พระราชบญั ญตั ิ
วธิ ปี ฏิบตั ิราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
การอบรมหลกั สูตรฝายอาํ นวยการตํารวจ รุน ท่ี ๔๓
วทิ ยาลัยการตาํ รวจ กองบัญชาการศึกษา
วันจนั ทรท ี่ ๗ กมุ ภาพันธ ๒๕๖๕ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.
ผา นระบบออนไลน
โดย ... ดร. เย่ียม อรุโณทัยววิ ัฒน
ตลุ าการศาลปกครองกลาง
ขอบเขตของการบรรยาย
การใชอาํ นาจของฝายปกครอง 2
เจา หนา ทีผ่ ูมีอํานาจพิจารณาทางปกครอง
สิทธิของคกู รณี
รูปแบบและผลของคาํ ส่งั ทางปกครอง
การแกไขขอ บกพรอ งและการทบทวนคําสงั่ ทางปกครอง
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่าน้นั
องคกรของรฐั
(ตามรัฐธรรมนูญแหง ราชอาณาจักรไทย
พทุ ธศกั ราช 2560)
นิติบญั ญัติ บรหิ าร ตุลาการ
วุฒิสภา / สภาผแู ทนราษฎร คณะรฐั มนตรี ศาลยุตธิ รรม/ศาลปกครอง/
ศาลทหาร
ศาลรัฐธรรมนญู - คณะกรรมการการเลอื กตง้ั
องคก รอสิ ระ - ผตู รวจการแผนดิน
องคกรอยั การ - คณะกรรมการปอ งกันและปราบปราม
การทจุ ริตแหง ชาติ
- คณะกรรมการตรวจเงินแผน ดิน
- คณะกรรมการสิทธิมนษุ ยชนแหงชาติ
ใชส้ ําหรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ท่ี 43 วันท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ น้นั 3
สว นราชการ
สวนภูมภิ าค สวนทองถิ่น
กระทรวง พ.ร.บ. ระเบยี บบริหาร เทศบาล
ราชการแผน ดินฯ อบจ.
กรม อบต.
จงั หวดั
สว นราชการ อาํ เภอ กรงุ เทพมหานคร
ทีเ่ รยี กชื่ออยางอนื่
พ.ร.บ. ลกั ษณะปกครอง เมอื งพัทยา
และมีฐานะ ทอ งทฯ่ี
เทยี บเทากรม 4
- สาํ นักเลขาธกิ ารคณะรัฐมนตรี ตําบล
- สาํ นักเลขาธกิ ารนายกรฐั มนตรี หมบู า น
- สํานักงบประมาณ
ฯลฯ
ใช้สําหรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เท่านัน้
รฐั วสิ าหกิจ
พ.ร.บ. พ.ร.ฎ. ป.พ.พ. ระเบียบ/
คาํ สั่ง
(ออกตามความใน พ.ร.บ. วาดวย
การจดั ตัง้ องคการของรฐั บาลฯ) - โรงงานไพ
- โรงพมิ พต ํารวจ
- การกีฬาแหง ประเทศ - สถาบนั การบินพลเรอื น - ธนาคารกรุงไทย - สํานักงาน
ไทย - องคก ารขนสงมวลชน จาํ กัด (มหาชน) ธนานุเคราะห
- การเคหะแหง ชาติ - องคการสุรา
- การทอ งเที่ยวแหง กรุงเทพ - บริษทั โทรคมนาคม
ประเทศไทย - องคก ารคลังสินคา แหง ชาติ จํากดั ฯลฯ
- การไฟฟา ฝายผลติ / (มหาชน) (NT)
นครหลวง/ภูมิภาค ฯลฯ - บรษิ ัท ทาอากาศยาน 5
- การประปานครหลวง/ ไทย จาํ กัด (มหาชน)
ภูมภิ าค (AOT)
- การยาสูบแหง - บริษัท การบนิ ไทย
ประเทศไทย จาํ กัด (มหาชน)
ฯลฯ ฯลฯ
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นั้น
หนว ยงานอื่นของรัฐ
หนวยธุรการ องคก ารมหาชน ต้ังขึ้นตาม พ.ร.บ.
ฝายนติ บิ ัญญตั ิ จัดตง้ั ขน้ึ ตาม พ.ร.บ. - สถาบันคุมครองเงนิ ฝาก
- สํานกั งานเลขาธิการวุฒิสภา - กองทนุ บาํ เหน็จบาํ นาญ - สาํ นกั งาน คปภ.
/ สภาผูแทนราษฎร ขาราชการ - สํานักงาน กลต.
- กองทนุ สนับสนนุ การสรา งเสรมิ - ธนาคารแหงประเทศไทย
ฝายตลุ าการ สขุ ภาพฯ - สํานักงาน กสทช.
