The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือนักเรียน ผู้ปกครอง ครู ของโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จังหวัดราชบุรี ประจำปีการศึกษา 2563

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ปกครอง รรอ, 2020-05-08 08:53:08

คู่มือนักเรียน และผู้ปกครอง ของโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ประจำปีการศึกษา 2563

คู่มือนักเรียน ผู้ปกครอง ครู ของโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จังหวัดราชบุรี ประจำปีการศึกษา 2563

คมู่ อื นกั เรยี น และผูป้ กครอง 49
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถมั ภ์ จังหวัดราชบรุ ี

โครงสรา้ งหลกั สตู รโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ ปกี ารศึกษา 2563
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย แผนการเรยี นทัว่ ไป

ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 (ภาคเรยี นท่ี 1) ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 (ภาคเรียนที่ 2)

รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน รายวชิ า/กจิ กรรม เวลาเรยี น
นก. ชม. นก. ชม.

รายวิชาพืน้ ฐาน 8 320 รายวชิ าพ้ืนฐาน 5.5 220

ท31101 ภาษาไทย 1.0 40 ท31102 ภาษาไทย 1.0 40

ค31101 คณิตศาสตร์ 1.0 40 ค31102 คณติ ศาสตร์ 1.0 40

ว30105 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ 1.5 60 ส31103 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1.0 40

ส31101 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 1.0 40 ส31104 ประวัติศาสตร์ 0.5 20

ส31102 ประวัตศิ าสตร์ 0.5 20 พ31102 สขุ ศกึ ษา และพลศกึ ษา 0.5 20

พ31101 สขุ ศึกษา และพลศกึ ษา 0.5 20 ศ31102 ศลิ ปะ 0.5 20

ศ31101 ศลิ ปะ 0.5 20 อ31102 ภาษาองั กฤษ 1.0 40

ง31101 การงานอาชีพ 1.0 40

อ31101 ภาษาอังกฤษ 1.0 40

รายวิชาเพิม่ เติม 7 280 รายวิชาเพ่ิมเตมิ 8 320
ง30216 ขนมอบ 1.0 40
ง30242 การขาย 1 1.0 40 1.0 40
ง30243 การขาย 2 1.0 40
ง30244 ชา่ งสายไฟ 1.0 40 ง30200 การงานอาชพี เพม่ิ เตมิ 1.0 40
ว30282 เทคโนโลยีสารสนเทศ 2 0.5 20
ว30281 เทคโนโลยสี ารสนเทศ 1 1.0 40 จ30208 ภาษาจีนท้องถิน่ 2 1.0 40
1.0 40
จ30207 ภาษาจีนท้องถิน่ 1 0.5 20 พ30202 พลศึกษาเพ่ิมเติม 1.0 40
ศ30202 ดนตรสี ากล 2 0.5 20
พ30201 พลศกึ ษาเพ่ิมเตมิ 1.0 40 ส30208 ศาสนาเปรียบเทียบ - 60
ส30232 หนา้ ท่พี ลเมืองเพ่ิมเติม 2 - 20
ศ30201 ดนตรสี ากล 1 1.0 40
กจิ กรรมพัฒนาผ้เู รยี น - 20
ส30204 เหตกุ ารณ์ปจั จบุ ัน 1.0 40 กิจกรรมแนะแนว - 10
กจิ กรรมนกั เรยี น - 10
ส30231 หนา้ ท่ีพลเมอื งเพ่ิมเตมิ 1 0.5 20 13.5 300
- กระบวนการคดิ /รกั ษาดินแดน
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน - 60 - ชมุ นมุ ชมรม
- 20 กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์
กิจกรรมแนะแนว
- 15 รวมท้งั หมด
กจิ กรรมนักเรียน - 15
- กระบวนการคิด/รกั ษาดินแดน - 10
- ชมุ นมุ ชมรม 15 660

กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมทงั้ หมด

50 คมู่ อื นกั เรียน และผู้ปกครอง
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

โครงสร้างหลกั สูตรโรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ ปกี ารศกึ ษา 2563
ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ฉบับปรบั ปรุง พทุ ธศักราช 2560

ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรียนทวั่ ไป

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 5 (ภาคเรียนท่ี 1) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 5 (ภาคเรียนท่ี 2)

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรยี น รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน
นก. ชม. นก. ชม.

รายวิชาพ้นื ฐาน 7 280 รายวิชาพนื้ ฐาน 7.5 300

ท32101 ภาษาไทย 1.0 40 ท32102 ภาษาไทย 1.0 40

ค32101 คณติ ศาสตร์ 1.0 40 ค32102 คณติ ศาสตร์ 1.0 40

ว30101 วิทยาศาสตร์กายภาพฟสิ ิกส์ 1.0 40 ว30102 วิทยาศาสตรก์ ายภาพฟิสิกส์ 1.0 40

ส32101 สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม 1.0 40 ส32103 สังคมศกึ ษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1.0 40

ส32102 ประวัติศาสตร์ 0.5 20 ส32104 ประวัติศาสตร์ 0.5 20

พ32101 สขุ ศึกษา และพลศกึ ษา 0.5 20 พ32102 สุขศึกษา และพลศึกษา 0.5 20

ศ32101 ศิลปะ 0.5 20 ศ32102 ศิลปะ 0.5 20

ง32101 การงานอาชีพ 0.5 20 อ32102 ภาษาองั กฤษ 1.0 40

อ32101 ภาษาอังกฤษ 1.0 40 ว32103 ออกแบบ และเทคโนโลยี 0.5 20

ว32104 วทิ ยาการคำนวณ 0.5 20

รายวิชาเพ่ิมเตมิ 7 280 รายวชิ าเพ่มิ เตมิ 7 280

ง30242 การขาย 1 1.0 40 ง30200 การงานอาชีพเพ่มิ เตมิ 1.0 40

ง30244 ชา่ งสายไฟ 1.0 40 ง30217 อาหารนานาชาติ 1.0 40

จ30209 ภาษาจีนในชุมชน 1 0.5 20 จ30210 ภาษาจีนในชุมชน 2 0.5 20

พ30203 พลศกึ ษาเพ่มิ เตมิ 1.0 40 พ30204 พลศึกษาเพ่มิ เติม 1.0 40

ส30203 โลกศึกษา 1.0 40 ส30209 ปรชั ญาชวี ิต 1.0 40

I30201 การศึกษาคน้ คว้าและการสร้างองคค์ วามรู้ 1.0 40 I30202 การส่อื สารและการนำเสนอ 1.0 40

ว30283 การเขียนโปรแกรม 1 1.0 40 ง30200 การงานอาชพี เพ่ิมเตมิ 1.0 40

ส30233 หน้าทพี่ ลเมืองเพ่ิมเติม 3 0.5 20 ส30234 หน้าทพ่ี ลเมอื งเพ่ิมเตมิ 4 0.5 20

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น - 60 กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น - 60

กิจกรรมแนะแนว - 20 กิจกรรมแนะแนว - 20

กจิ กรรมนกั เรยน - 15 กิจกรรมนักเรยี น - 20
- กระบวนการคดิ /รกั ษาดินแดน - 15 - กระบวนการคิด/รักษาดินแดน - 10
- ชมุ นมุ ชมรม - ชมุ นมุ ชมรม
- 10 - 10
กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมท้งั หมด 14 620 รวมท้ังหมด 14 640

คู่มือนักเรียน และผปู้ กครอง 51
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จังหวัดราชบรุ ี

โครงสร้างหลกั สูตรโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ ปกี ารศกึ ษา 2563
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช 2560

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย แผนการเรยี นทัว่ ไป

ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 (ภาคเรียนที่ 1) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 (ภาคเรียนท่ี 2)

รายวชิ า/กิจกรรม เวลาเรียน รายวิชา/กิจกรรม เวลาเรียน
นก. ชม. นก. ชม.

รายวิชาพนื้ ฐาน 7.5 260 รายวชิ าพ้ืนฐาน 6 240

ท33101 ภาษาไทย 1.0 40 ท33102 ภาษาไทย 1.0 40

ค33101 คณติ ศาสตร์ 1.0 40 ค33102 คณิตศาสตร์ 1.0 40

ว30103 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพเคมี 1.0 40 ว30104 วทิ ยาศาสตรก์ ายภาพเคมี 1.0 40

ว30105 วิทยาศาสตร์โลก - ดาราศาสตร์ 1.0 40 ส33103 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1.0 40

ส33101 สงั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม 1.0 40 พ33102 สขุ ศึกษา และพลศึกษา 0.5 20

พ33101 สขุ ศึกษา และพลศึกษา 0.5 20 ศ33102 ศิลปะ 0.5 20

ศ33101 ศลิ ปะ 0.5 20 อ33102 ภาษาองั กฤษ 1.0 40

ง33101 การงานอาชีพ 0.5 20

อ33101 ภาษาอังกฤษ 1.0 40

รายวชิ าเพ่ิมเตมิ 6.5 260 รายวชิ าเพิ่มเตมิ 6.5 260
ง30200 การงานอาชีพเพิม่ เติม 1.0 40
ง30234 การจัดสวน 1.0 40 1.0 40
ง30237 โครงงานอาชีพ 2 0.5 20
ง30236 โครงงานอาชพี 1 1.0 40 จ30212 ภาษาจนี ท้องถ่นิ 2 1.0 40
1.0 40
จ30211 ภาษาจีนท้องถิน่ 1 0.5 20 พ30206 พลศึกษาเพ่ิมเตมิ 1.0 40
ศ30204 ดนตรีไทย 2 1.0 40
พ30205 พลศกึ ษาเพิ่มเติม 1.0 40 - 60
ง30200 การงานอาชีพเพ่มิ เตมิ - 20
ว30284 การเขียนโปรกรม 2 1.0 40 ส30206 อาเซียนศกึ ษา 2
- 20
ศ30203 นาฏศลิ ป์ 1.0 40 กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน - 10
กจิ กรรมแนะแนว - 10
ส30205 อาเซียนศกึ ษา 1 1.0 40 12.5 560
กิจกรรมนกั เรยี น
กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น - 60 - กระบวนการคดิ /รักษาดนิ แดน
- ชมุ นมุ ชมรม
กิจกรรมแนะแนว - 20
กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์
กิจกรรมนักเรียน - 15
- กระบวนการคิด/รกั ษาดินแดน - 15 รวมทงั้ หมด
- ชุมนมุ ชมรม
- 10
กิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณประโยชน์

รวมท้งั หมด 14 620

52 คมู่ อื นักเรยี น และผูป้ กครอง
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จังหวัดราชบุรี

ระเบียบโรงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถมั ภ์
ว่าด้วยการวัดและประเมนิ ผลการเรยี น

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560
........................................................

โดยทีก่ ระทรวงศกึ ษาธิการ ไดป้ ระกาศใช้หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ 293 /2551 ลงวันที่ 11 เดือน กรกฎาคม พ.ศ. 2551 ประกอบด้วย
หลักสูตรแกนกลางของประเทศ ซึ่งเปน็ กรอบทิศทางในการจดั ทำหลักสูตรของสถานศึกษา โดยมีมาตรฐานการ
เรียนร้จู ากหลักสูตรแกนกลางไปพฒั นาให้สอดคล้องกับสภาพปญั หาในชุมชนและสังคม ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ และ
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สำหรับจัดการศกึ ษาในสถานศกึ ษาของตน เพอื่ พฒั นาใหผ้ เู้ รยี นเปน็ สมาชิกที่ดีของ
ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และให้สอดคล้องกับคำสั่งดังกล่าว ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความใน
มาตรา 39 แหง่ พระราชบัญญตั ริ ะเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2546 และกฎกระทรวงแบ่ง
ส่วนราชการ คณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของสถานศึกษา โดยความเห็นชอบของ
คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน โรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ุปถมั ภ์จงึ วางระเบยี บไว้ดงั ต่อไปน้ี

ข้อ 1 ระเบียบนี้เรยี กว่า “ระเบียบโรงเรยี นรฐั ราษฎร์อุปถัมภว์ ่าด้วยการวัดและประเมินผลการเรียน
ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช 2560”

ขอ้ 2 สถานศกึ ษา หมายถึง โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์
ข้อ 3 หลักสูตรสถานศึกษา หมายถึง หลักสูตรที่โรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์จัดทำขึ้นโดยนำสาระ
การเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้ จากหลักสูตรแกนกลางไปพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาในชมุ ชน
สังคม ภมู ปิ ญั ญาท้องถน่ิ และคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
ขอ้ 4 ระเบียบน้ใี ห้ใชบ้ งั คบั ต้ังแต่ปกี ารศกึ ษา 2562 เปน็ ตน้ ไป
ข้อ 5 ให้ใช้ระเบียบน้ีควบคู่กับหลักสูตรการศึกษาข้ันพื้นฐานพุทธศักราช 2551 ปีการศึกษา 2562
(ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ และระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย) โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์
ขอ้ 6 ให้ผู้บริหารสถานศกึ ษารกั ษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบยี บนี้

หมวด 1
หลกั การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นการเรียนรู้
ข้อ 7 การประเมนิ ผลการเรียน ให้เปน็ ไปตามหลักการต่อไปนี้
1) สถานศึกษาเป็นผู้รบั ผดิ ชอบวดั และประเมินผลการเรยี นรขู้ องผ้เู รยี น โดยเปิดโอกาสใหผ้ เู้ ก่ียวข้อง
มสี ว่ นร่วม
2) การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มจี ุดมุ่งหมายเพอ่ื พัฒนาผเู้ รียนและตัดสินผลการเรยี น
3) การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด
เปน็ รายวิชาตามกลุม่ สาระการเรยี นรทู้ ้งั 8 กล่มุ สาระ
4) ให้มีการประเมินผลเพื่อพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้ของกลุ่มสาระการเรียนรู้
ตา่ ง ๆ ปรับปรงุ แก้ไข การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ใหม้ ีประสทิ ธิภาพยง่ิ ขึน้ และเพ่ือตัดสินผลการเรียน

คมู่ ือนักเรียน และผปู้ กครอง 53
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบุรี

5) การประเมินผลเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการจัดการเรียนการสอน ต้องดำเนินการด้วยวิธีที่
หลากหลาย เหมาะสมกับสิ่งที่จะวัด ธรรมชาติวิชาและระดับชั้นของผู้เรียน โดยตั้งอยู่บนพืน้ ฐานของความ
เที่ยงตรง ยุตธิ รรม และเชอื่ ถอื ได้

6) การประเมินผู้เรียนพิจารณาจากพัฒนาของผู้เรียน ความประพฤติ การสังเกตพฤติกรรมการ
เรียนรู้ การร่วมกิจกรรม และการทดสอบ ควบคู่ไปในกระบวนการสอนตามความเหมาะสมของแต่ละระดับ
และรปู แบบการศกึ ษา

7) ให้มีการประเมินความสามารถของผู้เรียนในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนตามแนวทางที่
สถานศึกษากำหนด

8) ให้มกี ารประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคต์ ามที่หลักสตู รแกนกลางกำหนด
9) ให้ผเู้ รียนและผ้มู สี ่วนเก่ยี วขอ้ งสามารถตรวจสอบผลการประเมนิ ผลการเรียนได้
10) ให้มกี ารเทยี บโอนผลการเรยี นระหวา่ งสถานศกึ ษา และรปู แบบการศึกษาตา่ ง ๆ
11) ใหม้ ีการประเมนิ คณุ ภาพการศึกษาระดับเขตพน้ื ท่ี และระดับชาตใิ นแตล่ ะระดบั การศกึ ษา
12) ใหส้ ถานศึกษาจัดทำเอกสารหลกั ฐานทางการศึกษา เพอ่ื เป็นหลกั ฐานการประเมนิ ผลการเรียน
รายงานผลการเรียนและเปน็ หลกั ฐานแสดงวฒุ แิ ละรับรองผลการเรียนของผูเ้ รียน

หมวด 2
วิธีประเมนิ ผลการเรียน
ข้อ 8 การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ใหถ้ อื ปฏิบัติดังน้ี
8.1) ประเมนิ ผลการเรยี นรูข้ องผู้เรียน 8 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ตามหลักสูตรของสถานศกึ ษาแต่ละ
ชัน้ /ภาค ซงึ่ สถานศึกษาต้องดำเนนิ การดังน้ี
1) กำหนดสัดส่วนคะแนนระหว่างเรียนกับคะแนนปลายภาค โดยให้ความสำคัญของคะแนน
ระหวา่ งเรยี นมากกวา่ คะแนนปลายภาค เชน่ 60 : 40 , 70 : 30 แต่ละกลุม่ สาระการเรยี นรู้
ของรายวชิ าพ้ืนฐาน และรายวิชาเพิ่มเติม
2) กำหนดเกณฑ์สำหรบั ตดั สินผลการประเมนิ และเกณฑ์การผา่ นตวั ช้วี ดั
3) กำหนดเกณฑก์ ารประเมินและใหร้ ะดบั ผลการเรยี นกลมุ่ สาระการเรยี นรู้เปน็ รายภาค
4) ประเมนิ ผลก่อนเรียน เพอื่ ศกึ ษาทกั ษะพ้ืนฐานและความรู้พ้นื ฐานของผเู้ รียน
5) ประเมนิ ผลการเรียนระหว่างเรียน เน้นการประเมนิ ตามสภาพจริงที่สอดคลอ้ งกับแผนการ
จัดการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการประเมินเพื่อมุ่งตรวจสอบพัฒนาการของผู้เรียนว่าบรรลุตาม
ตัวชี้วัดในแต่ละหน่วยการเรียนรู้หรือไม่ โดยวิธีการประเมินที่หลากหลายและเหมาะสม
และให้มีการประเมนิ ผลไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ 70 ของการประเมนิ ทั้งหมด เพือ่ นำผลคะแนน
จากการวัดผลไปรวมกบั การวัดผลปลายภาคเรยี น
6) ในกรณีที่มีการประเมินผลด้วยแบบทดสอบ ให้มีการประเมินโดยใช้วิธีการให้ผู้เรียนตอบ
แบบทดสอบอัตนยั โดยมีการให้คะแนนคิดเป็นร้อยละ 10 ของการทดสอบคร้งั นนั้
7) การประเมินเพื่อสรุปผลการเรียน โดยมุ่งตรวจสอบความสำเร็จของผู้เรียนเมื่อผ่านการ
เรียนรู้ในช่วงหนึ่งหรือสิน้ สุดการเรยี นรายวิชา เพื่อยกระดับผลการเรยี นใหผ้ ่านเกณฑข์ ัน้
ต่ำ

54 คู่มือนักเรียน และผู้ปกครอง
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบุรี

8) การให้ระดับผลการเรียนให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียน 8 กลุ่มสาระมี 8 ระดับ
ดังต่อไปนี้

ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนนเปน็ ร้อยละ
4 ดเี ยยี่ ม 80 - 100
3.5 ดมี าก 75 - 79
3 ดี 70 - 74
2.5 คอ่ นขา้ งดี 65 - 69
2 พอใช้ 60 - 64
1.5 คอ่ นขา้ งตำ่ 55 - 59
1 ต่ำ 50 - 54
0 ปรับปรงุ 0 - 49

9) ให้ใช้อักษรแสดงผลการเรยี นท่ีมเี งอื่ นไขในแตล่ ะรายวชิ า ดงั นี้
ร (รอพินิจ ) หมายถงึ รอการตดั สนิ ผลหรือตัดสนิ ผลการเรียนไม่ได้ เนื่องจาก
การประเมินยังไม่ครบตามมาตรฐานการเรียนรู้หรือ
ตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ หรือไม่ได้วัดผลกลางภาค วัดผล
ปลายภาค ไมส่ ง่ งานที่มอบหมายให้ทำ ซึง่ งานน้ันเป็น
ส่วนหน่งึ ของการตัดสินผลการเรียน หรือมีเหตุสุดวิสัย
ท่ีทำให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้
มส (ไม่มีสิทธิ์สอบ) หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน
เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ครบร้อยละ 80 ของ
เวลาเรียนในแต่ละรายวิชา ส่งผลให้การประเมินไม่
ครบตามมาตรฐานที่กำหนด และหรือไม่ได้รับการ
ผ่อนผนั ใหเ้ ขา้ รบั การวดั ผลประเมนิ ผลรายภาคเรียน

8.2 การประเมินกิจกรรมพฒั นาผู้เรียน เป็นการประเมนิ ผลการเขา้ ร่วมกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนตามที่
หลักสูตรสถานศึกษากำหนด จะต้องพิจารณาทั้งเวลาการเข้าร่วมกิจกรรม การปฏิบัติ กิจกรรมและผลงาน
ของผู้เรียน ดังนี้

1) ผ้เู รยี นเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียนแตล่ ะกจิ กรรมไมต่ ่ำกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียน
2) กำหนดเกณฑส์ ำหรับตดั สนิ การผา่ นกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น

2.1) แต่ละกิจกรรม จำแนกเป็นเกณฑ์สำหรับตัดสินผ่านจุดประสงค์ของกิจกรรมและ
เกณฑต์ ัดสินเวลาการเขา้ ร่วมกจิ กรรม

2.2) การตัดสินผลกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของสถานศึกษา นำผลจากการประเมินทุก
กิจกรรมมาพจิ ารณาเพื่อสรุปเป็นรายปี

2.3) กำหนดผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รยี นเปน็ 2 ระดบั คือ
ผ (ผ่าน ) หมายถึง ผ่านเกณฑก์ ารตดั สนิ
มผ (ไม่ผา่ น ) หมายถึง ไมผ่ ่านเกณฑ์การตัดสิน

คมู่ อื นักเรียน และผปู้ กครอง 55
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

8.3 การประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคเ์ ก่ยี วกับคณุ ธรรม
จรยิ ธรรมและค่านิยมท่ีหลักสูตรแกนกลางกำหนดขนึ้ 8 คุณลักษณะ คอื 1 รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 2 ซื่อสัตย์
สุจริต 3 มีวินัย 4 ใฝ่เรียนรู้ 5 อยู่อย่างพอเพียง 6 มุ่งมั่นในการทำงาน 7 รักความเป็นไทย 8 มีจิตสาธารณะ
เพื่อแก้ปัญหาหรือสร้างค่านิยมอันดีให้แก่ผู้เรียนตามจุดเน้นของหลักสูตร โดยคณะกรรมการพัฒนาและ
ประเมินคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ภารกิจที่สถาน ศกึ ษาจะตอ้ งดำเนนิ การ มีดังน้ี

1) แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาและประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษาเพื่อ
ดำเนนิ การดังนี้

1.1) กำหนดแนวทางในการพฒั นา แนวทางการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน และแนวทาง
การปรบั ปรงุ แกไ้ ข ปรับพฤติกรรม

1.2) พิจารณาตัดสินผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์รายภาค (ระดับมัธยมศกึ ษา)
และการจบการศกึ ษาแต่ละระดับ

1.3) จัดระบบการปรับปรงุ แก้ไข หรอื ปรบั พฤติกรรมดว้ ยวธิ กี ารทเี่ หมาะสม และสง่ ตอ่ ข้อมูล
ของผเู้ รียนเพื่อการพฒั นาอย่างตอ่ เน่อื ง

2) ดำเนินการประเมินการแสดงคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนโดยกำหนดให้มีการ
ประเมนิ ผลตามแนวทางท่สี ถานศึกษากำหนด

3) ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงคร์ ายปี/รายภาค โดยให้มผี ลการประเมินเป็น 4 ระดบั คอื
ดีเยี่ยม (3 ) หมายถึง ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัยและนำไปใช้ใน
ชีวิตประจำวันเพื่อประโยชน์สุขของตนเองและสังคม โดย
พิจารณาจากผลการประเมินระดับดีเยี่ยม จำนวน 5-8
คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่า
ระดับดี
ดี (2) หมายถึง ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นการ
ยอมรับของสังคม โดยพจิ ารณาจาก
1. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดีเยี่ยม จำนวน 1-4 คณุ ลักษณะ และ
ไม่มคี ุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่าระดับดี หรอื
2. ได้รบั การประเมินระดับดที งั้ 8 คณุ ลกั ษณะ หรือ
3. ได้ผลการประเมินตัง้ แตร่ ะดับดขี ้ึนไป จำนวน 5-7 คุณลกั ษณะ
และมีบางคุณลกั ษณะได้ผลการประเมินระดับผ่าน
ผ่าน (1) หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ และเงื่อนไขสถานศึกษา
กำหนด โดยพิจารณาจาก
1. ได้รับการประเมนิ ระดบั ผา่ นท้ัง 8 คณุ ลกั ษณะ หรอื
2. ได้ผลการประเมินตั้งแต่ระดับดีขึ้นไป จำนวน 1-4
คุณลักษณะ และคุณลักษณะที่เหลือได้ผลการประเมิน
ระดับผ่าน

56 คมู่ อื นกั เรียน และผ้ปู กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ จังหวัดราชบุรี

ไม่ผ่าน (0) หมายถึง ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขท่ี
สถานศกึ ษากำหนด โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับไม่ผ่าน
ต้งั แต่ 1 คุณลกั ษณะ

4) การประมวลผล คณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของสถานศึกษา
รวบรวมผลการประเมนิ จากผ้ปู ระเมินทุกฝ่ายนำมาพจิ ารณาประเด็นสรปุ เป็นรายปี

5) ประเมินตัดสินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่านในระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย พิจารณาจากผลการประเมินที่ผ่านมาตลอดปี ซึ่งต้องมีผลการประเมินไม่น้อยกวา่
ระดบั “ผ่าน” (1 ) ทกุ รายปี

8.4 การประเมินการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียน
การประเมนิ ความสามารถในการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียนของผูเ้ รยี นตามหลกั สตู ร โดยกำหนดให้
มีการประเมินผลตามแนวทางทสี่ ถานศกึ ษากำหนด ภารกจิ ท่ีสถานศึกษาจะตอ้ งดำเนินการ มีดังน้ี

1) แต่งต้ังคณะกรรมการประเมนิ การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ตามขอบเขตการประเมิน
และตัวช้ีวดั ทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วิเคราะหแ์ ละเขียน

2) กำหนดขอบเขตการประเมนิ และเกณฑก์ ารประเมินในแต่ละปีให้สอดคล้องกับบริบทและ
จดุ เนน้ ของสถานศกึ ษาในแตล่ ะระดับการศึกษา

3) คณะกรรมกรรมการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน กำหนดเกณฑ์และแนว
ทางการพัฒนา ปรับปรุงแกไ้ ขผเู้ รยี นที่มผี ลการประเมนิ ไมน่ า่ พึงพอใจ

4) กำหนดรูปแบบการประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขยี นให้สอดคล้อง
กบั ขอบเขตและตวั ชวี้ ดั ตามข้อ 1

5) คณะกรรมการประเมินความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนสื่อความ
รวบรวมผลการประเมนิ จากผปู้ ระเมนิ ทุกกลมุ่ สาระ /ทุกรายวิชา พจิ ารณาสรุปเป็นรายปี

6) กำหนดระดับคณุ ภาพหรือเกณฑ์การประเมนิ เป็น 4 ระดับ ดงั นี้
ดีเยี่ยม (3 ) หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์และ
เขียนท่มี คี ุณภาพดีเลศิ อย่เู สมอ
ดี (2) หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์และ
เขียนท่มี คี ณุ ภาพเป็นทย่ี อมรับ
ผ่าน (1) หมายถึง มีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่านคิดวิเคราะห์และ
เขยี นทมี่ คี ณุ ภาพเปน็ ท่ียอมรบั แต่ยังมีขอ้ บกพรอ่ งบางประการ
ไม่ผา่ น (0) หมายถงึ ไมม่ ผี ลงานท่แี สดงถงึ ความสามารถในการอ่านคิดวเิ คราะห์และ
เขียน หรือถ้ามีผลงาน ผลงานนั้นยังมีข้อบกพร่องที่ต้องได้รบั
การปรบั ปรุงแก้ไขหลายประการ

7) ดำเนินการพัฒนา ประเมินและปรับปรุงแก้ไขความสามารถในการอ่าน คิดวิเคราะห์และ
เขียนตามรูปแบบและวธิ ีการทีก่ ำหนดอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง

8) สรุปและตัดสินผลการประเมิน บันทึก รายงานผลการประเมินความสามารถการอ่าน
คดิ วิเคราะหแ์ ละเขยี นเพ่ือเล่ือนชนั้ ผ่านชว่ งชั้น ผูเ้ รียนตอ้ งมีระดบั ผลการประเมินไม่นอ้ ยกว่า “ผ่าน (1) ” ทุกปี

คูม่ อื นักเรยี น และผู้ปกครอง 57
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

9) นกั เรียนจบแต่ละระดับการศึกษา จะต้องไดร้ ับการประเมินการอา่ น คิดวิเคราะห์และเขียน
ในระดับ “ผ่าน”

หมวด 3
การตดั สนิ ผลการเรยี น
ข้อ 9 การตัดสินผลการเรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กำหนด
หลักเกณฑก์ ารวดั และประเมินผลการเรียนรู้ เพ่ือตดั สินผลการเรียนรูข้ องผูเ้ รยี นโดยพิจารณา ดังนี้
1) ผลการเรยี นรู้ 8 กลมุ่ สาระการเรียนรู้
1.1) ผเู้ รยี นจะต้องมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี นไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของเวลาเรียนท้ังหมดใน
รายวิชานนั้
1.2) ผู้เรียนต้องไดร้ ับการประเมนิ ทุกตัวชี้วดั และผ่านเกณฑต์ ามท่สี ถานศึกษากำหนด
1.3) ผเู้ รยี นต้องไดร้ บั การตดั สินผลการเรียนทกุ วิชา
1.4) ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ ับการประเมินผลและมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด
ในการอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขยี น คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน
2) กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน
2.1) ผู้เรียนทผี่ ่านเกณฑก์ ารประเมินให้ไดผ้ ลการเรียน “ ผ ” ถ้าไม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ใหไ้ ด้ “ มผ”
2.2) ผู้เรยี นท่ไี ดร้ บั การตัดสินผล ระดับ “ผ่าน” ทั้งรายภาค/รายปี และผเู้ รียนต้องผา่ นกิจกรรม
พัฒนาผู้เรียนทุกกจิ กรรม
3) คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
3.1) ผเู้ รยี นท่ผี ่านเกณฑก์ ารประเมนิ รายปีใหไ้ ดร้ ะดับผลการประเมิน “ ผ่าน- ดเี ย่ยี ม
( 1-3) ” ถา้ ไม่ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ ให้ได้ผลการประเมิน “ ไมผ่ า่ น (0)”
3.2) ผู้เรียนที่ได้รับการประเมินตัดสินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ “ผ่าน”ในแต่ละระดับ
การศกึ ษา ตอ้ งมีผลการประเมนิ “ผา่ น- ดเี ยี่ยม (1-3)”
4) การอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน
4.1) ผ้เู รียนทีผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ รายปใี หไ้ ด้ผลการประเมนิ “ผ่าน- ดีเยี่ยม
(1-3)” ถ้าไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินให้ไดผ้ ลการประเมิน “ ไมผ่ ่าน (0)”
4.2) ผู้เรียนที่ได้รับการประเมินตัดสินความสามารถการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน “ผ่าน”
ในแตล่ ะระดบั การศึกษาจะตอ้ งมผี ลการประเมนิ “ผ่าน-ดเี ยี่ยม (1-3)”
ขอ้ 10 การเปลี่ยนผลการเรยี นและผลการประเมิน ให้ถอื ปฏบิ ตั ดิ งั นี้
1) การเปลย่ี นระดบั ผลการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ 8 กลุ่มสาระการเรยี นรู้
1.1) การเปลีย่ นระดบั ผลการเรียนจาก "0"
1.1.1 ) สถานศกึ ษาจัดให้มกี ารสอนซอ่ มเสริมในมาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัดท่ีผู้เรียนสอบ
ไม่ผ่านก่อน แลว้ จึงใหส้ อบแกต้ ัวได้ไมเ่ กนิ 2 ครง้ั

58 คู่มือนักเรยี น และผปู้ กครอง
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

1.1.2) ถ้าผู้เรียนไม่ดำเนินการตามระยะเวลาตามที่สถานศึกษากำหนด ให้อยู่ในดุลยพินิจ
ของสถานศกึ ษาที่จะพจิ ารณาขยายเวลาออกไปอกี 1 ภาคเรียน สำหรับภาคเรียนที่ 2 ตอ้ งดำเนินการให้เสร็จ
สิ้นภายในปกี ารศึกษานั้น

ถ้าสอบแก้ตัว 2 ครั้งแล้วยังได้ระดับผลการเรียน “ 0” ให้สถานศึกษาแต่งตั้งคณะกรรมการ
ดำเนินการเกี่ยวกบั การเปล่ียนผลการเรยี นของผู้เรียน โดยถอื ปฏบิ ัตดิ งั น้ี

1) ถา้ เป็นวิชาพนื้ ฐาน ให้ลงทะเบียนเรียนซำ้ ในรายวิชาน้ัน
2) ถ้าเปน็ รายวิชาเพ่ิมเติมให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของสถานศึกษาท่ีจะให้เรียนซ้ำหรือเปล่ียนวิชา
ใหม่ ในกรณีทีเ่ ปลยี่ นรายวิชาใหม่ ใหห้ มายเหตใุ นระเบยี นแสดงผลการเรียนว่าแทนวชิ าใด
1.2) การเปล่ยี นระดบั ผลการเรียน “ ร” ให้ดำเนนิ การดังนี้

ใหผ้ ู้เรยี นดำเนนิ การแก้ไข “ร” ตามสาเหตุ เมอื่ ผู้เรียนแก้ไขปญั หาเสร็จแล้วให้ได้ระดับ
ผลการเรียนตามปกติ (0-4)

ถ้าผ้เู รียนไมด่ ำเนินการแก้ “ร” กรณที ่ีส่งงานไมค่ รบ แตม่ ีผลการประเมินระหว่างภาคเรียนและปลาย
ภาคเรียน ใหผ้ ู้สอนนำข้อมูลทม่ี อี ยู่ตดั สนิ ผลการเรียน ยกเว้นมเี หตสุ ุดวสิ ยั ให้อยู่ในดลุ ยพินจิ ของสถานศึกษาท่ีจะ
ขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไม่เกิน 1 ภาคเรียน สำหรับภาคเรียนที่ 2 ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน
ปกี ารศึกษานั้น เม่ือพ้นกำหนดแล้วใหเ้ รยี นซำ้ หากผลการเรยี นเปน็ “0” ให้ดำเนินการแกไ้ ขตามหลกั เกณฑ์

1.3) การเปลีย่ นระดับผลการเรยี น “มส” แยกเปน็ 2 กรณี ดังนี้
1.3.1) ผู้เรียนที่ได้ผลการเรียน “ มส” และมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 แต่ไม่น้อยกว่า

ร้อยละ 60 ของเวลาเรียนทงั้ หมดในรายวิชาน้นั ให้สถานศึกษาจดั สอนซ่อมเสรมิ หรือมอบหมายงานให้ทำ
จนมีเวลาเรียนครบตามที่กำหนดไว้สำหรับรายวิชานั้น แล้วจึงให้วัดผลปลายภาคเป็นกรณีพิเศษ ผลการแก้
“มส” ให้ไดร้ ะดบั ผลการเรียนไม่เกิน “ 1” การแก้ “ มส” ให้ทำให้เสร็จสน้ิ ในปีการศกึ ษาน้ัน ถา้ ผู้เรียนไม่แก้
“ มส” ตามระยะเวลาทีก่ ำหนดไว้ให้เรียนซ้ำ แต่ถ้ามีเหตุสุดวิสยั ให้อยใู่ นดุลยพินจิ ของสถานศึกษา ที่จะขยาย
เวลาการแก้ “มส” ไปอีก 1 ภาคเรยี น แต่พ้นกำหนดแลว้ ใหป้ ฏิบตั ดิ งั น้ี

1) ถ้าเปน็ รายวิชาพ้นื ฐาน ใหล้ งทะเบยี นเรยี นซ้ำ
2) ถ้าเป็นรายวิชาเพ่ิมเตมิ ให้อยูใ่ นดุลยพนิ จิ ของสถานศึกษา ที่จะให้เรียนซ้ำหรือ
เปลย่ี นวิชาใหม่ ในกรณีที่เปลยี่ นรายวชิ าใหม่ ให้หมายเหตใุ นระเบยี นแสดงผลการเรยี นว่าแทนวชิ าใด
1.3.2) ผ้เู รียนที่มเี วลาเรียนน้อยกวา่ ร้อยละ 60 ให้สถานศึกษาดำเนินการดงั นี้
1) ถ้าเปน็ รายวชิ าพ้ืนฐาน ใหล้ งทะเบียนเรียนซำ้
2) ถ้าเป็นรายวิชาเพิ่มเติมให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ที่จะให้เรียนซ้ำหรือ
เปลีย่ นวิชาใหม่ ในกรณีท่เี ปล่ยี นรายวิชาใหม่ ใหห้ มายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรยี นวา่ แทนวิชาใด
การเรยี นซ้ำรายวิชา ผเู้ รยี นตอ้ งไดร้ บั การซอ่ มเสริม ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัด
ให้เรยี นซ้ำในช่วงใด ชว่ งหนึ่งที่สถานศึกษาเหน็ วา่ เหมาะสม ในกรณภี าคเรยี นท่ี 2 หากผเู้ รียนยงั มผี ลการเรียน
“0” “ร” “ มส” ให้ดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อนเปิดภาคเรียนปีการศึกษาต่อไป หรืออาจเปิดภาคฤดูร้อน
หากสถานศึกษาไม่สามารถดำเนินการได้ในภาคฤดูร้อน สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาจะเปน็ ผู้ดำเนินการให้มี
การเปดิ ภาคฤดูร้อนเพื่อแกไ้ ขผลการเรยี นของผ้เู รียน

คูม่ ือนักเรยี น และผ้ปู กครอง 59
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

2) การเปลย่ี นผลการประเมินกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน
ผเู้ รียนทีไ่ ดร้ บั การตดั สินผลการประเมิน “ มผ” สถานศึกษาจะตอ้ งจดั ซ่อมเสรมิ ให้ผู้เรียนทำกิจกรรม
ในส่วนที่ผู้เรียนไม่ได้ทำจนครบแล้วจึงเปลีย่ นผลการเรียน “มผ” เป็น “ผ” ทั้งนี้ ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น
ภายในภาคเรยี นนนั้ ๆ ยกเวน้ มเี หตุสุดวิสัยใหอ้ ยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษา ทจี่ ะขยายเวลาออกไปอีกไม่เกิน
1 ภาคเรยี น สำหรบั ภาคเรียนที่ 2 ต้องดำเนนิ การใหเ้ สร็จสิ้นภายในปกี ารศกึ ษานนั้
3) การเปลี่ยนผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์

3.1) ผู้เรียนที่ได้รับการตัดสินผลปลายภาค/ปี มีระดับผลการประเมินเป็น “ ไม่ผ่าน (0) ” จัดให้
พัฒนาคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์แก่ผู้เรียนและให้ไดร้ ับผลการประเมิน “ผา่ น (1)” แสดงวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน

3.2) ผูเ้ รียนท่ไี ดร้ ับผลการแก้ไขตามขอ้ 3.1 แลว้ แตย่ งั ไม่ผ่านการประเมินให้ผู้เรียนติดต่อครู
ประจำวิชา เพอ่ื ดำเนินการให้แลว้ เสร็จก่อนจบระดบั การศึกษา

4) การเปลี่ยนผลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะหแ์ ละเขียน
4.1) ผู้เรียนที่ได้รับการตัดสินผลปลายภาค/ปี มีระดับผลการประเมนิ เป็น “ ไม่ผ่าน (0) ” จัด

ใหพ้ ฒั นาการอา่ น คิดวิเคราะหแ์ ละเขียนแก่ผูเ้ รียนและให้ได้รบั ผลการประเมนิ “ผ่าน (1)” แสดงวา่ ผ่านเกณฑ์
การประเมนิ

4.2) ผเู้ รียนทไ่ี ด้รับผลการแกไ้ ขตามข้อ 4.1 แล้ว แตย่ ังไมผ่ ่านการประเมินให้ผู้เรียนติดต่อครู
ประจำวชิ าเพื่อดำเนนิ การให้แลว้ เสร็จก่อนจบระดับการศึกษา
ข้อ 11 การเล่อื นช้นั เมอ่ื สิ้นปกี ารศึกษา ผู้เรยี นจะไดร้ บั การเลอ่ื นชัน้ เมอื่ มคี ณุ สมบตั ิตามเกณฑ์ ดังตอ่ ไปนี้

1) รายวิชาพืน้ ฐานและรายวิชาเพมิ่ เตมิ ไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรียนผ่านตามเกณฑ์ท่ีสถานศึกษากำหนด
2) ผเู้ รียนต้องไดร้ บั การประเมินและมีผลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากำหนดในการอ่าน
คิดวิเคราะหแ์ ละเขียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รยี น
3) ระดบั ผลการเรยี นเฉลี่ยในปกี ารศึกษาน้ันควรได้ไมต่ ่ำกวา่ 1.00 ทั้งนี้ รายวชิ าใดท่ีไม่ผ่านเกณฑ์การ
ประเมิน สถานศึกษาสามารถซ่อมเสริมผู้เรียนให้ได้รับการแก้ไขในภาคเรียนถัดไป สำหรับภาคเรียนที่ 2
ตอ้ งดำเนนิ การใหเ้ สรจ็ ส้นิ ภายในปีการศึกษาน้นั
หรือถ้าผู้เรียนมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่าสามารถพัฒนาและสอน
ซ่อมเสริมได้ ใหอ้ ยู่ในดุลพนิ จิ ของสถานศึกษาทจี่ ะผ่อนผนั ใหเ้ ลื่อนชั้นได้
การย้ายหอ้ งเรียนของนักเรยี นห้องเรียนพิเศษตามโครงการพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ
นักเรียนจะต้องได้ระดับผลการเรียนเฉลี่ยในแต่ละปีการศึกษาไม่น้อยกว่า 2.75 ทั้งนี้ให้อยู่ในดุลยพินิจของ
สถานศึกษา และถา้ หากนักเรียนห้องอื่นจะย้ายมาเรยี นหอ้ งเรียนพิเศษตามโครงการพัฒนาผู้เรียนสู่ความเป็น
เลิศทางวชิ าการให้อย่ใู นดุลยพินจิ ของสถานศกึ ษา
ขอ้ 12 การสอนซอ่ มเสริม การสอนซ่อมเสริมสามารถดำเนนิ การ ดังตอ่ ไปนี้
1) ผ้เู รยี นมคี วามรู้/ทักษะพ้ืนฐานไมเ่ พียงพอที่จะศึกษาในแตล่ ะรายวชิ าน้ัน ควรจัดการสอนซ่อมเสริม
ปรับความร้/ู ทกั ษะพน้ื ฐาน
2) ผู้เรียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทักษะกระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลักษณะที่กำหนดไว้ตาม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัดในการประเมินผลระหวา่ งเรยี น
3) ผู้เรียนท่ีได้ระดบั ผลการเรียน “0” ให้จัดการสอนซ่อมเสรมิ กอ่ นสอบแกต้ ัว

60 คู่มอื นักเรียน และผู้ปกครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

4) กรณีผู้เรียนมีผลการเรียนไม่ผ่าน สามารถจัดสอนซ่อมเสริมในภาคฤดูร้อนเพื่อแกไ้ ขผลการเรียน
ท้งั นีใ้ หอ้ ย่ใู นดลุ ยพินิจของสถานศกึ ษา
ข้อ 13 การเรยี นซำ้ ชนั้ ผู้เรียนที่ไม่ผ่านรายวิชาจำนวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อการเรียนใน
ระดบั ชนั้ ท่ีสูงขึน้ สถานศึกษาต้องตง้ั กรรมการพิจารณาให้เรียนซ้ำชนั้ ได้ ท้ังน้ี ให้คำนึงถึงวุฒิภาวะ และความรู้
ความสามารถของผู้เรยี นเปน็ สำคญั การเรียนซ้ำมี 2 ลกั ษณะคือ

1) ผ้เู รียนมรี ะดบั ผลการเรียนเฉลี่ยในปีการศกึ ษานั้นต่ำกว่า 1.00 และมีแนวโน้มว่าจะเป็นปัญหาต่อ
การเรียนในระดบั ชน้ั ที่สงู ข้ึน

2) ผเู้ รียนมผี ลการเรียน “0” “ร” “ มส” เกนิ 4 รายวิชา ในรายวชิ าทล่ี งทะเบียนในปีการศึกษานัน้
ทั้งนี้ หากเกิดลักษณะใดลกั ษณะหนึ่ง หรือทั้ง 2 ลักษณะ ให้สถานศึกษาตั้งคณะกรรมการพิจารณา
หากเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรก็ให้เรียนซ้ำชั้น โดยยกเลิกผลการเรียนเดิมและให้ผลการเรียนใหม่แทน
หากพจิ ารณาแลว้ ไมต่ ้องเรยี นซำ้ ให้อย่ใู นดุลยพนิ จิ ของสถานศกึ ษา
ข้อ 14 เกณฑก์ ารจบระดับการศึกษา
14. 1 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น

1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 66 หน่วยกิต และ
รายวิชาเพม่ิ เตมิ ตามที่สถานศึกษากำหนด

2) ผ้เู รียนตอ้ งได้หนว่ ยกติ ตลอดหลกั สตู รไม่น้อยกว่า 77 หนว่ ยกติ โดยเป็นรายวิชาพนื้ ฐาน 66
หน่วยกติ และรายวชิ าเพมิ่ เติมไมน่ ้อยกว่า 11 หนว่ ยกติ

3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ ในระดบั ผา่ น ขนึ้ ไป ทุกรายวิชา

4) ผู้เรียนเขา้ รว่ มกจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนและมผี ลการประเมิน ผา่ น ทุกกจิ กรรม
14.2 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

1) ผู้เรียนเรียนรายวิชาพื้นฐานและเพิ่มเติม โดยเป็นรายวิชาพื้นฐาน 41 หน่วยกิต และ
รายวิชาเพิม่ เตมิ ตามท่ีสถานศกึ ษากำหนด

2) ผู้เรียนตอ้ งไดห้ นว่ ยกิตตลอดหลักสตู รไมน่ ้อยกว่า 77 หน่วยกิต โดยเปน็ รายวชิ าพ้นื ฐาน 41
หนว่ ยกติ และรายวชิ าเพม่ิ เตมิ ไมน่ อ้ ยกวา่ 36 หน่วยกิต

3) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์และเขียน ผลการประเมินคุณลักษณะ
อนั พึงประสงค์ ในระดบั ผา่ น ขน้ึ ไป ทุกรายวชิ า

4) ผเู้ รียนเขา้ ร่วมกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี นและมผี ลการประเมิน ผ่าน ทกุ กิจกรรม
ขอ้ 15 การอนุมัตผิ ลการผ่านระดับการศึกษา ผเู้ รยี นทไ่ี ดร้ บั การพจิ ารณาอนมุ ตั ิให้จบหลักสตู รไดจ้ ะตอ้ งมคี ณุ สมบัติ ดงั น้ี

1) ผ่านเกณฑก์ ารประเมินสาระการเรยี นรู้ครบทัง้ 8 กลุม่ สาระ
2) ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ สาระการเรียนรู้ในรายวิชาเพิม่ เตมิ ตามที่สถานศึกษากำหนด
3) ผา่ นเกณฑ์ประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
4) ผ่านเกณฑป์ ระเมินการอา่ น คิดวเิ คราะหแ์ ละเขยี น
5) ผ่านเกณฑป์ ระเมนิ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียนครบทกุ กิจกรรม

ค่มู อื นกั เรียน และผูป้ กครอง 61
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบุรี

ในกรณีที่นักเรียนยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติให้ผ่านระดับการศึกษา หรือการอนุมัติจบช่วงชั้น
สำหรับนกั เรียนท่ีจบไม่พร้อมร่นุ ใหอ้ นุมตั ิ วันทนี่ กั เรียนดำเนนิ การซอ่ มเสริมและพัฒนาและมีผลการประเมิน
ตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากำหนด ท้ังนห้ี ากนกั เรียนจบกอ่ นวนั ที่ 16 พฤษภาคม ของปกี ารศึกษา ให้อนุมัติจบ
ในปีการศึกษานั้น และหากนักเรียนจบหลังวันที่ 16 พฤษภาคม ให้อนุมัติจบ ในวันที่นักเรียนจบ แต่เป็นปี
การศกึ ษาใหม่

6) ใหผ้ บู้ ริหารสถานศึกษาเป็นผู้อนุมัตผิ ลการเรยี นและการจบช่วงชั้น
หมวด 4

การรายงานผลการเรียน
ขอ้ 16 ให้รายงานผลการเรียน เพอื่ แจง้ ผลการเรยี นรแู้ ละพัฒนาการในด้านตา่ งๆ ซึ่งเปน็ ความก้าวหน้าของ
ผเู้ รยี นใหผ้ ู้เรียน ผบู้ ริหารสถานศึกษา ผปู้ กครอง และผเู้ กี่ยวข้องทราบอยา่ งนอ้ ยภาคเรยี นละ 1 คร้ัง เพื่อใช้
เป็นข้อมูลในการปรับปรุง แก้ไขและส่งเสริมพัฒนาการเรียนของผู้เรียน ให้ประสบความสำ เร็จอย่างมี
ประสทิ ธภิ าพ รวมทง้ั ใช้เปน็ ข้อมูลสำหรับออกเอกสารหลักฐานการศึกษา การตรวจสอบ ยนื ยัน รบั รองผลการ
เรยี นและวุฒิการศกึ ษาของผเู้ รยี น โดยใช้แบบทีส่ ถานศกึ ษากำหนด

