The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Saruda Anampong, 2020-10-23 04:16:22

ผาแดงนางไอ่

ผาแดงนางไอ่

52 ตำนานผาแดง-นางไอ่ กรรมนำชกั ตดิ ตรึงคะนึงหา
ย้อนกลา่ วถึงภังคผี มู้ ศี ักด์ิ แม้เหน็ หนา้ ยงั มเิ คยเลยสกั ที
ว่นุ วายคดิ ใฝ่ฝันแตก่ นั ยา นามไอ่คำคาใจไม่หนา่ ยหนี
จะนงั่ ยืนเหยียดกายหรือวา่ ยนำ้ ใจนาครี อ้ นรมุ่ ดงั่ สุมไฟ
ย่งิ คร่นุ คดิ ยิง่ อยากเหน็ เปน็ ทวี วา่ ต้องจำแตง่ งานยงิ่ หว่นั ไหว
ยิ่งได้ยนิ ข่าวคราวเจ้าไอ่คำ เจา้ กลัดกลมุ้ จติ ใจไมย่ อมนอน
วา่ ตอ้ งแตง่ กับอาฟ้าแดดไป ครำ่ เครง่ คดิ ครวญใครไ่ มถ่ า่ ยถอน
ใหก้ ระสบั กระส่ายวนุ่ วายจติ ไมห่ ลับนอนขา้ วปลาไม่หากิน
คิดไม่ตกกลัดกลมุ้ เปน็ ลุ่มดอน พบวิไลไอ่คำอนิ ทร์ถวิล
ในท่ีสดุ แจ้งชัดตัดสินใจ ดง่ั ลกู นกโผผินบินจากรงั
ลอบหนีจากนคราแหล่งนาคนิ ทร ์ เผื่อยากนักยังมีทใี่ หห้ วัง
บรวิ ารมาเกล่อื นเป็นเพ่อื นพรรค ดว้ ยเจา้ ภังคีนั้นก็หวั่นใจ
ครน้ั จะมาผู้เดียวเสยี วระวงั พากันคดิ แปลงร่างอำพรางไว้
คร้นั ถงึ ถ่ินมนุษย์หยุดพนิ จิ นาคส่วนใหญ่เป็นปักษมี ปี กี บนิ
เปน็ เดรจั ฉานร่างต่างกันไป กระรอกด่อนขาวลว้ นชวนถวิล
เจ้าภังคีแปลงออกไม่ยอกยอ้ น นาคทั้งส้นิ กลายรา่ งต่างเพศไป
แขวนกระด่ิงกาญจนาค่กู ายิน

จะกลา่ วถึงการะเกดเขตบุรี เรอื งสรุ ีย์สอ่ งฟา้ อุษาใส
อรณุ แจง้ แสงทองผ่องอำไพ ชอ่ ไสวไมด้ อกออกเบง่ บาน
พระพายโชยโรยเฉ่อื ยระเรือ่ ยเบา ในยามเชา้ น่าชมสมคำขาน
เสียงกระซบิ สายน้ำจากลำธาร ทั้งแว่วหวานปกั ษที ร่ี อบราย
หอมกรุน่ กลน่ิ บุษบาสนู่ าสิก ไหวระรกิ ปกี ผเี สอ้ื อนั เหลอื หลาย
เจ้าไอค่ ำแชม่ ชื่นระร่ืนกาย เย็นสบายยามเช้าเจา้ ยินดี
เมื่อพธอู ยู่หอ้ งพระสำอาง ทรงเยื้องยา่ งใคร่ครวญนวลฉวี
ผัดพระพักตร์มนุ่ เกศาแต่งกายี ในทนั ทียินเสยี งสำเนยี งดงั

เสยี งนกการอ้ งแผกดูแตกต่ืน ตำนานผาแดง-นางไอ่ 53
เสยี งแซ่ซ้องร้องแปลกระแวกวัง ไมแ่ ชม่ ช่ืนรนื่ กมลดจุ หนหลงั
ชาวเมืองเหน็ วปิ รติ ผดิ วิสัย สมุ้ เสยี งดงั รอบทพ่ี กั ตำหนกั นาง
ให้คดิ เห็นเป็นเหตุอาเพศลาง ดุจเปน็ นัยอปั รีย์มผี สี าง
เมอ่ื วนั กอ่ นบง้ั ไฟเกดิ ระเบดิ แตก พดู ตา่ งตา่ งนานาว่าไมด่ ี
แขง่ ประชันขันเสยี งสำเนียงม ี วันนแี้ ปลกหลากลว้ นมวลปกั ษี
คงเกิดเปน็ ลางรา้ ยไมค่ าดคิด รอบตำหนกั นารีศรีนคร
พากนั คิดหว่นั ผวาอนาทร จึงวิปรติ บอกทางลางสังหรณ์
เจ้าหญงิ น้อยยืนงงตรงพระแกล ว่านครจักเกิดเหตอุ าเพศใด
ดูเหตุการณป์ ระหลาดขลาดจติ ใจ ชายเนตรแลวหิ คอกหวั่นไหว
กระรอกแปลงไดพ้ บประสบพักตร ์ ในทนั ใดเห็นร่างเจ้าภงั คี
ช่างงามสมคำกลา่ วชาวธาน ี ปลม้ื ใจนกั ไดย้ ลในหนน้ี
โอ้เน้ือนวลนงพะงาโสภานัก หนมุ่ นาคมี องเหมอ่ เผลอพระทยั
หมู่นางนาคมาณวกิ าว่าวิไล ทง้ั ดวงพกั ตร์เอวองคท์ รงสมัย
ย่ิงเพง่ พศิ พุ่มพวงดวงสมร ไมต่ ้องใจภังคีเทา่ นเ้ี ลย
เฝา้ เหลือบแลครุ่นคดิ อยากชิดเชย ยิ่งอาวรณ์รอ้ นรักพักนิง่ เฉย
อยากเกลอื กเกยกกกอดยอดนารี

เจ้าหญงิ น้อยมองไปไดแ้ ลเห็น ทรงต่ืนเต้นแปลกตายอดยาหยี
ไม่เคยเห็นมากอ่ นถอนฤด ี ใจเตน้ ถอ่ี ยากได้ไวเ้ ชยชม
คงเพราะกรรมนำแตง่ แรงอาฆาต เคยหมายมาตรกรรมหลงั อนั สง่ั สม
ผูกเวรไว้วิบากหลากอารมณ์ ทงั้ ขน่ื ขมโกรธรกั ปกั กมล
เกดิ อยากได้กระรอกดตี วั น้ีนกั เจ้างามพักตร์สัง่ ไปไมส่ ับสน
สูทงั้ หลายรบี ไปในบันดล ทกุ ทุกคนเร็วไวไปจบั มา
จบั กระรอกดอ่ นดีนใ้ี ห้ได ้ อยา่ ใหใ้ ครฟาดฟนั มนั เจยี วหนา
จบั ใหไ้ ด้เปน็ เปน็ เหน็ ชวี า กัลยาตรัสสั่งเสียงกังวาน

54 ตำนานผาแดง-นางไอ่ อำมาตยข์ นุ เสนารกั ษส์ มคั รสมาน
สิน้ เสยี งใชใ้ นวังก็ว่งิ ว่นุ รีบลนลานมองหาไม่ชา้ ที
ทัง้ บา่ วไพรน่ างสนมกรมภบิ าล หมดปัญญาจับทนั มันหลบหนี
เหน็ กระรอกอยูบ่ นตน้ พฤกษา งานอยา่ งนท้ี า่ นทง้ั หลายตอ้ งนายพราน
เสนาหน่ึงเอ่ยออกบอกวจ ี ขจรชอื่ เมืองเราตา่ งกลา่ วขาน
อนั ว่าพรานยคุ นย้ี อดฝมี อื อยา่ ช้านานใหใ้ ครไปตามมา
นามจำไดไ้ ม่หลงคือกงพราน ไม่อยู่ชดิ กบั ใครผใู้ ดหนา
บ้านอยทู่ างหรดีตามชท้ี ศิ จะรบี มาตามดำรัสท่ตี รัสพลัน
เมอื่ เรียกหาตามวจพี ระธดิ า เป็นเคร่ืองชค้ี วามแน่ไม่แปรผัน
บา้ นพรานกงเรียกกันในวันน ี้ ยังเรียกกันใหร้ ูค้ แู่ ผ่นดิน
บ้านกงพรานช้ีชดั ปัจจุบัน

ไม่นานนกั พรานกงตรงมาถึง ดขู ันขงึ แกร่งกลา้ ดจุ ผาหิน
รีบเข้าเฝ้าอนงค์ตามจงจินต์ แม่โฉมฉินสัง่ พลนั ในบันดล
อันกระรอกว่งิ วนบนตน้ ง้ิว โลดละลิ่วอวดพราวสขี าวขน
กระด่งิ ทองคล้องอย่คู คู่ อตน จงหาหนทางใดไปจบั มา
พรานคร่นุ คดิ วธิ ีท่ีแนแ่ ท ้ เหน็ เพยี งแตจ่ บั ตายกนั นน่ั ละหวา
อนั จบั เปน็ เห็นยากหนกั อุรา จงึ บอกวา่ ขา้ เห็นเปน็ ยากแท้
แมข้ ้าน้อยคอยจับเจา้ กระรอก ไมอ่ าจบอกเปน็ ตายคงไดแ้ ผล
โอกาสสิน้ ชวี ที คี่ ดิ แล ดูเท่ียงแท้กว่าท่มี ีชวี ิต
ขา้ น้อยจนใจทำตามดำรัส ท่ที รงตรัสส่ังมาขา้ สิน้ คดิ
ไม่อาจจบั เปน็ ใหไ้ ว้เชยชดิ พระทรงคดิ ครวญใคร่ในบนั ดล
พระนางไอค่ ำอึง้ คะนงึ คดิ กรรมลขิ ิตอาเพศเปน็ เหตุผล
ทรงดำรัสออกไปในบันดล นฤมลส่งั พรานชำนาญไพร
วา่ เอาเถดิ พ่อพรานจดั การเขา้ ไมว่ า่ เอากระรอกมาวิชาไหน
จะเหลือเพยี งรา่ งกายหรือหายใจ พ่อจงได้เรง่ ทำดำเนนิ การ

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 55
ฝ่ายพรานถือซื่อตรงอนงค์ตรัส รีบเรง่ รัดวอ่ งไวตามไขขาน
กลับเรอื นเตรยี มเครอ่ื งมือล่าไม่ชา้ นาน แลว้ นายพรานแบกปนื กลบั คนื วงั
ฝ่ายกระรอกตวั ปลอมไมย่ อมหน ี หลงนารีสดุ ฝนื คนื กลับหลัง
เฝ้าวุ่นวนเลาะเลยี บระเบียบวัง บางครง้ั นงั่ เหม่อชมอารมณ์เยน็
นายพรานเตรยี มปืนผาท้งั หน้าไม้ ธนูไว้พร้อมพรักเผ่อื ยากเข็ญ
ลูกสมุนพร้อมหน้าคราจำเป็น ได้รบั ใช้เน้อื เย็นเป็นเกียรตติ น
รบี กลบั มาเวยี งวงั เจ้านางนอ้ ย พระนางคอยกระสบั สา่ ยเปน็ หลายหน
กลัวกระรอกสญู ญาจากตาตน เฝ้ามองจนพรานไพรครรไลมา
ฝ่ายกระรอกหลงรกั สลกั จิต อยากใกล้ชดิ ไออ่ งค์ตรงน้นั หนา
ไมร่ ้ตู วั อันตรายย่างกรายมา เอาแตช่ มพักตรานวลนารี
ฝา่ ยพรานกงย่างยอ่ งจบั จ้องเลง็ ตาเขมง็ เพ่งพบไม่หลบหนี
ได้จังหวะจบั เจาะเหมาะพอดี ยกหนา้ ไม้คู่ชีวหี รีต่ าพลัน

56 ตำนานผาแดง-นางไอ่

ล่ากระรอกดอ่ น

ทันใดพลนาคที ่หี ลากหลาย ที่แปลงกายมาดว้ ยชว่ ยผ่อนผนั
งูกระแตนกกาสารพนั ตา่ งใหส้ ัญญาณดงั แกภ่ ังคี
ภชุ งค์แปลงหลบภยั ได้ฉบั พลนั ต่นื ตระหนกอกส่ันจนขวัญหนี
รีบเผ่นโผนโจนหนีสุดชวี ี เจ้าภังคีอกสั่นขวญั กระเจงิ
ร้องเรยี กหมบู่ ริวารทำการช่วย เกอื บมอดมว้ ยเพราะตวั มวั แตเ่ หลงิ
เหล่านาคาปลอมแปลกแตกกระเจงิ ทีเ่ ถิดเทิงกลบั คืนเปน็ ตื่นภัย
เสนานาคตา่ งลอ้ มจอมภชุ งค์ แลว้ พาตรงสตู่ ะวนั สายณั หส์ มยั
ตะวนั ใกลช้ งิ พลบเรง่ หลบภยั ในพระทัยภังคนี ้นั แสนหว่ันกลวั
ดอนใหญน่ ้อยซอ้ นซบั นบั เปน็ พนั เบอ้ื งหนา้ นัน้ อดั แอแลสลัว
ป่าพันดอนพงพนาดูนา่ กลัว หลบซ่อนตวั ปอ้ งกันอันตราย
มาบดั น้เี รียกขานบา้ นพันดอน อนสุ รณ์เครือ่ งชีเ้ ปน็ ที่หมาย
ว่าตรงนี้เคยซอ่ นตนสกนธก์ าย ของลกู ชายเจา้ บาดาลเมอ่ื นานมา
กระรอกแปลงซอ่ นกายไม่ไดน้ าน ดว้ ยนายพรานชาญเชย่ี วแลเหลยี วหา
คอ่ ยจดจ้องย่องเบาย่างเข้ามา ใกล้กายาภังคีทกุ ทีไป
เหลา่ เสนารีบบอกกระรอกนอ้ ย เจ้าตวั จ้อยพรึงพรัน่ อกหวน่ั ไหว
รีบยกั ย้ายกายโผนกระโจนไป เรง่ ครรไลจากทนี่ ัน้ ในทนั ที
ออกจากพนั ดอนดงมงุ่ ลงใต ้ เรง่ เรว็ ไวขา้ มดอนแกว้ รบี แจวหนี
ถงึ ดงเยอ*นนั่ หนอค่ำพอด ี เจา้ ภงั คีพักผอ่ นนอนเอาแรง
บรวิ ารน้ันเลา่ กเ็ ข้าที่ คอยดูวี่แววภัยไม่หนา่ ยแหนง
ส่วนพรานกงน้ันเลา่ เฝา้ ระแวง คอยจดั แจงหวงั กำจดั ดว้ ยขดั เคอื ง
อนั ดงเยอปจั จบุ นั เราทา่ นเหน็ กลายมาเป็นชมุ ชนคนย่างเยอ้ื ง
เรียกผิดแผกแปลกวาจาวา่ ดงเมือง ทร่ี งุ่ เรืองคนมากหลากการงาน
กลางอำเภอกมุ ภวาปที ่ีอุดร อนุสรณค์ นเกา่ เล่าสืบสาน
ปากตอ่ ปากสบื ต่อกน็ มนาม ให้ลกู หลานรู้ดถี งึ ทม่ี า