- สาํ นกั งานศาลปกครอง / - สาํ นกั งานคณะกรรมการ
ศาลรฐั ธรรมนูญ / ศาลยตุ ธิ รรม จัดต้ังขึ้นตาม พ.ร.ฎ. กํากับกิจการพลงั งาน
- องคการกระจายเสียง
องคก รอสิ ระและองคก รอนื่ (ออกตามความใน พ.ร.บ. องคการมหาชนฯ) และแพรภาพสาธารณะ
- สาํ นักงานผตู รวจการแผน ดนิ แหง ประเทศไทย
/ กกต. / ปปช. / สตง./ - สถาบนั เทคโนโลยปี องกนั ประเทศ
กสม. / อยั การ (องคก ารมหาชน) ฯลฯ
- สํานกั งานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศฯ
(องคการมหาชน)
มหาวิทยาลัยในกํากับของรฐั
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยสี รุ นารี
- มหาวิทยาลัยวลยั ลกั ษณ
ฯลฯ
ใช้สาํ หรับการบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. ร่นุ ท่ี 43 วนั ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านั้น 6
หนวยงานอนื่
(หนวยงานทไี่ ดร บั มอบหมายใหใ ชอํานาจทางปกครอง
หรอื ใหด ําเนินกิจการทางปกครอง)
องคกรวิชาชพี องคก รอืน่
สภาทนายความ NT
แพทยสภา AOT
สภาวิศวกร ชางรงั วัดเอกชน
สภาสถาปนิก สถาบันการศกึ ษาเอกชน
ใช้สําหรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่าน้ัน 7
ขาราชการ พนักงาน ลูกจา ง
ขา ราชการการเมือง พนกั งานราชการ ลูกจางประจํา
ลูกจางชว่ั คราว
ขาราชการประจาํ พนักงานรฐั วิสาหกจิ
8
ขาราชการฝายทหาร พนกั งานในหนว ยงานอ่ืน
- ขา ราชการทหาร ของรัฐ
- ขาราชการกลาโหม
พลเรอื น พนักงาน
ขาราชการฝายพลเรอื น ในสถาบันอุดมศกึ ษา
- ขาราชการพลเรอื น
- ขา ราชการตาํ รวจ
- ขา ราชการฝายศาลปกครอง
ฯลฯ
ใชส้ าํ หรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุน่ ที่ 43 วนั ท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นน้ั
คณะกรรมการ คณะ
วินิจฉยั ขอ พิพาท บคุ คล
คณะกรรมการซ่ึงมีกฎหมายใหอํานาจ 9
ในการออกกฎ คาํ สัง่ หรือมตใิ ดๆ
ที่มผี ลกระทบตอ บคุ คล
ใชส้ าํ หรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ท่ี 43 วนั ท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เท่าน้นั
พระราชบญั ญัตวิ ิธปี ฏบิ ตั ริ าชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
วิธปี ฏบิ ัตริ าชการทางปกครองตามกฎหมายตาง ๆ
ใหเ ปน ไปตามทีก่ าํ หนดในพระราชบัญญตั ิน้ี
# เวนแตในกรณีท่ีกฎหมายใดกําหนด 1.รฐั สภาและคณะรฐั มนตรี
วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองเรื่องใด 2. องคก รทใี่ ชอ าํ นาจตาม รธน. โดยเฉพาะ
ไวโดยเฉพาะ 3. การพจิ ารณาของนายกรัฐมนตรหี รอื รฐั มนตรี
- มหี ลักเกณฑท ี่ประกนั ความเปนธรรม ในงานทางนโยบายโดยตรง
- มีมาตรฐานในการปฏิบตั ิราชการ 4. การพิจารณาพิพากษาคดีของศาลฯ
5. การดําเนนิ งานเกยี่ วกบั นโยบายการตางประเทศ
*** ไมตํ่ากวาหลักเกณฑที่กําหนด 6. การดาํ เนนิ งานเก่ยี วกับราชการทหารฯ
ในพระราชบัญญตั ิน้ี *** 7. กระบวนการยุติธรรมทางอาญา
8. การดาํ เนินกิจการขององคก ารทางศาสนา
# ไมใชกับข้ันตอนและระยะเวลาอุทธรณ 9. การอ่นื ทกี่ ําหนดใน พ.ร.ฎ.
หรือโตแ ยง ท่กี ําหนดในกฎหมาย
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รุน่ ที่ 43 วนั ท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เท่านั้น 10
วธิ ีปฏิบตั ิราชการ การพิจารณา
ทางปกครอง กฎ ทางปกครอง
เจาหนา ที่ คูก รณี
การเตรยี มการและการ คกก. วนิ ิจฉยั ขอพพิ าท การเตรยี มการและการ
ดาํ เนินการของ ดาํ เนนิ การ
เจา หนา ท่ีเพื่อจดั ใหม ี ของเจา หนาท่ี
คําส่ังทางปกครองหรอื เพ่อื จัดใหม คี าํ สั่งทาง
กฎ และรวมถงึ การ ปกครอง
ดําเนินการใด ๆ
ในทางปกครอง
คาํ นยิ าม
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วันท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เท่าน้นั 11
การกระทาํ ของฝา ยปกครอง
การกระทาํ ทางปกครอง การกระทําท่ไี มไ ดเกดิ จาก
การใชอ าํ นาจทางปกครอง
เชน การดาํ เนนิ การทางแพง
หรอื ทางอาญา
กฎ คาํ สง่ั การกระทาํ อ่นื การปฏบิ ัตงิ าน
ทางปกครอง ประจาํ ที่ไมได
เปน การใชอํานาจ
คําส่งั อนื่ ตามกฎหมาย
และแนวนโยบาย
ในการใชดลุ พนิ ิจ
ตาม พ.ร.บ. วิธปี ฏิบัตฯิ สัญญาทางปกครอง
ตามกฎกระทรวง ฉบับท่ี 12 12
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ท่ี 43 วนั ท่ี 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เทา่ นัน้
กฎ
พระราชกฤษฎกี า บทบญั ญัติอื่น
กฎกระทรวง ที่มผี ลบงั คับเปนการ
ประกาศกระทรวง ทั่วไป
ขอบัญญัติทอ งถ่นิ
ไมม ุงหมายใหบังคับแก
ระเบียบ “กรณใี ดหรอื บคุ คลใด”
ขอ บังคับ
เปนการเฉพาะ
ใช้สําหรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. ร่นุ ท่ี 43 วันท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เท่าน้นั 13
