

เป็นเพลงที่ขับร้องในภาษาไทย โดยเริ่มจากนำทำนองไทยเดิมใส่เนื้อร้องบรรเลงและขับร้อง โดยใช้
มาตรฐานของโน้ตเพลงแบบสากล จนเป็นเพลงไทยแนวใหม่

โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476
มีละครเวที ละครวิทยุ
และภาพยนตร์ไทย มี
บทบาทสำคัญทำให้เพลง
ไทยสากลได้รับความนิยม
จนในปั จจุบันแตกสาขาไป
อีกหลากหลายแนวเพลง

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต

สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงเป็นผู้นำการแต่งทำนอง
เพลงและเพลงสำหรับบรรเลงด้วยแตรวงโดยเฉพาะ เพลงวอลซ์ปลื้มจิต โดยในปี พ.ศ. 2446 สันนิษฐานว่าอาจ
เป็นเพลงไทยสากลเพลงแรกในประวัติศาสตร์ดนตรีของเมืองไทย



เพลงต่าง ๆ เหล่านี้ทรงนิพนธ์โดยใช้โน้ตและจังหวะแบบสากล และจากพระปรีชาสามารถในการทรงประพันธ์
เพลง จึงทรงได้รับการยกย่องเป็น “พระบิดาแห่งเพลงไทยสากล”

ในปี พ.ศ. 2507 ประเทศไทยได้มีการประกวดเพลงไทยสากลแนวใหม่ชิงถ้วยพระราชทานนั่น
คือ เพลงสตริงคอมโบ วงชนะเลิศคือวง ดิอิมพอสซิเบิ้ล ซึ่งเป็นวงที่ได้รับความนิยมอย่าง
มาต่อมาในยุคที่ประเทศไทยเกิดวิกฤตทางการเมือง เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516

มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเมือง สังคม และคนยากไร้ ใช้ดนตรีเรียบง่ายอย่าง
กีตาร์โปร่ง ที่รู้จักกันว่า "เพลงเพื่อชีวิต"

ภายหลังปี 2521 เพลงแบบสตริงได้
รับความนิยมเป็นอย่างมาก เกิดวง
ดนตรีใหม่ ๆ ขึ้นมาเป็นจำนวนมาก

เเพพลลงงสสาากกลล

เป็นยุคของดนตรีระหว่าง ค.ศ. 1750–1820
ดนตรีมีการเปิดกว้างสู่ประชาชนเป็นดนตรีนอกโบสถ์ (SECULAR MUSIC) มากขึ้น

ดนตรีสมัยคลาสสิกมีลักษณะ
ความเป็นจริงและชัดเจนในรูป
แบบ ดนตรีบรรเลงมีความเด่น
กว่าเพลงร้อง
ดนตรีสมัยคลาสสิกเป็นดนตรี
บริสุทธิ์ (ABSOLUTE MUSIC)
คือ ดนตรีที่ไม่มีจินตนาการอยู่
เบื้องหลัง ไม่มีบทกวีประกอบ
เป็นดนตรีที่มีแต่เสียงดนตรี
บริสุทธิ์

ดนตรีนอกโบสถ์ (SECULAR MUSIC)

ในสมัยคลาสสิกเลิกนิยมการสอดประสานของทำนอง (COUNTERPOINT) แต่หันมานิยมการใส่เสียง
ประสานแบบสหศัพท์ (HOMOPHONY) คือการเน้นทำนองหลักเพี ยงแนวเดียว โดยมีแนวเสียงอื่น
ประสานให้ทำนองไพเราะมากขึ้น มีแนวประสานเป็นคอร์ดหรืออาร์เปจโจ (ARPEGGIO) หลายแนวที่มี
จังหวะคล้ายก้น โดยเลิกใช้แนวเบสต่อเนื่อง (BASSO CONTINUO) และความสำคัญของการด้นสด
(IMPROVISATION) เริ่มหมดไปในยุคนี้ เพราะดนตรีส่วนมากมีการเขียนเสียงประสานครบถ้วน