หมวดที่ 5
การเทยี บโอนผลการเรยี น
ข้อ 17 การเทียบโอนผลการเรยี น
การเทียบโอนผลการเรียน ควรดำเนินการในชว่ งกอ่ นเปดิ ภาคเรียนหรือตน้ ภาคเรยี นท่ีสถานศึกษารับ
ผูข้ อเทยี บโอนเปน็ ผูเ้ รียน ท้ังน้ี ผเู้ รยี นทไ่ี ด้รบั การเทยี บโอนผลการเรียนตอ้ งศกึ ษาตอ่ ในสถานศึกษาท่ีรับเทียบ
โอนอยา่ งน้อย 1 ภาคเรยี น โดยดำเนินการดังน้ี
1) ให้มีการเทียบโอนผลการเรียนของนักเรียนที่เรียนรู้จากสถานศึกษาได้ในกรณีต่างๆ ได้แก่
การย้ายสถานศกึ ษา การเปล่ียนรปู แบบการศึกษา การยา้ ยหลกั สตู ร การละท้ิงการศึกษาและขอกลับเข้ารับ
การศึกษาต่อ การศกึ ษาจากต่างประเทศและขอเขา้ ศกึ ษาต่อในประเทศ
2) ใหส้ ามารถเทียบโอนความรู้ ทกั ษะ ประสบการณ์จากแหลง่ การเรียนร้อู ่นื ๆ เช่น สถานประกอบการ
สถาบนั ทางศาสนา สถาบนั การฝกึ อบรมอาชีพ การศึกษาโดยครอบครวั
3) การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในช่วงก่อนเปิดภาคเรียนแรกหรือต้นภาคเรียนแรก ทั้งน้ี
นักเรียนทไ่ี ดร้ ับการเทยี บโอนผลการเรียนต้องศกึ ษาต่อเนือ่ ง ในสถานศกึ ษาทร่ี บั เทียบโอนอย่างน้อย 1 ภาคเรียน
โดยสถานศึกษาท่รี ับการเทียบโอนควรกำหนดรายวชิ า จำนวนหน่วยกิต ท่ีจะรับเทยี บโอนตามความเหมาะสม
4) การพิจารณาการเทียบโอน สามารถดำเนินการได้ดังนี้
4.1) พจิ ารณาจากหลกั ฐานการศึกษา ซ่ึงจะให้ขอ้ มูลทีแ่ สดงความรู้ ความสามารถของนกั เรียน
ในด้านตา่ งๆ
4.2) พิจารณาจากความรู้ ประสบการณ์ตรงจากการปฏิบัติจริง การทดสอบ การสัมภาษณ์
เป็นตน้
4.3) พิจารณาจากความสามารถ และการปฏิบตั จิ ริง

62 คูม่ ือนกั เรียน และผูป้ กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

4.4) ในกรณีมีเหตุผลจำเป็นระหว่างเรียน นักเรียนสามารถแจ้งความจำนงขอไปศึกษาบาง
รายวิชาในสถานศกึ ษา/สถานประกอบการอื่น แล้วนำมาเทยี บโอนได้ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ
บริหารหลกั สูตรและวิชาการของสถานศกึ ษา

4.5) การเทียบโอนผลการเรียนให้ดำเนินการในรูปของคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน
จำนวนไมน่ ้อยกวา่ 3 คน แต่ไมเ่ กิน 5 คน

4.6) กรณีผู้ขอเทียบโอนมีผลการเรียนมาจากหลักสูตรอื่น ให้นำรายวิชาหรือหน่วยกิตที่มี
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด/ผลการเรียนรู้/จุดประสงค์/เนื้อหาที่สอดคล้องกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 และ
พจิ ารณาใหร้ ะดับผลการเรียนให้สอดคลอ้ งกับหลกั สูตรที่รบั เทยี บโอน

4.7) กรณีการเทียบโอนความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ ให้พิจารณาจากเอกสารหลักฐาน (ถ้ามี)
โดยใหม้ ีการประเมินด้วยวิธีการท่ีหลากหลาย และพิจารณาใหร้ ะดบั ผลการเรียนให้สอดคลอ้ งกับหลักสูตรที่รับ
เทยี บโอน

4.8) กรณกี ารเทยี บโอนนกั เรียนที่เข้าโครงการแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ใหด้ ำเนินการตาม
ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง หลักการและแนวปฏิบัติการเทียบชัน้ การศึกษาสำหรบั นักเรียนทีเ่ ข้ารว่ ม
โครงการแลกเปลยี่ น

หมวด 6
หนา้ ทขี่ องสถานศกึ ษา
ขอ้ ท่ี 18 หนา้ ทขี่ องสถานศึกษา
ให้สถานศึกษาจัดให้มีเอกสารการประเมินผลตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานตามที่กระทรวง
กำหนด ดังน้ี
1) ระเบียนแสดงผลการเรียน (Transcript) (ปพ.1 : บ, ปพ.1 : พ) เป็นเอกสารบันทึกผลการเรยี น
ของผู้เรยี นตามสาระการเรยี นรูก้ ลุม่ วชิ าและกิจกรรมตา่ งๆ ท่ีไดเ้ รียนในแตล่ ะช่วงชน้ั ของหลกั สตู รการศึกษาขั้น
พน้ื ฐานเพือ่ ใหเ้ ปน็ หลักฐานแสดงสถานภาพ และความสำเร็จในการศึกษาของผู้เรียนแต่ละคนใช้เป็นหลักฐาน
ในการสมัครเข้าศกึ ษาต่อ สมัครทำงานหรอื ดำเนินการในเร่อื งอน่ื ที่เก่ียวข้อง
2) หลักฐานแสดงวุฒิการศึกษา (ใบประกาศนียบัตร) เป็นเอกสารที่สถานศึกษาออกให้กับผู้สำเร็จ
การศกึ ษาและรับรองวฒุ ิการศึกษาของผู้เรยี น ใหผ้ เู้ รยี นนำไปใช้เปน็ หลกั ฐานแสดงระดับวฒุ กิ ารศึกษาของตน
สำหรับหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 มี 2 แบบ คอื
2.1) ประกาศนียบตั ร สำหรับนกั เรยี นท่สี ำเรจ็ หลักสูตรการศึกษาภาคบงั คบั จบช้ันมัธยมศกึ ษา-
ปที ี่ 3 (ปพ.2 : บ)
2.2) ประกาศนียบัตร สำหรับนักเรียนที่สำเร็จหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จบ
ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 6 (ปพ.2 : พ)
3) แบบรายงานผสู้ ำเร็จการศกึ ษา (ปพ.3) เปน็ แบบรายงานรายชื่อและขอ้ มลู ของผู้สำเร็จการศึกษา
ภาคบังคับหลักสูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน เพอ่ื ใช้เปน็ หลักฐานสำหรับตรวจสอบยืนยนั และรับรองความสำเร็จ
และวุฒกิ ารศึกษาของผูส้ ำเรจ็ การศึกษาแต่ละคน ตอ่ เขตพ้ืนทกี่ ารศึกษาและกระทรวงศกึ ษาธกิ าร
4) แบบแสดงผลการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เป็นเอกสารรายงานพัฒนาการด้าน
คุณลักษณะของผู้เรียนเกี่ยวกับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่สถานศึกษา

ค่มู อื นักเรยี น และผู้ปกครอง 63
โรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ จงั หวัดราชบุรี

กำหนดขึ้น เพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นพิเศษ เพื่อการแก้ปัญหาหรือสร้างเอกลักษณ์ให้ผู้เรียนตามวิสัยทัศน์ของ
สถานศึกษา เป็นการรายงานผลการประเมิน ที่แสดงถึงสภาพหรือระดับคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม หรือ
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนในแต่ละช่วงชั้น สถานศึกษาต้องจัดทำเอกสารนี้ให้ผู้เรียนทุกๆ คน
ควบคกู่ บั ระเบียนแสดงผลการเรยี นของผู้เรียน เพอื่ นำไปใช้เป็นหลักฐานแสดงคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ของ
ผู้เรียนเพ่ือประกอบในการสมัครศกึ ษาต่อหรือสมัครทำงาน

5) แบบบันทึกผลการเรียนประจำวชิ า เป็นเอกสารสำหรับผู้สอนใช้บันทึกเวลาเรียน ข้อมูลผลการวัด
และประเมนิ ผลการเรียน ข้อมลู การพัฒนาคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคข์ องผู้เรียนแตล่ ะคนทีเ่ รียนในหอ้ งเรียนกลุ่ม
เดียวกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน ปรับปรุง แก้ไข ส่งเสริม และตัดสินผลการเรียน
ของผู้เรียน รวมทั้งใช้เป็นหลักฐานสำหรับตรวจสอบ ยืนยัน สภาพการเรียน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ
และผลสัมฤทธ์ขิ องผเู้ รยี น
แตล่ ะคนและเป็นเอกสารที่ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาใชใ้ นการอนุมตั ิผลการเรียนประจำภาคเรียน/ปกี ารศึกษา

6) แบบรายงานประจำตัวนักเรยี น เปน็ เอกสารสำหรบั บันทกึ ข้อมลู เก่ียวกับผลการเรียน พฒั นาการ
ในด้านต่างๆ และขอ้ มูลอ่ืนๆ ของผู้เรยี นสำหรับสอ่ื สารกับผปู้ กครอง

7) ใบรับรองผลการศึกษา เป็นเอกสารท่ีสถานศึกษาออกให้ผู้เรียนเปน็ การเฉพาะกิจเพอ่ื รับรองสถานภาพ
ทางการศึกษาของผู้เรยี นเปน็ การชั่วคราว ทง้ั กรณผี ูเ้ รยี นยังไม่สำเรจ็ การศึกษาและสำเร็จการศกึ ษาแล้ว

หมวด 7
บทเฉพาะกาล
ขอ้ 19 ให้มบี ทเฉพาะกาลตอ่ ไปน้ี
1) ปัญหา การเปลี่ยนแปลง แก้ไข เพิ่มเตมิ อันเกิดจากระเบียบและแนวปฏิบัตินี้ ต้องได้รับการ
พิจารณาหรือให้อยู่ในดุลยพินิจของคณะกรรมการบริหารหลักสูตรและวิชาการของโรงเรียน แล้วเสนอขอ
ความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพนื้ ฐานเพ่ือประกาศใชต้ ่อไป
2) นักเรียนที่ได้ผลการเรียน 0, ร, มส และผลการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มผ ก่อนการใช้
ระเบยี บนใ้ี หอ้ ยใู่ นดุลยพินจิ ของสถานศึกษา

ประกาศ ณ วันที่ 7 เดอื น พฤษภาคม พ.ศ. 5261

นายนัทที พฒั นะผล
ผู้อำนวยการโรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์

64 ค่มู อื นักเรียน และผู้ปกครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบุรี

การสมคั รเรยี นนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร (นศท.)
ประจำปีการศกึ ษา 2563

1. คุณสมบัติ หรือคณุ ลักษณะของผู้มสี ิทธสิ มัครเขา้ รบั การฝึกวชิ าทหาร มีดงั ตอ่ ไปนี้

1) เปน็ ชาย หรือหญิง และมสี ัญชาตไิ ทย

2) มีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และไม่เกนิ 22 ปีบริบูรณ์ โดยให้นบั อายุตามกฎหมายว่าดว้ ย

การรับราชการทหาร สำหรับผู้ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องได้รับความยินยอมของบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง

ตามกฎหมาย

3) สำหรบั ผู้ที่มอี ายุ 21 ปีบริบรู ณ์ขน้ึ ไป ตอ้ งไมเ่ ปน็ ผ้ทู ่ไี มไ่ ปแสดงตนเพื่อรับหมายเรยี กที่อำเภอท้องที่

ซึ่งเป็นภมู ิลำเนาทหารของตนตาม มาตรา 25 และ/หรือ ต้องไม่เป็นผู้ทีไ่ ม่มาใหค้ ณะกรรมการตรวจเลือกทำ

การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกองประจำการตาม มาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติ

รับราชการทหาร พ.ศ. 2497

4) สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 หรือเทียบเท่าขึ้นไป และมีผลการศึกษาของช้ัน

มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 หรือเทียบเทา่ ตัง้ แต่ 1.0 ขน้ึ ไป

5) กำลงั ศึกษาอยใู่ นสถานศึกษาท่ี หนว่ ยบญั ชาการรกั ษาดินแดน เปดิ การฝึกวิชาทหาร เวน้ แตผ่ ูส้ ำเร็จ

การศกึ ษาตงั้ แต่ระดบั อนุปรญิ ญา หรอื เทียบเท่าขึ้นไป หรือสำเรจ็ การศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชพี ชน้ั สูง หรือ

ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค หรือเทียบเท่าขึ้นไป และสำเร็จการฝึกวิชาทหารไม่ต่ำกว่าชั้นปีที่ 3 แล้ว

ซึ่งมีอายุไม่เกิน 26 ปีบริบูรณ์ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหารจะสมคั รเข้ารับการฝกึ วิชาทหารต่อให้

จบหลักสตู รการฝึกวชิ าทหารตามทก่ี ระทรวงกลาโหมกำหนดได้

6) ไม่เป็นโรค หรือ สภาพร่างกาย หรือสภาพจิตใจ ซึ่งไม่สามารถเข้ารับราชการทหารได้ตาม

พระราชบัญญัติรบั ราชการทหาร พ.ศ. 2497

7) มคี วามประพฤติเรยี บร้อย และไมม่ ีพฤตกิ รรมทีเ่ กย่ี วข้องกบั ยาเสพตดิ ให้โทษทกุ ประเภท

8) ไม่เป็นทหารประจำการกองประจำการ หรือถูกกำหนดตัวเข้ากองประจำการแลว้

9) มีขนาดรอบตวั น้ำหนกั และ ความสูง ตามสว่ นสมั พนั ธ์ดังนี้

อายุ (ปี) / ชาย น้ำหนกั ความสูง หญงิ
บริบรู ณ์ ขนาดรอบตวั (อก) (กก.) (ซม.)
หายใจเข้า (ซม.) หายใจออก (ซม.) นำ้ หนกั ความสงู
(กก.) (ซม.)

15 75 72 42 154 41 148

16 76 73 44 156 42 149

17 77 74 46 158 43 150

18 78 75 48 160 44 151

19 ถงึ 22 79 76 49 161 45 152

ท้ังน้ีค่าดัชนคี วามหนาของร่างกาย (BMI) ชาย ตอ้ งนอ้ ยกว่า 35 กิโลกรมั : ตารางเมตร

และหญิง ตอ้ งน้อยกว่า 30 กโิ ลกรมั : ตารางเมตร

ค่มู ือนกั เรียน และผ้ปู กครอง 65
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จังหวัดราชบุรี

2. เงื่อนไขบังคับทีต่ ้องปฏบิ ัตติ าม ระเบยี บหนว่ ยบัญชาการรักษาดินแดน มีดงั ตอ่ ไปนี้

1) ตอ้ งผา่ นการรับสมัคร หรอื รบั รายงานตัวเขา้ รับการฝกึ วิชาทหาร

2) ตอ้ งผา่ นการทดสอบสมรรถภาพทางร่างกาย

ลำดับ การทดสอบ นักศึกษาชาย นักศึกษาหญงิ
จำนวน เวลา
จำนวน เวลา

1 ลุก – นงั่ 34 ครั้ง 2 นาที 25 คร้งั 2 นาที

2 ดนั พ้ืน 22 คร้ัง 2 นาที 15 ครัง้ 2 นาที

3 วิง่ 800 เมตร ไม่เกนิ 3 นาที 15 วินาที 800 เมตร ไม่เกิน 4 นาที

3) ตอ้ งชำระเงินบำรงุ เพอ่ื ส่งเสริมการฝึกวิชาทหาร

4) การไว้ทรงผมนกั ศึกษาวชิ าทหาร

4.1 การไว้ทรงผมนักศึกษาวิชาทหาร (ชาย) ชั้นปีที่ 1 ถึง ชั้นปีที่ 5 ให้ตัดสั้นด้านข้างขาว

และด้านบนยาว ประมาณ 2 – 3 เซนติเมตร

4.2 การไวท้ รงผมนกั ศกึ ษาวิชาทหาร (หญงิ )

4.2.1 หากไว้ผมยาว ต้องขมวดปลายผมให้เรียบร้อย ไม่ปล่อยให้ผมยาวประบ่า

หรือปรกบ่าจนปิดอนิ ทรธนู

4.2.2 หากจำเปน็ ตอ้ งใชอ้ ุปกรณต์ กแต่งทรงผมประกอบก็ควรใชก้ ๊ิบ หรอื รบิ บ้ินขนาดเล็กที่

เป็นสเี ดียวกับสผี ม

4.2.3 ห้ามไว้ผมเปีย, ผมแกละ, ผมทรงหางม้า, ผมม้า (ผมปรกหน้า) หรือทรงผมอ่ืน

ที่ไม่เหมาะสม

4.2.4 ห้ามใชค้ รมี แตง่ ผม หรอื สารอ่นื ใด ตกแต่งทรงผมให้มองดูแล้วเหมือนผมเปียก หรือ

มีสผี มผดิ ธรรมชาติตามสมัยนิยมในปจั จุบนั

5) ตอ้ งแตง่ กายตามระเบยี บทกี่ ำหนด

6) ตอ้ งเชอ่ื ฟงั และปฏบิ ตั ิตามระเบียบ ขอ้ บังคบั และคำสั่ง โดยเคร่งครัด

7) การทุจริตทกุ กรณี จะถกู ตดั สิทธิในการสมัครเป็นนักศึกษาวิชาทหาร เชน่

7.1 ทดสอบสมรรถภาพร่างกายแล้ว ไม่ผ่านเกณฑ์ตามที่กำหนด แล้วมาสมัครซ้ำ

ทั้งในสถานศึกษาวิชาทหารเดิม หรือยา้ ยไปสมัครใหมย่ งั สถานศึกษาวชิ าทหารแหง่ อ่ืน

7.2 จ้างวาน หรือใหผ้ ู้อืน่ มาทดสอบสมรรถภาพร่างกายแทน

7.3 แก้ไขข้อมูลผลคะแนนการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ในใบสมัครเข้าเป็นนักศึกษา

วชิ าทหาร ชน้ั ปที ่ี 1 (แบบ รด.1)

3. เอกสารรบั สมัครทดสอบร่างกาย
1) ใบรับรองแพทย์ ออกโดยแพทย์ปริญญา ผู้ที่จดทะเบียนประกอบโรคศิลป์จากโรงพยาบาลของ

รฐั บาล หรือเอกชน จำนวน 1 ฉบบั
2) การแต่งกายชุดกฬี า หรอื ชุดพละ และตอ้ งสวมรองเทา้ ผา้ ใบในการทดสอบรา่ งกาย

66 ค่มู ือนกั เรยี น และผปู้ กครอง
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

4. หลักฐานการสมคั รเป็นนักศึกษาวิชาทหารชน้ั ปีท่ี 1
1) ใบมอบเงนิ พร้อมเงนิ คา่ บำรุง คนละ 500 บาท
2) ใบสมัคร รด.1 ติดรปู ถ่ายขนาด 3 x 4 ซม. (แตง่ เคร่ืองแบบนักเรยี น ไม่สวมหมวก ไมส่ วมแว่นตา)

แล้วหัวหนา้ สถานศึกษา และผปู้ กครองลงนามรับรอง
3) สำเนาทะเบยี นบา้ นของผสู้ มัคร และบดิ า มารดา (อย่างละ 1 ฉบบั )
4) สำเนาแสดงผลการศึกษาสำเร็จชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3
5) ใบรับรองแพทย์ ออกโดยแพทย์ปริญญา ผู้ที่จดทะเบียนประกอบโรคศิลป์จาก โรงพยาบาลของ

รัฐบาลหรอื เอกชน จำนวน 1 ฉบับ
6) สำเนาหลกั ฐานการเปลย่ี นชื่อ ชอื่ สกลุ ของผู้สมัคร หรือ บดิ า มารดา (ถา้ ม)ี จำนวน 1 ฉบบั
7) สำเนามรณะบตั รของบดิ า หรือมารดา (ถ้ามี) จำนวน 1 ฉบับ

5. หลกั ฐานการรายงานตัวของนักศึกษาวชิ าทหารชั้นปที ่ี 2 – 3
1) ใบมอบเงนิ พรอ้ มเงนิ ค่าบำรุง คนละ 500 บาท
2) ใบรายงานตวั รด.2 ตดิ รปู ถา่ ยขนาด 3 x 4 ซม. (แตง่ เครอื่ งแบบนักศกึ ษาวิชาทหาร ที่ถ่ายไมเ่ กนิ 6 เดอื น

ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตา) หวั หน้าสถานศึกษา และผ้ปู กครองลงนามรับรองติดรูป
3) สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชอ่ื ชอื่ สกุลของผ้สู มัคร หรือบิดา มารดา (ถ้าม)ี จำนวน 1 ฉบบั

6. สทิ ธกิ ารลาป่วย หรือลากิจ สำหรับนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร ระหว่างเข้ารบั การศกึ ษา
1) นกั ศึกษาวิชาทหารสามารถ ขาด - ลา ไดไ้ ม่เกนิ 4 ครงั้ ต่อปีการศกึ ษา และตอ้ งทำกจิ กรรมเพ่ิมเติม

ตามจำนวนคร้ังทข่ี าด – ลา
2) การลาปว่ ยของนักศึกษาวชิ าทหาร จะต้องมีใบรบั รองแพทย์ประกอบการลา
3) ถ้านักศึกษาวิชาทหารขาดเรียนโดยไมส่ ง่ ใบลาป่วย หรอื ใบลากิจตามระเบยี บการลาจะถูกตัดแต้มความประพฤติ
4) นกั ศึกษาวิชาทหารจะหมดสทิ ธิ์สอบเมอื่ ถูกตดั แตม้ ความประพฤตเิ กนิ 50 คะแนน

7. สิทธกิ ารลดวนั รับราชการกองประจำการ
1) ผสู้ ำเร็จการฝึกวิชาทหารชัน้ ปีที่ 1 รบั ราชการทหารกองประจำการ 1 ปี 6 เดือน แต่ถ้าร้องขอเข้า

รบั ราชการกองประจำการ ไดส้ ิทธิเข้ารบั ราชการเพยี ง 1 ปี
2) สำเร็จการฝึกวิชาทหารชนั้ ปีท่ี 2 อยใู่ นกองประจำการ 1 ปี ถา้ รอ้ งขออยใู่ นกองประจำการ 6 เดอื น
3) สำเร็จการฝึกวิชาทหารชั้นปีที่ 3 ขึ้นไปให้ขึ้นทะเบียนทหารกองประจำการแล้ว ปลดเป็น

ทหารกองหนุน โดยมิต้องเขา้ รับราชการในกองประจำการ

8. สทิ ธิได้คะแนนเพิม่ เตมิ เม่อื สอบเขา้ โรงเรยี นทหาร
นักศึกษาวิชาทหารที่ไปสมัครสอบเข้าโรงเรียนทหาร ถ้านำหลักฐานการสอบได้วิชาทหารชั้นใด

ชั้นหนง่ึ ไปแสดงจะไดค้ ะแนนเพ่ิมรอ้ ยละตามระเบยี บทีก่ ำหนดให้ ดังน้ี
1) ผู้สำเรจ็ การฝึกวชิ าทหารชน้ั ปีท่ี 1 เพม่ิ ให้ร้อยละ 3
2) ผสู้ ำเรจ็ การฝึกวชิ าทหารช้นั ปที ี่ 2 เพม่ิ ใหร้ อ้ ยละ 4
3) ผสู้ ำเรจ็ การฝกึ วิชาทหารชนั้ ปที ่ี 3 เพ่มิ ใหร้ ้อยละ 5

คมู่ ือนกั เรียน และผปู้ กครอง 67
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จงั หวัดราชบุรี

ระเบยี บโรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์
วา่ ดว้ ยการปฏิบตั ิของนักเรยี นโรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์

ด้วยโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จังหวัดราชบุรี เห็นสมควรที่จะกำหนดระเบียบของโรงเรียนว่าด้วย
การปฏิบัติของนักเรียนโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ เพื่อใหก้ ารปกครองดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นไปด้วยความ
เรียบรอ้ ย และมีแนวปฏิบตั ิทเี่ หมาะสมกับสภาพการเป็นนกั เรียนที่ดี โรงเรยี นรฐั ราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงึ เห็นเป็นการ
สมควรออกระเบียบวา่ ดว้ ยการปฏบิ ตั ิของนักเรียนโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ ไวด้ ังนี้

ขอ้ ท่ี 1 ระเบยี บนเ้ี รยี กวา่ “ระเบยี บโรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ ว่าด้วยการปฏิบัตขิ องนักเรยี นโรงเรียน
รัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์”

ข้อที่ 2 ระเบียบนี้ ให้ใช้บังคับสำหรับนักเรียนปัจจุบันของโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ตั้งแต่
ปกี ารศึกษา 2562 เปน็ ตน้ ไป

ขอ้ ท่ี 3 ให้ยกเลกิ กฎ ระเบียบ กตกิ า ใด ๆ ของโรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ ทีเ่ ก่ียวข้องกับการปฏิบัติ
ของนักเรียนโรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ และระเบียบโรงเรียนรฐั ราษฎร์อปุ ถัมภ์อื่นใด ที่มีข้อความขัดแยง้ กบั
ระเบยี บน้ี โดยใหใ้ ชข้ อ้ ความในระเบยี บฉบบั น้แี ทน

ขอ้ ที่ 4 ระเบยี บฉบบั นี้ ใหใ้ ชบ้ ังคบั ตง้ั แต่วันทผ่ี ู้อำนวยการโรงเรียนลงนามประกาศใช้เปน็ ต้นไป
ขอ้ ที่ 5 ในระเบียบน้ี