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 57
ฝา่ ยพรานกงหาชอ่ งทางอยา่ งลำบาก ดว้ ยยงุ่ ยากคดิ คดุ สดุ จะหา
ไมอ่ าจเหน็ กระรอกด่อนซอ่ นกายา ตอ้ งถ่างตาคอยจ้องมองทงั้ คนื
คร้นั อรุโณทัยไต่ขอบฟา้ ท้องนภารงุ่ สางตา่ งตนื่ ฟ้ืน
นาคปลุกนายทรี่ อดตลอดคืน ใหล้ กุ ยนื เรว็ รร่ี บี หนีไป
กระรอกดอ่ นม่งุ หนา้ บูรพาทศิ หวงั ชีวิตคงอย่คู ูแ่ ขไข
แต่เพราะหวนั่ ในอกตระหนกใจ อกี ท้ังกรรมทำไวไ้ ดต้ ิดตาม
จงึ อาเพศเหตุใหค้ ดิ ไม่ออก เจา้ กระรอกจนใจสดุ ไตถ่ าม
ไดแ้ ต่คดิ เพยี งพ้นคนตดิ ตาม จึงว่วู ามหนีลา่ แต่ท่าเดียว
จะชำแรกปฐพไี มม่ ีผล ด้วยจิตตนซา่ นฟงุ้ สะดุ้งเสยี ว
ให้ว่นุ วนหวั่นหวาดส้ินปราดเปรียว ได้แตเ่ ล้ียวลดไปในพงพี
ฝ่ายนายพรานมองทันนัน่ กระรอก จงึ รีบบอกสมุนใหไ้ ปทางนี้
กระรอกไปแลว้ หนาอย่าชา้ ท ี รีบเร็วรต่ี ามตรงคงไลท่ นั
ใหส้ ังเกตปกั ษีทมี่ ว่ั สุม บินเกาะกลมุ่ กันดขี มีขมัน
ไม่เหนิ หา่ งกระรอกสูจงดูกนั มันมุ่งมน่ั ไปสู่บรู พา
กระรอกน้อยฟนั ฝ่าทงุ่ นารา้ ง อนั เวงิ้ วา้ งกวา้ งไกลใหอ้ ่อนลา้
หวงั เข้าสู่ดอนใหญ่ใกลท้ ้องนา ซ่อนกายาจากพรานผลาญชวี ี
บรรดาพรานล้าเม่ือยแสนเหนอ่ื ยเหนด็ ตอ้ งระเห็จท่องไพรในครานี้
อตุ ส่าหต์ ามไลล่ ่าทกุ นาที ยังไม่มที ่ใี กล้จะได้ตัว
แบกปืนผาหนา้ ไม้สายธนู เดนิ หดห่ลู ดั ทางพลางสน่ั หัว
เห็นฝงู นกบินไปอยไู่ กลตวั แตไ่ มม่ ัวชา้ เนิ่นจนเกนิ การ
สมยั นี้เรียกขานบ้านนาแบก เปน็ ระแวกชุมชนคนกลา่ วขาน
เพราะเมื่อยลา้ แบกขนต้องทนทาน จงึ เรยี กขานตามเรอ่ื งตอ่ เนอ่ื งมา
กระรอกสีขาวเผือกกระเสอื กกระสน สูด้ ิ้นรนขา้ มทุ่งไปไม่รอช้า
ผ่านหมบู่ ้านยางหล่อต่อเนื่องมา เหน็ หลงั คาบา้ นดอนเงนิ ไมเ่ กนิ ไกล
ตามตำนานกลา่ วไว้ในแถบน ี้ เคยเป็นทชี่ ุมชนคนอาศัย

58 ตำนานผาแดง-นางไอ่

มอี าชีพสำคญั นกั เป็นหลกั ชัย หลอ่ เงนิ ทองยองใยได้ตระการ
รางสำหรับดำเนนิ หลอ่ เงินทอง มีกา่ ยกองพ้นื ดินท่ัวถิ่นฐาน
จากรางหลอ่ ผดิ เพ้ยี นเม่อื เวยี นกาล มาเรียกขานยางหล่อชดั ปจั จุบนั
ช่ือดอนเงนิ เปน็ นามเพราะความนี ้ เจา้ ภงั คีอ่อนเพลยี ทัง้ เสยี ขวัญ
ได้วิง่ ผา่ นถ่ินดอนตอนกลางวนั แล้วถลนั เข้าป่าสงู รมิ ท่งุ นา
ในแนวปา่ เรว็ ลู่สทู่ ิศเหนือ เหนด็ เหนอ่ื ยเหลอื หยดุ ลงตรงนน้ั หนา
หมดเรีย่ วแรงพกั ก่อนผอ่ นกายา ในดงปา่ แถแลอันแออดั
จากชวี ติ สุขสบายในใต้นำ้ ดงั่ ถกู ตอกหอกซำ้ ดว้ ยกรรมซดั
เก็บกินยอดแถแลพอแกข้ ดั พอยืนหยัดประทงั ชีพทบ่ี ีบคั้น
ปา่ แถแลบดั นีม้ บี า้ นคน ประชาชนอยดู่ ีในท่ีน้นั
จากแถแลเรียกเพ้ยี นเปลยี่ นคำกัน ปจั จบุ ันบา้ นแชแลแปรวาจา

สว่ นพรานกงมงุ่ หนา้ ลา่ ตดิ ตาม ไม่เลยละพยายามมุง่ ตามหา
สนองความจำนงองค์ธดิ า ใกล้เข้ามากระชั้นหนั หาพลาง
ภังคมี องจ้องเห็นเพชรฆาต ใจหว่ันหวาดเมอ่ื เหน็ จึงเผ่นผาง
จากป่าแถแลไปไม่เว้นวาง มุง่ ไปทางแนวพนาปราจีนทิศ
ถึงดงดอนป่าใหญห่ นามไผแ่ น่น กระรอกแสนเหนอื่ ยนกั พกั สกั นดิ
ฟุบกบั เซงิ กอไผใ่ นดงชิด หลับสนทิ ทนั ทีทหี่ ลบั ตา
บรรดานาคท้งั หลายท่รี ายล้อม จึงตัง้ ปอ้ มเขา้ ยามตามประสา
ตามความคิดของสผู ู้นาคา กลายเป็นว่าชี้เปา้ ให้เจ้าพราน
เพราะหมูน่ กกราวกรูอยู่ทางไหน พรานกงไดจ้ ำแนกอยา่ งแตกฉาน
กระรอกดงคงอยูค่ ู่บรวิ าร จึงคืบคลานเข้าตรงไม่หลงทาง
เห็นหมนู่ กวนดอู ย่กู บั ท ่ี ไมเ่ รว็ รีห่ นีคอนด่ังตอนสาง
กระรอกตอ้ งอยู่ใกลไ้ ม่ไกลพราง คิดชอ่ งทางโอบล้อมจอมนาคี
สง่ั สมุนระวงั อย่าพลั้งพลาด ให้เปรยี วปราดน่าชมสมศักด์ศิ รี
ย่องยา่ งเบาอยา่ ใหเ้ สียงสำเนียงม ี ใครตาดเี หน็ กระรอกคอ่ ยบอกกนั



60 ตำนานผาแดง-นางไอ่

คอ่ ยยอ่ งเข้าดงไผ่สายตาจอ้ ง ตา่ งมงุ่ มองนาคแปลงอยา่ งแขง็ ขนั
ทันใดพรานกงจ้องมองเห็นพลนั จึงให้สัญญาณสมุนหนนุ เขา้ มา
ส่งสญั ญาณเหน่ยี วไกใหพ้ รอ้ มกนั เม่ือเรว็ พลนั ต้องถกู สักลกู หนา
ทง้ั ธนหู นา้ ไมไ้ ด้เลง็ มา เสยี งพรกึ พรึบลัน่ ป่าพนาไพร
คราวเคราะห์หนนุ บุญช่วยไม่ม้วยมอด ใหเ้ ลด็ ลอดชวี นั ทันสมยั
พอดตี ื่นตาเหน็ วา่ เป็นภยั ตกพระทัยพ่งุ โผนโจนทะยาน
รอดชีวิตเฉียดฉวิ หวดี หวิวเสยี ว ถากนดิ เดียวเพราะได้บุ่งไผ่สาน
เบี่ยงเบนลกู หน้าไม้ของนายพราน จึงทะยานหลบหนีรอดชีวิต
เหล่าบรวิ ารจำแลงแปลงเป็นนก ตน่ื ตระหนกเพราะพลาดไมค่ าดคดิ
เจ้านายเกือบดาวดน้ิ สน้ิ ชีวติ เพราะความผดิ นาคที หี่ ลบั ยาม
ท่ตี รงน้ันคือเมืองพรกึ ที่คกึ คกั ท่พี ำนกั คนดศี รสี ยาม
เคยเปน็ ป่ามาเปน็ เมืองรงุ่ เรอื งงาม เรยี กช่อื ตามสำเนียงเสยี งธนู
นายพรานทรุดนงั่ นิง่ เมือ่ ยงิ พลาด มาประมาทก่งิ ไผ่ป่าน่าอดสู
ใหข้ ดั ขอ้ งเคอื งแคน้ แนน่ อกก ู จงึ บอกหมสู่ มนุ พรานชำนาญดง
กจู ะฆา่ กระรอกดงใหจ้ งได้ จงรีบไปตามลา่ อย่าให้หลง
กูจะตามไลล่ ่าทุกปา่ ดง กจู ะปลงใหม้ ว้ ยดว้ ยมือกู

ส่วนขบวนนาคแปลงจำแลงรา่ ง ถึงเว้งิ วา้ งทงุ่ หญา้ สุดตาหู
เปน็ ทุ่งกวา้ งห่างไกลไรค้ นั ค ู ใหห้ ดหูด่ ้วยไมม่ ที ก่ี ำบงั
เลยพากนั แปลงรา่ งเปน็ อยา่ งงู เพือ่ เคยี งครู่ อบขา้ งระวังหลงั
อยรู่ ายล้อมกระรอกน้อยคอยระวงั ดว้ ยใจตง้ั ป้องภัยให้นายตน
ฝ่ายภังคเี หน็ ดที เ่ี ป็นงู เพราะครูดถไู ปง่ายดมี เี หตุผล
เป็นกระรอกไปยากลำบากตน ตามถนนท่งุ รา้ งตอ้ งร่างเดิม
จงึ แปลงเป็นงใู หญ่ในบดั เดีย๋ ว ร่างปราดเปรียวเรียวลดู่ ูฮึกเหมิ
สีเผอื กผ่องยองใยในกายเดิม ไดพ้ ูนเพมิ่ เตมิ พลังเจา้ ภงั คี
พ้ืนท่ีราบเรยี บร้างกว้างใหญ่นกั มหิ ยดุ พักท่ีใดในครานี้

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 61

บรวิ ารล้อมหน้าหลงั ของภงั ค ี ต่างเลื้อยรเ่ี รว็ ไวในท่งุ รา้ ง

ฝ่ายนายพรานเจ็บใจไมย่ น่ ยอ่ เหน็ หญา้ กอลาญแหลกดจุ แถกถาง
ร่องรอยเลื้อยถไู ถไปเป็นทาง พอคิดพลางก็เหน็ เป็นอศั จรรย์
ว่ากระรอกตวั น้ีหรอื คอื อะไร ใหแ้ ปลกใจในจิตคิดอาถรรพ์
เทวายกั ษน์ าคงหู รือสุบรรณ อศั จรรยผ์ ิดแผกแปลกธรรมดา
ก่อนน้ีเหน็ ปกั ษีบินวว่ี ่อน แตม่ าตอนน้ีไซรไ้ ร้ปกั ษา
เห็นแตร่ อยงลู ่นื ดาษด่นื ตา แหวกกอหญา้ ทงุ่ ร้างเป็นทางไป
แมว้ า่ เป็นสง่ิ ใดไฉนน่ัน จะจับมันเพ่อื ปลงความสงสัย
ถงึ ตอนนพี้ รานกงตกลงใจ ตดิ ตามรอยงูไปต้องได้ตวั
แตส่ ภาพทงุ่ ร้างเวงิ้ ว้างรอ้ น ตา่ งเหนอ่ื ยออ่ นเมอ่ื ยลา้ พาเวยี นหวั
อิดโรยร่างยา่ งมาขาพันพัว ใจระรวั ออ่ นระทวยดว้ ยแดดแรง
เคยขงึ ขนั เตรียมธนดู ุจสูศ้ ึก สนิ้ ความคกึ ดจุ ตะวนั อนั ออ่ นแสง
แบกคอนสายธนสู ู้ผ่อนแรง บา้ งเดนิ แกวง่ หนา้ ไมไ้ ปตามทาง
บา้ งคอนสายธนูมาพร้อมหน้าไม ้ แสนออ่ นเพลยี ละเหย่ี ใจในทงุ่ รา้ ง
ปัจจบุ นั ถ่ินนีม้ หี นทาง ไม่เวิง้ วา้ งเงียบเหงาดั่งเก่ามา
เป็นหมู่บา้ นคอนสายคนหลายหลาก ตำนานฝากเอาไว้ให้ศึกษา
แต่เดมิ หรือช่ือบา้ นคอนสายหน้า ครน้ั ตอ่ มาผดิ เพย้ี นเปลย่ี นคำเดมิ
เหลอื แต่เพียงคอนสายฝากให้รู้ ว่าตามงูเหน่อื ยใจไรฮ้ กึ เหิม
ตามเรอื่ งราวแตห่ ลงั เม่ือยงั เดิม ครัง้ ไดเ้ ริ่มเรอื่ งราวแตเ่ ก่ามา

ในทส่ี ุดกงพรานชำนาญไพร ติดตามรอยมาใกลผ้ ูไ้ ร้ขา
ประชดิ กับฝูงงูผ้นู าคา ประจันหนา้ สกู้ นั ในทนั ที
ลูกสมุนพรานกงปลงชวี ิต ฆา่ งูพษิ ตกตายกลายเป็นผี
บางคนถูกรดั กนิ สนิ้ ชวี ี ไม่อาจหนไี ด้ทันกพ็ ลนั ตาย
ฝ่ายฝูงงูก็มีส้ินชวี ติ ดว้ ยแรงฤทธข์ิ องคนทข่ี วนขวาย

62 ตำนานผาแดง-นางไอ่ จนวอดวายดาวดิ้นสิ้นชีวนั
ระดมยิงลูกธนพู รเู ตม็ กาย ฝา่ ยงตู ายไมน่ อ้ ยพลอยเสยี ขวญั
ตา่ งฝา่ ยเข้าขนั ตอ่ ไม่ทอ้ ถอย รีบบุกบั่นหนไี ปในบันดล
จงึ บอกพวกใหห้ นีสดุ ชีวัน ปัจจุบันประชาชีมมี ากล้น
ทม่ี นุษยก์ บั งตู อ่ สกู้ ัน ไมส่ บั สนตำบลบ้านขนานนาม
ชื่อหมบู่ ้านพังงูคตู่ ำบล ไปดว้ ยอกเรว็ ร่แี ม้มหี นาม
ทางทงี่ ูหนนี นั้ ตะวันตก พรานทง้ั หลายกต็ ามดว้ ยความแคน้
รีบหลบหนเี ลื้อยไปดุจไฟลาม ด่ังกมลถูกเชอื ดเดอื ดเหลือแสน
เมอ่ื สมุนมาตายไปหลายคน ภังคีแจ้นมงุ่ หนา้ เขา้ ปา่ ไป
ติดตามถึงปา่ ละเมาะเลาะเขตแดน เพื่อเหินหกข้นึ ฟ้าดูท่าไหน
นาคบางตัวแปลงกายาเปน็ กานก ท้ังดูเสน้ ทางให้เจ้านายตน
มองหาทกี่ ำบังระวงั ไว ไมร่ ้จู ะทำไฉนให้เหน็ หน
เจ้าภังคีหลบซ่อนถอนอรุ ะ เจ้าสับสนหวนั่ กลวั ระรวั กาย
ให้รอดตายพลัดพรากจากพวกคน ฝงู นกแจวหนีคนดุจขวนขวาย
ถงึ ตรงนฟี้ า้ มัวสลัวแลว้ แต่ไม่วายให้ลกู นอ้ งลองตดิ ตาม
ฝา่ ยพรานกงคงเหน็ เป็นอบุ าย เฝ้าลดั เลาะระวังดีไมผ่ ลผี ลาม
โดยส่วนใหญใ่ หล้ อ้ มปา่ ละเมาะ มีเพียงสามพรานไพรไลต่ ามตน
ฝา่ ยนกกาเหน็ สว่ นใหญ่ไมต่ ิดตาม ทเ่ี รา่ รอ้ นซ่อนกายอย่หู ลายหน
จึงกลบั มาคอยเฝา้ รอบเจ้านาย จงึ ตอ้ งวนกลับมาหาภังคี
เมอ่ื เหน็ วา่ พรานกงไม่หลงกล นาคาคิดซุกซบพกั หลบหนี
เปน็ เวลาเย็นยำ่ ค่ำมืดมดิ เจา้ ภังคีไดท้ ซ่ี ่อนกน็ อนพลนั
ด้วยสุดแสนเหน็ดเหนือ่ ยเมอื่ ยกาย ี พอ่ พรานขอมระวงั อยา่ งแขง็ ขนั
ฝา่ ยพรานกงสงั่ คนใหว้ นลอ้ ม อยใู่ นนนั้ จริงแทพ้ ่อแนใ่ จ
ด้วยมนั่ ใจกระรอกขาวเจา้ นายมนั พอถึงท้ายราตรีทส่ี ดใส
ดว้ ยทงั้ คนทงั้ นาคลำบากกาย จวบอไุ รแสงทองของอีกวัน
ต่างง่วงเหงาหาวนอนอ่อนพับไป