คาํ สงั่ ทางปกครอง การใชอํานาจตามกฎหมายของเจาหนาท่ี เชน
ตาม พ.ร.บ. การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัย
วิฯ ปฏบิ ัติ อุทธรณ การรับรอง การรับจดทะเบียน
- มผี ลสรา งนติ ิสมั พนั ธระหวางบุคคล
(กอ / เปลี่ยนแปลง / โอน / สงวน / ระงบั )
-มีผลกระทบสถานภาพของสิทธหิ รือหนาท่ีของบุคคล
มผี ลเฉพาะ “กรณใี ด หรอื บคุ คลใด”
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วันท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นน้ั 14
คาํ สั่งทางปกครอง การดําเนินการเก่ียวกับการจัดหาหรือใหสิทธิ
ตามกฎกระทรวง ประโยชนในกรณดี ังตอไปน้ี
ฉบบั ท่ี 12 1) การสั่งรับหรือไมรับคําเสนอขาย รับจาง
(พ.ศ. 2543) แลกเปลย่ี น ใหเชา ซ้อื เชา หรอื ใหสทิ ธปิ ระโยชน
2) การอนุมัติส่ังซ้ือ จาง แลกเปล่ียน เชา ขาย
ใหเ ชา หรือใหสิทธิประโยชน
3) การสั่งยกเลิกกระบวนการพิจารณาคําเสนอ
หรือการดําเนนิ การอืน่ ใดในลักษณะเดียวกัน
4) การสง่ั ใหเปนผูทง้ิ งาน
การใหหรือไมใหทนุ การศึกษา
ใชส้ าํ หรับการบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วนั ท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นน้ั 15
เกิดผลเฉพาะ เปน การ มลี ักษณะ
กรณี กระทาํ โดย เปน การใช
เจา หนา ที่ อาํ นาจทาง
ปกครอง
คาํ สั่งทาง
ปกครอง
มผี ลออกไป มีวตั ถปุ ระสงค
ภายนอก เพ่อื กําหนด
โดยตรง สถานภาพทาง
กฎหมาย
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วันที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านนั้ 16
ผบู งั คับบัญชา - ภาคทัณฑ
- ตดั เงนิ เดือน
- ลดเงินเดอื น
- ปลดออก
- ไลอ อก
เจา หนาท่ี ออกคําส่งั ลงโทษ มีผลกระทบตอ คําสง่ั ทาง
ทางวินัย สถานภาพของ ปกครอง
สทิ ธหิ รือหนาท่ี
ของขา ราชการ
ใชอ าํ นาจตาม - เงินเดือน
- บําเหน็จบํานาญ
กฎหมาย - คารกั ษาพยาบาล
- คาเชาบา น
-เครื่องราชอสิ ริยาภรณ
ใช้สาํ หรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วนั ท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ น้ัน 17
กฎหมายวาดวยวินัยขาราชการตํารวจไดกําหนดอํานาจหนาท่ี
แ ล ะ วิ ธี ก า ร ส อ บ ส ว น พิ จ า ร ณ า โ ท ษ ท า ง วิ นั ย ไ ว เ ป น ส ว น ห นึ่ ง
แยกตางหากจากการดําเนินคดีอาญา โดยการดําเนินคดีอาญา
เปนการดําเนินการเพ่ือนําตัวผูกระทําผิดมาลงโทษ และโทษท่ีจะลง
แกผูกระทําผิดมีผลกระทบตอสิทธิและเสรีภาพของผูกระทําผิด
ก า ร ล ง โ ท ษ ใ น ค ดี อ า ญ า จึ ง ต อ ง ก ร ะ ทํ า โ ด ย มี พ ย า น ห ลั ก ฐ า น
อันประจักษแจง หากมีความสงสัยตามสมควรวาผูถูกกลาวหา
ไดกระทําความผิดหรือไม จึงใหยกประโยชนแหงความสงสัยน้ัน
ใหผูถูกกลาวหา สวนการรับฟงพยานหลักฐานเพื่อจะลงโทษ
ทางวินัยผูฟองคดี ผูบังคับบัญชาไมจําเปนตองมีพยานหลักฐาน
ชัดแจง โดยปราศจากขอ สงสยั ดังเชนคดีอาญา
(คําพพิ ากษาศาลปกครองสูงสดุ ท่ี อ. 755/2561)
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. ร่นุ ท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เทา่ นั้น 18
• คําส่ังลงโทษทางวินัยไลออกจากราชการเปนการใชอํานาจทางปกครองกระทบถึง
สิทธิและหนาที่ของผูฟองคดี จึงเปนคําสั่งทางปกครอง (คําส่ังศาลปกครองสูงสุด
ที่ 876/2548 ท่ี 727/2552 ที่ 13/2553 ที่ 18/2553 และที่ 335/2557)
• คําสั่งลงโทษทางวินัยขาราชการ เปนการใชอํานาจตามกฎหมายขอผูบังคับบัญชา
ซึ่งมีผลกระทบตอสถานภาพของสิทธิหรือหนาท่ีของผูใตบังคับบัญชา จึงเปนคําสั่ง
ทางปกครอง (เรอ่ื งเสร็จท่ี 205/2541 และท่ี 399/2546)
• คําส่ังลงโทษทางวินัยไลออกจากราชการ เปนคําสั่งทางปกครอง (คําวินิจฉัยช้ีขาด
อํานาจหนา ท่รี ะหวา งศาลท่ี 43/2548)
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วนั ท่ี 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านัน้ 19
การออกคาํ ส่งั การออกคําส่ัง การออกคําส่ัง
ใหข าราชการ ใหส อบสวนขอเท็จจรงิ ใหดาํ เนนิ การ
ชว ยราชการ ตามอาํ นาจหนาท่ี
ชแ้ี จงหรือรายงาน
ขอเทจ็ จรงิ
คาํ สงั่ อื่น
และแนวนโยบาย
ในการใชด ุลพินิจ
ใชส้ าํ หรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เทา่ นั้น 20
การกระทําอืน่
การกระทําทางกายภาพที่ การกระทาํ ทางกายภาพที่
เกิดจากการใชอ ํานาจทางปกครอง ไมไดเ กิดจากการใชอํานาจทางปกครอง
(ปฏิบัติการทางปกครอง)
มาตรการบังคับทางปกครอง การประกอบวชิ าชีพเวชกรรม
เชน ยดึ อายดั ทรัพยสิน / รอื้ ถอนอาคาร
การกอสรางถนน/ทางระบายนํ้า การขบั รถประจําทางของ
ของ กทม. หรือเทศบาล พนกั งาน ขสมก.
