The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ธรรมชาติและพลังของภาษา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by poohsunnyny2507, 2020-04-24 03:41:31

ธรรมชาติและพลังของภาษา

ธรรมชาติและพลังของภาษา

สวสั ดคี ่ะ

ครูผูส้ อนภาษาไทย
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปี ท่ี 5
ครู วราลี จนิ ดาศิริ

ธรรมชาตแิ ละพลงั ของภาษา

ภาษาใช้เสยี งส่อื ความหมาย ซงึ่ ต้องประกอบดว้ ยหนว่ ยเสียง
( เป็นหนว่ ยในภาษา )และความหมาย ความหมายของภาษามี ๒ อยา่ ง คือ
๑.ความหมายอยา่ งกวา้ ง

ภาษา หมายถงึ การแสดงออกเพอื่ สอ่ื ความหมายโดยมีระบบกฎเกณฑ์เข้าใจกัน
ระหวา่ งสองฝ่าย อาจจะเป็นการแสดงออกทางเสียง ท่าทาง หรือสัญลกั ษณต์ ่าง และ
อาจเปน็ การสอ่ื ความหมายระหว่างมนษุ ย์หรอื ระหวา่ งสัตว์ก็ได้

๒ ) ความหมายอย่างแคบ
ภาษา หมายถึง ถ้อยคาทีม่ นุษยใ์ ชส้ อื่ ความหมาย

๒. เสียงกบั ความหมายมคี วามสัมพนั ธ์กนั มีสาเหตุเกิดจากการเลียนเสียงจากธรรมชาติ

๑ ) เกดิ จากการเลียงเสียงจากสิง่ ต่าง ๆ เช่น เพล้ง , โครม , ปงั
๒ ) เกิดจากการเลียนเสยี งของสัตว์ เช่น แมว , ต๊กุ แก
๓ ) เกดิ จากการเลยี นเสียงจากสิ่งส่ิงนัน้ เชน่ หวดู , ออด
๔ ) เกิดจากเสียงสระหรือพยัญชนะท่มี ีความสมั พันธก์ บั ความหมาย เชน่ เซ , เป๋ มคี วามหมายว่า ไมต่ รง ( แตเ่ ป็นเพียงส่วนน้อยในภาษาเท่านน้ั )
๕ ) ภาษาถิ่นบางถิ่นจะมีเสยี งสัมพนั ธก์ ับความหมาย เช่น สระเอาะ หรือ ออ ภาษาถิน่ บางถ่ินจะบอกความหมายวา่ เป็นขนาดเล็ก ดังเชน่ จอ่ วอ่

หมายถึง เล็ก , โจโ่ ว่ หมายถึง ใหญ่

๓. เสียงกบั ความหมายไม่สัมพนั ธ์กนั

ตวั อย่าง
เด็ก น้อย เดิน เสียงจะไม่สัมพันธก์ ัน แต่เราก็รู้วา่
“ เด็ก ” หมายถึง คนทีม่ อี ายนุ ้อย “ น้อย ” หมายถงึ เล็ก
“ เดนิ ” หมายถึง การยกเทา้ ก้าวไป เป็ นการตกลงกันของคนที่ใชเ้ สียงน้ันๆวา่ จะให้มคี วามหมายเป็ นอยา่ งไร

๔. หน่วยในภาษาประกอบกนั เป็ นพยางค์ทใ่ี หญ่ขึน้

• หนว่ ยในภาษา หมายถงึ สว่ นประกอบของภาษา ได้แก่ เสยี ง คา และประโยค ซึ่งเราสามารถนาเสยี งท่มี ีอย่อู ยา่ งจากดั มาสรา้ งคาได้เพ่มิ ขึ้น และนาคา
มาสรา้ งเป็นประโยคตา่ ง ๆ ได้มากขน้ึ
เชน่ ฉนั เดินเลน่ อาจจะเพิ่มคาเป็น “ ฉันเดนิ เลน่ ที่สนามหนา้ บา้ น” เปน็ ตน้