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 63

ป่าละเมาะทซี่ อ่ นกายเจา้ ชายนาค เคยลำบากซกุ ซอ่ นเดอื ดรอ้ นขวญั
กาลเวลาเปล่ียนผัดปัจจุบนั แผ่นดนิ น้ันเปน็ ชมุ ชนคนมากมี
ชือ่ วา่ บา้ นพงั ซอ่ นไมย่ อ้ นยอก ไมป่ ล้นิ ปลอกลวงเลน่ ดั่งเป็นผี
คนบา้ นนนั้ เขาวา่ หน้าตาดี นาคภังคีเคยซ่อนพักผอ่ นกาย

ใกลอ้ รุณเร่มิ แจ้งแสงสวุ รรณ เหลา่ นาคาตืน่ พลันไมท่ นั สาย
รีบยอ่ งเงยี บเลียบเข้าปลุกเจ้านาย ก่อนท่สี ายแสงทองจะสอ่ งดิน
แจง้ สญั ญาณอบุ ายบอกนายหนี แล้วปกั ษแี ตกต่ืนขนึ้ โผผนิ
ตะวนั ตกตรงไปใหค้ นยิน เสียงนกบนิ มุ่งออกนอกละเมาะ
ฝา่ ยพรานกงพศิ ดรู กู้ ลสตั ว์ คิดแนช่ ดั จึงย้มิ กระหยม่ิ เยาะ
เรยี กสมุนตามไปใหพ้ อเหมาะ คอ่ ยยา่ งเหยาะตามทนั กระชน้ั ชดิ
เห็นวหิ คล่วงหน้าพะวา้ พะวัง ที่ตามหลงั เหน็ งผู ้มู พี ษิ
สขี าวปลอดหงอนแดงดแู รงฤทธ ์ิ พรานครุ่นคดิ หวังฆ่านาคาพลนั
โดยไม่รูง้ ูหรือคือกระรอก พรานสง่ั บอกลกู สมนุ อยา่ งผลนุ ผลนั
รบี วอ่ งไววิ่งวางดกั ทางมัน งตู วั นน้ั ประหลาดอยา่ พลาดเชยี ว
ส่วนภงั คเี ห็นภัยเขา้ ใกลต้ วั ยิง่ หวาดกลวั ใจฟงุ้ สะด้งุ เสียว
พวกมนุษย์ตามฆ่ากนั ทา่ เดียว รีบลดเลี้ยวมุง่ ตรงเขา้ โพรงดิน
อันเปน็ หลืบเป็นรูอยโู่ พนเดน่ ภังคเี หน็ รบี เลอื้ ยไปดง่ั สายสนิ ธ์ุ
พรานตามทันรีบรุดขุดโพรงดนิ ตามล่าล้างชีวนิ ให้ส้นิ ใจ
มิทันเหน็ ว่าหัวหรือตวั ง ู เสยี งอ้าอู้ตนื่ เต้นเปน็ ไฉน
พวกสมนุ กางอา้ ขากรรไกร ตระหนกใจมือเยน็ เม่อื เหน็ ทอง
คนหนึง่ คว้าทองคำกำมือแน่น คิดหวงแหนว่ากผู เู้ จ้าของ
คนตอ่ มาตาเห็นว่าเปน็ ทอง จึงจับจอ้ งย้ือแยง่ ดว้ ยแรงกาย
เกิดโขมงโฉงเฉงตะเบง็ แขง่ ตา่ งยือ้ แย่งเอาทองท่ปี องหมาย
ทัง้ ถีบเตะย้อื ยนั กันวนุ่ วาย แมว้ า่ นายบอกหา้ มไม่ครา้ มฟัง
จนสุดทา้ ยพรานกงอา้ งโองการ เยาวมาลยบ์ อกกลา่ วแตค่ ราวหลงั

64 ตำนานผาแดง-นางไอ่

หากว่ามวั แยง่ ทองไมต่ รองฟัง รถู้ งึ วังจะพโิ รธโกรธเป็นไฟ
อนั องค์หญิงให้มาล่ากระรอก มากลบั กลอกชิงทองกันน่ันไฉน
หัวจะพรากจากบา่ กระเด็นไป สูจะไดม้ ว้ ยมอดวอดชีวี
ลกู สมุนฟังพลนั หว่นั วติ ก เสยี วหวั อกนกึ ถงึ องคพ์ ระทรงศรี
มัวแต่แยง่ ทองคำเพียงจำป ี จะพาศีรษะตนหลุดพน้ คอ
ตรงโพนดินถ่นิ เก่าทเ่ี ล่าขาน ทพี่ วกพรานแยง่ ทองคำนำ้ ลายสอ
มาบัดน้ีคนมากมถี ักทอ ได้ตงั้ ก่อเปน็ บ้านอยนู่ านมา
เรยี กว่าบา้ นโพนทองตามคลองเรื่อง บ้านรุ่งเรืองคนดมี ีศึกษา
มีลกู หลานเปน็ ใหญ่ใหช้ นื่ ตา รุ่นปยู่ ่ายิ้มย่องมีทองใช้

ในคราน้ันบริวารของพรานกง ทง้ิ ทองลงหยบิ ปนื ผาและหนา้ ไม้
คว้าธนูแคลว่ คล่องดวู อ่ งไว ด้วยกลวั ภยั ธดิ าเจ้าธานี
สว่ นงูใหญ่กลายร่างเป็นกระรอก แล้วว่งิ ออกอกี ทางพลางหลบหนี
ในขณะคนแยง่ ทองทุบถองต ี เจา้ รบี รี่แล่นไปสูไ่ พรพง
พรานกงหันทันเห็นเปน็ กระรอก จึงรีบบอกพวกตวั อย่ามวั หลง
อา้ งคำส่ังพระธดิ าโสภาองค์ แล้วชตี้ รงทศิ ใตใ้ หต้ ามพลัน
นายพรานนกึ ตอนเข้ารเู ปน็ งูใหญ ่ แลว้ ไฉนโผลอ่ กี ทางรา่ งเปลย่ี นผนั
หรือกระรอกงูเงย้ี วตวั เดียวกนั ต้องอยา่ งน้นั แนใ่ จไม่ผดิ ตัว
อัศจรรย์แปลกใจไมเ่ คยเห็น ตัวแท้เปน็ อะไรหนานา่ ปวดหัว
แตพ่ วกมันตายไดจ้ งึ ไมก่ ลวั อกี ทงั้ ตวั โกรธเคืองเรือ่ งลกู นอ้ ง
ที่ถูกงูกัดตายไปหลายคน จงึ ดนั้ ดน้ แก้แค้นแทนพวกพ้อง
จบั ตวั ไดเ้ ม่อื ไรจกั ได้มอง คนทั้งผองจกั รชู้ ัดสตั ว์อะไร
กระด่งิ ทองสง่ เสียงสำเนียงเพราะ ดังเสนาะเผ่นผางไปทางไหน
อยกู่ ับคอกระรอกขาวในราวไพร พรานจงึ ไดต้ ามติดไมผ่ ดิ ทาง
กระรอกดอ่ นมุ่งใต้มีไผก่ อ ทง้ั หนามหนอ่ ขแ้ี ฮดเอยไมเ่ คยถาง
สุมเปน็ เซงิ คลมุ ปกดรู กรา้ ง ไม่มที างเดนิ งา่ ยทใี่ ดเลย

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 65

อีกทัง้ คลมุ ดว้ ยดงตาลตระหง่านสูง บรรดาฝงู นกนำไปไมน่ ิง่ เฉย
เข้าป่าตาลแนน่ ขนัดไมข่ ดั เลย แตพ่ รานเอย่ แสนยากลำบากแท้
ยิงธนูหนา้ ไมก้ ไ็ กลเกิน กระรอกเหนิ หลบไปไม่ได้แผล
ระดมยิงอยา่ งไรไมเ่ ปล่ยี นแปร ไมอ่ าจทวงดวงแดกระรอกดอน
ในทนี ัน้ พรานแนบปนื แกป๊ เลง็ พอตรงเผงเหน่ยี วไกใจเรา่ รอ้ น
เสยี งดงั ปงั ลน่ั ป่าพนาดอน กระรอกดอ่ นตระหนกตกตน้ ตาล
ลูกสมนุ เข้าไปหวงั ไดจ้ บั กระรอกกลบั พงุ่ พรากออกจากฐาน
ว่งิ ว่องไวในปา่ ตอ่ หนา้ พราน พางนุ่ งา่ นอุรานกึ วา่ ตาย

ณ ตรงท่ีสำเนียงเสียงปนื ดงั ลน่ั ออกปังตรงนีเ้ ป็นท่ีหมาย
ปัจจบุ ันเรอื นชานบ้านเรียงราย ทัง้ หญงิ ชายคนขยนั หมั่นทำกิน
ช่อื หมู่บ้านเมอื งปงั ดว้ ยฟังเสยี ง ครั้งสำเนยี งปืนดงั ฟงั ถวิล
จึงประกาศเร่อื งไว้ใหโ้ ลกยนิ ว่านถ้ี ่นิ ปืนล่ันสนัน่ ไพร
ครานั้นภังคมี องขนึ้ ท้องฟ้า ดูนกกาว่าวางไปทางไหน
สัญญาณบอกตะวันตกรกพงไพร คงจะไดซ้ อ่ นตนใหพ้ น้ เวร
เปน็ ดงใหญ่ยางยูงสูงตระหง่าน ทั้งต้นตาลโพธิ์ไทรไมว่ ่างเวน้
สว่ นขา้ งล่างดงหนามดลู ำเคญ็ คงยากเยน็ หากคนจะดน้ ดัน
หนามคัดเค้าขี้แฮดทั้งแปดทศิ ตำแยพษิ คนั คายในดงนน้ั
กระรอกเขา้ ซอ่ นกายหายตวั พลัน ฝูงนกนัน้ ร่อนลงในพงไพร
พรานกงเหน็ นกสมุนไมว่ นุ่ วน คงวางกลซอ่ นกระรอกอยซู่ อกไหน
จึงคอ่ ยย่องเหยยี บย่างระวงั ไว บางครง้ั หยดุ เคลอ่ื นไหวสา่ ยตามอง
พรานยืนนิ่งส่วนกระรอกไม่ออกตวั ใจระรัวลมแผ่วแขม่วท้อง
อำพรางกายใจนึกตา่ งตรึกตรอง ฝา่ ยหนง่ึ จอ้ งหลบรอดใหป้ ลอดภยั
แต่อีกฝ่ายจอ้ งฆ่าลา่ ชีวติ ภงั คีคดิ งนุ งงใหส้ งสยั
พวกมนษุ ย์เดือดดาลรำคาญใจ ด้วยเรอื่ งไรแปลกจติ คดิ งงงัน
นกึ ไมอ่ อกว่าตนเคยขวนขวาย ไปทำลายเงินเบยี้ ให้เสยี ขวัญ

66 ตำนานผาแดง-นางไอ่

เป็นศัตรผู ้ใู ดเมือ่ ไรกนั ไฉนน่นั จงึ มาลา่ ชีวิต

น่ันละหนอสนั ดานพาลมนษุ ย์ ไม่ส้นิ สดุ ความร้ายดังไฟพิษ
แม้จอมเทพอินทร์องค์ผู้ทรงฤทธ์ ิ ก็ยงั คดิ เคอื งได้กระไรคน
หรอื กระทงั่ พุทธองคผ์ ูท้ รงญาณ พวกคนพาลสนั ดานชว่ั ไมก่ ลวั ผล
ด่าพระองคเ์ ป็นลาอฐู พดู สัปดน อนั พาลชนทำไดไ้ ร้สำนึก
กระไรหนอเราสตั วด์ ิรจั ฉาน เจอคนพาลตามลา่ ในปา่ ลกึ
เหตุผลใดไมต่ ้องมาตรองตรกึ เพยี งแค่นกึ อยากฆา่ กล็ ่าเอา
ท่านทงั้ หลายอยา่ สนคบคนพาล รู้จกั นานจะพลางตามอย่างเขา
จะซึมซับติดพาลสันดานเรา ดง่ั เทอื กเถาวลั ยเ์ ลย้ี วเกย่ี วกอดกลม
ดมู ะม่วงพนั ธุ์ดมี รี สหวาน หากเอาย่านบอระเพด็ ที่เข็ดขม
ปลูกอยู่ใกลเ้ กยี่ วกันพลันนยิ ม เคยหวานกลายเปน็ ขมเพราะชมกนั

ครานน้ั ..พรานไพรชิงไหวพรบิ ตา่ งเงยี บกรบิ ราวปา่ ดจุ อาถรรพ์
พรานกน็ ง่ั นาคกน็ ่งิ ไม่ติงกนั ต่างอดกลัน้ อำพรางระวงั ตัว
ในกาลนั้นพรานกงให้สงสยั รสู้ ึกมีอะไรตกใสห่ วั
ยกมือข้นึ ลูบเขี่ยอยเู่ นยี นัว พอรูต้ วั ถึงบางอ้อกต็ น่ื ตา
ข้ีกระรอกเต็มน้ิวเลิกค้วิ ดู กำหนดรู้ตน่ื เตน้ เป็นนกั หนา
เงยหนา้ ดเู หนือตนบนทมี่ า อนจิ จาอยูน่ ตี่ รงนเ้ี อง
เห็นกระรอกซุกซบกบั คบไม ้ รีบทนั ใดประทบั กระฉับกระเฉง
ขน้ึ หนา้ ไม้ตาจอ้ งตอ้ งกเู อง ชา่ งเหมาะเหม็งเห็นชัดถนดั ตา
ต้งั แตต่ ามไล่ล่ามาถึงน ี้ ไมเ่ คยมเี ขา้ ใกลไ้ ดเ้ ลยหนา
โอกาสทองของกูอยเู่ ตม็ ตา กูจักฆา่ ให้สมอารมณ์ปอง
ได้จงั หวะเลง็ น่ิงก็ยิงไป ลกู หน้าไมแ้ ม่นดีไมม่ สี อง
แทนทจี่ ะปกั กายดงั หมายปอง แตก่ ลบั ตอ้ งกระดอนมาในครานน้ั
หน้าไม้นย้ี งิ ช้างยงั หางชี ้ คงเปน็ เพราะภูมิดีมอี าถรรพ์

ยิงกระรอกไมเ่ ข้าเฝ้างงงัน ตำนานผาแดง-นางไอ่ 67
สถานทกี่ ลา่ ววา่ มอี าถรรพ ์ ภงั คพี ลันเผน่ ผางทางปัจจมิ
ตัง้ หมู่บ้านรน่ื รมย์นา่ ชมชมิ ปัจจบุ ันหมชู่ นคนแย้มยมิ้
ชอ่ื วา่ บ้านดอนคงจงจำม่ัน อยู่ตรงริมหนองหานอสี านทศิ
หากไม่ไดภ้ มู ดิ ีท่ที รงฤทธิ์ คงกระพนั ภังคีรอดชีวติ
บริวารปกั ษาผวาหนี พรานคงปลดิ ชพี นาคไมย่ ากเยน็
ตะวันตกมงุ่ ไปเม่อื ใกลเ้ ยน็ นำภงั คเี ร่งรอ้ นจากซอ่ นเรน้
มงุ่ สปู่ า่ ร่มครมึ้ ทึมทบึ โนน้ เจา้ โผนเผน่ ว่งิ มุ่งขา้ มทุ่งเตียน
วิ่งหนีตายทกุ ขย์ ากกว่าพากเพียร เผน่ กระโจนแสนยากอยากเกษยี ณ
นกึ ถงึ พ่อแม่เคยเฉลยความ ด้วยทุง่ เตยี นไรท้ ซี่ ่อนผ่อนกายา
ไม่อยากใหข้ ้นึ ส่พู สุธา เคยหา้ มปรามด้วยรักเป็นนกั หนา
แต่ไม่ฟังคำค้านของมารดา ด้วยนานาผองภัยในมนษุ ย์
เปน็ ทุกข์ใจไรห้ วงั ดังเจอครุฑ จึงถกู ล่าตามหลังไมย่ งั้ หยดุ
เหลา่ นาคแปลงมุ่งกรูส่รู าวปา่ พวกมนุษยเ์ ปน็ ไฉนจติ ใจพาล
พอขา้ มพ้นทอ้ งทุ่งเปน็ บงุ่ จาน ดงเบอ้ื งหนา้ ปา่ ชัฏดงั รัดสาน
ลว้ นต้นจานสูงใหญ่ใบทึบทมึ เถาวลั ยล์ อดสอดประสานเปน็ ดานดง
พอไปถงึ ปา่ ชฏั อสั ดง ดรู ่มครมึ้ พฤกษาน่าเดนิ หลง
อนั บุ่งจานนน้ั หนาป่าทองกวาว มืดค่ำลงพอดีทบ่ี ุ่งจาน
มายุคนค้ี อื กล่มุ บา้ นอมุ่ จาน ตามเรอ่ื งราวเลา่ เหน็ เปน็ หลกั ฐาน
คำว่าบุ่งเปลี่ยนไปกลายเป็นอุ่ม พอเนน่ิ นานคำเปลยี่ นผดั เพย้ี นไป
มีถนนตัดผ่านหมบู่ า้ นไป ทป่ี ระชุมประชาหนา้ แจ่มใส
ค่ำคืนน้นั ภงั คไี ด้ทซี่ ่อน ท้งั น้ำไฟใสสว่างเป็นอยา่ งดี
ซกุ กายกรซ่อนองคใ์ นพงพ ี พอได้นอนพักองค์ผู้ทรงศรี
สามคนื แล้วหลบหนรี อดชีวติ ลูกนาคีหลับไวด้วยไรแ้ รง
พอคนื ค่ำได้นอนพกั ผ่อนแรง มนษุ ย์ตดิ ตามตนจนสิ้นแสง
โอด้ หู รือนาคาผ้อู าภพั กระรอกแปลงส้ินคิดจิตมดื มน
ไร้ปญั ญาเป็นทรพั ย์จงึ สบั สน