ดนตรีคลาสสิ ค

การแสดงดนตรีคลาสสิกจะใช้เครื่องดนตรี 5 กลุ่ม

เครื่องสาย (String) เครื่องลมทองเหลือง (Brass)

เช่น ไวโอลิน วิโอลา เชลโล และดับเบิลเบส เช่น ทรัมเป็ต ทรอมโบน ทูบา เฟรนช์ฮอร์น

ดนตรีคลาสสิ ค

เครื่องกระทบ (Percussion) เครื่องลมไม้ (Woodwind)

เช่น กลองทิมปานี ฉาบ กลองใหญ่ (BASS เช่น ฟลูต คลาริเน็ต โอโบ บาสซูน ปิคโคโล
DRUM) กิ๋ง (TRIANGLE)

เครื่องลิ่มนิ้ว (Keyboard Instruments)

เช่น เปียโน ฮาร์ปซิคอร์ด เมื่อเล่นรวมกันเป็นวงเรียกว่าวงดุริยางค์หรือ ออร์เคสตรา
(ORCHESTRA) ซึ่งมีผู้อำนวยเพลง (CONDUCTOR) เป็นผู้ควบคุมวง

ดนตรีคลาสสิกแบ่งออกเป็นยุค ดังนี้

1. ดนตรีกรีก ประวัติของดนตรีกรีกโบราณตั้งแต่เริ่มต้นถึง 330 ปี
2. ดนตรีโรมัน หลังจากกรีกเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรโรมัน ใน 146 ปี
3. ยุคกลาง (MEDIEVAL OR MIDDLE AGE) พ.ศ. 1019 - พ.ศ. 1943
4. ยุคเรเนสซองส์ (RENAISSANCE) พ.ศ. 1943 - พ.ศ. 2143
5. ยุคบาโรค (BAROQUE) พ.ศ. 2143 - พ.ศ. 2272
6. ยุคโรโกโก (ROCOCO) พ.ศ. 2273 - พ.ศ. 2293
7. ยุคคลาสสิก (CLASSICAL) พ.ศ. 2293 - พ.ศ. 2363 เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด
8. ยุคโรแมนติก (ROMANTIC) พ.ศ. 2363 - พ.ศ. 2443 เป็นยุคที่มีเริ่มมีการแทรกของอารมณ์ในเพลง
9. ดนตรียุคอิมเพรสชันนิสม์ (IMPRESSIONISM) พ.ศ. 2433 - พ.ศ. 2453
10. ยุคศตวรรษที่ 20 ถึงปัจจุบัน (20TH CENTURY MUSIC) พ.ศ. 2443 - ปัจจุบัน

POP MUSIC

ดนตรีป็อป หรือ เพลงป็อป

เป็นประเภทของเพลงสมัยนิยมที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร
ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1950



"POPULAR MUSIC" และ "POP MUSIC"

มักจะใช้สลับกัน



แม้ว่าในอดีตจะอธิบายถึงเพลงสมัยนิยมรวมทั้งดนตรีหลายแนว คำว่า
"POP" กับ "ROCK" เคยมีความหมายเหมือนกันจนถึงปลายทศวรรษที่

1960 ทั้งสองถูกจัดแยกให้มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน

popular music (ป็อป) VS

จะถูกมองว่าเป็นเพียงชาร์ตเพลง แต่ไม่
ได้รวบยอดชาร์ตเพลงทั้งหมด

pop music (ดนตรีป็อป)

มักจะผสมผสานยืมองค์ประกอบจากดนตรี
แนวอื่น เช่น เออร์เบิน แดนซ์ ร็อก ละติน

โ ด ย อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ห ลั ก ที่ นิ ย า ม ว่า เ ป็ น ด น ต รี ป็ อ ป
รู ป แ บ บ พื้ น ฐ า น จ ะ เ ป็ น เ พ ล ง ที่ มีค ว า ม ย า ว สั้น ถึ ง
ปานกลาง (ใช้รูปแบบท่อนเวิร์ส-คอรัส) รวมทั้ง
การใช้ท่อนคอรัสซ้ำ ๆ ท่อนเมโลดี้ไพเราะ และ
ท่ อ น ฮุ ก