การเก็บกวาดรกั ษาความสะอาด
ของเทศบาล
ใช้สําหรบั การบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. ร่นุ ท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เทา่ น้ัน 21
การพิจารณาทางปกครอง
การเตรยี มการและการดําเนินการของเจาหนา ท่ี
เพอื่ จดั ใหมคี ําส่ังทางปกครอง (มาตรา 5)
ผบู ังคับบัญชา / ไมม ผี ลกระทบตอ
เจาหนาที่อื่นทเ่ี กย่ี วของ สถานภาพของสทิ ธิ
เจา หนา ท่ี หรอื หนา ทข่ี อง
ขาราชการ
เตรียมการ/
ดาํ เนนิ การ
จัดใหมี
คําสงั่
- การสอบสวนขอเท็จจรงิ การพิจารณา
- การสอบสวนวนิ ัย ทางปกครอง
- การทําความเห็นของเจา หนาท่ี
ตามสายบงั คับบญั ชา
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุน่ ท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นัน้ 22
การพจิ ารณาทางปกครอง
การเตรยี มการและการดาํ เนนิ การของเจา หนาที่
เพ่ือจดั ใหมีคําสง่ั ทางปกครอง (มาตรา 5)
ขั้นตอนในการสอบสวนดําเนินการทางวินัยเปนการเตรียมการและการดําเนินการ
ของเจาหนาที่เพ่ือจัดใหมีคําสั่งทางปกครอง ซึ่งเปนการพิจารณาทางปกครอง
(คําพพิ ากษาศาลปกครองสงู สุดท่ี อ.4/2559)
มติของผูถูกฟองคดีท่ี 2 และท่ี 3 ที่มีความเห็นตามคณะกรรมการสอบสวนใหลงโทษ
ปลดผูฟ อ งคดอี อกจากราชการไมถ อื วาเปน คาํ สั่งทางปกครอง เปนเพียงการพิจารณา
ทางปกครอง (คําสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ 42/2553)
เม่ือคําสั่งลงโทษทางวินัยหรือคําสั่งยืนยันวามิไดมีการกระทําผิดทางวินัยเปนคําส่ัง
ทางปกครอง เน่ืองจากมีผลกระทบตอสถานภาพของสิทธิหรือหนาที่ของผูถูกกลาวหา
การสอบสวนทางวินัยซ่ึงเปนการเตรียมการและดําเนินการเพ่ือจัดใหมีคําส่ังทางปกครอง
ดังกลาว จงึ เปน การพิจารณาทางปกครอง (เรอ่ื งเสรจ็ ที่ 205/2541)
ใช้สําหรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วันที่ 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เท่านั้น 23
การ เจา หนา ที่ ความเปน
ทบทวน ตองมี กลาง
คําสง่ั อํานาจ
สิทธขิ อง
การแกไข วิธปี ฏิบัติ คกู รณี
ขอ บกพรอ ง ราชการทาง
ปกครอง
ผลของ รูปแบบ
คําสั่ง และเน้อื หา
ของคําส่ัง
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วันท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ น้นั 24
หลักกฎหมายวิธปี ฏบิ ตั ิราชการทางปกครอง
คาํ สงั่ ทางปกครองตองทําโดยเจา หนาผูมีอํานาจ
- คําส่ังทางปกครองจะตองกระทําโดยเจาหนาท่ีซ่ึงมีอํานาจหนาท่ี
ในเร่อื งนัน้ (มาตรา 12)
- บุคคล คณะบุคคล หรอื นติ ิบุคคล
- ใชอํานาจหรือไดรับมอบใหใชอํานาจทางปกครองใหดําเนินการ
ตามกฎหมาย
- ราชการ รฐั วิสาหกิจ หรือกิจการอื่นของรัฐ
- เอกชน
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วันที่ 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นนั้ 25
การออกคําส่ังแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรง เปนข้ันตอนเร่ิมตนของ
การใชอ ํานาจตามกฎหมายของผบู ังคบั บัญชาในการดําเนนิ การทางวนิ ัยเพื่อนําไปสูการลงโทษ
ทางวินัย การท่ีกฎหมายวาดวยระเบียบขาราชการหรือพนักงานของรัฐไดกําหนดตําแหนงของ
ผูบังคับบัญชาท่ีจะเปนผูมีอํานาจส่ังแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรง
ไวโ ดยเฉพาะ
เปนกรณีที่แสดงใหเห็นถึงเจตนารมณของกฎหมายวา ประสงคจะกําหนดใหเฉพาะ
ผูบังคับบัญชาในระดับหรือตําแหนงที่กฎหมายกําหนดไวเทานั้น เปนผูมีอํานาจออกคําสั่ง
แตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรง ท้ังนี้ เพื่อเปนหลักประกันสิทธิของ
ผูใตบังคับบัญชาที่เปนผูถูกกลาวหาวา จะไดรับความเปนธรรมจากการถูกดําเนินการทางวินัย
ดงั กลา วโดยไมถ ูกกล่ันแกลงจากผไู มม อี ํานาจตามกฎหมาย
จึงทําใหปญหาการแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรงแกขาราชการหรือ
พนักงานของรัฐโดยผูไมมีอํานาจตามกฎหมาย เปนปญหาขอกฎหมายอันเก่ียวดวยความสงบ
เรียบรอยของประชาชนที่ศาลปกครองสูงสุดจะยกขึ้นวินิจฉัย แลวพิพากษาหรือมีคําสั่งไปก็ได
ตามขอ 92 แหงระเบียบของท่ีประชุมใหญตุลาการในศาลปกครองสูงสุด วาดวยวิธีพิจารณา
คดีปกครอง พ.ศ. 2543
(คําพิพากษาศาลปกครองสงู สดุ ที่ อ. 1435/2558 ประชุมใหญ)
ใช้สําหรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุน่ ท่ี 43 วันที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านั้น 26
ผูฟองคดีเปนขาราชการตํารวจ ถูกจับกุมโดยถูกกลาวหาวา กระทําผิดวินัย
อยางรายแรง เน่ืองจากตองหาคดีอาญา ขอหานําหรือพาคนตางดาวเขามา
ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หรืออุปการะชวยเหลือ หรือใหความสะดวก
แกค นตา งดา วใหเ ขามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย
พันตํารวจโท ส. รองผูกํากับการหัวหนาสถานีตํารวจนครบาลสายไหม
มีคําสั่งลงวันท่ี 31 กรกฎาคม 2544 แตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย
อยา งรายแรงผูฟองคดี
พันตํารวจโท ส. ไมเคยไดรับมอบหมายจากผูบัญชาการตํารวจแหงชาติ
ใหม ีอํานาจแตงตัง้ คณะกรรมการสอบสวนวนิ ัยอยางรายแรง
การดําเนนิ การสอบสวนทางวินัยอยางรายแรงแกผูฟองคดี จึงไมเปนไปตาม 27
มาตรา 61 แหง พ.ร.บ. ระเบียบขาราชการตํารวจ พ.ศ. 2521 ประกอบกับ
มาตรา 102 แหง พ.ร.บ. ระเบียบขาราชการพลเรือน พ.ศ. 2535 คําส่ังแตงตั้ง
คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยแกผูฟองคดีจึงไมชอบดวยกฎหมาย อันมีผล
ทําใหค ําสั่งลงโทษทางวินยั แกผ ฟู องคดไี มช อบดวยกฎหมายดวย (อ. 57/2559)
ใช้สําหรับการบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นนั้
ความเปนกลางของเจา หนา ที่
สภาพภายนอก (มาตรา 13) สภาพภายใน (มาตรา 16)
เปน คูกรณีเอง มีสภาพรายแรงอนั อาจทาํ ใหก าร
พิจารณาทางปกครองไมเ ปน กลาง
เปน คหู มั้น/คูสมรสของคกู รณี ฉนั ทาคติ
เปนญาตขิ องคกู รณี โมหาคติ หลกั โทสาคติ
อนิ ทภาษ
(บุพการ/ี ผสู บื สนั ดาน/พน่ี อ ง/ญาตจิ ากการสมรส) 28
เปน ผแู ทนโดยชอบธรรม/ผพู ิทักษ
ผูแทน/ตัวแทนตาม ป.พ.พ.
ภยาคติ
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วนั ที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่าน้ัน
ขอเท็จจริงปรากฏวา ในการสืบสวนขอเท็จจริงเก่ียวกับพฤติการณของ
ผูฟองคดี พันตํารวจโท บ. ในฐานะประธานกรรมการ และรอยตํารวจเอก ย.