68 ตำนานผาแดง-นางไอ่

คราวบญุ โปงใบเ้ บือ้ เม่ือเป็นคน กรรมตามดลเกดิ มาในครานี้
เป็นนาคาภังคผี ู้มฤี ทธิ ์ แตค่ วามคดิ ไม่แจง้ ดังแสงสี
ไรป้ ัญญาพินจิ คดิ วธิ ี ไมไ่ ด้มคี วามคดิ พิชิตภัย
ครัน้ แสงเงินวาววับจับทอ้ งฟา้ ท้องนภาเร่มิ แจ้งแสงสมยั
อีกไมน่ านสุรีย์จักมชี ยั ข้ึนสาดสอ่ งอำไพใหป้ ฐพี
ในกาลนัน้ พรานตื่นขน้ึ เห็นแสง ยงั ไม่แจ้งแกต่ าในครานี้
แต่ฝงู นกเกาะกลมุ่ สุ้มเสยี งดี มันเร็วรลี่ งใตอ้ อกไปแลว้
เรยี กสมุนของตัวอย่ามัวขลุก จงรบี ลกุ ฟงั เสยี งสำเนียงแนว่
หมู่นกกานกเอ้ียงเสียงแซงแซว มันไปแลว้ ทางใต้ตามไปพลนั
ออกเดนิ ขา้ มห้วยนำ้ ตามเสยี งนก ดน้ ทุ่งรกตามปกั ษใี นที่นัน้
ไม่นานนกั กแ็ จ้งแสงตะวัน สรุ ิยนั ส่องสว่างกระจา่ งตา
สว่ นภังคเี ห็นไกลดอนไมส้ งู จงึ ม่ันมุ่งเรว็ รด่ี ้วยส่ขี า
เห็นมะเด่ือยืนตน้ ปนยางนา ลกู แดงเหลืองล่อตาดนู ่าทาน
ตรงทแี่ จ้งพอดีในท่ีนั้น กาลเปล่ยี นผันเรียกบา้ นแจ้งแถลงสาส์น
บา้ นดั้งเดิมของกลุม่ บ้านอมุ่ จาน ตั้งอยู่นานจงึ จางท้งิ ร้างไป
ปัจจุบนั เหลอื โพนโนนบ้านเก่า ตามเรอื่ งเลา่ เก่ามาวา่ ตรงไหน
ส่วนลำห้วยเรียกห้วยแจ้งแสดงไว ้ ทีพ่ รานไพรลยุ นำ้ ติดตามมา
ส่วนดอนใหญไ่ มส้ งู ลว้ นยูงยาง เปน็ ปา่ รา้ งกลางทุ่งใหศ้ กึ ษา
กอ่ นเคยเปน็ หมู่บา้ นเมอื่ นานมา เรยี กกนั วา่ บา้ นดอนยางอยา่ งตำนาน

เมอื่ น้ัน.. นาคาผูห้ ารัก หิวโหยนกั กินมะเด่อื ทเ่ี นอ้ื หวาน
ตะกละกนิ กัดก้มอย่างซมซาน บรวิ ารทง้ั ส้นิ ก็กนิ พลัน
ดว้ ยหวิ แหบแสบไส้หลายเพลา มวลนาคากินได้ไมเ่ ดียดฉันท์
พอไดก้ นิ หวงั เพียงเลย้ี งชีวัน ยังมทิ ันบรรลุอ่ิมอทุ ร
พรานกงย่องมาทันมองหันหา เหน็ เตม็ ตาวา่ กระรอกไมย่ อกยอ้ น
กำลังกดั กินกลมุ่ อุทุมพร ไมส่ งั หรณจ์ ิตใจว่าภยั มา

พรานกงเลง็ หนา้ ไม้เขา้ ใสร่ า่ ง ตำนานผาแดง-นางไอ่ 69
ลกู หนา้ ไมร้ นุ แรงแทงกายา พอตรงทางยงิ พลันทนี นั้ หนา
แสนปวดแปลบแสบหทัยหายใจขดั เสยี บอรุ ากระรอกนอ้ ยลอยกระเดน็
ธาตทุ ัง้ สลี่ าญแหลกแตกกระเซน็ โอ้กรรมซัดตามจองใหม้ องเห็น
ก่อนตายจึงตง้ั จติ พษิ ฐาน ภงั คีเห็นความตายไมว่ ายแค้น
ขอกายข้าจงใหญไ่ ม่ขาดแคลน ใหน้ ายพรานไดเ้ นอ้ื มากเหลอื แสน
ขอมนษุ ย์หมมู่ ากจงอยากกนิ ท้ังเขตแดนกินได้ทว่ั ทกุ ตวั คน
กลน่ิ กายขา้ จงตดิ สนทิ คน ใหล้ ้มิ สิน้ กนั ทั่วหัวถนน
แม้นใครกนิ เนอ้ื กูทร่ี ู้ชดั ขอใหผ้ ลทมี่ นั ทำตามมาทนั
อย่าไดม้ ีความสุขทกุ คืนวัน จงวบิ ตั ชิ พี สลายทำลายขนั ธ์
อธิษฐานเสรจ็ สรรพกด็ บั จิต กรรมจงทันดจุ ดังขา้ จำนง
กระรอกนอ้ ยดาวดิน้ ชวี ินปลง กรรมลขิ ิตขีดไว้ไมล่ ืมหลง
ครัน้ กระรอกส้นิ ใจให้ประหลาด ตามจำนงคำหอมคร้ังตรอมตาย
ตวั ใหญโ่ ตตามจิตตงั้ ครงั้ ก่อนตาย มีขนาดฟูฟ่องพองขยาย
พรานงนุ งงแปลกใจไมว่ ายเวน้ พลนั ขยายกายาน่าอัศจรรย์
กระรอกนอ้ ยมาเตบิ ใหญ่อยา่ งไรกนั ไมเ่ คยเหน็ สตั วต์ ายกลบั กลายขนั ธ์
เหล่านายพรานดีใจได้แก้แค้น เมื่อเทยี บทนั กับชา้ งก็ข้างเคียง
โห่ร้องกนั ทว่ มทบั สรรพสำเนยี ง ต่างชูแขนเหนือหวั ระรัวเสยี ง
ในท่ีสดุ กงพรานก็บัญชา ตะเบ็งเสียงโห่ล่นั สนั่นไพร
ใหพ้ ากันชกั ลากเอาซากไป เหล่าบรรดาลกู น้องที่ผ่องใส
จะไดเ้ อาหัวใจใหไ้ อ่คำ เพ่อื จะได้ชำแหละแหวะกมล
ครั้นหาท่ีเหมาะไดไ้ ม่ไกลคน ตามพระดำรัสหนอไม่ฉ้อฉล
ก่อนชำแหละสรรพางค์ร่างกระรอก เขตหมู่บา้ นใกลถ้ นนชลธี
อยากไดค้ นฝึกปรือฝมี อื ด ี พรานกงบอกเอาหัวใจใหไ้ อ่ศรี
ไม่มใี ครอาสาผา่ อกนาค เอาฤดีกระรอกออกมาพลนั
หันซา้ ยขวาจับจ้องมองหนา้ กนั ยังเกรงซากนาคีมีอาถรรพ์
ทันใดนน้ั เซียงน้อยคอ่ ยย่างมา

70 ตำนานผาแดง-นางไอ่
อนั เซยี งนอ้ ยร้เู รอื่ งก็เยือ้ งยาตร ไมข่ ้ขี ลาดอาจหาญขนั อาสา
มีฝมี ือชำแหละแหวะอุรา เอามดี ผา่ ควกั ใจไมเ่ น่นิ นาน
จากนั้นเซยี งเชือดเถอื เนอื้ กระรอก ผ่าตดั ออกมงั สามหาศาล
เนื้อกระรอกพอกพนู คูณเบิกบาน ทกุ คนชว่ ยกิจการแบ่งปนั เนือ้
สถานทแ่ี ลก่ ระรอกออกแบ่งปัน ปัจจุบนั ยงั ถือมีช่ือเหลือ
บา้ นเชียงแหว*ตรงน้ที ่แี ลเ่ นื้อ แต่วา่ เม่ือกาลเปล่ยี นพูดเพยี้ นไป
คนอสี านบรรพชาสามเณร พอลาเว้นสิกขามาคราไหน
จะมีคำนำหน้าว่าเซยี งไป เพอ่ื รไู้ ด้ชายนน้ั เคยบรรพชา
เรยี กเซยี งแหวะเปลย่ี นเสยี งเปน็ เชยี งแหว เรอ่ื งเกา่ แก่โดดเด่นเป็นผญา
อยใู่ นผกู ใบลานนมนามมา ใหร้ ู้ว่าเชียงแหวหรอื คือตำนาน
บดั นัน้ บรรดาประชาชน เกอื บทุกคนแผ่เผอ่ื เลือดเน้ือหวาน
อยากไดม้ ากกไ็ ด้มากหากตอ้ งการ ยงั เหลือลน้ เต็มลานบานตะไท
สว่ นทางบ้านเซยี งแกว้ ก็แวว่ ยิน ว่าทกุ ถิน่ แบง่ ปันกันไฉน
บ้านตนลว้ นหม้ายตวั ผัวตายไป คนอืน่ ไม่นยิ มสมคบตน
จงึ มิได้แมเ้ นอื้ ท่ีเหลือปัน ด้วยตวั นั้นเป็นหม้ายเขาไม่สน
เขารงั เกียจหลีกหลบไม่คบตน ไมม่ คี นเป็นค่เู ขาดูแคลน
บา้ นเซยี งแกว้ เมืองแม่หมา้ ย*ในครัง้ น้ัน ปจั จบุ ันเกาะแกว้ เรืองด่งั เมอื งแถน
มเี จดยี พ์ ระธาตสุ ะอาดแดน ไมแ่ รน้ แคน้ เรอื นชานหมบู่ า้ นคน
ชอื่ หมบู่ า้ นดอนแกว้ ตามแนวเร่ือง ว่าเป็นเมืองแม่หมา้ ยไรช้ ายสน
เปลย่ี นจากเซยี งเป็นดอนไปตามใจคน กาลว่ายวนส่งิ ใดลว้ นไม่ยืน
คนท้ังหลายเอ้ือเฟือ้ เนื้อกระรอก ทุกซอยตรอกแบง่ สรรกันทวั่ พ้ืน
ล้ิมกระรอกอรอ่ ยล้นิ ไดก้ นิ กลนื กนั ทัว่ ผนื แผ่นดนิ ขอมจอมบรุ ี
ส่วนหัวใจพรานกงบรรจงห่อ เพ่อื ลออไอ่องค์ผทู้ รงศรี
นำไปกอ่ นใครใครในธานี เพือ่ ถวายรานมี ีรางวลั
พรานงบี หลับรมิ ทางระหว่างไป โคนต้นไมง้ บี นอนพกั ผ่อนขันธ์

พอไดพ้ ักกายมี แี รงพลัน ตำนานผาแดง-นางไอ่ 71
ตรงท่พี รานงบี หลับพับคอน้นั เจา้ กม็ น่ั มุ่งไปในวงั เวยี ง
อนุสรณ์งีบหลบั ดับสำเนียง ปจั จบุ นั เรยี กบา้ นเซยี บเพราะเงยี บเสยี ง
นายพรานนำหวั ใจเขา้ ไปเฝ้า ระหว่างเวยี งกบั ทแ่ี ลแ่ ถเนื้อกนั
เจ้าหญงิ น้อยดีพระทยั ใหร้ างวัล ไอค่ ำเจา้ สมหวังดังใฝฝ่ นั
ฝ่ายที่เหลือนาคีบรวิ าร พรานก็พลันทูลลามาบ้านตน
ต่างโผผินบนิ หนอี ลวน เหน็ กงพรานฆ่านายใหส้ ับสน
พญาศรีสุทโธกริว้ โทสา รบี พาตนแหวกธาราสู่บาดาล
โกญจนาทผาดแผลงสำแดงดาน เม่ือหมู่นาคเสนามาเล่าขาน
นทีฟองนองระลอกกระฉอกคลื่น สะเทือนท้านลัน่ ก้องคะนองไป
หมเู่ งอื กงูมัจฉาผวาใจ เขยา่ ผนื สมุทรลน่ั สนน่ั ไหว
แล้วสัง่ ใหข้ นุ พลเรง่ ขนทพั ต่างหวนั่ ไหวกลัวฤทธพิ์ ิษนาคา
กจู ะยกพหลพลโยธา ไมต่ อ้ งนบั นำไปใหห้ มดหนา
ให้ตระเตรยี มกองทัพนบั เป็นสอง ไปขย้ชี คติ าใหล้ ่มจม
จดั ทหารน่าดเู ปน็ หมกู่ รม ทพั หนง่ึ ตอ้ งยง่ิ ใหญใ่ หเ้ หมาะสม
เข้าไปทางตะวนั ออกนอกธาน ี แลว้ ระดมขึน้ ตรงลำโขงมา
จากแผน่ ดนิ ใหเ้ หน็ เปน็ ธารา บดขยี้พวกมนั ให้หรรษา
แม้มไิ ด้กนิ ร่างของภงั ค ี เว้นแตว่ า่ ผู้ใดไมล่ ิม้ ลอง
อกี พระเถรเณรชมี ีศีลครอง ไว้ชีวอี ยา่ ผจญให้หมน่ หมอง
สว่ นทัพสองข้ึนโขงตรงทางเหนอื อยา่ แตะต้องคนดีมีศีลธรรม
จากเหนอื ตรงลงใต้ใหจ้ ดจำ ตามมาเพ่อื เกื้อกูลคอยคูณคำ้
พวกกินเน้ือลกู ข้าอย่าให้เหลือ จงกระทำผลาญเผาใหเ้ มามัน
เร่งเข้าเถิดพวกเราเข้าประจญั ใหม้ นั ตายเปน็ เบอื อยา่ เหลอื ขนั ธ์
หมนู่ าคหนนุ ต่อเนอ่ื งด้วยเรืองเดช จงลา่ ลา้ งพวกมันใหบ้ รรลยั
เสียงสนัน่ ลน่ั ฟา้ สุราลัย เกิดอาเพศฟ้าแดงฉานกาลสมยั
เมือ่ สมัยกลางฟา้ ทวิ ากร