“โรงเรยี น” หมายถึง โรงเรียนรฐั ราษฎร์อปุ ถัมภ์ อำเภอเมืองราชบุรี จงั หวัดราชบุรี
“นกั เรยี น” หมายถึง นกั เรียนของโรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์
“ผอู้ ำนวยการโรงเรียน” หมายถงึ ผ้อู ำนวยการโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์
“ครู” หมายถงึ ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์
“ผู้ปกครอง” หมายถึง บุคคลซึ่งรับนักเรียนไว้ในความปกครอง หรืออุปการะเลี้ยงดู หรือ
บุคคลที่นักเรียนนั้นพักอาศัยอยู่ เป็นผู้บรรลุนติ ิภาวะ และไม่อยู่ในสภาพการเป็นนักเรียน/นกั ศึกษา และเปน็
ผซู้ งึ่ ลงนามมอบตัวนกั เรียนเขา้ เรยี น
ข้อที่ 6 นักเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ในข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อก็ดี ให้พิจารณาลงโทษตาม
สมควรแก่กรณี โดยอาศยั อำนาจตาม
6.1 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยกำหนดความประพฤตขิ องนักเรียน และนักศึกษา
พ.ศ. 2548 และฉบับที่ 2 พ.ศ. 2562
6.3 ระเบยี บโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ว่าดว้ ยการควบคุมความประพฤติ และการพิจารณา
ลงโทษนกั เรียน
ข้อท่ี 7 ให้ผู้อำนวยการโรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ เป็นผ้รู กั ษาการใหเ้ ปน็ ไปตามระเบียบนี้

68 คู่มอื นักเรยี น และผ้ปู กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

หมวดท่ี 1 ผู้ปกครองนกั เรียน

ข้อท่ี 8 นักเรยี นอาจมผี ูป้ กครองได้ 2 คน ดงั นี้
8.1 ผู้ปกครองคนที่ 1 หมายถงึ บุคคลซึ่งรบั นักเรียนไวใ้ นความปกครอง หรอื อปุ การะเลี้ยงดู

เปน็ ผบู้ รรลนุ ติ ภิ าวะ และไมอ่ ยใู่ นสภาพการเปน็ นกั เรยี น หรือนกั ศกึ ษา มหี นา้ ทีค่ วบคุมดูแลความประพฤติของ
นักเรยี น

8.2 ผู้ปกครองคนที่ 2 หมายถึง บุคคลที่นักเรียนนั้นอาศัยอยู่ด้วย เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ และ

ไมอ่ ยูใ่ นสภาพการเปน็ นกั เรียน หรือนกั ศกึ ษา มหี น้าทคี่ วบคมุ ดูแลความประพฤติของนักเรยี น
ข้อที่ 9 นักเรียนทุกคนต้องมีผู้ปกครองคนที่ 1 และในกรณีที่ผู้ปกครองคนที่ 1 ไม่สามารถอยู่ดูแล

นักเรยี นเป็นประจำได้ นกั เรยี นจะต้องมีผ้ปู กครองคนที่ 2 เพมิ่ อีกหนึ่งคน
ขอ้ ท่ี 10 นกั เรยี นตอ้ งนำตวั อยา่ งลายมือชอื่ ของผู้ปกครอง และหมายเลขโทรศพั ทท์ ี่สามารถติดต่อได้ ให้

โรงเรียนเก็บไวเ้ พื่อเปน็ หลักฐานภายใน 5 วนั นับแตว่ นั มอบตวั เขา้ โรงเรียน หรือเม่ือมกี ารเปลย่ี นแปลงผปู้ กครอง

ข้อที่ 11 ในวันมอบตัวนักเรียนเข้าใหม่ ให้ผู้ปกครองคนที่ 1 เป็นผู้มอบตัวนักเรียนต่อผู้อำนวยการ
โรงเรียน ถ้าไม่สามารถจะมอบตัวนกั เรียนได้ ใหท้ ำความตกลงกบั ผ้อู ำนวยการโรงเรียนเป็นรายไป

ขอ้ ที่ 12 ผ้ปู กครองต้องให้ความร่วมมอื กบั โรงเรยี น ในการควบคุมดูแลความประพฤตแิ ละการศกึ ษา
เล่าเรียน เพื่อใหน้ ักเรยี นได้ประพฤตติ นใหถ้ กู ตอ้ งตามระเบยี บของโรงเรียน ดงั น้ี

12.1 ดูแลนักเรยี นให้มาโรงเรียนอยา่ งสมำ่ เสมอ ให้ทันเข้าแถวเคารพธงชาติ เวลา 08.00น.

เพราะมาโรงเรียนสายจะทำให้นักเรียนไม่ได้ทราบเรื่องราว การชี้แจงข่าวสาร และการอบรมหน้าแถว
ก่อใหเ้ กดิ ปญั หากับตนเองในการศึกษาเล่าเรียน และผปู้ กครองในการติดตอ่ สัมพันธ์กับโรงเรยี น

12.2 ให้นักเรียนแต่งกายด้วยเครื่องแบบนักเรียน หรือเครื่องแบบในวิชากิจกรรมพัฒนา
ผู้เรยี นใหถ้ กู ต้องตามระเบยี บการแต่งกายของโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์

12.3 ไม่ใหน้ กั เรยี นสวมใส่สง่ิ ของเครอ่ื งประดับอนั มคี ่า เชน่ สรอ้ ย แหวน ตา่ งหู และอื่นๆ ซ่ึง

เป็นการสร้างนิสัยฟุ่มเฟือยที่ไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน อีกทั้งอาจทำให้เกิดอันตรายในการถูกทำร้าย
ร่างกาย เพอ่ื ชงิ ทรพั ยข์ องมจิ ฉาชีพ เมอ่ื นกั เรยี นออกนอกบริเวณโรงเรยี น

12.4 ไม่ควรให้นักเรียนเที่ยวเตร่ยามกลางคืน หรือนอกสถานที่พัก รวมกลุ่ม หรือมั่วสุม
อันเป็นการสรา้ งความเดอื ดร้อนใหแ้ ก่ตนเอง หรอื ผู้อ่นื เว้นแตไ่ ปทำธุระกับผู้ปกครอง

12.5 ควบคุมรายจ่ายของนักเรียนใหเ้ ป็นไปดว้ ยความประหยดั มธั ยัสถ์ ให้เงนิ เพียงพอสำหรับ

ใช้จา่ ยในการมาโรงเรียน และการซอ้ื อุปกรณ์ เพ่ือการศกึ ษาเทา่ น้นั
12.6 หมนั่ ดแู ลตรวจสอบการมาโรงเรียน และการกลบั บ้านของนักเรียนทุกวัน หากนักเรียน

กลับบ้านผิดเวลา และ/หรือสงสัยในพฤติกรรม ตอ้ งรีบตดิ ต่อสอบถามโรงเรียนทนั ที
12.7 ตรวจสมุดรายงานผลการเรียนที่โรงเรียนส่งมาทุกครั้ง เขียนแสดงความเห็น และแจ้ง

พฤติกรรมของนักเรียนทปี่ รากฏขณะอย่บู ้านตามความเปน็ จริง เพือ่ เป็นข้อมลู ในการแก้ไข้ปญั หาของนกั เรียน

12.8 ช่วยห้ามปราม ตกั เตอื น สอดสอ่ ง ดูแลความประพฤติของนักเรียน ไม่ให้ปฏิบัติในส่ิงท่ี
ผิดกฎหมายและสงั คมรงั เกยี จ ในกรณีตอ่ ไปนี้

(1) เลน่ การพนัน จดั ใหม้ ีการเล่นการพนนั หรอื ม่ัวสุมในวงการพนัน
(2) พกพาอาวุธ หรอื วัตถุระเบิด
(3) ซ้อื จำหน่าย แลกเปลี่ยน เสพสรุ า หรือเครือ่ งดมื่ ท่ีมแี อลกอฮอล์ สิง่ มนึ เมา บุหรี่

หรอื ยาเสพตดิ
(4) ลักทรพั ย์ กรรโชกทรพั ย์ ข่มขู่ หรอื บังคบั ขนื ใจ เพอ่ื เอาทรพั ยบ์ ุคคลอืน่

คู่มอื นกั เรยี น และผปู้ กครอง 69
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

(5) ประพฤตติ นพาลเกเร กอ่ เหตุทะเลาะววิ าท ทำร้ายร่างกายผอู้ นื่
(6) แสดงพฤตกิ รรมทางชสู้ าวอันไมเ่ หมาะสม กระทำการลามกอนาจาร

(7) แตง่ กายลอ่ แหลม หรอื ไม่เรียบร้อยในโรงเรียนหรือสถานศึกษา หรอื แต่งเคร่ืองแบบ
นกั เรยี นไม่เรยี บร้อย

(8) ฝ่าฝนื กฎระเบียบของโรงเรียน และกฎหมายบา้ นเมอื ง
12.9 เพื่อความสะดวกในการติดต่อระหว่างบ้านและโรงเรียน เมื่อผู้ปกครองเปลี่ยนแปลง
ที่อยู่ และ/หรือเบอร์โทรศัพท์ ควรแจง้ ใหโ้ รงเรยี นทราบทุกคร้ัง

12.10 ต้องให้ความร่วมมือกับครู ในการดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด โดยการหมั่นตรวจสอบ
นักเรียนในทุกด้าน และหมั่นไปพบปะกับทางโรงเรียนตามโอกาสต่างๆ เช่น การประชุมผู้ปกครอง และ

ถ้าโรงเรียนมีหนังสือเชิญผู้ปกครองไปพบ ต้องให้ความร่วมมือไปพบตามกำหนดนัดหมาย หรือติดต่อกลับ
โรงเรยี นทนั ที หากผปู้ กครองละเลย อาจมีผลกระทบตอ่ การเรียนและอนาคตของนกั เรยี นได้

12.11 ต้องสอดส่องดูแลเกี่ยวกับหนังสือ ซีดี หรือสื่อลามกอนาจาร ถ้าพบเห็นนักเรียน

ยุ่งเก่ยี ว หรอื หมกมุ่นกบั สง่ิ ดังกล่าว ตอ้ งรีบหาทางแกไ้ ข หรอื แจ้งทางโรงเรียน เพอื่ รว่ มกันหาแนวทางแกไ้ ขต่อไป

หมวดท่ี 2 การมาโรงเรียน

ขอ้ ท่ี 13 นกั เรยี นต้องมาโรงเรยี นในวันที่เปดิ ทำการสอนทกุ วนั และเขา้ เรียนทกุ คาบทกุ วิชาตามที่

ลงทะเบยี นไว้
ข้อที่ 14 นักเรียนที่ไม่เข้าเรียนซึ่งอาจป่วย หรือมีกิจธุระ ต้องส่งใบลาทุกครั้ง และใบลานั้นต้องมี

ลายมือชื่อผู้ปกครองรับรอง นักเรียนที่ขาดหายไปโดยไม่สง่ ใบลา หรือไม่แจ้งสาเหตุใหท้ ราบ และโรงเรียนไม่
สามารถติดตอ่ ได้ภายใน 15 วัน โรงเรยี นจะคดั รายช่อื ออกจากบญั ชรี ายชื่อนักเรยี นปจั จบุ ันไปไวใ้ นบัญชรี ายชื่อ
แขวนลอยของโรงเรียน

ข้อที่ 15 นักเรียนที่ไม่มาเรียนเนือง ๆ จนไม่มีสิทธิสอบในรายวิชานั้น ๆ ต้องมีหลักฐานมาแสดงต่อ
โรงเรียน เช่น ใบรับรองแพทย์ จึงจะมีสทิ ธิไดร้ ับการพิจารณาให้มีสทิ ธิสอบได้ แต่ถ้ามีเวลาเรียนไมถ่ ึงร้อยละ 60

จะไม่มสี ทิ ธสิ อบในทกุ กรณี
ขอ้ ที่ 16 นักเรียนท่หี ยดุ เรยี นบ่อยๆ โดยเหตผุ ลไมส่ มควร หรอื หนเี รียน และหนโี รงเรียนเป็นเนืองนิตย์

โรงเรียนจะถือว่าไม่มีความพร้อมที่จะเรียน จะเชิญผู้ปกครองมาทำความตกลงเปลี่ยนสภาพให้เรียนตาม

อธั ยาศยั ท่ีบ้าน หรอื ให้ย้ายทเ่ี รียน เพอื่ เปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่
ข้อที่ 17 ในวนั หยดุ ราชการ และวันทีโ่ รงเรยี นปิดการเรียนการสอนเป็นกรณีปกติ และกรณีพิเศษ หา้ ม

นักเรียนเข้ามาในบริเวณโรงเรียน ยกเว้นกรณีที่โรงเรียน หรือครูนัดหมาย แต่ต้องมีหนังสือแสดงการนัดหมาย
และหนังสอื อนุญาตจากผปู้ กครองใหเ้ ข้ามาทำกจิ กรรม โดยมคี รทู ่ีนดั หมายควบคุม ถา้ นักเรียนมีเหตุจำเป็นต้อง
เข้ามาในบริเวณโรงเรียน โดยท่ีโรงเรยี นหรอื ครไู ม่ได้นดั หมาย จะต้องปฏบิ ตั ดิ งั นี้

(1) ขออนุญาตตอ่ โรงเรยี นลว่ งหน้าอย่างนอ้ ย 1 วัน
(2) ตอ้ งแต่งกายเครื่องแบบนกั เรียน หรือแตง่ กายสภุ าพเรียบร้อย ทุกครั้ง

ข้อที่ 18 นกั เรยี นทีม่ ปี ระสงค์จะลาออกจากโรงเรียนในระหว่างปีการศึกษา หรอื สิ้นปกี ารศึกษา ต้อง
ใหผ้ ู้ปกครองมายนื่ คำรอ้ งขอลาออกดว้ ยตนเองที่ฝ่ายวิชาการ นกั เรียนจะลาออกโดยไม่ไดร้ ับความยินยอมจาก
ผู้ปกครองไม่ได้

70 คู่มือนกั เรยี น และผู้ปกครอง
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

ขอ้ ท่ี 19 การปฏบิ ัตติ นของนกั เรยี นในการมาโรงเรียน ดังนี้
19.1 นักเรียนควรจะต้องมาถึงโรงเรียน ก่อนเวลา 07.45 น. เพื่อปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษา

ความสะอาด บริเวณพื้นที่รับผิดชอบ เข้าร่วมกิจกรรมหน้าเสาธง และเข้าร่วมกิจกรรมพบหัวหน้าระดับช้ัน
และครูท่ปี รึกษาชนั้

19.2 นกั เรยี นที่ผ้ปู กครองมาส่ง ให้สง่ นกั เรยี นภายนอกโรงเรยี น
19.3 ให้นักเรียนทำความเคารพครูเวรประจำวันที่คอยรับ นักเรียนอยู่บริเวณหน้าประตู
โรงเรียน พรอ้ มกับรับการตรวจ หรือรบั ฟงั ขอ้ แนะนำของครู เพือ่ ความเป็นระเบียบเรยี บร้อย

19.4 ก่อนเข้าโรงเรียน นักเรียนจะต้องสำรวจตัวเอง และดูแลจัดเครื่องแต่งกายให้ถูกต้อง
ตามระเบียบของโรงเรียนทุกคร้งั

19.5 เมอ่ื นกั เรียนเขา้ โรงเรียนแล้ว ห้ามนกั เรียนออกนอกโรงเรยี นก่อนได้รับอนญุ าต

หมวดท่ี 3 การเขา้ ร่วมกิจกรรม หรือเขา้ เรียน

ข้อที่ 20 นกั เรยี นต้องเข้าเรียนทกุ คาบทกุ วิชาตามทีล่ งทะเบียนไว้ และกจิ กรรมทีน่ ักเรียนต้องปฏบิ ัติ

ในโรงเรียนประจำวนั ที่มีการจดั การเรยี นการสอนของโรงเรียน
ข้อที่ 21 การปฏบิ ัตติ นของนกั เรียนในการเขา้ รบั การเรยี นการสอน ดังน้ี
21.1 เม่อื นกั เรียนถึงหอ้ งเรียน ชว่ ยกนั จดั โตะ๊ -เก้าอี้ ใหเ้ รยี บร้อยเป็นแถว หรอื กล่มุ ตามลักษณะ

การจดั ช้นั เรยี น พรอ้ มกับนงั่ ในทขี่ องตนด้วยความสงบเรยี บร้อย และเตรยี มหนังสือ สมุด อุปกรณก์ ารเรยี น รอครู
ประจำวชิ าเข้าสอน

21.2 แสดงความเคารพครู เมอ่ื ครูเข้าห้องสอน และออกจากห้องสอน
21.3 ให้ความเคารพครูในขณะที่สอน ด้วยความตั้งใจฟังอธิบาย และปฏิบัติกิจกรรม
การเรยี นรู้ต่างๆ ที่ครกู ำหนด ไม่เลน่ พูดคยุ ลุกจากท่ีน่งั ทำงานอ่นื ๆ หรอื ออกไปนอกหอ้ งเรียน โดยไม่ได้รับ

อนญุ าตจากครูประจำวิชา
21.4 เมือ่ เรยี นเสรจ็ ก่อนออกจากหอ้ งเรียน ชว่ ยกันจดั โตะ๊ - เกาอี้ ลบกระดาน เก็บขยะ/เศษ

กระดาษตามโต๊ะ และพ้ืนหอ้ งเรียนให้สะอาดเรียบร้อย
21.5 นกั เรียนไมค่ วรนำอาหาร และเครื่องด่มื เขา้ มารบั ประทานในหอ้ งเรยี น ในขณะครูสอน
21.6 ในกรณีที่ครูยังไม่เข้าสอน เมื่อเวลาผ่านไปแล้ว 10 นาที ให้หัวหน้าห้องแจ้งกับครู

หวั หนา้ กล่มุ สาระการเรยี นรนู้ ้ัน ๆ หรอื ครูฝา่ ยวิชาการ
ขอ้ ที่ 22 การเปล่ยี นวิชาเรยี น หรือห้องเรยี น ให้นักเรียนไปทีห่ ้องเรียนตอ่ ไป ห้ามเลน่ และส่งเสียงดัง

การข้นึ -ลงบนั ไดทุกอาคารใหเ้ ดินชิดขวา

หมวดท่ี 4 การกลับบ้าน หรอื ออกนอกโรงเรยี น

ข้อที่ 23 เมื่อนักเรียนจะกลับบ้าน หลังเลิกเรียนแต่ละวัน ต้องแต่งกายให้เรียบร้อย และถูกระเบียบ
ของโรงเรียน

ข้อที่ 24 เมื่อถึงเวลาเลิกเรียนให้นักเรียนเข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง แยกชาย - หญิง ให้เป็นระเบียบ
เรียบร้อย และรอครเู วรประจำวันมาดำเนินการใหน้ ักเรยี นออกจากโรงเรยี น

ข้อที่ 25 นักเรียนท่ผี ปู้ กครองมารบั ให้มารบั นักเรียนภายนอกโรงเรยี น

ค่มู ือนกั เรียน และผู้ปกครอง 71
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบุรี

ขอ้ ที่ 26 ใหน้ ักเรยี นทำความเคารพครูเวรประจำวนั ทคี่ อยรอส่งนกั เรียนอยู่บริเวณหน้าประตูโรงเรียน
และยนิ ดีรบั การตรวจ หรือรับฟงั ข้อแนะนำของครู เพอื่ ความเปน็ ระเบยี บเรียบร้อย แล้วรอให้ครเู วรอนุญาตจึง

จะออกจากโรงเรียนได้
ขอ้ ท่ี 27 การขออนญุ าตออกนอกบริเวณโรงเรยี น นกั เรียนต้องมเี หตจุ ำเป็น ตอ้ งกลับบา้ น หรือออก

นอกโรงเรียนก่อนกำหนดโรงเรียนเลิกเรียน แต่ถ้าออกนอกบริเวณโรงเรียน โดยไม่ได้รับอนุญาตถือว่าหนี
โรงเรยี น ซึง่ การขออนญุ าตออกนอกบริเวณโรงเรยี น มขี ้ันตอนดังน้ี

27.1 ผู้ปกครองต้องมารับนักเรยี นด้วยตัวเอง โดยผู้ปกครองต้องติดต่อขออนุญาตกับครูฝ่าย

ปกครอง เพอื่ ขอรบั นกั เรียนออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นทหี่ อ้ งฝา่ ยกจิ การนักเรยี น
27.2 เมือ่ ได้รบั อนุญาตแลว้ ให้กรอกข้อมลู ในสมดุ บันทกึ ขออนุญาตออกนอกบรเิ วณโรงเรียน

และรบั บตั รอนญุ าตให้ครบถว้ นตามขน้ั ตอน แล้วให้ครูทีอ่ นญุ าตลงลายมอื ชื่อ
27.3 นกั เรียนนำบตั รอนญุ าตไปย่ืนท่ยี ามหนา้ ประตโู รงเรยี น และยามบันทึกลงในสมุดบันทึก

ออกนอกบริเวณโรงเรียน นักเรียนจะถือบตั รอนุญาตออกไป เพื่อไว้ให้ตรวจสอบว่าได้รับอนุญาตให้ออกนอก

บรเิ วณโรงเรยี นได้
27.4 รายมือชื่อครูทอ่ี นุญาตใหอ้ อกนอกโรงเรียนได้ ต้องมีรายมอื ชอ่ื ครทู ่ปี รึกษา สว่ นลายมือ

ชื่อรอง ผอ. ทีล่ งรายมือชอ่ื ไดค้ อื หวั หนา้ ฝ่ายกิจการนักเรียน ครูฝา่ ยปกครอง หวั หนา้ ระดับชนั้ และหัวหนา้ เวร
ประจำวันน้ันๆ

หมวดท่ี 5 การมาโรงเรยี นสาย

ขอ้ ที่ 28 นกั เรียนทีม่ าโรงเรยี นสาย ทางโรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ แบง่ ออกเป็น 2 ชว่ งเวลา ดังนี้
28.1 ช่วงเวลาท่ี 1 นักเรียนมาสายตั้งแต่ 08.00 – 08.40 น. ถอื ว่าสายก่อนเวลาเรียนช่ัวโมง

ท่ี 1 ใหค้ รูเวรประจำวนั ท่รี ับผดิ ชอบประตูโรงเรียนท่ี 1 หรอื หวั หน้าเวรประจำวัน ดำเนินการ ดงั นี้

(1) บนั ทึกชื่อนกั เรยี นลงสมุดบนั ทึกนกั เรียนมาสายกอ่ น 08.40 น.
(2) ให้นักเรียนดำเนินกิจกรรมร้องเพลงชาติ สวดมนต์ แผ่เมตตา เสมือนกับการจัด

กจิ กรรมหนา้ เสาธง
(3) บำเพญ็ ประโยชนต์ ามท่ไี ดร้ บั มอบหมาย

28.2 ช่วงเวลาที่ 2 นักเรียนมาสายตั้งแต่ 08.40 น. เป็นต้นไป ให้นักเรียนบันทึกการมา

โรงเรียนในสมุดบันทกึ การมาโรงเรียนสายตั้งแต่ 08.40 น. เป็นต้นไป พร้อมกบั ให้นักเรยี นดำเนนิ การรับบัตร
อนุญาตเขา้ เรียน ที่ห้องฝ่ายกิจการนักเรียน โดยให้หวั หน้าเวรประจำวนั หรอื ครฝู า่ ยปกครอง ลงลายมือช่ือให้

เขา้ เรยี น พร้อมกับบนั ทึกลงสมดุ เขา้ เรยี นทห่ี อ้ งกิจการนกั เรียน
ข้อที่ 29 หากนักเรียนผู้ใดมีเหตุจำ เป็นที่ต้องมาโรงเรียนสาย ให้ขอรับบัตรอนุญาตมาสาย ที่ฝ่าย

กิจการนักเรยี นล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วนั และนำมาแสดงต่อครูเวร หรอื ยามรักษาการณ์ และครูประจำวิชาใน

วนั ทีม่ าสาย

หมวดท่ี 6 การตรงต่อเวลา

ขอ้ ท่ี 30 นกั เรยี นตอ้ งเป็นผตู้ รงตอ่ เวลา
ข้อที่ 31 นักเรียนต้องมาโรงเรียนทันเข้าร่วมกิจกรรมดูแลรักษาความสะอาด บริเวณพื้นที่ทำความ
สะอาด และกจิ กรรมหน้าเสาธง ในวันเปดิ ทำการสอนทกุ วัน

72 คู่มอื นักเรยี น และผ้ปู กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

ข้อที่ 32 นักเรียนที่มาไม่ทันเข้าคาบเรียนใดหลังจากเริ่มเรียนแลว้ ต้องไปขอบัตรอนญุ าตเข้าเรียนท่ี
ฝ่ายกิจการนักเรียน

ข้อที่ 33 ในกรณีที่นักเรียนมีความจำเป็นต้องช่วยผู้ปกครอง ประกอบภารกิจ ให้ผู้ปกครองมาขอ
อนุญาตจากงานระบบดแู ลช่วยเหลือนักเรียน ฝ่ายกจิ การนักเรยี น เป็นราย ๆ ไป

ข้อที่ 34 เม่ือมสี ญั ญาณเข้าเรยี นในแตล่ ะคาบ ใหน้ ักเรียนอยู่ในหอ้ งเรยี นให้เรียบร้อย
ข้อที่ 35 เมื่อเลิกเรียน ใหน้ กั เรยี นกลบั บา้ นทันที แตถ่ ้ามคี วามจำเป็นต้องอย่ใู นโรงเรยี น เพื่อทำงานหรือ
ทำกิจกรรมใดๆ ให้อยู่ได้ไม่เกินเวลา 18.00 น. หากอยู่เกินเวลาที่กำหนดต้องเป็นงาน หรือทำกิจกรรมที่ได้รับ

อนญุ าตจากผ้อู ำนวยการโรงเรยี นเป็นลายลกั ษณ์อักษรเฉพาะราย และตอ้ งมคี รอู ยูก่ ำกบั ดูแลอยา่ งน้อย 1 คน