Jazz

แจ๊ส หรือ แจซ

ลักษณะ

เป็นลักษณะดนตรีชนิดหนึ่งที่พัฒนามาจากกลุ่มคนผิวดำในสหรัฐอเมริกาใน
ช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 20

ความหมาย ลักษณะพิเศษคือ โน้ตบลูส์ การลัดจังหวะ จังหวะ
สวิง การโต้และตอบทางดนตรี และการเล่นสด
โดย แจ๊สถือเป็นลักษณะดนตรีคลาสสิกชนิดหนึ่ง
ของสหรัฐอเมริกา

ความหมายของคำว่าแจ๊ส เคยมีผู้พยายามนิยามความหมายไว้หลายแบบ
ซึ่งยากต่อการนิยาม

พจนานุกรมไทยวัฒนาพานิช ซึ่งก็มีนักวิจารณ์พูดว่า
เอลลิงตันนั้นจริง ๆ แล้ว
โดย วิทูลย์ สมบูรณ์ เขาไม่ได้ทำดนตรีแจ๊ส
หมายถึง ดนตรีเต้นรำเล่นลัดจังหวะ, เล่นดนตรีชนิด
นี้, เต้นรำ เข้ากับดนตรีชนิดนี้ "แจ๊สก็คือดนตรีทั้งหมดรวมกัน"

พจนานุกรมฉบับอ๊อกฟอร์ด ดุ๊ก เอลลิงตัน

"เป็นดนตรีที่ถือกำเนิดจากชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟ
ริกันซึ่งมีจังหวะชัดเจนที่เล่นอย่างอิสระโดยการ
ประสานกันขึ้นเองของนักดนตรีในขณะที่กำลัง
บรรเลง"

เพื่อนของเอลลิงตันอีกคนชื่อ เอิร์ล ไฮนส์ กล่าวไว้ว่า มันคือ "ดนตรีเปลี่ยนรูป"
ส่วนเบน แรตลิฟฟ์ นักวิจารณ์จากนิวยอร์กไทม์สเคยกล่าวไว้ว่า "ตัวอย่างที่ดีที่จะอธิบายขั้น
ตอนของแจ๊สมันไม่มีเลย"

Jazz

แจ๊ส หรือ แจซ

ความเป็นมา

ดนตรีแจ๊สมีต้นกำเนิดราวทศวรรษ 1920
โดยวงดนดรีวงแรกที่นำสำเนียงแจ๊สมาสู่ผู้ฟังหมู่มากคือ ดิ ออริจินัล ดิกซีแลนด์
แจ๊ส แบนด์ (THE ORIGINAL DIXIELAND JAZZ BAND: ODJB)



ด้วยจังหวะเต้นรำที่แปลกใหม่ ทำให้โอดีเจบี
เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างมาก พร้อมกับให้
กำเนิดคำว่า "แจ๊ส" ตามชื่อวงดนตรี โอดีเจ

บีสามารถขายแผ่นได้ถึงล้านแผ่น

(THE ORIGINAL DIXIELAND JAZZ BAND: ODJB)

รากลึกของแจ๊สนั้นมีมาจากเพลงบลูส์ (Blues)
คนผิวดำเรียนรู้ดนตรีจากการฟังเป็นพื้นฐาน จึงเล่นดนตรีแบบถูกบ้างผิดบ้าง มีการขยายความด้วย
ความพึงพอใจของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งกลายเป็นที่มาของ
คีตปฏิภาณ (Improvisation) คือ การแต่งทำนองเพลงขึ้นมาใหม่ สด ๆ โดยไม่ได้เตรียมตัวมาล่วงหน้า
หรือการโซโล่แบบด้นสด
ในภายหลังดนตรีแร็กไทม์ (Ragtime)
ก็เชื่อว่ามีต้นกำเนิดคล้าย ๆ กันคือ เกิดจากดนตรียุโรปผสมกับจังหวะขัดของแอฟริกัน บลูส์และแร็กไทม์
นี่เองที่เป็นรากของดนตรีแจ๊ส