72 ตำนานผาแดง-นางไอ่ เปน็ เปอื กตมเต็มทางร่างสลอน
อนั ทัพแรกดน้ ด้ันพลันถล่ม อนสุ รณ์เรยี กไว้ห้วยไพจาน
กลายเปน็ ลำน้ำใหญใ่ นดงดอน หมอู่ มติ รคดิ ทำลายอยา่ งไพศาล
ตรงเข้าหาชคิตาบูรพาทิศ มัจจรุ าชเรยี กขานในวนั น้ี
พวกมนุษย์เพลินอย่ไู ม่รกู้ าล เปน็ รรู ่องปล่องนำ้ ตามคำชี้
สว่ นทพั หลังดนั พนื้ ขนึ้ เป็นปลอ่ ง เผาชีวีแหลกลาญทง้ั บา้ นเรอื น
แลว้ รุกคบื ลงใตใ้ นทันที เป็นรอ่ งรางตามหนท่พี ลเคลือ่ น
เกิดเปน็ ห้วยลำนำ้ ไปตามทาง บา้ งแชเชอื นเรยี กพลไพรในบางครา
บัดนเี้ รยี กหว้ ยพน่ ไฟเพราะไหม้เรอื น

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 73

ชคิตาล่ม

จะกลา่ วถงึ ผาแดงแหง่ ผาโพง ได้มโี องการส่งั อยา่ งหรรษา
เตรยี มขนั หมากสู่ขอลออตา หลงั กลบั จากชคิตามหานคร
เป็นการหมนั้ หมายสมรก่อนสมรส ซง่ึ กำหนดอกี สองเดอื นไมเ่ ลอ่ื นยอ้ น
นเ้ี พยี งการหมั้นขออรชร ทา้ วรบี ร้อนเรง่ มาไม่ชา้ นาน
ขบวนหมนั้ แรมรอนถงึ ตอนเชา้ ผาแดงเจา้ เรง่ มาพบตาหวาน
ส่วนเวียงวังไออ่ งค์นงคราญ ได้เตรยี มการตอ้ นรับขบั ส้พู รอ้ ม
คร้ันได้ฤกษต์ อนบ่ายเพ่ือหมายหม้นั คนโจษจันมากเหลอื ถงึ เนอ้ื หอม
ต่างเฝา้ แลพิศพวงดวงพะยอม ธิดาขอมจกั เตมิ เสรมิ ความงาม
ปกตคิ วามงามท่ีล่ำลือ เป็นเพียงถอื กำเนิดกเ็ ลศิ หลาม
ยังประกาศเลอื่ งลือระบือนาม คราน้ที รามวัยเจ้าจกั เทา่ ไร
เม่อื แต่งพร้อมสรรพเสร็จเสดจ็ มา ทุกสายตาเบง่ิ ตามงามไฉน
แววพระเนตรดุจกวางอยกู่ ลางไพร ดูวิไลกลึงกลมสมสว่ นองค์
ผิวพระพักตร์จุรณจันทน์ประชันผัด ใหค้ ิ้วคางคมชัดน่ารัดหลง
อกอวบอมิ่ สรรพางค์รา่ งกายตรง พระขนงโค้งเคียวดัง่ เรยี วจนั ทร์
ประดุจองค์เทพศี รสี วสั ด ิ์ พระสุรสั วดศี รีสวรรค์
พระหยดยอ้ ยแยม้ ยมิ้ อ่ิมอนนั ต ์ เสนาพลันค้างคาน่งั ตาลอย
ทรงแยม้ ยม้ิ แลมาทางผาแดง ผรู้ ุนแรงรักเรอื งจนเงือ่ งหงอย
เพลนิ พระองคน์ ง่ิ ขึงตะลึงลอย โอเ้ นอ้ื กลอยสดุ จะสรรพรรณนา

ทนั ใดนั้นลางร้ายได้อุบตั ิ จ้งิ จกพลดั ตกตายใจผวา
ตอ่ หน้าองคเ์ ทวพี ระธดิ า ตนื่ อรุ าหวัน่ ไหวในบนั ดล
ในขณะทกุ คนเฝา้ งงงนั ตา่ งเสียขวัญเหตุนต้ี อ้ งมีผล
พร้อมกันนัน้ ตงั ตึงเสียงองึ อล เกิดลมฝนมดื มิดทิศบรู พา

74 ตำนานผาแดง-นางไอ่ เมฆาคลำ้ บดิ เกลยี วมาเจยี วหนา
เสียงพายพุ ายพัดซัดกระหน่ำ วชริ าแลบลั่นสนนั่ ดนิ
ดง่ั อสูรยกทัพจบั เทวา พายุเดอื ดทรงพลังดังศิขริน
ทางปจั ฉมิ ฟ้าฉานปานดังเลอื ด ดว้ ยนาคนิ ทรโ์ รจนร์ งุ่ พ่งุ ไฟแค้น
ถูกทำลายกระจายแตกแหลกเป็นดนิ ไมเ่ คยเหน็ ตา่ งหวน่ั กนั เหลอื แสน
พระทวารบานหนา้ ต่างกางกระเดน็ บรู พาแผน่ ดนิ พังพร่ังพรูมา
เมอื งทั้งเมอื งเขย่ารวั ไปท่ัวแดน พายุดนั สุดพลงั ดงั หวือหวา
ดินเขย่าลมขยบั พยับลนั่ พสุธาวอดวายกลายเป็นโคลน
แผ่นดินยบุ นำ้ ทะลักพงุ่ ผลกั มา แผ่นดนิ พงั ไมม่ ีท่เี ผ่นโผน
โหยไหห้ วดี กรดี เสียงสำเนียงดัง ถกู น้ำโคลนพดั หายไปจากกัน
เสียงร่ำไหก้ รู่ ้องกอ้ งตะโกน สนน่ั ก้องทัว่ แผน่ ดินดงั สิ้นขวญั
ลูกพรากแมเ่ มยี พรากผัวระรัวร้อง แผน่ ดนิ พลันสญู หายกบั สายชล
ปวงประชาดาวดน้ิ สน้ิ ชีวนั



76 ตำนานผาแดง-นางไอ่

สว่ นผาแดงเหน็ ภัยไลม่ าถงึ ตกตะลงึ อึดใจเทา่ ปลายขน
ผอู้ ่นื ต่างสบั สนอลวน แตล่ ะคนเรว็ รรี่ บี หนตี าย
เจ้ารบี ควา้ พระกรบงั อรองค์ แลว้ รบี ลงกอ่ นวงั พงั สลาย
ควา้ สมบตั ิพสั ถานสุวรรณราย อนั เปน็ เครอ่ื งหมน้ั หมายไปเรว็ พลนั
กระโจนข้นึ อาชาผคู้ ู่ชีวิต เจ้าสามฤทธิแ์ รงดขี มขี มนั
ผาดโผนกระโจนไวไปทนั ควัน ขณะนั้นเมอื งพังตามหลังมา
พลนาคีศรีสุทโธนาคราช อาละวาดสร้างกรรมทำหงิ สา
พากันขดุ ดนิ ถล่มจมธารา ตามบญั ชานาคศี รสี ุทโธ
พังทลายแหลกส้ินทกุ ถิ่นฐาน ทัง้ เรอื นบ้านตำหนักวังอักโข
ชคิตารงุ่ เรืองเมอื งใหญ่โต เคยอวดโอ่ยงิ่ ใหญ่ไร้เทียมทาน
มาบัดน้กี ลบั สลายกลายเป็นหนอง ผนื นำ้ ใหญเ่ นอื งนองชอ่ื หนองหาน
จากเวียงวงั ใหญโ่ ตโอต่ ระการ เปน็ หนองหานเพยี งขยบิ กระพรบิ ตา

เจา้ สามมา้ สำแดงแผลงพลงั นายขนึ้ หลังแลว้ หนดี ว้ ยสข่ี า
นางไอค่ ำกอดรัดภสั ดา นองนำ้ ตาหวาดหวนั่ อนั ตราย
ม่งุ สูท่ างปจั ฉิมริมนคร ไมเ่ หลยี วยอ้ นดวู งั พงั สลาย
เร่งควบมา้ เจา้ สามหนคี วามตาย มวลหม่นู าคทง้ั หลายไมย่ นิ ยอม
ด้วยนาคาไดก้ ลิ่นกายนิ ทรีย ์ ของภงั คจี ากกายาธดิ าขอม
จึงขดุ ดนิ ตามทวงพวงพะยอม ธิดาขอมหวงั เอาไปในธารา
แผ่นดินยุบโครมครามน้ำเนอื งนอง เปน็ คคู ลองพ่งุ พรง่ั ตามหลังม้า
ผาแดงเหน็ ของมากหนกั อาชา จึงบอกพระธดิ าใหท้ ิ้งไป
นางท้ิงฆอ้ งทองคำตามคำส่ัง เพื่อเบาหลงั เจา้ สามตามขานไข
เจา้ สามเบาเข้าจริงก็วิ่งไว คอ่ ยหา่ งไกลการล่าของนาคี
แต่กองทัพนาคนำ้ ตา่ งกำหนด ไม่ละลดลา่ อนงค์ผ้ทู รงศรี
นางจงึ ถอดธำมรงคว์ งมณี ในทนั ทขี วา้ งปาไม่อาวรณ์

นาคยังคงเกลยี วกรอู ย่เู ชน่ เดิม ตำนานผาแดง-นางไอ่ 77
พสุธามา้ เหยียบเปน็ ดินดอน กำลงั เสรมิ ไลล่ ่าหนา้ สลอน
เหยยี บตรงไหนได้ลม่ ถลม่ พลัน พลนั สน่ั คลอนลมุ่ ลม่ จมเปน็ คลอง
เจ้าสามว่ิงวนเวียนเพยี รตรติ รอง นาคโรมรันไล่ล่าม้าผยอง
แตว่ ิ่งวางทางไหนกไ็ ม่พ้น เพื่อหาชอ่ งทางไปใหร้ วดเร็ว
แผน่ ดินจมถล่มร่องเป็นปลอ่ งเปลว นาคดัน้ ด้นพนั ตูทำคูเหว
ผาแดงเห็นนางยงั ครองกลองชยั ศร ี ม้ายังเรว็ โลดร่างออกหา่ งทัน
จงึ รบี บอกองค์หญงิ โยนทิง้ พลนั คธู่ านชี คิตามหาขณั ฑ์
นางโยนท้งิ ทันทที ีไ่ ด้ยนิ อย่าใหม้ นั หนกั ม้าอาชาไนย
แมเ้ ปน็ ของคเู่ มืองเรืองไผท ไม่ถวิลอาวรณใ์ นตอนไหน
นางหวาดกลัวตวั ส่นั ขวัญผวา ไม่หวงั ได้ยนิ ดเี ท่าชีวิต
นาคยังคงตามทนั กระช้ันชดิ กอดรดั ผาแดงแนน่ ไม่แค่นคิด
ม่งุ เป้าหมายเบ้อื งหนา้ ผาสูงชัน สามชีวติ จดจอ่ มรณา
อยูไ่ มไ่ กลแล้วหนอต่อสายตา ขน้ึ บนนั้นจกั รอดปลอดภยั หนา
ผาแดงหนั เหลอื บจอ้ งมองคนื หลงั กัลยาสะอื้นสุดฝนื ทน
นำ้ กระฉอกระลอกคล่ืนพื้นวังวน เหน็ ดินพงั เปน็ รางกลางสถล
ม้าล้มลกุ คลกุ คลานทะยานกาย เชย่ี วสายชลพงุ่ ปราดประหลาดตาม
อกี อดึ ใจจกั พ้นทุกขท์ ลี่ กุ ลาม หวดิ เกอื บตายหลายแลว้ เจา้ แกว้ สาม
ล้มตวั พาดขวางลำรีบจำ้ ลุก อนจิ จาเจา้ สามลม้ คว่ำไป
จงั หวะน้นั นาคพี ลันมชี ยั แสนเป็นทกุ ขเ์ จบ็ เนื้อเหลอื ไฉน
อาชางามผาดโผนกระโจนกาย ตวัดไดไ้ อน่ างรา่ งกระเด็น
ผาแดงเหลอื บเหลียวไปใจวาบเยน็ รบี ปนี ป่ายขึน้ ผาชนั อันขุกเขญ็
เหน็ ยอดหญิงกลิ้งร่างตกหลังม้า ดว้ ยหนั เหน็ ไอ่คำตกน้ำไป
นำ้ วนหมนุ ดดู กายหายวบั ไป เอ้ือมมอื ควา้ ไมท่ ันจติ ส่นั ไหว
แลว้ ทนั ใดทุกอยา่ งจดื จางพลัน

78 ตำนานผาแดง-นางไอ่

ท่ีเสียงล่ันสนน่ั กอ้ งทั่วทอ้ งฟา้ ท้งั เมฆาคล้ำหมุนอย่างหนุ หัน
พระพายพัดฤทธแิ์ รงแข่งประชนั ธรณนี น้ั ยบุ แยกแตกเปน็ คลอง
ในบนั ดลกลบั กลายมลายส้นิ ดังแผ่นดนิ ฟา้ ใสไมเ่ คยหมอง
ฟ้ากระจ่างแจม่ ตาดนู ่ามอง ตะวนั สอ่ งทัว่ หล้าพนาธาร
หลงเหลือซากใหด้ ูเปน็ คคู ลอง อกี ทง้ั หนองหานเหน็ เปน็ หลกั ฐาน
เม่อื คืนวนั ผันเปลี่ยนจำเนียรกาล ยงั หลกั ฐานใหม้ ีทรี่ ำลกึ
ตรงท่นี างทง้ิ ฆ้องทองคำไป บัดนไี้ ดเ้ ปน็ ห้วยช่วยใหน้ กึ
เรียกว่าห้วยน้ำฆ้องคลองไมล่ ึก ใหไ้ ดต้ รึกเรอื่ งเลา่ แตเ่ ก่ามา
บ้านน้ำฆอ้ งตัง้ ลงท่ีตรงนนั้ ให้รู้กันจำไว้ได้ศกึ ษา
ส่วนตรงทธ่ี ำมรงคว์ งโสภา พระธิดาขว้างลงตรงแผ่นดนิ
เกดิ กลบั กลายใหเ้ ห็นเปน็ หนองนำ้ สรา้ งรอยจำเรอ่ื งราวเจา้ โฉมฉนิ
ช่ือหนองแหวนฝากไวใ้ ห้โลกยิน ว่าแผน่ ดนิ ถนิ่ น้ีมีตำนาน
ส่วนตรงทีท่ ้งิ ไปกลองชัยศร ี กลับกลายมีลำห้วยช่วยสืบสาน
เรยี กลำหว้ ยกลองศรีชี้ตำนาน ทั้งหมูบ่ ้านกม็ ใี กลท้ ่กี ลอง
ช่อื บา้ นห้วยกลองศรใี นทน่ี ้นั ชื่อเดยี วกนั กับหว้ ยดว้ ยทั้งสอง
ส่วนตรงทอ่ี าชาตัวน่ามอง เคยผยองกลบั พลาดล้มฟาดลง
มาบัดน้ีมีน้ำเปน็ ลำคลอง ไหลลงหนองหานไปไมล่ มื หลง
ชื่อว่าห้วยสามพาดไหลลาดลง ยงั อย่คู งชีช้ ดั ปจั จุบนั
สว่ นหน้าผาสูงชนั ตรงนั้นหรอื บัดนี้คอื ภผู าแดงดูแข็งขนั
อย่เู ทือกเขาภพู านปัจจบุ นั เปน็ เขตก้ันอดุ รนครดี
กบั หนองบวั ลำภูคูจ่ ังหวดั เป็นเขตขดั ขวางเมอื งท่ีเรอื งศรี
ทั้งเป็นแหลง่ สายชลตน้ นำ้ ดี ห้วยสามพาดไหลรีจ่ ากน้ไี ป