หมวดที่ 7 การใช้ยานพาหนะมาโรงเรียน

ข้อที่ 36 นักเรียนที่มาโรงเรียนโดยพาหนะประจำทาง หรือผู้รับส่ง ให้จอดส่งที่หน้าประตูโรงเรียน

และใหน้ กั เรยี นเดนิ แถวเขา้ โรงเรยี นในประตทู ี่ 1
ขอ้ ท่ี 37 นักเรียนท่ีนำพาหนะจักรยาน จกั รยานยนต์ มาโรงเรียน ใหข้ ออนญุ าตนำรถจักรยานยนต์มา

โรงเรียน ทงี่ านปกครองดูแลช่วยเหลือนักเรียน ฝ่ายกจิ การนักเรียน โดยให้ขนึ้ ทะเบียนประวัติไว้ที่ฝ่ายกิจการ
นักเรยี น และนำพาหนะไปจอดไว้ในสถานที่ที่โรงเรียนจดั ไว้ใหเ้ ท่านน้ั ห้ามนำพาหนะออกนอกสถานที่จอดรถ
จนกว่าจะเลกิ เรยี น หรอื ได้รบั อนุญาตจากโรงเรียน

ข้อที่ 35 พาหนะจักรยายนต์ที่นำมาโรงเรียนต้องมีเลขทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และพ.ร.บ.
ขนส่งทางบก และไม่ดดั แปลงเสริมแต่งอุปกรณ์ใด ๆ ที่ทำให้เกิดเสยี งดงั สวมใส่หมวกนิรภยั ในขณะขบั ขีท่ ัง้ ผู้

ขบั และผซู้ อ้ น พรอ้ มกบั ผู้ขับข่ีรวมท้งั ผซู้ อ้ นท้ายไม่เกนิ 2 คน
ขอ้ ท่ี 36 นกั เรียนทีน่ ำรถจักรยานยนตม์ าโรงเรยี น จะตอ้ งมาใหท้ นั เวลาเขา้ แถวหน้าเสาธง (กอ่ นเวลา

07.45 น.) โดยให้เข้าทางประตูโรงเรียนที่ 2 พร้อมกับให้นักเรียนจอดรถดับเครื่องยนต์ที่ด้านนอกประตู

โรงเรยี น ทำความเคารพครูเวรประจำวนั และเข็นรถจักรยานยนตเ์ ข้าจอดในโรงรถให้เปน็ ระเบียบเรียบร้อย
ขอ้ ที่ 37 เวลาเลิกเรยี น ใหเ้ ข็นรถออกจากโรงรถมารอเข้าแถวอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อครูเวร

ประจำวันอนุญาตนักเรียนนำรถจกั รยานยนต์ออกนอกโรงเรยี นต้องทำความเคารพ แล้วเข็นออกไปด้านนอก
ประตู สตาร์ทเครื่องยนต์ และขับข่อี อกไปได้

ข้อที่ 38 นักเรยี นตอ้ งมมี ารยาทในการใช้รถใช้ถนน รักษากฎจราจร

ข้อที่ 39 กรณีที่นักเรียนมา 2 คน ให้คนที่นั่งซ้อนท้ายลงหน้าประตู 2 เก็บหมวกนิรภัยไว้กับผู้ขับข่ี
แล้วเดนิ ต่อไปเข้าโรงเรยี นประตทู ่ี 1

หมวดท่ี 8 การลาหยุดเรียน

ข้อที่ 40 เมื่อนกั เรียนมคี วามจำเป็นตอ้ งลาเรียน นกั เรยี นจะต้องส่งใบลาด้วยทกุ ครั้ง โดยใช้แบบใบลา
ท่ีโรงเรียนกำหนด หรือเขยี นขน้ึ เองใหม้ ขี อ้ ความเหมอื นกันกไ็ ด้

ขอ้ ท่ี 41 ในเอกสารใบลาของนักเรียน จะตอ้ งมลี ายเซ็นของผู้ปกครองรบั รองการลา มิฉะนั้นจะไม่ได้

รบั อนุญาต
ข้อที่ 42 ให้นักเรียนส่งใบลาถึงครูประจำชั้นก่อนวันที่ลา หรือในวันที่ลา หรือภายในวันแรกที่มา

โรงเรยี นหลงั จากวันทขี่ าดเรยี น ในกรณเี จบ็ ปว่ ยเกิน 3 วันขึ้นไป ตอ้ งมีใบรับรองของแพทย์
ข้อที่ 43 ถ้าหากนักเรียนไม่ส่งใบลาตามกำหนดในข้อที่ 42 ไม่ว่ากรณีใด ๆ จะถือว่าผู้นั้นขาดเรียน

และจะมีผลถึงการพจิ ารณาไม่มสี ทิ ธสิ อบ

คูม่ อื นักเรยี น และผูป้ กครอง 73
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

หมวดท่ี 9 การใช้ทรพั ย์สนิ ของสว่ นรวม

ข้อที่ 44 นักเรียนต้องใช้ทรัพย์สินของโรงเรียน และส่วนรวมอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดการชำรุด
และสญู เสยี

ข้อที่ 45 นกั เรียนต้องช่วยกนั รกั ษาความสะอาดของโรงเรียน และชน้ั เรียนให้สะอาดอยู่เสมอ ทิ้งขยะ
ใหถ้ กู ท่ี ไมข่ ดี เขยี นทำความสกปรกใหเ้ กิดขนึ้ กับทรพั ย์สนิ ของโรงเรยี น และส่วนรวม

ข้อที่ 46 การใช้ทรัพย์สินของโรงเรียน และส่วนรวมอื่นๆ ให้นักเรียนปฏิบัติตามข้อกำหนด หรือ

ประกาศการใช้ทรัพยส์ ินของโรงเรยี น และส่วนรวมนั้นๆ
ข้อที่ 47 ในกรณีที่นักเรียนมีความจงใจทำลายทรัพย์สินของโรงเรียน ผู้ปกครองของนักเรียนต้อง

รับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายน้ัน และนักเรียนต้องถูกลงโทษตามระเบียบของโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์ว่าดว้ ย
การควบคมุ ความประพฤติและการพิจารณาลงโทษนักเรียน

หมวดท่ี 10 การปฏบิ ัติตนของนกั เรยี นในโรงเรยี น

ข้อที่ 48 การออกนอกโรงเรียนของนักเรียน ต้องได้รับอนุญาตจากโรงเรียนก่อน และต้องถือบัตร

อนญุ าตออกนอกบริเวณโรงเรียนติดตวั เพอื่ แสดงตอ่ ครู หรือพนักงานเจ้าหน้าทสี่ ่งเสรมิ ความประพฤตินักเรียน
และนักศึกษา ทจ่ี ะขอตรวจทกุ ครัง้ เมือ่ ออกนอกบรเิ วณโรงเรียน

ข้อที่ 49 เม่อื อยใู่ นบรเิ วณโรงเรียน นกั เรียนพงึ อยใู่ นความสงบ ไม่สง่ เสียงดังอนั อาจรบกวนสมาธิผู้อ่ืน
และเมื่อมีเวลาวา่ ง นกั เรยี นพึงใชเ้ วลาวา่ งให้เกดิ ประโยชนอ์ ยา่ งเตม็ ท่ี

ข้อที่ 50 การชี้แจง ประกาศ อบรม หน้าเสาธงหรือในโอกาสที่โรงเรียนจัดให้มีการอบรม ประกาศ

หรือติดประกาศ ให้ถือวา่ เปน็ หนา้ ท่ขี องนกั เรยี นทต่ี ้องรับทราบ และนำไปปฏบิ ัติ
ข้อท่ี 51 เม่ือนกั เรียนเดนิ เข้าช้นั เรียน เปล่ยี นคาบเรยี น หรือเลกิ เรยี น ใหเ้ ขา้ แถว และเดินแถวอย่าง

เปน็ ระเบยี บ
ขอ้ ที่ 52 การเล่นที่นอกเหนือจากกจิ กรรมของโรงเรียน ตอ้ งเปน็ ลกั ษณะท่ไี ม่เป็นอันตราย หรือขัดต่อ

ศลี ธรรมอันดีงาม และไม่เป็นกจิ กรรมทีผ่ ดิ กฎหมายบ้านเมอื ง

ข้อที่ 53 การใช้ห้องพเิ ศษตา่ ง ๆ ต้องได้รบั การอนุญาตจากผู้อำนวยการโรงเรียน และให้ปฏิบัติตาม
หลกั เกณฑ์ ขอ้ กำหนดของการใชห้ ้องพเิ ศษนัน้ ๆ

ขอ้ ท่ี 54 เม่อื นกั เรยี นทำสิง่ ของ หรือเงนิ ทองหาย ให้แจ้งท่งี านประชาสมั พันธ์ และติดตามฟงั ประกาศ
จากทางโรงเรียน และถ้าเก็บสิ่งของ หรือเงินทองได้ ให้นำส่งที่งานประชาสัมพันธ์ หรืองานปกครองดูแล
ชว่ ยเหลอื นักเรียนทันที

หมวดที่ 11 การปฏิบัติตนท่ัวไปของนกั เรยี น

ข้อที่ 55 นักเรียนต้องไม่เที่ยวเร่ร่อนในที่สาธารณสถาน อันอาจเป็นเหตุให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของ
ตนเอง ผู้ปกครอง และโรงเรียน

ข้อที่ 56 นักเรียนต้องแสดงกิริยาวาจา หรือการกระทำที่สุภาพเรียบร้อย เหมาะสมกับการเป็น
นกั เรียนและต่อบคุ คลท่ัวไป

ข้อท่ี 57 นักเรียนต้องไมร่ วมกลุ่ม หรือมัว่ สุมกอ่ ความเดอื ดร้อน หรือความรำคาญต่อบคุ คลอ่นื
ขอ้ ท่ี 58 นกั เรียนตอ้ งไมเ่ ท่ยี วเตร่นอกสถานทพ่ี ัก ระหวา่ งเวลา 22.00 – 05.00 น. ของวันรงุ่ ข้ึน เว้น
แตไ่ ปกับบิดา มารดา หรือผปู้ กครอง

74 ค่มู อื นักเรยี น และผ้ปู กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

ขอ้ ท่ี 59 นกั เรยี นต้องไม่เข้าไปในสถานท่ตี อ้ งห้าม เชน่ สถานหญงิ โสเภณี บ่อนการพนนั โรงรับจำนำ
เวน้ แต่เป็นผอู้ ยู่อาศยั หรอื เขา้ ไปเยยี่ มญาติในสถานทน่ี น้ั

ข้อที่ 60 นักเรียนต้องไม่ไปงาน หรือร่วมงานสังสรรค์ที่มีการเต้นรำ หรือการแสดงไม่เหมาะสมกับ
สภาพการเปน็ นกั เรียน เว้นแตไ่ ปกบั บิดา มารดา หรือผู้ปกครอง

ขอ้ ท่ี 61 นกั เรยี นต้องไมป่ ระพฤติปฏบิ ตั ิตนในทำนองชูส้ าว หรือในลักษณะทีท่ ำให้ผ้พู บเหน็ อาจเข้าใจ
ว่าเปน็ ลกั ษณะชสู้ าวหรอื หนทางนำไปสูล้ กั ษณะชูส้ าว และการทำลามกอนาจาร

ข้อที่ 62 ห้ามเลน่ การพนัน ซ่งึ ตอ้ งหา้ มตามกฎหมาย เพอื่ เอาทรพั ย์สิน และหา้ มมั่วสมุ ในวงการพนัน

ข้อที่ 63 ห้ามนักเรียนสูบหรี่ สูบกัญชา ดื่มสุรา สิ่งเสพติด หรือของมึนเมาต่าง ๆ และห้ามมีส่ิง
ดงั กลา่ วไวใ้ นครอบครอง ทัง้ จำหนา่ ย หรอื แลกเปล่ยี น

ขอ้ ที่ 64 ห้ามนักเรยี นลักขโมย กรรโชกทรัพย์ ข่มขู่หรอื บังคับขืนใจเพ่ือเอาทรพั ย์บุคคลอ่ืน
ข้อที่ 65 ห้ามนักเรียนพกพาอาวุธหรือวัตถุระเบิด หรือซ่อนเร้นอาวุธและของมนเมาต่างๆ หรือมี
ส่งิ ของดงั กล่าวไวใ้ นครอบครอง

ข้อที่ 66 ห้ามนักเรียนกอ่ เหตุทะเลาะวิวาท ทำร้ายร่างกายผู้อื่น เตรียมการหรือกระทำการใด ๆ อัน
น่าจะก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย หรือขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือรวมกลุ่ม หรือมั่วสุมเพื่อ

กระทำการดังกล่าว
ข้อที่ 67 หา้ มนักเรยี นหนีเรียน หรือออกนอกสถานศึกษา โดยไมไ่ ด้รบั อนญุ าตในชว่ งเวลาเรียน
ข้อที่ 68 การใช้บริการต่างๆ นักเรียนพึงใช้บริการตามลำดับกอ่ นกลัง ไม่แซงคิว และเข้าแถวเพื่อรบั

บรกิ ารอยา่ งเปน็ ระเบียบ
ข้อที่ 69 นักเรียนต้องไม่กระทำการอันเปน็ ปฏิปักษต์ ่ออำนาจบริหารของโรงเรียน หรือบังคับขู่เขญ็

ยุยง ส่งเสริมหรือสนับสนุนให้นกั เรียนผอู้ ืน่ กระทำการเช่นนี้
ข้อที่ 70 นักเรียนพงึ แสดงออกถึงความเคารพตอ่ คุณครูทงั้ ตอ่ หน้าและลับหลงั ไม่แสดงกิริยาอาการ ที่

ขาดสัมมาคารวะ หรอื ขาดความเคารพยำเกรงต่อคณะครู

ขอ้ ที่ 71 นกั เรยี นพึงเปน็ ผ้มู กี ริ ิยามารยาททีเ่ รียบรอ้ ยและดีงาม
ข้อที่ 72 สิ่งที่ผิดระเบียบการแต่งกายและอ่ืนๆ ที่นักเรยี นนำหรือสวมใส่มาโรงเรียน ทางโรงเรยี นจะ

ยึดเก็บไว้ และจะนำไปบรจิ าคเปน็ การกุศลยังหน่วยงานการกุศลอื่นต่อไป
ข้อที่ 73 นักเรียนตอ้ งไม่แต่งกายล่อแหลม หรือไมเ่ รยี บรอ้ ยในโรงเรียน หรอื แตง่ เครื่องแบบนักเรียน

ไม่เรียบร้อยภายนอกสถานศึกษา อันอาจเป็นเหตใุ ห้เส่ือมเสียชอ่ื เสยี งของตนเอง ผูป้ กครอง และโรงเรียน

ข้อที่ 74 เครื่องประดับและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่นอกเหนืออุปกรณ์ที่ใช้ในการเรียน ที่นักเรียนนำมา
โรงเรียน โรงเรียนจะยึดและเก็บรกั ษาไว้ แล้วแจ้งให้ผู้ปกครองมาตดิ ตอ่ รบั คนื เม่ือส้นิ สดุ ปีการศึกษา

หมวดท่ี 12 การรบั ประทานอาหาร

ขอ้ ท่ี 75 ใหน้ กั เรยี นทกุ คนรบั ประทานอาหารในโรงอาหาร เพียงแห่งเดียวเท่านัน้ โดยถอื ปฏิบตั ดิ ังน้ี
75.1 นักเรียนที่จะซื้ออาหารทุกคนต้องเข้าแถวซื้ออาหารอย่างเป็นระเบียบตามช่องร้าน

จำหน่ายอาหารแตล่ ะรา้ น
75.2 อนุญาตให้ซ้ืออาหารจากรา้ นค้าในโรงเรียนได้ในช่วงเวลาก่อน 07.45 น. และเวลาพัก

กลางวนั

75.3 นักเรียนรับประทานอาหารและเครื่องดื่มเฉพาะภายในโรงอาหารและสถานที่ที่ได้รบั
อนญุ าต

คูม่ ือนักเรยี น และผู้ปกครอง 75
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

75.4 ห้ามนักเรยี นซ้ืออาหารจากบคุ คลภายนอกโรงเรียน หรอื ตามข้างรวั้ /กำแพง
75.5 ห้ามนักเรียนซื้ออาหารรับประทานก่อนเวลาที่โรงเรียนกำหนด หากมีเหตุจำเป็นที่

จะต้องรับประทานอาหารนอกเวลาที่โรงเรียนกำหนด ให้ขออนุญาตกับครูเวรประจำวันหรือครูฝ่ายกิจการ
นักเรียน

75.6 เมื่อรับประทานอาหารเสร็จแล้ว ให้นำภาชนะใส่อาหารส่งคืนร้านค้าที่ซื้ออาหารมา
พรอ้ มกับก่อนลุกจากโตะ๊ อาหารในโรงอาหารทกุ ครั้ง ใหน้ ำแกว้ น้ำพลาสติก ขวดนำ้ หรือขยะอนื่ ๆ ที่อยู่บนโต๊ะ
อาหารนน้ั ไปทง้ิ ถังขยะทีอ่ ยรู่ อบบริเวณโรงอาหารให้เรยี บร้อย

75.7 หา้ มนำภาชนะทุกชนดิ ออกจากโรงอาหาร
75.8 ห้ามนักเรียนเข้าทำกิจกรรมใดๆ ในโรงอาหาร เว้นแต่ได้รับอนุญาต และห้ามขีดเขียน

ข้อความใดๆ หรือทำเคร่อื งหมายใดๆ ลงบนพ้นื โต๊ะและม้านงั่ ในโรงอาหาร
75.9 ห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิดไปรับประทานนอกโรงอาหาร หรือในห้องเรียน

และห้ามนำภาชนะใสอ่ าหารและน้ำด่มื ทกุ ชนดิ เข้าไปในอาคารเรียน

75.10 นักเรียนที่นำอาหารมาจากบา้ น ให้นำไปรับประทานในโรงอาหารของโรงเรียน ห้าม
รบั ประทานอาหารในห้องเรยี น

หมวดท่ี 13 การแสดงความเคารพ

ข้อที่ 76 นกั เรียนทกุ คนตอ้ งแสดงความเคารพครทู กุ ท่านในโรงเรยี น และเม่ือมีขา้ ราชการผใู้ หญ่ หรือ
ผู้มเี กยี รติอ่ืน ๆ มาเยีย่ มโรงเรยี น ให้นักเรียนแสดงความเคารพดว้ ยการยนื ตรง กม้ ศีรษะ แล้วยกมอื ไหว้

ขอ้ ที่ 77 นักเรยี นทุกคนเมื่อเขา้ ประตโู รงเรียนมาในตอนเช้า หรือในตอนเลกิ เรียนในตอนกลบั บา้ น ให้
ทำความเคารพครูเวรประจำวัน โดยการยนื ตรงก้มศรี ษะ แล้วยกมอื ไหว้

ข้อที่ 78 เม่อื นกั เรยี นเดินสวนทางกับครู ใหแ้ สดงความเคารพด้วยการยืนตรงกม้ ศรี ษะและยกมือไหว้

หากนักเรียนถือสิ่งของ อุปกรณ์การเรียน หรือรองเท้า ซึ่งเป็นเหตุให้ยุ่งยากต่อการยกมือไหว้ อนุญาตให้
นกั เรยี นแสดงความเคารพเพียงแคก่ ม้ ศรี ษะได้

ข้อที่ 79 เมื่อนักเรียนนั่งหรือยืนอยู่กับที่ ครูเดินผ่านมาในระยะใกล้พอสมควรให้แสดงความเคารพ
โดยการยืนตรง กม้ ศีรษะและยกมือไหว้

ข้อที่ 80 นักเรียนเดินตามหลังครู ไม่ควรเร่งเดินชิงขึ้นหน้า นอกจากจำเป็นจริงๆ ก็ให้กล่าวคำขอโทษ

เสยี กอ่ น แล้วจงึ เดินแซงขึน้ หนา้ ได้ ถ้าครเู ดินตามหลังนักเรยี นมาในระยะใกล้ ควรหยุดใหค้ รูเดนิ ผา่ นข้นึ หน้าไปก่อน
ข้อที่ 81 เมื่อครูเข้าห้องเรียนหรือก่อนออกจากห้องเรียน ให้หัวหน้าห้องบอกทำความเคารพว่า

“นักเรียนเคารพ” ให้นักเรียนทกุ คนยืนขึ้นพร้อมกัน นักเรียนทุกคนยกมือไหว้แล้วกล่าวคำว่า “สวัสดีครับ/
สวสั ดคี ่ะ” (ใชเ้ มอ่ื ครเู ขา้ ห้อง) หรอื “ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” (ใช้เมื่อครูออกจากหอ้ ง)

ข้อที่ 82 นักเรียนยืนพูดกับครู ต้องยืนในลักษณะสำรวม เมื่อพูดเสร็จแล้วให้แสดงความเคารพโดย

การยกมอื ไหว้
ข้อที่ 83 ลูกเสือ – เนตนารี และนักศึกษาวิชาทหาร ขณะแต่งเครื่องแบบให้ทำความเคารพ ตาม

ระเบยี บทก่ี ำหนดไว้
ขอ้ ที่ 84 เม่อื นักเรียนพบครูขณะอยู่ภายนอกโรงเรียน ให้ทักทายกลา่ วคำว่า “สวัสดีครับ/สวัสดีค่ะ”

และแสดงความเคารพโดยการยกมือไหว้

76 คูม่ อื นักเรยี น และผูป้ กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

หมวดที่ 14 การใช้โทรศพั ท์

ข้อที่ 85 ทางโรงเรียนไมส่ นับสนนุ ให้นักเรียนนำโทรศพั ท์มอื ถือมาใช้ที่โรงเรียน เนื่องจากเป็นเหตุให้
นักเรยี นนำมาใชไ้ มถ่ กู วิธี อาทิ เลน่ เกม ดคู ลปิ ตา่ งๆ

ข้อที่ 86 ห้ามนักเรยี นใช้โทรศัพท์มือถือพูดคุย ฟังเพลง เล่นเกม หรือใช้อยา่ งอ่ืน ในเวลาเรียนเด็ดขาด
หรือกิจกรรมอื่น ๆ ที่โรงเรียนได้จัดขึ้น หากพบผู้ใดใช้โทรศัพท์มือถือในเวลาที่ห้ามใช้ จะยึดไว้แล้วดำเนินการ
ลงโทษตามระเบียบของโรงเรยี น และใหผ้ ้ปู กครองติดต่อรับโทรศัพทม์ อื ถือคนื หลงั สอบปลายภาคเรยี นด้วยตนเอง

ข้อท่ี 87 ห้ามนกั เรียนเลน่ ถ่าย หรือโพส ภาพ วดี โี อ คลิป หรอื อ่ืนๆ ลงในชอ่ งทางสอ่ื อินเตอรเ์ น็ต ใน
ทุกช่องทาง อนั ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย ต่อตนเอง ผู้ปกครอง หรือโรงเรยี น

ข้อที่ 88 ห้ามนักเรียนมีคลิปภาพเสียหาย หรือสื่อลามกอนาจาร จะมีการดำเนินการส่งให้เจ้าหน้าท่ี
ดำเนินตามกฎหมาย

ข้อที่ 89 เมื่อเข้าเรยี นวชิ าใดๆ ให้ครูประจำวชิ าน้ัน มีอำนาจเก็บรักษาโทรศัพท์มอื ถือได้ เพื่อเป็นการ

สรา้ งความพรอ้ มในการเรยี นของนักเรียน
ข้อท่ี 90 หา้ มนกั เรียนนำโทรศัพทม์ อื ถอื เขา้ หอ้ งสอบในการสอบกลางภาคเรียน และปลายภาคเรียน

หรือ การสอบใดๆ โดยใหฝ้ ากไวก้ บั ครูทป่ี รึกษา หรอื ครผู ู้คมุ สอบ
ข้อที่ 91 เมื่อนักเรียนมีเวลาว่างจาการเรียน ให้นำโทรศัพท์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ อาทิ สืบค้นหา

ข้อมูล แต่ถ้าหากนำโทรศัพท์มือถือมาใช้ในทางที่ผิด อาทิ เล่นเกม เล่นสื่ออินเทอร์เน็ต ให้ครูผู้พบเห็น

ดำเนนิ การทางปกครอง และดำเนนิ การส่งเรอื่ งมายงั ฝา่ ยกิจการนักเรียน
ข้อที่ 92 กรณีทนี่ กั เรยี นมีความจำเปน็ ต้องนำโทรศัพทม์ อื ถอื มาโรงเรียนให้แจง้ ครูประจำช้ันลงบันทึก

ข้อมลู โทรศพั ท์มอื ถือ หรือนำมาฝากไวก้ บั ครูประจำชั้น และขออนญุ าตใชไ้ ดเ้ ฉพาะเวลาท่ีจำเป็นเทา่ นัน้

ประกาศ ณ วนั ที่ 11 เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2562

นายนัทที พฒั นะผล
ผู้อำนวยการโรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์

คมู่ อื นกั เรียน และผปู้ กครอง 77
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

78 ค่มู ือนักเรียน และผู้ปกครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จังหวัดราชบุรี

ระเบยี บโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์
วา่ ดว้ ยการแต่งกายของนกั เรยี นโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์