ในเวลาต่อมา เพลงบลูส์เริ่มได้รับความนิยมในช่วงเวลาเดียวกันกับแร็กไทม์

ปลาย ๆ ทศวรรษ 1910 เพลงบลูส์และแร็กไทม์
ถูกผสมผสานจนกลมกลืนโดย บัดดี โบลเดน
(CHARLES JOSEPH 'BUDDY' BOLDEN)

บัดดี โบลเดน (CHARLES JOSEPH 'BUDDY' BOLDEN)

R&B

rhythm and blues

แนวเพลงที่ได้รับความนิยม โดยผสมผสานระหว่างเพลงแนว ป๊อป แจ๊ส กอสเปล และ
บลูส์ โดยเริ่มแรกจะเล่นโดยศิลปินแอฟริกัน-อเมริกัน

ในปีช่วงยุค 1970 ริทึมแอนด์บลูส์ ได้ครอบคลุมนิยามกับแนว โซล
(SOUL) และ ฟังก์ (FUNK)

ริทึมแอนด์บลูส์ มีที่มา เจอรี่ เว็กซ์เลอร์ (JER RY WEXLER)
ก่อน ร็อก แอนด์ โรลล์ ได้
รับอิทธิพลมาจากเพลง
แนวแจ๊ส,จัมพ์บลูส์ และ
แบล็กกอสเปล

ในช่วงยุค 1950 ถือเป็น

ยุคคลาสสิกอาร์แอนด์บี คำว่า ริทึมแอนด์บลูส์ ถูกใช้

การผสมแนวเพลงเข้าด้วยกันไม่ว่าจะเป็น แจ๊ส ครั้งแรกในนิตยสารบิล
และ ร็อก แอนด์ โรลล์ เพลงแนวอาร์แอนด์บีถูก บอร์ดโดย เจอรี่ เว็กซ์เลอร์
พั ฒนาไปที่ต่างๆ (JERRY WEXLER) ในปี

ค.ศ. 1947

ตัวอย่าง เพลง ร็อก แอนด์ โรลล์ ในรูปแบบของอาร์แอนด์บี

ขึ้นชาร์ททั้ง ROCKET 88
ป็อปชาร์ทและ

อาร์แอนด์บี
ชาร์ท

SHAKE, RATTLE AND ROLL

ความเป็นมา ช่วงต้นยุค 1960 เพลงแนวอาร์แอนด์บีมีแนวโน้มมีรูปแบบออกไปทางกอสเปลรวมถึงโซล และ
เริ่มมีศิลปินผิวขาวทำเพลงในแนวนี้ แต่จะเรียกว่า บลู-อายด์
ในช่วงกลางยุค 1970 คนผิวสีทำเพลงในแนวดิสโก้ ถือเป็นปรากฏการณ์ในสังคม เพลงแนว
ดิสโก้ได้รับความนิยมอย่างมาก
พอช่วงยุค 80 เพลงดิสโก้ก็หายไป กลายเป็นเพลงช้าๆ ฟั งสบายๆ ที่เรียกว่า QUIET STORM
จนกระทั่งในปั จจุบันอาร์แอนด์บีได้เพิ่มแนวฮิปฮอป และ แร็ปอีก ซึ่งได้รับความนิยมมากใน
ปั จจุบัน

RAP

แร็ป

คือการพู ดในลักษณะคำกลอนลงจังหวะเพลง โดยส่วนใหญ่จะใช้จังหวะเร็ว เป็นส่วน
หนึ่งขององค์ประกอบของวัฒนธรรมฮิปฮอป

ลักษณะ

แรปเป็นการร้องแบบที่เป็นจังหวะ การร้องคล้ายเสียงพูด และเนื้อหาของเพลงที่มี
ความหมายและมีความคล้องจองกัน รวมทั้งเน้นที่การกำกับจังหวะ โดยใช้จังหวะกลอง
อิเล็กทรอนิกส์ และเทคนิคการ SAMPLING