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 79

ลน่ั กลองรบ

เมอ่ื นน้ั ผาแดงผแู้ รงฤทธิ ์ กรรมลขิ ติ พา่ ยแพส้ ุดแก้ไข
เสยี ไอค่ ำอนิ ทร์ถวลิ ดั่งส้ินใจ แปลบหัวใจไหร้ อ้ งก้องดนิ แดน
เม่ือท้าวเสียยอดหญิงยิ่งชีวิต จงึ ไดค้ ดิ เบยี นเบยี ดดว้ ยเคยี ดแคน้
หวังตามลา่ นาคินทร์ทกุ ถิ่นแดน แม้เมืองแมนจะล่าตามฆา่ มัน
กลบั ถึงเมอื งเรอื งยศกำหนดสัง่ ทกุ เวยี งวงั นอ้ ยใหญใ่ นเขตขณั ฑ์
จัดกองทพั เตม็ อัตราอยา่ นานวนั เตรยี มไล่ล่าฆ่าฟนั ให้บรรลัย
ยกพหลโยธากรธี าทพั อักโขนับเดนิ กันสนน่ั ไหว
กองทพั ช้างทพั ม้าอาชาไนย พลรถพลนั ครรไลไปตามทาง
พลราบนับหม่ืนคนดน้ เดินเท้า รดุ เร่งเรา้ รีบไปไมแ่ รมรา้ ง
ตา่ งผูกสอดธนูดาบอาบยายาง หน้าไม้กางโลห่ อกไร้ปลอกคลุม
ธงชัยกางพรบึ พัดสะบัดใบ จะชงิ ชัยนาคาพาลงหลมุ
เสียงกลองชยั ตามหลงั ดังตงั ตมุ ใหเ้ กาะกลมุ่ เคลอ่ื นคลอ่ งคะนองพล
ดงสะทา้ นดินสะเทอื นเมื่อเคล่ือนทัพ สมุ้ สดบั โหร่ อ้ งก้องสถล
ฝ่นุ กระจายเปน็ ควันในบนั ดล ทา้ วผาแดงแตง่ ตนไปบนกรี

ฝ่ายสทุ โธราชาเจ้าบาดาล เมอ่ื เผาผลาญถลม่ เมอื งทเ่ี รอื งศรี
มิไดย้ กกองทพั กลับธานี ยึดวารีหนองหานนา่ นนำ้ นอง
ครน้ั ผาแดงมาถงึ บงึ หนองหาน ท้าวสง่ สาสน์ ทา้ ยุทธ์สุทโธผยอง
ถา้ ไม่อยากทำศกึ จงตรกึ ตรอง รีบสง่ น้องไอ่คำมากำนัล
จะรอรับนางไอ่อยู่ใกล้หนอง ไม่ขดั ขอ้ งเคืองใจเมอ่ื ไดข้ วัญ
หากแมน้ ไม่คนื มาก็ฆ่ากนั จะประจญั พันธุเ์ ผา่ เจ้ามลาย
ศรีสุทโธไดอ้ า่ นสาส์นทา้ จบ เลอื ดนกั รบพงุ่ พลา่ นซา่ นเปน็ สาย
แสนโทโสโมหนั จนส่นั กาย ประกาศลายนาคารบั ทา้ รบ

80 ตำนานผาแดง-นางไอ่ พวกมนษุ ยห์ ยามใจจักไปพบ
รีบตอบสาสน์ ขานรับสัประยทุ ธ ์ กูจะรบกับมันใหล้ ่ันแดน
มีนำ้ ยาเพียงไรคงไดส้ บ

แลว้ สงครามสปั ระยทุ ธม์ นษุ ยน์ าค ท่ีมียากกอ็ ุบตั ดิ ้วยขดั แค้น
กองกำลังสองฝ่ายไม่ขาดแคลน พอถึงแดนสมรภูมกิ ็รุมกนั
ตา่ งฝา่ ยต่างโรมรนั ผนั ประชดิ ครา่ ชีวติ วางวายมลายขนั ธ์
ตา่ งฝ่ายต่างวอดวายไปด้วยกัน สงครามนนั้ ไมม่ ีปราณีใคร
เห็นทหารลม้ ตายไมว่ ายแค้น ยิ่งอัดแน่นในอกสดุ ยกไหว
ศรีสทุ โธจึงสัง่ ดว้ ยคล่งั ใจ วา่ ผู้ใดทเี่ ห็นว่าเป็นคน
จะลกู เลก็ เดก็ แดงเร่ยี วแรงแย่ หนมุ่ หรอื แกอ่ ยบู่ า้ นในหรอื ไพรสณฑ์
จงล่าลา้ งทำลายให้วายชนม ์ รู้ว่าคนจงอยา่ ไดป้ ราณี
พวกทหารนาคน้ำจำแลงร่าง แปลงเปน็ สตั วต์ า่ งต่างบา้ งปกั ษี
บา้ งงูเสอื เนื้อปลาบรรดาม ี ซุ่มโจมตีฆ่าเข่นไม่เวน้ วัน
ทัง้ ทลายบ้านลม่ ท้ังจมเรอื ผ้คู นตายเป็นเบือไมเ่ หลอื ขันธ์
จะเกยี่ วข้องหรือไม่ไลป่ ระจัญ มนษุ ย์สิ้นชีวนั กนั มากมาย
ฝ่ายทหารผาแดงก็แผลงฤทธ ์ิ ลา่ อมติ รหมนู่ าคกันหลากหลาย
ด้วยเวทมนต์เข้มขลงั พลงั กาย แมก้ ุ้งหอยพลอยตายวายชีวี
ชอ่ื ว่าสตั ว์ดิรจั ฉานทหารเห็น จะตอ้ งเข่นฆา่ ไวมิให้หนี
เพราะอาจปลอมแปลงมาจากนาค ี หลากชีวีดาวด้นิ ต้องสิ้นใจ
ท้งั ปักษีหมลี งิ กระทิงเสือ ตายเปน็ เบอื นา่ สยองมองทางไหน
ทงั้ มนุษย์ดิรจั ฉานตา่ งบรรลัย ศพเกล่ือนไปทวั่ หล้าพนาวนั

จะกลา่ วถึงอินทรามหาราช ผูท้ รงอาสน์สถติ ในไอศวรรย์
ผทู้ รงวชริ าเอราวณั พระอาสนพ์ ลนั รอ้ นเรา่ ดง่ั เผาไฟ
จึงส่องทพิ พเนตรดเู หตกุ ารณ์ พระทรงญาณร้พู ลนั ทนั สมยั

เห็นมนุษย์กบั นาคอยากเอาชยั ตำนานผาแดง-นางไอ่ 81
แมไ้ ม่ทำอย่างไรในคราน้ี ตา่ งพากนั บรรลยั ในโลกา
จะต้องไปกำหนดกฎมาตรา หลากชวี จี ะสน้ิ วงศเ์ ผา่ พงศา
ประกาศิตเทวาให้มาพบ จึงเสด็จลงมาบัญชาการ
เกิดอะไรกันหนาเจา้ บาดาล จงพกั รบนาคมนษุ ยห์ ยดุ เผาผลาญ
ทั้งสองฝ่ายโตก้ ันว่าท่านผิด ทง้ั ผาแดงจงขานวานบอกที
ต่างเถยี งกนั ใหญโ่ ตโต้วาที ทั้งสองฤทธิไ์ มย่ อมนอ้ มศักด์ศิ รี
พวกเจ้าจงกระทำสามข้อนี ้ จึงทรงมเี ทวาบญั ชาพลนั
ในข้อหนงึ่ ให้สองฝา่ ยทำลายกนั ตามวจีบัญชาอยา่ เหหัน
จนกวา่ ใครแพช้ นะจะได้ร ู้ ตามทมี่ ั่นหมายมาลา่ ชีวิต
แตห่ า้ มใช้ไฟเผาเอาชวี ติ ใหท้ ง้ั คู่ผาดแผลงสำแดงฤทธิ์
ส่วนมนษุ ยต์ ้องรู้ม่ันนัน่ นาคา ท้ังพ่นพิษพ่นไฟอย่าได้ทำ
สัตว์อื่นอยา่ ปลิดปลงจงจดจำ จึงคอ่ ยพร่าผลาญไปให้ใจหนำ
อยู่เป็นกลางกับโกสินทรป์ ิ่นนภา ข้อสองนางไอ่คำขา้ นำไป
เม่อื ผลแพช้ นะกนั ในวนั ใด อยู่เปน็ ข้าพระศจเี ทวไี ซร้
ขอ้ สามแม้นว่าหากนาคมีชัย ผู้ชนะจักไดน้ างไอค่ ำ
และไดต้ วั นวลปรางนางไอ่คำ จกั ยกใหน้ าคครองหนองหานนำ้
แมน้ หากวา่ มนุษยย์ ทุ ธช์ นะ ให้จดจำคำอนิ ทรด์ ้วยยินดี
ตอ้ งถมหนองทัง้ ส้นิ ด้วยดินดี เจา้ ต้องละสิทธิ์ครองในหนองนี้
เมอ่ื ประกาศเทวาบัญชาเสรจ็ และนารจี ะใหฝ้ า่ ยผาแดง
ตอ่ จากนนี้ าคากับผาแดง ทรงเสดจ็ หายวบั ไปกับแสง
จนบัดน้ีกาลผนั นบั พันปี จักต้องแผลงฤทธิรณจนมีชัย
ไมว่ า่ นาคหรอื มนษุ ยป์ ระยทุ ธ์ชัย ยังเหน็ มหี นองหานอยคู่ ่สู มัย
เมื่อสรา้ งกรรมผูกเวรไมเ่ จนจบ ต่างบรรลัยด้วยกนั เทา่ นั้นเอง
เกดิ อีกภพจ่อมจมถูกข่มเหง

82 ตำนานผาแดง-นางไอ่ ไมร่ บี เรง่ ผ่อนกรรมท่ที ำมา
แล้วสรา้ งกรรมตอ่ ไปไม่กลวั เกรง นบั ชาติกนั มไิ ดก้ ระไรหนา
อนั สัตว์โลกเกิดตายสลายขนั ธ ์ ใช้ศาตรามุ่งร้ายทำลายกัน
จงึ เบยี ดเบยี นย่ำยีมงุ่ บีฑา ใช้ความคิดกอ่ สร้างทางสวรรค์
ขอทกุ ทา่ นจงใชใ้ จพนิ จิ อนั ศีลขนั ธ์มั่นคงให้ตรงดี
จงเผอ่ื แผ่เมตตาปราณกี นั อยา่ ทำลมื เลยละจะหมองศรี
วาจาตรงคงมนั่ น่ันสัจจะ จะเป็นศรีแก่ปากไมย่ ากเย็น
พูดอยา่ งไรจงทำตามวจี รจู้ ักแยกขนั ธ์กองให้มองเห็น
หมนั่ ตรติ รองคลองธรรมตรกึ จำแนก ใหร้ เู้ ช่นอนิจจาทุกนาที
ภาวนาตอกยำ้ อย่าลำเค็ญ ไมอ่ าจเกีย่ งใหต้ รงตามคงช้ี
เมอ่ื มองเห็นอนิจจาว่าไม่เทย่ี ง ไมเ่ คยมียงั้ หยดุ สะดุดเลย
ความแปรเปลี่ยนเวยี นมาทกุ นาท ี ไมอ่ าจยง้ั หยดุ ไว้ใหน้ ่ิงเฉย
สิง่ ไรไรบรรลทุ ผี่ พุ ัง ไม่อาจเอ่ยเรียกขานให้ผันมา
ทกุ ทุกอย่างสูญสลายไปตามเคย ของของกมู ีไว้ให้รักษา
หากใครยึดอัตตาวา่ ตัวก ู จงึ ยดึ มัน่ มิจฉาอุปาทาน
นั่นคอื เหตุความคดิ อวชิ ชา ดว้ ยดวงจติ มุ่งลงในสงสาร
เมื่อรูผ้ ิดเหน็ ผดิ กค็ ิดผดิ ทอ่ งวฏั ฏะสงสารอกี นานไกล
จงึ ทำผิดพดู ผิดเพราะจติ พาล อันทุกขย์ ากยาวนานเกนิ ขานไข
จงพากันหยดุ ยงั้ ทางวบิ าก จกั พน้ ภัยเวรกรรมท่ที ำมา
ม่งุ เรง่ ทำกรรมดีจกั มชี ัย อันเลศิ ล้ำคำจริงอหิงสา
ปฏบิ ตั ติ ามองค์พระทรงธรรม พระศาสดาช้ที างให้สรา้ งสรรค์
อรยิ มรรคแปดองค์ตรงทางมา เพอื่ เข้าถึงธรรมแนไ่ มแ่ ปรผัน
เพ่อื หลุดพน้ เข็ญขกุ ท่ที ุกข์แท้ จกั สขุ สนั ตต์ ลอดกาลนพิ พานเอย.
พ้นวโิ ยคโศกภยั ประลัยกลั ป ์

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 83

เกรด็ ความร้จู ากตำนานผาแดง-นางไอ่

โดย อ.ชมุ พล โสภากลุ รองประธานสภา อบจ.อดุ รธานี
ชคติ านคร : มตี ำนานหลายเลม่ ตา่ งบนั ทกึ ตามคำบอกเล่า และ
ตามที่ตนไดย้ ินมา บา้ งกว็ ่า “ทีตา หรือธีตานคร หรือ เอกทีตา หรอื ชทีตา”
หากคงปล่อยให้เรียกและเขียนแตกต่างกันไปคงไม่เป็นผลดีต่อเยาวชน
คนรุน่ หลังเป็นแน่ ควรท่จี ะหนั มาพงึ่ และค้นหารากศัพท์ หรือความจรงิ
ทใี่ กลเ้ คยี งและสิง่ ที่น่าจะเป็นไปได!้ เอกสารอ้างอิงที่ทกุ ๆฝา่ ยนา่ จะยอมได้
น่นั คือ “พจนานุกรมฉบบั ราชบัณฑติ ยสถาน พ.ศ.2542 ”
- ชือ่ ดงั กลา่ วขา้ งตน้ ไม่มคี วามหมายตามพจนานุกรมไทย การเขียน
ของคนต่างบันทึกตามโสตของตนทไ่ี ดย้ นิ มา อกั ขระทต่ี นขดี -เขียนลงไป
กลายเป็นร่องรอยทางประวัตศิ าสตร์ทีผ่ ดิ เพย้ี น จงึ ต้องเขียนให้ถูก และมี
ความหมายเสยี ที ตามรากศพั ทด์ งั น้ี
- ชค <ชะคะ> น.หมายถึง แผ่นดิน
- ชคสัตว์ หมายถึง สรรพสตั ย์ทอ่ี าศยั บนแผน่ ดนิ
- ชคดีหรอื ชคตี<ชะคะด>ี น.หมายถึงแผน่ ดนิ ...แลเนอื งนองดว้ ยมนษุ ย์ชาติ
เดยี รดาษชคต.ี ..<ม.คำหลวง/วนปเวสน>์
จากรากศพั ทท์ ี่อา้ งน้ี เราตอ้ งมาแผลงสละให้สอดคลอ้ งกบั ตำนานผาแดง-
นางไอ่ ตามที่เล่าขานสืบต่อกันมาจึงได้ชื่อเมืองที่เขียนถูกต้องตาม
“อกั ขระวิธี และวจวี ิพากษ”์ ว่า “ชคิตานคร” มีความหมายวา่ “เมอื งอัน
เปน็ ทีอ่ ยู่ของสรรพสตั ว์” <เปน็ ชอ่ื ท่ีถูกต้องทง้ั รากศัพทแ์ ละมคี วามหมาย>
- คำว่า “เอก” นำหนา้ เมืองในบางตำนานนา่ จะมีเจตนาเพื่อเรียก เมือง
นน้ั เปน็ เมืองชน้ั หนึง่ หรือเมืองผเู้ ป็นพี่ หรอื พระราชาคนทห่ี นึ่ง เช่น
เอกชคิตา หรือ เอกทตี า แตช่ ่ือเมอื งหรือความหมายยังเป็นเมอื งเดียวกัน