ในฐานะกรรมการมีความเห็นวา พฤติการณของผูฟองคดีมีมูลเปนการกระทํา
ผดิ วนิ ยั อยางรา ยแรง
เม่ือบุคคลท้ังสองไดรับแตงต้ังใหเปนคณะกรรมการสอบสวนวินัย
อยา งรายแรงอีก โดยพนั ตาํ รวจโท บ. เปน ประธานกรรมการและรอ ยตํารวจเอก ย.
เปนกรรมการเชนเดิม ประกอบกับคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรง
มีเพียง 3 คน บุคคลทั้งสองจึงเปนเสียงขางมาก ทําใหผลการสอบสวนทางวินัย
อยางรายแรงยอมคาดหมายไดอยูแลววาไมอาจแตกตางไปจากผลการสืบสวน
ขอ เท็จจรงิ
การท่ีผูถูกฟองคดีที่ 1 มีคําสั่งแตงตั้งพันตํารวจโท บ. และรอยตํารวจเอก ย.
เปนกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรงผูฟองคดีอีก จึงทําใหการพิจารณา
ทางปกครองของพันตํารวจโท บ. และรอยตํารวจเอก ย. ไมมีความเปนกลาง
ตามมาตรา 16 วรรคหนึง่ แหง พ.ร.บ. วิธปี ฏบิ ัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539
(คาํ พพิ ากษาศาลปกครองสูงสดุ ที่ อ. 834/2555) 29
ใชส้ ําหรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่าน้ัน
การดําเนินการสอบสวนวินัยและการแตงต้ังคณะกรรมการสอบสวนวินัย
อยางรายแรงเปนการพิจารณาทางปกครองเพื่อที่จะมีคําสั่งลงโทษทางวินัยอันเปนคําสั่ง
ทางปกครอง บุคคลที่จะไดรับการแตงตั้งใหไปพิจารณาทางปกครองดังกลาวจึงตองมีความ
เปนกลาง เวนแตกรณีจะเขาขอยกเวนของกฎหมาย ทั้งน้ี ตามกฎหมายวาดวยวิธีปฏิบัติ
ราชการทางปกครอง
เม่ือขอเท็จจริงปรากฏวา มีการแตงต้ังบุคคลคนเดียวกันเปนทั้งกรรมการสืบสวน
ขอเท็จจริงและกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรง โดยไมปรากฏเหตุวาเปนกรณีท่ีมีความ
จําเปนเรงดวน หากปลอยใหลาชาออกไปจะเสียหายตอประโยชนสาธารณะหรือสิทธิของ
บุคคลจะเสียหายโดยไมมีทางแกไขได หรือไมมีเจาหนาท่ีอ่ืนปฏิบัติหนาที่แทนผูน้ันได
ประกอบกับองคประกอบของคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรงมีเพียง 3 คน แตผูที่
ไดรับการแตงต้ังเปนกรรมการทั้ง 2 ชุด มีถึง 2 คน บุคคลทั้งสองจึงเปนเสียงขางมากและ
ยอมคาดหมายไดวาผลการพิจารณาในชั้นกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรงยอมไม
แตกตา งไปจากผลการสบื สวนขอเทจ็ จริง
ดังนั้น เม่ือการแตงต้ังคณะกรรมการสอบสวนวินัยอยางรายแรงตามคดีนี้ไมชอบ
การที่ผูมีอํานาจพิจารณาลงโทษทางวินัยนําผลการสอบสวนและการพิจารณาดังกลาว
มาใชพิจารณาลงโทษทางวินัยจึงไมชอบดวยกฎหมาย (อ.834/2555 ที่ อ.600/2555
และท่ี อ.87/2556)
ใชส้ ําหรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วันท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เท่านนั้ 30
• การพิจารณากรณีมีผูถูกกลาวหาวากระทําผิดวินัยอยางรายแรงของ อ.ก.พ. กรม
ถือเปนการพิจารณาทางปกครอง ตามมาตรา 5 แหงพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติ
ราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ผูทําการพิจารณาจึงตองมีความเปนกลางหรือไมมีสวน
ไดเสียในเร่ืองที่พิจารณาตามมาตรา 13 ประกอบกับมาตรา 16 วรรคหนึ่ง และมาตรา
18 แหง พระราชบัญญัติเดยี วกนั
• เมื่อขอเท็จจริงปรากฏวา ผูที่เคยเปนประธานกรรมการสอบสวนทางวินัยอยาง
รายแรงไดเขารวมประชุม อ.ก.พ. กรม ในวาระการพิจารณาความผิดทางวินัย
อยางรายแรงของขาราชการที่ตนเปนประธานกรรมการสอบสวนฯ ในฐานะ
อ.ก.พ. กรม ถือไดวามีสภาพรายแรงอันอาจทําใหการพิจารณาทางปกครอง
ในวาระการพิจารณาดงั กลา วไมเปนกลาง
• มีผลทําใหมติ อ.ก.พ. กรม ท่ีเห็นควรใหไลขาราชการออกจากราชการ คําส่ังของ
ผูมีอํานาจพิจารณาโทษทางวินัยท่ีส่ังตามความเห็นหรือมติของคณะกรรมการ
สอบสวนวินัยรายแรง และคําวินิจฉัยใหยกอุทธรณจึงไมชอบดวยกฎหมาย
(อ. 795/2555)
ใช้สําหรบั การบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วนั ท่ี 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่าน้ัน 31
คกู รณี
01 ผูยน่ื คําขอ
02 ผคู ัดคา นคําขอ
03 ผอู ยใู นบังคับหรอื จะอยูในบงั คบั ของคําส่ังทางปกครอง
04 ผซู งึ่ ไดเขา มาในกระบวนการพจิ ารณาทางปกครองเน่ืองจากสิทธิ
ของผูน ั้นจะถกู กระทบกระเทอื นจากผลของคาํ ส่ังทางปกครอง
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. ร่นุ ที่ 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านัน้ 32
สิทธไิ ดรบั สิทธิ มาตรา 13 มาตรา 23
มาตรา 40 แจงวิธีการ คัดคา น และมาตรา 16 และมาตรา 24
เจา หนาที่
อทุ ธรณ สิทธิในการ
มที ป่ี รกึ ษา
หรือผูแทน
มาตรา 37 สทิ ธิได สทิ ธขิ อง สิทธไิ ดรับ มาตรา 27
รบั ทราบ คูกรณี คาํ แนะนํา
เหตุผล
มาตรา 33 สิทธไิ ดร บั สทิ ธิไดรบั มาตรา 28
และมาตรา 39/1 การพิจารณา การพจิ ารณา และมาตรา 29
โดยสมบูรณ
โดยเร็ว สิทธิได 33
สทิ ธิขอดู รบั ทราบ
มาตรา 31 เอกสาร
และมาตรา 32 ขอเทจ็ จรงิ มาตรา 30
และโตแยง
ใช้สําหรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. ร่นุ ที่ 43 วันท่ี 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เท่านนั้
สิทธิคดั คา นความไมเปน กลางของเจา หนาท่ี
การคัดคา นเจา หนาที่ การคดั คา นกรรมการ
ในคณะกรรมการท่ีพิจารณา
“คูกรณคี ัดคา น” หรือ “เจา หนา ทีเ่ หน็ เอง” “คกู รณคี ดั คาน” หรอื “กรรมการเห็นเอง”
เจาหนา ท่ตี อ งหยุดพิจารณาเรื่องไวก อน กรรมการตอ งหยดุ พจิ ารณาเรอ่ื งไวก อ น
และออกจากทป่ี ระชุม
แจงผูบ งั คบั บญั ชาเหนอื ตนขน้ึ ไปชนั้ หนึ่ง แจง ประธานกรรมการทราบ
เพ่อื ใหผ บู งั คบั บญั ชามีคาํ ส่งั เพือ่ ใหประธานเรียกประชุม คกก.