ความเป็นมา

การแรปได้พัฒนาทั้งภายในและนอก ของดนตรีแนวฮิปฮอป KOOL HERC ชาวจาเมกา
ในนิวยอร์กได้เริ่มการพูดลงบนเพลงประเภทแดนซ์ฮอลล์

ในคริสต์ทศวรรษ 1970 จนในคริสต์ทศวรรษ 1980 ความสำเร็จของวงรัน-ดีเอ็มซี
ได้เปิดกว้างให้วงการเพลงแรป
ปลายคริสต์ทศวรรษ 1990 ฮิปฮอปได้ก้าวเข้าสู่กระแสหลัก
ในคริสต์ทศวรรษ 2000 ฮิปฮอปใต้ดินเริ่มจะมีการใช้จังหวะที่สลับซับซ้อนมากขึ้น
ท้วงทำนองในการพูด เนื้อคำกลอนที่ซับซ้อน และการเล่นคำอย่างสร้างสรรค์

เนื้อเพลงแรปมักถ่ายทอดชีวิตบนถนนที่เป็นที่มาของ
ฮิปฮอป ผนวกกับอ้างอิงถึงวัฒนธรรมกระแสนิยม และคำ
สแลงฮิปฮอปต่าง ๆ

มีความหมายถึงในด้านดนตรีแนวฮิปฮอป ที่เป็นที่นิยม
สำหรับวัยรุ่นอเมริกาและทั่วโลก จนถูกยกระดับให้
เป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง

มีรากฐานการพั ฒนามาจากชาวแอฟริกัน- คำว่า ฮิปฮอป มักถูกยกเครดิตให้
อเมริกัน และ ชาวละติน โดยในช่วงยุค กับ KEITH COWBOY แร็ปเปอร์
70' หลังจากที่ดนตรีดิสโก้ที่พั ฒนามา
จาก แนวเพลงฟังค์ ในแบบของโมทาวน์ วง
ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ทำให้มี GRANDMASTER FLASH & THE
การเปิดแผ่นเพลงในคลับต่าง ๆ และด้วย
การพั ฒนาทางด้านเทคโนโลยี เกิดการ FURIOUS FIVE
สร้าง LOOP, BEAT ใหม่ ๆ ขึ้นมา
ดนตรีฮิปฮอป จึงถือกำเนิดขึ้น KEITH COWBOY

วัฒนธรรมฮิ ปฮอปจะเกิดขึ้น B-BOY (บี-บอย)
ได้โดยต้องมีปปััจจจจััยย 44 ออยย่่าางง
เป็นกลุ่มคนที่มาเต้นในช่วงระหว่างที่ดีเจกำ
GRAFFITI (กราฟฟิตี) ลังเซ็ทแผ่นเพลง(break dance) เพื่อ
เป็นการคั่นเวลา ซึ่งลักษณะการเต้น
เป็นการเพนท์ พ่น กำแพง ความหมายเพื่อ
การเชื้อเชิญ แขก หรือสาว ๆ ในละแวกนั้นว่า MC (เอ็มซี)
งานปาร์ตี้เริ่มที่ไหนเมื่อไร
เป็นแร็ปเปอร์ซึ่งหลังจากที่ ดีเจ เซ็ทแผ่น
DJ (ดีเจ) เรียบร้อยแล้ว MC จะทำหน้าที่ดำเนินงาน และ
งานปาร์ตี้ก็ได้เริ่มขึ้น
ซึ่งมาจากคำว่า disc jockey ทำหน้าที่เป็นผู้
เปิดแผ่นเพลง ซึ่งเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในงาน
ปาร์ตี้

Rockร็อก

ความเป็นมา

มีต้นกำเนิดจากดนตรีร็อกแอนด์โรลในสหรัฐอเมริกาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 และ
เริ่มพั ฒนาสู่แนวเพลงหลายแขนงในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960 และช่วงหลังจากนั้น
โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา

ดนตรีร็อกมีต้นกำเนิดจากร็อกแอนด์โรลของยุค 1940 และ 1950 มีอิทธิพลมาจาก
แนวเพลงบลูส์ ริทึมแอนด์บลูส์ และคันทรี

ดนตรีร็อกยังนำมาสู่แนวเพลงอื่น ๆ ได้แก่อิเล็กทริกบลูส์ และโฟล์ก และมี
อิทธิพลร่วมมาจากดนตรีแจ๊ส ดนตรีคลาสสิก และแหล่งดนตรีอื่น ๆ

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ก็มีการใช้เครื่องสังเคราะห์เสียง ร่วมไปกับกีตาร์และคีย์บอร์ด ยังมีการใช้แซกโซ
โฟน และฮาร์โมนิกาในแบบบลูส์ก็มีใช้บ้างในท่อนโซโล่
ในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1960 และต้นคริสต์ทศวรรษ 1970 เพลงร็อกพัฒนาจนแตกแยกย่อยเป็น
หลายแนวเพลง
ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ร็อกยังเกี่ยวข้องกับเพลงโซล ฟังก์และละติน เช่นเดียวกันในยุคนี้ร็อกยังได้
เกิดแนวเพลงย่อยอีกหลายแนว
ในยุคคริสต์ทศวรรษ 1990 แนวเพลงย่อยที่เกิดเช่น กรันจ์ บริตป็อป อินดี้ร็อกและนูเมทัล มีวงร็อกส่วน
ใหญ่ประกอบด้วย สมาชิกที่เล่นกีตาร์ไฟฟ้า นักร้องนำ กีตาร์เบสและกลอง

ลักษณะ

ดนตรีร็อกมีศูนย์กลางที่กีตาร์ไฟฟ้า มักจะเป็นส่วนหนึ่งของวงดนตรีร็อกที่มีกีตาร์เบส
ไฟฟ้าและกลอง ปกติแล้ว เพลงที่เป็นดนตรีร็อกจะมีอัตราจังหวะ 4/4 ใช้รูปแบ
บท่อนเวิร์ส-คอรัส แต่เพลงประเภทนี้มีความหลากหลายมากขึ้น เนื้ อเพลงมักเน้นย้ำ
เรื่องของความรักใคร่ เช่นเดียวกับเพลงป็อป แต่ก็กล่าวถึงเนื้ อหาอื่ นที่มักเน้นเรื่อง
สังคมหรือการเมือง นักดนตรีเพศชายผิวขาวถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดเนื้ อหาต่าง
ๆ มากมายในเพลงร็อก

ELECTRONIC
MUSIC

ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์

เป็นดนตรีที่ใช้เครื่องดนตรีอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ในการ
ผลิตขึ้นมา

ลักษณะ

ความโดดเด่นของดนตรีคือใช้เครื่องดนตรี
ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีเครื่อง
ไฟฟ้าตัวอย่างเช่นเสียงที่เกิดจาก
TELHARMONIUM, HAMMOND ORGAN
และกีตาร์ไฟฟ้า

T HEREMIN TELHARMONIUM

ส่วนดนตริอีเล็กทรอนิกส์แท้ ๆ สามารถใช้เครื่อง
THEREMIN, เครื่องสังเคราะห์เสียง และ
คอมพิ วเตอร์ ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์เป็นส่วน
ประกอบในดนตรีอาร์ตตะวันตก ตั้งแต่ปลาย
ทศวรรษ 1960 และได้รับความนิยมในเวลาต่อมา
ในปัจจุบันดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ ใช้หลากหลายแนว
เพลง ตั้งแต่ดนตรีอาร์ตทดลอง หรือดนตรีป็อป
อย่างเช่น ดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์