ด้วยโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ อำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เห็นสมควรที่จะกำหนดระเบียบของ
โรงเรียนวา่ ดว้ ยการแต่งกายของนกั เรียนโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ เพอื่ ใหร้ ะเบียบแบบแผน แลแนวปฏิบัติที่
เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียนทดี่ ี จงึ ได้กำหนดระเบยี บว่าดว้ ยการแตง่ กายของนกั เรยี นโรงเรยี นรฐั ราษฎร์
อุปถัมภ์ ไวด้ งั นี้

ข้อที่ 1 ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ว่าด้วยการแต่งกายของนักเรียน
โรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ุปถัมภ์”

ขอ้ ที่ 2 ให้ยกเลิกระเบียบ กฎ กตกิ า ใดๆ ของโรงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถัมภ์ ทีเ่ กี่ยวข้องกับการแต่งกาย
ของนกั เรียนโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ ให้ใช้ระเบียบนแ้ี ทน

ขอ้ ที่ 3 ระเบียบฉบับนี้ให้ใชบ้ งั คบั ต้ังแตว่ นั ถัดจากวันประกาศเป็นต้นไป
ขอ้ ท่ี 4 ในระเบยี บนี้

“โรงเรียน” หมายถึง โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ อำเภอเมอื ง จงั หวดั ราชบรุ ี
“นักเรยี น” หมายถงึ นกั เรียนทีก่ ำลังศกึ ษาอย่ใู นโรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์
“การแต่งกาย” หมายถึง เครื่องแบบ อุปกรณ์ประกอบ และการแต่งกายของนักเรียนโรงเรียนรัฐ
ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์
ข้อที่ 5 นักเรียนที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ในข้อใดข้อหนึ่งหรอื หลายข้อก็ดี ให้พิจารณาลงโทษตาม
สมควรแกก่ รณโี ดยอาศยั อำนาจตาม

5.1 ระเบยี บกระทรวงศึกษาธิการ วา่ ดว้ ยการลงโทษนกั เรยี นและนกั ศึกษา พ.ศ. 2548
5.2 ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยกำหมดความประพฤติของนักเรียนและนักศึกษา
พ.ศ. 2548 และฉบับ 2 พ.ศ. 2562
5.3 ระเบียบโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ุปถัมภ์ ว่าด้วยการควบคุมความประพฤตแิ ละการพิจารณา
ลงโทษนักเรยี น พ.ศ. 2562
ข้อที่ 6 เครื่องแบบและอุปกรณ์ประกอบการแต่งกายสำหรับนักเรียนชาย ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ตอนตน้ และมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
6.1 เสอื้ เปน็ แบบเสอื้ เช้ติ คอตัง้ แขนสน้ั เพียงข้อศอก ผ้าขาวเกลยี้ งไม่มนั วาวหรอื บางเกินควร
ผ่าอกตลอด สาบเสื้อกว้าง 3 เซนติเมตร ใช้กระดุมสีขาวกลมแบน เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร
จำนวน 5 เมด็ มกี ระเป๋า 1 ใบ และสอดชายเสอื้ ไว้ในกางเกงให้มองเหน็ หัวเข็มขัด
6.2 กางเกง ผ้าโทเร หรือผา้ เสริ ท์ สดี ำ แบบกางเกงขาสัน้ ความยาวถงึ หวั เขาเมื่อยนื ตรง หรือ
พ้นกลางสะบ้าลงมาประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนขากว้างห่างจากขาประมาณ 8 – 12 เซนติเมตร มีกระเป๋า
ตามแนวตะเข็บข้าง ขา้ งละ 1 กระเปา๋ ไม่มีกระเป๋าหลัง ปลายขาพับเขา้ ด้านใน ผ่าตรงส่วนหน้าติดซิปซ่อนไว้
ขา้ งใน เวลาสวมใหก้ างเกงทบั ชายเส้อื ใหเ้ รียบร้อย (หา้ มใชผ้ า้ เวสป๊อย และผา้ ยีนส์)
6.3 เขม็ ขัด หนงั สดี ำ ไมม่ ลี วดลาย กวา้ งประมาณ 3 – 4 เซนติเมตร ยาวตามส่วนขนาดของ
ตัวนักเรียน หัวเข็มขัดเป็นโลหะสีเงิน ชนิดหัวกลัดรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีปลอกหนังสีดำ 1 ปลอก สำหรับสอด
ปลายเขม็ ขัด

คมู่ ือนกั เรยี น และผ้ปู กครอง 79
โรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

6.4 รองเทา้ ผา้ ใบชนิดหมุ้ สน้ สีดำ ไมม่ ีลวดลาย มเี ชอื กผูก หัวไม่แหลมเกินไป
6.5 ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสีขาว ไม่มีลวดลาย พับต้องสูงเหนือกว่าตาตุ้ม 5 เซนติเมตร ไม่ม้วน

หา้ มใช้ถงุ เท้าลกู ฟูก ชนดิ หนา
ข้อที่ 7 เครื่องแบบและอุปกรณ์ประกอบการแต่งกายสำหรับนักเรียนหญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษา

ตอนตน้
7.1 เสื้อ ใชผ้ า้ ขาวเกล้ียงไมบ่ างจนเกนิ ไป เป็นเสือ้ คล้ายคอพับในตัวสวมศรี ษะได้สะดวก ปก

ดา้ นหลงั เป็นแบบปกทหารเรือวัดจากตน้ คอลงไปไม่เกนิ 12 เซนติเมตร ใชผ้ า้ สองช้นั เย็บแบบเข้าถ้ำ แขนยาว

เพียงเหนอื ข้อศอกเลก็ นอ้ ย ปลายจีบ ประกอบด้วย ผ้าสองช้นั กวา้ ง 3 เซนติเมตร ความยาวและความกว้างของ
ตัวเสื้อให้พอเหมาะกับลำตัว ไม่รัดเอว ริมขอบล่างด้านขวาติดกระเป๋าขนาดพองาม ปากประเป๋าพับริม

ประมาณ 2 เซนติเมตร มีโบว์ หูกระตา่ ยใช้ผา้ สีกรมท่า ชายเป็นสามเหลีย่ มกวา้ งประมาณ 10 เซนติเมตร ผูก
รอบคอแบบเงอ่ื นกลาสี

7.2 กระโปรง เป็นแบบทรงเอ ใช้ผ้าสีกรมท่า ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นกลีบ ด้านละ 6

กลีบ โดยหักกลีบออกด้านละ 3 กลีบ แต่ละกลีบตีเกล็ดยาง 6 – 12 เซนติเมตร ขอบกระโปรงเหนือสะดือ
ขนาดใหญเ่ ทา่ เข็มขัด และยาวคลุมเขา่ ดา้ นล่าง 5 เซนตเิ มตร ชายกระโปรงพบั เขา้ ดา้ นใน 5 เซนตเิ มตร

7.3 รองเทา้ ใช้รองเท้าหนังหุ้มส้น สดี ำ ไมม่ ลี วดลาย หัวมน มสี ายรดั หลงั เทา้ สน้ สงู ไมเ่ กิน 3
เซนตเิ มตร

7.4 ถุงเท้า ใช้ถงุ เทา้ สีขาว ไมม่ ีลวดลาย พับต้องสูงเหนือกว่าตาตุ้ม 5 เซนตเิ มตร ไม่ม้วน

ข้อที่ 8 เครื่องแบบและอุปกรณ์ประกอบการแต่งกายสำหรับนักเรียนหญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษา
ตอนปลาย

8.1 เสอื้ ใช้ผ้าขาวเกลี้ยงไมบ่ างจนเกนิ ไป คอเช้ติ ผ่าอกตลอด อกเส้ือทำเปน็ สาบเส้ือตลบเข้า
ด้านในกว้าง 3 เซนติเมตร แขนยาวเพียงเหนอื ศอกเล็กน้อย ต้นแขนและปลายแขนมีจีบเล็กนอ้ ย การสวมให้
ชายเสื้ออยู่ในกระโปรง ให้มองเห็นหัวเข็มขัด และให้มีเสื้อชั้นในชนิดคอกระเช้าสีขาวทับเสื้อชั้นในปกติอีก

ชน้ั หน่งึ ห้ามใชผ้ ้าเนอื้ นมิ่ แนบลำตวั
8.2 กระโปรง เป็นแบบทรงเอ ใช้ผ้าสีกรมท่า ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นกลีบ ด้านละ 6

กลีบ โดยหักกลีบออกด้านละ 3 กลีบ แต่ละกลีบตีเกล็ดยาง 6 – 12 เซนติเมตร ขอบกระโปรงเหนือสะดือ
ขนาดใหญเ่ ทา่ เขม็ ขัด และยาวคลมุ เข่าดา้ นล่าง 5 เซนติเมตร ชายกระโปรงพบั เขา้ ด้านใน 5 เซนตเิ มตร

8.3 รองเท้า ใช้รองเท้าหนังห้มุ ส้น สดี ำ ไมม่ ีลวดลาย หัวมน มีสายรัดหลงั เทา้ ส้นสงู ไมเ่ กิน 3

เซนติเมตร
8.4 ถุงเทา้ ใช้ถุงเทา้ สีขาว ไม่มีลวดลาย พบั ต้องสงู เหนอื กวา่ ตาต้มุ 5 เซนตเิ มตร ไมม่ ้วน

ข้อที่ 9 เครอื่ งแบบและอปุ กรณป์ ระกอบการแตง่ กายสำหรับลกู เสือสามัญรุน่ ใหญ่
เปน็ ไปตามกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยเครอ่ื งแบบลกู เสือ เนตนารี พ.ศ. 2510 ดังน้ี
9.1 หมวก หมวกทรงอ่อนสีเลือดหมู มีตราหน้าหมวกรูปตราคณะลูกเสือแห่งชาติทำด้วย

โลหะสีทอง เวลาสวมให้ตราหนา้ หมวกอยเู่ หนือค้วิ ซ้าย
9.2 เสื้อ เสื้อคอพับสีกากี แขนสั้นเหนือศอกผ่าอกตลอด อกเสื้อทำเป็นสาบกว้าง 3.5

เซนตเิ มตร มีดมุ เหนือเข็มขดั 4 ดมุ อกมกี ระเป๋าปะขา้ งละ 1 กระเป๋า มีแถบตรงกงึ่ กลางตามทางด่งิ ปกรูปมน
ชายกลาแหลม เจาะรังดุมก่ึงกลางกระเป๋า 1 ดุม มอี นิ ทรธนสู เี ลอื ดหมูปลายอินทรธนมู ีอกั ษร ล.ญ.สีเหลอื ง อยู่
เหนือบ่าทั้งสองข้าง ด้านไหล่กว้าง 3.5 เซนติเมตร เย็บติดกับตะเข็บไหล่เสื้อ ด้านคอกว้าง2.5 เซนติเมตร

80 ค่มู ือนกั เรียน และผูป้ กครอง
โรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

ปลายมนมีดุมที่ปลายอินทรธนูทางด้านคอด้านละ 1 ดุม ดุมลักษณะกลมแบนทำด้วยวัตถสุ ีน้ำตาลแก่ใหส้ อด
ชายเสื้ออย่ภู ายในกางเกง

9.3 ผ้าผูกคอ ผ้าผูกคอรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านฐาน 100 เซนติเมตร ด้านตั้ง 75
เซนตเิ มตร สนี ำ้ เงนิ เขม้ มีตราประจำจงั หวดั ราชบรุ ี

9.4 กางเกง ขาสั้นเหนอื เข่าประมาณ 5 เซนติเมตร ส่วนกว้างของขากางเกงเมื่อยืนตรงหา่ ง
จากขาตัง้ แต่ 8 - 12 เซนติเมตร ปลายขาพบั เข้ากวา้ ง 5 เซนติเมตร ผ่าตรงส่วนหนา้ ใชด้ มุ ขนาดย่อมขดั ซอ่ นไว้
ข้างใน มีกระเป๋าตามแนวตะเข็บข้างละ 1 กระเป๋า และมีหูร้อยเข็มขัดยาวไม่เกิน 6 เซนติเมตร กว้าง 1

เซนติเมตร
9.5 เข็มขดั เขม็ ขดั หนงั สีน้ำตาล กวา้ งไม่เกิน 3 เซนติเมตร หัวชนิดหัวขัด ทำดว้ ยโลหะสีทอง

มลี ายดนุ รูปตราคณะลูกเสอื แห่งชาติภายในกรอบช่อชยั พฤกษ์
9.6 ถุงเทา้ ถงุ เท้ายาวสกี ากี พับขอบไวใ้ ต้เขา่ ตดิ พู่สีเลือดหมขู ้างละ 2 พู่
9.7 รองเทา้ รองเท้าหนงั หรือผ้าใบสีนำ้ ตาลแก่ ไมม่ ีลวดลาย ห้มุ ส้นชนิดผกู

ขอ้ ที่ 10 เครอื่ งแบบและอุปกรณป์ ระกอบการแต่งกายสำหรับเนตรนารสี ามญั รนุ่ ใหญ่
เปน็ ไปตามกฎกระทรวงว่าดว้ ยเครือ่ งแบบลูกเสอื เนตนารี พ.ศ. 2510 ดังนี้

10.1 หมวก หมวกปีกแคบสเี ขยี วแก่ มตี ราหน้าหมวกรูปเครือ่ งหมายเนตรนารี ทำด้วยโลหะ
สที อง ปีกหมวกดา้ นหลังพับขนึ้

10.2 เสื้อ สีเขียวแก่แขนสั้นเหนือศอก ผ่าอกตลอด อกเสื้อทำเป็นสาบกวา้ ง 3.5 เซนติเมตร

มีดุมเหนือเข็มขัด 4 ดุม อกมีกระเป๋าข้างละ 1 กระเป๋า มีแถบตรงกึ่งกลางตามทางดิ่งปกรูปมนเจาะรังดุม
กึ่งกลาง 1 ดุม มีอินทรธนสู ีเลือดหมู ปลายอินทรธนู มีรูปเครื่องหมายเนตรนารี สีเหลือง อยู่เหนือบ่าทั้งสอง

ข้าง ด้านไหล่กว้าง 3.5 เซนติเมตร เย็บติดกับตะเข็บไหล่เสื้อ ด้านคอกว้าง 2.5 เซนติเมตร ปลายมนมีดุมที่
ปลายอนิ ทรธนู ทางดา้ นคอดา้ นละ 1 ดุม ดมุ ลกั ษณะกลมแบน ทำดว้ ยวัตถุสีเขียวแก่ให้สอดชายเส้ืออยู่ภายใน
กระโปรง

10.3 ผ้าผูกคอ ผ้าผูกคอรูปสามเหลี่ยมหน้าจั่ว ด้านฐาน 100 เซนติเมตร ด้านตั้ง 75
เซนตเิ มตร สนี ำ้ เงนิ เขม้ มีตราประจำจงั หวดั ราชบรุ ี

10.4 กระโปรง สีเขียวแก่ยาวเสมอเข่า ด้านหน้าและด้านหลังพับเป็นกลีบหันออกดา้ นข้าง
ขา้ งละ 1 กลบี

10.5 เขม็ ขดั เขม็ ขดั หนังสีดำ กวา้ งไมเ่ กิน 3 เซนตเิ มตร หัวรูปสี่เหล่ยี มผนื ผ้าทำดว้ ยโลหะสี

ทอง มีลายดุนรูปเครอ่ื งหมายเนตรนารี
10.6 ถุงเทา้ ถุงเทา้ สีขาว พับสน้ั เพยี งขอ้ เทา้

10.7 รองเทา้ รองเทา้ ผา้ ใบสีขาว ไม่มีลวดลายหุ้มส้นชนิดผกู
ข้อท่ี 11 เครื่องแบบและอุปกรณป์ ระกอบการแตง่ กายสำหรับนกั ศึกษาวชิ าทหาร

เคร่อื งแบบแต่งกายของนกั ศึกษาวชิ าทหารใหเ้ ป็นไปตามพระราชบัญญัตเิ ครือ่ งแบบนักศึกษา

วิชาทหาร และเครื่องแบบผู้กำกับนักศึกษาวิชาทหาร พ.ศ. 2521 หรือตามที่หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน
กำหนด

คมู่ อื นักเรยี น และผ้ปู กครอง 81
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบุรี

ข้อท่ี 12 เครือ่ งแบบการแต่งกายสำหรบั ชดุ พลศึกษา
12.1 เครื่องแบบการแต่งกายสำหรับชุดพลศึกษา ชาย ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ

มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
(1) เสื้อ ใช้เสื้อโทเร คอโปโล สีชมพู สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนตน้

สมี ่วง สำหรบั ระดับชนั้ มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ตามแบบทโ่ี รงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถัมภก์ ำหนด
(2) กางเกง ใช้กางเกงผ้ายืด ปลายขารัด ห้ามตัดชายหรือปลายขากางเกง รูปแบบ

ตามท่ีโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ุปถัมภ์กำหนดไว้

(3) รองเทา้ ใช้รองเท้าผ้าใบหุ้มส้น สีดำ มีเชอื กผูก
(4) ถงุ เท้า ใชถ้ งุ เท้าสขี าว ไม่มีลวดลาย พบั ตอ้ งสงู เหนอื กว่าตาตุ้ม 5 เซนตเิ มตร ไม่ม้วน

12.2 เครื่องแบบการแต่งกายสำหรับชุดพลศึกษา หญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และ
มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

(1) เสื้อ ใช้เสื้อโทเร คอโปโล สีชมพู สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น

สมี ่วง สำหรบั ระดับช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย ตามแบบที่โรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ุปถัมภ์กำหนด
(2) กางเกง ใช้กางเกงผ้ายืด ปลายขารัด ห้ามตัดชายหรือปลายขากางเกง รูปแบบ

ตามที่โรงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถัมภก์ ำหนดไว้
(3) รองเทา้ ใชร้ องเทา้ ผ้าใบหุ้มส้น สีขาว มีเชอื กผูก
(4) ถุงเท้า ใช้ถุงเท้าสขี าว ไมม่ ีลวดลาย พบั ต้องสูงเหนอื กว่าตาตุม้ 5 เซนติเมตร ไม่ม้วน

ข้อที่ 13 การปกั เคร่ืองหมายและตวั อกั ษรย่อชอ่ื ของโรงเรียน
13.1 การปกั เครื่องหมายและตัวอกั ษรยอ่ ของโรงเรยี น ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาตอนต้น

(1) ชื่อโรงเรยี นท้ังนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง ให้ปักอักษรยอ่ “ ร.ร.อ.” ขนาด
1.5 เซนตเิ มตร ดว้ ยไหมสนี ำ้ เงิน ถ้าสีตกหรอื ถูกไฮเตอรก์ ัดเปล่ียนสี นักเรยี นตอ้ งปกั ใหมด่ ว้ ยด้านสีน้ำเงิน โดย
ปกั ทีอ่ กด้านขวา ซง่ึ นักเรยี นชาย ปกั ตรงแนวกระดมุ เม็ดท่สี อง และนักเรยี นหญงิ ปักตรงแนวลกึ ของคอเสื้อ

(2) ปักชื่อ – นามสกุล ของนักเรียนเป็นภาษาไทย ขนาดตัวอักษร 0.5 เซนติเมตร
ปกั ที่อกเส้อื ขา้ งซ้าย ดว้ ยไหมสีนำ้ เงนิ ถ้าสีตกหรอื ถูกไฮเตอรก์ ดั เปลยี่ นสี นักเรยี นต้องปักใหม่ด้วยดา้ นสีน้ำเงนิ

(3) ปักเครื่องหมาระดับชั้น เป็นรูปดาว 5 กลีบ (สีขึ้นอยู่กับรุ่นของนักเรียน ซ่ึง
ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีสีเหลือง ชมพู เขียว) จำนวน 1 ดวง ขนาด 1 เซนติเมตร ปักทึบเหนือชื่อ –
นามสกลุ ข้นึ ไป 1 เซนติเมตร ซง่ึ เคร่ืองหมายระดบั ช้นั ใชจ้ นจบระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 3

13.2 การปกั เครือ่ งหมายและตัวอักษรย่อของโรงเรียน ระดับชัน้ มัธยมศึกษาตอนปลาย
(1) ชื่อโรงเรยี นท้ังนักเรียนชาย และนักเรียนหญิง ให้ปักอักษรย่อ “ ร.ร.อ.” ขนาด

1.5 เซนติเมตร ด้วยไหมสีนำ้ เงนิ ถ้าสตี กหรอื ถูกไฮเตอร์กัดเปลี่ยนสี นักเรียนต้องปักใหมด่ ้วยด้านสีน้ำเงิน โดย
ปกั ทีอ่ กด้านขวา ซึ่งนักเรยี นชาย ปักตรงแนวกระดุมเมด็ ทสี่ อง และนักเรยี นหญงิ ปกั ตรงแนวลึกของคอเสื้อ

(2) ตราโรงเรียน ขนาด 1 x 0.5 นิ้ว ด้วยไหมสีน้ำเงิน ถ้าสีตกหรือถูกไฮเตอร์กัด

เปลี่ยนสี นักเรยี นต้องปักใหมด่ ้วยด้านสีนำ้ เงิน โดยปกั ทอ่ี กดา้ นขวา เหนอื อักษร ร.ร.อ. ประมาณ 1 เซนติเมตร
(3) ปักชื่อ – นามสกุล ของนักเรียนเป็นภาษาไทย ขนาดตัวอักษร 0.5 เซนติเมตร

ปกั ที่อกเสื้อขา้ งซ้าย ด้วยไหมสีนำ้ เงิน ถ้าสตี กหรือถกู ไฮเตอรก์ ัดเปลี่ยนสี นกั เรยี นต้องปกั ใหม่ด้วยดา้ นสนี ำ้ เงนิ
(4) ปักเครื่องหมาระดับชั้น เป็นรูปดาว 5 กลีบ (สีขึ้นอยู่กับรุ่นของนักเรียน ซ่ึง

ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นมีสีฟ้า ม่วง น้ำตาล) จำนวน 1 ดวง ขนาด 1 เซนติเมตร ปักทึบเหนือชื่อ –

นามสกลุ ขน้ึ ไป 1 เซนติเมตร ซง่ึ เคร่อื งหมายระดบั ช้ันใช้จนจบระดับชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

82 คู่มือนกั เรยี น และผ้ปู กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

13.3 การปักช่ือ - นามสกุล ชุดพลศกึ ษาของโรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์
ปกั ชอ่ื – นามสกุล ของนกั เรียนเป็นภาษาไทย ขนาดตวั อกั ษร 0.5 เซนติเมตร ปักที่

อกเสอื้ ขา้ งขวา ดว้ ยไหมสนี ำ้ เงิน ถา้ สตี กหรือถกู ไฮเตอรก์ ัดเปล่ยี นสี นกั เรียนตอ้ งปักใหมด่ ้วยดา้ นสีนำ้ เงิน

ขอ้ ที่ 14 ทรงผมของนกั เรียนของโรงเรยี นรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์
14.1 ทรงผมและหนวดเคราของนักเรยี นชาย
(1) ทรงผมของนกั เรียนชาย ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาตอนต้น นกั เรยี นตัดผมทรงรอง

หวเี บอร์ 1 โดยด้านหลัง และดา้ นข้างให้ตัดรองหวีเบอร์ 1 สว่ นด้านหนา้ และด้านบนยาวไม่เกนิ 4 เซนติเมตร
ห้ามใส่น้ำมัน เจล ยอ้ มสีผม หา้ มหวผี มแสกกลาง ไม่ตกแต่งทรงผม

(2) ทรงผมของนักเรียนชาย ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย นักเรียนตัดผม
ทรงรองทรงสูง ด้านข้าง และด้านหลังตัดสั้นเห็นหนังศีรษะ ส่วนด้านหน้า และด้านบนยาวไม่เกิน 4
เซนติเมตร ห้ามใส่น้ำมัน เจล ย้อมสีผม ห้ามหวีผมแสกกลาง ไม่ตกแต่งทรงผม ห้ามไว้จอนไว้หนวดเครา

ห้ามกันขอบกันหน้า
(3) ห้ามนกั เรียนชายทกุ คนไวห้ นวดเครา

14.2 ทรงผมของนักเรยี นหญงิ
(1) ทรงผมของนักเรียนหญิง ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และมัธยมศึกษาตอน

ปลาย นักเรียนสามารถไว้ผมสั้น หรือยาวก็ได้ โดยนักเรียนที่ไว้ผมสั้นให้ไว้ผมยาวพองามความยาวเลยติ่งหู ไม่

เกิน 3 เซนตเิ มตร หรือความยาวไม่เกินระดับคาง และไมเ่ กินปกเส้ือด้านบน ส่วนนักเรยี นที่ไว้ผมยาวให้ไว้ผม
ยาวโดยรวบผมทั้งหมด เก็บผมด้านหน้าและด้านขา้ ง ให้เรียบร้อย บริเวณตำแหน่งกลางศีรษะด้านหลัง การวัด

ความยาวผมต้องปล่อยผม เริ่มวัดจากขอบบนของปกเส้ือลงมาไม่เกิน 10 เซนติเมตร ผูกโบว์ของโรงเรียนขนาด
กวา้ ง 38 มลิ ลเิ มตร ยาว 90 เซนตเิ มตร สมี ว่ ง และมีลวดลายตราโรงเรียน พรอ้ มช่อื โรงเรยี น ตามแบบทโี่ รงเรียน
กำหนด และไม่อนุญาตให้ไว้ผมทรงหน้าม้าปรกหน้า หรือกำจุก ดัดหรือซอย ห้ามทำสีผมหรือตกแต่งทรงผม

