สถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดนนทบุรี 1.เกาะเกร็ด เกิดข้ึนจากการขดุคลองลดัแมน่ ้า เจา้พระยา ตรงส่วนที่เป็นแหลมในสมยัสมเด็จพระเจา้อยหู่วัทา้ยสระแห่งกรุงศรี อยุธยาเมื่อปี พ.ศ. 2265 เรียกว่าคลองลดัเกร็ดนอ้ย(คลองลดัเกร็ดใหญ่อยทู่ ี่จงัหวดัปทมุธานีขดุลดัแม่น้า เจา้พระยาตอนทา้ย อ าเภอสามโคก มาทางใต้ถึงคลองขวางเชียงราก) ต่อมากระแสน้า เปลี่ยนทิศทางแรงข้นึเซาะตลิ่งทา ให้คลองขยายแผน่ดินตรง แหลมจึงกลายเป็นเกาะ ชื่อเดิมเรียกว่า เกาะศาลากุน เกาะเกร็ดมีความเจริญมาต้งัแต่สมยักรุงศรีอยธุยา สังเกตไดจ้ากวดัวาอาราม ต่าง ๆ บนเกาะส่วนใหญ่เป็ นศิลปะในสมัยอยุธยา แต่มาร้างเมื่อพม่ามายึดกรุงศรีอยุธยา หลังจากพระเจ้าตากสินมหาราชทรงกอบ กูเ้อกราชได้จึงโปรดฯ ให้ชาวมอญที่เขา้รีตมาต้งัถิ่นฐานที่นี่ชาวมอญบนเกาะเกร็ดมีท้งัที่เขา้มาในสมยักรุงธนบุรีและสมยั รัชกาลที่ 2 ต่อมาเมื่อต้งัอา เภอปากเกร็ดข้ึน เกาะศาลากุนจึงมีฐานะเป็นตา บลและเรียกว่าตา บลเกาะเกร็ด เกาะน้ีจึงมีชื่อว่า เกาะ เกร็ด การคมนาคมบนเกาะใช้รถจักรยาน และรถจักรยานยนต์ สถานที่น่าสนใจบนเกาะเกร็ด ไดแ้ก่วดัปรมยัยิกาวาส (วดัปากอ่าว) เดิมมีชื่อว่าวดัปากอ่าว ชาวมอญเรียกเพียะมู่ ฮะเติ้ง สร้างโดยชาวมอญที่อพยพมาในรัชสมยัสมเด็จพระเจา้ตากสินมหาราช เมื่อปีพ.ศ.2317 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้ปฏิสังขรณ์วดัใหม่และพระราชทานนามว่าวดัปรมยัยิกาวาส หมายความว่าวดัของพระบรมอยัยกิา ในวดัน้ีมีสิ่งที่น่าชมอยู่ หลายอยา่ง ท่าเรือหนา้วดัมีปราสาทไมห้ ้ายอด ซ่ึงเคยเป็นที่ต้งัเหม (โลงศพมอญ)ของอดีตเจา้อาวาส พระอุโบสถ ตกแต่งดว้ย วัสดุน าเข้าจากอิตาลี ศิลปะยุโรปแบบพระราชนิยมในสมัยรัชกาลที่ 5 แต่ยงัทรงรักษาธรรมเนียมเดิม โดยรับสั่งใหท้ ี่นี่ริเริ่มการ สวดเป็ นภาษามอญ ปัจจุบันเป็ นวัดเดียวที่ยังเก็บรักษาพระไตรปิ ฎกภาษามอญไว้ พระประธานในพระอุโบสถเป็นพระปางมาร วิชัย ฝี พระหัตถ์ของพระองค์เจ้าประดิษฐานวรการ ผู้ที่สร้างพระสยามเทวาธิราช รัชกาลที่ 5 ทรงยกยอ่งว่าพระประธานองคน์ ้ี งามด้วยพระพักตร์ดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนจริง ภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็ นแบบไทยประยุกต์ เอกลักษณ์ของมอญอีกอย่างหนึ่งใน วดัน้ีคือ พระมหารามญัเจดีย์จา ลองแบบมาจาก พระธาตุเจดียม์ุเตา เมืองหงสาวดีอยดู่า้นเหนือของวดัติดแม่น้า เจา้พระยา
สถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดนนทบุรี 2.วัดปราสาท วัดปราสาท นนทบุรีแห่งน้ีเป็นวดัเก่าแก่ที่สันนิษฐานวา่สร้างในสมยัสมเด็จพระเจา้ปราสาททอง ซ่ึงมี อายุกว่า 400 ปี เลยทีเดียว ภายในวัดมีความน่าสนใจหลายอย่างที่จะท าให้คนรักพระธรรม ศิลปวัฒนธรรมต้อง หลงใหลตามเรามาชมความสวยงามของ โบสถ์มหาอุด ที่หาชมได้ยาก อะเดย์อ๊อฟจะชวนเราเดินเที่ยวไปด้วยกัน ปัจจุบนักรมศิลปากรข้ึนทะเบียน วัดปราสาท เป็ นโบราณสถานแห่งชาติ จุดเด่นที่ต้องมนต์ คือ อุโบสถของวัด ซึ่งเป็ น โบสถ์มหาอุด โดยลกัษณะจะมีผนงัดา้นขา้งท้งัสองไม่มีหนา้ต่าง ด้านหน้ามีประตูทรง ปราสาทประดบัลวดลายปูนป้ัน ดา้นหลงัมีเพียงช่องแสงเลก็ๆ หลงัพระประธานเท่าน้นั
สถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดนนทบุรี 3.วัดปรางค์หลวง วัดปรางค์หลวง สร้างขนึ้เมื่อ พ.ศ. 1890 (แต่หนงัสือประวัติวัดทวั่ราชอาณาจักร เล่ม 2 ของ กรมศาสนา ระบุว่าสร้างขึ้น พ.ศ. 1908) สร้างในสมัยของพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) แห่ง กรุงศรีอยุธยาตอนต้น โดยกษัตริย์หรือผู้มีบรรดาศักดิ์ในสมัยนั้นสร้างขึ้น เดิมชื่อ วัดหลวง ต่อมาในสมัยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชริญาณวโรรส ได้มาเห็นองค์พระปรางค์ที่ สร้างขึ้นไว้พร้อมกับการสร้างวัด จึงได้เปลี่ยนนามวัดเป็น วัดปรางค์หลวง มีโบราณสถานส าคัญ เป็นศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ดังนี้พระปรางค์สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นพร้อมกับวัด รูปแบบ ศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ตั้งอยู่ระหว่างพระอุโบสถกับพระวิหารน้อย ลักษณะองคก่ออิฐสอ ดินยอดเจ็ดชั้น ย่อมุมไมส้ ิบ ประดับลายปูนป้ัน เรือนธาตุมีซุ้มจรน าทั้ง 4 ทิศ ประดิษฐาน พระพุทธรูปยืน เป็นพระพุทธรูปปูนป้ันลงรักปิดทองมีร่องรอยการบูรณะในสมัยหลัง สภาพองค์
ปรางค์ช ารุดมาก มีการขุดเจาะกลางเรือนธาตุเห็นเป็นกรุอยู่ภายในแต่ไม่มีชอ่งทางขึ้นสู่ยอด ปรางค์ผนังเรือนธาตุเปน็ผนังทึบไม่มีประตูส่วนฐานช ารุดลงเกือบทั้งหมดจนมองไม่เห็นลักษณะ เดิม หลวงพ่ออู่ทอง พระพุทธรูปประธานในพระอุโบสถหลังเก่าที่ถูกทุบท าลายไปโดยไม่รู้จักคุณค่า เมื่อ พ.ศ. 2536 เป็นนพระพุทธรูปปูนป้ันศิลปกรรมแบบอู่ทอง พุทธลักษณะงดงามเป็นที่เคารพ นับถือของคนในชุมชนมาก มีการจัดงานนมัสการและปิดทองประจ าปีในเดือนมิถุนายน ใบเสมา มี ขนาดใหญ่ท าจากหินชนวน (คนในชุมชนเรีบกว่า หินกาบ) ไม่มีลวดลาย ปักลงบนดินเป็นลักษณะ ใบเสมา สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้น เดิมมีรายรอบพระอุโบสถหลังเก่าอยู่จ านวนหลายใบ แต่ถูก ทุบท าลายไปพร้อมกับอุโบสถหลังเก่า ปัจจุบันเหลือเพียง 1 ใบเท่านั้น พระวหิารน้อย ตั้งอยู่ ทางด้านหน้าพระปรางค์ตามประวัติว่าสร้างขึ้นพรอ้มกับปรางค์สภาพปัจจุบันปรากฎลักษณะเป็น อาคารไม้ก่ออิฐถือปูน จ านวน 2 หลัง ช ารุดมากเหลือเพียงผนังมีต้นไม้ขึ้นปกคลุม ส าหรับปูชนีย วัตถุมีประธานในอุโบสถ นามว่า หลวงพ่ออู่ทอง เป็นพระพุทธรูปปูนป้ันปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตัก 9 คืบ มีความศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านมาสักระบูชามีประธานในอุโบสถ นามว่า หลวงพ่ออทู่อง เป็นพระพุทธรูปปูนป้ันปิดทอง ปางมารวิชัย หน้าตกั 9 คืบ มีความศักดิ์สิทธิ์ชาวบ้านมาสักระบูชา
สถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดนนทบุรี 4.วดัก ู้ อยรู่ ิมฝั่งแม่น้า เจา้พระยา ตา บลบางพูด ในซอยปากเกร็ด 3 บริเวณริมน้า หนา้วดัเป็นจุดที่เรือพระที่นงั่ของสมเด็จพระ นางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระมเหสีในรัชกาลที่ 5 ประสบอบุตัิเหตุเรือล่มสิ้นพระชนม์วดัน้ีสร้างในสมยัพระเจา้กรุงธนบุรีเป็น ศิลปะแบบมอญ ภายในโบสถห์ลงัเก่ามีภาพจิตรกรรมฝาผนงัแบบมอญ เป็นภาพเขียนสีน้า มนัเรื่องราวพุทธประวัติ วิหาร ประดิษฐานพระนอนองคใ์หญ่ดา้นขา้งวิหารเป็นที่เก็บเรือพระที่นงั่ของพระนางเจา้สุนนัทากุมารีรัตน์ที่อบั ปางซ่ึงชาวบา้นไดกู้้ ข้ึนมา มีพระตา หนกัที่สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานที่สมเดจ็พระนางเจา้สุนนัทากุมารีรัตน์สิ้นพระชนม์และเมื่อคราวเรือล่มได้ อญัเชิญพระศพมาไวท้ี่วดัน้ีชวั่คราว มีศาลพระนางเรือล่ม (พระนางเจา้สุนนัทากุมารีรัตน์) ซ่ึงจา ลองแบบจากศาลาจตุรมขุของ พระที่นงั่ ไอศวรรยท์ ิพยอาสน์ที่พระราชวงับางปะอิน
สถานที่ท่องเที่ยวใน จังหวัดนนทบุรี 5. วัดชลอ ประวัติของวัดไม่ปรากฏแน่ชัด โดยข้อมูลจากสำนักศิลปากรที่ 2 สุพรรณบุรี กล่าวว่า วัดนี้สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยกรุงศรี อยุธยาตอนปลาย ราวปี พ.ศ. 2275 ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ พระองค์เสด็จทางชลมารคมาตามลำน้ำเจ้าพระยาผ่าน จังหวัดนนทบุรีเรื่อยมาทางคลองลัด ปัจจุบันเรียกว่า คลองบางกรวย พระองค์ทรงเห็นว่าที่ตรงนี้น่าจะมีการสร้างวัดขึ้นมาสักวัด หนึ่ง เนื่องจากบริเวณนั้นในอดีตเคยมีเรือสำเภาจากเมืองจีนล่มและจมลง มีลูกเรือเสียชีวิตจำนวนมาก มีความเชื่อว่าเป็นที่อาถรรพ์ ในระหว่างการก่อสร้างมีอุปสรรคนานัปการ จึงทรงเสี่ยงสัตยาธิษฐานต่อเทพยดา และมีพระสุบินนิมิตไปว่า ชายจีนชรามากราบทูล ว่าต้องสร้างโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภาเพื่อการแก้เคล็ด จึงทรงสร้างโบสถ์เป็นรูปเรือสำเภา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศทรง พระราชทานนามวัดว่า วัดชลอ ส่วนอีกประวัติกล่าวว่า คำว่า ชะลอ ชุมชนในแถบนี้เล่าว่า อาจมาจากการที่เมื่อครั้งอดีต คลองบาง กรวยและคลองบางกอกน้อย ที่ขนาบอยู่ทางทิศเหนือ ทิศตะวันออกมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว เกิดอุบัติเหตุทางเรือบ่อยครั้ง จึงมีการ เขียนป้ายว่า ช้ารอ ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น ชลอ ดังในปัจจุบัน วัดชะลอถูกปล่อยให้รกร้างมาโดยตลอด มีพระภิกษุมาจำพรรษาใน รัชกาลที่ 3 หรือรัชกาลที่ 4 สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด คือ โบสถ์เรือหงส์ใหญ่ที่สุดในโลก สร้างในปี พ.ศ. 2526 โดยหลวงพ่อวัดชลอ หรือท่านพระครูนนทปัญญาวิมล ได้เล่าถึงนิมิตเห็นเรือหงส์ลอยมาอยู่หน้าโบสถ์หลังเก่า (โบสถ์ที่มีลักษณะเหมือนเรือสำเภา) จึงเริ่ม ลงมือก่อสร้าง ส่วนอุโบสถหลังเก่า หาหน้าไปทางทิศตะวันออก ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยเป็นประธานของอาคาร ฐานอุโบสถมีลักษณะแอ่นโค้ง ที่เรียกว่า แบบท้องเรือสำเภา โดยรอบมีฐานเสมาอยู่ทั้ง 8 ทิศ เมื่อพิจารณาจากรูปแบบ สถาปัตยกรรม สันนิษฐานว่าอุโบสถหลังนี้คงสร้างขึ้นสมัยอยุธยาตอนปลายและมีการบูรณะเพิ่มเติมในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น