A cappella
อะแคปเปลลา

เป็นดนตรีที่ใช้ เสียงร้อง หรือการร้องโดยปราศจากเครื่องดนตรีประกอบ

ความเป็นมา

ดนตรีอะแคปเปลลาเดิมแยกออกจากแนวร้องโพลีโฟนีเรอเนสซองซ์และ
คอนเซรอ์ตาโตบาโรก
ในสมัยใหม่ อะแคปเปลลามักหมายถึงการร้องโดยเสียงร้องทั้งหมดไม่ว่า
จะแนวเพลงไหน รวมถึง บาร์เบอร์ชอป, ดูว็อป, และโมเดิร์น ป็อป/ร็อก
ปัจจุบันอะแคปเปลลายังมีใช้เป็นท่อนแซมเพิล/ท่อนซ้ำ ที่เป็นเสียงร้อง
อย่างเดียว ในภาคผลิตของโปรดิวเซอร์เพลง

Techno
เทคโน

ความเป็นมา

เป็นรูปแบบของดนตรีอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ ที่เกิดขึ้นในดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน ใน
สหรัฐอเมริกา ในช่วงกลางถึงปลายทศวรรษ 1980 คำว่า TECHNO ได้ถูกจัดเป็น
แนวดนตรีครั้งแรกในปี ค.ศ. 1988

มีการเกิดแนวเพลงย่อยจำนวนมากแรก KRAFTWERK

เริ่มเทคโนได้รวมดนตรีอิเล็กทรอนิกส์ใน

สไตล์ของศิลปินเช่น ครัฟท์แวร์ค

(KRAFTWERK) และ เยลโลแมจิกออร์

เคสตรา (YELLOW MAGIC

ORCHESTRA) พร้อมกับแนวเพลงแอฟ

ริกันอเมริกัน YELLOW MAGIC ORCHESTRA

มีอิทธิพลรูปแบบมากมายและบทเพลงที่ เดอร์ริก เมย์ (DERRICK MAY) ได้
ไม่มีฅัวต้น ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตใน กล่าวว่า ในการเปลี่ยนแปลงของจิต
อเมริกาในปลายยุคสังคมทุนนิยม โดย วิญญาณออกจากร่างกายไปยัง
เฉพาะอย่างยิ่งหนังสือ THE THIRD เครื่องจักรกลที่มักจะเป็นต้นเหตุ
WAVE โดย อัลวิน ทอฟเลอร์ (ALVIN ของความหลงใหลที่เป็นหลักการ
TOFFLER) กล่าวถึงการถ้อยคำ "เทค แสดงออกจากจิตวิญญาณ
โนเรเบลส์" (TECHNO REBELS) เทคโนโลยี

ลักษณะ

โดยทั่วไปเทคโน ได้ผลิตแบบบรรเลงดนตรีอย่างซ้ำ ๆ ในการใช้งานอย่างต่อเนื่องของชุด
ดีเจ จังหวะเสียงกลองส่วนใหญ่มักจะอยู่ในเวลาปานกลาง (4/4) ที่เวลาถูกตั้งค่ากับ

กลองเบสในแต่ละจังหวะโน้ตสี่ส่วน จังหวะเล่นย้อนหลังจะเป็นเสียงกลองเล็กหรือเสียง
ตบมือในสองและสี่จังหวะของท่อนและเปิดเสียงฉาบเพื่ อการทำให้เกิดเสียงในทุกครั้งต่อ

วินาทีที่ท่อนแปด จังหวะมีค่อนข้างที่จะแตกต่างกันไประหว่างประมาณ 120 จังหวะต่อ
นาที (จังหวะโน้ตสี่ส่วนเท่ากับ 120 ต่อนาที) และ 150 ครั้งต่อนาทีที่ขึ้นอยู่กับสไตล์ของ

เทคโน ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของเทคโนโลยีในการผลิตเพลง

MMEEMMBBEERR

PIYAWAT ROJANAWIPAD NO.12
KULISARAPHAT PHUMCHAIYA NO.26
PAPHADA CHAIWAREE NO.29
PEAMHATAI NGAMKHAM NO.30
HATHAIKAN SAMERJAI N0.35


Click to View FlipBook Version