84 ตำนานผาแดง-นางไอ่
คือ เมืองของเจ้าศรีเชยี งเชิด คอื “ชคติ านคร”
ภังคี : มาจากรากศัพท์ “ภังค – ภังคะ น.แปลว่า” การแตกหกั ,
การทำลาย,ความยบั เยนิ ลม่ จม ในที่นีห้ มายถึง “ผูท้ ำลายใหล้ ม่ จม” คอื ภงั คี
ผเู้ ป็นโอรสของสทุ โธนาค ท่ีไดแ้ ปลงรา่ งเป็นกระรอกนัน่ เอง
ขอม : น. “เขมรโบราณ”<พจนานกุ รมฯ>
ขอม : หิโตปเทศ ของเสฐียรโกเศศ อธบิ ายไว้ คำว่า “ขอม” คง
เพ้ียนมาจากคำวา่ “อาคม” คือชุมชนท่นี ิยมในคมั ภีรเ์ วทมนต์ ซึ่งแรกเริ่ม
ไดเ้ ผยแพร่มาจากดินแดนมธั ยมประเทศในอนิ เดีย เรยี กติดปากกนั ว่า
“คนอาคม หรอื บา้ นอาคม” ตอ่ มาคำมา “อา” ได้เพย้ี นหายไปคงเหลือเฉพาะ
“คม” เรยี กติดปากสั้นๆวา่ “คม..คม..” ที่สดุ เพ้ียนสำเนียงกลายเป็น
“ขอม..ขอม” ไป และปัจจุบนั กล่มุ ชนท่นี ิยมเวทมนต์ และไสยศาสตร์
คือพวกขอมหรือเขมร<กัมพูชา>
- หากจะยอ้ นรอยอารยธรรมของพวกขอม จากประเทศกัมพูชา<เขมร>
มาในประเทศไทยจะพบศิลปวัฒนธรรมของเขมรในภาคกลางที่ จ.ลพบรุ ี
ในภาคอิสานท่ี จ.นครราชสมี า พบมากทีส่ ุดในภาคอิสานตอนกลาง สว่ นท่ี
อิสานตอนบนจะพบแหง่ เดยี วที่จงั หวดั อุดรธานี คอื ก่แู ก้วท่ีอำเภอกแู่ ก้ว
ห่างจากหนองหานไปทางทศิ ตะวนั ออกประมาณ 2 กม. เปน็ ศิลปะแบบ
บายน กรมศิลปกรได้ข้นึ ทะเบยี นไว้แลว้ และยนื ยันเป็นอโรคยาศาลา
สรา้ งในสมยั พระเจ้าชัยวรมันท่ี 7
อน่ึงหากจะศึกษาตามโบราณคดี ให้สมั พันธ์กบั นทิ านผาแดง-
นางไอ่ ที่เลา่ สบื ต่อกันมานับพันปี ท่อี า้ งองิ เมืองของพวกขอมเชน่
1. เมอื งสงยา หรือ ยางสูง หรือ สูงยาง อันเป็นเมอื งของเจ้าฟ้าแดด
ผู้เปน็ อนุชาของเจ้าศรเี ชยี งเชดิ กษัตรยิ ์ขอม ผเู้ ป็นเอก(เชษฐาธิราช)
ยงั พบกำแพงเมอื งรวมทงั้ ขดุ พบโบราณวตั ถมุ ากมายทบี่ า้ นกอ้ มต.หนองแปน
อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธ์ุ ขณะน้ีวัตถุโบราณได้เกบ็ รกั ษาไว้ที่พิพธิ ภณั ฑ์
จ.ขอนแก่น

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 85
2. เมอื งเชียงเหียน,เมอื งหงส,์ เมืองทอง ยงั มรี ่องรอยของศิลปะขอม
เรียงรายไปเชอ่ื มตอ่ อารยธรรมขอมในอสิ านตอนลา่ ง เมืองดงั กล่าวปรากฏ
ในท้องที่ จ.มหาสารคาม,จ.ร้อยเอ็ด ซ่งึ ต่างกก็ ลา่ วอา้ ง และสมั พนั ธเ์ กยี่ ว
ขอ้ งในนทิ านผาแดง - นางไอ่ทง้ั นนั้
จากรอ่ งรอยอารยธรรมทางประวตั ศิ าสตร์ อนั มีโบราณสถานและ
โบราณวัตถทุ ่ีเรยี งรายเป็นหลักฐานพยานเชน่ น้ี เมือง “ชคติ า” อนั เป็นเมอื ง
ของชนชาตขิ อมน่าจะมแี ละล่มจมลงจรงิ ?
ดงเยอ:คำว่า“เยอ”เปน็ ภาษาทอ้ งถิ่นแปลวา่ “อยา่ ,รอ,ขอผ่อนผัน,
ขอละเวน้ หรือยกเวน้ ”
: ปัจจุบนั ดงเยอกค็ ือ “ดงเมือง” น่ันเอง หลกั ฐานท่ยี ังคงสภาพเป็น “ดง”
หลงเหลือให้เห็นคือ ต้นคา้ งคาวขนาดใหญ่สงู เรียงรายในสวนธรรมชาติท่ี
เต็มไปด้วยฝงู ลงิ ปา่ นับพนั ตัว
เหตทุ เ่ี รยี กกนั วา่ “ดงเยอ”เพราะบรเิ วณปา่ ทบึ แหง่ นเ้ี ปน็ ทหี่ ลบซอ่ น
พลางตัวอันเปน็ คณุ ตอ่ ภังคจี ึงไดร้ ับการยกเว้นจาก พญานาคไมถ่ ลม่
เป็นหนองหาน ช่อื นไ้ี มค่ อ่ ยมผี ู้คนเรยี กขานและค้นุ เคยจึงถกู ลืมเลอื นไป
พอมาสร้างอำเภอใหม่จงึ นยิ มเรียกวา่ เมืองใหม่ หรือ ดงเมอื ง ลืม “ดงเยอ”
อย่างสนิท
หินศลิ าแลง : เป็นหินชนิดหนง่ึ อยใู่ ตด้ ินมีลกั ษณะอ่อนสามารถ
ใชม้ ดี หรือของมคี มตดั ขาดได้งา่ ย แต่เมื่อถกู ลมแล้วจะแข็งตวั และมสี ีแดง
อย่างอฐิ เผา มรี ูพรุนเหมือนไม้
เมอื งแม่หมา้ ย : ตามเนื้อเร่ืองนทิ านผาแดง-นางไอ่ คนทัง้ เมือง
ลว้ นแตเ่ ปน็ แมห่ มา้ ยไมม่ สี ามี ไมส่ ามารถจะเดนิ ทางไปรบั สว่ นแบง่ เนอ้ื กระรอกได้
คนท้งั เมอื งไมไ่ ดร้ บั ประทานเน้อื กระรอก จงึ ไดร้ ับการละเวน้ จากพญานาค
ไม่ถลม่ จมเมอื ง ยงั คงเป็นเกาะกลางหนองหาน มีพ้ืนท่ีกว่า 200 ไร่ ปจั จบุ ัน
เรียกวา่ “ดอนแก้ว” เปน็ เกาะที่ใหญ่ท่ีสุดกลางหนองหานกมุ ภวาปี

86 ตำนานผาแดง-นางไอ่
เชยี งแหว:เพี้ยนมาจากคำว่า“แหวะ”ซึง่ เป็นภาษาทอ้ งถิน่ แปลว่า
“แหวกหรอื ผา่ หรอื ชำแหละหรอื แยกออก”เปน็ บรเิ วณทก่ี ระรอกถกู ยงิ ตาย
และชำแหละเน้ือ ปัจจุบนั เรยี ก “บ้านเชยี งแหว” อยทู่ างทศิ ตะวนั ตก
รมิ หนองหาน
วังการะเกด : เป็นช่อื วังส่วนตวั ของพระธิดาไอ่คำ ลอ้ มรอบดว้ ย
กำแพงหินศลิ าแลงสูงกวา่ 2 เมตร ตามแนวกำแพงหินรายรอบด้วยตน้
การะเกดซอกชอนขึ้นเตม็ กำแพง ยามดกึ อากาศเย็นเกสรดอกการะเกดจะ
ฟุ้งกระจายหอมอบอวนไปท่ัววงั
- การะเกด เปน็ ไมพ้ ่มุ ชนิดหนง่ึ มักขึ้นในทีช่ นื้ แฉะรมิ นำ้ และโขดหิน ใบแคบ
เรยี วยาว มีหนามเล็กคลา้ ยฟนั เลอื่ ยตามขอบใบ ลำเจียกหนูก็เรียก
หนองหาน : หาน เทียบภาษาเขมรจากคำว่า “รหาล”<หนองหาน
อุดรธานเี ขยี น>
หนองหาร : หาร เทยี บภาษามลายูจากคำว่า “Lahar”<หนองหาร
สกลนครเขียน>
ทง้ั ท่ีใช้ “น หรือ ร” สะกด ตา่ งก็มคี วามหมายว่า “ห้วงน้ำ”
เหมอื นกัน
ปัจจบุ นั หนองหาน อ.กมุ ภวาปี จ.อุดรธานี เป็นแหลง่ ช่มุ น้ำขนาด
ใหญท่ ส่ี ุดของจงั หวดั มพี ื้นที่ 23,000 ไร่ มีเกาะกลางนำ้ อยู่ 9 เกาะ ที่สำคัญ
เป็นต้นกำเนดิ ลำนำ้ ปาว
ความสัมพันธร์ ะหวา่ งนิทานผาแดง-นางไอ่ กับชือ่ หมู่บ้าน แม่นำ้
ลำห้วยและอ่นื ๆ รอบหนองหาน ล้วนแตเ่ ปน็ ประจักษ์พยาน ทย่ี ืนยันไดว้ า่
หนองหานกมุ ภวาปี คอื เมืองชคิตา ทีเ่ ปน็ เมืองเอกของชนชาตขิ อมในอดตี
ทถ่ี ูกพญานาคถล่มจมลงจริง.

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 87

รายนามผู้รว่ มบริจาคสร้างหนงั สอื
ลำดบั ชื่อ นามสกุล บรจิ าค
๑ พระครูอาทรวนกิจ ๒,๐๐๐
๒ พระครอู ดุ มเจตยิ าภนิ นั ท์ เจา้ คณะตำบลอมุ่ จาน ๒,๐๐๐
๓ พระมหาฐิตภิ ัทร ฐานตุ ฺตโม ๑๐๐
๔ พระมหาสิทธพิ งษ์ สิทธิวงฺโส วดั สวุ รรณมงคล ๑,๐๐๐
๕ พระไพบลู ย์ สมจิตโฺ ต เลข.ฯจต.อุ่มจาน ๕๐๐
๖ พระแดง ขนตฺ ิโก วัดวชั คามคชทวีป จ.ตราด ๔๕๐
๗ ดร.ประกอบ จนั ทรทิพย์ ผอ.สพป.อด2 ๑,๐๐๐
๘ คุณชุมพล โสภากลุ (รองประธาน อบจ.อดุ รธาน)ี ๑,๐๐๐
๙ คุณสมุ าลี เดิมพรม ๑๐,๐๐๐
๑๐ คณุ นนั ท์ชัย คุณทัศนีย์ มานพวงษ ์ ๕,๒๐๐
๑๑ คุณศิริภรณ์ ตนั สกุล ๕,๐๐๐
๑๒ คณุ ปรีชา สิทธ์ ิ ๕,๐๐๐
๑๓ คุณจันทรเ์ พ็ญ เกษรโอสถ และญาติมิตร ๔,๖๐๐
๑๔ คณุ ทิพาพร อภิจติ ต์ดำรง ๓,๐๐๐
๑๕ คุณฉันทนา ไชยทองศรี และครอบครัว ๒,๐๐๐
๑๖ น.ส.อภนั ตรี โยธี ๒,๐๐๐
๑๗ คุณกาหลง อังกุโร และญาติมติ ร ๑,๒๐๐
๑๘ นายสมสมยั ฤทธ์ิมหา ผอ.ร.ร.บ้านบุ่งหมากลาน ๑,๐๐๐
๑๙ นายยงยุทธ สมิ พา ผอ.ร.ร.บา้ นนายูง ๑,๐๐๐
๒๐ นายแสง เหล่าพร ผอ.ร.ร.บา้ นโคกน้อย ๑,๐๐๐
๒๑ น.ส.สุพศิ ศรีกงพาน ร.ร.บา้ นบงุ่ หมากลาน ๑,๐๐๐
๒๒ นายสังคม นางนงนุช ศรพี นั ดอน ร.ร.บ้านพนั ดอน, ร.ร.บ้านผอื ๑,๐๐๐
๒๓ น.ส.คนงึ นจิ โคตรมณี ร.ร.บา้ นดงแคน ๑,๐๐๐
๒๔ น.ส.พรทพิ ย์ จันทรทพิ ย์ ร.ร.บา้ นดงแคน ๑,๐๐๐
๒๕ นางเบญจมาศ โพธิดอกไม้ ร.ร.บ้านดงแคน ๑,๐๐๐
๒๖ นายอภิสทิ ธ์ิ-นางอปั สร ผา่ นชมภู ร.ร.บ้านตูม ๑,๐๐๐
๒๗ นายสพุ งษ-์ นางมาลาศรี บษุ ดี ร.ร.บา้ นเหล่าแชแล ๑,๐๐๐
๒๘ สุรศักด์ิ ธติ ิธญั ธวัช ๑,๐๐๐
๒๙ คุณวชิ ชดุ า หาญวงษ์ (ร้านส่งเสรมิ การค้า กุมภวาป)ี ๑,๐๐๐
๓๐ คณุ วาสนา โชติธรรม ๑,๐๐๐
๓๑ นายบุญจันทร์ นางกณั หา แสนแกว้ ๑,๐๐๐
๓๒ คณุ ทารกิ า วีรวงศ์ตระกูล ๘๐๐
๓๓ คณุ แม่สมบูรณ์ จนั ทรเสนา ๗๕๐
๓๔ คุณณชิ าพชั ร์ แสงไทย และครอบครัว ๗๐๐
๓๕ แมส่ าคร จนั ทรเสนา พรอ้ มครอบครวั ๖๕๐
๓๖ นางกรแกว้ พรหมเศรษฐา ร.ร.บา้ นบงุ่ หมากลาน ๕๐๐
๓๗ น.ส.วลั ลภา บญุ รินทร์ ร.ร.บ้านดงแคน ๕๐๐
๓๘ น.ส.หทยั กาญจน์ ปรวิ ัติ พยาบาลฯ ร.พ.บึงกาฬ ๕๐๐
๓๙ นายประชัย นางจริยาพร จันทรทิพย์ ร.ร.บ้านดงนอ้ ย ๕๐๐
๔๐ นางพิกลุ พูนศรี ร.ร.อนุบาลกุมภวาปี ๕๐๐
๔๑ น.ส.วราภรณ์ ตระการจนั ทร์ ร.ร.บ้านสวรรค์ราษฎร์ ๕๐๐

88 ตำนานผาแดง-นางไอ่

๔๒ นายสมภาร ไทยใจดี ร.ร.บา้ นบุ่งหมากลาน ๕๐๐
๔๓ นางสรอ้ ยทิพย์ ทองใหญ่ ร.ร.อนุบาลศรธี าต ุ ๕๐๐
๔๔ นางสมถวลิ โพธิชยั ยา ร.ร.บ้านวาป ี ๕๐๐
๔๕ คุณวิลัย โรจน์ศลิ ป ์ ๕๐๐
๔๖ พอ่ แสงจนั ทร์ - แมโ่ อสา เครอื เนตร พรอ้ มครอบครวั ๕๐๐
๔๗ คุณแมอ่ ิษณาภร พิมพโ์ ครต ๕๐๐
๔๘ นายวฒุ ธิพงศ์ พิมพโ์ ครต ๕๐๐
๔๙ นายทศพร พมิ พ์โครต ๕๐๐
๕๐ คุณพ่อสนุ ทร จนั ทรเสนา ๕๐๐
๕๑ แม่วงเดือน ยุทธกลา้ นายปัญญา -นางสภุ าดา พมิ พโ์ ล้น พรอ้ มครอบครวั ๕๐๐
๕๒ คุณศรุดา อนามพงษ์ ๕๐๐
๕๓ พอ่ หวนั - แมส่ ม พันธุ์กาฬสินธิ์ พรอ้ มครอบครวั ๔๐๐
๕๔ นายยทุ ธศาสตร์ ศรีสุข ผอ.กลมุ่ นโยบาย/แผน ๓๐๐
๕๕ นายวิศิษฎ์ อิสระดำรง ร.ร.บ้านดงแคน ๓๐๐
๕๖ นายพัทยา โภคาพาณิชย์ ร.ร.บา้ นดงแคน ๓๐๐
๕๗ น.ส.ถนอม วรรณเทพ ร.ร.บ้านบุ่งหมากลาน ๓๐๐
๕๘ นางสาคร บัวชว่ ย ร.ร.ชุมชนวดั ป่าทรงธรรม ๓๐๐
๕๙ นายวิรตั น์ - นางสิริรัตน์ ด.ช.อภิวัฒน์ ด.ญ.วิภารตั น์ แก้วมณี ๓๐๐
๖๐ นายมธั ยม ศรโี ยธา นางยพุ า ด.ญ.พิชชาพร จนั ทรเสนา ๓๐๐
๖๑ คณุ แม่มงคล มขุ ะกงั ค์ ๓๐๐
๖๒ คุณแม่ใขษ่ ร บุญบุตตะ ๓๐๐
๖๓ คุณแม่ประชติ โชคร่งุ ๓๐๐
๖๔ น.ส.ศศิธร นาคดิลก สพป.อุดรธานี เขต 2 ๓๐๐
๖๕ นางรดั ดา วทิ ยากร สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๓๐๐
๖๖ พอ่ ตระการ - แมอ่ ามร ลิมปิยกร พรอ้ มครอบครวั ๒๕๐
๖๗ นายนภดล นางทพิ ย์วลั ย์ ด.ช.นพเกา้ ด.ช.กฤษณะ ด.ญ.ศศธิ ร แสนโภชน ์ ๒๕๐
๖๘ พ่อบุญช่วย- แมก่ าญจนา น.ส.เกษกนก น.ส.กชกร ด.ญ.ธญั ญลักษณ์ ศรปี ญั ญา ๒๕๐
๖๙ พ่อไพบูลย์ - แมท่ องคำ นายธวัชชัย นายภานุพงษ์ ด.ช.กัมพล จันทรเสนา ๒๕๐
๗๐ คุณพอ่ วเิ ชยี ร อตุ สาหพนั ธ ์ ๒๕๐
๗๑ คณุ แม่สงวน อตุ สาหพนั ธ ์ ๒๕๐
๗๒ อ.จันเพ็ญ อศั จรรย ์ ๒๕๐
๗๓ นางสำราญ ชา่ งป้ัน ๒๕๐
๗๔ นายประเสริฐ ลอื ประสทิ ธิ ์ ๒๕๐
๗๕ นายประสทิ ธิ์ ลอื ประสทิ ธ ์ิ ๒๕๐
๗๖ นางปยิ นชุ ลือประสิทธ ์ิ ๒๕๐
๗๗ นายสรุ พล ชาญนรา ผอ.หน่วยตรวจสอบฯ ๒๐๐
๗๘ น.ส.ธนิฎฐา นาทองบอ่ ร.ร.บ้านบุ่งหมากลาน ๒๐๐
๗๙ นางสุวรรณ เสาะเห็มพร้อมครอบครัว ร.ร.บา้ นบ่งุ หมากลาน ๒๐๐
๘๐ นางพมิ พิลา ฤทธ์มิ หา ร.ร.บ้านบ่งุ หมากลาน ๒๐๐
๘๑ นางมกุ ดา โพธน์ิ ลิ สพป.อุดรธานี เขต 2 ๒๐๐
๘๒ คณุ วธิ ิดา บุญวงศ ์ ๒๐๐
๘๓ พอ่ สำเริง - แม่ไสว อนิ ทะสอน พรอ้ มครอบครวั ๒๐๐
๘๔ พ่อจันทร์ - แมเ่ งิน สีหาทพิ ย์ พร้อมครอบครัว ๒๐๐