ยุตกิ ารปฏิบัติ ปฏบิ ัติหนา ท่ี ยุติการปฏิบัติ ปฏบิ ัตหิ นา ที่
หนาท่ี ตอไป หนาที่ ตอ ไป
ใช้สาํ หรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นัน้ 34
การกระทําใด ๆ ของเจาหนาที่หรือกรรมการในคณะกรรมการท่ีมีอํานาจ
พิจารณาทางปกครองที่ไดกระทําไปกอนหยุดการพิจารณายอมไมเสียไป เวนแต
เจาหนาที่ผูเขาปฏิบัติหนาที่แทนผูถูกคัดคานหรือคณะกรรมการที่มีอํานาจ
พิจารณาทางปกครองแลวแตกรณีจะเห็นสมควรดําเนินการสวนหนึ่งสวนใด
เสียใหมก ไ็ ด (มาตรา 17)
“หลักความเปนกลาง” ไมใชกับกรณีท่ีมีความจําเปนเรงดวน หากปลอยให
ลาชาไปจะเสียหายตอประโยชนสาธารณะหรือสิทธิของบุคคลจะเสียหาย
โดยไมมที างแกไขได หรือไมมีเจาหนา ทอ่ี ่นื ปฏบิ ัติหนา ที่แทนผนู น้ั ได (มาตรา 18)
ถาปรากฏภายหลังวาเจาหนาที่หรือกรรมการในคณะกรรมการท่ีมีอํานาจ
พจิ ารณาทางปกครองใด ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะตองหามหรือการแตงตั้ง
ไมชอบดวยกฎหมาย อันเปนเหตุใหผูนั้นตองพนจากตําแหนงการพนจาก
ตําแหนงเชนวาน้ี ไมกระทบกระเทือนถึงการใดท่ีผูนั้นไดปฏิบัติไปตามอํานาจ
หนาท่ี (มาตรา 19)
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านั้น 35
สิทธใิ นการมที ปี่ รกึ ษาหรอื ผแู ทน
ในการพิจารณาทางปกครอง คกู รณมี สี ทิ ธิตงั้ ตัวแทน
หากคกู รณตี อ งมาปรากฏตัว ใหกระทําการแทนในการ
พิจารณาทางปกครองได
ตอ หนาเจาหนา ที่ คกู รณี
มีสทิ ธนิ ําทนายความหรอื
ท่ปี รกึ ษาเขา มาในการ
พิจารณาทางปกครองได
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. ร่นุ ท่ี 43 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านั้น 36
การท่ีกฎหมายบัญญัติใหสิทธิแกคูกรณี
ในการนําทนายความหรือที่ปรึกษาเขามา
ในการพิจารณาทางปกครองได ก็ไมไดบัญญัติ
ใหเปนหนาที่ของเจาหนาท่ีหรือคณะกรรมการ
สอบสวนท่ีตองจัดหาทนายความใหดวย
ดงั เชนกรณจี ําเลยในคดีอาญา
ดังนั้น การท่ีคณะกรรมการสอบสวน
ไมไดแจงสิทธิหรือจัดหาทนายความใหแก
ผูฟองคดี จึงไมไดทําใหกระบวนการสอบสวน
ไมชอบดว ยกฎหมาย (อ.682/2556)
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วันท่ี 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เทา่ นั้น 37
สิทธิท่ีจะไดรบั คําแนะนํา
จากเจาหนา ท่ี
เจา หนาท่ีตองแจงสิทธแิ ละหนา ที่ เจา หนาท่ตี อ งแนะนําใหผ ูยืน่ คาํ ขอ
ในกระบวนการพิจารณา ดาํ เนนิ การใหถ ูกตอ ง และใหย ื่น
ทางปกครองใหคูกรณีทราบ เอกสารเพม่ิ เติมไดภายในกําหนด
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วนั ท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นนั้ 38
สทิ ธไิ ดรบั
การพจิ ารณา
โดยสมบรู ณ
ในการพิจารณาทาง เจาหนาท่ีตองพิจารณา
พ ย า น ห ลั ก ฐ า น ที่ จํ า เ ป น
ปกครอง เจาหนาที่อาจ แกการพสิ จู นข อเท็จจรงิ
ตรวจสอบขอเท็จจริง - แสวงหาพยานหลักฐาน
ไดตามความเหมาะสม ทกุ อยา งทเ่ี ก่ียวของ
ในเร่ืองนั้นๆ โดยไมตอง
- รับฟงพยานหลักฐาน
ผูกพันอยูกับคําขอหรือ ของคกู รณี
พ ย า น ห ลั ก ฐ า น ข อ ง
คูกรณี - ข อ ข อ เ ท็ จ จ ริ ง ห รื อ
ความเห็นจากผูเกยี่ วของ
- ขอเอกสาร
- ออกไปตรวจสถานท่ี
ใช้สําหรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วนั ที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เทา่ น้ัน 39
รบั ทราบ
คาํ สง่ั ตอ ง
กระทบ ใหโ อกาส
สิทธิ
!!!