ห้ามใช้สเปรย์หรอื น้ำมันใส่ผม ห้ามต่อผม ไมใ่ ช้เครอ่ื งประดับผมทุกชนดิ ยกเว้นกบ๊ิ ธรรมดาสีดำ ไมเ่ กนิ 4 ตวั
ขอ้ ท่ี 15 กระเปา๋ นักเรียน นักเรียนทุกคนตอ้ งมีกระเป๋าใส่หนงั สือเรยี น เป็นกระเปา๋ เปต้ ดิ ตราโรงเรียน

รฐั ราษฎรอ์ ุปถัมภ์ หรือกระเปา๋ แบบท่ีโรงเรยี นกำหนด นอกนั้นหา้ มใช้ ไม่ติด หรอื ประดับตกแต่งลวดลายใดๆ
บนกระเปา๋ ขนาดกระเปา๋ มีความกวา้ งไม่นอ้ ยกวา่ 11 นว้ิ ยาวไม่น้อยกวา่ 15 นิ้ว

ขอ้ ที่ 16 หา้ มนกั เรยี นใช้เคร่ืองประดบั

16.1 ห้ามใช้เครื่องประดับทุกชนิด ยกเว้น นาฬิกาข้อมือที่มีลายสุภาพ และสร้อยคอ
สเตนเลสขนาดเลก็ แขวนพระและเก็บในเสอ้ื ให้เรียบร้อย

16.2 ห้ามตกแต่งร่างกายดว้ ยเครือ่ งสำอาง หรือสิ่งแปลกปลอม เพื่อการเสริมสวย และห้าม
นำอุปกรณ์เพื่อการเสรมิ สวยทกุ ชนิดมาโรงเรียน

16.3 ตา่ งหู อนุญาตใหเ้ จาะหู เพยี งข้างละ 1 รู โดยใสก่ ้านพลาสติกใส ขนาด 0.5 มิลลิเมตร

16.4 หา้ มไว้เล็บ หรอื ทาเล็บ
16.5 หา้ มใช้เคร่อื งประดับทุกชนิด ใส่บริเวณข้อแขน

ขอ้ ท่ี 17 นกั เรียนท่มี าตดิ ต่องานกบั โรงเรยี นทกุ กรณี ไม่ว่าจะเป็นวันเปดิ ทำการสอนปกติ หรอื วันหยุด
ใหแ้ ต่งเครื่องแบบนกั เรียนให้เรยี บร้อย ถกู ต้อง

คมู่ ือนักเรียน และผู้ปกครอง 83
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ุปถมั ภ์ จังหวัดราชบรุ ี

ข้อที่ 18 นักเรียนทุกคนต้องนำหนังสือเรยี น สมุด และอุปกรณ์การเรียนอ่ืนๆ ตามตารางเรียนใส่เป้
หรือกระเป้าตามแบบของโรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์มาโรงเรียนทุกวัน ห้ามนำทิ้งค้างไวใ้ นโรงเรียน โดยสมุด

และกระดาษรายงานตอ้ งมีตราโรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถัมภต์ ามแบบท่ีกำหนดเทา่ น้ัน

ประกาศ ณ วนั ท่ี 28 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2562

นายนัทที พฒั นะผล
ผอู้ ำนวยการโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์

84 คมู่ อื นกั เรยี น และผปู้ กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

การปักเครื่องหมายระดับช้นั

ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาตอนต้น

 ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 1 ประจำรุน่ ปี 2563 ปักดาวสีชมพู จำนวน 1 ดวง
 ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ประจำรุ่นปี 2562 ปักดาวสีเขียว จำนวน 1 ดวง
 ระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 3 ประจำรนุ่ ปี 2561 ปกั ดาวสีเหลอื ง จำนวน 1 ดวง

ระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ประจำรุน่ ปี 2563 ปกั ดาวสมี ว่ ง จำนวน 1 ดวง
 ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ประจำรนุ่ ปี 2562 ปกั ดาวสนี ้ำตาล จำนวน 1 ดวง
 ระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6 ประจำรุ่นปี 2561 ปักดาวสฟี า้ จำนวน 1 ดวง

หมายเหตุ สญั ลักษณ์ดาว สขี ึน้ อยกู่ ับรุ่นของนกั เรยี น และจะใชส้ เี ดียวไปจนกว่าจะจบการศกึ ษา
ระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 และมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

ค่มู ือนักเรยี น และผปู้ กครอง 85
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

ระเบยี บโรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์
วา่ ดว้ ยการควบคมุ ความประพฤตแิ ละการพจิ ารณาลงโทษนักเรยี น

เพื่อให้การปกครองดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นักเรียนมีความรับผิดชอบ

มีวินัย มีพฤติกรรมที่เหมาะสมกับสภาพการเป็นนักเรียนที่ดี จึงเห็นเป็นการสมควรออกระเบียบฉบับน้ีเพือ่ ใช้

ควบคุมความประพฤติและใช้บังคับพิจารณาลงโทษนักเรียนที่ฝ่าฝืนกฎ ระเบียบ ข้อบังคับของโรงเรียน

ดงั ตอ่ ไปน้ี

ข้อที่ 1 ระเบยี บนีเ้ รียกวา่ “ระเบียบโรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ ว่าด้วยการควบคุมความประพฤติและ
การพิจารณาลงโทษนกั เรียน”

ข้อท่ี 2 ให้ยกเลกิ ระเบียบ กฎ ข้อบงั คับของโรงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถมั ภ์ทข่ี ัดแย้งกับระเบียบน้ี และให้
ใชร้ ะเบยี บนแ้ี ทน

ข้อท่ี 3 ในระเบียบนี้
“โรงเรียน” หมายถึง โรงเรียนรฐั ราษฎร์อปุ ถมั ภ์ อำเภอเมือง จงั หวดั ราชบุรี
“นักเรียน” หมายถงึ นกั เรียนที่กำลงั ศกึ ษาอยู่ในโรงเรียนรฐั ราษฎรอ์ ุปถมั ภ์
“ผูอ้ ำนวยการโรงเรียน” หมายถึง ผ้อู ำนวยการโรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถมั ภ์
“ครู” หมายถงึ ครูทุกคนของโรงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถัมภ์
“ผู้ปกครอง” หมายถึง บุคคลซึ่งรับนักเรียนไว้ในความปกครองหรืออุปการะเลี้ยงดู หรือ

บุคคลที่นักเรียนนั้นพักอาศัยอยู่ เป็นผู้บรรลนุ ิติภาวะ และไม่อยู่ในสภาพการเป็นนักเรียนหรือนักศึกษา และ
เป็นผ้ซู ่งึ ลงนามมอบตวั นักเรียนให้กบั โรงเรยี น

ขอ้ ที่ 4 ระเบยี บนบี้ งั คับใชส้ ำหรับนกั เรยี นโรงเรียนรฐั ราษฎร์อุปถัมภ์ ต้ังแต่ปกี ารศึกษา 2562 เปน็ ตน้ ไป
ข้อที่ 5 ให้ใช้ระเบียบน้ีต้ังแต่วันถดั จากวันท่ผี ูอ้ ำนวยการโรงเรยี นลงนามประกาศใช้
ข้อที่ 6 ให้ครูทุกคนควบคุมความประพฤติของนักเรียนให้เป็นไปตามระเบยี บนี้ และมีสิทธิพิจารณา
เสนอการลงโทษนักเรยี นตามระดับความผิดที่เกิดขึ้น
ข้อที่ 7 ให้หัวหน้าฝ่ายกิจการนักเรียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นผู้
รกั ษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้
ข้อที่ 8 นกั เรียนที่มีความประพฤตขิ ดั ต่อระเบียบข้อบังคับของโรงเรียน จะต้องไดร้ ับโทษตามท่กี ำหนด
ไวใ้ นระเบยี บนี้ ซงึ่ เปน็ ไปตรมระเบียบกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วา่ ด้วยการลงโทษนกั เรียนและนักศึกษา พ.ศ.2548
ตามลำดับขนั้ ตอนการลงโทษนกั เรยี นทีก่ ระทำความผดิ ดังนี้

8.1 ว่ากลา่ วตกั เตือน ใช้ในกรณนี ักเรียนกระทำความผิดไม่ร้ายแรง
8.2 ทำทัณฑ์บน ใช้ในกรณีนักเรียนที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับสภาพนักเรียน
ตามกฎกระทรวงวา่ ดว้ ยความประพฤตนิ กั เรยี นและนกั ศกึ ษา หรอื กรณที ำใหเ้ ส่อื มเสียชื่อเสยี งและเกียรติศักดิ์
ของสถานศกึ ษา หรือฝา่ ฝืนระเบยี บของสถานศกึ ษา หรอื ได้รบั โทษว่ากลา่ วตักเตอื นแล้วแตย่ ังไม่เข็ดหลาบการ
ทำทณั ฑ์บนให้ทำเปน็ หนังสือ และเชญิ บิดามารดา หรือผู้ปกครองมาบนั ทึกรบั ทราบความผดิ และรบั รองการทำ
ทณั ฑบ์ นไวด้ ว้ ย
8.3 ตัดคะแนนความประพฤติ ให้เป็นระเบียบปฏิบัติว่าด้วยการตัดคะแนนความประพฤติ
นักเรียนของแตล่ ะสถานศึกษากำหนด และใหท้ ำบันทกึ ขอ้ มลู ไว้เป็นหลกั ฐาน

86 ค่มู อื นักเรยี น และผปู้ กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จังหวัดราชบุรี

8.4 ทำกิจกรรมเพอื่ ปรบั เปลี่ยนพฤตกิ รรม ใช้ในกรณีทีน่ ักเรยี นกระทำความผิดที่สมควรต้อง
ปรบั เปลี่ยนพฤติกรรม

ข้อท่ี 9 เกณฑก์ ารพิจารณาระดับพฤตกิ รรมความประพฤติของนักเรียน
ระดับท่ี 1 ขัน้ เบา

ระดบั ท่ี 2 ข้นั กลาง
ระดบั ท่ี 3 ขั้นหนกั
ขอ้ ท่ี 10 การลงโทษนกั เรียนตามระดับพฤตกิ รรมความประพฤตทิ ีก่ ระทำผดิ

10.1 ชนิดของพฤตกิ รรมความประพฤตทิ ่ีกระทำผิด ระดบั ท่ี 1 ข้ันเบา
(1) ไม่เข้าร่วมปฏิบัติกจิ กรรมหน้าเสาธง

(2) มาโรงเรยี นสาย หลังเวลา 08.30 น.
(3) ไม่มาโรงเรยี น โดยไมม่ ีเหตผุ ลอันควร/ไม่แจง้ ครปู รึกษา (ขาดเรียน)
(4) ส่งเสยี งดังอกึ ทึกในหอ้ งเรียน

(5) ก่อความวนุ่ วายในหอ้ งเรียน/สร้างความรบกวนเพือ่ นรว่ มหอ้ งขณะเรียน
(6) ไมต่ ั้งใจเรยี น ไม่นำอุปกรณก์ ารเรียนมา

(7) ทำความสกปรกในสถานที่ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน
(8) ไม่แสดงความเคารพครู
(9) รบั ประทานอาหารและขนมในหอ้ งเรียน

(10) นำอาหารหรือเครื่องดื่มไปรับประทานนอกโรงอาหาร/นำอาหารขึ้นอาคาร
เรียนหรือรบั ประทานอาหารบนอาคารโดยไมร่ บั อนญุ าต

(11) แสดงกิริยาวาจาไมส่ ภุ าพ ลบหลดู่ หู มนิ่ ครู และบคุ ลากรในโรงเรียนหรือบุคคลอืน่
(12) แต่งกายผิดระเบียบตามข้อบังคับของโรงเรียน/ปล่อยชายเสื้อออกนอก
กระโปรงหรือกางเกง/นำเสื้อผู้อื่นมาใส่หรือให้เสื้อผู้อื่นใส่/สวมใส่ชุดพละในวันที่ไม่มีเรียนพละหรือกิจกรรม

พิเศษ/กางเกงหรอื กระโปรงผดิ ระเบียบ(แคบหรือรัดรปู จนน่าเกลียด) หรือปรับเปล่ยี นทรงกางเกงพละจากเดมิ
(13) ไว้ทรงผมผดิ ระเบียบ/หลีกเลี่ยงการตรวจทรงผม

(14) ใชเ้ คร่อื งสำอางหรือสิ่งแปลกปลอมเพื่อเสรมิ ความงาม
(15) สวมใสข่ องมคี า่ หรอื เคร่อื งประดับ อาทิ ต่างหู
(16) เขา้ ไปในท่ีหวงหา้ มท่ีโรงเรยี นกำหนดไว้ หรอื ไมไ่ ดร้ ับอนญุ าต

(17) ใช้โทรศัพท์มือถือนอกเหนือเวลากำหนด/ใช้โทรศัพท์มือถือในเวลาที่ไม่
เหมาะสม อาทิ เวลาเรยี น

(18) ไมพ่ กบตั รประจำตัวนกั เรียน หรอื บตั รประชาชน
นกั เรยี นท่ีมพี ฤตกิ รรมความประพฤติขัดตอ่ ระเบยี บข้อบังคับของโรงเรียนในความผิดขนั้ เบา (ระดับที่
1) ให้ครูที่พบเห็นนักเรียนกระทำความผิด ครูที่ปรึกษาชั้น ครูประจำวิชา หัวหน้าระดับชั้น ครูฝ่ายปกครอง

และบคุ ลาการทางการศกึ ษาของโรงเรยี น ดำเนินการวา่ กล่าวตักเตอื น ตดั คะแนนความประพฤติ 3 - 5 คะแนน
และทำบนั ทกึ เป็นลายลกั ษณอ์ ักษร แจ้งรวบรวมไวท้ ค่ี รูท่ปี รึกษาชนั้ และหวั หน้าระดบั ชั้น หากนกั เรียนกระทำ

ความผิดเกิน 3 - 6 ครั้ง หรือกระทำความผิดอยู่เนอื ง ๆ ให้ครูที่ปรกึ ษาชั้นรวบรวมเอกสารบนั ทกึ พฤตกิ รรม
ความผิดที่มี เสนอต่องานปกครองดูแลช่วยเหลือนักเรียน ฝ่ายบริหารกิจการนักเรียนเพื่อดำเนินการแจ้ง
ผูป้ กครองมารบั ทราบพฤตกิ รรมความผิดและรว่ มแกป้ ัญหา โดยการทำทัณฑ์บน และหากนักเรียนยังคงกระทำ

ความผิดต่อเนื่องอีก ให้ฝ่ายกิจการนักเรียนร่วมมือกับโรงเรียนในการกำหนดกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยน

คู่มอื นักเรยี น และผ้ปู กครอง 87
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

พฤติกรรมให้ดีขึ้น และหากผ่านการทำกิจกรรมเพ่ือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วยังมพี ฤติกรรมไม่ดีขึน้ ให้ฝ่าย
กิจการนักเรียนดำเนินการรวบรวมข้อมูลหลักฐานพฤตกิ รรมความผิด และพิจารณาลงโทษที่ได้ดำเนินการไป

แล้ว เสนอต่อผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อพิจารณาในดุลพินิจของผู้อำนวยการ ในการพักการเรี ยน/ย้าย
สถานศึกษา/ขอจัดการศกึ ษาตามอัธยาศยั

10.2 ชนดิ ของพฤติกรรมความประพฤตทิ ่กี ระทำผิด ระดับท่ี 2 ข้ันกลาง
(1) ออกนอกบริเวณโรงเรียนโดยไม่รับอนุญาต หรือไม่เข้า-ออกตามช่องทางที่

โรงเรยี นกำหนด

(2) หนโี รงเรยี น
(3) ไม่เข้าเรียนตามตารางเรียนของตนเอง (โดดเรียน) หรือไม่ให้ความร่วมมือทำ

กจิ กรรมตามทีโ่ รงเรยี นกำหนด
(4) นำหนังสอื รปู ส่ิงพิมพ์ ส่อื เทคโนโลยี คลิป หรือส่ือลามกอนาจารเข้ามาในโรงเรียน
(5) สบู บหุ ร่ี และมบี หุ รี่ไว้ในครอบครอง

(6) ทำลายทรพั ย์สนิ ของโรงเรยี น หรอื ทรัพยส์ ินของผูอ้ ืน่
(7) ขีดเขยี น และเขยี นข้อความลงบนสิง่ ท่เี ป็นสาธารณสมบตั ขิ องผอู้ ื่นและโรงเรียน

(8) เจาะอวัยวะต่าง ๆ สกั บนสว่ นต่าง ๆ ของร่างกาย
(9) ปลอมแปลงรายมอื ชือ่ ผู้ปกครอง หรอื ครทู ป่ี รึกษา
(10) ก้าวรา้ วต่อบุคคลอืน่ หรือบุพการี ครู ดว้ ยกริ ยิ า ท่าทางหรอื ลายลกั ษณอ์ ักษร

(11) ทะเลาะวิวาทกบั เพ่อื นนักเรียน (ตัวตอ่ ตัว)
(12) ทะเลาะววิ าทกบั เพื่อนเปน็ หมคู่ ณะ

(13) ยยุ งให้แตกความสามคั คใี นหมู่คณะ
(14) ข่ีจักรยานยนตไ์ ม่สวมหมวกนริ ภยั
(15) กลา่ วความเท็จปกปิดความผดิ ให้เพ่ือน

นักเรยี นทม่ี พี ฤติกรรมความประพฤติขัดตอ่ ระเบียบขอ้ บงั คับของโรงเรยี นในความผดิ ขั้นกลาง(ระดับที่
2) ให้ครูที่พบเห็นนักเรียนกระทำความผิด ครูที่ปรึกษาชั้น ครูประจำวิชา หัวหน้าระดับชั้น ครูฝ่ายปกครอง

และบุคลาการทางการศึกษาของโรงเรยี น ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน ตัดคะแนนความประพฤติ 10 คะแนน
และทำบนั ทึกเป็นลายลักษณอ์ ักษร แจง้ รวบรวมไว้ท่ีครูทีป่ รึกษาชั้น และหวั หนา้ ระดบั ชนั้ หากนักเรยี นกระทำ
ความผิดเกิน 3 - 4 ครั้ง หรือกระทำความผิดอยู่เนืองๆ ให้ครูที่ปรึกษาชั้นและหัวหน้าระดับชั้น รวบรวม

เอกสารบันทึกพฤติกรรมความผิดที่มี เสนอต่องานปกครองดูแลช่วยเหลือนักเรียน ฝ่ายกิจการนักเรียนเพ่ือ
ดำเนินการแจ้งผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมความผิดเพื่อทำทัณฑ์บน และทำสัญญากับทางโรงเรียนเพื่อ

ควบคมุ พฤติกรรมความประพฤติและชดใช้ค่าเสียหายในกรณีทรพั ยส์ ินของโรงเรยี นเสียหาย หากนักเรยี นยังคง
กระทำความผิดต่อเนื่องอีก ให้ฝ่ายกิจการนักเรียนรว่ มมือกับโรงเรียนในการกำหนดกิจกรรมเพือ่ ปรับเปลี่ยน
พฤติกรรมให้ดีขึ้น และหากผ่านการทำกิจกรรมเพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแล้วยังมีพฤติกรรมไม่ดีขึน้ ให้ฝ่าย

กิจการนักเรียนดำเนินการรวบรวมขอ้ มูลหลักฐานพฤตกิ รรมความผิด และพิจารณาลงโทษที่ได้ดำเนินการไป
แล้ว เสนอต่อผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อพิจารณาในดุลพินิจของผู้อำนวยการ ในการพักการเรียน/ย้าย

สถานศึกษา/ขอจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
10.3 ชนิดของพฤตกิ รรมความประพฤตทิ ่ีกระทำผิด ระดับที่ 3 ขั้นหนัก
(1) ถกู ตดั คะแนนความประพฤตคิ รบ 70 คะแนน แลว้ แต่กรณี

(2) เล่นการพนนั ทุกชนิด ซงึ่ ตอ้ งห้ามดว้ ยกฎหมายการพนนั

88 คูม่ อื นกั เรยี น และผู้ปกครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบุรี

(3) ลักขโมยทรัพย์สินของโรงเรยี น ครู เพ่อื นนกั เรียน และบคุ ลากรทางการศึกษาอ่นื ๆ
(4) พกพาอาวุธ วัตถุระเบิด จุดประทัดหรือวัตถุอื่น ๆ ที่ทำให้เกิดเสียงดังก่อความ

รำคาญและเปน็ อันตรายต่อผอู้ ่นื หรือมีไว้ในครอบครอง
(5) ประพฤตติ นในทำนองชสู้ าว

(6) มีเพศสมั พันธ์กันในโรงเรยี น หรือทำอนาจารในโรงเรยี น
(7) เสพ หรอื มีสารเสพติดใหโ้ ทษรา้ ยแรงตามกฎหมาย เชน่ ยาบ้า กัญชา สารระเหย
เป็นต้น พร้อมทั้งบุหร่ีไฟฟา้

(8) ทะเลาะวิวาทท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น ท่มี ีบุคคลภายนอกเข้าร่วม
(9) นำบุหรี่มาจำหนา่ ย หรือนำส่ิงเสพตดิ ผดิ กฎหมายมาเผยแพร่จำหนา่ ย/แจกจา่ ย

(10) ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือสิ่งเสพติดต่าง ๆ ที่สร้างความมึนเมาหรือ
คลา้ ยส่ิงเสพติด

(11) แก้ไข หรือปกปิดเอกสารของทางโรงเรียนของผู้ปกครอง และบุคคลอื่น ทำให้

เป็นเหตุใหเ้ กิดความเสยี หายต่อองค์กรและบุคคลท่ีเกี่ยวข้อง
(12) นำผอู้ ่นื มาแอบอา้ งเป็นผ้ปู กครอง

(13) ใช้วาจาเทจ็ จนทำใหเ้ กดิ ความเสยี หายต่อผู้อื่น หรือโรงเรยี น
(14) แต่งเครื่องแบบนกั เรียนไปกระทำความผดิ นอกโรงเรียน ทำใหเ้ สื่อมเสยี ชื่อเสียง
โรงเรยี น (ชูส้ าว ดื่มสรุ า สูบบุหร่ี ทะเลาะวิวาท ฯลฯ)

(15) กระทำความผิดทางอาญา ถูกดำเนินคดีฟ้องศาล และมีความผิดจริงตามข้อ
กล่าวหา

(16) มคี วามประพฤติไม่เหมาะสมทำให้เสอื่ มเสียช่ือเสียงของโรงเรยี นอย่างรา้ ยแรง
นักเรียนทีม่ ีพฤตกิ รรมความประพฤตขิ ัดต่อระเบยี บข้อบังคับของโรงเรยี นในความผิดขั้นหนัก(ระดับท่ี
3) ให้ครูที่พบเห็นนักเรียนกระทำความผิด ครูที่ปรึกษาชั้น ครูประจำวิชา หัวหน้าระดับชั้น ครูฝ่ายปกครอง

และบุคลาการทางการศึกษาของโรงเรียน ดำเนินการว่ากล่าวตักเตือน ตัดคะแนนความประพฤติ 15 - 30
คะแนน และทำบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร ให้ครูที่ปรึกษาชั้น และหัวหน้าระดับ รวบรวมเอกสารบันทึก

พฤติกรรมความผิดที่มี เสนอต่องานปกครองดูแลช่วยเหลือนักเรียน ฝ่ายกิจการนักเรียนเพื่อดำเนินการแจ้ง
ผู้ปกครองมารับทราบพฤติกรรมความผิดและทำทณั ฑบ์ น เพื่อควบคุมพฤติกรรมความประพฤติ หากนักเรียน
ยังคงกระทำความผิดต่อเนื่องอีก ให้ฝ่ายกิจการนักเรียนรวบรวมข้อมูลหลักฐานพฤติกรรมความผิดและการ

ลงโทษที่ได้ดำเนินการไปแล้ว เสนอต่อผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อเพื่อพจิ ารณาในดุลพินิจของผู้อำนวยการ ใน
การพักการเรยี น/ย้ายสถานศึกษา/ขอจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศัย

อนึ่ง ในความผิดขน้ั สูงสุด หรอื ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นพจิ ารณาลงโทษขั้นสงู สุดในเรอ่ื งการพกั การเรียน/
ยา้ ยสถานศกึ ษา/ขอจัดการศกึ ษาตามอธั ยาศยั หากผ้ปู กครองไมส่ ามารถปกครองดูแลนกั เรยี นให้อยู่ในระเบียบ
ของโรงเรยี นและให้ศึกษาเล่าเรยี นอยใู่ นระบบโรงเรยี นได้ ผปู้ กครองมีสิทธใิ นการขอจัดการศึกษาตามอัธยาศัย

ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (หมวด 2) และกฎกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาโดย
ครอบครวั หรืออาจขอเปล่ยี นสถานศึกษาใหม่ เพือ่ เปลย่ี นสิง่ แวดล้อมและสังคมของนกั เรยี นได้

ขอ้ ที่ 11 ผมู้ ีอำนาจพิจารณาโทษ
11.1 ครูที่ปรกึ ษาช้นั ครผู ้สู อนประจำวิชา และครูทกุ คนในโรงเรียน
11.2 ครหู ัวหน้าระดบั ชัน้

11.3 ครูฝ่ายกิจการนกั เรียน หรือผู้ทไี่ ด้รบั มอบหมาย

ค่มู อื นักเรยี น และผู้ปกครอง 89
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