๕. ภาษามกี ารเปลยี่ นแปลง การเปลยี่ นแปลงของภาษามสี าเหตุ ดงั นี้

๑. การพูดจาในชีวติ ประจาวัน
– การกร่อนเสียงพยางคห์ น้า เชน่ หมากขาม เป็ น มะขาม สาวใภ้ เป็ นสะใภ้
– ตัวอัพภาส เป็ นการตดั เสียง หรือ การกร่อนจากตวั ทซ่ี า้ กัน เช่น ยับยับ เป็ น ยะยบั วบิ วบิ เป็ น วะวบิ ร่ีร่ี เป็ น ระร่ี
– การกลมกลืนของเสียง เช่น อย่างไร เป็ น ยังไง ดิฉัน เป็ น เด๊ียน อนั หน่ึง เป็ น อน่ึง

๒ ) อิทธิพลของภาษาอื่น

• ภาษาอังกฤษจะมีอิทธิพลมากทส่ี ุด มกี ารยมื คา และประโยคมาใช้ทาให้เป็ นเกิดเป็ นสานวนต่างประเทศ และมีการดดั แปลงเพื่อใหเ้ ขา้ กับ
ลักษณะภาษาไทย

๓ ) ความเปลีย่ นแปลงของสิ่งแวดล้อม

เม่ือมสี ิ่งใหม่ ๆ เกิดขึน้ กระบวนการความคิดใหม่ ๆ เกดิ ขึน้ เป็ นสาเหตุใหเ้ กิดคาศัพทใ์ หม่ ๆ
ตามมามากขนึ้ ตามยุคตามสมยั ปัจจุบนั สว่ นคาท่ีใชม้ าแตเ่ ดมิ อาจจะสูญหายไปซึ่งคนสมยั ใหม่
อาจจะไม่รู้จกั เช่น ดงข้าว หรือ เกดิ ศพั ทใ์ หม่แทนของเกา่ เช่น ถนน เป็ น ทางด่วน บ้าน เป็ น
คอนโด ทาวเฮาส์ ฯลฯ

๔ ) การเรียนภาษาของเดก็

• ภาษาของเดก็ เมือ่ เริ่มเรียนรู้ภาษาเดก็ จะปรุงเป็ นภาษาของเดก็ เอง ซึ่งไมเ่ หมอื นกับภาษาของผู้ใหญ่ ใชค้ าไมต่ รงกัน ออกเสียงไม่ตรงกัน
ความหมายจงึ ไม่ตรงกับผู้ใหญ่เมื่อเดก็ เติบโตขนึ้ ก็จะสืบทอดภาษาตอ่ ไปได้อกี ทาใหภ้ าษาเปลี่ยนแปลงไปได้

ลกั ษณะทคี่ ล้ายคลงึ กนั และแตกต่างกนั ของภาษา

ลักษณะท่ีคล้ายคลึงกัน
๑ ) ใช้เสียงส่ือความหมาย มที ัง้ เสียงสระและเสียงพยญั ชนะ
๒ ) มีการสร้างศัพทข์ ึน้ ใหม่ ไดแ้ ก่ คาประสม , คาซา้
๓ ) มีสานวน มีการใช้คาในความหมายเดียวกัน
๔ ) มคี าชนิดตา่ ง ๆ เชน่ คานาม คาสรรพนาม คากริยา และคาขยาย
๕ ) สามารถขยายประโยคเพอื่ ให้ยาวออกไปเรื่อย ๆ ได้
๖ ) มีการแสดงความคดิ ต่าง ๆ เช่น ประโยคคาถาม ประโยคคาตอบ ประโยคปฏิเสธ ประโยคคาส่ัง
๗ ) สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาลักษณะทแ่ี ตกตา่ งกัน

๗. ลกั ษณะของภาษาในการส่ือสาร

๑ ) วัจนภาษา คอื ภาษาท่ใี ชถ้ อ้ ยคาในการส่ือสาร
๒ ) อวจั นภาษา คอื ภาษาทไี่ มใ่ ชถ้ อ้ ยคาในการสื่อสาร ไดแ้ ก่
– กริยา ทา่ ทาง สีหน้า สายตา เสียง ( ปริภาษา )
– สัญญาณ สัญลักษณ์ ( รวมถงึ อักษร )
– การสัมผัส ( ผัสภาษา / สัมผัสภาษา )
– ลักษณะทางกายภาพ ( ภาษาวตั ถุ / กายภาษา )
– ระยะห่าง ( เทศภาษา )
– เวลา ( กาลภาษา )
– กลิ่น รส ภาพ สี ลักษณะตัวอกั ษร