ในกรณีที่คําสั่งทางปกครองอาจกระทบถึงสิทธิของคูกรณี โตแ ยง
เจาหนาที่ตองใหคูกรณีมีโอกาสท่ีจะไดทราบขอเท็จจริง
อยางเพียงพอ และมีโอกาสไดโตแยงและแสดงพยานหลักฐาน 40
ของตน (มาตรา 30)
ใชส้ ําหรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ท่ี 43 วนั ที่ 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ นั้น
1 เม่อื มีความจําเปนรบี ดวนหากปลอ ยใหเ นนิ่ ชาไปจะกอ ใหเ กดิ ความเสยี หาย
อยางรา ยแรงแกผหู น่งึ ผูใด หรือจะกระทบตอประโยชนสาธารณะ
2 เมอื่ จะมีผลทําใหระยะเวลาท่ีกฎหมายหรือกฎกาํ หนดไวใ นการทาํ
คาํ สง่ั ทางปกครองตองลาชาออกไป
3 เมอ่ื เปน ขอเท็จจรงิ ทีค่ ูกรณนี น้ั เองไดใหไวใ นคาํ ขอ คาํ ใหการ หรือคาํ แถลง
4 เมอ่ื โดยสภาพเหน็ ไดชัดในตัววา การใหโอกาสดังกลาวไมอาจกระทําได
5 เมื่อเปนมาตรการบังคับทางปกครอง
6 กรณีอ่ืนตามท่ีกําหนดในกฎกระทรวง
หามมใิ หเ จาหนาท่ีใหโอกาสตามวรรคหนงึ่ ถา จะกอใหเกิดผลเสยี หาย 41
อยางรายแรงตอ ประโยชนส าธารณะ
ใช้สาํ หรับการบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วันที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านัน้
กฎกระทรวง ฉบบั ที่ 2 (พ.ศ. 2540)ฯ
• การบรรจุ การแตงต้งั การเล่ือนข้นั เงนิ เดอื น การสัง่ พกั งาน หรือสงั่ ใหออกจากงาน
1 ไวกอ น หรอื การใหพนจากตาํ แหนง
2 • การแจง ผลการสอบหรอื การวัดผลความรหู รือความสามารถของบคุ คล
3 • การไมอ อกหนังสอื เดนิ ทางสาํ หรบั การเดนิ ทางไปตางประเทศ
4 • การไมตรวจลงตราหนังสอื เดินทางของคนตา งดา ว
5 • การไมอ อกใบอนุญาตหรือการไมต ออายุใบอนญุ าตทํางานของคนตางดาว
6 • การสัง่ ใหเนรเทศ 42
ใช้สําหรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. ร่นุ ที่ 43 วันท่ี 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ น้ัน
• นายอําเภอไดตรวจสอบสถานบริการแลวพบวามีการกระทําความผิดตาม
กฎหมาย จึงไดมีหนังสือแจงผูฟองคดีวา จะเสนอใหผูวาราชการจังหวัด สั่งเพิกถอน
ใบอนุญาต โดยระบุวา หากประสงคจะโตแยงหรือแสดงพยานหลักฐาน ใหแจง
ภายในวันรุงข้ึน ซ่ึงในวันเดียวกันนั้น ผูวาราชการจังหวัดก็ไดมีคําสั่งเพิกถอน
ใบอนญุ าตตั้งสถานบรกิ ารของผูฟอ งคดี
• แมวาพ.ร.บ. วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 จะไมไดกําหนดระยะเวลา
ในการใหโอกาสแกคูกรณีไดโตแยงแสดงพยานหลักฐานไวอยางชัดแจงก็ตาม
แตผูพิจารณาออกคําสั่งทางปกครองก็ควรกําหนดระยะเวลาที่เหมาะสมและ
เพียงพอที่คูกรณีจะไดรวบรวมพยานหลักฐานและโตแยงประเด็นในเรื่องพิพาท
ดังน้ัน การกําหนดใหผูฟองคดีไดมีโอกาสโตแยงแสดงพยานหลักฐานเพียงแควันเดียว
ถือวาเปนระยะเวลาท่ีเรงรัดจนเกินไปและไมมีความเหมาะสมตามสภาพ
ความเปนจริง อันกอใหเกิดความไมเปนธรรม ซึ่งถือไดวายังมิไดใหโอกาสผูฟองคดี
ไดรับทราบขอเท็จจริงและมีโอกาสไดโตแยงแสดงพยานหลักฐานของตนได
อยางเพียงพอและเปน ธรรม (อ. 825/2558)
ใช้สาํ หรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วันที่ 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เท่าน้นั 43
เมื่อกรณีมีมูลกลาวหาวาขาราชการตํารวจกระทําผิดวินัย ใหสอบสวนเพื่อใหไดความจริง
และความยุติธรรมโดยไมชักชา โดยจะตองแจงขอกลาวหาและสรุปพยานหลักฐานท่ีสนับสนุน
ขอกลาวหาเทาท่ีมีใหผูถูกกลาวหาทราบ และตองใหโอกาสผูถูกกลาวหาช้ีแจงและนําสืบแกขอ
กลาวหา
แตหากขาราชการตํารวจผูน้ัน กระทําผิดฐานละทิ้งหนาท่ีราชการติดตอในคราวเดียวกัน
เปนเวลาเกินกวาสิบหาวัน การกระทําดังกลาวเปนกระทําผิดวินัยอยางรายแรง และเปนความผิด
ที่ปรากฏชัดแจง ซ่ึงผูบังคับบัญชาผูมีอํานาจไดดําเนินการสืบสวนขอเท็จจริงแลว เห็นวาไมมี
เหตุผล อันสมควรหรือมีพฤติการณอันแสดงถึงความจงใจไมปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ
ผูบังคับบัญชาผูมีอํานาจจะสั่งลงโทษปลดออก หรือไลออก โดยไมตองสอบสวนก็ได กลาวคือ
ผูบังคับบัญชาผูมีอํานาจสามารถดําเนินการสืบสวนขอเท็จจริง โดยไมจําตองใหโอกาส
ผูถ กู กลาวหาไดท ราบเร่อื งทถี่ ูกกลา วหา หรือใหโอกาสผูถูกกลาวหาช้ีแจงและนําสืบแกขอกลาวหา
กอนจะมีการออกคําส่ังลงโทษดังกลาวแตอ ยางใดไม
แตอยางไรก็ดี การสืบสวนขอเท็จจริงดังกลาวจักตองรวบรวมขอเท็จจริง พฤติการณ
พยานหลกั ฐานและพยานแวดลอม รวมทั้งบุคคลท่ีใกลชิดกับผูฟองคดี เพ่ือสืบสวนโดยใหไดความ