11.4 บุคลาการทางการศกึ ษาของโรงเรยี น
11.5 ผอู้ ำนวยการโรงเรียน

ข้อท่ี 12 การแจ้งโทษพฤตกิ รรมความประพฤตนิ ักเรยี นให้ผปู้ กครองรับทราบ
นักเรียนที่มีพฤติกรรมความประพฤติผิดต่อระเบียบฉบับนี้ไม่ว่ากรณีใด ๆ ในระดับชั้นการ

ลงโทษระดับกลาง และระดับหนัก คณะกรรมการฝ่ายกิจการนักเรียน ต้องแจ้งให้ผู้ปกครองทราบและ
ดำเนินการดงั น้ี

ครั้งท่ี 1 กำหนดใหม้ าพบภายใน 3 วันทำการ

ครัง้ ท่ี 2 กำหนดใหม้ าพบภายใน 2 วนั ทำการ
ครั้งท่ี 3 กำหนดใหม้ าพบภายใน 1 วันทำการ

หากผู้ปกครองไม่มาพบตามกำหนด 3 ครั้งแล้ว ให้คณะกรรมการฝ่ายกิจการนักเรียน
ดำเนินการจดั ทำข้อมูลพรอ้ มหลกั ฐาน เสนอตอ่ ผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อพิจารณาดำเนินการทางปกครอง โดย
ถอื วา่ ผู้ปกครองไดร้ บั ทราบแลว้ หรอื ให้อยใู่ นดลุ พินิจของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น

ประกาศ ณ วนั ที่ 11 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

นายนัทที พฒั นะผล
ผูอ้ ำนวยการโรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์

90 คู่มือนักเรียน และผปู้ กครอง
โรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จังหวัดราชบรุ ี

การเพิม่ และการตดั คะแนนความประพฤตนิ ักเรยี น

1. การเพิ่มคะแนนไมส่ ามารถหกั ลา้ งการตดั คะแนนได้

2. การเพม่ิ คะแนน เป็นการใช้เพอื่ เกบ็ ผลของความประพฤติ เมอ่ื สน้ิ ภาคเรียนทุกภาคเรยี นจะมีการ
มอบเกียรตบิ ตั รนักเรยี นท่ีมีความประพฤติดีเด่น

3. นกั เรยี นทไ่ี ดร้ ับ เกียรตบิ ัตรนักเรียนทม่ี คี วามประพฤตดิ ีเดน่ ตอ้ งมคี ะแนนความประพฤติ 100
คะแนนขึ้นไป และเป็นตัวแทนของห้องเรยี นหรือระดับช้นั ด้วยการตดั สนิ ตามเกณฑ์ทก่ี ำหนดให้

เกณฑ์การกระทำ/พฤตกิ รรมท่ีทำความดี เทียบเปน็ คะแนน เพอื่ ใหเ้ กียรตบิ ตั ร

รหสั การกระทำ/พฤตกิ รรมทีท่ ำความดี คะแนน

101 เก็บของ/เงนิ มลู คา่ ไม่เกนิ 50 บาท 3

102 เกบ็ ของ/เงนิ มลู คา่ ไม่เกิน 100 บาท 4

103 เกบ็ ของ/เงนิ มลู คา่ ไมเ่ กิน 300 บาท 5

104 เกบ็ ของ/เงินมูลค่าไมเ่ กิน 500 บาท 10

105 เกบ็ ของ/เงินมลู คา่ ไมเ่ กนิ 1,000 บาท 15

106 เกบ็ ของ/เงนิ มลู ค่ามากกว่า 1,000 บาท 20

107 ได้รับยกยอ่ งจากชมุ ชน กรณีต่าง ๆ 10

108 ชนะการแขง่ ขันตา่ ง ๆ ภายในโรงเรยี นที่ 1 – 3 8

109 ชนะการแข่งขันตา่ ง ๆ ภายนอกโรงเรียนท่ี 1 - 3 10

110 เปน็ หัวหนา้ ห้องของแตล่ ะปกี ารศกึ ษา (นับเพยี งภาคเรยี นเดยี ว) 15

111 เป็นรองหวั หนา้ ห้องแต่ละปกี ารศึกษา (นบั เพียงภาคเรยี นเดยี ว) 10

112 เป็นกรรมการหอ้ งเรียนแตล่ ะปีการศึกษา (นับเพียงภาคเรียนเดยี ว) 7

113 เป็นประธานคณะกรรมการนกั เรยี น (นับเพียงภาคเรยี นเดยี ว) 25

114 เปน็ รองประธานคณะกรรมการนกั เรยี น (นับเพยี งภาคเรยี นเดยี ว) 20

115 เปน็ คณะกรรมการนกั เรียน (นบั เพยี งภาคเรียนเดยี ว) 15

116 เป็นประธาน/รองประธานสีต่าง ๆ 20

117 เป็นกรรมการสีตา่ ง ๆ 15

118 เปน็ ตวั แทนเชญิ ธงชาติของแตล่ ะวัน 10

119 เปน็ ตัวแทนของนกั เรยี นเข้าร่วมการแขง่ ขันในกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของ 5

โรงเรยี น

120 เป็นตวั แทนของนกั เรียนเข้ารว่ มการแข่งขันในกจิ กรรมต่าง ๆ ใน 10

หนว่ ยงานภายนอกโรงเรียน

121 ลกั ษณะความดอี ืน่ ๆ นอกเหนอื จากเกณฑท์ ก่ี ำหนดใหอ้ ยู่ในดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการงาน

กจิ การนักเรียน

คูม่ ือนกั เรียน และผู้ปกครอง 91
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

เกณฑ์การตัดคะแนนความประพฤติ เมือ่ นักเรียนกระทำความผิด

รหสั ประเภทความผดิ คะแนน หมายเหตุ

ชนดิ ของพฤติกรรมทกี่ ระทำความผดิ ระดับท่ี 1 ขน้ั เบา

001 ไม่เข้ารว่ มกจิ กรรมหน้าเสาธง 3

002 มาโรงเรยี นสาย หลงั เวลา 08.00 น. 5

003 ไม่มาโรงเรียน โดยไม่มเี หตผุ ลอันควร/ไมแ่ จ้งครปู รึกษา (ขาดเรียน) 5

004 สง่ เสยี งดังอกึ ทึกในห้องเรยี น 5

005 ก่อความวุน่ วายในห้องเรียน/สร้างความรบกวนเพอื่ รว่ มห้องขณะเรียน 5

006 ไมต่ ้ังใจเรยี น ไมน่ ำอปุ กรณก์ ารเรยี นมา 5

007 ทำความสกปรกในสถานที่ต่าง ๆ ภายในโรงเรียน 3

008 ไม่แสดงความเคารพครู 3

009 รับประทานอาหารและขนมในห้องเรียน 3

010 นำอาหารหรือเครื่องดื่มไปรบั ประทานนอกโรงอาหาร/นำอาหารขึน้ อาคาร 3
เรียนหรอื รับประทานอาหารบนอาคารโดยไม่รบั อนญุ าต

011 แสดงกริ ิยาวาจาไม่สุภาพ ลบหลู่ดูหมิน่ ครู และบุคลากรในโรงเรยี นหรอื บุคคลอน่ื 5

012 ไวท้ รงผมผดิ ระเบียบ/หลกี เลย่ี งการตรวจทรงผม 5

แต่งกายผดิ ระเบียบตามข้อบังคบั ของโรงเรยี น/ปลอ่ ยชายเสอ้ื ออกนอก 5

103 กระโปรงหรือกางเกง/นำเสอ้ื ผ้อู น่ื มาใส่หรอื ใหเ้ ส้ือผูอ้ ่นื ใส่/สวมใสช่ ุดพละใน
วันท่ไี ม่มีเรยี นพละ/กางเกงหรือกระโปรงผิดระเบยี บ(แคบหรอื รัดรปู จนน่า

เกลยี ด) หรือปรับเปล่ียนทรงชดุ พละ

014 ใชเ้ คร่ืองสำอางหรือสิ่งแปลกปลอมเพือ่ เสริมความงาม 5

015 สวมใส่ของมีค่าหรือเครอื่ งประดบั อาทิ ตา่ งหู 5

016 เข้าไปในท่ีหวงห้ามท่ีโรงเรียนกำหนดไว้ หรือไม่ไดร้ บั อนญุ าต 5

017 ใช้โทรศัพท์มือถือนอกเหนือเวลากำหนด/ใช้โทรศัพท์มือถือในเวลาที่ไม่ 5
เหมาะสม อาทิ เวลาเรยี น

018 ไม่พกบตั รประจำตวั นกั เรียน หรอื บัตรประชาชน 5

ชนิดของพฤตกิ รรมทก่ี ระทำความผิด ระดบั ท่ี 2 ข้ันกลาง

019 ออกนอกบรเิ วณโรงเรยี นโดยไม่รับอนญุ าต หรอื ไม่เข้า-ออกตามชอ่ งทางที่ 10
โรงเรยี นกำหนด

020 หนีโรงเรียน 10

021 ไม่เขา้ เรียนตามตารางเรยี นของตนเอง (โดดเรียน) หรอื ไม่ใหค้ วามร่วมมือทำ 10
กจิ กรรมตามที่โรงเรยี นกำหนด

022 นำหนงั สอื รปู ส่งิ พมิ พ์ สือ่ เทคโนโลยี คลปิ หรือส่ือลามกอนาจารเข้ามาในโรงเรยี น 10

023 สบู บุหรี่ และมีบุหร่ีไวใ้ นครอบครอง 10

024 ทำลายทรพั ยส์ ินของโรงเรียน หรอื ทรพั ย์สินของผอู้ น่ื 10

92 ค่มู ือนกั เรยี น และผปู้ กครอง
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถมั ภ์ จังหวัดราชบรุ ี

รหัส ประเภทความผดิ คะแนน หมายเหตุ

025 ขีดเขียน และเขียนข้อความลงบนสิ่งที่เป็นสาธารณสมบัติของผู้อื่นและ 10
โรงเรยี น

026 เจาะอวัยวะตา่ ง ๆ สกั บนสว่ นต่าง ๆ ของรา่ งกาย 10

027 ปลอมแปลงรายมือชอื่ ผู้ปกครอง หรือครูที่ปรกึ ษา 10

028 ก้าวร้าวต่อบุคคลอืน่ หรอื บพุ การี ครูด้วยกิรยิ า ท่าทางหรอื ลายลักษณอ์ ักษร 10

029 ทะเลาะวิวาทกบั เพ่ือนนกั เรยี น (ตวั ต่อตัว) 10

030 ทะเลาะววิ าทกบั เพอ่ื นเป็นหมู่คณะ 10

031 ยยุ งใหแ้ ตกความสามคั คใี นหมู่คณะ 10

032 ขจ่ี ักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนริ ภยั 10

033 กลา่ วความเท็จปกปดิ ความผิดให้เพื่อน 10

ชนดิ ของพฤติกรรมทก่ี ระทำความผิด ระดบั ท่ี 3 ขน้ั หนกั

034 ถูกตัดคะแนนความประพฤตคิ รบ ๗๐ คะแนน แล้วแต่กรณี เชิญผู้ปกครอง เพอื่
ทำทัณฑ์บน

035 เลน่ การพนันทกุ ชนดิ ซงึ่ ตอ้ งหา้ มดว้ ยกฎหมายการพนัน 15

036 ลักขโมยทรพั ย์สินของโรงเรยี น ครู เพอื่ นนกั เรยี น และบุคลากรทางการศกึ ษา 15
อ่ืน ๆ

037 พกพาอาวธุ วัตถรุ ะเบิด จุดประทัดหรือวตั ถุอนื่ ๆ ทีท่ ำให้เกิดเสียงดังกอ่ ความ 20
รำคาญและเป็นอนั ตรายต่อผ้อู ่นื หรอื มีไว้ในครอบครอง

038 ประพฤตติ นในทำนองชูส้ าว 20

039 มีเพศสัมพันธ์กันในโรงเรยี น หรือทำอนาจารในโรงเรยี น 30

040 เสพ หรือมีสารเสพติดให้โทษร้ายแรงตามกฎหมาย เชน่ ยาบ้า กญั ชา สาร 30
ระเหย เป็นต้น พรอ้ มท้ังบหุ รไี่ ฟฟา้

041 ทะเลาะวิวาทท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น ที่มบี คุ คลภายนอกเขา้ ร่วม 20

042 นำบุหรี่มาจำหน่าย หรือนำสิ่งเสพติดผิดกฎหมายมาเผยแพร่จำหน่าย/ 20
แจกจา่ ย

043 ดม่ื เคร่ืองด่ืมทีม่ ีแอลกอฮอล์ หรือสงิ่ เสพติดต่างๆที่สร้างความมนึ เมาหรือคล้าย 20
สิง่ เสพติด

044 แก้ไข หรอื ปกปิดเอกสารของทางโรงเรยี นของผู้ปกครอง และบุคคลอืน่ ทำให้ 20
เปน็ เหตุให้เกิดความเสียหายตอ่ องคก์ รและบุคคลท่ีเกย่ี วข้อง

045 นำผ้อู นื่ มาแอบอ้างเป็นผปู้ กครอง 20

046 ใชว้ าจาเท็จจนทำใหเ้ กิดความเสยี หายตอ่ ผอู้ ืน่ หรือโรงเรียน 20

047 แต่งเคร่ืองแบบนกั เรยี นไปกระทำความผดิ นอกโรงเรยี น ทำใหเ้ สื่อมเสีย 30
ชื่อเสียงโรงเรียน (ช้สู าว ด่มื สุรา สูบบุหร่ี ทะเลาะววิ าท ฯลฯ)

048 กระทำความผดิ ทางอาญา ถกู ดำเนินคดฟี ้องศาล และมีความผิดจรงิ ตามข้อ 30
กล่าวหา

049 มีความประพฤติไม่เหมาะสมทำให้เสอ่ื มเสยี ช่ือเสียงของโรงเรียนอย่างรา้ ยแรง 30

คูม่ ือนักเรียน และผ้ปู กครอง 93
โรงเรียนรัฐราษฎรอ์ ุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี

ระเบยี บการใชบ้ รกิ ารห้องตา่ ง ๆ

1. การใช้หอ้ งเรียนและอาคารเรียน
1) ตอ้ งช่วยกนั รักษาความสะอาดทงั้ ภายในและภายนอกหอ้ งเรยี นและทิง้ ขยะในท่ี ๆ จัดให้
2) นักเรียนท่เี ปน็ เวรประจำวนั ตอ้ งทำความสะอาดห้องเรยี นกอ่ นเขา้ เรยี นทกุ ครั้ง
3) ไมน่ ำอาหารเขา้ ไปรบั ประทานในห้องเรยี นและบนอาคารเรียน
4) ห้ามขีดเขยี นขอ้ ความใด ๆ บนโต๊ะเรยี น หรอื ผนังห้องเรียน
5) ไมท่ ำลายสิ่งของทอ่ี ยภู่ ายในห้องเรยี นและอาคารเรยี น
6) ไมเ่ ปดิ ไฟและพัดลมทิง้ ไว้ ต้องชว่ ยกันปดิ เมื่อเลกิ ใชง้ าน
7) หา้ มวงิ่ เล่นบนอาคารเรยี น หรอื เล่นกีฬาทกุ ชนดิ บนอาคารเรียน
8) ถ้าพบว่าหอ้ งเรยี นไม่สะอาด ให้ครผู ู้สอนสั่งให้นักเรียนทำความสะอาดก่อนเรยี น

2. การใช้หอ้ งน้ำและห้องสขุ า
1) ตอ้ งช่วยกันรักษาความสะอาด
2) หา้ มขดี เขียนรูปหรือข้อความใด ๆ ตามผนังห้องน้ำ ห้องสขุ า
3) หา้ มใชห้ ้องน้ำ ห้องสขุ าเป็นแหลง่ ม่ัวสุมในทางทีผ่ ิด เช่น สูบบุหรี่
4) ชว่ ยกนั ดูแลรกั ษาอปุ กรณ์ เครอื่ งใช้ให้คงทนถาวร ถ้าพบความเสยี หายใด ๆ ต้องแจง้ ให้ครทู ราบ

3. การใช้บรกิ ารห้องพยาบาล
1) การเขา้ ใชห้ อ้ งพยาบาลจะต้องได้รบั อนุญาต
- การขอรับยา จะต้อง (1) พบครูประจำห้องพยาบาล (2) เขียนหลักฐานการรับยาในแฟม้

บนโต๊ะ (3) รับยาจากครู โดยห้ามนกั เรียนหยบิ ยารับประทานเอง
- การนอนพักในห้องพยาบาล จะต้อง (1) ลงชื่อในสมุดการใช้บริการห้องพยาบาลทุกคร้ัง

(2) ได้รับอนุญาตจากครูประจำวิชา (3) ได้รับอนุญาตครูประจำห้องพยาบาล (4) ต้องถอดถุงเท้าเมื่อนอน
เตยี งพยาบาล (5) จดั เก็บท่นี อนให้เรียบรอ้ ยทุกครง้ั หลังจากใช้บริการเสร็จแล้ว

- การทำแผล จะตอ้ ง (1) ลงช่ือในสมดุ การใช้บริการห้องพยาบาลทุกครง้ั (2) ห้ามนักเรียน
ทำแผลเอง (3) ใช้บริการทำแผล เช้า 07.00 – 08.00 น. กลางวัน 12.00 – 13.00 น. สำหรับกรณีเกิด
อุบตั ิเหตขุ อใชบ้ ริการทำแผลได้ตลอดเวลา

4. การบรกิ ารหอ้ งสมุดโรงเรยี น
ห้องสมุดโรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ได้นำระบบห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ SMS E-librarybe.U. มาใช้

บริหารจัดการห้องสมุดชว่ ยใหน้ ักเรียนสามารถเข้าถงึ แหลง่ เรียนรไู้ ด้สะดวก รวดเรว็ และไม่จำกดั โดยผ่านทาง
สื่อดจิ ติ อลและเครือข่ายอนิ เตอร์เนต็ เปิดให้บรกิ ารตงั้ แต่เวลา 07.30 – 16.30 น. ทกุ วันเปดิ เรยี น มบี ริการต่าง
ๆ ดังน้ี

1. บริการให้อ่าน โดยมีสื่อที่ให้บริการ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร สารคดี และหนังสือ
คน้ ควา้ ทั่วไป

2. บริการยมื -คนื นกั เรียนสามารถยืมส่ือต่าง ๆ ในขอ้ 1 ได้โดยใช้ระบบบาร์โค้ด

94 คมู่ ือนักเรียน และผปู้ กครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎรอ์ ปุ ถมั ภ์ จังหวัดราชบรุ ี

3. บรกิ ารสบื ค้นข้อมูลหนงั สือด้วยระบบคอมพวิ เตอร์ สามารถสบื ค้นท้ังตามหวั ขอ้ ช่อื เรอ่ื ง ชอ่ื ผูแ้ ต่ง
4. บริการสบื ค้นขอ้ มูลทาง Internet

5. บริการศกึ ษาบทเรยี นสำเรจ็ รูปอิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E-learning) ด้วยตนเอง
6. บรกิ ารสืบค้นขอ้ มลู จาก E-Book

การยืม-คนื หนงั สือ
นักเรยี นทกุ คนสามารถยืมหนงั สือจากหอ้ งสมุดได้ตงั้ แตเ่ วลา 07.30 – 16.30 น. โดยปฏิบัตดิ งั นี้
1. ใชบ้ ตั รประจำตัวนักเรยี นของตนเองหรือเลขประจำตัวนักเรียนสำหรบั ยมื หนังสือ

2. ยมื หนังสอื ไวใ้ นครอบครองไดค้ นละ 3 เล่ม นาน 7 วัน
3. คืนหนงั สือตามเวลาท่กี ำหนด หากคืนช้าเกินวนั ท่ีกำหนด จะต้องเสยี คา่ ปรับเลม่ ละ 1 บาท/วัน

4. หนงั สืออา้ งอิงและวารสารอนุญาตใหย้ มื ไปถา่ ยเอกสารได้ และเมื่อเสร็จแล้วตอ้ งคนื ทนั ที
5. ทำหนังสือชำรดุ สูญหาย ตอ้ งชดใช้เงินเป็นจำนวน 2 เท่า ของราคาหนงั สือ
ขอ้ ปฏบิ ัตใิ นการใช้ห้องสมดุ

1. วางกระเปา๋ และสมั ภาระตา่ ง ๆ ไว้ทว่ี างสิ่งของด้านหนา้ หอ้ งสมุด
2. อนุญาตใหน้ ำสมุดหรือกระดาษเข้ามาจดบันทึกได้

3. ห้ามนำอาหารและของขบเคย้ี วเขา้ มาในหอ้ งสมุด
4. ไมค่ ยุ เลน่ หรอื ส่งเสยี งดงั ในหอ้ งสมดุ
5. หา้ มโยกย้าย โต๊ะ เก้าอ้ี โดยเด็ดขาด

5. การบริการแนะแนว

โรงเรียนรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ ได้จัดห้องแนะแนวไว้บริการนกั เรียนในด้านต่าง ๆ เช่น ให้คำปรึกษาเมือ่
นักเรยี นเกดิ ความคบั ขอ้ งใจ นักเรยี นท่มี ีเวลาว่างสามารถเข้ามาพักผ่อน อ่านหนงั สือ ทำการบา้ น และติดตาม
ขอ้ มูลขา่ วสารท่เี ปน็ ประโยชน์ เพื่อใชเ้ ป็นขอ้ มูลในการเลือกตดั สินใจ วางแผนชีวิต และปรบั ตวั ใหอ้ ยใู่ นสงั คมได้

อย่างมีความสุข ดงั น้ี
1. การให้บรกิ ารรวบรวมข้อมูล เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลทุกด้านของนักเรยี นไว้ใช้ประโยชน์ในการ

ส่งเสรมิ ชว่ ยเหลอื และแก้ปญั หาตา่ ง ๆทเ่ี กิดข้ึนกบั นกั เรียนแตล่ ะคน
2. การให้บริการสนเทศ เป็นการส่งเสริมให้นักเรียนรับทราบข้อมูลด้านการศึกษาต่อ การประกอบ

อาชพี และการปรับตวั ในสังคม โดย

2.1 เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารทางการศึกษา การประกอบอาชีพ และการพัฒนาบุคลิกภาพให้แก่
นกั เรียน

2.2 บริการให้ยืมสื่อและข้อมูลด้านต่าง ๆ ไปศึกษาด้วยตนเองที่บ้าน เพื่อให้โอกาสผู้ปกครองได้
ทราบข้อมูลและมีสว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจของนกั เรียน

2.3 ร่วมกับงานประชาสัมพันธ์ ออกเสียงตามสายแจ้งข้อมูลข่าวสารด้านการศึกษาต่อ และการ

ประกอบอาชีพให้นกั เรียนทราบอยา่ งท่วั ถงึ
3. การบริการให้คำปรึกษา เป็นการช่วยเหลือนักเรียนให้เข้าใจตนเอง สังคม สิ่งแวดล้อม สามารถ

ตัดสินใจแก้ปัญหา หรือพัฒนาตนเองได้อย่างเหมาะสม โดยสามารถขอคำปรึกษาได้ตลอดเวลาเมื่อครูอยู่ใน
หอ้ งเรยี นหรอื นัดวนั เวลา เมอื่ ครยู งั ไม่พร้อมท่ีจะใหค้ ำปรกึ ษาในเวลานน้ั

4. การใหบ้ รกิ ารจดั วางตัวบคุ คลเปน็ บริการด้านทุนการศึกษาและปัจจัยสงเคราะหน์ ักเรียนท่ีขาดแคลน

คมู่ ือนักเรียน และผู้ปกครอง 95
โรงเรียนรัฐราษฎร์อปุ ถัมภ์ จงั หวัดราชบุรี

5. การทดสอบความสามารถและความถนดั ดา้ นต่าง ๆ
5.1 จัดทดสอบเพอื่ ให้นกั เรยี นไดท้ ราบความสามารถและความถนดั ของตนเอง

5.2 ร่วมกบั สำนกั งานจัดหางาน จดั ทดสอบวดั ความถนดั และบุคลกิ ภาพนกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3
และมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

5.3 ทดสอบความเครียด และ EQ
5.4 จดั ทดสอบวดั ความรู้รว่ มกบั สถาบนั การศึกษาตา่ ง ๆ
6. การรับสมัคร โควตาพิเศษและการสมัครทดสอบความรู้เพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาของ

สถาบนั ตา่ ง ๆ
7. การบรกิ ารติดตามผล เป็นการรวบรวมข้อมูลของนักเรียนที่จบการศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น

และตอนปลายเพื่อให้ทราบว่าได้ศึกษาต่อหรอื ประกอบอาชีพสถานที่ใดบ้าง เพื่อนำข้อมูลมาเป็นแนวทางใน
การวางแผนแนะแนวการศึกษาต่อ ตลอดจนให้การช่วยเหลอื ในดา้ นข้อมูลข่าวสารแกน่ ักเรียนที่จบการศึกษา
แล้วแต่ยังไม่ได้ศึกษาต่อหรือประกอบอาชพี ให้ได้รบั ทราบขอ้ มูลท่ีเป็นประโยชน์ในการศกึ ษาต่อและประกอบ

อาชีพ

96 คู่มอื นกั เรียน และผู้ปกครอง
โรงเรยี นรัฐราษฎร์อุปถัมภ์ จงั หวัดราชบรุ ี


Click to View FlipBook Version