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 89

๘๕ พ่อสำเรงิ - แมท่ องฝน นายณรงคช์ ยั นางเจนหรรษา ด.ช.ยทุ ธพงษ์ จรนาทอง ๒๐๐
๘๖ ด.ญ.สุกัญญา ด.ญ.ศริ ญิ ญา เงนิ ชยั ๒๐๐
๘๗ น.ส.สุภสั สร น.ส.กรแกว้ คลงั ตุย้ ๒๐๐
๘๘ พอ่ เทย่ี ง เพยี รพิมาย - แม่ดวงจนั ทร์ นายพทิ ยา นายเทวฤทธิ์ บุญลอย ๒๐๐
๘๙ พ่อสมหมาย - นายอธิษฐาน - น.ส.ลลิตา จันทรเสนา แม่อจั ฉรา แสนสขุ ๒๐๐
๙๐ พ่อสวัสด์ิ - พ่อจำรัส ด.ญ.จรี พรรณ ด.ญ.กญั ญาภัค จันทรเสนา ๒๐๐
๙๑ แม่นาง จันทรเสนา พร้อมครอบครัว ๒๐๐
๙๒ พอ่ วีระ - แมบ่ วั เรียน จนั ทรเสนา พรอ้ มครอบครัว ๒๐๐
๙๓ น.ส.วมิ ล เถาวลั ย์ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๒๐๐
๙๔ นางสนุ ี อุทมุ ทอง สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๒๐๐
๙๕ น.ส.พจนยี ์ สาอุด สพป.อุดรธานี เขต 2 ๒๐๐
๙๖ นายณฐกร ทอ่ แก้ว สพป.อุดรธานี เขต 2 ๒๐๐
๙๗ นายสมพงษ์ ด.ญ.อนันตยา รอชยั กลุ น.ส.จริ าพร ไกยสวน ๑๕๐
๙๘ นายทนาทรัพย์ - นางนภาพร ด.ช.ธนาทพิ ย์ จนั ทรเสนา ๑๕๐
๙๙ นายไพฑูรย์ ด.ช.พงศกร ด.ญ.สิริยาพร ไกยสวน ๑๕๐
๑๐๐ แม่นาง นายประเสริญ นายคำกอง จนั ทรเสนา ๑๕๐
๑๐๑ นางนิลวรรณ น.ส.อภิญญา ด.ช.อภิชัย จนั ทรเสนา ๑๕๐
๑๐๒ พอ่ ฉวี - แม่ทองจนั ทร์ คำแสน ๑๕๐
๑๐๓ นางชาญ ศริ ชิ นม์ ร.ร.บา้ นบุง่ หมากลาน ๑๐๐
๑๐๔ นางเกศรนิ บญุ หล้า พนกั งานราชการ ๑๐๐
๑๐๕ นายเสมอื น-นางวิราภรณ์ ตะนัยศรี พร้อมครอบครวั ร.ร.บา้ นบุ่งหมากลาน ๑๐๐
๑๐๖ น.ส.เกศนิ ี ชยั โยบวั สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๐๗ นายเดชา ปัตถาวโร สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๐๘ นางพรชนติ ว์ พฒั นาอนกุ ูล สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๐๙ นางชลธชิ า นันทะรกั ษ์ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๐ นางพทุ รา นามจนั ทร์ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๑ นางพสิ มยั ศรไชย สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๒ น.ส.พรทพิ ย์ หา้ วหาญ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๓ นายศักดา ทาชาติ สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๔ นายพรศักด์ิ สนุ ทรพธิ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๕ นางจฬุ าพศิ นันทสุธา สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๑๖ คณุ ใผ รัตนเศรียร ๑๐๐
๑๑๗ คุณพมิ พใ์ จ แซ่ลี้ ๑๐๐
๑๑๘ คุณประทมุ หริ ัญนา ๑๐๐
๑๑๙ คณุ ฉำ นาคชัยยะ ๑๐๐
๑๒๐ คณุ จงรักษ์ เครือนชุ ๑๐๐
๑๒๑ คณุ มาลัย เครอื นุช ๑๐๐
๑๒๒ คณุ มาลนิ ี ดีเดน่ ๑๐๐
๑๒๓ คุณปราณี ผาล่วง ๑๐๐
๑๒๔ คณุ มณทริ า เครอื นชุ ๑๐๐
๑๒๕ พ่อจนั ทร์ - แม่ทบั ทิม บษุ ดี พรอ้ มครอบครวั ๑๐๐
๑๒๖ นายบุญทน น.ส.เสวลกั ษณ์ ศรีปัญญา ๑๐๐
๑๒๗ พอ่ พูล - แม่ บัวเงิน ประทุมวัน พร้อมครอบครวั ๑๐๐

90 ตำนานผาแดง-นางไอ่

๑๒๘ พอ่ บุญ - แมค่ ำ ชน่ื ใจ พรอ้ มครอบครวั ๑๐๐
๑๒๙ พ่อสมหมาย - แมพ่ วงเพชร จนั ทรเสนา พรอ้ มครอบครวั ๑๐๐
๑๓๐ พ่อสราวธุ - แมอ่ นงค์ ศรีปัญญา พร้อมครอบครัว ๑๐๐
๑๓๑ พ่อสาโรจน์ - แม่กาญจนา จันทรเสนา พรอ้ มครอบครัว ๑๐๐
๑๓๒ น.ส.วิภิญญา ด.ญ.วิภาดา แกว้ งามศรี ๑๐๐
๑๓๓ พ่อวนิ ัย - แมจ่ ติ รโสภา ด.ช.อิทธชิ ัย เพชรเดช ๑๐๐
๑๓๔ นายทวิ ากร แก้วสะอาด ๑๐๐
๑๓๕ แมบ่ ัวทอง จันทรเสนา พรอ้ มครอบครวั ๑๐๐
๑๓๖ ด.ญ.กานต์ธิดา จันทรเสนา ๑๐๐
๑๓๗ นายพพิ ัฒน์พงษ์ นายจตรุ งค์ ศรีปัญญา ๑๐๐
๑๓๘ นายจักรกฤษ์ ด.ช.ชนะกจิ เหล็กด ี ๑๐๐
๑๓๙ พอ่ วิรพงษ์ - แมจ่ ินตนา วอ่ งไว พร้อมครอบครวั ๑๐๐
๑๔๐ น.ส.กัลยารัตน์ น.ส.พลอยนภา อินทะสอน ๑๐๐
๑๔๑ ด.ช.อัศวนิ ด.ช.จิรพัฒน์ กมลคราม ๑๐๐
๑๔๒ นายโชคชัย ด.ช.อรรถชยั พลเยีย่ ม ๑๐๐
๑๔๓ น.ส.มณฑติ า น.ส.พณั ณิตา ประทมุ วัน ๑๐๐
๑๔๔ พ่อเจรญิ นายพชิ ิต จรนาทอง ๑๐๐
๑๔๕ น.ส.วันวิสาน์ น.ส.สธุ ติ า ถำวาปี ๑๐๐
๑๔๖ นายโชคชัย นายนริ ตุ จนั ทรเสนา ๑๐๐
๑๔๗ พ่อชยั ณรงค์ - แม่วราภรณ์ ด.ช.ศภุ ชัย เน่ืองไชยยศ ๑๐๐
๑๔๘ น.ส. ทิพวรรณ ด.ช.ภคั พงษ์ วงศ์ศรีงาม ๑๐๐
๑๔๙ ด.ญ.ปรนิ ดา อศั จรรย์ ๑๐๐
๑๕๐ ด.ช.ปรเมศษ์ อัศจรรย ์ ๑๐๐
๑๕๑ ด.ญ.ฐิตาภา จนั ทรเสนา ๑๐๐
๑๕๒ คุณแม่ณรี ะพันธ์ ปัชชาดี ๑๐๐
๑๕๓ นายวัฒนโชติ ศรีเมือง ๑๐๐
๑๕๔ นายจกั รกฤษ์ ศรีเมอื ง ๑๐๐
๑๕๕ นางพจนีย์ ศรสี ุข สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๕๖ นายเวียงชัย แสนสกุล สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๕๗ น.ส.ศรีแกว้ ศรีหริง่ สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๕๘ นายศริ พิ งษ์ ปุณประเสรฐิ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๕๙ น.ส.วรศิ รา เชญิ ชม สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๐ นางนงนชุ จันทรี สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๑ นายปริญญา ไมยะปัน สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๒ นายปัญญา ศรบี ุญเรือง สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๓ นายชำนาญ หวานแท้ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๔ นายสมยศ ศรบี รรพต สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๕ นางกาญจนา มนัสสิลา สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๖ นายไชยสทิ ธ์ิ บุตรี สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๗ นางพกิ ลุ คล่นื สนัน่ สพป.อุดรธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๘ นายสมใจ ปัญญาตระกูล สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๑๐๐
๑๖๙ นางสุกัญญา นามวงศ์ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๖๐
๑๗๐ น.ส.ดวงจนั ทร์ พรมพาน สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๖๐

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 91

๑๗๑ น.ส.เบญญาภา คงชุ่มชื่น สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๕๐
๑๗๒ ด.ญ.กมลทิพย์ โพธ์ิศรี ๕๐
๑๗๓ พ่อเหมือน - แม่บวั ไหล จนั ทรเสนา ๕๐
๑๗๔ นายธนาวธุ - นางยุพา สอนสกลุ ๕๐
๑๗๕ แม่ทองม้วน ศรีทอง ๕๐
๑๗๖ แม่ลุน คลงั ตุ้ย ๕๐
๑๗๗ นายพรพจน์ แก้วพนั นา ๕๐
๑๗๘ แม่ทองมี ปัดถาวโร ๕๐
๑๗๙ น.ส.ศุภจิตร แขง็ แรง ๕๐
๑๘๐ นายบุญหลาย สมฤาแสน ๕๐
๑๘๑ ด.ช.อนวุ ัฒน์ ญาตคิ ำ ๕๐
๑๘๒ ด.ญ.เกษมศรี นามสา ๕๐
๑๘๓ ด.ญ.สภุ าดา พนั นะดี ๕๐
๑๘๔ ด.ญ.อไุ รพร จนั ทรเสนา ๕๐
๑๘๕ ด.ช.ศราวุฒิ กลางยศ ๕๐
๑๘๖ พ่อสนธ์ิ - แม่มนตรี ขนั ทะแพทย์ พร้อมครอบครัว ๕๐
๑๘๗ ผใู้ หญบ่ า้ นเมอื งปงั หมู่ ๓ พอ่ สทิ ธิเดช - แม่อัญชลี ศรีสุนทร พรอ้ มครอบครัว ๕๐
๑๘๘ นายพรเทพ - นางรจนา ศรสี ุนทร พร้อมครอบครวั ๕๐
๑๘๙ นายอลงกรณ์ - นางวลิ าวัลย์ ศรสี นุ ทร พร้อมครอบครวั ๕๐
๑๙๐ น.ส.วราพรรณ เสนาะศพั ท์ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๕๐
๑๙๑ นายนคิ ม ศรีอดุ ม สพป.อุดรธานี เขต 2 ๕๐
๑๙๒ นายชาญชัย ธาคโุ น สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๕๐
๑๙๓ นายวงษศ์ กั ดิ์ ขันธวิชยั สพป.อุดรธานี เขต 2 ๓๐
๑๙๔ น.ส.อนัญญา ดสวาปี สพป.อุดรธานี เขต 2 ๒๐
๑๙๕ นางอญั ชลี ทพั สมบัติ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๒๐
๑๙๖ น.ส.กนั ทิมา ศรวี งษา สพป.อุดรธานี เขต 2 ๒๐
๑๙๗ นางพรรณี แสงโทโพ สพป.อดุ รธานี เขต 2 ๒๐
๑๙๘ นายรชั ต์พล ขวัญสุวรรณ สพป.อุดรธานี เขต 2 ๒๐
๑๙๙ คณุ สมจิต สุวรรณรตั น์ ๑,๐๐๐
๒๐๐ คณุ วาสนา โชติธรรม ๑,๐๐๐
๒๐๑ น.ส.ฐิติกานต์ โชตธิ รรม ๑,๐๐๐
๒๐๒ คุณจรรยา สงั ข์สมบูรณ ์ ๕๐๐
๒๐๓ คุณจรี าพร หนูรกั ษ์ ๕๐๐

92 ตำนานผาแดง-นางไอ่

ตำนานผาแดง-นางไอ่ 93

“..นนั่ ละหนอสันดานพาลมนษุ ย ์ ไมส่ ิน้ สุดความร้ายดงั ไฟพษิ
แมจ้ อมเทพอินทร์องคผ์ ทู้ รงฤทธ ์ิ ก็ยงั คดิ เคืองไดก้ ระไรคน
หรือกระทงั่ พทุ ธองค์ผูท้ รงญาณ พวกคนพาลสนั ดานชัว่ ไม่กลัวผล
ดา่ พระองคเ์ ป็นลาอฐู พูดสัปดน อันพาลชนทำได้ไร้สำนึก
กระไรหนอเราสตั วด์ ิรัจฉาน เจอคนพาลตามล่าในปา่ ลกึ
เหตุผลใดไมต่ อ้ งมาตรองตรึก เพยี งแคน่ ึกอยากฆา่ กล็ า่ เอา
ทา่ นทง้ั หลายอยา่ สนคบคนพาล รจู้ กั นานจะพลางตามอยา่ งเขา
จะซึมซบั ติดพาลสนั ดานเรา ดงั่ เทอื กเถาวลั ยเ์ ลย้ี วเก่ยี วกอดกลม
ดมู ะม่วงพันธ์ดุ มี ีรสหวาน หากเอายา่ นบอระเพ็ดท่ีเข็ดขม
ปลกู อยใู่ กล้เกย่ี วกันพลนั นยิ ม เคยหวานกลายเปน็ ขมเพราะชมกนั ”


Click to View FlipBook Version