กลอนดอกสร้อย รำพึงในป่าช้า
1
แมวเอ๋ยแมวเหมียว. รูปร่างประเปรียวเป็นหนักหนา
ร้องเรียกเหมียวเหมียวเดี๋ยวก็มา
รู้จักเอารักเข้าต่อตั้ง เคล้าแข้งเคล้าขาน่าเอ็นดู
ควรนับว่ามันกตัญญู ค่ำค่ำซ้ำนั่งระวังหนู
พึงดูอย่างไว้ใส่ใจเอย
(นายทัด เปรียญ)
2
กลอนดอกสร้อย
แผนผังกลอนดอกสร้อย
3
กลอนดอกสร้อยฉันทลักษณ์ของกลอน
ดอกสร้อย
นิยมลงท้ายด้วยคำว่า “เอย”
การส่งสัมผัสแบบกลอนสุภาพ
จำนวนคำในวรรคอื่น ๆ อยู่ระหว่าง ๖–๘ คำ
วรรคแรกบังคับ ๔ คำ โดยคำที่ ๒ เป็นคำว่า
“เอ๋ย” และคำแรกซ้ำกับคำที่ ๓
๑ บท มี ๔ บาท
4
กลอนดอกสร้อย กลอนสักวา
๏ ๑ บท มี ๔ บาท ๏ ๑ บท มี ๔ บาท
๏ วรรคแรกบังคับ ๔ คำ โดยคำที่ ๒ ๏ บังคับขึ้นต้นวรรคแรกด้วยคำว่า
เป็นคำว่า “เอ๋ย” และคำแรกซ้ำ “สักวา”
กับคำที่ ๓
๏ จำนวนคำวรรคละ ๘–๙ คำ
๏ จำนวนคำในวรรคอื่น ๆ อยู่ระหว่าง
๖–๘ คำ ๏ ส่งสัมผัสแบบกลอนสุภาพ
๏ ส่งสัมผัสแบบกลอนสุภาพ ๏ จบบทด้วยคำว่า“เอย”
๏ นิยมลงท้ายด้วยคำว่า “เอย”
5
ตัวอย่างกลอนดอกสร้อย
วังเอ๋ยวังเวง หง่างเหง่ง! ย่ำค่ำระฆังขาน
ฝูงวัวควายผ้ายลาทิวากาล ค่อยค่อยผ่านท้องทุ่งมุ่งถิ่นตน
ชาวนาเหนื่อยอ่อนต่างจรกลับ ตะวันลับอับแสงทุกแห่งหน
ทิ้งทุ่งให้มืดมัวทั่วมณฑล และทิ้งตนตูเปลี่ยนอยู่เดียวเอย
ตัวอย่างกลอนสักวา
สักวาดาวจระเข้ก็เหหก ศีรษะตกหันหางขึ้นกลางหาว
เป็นวันแรมแจ่มแจ้งด้วยแสงดาว น้ำค้างพราวปรายโปรยโรยละออง
ลมเรื่อยเรื่อยเฉื่อยฉิวต้องผิวเนื้อ ความหนาวเหลือทานทนกระมลหมอง
สกุณากาดุเหว่าก็เร่าร้อง
ดูแสงทองจับฟ้าขอลาเอย
6
ตัวอย่างการแบ่งวรรคตอนการอ่านกลอนดอกสร้อย
ความเอ๋ย / ความรู้ เป็นเครื่องชู / ชี้ทาง / สว่างไสว
หมดโอกาส / ที่จะชี้ / ต่อนี้ไป ละห่วงใย / อยากรู้ / ลงสู่ดิน
อันความยาก / หากให้ / ไร้ศึกษา ย่นปัญญา / ความรู้ / อยู่แค่ถิ่น
หมดทุกข์ / ขลุกแต่กิจ / คิดหากิน กระแสวิญ / ญาณงัน / เพียงนั้นเอย
7
แบบประเมินการอ่านออกเสียงร้อยกรอง
รายการประเมิน ระดับคะแนน
๔๓๒๑
๑. ท่วงทำนองถูกต้องตามฉันทลักษณ์
๒. ออกเสียงชัดเจนถูกต้องตามอักขรวิธี
๓. การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน
๔. ความคล่องแคล่วชัดเจน
๕. การใช้น้ำเสียง ลีลา จังหวะ อารมณ์
รวม
เกณฑ์การประเมิน ๔= ดีมาก ๓ = ดี ๒ = ปานกลาง ๑ = ต้องปรับปรุง
8
สรุปความรู้
! กลอนดอกสร้อย เป็นกลอนที่แต่งขึ้นเพื่อขับร้อง
ซึ่งมีลักษณะรูปแบบเฉพาะตัว คือ วรรคแรก
บังคับ ๔ คำ โดยคำที่ ๒ เป็นคำว่า “เอ๋ย” คำ
แรกซ้ำกับคำที่ ๓ บังคับสัมผัสแบบกลอนสุภาพ
นิยมลงท้ายด้วยคำว่า “เอย” เช่นเดียวกับ
กลอนสักวา
9