จริงเปนท่ียุติวา ผูถูกกลาวหาละทิ้งหนาท่ีราชการ ไมมาปฏิบัติหนาที่ราชการ และไมสามารถ
ติดตามตัวไดนับต้ังแตวันแรกที่ไมมาปฏิบัติหนาที่ราชการและตองเปนเวลาติดตอในคราว
เดียวกัน เกินกวาสิบหาวัน โดยหาสาเหตุของการละทิ้งหนาท่ีราชการวามีเหตุผลสมควรหรือไม
หรือมีพฤตกิ ารณอ นั แสดงถงึ ความจงใจไมปฏิบตั ิตามระเบียบของทางราชการหรือไม
(คาํ พิพากษาศาลปกครองสงู สดุ ที่ อ. 808/2558) 44
ใชส้ าํ หรับการบรรยายหลกั สตู ร ฝอ.ตร. รุ่นที่ 43 วันท่ี 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านน้ั
สิทธิในการขอดเู อกสาร
คูกรณีมสี ทิ ธขิ อตรวจดเู อกสารทจ่ี ําเปนตอ งรเู พ่อื การโตแยง หรอื ชแ้ี จง
หรอื ปองกันสิทธิของตนได แตถ ายงั ไมไดท ําคาํ สั่งทางปกครองในเร่ืองนั้น
คูก รณไี มม สี ิทธขิ อตรวจดูเอกสารอันเปน ตนรา งคําวนิ ิจฉยั
เจา หนาทอ่ี าจไมอ นญุ าตใหตรวจดูเอกสารหรือพยานหลกั ฐานได
ถาเปน กรณที ี่ตอ งรกั ษาไวเปนความลับ
ใชส้ าํ หรบั การบรรยายหลกั สูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ท่ี 43 วันท่ี 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านนั้ 45
สทิ ธิไดร ับการพจิ ารณาโดยเรว็
เพื่อประโยชนในการอํานวยความสะดวกแกประชาชน ความประหยัดและ
ความมีประสิทธิภาพในการดําเนินงานของรัฐ ใหคณะรัฐมนตรีวางระเบียบ
กําหนดหลักเกณฑและวิธีการเพื่อใหเจาหนาที่กําหนดเวลาสําหรับการพิจารณา
ทางปกครองข้ึนไวตามความเหมาะสมแกกรณี ท้ังนี้ เทาท่ีไมขัดหรือแยงกับ
กฎหมายหรอื กฎในเร่อื งนัน้
ในกรณีท่ีการดําเนินงานในเรื่องใดจะตองผานการพิจารณาของเจาหนาท่ี
มากกวาหน่ึงราย เจาหนาที่ ที่เกี่ยวของมีหนาที่ตองประสานงานกันในการ
กาํ หนดเวลาเพ่อื การดาํ เนนิ งานในเรื่องนน้ั
การออกคําสง่ั ทางปกครองเปนหนังสือในเร่ืองใด หากมิไดมีกฎหมายหรือกฎ
กําหนดระยะเวลาในการออกคําส่ังทางปกครองในเรื่องนั้นไวเปนประการอื่น
ใหเจาหนาท่ีออกคําส่ังทางปกครองน้ันใหแลวเสร็จภายในสามสิบวันนับแต
วันทีเ่ จา หนาทีไ่ ดรบั คาํ ขอและเอกสารถูกตอ งครบถวน
ใช้สาํ หรับการบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วันท่ี 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่านั้น 46
สทิ ธไิ ดร บั ทราบเหตผุ ลของการวนิ ิจฉัยสั่งการ
คาํ สั่งทางปกครองจะตอ งแสดงเหตผุ ลของคําส่งั ไวเพื่อความ
ชัดเจนและเพ่ือประโยชนใ นการโตแ ยง คาํ ส่ัง เวน แตเ ปนกรณที ่ี
กฎหมายกาํ หนดยกเวน วาไมต องใหเ หตุผล
ใช้สําหรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วันที่ 7 กมุ ภาพันธ์ 2565 เท่าน้ัน 47
สิทธไิ ดรบั แจง วธิ ีการอุทธรณโ ตแ ยง
กฎหมายไดก าํ หนดข้นั ตอนการอุทธรณค าํ ส่ังทางปกครองไว ดงั นัน้ เจา หนาท่ี
จึงตอ งระบกุ รณีทีอ่ าจอทุ ธรณโ ตแยง การยืน่ อทุ ธรณ และระยะเวลาการ
อุทธรณไวใ นคําสัง่ ทางปกครองดวย
(คาํ แนะนําในการแจงสทิ ธิอุทธรณข องคณะกรรมการ
วิธีปฏบิ ัตริ าชการทางปกครอง ท่ี 1/2540)
ใชส้ ําหรบั การบรรยายหลักสตู ร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วันที่ 7 กมุ ภาพนั ธ์ 2565 เท่านนั้ 48
รปู แบบและเนอ้ื หาของคําสงั่ ทางปกครอง
• คําส่ังทางปกครองที่ทําเปนหนังสืออยางนอยตอง
ระบุ วัน เดือนและปท่ีทําคําสั่ง ช่ือและตําแหนง
ของเจาหนาท่ีผูทําคําส่ัง พรอมท้ังมีลายมือช่ือของ
เจาหนา ท่ีผทู าํ คําส่ังนั้น (มาตรา 36)
• คําส่ังทางปกครองที่ทําเปนหนังสือและการยืนยัน
คําสั่งทางปกครองเปนหนังสือตองจัดใหมีเหตุผล
ไวดวย และเหตุผลน้ันอยางนอยตองประกอบดวย
ขอเท็จจริงอันเปนสาระสําคัญ ขอกฎหมายท่ีอางอิง
ขอพิจารณาและขอสนับสนุนในการใชดุลพินิจ
(มาตรา 37 วรรคหนงึ่ )
ใช้สําหรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รนุ่ ที่ 43 วนั ที่ 7 กุมภาพนั ธ์ 2565 เทา่ น้นั 49
ผลของคําสงั่ ทางปกครอง
คําสงั่ ทางปกครองใหม ผี ลใชยนั ตอบุคคลตัง้ แต
ขณะทีผ่ ูน ั้นไดร ับแจง เปนตนไป
การแจง เปนหนงั สอื ใหส งหนังสอื แจง ตอผูนั้น
หรือถาไดส งไปยงั ภูมิลาํ เนาของผูนัน้ ก็ใหถ อื วา
ไดร ับแจงตง้ั แตในขณะที่ไปถงึ
วธิ แี จง ไดแก นําไปสง สง ทางไปรษณยี ตอบรบั
และประกาศหนงั สือพมิ พ
ใชส้ าํ หรับการบรรยายหลักสูตร ฝอ.ตร. รุ่นท่ี 43 วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 เท่านั้น 50