ลกั ษณะของภาษาไทยทคี่ วรสังเกต

๑. นิยมใช้คาสัมผัสคล้องจองกัน
๒. มคี าทแ่ี สดงฐานะบุคคลตามวัฒนธรรมไทย คือพระมหากษัตริย์ พระภกิ ษุ พระบรมวงศานุวงศ์ สุภาพชน ซึง่ การใชภ้ าษาก็จะแตกต่าง
ลดหล่ันกันตามฐานะของแตล่ ะบุคคล
๓.ภาษาไทยใช้คาไทยแท้ ซ่ึงเป็ นพยางคเ์ ดยี ว ต่อมาได้รับอทิ ธิพลจากภาษาอ่ืน จงึ เปลี่ยนแปลงการใชค้ า แต่ยังคงใช้คาไทยแทใ้ นภาษาพูด
เชน่ บุตร ใช้แทน ลูก บิดามารดา ใชแ้ ทน
พ่อ , แม่ เป็ นตน้
๔. ภาษาไทย แสดงลักษณะเฉพาะเก่ียวกับรสอาหาร เชน่ รสหวาน รสขม รสจืด
๕. ภาษาไทยมีคาทม่ี คี วามหมายเฉพาะส่ือสารเป็ นที่เขา้ ใจ

พลงั ของภาษา

ภาษาช่วยให้มนุษย์รู้จกั คดิ โดยแสดงออกผ่านทางการพูด การเขยี น และการกระทา
ผลจากการคดิ ถ้าไม่มภี าษามนุษย์จะคดิ ไม่ได้ ถ้ามนุษย์มภี าษาน้อย มคี าศัพท์น้อย
ความคดิ ของมนุษย์ย่อมแคบไม่กว้างไกล
ผู้ทใี่ ช้ภาษาได้ดี จะมคี วามคดิ ดีด้วย ส่งผลให้การเรียนรู้ในส่ิงต่างๆดีขนึ้ ตามไปด้วย เมื่อ
อ่านแล้วสามารถจับใจความและสรุปความได้ ย่อมส่งผลให้อ่านสาระวชิ าความรู้ในแขนง
ต่างๆได้อย่างเข้าใจ ดงั น้ันผู้ทจ่ี ะเรียนวชิ าใดๆให้ได้ดี ควรจะมที กั ษะทางภาษาไทยอย่างดี
เสียก่อน เพื่อเป็ นพืน้ ฐานในการพฒั นาทกั ษะเพ่ือแสวงหาความรู้ต่อไป

พลงั ของภาษา

• นอกจากนีม้ นษุ ยย์ งั ใชค้ วามคิดและถ่ายทอดความคิดเป็นภาษา ซง่ึ สง่ ผลไปสกู่ ารกระทาผลของการกระทาสง่ ผลไปสู่
ความคิด ความคิดท่ีดียอ่ มช่วยกนั ธารงสงั คมใหม้ นษุ ยอ์ ยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมอยา่ งสงบสขุ มไี มตรีตอ่ กนั ช่วยเหลือกนั ดว้ ยการใชภ้ าษา
ติดตอ่ สอ่ื สาร ชว่ ยใหค้ นปฏิบตั ิตนตามเกณฑข์ องสงั คม เช่น การเจรจาเจรญิ สมั พนั ธไมตรกี บั ตา่ งประเทศหรอื การติดต่อคา้ ขาย ลว้ นมี
ภาษาเป็นส่ือกลางทงั้ สนิ้

พลงั ของภาษาช่วยใหม้ นุษยเ์ กิดการพฒั นา

• ภาษาชว่ ยให้มนุษยเ์ กิดการพฒั นา โดยใช้ภาษาในการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ การอภิปรายโต้แย้งเพือ่ ไปสู่ผลสรุป มนุษยใ์ ชภ้ าษาใน
การเรียนรู้ จดบนั ทึกความรู้ แสวงหาความรู้ และช่วยจรรโลงใจด้วยการอา่ นบทกลอน ร้องเพลง ภาษาจึงมพี ลังในตนเอง

ภาษาประกอบด้วยเสียงและความหมาย การใช้ภาษา ถอ้ ยคา จึงทาให้เกิดความรู้สึกต่อผู้รับสาร เช่นเกิดความชืน่ ชอบ ความ
รัก ความรู้สึกอคติ เหล่านีล้ ้วนเกิดจากพลังของภาษาทง้ั สิ้น


Click to View FlipBook Version